It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]  (อ่าน 602508 ครั้ง)

ออฟไลน์ tarkung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ตอนที่ 25 : ความเจ็บปวดไม่ไว้หน้าใคร


























ผมทิ้งทุกอย่างที่อยู่ในมือ ก่อนจะพุ่งตัวเข้าหาภาพที่เห็นอยู่โดยไม่สนใจเสียงเรียกจากทางด้านหลัง ไม่สนแม้แต่ว่าไอ้พี่ชมพูจะวิ่งตามผมมาหรือเปล่า แต่วิ่งได้ไม่ทันไรก็ต้องกระชากแว่นที่ใส่อยู่ออกเพราะมันสร้างความรำคาญให้ผมเป็นอย่างมาก และเมื่อถอดแว่นออก ผมก็วิ่งได้เต็มฝีเท้ามากกว่าเดิม ตรงเข้าหาไอ้กราฟที่ถูกลากลงไปในน้ำลึกขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เกือบเท่าเอวมันแล้ว


ท่าทางของไอ้กราฟทุรนทุราย พยายามผละตัวออกจากไอ้สารเลว แต่เมื่ออยู่ในน้ำทะเลด้วยสภาพจิตใจแบบนั้น ไอ้กราฟก็เหมือนกับคนหมดเรี่ยวแรง มันสู้เขาไม่ได้ทั้งที่อีกฝ่ายตัวเล็กกว่า ผมพยายามฝืนแรงต้านของน้ำเพื่อเคลื่อนที่ให้เร็วที่สุด แม้ว่าน้ำจะสาดกระเซ็นขึ้นมาเปียกผมเกือบทั้งตัว แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องใส่ใจในเวลานี้ ไอ้กราฟสำคัญที่สุด


ผมต้องใช้แรงทั้งหมดเพื่อให้ตัวเองเข้าไปใกล้ไอ้กราฟได้ในเวลารวดเร็ว และมันก็เป็นอย่างที่ผมหวังเอาไว้ ผมไปถึงตัวไอ้กราฟได้ และผมก็มองเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าไอ้สารเลวที่ทำเรื่องชั่วๆ แบบนี้คือใคร ...ไอ้ไนล์ที่ผมเคยเห็นแค่ไม่กี่ครั้ง ผมกระชากตัวไอ้กราฟออกจากมือสองข้างของคนที่ขนาดตัวพอฟัดพอเหวี่ยงกับผม แต่มันตัวเล็กกว่านิดนึง พอๆ กับพี่ปาล์มเสียมากกว่า


เมื่อไอ้กราฟเป็นอิสระจากหมอนั่นแล้ว ผมก็เหวี่ยงหมัดซัดใส่หน้าสวยๆ นั่นเต็มแรง จนมันหน้าหัน ก่อนจะตะโกนเสียงดังใส่


“มึงทำเหี้ยอะไร!!!”


เท่านั้นผมก็ลากไอ้กราฟเดินมาขึ้นฝั่ง แต่เดินมาได้แค่ไม่กี่ก้าว ไอ้เหี้ยนั่นก็กระชากไอ้กราฟไปทางมันอีก ผมหันกลับไปมองไอ้ไนล์ มุมปากมันมีเลือดติดอยู่นิดหน่อย แสดงว่าหมัดเมื่อกี้ผมคงเล่นมันเลือดกบปาก


“อย่าเสือกเรื่องของกู”


“เรื่องของมึงเหรอ ถ้าเรื่องของมึงจะทำให้เพื่อนกูจมน้ำตาย กูก็ต้องเสือก”


แล้วว่าผมก็ยกขาถีบมันไปอีกที ก่อนจะตะคอกใส่มันเสียงดังกว่าเดิม จนคนบนหาดอาจจะได้ยินเสียงผมก็ได้


“มึงไม่รู้เหี้ยอะไรก็อย่ามาเสือกกับเพื่อนกู!!”


“แล้วใครบอกว่ากูไม่รู้เหี้ยอะไร”


ผมทำหูทวนลมกับเสียงของมัน เพราะไม่เชื่ออยู่แล้ว ใครจะมารู้เรื่องไอ้กราฟได้ถ้าไม่ใช่พวกผม ผมดึงไอ้กราฟที่ตอนนี้เหมือนจะไม่มีสติเป็นปกติให้เดินตามมาด้วยกัน และก็เพิ่งเห็นว่าไอ้พี่ชมพูมันมาถึงตัวผมแล้ว


มันมาถึงผมช้ามาก แต่คงไม่ใช่เพราะมันช้าหรอก เป็นผมต่างหากที่ร้อนรนมาหาไอ้กราฟให้เร็วที่สุดอย่างสุดชีวิต แล้วพอไอ้พี่ชมพูมาอยู่ตรงหน้า ผมก็ใช้ประโยชน์จากความตัวใหญ่ของมันเลย


“พากราฟไปหน่อย”


สั่งมันไปแบบนั้น พี่ชมพูก็ทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมแบกไอ้กราฟขึ้นหลัง เพราะดูท่าผมจะลากมันไม่ไหว ถ้ายังมีมารผจญอยู่แบบนี้ และพอได้ที ผมก็หันไปหาไอ้เหี้ยไนล์


“ไม่ต้องตามพวกกูไปนะ ไอ้สัด ถ้าขืนมึงยังตามมา ได้กระเดือกตีนกูลงคอมึงแน่”


สั่งลามันแล้วผมก็ส่งสัญญาณให้พี่ชมพูพาไอ้กราฟขึ้นหาดไป ซึ่งผมก็เดินตามไปติดๆ ส่วนไอ้ไนล์ มันไม่ได้ตามแล้ว แค่ยืนมองตามเฉยๆ นั่นคือสิ่งที่มึงสมควรทำแล้ว


ขึ้นหาดไป พี่ชมพูก็ปล่อยไอ้กราฟให้นอนลงกับพื้นทราย โดยที่คนอื่นๆ ที่เหลือก็เริ่มมามุงกัน ทั้งไอ้กัส ไอ้เคลม พี่เจ๋ง พี่แชมป์ พี่บอส ขาดแต่พี่ต้นกับพี่ปาล์มที่คงไปล้างกุ้งหอยปูปลาอยู่ในบ้านพัก และพอเห็นหน้าไอ้กัสกับไอ้เคลม ผมก็อารมณ์ขึ้นทันที เดินเข้าไปประชิดมันทั้งสองคนที่หน้าเสียหน้าซีด และเขวี้ยงหมัดใส่หน้าไอ้กัสก่อนเลยคนแรก ตามด้วยยกตีนถีบท้องไอ้เคลมจนมันกระเด็นไปหลายเมตร


“พวกมึงเป็นเหี้ยอะไร ไอ้สัด กูบอกให้มึงดูกราฟ แต่มึงเสือกหายหัวกันไปหมด ไอ้เลว”


“กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจนะ”


ไอ้เคลมตั้งตัวได้ก็รีบสวนกลับมาทันที แต่มันยิ่งทำให้ผมอารมณ์ขึ้นหนักกว่าเดิม


“ไม่ได้ตั้งใจเหรอ ไอ้เหี้ย มึงก็รู้ว่าเพื่อนมึงเป็นยังไง แล้วมึงยังปล่อยมันไว้คนเดียว”


“พวกกูรู้ แต่ไอ้กราฟมันบอกว่ามันไม่เป็นอะไร มันอยู่ได้ ให้กูไปเล่นกับพวกพี่เขาได้”


“ไอ้กราฟพูดอย่างนั้นก็จริง แต่มึงกล้าทิ้งเพื่อนเหรอวะ กูไปคนเดียวยังไม่เท่าไหร่ เพราะกูรู้ว่ายังมีมึงสองคน แต่มึง... ไปกันหมด สัดเอ๊ย!”


“ขอโทษวะ พวกกูขอโทษ”


“อย่าโทษมันสองคนเลย พวกพี่ก็ผิดเหมือนกัน ที่ชวนมันไปเล่นเจสกีด้วย ทั้งที่ก็พอรู้ว่าไอ้กราฟมันไม่ถูกับทะเล”


พี่เจ๋งพูดมา ทำให้อารมณ์ ผมสงบลงได้นิดหน่อย แต่ผมก็ยังคาดโทษไอ้สองตัวนั้นอยู่ดี ถลึงตาใส่มันให้รู้เลยว่าไม่พอใจ แต่ก็ถูกมือใหญ่ๆ จากอีกคนจับแขนไว้ก่อน


“มึงมาดูกราฟก่อนดีมั้ย”


พี่ชมพูเรียก ผมเลยหันไปดูไอ้กราฟที่นอนอยู่ ตาของมันเลื่อนลอยมาก มากเสียจนผมรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที และยังไม่ทันให้ผมได้เดินเข้าไปหามัน ไอ้กราฟก็ลุกขึ้น เดินตรงไปยังทะเล ผมต้องรีบวิ่งเข้าไปดึงตัวมันกลับมา ไม่ให้มันทำอะไรบ้าๆ อย่างที่มันเคยทำมาก่อนอีก


“ไอ้กราฟ หยุด มึงอย่าทำอย่างนั้นนะ!!”


แต่แค่แรงดึงคงไม่ไหว เพราะไอ้กราฟยังมุ่งตรงไปที่ทะเลโดยไม่สนใจเสียงเรียกของผมแม้แต่น้อย ผมจึงเปลี่ยนเป็นกอดตัวมันเอาไว้แล้วผลักมันเข้าทางหาดอย่างเต็มแรง ดันๆ มันจนตัวของมันที่ใหญ่กว่าถอยห่างออกไปเหมือนตอนแรก


“กราฟ มึงมีสติหน่อยสิ นี่กูไง ยีนเพื่อนมึงน่ะ มองกูสิ!!!”


ผมตะโกนใส่มันเสียงดัง เพียงหวังให้มันรู้สึกตัวขึ้นมาได้ว่าเมื่อกี้มันกำลังจะทำบ้าอะไร แต่สายตาของไอ้กราฟว่างเปล่า ไม่มีเงาผมอยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย มันเอาแต่มองและพยายามเดินลงไปในน้ำผืนกว้างนั้น ผมต้องออกแรงซ้ำไม่ให้มันทำอย่างที่มันต้องการได้ จับมันเหวี่ยงลงกับพื้นทรายก่อนจะลงไปนั่งคร่อมทับท้องมันเอาไว้ เพื่อไม่ให้มันลุกขึ้นมา


“กราฟ!! มึงมองกูสิวะ มึงอย่าทำแบบนี้”


แต่ไอ้กราฟก็ไม่ฟังเหมือนเดิม มันพยายามจะลุกขึ้นมาให้ได้ ผมต้องกดบ่าของมันเอาไว้สุดแรง ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าคนอื่นๆ เป็นยังไง เพราะในตอนนี้ความสนใจของผมทั้งหมดอยู่ที่ไอ้กราฟคนเดียว ผมกลัว... กลัวมันจริงๆ กลัวว่ามันจะทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นอีก ผมไม่อยากเสียเพื่อนไป


“มึงได้สติสักทีสิวะ มันไม่ใช่ตอนนั้นนะเว้ย นึกสิมึง มันผ่ามาสามปีแล้วนะเว้ย ไอ้กราฟ เรื่องมันจบแล้ว มึงเลิกโทษตัวเองสักที!!”


“...”


มันไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบผมเลย นอกจากจะดันตัวผมให้ลุกขึ้น ตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่มีครั้งไหนที่ไอ้กราฟจะเป็นถึงขนาดนี้อีก มันเอาแต่จะลงทะเลอย่างเดียว แล้วดูเหมือนแรงของมันจะเยอะขึ้นด้วย เพราะตอนนี้ตัวผมแทบเซล้มลงไปบนพื้นเพราะไอ้กราฟมันผลัก ไอ้กัสกับไอ้เคลมที่คงคิดว่าผมสู้ไอ้กราฟไม่ไหวแล้วจึงเข้ามาช่วย จับแขนไอ้กราฟขึงคนละข้าง


“มึงฟังไอ้ยีนมั่งสิวะ!”


“กูไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบนี้นะเว้ย!”


ไอ้เคลมกับไอ้กัสตะโกนใส่ไอ้กราฟ อยากให้มันได้สติสักที แต่มันก็ไม่ได้ผลสักเท่าไหร่ ไอ้กราฟยังแววตาเลื่อนลอย และพยายามผลักพวกผมให้ปล่อยมัน


“กราฟ มึงลืมกูแล้วหรือไง ยีนเพื่อนมึงอะ มึงอย่าเป็นแบบนี้ดิวะ กูไม่อยากให้มึงเป็นแบบนี้นะ กูไม่อยากเสียมึงไป”


“...”


“ได้ยินมั้ย กูไม่อยากให้มึงตาย!!”


ผมตะเบ็งเสียงใส่มัน ไม่รู้ว่าดังแค่ไหน แต่หวังให้มันได้ยินเสียงของผมบ้าง สักนิดก็ยังดี ยิ่งภาพเหตุการณ์วันนั้นวนเวียนเข้ามาในหัวของผม ก็ทำให้น้ำตาคลอในตาผม แล้วร่วงลงมาใส่หน้ามัน


“กูรักมึงมาก รู้มั้ย มึงเป็นเพื่อนที่กูรักที่สุด มึงเป็นคนทำให้กูกลับมามีความสุขอีกครั้ง มึงจำได้หรือเปล่า ตอนที่แม่กูตาย มึงอยู่กับตลอด มึงทำให้กูเลิกเศร้า ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ง่ายๆ”


“...”


“มึงจำสัญญาของเราได้มั้ย มึงจะอยู่กับกู จะดูแลกูไม่ใช่เหรอ แล้วนี่มึงจะทำเหี้ยอะไร”


ยิ่งพูด น้ำตาของผมก็ยิ่งหล่นลงมาเรื่อยๆ จนเปียกหน้าไอ้กราฟไปหมด


“กราฟ”


สุดท้ายเสียงของผมก็เหลือแผ่วเบา เรียกชื่อก่อนจะซบหน้าลงกับบ่าของมันแล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลเปียกเสื้อไอ้กราฟ มือสองข้างกอดมันเอาไว้แน่น คงไม่มีเข้าใจความรู้สึกของผมได้ดีเท่ากับคนที่เคยเห็นเพื่อนรักกำลังฆ่าตัวตายกับตาเหมือนผม


“กราฟ พวกกูก็ขอนะ มึงอย่าทำอะไรแบบนี้อีกเลย ถึงกูจะไม่ใช่เพื่อนรักที่สุดของมึงเหมือนยีน แต่กูก็ไม่อย่าให้มึงทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ เรื่องนั้นมันเป็นอดีตไปแล้ว ไม่ใช่ความผิดของมึง ไม่ใช่เลย”


เสียงของไอ้เคลมเศร้ามากอย่างที่ใครก็คงไม่เคยได้ยิน แต่นั่นเป็นความรู้สึกของมันจริงๆ ไอ้กัสเองก็พยายามพูดเสียงให้นิ่งที่สุด ทั้งที่เสียงของมันกำลังสั่น


“ถึงมึงทำแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก นี่มันคือชีวิตของมึง ไม่ใช่ของใคร มันแทนกันไม่ได้ ถ้ามึงเป็นอะไรขึ้นมา แล้วพวกกูล่ะ พ่อแม่มึงล่ะ พวกกูรักมึงกันหมด แล้วมึงจะไม่รักตัวเองหรือไง”


“มึงได้ยินมั้ยกราฟ ไม่ใช่แค่กูคนเดียวที่รักมึง ห่วงมึง ไอ้ที่เหลือก็รู้สึก”


ผมผละออกมามองหน้ามัน มองลึกให้เขาไปในตา ในใจของมัน ให้มันรับรู้ความรู้สึกของพวกผมอย่างจริงจัง และคราวนี้ก็เหมือนไอ้กราฟจะสงบลงมาหน่อย มันมองตอบผม ทำให้ผมยิ้มได้นิดหน่อย


“อยู่กับกูตลอดไปนะ”


บอกมันแล้วผมก็ยื่นนิ้วก้อยให้มันด้วย กราฟก็มองตามอย่างลังเล ผมเลยพยักหน้า เชิงบอกให้มันเอานิ้วก้อยมาเกี่ยวกับผม เป็นคำสัญญา มันก็มองตาผม ก่อนจะเบี่ยงไปทางไอ้กัสกับไอ้เคลมที่จับแขนมันอยู่คนละข้าง ไอ้ทั้งคู่นั่นเลยปล่อยมือจากไอ้กราฟ แล้วไอ้กราฟก็ค่อยๆ ยกมือขึ้นมาเกี่ยวก้อยกับผม


“ขอบคุณนะ ขอบคุณที่มึงเชื่อกู”


ผมยิ้มทั้งที่น้ำตายังคลออยู่นิดๆ ไอ้กราฟก็ยิ้มเหมือนกัน ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาก


“กูต้อง...ขอบคุณมึง....ต่างหาก” เสียงไอ้กราฟแห้งผาก แต่ผมก็ยังได้ยินทุกคำพูด “มึงช่วยกูอีกครั้งแล้ว”


“เพราะงั้น... ชีวิตนี้ของมึงเป็นของกู ถ้ากูไม่อนุญาต มึงห้ามทำอะไรบ้าๆ แบบนี้อีกนะเว้ย”


“อืม กูยกให้มึงทั้งชีวิตเลย”


“แล้วอย่าผิดสัญญาล่ะ”


ผมลุกจากตัวมัน แล้วก็ดึงมันให้ลุกขึ้นเหมือนกัน ถึงตอนนี้สภาพของไอ้กราฟจะไม่เป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ดีขึ้นครึ่งหนึ่งแล้ว แม้จะเห็นร่องรอยความเสียใจและรู้สึกผิดซ่อนอยู่ในแววตาของมันก็ตาม


“กลับห้องกันเหอะ กูอยากอาบน้ำแล้ว เหนียวตัวฉิบหาย”


พอผมบอกแบบนั้น พวกเพื่อนผมที่เหลือก็ลุกขึ้นมา ตั้งท่าจะกลับห้องอย่างที่ว่า แต่ยังไม่ทันที่ผมได้เดินไปหรอก มือข้างที่ผมไม่ได้จับไอ้กราฟไว้ก็ถูกดึง ผมหันไปก็เห็นว่าเป็นมือของพี่ชมพูอย่างที่คิด คงไม่มีใครมาจับมือผมอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้หรอก


“มีอะไร”


“กูมีเรื่องจะคุยกับมึงหน่อย”


หน้าตาของไอ้พี่ชมพูจริงจังมาก ผมรับรู้ได้ แต่ก็ตอบกลับไปอย่างที่มันคงรู้สึกว่าใจร้าย


“เอาไว้ก่อนแล้วกัน”


“แต่กูอยากคุยกับมึงตอนนี้”


ไอ้พี่ชมพูมันไม่ยอม บีบมือผมแรงขึ้นอีกหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมเจ็บ ดีแล้วล่ะ ถ้าทำให้ผมเจ็บเมื่อไหร่ล่ะก็ ผมคงหมดอารมณ์จะคุยกับแม่งเลย


“ผมไปส่งกราฟก่อนแล้วค่อยคุย”


“งั้นกูไปด้วย”


“ตามใจ”


ผมบอกแค่นั้นแล้วก็จูงมือไอ้กราฟได้เดินไปทางบ้านพักของมัน โดยที่มืออีกข้างที่พี่ชมพูจับไว้ก็ไม่ถูกปล่อยออก กลายเป็นว่าผมจูงไอ้กราฟให้เดินตามอย่างกับเด็ก ส่วนไอ้พี่ชมพูก็เกาะผมไว้เหมือนเด็กโข่ง ไอ้กัสกับไอ้เคลมเดินตามมาอีกที่ ส่วนพวกรุ่นพี่ที่เหลือก็มองอย่างงงๆ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


ไปส่งไอ้กราฟที่ห้องแล้ว ผมก็บอกให้มันเข้าไปอาบน้ำ และฝากไอ้กัสกับไอ้เคลมให้ดูแลไอ้กราฟไปก่อน เพราะผมต้องเคลียร์ปัญหาที่ความจริงไม่น่าเป็นปัญหากับไอ้หมียักษ์นี่เสียก่อน


“มึงอย่าทิ้งไอ้กราฟอีกนะเว้ย ถ้าพวกมึงทำอีก ตายคาตีนกูแน่”


“เออๆ คราวนี้พวกกูไม่พลาดหรอก จะดูแลเท่าชีวิตเลย”


ไอ้เคลมตอบปนขำ ผมเลยยกตีนถีบมันไปหนึ่งที ข้อหากวนตีน มีแต่ไอ้กัสที่ตอบเป็นการเป็นงาน


“มึงไปเถอะ ที่เหลือกูจัดการได้”


“เออ ฝากมึงด้วยนะ ไอ้เชี่ยเคลมนี่พึ่งไม่ได้”


“ดูถูกกกกก”


คนที่โดนนินทาซึ่งหน้าลากเสียงยาว แต่ผมกับไอ้กัสไม่สนใจหรอก หันกลับไปด้านหลัง มองไอ้พี่ชมพูที่มันยังไม่คิดจะปล่อยมือผมเลย กลัวหลงทางหรือไงเนี่ย


“ไปได้แล้ว”


ผมบอกไอ้พี่ชมพูแล้วก็เดินนำออกไป มันก็ตามมาติดๆ กระทั่งถึงบ้านพักของมัน ไม่ใช่ของผมนะ เพราะจริงๆ ผมต้องอยู่กับไอ้กราฟ แต่มันใช้ความเป็นจอมมารของมันทำให้ผมต้องมาอยู่ด้วย


“ปล่อยมือได้ยัง”


แม้แต่ตอนไขกุญแจห้อง มันยังใช้มือเดียว ไม่ยอมปล่อยมือจากผม เพราะงั้นพอเข้าห้องแล้วผมถึงได้ถาม แต่ดูเหมือนมันจะไม่สะทกสะท้านหรือยอมทำตามคำถามของผม ไม่แม้แต่จะตอบด้วยซ้ำ กวนตีนกูหรือไง


“ผมจะอาบน้ำแล้ว เปียกไปหมดแล้ว”


“...”


ไอ้พี่ชมพูยังเฉยอยู่ มันเอาแต่มองหน้าผม เหมือมีขี้หมาติดอยู่ที่ซอกจมูก จะเอายังไงกับกูเนี่ย


“พี่อยากให้ผมไม่สบายเหรอ”


ในเมื่อพูดธรรมดามันไม่สนใจ ผมก็ต้องกระแดะเพิ่มเสียงอ้อนเข้าไปอีก ฃีวิตนี้กูเคยอ้อนใครมั่งเนี่ย ถึงต้องมีมึงมาเพิ่ม แสรดดด


แต่ว่าได้ผล มันยอมปล่อยมือผมแต่โดยดี ทว่ามันก็ไม่วายบอก


“เร็วๆ นะ กูนั่งรอมึง”


“ผมต้องสระผมอีก เร็วไม่ได้หรอก”


ก็พยายามหาทางเลี่ยงไป จริงๆ ก็เพราะไม่อยากทำตามใจมันเท่าไหร่นั่นแหละ แต่มันทำไงรู้มั้ย มันเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วดึงมือผมเข้าไปในห้องน้ำเลย


“กลัวไม่สบายไม่ใช่เหรอ งั้นก็รีบอาบน้ำเสร็จๆ ชักช้าเดี๋ยวกูอาบให้นะ”


มันพูด แต่หน้านิ่ง เสียงนิ่ง ถ้าเป็นปกติมันต้องทำหน้าแบบแกว่งหน้าหาตีนผมแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่เป็นแบบนั้น แสดงว่ามันเครียดมากจริงๆ แล้วมึงมาเครียดเรื่องอะไรเนี่ย
























ผมอาบน้ำเสร็จก็เป็นตาพี่ชมพูต่อ แต่ก่อนที่มันจะเข้าห้องน้ำไป ยังมีบอก


“มึงรอกูก่อน ห้ามหนี”


“เออ ตามมาขนาดนี้แล้วจะให้ผมหนีไปไหนอีก”


แล้วพอตอบมันแบบนั้น มันก็ฉีกยิ้ม ก่อนจะยอมเข้าไปห้องน้ำแต่โดยดี แต่แค่ไม่ถึงสิบนาทีก็ออกมา อาบน้ำเร็วฉิบหาย ผมยังเช็ดผมตัวเองไม่แห้งด้วยซ้ำ


มันแต่งตัวของมันไป หลังจากแต่งเสร็จก็เดินไปหยิบไดร์เป่าผมออกมา เสียบปลั๊กก่อนจะมานั่งข้างๆ ผมบนเตียง


“เดี๋ยวกูเป่าให้”


คราวนี้ผมไม่ปฏิเสธแล้วครับ เพราะว่าคราวก่อนที่มันให้ผมทำให้ ผมเสียเปรียบไปหลาอย่างแล้ว มันก็เป่าผมให้ มือใหญ่ๆ นั่นปัดผมไปมาเพื่อให้ลมร้อนเป่าได้ทั่วๆ แล้วพอมันจัดการผมเสร็จ ก็มาเรียกร้องให้ผมทำบ้าง วางแผนทวงบุญคุณใช่มั้ยมึง


ผมต้องลุกขึ้นมาคุกเข่าแล้วผมเป่ามันให้ เพราะมันสูงกว่า ให้ยื่นมือขึ้นไปเป่าก็ออกจะเมื่อยไปหน่อย แต่ว่าไอ้พี่ชมพูเสือกไม่นั่งเฉยๆ มันพลิกตัวกลับหลังหันหน้าเข้าหาผมแล้วใช้แขนสองข้างรวบตัวผมไปกอดอย่างโคตรถือวิสาสะ


“กอดทำไม”


ผมถามเสียงปนเขียว แต่ว่าไอ้คนกอดกลับตอบมาด้วยน้ำเสียงระรื่น


“กูอยากกอด”


“เหตุผลง่ายไปเปล่าวะ”


“ง่าย”


มันก็ตอบกลับมาอย่างหน้าด้านๆ ทั้งที่ไม่ยอมปล่อยผมออก แม้ว่าผมจะพยายามดึงตัวออกจากมันก็ตาม แต่มันก็ไม่ปล่อย ผมเลยจำต้องเป่าผมให้มันต่อไป ทั้งๆ ที่เป่าแล้วไอร้อนนั่นแทบจะเผาหน้าผมเพราะหัวมันอยู่ใต้คางผมเอง


“ถอยไปหน่อยได้มั้ย มันเป่าหน้าผม”


หลังจากประโยคนั้นของผม ผมก็ได้ยินเสียงมันหัวเราะ ก่อนจะยอมผละตัวออกมาเล็กน้อย แต่มือก็ยังกอดเอวผมอยู่ดี


“ทำตัวเหมือนเด็กติดพ่อ”


“มีแต่เด็กทำตัวติดแม่”


มันย้อนกลับมมาให้ผมทำหน้าหงิก ถึงจะเคยได้ยินแต่แบบนั้นก็เหอะ แต่ว่าผมเป็นผู้ชายนี่หว่า จะบอกว่เป็นเด็กติดแม่ได้ยังไง


“ปล่อยเลย”


“กูไม่ปล่อยหรอก” พี่ชมพูตอบประโยคนี้เสียงดัง ก่อนจะเบาลงเมื่อพูดประโยคต่อไป “กูอยากมั่นใจว่ามึงเป็นคนของกู”


“เป็นคนขาดความมั่นใจตั้งแต่เมื่อไหร่ ปกติออกจะบ้าอำนาจ ไม่สนใจคนอื่น เอาตัวเป็นใหญ่ตลอด”


“ก็ตั้งแต่หลงรักมึงนั่นแหละ”


คำตอบที่ย้อนกลับมาตรงๆ นั่นทำให้ผมรู้สึกหน้าชาผสมร้อนอีกนิดๆ มึงจะพูดตรงไปไหน ไอ้สัด คิดว่ากูเขินไม่เป็นงั้นสิ


“บอกแล้วไงว่าถ้าคิดจะรักผมก็ต้องรู้จักเชื่อใจ”


ผมพยายมปรับสีหน้าให้นิ่งๆ พูดเป็นจริงเป็นจังหลังจากทบทวนประโยคของมันว่าหมายความยังไง พร้อมกับภาพซ้อนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ผมแสดงออกว่ารักไอ้กราฟและห่วงใยมันมากแค่ไหน แล้วไอ้พี่ชมพูมันก็คงไม่สบายใจเหมือนเดิม


“กูรู้ กูทำอยู่ กูบอกตัวเองว่ากูเชื่อใจมึง ระหว่างมึงกับกราฟไม่มีอะไร แต่พอเห็นมึงห่วงไอ้กราฟ รักไอ้กราฟมากแค่ไหนมันก็ทำให้กูอดคิดไม่ได้ว่ามึงชอบกูจริงๆ หรือว่ามึงแค่หลอกตัวเองว่าชอบกู แต่จริงๆ แล้วมึงรักไอ้กราฟ”


เพราะคำตอบแบบนั้นมันเลยโดนผมตบกระโหลกไปหนึ่งทีเต็ม มันก็ทำหน้ายุ่งๆ แต่หน้าผมยุ่งยิ่งกว่า


“ผมกับกราฟเป็นเพื่อนกัน ความรักของผมที่มีให้มันมากก็จริง แต่มันก็มากในฐานะเพื่อน ฐานะคนสำคัญที่ช่วยเหลือผมมาตลอด แต่ถ้าให้พูดจริงๆ ผมกับไอ้กราฟมันเลยคำว่าเพื่อนหรือคนรักมานานแล้ว ผมกับมันรู้ใจกัน รู้จักกันดีทุกอย่าง ไม่ว่ามีเรื่องอะไรเราจะปรึกษากัน ไม่มีความลับต่อกัน มันเหมือนเป็นอีกจิตวิญญาณหนึ่งของผมก็ว่าได้”


ผมอธิบายเหยียดยาวเผื่อว่ามันจะเข้าใจในสถานะของผมกับไอ้กราฟบ้าง แต่ว่ามันกลับทำหน้าสลด


“นอกจากแม่ที่เสียไปแล้ว ก็มีป๊า พี่โซ แล้วก็กราฟ ที่มีความสำคัญกับผมที่สุด ไอ้กัสกับไอ้เคลมรองลงมา แล้วตอนนี้...”


ผมเงียบเสียงไปนิดนึง จ้องมองหน้าของไอ้พี่ชมพู อยากจะถ่ายทอดความรู้สึกของผมให้มันได้รับรู้


“พี่ก็กำลังจะเป็นส่วนหนึ่งในนั้น มันอาจจะยังไม่เทียบเท่ากับคนอื่นๆ เพราะความรู้สึกของผมมันเพิ่งเกิดขึ้น แต่ผมเชื่อว่าถ้าเรายังมีความรู้สึกให้กันแบบนี้ พี่จะไม่เป็นรองไอ้กัสหรือไอ้เคลม”


“แค่กัสกับเคลมเองเหรอ”


เหมือนไอ้คนตัวโตแต่ขี้น้อยใจนั่นจะเข้าใจมากขึ้นนิดหน่อย มันถึงได้ตัดพ้อผมแบบนั้นได้


“คนเราจะทำอะไร ก็ต้องมาเป็นสเต็ปดิ พี่จะข้ามขั้นได้ไง”


“ใจร้ายชิบเป๋ง ทำให้คนเขาคอยกังวลตลอดแล้วยังต้องให้ฝ่าด่านยากๆ อีก ชีวิตมึงเป็นเกมหรือไงเนี่ย”


“คงงั้น”


ผมยิ้มๆ ก่อนจะดึงตัวออกมาจากอ้อมกอดหลวมๆ นั่น เอาไดร์ไปเก็บคืนที่ก็โดนมันเดินมากอดจากด้านหลังอีก


“ขาดความอบอุ่นเหรอ ถึงได้กอดผมจัง”


“ขาดจากมึงนั่นแหละ”


“เน่า”


ผมด่ามันกลับไปเต็มๆ แต่ก็ไม่วายอมยิ้มกับตัวเอง ตอนนี้ไอ้คนเผด็จการกลายเป็นเด็กไปแล้ว


“กูรักของกู ก็อยากกอด อยากจูบดิ”


ไม่พูดอย่างเดียว มันจับคางผมไว้แล้วดึงให้หน้าเอี้ยวกลับไปรับจูบของมัน ผมเลยต้องหมุ่นตัวกลับมาหามันด้วย เพราะไม่งั้นคอผมอาจจะหักได้ แต่ระหว่างที่ผมหมุนตัว มันก็ไม่ยอมปล่อยปากของมันให้ว่างจากปากผมเลย เป็นปลาซัคเกอร์หรือไงวะ


“พอ.. อือ ..พอได้แล้ว”


ผมบอกมัน มือก็ดันออกไปด้วย แต่โชคดีอยู่หน่อยที่มันยอมปล่อยแต่โดยดี ถ้าเป็นครั้งอื่น มันคงกดจูบผมให้หนักขึ้นกว่าเดิม


“ผมจะไปดูกราฟแล้ว ปล่อยให้ไอ้สองตัวนั่นดู ไม่รู้ว่าไว้ใจได้แค่ไหน”


“แต่มึงจะกลับมานอนกับกูใช่มั้ย”


มันทำหน้ามีความหวังนะ แต่สำหรับตอนนี้.. มึงคงต้องผิดหวังแล้วว่ะ


“ผมจะนอนกับกราฟ”


“มึงนอนกับกูก็ได้ ไอ้กราฟมันไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้ง”


“ผมยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นแบบนั้น กลัววว่ามันจะละเมอ ลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าๆ หรือเปล่า”


ตอนพูดผมคงทำหน้าเครียดไปหน่อยล่ะมั้ง ไอ้พี่ชมพูถึงได้ทำหน้าเครียดตาม


“มันหนักหนาขนาดนั้นเลยเหรอวะ”


“ก็... ประมาณนั้น”


“มึงเล่าให้กูฟังไม่ได้เหรอวะ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับไอ้กราฟกันแน่ มันถึงได้เป็นอย่างนี้ ทำให้มึงต้องคอยเป็นห่วงมันมากขนาดนี้”


“...”


“เกงยีน”


ผมเงียบ มันถึงได้เรียกอีกครั้ง แต่ที่ผมเงียบนั่นผมกำลังทบทวนความรู้สึกของผมอยู่ว่าผมควรจะบอกมันมั้ย ผมได้แต่มองตามันอย่างนั้นร่วมนาที มันเองก็มองผมอย่างแน่วแน่


“ก็ได้ แต่หลังจากคืนนี้นะ”


“มึงรับปากกูแล้วนะ”


“อืม”


ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าควรบอกพี่ชมพูเรื่องนี้หรือเปล่า แต่ผมก็ตัดสินใจแล้ว ไม่อยากให้มันกังวลเรื่องผมกับกราฟอีก ไม่รู้สิ ผมอาจจะไม่ได้แสดงอาการอะไรเวลามันคิดมากเรื่องนี้ แต่ใจจริงแล้วผมก็ไม่อยากให้มันรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน


ผมคงรู้สึกชอบมันมากกว่าเดิมอีกนิดหน่อยล่ะมั้ง


และอีกอย่าง เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว มันเห็นอาการของกราฟอย่างชัดเจนแล้วว่าเป็นยังไง คงยากที่จะปล่อยให้มันสงสัยอย่างนั้นต่อไปได้


“งั้นกูเดินไปส่ง”


“ไม่ต้องก็ได้มั้ง อยู่แค่ข้างๆ นี่”


บอกมันอย่างนั้นก็จริง แต่ไอ้พี่ชมพูก็จับมือผมแล้วดึงให้เดินไปด้วยกัน เอากับมันสิน่า ใช้อำนาจเหมือนเดิม แต่ผมก็ยอมเดินไปแต่โดยดีเพราะยังไงผมก็จะเดินไปหากราฟอยู่แล้ว


และพอเดินมาถึงบ้านพักของไอ้กราฟ ผมก็ได้ดึงมือออกสักที พลางสั่งมันด้วย


“ผมฝากพี่สั่งข้าวให้ด้วยสี่จาน”


“อ้าว แล้วมึงไม่ไปกินที่หาดเหรอ ไอ้ต้นกับไอ้ปาล์มคงเตรียมกันจะเสร็จแล้ว”


“ขืนให้กินอาหารทะเลตอนนี้ ไอ้กราฟคงอาการกำเริบอีก พี่สั่งข้าวผัดหมูหรือข้าวผัดไก่ก็ได้มาให้ทีนะครับ”


ผมพูดเพราะๆ มันจะได้ตามใจ ซึ่งก็ได้ผลเพราะมันพยักหน้ารับแต่โดยดี


“ฝากบอกพี่คนอื่นๆ ด้วยนะผมกับพวกเพื่อนๆ ของโทษที่ไปร่วมสนุกกับพี่เขาไม่ได้ พวกพี่ๆ สนุกให้เต็มที่นะครับ”


“อืม กูจะบอกให้”


“ขอบคุณ”


ผมฉีกยิ้มให้มันเป็นการขอบคุณจากใจ ก่อนจะเดินขึ้นบ้านพัก แต่ก็แวบหันกลับไปดูมันหน่อย ซึ่งมันก็ยังไม่เดินกลับไปอย่างที่ผมแอบคิดอยู่ในใจ ผมเลยเดินกลับมาอีกรอบ มองมันก่อนจะรั้งหน้าของมันให้ต่ำลงมาแล้วแนบริมฝีปากของตัวเองที่ส่วนเดียวกันของไอ้พี่ชมพู มันดูจะอึ้งหน่อยๆ เพราะเบิกตากว้าง


“ไม่ต้องคิดมากเรื่องผมกับกราฟแล้ว เพราะถ้าผมจะรักใคร.... คนนั้นก็คงเป็นพี่....................มั้ง”


บอกมันเสร็จผมก็รู้สึกว่าหน้าเห่อร้อนขึ้นมา เลยต้องรีบหันหลังเดินกลับ เปิดประตูออกอย่างรวดเร็วเพื่อจะสอดตัวเข้าไปหลบเลี่ยงไม่ให้มันเห็นหน้า แต่ไอ้พี่ชมพูนี่สิ ดันตะโกนซะเสียงดัง


“พี่จะรอวันนั้นนะ!!”


ฉิบหายเอ๊ย กูไม่น่าทำแบบนั้นเลย วิญญาณผีตายห่าที่ไหนมาสิงกูใช่มั้ยยยย!!!











อ่านต่อด้านล่าง
v
v


ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ต่อจากข้างบน
v
v












หลังจากเข้ามาในห้องไอ้กราฟได้ไม่นานเท่าไหร่ ไอ้กัสกับไอ้เคลมก็ขอตัวไปอาบน้ำก่อน เพราะเห็นว่าผมมาแล้ว ผมเลยถือโอกาสถามไอ้กราฟซะเลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นมายังไงกันแน่ แต่ไม่ใช่ตั้งแต่ต้นที่ผมไปกับไอ้พี่ชมพูหรอกนะ เพราะผมพอจะเดาๆ ได้อยู่หรอก ว่าพวกพี่ๆ เขาคงมาชวนไอ้กัสกับไอ้เคลมไปเล่นเจสกี ไอ้กราฟก็บอกให้ไป อยู่ได้ เหมือนตอนบอกผมแน่ๆ เพราะฉะนั้น เรื่องที่อยากรู้ที่สุดก็ไม่พ้น


“เรื่องมึงกับไอ้เหี้ยไนล์เป็นยังไงกันแน่”


ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้เรียกไอ้ไนล์แบบนี้หรอก เพราะไม่รู้จัก และไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องยังไงกับไอ้กราฟกันแน่ แต่ตอนนี้เรียกชื่อมันเฉยๆ ไม่ลง เพราะมันเหี้ยจริงๆ


“ก็ไม่มีอะไรหรอก”


“มึงอย่ามาโกหกกู กูเคยถามมึงแล้ว แต่มึงไม่ยอมบอกกู”


ผมทำหน้าเหี้ยมใส่ ไอ้กราฟเลยหัวเราะออกมาได้หน่อย อาการของมันดีขึ้นเรื่อยๆ ให้ผมเบาใจ


“กูกับมันมีเดิมพันกันนิดหน่อย”


“นิดหน่อยห่าอะไร มึงเดิมพันกับมันว่าใครจะฆ่าใครได้ก่อนเหรอ ไอ้สัด มันถึงได้ทำแบบนั้น”


“เปล่า”


“แล้วเดิมพันห่าอะไร”


ผมจ้องหน้าไอ้กราฟเขม็ง กดดันให้มันยอมบอกผมสักที ถ้ามันยังปิดบัง มึงได้เห็นอิทธิฤทธิ์กูแน่! และดูเหมือนมันจะเข้าใจว่าแววตาของผมกำลังสื่ออะไรอยู่  มันถึงได้ยอมบอกผมออกมา แต่พอฟังแล้วผมกลับไม่เห็นด้วยนัก


“มึงเลิกเลย กูไม่เห็นด้วย เดี๋ยวกูไปจัดการมันเอง แม่ง แล้วยังมาทำเพื่อนกูอีก”


“ไม่ต้องหรอกมึง เดี๋ยวกูจัดการเอง”


“มึงแน่ใจ”


“เออ เชื่อกู”


ไอ้กราฟบอกอย่างหนักแน่น ผมก็เลยยอมปล่อยประเด็นนั้นไป แต่ถ้าไอ้เหี้ยนั่นทำเพื่อนผมอีกเมื่อไหร่ล่ะก็ มึงได้คางเหลือง ซี่โครงหัก นอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่ กูไม่ทำแค่ต่อยกับถีบมึงอย่างวันนี้หรอก


ผมคาดโทษและคิดวิธีเอาคืนไอ้เหี้ยไนล์นั่นแล้วอาหารที่ผมฝากไอ้พี่ชมพูสั่งให้ก็มาเสิร์ฟที่ห้อง พร้อมกับไอ้กัสไอ้เคลมกลับมาด้วย พวกเราเลยจัดการกินจนเรียบแล้วไอ้เคลมก็ถูกพวกผมสามคนไล่ให้เอาไปวางไว้นอกห้อง เพราะไอ้กัสโทรบอกให้พนักงานมาเก็บแล้ว


จากนั้นเราก็ตั้งวงไพ่ เพราะไอ้เคลมเอามาด้วย เล่นกันนิดหน่อย ก่อนจะเข้านอน วิธีนอนก็ไม่ต่างจากก่อนหน้าสักเท่าไหร่ ก็ขึ้นไปกองๆ กันบนเตียงสี่คนนั่นแหละ แต่ก็นอนหลับกันได้อย่างดี จนรุ่งสาง ผมตื่นมาคนแรก ยังไม่หกโมงด้วยซ้ำ แต่จะหลับต่อก็นอนไม่หลับแล้ว สงสัยเมื่อคืนคงนอนเร็วไปหน่อย เพราะสี่ทุ่มเราก็ขึ้นเตียงกันแล้ว ปกติต้องเที่ยงคืนไม่ก็ตีหนึ่ง


ผมลุกจากที่นอนอย่างระมัดระวังไม่ให้คนอื่นตื่น ก่อนจะเดินออกจากห้องแล้วกลับที่บ้านพักของไอ้พี่ชมพูแทน เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ออกมาก็เห็นว่าไอ้พี่ชมพูยังนอนอยู่เหมือนเดิม แต่พี่เจ๋งไปไหนไม่รู้ตั้งแต่ผมเข้ามาก็ไม่เจอแล้ว ทั้งที่คิดว่าคงจะนอนด้วยกัน


เดินเข้าไปดูมันใกล้ๆ แล้วคว้าโทรศัพท์ออกมา กะจะแอบถ่ายรูปตอนมันนอนหลับไว้แบ็คเมล์อะไรเทือกนั้น แต่พอไปยืนข้างเตียงเท่านั้นแหละ มันก็ยื่นมือมากระชากตัวผมให้ล้มลงไปนอนบนเตียง หนำซ้ำยังตะปบตัวผมเอาไว้ในอ้อมกอดไม่ให้หนีไปไหนได้อีก


“ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่”


ดิ้นหนีมันให้พอเหนื่อยแต่ไม่หลุด ผมก็หยุด มันยิ้มให้แล้วกดปากลงบนแก้มผมก่อนจะตอบ เอากำไรกับกูตลอด


“ตั้งแต่มึงเข้ามา”


“ทำไมตื่นง่ายจังวะ”


“กูรอมึงอยู่ ไม่รู้เหรอ”


“อย่าเน่าบอกว่าไม่นอนล่ะ”


ผมทำหน้าพะอืดพะอมใส่ มันก็ยิ้มแล้วก้มลงมางับจมูกผมซะงั้น เป็นหมาหรือไงวะ


“นอนดิ เรื่องอะไรกูต้องอดนอนรอมึงด้วย”


ไอ้แสรดดด ทีเมื่อกี้บอกว่ารอกูนะ แล้วกูก็บ้าคิดว่ามันจะทำแบบนั้น อาการหนักแล้วว่ะกู


“งั้นถ้าตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำ เหม็นขี้ปาก”


ผมไล่มัน มือก็ดันตัวควายๆ นั่นออกไปด้วย แต่ไอ้พี่ชมพูมันก็ดื้อด้านฉิบหาย ล็อกตัวผมกอดแน่นขึ้นแล้วมาจูบผมอีก เห็นปากกูเป็นโถส้วมอีกแล้วนะมึง


“เหม็นเท่ากันแล้ว”


พูดจบมันก็ผลุงตัวออกจากเตียงทันที สงสัยกลัวลูกถีบของผม ซึ่งก็จริงๆ นั่นแหละที่ผมเป็นอิสระก็ยกตีนขึ้นมาเลย แต่แม่งเสือกไหวตัวทัน


“รอกูอาบน้ำก่อนล่ะ เดี๋ยวออกไปด้วยกัน”


“ไปไหน”


“เดี๋ยวก็รู้”


แล้วไอ้พี่ชมพูก็เดินเข้าห้องน้ำไป ไม่ถึงสิบนาทีเหมือนเดิมนั่นแหละก็ออกมา แม่งขี้หรือเปล่าวะ


“ไป”


มันหยิบกุญแจห้องกับโทรศัพท์ได้ก็มาจับมือผมให้เดินไปด้วยกัน ผมก็งงๆ เดินตามมันไป จนมาถึงห้องอาหาร มันสั่งพนักงานว่าอะไรไม่รู้ เสียงเบาๆ ทั้งที่ยังจับมือผมอยู่ ผมเบื่อจะดึงออกแล้ว เพราะดึงมาตลอดทางก็ได้ผลเหมือนเดิม มึงจะลากกูไปไหนก็ตามใจมึงแล้วกัน


สักพักก็มีตะกร้าใบเล็กๆ ส่งมาให้ พี่ชมพูรับมาถือก่อนจะเดินออกจากห้องอาหารไป ตรงไปยังทะเลที่อยู่ไม่ไกลนัก ตอนนี้ท้องฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว แต่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่ออกมาจากขอบฟ้า มันพาผมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นเหรอ? ผมถามตัวเองในใจ แต่ไม่ได้ถามมันออกไป


พี่ชมพูดึงผมให้นั่งลงข้างๆ บนพื้นทราย ไม่มีเสื่อปูรองทั้งสิ้น เพราะมันไม่ร้อนเหมือนเมื่อวานนี้ที่เราออกมาที่หาดกัน


“วันนี้วันสุดท้ายแล้ว”


“อืม”


ผมตอบสั้นๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันจันทร์ แต่ผมไม่มีเรียนวิชานี้แล้ว จบคอร์สแล้ว อาจารย์แค่นัดไปแนะแนวข้อสอบที่จะสอบในอีกอาทิตย์กว่าๆ ซึ่งผมไม่จำเป็นต้องเข้าก็ได้ ส่วนไอ้กัสกับไอ้เคลมก็คงเหมือนๆ กันมั้ง หรือไม่มันโดดเรียนกันเอง ผมก็ไม่แน่ใจ


“มึงชอบที่นี่มั้ย”


“ก็ดี”


ผมตอบแค่นั้น แต่ในใจพลางคิดว่าคงจะดีกว่านี้ ถ้าไอ้กราฟไม่เป็นไรเวลาที่เห็นทะเล คงมีความสุขและสนุกว่านี้เยอะ และผมก็อดคิดถึงบรรยากาศตอนที่ผมไปทะเลกับพวกมันตอนที่เรียนม.ต้นไม่ได้ มีแต่ความสนุกสนาน พวกเราหัวเราะกันเสียงดัง แกล้งกันไปแกล้งกันมา


คิดแล้วผมก็ยิ้มๆ กับตัวเอง อยากให้บรรยากาศแบบนั้นกลับมาอีกครั้ง แต่คงเป็นไปไม่ได้ จนกว่าไอ้กราฟจะหาย ซึ่งผมไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน หรืออาจจะไม่มีโอกาสเป็นแบบนั้นอีกเลย


“กูจะดีใจถ้ามึงชอบ”


“ผมก็ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนี่”


เหมือนว่ามันจะแอบตัดพ้อหน่อยๆ ผมเลยสวนกลับไปแบบนั้น ซึ่งก็ทำให้ผมยิ้มได้ แต่ไม่มากนักหรอก


“มึงบอกว่าก็ดี”


“ชอบครับ ชอบมาก ชอบสุดๆ”


ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ฉีกยิ้มให้มันไปจนเห็นฟันครบทุกซี่เลยมั้ง มันเลยหัวเราะออกมาเพราะรู้ว่าผมประชด เอามือใหญ่ๆ นั่นมาขยี้ผมของผมจนยุ่งกระจาย ผมจึงต้องปัดมือให้ออกไปมั่ง ไม่งั้นผมคงพันกันยุ่งเป็นสังกะตัง มันเลยเปลี่ยนเป็นเอาแขนมาโอบรอบเอวผมแทน หนำซ้ำยังดึงตัวผมให้เข้าไปใกล้มันอีก


มึงเป็นหมาจริงๆ สินะ ถึงได้ชอบมาซุกๆ ไซ้ๆ คลอเคลียเจ้าของ


“มึงว่าถ้าจูบกันตอนพระอาทิตย์ขึ้นจะโรแมนติกป่ะวะ”


“ไม่อะ”


ทั้งที่ผมตอบมันไปแบบนั้นนะ แต่ไอ้พี่ชมพูกลับช้อนคางผมขึ้นรับจูบที่มันป้อนมาอยู่ดี แล้วดันบังเอิญเป็นตอนที่พระอาทิตย์ผุดขึ้นมาจากทะเลพอดี แบบ..มึงจะตรงเวลาไปมั้ย!!


พี่ชมพูทั้งจูบทั้งดูดปากผม แค่นั้นไม่พอยังแหย่ลิ้นเข้ามาหยอกล้อกับลิ้นของผมซะอีก ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเผลอเปิดปากให้มันเข้ามาทำการอุกอาจนี้ยังไง แต่ตอนนี้... ก็เคลิ้มตามมันไปแล้ว


มึงจูบเก่ง จูบเก่งเกินไป ชีวิตกูรันทดเลย แสรดดดด


ปล่อยให้ไอ้หมีตัวโตมันจูบจนสะใจ ปากผมบวมเจ่อไปหมดแล้ว มันถึงได้ปล่อยปากผมออกมา แต่ก็ไม่วายเลียปากผมเล่นอีกสองสามที สงสัยปากกูมียาบ้าแน่ๆ มึงถึงได้ติดขนาดนี้ ถึงผมจะรู้สึกดีเวลาจูบกับมันก็เหอะ แต่ผมก็ไม่ได้บ้าเหมือนมันนะ


“ปากมึงบวมเลยว่ะ”


แค่ประทุษร้ายปากผมไม่พอ มันยังประจานอีกด้วย ผมเลยขึงตามองมันซะ


“ก็เพราะใคร”


“ปากเป็ด”


“ปากหมา”


มาด่าผมปากเป็ด ก็สวนสิครับ แต่แทนที่มันจะโกรธ มันเสือกหัวเราะอีก มึงเป็นบ้าไปแล้ว จับส่งศรีญญาทันมั้ย


“ถ่ายรูปกัน”


“ไม่”


มันชวน แต่ผมปฏิเสธ ปากกูบวมขนดานี้ มึงคิดจะเอาไว้ประจานกูล่ะสิ


“ทำไมวะ แค่ถ่ายรูปเอง”


“ชอบถ่ายรูปตอนผมหน้าตาอุบาทว์นักหรือไง”


“ใครบอก ตอนนี้มึงน่ารักมากต่างหาก”


ไอ้เหี้ย อยู่ดีๆ มันก็จ้องหน้าผมแล้วพูดแบบนี้ออกมา ผมถึงกับใจกระตุกขึ้นมาเลย แสรดดดด มึงพยายามจะทำให้กูเป็นตุ๊ดใช่มั้ย ไอ้หมีควาย!! หน้ากูตอนนี้คงแดงเป็นตูดลิงกินยาถ่ายขี้จนตูดระบมแล้วมั้ง


มันเผด็จกาจลากผมเข้าไปติดกับตัวมันมากกว่าเดิม แล้วชักโทรศัพท์ออกมาเตรียมถ่ายเลย ผมเห็นหน้าตัวเองในโทรศัพท์ของมันก็ต้องหันหนี


“มึงจะให้กูถ่ายใหม่ หรือจะให้กูใช้รูปนี้เป็นล็อกสกรีนต่อไป”


สิ้นเสียงมันก็กดล็อกหน้าจอให้ผมเห็นว่ารูปที่มันใช้อยู่คือรูปอะไร เท่านั้นแหละ ผมหันไปด่ามันเลย


“พี่ใช้รูปนี้ได้ไงวะ มันอุบาทว์ไม่เห็นหรือไง หรืออยากให้ผมขายหน้า”


แต่ว่ามันกลับหัวเราะ แล้วย้ำ


“งั้นมึงก็ถ่ายรูปกับกูสิ”


ผมเม้มปากแน่นเพื่อไม่ให้เผลอต่อยมันออกไป เชื่อเลย ไอ้หมอนี่มันชั่วร้าย กวนส้นตีนผมสุดๆ


เพราะเหตุนั้น ผมเลยต้องถ่ายรูปกับมันอย่างช่วยไม่ได้ มันก็กระดี๊กระด๊าขึ้นมาทันที กระแซะตัวเข้ามาใกล้ๆ ผมจนผมแทบจะนั่งตักมันอยู่แล้ว ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมถ่ายผมก็เอามือปิดปากเอาไว้


“ปิดทำไม”


“เรื่องของผม”


“ตามใจ”


มันตัดใจง่ายๆ ก่อนจะกดชัตเตอร์ พอได้อย่างใจมันแล้ว ผมก็รีบกระเถิบตัวหนี แต่มันมือไวมาก ดึงตัวผมไว้ก่อนจะรีบกดชัตเตอร์อีกรอบ ผมกำลังอ้าปากด่ามันพอดี รูปที่ออกมาเลยอุบาทว์ฉิบหาย แม่งแกล้งกูอีกแล้ว!!


เท่านั้นไม่พอ มันยังรีบเปลี่ยนมาตั้งรูปเป็นล็อกสกรีน ซึ่งก็เป็นรูปที่ผมอ้าปากหวอแต่มันอย่างหล่อนั่นแหละ แม่งงง ลำเอียงฉิบหาย!


ผมรีบโถมตัวเข้าแย่งโทรศัพท์มันเลย มันก็ยกหนีอีก แต่อย่าหวังว่าจะสำเร็จเลย เพราะคราวนี้ผมไม่เมาเหมือนครั้งก่อน แต่ไม่รู้ยังไง ไปๆ มาๆ ผมถึงขึ้นไปอยู่บนตัวมันทั้งตัวได้ แต่ผมก็คว้าโทรศัพท์มันมาได้เหมือนกัน เลยรีบเปลี่ยนรูปหน้าจอทันที


“ถ้าไม่ใชร่รูปที่มึงถ่ายกับกู เดี๋ยวกูเปลี่ยนอีกแน่”


เขวี้ยงตาขวางใส่มันเลยคราวนี้ แล้วก็ต้องจำใจยอมเปลี่ยนเป็นอีกรูปที่ผมปิดปาก เพราะถ้าผมไม่ทำอย่างนั้น มีหวังลับหลังผมมันได้เอารูปอุบาทว์นั่นมาใช้อีกแน่ๆ


เปลี่ยนเสร็จแล้ว ผมก็วางโทรศัพท์แรงๆ บนอกมัน พี่ชมพูก็หัวเราะเหมือนไม่เจ็บ ทั้งที่ผมวางไปเต็มแรง ถ้าโทรศัพท์มันเปราะบางกว่านี้คงแตกคามือผมไปแล้ว


“คืนไป แล้วก็ปล่อยได้แล้ว”


ตอนนี้ไอ้พี่ชมพูเอามือพาดเอวของผมเอาไว้ ให้ผมลงไปนอนตัวแนบกับมันอยู่ มันนี่ชอบเอากำไร ฉวยโอกาสตลอด ยิ่งเป็นแฟนกันแล้ว มันยิ่งเยอะขึ้นกว่าเดิมอีก นี่ผมคิดผิดหรือถูกเนี่ยที่ยอมเป็นแฟนมัน


กว่ามันจะปล่อยตัวผมได้ มันก็จูบปากผมไปเบาๆ อีกหนึ่งที ผมลุกขึ้นมาทำตาขวางใส่มัน แต่ไอ้หมีควายไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรสักนิด หนำซ้ำยังทำหน้าระรื่นสุดๆ ก็แน่สิ มึงได้เปรียบแต่กูเสียเปรียบนี่หว่า


“มึงอย่าทำหน้าง้อแบบนั้นดิวะ”


“แล้วจะให้ผมยิ้มปากฉีกหรือไง”


“มึงก็ต้องหยวนๆ หน่อยสิ เป็นแฟนกูต้องทำใจ”


“งั้นเลิกเลยดีมั้ย”


ผมพูดไปงั้นๆ แหละ ไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นสักเท่าไหร่ ทั้งที่ทีแรกไม่ได้อยากเป็นแฟนกับมันเลย แต่พอรับปากไปแล้วกลับไม่อยากเลิกง่ายๆ ซะงั้น แปลกใจตัวเองเหมือนกัน แต่ดูเหมือนจะมีคนไม่อยากเลิกมากกว่าผมนะ มันทำตาเขียวใส่ผมเลย


“มึงอยากเลิกกับกูขนาดนั้นเลย”


ได้ยินคำถามแบบนั้นแล้ว แทนที่ผมจะอยากเล่นต่อ แต่เปล่าเลย มันทำให้ผมรู้สึกใจหวิวๆ ยังไงชอบกล รู้สึกไม่ดี และไม่สนุกเลยสักนิด


“ผมพูดเล่น”


“มึงอย่าพูดแบบนี้อีกนะ อย่าพูดจนกว่ามึงจะอยากเลิกกับกูจริงๆ”


เสียงมันเศร้าลงแล้ว เหมือนมันกำลังเจ็บกับคำนั้น ทั้งที่ตอนแรกผมคิดว่ามันอาจจะเล่นไปกับผมด้วยแท้ๆ แต่ไม่ใช่เลย มันจริงจังกับผมเกินกว่าที่ผมคิดไว้มาก


“พี่......รักผม....จริงๆ เหรอ”


“กูดูเหมือนไม่ได้รักมึงเหรอ”


มันถามผมกลับ แต่ผมไม่มีคำตอบให้ มันจุกจนพูดไม่ออก และยิ่งจุกกว่าเดิมเมื่อมันบอกมาอีกประโยค


“งั้นมึงก็รู้ไว้เลย กูรักมึงจริงๆ”


“อืม”


ผมได้แค่ครางเสียงตอบกลับไปแบบนั้น คิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าทำไมมันถึงได้รักผมมากแบบนี้ ทั้งที่เราก็ไม่ได้มีอะไรที่เป็นพิเศษต่อกันเลย ผมกับมันกวนกันไปวันๆ มันชอบฉวยโอกาสกับผม ชอบทำให้ผมใจเต้น พูดตรงๆ ในเรื่องน่าอาย ผมนึกว่ามันแค่ชอบผม และมันอาจจะคิดว่านี่เป็นความรู้สึกว่ารักแล้ว ผมไม่คิดว่ามันจะรู้สึกกับผมแบบนี้และมากขนาดนี้


บรรยากาศตอนนี้มีแต่ความเงียบ ผมกับมันต่างมองไปทางทะเล ไม่ได้มองหน้ากันเหมือนก่อนหน้านี้ ปล่อยให้เกิดช่องว่างระหว่างคนสองคน มันคงไม่มีอะไรจะพูดอีก ส่วนผมไม่รู้จะพูดอะไร และสุดท้ายมันก็กลายเป็นความอึดอัด


“พี่บอกว่าอยากรู้เรื่องกราฟใช่มั้ย”


ผมเป็นฝ่ายเปิดปากขึ้นมาก่อน พี่ชมพูก็หันมามองหน้าผมด้วยแววตาอยากรู้คำตอบเช่นกัน ผมจึงค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้มันเหมือนตอนแรก ยื่นมือไปจับมือใหญ่ๆ นั้นไว้ ก่อนจะลำเลียงเสียงของตัวเองออกมาอย่างยากลำบาก เมื่อย้อนคิดไปถึงเหตุการณ์วันนั้น


“แฟนของไอ้กราฟตายที่ทะเล”












=============
ขอโทษนะคะ ที่มาต่อช้า เลยมาแบบยาวเลย
สองอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่ว่างเลยค่ะ
หวังว่าจะมีคนรออ่านเรื่องนี้อยู่นะคะ

คงจะรู้แล้วเนอะว่าเรื่องกราฟเป็นยังไง
ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตามค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-06-2012 21:39:13 โดย undersky »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
โอ้วววว แล้วไนล์มันมาจากไหนนิ

ออฟไลน์ akihito

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
กราฟน่าสงสารอ่ะ
ว่าแต่ทำไมแอบหลอนๆฟะ o21

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ Kaewkaew

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ทำไมถึงทำกับฉันได้~ ต่อมาพอดีเบยยยย!!
พี่ภูวววววววววววววววววว!!!!!!
สงสารกราฟนะ tt
ก็ดูรักกันดีอะ อยากรอต่อ ตอนต่อไปจะเล่าอีกไหม?
หรือจะตัดฉึบแล้วพี่ภูรู้เรื่อง
ติดตามชมกันได้อีก2เดือนข้างหน้า... ตึ่งตึงตึ้งงง...
ล้อเล่นนนนนนนนนนน ; ;
รอรอรอ :)
*รีบรอเกิ๊น*

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
กำลังเข้มข้นเลย
แล้วไนล์นี่อะไรยังไง
แต่สมควรละ ที่พี่พูจะหึง แหม เล่นห่วงกันซะขนาดนั้น แค่นี้ถือว่าพี่พูใจเย็นมากเลยนะเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



   กราฟนี่เป็นเอามากนะเนี่ย
   แล้วคนชื่อไนล์นี่เกี่ยวอะไรกับอดีตของกราฟด้วยอ๊ะป่าว
   แต่ถ้ารู้แล้วยังทำอย่างนี้มันไม่แรงไปเหรอ
   ว่าแต่ว่าช่วงนี้หนูยีนใช้มารยาอ้อนเก่งขึ้นนะ




Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
ใกล้แล้วสินะ

แล้วพนันอะไรกับไนล์อ่า


แต่พี่ชมภู  รัก ยีนมากายเลยอ่า

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
เอ่อออ มันค้างไปนิดนึงนะ  :เฮ้อ:

รอต่อไปค่ะ

kisz

  • บุคคลทั่วไป
ตอนหน้าความจริงจะเปิดเผยแล้วววววว

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ถึงจะมาต่อช้าแต่ก็รออยู่จ้ะ
ความรู้สึกดีและรู้สึกรักของเกงยีนที่มีต่อพี่ชมพู กำลังมากขึ้นๆเลยเนอะ
ตอนหน้าคาดว่าปมทะเลของทราฟคงได้รู้กระจ่างใจเสียทีนะจ๊ะ

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
เอาแล้วววววว

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!!!


ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ •ไนท์คลุง•

  • Night ♥ .....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?action=profile
มาแล้วววว ยาวดีแหะ แอบเขิลตอนที่ยีนสวีทกับชมพู แอร๊ยย!
สรุป เรื่องกราฟก็ยังไม่ค่อยเคลียร์ มาต่อๆไวเด้ออ!

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ไนล์คงเกี่ยวข้องกับอดีตของกราฟมั้ง

อีพี่ชมพูนี่น่ารักแบบโหดๆนะ 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
พี่ชมพูต้องเข้าใจนะคะ ความผูกพันธ์มันต้องใช้เวลา


ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0

ออฟไลน์ duckduckk3

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ค้างเติ่งงงงงง แง้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :z3:

มาต่อไวๆน๊าา อยากรู้เรื่องของกราฟง่าาาาา TT  :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ ~tai~

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ่านชื่อตอนทีแรกตกใจ ... นึกว่าน้องเกงยีนกะพี่ชมพูจะดราม่า
เฮ้อ....โล่งอก  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ bluerose

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สงสารกราฟอ่ะ T^T อินมากอ่ะ ปมนี้จะคลายออกเมื่อไหร่ ปวดใจจัง ส่วนอีกคู่ฟินมาก *0* 555 พี่ชมพู เธอทำเราฟินมากน่ะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ yongsulewa

  • 나는 상처를 줬어.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ตอนที่ 26 : ความจริงที่ไม่มีวันลืม


























พี่ชมพูดดูตกใจอยู่ไม่น้อยหลังจากที่ผมบอกไปแบบนั้น เพราะเบิกตากว้าง มองผมแทบตาไม่กะพริบ ก็แน่ล่ะ ใครจะไม่ตกใจกับเรื่องแบบนี้ ผมเองก็ไม่คิดว่ามิ้นจะต้องจมอยู่ก้นทะเล แต่ถึงจะรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมก็ยังเล่าเรื่องต่อไปอย่างที่ตั้งใจไว้


“มันกับมิ้นคบกันตั้งแต่อยู่ ม.3 รักกันดีจนใครๆ ก็อิจฉา ไอ้กราฟมันเป็นคนเอาใจใส่คนอื่นอยู่แล้ว มันเลยคอยช่วยเหลือดูแลมิ้นตลอด”


ผมค่อยๆ เล่าเรื่องราวของไอ้กราฟก่อน เพื่อพี่ชมพูจะได้เข้าใจเหตุผลทั้งหมดที่ทำให้ไอ้กราฟเป็นได้ขนาดนี้


“ไอ้กราฟมันรักมิ้นมาก แล้วมิ้นก็รักมันมากเหมือนกัน ผมยังคิดอยู่ว่าคู่นี้คงจะคบกันไปอีกนาน และอาจจะยาวต่อมาถึงมหา’ลัย ไม่เลิกราเหมือนคู่อื่นๆ ที่พอเข้ามหา’ลัยก็ห่างกันและกลายเป็นคนอื่น เพราะความรู้สึกของทั้งคู่มันหนักแน่น”


นึกภาพตามสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและพรั่งพรูออกมาจากปากผมแล้วก็ทำให้อดยิ้มไม่ได้ ช่วงเวลานั้นเพื่อนรักของผมมีความสุขมากกว่าเวลาไหน จนพวกผมเห็นยังอยากมีแฟนเหมือนมันเลย แต่ก็คงมีแค่มันล่ะมั้งที่โชคดี ได้แฟนที่ดีและรักมากแบบนั้น


“จน ม.4 พวกผมไปเที่ยวทะเลกัน เป็นบ้านพักของครอบครัวไอ้กราฟนั่นแหละ เป็นหาดส่วนตัว มันเลยขอพามิ้นไปด้วย อย่างมันน่ะไม่อยากมีความสุขคนเดียวอยู่แล้ว จะให้ตัวเองมาเที่ยวสนุกจนลืมแฟนก็ไม่ใช่นิสัยมัน มันเป็นพวกเอาใจใส่คนอื่นมากเกินไป สนิทกับใครก็อยากดูแล ช่วยเหลือ เพราะกับพวกผมเองมันก็ทำแบบนั้น จะหนักทางผมหน่อยเท่านั้นแหละ”


เล่ามาถึงตรงนี้ ผมก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอแรงๆ เพราะอยู่ๆ ก็รู้สึกว่าคอมันแห้งเหมือนไปอยู่กลางทะเลทราย ส่วนคนฟังก็ตั้งใจฟังผมต่อไป มันมองหน้าผมไม่ละสายตา


“แต่พอมาแล้วก็เกิดเรื่องขึ้น ไอ้กราฟชวนมิ้นไปเล่นน้ำทะเลกัน ไอ้กัสกับไอ้กราฟชวนกันไปซื้อของ กะทำบาร์บีคิวกันเหมือนวันนี้ ส่วนผมอยู่ในบ้านพัก ไม่อยากไปกวนเวลามันสวีทกัน ตอนแรกผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะกันสนุกสนาน แต่แล้วเสียงหัวเราะก็กลายเป็นเสียงตะโกน”


“...”


“ผมตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น พอวิ่งออกไปนอกบ้านก็เห็นไอ้กราฟมันกำลังควานหาอะไรสักอย่าง สลับกับดำน้ำลงไป แต่ผมไม่เห็นมิ้น และพอได้ยินเสียงตะโกนของไอ้กราฟที่แหบแห้งจนน่ากลัวว่าคอมันจะพัง ผมก็รู้ทันที รีบวิ่งลงน้ำไปช่วยไอ้กราฟ แต่บริเวณนั้นกลับไม่มีอะไรเลย


“...”


“ตอนนั้นผมใจหายไปแล้วที่หามิ้นไม่เจอ ไอ้กราฟก็ลุยน้ำลึกลงไปเรื่อยๆ โดยที่ผมไม่ทันมอง เพราะแยกกันหาคนละด้าน กว่าจะหันกลับไป ไอ้กราฟก็ไปไกลมากแล้ว น้ำลึกมาก แล้วตอนนั้นมันแทบไม่มีสติด้วยซ้ำ ผมกลัวมาก กลัวจนสั่น แต่ก็พยายามเข้าไปหามันให้เร็วที่สุด”


ผมกลืนน้ำลายอีกครั้ง เพราะคอมันฝืดเฝื่อนไปหมด พี่ชมพูก็ตั้งใจฟังและรอลุ้นว่าเรื่องจะเป็นยังไง มือที่ใหญ่กว่าผมยื่นมาจับมือผมเอาไว้ เหมือนกับจะให้กำลังใจ และไม่ให้ผมจมดิ่งไปกับความรู้สึกตอนนั้น


“แต่มันก็สายไป ผมไปไม่ถึงตัวไอ้กราฟ มันดำลงไปในน้ำแล้วก็หายตัวไป ตอนนั้นผมพยายามวิ่งสู้แรงต้านของน้ำเข้าไปหามัน และควานหาตัวมันให้เจอเร็วที่สุด ผมดำน้ำไปจนทั่วบริเวณนั้น กว่าจะเจอตัวมันก็แทบหมดแรง แต่พอเห็นมันแล้วผมก็มีแรงฮึดขึ้นมา”


พี่ชมพูบีบมือผมแน่นขึ้น คงรู้ว่าผมกำลังกลับไปรู้สึกแย่เหมือนตอนนั้น


“ผมลากตัวไอ้กราฟขึ้นมาบนหาด ไม่สนใจอะไรแล้ว รู้อย่างเดียวว่าต้องช่วยไอ้กราฟให้ได้ เพราะยิ่งเห็นมันนิ่งไป ใจของผมก็ยิ่งร้อนรน กลัวว่ามันจะเป็นอะไร ผมใช้แรงทั้งหมดจนในที่สุดก็ทำสำเร็จ ผมฟังเสียงหัวใจของมัน ฟังเสียงหายใจของมัน แต่ไม่มีสิ่งที่ผมอยากได้ยินสักอย่าง”






‘กราฟ กราฟ!!’


‘…’


‘ไอ้เหี้ย มึงฟื้นสิเว้ย อย่าทำแบบนี้ กูกลัวนะไอ้สัด’


‘...’


‘มึงฟื้นมา ฟื้นขึ้นมาสิ’


ผมตะโกนเรียกมันสุดเสียง พยายามเขย่าตัวมันเพื่อให้มันรู้สึกตัวสักที น้ำที่ไหนไม่รู้เริ่มคลออยู่ที่ตาผม ผมกลัว.. กลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวอะไรมากขนาดนี้มาก่อน ตอนที่แม่เสีย ผมยังไม่ทันรู้สึกกลัวแบบนี้เลย แม่เสียไปกะทันหัน ผมไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ ก็มีไอ้กราฟเนี่ยแหละที่อยู่ข้างๆ ผมตลอด คอยปลอบใจให้ผมกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม







“ตอนนั้นผมเกือบจะช็อกไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าต้องช่วยไอ้กราฟให้ได้ ผมเลยผายปอดให้มัน แล้วก็ปั๊มหัวใจอย่างที่เคยเรียนมา ถึงจะจำได้ไม่ชัวร์เท่าไหร่ว่าต้องทำยังไง แต่ผมก็พยายามสุดชีวิต และมันก็กลับมาหายใจอีกครั้ง สำลักน้ำออกมา ตอนนั้นผมรู้สึกว่า.... ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมรู้สึกดีไปกว่านี้แล้ว”


“เพราะอย่างนั้น มึงกับกราฟเลยสนิทแล้วก็เป็นเพื่อนที่รักกันมากใช่มั้ย”


“ครับ แต่ว่ามีเรื่องต่อจากนั้นอีก”


ผมบอกแบบนั้นไป พี่ชมพูก็เหมือนจะรอฟัง ผมเลยเล่าต่อ


“ไอ้กัสกับไอ้เคลมกลับมาพอดี ผมเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง ไอ้กัสเลยบอกว่ามันจะจัดการเรื่องทางนี้เอง ไอ้ผมกับไอ้เคลมพาไอ้กราฟไปส่งโรง’บาล เพราะไอ้กราฟยังดูไม่ค่อยมีสติเลย ตอนนั้นเราทุลักทุเลกันมาก เพราะมีแค่มอเตอร์ไซค์คันเดียว แล้วนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำให้พวกผมหัดขับรถอย่างจริงจัง”


“...”



“แต่พอไปหาหมอและมันฟื้นขึ้นมา มันก็เอาแต่ถามถึงมิ้น พวกผมต่างก็พูดกันไม่ออก เพราะตอนนี้ยังไม่มีใครหามิ้นเจอ ทั้งที่ไอ้กัสแจ้งตำรวจและนักประดาน้ำก็ระดมตามหาแล้ว”


“...”


“แล้วที่แย่กว่านั้นคือไอ้กราฟมันหนีออกจากโรง’บาล ตอนผมกำลังเข้าห้องน้ำ ไอ้กัสกับไอ้เคลมกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและจะเอาของใช้มาให้ผมด้วย พอออกมาไม่เจอมัน ผมตกใจมาก ตามหาในโรง’บาล แต่ก็ไม่เจอ ไม่มีใครเห็น แถมตอนนั้นก็เกือบสองทุ่มแล้วด้วย จะหาอะไรก็ยาก แล้วอยู่ๆ ผมก็รู้สึกมีสังหรณ์ขึ้นมา เลยจ้างรถรับจ้างที่อยู่ใกล้มากที่สุดให้ไปที่เกิดเหตุโดยด่วน”


























ไปถึงหาดหน้าบ้านพัก ผมก็กวาดตาไปทั่วผืนน้ำ มองหาไอ้กราฟที่ผมคิดมากไปว่ามันอาจจะมาตามหามิ้นก็ได้ ซึ่งมันเป็นเรื่องไม่ดีเลยสักนิดที่ความคิดมากของผมเป็นจริงๆ ผมเห็นอะไรบางอย่างลอยอยู่ในทะเลลิบๆ พอเพ่งอย่างสุดความสามารถก็เดาได้ว่าเป็นคน ตอนนั้นไม่ต้องคิดเลยว่าเป็นใคร


ผมวิ่งลงทะเลอย่างรวดเร็ว ว่ายน้ำต้านคลื่นที่ซัดเข้าหาดเป็นระลอก ตาก็จับจ้องแต่ร่างนั้น ถึงไม่ใช่กราฟก็ไม่เป็นไร แต่ผมจะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด แต่ยิ่งผมวิ่งเข้าหา คนคนนั้นก็ยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ จนน้ำเกือบเท่าระดับคอแล้ว มือคู่นั้นกวาดลงไปในน้ำเหมือนกับกำลังหาอะไรบางอย่าง นั่นทำให้ผมแน่ใจแล้วว่าเป็นไอ้กราฟชัวร์


‘กราฟ มึงจะทำอะไร!!’


หวังว่ามันจะได้ยินเสียงผมบ้าง ผมถึงตะโกนเต็มเสียง แต่ไม่มีประโยชน์ ไอ้กราฟไม่ได้ยินเสียงของผมเลย สิ่งเดียวที่ทำได้คือการเข้าไปกระชากตัวมันมา และคงเป็นโชคดีอยู่บ้างที่ผมเข้าไปจับมันได้สำเร็จ ผมใช้แรงที่มีลากมันเข้าฝั่ง ไอ้กราฟก็สะบัดมือผมออก แต่ผมไม่ยอมให้มันได้ทำบ้าๆ แน่ ให้อยู่ตำแหน่งที่น้ำไม่ลึกนักก็ยังดี


‘กราฟ มึงพอเถอะ มึงอย่าทำแบบนี้เลยนะ ถ้ามึงเป็นอะไรอีกคนจะทำยังไง’


ผมถามมันเสียงสั่นหลังจากลากมันมาจนเกือบถึงหาดได้แล้ว


‘มึงคิดว่ามิ้นอยากให้มึงเป็นแบบนี้เหรอ กูก็เสียใจเหมือนกันที่หามิ้นไม่เจอ แต่มึงก็ไม่ควรจะทำแบบนี้ ถึงมึงตายไป ก็ไม่ช่วยให้มิ้นกลับมาหรอก’


แม้คำพูดของผมจะรุนแรง แต่ผมก็อยากให้มันได้สติสักที ไม่อย่างนั้นผมก็ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่มันจะลงทะเลแล้วจมหายไปอีก


เรื่องมิ้นผมไม่แน่ใจหรอกว่าเธอจะยังมีชีวิตอยู่หรือว่าไม่มีแล้ว แต่การที่ตามหาตั้งครึ่งวันแล้วยังไม่เจอ ก็เป็นสัญญาณที่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าเธอไม่อยู่อีกแล้ว เพราะงั้นผมจึงอยากให้มันทำใจได้ อย่างน้อยก็ให้เร็วที่สุด ไม่อยากให้มันเจ็บปวดเหมือนที่ผมเคยเจ็บ อยากช่วยมันเหมือนที่มันเคยช่วย


‘มึงคิดได้สักทีสิวะ ฟังกูๆ กูอยู่นี่ กูอยู่กับมึง’


สิ้นเสียงของผม น้ำตาของไอ้กราฟก็ไหลอาบแก้ม เป็นภาพที่เห็นแล้วผมต้องน้ำตาคลอไปด้วย เพราะไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ผมได้เห็นน้ำตาของมันตั้งแต่คบกันมาสามปี


‘มิ้น... ไม่อยู่แล้วเหรอ’


เสียงของมันแผ่วเบาแหบแห้ง จนผมรู้สึกปวดหน่วงๆ ในใจ


‘ตามหากันเต็มที่แล้ว แต่ไม่มีใครเจอ’


‘มึง... กู.....’


คำที่จะพูดถูกกลืนหายไปกับน้ำตาของมันหมด แต่ผมเข้าใจมันนะ ว่าความรู้สึกของการสูญเสียเป็นยังไง ผมกอดเพื่อนรักของผมไว้แน่น ตบหลังมันเบาๆ ทั้งที่ผมเองก็น้ำตาคลอ ไม่มีใครนึกถึงว่าจะเกิดการสูญเสียครั้งนี้


‘มึงยังมีกูอยู่ กูจะอยู่กับมึงตลอดไป กูจะไม่ทิ้งมึง ไม่มีมิ้นมึงดูแลกูแทนก็ได้ มึงอย่าทำอะไรไม่คิดนะเว้ย นึกถึงกูเข้าไว้ กูรักมึง กูไม่มีวันทรยศมึง ไม่มีวันทิ้งมึงไปก่อนแน่ๆ เชื่อกู’


ผมผละตัวออกมาจากอ้อมกอดของกันและกัน มองหน้าไอ้กราฟอย่างแน่วแน่ ให้มันเชื่อว่าผมจะทำอย่างที่บอกจริงๆ


‘สัญญากับกูนะ’


‘แต่มึงไม่ใช่มิ้น’


กราฟมองหน้าผม เสียงของมันยังคงเบาหวิวเหมือนเดิม


‘กูรู้ว่ากูไม่ใช่มิ้น กูแทนที่มิ้นไม่ได้ แต่เวลาที่มึงนึกถึงมิ้น มึงมาหากูได้ กูจะเป็นมิ้นให้มึง เพราะงั้นมึงต้องดูแลตัวเอง แล้วก็ต้องดูแลกู เข้าใจมั้ย’


เหมือนกับจะยัดเยียดให้มัน แต่ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงให้ไอ้กราฟมันคิดได้ และรักชีวิตของมันขึ้นมา ถ้ามันสัญญาว่ามันจะอยู่เคียงข้างผม ผมก็ไม่ต้องกลัวอีกว่ามันจะทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ เพราะมันเป็นคนรักษาสัญญา แม้ว่าผมจะไม่ใช่คนอ่อนแอที่ต้องมีคนมาดูแล แต่ผมก็ยอม ถ้ามันทำให้ผมไม่ต้องเสียเพื่อนคนนี้ไป


‘กูไม่ได้ห้ามมึงคิดถึงมิ้น มึงจะคิดถึงมิ้นเท่าไหร่ก็ได้ แต่มึงห้ามทำร้ายตัวเอง มึงต้องคิดอยู่เสมอว่ากูยังอยู่เป็นภาระของมึง จำไว้นะ’


ไอ้กราฟมองหน้าผมนานมาก แต่ผมก็ไม่ได้เลี่ยงสายตาของมัน มันอยากมองเท่าไหร่ก็ให้มันมองไป และผมเชื่อว่ามันจะต้องคิดได้


‘มันดีจริงๆ แล้วใช่มั้ย’


‘กูคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับมึง’


แล้วมันก็คิดต่อพลางมองหน้าผมไปด้วย แต่คราวนี้ผมจ้องมันกลับ เพราะดูท่ามันจะคล้อยตามผมแล้ว และก็เป็นแบบนั้นจริงๆ


‘กูเชื่อมึงนะ’


‘ดีมาก งั้นมึงสัญญากับกู’


‘อืม กูสัญญา’








“เพราะอย่างนั้นผมกับไอ้กราฟเลยยิ่งตัวติดกัน ไอ้กัสกับไอ้เคลมก็รู้เรื่องสัญญา ซึ่งพวกมันก็เห็นด้วย เพราะไม่งั้นไอ้กราฟคงทำใจไม่ได้ แล้วก็คงวิ่งลงทะเลเป็นสิบๆ รอบ หรือตอนนี้อาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้”


“กูขอโทษ”


พี่ชมพูทำหน้าเศร้าและขอโทษผมด้วยเสียงแผ่วๆ ราวกับคนสำนึกผิด แต่จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่มากเกินไปที่รู้ว่าไอ้พี่ชมพูชอบคิดมากเรื่องผมกับกราฟ


“กูเชื่อมึงแล้ว กูจะไม่คิดมากเรื่องของมึงกับกราฟแล้ว”


“ครับ”


ผมตอบแค่นั้น พี่ชมพูก็เอามือมาขยี้ผมของผม ทำเหมือนผมเป็นเด็กและน่าแกล้ง แสรดดด กูไม่ใช่แบบนั้นเว้ย พอโตแล้วโดนทำมันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหมา เพราะงั้นผมเลยปัดมือใหญ่ๆ นั่นออก ไอ้หมีควายก็หัวเราะ เพิ่งรู้ว่าหมีควายหัวเราะได้ก็ตอนนี้แหละ


“เลิกเศร้าได้แล้วนะ”


“ผมไม่ได้เศร้า”


ปฏิเสธมันไป ทั้งที่จริงๆ โคตรเศร้าเลยเวลานึกถึงตอนที่เกิดเรื่อง จิตตก ดราม่า บ้าไปคนเดียว แต่มันก็ทำให้ผมกลับมาเป็นตัวเองได้จริงๆ แถมยังเป็นวิธีที่ง่ายแสนง่าย


“ถ้างั้นก็กินนี่”


มันหยิบตะกร้าเล็กๆ ที่ใส่ของมาวางตรงหน้าระหว่างผมกับมัน และเปิดตะกร้า หยิบปาท่องโก๋กับนมข้นที่ใส่ในถ้วยมีฝาปิดมาโชว์แล้ววางกลับลงไปในตะกร้าเหมือนเดิม


“อะไรอะ ปาท่องโก๋กับนมข้น”


“มึงไม่เคยกินเหรอ อร่อยนะเว้ย”


ผมทำหน้ามึน เพราะไม่เคยกินอย่างที่ว่านั่นแหละ แล้วมันจะอร่อยจริงเหรอวะ ไอ้คุณแฟนที่ผมได้มาแบบฟลุ๊คๆ เลยเอาแป้งสีน้ำตาลนั่นจิ้มลงในนมหนืดๆ และยื่นมาให้


“ลองดู แล้วมึงจะติดใจ”


“ขนาดนั้น?”


“อยากรู้ก็ลองดิ”


มันว่างั้นผมเลยยื่นปากไปรับปากท่องโก๋ที่น่าจะหวานเจี๊ยบ ไม่ต้องยื่นมือไปรับเองหรอกครับ ให้มันป้อนนั่นแหละดีแล้ว มือผมจะได้ไม่ต้องเลอะด้วย เหตุผลง่ายๆ ของคนขี้เกียจ และผมก็เดาเอาว่าถ้าผมคิดจะถือเอง ไอ้พี่ชมพูก็คงไม่ยอม ก็มันน่ะ หัวดื้อ หัวแข็งจะตายห่า เอาไม้หน้าสามฟาดสิบทียังไม่เป็นอะไร


“เป็นไรมึง”


ผมเคี้ยวไปแค่สองสามแจ็บเท่านั้นแหละ มันก็ถามเลย รอกูกลืนหมดทั้งอันไม่ได้หรือไงวะ แต่ผมก็พยักหน้าตอบมันอยู่ดี บางทีกูก็ประสาทไปนะ


“ก็ดี นึกว่าจะหวานจนเลี่ยน แต่มันก็เข้ากันได้”


พูดจริงๆ นะครับ ไม่เคยนึกมาก่อนว่าจะกินแบบนี้ได้ แถมยังอร่อยอีกด้วย


“มึงรู้เปล่า ตอนเช้าๆ กินแบบนี้มันเจ๋งสุดๆ โดยเฉพาะกินริมทะเลงี้”


“อืม งั้นเอามาอีก”


ชักติดใจครับ ผมงับของที่อยู่ในมือมันจนหมดแล้วบอก มันก็เอาปาท่องโก๋จิ้มนมข้นมาป้อนผมอีก แต่พอผมกัดไปคำ ที่เหลือมันก็เอาไปกินต่อหน้าตาเฉย


“แย่งเหรอ”


“แบ่งกันดิ กูสอนมึงกินนะเนี่ย”


ไม่พูดอย่างเดียว มันเอาปากเหนียวๆ มาหอมแก้มผมอีก แล้วที่น่าเจ็บใจคือมันยิ้มกว้างอย่างพอใจ เห็นแล้วหมั่นไส้ฉิบหาย ชอบฉวยโอกาสกับกูตลอด แล้วกูก็โวยวายสะดีดสะดิ้งไม่ได้เพราะกูเสือกไม่ใช่ผู้หญิง


“อะไรๆ หาว่ากูเอาเปรียบเหรอ”


มันคงอ่านสายตาผมออกว่าผมไม่พอใจ แต่มันก็ยังจะกวนส้นตีน โน้มตัวลงมาหาผม แล้วหันแก้มมา


“งั้นกูให้มึงหอมคืนนะ เนี่ย อะๆๆ”


“หอมก็ได้ แต่ใช้ตีนนะ”


ผมยักคิ้วกวนๆ ใส่มันมั่ง แล้วมันคงจะทนปากหมาๆ ของผมไม่ได้เลยจับผมฟัดซะงั้น ไม่ได้สนใจตะกร้ากับของกินนั่นเลย มันกระโจนใส่ผมทั้งที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน ผลักตัวผมจนลงไปนอนแผ่บนพื้นทรายแล้วกดหน้าลงมาซุกไซ้กับต้นคอของผมเหมือนหมา แต่นี่คงเป็นหมาตัวโตที่สุดที่ผมเคยเห็นมา


แล้วเพราะมันซุกมากไปล่ะมั้ง ผมเลยเผลอปล่อยเสียงหัวเราะออกมา ก็มันจั๊กจี้จริงๆ นี่หว่า แต่เหมือนว่าได้ยินเสียงหัวเราะของผมแล้ว ไอ้พี่ชมพูจะยิ่งพอใจ มันเลยไม่ยอมเลิกสักที


“พอ.. พอแล้ว ผมเหนื่อย.....แล้ว”


ได้ยินอย่างนั้นมันเลยหยุดมั้ง เปลี่ยนมามองหน้าผมแทน แล้วยังไงไม่รู้ จากมองหน้าก็กลายเป็นก้มลงมาจูบผมเฉยเลย แสรดดดดดด ปากกูเน่าแน่ โดนจูบแม่งเช้ากลางวันเย็น แล้วแม่งแค่ดูดปากผมอย่างเดียวไม่พอไง เอาลิ้นเข้ามาเขี่ยเล่นในปากผมอีก


แต่... แล้วกูจะไปเล่นกับมันทำไมเนี่ย!!! แถมยังหลับตาพริ้มอีกนะกู!


พอมันถอนปากออก ผมก็ค่อยๆ ลืมตามองหน้ามัน มันยิ้มๆ แล้วยิ้มแบบ...ผู้หญิงที่ไหนเห็นก็หลงอะ แล้วผมที่เป็นผู้ชายก็เลยต้องใจสั่นไปด้วย เชี่ยยยยยย


“ปากมึงโคตรหวานเลยว่ะ”


ยังมีการประจานกูด้วย


“ก็เพิ่งกินนมข้น”


“แต่ตอนไม่กินก็หวานเหมือนกัน”


สัด มึงพูดงี้แล้วให้กูทำไงวะ กูเขินเป็นเว้ย โอ๊ยยยย สาดดดดดด


“ระวังน้ำตาลขึ้น เป็นเบาหวานตายนะพี่”


แต่ถึงจะเขินยังไง ผมก็ยังเล่นมุกได้อยู่ พูดง่ายๆ ก็กลบเกลื่อนนั่นแหละวะ ถ้าคนอื่นพูดผมจะไม่รู้สึกอะไร แล้วคนพวกนั้นก็ไม่มีโอกาสได้พูดด้วยซ้ำ เพราะผมคงไม่ยอม แต่พอเป็นพี่ชมพู เสือกวิญญาณเจ้าแม่กากีเข้าซะงั้น


“ถ้าขึ้นเพราะแบบนี้ก็กูยอมล่ะวะ”


มันยังมีหน้ามาเลียปากให้ผมดูอีก กูรู้แล้วว่ามึงชอบจูบกู จูบให้ปากกูเน่าไปเลยยยย!! แต่แม่งก็เสือกทำอย่างที่ประชดในใจนั่นแหละ ก้มลงมาจูบผมอีกรอบ แล้วผมก็บ้าจูบตอบมัน ดูดปากสลับกับเกี่ยวลิ้นกันพัลวัน แขนก็ทรพีไปโอบเอวมันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้


แต่ก็เอาวะ กูพลาดไปแล้วนี่ จะพลาดเยอะกว่านี้คงไม่เป็นไรมั้ง กูยิ่งไม่ใช่พวกชอบถูกกระทำซะด้วย


มาคิดแบบนั้นได้ก็ตอนที่ผละออกจากมันแล้ว แถมมันยังเอามือมาเช็ดปากให้ผมอีก แต่ก็ทำให้รู้สึกดีหน่อยๆ ล่ะมั้ง ผมกล่อมตัวเองแบบนั้นแหละ แต่ใจเต้นฉิบหายเลยตอนมันเช็ดปากให้ เวลาที่ผมนอนกับผู้หญิงหลายๆ คนไม่เคยทำแบบนี้ เลยไม่รู้ว่าถ้าทำแล้วจะให้เจ้าหล่อนทั้งหลายรู้สึกยังไง แต่ตอนนี้แม่งชัดละ


“ผมว่ากลับห้องดีกว่า พี่ทำตัวผมเลอะทรายหมดแล้วเนี่ย ผมอาบน้ำแล้วนะ”


ไม่อยากรู้สึกใจสั่นต่อ เพราะแค่นี้ผมก็แย่แล้ว เลยชวนมันกลับ


“กูก็เลอะเหมือนกัน งั้นอาบน้ำด้วยกันเลยมั้ยล่ะ”


ไอ้คนตัวใหญ่ย้อนพลางลุกจากตัวผม แถมยังมีน้ำใจมาดึงผมให้ขึ้นมานั่งด้วย มือใหญ่หยิบตะกร้าขึ้นมาถือไว้


“เรื่องดิ”


ฟังคำตอบผมแล้วมันก็หัวเราะ มีอะไรน่าหัวเราะตรงไหนวะ ผมหันไปถลึงตาปรามมัน ไอ้เหี้ยนี่ก็ไม่สน ใช้มือที่ว่างอีกข้างมาจับมือผมแล้วจูงเดินไปด้วยกัน


อย่าทำให้กูรักมึงนะเว้ย ไม่งั้นมึงจะไม่มีโอกาสได้ไปหาคนอื่นอีกเลย





















กลับจากชายหาดดูพระอาทิตย์ขึ้นมั้ง ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ก็ถือว่าเห็นนั่นแหละ แถมยังเสียปากให้ไอ้คนบ้าจูบอีกตั้งหลายที แต่ช่างแม่งเหอะ เพราะเอาจริงๆ จูบกับมันก็ไม่ได้แย่อะไร รู้สึกดีด้วยซ้ำมั้ง นี่ผมไม่ได้ปากแข็งนะเฮ้ย ไม่งั้นผมคงถีบมันกระเด็นไปตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว พอนึกๆ ดู นี่ผมจูบกับมานานแล้วเหมือนกันนะ ตั้งแต่รู้จักกันแรกๆ แล้วหลังจากนั้นมันก็พยายามจูบดะ เพราะงั้นผมก็ควรจะทำตัวชินๆ ได้แล้วใช่มั้ยเนี่ย


ผมกับไอ้พี่ชมพูกลับไปอาบน้ำกันอีกคนละรอบ เพราะตัวเปรอะทรายไปหมด ก่อนจะเดินไปที่บ้านพักของไอ้กราฟ เพราะผมเป็นคนบอกเองนั่นแหละว่าจะไปดูไอ้กราฟหน่อยว่าเป็นยังไงบ้างแล้ว พี่ชมพูเลยขอตามไปด้วย แต่ไม่ได้เป็นท่าทางแบบจะหึงหวงอะไรอย่างทีแรก เพราะมันเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว


พอไปถึงห้องพวกไอ้กราฟก็ตื่นกันหมดแล้ว แต่ยังหน้ามันหัวฟูกันอยู่บนเตียง เห็นแล้วผมก็ขำนิดๆ ถ้าสาวๆ มาเห็นไอ้กลุ่มหนุ่มหล่อที่กรี๊ดกันนักหนาตอนตื่นจะกรี๊ดแล้ววิ่งหนีหรือเปล่า ขี้ตายังติดตาไอ้เคลมอยู่เลย ไอ้กัสก็หน้าบวม ส่วนไอ้กราฟ.. ปากบวมครับ เมื่อคืนผมไม่ได้หลอกจูบมันนะเว้ย แต่ปกติมันเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว


“ตื่นแล้วเหรอพวกมึง”


“เออ ว่าแต่มึงเหอะ ไปไหนมาวะ” ไอ้เคลมทักผมก่อนจะหันไปเห็นพี่ชมพูยืนอยู่ข้างๆ สงสัยขี้ตายังบังตามันอยู่มันเลยเพิ่งทัก “หวัดดีครับพี่ชมพู”


“กูไม่ขี้เซาเหมือนพวกมึงนี่หว่า กูไปอาบน้ำมา เสร็จนานแล้วเว้ย พวกมึงเพิ่งตื่น”


“ไม่ใช่ว่ามึงแอบไปจู๋จี๋ จุ๊กกะดุ่ยกับพี่ภูมาเหรอวะ”


ไอ้เคลมยังปากหมา เหล่ตามองผมอย่างล้อเลียนสลับกับพี่ชมพู แถมเอานิ้วชี้สองข้างมาจิ้มกัน ทำเป็นไร้เดียงสา แม่งน่าเอาตีนลูบหน้าให้ลูกตาหลุดออกมาจริงๆ ยั่วอารมณ์กูเหลือเกิน


“จุ๊กกะดุ่ยเหี้ยอะไรของมึง ไม่มีหรอกสัด!” ตอบมันแล้วก็ยกขาขึ้นฟาดใส่มันไปหนึ่งที


“โหย เขินรุนแรงว่ะมึง”


แล้วแม่งยังมาปรับปรำกู


“กูไม่ถามมึงก็ได้ ถามพี่ภูดีกว่า เพราะไงพี่ภูก็ต้องบอกกูอยู่แล้ว ใช่มั้ยครับ”


ไอ้ตัวโย่งหน้าตี๋ตัวขาวจั๊วะระริกระรี้เข้าไปเกาะแขนไอ้พี่ชมพู ถ้ามันเอาหน้าถูได้โดยไม่รู้สึกกระดากคงทำไปแล้ว อ้อนเหมือนหมา เหอะ


ผมเลิกสนใจไอ้เคลม เปลี่ยนเป็นหันไปถามอาการไอ้กราฟแทน ปล่อยหมาสองตัวมันเห่ากันไป


“มึงเป็นไงมั่งวะ”


ไอ้กราฟยิ้มให้ผม หน้าตามันดูดีขึ้นกว่าเมื่อคืนเยอะ ทำให้ผมรู้สึกใจชื้นขึ้นมาได้หน่อย


“ก็โอเคแล้ว ขอบใจมึงมาก”


“มึงเพื่อนกูนี่หว่า”


ผมยิ้มให้มัน ส่วนไอ้กัสเห็นผมยิ้ม แล้วไอ้กราฟเริ่มยิ้ม มันก็ยิ้มตาม ก่อนจะเดินมากอดคอผมกับไอ้กราฟคนละข้าง ผมรู้สึกมีความสุขนะ มีเพื่อนก็ดี มีแฟนก็ไม่ได้เลวสักเท่าไหร่


“โหหหห จูบกันตอนพระอาทิตย์ขึ้น โคตรโรแมนติก กูไม่อยากเชื่อ ไอ้ยีนจูบตอนพระอาทิตย์ขึ้นนนน!!!”


ไอ้เหี้ยเคลมมันตะโกนลั่น อย่างกับกลัวว่าพี่คนอื่นๆ ที่อยู่บ้านหลังถัดๆ ไปจะไม่ได้ยิน ไอ้หอกหัก! สัดแม่ง มึงจะตะโกนทำเชี่ยอะไร แล้วไอ้พี่ชมพูเสือกเล่าทำไมไอ้เอาเป็ด ผมเดินไปตบหัวไอ้เคลมจนโยก เสียงดังเพียะลั่น


“มึงจะตะโกนให้แม่มึงได้ยินเลยใช่มั้ย สัด!”


“ก็กูตกใจนี่หว่า ไม่คิดว่ามึงจะโรแมนติกเป็น กูไม่เคยเห็น ไม่เค้ยไม่เคย”


มันเน้นเสียงซะโอเวอร์แอ๊คติ้งสุดชีวิต ผมเลยหันไปหาไอ้กัส


“กัส มึงลากเพื่อนมึงไปศรีธัญญาหน่อยนะ สงสัยมันจะบ้าแล้ว”


“ตอนนี้มันไม่ใช่เพื่อนกูว่ะ”


ไอ้กัสปฏิเสธอย่างเย็นชา เสียงนิ่ง เอาหางตาเหลือบไอ้เคลม ผมโคตรสะใจเลย แต่ไอ้เคลมมันก็ทำเหมือนเจ็บปวดรวดร้าวเข้าไปกอดแขนไอ้กัส


“กัสสสสส กูรักมึงนะ อย่าตัดเพื่อนกูนะ กูมีมึงคนเดียว”


เพราะความตอแหลนั่น ทำให้ไอ้เคลมโดนไอ้กัสเตะไปอีกหนึ่งที สมน้ำหน้ามึง ผมทำหน้าเย้ย


“ไม่มีใครเข้าข้างมึงหรอก เพราะมึงมันไส้ติ่ง ไร้ประโยชน์ ได้แต่เป็นติ่งห้อยไปห้อยมาไปวันๆ”


“โหย ด่าซะเจ็บเลย”


มันทำหน้างอนๆ ไอ้เหี้ยเนี่ยไม่เคยจะนิ่งๆ กับเขาเป็นหรอก ดูอย่างไอ้กัสมั่ง พูดตอนที่ควรพูด มีเหตุผล ไม่บ้าบอคอแตก ปัญญาอ่อนเหมือนมึง


“กราฟ มึงไปอาบน้ำก่อนดีมั้ย”


ปัดความสนใจจากไอ้เคลมสักทีแล้วผมก็หันไปบอกกราฟ มันก็พยักหน้า แต่ไม่วายเดินมากระซิบข้างหูผม


“จูบตอนพระอาทิตย์ขึ้นนี่มันรู้สึกยังไงวะ ดีกว่าจูบตอนอื่นป่ะ”


ไอ้เวรร มึงมาถามกูอีก


“ดีมากมั้ง”


ผมประชด แต่เหมือนมันจะเชื่อจริง แถมไอ้เคลมกับไอ้กัสก็เสือกอยากรู้ด้วย พ่วงด้วยไอ้พี่ชมพู ที่ต่างเสนอหน้าเข้ามาใกล้ผมตอนไหนไม่รู้ แล้วก็ได้ยินคำตอบกันเต็มหู แล้วแม่งก็มั่วว่าผมพูดจริงกันหมดเลย เพราะยิ้มกันซะหน้าบานยิ่งกว่ายานอีทีที่มาเยือนโลกอีก โดยเฉพาะไอ้พี่ชมพู สาดดดดด


พวกมึงมันจั๊ดง่าวววววววววววว!!!!!!









อ่านต่อข้างล่างค่ะ
v
v


ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ต่อจากข้างบน
v
v









ถึงเวลาที่ต้องกลับกรุงเทพฯ กันแล้ว พวกเราเก็บสัมภาระกันเรียบร้อย กินข้าวตอนสายๆ เสร็จก็ขึ้นรถออกเดินทาง ผมแอบเสียดายหน่อยๆ ที่มาแล้วไม่ได้เที่ยวไหนเลย แต่เหมือนไอ้พี่ชมพูจะรู้อีกแล้ว แม่งมีญาณหยั่งรู้หรือไง แต่คนแบบไอ้พี่หมีควายจอมเผด็จการเนี่ยเหรอจะมีความสามารถขนาดนั้น


“ไว้เดี๋ยวกูจะพามาเที่ยวให้ทั่วๆ”


มันกระซิบข้างหูผม ผมก็พยักหน้าเออออไป ไม่ได้ปฏิเสธ แล้วสักพัก เสียงพูดคุยที่มีมาตั้งแต่ขึ้นรถก็เงียบลง เพราะทุกคนหลับกันหมด เมื่อคืนยังนอนไม่พอกันหรือไงก็ไม่รู้ ขนาดไอ้พวกเพื่อนผมแม่งยังคอพับกันหมด ก็นอนพร้อมกันนี่หว่า กูตื่นก่อนด้วย แล้วทำไมพวกมึงง่วงกันอีก กูไม่เข้าใจ


หันมองเพื่อนที่อยู่เบาะหลังแล้วผมก็หันหน้ากลับมาเหมือนเดิม หวังว่าพี่ต้นหรือพี่ปาล์มคงไม่อิจฉาแล้วอยากหลับด้วย เพราะถ้าสองคนนี้หลับ ก็ไม่ต้องกลับกรุงเทพฯ กันแล้วครับ นอนอ่านหนังสือพิมพ์กันแถวนี้แหละ แต่ก็ไม่แน่ อาจจะเป็นแค่ใบไม้มาปิด


“พี่ต้นง่วงหรือเปล่าครับ”


“ไม่หรอก กินกาแฟมาแล้ว”


พี่ต้นตอบมาพลางยิ้มให้ ผมมองเห็นผ่านทางกระจกมองหลัง เพราะผมนั่งอยู่เบาะหลังพี่ต้น แต่จากตำแหน่งพี่ต้น มองไม่เห็นผมหรอก


อ้อ ตอนนี้ผมไม่ได้ใส่แว่นแล้วครับ เพราะหลังจากเหตุการณ์ที่ผมไปช่วยไอ้กราฟขึ้นจากทะเล ทุกคนก็เห็นหน้าเต็มๆ ของผมหมดแล้ว ไอ้พี่แชมป์กับพี่บอสก็มองกันแบบอึ้งๆ ตอนเห็นหน้าผม คือตอนใส่แว่นหน้ากูอุบาทว์มากหรือไงครับ มองกูเหมือนเห็นปิกาจูมุดออกมากระเป๋าโดเรมอนแล้วมาโผล่ที่ทะเล แม้แต่พี่เจ๋งกับพี่ต้นยังมองผมค้างอยู่แป๊บนึง มีก็แต่พี่ปาล์มที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วบอกว่า







‘หล่อใช่ป่ะล่ะ กูได้เห็นก่อนคนอื่นเลยนะเว้ย’






ดูภูมิใจชอบกลที่ได้เห็นหน้าผม แต่ก็เอาเถอะ พวกพี่พวกนี้คงไม่ทำให้ผมเดือดร้อน คิดๆ ไปงั้นแล้วอยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่ามีอะไรหล่นปุมาบนไหล่ และพอหันไปดูก็ไม่ใช่อะไรเลย พี่ชมพูมันเอาไหล่ผมเป็นหมอนเรียบร้อยแล้ว


นี่ก็อดหลับอดนอนอีกคนหรือไง


ผมบ่นๆ กับตัวเอง แต่ก็นึกได้ว่าตอนขามาผมก็หลับซบไหล่มันเหมือนกัน ถึงจะจำได้รางๆ ก็เถอะ แต่ว่าผมก็จำได้นะ


นี่มึงเอาคืนกูใช่มั้ย


ผมมองหน้าพี่ชมพูที่หลับตาอยู่แล้วไม่รู้ทำไมถึงแอบยิ้มขึ้นมา ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองจะยิ้มหาหอกอะไร หรือกูเป็นบ้าไปแล้ว ติดเชื้อจากน้ำลายมันเหรอ จริงๆ แล้วมันคือยายอรนาถแล้วผมเป็นทายาทอสูรเหรอ


ความคิดบ้าบอของผมวิ่งวนไปวนมา บ้าบออะไรก็ไม่รู้ แล้วไม่นานผมก็หลับตามคนอื่นไป จริงๆ ก็ไม่ได้ง่วงอะไรหรอก แต่มีเสียงเพลงคลอเบาๆ ที่พี่ปาล์มเปิดกับแอร์เย็นๆ มันเลยชวนให้ไปซะเฉยๆ


ตื่นมาก็ตอนรถหยุดที่บ้านพี่ต้น เพราะรถทุกคนอยู่ที่นี่ ผมเองก็ต้องลงเหมือนกัน ถึงรถจะไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะตอนขามามากับพี่ชมพูก็เหอะ ทุกคนล่ำลากัน เจอกันพรุ่งนี้เสร็จ เจ้าของบ้านกก็จูงแฟนคนสวยขึ้นรถอีกคันที่คงเป็นรถประจำที่พี่ต้นใช้ ขับออกจากบ้านไปก่อนคนอื่นซะอีก


พวกพี่ๆ เพื่อนๆ ก็ขับรถออกไปต่อๆ กัน ผมยังไม่ทันเรียกไอ้กราฟเพื่อบอกว่าผมจะกลับด้วยเลย กราฟก็โดนไอ้เคลมลากไปแล้ว ไม่ต้องถามก็รู้เหตุผลชัวร์ๆ ของมัน แม่งอยากให้ผมกับพี่ชมพูได้กันจนตัวสั่นอะดิ มึงน่ะ


สุดท้ายผมก็ต้องขึ้นรถพี่ชมพูไปอย่างช่วยไม่ได้ จริงๆ มันก็ถูกแล้วที่แฟนควรจะอยู่ด้วยกัน แต่สำหรับผม ผมว่าเพื่อนสำคัญกว่าแฟนซะอีก เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นต้องอยู่กับแฟนตลอดเวลา ให้เราได้มีโลกส่วนตัวบ้าง ใช้เวลากับเพื่อนบ้างนั่นจะดีกว่า อยู่ด้วยกันมากๆ รู้สันดานกัน เดี๋ยวก็เบื่อ แต่ผมก็คิดอีกนั่นแหละว่าผมกับไอ้พี่ชมพูคงไม่เห็นสันดานกันไปมากกว่านี้แล้วมั้ง


“คืนนี้นอนคอนโดกูนะ”


“ทำไมผมต้องนอนกับพี่ด้วย”


คำพูดของผมจะดูเหมือนสองแง่สองง่ามเกินไป ไอ้พี่ชมพูเลยหันมายิ้มๆ มองผมแบบกรุ้มกริ่ม ผมเลยชูนิ้วกลางโชว์ให้ซะเลย ไอ้พี่ชมพูก็หัวเราะ


“ขับรถก็มองทางไปนู่น”


ผมสั่ง ดีหน่อยที่มันทำตาม แต่ปากมันก็ไม่วายตอบคำถามเมื่อกี้ของผม


“กูอยากอยู่กับมึงไง”


แม่งก็เสือกตอบมาซะตรงจนผมอดหวั่นไม่ได้ว่าที่อยากอยู่กับผมนี่หวังอะไรอยู่ ผมยังไม่อยากถูกเสียบนะเว้ย ว่าแต่.. ทำไมกูต้องคิดเหมือนจะยอมมันวันใดก็วันหนึ่งด้วยวะ แต่คิดอีกที ถ้ากูเป็นคนเสียบ กูจะหักในหรือเปล่า เหี้ยนี่ยิ่งพลังช้างสารอยู่ด้วย


“แต่ผมอยากกลับไปหาป๊าแล้ว ป่านนี้คงคิดถึงผมแย่แล้วมั้ง”


“อย่าแหล”


ผมตอบไปไม่ถึงเสี้ยวของเสี้ยวของเสี้ยววิ ไอ้หมีควายมันก็สวนมาทันที กูตอแหลตรงไหนเนี่ย กูออกจะจริงใจ


“ผมแหลตรงไหน”


“ที่บอกว่าป๊าคิดถึงมึงแย่แล้วไง”


“โห ไรวะ ป๊าจะคิดถึงผมไม่ได้หรือไง ถ้าไม่เชื่อเปลี่ยนเป็นผมคิดถึงป๊าก็ได้ โด่”


“ลื่นจริงๆ นะมึง”


เหมือนมันจะด่ากลายๆ แต่ผมก็ภูมิใจรับครับ หันไปมองหน้ามันแล้วยักคิ้วแถมยิงฟันให้เห็นหมดทั้งปากอีก แต่มันไม่หันมาดูเพราะขับรถอยู่ ถุย เมื่อกี้มึงยังมองหน้ากูอยู่เลย มาตอนนี้ทำเป็นตั้งใจขับรถ ไอ้หอก


ในเมื่อมันไม่หันมาดู ผมก็เอานิ้วจิ้มๆ แขนมันที่มีกล้ามเนื้อเฟิร์มๆ อยู่ ถึงจะไม่แน่นมาก แต่ก็ใช้ได้เลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็ทำให้มันหันมาได้ แล้วพอมันเห็นว่าผมกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่มันก็หัวเราะลั่นรถอีกรอบ


กูไม่ใช่ตลกนะเว้ย มึงถึงได้หัวเราะกูจัง


“มึงอย่าไปทำหน้าแบบนี้กับใครนะเว้ย”


“ทำไม”


“เดี๋ยวเขาหาว่ามึงเป็นชักกระตุก”


“โหยย ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย”


ไม่กงไม่เก็บแม่งแล้ว ผมด่ามันลั่นรถเลย แม่งมาด่ากูว่าเป็นชักกระตุก มึงสิไอ้สันนิบาตแดกแม่งอยู่ได้ ตอนนี้มันโดนผมด่าก็ยังยิ้ม


“กูไม่ส่งมึงก็ได้ ไม่อยากรังแกคนไม่สมประกอบ”


ไอ้พี่ชมพูแม่งกวนส้นตีนที่สุด!! รอให้ลงรถก่อนเหอะ กูไม่ปล่อยมึงแน่ ตอนนี้กูปล่อยมึงไปก่อน


เพราะผมไม่อยากลอยแล้วมองโลกกลับหัว ถึงได้แต่ส่งสายตาอำมหิตใส่มันไป ไอ้กอลิล่าก็ขับรถไปอย่างไม่สะทกสะท้าน เหลือบมองผมเป็นระยะ แล้วพอมองมันก็อมยิ้มเหี้ยอะไรของมันไม่รู้ กระทั่งถึงบ้านผม


ผมลงรถ แต่ไม่ลงคนเดียว เดินไปที่ประตูรถอีกฝั่งแล้วกระชากไอ้คนขับออกมา กดมันให้หงายไปพิงกับตัวรถ


“มึงจะทำอะไร”


“ต่อยปากดีๆ สักทีเป็นไง”


“เรื่องแค่นี้เองมึง”


มันพยายามทำให้เป็นเรื่องเล่นๆ แต่ไม่ได้ ผมจะปล่อยไม่ได้ เดี๋ยวแม่งมีอำนาจเหนือกว่า ผมก็โดนข่มดิ เรื่องอะไรผมจะอยู่ใต้อาณัติมัน นี่พชร วัฒนกิตติพงศ์นะครับ ไม่ใช่นายลูกไก่ แซ่อึไม่ออก


“แล้วหาว่าผมไม่สมประกอบทำไม”


“มึงโกรธเหรอ”


เอาจริงๆ ก็ไม่ได้โกรธหรอก เพราะรู้ว่ามันก็ด่าเล่นๆ เพราะผมเองก็เคยหลอกด่ามันไปหลายทีเหมือนกัน แต่ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละว่าผมไม่อยากตกเป็นเบี้ยล่างมัน ก็เลยต้องแกล้งแสดงละครสักหน่อย


“แล้วพี่คิดว่าไม่สมควรโกรธหรือไง”


“กูนึกว่ามึงจะรู้ว่ากูล้อเล่น”


หน้ามันยังไม่สลดครับ ไม่เชื่อหรือไงว่ากูเอาจริง ผมเลยง้างหมัดขึ้นมาเลย โอกาสได้ต่อยไอ้พี่ชมพูไม่ได้มีมาง่ายๆ นะครับ ฉวยโอกาสไว้ตอนนี้ก็ดี บางทีก็หมั่นไส้อยากต่อยแม่ง


แต่สิ่งที่ผมหวังคงเป็นหมันถาวรแล้ว ไม่รู้ว่าไอ้เหี้ยพี่ชมพูมันจับไปทำหมันเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้มันจับข้อมือข้างที่ผมยกขึ้นไว้ แล้วก็ใช้มืออีกข้างรวบตัวผม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นผลักผมให้ไปแนบหลังกับรถแทน เร็วฉิบหาย! แม่งเล่นทีเผลอนี่หว่า ถ้าไม่เผลออย่าหวังเลยว่าจะทำกับกูแบบนี้ได้


ผมพยายามดันตัวมันออก แต่มันก็กดมือผมลงกับขอบประตูรถ ยื่นหน้ามาใกล้ๆ จากนั้นก็หอมแก้มผมไปฟอดใหญ่ แล้วพอมีครั้งที่หนึ่งก็ตามมาด้วยครั้งที่สองที่แก้มอีกข้าง ผมอยากจะด่ามันมาก แต่ยังไม่ทันทำ ก็ได้ยินเสียงมาจากด้านหลัง เสียงที่ผมคุ้นมาก คุ้นที่สุดในชีวิตก็ว่าได้


“ทำอะไรกันอยู่”


รีบหันขวับไปทางต้นเสียงและเบิกตากว้างแล้วก็คิดว่าไอ้พี่ชมพูคงไม่ต่างกัน


“ป๊า...”
















-------------------------
มาแล้วค่ะ พอดีว่าช่วงนี้ว่างเลยรีบแต่งหน่อย
ความจริงก็กระจ่างแล้วเนอะว่าทำไมกราฟเป็นงี้ แล้วก็ความสัมพันธ์กราฟยีน
รู้สึกตอนนี้มันน่ารักๆ หรือว่าจะคิดไปเอง ก็ไม่รู้


ปล. เรื่องไนล์จะไม่เฉลยนะคะ
เพราะแพลนไว้ว่าจะแต่งแยกกราฟไนล์กับต้นปาล์ม
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีคนอยากอ่านหรือเปล่า



Undel2Sky


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2012 00:57:37 โดย undersky »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด