คนแต่งค่ะ คนอ่านจะลงแดงตายแล้วค่ะ คิดถึงหมอก ตี๋มากกกกกกกกกกกกกกกก
เปิดเข้ามาดูทุ้กกกกกกกวัน ได้โปรดมาต่อได้แล้วค่ะ 
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดี ๆมาให้อ่านน่ะค่ะ ตั้งหน้าตั้งตารอต่อไป 
ขอบคุณคับที่ติดตาม
วันนี้ยังไม่ได้มาลงตอนใหม่ แต่เอาตอนพิเศษมาฝาก
ไปดูคอนเสิรต์เมทัล ออเคสตร้ามา เลยอยากเขียนอะไรที่นึกขึ้นได้แว้บๆหน่อย อาจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย แต่ก็ถือว่า ช่างเถอะ คนอ่านได้กำไร 555
...............................
.................
12.12.12มันคือโค้ดอะไรหว่า?
จ้องมองหน้าจอมืดๆมัวๆ มองหน้าจอสีขาวดำขึ้นฝ้าใต้แสงอาทิตย์แบบนี้ ยากยิ่งกว่าแกะลายแทง ยิ่งเจอข้อความแบบนี้เข้าไป ยิ่งทำให้ผมขมวดคิ้วหนักขึ้นเรื่อยๆ
“12.12.12?”
“อะไรวะ?”
“เออ กูก็งงเหมือนกัน”
แม้แต่ไอ้โจ๋ยังงงงวย
จ้องมองชื่อคนส่ง
From:P’Mhok อืม คนนี้ปกติก็ส่งสั้นๆห้วนๆอยู่แล้ว แต่มาวันนี้ ดูเหมือนจะห้วนเกินไปจนผมไม่เข้าใจ ใบ้หวยหรือ? หรือจะส่งซิกสื่อสารอะไรกับผม?
“เขาหมายถึงวันนี้หรือเปล่า?”
“ห้ะ?”
“ก็วันนี้ไง”
มองเหนือข้อความไปอีก บอกวันที่ เวลา เย็นๆแล้ว พี่หมอกไม่โทรมาหา กลับส่งข้อความประหลาดๆมาแทน จะบอกว่าอะไร ให้ผมกลับไปก่อนได้เลยหรอ?
“โทรไปดิวะ”
“กำลังโทรอยู่”
ไอ้โจ๋เกาะติดสถานการณ์แถวหน้า ยื่นตัวเข้ามาใกล้ สนใจเรื่องชาวบ้านประหนึ่งงานของตัวเอง
“เฮ้ย เอ็งเป็นใครวะ? มารับโทรศัพท์พี่หมอกได้ไง?”
“อะไร? ใครวะ? ใครรับสาย? พูดว่าอะไร”
“เสียงผู้หญิงว่ะ…”
ผมตัดสายทิ้ง ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม ไอ้โจ๋ขมวดคิ้วด้วย
“พูดว่าอะไร?”
“ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก”
“…กูไปละ”
“เฮ้ย เดี๋ยวดิวะ!!”
……………………………………………………
……………………………………….
พยายามโทรอยู่หลายครั้งก็ไม่ติด เดินไปที่คณะ ตึกวิศวะวันนี้ก็เงียบเหงาเสียจนวังเวง
เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย?
เดินไปมาหลายรอบ เจอแค่ยามที่นั่งหาวอยู่บนเก้าอี้พับ ข้างๆ มีหมาตัวหนึ่ง ที่เห็นผมก็เงยหน้าขึ้นมามอง แล้วก็หันไปนอนเหมือนเดิม
โทรหาพี่บอล ก็ไม่รับโทรศัพท์
เมสเสจส่งมาอีก อย่างกับจะเล่นอะไรกับผม
ชื่อโรงแรม
จะสื่ออะไรวะเนี่ย? ให้ผมไปหรอ? ให้ผมไปทำไม?
โทรกลับไปหา โดนตัดสาย อะไรจะวุ่นวายป่านนี้? เฮ้ย เดี๋ยวดิ หรือว่า? นี่คือการลักพาตัว…ไม่ ไม่ ถ้าผมเป็นโจรเรียกค่าไถ่ ผมไม่จับพี่หมอกไปแน่ ถึงจะได้เงินเยอะ แต่ถ้าพลาด มีหวังโดนลูกเตะตัดก้านคอ ไม่คุ้ม
แล้วก็นั่งรถเมล์ไป ถึงจะช้าหน่อยสายหน่อย แต่ในเมื่อไม่บอกเวลามา ก็เลยไม่เข้าใจว่าจะรีบไปเพื่ออะไร
รถดันติด
ได้ยินคนขับรถตะโกนคุยกับกระเป๋าว่าข้างหน้ารถชนกันยาวหลายคัน แถมนี้เป็นกลางเมือง เวลา โดยไม่ต้องเสียเวลามองนาฬิกา ก็บอกได้ทันทีว่าเป็นช่วงเวลาที่รถติดที่สุดของวัน หลังเลิกงาน
แทบจะไม่ขยับ ไม่มีอะไรทำก็ต้องหยิบมือถือออกมาเล่นเกมงูฆ่าเวลา ทำลายคะแนนสูงสุดเดิมของตัวเอง ที่คะแนนเท่ากันเป๊ะๆ กว่าจะถึงป้ายรถเมล์ที่ใกล้ไอ้โรงแรมนี้มากที่สุดแล้ว ท้องฟ้าก็มืดตึ๊ดตื๊อ
เดินไปหยุดอยู่หน้าประตูโรงแรม ยามเดินเข้ามาหา นึกว่าจะโดนห้ามไม่ให้เข้าไปใกล้มากกว่านี้ แต่กลับเข้ามาถาม “ใช่ที่มางานของพวกนักศึกษาหรือเปล่าน้อง?”
“ครับ?”
“งานฉลองพี่บัณฑิตวิศวะคอม” ชื่อมหาลัย ยืนยันได้ดี ผมพยักหน้างงๆ พี่เขาเลยนำทางไปแบบงงๆเหมือนผม “ขึ้นลิฟต์ตัวนั้นไปเลยน้อง ชั้น 12”
ระหว่างอยู่ในลิฟต์ คิดว่าจะโทรหาพี่หมอก แต่เพราะมองออกไปเห็นวิวผ่านลิฟต์แก้ว เลยให้สนใจกับภาพนั้นก่อน
ตัวลิฟต์เปิด ทำให้ผมคิดว่า ไม่น่าขึ้นมาเลยว่ะ
มีผมคนเดียว ตอนที่เดินออกมาจากลิฟต์แล้วปนไปกับคนอื่น ที่ใส่ชุดนักศึกษา เคยมางานแบบนี้ แต่ก็รู้ สถาปัตย์นะคุณ จะแต่งตัวติสต์หรือเอาติสต์บังหน้า ก็ไม่มีใครสนใจหรอก
สมกับเป็นวิศคอม ภาควิศวะที่คะแนนสูงสุดจริงๆ โอ้ก็อด! ทำไมผู้หญิงคณะผมไม่มีแบบนี้บ้าง บอกไปว่าเป็นวิศวะจะมีคนเชื่อหรือเปล่า? ทำไมเดี๋ยวนี้สาวๆวิศวะถึงได้สวยขนาดนี้
“อ้าว ไอ้ตี๋”
“พี่ต้น?”
“มาทำไรเนี่ย”
“พี่หมอกบอกให้มา”
“อ่อ คงจะเรียกมาดูสินะ ฮะฮ่า”
“ดูไรวะพี่”
“รอดูนู่นๆ”
เห็นในมือพี่ต้นถือจานคอกเท็ลอยู่ หยิบกินโดยที่ไม่ต้องเชิญให้เมื่อยปาก “ขอนะพี่ ผมโคตรหิว”
“อ่ะ กูแถมนี้ให้เลย”
พี่ต้นหยิบลูกอมออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท ที่สวมทับเสื้อคอปกไว้อีกชั้น กางเกงยาวครึ่งแข้ง ขนหน้าแข้งยาวเฟื้อย
“คิดหรอว่าผมจะไม่เอา”
ยัดลงกระเป๋ากางเกง พี่ต้นพยักเพยิดหน้าให้มองเข้าไปในฮอลล์ บนเวที วงดนตรีกำลังเช็คซาวดน์อยู่
“วงไอ้หมอก วงต่อไป”
“ห้ะ?”
“มันเล่นกีตาร์มั้ง? หรือเบสวะ? จำไม่ได้”
“เขาล่อไงพี่หมอกถึงยอมขึ้นไปเล่นให้วะ?”
พี่ต้นยักไหล่สองข้าง ผมเห็นพี่หมอกอยู่ข้างแอมป์ เสียบสายกีตาร์ลงไป ปรับปุ่มเสียง ลองดีดเบาๆ ไฟบนเวทีเป็นสีม่วงเข้ม ด้านล่าง โต๊ะ ซุ้มอาหาร คนอดยากกำลังยึดครองพื้นที่
นักร้องนำกับมือกลองผมไม่รู้จัก มือเบสพี่แฟง มือคีย์บอรด์ พี่โก้
“ก่อนหน้านี้ น้องปีหนึ่งขึ้นมาเต้น เสียดายมึงมาไม่ทัน มีน้องตกเวทีด้วย”
แถมยังมีหน้ามาสะกิดให้ดู “คนนั้นไง” เออแหะ หน้าเขียวไปแถบหนึ่ง ไม่เป็นไรนะไอ้น้อง
เสียงกลองดัง
นักร้องนำพูดทักทาย “เอ้า สวัสดีครับมิตรรักแฟนเพลงแอนตี้แฟน อย่ากรีดร้องกันขนาดนั้นครับ ผมเขิน อ้าว สาวๆตรงนู้น อย่ามัวแต่กินอยู่นะจ๊ะ พี่ๆจะร้องเพลงแล้ว” โดนแซวตรงๆแบบนี้ มุมนั้นถึงกลับสลายม็อบ “พี่ๆครับ ผมอยากจะร้องเพลงรักให้พี่ แต่มันจะเลี่ยนไป ขอแสดงออกแบบแนวของพวกเราดีกว่า”
“เพลงอะไรวะพี่?”
ถามพี่ต้น ในฮอลล์ปิดไฟ ผมกับพี่ต้นยืนอยู่ตรงประตูพอดี เงาเราชัดกว่าปกติ
“The miracle and the sleeper ของ Dream Theater”
“ผมไม่เห็นรู้จัก”
“เพลงโคตรเก่า แต่ที่เอามาเล่น คงเป็นเพราะพวกพี่ๆเคยเล่นเพลงนี้ตอนรับน้องมั้ง”
เสียงกีตาร์หนักๆดังขึ้น เสียงกรี๊ดตอบรับพี่หมอกทันที ไอ้หน้านิ่งๆแบบนั้นนี่ ผมเดาว่ามันคงเป็นสเน่ห์ล่ะมั้ง สาวๆถึงได้ละลายกันแบบนั้น เล่นเอาพี่นักร้องนำโดนเมินนิ่มๆไป จะเรียกคะแนนกลับได้ก็ตอนเริ่มร้อง
พี่หมอกถูกกรี๊ดไม่หยุด ดูท่าจะฮิตในหมู่รุ่นน้องจริงๆ วันนี้ใส่สูททับเสื้อคอวี กางเกงขาเด็ปสีดำติดขา ดูสูงกว่าปกติ รองเท้าหนัง แค่นี้ผมว่าก็ดูดีกว่าคนนู้นที่เหมือนหัวตกถังเจลแล้ว
ท่อนโซโล่ ผมกับพี่ต้นหลุดหัวเราะออกมา พี่หมอกหันหลังเล่นให้คนดู พี่ๆผู้ชายถึงกับหลุดฮา ตะโกนเรียกพี่หมอก “หล่อโว้ย แค่ตูดมึง กูยังใจละลายเลย!!” กล้าพูดแบบนี้ แสดงว่าซี้กันสินะ
เล่นแค่เพลงเดียว ก็เรียกเสียงโฮ่หิ้วได้ดี เดินลงเวที หิ้วกีตาร์ลงมาด้วย ถูกดันหลัง “ไปหาไอ้หมอกดิ”
“เอ้า พี่เขาไม่อยู่คุยกับเพื่อนต่อหรอ?”
“ดูหน้ามันดิ”
“ไหน…ผมไม่เห็น”
“เออน่า ไปเหอะ”
เดินฝ่าคนไปหา โดนมองหน้าหลายรอบ คงเพราะไม่คุ้น แหงละ ใครจะไปคุ้นหน้าผมกันวะ อยู่คณะนี้ซะเมื่อไหร่ อ่ะ อันนั้นน่ากินชะมัด ขออยู่ด้วยคนสักห้านาทีแล้วกัน
ฉกติดมือมาชิ้นสองชิ้น เดินเข้าไปถึง พี่หมอกเก็บกีตาร์เข้าซอง สะพายกระเป๋าพาดบ่า ไม่รู้ว่าผมอยู่ข้างหลัง
ผู้หญิงเดรสสีชมพู ผมประบ่า ม้วนกลมๆ ผมไม่รู้เรียกอะไรแต่เรียกทรงหอยหลอด
“พ..พี่หมอกคะ ค..คือ เพื่อนหนูฝากมาขอเฟสค่ะ”
“…..”
“เอ่อ…” เธอพูดไม่ออก โดนแค่พี่หมอกจ้อง ก็ปิดปากเงียบไป เดาไม่ออกว่าอยู่อารมณ์ไหนถึงได้เบิกตาค้างแบบนั้น มองพี่หมอกนิ่งๆ
“…พี่”
ผมลองเรียกไป พี่หมอกก็หันกลับมา ยังรู้สึกถึงไอเย็นๆที่อยู่รอบตัว แต่พอหันมาเห็นผม ก็ดูจะจางลงหน่อย
“ท่อนโซโล่โคตรเท่เลย”
“กูรู้”
จะปฏิเสธหน่อยก็ได้
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า” “ก็ยังต้องฝึกอีก” หรืออะไรก็ได้ แต่ไอ้การตอบรับเฉยๆแบบนี้ ก็เหมาะกับเป็นพี่หมอกดี
“พ..พี่หมอกคะ”
พี่หมอกหันไปมอง ในปากผมว่าง เลยฉีกลูกอมเข้ามากิน เหมือนพี่หมอกจะเห็น ผมหลบคนที่เดินสวนไปจากข้างหลัง เรียก “กูไปละไอ้หมอก ไปถ่ายรูปกับพี่รหัสกูก่อน” พี่หมอกแค่พยักหน้า ดึงแขนผมที่จะถอยกลับไปไว้
“อ้าปาก”
“ห้ะ?”
“กูบอกให้อ้าปาก”
ผมอ้าปากตาม
“คายออกมา”
แล้วก็แบมืออยู่ที่หน้าผม
ผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ ทำหน้างงๆ เพื่อนเธอวิ่งมาสมทบข้างหลัง ไม่รู้มาเป็นกองหนุนหรือเรียกให้เดินออกไปด้วยกัน
“ลูกอม..คายออกมา”
“เหอะ”
ปิดปากแน่น ก็ถูกบีบแก้ม
“ใครให้มึงกินลูกอม”
“อื้อ”
โดนบีบจนปวดแก้ม พยายามจะดึงมือออก แต่พอยิ่งขืนยิ่งเจ็บ เลยหยุด
“ฟันผุ มึงยอมไปอุดไหม?”
“อื้ออือออ”
“คายออกมา”
ส่ายหัว ตอนที่ผมขยับตัวหนี หลายๆคนก็เริ่มหันมามอง
มืออีกข้าง พี่หมอกปล่อยจากที่ประครองซองกีตาร์ที่สะพายไหล่ บีบจมูกผม เล่นทำซะแบบนี้ จะให้ทำยังไงได้ ถูกล้วงเอาลูกอมออกไปจากปาก ห่อใส่ทิชชู่ โยนลงบนโต๊ะใกล้ๆ ผมได้แต่ยืนนิ่ง ไม่แพ้สองสาวนั่นสักนิด
พี่หมอกเดินนำออกมา ผมไม่มีความจำเป็นต้องยืนต่อตรงนี้ เดินตามพี่เขาออกไป
“…พี่ไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ?”
“อะไร?”
“ก็…น้ำลายผม”
“มากกว่านี้ก็ยังเคย”
“…อืม มันก็จริง”
พยักหน้าเห็นด้วย ถูกกอดไหล่ เดินเข้าไปใกล้อย่างช่วยไม่ได้ โดนสายตามอง แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่รู้จักผม ก็จงไม่รู้จักต่อไป
“พี่หมอก”
หันมามอง ประตูลิฟต์เปิด ผมเดินเข้าไปก่อน พอประตูลิฟต์ปิดลง ก็ไปพิงตัวที่กระจก มองออกไปข้างนอก
“ดูนู่นดิ”
“อะไร”
“คอนโดเราไง”
“หึ”
“ขำไร ผมพูดจริง ผมดูทางมาแล้ว จริงๆมันก็ห่างจากคอนโดเราไม่เท่าไหร่เอง”
“เรา…”
“ครับ?”
“มึงพูดว่าคอนโด’เรา’”
“เอ่อ ความจริงผมก็ไม่ได้เป็นเจ้าของห้องหรอกนะ แต่ว่า-“
“เปล่าหรอก”
พูดแบบนั้น แล้วก็เห็น ด้วยไฟอ่อนๆ พี่หมอกยืนพิงกระจก ไม่ได้สนใจวิวข้างนอก มองไปที่ตัวเลขบอกชั้นลิฟต์ ที่นับถอยหลังลงเรื่อยๆ
แอบยิ้มนิน่า
ผมที่กำลังจะถามต่อว่าตกลงแล้ววันนี้เรียกผมมาทำไม? หรือไอ้ข้อความที่ว่า มันคืออะไร? ก็ลืมไปเสียหมด ยิ้มในส่วนที่พี่หมอกขี้อายเกินกว่าจะยิ้มออกมา หันมามองผม ผมเป็นฝ่ายยื่นหน้าเข้าไปหาเอง
ติ๊ง! ลิฟต์เปิดประตูออก ผมกับพี่หมอกยืนอยู่คนละฝากของลิฟต์ ผมยิ้มให้กับฝรั่งที่เดินเข้ามาในนี้อย่างน่าประทับใจในฐานะเจ้าบ้าน
“Thank you”
“No problem”
กดประตูลิฟต์ค้าง
เขาค่อยๆลากกระเป๋าเดินทางกันออกไปจนหมด ไม่มีใครเข้ามาในลิฟต์ ชั้น G พวกผมต้องออกแล้ว คิดจะให้พี่หมอกเดินออกไปก่อน แล้วผมค่อยเดินตามออกไป
เงาทาบลงมาบนตัว
ก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง ก็เห็นนิ้วที่เอื้อมมากดปิดลิฟต์ ผมหัวเราะ “ยังไงก็จะจูบให้ได้ใช่ไหม?”
“รู้แล้วก็หยุดพูดซักที”
“ครับ ครับ”
ประตูลิฟต์ปิดลง แสงไฟด้านนอกถูกบีบเป็นเส้นเล็กๆ
เห็นคนวิ่งมาแต่ไกล อาจจะเป็นเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้องของพี่หมอกที่ลงมาถ่ายรูปชั้นล่าง แต่ตอนนี้อยากกลับเข้าไปในงานแล้ว ดูรีบอยู่หน่อย แต่ยังไงก็ช่างเถอะ
รอเที่ยวหน้าแล้วกันนะ……………………………………..
…………………………….
[ Code : complete ]
[12.12.12]