It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]  (อ่าน 601922 ครั้ง)

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
มาต่ออีกไวๆนะคะ เรื่องน่าติดตามมากมาย   :really2:

พี่ภูเริ่มรุกแล้ววววว แล้วเมื่อไหร่น้องยีนจะถอดแว่นถาวรล่ะเนี่ยยย   :call:

KanomPhing

  • บุคคลทั่วไป
หนูยีนยอมๆพี่ภูเถอะ

ออกจะน่ารักน่ากดขนาดนี้  ฮาาา

 o13 o13

ออฟไลน์ fox

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ว้ายยยยย น่ารักจังเลย
เค้าป้อนข้าวกันด้วยอ้ะ!! :-[

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
พี่ภูกวนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
แต่น้องเกงยีนส์ก็กวนใช่หยอกนะคะ  สูสีๆ  555555

ข้องใจเรื่องกราฟอยู่อ่ะ  มันมีอะไรว๊าา อยากได้ตอนพิเศษกราฟค่ะ ฮ่าา

เมื่อไรยีนส์จะเลิกเป็นเด็กเนิร์ดอ่าา  อยากได้ลุคหล่อใสแล้วววววว  :z3:

vi2212

  • บุคคลทั่วไป
เค้าจีบกัน..น่าหมั่นไส้ :laugh:

bryden

  • บุคคลทั่วไป
พี่ชมพูแม่งงงงงงงงงงงงงงง แน่วะ
อย่างนี้เขาเรียกจีบไปกวนตีนไป
ตบหัวแล้วลูบแก้ม
แหมะจะยอมเป็นเมียน้อง แผนสูงวะพี่
เพราะสุดท้ายน้องก็ไม่ยอมอยู่ดี
ก็เข้าทางพี่พู จะยอมดูและเธอเอง ><
เพื่อนๆนี่ชักยังไง
แลดูเป็นอกเป็นใจ
เอื้อดำนวยให้พี่พูซะทุกอย่างทุกทาง
รวมหัวรวมแผนเปิดใจกันแล้วใช่ป่ะ
แล้วเมื่อไรน้องยีนจะเห็นใจพี่พูบ้างน๊า
นี่ปรนนิบัติพัดวีสุดชีพเลยนะเนี่ย
ป้อนน้ำป้อนข้าวถึงปาก รับส่งที่
อรั๊ยๆ รอคอยน้องยีนอายพี่พู ><

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8

ออฟไลน์ SakataGintoki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :a5:
เฮียภูรุกหนักมากกกกกกอ่ะ
สรุปว่ายอมเป็นเมียกันเลยทีเดียว
ฮ่าๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ นิรนาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
พี่ภูเริ่มรุกหนักแ้ล้วววววว~

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ตอนที่ 11 : ใครกันแน่ที่อย่าเยอะ














เสียงอินโทรของซาวน์ดนตรีหนักๆ ดังมาจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนหัวเตียง เรียกให้ผมต้องสะลืมสะลือขึ้นมาอย่างงัวเงีย หันไปมองรอบห้องนอนที่มืดสนิทก่อนจะขยี้ตาแล้วคว้าหาต้นตอของเสียงร้องที่รบกวนการนอน แต่พอเห็นชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์ก็ทำให้ผมต้องพยายามหรี่ตามากขึ้น

“มีอะไรวะ กราฟ”

ผมขยี้หัวตัวเองให้ผมที่ยุ่งอยู่แล้วยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่พลางหาวไปด้วย

[มึงนอนอยู่เหรอ]

“เออดิ มึงแหกตาดูสิว่ากี่โมงแล้ว”

ผมไม่ได้พูดผิดนะ เพราะบนหน้าจอโทรศัพท์ของผมบอกเวลาไว้ว่าเกือบตีสามแล้ว แม่งจะโทรมาฟวยอะไรวะ ห่า คนจะหลับจะนอน

[งานเข้าว่ะมึง งานช้างด้วย]

“งานเข้าอะไรวะ”

ผมเรียกสติทั้งหมดที่มี พยายามแล้วพยายามอีกให้ความง่วงหมดไป แต่ก็ยังไม่เข้าใจคำพูดของไอ้กราฟอยู่ดี แล้วก็เหมือนว่ามันจะไม่ทันใจไอ้เชี่ยเคลมเหมือนกัน มันถึงได้โพล่งเสียงสอดมาทางปลายสาย

[มึงนี่ชักช้าจริงๆ พูดแบบนั้นแล้วไอ้ยีนจะไปรู้เรื่องได้ไง ไอ้กัสมึงบอกดิ๊]

แทนที่จะเป็นคนเล่าเอง ไอ้เคลมก็โยนขี้ไปทางไอ้กัสซะงั้น เห็นมันเรื่องมากอย่างนั้นผมเลยสวนกลับไป

“จะใครก็บอกกูมา ไม่งั้นก็แค่นี้นะ กูจะนอนต่อ”

[เฮ้ยๆๆๆๆๆ มึงอย่าเพิ่งนอน] เสียงไอ้เคลมร้องรัวๆ เหมือนควายที่บ้านมันจะออกลูก ก่อนจะตามด้วยเสียงไอ้กัสที่คงแย่งโทรศัพท์มาคุยเองแล้ว [ไอ้เชี่ยเบนซ์นั่นล่ะมึง]

พูดชื่อนี้มาผมว่าผมเริ่มจับประเด็นได้แล้วว่ากำลังมีเรื่องอะไร

“มันทำไม”

[ก่อนหน้านี้พวกกูบอกมึงใช่ไหมว่าตอนนี้มันอาละวาดอยู่ วันนี้พวกกูเจอมัน แล้วแม่งก็เป็นอย่างที่คิด]

“แล้วพวกมึงเอายังไง”

ผมลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียงเพราะเริ่มซีเรียสมากขึ้น ตั้งใจฟังเสียงไอ้กัส

[พวกกูน่ะไม่เอายังไงหรอก ถ้ามันอยากก็สนองให้ แต่แม่งเสือกเรื่องมากบอกไม่เอาพวกกู แต่จะเอามึงคนเดียว]

“สัตว์!”

คำเดียวสั้นๆ ที่ออกจากผมได้ตอนนี้ เพราะแค่คิดว่าผมต้องไปทำอย่างที่มันบอกก็เรื่องใหญ่แล้ว ถ้าป๊ารู้ว่าผมหนีออกจากบ้านตอนกลางดึกเพื่อกลับไปทำอะไรแบบเดิมอีกมีหวังผมโดนยิ่งกว่ายึดบัตรเครดิตอีก

[ก็ใช่ พวกกูถึงได้เครียดกันอยู่นี่ไง เนี่ย ไอ้กราฟลองคุยแล้วให้เปลี่ยนเป็นพวกกู แต่แม่งปฏิเสธท่าเดียว ถ้ามึงไม่มามันก็จะไม่เลิกรังควาน ไอ้เคลมลองคุยกับพวกอื่นแล้ว เห็นบอกว่าถ้าไม่ทำอย่างที่ไอ้เหี้ยเบนซ์ว่าก็โดน รถไอ้ชาญ มึงก็รู้จักใช่ไหม แม่งโดนกรีดซะเละเลย เหี้ยจริงๆ]

ฟันของผมขบเข้าหากันทันทีที่ฟังวีรกรรมเหี้ยๆ ของไอ้เหี้ยเบนซ์ มันแม่งหมาสัตว์ๆ เล่นสกปรกฉิบหาย ยิ่งผมที่เป็นพวกรักรถแบบสุดๆ แล้วมาฟังแบบนี้จะไม่ให้อารมณ์ขึ้นได้ยังไง เลพเพิร์ดผมไม่ห่วงหรอกว่าจะโดนทำอะไร เพราะตอนนี้ป๊าเป็นคนเก็บเอาไว้ แต่ว่ารถไอ้พวกที่เหลือที่ต้องเสี่ยงชีวิตเนี่ยสิ

[มึงว่ายังไง ถ้ามึงไม่มากูจะลองคุยกับมันอีกที]

ไอ้กัสถามมาแบบนี้ผมก็ได้แต่คิดหนัก เพราะใจนึงก็ห่วงรถเพื่อน แค่นึกสภาพว่ามันมีแผลนี่ก็อึดอัดใจจะตายห่าแล้ว แต่พอมาคิดถึงตัวเอง ถ้าป๊ารู้ผมก็โชคซวยซ้อนเข้ามาอีกชั้น แต่... เฮ้อ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน

“โอเค กูจะไป มึงให้ไอ้กราฟมารับได้เลย”

[ขอบใจมากว่ะ พวกกูขอโทษด้วยที่ทำให้มึงเดือดร้อน]

มันพูดอย่างกับเป็นคนอื่นคนไกล แต่ก็ตามสไตล์ไอ้กัสแหละครับ มันคิดยังไงก็พูดอย่างนั้น ไม่มีการแบ่งว่าเพื่อนกันไม่จำเป็นต้องขอบจงขอบใจกัน

“เดือดร้อนแล้วพวกมึงช่วยกูป่ะล่ะ นี่มันเรื่องของพวกเรา ไม่ใช่เรื่องของพวกมึง กูช่วยก็ถูกแล้ว รีบมาเร็วๆ นะเว้ย กูจะไปรออยู่ด้านหลัง”

ผมบอกมันแค่นั้นก่อนจะกดวางสายแล้วตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบชุดออกมาชุดหนึ่งเพื่อเปลี่ยน และคว้าโทรศัพท์ติดมือมาด้วย ส่วนกระเป๋าเงินคงไม่จำเป็นเท่าไร เพราะไม่มีทั้งเงินและบัตรเครดิต เสร็จแล้วก็ออกจากห้องอย่างเงียบเชียบที่สุด ระมัดระวังไม่ให้คนในบ้านรู้ ดีว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว ไม่อย่างนั้นคงเสี่ยงกว่านี้

ย่องๆ แนบตัวกับกำแพงไปจนถึงสนามหน้าบ้าน ผมก็อ้อมไปทางด้านหลังซึ่งเป็นกำแพงสูง เงี่ยหูฟังเสียงเครื่องยนต์ที่ตัวเองจำได้ดี ประมาณยี่สิบนาทีเสียงที่รอก็มาถึง ผมปีนขึ้นกำแพงก่อนจะสอดส่องลงไปให้แน่ใจว่ารถที่มาจอดเทียบกำแพงอยู่เป็นของไอ้กราฟจริง

พอเห็นนิสสันสกายไลน์สีเหลืองสดคันคุ้นตาที่ห่างหายมาสองเดือนผมก็รีบกระโดดลงจากกำแพงทันที รถคนนี้เป็นรถที่ไอ้กราฟจะเอามาใช้เฉพาะเวลามาร่วมกิจกรรมรัก (?) ของพวกเรา ปกติแล้วมันจะขับบีเอ็มสีดำมากกว่า เพราะถ้าใช้คันนี้คงจะเด่นเกินไป แค่ตัวมันอย่างเดียวก็เด่นเกินใครด้วยสีผมแล้ว

ใช้เวลาไม่นานไอ้กราฟก็พาผมมาที่สนามแข่งรถ ครับ เป็นสนามแข่งรถจริงๆ ที่เป็นอย่างนั้นก็ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะจะให้ไปแข่งตามถนนทั่วๆ ไปอย่างที่เคยๆ เห็นกันอยู่ก็ได้ เพียงแต่ไอ้พวกที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่หลายๆ คนต่างก็เป็นลูกคนมีชื่อเสียงมีหน้ามีตาทางสังคม มันเลยดูจะเสี่ยงไปหน่อยถ้าจะมาแข่งรถกันแบบโจ่งแจ้ง

พี่เคนที่มีพ่อเป็นเจ้าของสนามแข่งเลยเปิดสนามให้มีการแข่งอย่างเป็นทางการซะเลย พวกผมที่เป็นประเภทชอบประลองความเร็วเลยได้อานิสงส์นี้ไปด้วย เสียแค่ค่าเข้าอะไรนิดหน่อยให้ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่พวกชอบทำตัวกร่างๆ อย่างไอ้เหี้ยเบนซ์จะเป็นที่รู้จักในหมู่คนที่มาใช้บริการ

เข้ามาในสนามแล้วไอ้กราฟก็เอารถเข้าไปจอดข้างไอ้กัสกับไอ้เคลมที่ยืนพิงกระโปรงรถคุยกันอยู่ สายตาของพวกมันจับจ้องไปที่สนามแข่งที่มีรถสองคันกำลังแข่งอยู่ ไอ้ออดี้สีแดงที่กำลังวิ่งไล่กวดอยู่นั่นผมพอจะคุ้นตาอยู่บ้างว่าเป็นรถไอ้เบนซ์

“มันแข่งกับใครวะ”

ผมถามไอ้สองตัวที่ยืนดูโดยที่ผมเองก็ไม่ละสายตาไปจากเฟอร์รารี่สีน้ำเงินที่วิ่งนำอยู่ เห็นมันเข้าโค้งแล้วก็เสียดไปถึงลำไส้ เทคนิคแม่งเจ๋งจริงๆ เทพๆ แบบนี้ไอ้เชี่ยเบนซ์น่ะคลานเข้าเส้นชัยไปเหอะมึง

“ไม่รู้ว่ะ เหมือนเพิ่งมาใหม่แล้วไอ้เหี้ยเบนซ์ไปท้ามา ยังไม่เห็นคนขับเลย แต่เห็นพูดกันว่าเป็นเพื่อนพี่เคน”

“เออ เพื่อนพี่เคนเจ๋งก็ไม่แปลกว่ะ”

พวกพี่เคนมีคนที่เป็นนักแข่งหลายคน อย่างพี่แกนี่ก็เคยลงแข่งมาแล้ว แต่ลงแบบขำๆ เพราะไม่ค่อยชอบการแข่งแบบจริงจัง

ผมมองไอ้เบนซ์ที่เข้าเส้นชัยแบบสิ้นท่า สมน้ำหน้ามันอยากจองหองนักว่ามันเจ๋ง มึงอวยตัวเองตลอดมึงไม่เคยรู้เหรอว่าจริงๆ มึงอะกระจอก เหอะ

เฟอร์รารี่ที่เป็นผู้ชนะในแมตช์เมื่อครู่เข้ามาจอดเทียบห่างออกไปจากรถไอ้กราฟนิดหน่อย แต่คนขับไม่ได้ลงมา ผมก็พยายามมองเข้าไปด้านในเพราะอยากรู้ว่าคนขับเป็นใคร กะจะเดินเข้าไปหาด้วยซ้ำ แวะทำความรู้จักเสียหน่อยก็ดี แต่ยังไม่ทันเดินไปไอ้เบนซ์ก็ปาดรถเข้ามาตัดหน้าผม

มึงไม่ชนกูไปเลยล่ะ สัตว์!

ผมตวัดตาไปมองมันอย่างฉุนๆ แต่ว่ามันคงฉุนยิ่งกว่า เพราะแม่งฮึดฮัดลงมาจากรถแล้วเดินมาหยุดต่อหน้าผม หนำซ้ำยังชี้หน้าผมอีก

“ไฮยีน มึงกับกู มาเลย! คอยดูกูเหยียบมึงจมแน่”

มึงบอกตัวเองเหอะ ผมหัวเราะอย่างสมเพชมันในใจ ไม่ใช่จะอวยตัวเองว่าเก่งอะไร แต่ฝีมือของผมก็ไม่ด้อย อย่างพวกผมนี่ก็ไม่ใช่ระดับไก่กาสักคน ไอ้กัสถนัดแข่งกับพวกที่มีแรงกดดันสูงๆ ส่วนไอ้กราฟก็สิงห์ทางตรง ไอ้เคลมนี่ลูกบ้ามันเยอะ มันชอบเกมที่ท้าทาย ส่วนผม... ไม่มากมายอะไร เน้นเทคนิคเป็นหลักมากกว่า

“มึงเตรียมใจไว้แพ้หรือยังเหอะ”

“สัตว์ กูไม่แพ้มึงหรอก”

“งั้นมึงก็รอดูแล้วกัน”

ผมไหวไหล่ ไม่คิดเกทับอะไรมันอีก ก่อนจะหันไปหาไอ้กราฟ คราวนี้คงต้องยืมรถมันไปก่อน เพราะว่ารถที่ผมใช้แข่งประจำก็ไม่พ้นเลพเพิร์ดที่รักนั่นล่ะ ไอ้กราฟก็ยินดีที่จะให้ผมยืม แต่ก็อดเตือนมาด้วยหน่อยๆ ไม่ได้

“มึงระวังตัวหน่อยล่ะ ไม่ได้แตะนานแล้วนี่หว่า”

“เออ กูรู้”

“ระวังทิกเกอร์พยศด้วย”

ชื่อรถมันครับ ทิกเกอร์ ผมก็พยักหน้าหงึกหงักรับคำไป เพราะจริงๆ แล้วสกายไลน์เครื่องมันก็แรงอยู่แล้ว แต่ไอ้กราฟไปแต่งเพิ่มให้สมกับความถนัดของมัน เลยอาจจะไม่คุ้นกับผมเท่าไร

“กูจะระวัง” ตอบมันจบผมก็ตบบ่ามันเบาๆ ก่อนจะเดินควงกุญแจรถไปประจำที่นั่งคนขับ ขยับเบาะกับกระจกมองหลังและกระจกข้างนิดหน่อยให้เข้ากับระยะสายตาของผม ก่อนจะสตาร์ทรถแล้วเคลื่อนมันไปเตรียมตัวที่จุดสตาร์ทโดยที่มีออดี้สีแดงขับตามมา

สงสัยคงเพราะเห็นว่าผมห่างสนามไปนานหรือยังไง พอรู้ว่าผมเป็นคนแข่ง พี่เคนก็รีบวิ่งมาจากตำแหน่งคนดูที่รวมอยู่กับคนอื่นทันที มาเคาะกระจกทักทายนิดหน่อยก่อนจะย้ายตัวเองไปทำหน้าที่ และทันทีที่เสียงสตาร์ทดังพร้อมการโบกธงสีแดงจากพี่เคน ผมก็พุ่งทิกเกอร์ออกไป

เหี้ยเอ๊ย เสียหลักไปหน่อยนึงเพราะความแรงของมันอย่างที่ไอ้กราฟบอก แต่ว่าแค่ช่วงต้นๆ เท่านั้นที่ผมปล่อยให้ไอ้เบนซ์นำไป พอถึงช่วงเข้าโค้งผมก็อาศัยเทคนิคที่มีสนิมเกาะอยู่นิดหน่อยดริฟท์เบาๆ พอตั้งตัวได้ก็เร่งความเร็วย่นระยะห่างจากมันได้อีกเกือบเท่าตัว

แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะทิกเกอรเป็นสิงห์ทางตรง ระยะห่างไม่ถึงสามสิบเมตรไม่ใช่ปัญหา ผมเลยนำไอ้เบนซ์ไปได้แบบไม่เหน็ดเหนื่อยอะไร เหลือแค่ประคองระยะเอาไว้เท่านั้น จริงๆ ผมจะเร่งเครื่องให้แรงกว่านี้ก็ได้ แต่อย่าดีกว่าครับ เดี๋ยวแหก

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ผมนำไอ้เบนซ์จนเข้าเส้นชัยไปได้ เสียงกู่ร้องอย่างยินดีดังกันทั่วสนามไม่ต่างจากรอบที่มันแพ้คราวก่อน ก็แน่ มันแพ้สองแมตช์ซ้อน หนำซ้ำยังเป็นคนที่หลายๆ คนไม่ชอบขี้หน้าเสียอีก

“ไง กูชนะแล้วกูได้อะไรวะ”

ผมเดินไปถามมันตั้งแต่มันเปิดประตูรถออกมา มันทำท่าฮึดฮัดใส่อย่างไม่พอใจ ผมก็กระตุกยิ้มชอบใจ

จริงๆ แล้วไม่ได้คิดที่จะเอาอะไรกับมันหรอก แค่ทำให้มันเสียหน้าที่กล้ามาท้าแล้วลากให้ผมออกจากบ้านผมก็พอใจแล้ว แต่ยังดีที่ไอ้เบนซ์ไม่ได้เป็นพวกสับปลับ มันโยนซองเงินปึกหนึ่งมาให้ผมแล้วกระฟัดกระเฟียดกลับเข้ารถและขับออกไปเลย

สงสัยแม่งทนอยู่อย่างขายหน้าต่อไปไม่ไหว

ได้ของมาแล้วผมก็กลับไปหาพวกเพื่อนๆ โยนเงินให้พวกมันก่อนจะหันไปคุยกับไอ้กราฟ

“กลับกันมึง”

“เออๆ”

มันไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้นแล้วหมุนตัวเตรียมจะเดินไปขึ้นรถ แต่ว่าเสียงจากทางด้านหลังก็ดึงพวกเราไว้เสียก่อน ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่เคนนั่นล่ะ

“ครับ ว่าไงพี่”

“เมื่อกี้มึงทำกูเสียวมาก”

“นิดหน่อยน่าพี่ มันไม่ชินๆ”

ผมหัวเราะแห้งๆ ยักไหล่นิดหน่อยให้ พี่เขาก็คงเข้าใจเพราะเขาก็รู้ว่ารถที่ผมใช้แข่งเป็นของไอ้กราฟ

“เออ เพื่อนกูเห็นมึงแข่งแล้วอยากแข่งด้วยว่ะ ลองสักหน่อยเป็นไง”

“เพื่อนพี่? ใครอะ”

ผมชะเง้อหน้ามองเหมือนจะหาว่ามีใครที่อยากจะมาเป็นคู่แข่งของผม แต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีใครเดินตามหลังพี่เขามาสักคนนอกจากเห็นว่าพี่เคนส่งยิ้มกลับมา

“ไอ้คนที่แข่งกับไอ้เบนซ์นั่นแหละ เฟอร์รารี่น้ำเงิน”

“อ๋ออออออ คนนั้นเหรอพี่ ไม่เอาหรอก เพื่อนพี่เก่งเหอะ ผมแพ้แน่”

“เฮ้ย ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก มันก็ไม่ได้มืออาชีพอะไร ที่มาวันนี้เพราะพี่ชวน” พี่เคนว่าอย่างนั้นแล้วไม่วายโน้มตัวมากระซิบกับผม “เห็นว่าไอ้เบนซ์มันกร่างมาก เลยชวนมาเล่นด้วยสักหน่อย”

“เอาจริงดิ”

“เออ มันให้กูมาท้ามึงเนี่ย ถ้ามึงไม่เข้าตา มันไม่ให้กูมาท้าให้เสียเวลาหรอก”

คราวนี้ผมหันไปมองพวกเพื่อนๆ ที่เหลือ ถามความเห็นมันว่าเอายังไง ทั้งที่ในใจก็รู้สึกสนใจอยู่นิดหน่อย ก็ไม่ได้ยืดแข้งยืดขานานแล้ว ชักอยากรื้อฟื้น ซึ่งดูเหมือนพวกมันจะรู้ ผมเห็นไอ้เคลมแม่งยิ้มล้อ แล้วก็ไม่ใช่แค่ยิ้มด้วย

“มึงอยากอะเด้”

“เออๆ” ผมรับอย่างไม่โต้แย้งก่อนจะหันไปบอกพี่เคน “โอเคพี่ ตามนั้น แข่งขำๆ นะพี่ เงินก็เอาแค่ที่ผมได้มาจากไอ้เหี้ยเบนซ์นั่นแหละ”

ของเดิมพันไม่จำเป็นเลยสักนิดที่ต้องเป็นผู้หญิงอย่างที่คนอื่นๆ ทั่วไปเขาทำกัน เพราะหน้าตาอย่างพวกผมอยากนอนกับใครก็ไม่ใช่เรื่องยาก แล้วทำไมต้องมาแข่งกันเพื่อให้ได้ผู้หญิงด้วย สู้เอาเงินไปแต่งรถเพิ่มเจ๋งกว่าเยอะ

“มันไม่ซีเรียสเรื่องของเดิมพันอะไรหรอก ไว้แข่งเสร็จมึงค่อยคุยกับมันดูแล้วกัน”

“ได้ๆ”

ผมตอบพี่เคนก่อนจะหันไปหาไอ้กราฟแล้วขอกุญแจรถมันอีกรอบ มันก็ไม่ขัดอะไร ยื่นส่งให้อย่างดี แต่ก็ไม่วายเตือน

“ใจเย็นหน่อยนะมึง นี่ไม่ใช่รถมึง”

ฟังคล้ายๆ ว่าไอ้กราฟมันจะห่วงรถ แต่เปล่าเลย ความหมายของมันคือห่วงผมมากกว่า เพราะอีกฝ่ายเราไม่รู้ว่าฝีมือจริงๆ เป็นยังไงเพราะเห็นแค่แวบเดียว เลยกลัวว่าผมจะหน้ามืดตอนโดนไล่บี้แล้วจัดเต็มแบบลืมตัวเสียมากกว่า

“ไม่ต้องห่วง กูรู้ตัวดี”

ฉีกยิ้มให้มันหายห่วงแล้วก็เดินไปขึ้นรถ ขับรถไปจุดสตาร์ทเพื่อรอเวลาอีกครั้ง ซึ่งก็เป็นพี่เคนอีกที่มาทำหน้าที่ให้สัญญาณ แล้วก็ออกตัว

การแข่งขันนัดใหม่เริ่มต้นขึ้น ผมรู้สึกตื่นเต้นอยู่หน่อยๆ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เลือดในกายเริ่มพลุ่งพล่านขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะผมถูกแซงปาดหน้าอย่างฉิวเฉียด พอเร่งความเร็วไล่เบียด ก็เหมือนว่าจะตีคู่กันไปเกือบตลอด

พอถึงช่วงเข้าโค้งคราวนี้ไม่ง่ายเหมือนตอนแข่งกับไอ้เบนซ์ เพราะจากโค้งที่ไม่หนักหนาตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันเหมือนโค้งหักศอกเพราะไอ้เฟอร์รารี่บี้เข้ามา ผมเลยต้องหักพ่วงมาลัยพร้อมกับเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้นอีกหน่อยจนรถเกือบสะบัด

“เหี้ย!”

แต่ว่าไอ้เฟอร์รารี่คันนั้นกลับทำได้ง่ายๆ แล้วเสียบเข้ามุม ตัดหน้าไปได้อย่างชิลล์ๆ เล่นเอาผมฮึดฮัดขึ้นมาได้พอสมควร

“แม่งเอ๊ย!”

ผมทุบพวงมาลัยเบาๆ ก่อนจะเร่งเครื่องตามมันไป แต่ก็ไม่ง่ายเหมือนตอนแรกเพราะว่าเฟอร์รารี่คันนั้นขุดเอาความสามารถขึ้นมาใช้อย่างเต็มที่ แต่อย่างน้อยยังดีที่ว่าระยะของผมไม่ได้ถูกทิ้งห่างมากไปกว่านี้ กระทั่งถึงเส้นชัยผมก็ได้รับความพ่ายแพ้ไปเต็มๆ ถึงจะรู้สึกเจ็บใจอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนขับนั่นเจ๋งกว่าจริงๆ

ลงจากรถแล้วผมก็เดินไปหาเจ้าของเฟอร์รารี่คันนั้น อยากเห็นหน้าว่าคนที่ชนะผมได้หน้าตาเป็นยังไง ซึ่งมันก็ไม่ได้คิดจะวางท่ารอผม ประตูรถถึงเปิดออกมาพร้อมกับผู้ชายร่างสูงที่หันมามองหน้าผมพร้อมกับรอยยิ้ม คิ้วหนายักให้หนึ่งทีอย่างกวนๆ

“ฝีมือมึงเจ๋งอยู่เหมือนกันนี่หว่า น้องเกงยีน”

แสดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ไอ้พี่ชมพู!

“อ้าว ทำหน้าแบบนั้นทำไม ดีใจมากเหรอที่เจอกูเนี่ย”

ตามึงบอดแล้วล่ะถ้ามองเห็นว่ากูดีใจ

ผมไม่คิดจริงๆ นะว่าไอ้คนที่ขับเฟอร์รารี่เจ๋งๆ นี่จะเป็นไอ้พี่ชมพู อะไรจะโลกกลมหรรษาได้ขนาดนี้ ตอนนี้รู้สึกอยากวาร์ปไปจากตรงนี้ฉิบหายเลย

“ว่าแต่... กูได้เห็นมึงถอดแว่นตอนกลางคืนอีกแล้ว”

ไม่พูดอย่างเดียวแต่ยังขยับเข้ามาใกล้แล้วเอาหลังมือมาเกลี่ยๆ ที่แก้มผมอีก เล่นเอาผมขนลุกขึ้นมาเลย แถมมันยังยิ้มๆ ให้อีกทำให้ยิ่งรู้สึกแปลกๆ หรือเพราะไม่มีแว่นเลยทำให้ผมรู้สึกไม่มั่นใจเวลาเผชิญหน้ากับมัน?

ในเมื่อวันนี้ผมไม่จำเป็นต้องใส่แว่น ไม่ต้องทำตัวเป็นเด็กเนิร์ดไม่สู้คนและคอยสงบเสงี่ยม กลับมาเป็นไฮยีนคนเดิมกับเมื่อก่อนนี้...

แล้วทำไมผมยังรู้สึกไม่มั่นใจอีกวะ หรือว่าไม่ชิน?

ผมหันไปมองพวกไอ้กราฟก็เห็นไอ้เคลมทำท่าระริกระรี้วิ่งเข้ามาหาอย่างกับหมาเจอเจ้าของกลับบ้าน ตามด้วยไอ้กราฟกับไอ้กัสที่เดินมาอย่างสบายๆ ไอ้พวกนั้นคงรู้แล้วว่าความลับเรื่องแว่นของผมแตกไปแล้ว ถึงไม่ได้เข้ามาช่วยเหมือนอย่างที่เคยทำ ก็แน่ล่ะ เห็นประจันหน้ากันตรงๆ แบบนี้จะให้แก้ตัวว่ายังไง แล้วถ้าให้พูดจริงๆ เรื่องแว่นผมก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรที่ไอ้พี่ชมพูจะรู้ไม่ได้ ผมแค่อคติกับมันเลยไม่อยากให้เห็น

“พี่เองเหรอเนี่ย นึกว่าใคร”

“ไม่นึกอะว่าพี่เป็นเพื่อนกับพี่เคนด้วย”

“ไม่แปลกใจเลยที่ไอ้ยีนจะแพ้”

ได้ยินประโยคสุดท้ายของไอ้กัสแล้วผมก็หันขวับไปมองมันทันที มันก็ยิ้มขำๆ ใส่

แม่ง หาว่ายังไงไอ้พี่ภูของมึงก็ต้องเก่งกว่ากูล่ะสิ เพื่อนทรยศเอ๊ย

“เออ เพื่อนพวกมึงแพ้ เพราะงั้น...ก็อย่าเบี้ยวเดิมพันล่ะ”

มันทวง ผมเลยดึงซองเงินที่ได้จากไอ้เบนซ์ซึ่งไอ้เคลมกำลังกอดอยู่มาให้คนขี้งก แต่ว่ามันดันไม่รับ แถมยังบอก

“ใครบอกว่ากูจะเอาเงิน”

“แล้วพี่ชมพูจะเอาอะไรล่ะครับ ต้องการอะไรมิทราบ”

คราวนี้มันขยับตัวเข้ามาใกล้ผมอีกนิด ส่งยิ้มชวนขนลุกมาให้ก่อนจะก้มลงมากระซิบชิดหูของผมด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้ขนลุกยิ่งกว่า

“กูจะเอา.........มึง”

ผงะจากตัวไอ้รุ่นพี่ทันทีหลังจบคำที่มันเจาะจงบอก มันก็หัวเราะขำๆ ใส่ ก่อนจะหันไปคุยกับคนที่เหลือ

“กูไม่เอาอะไรหรอก แต่กูขอนี่” แล้วมันก็จับแขนผมเอาไว้ “ละกัน”

“เฮ้ย กู เอ๊ย ผมไม่ใช่พวกผู้หญิงที่เขาชอบเอามาเป็นเดิมพันนะครับ”

ผมโวย เผลอแทนตัวไปอย่างเคยๆ บวกอารมณ์ฉุนนิดๆ ตรงข้ามกับไอ้พี่ชมพูที่ยังไม่เลิกมองผมแบบยิ้มๆ แล้วดูแววตาของมัน จะแพรวพราวไปไหน

“ก็ไม่ใช่ไง แต่ยังไงก็แพ้ ต้องยอมคนชนะอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”

มันอ้างมาแบบนี้ผมก็ต้องกลืนคำพูดที่จะขัดไป เพราะว่าก็เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ ผมหันไปมองคนอื่นๆ แบบจำใจ ไอ้กราฟก็มองผมเหมือนจะถามว่าจะเอายังไง สุดท้ายเลยได้แต่ผงกหัวให้มัน มันเลยฝากฝังผมกับพี่ภูของมันซะเลย

“งั้นพี่ไปส่งมันด้วยนะ เดี๋ยวป๊ามันรู้ว่าหนีออกมา”

“ไม่ต้องห่วงหรอก กูแค่อยากคุยอะไรกับมันนิดหน่อยเอง”

“พี่ภูอย่าทำอะไรเพื่อนผมรุนแรงนะ ถนอมๆ มันหน่อย”

สัตว์เคลม! ผมยกตีนขึ้นมาถีบมัน แต่มันก็กระโดดหนีทัน

เหี้ยเอ๊ย ถนอมห่าอะไรของมึง

พอเห็นปฏิกิริยาของผม มันก็แทบจะลงไปกลิ้งตัวหัวเราะอยู่กับพื้น ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดกว่าเดิมอีกจึงหันไปทำหน้าฉุนเฉียวใส่ไอ้พี่ชมพูแล้วพูดเสียงเหี้ยม

“จะไปไม่ไป”

มันก็หัวเราะชอบใจก่อนจะเดินนำขึ้นรถโดยมีผมเดินตามแบบไม่หันกลับไปมองไอ้พวกที่เหลือ

ไอ้เหี้ยเคลมแม่ง อย่าให้กูเอาคืนมึงนะ เป็นห่าอะไรของมึงหลายทีแล้ว











อ่านต่อข้างล่าง

v


v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2013 00:13:44 โดย undersky »

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ต่อจากข้างบน

v

v

















พอขึ้นรถมาได้ พี่ชมพูก็ขับออกจากสนามแข่งแล้วไปหยุดอยู่ที่ถนนสายหนึ่ง เพราะตอนนี้เป็นช่วงที่ดึกมากถนนเลยค่อนข้างเงียบร้างลาด้วยรถยนต์ แต่อย่าว่าแต่ถนนเลย เพราะในรถก็เงียบเหมือนกัน ผมไม่ได้พูดอะไร ไอ้พี่ชมพูก็เป็นใบ้ชั่วขณะ กระทั่งมันยอมพูดออกมา

“จริงๆ แล้วก็เป็นพวกเอาเรื่องเหมือนกันล่ะสิมึงน่ะ”

“เอาเรื่องอะไรครับ”

ผมถามกลับไปทั้งที่พอจะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร

“ก็ไม่ได้เป็นพวกเรียบร้อย ขยันเรียนเหมือนกับที่สร้างภาพเอาไว้ แต่ทั้งกวนแล้วก็เสเพลพอตัว เหมือนไอ้พวกที่เหลือ”

“แล้วผมบอกพี่เหรอครับว่าผมหงิม”

“ไม่ได้บอก แต่ลุคมึงทำให้เข้าใจแบบนั้น ถึงมึงจะกวนตีนกูบ่อยๆ ก็เหอะ แล้วยังไง ทำไมต้องใส่แว่นปิดหน้าทำตัวนิ่งๆ ทั้งที่จริงๆ ร้ายกว่านั้น”

คราวนี้พี่ชมพูหันหน้ามาถามผมเต็มตัวด้วยความอยากรู้ เพราะถึงมันจะรู้ว่าผมถูกป๊ายึดบัตรเครดิตจนไม่มีเงินใช้ แต่มันก็ไม่รู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงอยู่ดีว่าทำไมผมต้องทำตัวแบบนี้

“แล้วทำไมผมต้องบอกพี่ มีเหตุผลจำเป็นด้วยเหรอครับ”

“เกงยีน”

มันทำเสียงข่ม แต่มีหรือว่าผมจะกลัว ผมเสเบือนหน้าไปทางหน้าต่าง มองทิวทัศน์ภายนอกที่ไม่มีอะไรนอกจากแสงไฟจากเสาที่ตั้งอยู่ห่างๆ กันกับความดำมืดของท้องฟ้าและพื้นคอนกรีตราดยางมะตอย

“ไม่คิดจะบอกเหตุผลกันหน่อยหรือไง กูเป็นคนที่ถูกหลอกนะเว้ย”

“ผมไปหลอกอะไรพี่ตรงไหน” ตอบกลับไปทั้งที่ไม่ได้หันหน้าไปมองคนเรียกร้องสิทธิ์ เลยถูกมือใหญ่นั้นจับคางแล้วดันให้หันไปสบตากัน พี่ชมพูมองผมแบบคาดเค้น แต่ก็เหมือนจะปนๆ ด้วยแววขอร้องยังไงบอกไม่ถูก

ตกลงว่ามึงจะบังคับหรือขอร้องกูกันแน่ เอาสักอย่าง แบบนี้กูสับสน!

“ได้พี่เป็นเมียแล้วไม่คิดจะบอกอะไรเมียคนนี้หน่อยหรือไง”

มันไม่ตอบตรงๆ แต่ตอบแบบโคตรตรงอย่างหน้าไม่อาย เอาคำว่า ‘เมีย’ มาหลอนอีกแล้ว ทำเอาผมหน้าหงิกกว่าเดิม เกือบจะลืมได้แล้วนะ เกือบจะลืมแล้วจริงๆ ถ้ามันไม่พูดถึงว่าครั้งหนึ่งผมกับมันเคยมีอะไรกัน แต่ผมจำไม่ได้... สักอย่างเดียว

“...”

พูดอะไรไม่ออกเลย กูเครียดจริงๆ นะเนี่ย

“ว่าไงล่ะ จะบอกกูหน่อยไม่ได้หรือไงว่าเหตุผลของการกระทำทั้งหลายแหล่ของมึงคืออะไร”

ผมเงียบอีกครั้งโดยที่มือมันไม่ยอมปล่อยออกจากคางของผม ผมสบตามันกลับไปเหมือนที่พี่ชมพูมองมา แต่มองนานๆ แล้วมันชักจะยังไงไม่รู้ เหมือนว่าหน้าหล่อๆ ของไอ้รุ่นพี่จะต่ำลงมา

“ไม่คิดจะบอกกูจริงๆ เหรอ”

“...”

มันขยับลงมาอีกจนเหลือระยะห่างระหว่างกันแค่นิดเดียว ผมเริ่มเบนหน้าหนีหน่อยๆ แต่มันก็ยังยื่นเข้ามาใกล้ ผมเริ่มรู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวกมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ชักจะมองหน้ามันต่อไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องขยับปากบอกออกไป

“บอกพี่แล้วได้อะไร”

“ได้ความสบายใจของกู กูอยากรู้เรื่องของมึงบ้างไม่ได้หรือไง”

เกือบสะอึกกับคำพูดเมื่อกี้ เผลอสบตามันไปอีกหนึ่งทีแล้วผมก็ต้องเสสายตาไปทางอื่น ทำไมไม่รู้ถึงไม่กล้ามองตามันแล้ว

“งั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องบอกพี่นี่ครับ”

“...”

พี่ชมพูเงียบไปหลังจากผมพูดประโยคนี้ แถมยังดึงตัวกลับไปนั่งพิงเบาะมันเหมือนเดิม แต่ว่าคำพูดที่ลอดออกมากจากปากมันกลับทิ่มใจของผมอย่างจัง

“มึงใจร้ายกับกูมากนะ”

ทำไมถึงรู้สึกแบบนั้นวะ??

แล้วความเงียบก็มาเยี่ยมเยียนอีกครั้ง มันหุบปากไม่พูดอะไรอีก ส่วนผมก็ได้แต่นั่งมองเสี้ยวหน้าของไอ้พี่ชมพูตาปริบๆ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องแล้วก็อึดอัดยังไงไม่รู้กับสถานการณ์แบบนี้ สุดท้ายถึงได้ผ่อนลมหายใจออกมาแล้วหันไปพูดกับมัน

“ผมสัญญากับป๊าไว้”

เสียงแค่เบาๆ ของผมท่ามกลางความเงียบเหมือนจะเรียกความสนใจจากไอ้พี่ชมพูได้ ไม่คิดเหมือนกันว่าผมจะมาใจอ่อนให้มันแบบนี้

“ป๊ายึดรถผมไปแล้วก็บอกให้ทำตัวดีๆ เลิกทำตัวเหมือนเมื่อก่อน ผมก็เลยต้องทำตัวเนิร์ดๆ จะได้ไม่เป็นจุดสนใจ ใส่แว่นเอาไว้บังหน้า พวกที่เคยมีเรื่องกันจะได้ไม่รู้แล้วเข้ามาหาเรื่อง แล้วก็ไม่มีผู้หญิงมายุ่งด้วยเหมือนเมื่อก่อน”

พอผมพูดด้วยเสียงเนิบๆ จบ ไอ้พี่ชมพูแม่งก็ยิ้มเลยครับ ยิ้มอย่างพอใจ เออ ก็มึงได้รู้อย่างที่อยากรู้แล้วนี่หว่า ผมก็เลยอดไม่ได้ที่ตอกกลับไปอีกว่า

“แค่นี้พอใจแล้วใช่ไหมครับคุณพี่ชมพู”

แต่มันดันสวนกลับมา

“ยัง”

“แล้วพี่จะเอาอะไรอีกครับ เรื่องที่อยากรู้ผมก็บอกพี่ไปแล้ว”

“ก็ไม่ได้อยากรู้อะไรเพิ่มอีก แต่อยากบอกมึงว่า...” มันหยุดเสียงไปแล้วยื่นหน้าเข้าหาผมอีกรอบ “ไปกินติมกัน กูเลี้ยง”

ฮะ????

กินไอติมตอนตีสามกว่านี่นะ มึงจะไปกินจากไหน

โดยไม่ต้องถามอะไร มันก็ขับรถออกไปให้คำตอบแก่ผมโดยเร็ว เพราะรถหยุดอยู่หน้าเซเว่นที่อยู่ใกล้ที่สุด ก่อนร่างสูงๆ จะลงจากรถแล้วเดินไปซื้อไอศกรีมโดยไม่ชวนผมสักคำ พอผมลงมาจากรถแม่งก็เดินออกมาแล้ว แถมยังแกะห่อไอศกรีมก่อนจะยื่นแท่งหนึ่งให้ผมอีก

ยักษ์คู่... รสส้ม

“เลี้ยงยักษ์คู่เนี่ยนะ”

“เออ ก็มันเหลืออย่างเดียว คุ้มดีออก ได้ตั้งสองแท่ง”

เพิ่งรู้ว่ามึงขี้ตืด

เหน็บมันในใจแล้วผมก็มองมันกินอย่างเอร็ดอร่อย ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ ผมเลยได้แต่ส่งแท่งยาวๆ เข้าปากตามแล้วไปยืนพิงรถอยู่ข้างๆ มัน มองบรรยากาศยามค่ำคืนไปเรื่อยเปื่อย

ไม่ได้สัมผัสอากาศตอนกลางคืนแบบนี้นานแล้วจริงๆ รู้สึกว่าบรรยากาศตอนนี้มันดีกว่าที่เคยๆ หรือเพราะเมื่อก่อนผมเอาแต่หมกหมุ่นอยู่กับสนามแข่ง ผับ พอดึกก็กลับ ไม่เคยมาชมวิวข้างทางแบบนี้เลยไม่รู้

“กูขออะไรอีกอย่างดิ”

มันหันมาคุยกับผมหลังจากเงียบไปพักนึง สายตาของมัน ...มองหน้าผม มองตาผม แล้วก็เลื่อนมามองที่ปากผม ผมเลยเหลือบไปมองมันบ้าง ไอศกรีมที่มันถืออยู่ถูกส่งเข้าปากที่กลายเป็นสีส้มเป็นคำสุดท้ายพอดี

มองกูเพราะอยากกินของกูด้วยล่ะสิ

พอรู้แล้วว่ามันมองทำไม ผมเลยแกล้งเลียไอศกรีมนั่นโชว์เลย ของผมยังเหลืออีกตั้งครึ่ง เลียๆ ดูดๆ แล้วอมยิ้มเย้ยมันไป แต่ว่าแทนที่มันจะขัดใจที่ถูกผมเย้ยกลับไม่เป็นอย่างนั้น มันขยับตัวเข้ามาใกล้ผมอีกนิด ใช้เสียงทุ้มๆ ของมันบอก

“มึงอย่าน่ารักเยอะได้ป่ะ”

งง?

มีแต่คำว่างงเต็มหัวผมไปหมด ไอ้คำที่มันพูดนี่แปลว่าอะไร เหมือนสมองจะเออเรอร์ในการประมวลผลชั่วคราว แล้วมันก็ช็อตไปเลยหลังจากที่มือใหญ่ๆ นั่นจับที่ข้อมือของผมเอาไว้เพื่อดึงไอศกรีมออกจากปาก ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยสัมผัสอุ่นๆ ที่ริมฝีปากแทน

แรงดูดเบาๆ ที่ปากทำให้ผมรู้สึกตัว เบิกตามองไอ้คนที่หลับตาจูบผมอยู่พร้อมกับดันบ่ามันออก ซึ่งมันก็ไม่ได้ยึดยื้ออะไรมากนัก ยอมผละออกไปโดยดี แต่ว่า... ปากผมเนี่ยสิ ยังรู้สึกอุ่นๆ อยู่เลย

“ปากเย็นนะ หวานด้วย”

มันพูดแค่สองคำแต่ทำให้ผมรู้สึกว่าหน้าร้อนๆ ขึ้นมายังไงไม่รู้

ปากกูก็ต้องเย็นสิวะ กูกินไอติมอยู่

เฮ้ย ไม่ใช่สิ แม่ง เกิดอะไรขึ้นกับกูวะเนี่ย

ผมไม่กล้าเอาไอศกรีมเข้าปากอีกเลย เพราะพอขยับปากแล้วเหมือนว่าจะรู้สึกถึงรอยสัมผัสเมื่อครู่ เหมือนปากของมันยังติดอยู่บนปากผมไม่ได้หลุดออกไปไหน

“อ้อ ที่กูจะขอมึงเมื่อกี้” มันเงียบไปนิดหน่อยแล้วมองหน้าผม ให้ผมได้จูนสมองกลับมาก่อนถึงได้พูดต่อ “เวลาอยู่กับกู ช่วยเป็นตัวของมึงเองด้วยนะ เสแสร้งๆ อะไรเนี่ย กูไม่เอา”

“...”

“ได้หรือเปล่า”

“อือ”

ยังรู้สึกเบลอๆ งงๆ กับตัวเองอยู่เลย ผมจึงตอบกลับไปแค่นั้น มันก็เลยถือโอกาสสั่ง

“งั้นก็กลับกัน กินไอติมให้หมดด้วย หรือจะให้กินแทน”

ผมยกมือขึ้นมามองดูไอศกรีมที่ไหลเป็นน้ำ แถมเลอะมือเลอะแขนอีกต่างหากเพราะถือตั้งเอาไว้ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามันไหลเยิ้มตั้งแต่เมื่อไร

พอเห็นท่าทีแบบนี้ของผมแล้วพี่ชมพูก็ก้มลงมาดูดไอศกรีมในมือผมเฉยเลย แล้วก็ทำให้ผมรู้ตัวว่าเมื่อกี้ผมทั้งดูดทั้งเลียมันไปหมดแท่งแล้ว แต่ตอนนี้มันอันตรธานเข้าไปอยู่ในท้องไอ้รุ่นพี่นี่หมดแล้วเหมือนกัน

กินเข้าไปได้ไงวะ น้ำลายทั้งนั้น

“รออยู่นี่ก่อน”

มันบอกแค่นั้นแล้ววิ่งเข้าไปในเซเว่นอีกรอบ ออกมาพร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งขวด เปิดฝาแล้วดูดน้ำเข้าปากเหมือนเป็นการล้างปากก่อนจะส่งให้ผม ผมก็ต้องรับมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วก็ยืนมองดูหลอดที่อยู่ข้างในที่มันมีหลอดเดียว เงยหน้ามองคนตัวสูงก็เห็นมันพยักพเยิดให้ดูดหลอดนั้นไป ผมเลยต้องทำใจดูดไปอย่างเสียไม่ได้

แม่ง ไม่เปิดโอกาสให้กูได้อาลัยอาวรณ์หลอดในเซเว่นเลย

หลังจากผมดูดน้ำเข้าไปเสร็จ มันก็ดึงขวดกลับคืน จากนั้นจัดการดึงแขนข้างที่เลอะของผมไปราดน้ำเย็นๆ ใส่ เอามือลูบอีกหน่อยให้คาบเหนียวๆ หายไป พอสะอาดมันก็เอาไม้ไอศกรีมกับขวดน้ำที่เหลือน้ำแค่ก้นๆ ขวดไปทิ้งขยะแล้วเดินกลับมา

“โอเค กลับได้แล้ว เดี๋ยวกูไปส่ง”

มันก็ต้องอย่างนั้นอยู่แล้วสิวะ

ผมตอบในใจก่อนจะเดินไปขึ้นรถหลังจากที่พี่ชมพูกลับไปประจำที่นั่งฝั่งคนขับแล้ว คราวนี้ผมมีสติทุกอย่างเลยบอกทางไปบ้านของผมได้ ไม่ให้พลาดเหมือนคราวก่อน  ซึ่งตำแหน่งที่ให้ไอ้รุ่นพี่นี่จอดก็เหมือนกับตอนไอ้กราฟมารับผม

ตอนแรกพี่ชมพูก็งงๆ ว่าทำไมผมต้องบอกทางมัน ทั้งที่มันก็รู้อยู่แล้วว่าบ้านผมอยู่ที่ไหน เพราะก่อนหน้านี้มันไปรับไปส่งผมทุกวัน แต่พอมาถึงแล้วมันก็เหมือนจะเข้าใจ

“ถึงขั้นต้องปีนเข้าบ้านเลยเหรอ”

“ใช่”

ในเมื่อไอ้พี่ชมพูบอกให้ผมทำตัวปกติ ผมก็ตอบกลับไปแบบที่เป็นตัวเอง ไม่ต้องคงต้องครับกับมันอีก แต่แบบนี้ก็ดี รู้สึกสบายใจขึ้นเหมือนกันที่ไม่ต้องมาคอยพูดจาแบบที่ไม่ใช่ตัวเอง ถึงแม้ว่าจะหลุดๆ ไปซะส่วนใหญ่ก็เหอะ

“งั้นก็ปีนเข้าบ้านดีๆ อย่าตกกำแพงแข้งขาหัก”

“โหย ระดับไหนแล้ว ไม่ต้องแช่ง”

มันกลั้วหัวเราะเบาๆ เพราะคำพูดประโยคนั้นก่อนจะต้องหัวเราะมากขึ้นเพราะผมอวยพรกลับไป

“พี่ก็ขับรถกลับดีๆ แล้วกัน อย่าไปทับหมาที่ไหนตาย ขอบคุณที่มาส่ง”

“ไม่ขอบคุณที่เลี้ยงไอติมด้วยหรือไง”

นั่น มีทวง แต่พอมันพูดถึงแล้วก็ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้อีกว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่กินไอศกรีมฟรี...

แม่ง เสียจูบฟรี

“ยังกล้าทวง?”

“ฮ่าๆๆๆ” มันหัวเราะใหญ่พอผมทำตาเขียวใส่ “นั่นดิ ได้ของดีมากกว่าคำขอบคุณแล้วนี่หว่า”

โอ๊ยย อยากกลับไปเซเว่นแล้วเอาไม้ไอติมมาแทงจมูกมันฉิบหาย!!

“ไปๆ เข้าบ้านไปได้แล้วไป”

หัวเราะจนพอใจแล้วแม่งก็ไล่กันเลย ผมหันไปเปิดประตูรถเตรียมก้าวขาลง แต่ว่าไอ้คนข้างหลังก็รั้งไว้อีก

“เกงยีน”

“อะไร”

แต่เมื่อหันไปแล้วผมก็ต้องหายใจค้างเพราะว่าริมฝีปากอุ่นๆ ของไอ้คนขับดันมาประทับที่หน้าผากพอดิบพอดี ...แบบจงใจ

“ฝันดีนะครับ”

คำพูดง่ายๆ ที่มันไม่เคยพูดดังตามมาพร้อมรอยยิ้ม เล่นเอาผมหน้าชาจนต้องหันหนี รีบลงจากรถแล้วปิดประตู ไม่หันหลังกลับไปสนใจมันอีกเพราะไอ้อาการเชี่ยๆ ที่มันเกิดกับหัวใจ

สาดดด ทำไมมันสั่นจังว้าาา??










==================
จะบอกว่ายังไงดี น่ารักทั้งพี่ชมพู ทั้งน้องเกงยีนเลยตอนนี้
พี่ภูเห็นน้องปากส้มเข้าหน่อย มันเลยอดใจไม่ไหวเหรอคะ?
น้องเกงยีนแอบมีใจเต้นกับเขาแล้ว เริ่มมีเค้าลางดีๆ แล้วล่ะ

เมนต์ตอนก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าให้ยีนใจอ่อนเพราะพี่ภูน่ารักน่ากด  o22
อย่าเพิ่งปักใจอย่างนั้น ถึงพี่ภูจะดูเสนอตัวมากก็ตาม ฮ่าๆๆ

ส่วนเรื่องกราฟ มีเฉลยค่ะ แต่ยังอีกนาน ^^

แล้วเจอกันต่อหน้าค่ะ ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ




Undel2Sky










« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2013 00:14:27 โดย undersky »

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
น่ารัก คำเดียวว่าน่ารัก เป็นของตัวเองได้แล้วววววววววว

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

ออฟไลน์ akera

  • I love him anymore. but he love him.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น่ารักจัง
เป็นกำลังใจให้จร้า

ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0

ออฟไลน์ naumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

อ่านตอนนี้แล้วจะละลาย ทำไมช่างน่ารักเยี่ยงเน้ๆๆๆๆๆ

 :m3:

ออฟไลน์ Petalkiss

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
น่ารักมากกกกกก
อ่านตอนนี้แล้วยิ้มเป็นบ้าเลย~ 555
ชอบฉากจูบตอนกินไอติม.. น่ารักและแอบโรแมนติกนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Eshardy

  • "ไม่พูด...ไม่ได้แปลว่า...ไม่รู้สึก"
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-3
555  น่ารัก  ยักษ์คู่ รสส้ม กับ  ปาก เย็นๆ หวาน ๆ เพ่ พู เคลิ้ม เลย 

ออฟไลน์ fox

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อร๊ายยยย....มนต์รัก ยักษ์คู่  ต้องไปหามากินบ้างแระ คึคึ
 :-[

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
เค้าเริ่มหวานกัรแล้ววววว o13

donghwa

  • บุคคลทั่วไป
ว้ากๆๆๆๆๆๆๆ อ่านเรื่องนี้แล้วจะชักตาย
ทำไมน่ารักอย่างนี้
โฮกกกกกก ไม่ไหวแล้วพี่ภูน่ารักอ่ะ
ทำเอาเกงยีนใจอ่อนเลย
แต่ว่านะตอนที่พี่ภูพูดถึงเรื่องตัวเองเป็นเมียแล้วมันแบบ....................เยดเข้!
พี่ภูเลิกเล่นเหอะมุขเนี้ย ไม่ไหวจริงๆพี่

kisz

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักเกิ๊นนนนนน อร๊ายยย

ออฟไลน์ sembia

  • Me as me.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น่ารักมากกกกกก :o8:

อ๊ากกกกกก     อยากให้เป็นแฟนกันเร็วๆจัง :-[ :impress2:

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
สรุป  พี่ชมภูจะยอมเป็นเมียน้องเกงยีนจริงๆใช่ป่ะ   55555

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เกงยันน่ารักเวอร์ :z2:
กด+เป็ดจร้า

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
อือ...ชักจะเยอะอย่างที่ว่า  :m3:

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น่ารักอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา







 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด