ตอนที่ 14 จนค่ำแพทกับผู้กองถึงได้กลับไป โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นก็คือ แพทจะทยอยเก็บของส่วนตัวบางอย่างออกมา แล้วไปทำงานเพื่อที่จะนัดให้ประกายมาพบบาลีที่ร้านนายรักอ่าน หลังจากนั้นก็ไปทำงานอีกระยะ รอถึงวันรับเงินเดือนแล้วค่อยหนีงานไปแบบเนียนๆ ไม่ให้เป็นที่สงสัย
คอสมองตามแพทกับผู้กองหมอกกลับออกไปด้วยกัน แล้วหันมาเก็บของในร้าน
วันก่อนแพทยังอยู่กับบาลี แต่มาวันนี้แพทไปกับผู้กอง แล้วเท่าที่ฟังและนั่งมองอยู่เหมือนกับว่าจะไปด้วยกันมาหลายวันแล้วด้วย
คอสเดินมาดึงชายเสื้อบาลี “พี่”
“อือ”
“อย่าเสียใจนะ”
“เรื่องอะไร”
“เรื่องพี่แพทน่ะ อย่าคิดมากนะ พี่เป็นคนดี เดี๋ยวก็หารักแท้เจอ”
บาลีหันมาทำหน้านิ่งใส่ คอสถึงกับเดินหนีบ่นอุบอิบ “ไรวะ คนเค้าหวังดีชอบทำหน้าตาเป็นมนุษย์โลกที่ 5 ตลอด”
“โลกที่เท่าไหร่นะ” คนฟอร์มนิ่งกำลังกลั้นยิ้ม
“โลกที่ 5 โลกที่ 10 โลกที่ 100 พี่น่ะประหลาดอย่างที่พี่แตงโมว่าน่ะแหละ” คอสประชดทำปากยื่น เก็บสร้อยข้อมือเรียงใส่กล่อง “เออ ผมยังไม่ได้ร้อยสร้อยให้พี่แตงโมเลยอ่ะ พี่เขาจะมาเมื่อไหร่ฮะ”
“เมื่อจะใช้งาน” บาลีบอกสั้น ๆ นึกในใจว่าเออ คอสมันก็วัยรุ่น เปลี่ยนความคิดความสนใจได้รวดเร็ว
มีก็แต่เวลาที่นั่งถักสร้อยข้อมือที่หนุ่มคนนี้จะอยู่นิ่ง ๆ
“อย่ามัวแต่สนใจเรื่องคนอื่น อาทิตย์หน้าจะสอบแล้ว”
คอสหันมาถามต่อ “แล้วถ้าคนที่เขาใช้พี่แพทมาเอาหนังสือพี่มาอ่ะ ผมมาดูด้วยได้ปะ” เพราะบาลีสั่งไว้ว่า อาทิตย์หน้าให้คอสหยุดยาวจนกว่าจะสอบเสร็จ แต่นัดให้แพทพาประกายมาหาในอาทิตย์หน้า
“ไม่ต้อง ก็บอกอยู่นี่ไง ว่าอย่าสนใจเรื่องคนอื่น”
คอสทำปากยื่น เก็บของไปไว้ที่หลังร้านเหมือนเดิม
ปู่นั่งสบายอยู่ที่เก้าอี้ตัวโปรด อดปากไม่ไหว
“...จริงจังไปหรือเปล่าบาลี...”
บาลีมองประตูห้องด้านหลังที่ปิดลง ถึงได้ตอบคำถามของปู่
“พัฒนะมาที่นี่หลายครั้งแล้ว ถ้าเขาต้องการหนังสือมากถึงขนาดว่าจ้างน้องด้วยคอนโดฯ กับเงินหลายล้าน มันก็เกินไป”
“...เว่อร์มาก หนังสืออะไรราคาตั้งหลายล้าน มันจะเอาไปทำอะไรของมัน...”
ปู่พูดแล้วยักคิ้วกับหลานชาย “...จะว่าไป ปู่ก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าเก็บอะไรไว้ที่มันมีค่าถึงขนาดนั้น...”
นิ่งไปอึดใจ ประตูห้องพักหลังร้านเปิดออกอีกที ปู่ก็พูดอีก
“....หรือว่าที่สันหนังสือจะซ่อนเพชรไว้สัก 5 กะรัตวะ...”
บาลีได้แต่ขำ
ส่วนที่คอสเห็นในตอนที่เปิดประตูห้องพักด้านหลังก็คือ บาลีกำลังส่งยิ้มให้ใครบางคนที่อาจนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเล็กในร้านและใครอีกคนที่อยู่ใกล้ ๆ
ยิ้มนั้นยังค้างอยู่เมื่อคอสเดินเข้ามาหา
“พี่ยิ้มกับใคร”
“ยิ้มเพราะคิดถึงเรื่องอะไรที่มันตลก ๆ ขึ้นมา แล้วเราน่ะ เสร็จเรื่องแล้วใช่ไหม”
“ฮะ”
บาลีปิดไฟในร้าน เหลือเพียงไฟที่ด้านหน้าร้าน ขณะที่คอสเดินไปรอที่ริมถนน จนกระทั่งบาลีถอยรถคันเล็กออกมา ถึงได้เปิดประตูรถเข้าไปนั่ง
“พี่คิดเรื่องอะไร”
“คิดว่า หนังสือเล่มไหนกัน ที่มีราคาหลายล้าน”
“อ้าว พี่ไม่รู้เหรอ”
“ไม่หรอก พี่เป็นแค่คนเก็บหนังสือไว้ให้เจ้าของเขามารับไป ก็เก็บรักษาเหมือน ๆ กัน ถ้ารู้ว่ามีเล่มที่ราคาหลายล้านขนาดนั้นจะได้เก็บใส่ตู้นิรภัยใส่ธนาคาร”
คอสพยักหน้าอือออ “เออ ก็จริงเนอะ แล้วตอนที่คนนั้นเขามาขอซื้อหนังสือพี่น่ะ เขาไม่ได้บอกชื่อหนังสือหรือไง"
บาลีตอบด้วยสีหน้านิ่ง "ไม่ได้บอก"
"ห๊ะ คอสม่ายข้าวจายเจงเจง"
บาลีถึงกับหลุดขำ พยายามอธิบายให้คอส คนที่มองไม่เห็นวิญญาณในร้านเข้าใจง่าย ๆ "เวลาที่มีคนเดินเข้ามาที่ร้าน จะมีสัญลักษณ์บางอย่างที่บอกว่าเขาต้องการอะไร คนที่ต้องการแม็กกาซีนสักเล่ม หรือเข้ามาอ่านหนังสือฆ่าเวลา"
คอสพยักหน้าเข้าใจ เป้าหมายของลูกค้าแต่ละคนดูไม่ยาก แล้วบาลีก็ไม่เคยหวงหนังสือ ลูกค้าจะเข้ามายืนอ่านหรือต่อให้นั่งพื้นอ่านนิยายก็ไม่เคยว่าสักคำ หรือคอสเองที่ขายสร้อยก็รู้เหมือนกัน ว่าลูกค้าแค่มายืนมองหรือว่าอยากซื้อสร้อย
"แล้วพี่รู้ได้ไงว่าเขาอยากได้หนังสือเก่า"
"เขาจะถามว่ามีหนังสือเล่มนี้ไหม"
"นั่นไง เขาก็ต้องบอกชื่อหนังสือ" คอสรีบชี้ แต่บาลีส่ายหน้า
"แต่คนนี้ เขาแค่เข้ามาแล้วหยุดยืนมองไปรอบ ๆ ร้าน ยังไม่ทันพูด พี่ก็บอกได้เลยว่า ที่นี่ไม่มีของที่เขาต้องการ"
"ห๊ะ" คอส ทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ "ไล่กันตั้งแต่หน้าร้านเลยเหรอ"
"ไม่ได้ไล่ แค่ไม่อยากให้เสียเวลา"
ข้อเท็จจริงก็คือ เวลาที่พัฒนะมาที่ร้าน เขาจะหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูวางท่ายิ่งใหญ่ เมื่อบาลีมองไปที่ชั้นลอย ปู่ไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่ในบางครั้งปู่ที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวโปรดกำลังนั่งด่าพัฒนะทั้งที่พัฒนะไม่ได้ยินก็มี
ตรงข้ามกับเจ้าของหนังสือตัวจริง 9 ใน 10 คนจะเดินเข้ามาหาบาลี ท่าทางเกรงใจ เพราะไม่แน่ใจว่าร้านนี้มีหนังสือหรือไม่
และทั้งหมดคือคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านนี้เป็นครั้งแรก
ใช่....
เพียงแค่คน ๆ นั้นก้าวเข้ามายืนอยู่ที่หน้าประตูร้าน บรรยากาศรอบตัวจะเปลี่ยนไป ไม่ต้องบอกชื่อหนังสือ บาลีก็จะพาเจ้าของหนังสือขึ้นไปที่ชั้นลอย แล้วหยิบหนังสือให้ เพียงแต่โดยมารยาท หลาย ๆ คนจะบอกชื่อหนังสือที่ต้องการ บาลีก็เพียงยิ้มรับ
แล้วพอมาเจอกับท่าทางยิ่งใหญ่ของพัฒนะ ภาษากายที่บอกว่า กูยิ่งใหญ่กว่าใครทุกคน มุมประหลาดของบาลีก็จะแสดงตน
เราไม่จำเป็นต้องให้เกียรติคนที่ไม่เคยให้เกียรติคนอื่นนี่หว่า....
หอพักของคอสอยู่ไม่ห่างจากมหาวิทยาลัย ยังเห็นนักศึกษาหลายคนนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่ร้านค้าใกล้ ๆ
“เรากินกับเขาหรือเปล่า”
“วันนี้ไม่” พอบาลีหันมามองหน้า คอสรีบชี้ที่จมูกตัวเอง “หน้าผมเด็กดีเหมือนคนกินเหล้าไม่เป็นเหรอพี่”
บาลีลืมตัวบีบจมูกคนชอบย้อน จนร้องลั่นรถ
“พี่แมร่ง เจ็บว่ะ”
“ถามอะไรแล้วชอบย้อน”
“แล้วพี่ไม่โยกโย้งั้นแหละ”
“เดี๋ยวจะโดนอีก”
คอสแค่ปัดมือที่เงื้อเข้ามาหาจะบีบจมูกอีก “ผมไปละ”
“คอส”
“ฮะ”
“ตั้งใจสอบนะ ไม่ต้องไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่นนัก”
คอสเดินเข้าหอพักเจอกับกลุ่มนักศึกษาที่เพิ่งกลับเข้าหอเหมือนกัน หนึ่งในนั้นส่งยิ้มแซว
“ไงคอส วันนี้สามีมาส่งเหรอจ๊ะ”
คอสแค่หันมามองหน้าคนถามแต่ไม่ได้ตอบ
“ใครวะคอส” คนตัวใหญ่มาดเซอร์เป็นคนถาม
“เจ้าของร้านที่กูไปขายของ”
“อ้าว แล้วทำไมเขามาส่งมึง”
“ไม่รู้ ไม่ได้ถาม มาก็ดีประหยัดตังค์ค่ารถ”
ทุกคนในกลุ่มนักแซวพากันส่งเสียงโห่ “จนตายห่าละมึงน่ะ”
“จนดิสัด กูกำลังจะบังคับให้พวกมึงเหมาสร้อยกูอยู่เนี่ย มึงช่วย ๆ ซื้อกันหน่อยดิวะ”
คนอื่น ๆ พากันโวยวายเว้นแต่คนตัวใหญ่มาดเซอร์ท่าทางเป็นหัวหน้ากลุ่มที่พยักหน้ารับจะซื้อของ
คอสเอียงหน้าถาม “มึงจะเอาไปทำไมนักหนาวะไอ้เป้ง มึงซื้อสร้อยกูไปกี่เส้นแล้วเนี่ย”
เป้งเอาลิ้นดุนแก้ม “แล้วตกลงมึงจะขายหรือไม่ขายวะเนี่ย ไอ้หน้าขาว”
“สัด เรียกกูหน้าขาวเลิกคุยกับมึงเลยเหอะ”
“โอ๋ ๆ ไม่เรียกไอ้หน้าขาวก็ได้ ไอ้คุณคอสครับตกลงคุณจะขายหรือไม่ขายวะเนี่ย”
“ไว้ก่อนละกัน วันก่อนกูเพิ่งไปซื้อของมาใหม่ ถักเสร็จกูเอามาให้มึงดีกว่า” คอสยักคิ้ว แล้วเดินขึ้นบันไดหอพักขึ้นไปที่ชั้นบนสุด
ห้องพักกว้าง สะอาดตา แบ่งพื้นที่ใช้สอยชัดเจน
ภาพดรออิ้งหญิงสาวผมมัดมวยสูง สีหน้าไว้ตัว ใส่กรอบไม้แบบที่ทำเองวางอยู่บนตู้เสื้อผ้า
ก้อยยังคงมองหามะตูมไปทั่วอาคารคณะออกแบบนิเทศศิลป์ทุกครั้งที่เดินผ่าน คอสเห็นสายตา และท่าทางที่มองจนเหลียวหลังแบบนั้นตลอดเวลา
เพราะคอสคือคนที่เฝ้ามองก้อยอยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน
แต่ในวันหนึ่งคอสก็รู้สึกว่า การเฝ้ามองก้อยตลอดเวลามันก็เป็นแค่ความเคยชิน ในใจไม่หลงเหลือความรู้สึกอยากให้ก้อยหันมามองสักครั้ง ไม่เหลือแม้แต่ความรู้สึกอยากเดินเข้าไปบอกว่า วันนี้มะตูมอาจมีเรียนบ่าย หรือทำงานส่งอาจารย์ หรือกินข้าวเที่ยงยังไม่เสร็จ
มันกลายเป็นมองเพราะอยากรู้ว่าวันนี้ก้อยจะยังคงมองหามะตูมอยู่อีกหรือเปล่า
คอสได้แต่ส่ายหน้าให้กับตัวเอง หลงรักเขาได้ง่าย ๆ พอจะหมดรักมันก็หมดรักได้ง่ายพอกัน
เจี๊ยบเพื่อนสาวแสนห้าวกระทุ้งข้อศอกทัก "เฮ้ย เป็นไร ทำข้อสอบจนเพี้ยนหรือไงนั่งยิ้มคนเดียว"
"เหรอ ผมยิ้มคนเดียวจิงดิ" คอสย้อนให้ทำหน้ายิ้ม ๆ
"เนี่ย ๆ" เจี๊ยบทำโวยวาย “แกมีไร บอกมาเลย"
"จะมีไร หยากไย่ ใยแมงมุมที่ไหนเล่า ผมแค่คิดถึงเรื่องตลก ๆ ขึ้นมาก็ยิ้ม"
ไอ้เทียมเพื่อนรักหันมาช่วยเสริม “กูเคยนั่งอยู่ในรถเมล์ แล้วนึกถึงตลกที่ดูเมื่อคืนหลุดหัวเราะออกมา คนอยู่ข้าง ๆ กูแมร่งตกใจ”
“เออ กูก็เคย” เพื่อนร่วมคณะคนอื่นๆ หันมาร่วมแชร์ประสบการณ์ที่อยู่ดี ๆ ก็หัวเราะขึ้นมาเพราะนึกถึงเรื่องตลกขึ้นมาได้ เสียงหัวเราะลั่นหน้าห้องระหว่างรอเข้าไปสอบจนอาจารย์ต้องเตือน
"พวกนี้แทนที่จะทวนข้อสอบ กลับมานั่งเล่าเรื่องตลก"
จนกระทั่งสอบเสร็จคอสเดินออกมาจากห้องสอบเจอกับก้อย ส่งยิ้มทักไปเหมือนเคย
"ไม่เคยเห็นคอสใส่สร้อยที่เราให้เลย"
คอสพลิกดูข้อมือตัวเอง ทั้งที่ไม่เคยใส่สร้อยเส้นนั้นเลยสักครั้ง
"เออก้อย แก้วที่ก้อยถักสร้อยน่ะ ก้อยเป่าเองหรือซื้อที่ไหนเราไปหาซื้อที่ร้าน มันไม่มี"
ก้อยพยักหน้า "เป่าเองสิ"
"เราก็คิดอยู่เหมือนกันว่าน่าจะเป่าเอง เพราะหาซื้อไม่มี"
กำลังคุยกัน เจี๊ยบก็แทรกเข้ามาตรงกลาง "ก้อยชวนคอสหรือยัง"
ก้อยส่ายหน้า ทำให้เจี๊ยบหน้าเหรอหรา เพราะเป็นที่รู้กันว่า ก้อยเป็นสาวติสต์ที่ค่อนข้างหยิ่ง ไม่ค่อยชอบทำตัวใกล้ชิดกับใคร
"มีอะไรเหรอ"
"เดือนหน้าวันเกิดพี่สาวเรา จะถามว่าจะมีใครไปกันบ้าง เพราะต้องดูเรื่องจำนวนคน พี่สาวเราเพื่อนเยอะ"
คอสคิดแล้วส่ายหน้า "ไม่ใช่วันเกิดก้อยนี่"
เจี๊ยบหันมาดึงข้อศอกคอส อ้อนให้ไปด้วยกัน "คอสไปด้วยกันดิ ไปด้วยกันเยอะ ๆ"
คอสส่ายหน้าเร็ว ๆ "หึ ไม่อ่ะ วันเกิดพี่สาวก้อย ไว้วันเกิดก้อยดิ ค่อยไป"
ก้อยเหยียดปาก "วันเกิดเรา ไปเลี้ยงที่ร้านดีกว่า"
"เออ ปีก่อนก็ไปที่ร้าน" เจี๊ยบสนับสนุน "ดีออก สนุกเต็มที่ไม่ต้องกลัวสายตาแม่"
เดินออกจากคณะเห็นก้อยทักทายกับนักศึกษาการตลาด ได้ยินว่าชวนกันไปงานวันเกิดพี่สาวที่บ้านในเดือนหน้า
โดยไม่มีเหตุและผล คอสรู้สึกเหมือนก้อยเป็นคนแปลกหน้า มีคำถามมากมายเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ และคำถามมากมายเกี่ยวกับตัวเอง
สอบเสร็จ คอสกลับเข้าห้องพัก สายตามองผ่านภาพวาดที่บนตู้ แล้วเบนสายตากลับไปอีกครั้ง เดินเข้าไปใกล้
มือสวยแบบศิลปินคว่ำรูปลงแล้วเปลี่ยนใจ หยิบรูปออกมาห่อหนังสือพิมพ์ ถือออกไปหย่อนลงที่ช่องทางทิ้งขยะ แล้วกลับเข้ามาในห้องพัก
=========จบตอนที่ 14========

ลายสักชนเผ่าของคอสเป็นแบบนี้นะครับ แต่นายแบบคนนี้ไม่ได้เจาะ ตอนที่แล้วหายไปด้วยเหตุผลหลายประการจนไม่รู้จะบรรยายเรื่องไหนก่อน (ทั้งหมดเกิดจากตา่แก่เจ้าเล่ห์ ล้วนๆ)
กะว่าจะพาลวันนี้ต่ออีกวัน แต่บังเิิอิญว่าข้าวต้มปลามันอร่อยมาก
คิดถึงเพราะจะหาสปอล์ยอะดิ ไม่บอกหรอก เพราะเวลาอ่านที่พี่ๆทายกันแล้วมันสนุึกมาก แต่ขอชี้แจงกันก่อนนะ คนที่กดเป็ดกดบวกขึ้นมั่งไม่้ขึ้นมั่งเนี่ยชื่อนายที ไม่ใช่หมาแก่มือหมึกบ้าพลัง แต่ของคุณ Plane ทีไปเรียกผมมากดเป็ด <<<ป๋าลอกมุกอ่ะ (โปรดสังเกตุว่าชื่อเรียกเปลี่ยนไปเพราะอิ่มแล้ว 5555)
วันพุธผมมาอีกครั้งเพราะตาคนนั้นไม่อยู่ เขาไม่ใช่ครูหรือพี่เลี้ยงเด็กอนุบาลนะัครับ ใครให้ตาคนนี้เลี้ยงลูกก็บ้าแล้วววววว วันๆพูดแค่คำว่า อ่านหนังสือหรือยัง ทำการบ้านเสร็จหรือยัง
นายทีรักทุกคน (ยกเว้นยีราฟขี้บ่นชอบสั่ง)
ตอบๆๆๆ ใช่แล้ววันนี้วันหยุดแต่มีคนไปปลุกมาอัพเรื่อง ทั้งที่เขาก็นั่งหัวเราะอยู่แถวนี้แหละขำไรไม่รุ อย่าเรียกผมว่าคุณทีมันจั๊กกะจี้