It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]  (อ่าน 602078 ครั้ง)

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
เรื่องนี้สนุกค่ะ สำนวนถูกใจ และกวนๆดี อยากให้ต่อจนจบนะ อย่าเพิ่งเลิกนะกร๊ะ
รอตอนต่อไปจ้า

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



   เอาแล้วไง ความลับของนายกราฟคืออะไรนะ
   ท่าทางจะโหดร้ายน่าดู





ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
จะติดตามต่อไปนะครับ

ploylw_chery

  • บุคคลทั่วไป

AnimajuS

  • บุคคลทั่วไป
กราฟเป็นอะไรอ่ะ คงมีอะไรฝังใจกะสถานทีนี้แน่ๆเลย

Hakken

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอเฉลย

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ตอนที่ 22 : หึง หวง ห่วง





















“เฮ้ย มึงเป็นไงมั่ง”


“กูอยู่กับมึงเหมือนกันนะเว้ย”


สองเสียงจากไอ้กัสและไอ้เคลมดังขึ้นไกลๆ คิดว่ามันคงรีบลุกพรวดขึ้นมาชะโงกดูไอ้กราฟหลังจากได้ยินเสียงของผม แต่เวลานี้ผมไม่สนใจหรอก จับมือไอ้กราฟแน่นแล้วพร่ำเสียงเรียกให้มันหันมาหาผมให้ได้ ให้มันลืมเรื่องราวเลวร้ายที่กำลังแล่นพล่านในสมองของมัน


“มองหน้ากูสิ มองกู กูอยู่กับมึงนี่”


เพราะมันมองเหม่อไปไกล จุดรวมสายตาไม่ใช่หน้าของผมอย่างที่หวัง งผมถึงต้องดึงหน้ามันให้หันมา ก่อนจะโผตัวเข้ากอดมันเอาไว้ ให้มันรับรู้ว่าผมอยู่ไม่ไกล และกำลังกอดมันอยู่ตอนนี้ ให้มันจำได้ว่าไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็อยู่เคียงข้างมันเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังนิ่งเฉย ไม่รับรู้ถึงอุณหภูมิอุ่นๆ ของร่างกายผมที่กอดมันเอาไว้


“กูว่า รีบเข้าที่พักกันเถอะ น่าจะให้กราฟได้พัก”


เสียงพี่ปาล์มดังมาจากทางหน้ารถ ก่อนจะตามด้วยเสียงเปิดประตูรถ ผมจึงรีบดึงไอ้กราฟออกห่างจากตัว และจูงมือมันให้ลงมาจากรถด้วยกัน และก็เห็นว่าคนที่เปิดประตูรถไม่ใช่ใครเลย ก็คนที่พูดประโยคเมื่อครู่นั่นแหละ


ผมลงมาแล้วก็ยังจับมือไอ้กราฟไม่ปล่อย กระชับให้แน่นขึ้นด้วยซ้ำ เพราะเสียงคลื่นซัดสาดหาดทรายสะท้อนก้อง เป็นเสียงที่ผมเกลียดเอามากๆ เพราะว่ามันทำให้เพื่อนรักของผมต้องเป็นแบบนี้ ไอ้กราฟตัวสั่นมากกว่าเดิม หน้ามันซีดจนเกือบไม่มีสีด้วยซ้ำ เห็นแล้วก็สงสารมัน และก็ทำให้ผมเจ็บปวดไม่น้อยเหมือนกันที่ไม่สามารถช่วยให้มันหลุดพ้นจากฝันร้ายได้อย่างแท้จริง มันยังมีปฏิกิริยายามต้องเผชิญกับสถานที่แบบนี้


เราสองคนออกเดินนำไปยังทางเข้ารีสอร์ทซึ่งอยู่ตรงหน้า ไม่จำเป็นต้องห่วงพะวงว่ากระเป๋าเสื้อผ้าทั้งผมและไอ้กราฟจะถูกทิ้งเอาไว้บนรถ เพราะไอ้กัสกับไอ้เคลมแบกมาให้แน่นอนอยู่แล้ว เดินไปถึงผมก็ต้องหันไปมองคนอื่นๆ ที่เหลือ เพราะไม่รู้ว่าจองที่พักไว้ยังไงบ้าง ลุงรหัสไอ้กราฟก็กระตือรือร้นรีบถือกระเป๋าสัมภาระของตัวเองจ้ำมาหาผมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินเลยไปยังประชาสัมพันธ์ของรีสอร์ท สอบถามเรื่องการเช็คอินจนได้กุญแจห้องพักมาและกลับมาหาผมอีกครั้ง


ผมปล่อยมือไอ้กราฟออกเมื่อเห็นว่าไอ้กัสกับไอ้เคลมเดินมาประกบมันสองฝั่งแล้ว เพื่อไปขอกุญแจห้องกับพี่เจ๋ง พี่แกก็ส่งมาให้อย่างไม่อิดออดอะไร ผมจึงเดินกลับไปหาไอ้กราฟเพื่อไปที่ห้องพักด้วยกัน แต่เดินออกไปสองสามก้าว เสียงไอ้คนตัวใหญ่อีกคนก็ดังเสียก่อน


“ไอ้เกงยีน มึงจะรีบไปไหน”


“ก็ไปห้องพักสิครับ”


ผมตอบมันกลับไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะย่างเท้าอีกครั้ง มือยังจับกุมไอ้กราฟไม่ปล่อย สัมภาระต่างๆ ทั้งหมดอยู่ในมือเพื่อนรักอีกสองคนที่เตรียมเดินตามมาติดๆ


“แล้วมึงจะไปได้ยังไง มึงอยู่ห้องเดียวกันกับกู”


ไอ้พี่ชมพูมันว่าแบบนั้นพลางทำสีหน้าจริงจัง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะรั้งการกระทำของผมได้


“ผมจะนอนกับกราฟ”


“ไอ้กราฟก็ให้มันนอนกับลุงรหัสมันไปสิ แต่มึงต้องนอนกับกู”


คนเผด็จการยังไม่ยอมแพ้ แต่คราวนี้ผมไม่ยอมมันแน่ๆ เพราะผมห่วงเพื่อนมากกว่า ยิ่งยืนฟังเสียงลมกับคลื่นสาดเป็นระยะๆ ก็ทำให้ตัวมันเกร็งไปหมดแล้ว


เหี้ยเอ้ย มึงอย่ามารั้ง กูเสียเวลา!


“ผมจะนอนกับกราฟ แล้วพี่ก็ไม่ต้องมาเรียกร้องอะไรด้วย” พูดจบผมก็ดึงมือไอ้กราฟให้เดินตามกันไปทันที


ผมสาวเท้ายาวๆ ด้วยความรวดเร็วพาคนป่วยมาจนกระทั่งมาถึงห้องซึ่งมีเลขหมายตรงกับพวงกุญแจที่ผมถือ ไขประตูเข้าไปแล้วก็ตรงไปนั่งบนเตียงนุ่ม ก่อนไอ้กัสกับไอ้เคลมจะตามเข้ามา มันปิดประตูอย่างเรียบร้อยเพื่อไม่ให้มองเห็นทัศนีภาพภายนอกห้องมากนัก ซึ่งมันก็ช่วยได้เยอะ เสียงหายใจของไอ้กราฟผ่อนจังหวะลงบ้าง แต่ก็ยังไม่ทั้งหมด


ถ้าเป็นคนอื่นตามปกติแล้วผมคงหาน้ำมาให้ดื่มเพื่อให้รู้สึกสบายกายสบายใจมากขึ้น แต่สำหรับไอ้กราฟที่อยู่ในสภาพนี้ไม่ได้เลย เพราะถ้าผมทำแบบนั้น ไอ้กราฟได้อาการหนักกว่าเดิมแน่ สิ่งเดียวที่ทำได้จึงมีแค่กอดตัวมันจากด้านข้าง ให้มันได้รับสัมผัสอุ่นๆ จากผม ส่วนอีกสองตัวที่เหลือก็มาทิ้งตัวลงบนเตียงเหมือนกัน


“มึงเป็นยังไงบ้าง”


ไอ้กัสเป็นคนถาม น้ำเสียงมันแฝงด้วยความห่วงใย เพราะอาการของไอ้กราฟเป็นไม่บ่อย แต่ถ้าเป็นก็จะเป็นแบบหนักๆ และส่วนมากจะเป็นแค่วันนั้น ... สิบหกกรากฏา เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้น พวกผมไม่เคยมาทะเลอีกเลย


แต่ครั้งนี้กลับพลาด พลาดอย่างมหันต์


ผมไม่น่าปล่อยให้ไอ้พี่ชมพูแม่งทำเซอร์ไพร์สห่าเหวอะไรนี่เลย


อาการของไอ้กราฟถึงได้กำเริบแบบนี้


คิดถึงความผิดของตัวเองแล้วผมก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นกว่าเดิม ฟังคำตอบจากคำถามของไอ้กัส


“กูก็...ดีขึ้น....หน่อยแล้ว”


เสียงไอ้กราฟแหบพร่า ไม่มีน้ำหนักราวกับจะลอยปลิวไป ผมกระซิบบอกมันเสียงเบา


“ดีแล้ว มึงไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องนึกถึงเรื่องนั้น พวกกูอยู่กับมึงนี่ โดยเฉพาะกู กูรักมึงมาก รู้มั้ย”


“กูรู้ กูรู้ ขอบใจมึงมาก”


ไอ้กราฟหันมายิ้มให้ผมและตอบกลับมาอย่างที่ว่า ให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหน่อยที่ไอ้กราฟเริ่มอาการดีขึ้น แม้ว่าตัวมันจะสั่นอยู่นิดๆ หน้าก็เริ่มมีสีเลือดขึ้นมาบ้าง ไม่ขาวซีดเหมือนก่อนหน้านี้


“มึงไม่ต้องมาขอบใจกูหรอก ว่าแต่มึงโอเคขึ้นแล้วจริงๆ นะ”


“อืม กูพยายามอยู่ กูไม่อยากให้พวกมึงห่วงมาก”


“กูเป็นเพื่อนมึง ก็ต้องห่วงมึงอยู่แล้ว”


ไอ้เคลมว่า ผมก็พยักหน้าเห็นด้วย ไอ้กราฟจึงผลิยิ้มได้นิดหน่อย แค่จางๆ เหมือนคนไม่ค่อยมีแรงสักเท่าไหร่ แต่ผมเข้าใจอาการมันดี


“มึงจะนอนพักหน่อยมั้ย”


รู้ว่ามันคงเหนื่อยกับอาการบ้าๆ แต่ไม่สามารถห้ามปรามตัวเองไม่ให้เป็นอย่างนั้นได้ เพราะมันออกมาจากจิตสำนึกส่วนลึกที่ฝังอยู่ในใจ ที่ผมถามมัน จริงๆ แล้วก็อยากให้มันได้พักนั่นแหละ เพราะต้องตื่นมาแต่เช้า หนำซ้ำยังต้องรู้สึกหวาดกลัว เสียใจ ปวดร้าว จนร่างกายเกิดปฏิกิริยาแบบนี้


“อืม ก็ดี”


หลังจากได้ยินเสียงไอ้กราฟ เคลมก็รีบผลุงตัวไปที่หัวเตียง ดึงผ้าห่มออกจากหัวเตียง รั้งมันลงมาเกินครึ่งทาง ก่อนไอ้กราฟจะขยับตัวไปหนุนหมอน รอการปรนนิบัติจากไอ้เคลมที่ค่อยๆ ห่มผ้าให้กับมัน ส่วนผมก็ถอดแว่นออกและวางไว้บนโต๊ะที่อยู่หัวเตียง แล้วจึงสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มข้างๆ มัน วาดแขนขึ้นกอดคนที่ตัวสูงกว่าตัวเองไม่มากนัก ตามด้วยไอ้กัสกับไอ้เคลมที่สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มเหมือนกัน ไอ้เคลมมันเข้ามากอดก่อน ไอ้กัสก็ตามมากอดโดยเอื้อมแขนยาวมาวางบนตัวไอ้กราฟเบาๆ แค่เพียงเล็กน้อย แต่มันก็อยากจะให้ไอ้กราฟรู้สึกว่า เรายังอยู่ด้วยกัน


ไม่ว่าเมื่อไหร่ หรืออีกนานแค่ไหน ผมก็หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนกัน อยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไป
























ผมสะดุ้งตื่นเพราะแรงเขย่าเบาๆ ที่ต้นแขน พอเปิดตามาก็เห็นคนรบกวน ไม่ใช่ใครเลย ไอ้พี่ชมพูนั่นแหละ มาปลุกกูทำไมเหี้ยอะไรวะ


“มีอะไร”


ถามมันครับ แต่ไม่ได้ลุกขึ้นมาคุยกับมันอย่างเป็นกิจลักษณะ มันเลยดึงตัวผมขึ้นมา แต่ผมก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆ ให้มันฉุดขึ้นไปง่ายๆ พยายามแกะมือมันออกจากแขน คราวนี้มันเลยโน้มตัวลงมาประคองผมทั้งตัวเลย แขนใหญ่นั่นสอดใต้หลังผมดันขึ้นมา แล้วพอผมดีดตัวจะให้หลุดออกจากวงแขนของมัน ไอ้แรงควายก็กระซิบเสียงเบาๆ แต่หน้ามันอยู่ข้างหูผมเลย เหยดดดด


“ถ้ามึงดิ้นอีก กูจะตะโกนปลุกเพื่อนมึงให้ตื่นมาดูกูจูบมึง”


สิ้นเสียงมันผมก็นิ่งสนิทเลย มันอยากทำอะไรก็ปล่อย ช่างแม่ง ไอ้พี่ชมพูเลยยิ้มอย่างได้ใจ แต่ผมตวัดตาห้วนใส่ตอนมันจับผมนั่งดีๆ แล้ว


“กูมาปลุกมึง เพื่อนมึงด้วย ไปกินข้าว บ่ายสองแล้ว เดี๋ยวจะประชุมเรื่องถ่ายหนัง จะเริ่มถ่ายกันเลยหลังจากประชุมเสร็จ”


แม่ง โคตรรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน เบิกตากว้างหน่อยๆ อย่างตกใจ ถึงจะรู้อยู่แล้วว่ามาที่นี่ต้องมาเล่นหนังสั้นโปรเจกต์ของพวกรุ่นพี่ แต่มันไม่ให้เวลาเตรียมตัวเลย บทยังไม่อ่านด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเป็นหนังแนวไหน นี่ถ้ามันหลอกพวกผมมาถ่ายหนังโป๊ ไม่แย่เหรอวะ


“ปลุกเพื่อนมึงได้แล้ว เร็วๆ ล่ะ เดี๋ยวกูไปช่วยพวกนั้นเตรียมของก่อน เจอกันที่ห้องอาหาร ห้ามเกินสิบนาทีนะเว้ย”


ไอ้พี่ชมพูว่าอย่างนั้นแล้วก็เดินออกไป ผมเลยจำต้องปลุกไอ้พวกที่เหลือให้ตื่นขึ้นมา มันก็ไม่ได้ตื่นกันยากครับ ผมเลยไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ แต่พอตื่นมาแล้วก็อดห่วงไอ้กราฟไม่ได้ ผมรีบถามมันทันที


“มึงเป็นยังไงมั่ง”


“ก็โอเคขึ้นแล้ว”


ไอ้กราฟมันตอบกลับมายิ้มๆ ให้ผมสบายใจ ผมเองก็โล่งใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกันหลังจากเห็นว่ามันเป็นปกติแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่วายกังวลเมื่อนึกถึงเรื่องที่ไอ้รุ่นพี่หมีควายมันบอก


“แล้วถ้ามึงต้องออกไปข้างนอก มึงจะเป็นอะไรหรือเปล่าวะ”


ไอ้กราฟหยุดคิดนิดนึง มองหน้าผมพลางสลับไปมองอีกสองตัวที่เหลือ มันเม้มปากนิดหน่อยก่อนจะหันกลับมาตอบ ไอ้กัสกับไอ้เคลมก็รอลุ้นอยู่เหมือนกัน


“กู........จะพยายาม”


เสียงมันตอบแผ่วเบา เพราะมันคงไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอาการแบบนั้นจะกลับมาอีกหรือเปล่า ผมกับเพื่อนๆ ก็กลัวในเรื่องเดียวกัน


“เอาเถอะ ยังไงพวกกูก็อยู่ข้างมึง มึงไม่ต้องห่วง”


ไอ้กัสตบบ่าไอ้กราฟหนักๆ ให้มันรู้สึกดีขึ้น ผมเองก็ยิ้มให้มันแล้วก็เสริมไปอีก


“ถ้ามึงรู้สึกแย่ มึงอย่าลืมคิดถึงกูนะ จำที่เราสัญญากันได้ใช่มั้ย”


“อืม กูจะคิดถึงมึง”


กราฟสบตาผมแล้วยิ้ม คำสัญญาระหว่างเรายังคงแน่นแฟ้นและจะคงอยู่ต่อไปจนกว่าเราจะตายกันไปข้าง ผมย้ำกับมันแบบนั้นตั้งแต่ตอนสร้างคำสัญญาระหว่างกัน


“อย่าลืมคิดถึงกูด้วยเหมือนกันนะ” ไอ้เคลมครับ ขอเสือก “กูจะดูแลมึงอย่างดีเลย”


แต่ไอ้กราฟดันหันมามองผมสลับไอ้กัส พึมพำเบาๆ เหมือนไม่ให้ไอ้เคลมได้ยิน แต่ไม่เป็นงั้น เพราะไอ้กราฟจงใจเบาเสียงให้ไอ้เคลมได้ยินเบาๆ นั่นแหละ


“เชื่อได้เปล่าวะ”


“ได้สิวะ ดูถูกกกก!!”


แล้วพวกผมก็หัวเราะกันเลย ไอ้เคลมมันชอบทำให้พวกผมขำกันบ่อยๆ ถึงจะไม่ได้เป็นเรื่องน่าขำอะไรมาก แต่น้ำเสียงของมันก็เล่นเอาฮาแล้วครับ


“เออ ถ้างั้นกูว่ารีบไปกันดีกว่า เดี๋ยวไอ้พี่ชมพูแม่งบ่นอีก”


พอผมบอกแบบนั้นทุกคนก็พร้อมใจกันลุกจากเตียง เดินออกไปตามสถานที่นัดหมายที่ผมบอกไว้ แล้วเมื่อไปถึงไอ้พวกเพื่อนเชี่ยของผมมันก็กระจายตัวนั่งอย่างกับนัดหมายกันไว้ เหลือให้ผมเลือกได้แค่ที่เดียวคือข้างไอ้พี่ชมพูนั่นแหละ แสรดดดดดดด


พวกเรากินข้าวกันเพราะพวกรุ่นพี่สั่งกันมาเต็มโต๊ะแล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าอาหารอะไร เพราะยังไงก็กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น ลูกคนรวยกันหมดนี่ครับ ไม่รวยจริง อย่าแหย็มมาเรียนมหา’ลัยผมเลย ไม่มีวันได้เอาตีนแตะพื้นหรอก


แดกข้าวเสร็จเรียบร้อย จานอาหารมากมายเต็มโต๊ะก็ถูกเก็บจนเรียบ บริกรมาเช็ดโต๊ะให้อย่างสะอ้านสะอาด ไอ้พี่ชมพูเลยทิปให้แบงค์ม่วงครับ หยิบให้อย่างไม่เสียดาย ตังค์มันเยอะ คงไม่จนง่ายๆ


“ที่นี่บริการดีเนอะ”


ไอ้เคลมครับ เสือกไม่เข้าเรื่อง


“ไม่ดีได้ยังไง ของพ่อไอ้ภูมัน”


พี่เจ๋งตอบ เล่นเอาไอ้เคลมตาโตเลย


“รีสอร์ทนี่ของพ่อพี่ภูจริงดิ”


“แปลกตรงไหนวะ”


“เปล่าๆ ทีหลังผมมาจะได้ขอพักฟรีไง”


ไอ้เคลมพูดติดตลก แต่เอาจริง ทำตาปิ๊งๆ ใส่ไอ้พี่ภูของมัน มันคงลืมไปมั้ง ว่าตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อสามปีก่อน ตีนพวกเราสี่คนไม่เคยแตะหรือก้าวเข้าเขตทะเลเลยสักครั้ง พวกเราไปไหนไปด้วยกัน เพราะงั้นไอ้สถานที่ที่จะทำให้ไอ้กราฟทรมานแบตายย่อมไม่อยู่ในหัว


“เออ มึงบอกแล้วกัน กูลดราคาให้”


พี่ชมพูพูดที เล่นเอาฮาครืนทั้งโต๊ะ เพราะไอ้เคลมขอฟรี แต่ไอ้พี่ชมพูแม่งเสือกตอบว่าจะลดให้ ไอ้เคลมเลยแกล้งทำหน้าบูดปากยื่นใส่เลย แต่มีหรือว่าไอ้พี่ชมพูจะสน มันพูดเรื่องใหม่แทน


“นอกจากทะเล ก็มีบนเขา ใกล้น้ำตกก็มี”


“โหๆ แบบนี้ก็เจ๋งเลยดิ จะไปเที่ยวไหนก็สบาย”


“เออ ก็อย่างนั้นแหละ พวกมึงด้วย ถ้าไปเที่ยวไหนบอกกูแล้วกัน เผื่อไม่ใช่ของกู ก็พอหาพวกพ้องได้”


“โห แม่งโคตรดีอะ”


ไม่ว่าเปล่า ยังหันมาเริงร่ากับพวกผมอีก ผมทำหน้าเอือมๆ มันที่ชอบทำตัวดี๊ด๊าเกินเหตุ ก็ขำดี แต่บางทีก็หมั่นไส้ เหมือนตอนนี้ ผมเลยแทรกบทสนทนาของไอ้รุ่นพี่รุ่นน้องขาบอล


“แล้วเรื่องบทที่จะให้พวกผมแสดงล่ะครับ พี่เจ๋ง”


โน โน เรื่องอะไรผมจะถามมัน ผมหันไปถามพี่เจ๋ง ลุงรหัสแสนดีของไอ้กราฟ เมินคนข้างตัวที่พูดจ้อกับเพื่อนผมเมื่อกี้


“อ้อ นี่เลย” เหมือนจะเพิ่งนึกได้เหมือนกัน พี่เจ๋งหยิบกระดาษเอสี่แจกพวกผมคนละแผ่น “ไม่มีอะไรมากหรอก บทของพวกมึงก็มีแค่นี้แหละ”


ผมกวาดตามองในกระดาษ ไอ้พวกนั้นก็เหมือนกัน ก่อนจะเงยหน้าถามหลังจากอ่านไปได้นิดหน่อย


“เป็นเพื่อนกันเหรอ”


“ใช่ เป็นเพื่อนรักที่สนิทกันมากๆ มาเที่ยวด้วยกัน แต่ดันมาถูกใจหญิง ต่างคนต่างก็ชอบผู้หญิงคนนี้”


เดาไม่ยากเลยครับว่าคนที่แสดงเป็นผู้หญิงที่พวกผมชอบเป็นใคร จะมีใครซะอีก ถ้าไม่ใช่พี่ปาล์มคนสวย ขวัญใจผม


“แล้วพวกมึงก็แตกคอกันเอง ทำลายมิตรภาพกันง่ายๆ เพียงเพราะผู้หญิงคนเดียว แต่ไอ้กัสเป็นคนได้ไป ผู้หญิงคนนั้นดูมีใจให้ เลยเย้ยเพื่อนคนอื่นๆ แต่ก็มาพบความจริงว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คน”


ฟังพี่เจ๋งเล่าแล้วผมสะดุ้งเบาๆ ตรงประโยคสุดท้าย พี่ปาล์มเล่นเป็นพี่สาวแสนสวยเหรอเนี่ย? แต่ถ้าเอาจริงๆ ผมก็...แอบกลัวผีเบาๆ เหมือนกัน ถ้าเป็นสถานที่คุ้นเคย ผมจะเฉยๆ แต่ถ้าเป็นที่อื่น...เก่งๆ แถมหล่ออย่างผมก็หวั่นๆ อยู่เหมือนกัน ก็ยังไม่ได้ทำความรู้จักกับผีประจำถิ่นนี่ครับ


“พอรู้ ไอ้กัสก็ไปบอกต่อเพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็ไม่เชื่อ ไอ้เคลมเลยเอามั่ง ไปหาผู้หญิงคนนั้น แต่ก็ได้รู้ความจริง กราฟกับยีนยังไม่เชื่อ กราฟเลยถือโอกาสเข้าหา แต่เกือบเดินลงทะเลตายตามผู้หญิงคนนั้นไปด้วย ส่วนยีน เพื่อนโดนมาสามคนแล้วมึงเลยเชื่อ ไม่ลองของอีก”


ไอ้กราฟหน้าซีดนิดๆ เมื่อรู้ว่าบทของมันต้องเผชิญอะไร แล้วก็ไม่ใช่แค่มันด้วย คนอื่นๆ ก็มองกันเลิ่กลั่กอย่างหวั่นๆ ผมเลยโพล่งออกมาแทน


“บทกราฟเปลี่ยนเป็นผมได้มั้ยครับ”


เสียงคราง หืม พร้อมมองหน้าผมกันเป็นตาเดียวทำให้ผมต้องอธิบายเพิ่ม


“พอดีไอ้กราฟมันไม่ค่อยถูกกับน้ำทะเลเท่าไหร่น่ะครับ เดี๋ยวมันไม่สบายเอา”


พอผมบอกแบบนั้น ทุกคนก็หันไปถามความคิดเห็นกัน ไอ้พี่ชมพูก็หันมาถามผมเหมือนกัน


“มึงจะเอาอย่างนั้นจริงเหรอ ต้องลุยทะเลตอนกลางคืนนะเว้ย”


มันพูดเหมือนห่วงๆ แต่สำหรับผม สบายครับ เรื่องแค่นี้ ไม่ต่างจากนั่งขี้ทุกเช้าหรอก อย่ามามองว่ากูอ่อน


“ก็ไม่เห็นมีอะไรจะต้องกลัว” ผมบอกมันแล้วก็หันไปย้ำกับพี่คนอื่นๆ “นะครับ ให้ผมเป็นคนเดินลงทะเลแทนไอ้กราฟ ส่วนกราฟก็ให้ยอม ไม่ไปหาผีผู้หญิงนั่น ส่วนบทอื่นๆ ก็ตามเดิม โอเคนะครับ”


ลงท้ายด้วยเสียงอ้อนนิดๆ ให้พวกพี่เขายอมใจอ่อน แล้วก็คงได้ใจพี่ปาล์มล่ะมั้ง พี่คนสวยเลยฉีกยิ้มกว้าง


“ก็ได้ เปลี่ยนเป็นยีนก็ดีเหมือนกัน” พี่ปาล์มว่าอย่างนั้นแล้วมองผมตาเป็นประกาย เล่นเอาเขินหน่อยๆ เลย ก็คนสวยๆ ที่ถูกใจมองกันซะขนาดนี้ “ได้เห็นเสื้อแนบเนื้อยีนก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย”


ตามด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ แต่ทำให้ผมยิ้มตามเลย พี่ปาล์มน่ารักมากครับ เจอกันทีไร ทำผมปลื้มได้ทุกที แต่คำพูดของพี่ปาล์มเมื่อกี้ของไม่เข้าหูไอ้พี่ชมพูสักเท่าไหร่ มันเลื่อนมือมาโอบเอวผมไว้ ผมเลยหันไปมองหน้ามัน ทำตาดุใส่เป็นเชิงสั่งให้มันปล่อยซะ ไม่อยากพูดออกไปเพราะกลัวคนอื่นรู้ แต่ไอ้เชี่ยพี่ชมพูก็จับหนึบ ไม่ยอมปล่อยอยู่ดี ผมเลยต้องพูดเสียงลอดไรฟัน


“ปล่อย”


มันได้ยินผมชัดๆ แต่เสือกทำลอยหน้าลอยตา ผมเลยเอาศอกกระทุ้งท้องมันเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ยอมทำตามที่ผมบอกอยู่ดี ยังมีหน้ามาพูดเสียงเบากลับ


“แล้วมึงมองไอ้ปาล์มตาเยิ้มทำไม”


“มองไม่ได้หรือไง”


“ไม่ได้” มันทำเสียงแข็งครับ ก่อนจะอ่อนลงหน่อย “กูหึง”


ไอ้เหี้ยยยยยยยย อยู่ๆ แม่งก็พูดแบบนี้ออกมา เล่นเอาผมทำหน้าไม่ถูกเลย เบือนหน้าหนีมันเพราะรู้สึกหน้าร้อนๆ ขึ้นมาหน่อย แล้วพี่ปาล์มดันจับสังเกตได้ คำพูดของพี่ปาล์มอย่างกับเครื่องประหารหัวหมาฟันคอผมฉับ


“ไอ้ภูมึงพูดอะไรเนี่ย น้องยีนเขินหน้าแดงแปร๊ดเลยเนี่ย”


เท่านั้นไม่พอ ยังชะโงกหน้าสวยๆ มาทางผมอีก แม่ง อายเหี้ยๆ เสียงคนอื่นในโต๊ะหัวเราะกันอย่างพอใจเหมือนเสียงสวดให้ผมลงนรกก็ไม่ปาน โอ๊ย แบบนี้มันกระทืบกูจมดินชัดๆ


“ยีนจ๋า น้องยีน หันมาให้ดูหน้าหน่อย พี่อยากเห็น”


ผมโดนคนสวยรังแกครับ พี่ปาล์มยื่นมือมาจะจับหน้าผมให้หันไปทางพี่แกให้ได้ แต่ก่อนมือจะมาโดนผมจริงๆ เสียงทุ้มที่ออกโหดนิดๆ ก็โพล่งขึ้นมาก่อน


“ไอ้ต้น เก็บคนของมึงเลย อย่ามายุ่งกับคนของกู”


ประโยคท้ายทำผมหันควับ ถลึงตาใส่ไอ้คนพูด พลางถามเสียงเบาอย่างสุดๆ


“ใครเป็นคนของพี่”


“ก็มึงไง”


“ไม่ใช่”


“ตอนนี้ไม่ใช่” พี่ชมพูโน้มหน้าเข้ามาจนชิดคอผม กระซิบติดหู “แต่มึงอยากใช่หรือเปล่า เดี๋ยวกูทำให้เป็น....ทางพฤตินัย”


ไอ้สัด!! มันพูดพลางกระหยิ่มยิ้มอย่างพอใจ แต่ผมผลักมันออกสุดแรง ก่อนจะต้องอับอายฉิบหายเพราะเสียงมันหัวเราะอย่างได้ใจ พลอยให้คนอื่นๆ ยิ้มกันแก้มจะแตก ไอ้เลววววว








ต่อด้านล่างค่ะ
v
v

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ต่อจากข้างบน
v
v












เล่นละครลิงให้คนทั้งโต๊ะดูแล้ว ผมก็กลายเป็นเป้าสายตา ทุกคนมองผม จากผมคนที่กล้าๆ กลายเป็นหงิม ก้มหน้างุด ไม่กล้าสู้สายตาใคร แล้วพี่ต้นผู้แสนดีมากๆ ก็ช่วยชีวิตผมเอาไว้ ทั้งที่พี่ปาล์มเพิ่งกดหัวผมจมน้ำเมื่อกี้


“พอพวกมึงรู้แล้วว่าความจริงเป็นไง ก็กลับมาคืนดีกันอีกครั้ง สัญญากันว่าจะไม่ให้ผู้หญิงมาทำให้แตกกันอีกแล้ว”


“เท่านี้ พวกมึงพอจะเก็ตมั้ย”


พี่เจ๋งเป็นคนตัดจบ พวกผมก็โขยกเขยกหัวตอบ ไอ้ผู้กำกับที่นั่งอยู่ข้างผมเลยออกคำสั่งให้เตรียมตัวเริ่มถ่ายทำกันทันที


เริ่มฉากอย่างที่พี่เจ๋งเล่า พวกผมก็เฮฮากันตามประสา สนุกสนานกันไป ไม่ยากเท่าไหร่ เพราะมันเหมือนเป็นตัวเอง ผมได้กลับมาใช้นิสัยเดิมอีกครั้ง ไม่ต้องแกล้งทำเป็นเรียบร้อย แต่ยังได้ใส่แว่นเหมือนเดิม แค่ต่อบทไปตามพล็อตที่พี่เจ๋งวางไว้


ไอ้พี่ชมพูเป็นผู้กำกับคอยดูภาพรวมของการแสดง พี่ต้นเป็นตากล้อง พี่เจ๋งก็คอยเช็คว่าพวกผมแสดงไปตามบทที่เขาวางไว้มั้ย พี่ปาล์มเตรียมเป็นผีสาวที่จะมาทำให้พวกผมตกหลุมรัก พี่แชมป์กับพี่บอสคอยอำนวยความสะดวกต่างๆ นานา ให้พวกผม มีบ้างที่เป็นตากล้องภาพนิ่ง เก็บภาพเรื่อยๆ เพราะหน้าที่ของพี่เขาคือตัดต่อกับซาวน์เอฟเฟกต์


การถ่ายทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพราะไม่มีรีเฟลกซ์ ไม่มีมอนิเตอร์ ดอลลี่ หรือทรีพ็อด มีเพียงแค่กล้องโปรของพี่ต้น และไวเลสห้าตัวสำหรับพวกผมและพี่ปาล์ม


ไอ้พี่ชมพูคอยดูการแสดงกับมุมกล้องของพี่ต้น ส่วนพวกเราแสดงกันข้ามฉากเพราะว่าจะต้องเก็บฉากตามเวลา เพื่อจะได้ทำงานให้เสร็จเร็วที่สุด แต่จะช้าหน่อยตรงฉากที่ต้องถ่ายริมทะเล เพราะไอ้กราฟใกล้น้ำทะเลไม่ได้ แค่มันพยายามแสดงแต่ละฉากให้สำเร็จก็เต็มกลืน ผมต้องคอยอยู่ข้างๆ มัน จับมือมันบ้าง กอดมันบ้าง เพื่อให้มันรู้สึกดีขึ้น ไอ้กัสไอ้เคลมก็ช่วยกันยืนอยู่ข้างๆ มันตลอด จนตอนนี้เหมือนไอ้กราฟกลายเป็นไข่ในหินให้พวกผมคอยปกป้อง


กว่าจะผ่านฉากช่วงกลางวันทั้งหมดได้ ท้องฟ้าก็เข้าสู่ความืดพอดี พวกผมไม่มีเวลาได้พักผ่อนอย่างที่พวกพี่เขาตั้งใจเอาไว้ แต่พวกรุ่นพี่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะเห็นอาการไอ้กราฟก็พอเข้าใจคร่าวๆ ว่ามันคงไม่ถูกกับน้ำทะเลจริงๆ ส่วนผม พอช่วยปลอบไอ้กราฟทีไรก็ถูกไอ้พี่ชมพูมองตาขวางเป็นทุกที แต่ผมก็ปล่อยมันไป เพราะกราฟสำคัญกว่า และมันไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องไปอธิบายด้วยว่าทำไมผมต้องคอยอยู่กับไอ้กราฟตลอดเวลา


พวกเราพักกองมากินข้าวเย็นกัน ก็ปาไปหนึ่งทุ่มแล้ว คุยกันพลาง กินไปพลาง แต่ก็ต้องทำเวลาหน่อย เพราะมีฉากตอนกลางคืนอีกประมาณห้าฉากที่ต้องถ่าย ถ้ากินเสร็จช้า ช่วงเวลาที่ต้องถ่ายก็ต้องยืดไปอีก เพราะฉะนั้นพอกินเสร็จ พวกเราก็เริ่มทำงานต่อ


เรื่องเสื้อผ้าหน้าผมก็ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เพราะเสื้อผ้าเรามีมาเผื่ออยู่แล้ว ที่ไม่พอก็ยืมพวกรุ่นพี่ได้ เพราะตัวไล่ๆ กัน มีผมนั่นแหละที่ผอมกว่าคนอื่นๆ ใส่อะไรก็หลวม สุดท้ายก็ต้องยืมของพี่ปาล์มมาใส่ เพราะตัวพอกัน แต่พี่ปาล์มมีหน้าอกเลยใหญ่ไปนิดนึง แต่ดูแล้วก็ไม่หลวมเท่าของพี่คนอื่นๆ แถมเสื้อพี่ปาล์มก็ไม่หวานอะไรมากด้วย ผมเลยหยวนๆ


ปกติแล้วเวลาผมไม่มีเสื้อผ้าใส่ ผมก็ยืมไอ้กราฟแหละครับ ไซส์ไอ้กราฟใกล้ผม ถึงจะหลวมนิดหน่อยแต่ก็ไม่น่าเกลียด แต่ของมันก็ถูกใช้หมดแล้วเลยไม่มีให้ผม ส่วนมันตอนนี้ก็ใส่ของพี่ต้น ไอ้กัสไอ้เคลมใส่ของพี่แชมป์พี่บอส ของไอ้พี่ชมพูไม่มีคนใส่ครับ เพราะตัวมันหนากว่าชาวบ้าน ของพี่เจ๋งก็พอๆ กับพวกพี่คนอื่นๆ แต่ว่ามันครบแล้ว


พวกเราแสดงกันฉากต่อฉาก กระทั่งมาถึงฉากที่ผมต้องเดินลงทะเล มีพี่ปาล์มใส่ชุดกระโปรงยาวถึงเข่าสีขาวจูงมือผมเดินลงน้ำไปเรื่อยๆ น้ำที่อยู่ระดับข้อเท้าเพิ่มขึ้นจนถึงเอว แต่ก็ยังไม่หยุด โดยมีพี่ต้นถือกล้องเดินตาม ไอ้พี่ชมพูมาติดตามดูผลงานตามหน้าที่


เมื่อเดินมาถึงจุดที่น้ำอยู่ระดับอก เป็นฉากที่ร่างบอบบางในชุดขาวหายตัวไปต่อหน้า พี่ปาล์มก้มลงมุดหลบออกจากฉากไป ปล่อยให้ผมแสดงต่อ ผมทำหน้าตื่นตระหนก หมุนมองรอบตัวแต่ไม่เห็นอะไรสักอย่าง แล้วก็ค่อยแสร้งทำหน้าหวาดผวา รู้แล้วว่าคนที่ตัวเองเดินตามมาไม่ใช่มนุษย์อย่างที่เพื่อนบอกเอาไว้ ก็รีบวิ่งเข้าชายหาดอย่างตื่นกลัวทันทีทันใด โดยมีพี่ต้นวิ่งตามมาติดๆ แต่วิ่งยังไม่ทันถึงหาด เพียงแค่น้ำระดับเอว ผมก็สะดุดล้มลงไปในน้ำทั้งตัว รู้สึกเจ็บแปลบที่ขา แต่ก็ยังตะเกียกตะกายเพื่อให้พบกับอากาศด้านบน ได้ยินเสียงแว่วๆ ตะโกนแหวกน้ำลงมา


“ไอ้เกงยีน!!”


ผมรู้สึกเหมือนว่ามีมือใหญ่คู่หนึ่งพยายามควานหาผม ก่อนจะฉุดแขนของผมเอาไว้ได้และดึงผมขึ้นมากอดแน่น ตัวผมเปียกม่อล่อกม่อแล่ก วางหน้าไว้บนอกกว้าง หายใจหอบถี่เพราะเมื่อกี้สำลักน้ำเค็มๆ ไปนิดหน่อย เสริมด้วยไอเป็นระลอกก่อนได้ยินเสียงแว่วๆ ของพี่ต้นตามมา


“เป็นยังไงบ้าง”


ผมเงยหน้าผ่านบ่าหนาไปมองคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง รู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก และไม่ทันได้ตอบ คนที่กอดผมเอาไว้ก็เปิดปากพูดเสียก่อน


“กูว่าอย่าเพิ่งถามอะไรเลย เอาไอ้เกงยีนมันขึ้นฝั่งก่อน”


“เออๆ”


พี่ต้นรับคำก่อนพี่ชมพูจะจับผมพลิกกลับและพยุงให้เดินขึ้นฝั่งไปด้วยกัน แต่แค่ก้าวขาออก ผมก็รู้สึกเจ็บจิ๊ดขึ้นมาที่ขาด้านซ้ายจนเผลอร้องออกมา พานให้คนที่พยุงผมเอาไว้เลิ่กลั่กถาม


“เฮ้ย มึงเป็นอะไร”


“เจ็บ...ขา สงสัยเป็นตะคริว”


ผมตอบช้าๆ เพราะยังรู้สึกเหนื่อยอยู่ แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว ดีว่าพี่ชมพูช่วยดึงผมขึ้นมา ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าผมจะพาตัวเองขึ้นเหนือน้ำได้หรือเปล่า แค่ยันตัวขึ้นก็เจ็บมากแล้ว


“งั้นกูอุ้มมึงไป”


“เฮ้ย ขี่หลังก็ได้”


ผมรีบแย้งเร็ว หายเหนื่อยทันที แต่ไม่ทันครับ ไอ้รุ่นพี่หมีควายจอมเอาแต่ใจมันช้อนใต้ข้อพับกับหลังของผมอย่างรวดเร็ว เข้าไปอยู่ในวงแขนมันเรียบร้อย


“เกาะกูไว้สิ”


มันพูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ไม่ง่ายสำหรับผมนะเว้ย ให้กูเกาะมึง ก็กลายเป็นนางเอกละครให้พระเอกอุ้มดิวะ ผมไม่ยอมทำตาม มันก็เลยเดินลุยน้ำไป แต่เพราะอยู่ในน้ำทำให้เดินช้ากว่าตอนอยู่บนบก แล้วก็เหมือนมันจะจงใจเดินให้ช้าลงด้วย ตอนนี้ผมเลยปวดคอไปหมด เพราะต้องเกร็งคอเอาไว้ไม่ให้หัวตกลงไป ส่วนแขนก็พยายามยกวางบนอกเอาไว้ พานให้เกร็งไปทั้งตัวจนรู้สึกว่าตะคริวที่ขามันจะลามไปถึงคอแล้ว ปวดสัดเลยครับ


สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ต่อความปวดเมื่อยของตัวเอง ยอมเอามือเกาะบ่ามันเอาไว้ ส่วนหัวก็พิงบ่าอีกข้างของมันเหมือนกัน แม่งงงง น่าอายฉิบหาย แถมยังเห็นอีกว่าไอ้พี่ชมพูแม่งยิ้มซะ ยิ่งพอขึ้นจากฝั่งมาแล้วโดนสายตาของอีกเจ็ดคนมองมาพลางยิ้มกว้างอย่างล้อๆ นั้นอีก ทำอายกว่าเก่า พยายามดีดตัวลงมาจากไอ้พี่ชมพูให้ได้ แต่ว่ามันก็ด้านครับ ยังอุ้มผมไว้แบบนั้น แสรดดด มึงจะปล่อยกูไม่ได้หรือไง


ผมจ้องหน้ามันเขม็ง สั่งให้มันปล่อยผม แต่ผมคงลืมไปว่าไอ้เหี้ยนี่ไม่เคยทำตามที่ผมสั่งสักครั้ง เลยต้องใช้ไม้ตาย กัดบ่าเค็มๆ เพราะน้ำจากหน้าจากผมของผมไปเต็มเขี้ยว มันร้องโอ๊ย เกือบปล่อยผมลงพื้นแบบติดจรวด จนผมต้องรีบผวากอดคอมันไว้ ถึงอยากให้ปล่อย แต่กูไม่อยากลงทางด่วนแบบนี้


“ปล่อยดีๆ” บอกมัน คราวนี้ยอมปล่อยรับ คงเจ็บบ่าไม่เบา ก็ผมกัดเต็มแรง มันจับบ่าที่โดนผมกัดพร้อยๆ ไม่วายหันมาขู่


“ถ้ากูเลือดไหลนะ กูเอาคืนมึงแน่”


แต่ผมไม่สนใจ ลอยหน้าหันไปมองอย่างอื่น แล้วก็เห็นว่าไอ้กราฟที่เมื่อกี้ไม่ได้มาร่วมวงล้อกับคนอื่นกำลังพุงตัวเข้ามาหาผม ผมก็ยิ่งไปหามันเหมือนกัน เพราะสีหน้าของไอ้กราฟตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ยังไม่ทันวิ่งไป ผมก็เกือบล้มหน้าคะมำกับพื้นทราย เพราะความเจ็บมันแล่นปราดขึ้นมาตามขา ดีว่าไอ้คนตัวยักษ์ที่อยู่ข้างหลังมันยื่นมือมาโอบผมจากทางด้านหลัง รับเอาไว้ทัน ไม่งั้นหน้าหล่อๆ ผมจมทรายแน่


ไม่เพียงแค่นั้น เพราะพอมันรับผมได้ มันก็ดึงผมไปกอดทันที ส่วนไอ้กราฟก็ตรงมาถึงพอดี เห็นสีหน้ามันใกล้ๆ แล้วทำให้ผมรู้สึกเจ็บในใจขึ้นมา ผมทำให้มันเป็นห่วง


ผมรีบดึงไอ้กราฟมากอดเดี๋ยวนั้นเลย ไม่สนใจว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของใครอีกคนด้วยซ้ำ พร่ำเสียงบอกไอ้กราฟไม่ให้มันเป็นห่วงผม ให้มันเลิกหวาดกลัวว่าผมจะเป็นอะไร


“กูไม่เป็นอะไรกราฟ กูไม่เป็นไร มึงไม่ต้องห่วง กูแค่เป็นตะคริวนิดหน่อย ยังไม่ตายหรอก อยู่กับมึงได้อีกนาน”


ตบหลังมันเบาๆ พลางลูบให้มันรู้สึกสบายใจขึ้น มันถึงได้ยอมถอนตัวออกจากแขนของผม มองหน้าผมชัดๆ ทะลุเลนส์แว่นที่เปียกมีคราบน้ำเกาะ


“มึงรู้มั้ยว่ากูกลัว พอได้ยินเสียงบอกว่ามึงจมน้ำ กูก็สั่นไปทั้งตัว ห่วงมึง แต่ไม่กล้ามองไปทางทะเลด้วยซ้ำ ทั้งที่รู้ว่ามึงอยู่ตรงนั้น อยากไปช่วย แต่กูก้าวขาไม่ออก”


“ไม่เป็นไรมึง กูก็อยู่นี่แล้วไง มึงไม่ผิดหรอก กูยังปลอดภัยดี มึงก็เห็นนี่”


ผมเข้าใจมันครับ เข้าใจความรู้สึกตอนนี้ของมันที่สุด แต่ผมก็ฉุดดึงมันให้กลับมาเป็นไอ้กราฟคนเดิมไม่ได้ ไอ้กราฟที่ไม่กลัวทะเลมันหายสาบสูญไปแล้ว


“อย่าลืมดิ ไฮยีนเก้าชีวิตนะเว้ย”


ผมตบบ่ามันให้มันเข้มแข็งขึ้น ไม่ชอบเลยจริงๆ เวลาเห็นมันอ่อนแอแบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกโหวงเหวงในใจ


“อืม กูพยายามอยู่ มึงไม่เป็นไรแน่นะ”


“ไม่เป็นไรเลย สบายมาก!” เน้นเสียงให้มันแน่ใจพลางฉีกยิ้มกว้าง “มึงหายห่วงได้เลย”


แล้วมันก็ทำให้ไอ้กราฟยิ้มออกมาได้นิดหน่อย ถึงจะเป็นยิ้มฝืนๆ ก็ตาม แต่ได้เห็นรอยยิ้มไอ้กราฟแล้วผมกลับต้องร้องโอดโอย เพราะไอ้พี่ชมพูที่ยังกอดผมอยู่เสือกเอาตีนมายันขาข้างที่เป็นตะคริวของผม


“นี่นะ สบายดีบ้านมึง”


มันกระแทกเสียงใส่ ทำเอาไว้กราฟโพล่งถาม


“มึงเป็นอะไร!”


ผมเลยต้องหัวเราะเสียงแห้งตอบไอ้กราฟ


“กูเจ็บขาว่ะ”


ตอบได้แค่นั้น ไอ้พี่ชมพูก็ช้อนตัวผมอุ้มอีกแล้ว ผมไม่ทันได้ประท้วงหรอก มันก็จับไปวางไว้บนขั้นบันไดของหน้าห้องไอ้กัสกับไอ้เคลมที่กะจะใช้ถ่ายฉากต่อไป ก่อนจะหันไปสั่งพวกเพื่อนของมันแบบไม่เจาะจงว่าเป็นใคร


“มึงไปเอายาที่ห้องกูมาหน่อย”


แต่ระบุห้องแบบนี้ก็รู้เลยครับว่าใคร พี่เจ๋งวิ่งโร่ไปทางห้องพักที่อยู่ถัดออกไปอีกสองหลัง ห้องผมกับไอ้กราฟนั่นแหละครับที่กั้นกลางเอาไว้ แล้วพอพี่เจ๋งกลับมา ไอ้พี่ชมพูก็นั่งลงบนบันไดขั้นเดียวกัน จับขาผมวางบนตักของมันที่นั่งห่างออกไปแบบสุดตีนหน้าตาเฉย ผมรีบชักกลับแต่ดันต้องชะงักไว้ก่อน ไม่ใช่มันจับหรอกครับ แต่แม่งงง เจ็บสัด! ร้าวถึงไขสันหลัง ลามถึงหัว โอ๊ยย น้ำตากูจะไหล


ไอ้พี่ชมพูหัวเราะหึๆ ในคอเหมือนจะซ้ำเติม ส่วนคนอื่นๆ ก็มายืนจ้องดูว่ามันจะทำอะไร ทั้งที่เห็นแค่นี้ก็พอจะรู้แล้วแต่ก็ยังไม่ยอมแยกย้ายกันไป ทำเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนโลกใบนี้มาก่อน


กูอับอายขายขี้หน้า ให้ดมตดหมายังอายน้อยกว่านี้!


“ผมทาเองได้”


“ไม่ต้อง ขยับนิดเดียวมึงก็เจ็บแล้ว ยังทำเก่งจะทาเอง”


มันด่าสวนกลับมาจนผมต้องเม้มปากแน่น ก็แม่ง พูดตรงเสียบฉึกกลางใจ


“ไอ้เค มึงไปเอาน้ำมาให้กูขันนึง ล้างตีนเพื่อนมึงหน่อย อ้อ ขอผ้าด้วย”


“ได้เล้ยยยย”


ไอ้เคลมวิ่งสี่ตีนหน้าบานดีใจที่ถูกใช้ ก่อนจะกลับมาพร้อมของที่ไอ้รุ่นพี่ต้องการ เพื่อนกูแม่งเป็นบ้าไปแล้ว กระดิกหางดิ๊กๆ เชื่องยิ่งกว่าหมา


พอได้ขันน้ำมา มันก็ตักราดขาผมที่วางพาดอยู่บนตักมันแบบไม่กลัวเปียก แม่งต้องประสาทแล้วแน่ๆ แถมยังเอาผ้ามาเช็ดให้แบบนุ่มนวลอย่างไม่คิดว่าตัวหมีๆ อย่างมันจะมือเบาเป็นกับเขา ก่อนจะลงมือจับปลายเท้าผมแล้วดันขึ้นเบาๆ เป็นระยะ คลายกล้ามเนื้อให้ แต่โอ๊ยยย กูเจ็บ!!!! ไอ้เชี่ย!!


มันทำแบบนั้นอยู่สักพักหนึ่ง จนผมรู้สึกเจ็บน้อยลงก็ยอมปล่อยมือ แล้วที่มันรู้ว่าผมเจ็บน้อยลงก็ไม่ใช่อะไรเลย เสียงซี้ดปากแทรกเสียงร้องโอดโอยของผมมันเบาลงนั่นแหละ แต่การทารุณกรรมหรือเป็นการปฐมพยาบาลมก็มิอาจทราบได้ยังไม่จบ มันบีบยามานวดน่องจนไปถึงข้อเท้าของผมเบาๆ


ผมมองมันที่ดูจะตั้งใจทายาให้ แถมยังพยายามระมัดระวังไม่ให้ผมเจ็บอีกต่างหาก จริงๆ ก็ตั้งแต่มันคลายกล้ามเนื้อให้แล้ว มันก้มหน้าก้มตาช่วยผมจนไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ ผมเลยมองมันได้อย่างสะดวก ไม่ต้องกลัวว่ามันจะรู้ แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ครับ เพราะเสียงจากหมู่คนที่ยังยืนเป็นสัมภเวสีกันอยู่ตอนนี้


“ไอ้ภูตั้งใจน่าดู” พี่เจ๋ง


“ไอ้ภูมันช่วยคนเป็นตะคริวบ่อยก็จริง แต่ไม่เคยเห็นมันเป็นห่วงคนที่มันช่วยขนาดนี้เลย” พี่บอส


“ใช่ๆ ตอนม.ปลายที่เล่นบอล ผมเป็น พี่ภูยังมีสั่งให้ผมทำเองเลย จะได้ช่วยตัวเองได้ ถ้าเป็นคราวหลัง แต่นี่... ทำให้หมดเลย” ไอ้เคลม


“ไม่เคยเอาตีนใครมาวางบนตักด้วยนะ” พี่แชมป์


“ก็นั่นสิ ไอ้ภูมันทำขนาดนี้เพราะอะไรนะ” พี่ต้น


“เพราะรักกกกกกกกกกกกกกกก ไงล่ะจ๊ะ” พี่ปาล์ม


ตั้งแต่ประโยคแรกแล้วที่ทำผมไม่กล้าหันไปมองใคร ถึงจะแอบเหลือบดูหน่อยๆ ก็เหอะ ส่วนไอ้พี่ชมพูก็หยุดมือ หันไปทางพวกนั้นที่ยืนมองอยู่ตรงตีนบันได แล้วพอจบประโยคพี่ปาล์ม หน้าหล่อๆ นั่นก็หันกลับมาทางผม จ้องหน้าผมที่มันร้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้วยิ่งประโยคสุดท้ายกับสายตาที่จ้องมาเหมือนกับจะยืนยันคำพูดพี่ปาล์มนั่นอีก


“จริงนะเนี่ย”


เสียงทุ้มของคนที่ตกเป็นขี้ปากพ่นออกมา ทำเอาผมไปไม่เป็นเลยครับงานนี้


กูเขินเว้ยยยยยยยยยยย!!!!







===================
ขอโทษที่มาช้าค่ะ บิ๊วอารมณ์ตัวเองไม่ขึ้นซะงั้น
ตอนนี้โผล่มาหวานนิดนึง ส่วนความลับ (?) ของกราฟ คงโผล่ตอน 24 ค่ะ

ปล.ตอนที่แล้วใส่ชื่อผิด พี่หนึ่งต้องเป็นพี่บอสนะคะ
แก้ไปตั้งแต่เห็นแรกๆ แล้ว แต่คนที่อ่านแล้วหลังจากอัพใหม่ๆ อาจจะเจอที่ผิด
เพราะงั้นอย่าเพิ่งงงนะคะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ


Undel2Sky




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2012 06:48:47 โดย undersky »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
อยากรู้เรื่องกราฟเร็วๆแล้ว

ออฟไลน์ duckduckk3

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ๊ากกกกก เขินแทนนนนนนนนนน -/////////////-

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
รอดูของลับ   เอ๊ยยย  ความลับของกราฟอยู่ฮ่า~
ตอนนี้แอบหวานนะ  ชมภูน่ารักเว่อ!

donghwa

  • บุคคลทั่วไป
แอร้ยยยยยย
ตอนแรกก็ว่าจะห่วงกราฟอยู่หรอก
มาเจออิพี่ภูหยอดน้องแล้ว เขินนนนน

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

AnimajuS

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:พี่ภูอ่ะ น่ารักจัง

กราฟเป็นอะไรไป

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
ตอนจบน่ารักอ่ะ จริงนะเนี่ย พี่ชมภูปฏิเสธไม่ลง
อยากรู้เรื่องกราฟเหมือนกัน

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
สงสารกราฟ จะให้เป็นเรื่องอะไรก็ได้ยกเว้นอย่างเดียวคือโดนข่มขืนรึรุมโทรม เรื่องนี้เราทำใจไม่ได้อะมันร้ายแรงเกินไป :m15:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ยังดีที่พี่ภูไม่งอน...


 :z2:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อาจจะมีอุบัติเหตุอะไรร้ายแรงสักอย่างที่ทะเลแน่ ๆ เลย

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พี่ภูน่ารักเกินไปแ้ล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
กราฟยังน่าสงสารอยู่เลยอ่าาาา  :sad4: :sad4:

ตอนท้ายมีแอบหวานด้วย อิอิ  :o8: :o8:

มาต่อไวๆๆนะ

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
ดูแล้วอิพี่ชมพูยังต้องยอกแสยงใจเรื่องกราฟไปอีกสักพัก สู้ๆละกันนะ


 :กอด1: กอดกราฟด้วยคน  :กอด1:

ออฟไลน์ •ไนท์คลุง•

  • Night ♥ .....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?action=profile
แอร๊ย มาแว้ว ๆชอบเรื่องนี้มาก พี่ภูน่ารักแอบหวานด้วยตอนนี้ มดขึ้นแว้ว
ไฮยีนส์ รีบๆรักพี่ภูเซ่ !

ออฟไลน์ Kaewkaew

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อุบ๊ะ! กราฟยีนมาตามใจเรียกร้อง *หวีด!*
แต่มาม่าชามเล็กแฮะ.. ฮึ! ชอบกราฟยีนน้าาาาา #พี่ภูถีบ
แต่อ่านแล้วตอนนี้ดูอารมณ์ยังไม่ค่อยสุดยังไงไม่รู้ช่วงเข้าบทกับกราฟยีน?
*หรือเราเป็นคนเ้ดียว*
พี่ภูดูแลดียิ่งกว่าเมีย #ก็เมียอะ-*- อั้ยยะ! รอตอนต่อไป...
มาช้าดีกว่าไม่มา  o13

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เรื่องของกราฟจะเปนไงหว่า

พี่ภูเปิดเผยน่าดู

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้เรื่องกราฟจะได้ไม่ หงุดหงิดเวลา เพื่อนรักกันเกิน :)

ออฟไลน์ londoneye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
อ่านเรื่องนี้แล้วแบบว่า

สนุก  น่ารัก  แล้วก็แอบหลงรักความน่ารักของน้องยีนสุดๆ

พี่ภูก็น่ารัก

แต่เวลากราฟออกมาที่ไรเด่นเกินหน้าเกินตาพี่ภูทุกที :laugh:

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ...ขอเป็นแฟนเรื่องนี้ด้วยคน :impress2:

KanomPhing

  • บุคคลทั่วไป
>///< เขินนะเนี้ยยย

พี่ชมพูก็พูดซะตรงน้องเกงยีนก็เขินแย่สิ

 :-[ :-[ :-[

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



    โฮกกกก พี่ชมพูรุกได้หวานม้ากกกกกกกกกกกก เขิลแทน
    แต่นายกราฟนี่เป็นเอามากเลยนะเนี่ย





ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
:o8:เมื่อไรน้องยีนจะยอมใจออนกันพี่ภูชักทีอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด