เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [Last/P.377/7.10.59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [Last/P.377/7.10.59]  (อ่าน 3283311 ครั้ง)

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
อ่านแล้วคิดถึงตี๋กับพี่หมอกมากกว่าเดิมอีก คนอ่านผิดไหมอ่ะ

ออฟไลน์ namminzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 79
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

Negromariposa

  • บุคคลทั่วไป
 พี่ชุรู้มั้ย ... ฉันมารอพี่หมอกที่เล้าทุกวันเลยนะ  :-[ เอร้ย :-[
 :katai1: อ่านมาปีกว่าแล้วเพิ่งสมัครมาบวกเป็ดให้ 55+
 ยังรอตอนใหม่อยู่นะ  :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
แจ้งเรื่อง

ได้ทำการแก้ไขหัวกระทู้นะคะ ตอนนี้เล้าออกกฏมาใหม่ นักเขียนกรุณาอ่านด้วยค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37630.0

หนึ่ง โมดุฯ

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
น่ารักอะ พี่หมอกนี่เขินแบบหน้าตายเลยเนอะ อิอิ

ออฟไลน์ peppier

  • ขาดคนรักนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีแค่ใจที่รักตัวเองก็พอ.. ~ ♥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
โอ้ยยยยยยยยยย น่ารักไปไหนเนี่ยยย

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
น่ารักจร้า

ออฟไลน์ nimfadora

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เพิ่งเข้ามาอ่าน ตามอ่านรวดเดียวจนทัน (ใช้เวลาสองวัน ปวดตามากตอนนี้  )
แต่มันหยุดไม่ได้ เลิกอ่านไม่ได ถ้าเป้นหนังสือก็คงต้องเรียกว่า วางไม่ลง
เห้นในบอร์ดมานาน เพิ่งได้อ่าน กรุพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไงวะ!!!!  :serius2:
อ่านๆๆๆๆ ภาคหยอดเหรียญเหมือนนั่งกินของหวานเพลินๆ  มันอ่านแล้วมีความสุข เหมือนถูกหลอกให้เดินเล่นชมสวนแต่ความจริงๆมันคือทางเดินขึ้นหน้าผา....
หลังจากนั้นคงไม่ต้องบอกใช่มะว่าเป้นไง.....
 ระเบิดตับแหลกลาญ :hao5:
 หลังอ่านภาคแบงค์มาพักหนึ่ง เผลอกลับไปอ่านภาคหยอดเหรียญ คห.นี้เลยรู้ว่าตัวเองกลับไปอ่านภาคคหยอดเหรียญไม่ได้แล้ว!!!  :sad4:  ทรมาน ทำใจไม่ได้ เห็นอดีตที่มีความสุขกันมาแล้วดูตอนนี้!!! :z3:
ยิ่งสเปที่ย้อนไปตอนมหาลัยแล้วยิ่ง..... :z3: :z3: :z3:
นอกเหนือจากเรื่องความรักของหมอกกับตี๋  มันได้อะไรหลายอย่างเยอะนะ
คห.นี้ ก็เรียนมหาลัย และใกล้จบออกไปผจญกับชีวิตผุ้ใหญ่เต็มทีละ  (แถมชีวิตมหาลัย ไม่มีก๊วนเพื่อนดีๆ หรือมิตรภาพสวยๆแบบในเรื่องนี้ด้วยนะครับ สังคมพอๆกับที่ทำงานตี๋เลย แต่อาจจะไม่หนักเท่าเท่านั้น)  มันเข้าใจเลยอ่ะครับ สังคมที่มันต้องเหนื่อยและอยู่กับคำว่าอดทน
ชอบภาษาของคนเขียน ชอบการเปรียบเปรย มันเป็นอะไรที่ ไม่ต้องสรรหาคำเยอะ และเปรียบเอากับสิ่งรอบตัวของตัวละคร หรือ symbolic ในเรื่อง คือเหมือนมันจะดูเรียบง่าย แแต่พออ่านแล้วรู้ความคิด อารมณ์ตัวละคร หรือที่คนแต่งสื่อออกมาแล้วมัน ตึง!! ชัดเลย!!!  เป๊ะ!!
เม้นท์มายาวชิบ  o22 สุดท้ายอยากจะบอกคนแต่งว่า  ขอบคุณ ที่เขียนเรื่องนี้มาให้ได้เจอได้อ่าน  สุดยอดมากจริงๆครับ
คนแต่งได้แฟนนิยายเพื่มมาอีกหนึ่งแล้วนะ รอตอนต่อไปอย่างสงบ
ป.ล. จะตามไปอุดหนุนภาคหยอดเหรียญที่ออสการ์นะ  ถึงยังอ่านไม่ได้ แต่จะซื้อเก็บไว้
ป.ล.2   + เป็ดให้อย่างไม่มีเงื่อนไข!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2013 01:10:09 โดย nimfadora »

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
น่ารักมากกกกกก

อิอิ

พี่หมอกก็เก๊กตลอด

CH3COOH

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบสักที กว่าจะตามจนครบ
เป็นนิยายเรื่องแรกที่ผมติดงอมแงมขนาดนี้
เขียนดีมากๆครับ ขอบคุณมากครับที่เขียนนิยายให้หลายๆคนอ่าน
ผมรอตอนต่อไปอยู่นะครับ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Netimefii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
คิดถึงพี่หมอก 

ออฟไลน์ rainystreet22

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คิดถึงหมอกตี๋  :กอด1:

CH3COOH

  • บุคคลทั่วไป
อยากได้แบบพี่หมอกสักคนจัง ^^

ออฟไลน์ cinpetals

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 452
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
คิดถึงพี่หมอกกับน้องตี๋  :mew2: :mew2: :mew2:

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งตามมาอ่านจ้า พี่หมอกแอบเสียท่าตี๋แอ๊บแบ๊วอ่าสิเนี่ยะ 555+ ซื้อเค๊กให้เค้าก็ยังวางมาดอีกนะ อย่างว่าแหละ นี่แหละคือพี่หมอก อิอิ อยากอ่านตอนต่อไปแล้วจ้าาา

ออฟไลน์ oa_ko

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0

ออฟไลน์ Netimefii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อยากอ่านต่อละะ คิดถึงพี่หมอก

duaen12

  • บุคคลทั่วไป
ยังรอพี่หมอก กะ ตี่ เหมือนเดิม

ออฟไลน์ anchoviiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
พึ่งอ่านรอบที่สองจบไปเมื่อสองวันก่อนพึ่งจะได้มีเวลาแวะมาเม้น
คิดถึงหมอกตี๋เหลือเกิน
รีบกลับมาต่อนะๆๆๆๆ
 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ cn9095

  • unidentified
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +861/-5
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10189 เมื่อ13-05-2013 17:22:28 »

B.N.28








มือถือสั่น ผมไม่ได้หยิบออกมาทันที พอมือว่าง ค่อยหยิบออกมา พี่กวางตบไหล่เบาๆ ไม่เชิงติเตียน เห็นรอยยิ้มบนหน้านั่น โดนแซวอีกแล้ว

ผมยิ้มแหะๆ เบี่ยงตัวหลบ ป้องมืออ่านข้อความ

Mhok:
18.45
วันนี้ไปหาไม่ได้


กดข้อความกลับ “ง..งั้นห..” ก็โดนอีกเมสเสจส่งเข้ามาหา ลบข้อความที่ยังพิมพ์ไม่หมดออกไป

Mhok:
18.47
ติดประชุมดึก


“ผมรอได้นะ..”

กดส่งไป คราวนี้รออยู่นาน ก็ไม่เห็นจะตอบอะไรกลับมา มองมือถือได้อีกสักพักก็ต้องเก็บลง เมื่อได้ยินเสียงเรียก

ก้มหน้าลงคิดเงิน รู้สึกหงุดหงิด ผมยาวจนต้องใช้ที่คาดผม ยืนเกาหัวแกรกๆ ยิ้มโบกมือให้กับแก็งค์หัวเปีย ชอบเอาของมาฝาก นั่งแช่ในร้านนานๆ รอจนร้านเกือบปิด นั่งทำการบ้าน ถ้าเป็นโต๊ะแบบนี้ต้องรีบเก็บจานเค้ก ไม่งั้น อาจได้ยินเสียงแตกของจานได้ง่ายๆ

นาฬิกาวิ่งทวนกับคนที่เดินเท้าอยู่ด้านนอก ตัวเลขเพิ่มขึ้น คนบางตา

“อ้าว ไม่กลับหรอตี๋?”

“หืม?”

“เก็บร้านเสร็จแล้วนิ”

“เดี๋ยวผมกลับ พี่กลับไปก่อนได้เลยครับ”

“รอใครล่ะสิ?..”

“ลูกค้าสั่งเค้กไว้ไม่ยอมมาเอา สงสารเค้กว่ะพี่”

พี่กวางแค่หัวเราะ พูด “งั้นพี่กลับก่อนนะ” เห็นเงาพี่โก้อยู่ด้านนอก โบกมือเข้ามาในร้าน ผมตอบกลับ รถคันนั้นขับหายไป เดี๋ยวนี้ไอ้พี่โก้ขับเบนซ์แล้ว ได้ยินเสียงรถกร่างๆ ให้ความรู้สึกต่างกับรถเยอรมันคันนั้น

ไม่ได้ล็อคประตูร้านไว้

มองนาฬิกา ค่อนข้างดึก ผมนอนดึกเป็นนิสัย งานกองอยู่บนโต๊ะ กลับสู่วงจรค้างคาว เห็นแล้วรู้สึกขี้เกียจจนต้องหนีไปหาของกิน

แปลกใจที่ยังนั่งอยู่ที่ตรงนี้

ในร้านเพียงลำพัง แสงสลัว ผมไม่ได้รอใครอยู่ ที่พูดแบบนี้เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายก็ติดงาน คงไม่ว่างมา แต่ก็ยังนั่งเล่น เปิดเพลงในร้านอยู่เบาๆ เป็นเพลงเกาหลี ไม่รู้คำแปลหรอกครับ แต่เห็นพี่กวางชอบเปิดบ่อยๆ ฟังบ่อยเข้า ก็เริ่มคุ้นหู

ยกแก้วโกโก้ขึ้นดื่ม นั่งคู้เข่าอยู่บนเก้าอี้ ยื่นมือออกไป ค้างอยู่ในท่านั้นนาน ถ้าเอนตัวไปข้างหน้าอีกนิด ก็คงจะล้มแน่

ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ คิดจะเงยหน้าขึ้นมองเงาสะท้อนในกระจกตรงข้าม แต่กลับเผลอยิ้มออกมาก่อนซะอีก

เย็นเชียบ!

สัมผัสที่หลังคอ เล่นเอาผมยกไหล่ พอตัวหงายล้มไปข้างหน้าช้าๆ ก็ถูกดึงไหล่กลับมา จนนั่งพิงกับพนักเหมือนเดิม เล่นเอาหยุดหายใจไปช่วงหนึ่ง

เงยหน้าขึ้นมอง

“ถ้าไม่ใช่กู มึงคงตายไปแล้ว”

“เพราะรู้หรอกน่าว่าเป็นใคร”

“หึ” ถ้าไม่ใช่คนนี้ คงโดนต่อยไปสามสิบสองครั้งต่อนาทีแล้ว ท่าทีหยิ่งยะโสแบบนี้ ระบุตัวชัดกว่าลายเซ็นซะอีก

“มือพี่เย็นว่ะ”

“ตัวมึงอุ่นเกินไป”

วันนี้มาแปลก ตัวเย็นเฉียบ เหมือนอุณหภูมิในตัวจะต่ำลงหน่อย ไม่ใช่สิ่งที่จะเจอได้บ่อยๆในตัวคนขี้ร้อนแบบนั้นหรอก

ผมยื่นแก้วช็อคโกแลตให้ พี่หมอกไม่สนใจ มือเลื่อนช้าๆ มาที่ข้างแก้ม ผมเอียงคอหนีบไว้ มองเห็นพี่หมอกที่ก้มมองตอบกลับมา ไม่ได้ยิ้ม แต่เงียบเหมือนใช้ความคิดอยู่

มือเลื่อนออก ผมเอนคอกลับ พี่หมอกนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้าม เก้าอี้ตัวประจำ “แป๊ปนะ เดี๋ยวผมมา” เค้กที่เก็บไว้ ไม่รู้กินบ่อยแบบนี้จะอ้วนบ้างหรือเปล่า จะว่าไป ไม่เคยเห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องนั่นหายไปไหนเลยแหะ มองผ่านเสื้อแบบนี้ เหมือนทักทายกับมันอยู่กลายๆ

จ้องนานๆเข้า พี่หมอกก็ขยับตัว ไม่มาก แต่ก็เยอะพอที่จะทำให้ผมหลุดจากความคิดได้ เห็นความมีชีวิตชีวาในตาคู่นั้น เล่นเอาผมขนลุกซู่

“วันนี้เป็นเค้กส้ม ผมทำเอง”

“มึงทำอะไร?”

“ปาดหน้าครีม”

“…”

“…ล้อเล่นน่า ผมทำเยอะกว่านั้น แต่ลองกินก่อน แล้วค่อยบอก ว่าเป็นไง”

ยื่นจานให้ พี่หมอกยื่นมือออกมารับ จ้องมองเค้ก แล้วก็มองหน้าผม คิดว่าถ้าไม่ทำแบบนี้คงไม่ยอมกินแหง ใช้ช้อนตักเค้ก ส่งไปถึงปาก

“ไง เป็นไง?”

“…เค็ม”

“ห้ะ?”

“เค้กเค็ม เชี่ยไรเนี่ย”

“จริงดิ? เฮ้ย ผมไม่เชื่ออ่ะ ก่อนหน้านี้ชิมยัง…” พี่หมอกตักเค้ก โดยใช้ช้อนที่ยังอยู่ในมือผม ย้อนกลับมาป้อนให้ “ชิ้น-ชิ้นใหญ่ไปป่าววะพี่”

“มึงลองชิมดู”

อ้าปากเถียง ก็ถูกยัดเค้กชิ้นนั้นเข้ามาเต็มๆ ผมใช้มือรองไว้ “ไง?” ไม่เห็นจะเค็มเลย มองเค้กที่อยู่ในจาน เหลือนิดหน่อย เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น คงหวานไป ที่เลอะอยู่รอบปาก ผมใช้หลังมือเช็ด พี่หมอกคว้าทิชชู่ใกล้ๆ ดึงมือผมไปเช็ดให้

ใช้มืออีกข้างส่งช็อคโกแลตร้อนให้ดื่มแทน ทิชชู่กลิ้งลงขยะ พี่หมอกรับแก้วนั้นไป เอนตัวดื่ม  นั่งอยู่ตรงข้ามกัน ผมหย่อนขาลงจากเก้าอี้ แกว่งขาเล่น เงยขึ้นจากกระดาษเมื่อขาผมเตะเข้ากับเท้าพี่หมอก

เปล่านะ ผมขอแก้ตัวก่อน ความจริงไม่ใช่ผมที่เป็นฝ่ายเตะไปถึงอีกฝั่ง พี่หมอกต่างหากที่ยื่นมา

รองเท้าหนัง ผมวางเท้าลงไป เพราะพี่หมอกนั่งไขว้ห้าง ผมพักเท้าลงบนนั้น

มองเท้าเปล่าของตัวเองบนรองเท้าหนังราคาแพง นึกถึงเรื่องเก่าๆที่เคยผ่านมา ผมยังจำได้ดี

เงาทาบทับลงบนเท้าของพวกเราสองคน พี่หมอกเข้ามาใกล้ ใกล้ชนิดที่ว่า อีกสามเซนต์ ถ้าใกล้กันมากกว่านี้ เราคงจะได้ทำในสิ่งที่พวกเราอยากทำที่สุดในเวลานี้

จังหวะที่ได้ยินเสียงแก้วกระทบไม้ ริมฝีปากพบกันเร็วๆแล้วแยกออกจากกัน “กูแค่จะวางแก้ว” พูดแค่นั้น ตีหน้าขรึม เอนตัวกับไปนั่งไขว่ห้างเหมือนเดิม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หยิบมือถือออกมากด

“ผมก็ไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย”

“ดูเงามึงที่กระจกข้างหลังกู” มองตาม “ยิ้มทำไม?”

“ผม..” กำลังจะเถียง กลับมาเห็นหน้าพี่หมอก ตอบ “พี่หมอกนั่นแหละ ยิ้มทำไม?”

“กูเปล่า”

“หรออออ”

“กูเปล่ายิ้ม”

พูดแบบนั้นแล้วรอยยิ้มก็ยิ่งเห็นชัดขึ้น เสียงเพลงเบาๆ ท่อนฮุกที่ร้องเป็นภาษาอังกฤษ ‘have you ever fallen in love?’ เสียงเบาๆต่อท้ายมาในเพลงนั้น ‘I do.’ ยิ่งเล่นเอารู้สึกเขินจนยิ้มกว้างออกมาจนหมด

กระโดดลงไปนั่งบนพนักวางแขนข้างๆ พี่หมอกแค่ยกมือหลบ นั่งจากมุมสูงกว่า เห็นว่าหันมามองด้านนี้แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เอื้อมตัวหยิบกระดาษจากบนโต๊ะ งานร่างแบบของผม พี่หมอกมองมันเงียบๆ

“มึงชอบงานที่ทำอยู่ตอนนี้หรือเปล่า?”

“แล้วพี่คิดว่าไงล่ะ?”

“กูอยากได้ยินคำตอบจากมึงก่อน”

“…ก็ชอบมั้ง แต่ผมคงเหมาะกับงานเลอะสีแบบนี้มากกว่า”

“……”

“แล้วพี่ล่ะ ว่าไง?”

“…กูทำผิดมาตลอด”

พลิกเปิดกระดาษหน้าใหม่ ผมยกเข่าขึ้นข้างหนึ่ง พิงหัวเข้ากับเข่านั้น มองลายเส้นบนกระดาษไปพร้อมพี่หมอก

“สิ่งที่กูควรทำ ไม่ใช่ห้าม แต่ควรจะสนับสนุนมึง”

“พี่ก็ทำมาตลอด…” ผมพูดแทรก “บางทีก็…ในแบบแปลกๆบ้าง อาจมีบางครั้งที่พี่ทำผิด แต่ไม่เป็นไรหรอก”

พี่หมอกหันหน้าควับขึ้นมามอง ผมยิ้มตอบกลับ

“ผมไม่เรื่องมาก ไม่รู้จะโกรธไปให้ได้อะไร ตอนนั้นผมอาจจะขี้โมโหไปหน่อย แต่ก็ถือว่าเจ๊ากันไปแล้วกัน”

“……”

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นอ่ะ?”

“มึงนี่มัน…”

“มันอะไร? อย่าจั้กจี้ผมนะ”

“…หึ”

“ยิ้มแบบนี้อีกแล้ว ไอ้ยิ้มนี่ผมแปลไม่ออกเลยว่ะ ในภาษาพี่หมอก มันแปลว่าอะไรเนี่ย?”

“คิดเองดิ”

อย่างกับตัวพี่เป็นคนที่ดูออกง่ายๆ พูดเหมือนเรื่องที่พี่พูด จะทำให้คนอื่นเข้าใจพี่ได้หมด สิ่งที่พี่คิด สิ่งที่พี่ทำ แม้แต่ผม พี่ยังไม่ค่อยจะยอมบอกเท่าไหร่

บางครั้งผมกลัวว่าสิ่งที่พี่หมอกแบกอยู่ จะหนักเกินไปหน่อยสำหรับตัวคนเดียว

ผมพูดไปหลายรอบ บอกไปหลายอย่าง แต่เพราะจุดยืนที่แตกต่างกัน ไม่ว่าเราจะพยายามแค่ไหน ช่องว่างนั่น โดยที่เราไม่รู้ตัว มันอาจจะไม่เคยลดลงเลยก็ได้

ผมคิดแบบนี้มาตลอด

ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดอยู่ แต่ก่อนหน้านี้บางที ผมอาจจะคิดผิดไปอย่าง

ถึงช่องว่างไม่เคยลด แต่ถ้าอย่างน้อย เราพยายาม รักษาระยะห่างไม่ให้กว้างไปมากกว่านี้ มันอาจจะมีความหมายอะไรบ้างก็ได้

นึกถึงคำพูดของม๊า

ตอนนั้น ผมจำไม่ได้หรอกว่าปีไหน งานครบรอบ กลิ่นธูปในบ้าน อาหารเรียงอยู่บนจาน ม๊าพูดเบาๆเหมือนจะตั้งใจให้เฮียได้ยิน มากกว่าผมที่นั่งไกลออกไป

‘เราไม่เคยรู้เลยว่าเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกันมันสั้นยาวแค่ไหน’

ไม่มีใครรู้ คนที่นั่งข้างผม ตอนนี้ เวลานี้ ที่นี่ จะอยู่กับผมไปอีกนานเท่าไหร่ นั่นคือสิ่งที่ผมควรจะกลัวที่สุด มากกว่าอะไรทั้งสิ้น ผมมัวแต่คิดถึงอนาคต อนาคตที่ไม่มีใครรู้ว่ามันจะกินเวลาเท่าไหร่ของชีวิต

ถึงตอนนี้ผมก็ยังกลัว แต่ความกลัวนั้นมันก็มีระดับของมัน ผมก็ยังกลัวเรื่องเดิมๆซ้ำๆ แต่สิ่งที่ผมกลัวที่สุดในตอนนี้ มันเปลี่ยนไป

ความกลัวไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร ถึงกระนั้น มันก็ยังมีประโยชน์

ความกลัวเหล่านี้ จะผลักดันเราไปในสิ่งที่เราต้องการจริงๆ มันทำให้เราค้นหาเส้นทางที่จะแก้ไขปัญหาได้ หาทาง ที่ไม่ใช่ทางหนี ทางหนีไม่เคยนำพาเราไปยังทางออกที่ถูกต้อง มันยิ่งพาเราหลงไกลไปจากจุดหมายเดิมที่เราเคยตั้งไว้

พี่หมอกพูดพึมพำเบาๆ



“กูจะไม่หนีอีกแล้ว…”



…………………………………..
……………………………..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
« ตอบ #10189 เมื่อ: 13-05-2013 17:22:28 »





ออฟไลน์ cn9095

  • unidentified
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +861/-5
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10190 เมื่อ13-05-2013 17:26:11 »

.
.
.





โทรศัพท์ดังขึ้นในวันอาทิตย์ ตอนเย็นที่พร้อมแล้วสำหรับมื้อเย็น

วันที่ผมรู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากลุกขึ้นจากที่นอน กระดาษงานหายไปสองสามแผ่น ยิ่งทำให้งานร่างที่คิดไว้ล่าช้าออกไปอีก ความรู้สึกคล้ายไม่สบายอยู่หน่อยๆ แต่ผมไม่แน่ใจว่าระหว่างป่วยกับขี้เกียจ ร่างกายผมค่อนไปทางไหนมากกว่ากัน

ควานหาโทรศัพท์อยู่ไม่นาน กดรับโดยที่ยังไม่ลืมตาตื่น ท้องก็ร้องขึ้นก่อนที่ผมจะพูดคำแรก

“….ตี๋”

“ครับ?”

“มาหากูหน่อย”

“พี่อยู่ไหน?” ลุกขึ้น ตื่นเต็มตา “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

พี่หมอกอยู่ที่บ้าน เสียงพี่หมอกแปลกกว่าทุกครั้ง ไม่ตัวเสียง น้ำเสียง แต่สิ่งที่มาพร้อมเสียงนั้นเปลี่ยนไป

ขมวดคิ้วฟังคำที่กำลังจะดังออกต่อจากเสียงถอนหายใจนี้

“รีบมา”

แค่ได้ยินคำนี้ ก็ทำเอาผมลุกขึ้นจากเตียง คว้าเงินที่ถูกขยุ้มเป็นก้อนจากบนโต๊ะ เป็นแบงค์ที่ถูกยัดรีบๆลงกระเป๋า คิดว่าม๊าคงจะดึงออกมาให้ก่อนเอาไปซัก คีบแตะหน้าบ้าน วิ่งออกไปกระโจนขึ้นแท็กซี่คันที่วิ่งผ่านมาพอดี บอกที่อยู่ปลายทางพี่แท็กซี่ก็รีบบอกกลับ “จะไปทำอะไรที่นั่นน่ะ?” มองผมผ่านกระจกหลัง ผมได้แต่ตอบกลับ “รีบๆเถอะน่าพี่”

ความรู้สึกตอนนี้ มันคล้ายกับเคยเกิดขึ้นมาก่อน

กำเสื้อตัวเองแน่น จับดูที่หน้าอก หัวใจเต้นแรงเหมือนวิ่งไกล ผมก้มลงมองรองเท้า สภาพดี ไม่น่าจะเจ๊งง่ายๆเร็วๆนี้ นั่งตรงกลางเบาะหลัง เท้าแขนไว้กับสองเบาะหน้า สั่นขาไม่หยุด

เลขมิเตอร์วิ่งไหลไปเหมือนหยดน้ำ ทางที่คุ้นเคย ผมมองมันสลับกับนาฬิกาบนหน้าปัด

ครึ่งชั่วโมง ผมใช้เวลาครึ่งชั่วโมง เทียบกับคำว่ารีบมา ผมไม่แน่ใจว่าผมจะมาทันหรือเปล่า

“พี่ครับ..” พี่รปภ.หน้าใหม่ ผมไม่เคยเห็นหน้า “ผม..ผมมาหาคุณอัษฏา”

“..น้อง ผิดบ้านหรือเปล่า”

“บ้านนี้แหละ อัษฏา ติวากุล แล้วก็ขอเถอะ อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น….”

พี่รปภ.คนนั้นไม่ตอบอะไร กำลังจะหันตัวกลับหนี ผมกระโดดคว้าเสื้อไว้ รองเท้าแตะเกือบหลุดถ้าหนีบไว้ไม่ทัน

“ผมขอล่ะ นี่เรื่องด่วน”

“พี่ปล่อยคนเข้าไปง่ายๆไม่ได้หรอก น้องก็รู้ พี่ทำตามหน้าที่”

“….”

เห็นพี่คนหนึ่งที่เคยคุ้นหน้าในห้องครัว ผมตะโกนหา “พี่ต่าย!” เธอตกใจ วิ่งมาที่หน้ารั้ว “คุณตี๋ มาได้ยังไงคะเนี่ย? แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้”

“เรื่องมันไม่ยาวมากแต่ยังเล่าไม่ได้ ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นครับ?”

“…คือ-”

“ขอผมเข้าไปเถอะ”

พี่ต่ายมองหน้าพี่รปภ.เงียบๆ เธอพยักหน้า เขาถึงยอมขยับตัว

“รีบเข้ารีบออกล่ะ”

“ครับ!”

ประตูรั้วเล็กเปิด ช่องพอดีให้คนเดินผ่านเข้าไป กึ่งเดินสลับวิ่งบนทาง กว่าจะถึงตัวบ้านเล่นเอาเหงื่อท่วมตัว

เสียงดังมาจากชั้นบน ผมวิ่งขึ้นบันได ขั้น ทีละขั้น เสียงนั้นยิ่งดังชัดเจน ผมจำได้ทันทีว่าเสียงใคร มือที่จับราวบันได สั่นไม่รู้ตัว

กรอบรูปลอยเวิ้งมาอย่างไร้ทิศทาง ชนผนัง ตกลงแตก เศษกระจกโปรยพื้น รูปเก่าปลิวออกจากกรอบ ผมหยิบขึ้นมา ครอบครัวในกระดาษยิ้มตอบกลับมา

ในห้องพี่หมอก

ผู้ชายคนนั้น ยืนอยู่นิ่ง

กีตาร์เบสตัวโปรดสองตัว คอหักอยู่ที่พื้น ข้าวของเละเทะราวกับโดนพายุกระหน่ำในห้อง สิ้นเค้าโครงเดิมที่เป็นระเบียบด้วยฝีมือแม่บ้าน พี่หมอกยืนห่างออกไปไม่ไกลนัก ผมยุ่ง ดูเหมือนจะเห็นเท้าเปล่าของผมก่อน เงยหน้ามอง

“แกเรียกมันมาหรอ?”

“….”

“ฉันถาม แกตอบ จำกฎของเราไม่ได้หรือไง?”

“….ผมเรียกมันมา”

“เรียกมันมาทำไม?” พี่หมอกเงียบ ผมเดินเข้าไปหา เห็นรอยช้ำที่หลังมือ กลายเป็นรอยช้ำม่วง “ตอบสิ!”

“มันมาเพื่อรับผมไป”

“…..”

“ไปอยู่ ในที่ที่เป็นของผม”

“นี่คือที่ของแก”

“นี่คือที่ที่คุณยัดเยียดให้ผมยืนอยู่”

“…แกนี่พูดจาไม่รู้เรื่อง ใครยัดเยียดให้แก ฉันบอกหรอ ให้แกทำงานตรงนี้”

“……”

“ฉันบังคับแกหรอ? แกตอบฉันสิ ส่วนหนึ่งมันก็มาจากความทะเยอทะยานของแกทั้งนั้น แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ? แกกำลังจะพังบริษัทที่พ่อแกสร้างมากับมืองั้นหรอ?”

“พังบริษัท?” ผมเงยหน้ามองพี่หมอก พี่หมอกไม่ได้มองกลับ จ้องเขม็งไปที่บุคคลที่สาม

“แกเอาหุ้นบริษัทแกไปแลก เพียงแค่อยากลากคอหนอนบ่อนไส้ออกมางั้นหรอ?”

“มันไม่ใช่แค่นั้น”

“แล้วยังไง แกอธิบายมาสิ!!”

“คุณอยากรู้เรื่องทั้งหมด คุณก็อ่านจากรายงานเอา ผมบันทึกไว้ละเอียดแล้ว” หันหน้าไปทางอื่นเหมือนไม่สนใจ “ตอนนี้มูลค่าหุ้นเรามากกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ”

มือพี่หมอกควานหา ผมยื่นมือเข้าไปจับ ถูกเดินนำไปที่ตู้เสื้อผ้า เปิดตู้บน หยิบกระเป๋าเดินทางหนังใบใหญ่ออกมา โยนมันลงกับพื้น ปล่อยมือออกจากผม ย่อตัวลง เปิดซิบกระเป๋าออก

ผมแตะเข้ากับหลังพี่หมอก

เขาหันกลับมา คุยกันเงียบเชียบผ่านสายตา สายตาคู่นั้นหันกลับมามอง ท่ามกลางสิ่งของต่างๆที่ถูกทำลายลงแบบนี้ กลับดูแน่วแน่กว่าครั้งไหนๆ

พยักหน้าให้ผม

ผมเปิดตู้ออก โกยเสื้อผ้าพี่หมอกลงกระเป๋าใบนั้น

“แกทำอะไร?”

“ผมจะไปจากที่นี่”

“แกคิดว่าชีวิตมันง่ายอย่างนั้นน่ะหรอ? อยากเริ่มต้นใหม่เมื่อไหร่ก็ได้สินะ?”

“ใช่” หันกลับไปตอบ ผมไม่เห็นหน้า มุมนี้ เห็นแต่แผ่นหลังกว้าง “ผมคิดแบบนั้น ผมจะไม่เปลี่ยนความคิดตัวเอง”

“ถ้าแกจะออกไป ก็ทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่ซะ ฉันไม่อนุญาตให้แกเอาไป”

“……”

“นี่เป็นเงินของฉัน ถึงแกจะบอกแกหามา แต่มันงอกเงยจากกองเงินที่ฉันหามาด้วยตัวฉันเอง แกไม่มีสิทธิ ถ้าแกพูดว่าแกจะเริ่มใหม่ หมอก แกต้องทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่”

ตอนที่พ่อพี่หมอกพูดคำนี้ ผมเชื่อว่าส่วนหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นต้องเชื่อว่าพี่หมอกจะลังเล หรือหยุดคิดเป็นครั้งที่สอง

ถ้าเขาทำแบบนั้นจริง ผมภาวนาว่าเขาจะไม่ เพราะนั่นแปลว่าเขาไม่รู้จักพี่หมอกเลย ไม่เลยสักนิด

“ถ้าคุณต้องการแบบนั้น” มือปล่อยออกจากกระเป๋า ยืนขึ้น ปลดไทรอบคอออก โยนทิ้ง อยู่บนเตียงเป็นเส้นยาวคล้ายเชือก นาฬิกาเรือนนั้น ไม่ใช่เรือนที่จะหาได้ง่ายๆ พี่หมอกได้มาตอนวันเกิด ผมไม่รู้ใครให้มา แต่เป็นสิ่งที่ถ้าเสียไปแล้ว ยากที่จะได้คืน

พี่หมอกปานาฬิกาเรือนนั้นใส่โต๊ะกระจก โต๊ะกระจกร้าวแตกคล้ายแมงมุมขึงใย เสียงนาฬิกาเรือนหนักกระทบกับพื้นจบพิธี ผมฟังแล้วขนลุกซู่ พ่อพี่หมอกยืนนิ่ง ไม่คิดจะห้ามอะไร กลับกัน เหมือนจะยิ้มเยาะ เหมือนในสิ่งที่ผู้ใหญ่ชอบทำข่มเด็ก

กระเป๋าเงิน พี่หมอกหยิบออกมาจากกางเกง เปิดมา เห็นรูปผมอยู่ในนั้น แต่เห็นแค่ชั่วเวลาสั้นๆ ดึงปึกแบงค์ใหม่ออกมา โปรยมันไปรอบๆห้อง กระเป๋าเงินแบนลง ถูกเขวี้ยงออกไป อาจจะหลุดออกไปนอกระเบียง ผมไม่รู้ เพราะไม่ได้ยินเสียงตอนมันตก

แบงค์สีเทาร่วงลงช้าๆ หนึ่งใบนั้น ตกลงที่ปลายเท้าผม ไม่มีความคิดจะเก็บมันไว้ในความคิดผม แค่จ้องมอง สงสัยในกระดาษแผ่นเดียว ที่มีอำนาจราวกับพ่อมดใหญ่ หมุนเวียนชะตากรรมใครหลายๆคนอย่างไม่น่าเชื่อ

“ตี๋…ไป”

“อย่าคลานกลับมา”

“….”

“ถ้าแกเดินข้ามกรอบประตูนั่นไปแล้ว ต่อให้แกตาย หรือฉันตาย ก็อย่ากลับมาให้เห็นหน้า”

พี่หมอกหยุดเท้าที่กรอบประตู มีผมยืนอยู่ข้างๆ หันหน้ากลับไปบอก

เห็นกำหมัดแน่น ผมเดินไปยืนในทางที่พ่อพี่หมอกยืนอยู่

“….ผมไม่ตายง่ายๆหรอก”

แล้วก็ชูนิ้วกลางหราจนผมตกใจ


………………………….
………………….



สายตาหลายคนมอง เงียบกริบ เหมือนว่าได้ยินบทสนทนาทั้งหมด ทุกคนหลบสายตาเมื่อเราหันไปมอง

พี่ยามเหลือกตามอง รีบวิ่งมาเปิดประตูให้ ถาม “ไม่เอารถออกหรอครับ เดี๋ยวผมไปเอาให้” พี่หมอกเขวี้ยงกุญแจรถบีเอ็มคันโปรดใส่ บอก “ให้” เดินลอดผ่านประตูออกมา ผมหันกลับไปมอง หน้าพี่ยามกึ่งดีใจกึ่งงง สับสนยืนอยู่ตรงนั้นมองกุญแจรถที่อยู่ในมือ

 แม้แต่ระหว่างพวกเราสองคนยังเงียบกริบ ผมไม่รู้จะพูดอะไรก่อน ส่วนหนึ่ง ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่พี่หมอกพึ่งคิด อาจมีสิ่งที่นอกเหนือแผน หรือเป็นไปตามแผนอยู่ แต่ทั้งหมด เป็นสิ่งที่พี่หมอกยังไม่เคยบอกใครมาก่อน ผมเชื่อแบบนั้น

เราเดินออกมาจากซอย ระหว่างทาง มีร้านมินิมาร์ตเล็กๆ ผมเห็นเหงื่อพี่หมอกแล้วก็อดไม่ได้ที่จะลากเข้าไปด้วยกัน ซื้อน้ำเย็นยื่นให้ขวดหนึ่ง พี่หมอกยกมือกั้นตอนที่ผมจะหยิบเงินออกจากกระเป๋า แต่ล้วงเข้าไปในกางเกงแล้วขมวดคิ้ว ผมวางเหรียญสิบลงกับเคาน์เตอร์ พนักงานมองพี่หมอกตาไม่กระพริบ

“พี่พึ่งโปรยเงินเล่นไปเอง”

“…”

“เอาน่า ผมเลี้ยง”

พี่หมอกซัดคนเดียวไปครึ่งขวด รับขวดน้ำต่อมา กินจากปากขวดเหมือนกัน “ถึงผมจะยังไม่เห็นด้วยหลายๆอย่าง แต่ตอนนี้ผมยังไม่พูดหรอก…”

“กูอยากให้มึงพูด”

“…ถ้าพี่อยากฟัง ไว้รอกลับถึงบ้านกันก่อนนะ”

เสียงออดเมื่อเดินผ่านประตูออกมา ผู้หญิงสองคนเดินสวนเข้าไป เดินนำออกมาก่อน มองถนนที่รถเริ่มติด จะก้าวต่อ แต่พี่หมอกเดินตามหลังมา ดึงแขนผมไว้

“มึงเสียใจหรือเปล่า?”

“เสียใจ เสียใจเรื่องอะไร?”

“…ที่กูทำลงไป”

“ผมไม่รู้ว่าผมควรจะดีใจหรือเสียใจดี..”

ยอมรับว่าผมไม่ชอบที่พี่หมอกทำแบบนี้ ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะทำตัวแบบไหน ก็ยังมีศักดิ์เป็นพ่ออยู่ ผมเห็นแล้วหงุดหงิด จนอยากจะชกพี่หมอกแรงๆสักที แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ผมว่า เวลานี้ยังเปราะบางเกินไป

“ตอนนี้มึงต้องรับผิดชอบกู”

“หื้อ?”

“กูทิ้งทุกอย่างเพื่อมึง” แย่งขวดน้ำไปดื่มอีก หมดเกลี้ยง เหวี่ยงลงขยะใกล้ๆ ไม่ใส่ใจ “ตอนนี้กูไม่เหลืออะไรแล้วนอกจากมึง ถ้ามึงทิ้งกูอีก ตี๋ มึงแย่แน่”

“ผมรู้แล้ว…”

“กูไม่ได้ล้อเล่น ตี๋ ถ้ามันมีอีกครั้งนึง ที่มึงคิดจะหันหลังให้กูอีก--”

เข้ากอดพี่หมอกแน่น ไม่รอให้พูดจบ พี่หมอกยกมือค้าง ตัวนิ่ง สักพัก ก็กอดตอบ

ยืนขวางอยู่หน้าประตูร้าน เสียงออดดังติดกันหลายครั้ง ประตูจะปิดลง เซนเซอร์ก็เจอเราซะก่อน เปิดค้างสักพัก พยายามปิดลง วนลูปเดิม

“พี่หมอก”

“หืม”

“เอาตรงๆ ผมไม่กล้าสัญญาว่ะพี่”

“…..”

“แต่ผมรู้ว่าครั้งนี้มันมีอะไรเปลี่ยนไป”

“ยังไง?”

“ผมดีใจมากๆ”

“…..”

“ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ผมดีใจ เหมือนไม่ใช่เรื่องที่ผมควรยินดีเลย แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนจะหัวเราะแล้วก็ร้องไห้ออกมาเลย”

“ทำสิ”

“ไม่เอา เหมือนคนบ้าเลย”

“มึงก็ไม่ต่างอะไรอยู่แล้วนิ”

“พี่หมอก..” ขมวดคิ้วใส่ ผมที่ยาวจนถึงหัวไหล่ พี่หมอกลูบเบาๆ ก็รู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็ก ซุกกอดแน่น “ผมมันคนเห็นแก่ตัวชัดๆ”

“ทุกคนก็เห็นแก่ตัวทั้งนั้น” กลิ่นชื้นในอากาศรู้สึกคล้ายอีกไม่นานฝนจะตก จะตกหรือเปล่านะ ร้อนมาหลายวันขนาดนี้ “กูอยากให้มึงเห็นแก่ตัว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กูพูดเรื่องนี้ กูอยากให้มึงรักตัวเองให้มากกว่านี้”

“…ถ้าผมรักตัวเองมากกว่าพี่ละ”

“ถ้ามึงทำแบบนั้นจริง มึงจะรักกูมากกว่านี้อีก ตี๋”

อยากจะจูบ

พี่หมอกก็ดูเหมือนจะดูออก เบียดตัวเข้าซอกแคบๆของตู้เอทีเอ็ม จูบเร็วๆ นั่นคือความคิดแรกที่จะทำ แต่เมื่อได้ลองแล้ว ก็รู้เลยว่าความคิดนั่น ไม่มีวันจะทำให้เป็นจริงได้

“สัญญาของมึง ไม่ใช่สิ่งที่กูอยากได้ มันไม่มีประโยชน์เท่าสิ่งที่มึงทำ”

บนรถแท็กซี่ เรานั่งตัวพิงกัน ไม่สนใจสายตาแท็กซี่ที่มองผ่านกระจกหลัง เราไม่แน่ใจอะไร ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าผมจะมีเงินพอค่าแท็กซี่ตอนนี้หรือเปล่า ไม่แน่ใจว่าทางนี้ใช่ทางกลับบ้านของเราไหม ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่ ไฟสัญญาณสีแดงจะกลายเป็นสีเขียว หรือเรื่องที่ว่า ฝนจะหยุดตกเมื่อไหร่ เมื่อมันเริ่มตกแรงราวกับพายุแบบนี้

ไม่มีเรื่องอะไรที่เราแน่ใจ

ไม่สิ

มีสิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจ

“กูเคยพูดหรือเปล่า”

“พูด? พูดอะไร?”

“ขอโทษ”

“…ยังไม่เคย”

“มีอีกคำนึง”

“คำว่าอะไร?”

“ขอบคุณ”

“คำนี้…พี่ก็ยังไม่เคยพูดเหมือนกัน”

พี่หมอกถอนหายใจ “ร้องไห้ทำไม?” ตอนนี้ แสงมีแค่แสงจากด้านนอก เห็นชัดบ้างไม่ชัดบ้างเป็นบางครั้ง หน้าพี่หมอกกลับดูอ่อนโยนจนผมว่าเป็นพี่มากกว่า ที่กำลังร้องไห้อยู่

“ผมเปล่า”

“ก็เห็นอยู่ว่าร้อง”

“ผมร้องไห้เพราะอยากให้พี่ปลอบไง”

“งี้ก็เข้ามาใกล้ๆหน่อย”

ผมทำตาม

พิงเข้าที่หัวไหล่ มือพี่หมอกอ้อมหลังผมไป ไม่รู้ทับลงไปแบบนี้จะหนักหรือเปล่า แต่ไม่น่าจะเป็นอะไร

“..ไอ้ขี้แย”

“ผมตั้งใจทำ”

“งั้นหรอ” ถอนหายใจอีกแล้ว เวลาชีวิตลดลงไปอีก 7 วินาที เพลงที่เปิดในรถแท็กซี่เป็นเพลงเก่ายุคม๊าสาวๆ เสียงนักร้องชาย เพลงไทยโบราณดังผ่านลำโพงที่แตก “ทำบ่อยๆ ใส่กูคนเดียวก็พอ”

นิ้วโป้งอ้อมมาปาดน้ำตาให้ ผมคว้ามือนั้น จับไว้ หันไปมองหน้าพี่หมอก

พี่แท็กซี่อาจจะต้องตะลึงหน่อย แต่ได้โปรด อย่าสนใจพวกเราเลยครับ



ตอนที่ลิ้นพี่หมอกสอดเข้ามา ผมได้แต่หวังว่าอีกไม่นาน ก็จะถึงบ้าน แหล่งกำบังของเรา ที่จะกันพวกเราจากพายุที่รุนแรง ราวจะปิดท้ายเรื่องที่แสนวุ่นวาย


………………………………………..
……………………………….




[B.N.28 : complete]
[13.5.56]




 :katai5: :hao7: :katai4: :hao5:
มาช้าอีกแล้ว ; -; คิดถึงนะตัว
พรุ่งนี้เปิดเทอมล่ะ  :mew5: ปิดเทอมมีแต่เรื่องยุ่ง หวังว่าต่อไปนี้คงจะมีเวลา..บ้าง  :hao5:
อยากพูดอะไรเม้นต์อะไรเชิญเต็มที่ อยากอ่าน  :pig2:

.
.
.



ออฟไลน์ rnonimo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10191 เมื่อ13-05-2013 17:36:36 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!  :hao7:

กลับมาแล้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

#ได้กลิ่นเค็มเกลือ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

cob

  • บุคคลทั่วไป
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10192 เมื่อ13-05-2013 17:37:52 »

คิดถึงมากกกกกกกกกกกกกกก
ดีใจมากที่มาอัพแล้ว กรี๊ดที่สุด แงงงงงงงงงงงง
ขอให้รักกันไปนานๆเลยนะ พี่หมอกกับตี๋
ขอให้รักจงเจริญญ ฮิ้วววววววววว

โอ๊ย แค่อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็ปริ่มแล้วง้า
ขอให้ทั้งสองคนสู้ต่อไป เลิฟมาก

ขอบคุณนักเขียนมากค่ะ เป็นกำลังใจให้น้า  :-[

ออฟไลน์ PORSE

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10193 เมื่อ13-05-2013 17:49:35 »

หมอกตี๋ๆๆ อยากจะกรี๊ด ในที่สุด แอ๊ก ก ก ก !!!!!!!!

hades

  • บุคคลทั่วไป
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10194 เมื่อ13-05-2013 17:53:25 »


โอ้ยยยยย น้ำตาไหลพรากกก ฮือออออ

 :sad4: :sad4:

คิดถึงมากก กลับมาแล้วววว

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10195 เมื่อ13-05-2013 18:00:51 »

หวังจะเป็นมาม่าสุดท้ายของพ่อลูก
แอบดีใจแทนตี๋ อยู่ด้วยกันตลอดแล้ว

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10196 เมื่อ13-05-2013 18:12:57 »

เย้ ๆ ๆ ในที่สุดความหวานก็มาเยือนเสียที
สู้ต่อไปหนุ่ม ๆ

Smilelimsminy

  • บุคคลทั่วไป
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10197 เมื่อ13-05-2013 18:15:36 »

ในที่สุด...  :hao5:
ก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ววววววววววว ตี๋หมอก ;;___;;
รอมาประมาณครึ่งศตวรรษในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกัน ฮรือออออออออออออออออออออออออออออ
หวานจนน้ำตาลขึ้น  :o8:

SaM_TwiN

  • บุคคลทั่วไป
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10198 เมื่อ13-05-2013 18:15:55 »

 :z13: :z13: :z13:

------------------------

 :hao7:

แอบเสียดายรูปตี๋ แต่คิดไปคิดมาคงไม่จำเป็นต้องมีรูปแล้ว
เพราะได้มาอยู่กับตัวจริงแล้ว :hao6: อยากรู้ว่าต่อไปในอนาคตตี๋หมอกจะเจออะไรบ้าง
คู่นี้คงกลายเป็นคู่อมตะสุดๆแล้วละ 

รักและรอคนเขียนเสมอ  :pig4: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2013 19:02:07 โดย SaM_TwiN »

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
Re: เงินน่ะ..มีไหมวะ?! [B.N.28/P.340/13.5.56]
«ตอบ #10199 เมื่อ13-05-2013 18:18:07 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
พี่หมอกของน้องตี่๋ ~~~~~~~ คิอเริ่ดเว่ออออออออ เด็ดขาดเว่ออออออออ
ฮรือออออออ พี่หมอก พี่แมร่งโคตรเท่เลยหวะ !!!!

คุณพ่อแมร่งไม่เคยเข้าใจอะไรจริงๆ  :katai1:
ไม่จำเป็นต้องเข้าใจทุกอย่างบนโลก แต่กับลูกชายของคุณนั่นไม่ใช่ข้อยกเว้น

ปล.อยากสิงร่างแท็กซี่ อยากเห็นพี่หมอกกับน้องตี๋แลกลิ้นกัน อ๊ากกกกกกกกกกกก  :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด