^^
ตอนที่ 29เพราะบาลีกับฟองไม่ใช่เจ้าหน้าที่เมื่อกลับไปที่บ้านอีกครั้ง จึงได้แต่ยืนอยู่ที่บริเวณสนามหญ้า ไม่ได้เข้าไปที่โรงฝึกงานและไม่ได้เข้าไปในบ้านที่กำลังรวบรวมหลักฐานจากห้องนอนของก้อย และ ห้องนอนของพัฒนะ
ประกายเสร็จจากการให้ปากคำเบื้องต้นก็เดินมานั่งที่ศาลา
ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวดูเปลี่ยนไปเมื่อเห็นบาลีกับฟอง
“คุณพัฒนะไปดักแพทที่ร้านคุณหรือ”
“ครับ แพทมากับหมอก แต่พัฒนะเรียกแพทออกมาคุย ผมเห็นท่าทางไม่ค่อยดีก็เลยตามมา”
ประกายหันไปมองที่โรงฝึกงาน “คนพูดกันมากว่าคุณพัฒนะมีอะไรกับน้องชายของตัวเอง ก้อยก็ไม่เคยชอบมัน ตอนที่ชั้นรู้ว่าคุณมีหนังสือเก่าก็ให้คุณพัฒนะไปหาคุณตั้งหลายครั้งแต่ไม่เห็นได้เรื่องได้ราว จนชั้นรู้ว่าคุณชอบผู้ชายก็เลยให้แพทไป คุณพัฒนะไม่เคยเห็นด้วย ชั้นระแวงก็จริง แต่ชั้นอยากได้หนังสือในร้านคุณมากกว่า ยังไงคุณพัฒนะก็ยังอยู่ในสายตา ผลักนังแพทไปให้ไกลมันอยากไปไหนก็เรื่องของมัน แต่ไปๆ มาๆ ทำไมมันถึงได้กลายเป็นคุณพัฒนะกับก้อยที่ทำเรื่องแบบนี้”
“คุณพัฒนะเป่าแก้วเป็นมั้ยครับ” บาลีถาม
ประกายขมวดคิ้ว “ไม่หรอก คนที่ทำเป็นน่ะก้อย”
“ทำที่นี่หรือครับ”
“ไม่รู้เหมือนกัน ที่นี่หรือที่มหาลัย ชั้นไม่ได้สนใจหรอก แต่ในห้องนอนเค้ามีของที่เค้าทำเองพวกนี้” ประกายบอกแล้วหันมาหาบาลี “ถ้าจะดู คงต้องรอหลังตำรวจ จะเอาอะไรก็เอาไปเถอะของไม่มีราคาพวกนั้น แต่เสร็จเรื่องชั้นคงต้องขายทั้งบ้านทั้งของที่มีอยู่ทั้งหมดนี่แหละ”
ประกายไม่เคยสนใจใคร หรือสิ่งใดมากไปกว่าผลประโยชน์ของตัวเองอย่างที่ก้องเกียรติเคยพูดไว้จริงๆ
บาลีกอดอกมองโรงฝึกงาน ไล่สายตาเรื่อยไปที่รั้วด้านหลังเหมือนจะมองให้ทะลุ
เมื่อเดินเข้าร้านไปพร้อมกับฟอง แตงโมกับคอสรีบเดินมาหา แต่บาลีคว้าข้อมือคอสเดินเข้าไปที่ห้องด้านใน ฟองกับแตงโมเดินตามมาด้วย แน่นอนว่าปู่กับเป็นหนึ่งก็มาเหมือนกัน
“มีไรฮะ” คอสหน้าตาตื่น
บาลีจับไหล่คอสให้หมุนตัวยืนหันหลังให้ “อยู่เฉยๆ”
มือใหญ่หยิบสร้อยถักจากกระเป๋า ยกส่วนที่เป็นสายถักขึ้นเทียบกับเส้นผมของคอส
นอกจากเชือกที่ใช้ถักสร้อยแล้ว ยังมีเส้นผมปนอยู่ด้วย บาลีเทียบทั้งสีและลักษณะของเส้นผมของคอส แล้วเลื่อนไปเทียบกับเส้นผมของเป็นหนึ่งที่อยู่ข้างๆ แม้จะไม่ค่อยชัดเจนเพราะเป็นร่างที่โปรงใส แต่ภาพที่เห็นทำให้ ริมฝีปากหนาเม้มสนิท ดวงตาสีเข้มเหมือนยิ่งเข้มกว่าเดิม
ส่วนอีก 2 คนแม้จะเห็นเพียงการเปรียบเทียบกับผมของคอส แต่ฟองก็ยังต้องขมวดคิ้วแน่น ขณะที่แตงโมยกมือปิดปาก
คอสได้แต่เหลือบตามองมือที่ถือสร้อยถักไว้อยู่ข้างหู
ส่วนเป็นหนึ่งมองสร้อยในมือบาลีแล้วมองคอส ด้วยความเป็นห่วง
ก้อยผูกคอสกับเป็นหนึ่งไว้ที่สร้อยเส้นนี้แบบนี้เอง!
“มีอะไรฮะ”
ก่อนที่คอสจะหันกลับมาหา บาลีกอดรวบไว้แน่น แนบคางลงข้างแก้ม ขณะที่เป็นหนึ่งยืนอยู่ข้างๆ มือขาวใสยกขึ้นลูบผมยาวสีอ่อน
บาลีหลับตา “คอส”
“ฮะ”
“คืนนี้...อยู่กับพี่ก่อนนะ”
คอสได้แต่พยักหน้า “อยู่ก็ได้ แต่พรุ่งนี้ผมมีเรียนตั้งแต่ 8 โมงผมต้องกลับหอไปเปลี่ยนเครื่องแบบแต่เช้านะฮะ”
บาลีคลายอ้อมกอด “ไปเอาตอนนี้เลยก็ได้ ฟองกับแตงโมยังอยู่”
แตงโมแค่พยักหน้ารับทราบ แต่ฟองบอกทันที “ตามสบาย ไม่ต้องรีบ”
ฟองออกไปเปิดประตูโรงรถให้บาลี แต่พอเดินเข้ามาแตงโมก็ถามทันที
เมื่อเรื่องราวเบื้องต้นจบลง แตงโมถึงกับยกมือแตะอก
“ก้อยเหรอ นังคนที่บอกว่าคอสชอบเค้า แต่เค้าไปชอบเป็นหนึ่งน่ะเหรอ แล้วยังพัฒนะอีก มันอะไรกันเนี่ย”
ฟองนั่งอยู่ที่เก้าอี้ทำงานของบาลี ยกมือทุบไหล่ของตัวเอง แตงโมเดินเข้ามานวดให้
ชายหนุ่มขยับตัวนั่งหลังตรง “มัวแต่วุ่นวายว่ามันเอาเป็นหนึ่งไปซ่อนไว้ที่ไหน พอเดินเข้าร้านเห็นคอส ผมถึงได้เพิ่งนึกได้”
“แต่บาลีคงนึกออกนานแล้ว ถึงได้กันคอสไว้ขนาดนี้”
ฟองหันมามองหน้าคนรัก “รู้ด้วย”
“รู้สิ เด็กคนนี้อยู่ในตำแหน่งพิเศษมาตลอด เคยทักเคยถามแต่เพื่อนคุณก็ทำเป็นไม่ได้ยิน”
แตงโมทำหน้าตายุ่งๆ แล้วถามฟองอีกครั้ง “เส้นผมที่อยู่กับเชือกนั่นเป็นของคอส แล้วแก้วคือเป็นหนึ่งเหรอ”
“แก้วน่ะไม่รู้ว่าใคร ส่วนเส้นผมที่เชือกดูจาก....” ฟองหันมามองหน้าคนรัก “คือดูจากวิธีการเคลื่อนไหวของมือบาลี กับสีหน้ามัน ผมว่า....”
แตงโมหันไปมองรอบๆ ร้านแล้วขยับเข้ามากอดแขนฟองไว้ “เล่ามาเร็วๆ อย่าทิ้งช่วงนาน”
“ผมว่า บาลีอาจเทียบกับผมของคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ คอสแล้วมันก็มีของคนนั้นด้วยเหมือนกัน”
สาวร่าเริงกะพริบตางงๆ แล้วหรี่ตาลง กำมือแน่น “ชั้นว่า ชั้นกำลังจะกลัวผี แต่ตอนนี้ชั้นกำลังเกลียดคนที่ทำอย่างนี้กับคอสและเป็นหนึ่งมากกว่า”
“ถ้าแตงโมรู้ว่าเขาทำเพราะอะไร จะยิ่งเกลียดกว่าเดิม”
“เพราะ...” แตงโมทำเสียงเป็นเครื่องหมายคำถาม
“แค่อยากรู้ว่า ผู้ชายผิวขาวมีเลือดมั้ย”
“อะไรนะ มันบ้าไปแล้ว!”
ฟองทำสีหน้าเหมือนจะบอกว่า นึกแล้วเชียว “ผมก็ว่างั้น แต่หมอกมันบอกว่า ไม่น่าจะแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว เพราะคาดว่าจะมีหลายศพ ดังนั้นมันก็ต้องมีหลายสาเหตุ”
“จะกี่สาเหตุก็สรุปได้ว่ามันบ้า!”
บาลีขับรถตรงไปที่หอพักของคอส แต่พอคอสก้าวลงจากรถบาลีก็ก้าวตามมาด้วย หนุ่มผมยาวระคอแค่หันมามองเห็นขายาวก้าวตามมาก็เดินนำไปที่หอพัก กดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นบนสุด
พอถึงห้องพักคอสก็เสียบการ์ด แล้วเดินนำเข้าไปหยิบเครื่องแบบ หันมาอีกทีบาลีก้าวออกไปที่ระเบียง คิ้วเข้มขมวดมองที่เขี่ยบุหรี่ที่วางอยู่กับพื้น แล้วมองออกไปข้างนอก
เป็นหนึ่งเหลียวมองไปรอบห้องแล้วเดินไปหาบาลี ส่ายหน้า
“ไม่เคยมาหรือ”
เป็นหนึ่งพยายามคิดแล้วส่ายหน้าอีกครั้ง
จนกระทั่งกลับมาถึงร้าน ฟองกับแตงโมถึงได้กลับบ้านพร้อมกับอาหารที่หมอกสั่งมาตั้งแต่เที่ยง ขณะที่คอสเอาของขึ้นไปเก็บบนห้อง บาลีก็แยกปิดร้าน
“.....เป็นไงบ้าง....”
“วนกลับไปที่สร้อย ผมไม่รู้ว่าก้อยผูกคอสกับเป็นหนึ่งยังไง”
ปู่หันไปหาเป็นหนึ่ง “....ได้ไปดูที่ห้องแล้วหรือยัง....”
บาลีพยักหน้า “ดูคร่าวๆ เพราะว่าตำรวจเขาต้องเก็บหลักฐาน อาจไปดูพรุ่งนี้อีกครั้ง ก่อนที่ประกายจะขายบ้าน”
“....เด็กสาวเล่นของหรือเนี่ย คิดว่าพัฒนะ....”
บาลีหันไปมองคอสที่เปิดประตูร้านเข้ามา “พี่กินไร ผมเดินไปซื้อให้”
“ไปกินที่ร้านก็ได้”
“พี่ไม่เหนื่อยเหรอ ผมไปซื้อมากินข้างบนก็ได้ เอาเบียร์ป่ะ เห็นมีอยู่ 2 กระป๋องเอง”
บาลีหยิบเงินส่งให้ “อยากกินอะไรก็ซื้อมา”
พักใหญ่ๆ คอสถึงได้กลับมาพร้อมกับถุงอาหารและเครื่องดื่มเต็ม 2 มือ จัดใส่จานวางที่โต๊ะ
บาลีอาบน้ำเสร็จแล้ว ใส่แต่กางเกงขาวยาวตัวเดียวเหมือนทุกที บอกให้คอสไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าว
บาลีมองตามหลังคอสจนลับขึ้นไปชั้นบน ถึงได้กดนิ้วที่หน้าผาก เป็นหนึ่งยืนอยู่ใกล้ท่าทางเป็นกังวล
“พี่รู้ ว่าถ้าพี่พลาดมันอาจหมายถึงชีวิตของคอส”
ปู่ที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ริมหน้าต่างเตือน “...ไม่ได้มีแต่แกที่มองพลาดหรอก ปู่ก็พลาดเหมือนกัน”
“คอสพูดหลายครั้งว่าสร้อยเส้นนี้ก้อยให้มา แต่ผมไม่เชื่อว่าผู้หญิงจะเป็นคนผูกเป็นหนึ่งไว้กับคอส คิดมาตลอดว่าต้องเป็นพัฒนะ ระแวงไปด้วยซ้ำว่าอาจเป็นแพท ถึงได้โยนแพทให้หมอก เพราะแพทอยู่ติดกับผมอยู่ตลอดเวลา เกิดผมคุมตัวเองไม่ได้ เผาแพทซะก่อนที่จะพบว่ามันเอาเป็นหนึ่งไปซ่อนไว้ที่ไหน เรื่องมันจะยิ่งไปกันใหญ่” บาลีทุบหน้าผากตัวเอง ขณะที่ทิ้งตัวลงที่เก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าว
“ทั้งหมดเพราะผมเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป”
เสียงเปิดประตูห้องนอน คอสก้าวลงมาขณะที่เหลียวมองไปรอบๆ “พี่คุยกับใคร”
บาลีเงยหน้าขึ้นมอง ขณะที่ยื่นมือออกไปหา คอสเดินมานั่งที่เก้าอี้อีกตัวยื่นมือมาให้จับ
“แล้วตกลงวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นฮะ”
“พัฒนะพยายามฆ่าแพท”
“พยายามฆ่าเลยหรือฮะ ทำไมล่ะ”
“หึงหวงน่ะ แต่ตอนนี้แพทปลอดภัยแล้ว หมอกดูแลอยู่”
คอสทำท่าคิด “คนที่ชื่อพัฒนะเนี่ยเขามีเมียแล้วไม่ใช่หรือฮะ”
บาลีพยักหน้า แต่พอจะลุกไปตักข้าวคอสก็รีบลุกขึ้นจัดแจงทุกอย่างเรียบร้อย
บาลีเพียงแค่แตะที่ขอบจานอาหาร แล้วเรียกปู่กับเป็นหนึ่งกินข้าวพร้อมกัน
ทั้งคู่ยิ้มรับแล้วชี้บอกว่าจะลงไปที่ร้าน พอกินข้าวเสร็จบาลีเดินไปเปิดโทรทัศน์ คอสล้างจานเสร็จก็เปิดเบียร์มายื่นให้
“ปกติพี่กินเบียร์ทีละกี่กระป๋อง”
“ปกติไม่กิน”
“อ้าวววว งั้นเอาคืนมาเลย” คอสจะแย่งกระป่องเบียร์คืนแต่บาลียกหนี “เฮ้ย นักเรียนจะสี่ทุ่มแล้ว ไปนอนได้แล้ว”
คอสทำท่าแคะหู “ใหม่ดิ๊ ใครนักเรียน”
บาลีหันมาเอานิ้วจิ้มหน้าผาก “ไปนอน ไอ้ตัวป่วน”
คอสทำปากยื่น “ผมนอนเกือบเที่ยงคืน”
แต่พอบาลีเลิกทะเลาะด้วยการหันไปดูรายการโทรทัศน์ต่อ คอสก็ลุกขึ้น “ไปนอนละ”
บาลีจิบเบียร์อึกใหญ่ “กินเบียร์มั้ย”
ร่างโปร่งใสที่นั่งอยู่ข้างกันมาตั้งแต่บาลีเปิดโทรทัศน์ หันมาส่ายหน้า ทั้งชี้บอกให้ปิดโทรทัศน์แล้วขึ้นนอน
“รอโทรศัพท์หมอกก่อน”
เป็นหนึ่งพยักหน้า แต่ในอีกไม่ถึง 10 นาทีหมอกก็โทรมา บอกว่าแพทฟื้นแล้ว เบื้องต้นให้ดูรูปเป็นหนึ่ง กับหนุ่มนักศึกษาที่บาลีกับหมอกไปดูที่นิติเวช แต่แพทบอกว่าไม่เคยเห็น แต่พรุ่งนี้จะเอาไปสอบถามคนที่บ้านประกาย
บาลีกดวางโทรศัพท์ถอนหายใจยาว ขณะที่เป็นหนึ่งยิ้มอ่อน แตะหลังมือเหมือนจะคว้าจับ
“คร๊าบบบ จะขึ้นนอนเดี๋ยวนี้แล้วคร๊าบบบ”
มีเสียงหัวเราะแผ่วๆ เป็นคำบอกว่าพอใจจากร่างโปร่งใสใบหน้าหวาน
เมื่อออกมาจากห้องน้ำ เป็นหนึ่งที่มักจะยืนคอยที่หน้าห้องน้ำกลับยืนมองคอสที่นอนหันหลังให้ พอบาลีเดินเข้ามาใกล้ก็หันมายิ้มให้แล้วจางหายไป
พอปิดไฟแล้วลงนอน คอสก็ลืมตาขึ้นมามองพี่แล้วก็หลับต่อ
แต่พี่เสียอีกที่กลายเป็นคนที่มีอาการตาค้าง
......ทำไมต้องเป็นก้อย....ทำไมถึงรักคนแบบนั้น....
.....ทำไมถึงผูกคอสกับเป็นหนึ่งไว้ด้วยกัน แล้วหยดเลือดในแก้วนั่นมันเป็นของใคร.....
คอสสะดุ้งเมื่อแขนขวาสอดเข้าใต้คอรัดรอบอก ขณะที่แขนซ้ายโอบรัดรอบเอวบาง
“พะ พี่ ปล่อยผม!” ทั้งร้อง ทั้งพยายามดิ้นหนี
“คอส” บาลีก้มกดริมฝีปากที่ไหล่
“ปล่อย!”
“ไม่ปล่อย...คอส...ไม่รักก้อยได้มั้ย” กดจูบเม้มผิวลื่นแล้วลากปลายลิ้นจูบไซ้ที่ลำคอขาว สูดดมกลิ่นหอมให้เต็มปอด
สัมผัสหวานทำร่างผอมบางถึงกับขนลุก แต่ยังกลั้นใจถาม “ทำไม”
ริมฝีปากหนาจูบไซ้ไหล่และซอกคอ “คนแบบนั้นไม่มีค่าสำหรับความรักหรอก”
คำพูดจดจ่อลำคอเรื่อยมาถึงใบหู เป่าลมจนใจสั่นแล้วขบเบาๆ
“กะ ก้อย...ก็แค่ไม่ค่อยยิ้ม...มะ ไม่มีใคร ไม่มีค่าสำหรับความรักหรอกฮะ...”
บาลีพลิกตัวขึ้นคร่อม กดข้อมือขาวไว้แน่นกับที่นอน ขณะที่เลื่อนมืออีกข้างไล้ข้างแก้ม ลงน้ำหนักที่มือเพิ่มขึ้นจนถึงลำคอขาว กางมือกำรอบ
คอสลืมตาโพลงสบตาสีเข้มแล้วหลับตาลง รู้สึกถึงแรงกดที่ลำคอ ขณะที่หัวใจยิ่งเต้นแรง
...ไม่คิดว่าพี่จะทำร้าย มันเป็นความเชื่อใจแบบแปลกๆ
คิดแต่ว่า...ยังไงก็ได้ แล้วแต่พี่จะเห็นสมควร จะทำอะไร จะพาไปไหน ก็แล้วแต่พี่...
“ไม่รักก้อย รักแต่พี่คนเดียวได้มั้ย”
คอสลืมตาขึ้นทันที “มะ...” คำพูดจมหายกลับไปในลำคอเมื่อริมฝีปากหนาบดจูบขยี้ ยิ่งเบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากยิ่งบดแรง ซ้ำด้วยการขบริมฝีปาก พอแรงกดที่คอคลายออกคอสต้องอ้าปากหอบหายใจ แต่ริมฝีปากสวยตามประกบปิดส่งลิ้นร้อนที่เข้ามากวาดชิมได้ตามใจ
มือผอมข้างที่เป็นอิสระพยายามดันไหล่หนาออก คำถามมากมายวิ่งวุ่นปะทะกันอยู่ในสมอง
เชื่อว่าพี่จะไม่ทำร้ายน่ะใช่ แต่ทำไมถึงมีชื่อของก้อยในเวลาแบบนี้
พอพี่ละจูบแนบหน้าผากต่อหน้าผาก คอสถึงกับหอบหายใจแรง ทั้งเหนื่อยทั้งหวามไหวในเวลาเดียวกัน
“ห้ามคิดถึง ห้ามรัก”
“แต่ ผม ไม่..” คอสพยายามอธิบายทั้งยังหายใจหอบ
ฟันสวยงับริมฝีปากบางแล้วดูดแรง เจ็บจนน้ำตาร่วง
พี่เลื่อนกดจูบคลึงที่แก้ม แล้วกลับมาบดจูบที่ริมฝีปาก มือใหญ่รั้งเสื้อนอนขึ้นถึงราวอกแล้วแทรกสัมผัสอกบาง ร่างกายผอมบางสั่นไหว เบี่ยงหนี ภาพความสับสนค่อยเลือนหาย ความรู้สึกแปลกขยายตัวจากภายในช่องท้องน้อย
“คอส......” เสียงเรียกชื่อติดริมฝีปากแล้วจูบต่อ
มือใหญ่กอบอกบางสัมผัสยอดอกที่ปราศจากเครื่องประดับ คอสผวาเฮือก แก่นกายตื่นตัวรุ่มร้อน
“อ๊ะ...” เสียงอุทานเหมือนลืมตัว ตามมาด้วยเสียงสะอื้นแผ่วๆ
บาลีละริมฝีปาก จูบที่แก้ม
“พี่..ผม เปล่า..”
คำพูดยังคงถูกผลักกลับลงคอด้วยริมฝีปากหนาที่กลับมาประกบปิด เบียดปลายลิ้นม้วนดูด
เมื่อแรงต่อต้านขัดขืนอ่อนลงบาลีเลื่อนจูบแก้ม ขบที่ใบหูเบาๆ
เสียงสะอื้นเจือเสียงคราง
“รักพี่คนเดียวได้มั้ย”
“ฮะ”
ทั้งที่เสียงตอบรับดังอยู่ที่ข้างหู แต่บาลีกลับต้องยกตัว มองใบหน้าแดงเรื่อที่หลบตาวูบ
“พูดใหม่สิ ตอบว่าอะไรนะ”
คอสกัดปาก
มือใหญ่บีบบี้ที่ยอดอกบาง คอสคว้าข้อมือพี่ไว้แน่นร่างกายผอมบางสั่นไหว “อะ...พี่..”
“ตอบมาก่อน”
“ฮะ ผมตอบว่าฮะ ได้ยินหรือยัง ไอ้บ้า ไอ้ขี้เก๊ก” ยิ่งพูดคอสยิ่งก้มหน้างุด จนบาลีต้องดันคางให้เงยขึ้นมารับจูบ
คอสหลับตาแน่น ภาพในสมองเลือนหายรับรู้แต่เพียงปลายลิ้น กับริมฝีปาก และนิ้วมือที่ฟอนเฟ้นอก ทั่วทั้งร่างกายที่ถูกสัมผัสไร้เรี่ยวแรง ทุกส่วนของร่างกายคล้ายกลายเป็นจุดอ่อนไหว
อกบางผวาตามริมฝีปากที่ผละออกตอนที่พี่ถอดเสื้อนอนให้
บาลีจ้องมองดวงตาที่จดจ่ออยู่ที่ริมฝีปากพี่ พอรู้ตัวก็ช้อนตาขึ้นมองแล้วหลบไปทางอื่น
นิ้วมือใหญ่ลูบเรียวคิ้ว เช็ดน้ำตา เรื่อยลงมาหาแก้มที่ยังเปียก จูบแผ่วๆที่หว่างคิ้ว ไล่ตามแนวจมูกแล้วหยุดนิ่งที่ริมฝีปาก
ช่างกลิ่นหอม
ช่างการถูกควบคุม
พอกันทีกับการควบคุมตัวเอง!
“ไม่ให้ใครที่ไหนทั้งนั้น” คำสั่งติดอยู่ที่แก้มนิ่ม วนจูบไซ้ที่ซอกคอขาว เรื่อยลงมาหาอกบาง เมื่อปลายลิ้นเลียรอบปานนมคอสสูดปากจิกมือที่ไหล่กว้าง ยิ่งเมื่อพี่ดูดแรงคอสถึงกับยกอกตามแรง ส่งเสียงร้องคราง
มือใหญ่ลูบกล้ามเนื้อหน้าท้องแบนราบ กดคลึงเอวบางแล้วเกี่ยวขอบกางเกงนอนพ้นจากตัว แก่นกายตั้งชันท้าทายที่เจ้าตัวรีบยกมือปิด ทั้งเบี่ยงหนี
“ไม่ ไม่ ปล่อย ไม่เอา”
บาลีดึงมือออก ก้มลงจูบเม้มใต้สะดือ คอสร้องคราง ร่างกายผอมบางผวาขึ้นทั้งตัว มือใหญ่ช้อนกระชับที่ก้นกลมปลายลิ้นที่โลมเลียตลอดลำที่แข็งชัน เพียงแค่ครอบริมฝีปากลงก็รู้สึกถึงน้ำรสปร่าจากส่วนปลาย
คอสสูดปาก ขณะที่งอตัวดันไหล่ ดันหน้าของพี่ออก
“อะ ออก ก่อน แบบนี้ เสร็จก่อนแน่”
บาลียิ่งดูดแรงทั้งตวัดลิ้นเลีย ปลายนิ้วที่ด้านหลังแตะที่ปากทางคับแน่น
มือที่ดันไหล่พี่อยู่สั่นไหว คล้ายกำลังยึดเกาะเมื่อร่างกายสั่นสะท้านแล้วหลั่งเข้าสู่ปากพี่
บาลีหันไปขบเบาๆที่ขาอ่อนไร้เรี่ยวแรง กลับขึ้นมาหาท้องน้อย และอกบางที่หอบจนตัวโยน
คอสเพียงแค่ปรือตามอง แล้วหลับตา
“หมดกัน”
“ยังไม่หมด”
บาลีจูบย้ำที่ไหล่บาง ลำคอขาว
....ไม่ได้แค่หอม แต่คนๆนี้หวานไปทั้งตัว....
ร่างกายผอมบางถูกจับพลิกคว่ำ มือใหญ่อ้อมมาบีบที่ยอดอก จูบฟัดทั่วแผ่นหลังย้ำแล้วย้ำอีกลงมาถึงสะโพกกลม คอสเบี่ยงสะโพกหนี แต่โดนรั้งไว้
“ไม่เอา มันสกปรก”
ปลายลิ้นแตะที่ช่องทางด้านหลังมือใหญ่ลูบไล้ที่พวงแฝด แล้วรูดรั้งส่วนหน้า
ร่างกายผอมบางสั่นแรง จนต้องยกตัวขึ้นมาจูบปาก
“ไม่กลัวนะ พี่จะทำช้าๆ”
“แต่มันต้องเจ็บแน่ๆ เลยใช่มั้ย” คอสหมุนตัวกลับมานั่งหันหน้ามาหา
พี่ประคองใบหน้าสวยไว้ในมือกดจูบปากนุ่มสีแดงจัด เลื่อนจูบแผ่วที่มุมปากลงมาซุกไซ้ต้นคอขาว เม้มดูดยอดอกบางแข็งเป็นไต วนเวียนจูบสลับตวัดลิ้นเลียลงมาถึงหน้าท้องแบนราบ
คอสครางเหมือนใกล้ขาดใจ พี่ค่อยพลิกตัวคว่ำจูบวนอ้อมกลับมาหาแผ่นหลัง สัมผัสเย็นๆ มาพร้อมกับนิ้วมือที่แทรกที่จุดอ่อนไหวช้าๆ เสียงครางก็เปลี่ยนไป
“อ๊ะ เจ็บอ่ะ เจ็บ..”
ยิ่งเจ็บช่องทางก็ยิ่งรัดแน่นขัดขืน บาลีจูบเอวบางขณะที่ดันนิ้วมือเข้าไปจนสุดแล้วกดที่ผนัง
คอสกรีดร้องถีบตัวหนี แต่พี่รั้งไว้ทั้งกดย้ำจนเมื่อเสียงร้องห้ามกลายเป็นเสียงครางหวาน มือขาวทึ้งผ้าปูที่นอนไว้แน่น ดวงตาหวานฉ่ำหันมามองพี่ แต่ไม่กล้าดึงมือออก “พี่..มัน...มัน..”
บาลีกดย้ำแล้วเพิ่มนิ้ว กดย้ำที่จุดอ่อนไหว ร่างกายผอมบางบิดเร่าปลายนิ้วยิ่งเร่งเร้า คอสยิ่งเหมือนจะขาดใจจนทนแทบไม่ไหวต้องคว้าข้อมือพี่ไว้แน่น น้ำใสหยดจากส่วนปลาย
บาลีขยับตัวรั้งขอบกางเกงลง สวมให้ตัวเองบีบเจลลงที่ถุงแล้วค่อยกดเข้าหาช่องทางอ่อนไหว แม้จะเตรียมพร้อมแล้ว แต่ช่องทางยังคงบีบรัดแน่น การขยายกล้ามเนื้อบางๆ ทำให้คอสเจ็บจนร้องลั่นน้ำตาไหลพราก
บาลีหยุดสะโพกช้อนใบหน้านองน้ำตาให้หันมารับจูบ แต่พอผละออกคอสก็ก้มหน้าฝังเสียงร้องลงกับหมอน ร่างกายผอมบางสั่นแรง
แต่บาลีดันหน้าให้เงยขึ้น
“อย่าทำอย่างนั้น”
“แต่ผมเจ็บอ่ะ ”
“ไม่หรอก”
“อื้อ เจ็บ มัน จุกด้วย”
บาลีจูบปากดูดลิ้นแล้วเลื่อนลงมาจูบคอขาวกดคลึง เคลื่อนไหวช้าจนเมื่อได้ยินเสียงครางถึงกดสะโพกต่อจนสุดทาง เน้นย้ำที่จุดอ่อนไหว มือใหญ่ลูบไล้แล้วกอบกุมรูดรั้ง
ความคับแน่นทำให้บาลีต้องหยุดสะโพกลูบมือทั่วแผ่นหลังบาง ช่องทางยิ่งตอดรัดจนเสียวไปทั้งลำ ก้มลงจูบไหล่บางแล้วลากปลายลิ้นช้าๆ จากซ้ายไปขวา เสียงครางของคอสยิ่งถี่กระชั้น ขาเรียวสั่นระริก
บาลีปัดมือขาวที่จะรูดทำให้ตัวเองออก
“ยัง”
“แต่ผม จะไปแล้ว”
“ขอพี่ ให้พี่ทำให้”
คอสจิกมือพี่แน่น ขยับสะโพกเอง แต่บาลีรั้งไว้
“ขอพี่”
“พี่ พี่ ผมไม่ไหวแล้ว พี่...”
“เดี๋ยวนี้ คอส”
“ทะ ทำให้ผม”
บาลีกดจูบที่ไหล่ มือใหญ่ลูบไล้ทั่วแผ่นหลัง ลากมือที่เอววนกลับไปหาแก่นกายที่รุ่มร้อน บดสะโพกคลึง
คอสกรีดร้องเกร็งตัวเมื่อถึงจุดสูงสุด บาลีขยับสะโพกกดต่อสาวออกยาวแล้วกดนิ่ง ดึงออกช้าๆ แล้วค่อยวางคนที่ตัวนิ่มหมดแรงให้นอนลง
คอสปรือตามองคนที่นอนข้างๆแล้วหลับตาลง “ทำไมมันเหนื่อยขนาดเน๊”
“ทำอะไรมาเหนื่อย” บาลีแตะแก้มใส ท่าทางไม่ได้เหน็ดเหนื่อยสักนิดเดียว
“โดนตาแก่ไล่ฟัด”
บาลีรวบกอดบดจมูกที่แก้มนิ่ม จนคอสร้องโวยวาย
“โอ๊ย เจ็บก้นอ่ะ ไอ้พี่บ้า เจ็บอ่ะ”
“เจ็บอะไร เมื่อกี้เสียงใครคราง”
“ไม่รุ” คอสบอกก้มหน้างุดๆ อยู่กับอกกว้าง “ตาแก่บ้า”
========จบตอนที่ 29========
ศุกร์ 13 ฝันหวานใช่มั้ยครับ
ก้อยกับพัฒนะไม่ได้มีจุดจบตามกฏหมายแน่นอน 
ผมเองก็แปลกใจเหมือนกันที่เขียนตอนนี้แล้วเด็กไม่ตัดออก ทั้งบอกว่า "ช่างเหอะ แก้เครียด"
อีำกไม่ถึง 10 ตอนก็จบแล้วครับ ตอนต่อไปมาวันอาทิตย์นะครับ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ไจฟ์กับที