ต่อจากด้านบน
v
v
ผมกลับบ้าน เพราะก็เริ่มเย็นมากแล้ว ไปถึงบ้านก็หกโมงเคารพธงชาติพอดี ได้เวลาอาหารเย็นของที่บ้านผม ป๊ากำลังลุกจากห้องนั่งเล่นเพื่อไปห้องกินข้าวพอดีกับที่ผมเดินเข้าบ้าน ป๊าเลยเรียกผมแล้วบอกให้ชวนไอ้พี่ชมพูเข้ามากินข้าวเย็นด้วยกัน ดีว่าผมโทรเรียกมันไว้ทันก่อนจะออกรถไป ไม่งั้นอาจได้วิ่งไล่มันหอบแดกแน่
คนตัวใหญ่เหมือนหมีควายเข้ามาในบ้านผม หวัดดีป๊า พี่โซ พี่น้ำอุ่น ขออนุญาตทานอาหารเย็นด้วยตามมารยาทที่ดี ทั้งที่ป๊าเป็นคนชวนมันแท้ๆ แหม ทีกับคนอื่นมารยาทโคตรดี แต่กับกูนี่อะไร แสรดดด
ไอ้ไอน้ำมองพี่ชมพู ผมไม่รู้ว่ามันมองด้วยความรู้สึกยังไง แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่มิตรที่ดี มันคงงงมั้งว่าพี่ชมพูเป็นใคร ทำไมมันเจอทั้งเมื่อวานและวันนี้ แถมยังเข้าออกบ้านผมได้สบาย แต่ก็ไม่แปลกหรอก เพราะไอ้พี่ชมพูแม่งวางยาป๊าเรียบร้อยแล้ว ป๊าถึงไม่เคยว่าอะไรสักครั้งเวลาที่มันลากผมไปนั่นไปนี่ เหมือนมันกลายเป็นหนึ่งในแก๊งผมไปแล้ว ทั้งที่ก็ไม่ใช่
พวกเรากินข้าวพลางพูดคุยกันเป็นระยะ แต่ถ้าตอนไหนพูดถึงไอ้ไอน้ำ ผมก็จะเงียบ ทำเหมือนไม่ได้ยิน พอจบเรื่องนั้นถึงสานต่อบทสนทนา พี่โซถามผมด้วยว่าได้ใช้กระเป๋าหรือยัง ผมเลยหยิบจากกระเป๋ากางเกงออกมาให้ดูเต็มตา ทำให้พี่โซยิ้มกว้าง พลอยให้ผมมีความสุขไปด้วย
กระทั่งมื้ออาหารจบลง ไอ้พี่ชมพูก็ชวนผมขึ้นห้อง แต่ไม่ใช่เรื่องลามกอะไร มันบอกมีเรื่องอยากพูดกับผม แม้ตอนแรกจะระแวงมันอยู่หน่อยๆ เพราะแม่งชอบถึงเหนือถึงตัว มือไวกับผมตลอด และเมื่อถึงห้องแล้ว ผมก็ถามมันทันที
“พี่มีอะไรจะคุยกับผม”
“ก็ไม่เชิงคุยหรอก แต่กูมีของจะให้”
“ของ? อะไร”
ผมงุนงงเพราะไม่รู้ว่าเหตุจำเป็นที่มันให้ของขวัญผมคืออะไร แต่เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ ไอ้พี่ชมพูก็ยื่นถุงที่มันหิ้วอยู่มาให้ ผมไม่ต้องเดาเลยว่าในถุงนั้นมีอะไร เพราะมันนี่แหละที่ลากผมไปช่วยดู แต่พอมันยื่นถุงให้ผมแบบนี้ ก็ทำให้ผมรู้สึกดียังไงบอกไม่ถูก คงเพราะตอนแรกผมคิดว่ามันซื้อไปให้คนอื่นมั้ง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังแสร้งทำหน้านิ่ง ไม่รู้สึกอะไร
“ให้ทำไม”
“ของขวัญวันเกิดมึง”
“พี่ก็พาไปเลี้ยงแล้วนี่หว่า”
ผมยังหาทางปฏิเสธ แต่ไอ้หมีควายก็ยังโน้มนาวให้ผมยอมรับมัน
“นั่นกูเลี้ยง แต่ของขวัญยังไม่ให้ กูเลยให้นี่ไง มึงก็เพิ่งได้ของขวัญจากพี่ชายมึงมา แล้วจะไม่รับของกูได้ยังไง”
ผมเดาว่ามันคงเห็นว่าผมใช้กระเป๋าเงินใบใหม่ เลยคิดว่าเป็นของพี่โซ เพราะถ้าเป็นของป๊า ผมคงใช้ไปแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาใช้วันนี้ แล้วตอนกินข้าวกันนั่นก็ยิ่งเป็นการยืนยันความคิดของมันให้ชัดเจนขึ้น
เพราะมันพูดแบบนั้น ผมก็เลยต้องรับมา แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรกับถุงนั้น เจ้าของคนก่อนก็บอกออกมาเสียก่อน
“ใส่ด้วยนะมึง”
“เรื่องมากว่ะ”
รับของมาแล้วมันยังมาสั่งอีก ผมเลยทำหน้าหงุดหงิดๆ ใส่มันไป และเพราะอย่างนั้น มือใหญ่จึงดึงถุงจากมือของผมกลับไป หยิบกล่องซึ่งอยู่ในถุงออกมา ให้ความสำคัญกับสร้อยเส้นที่อยู่ในกล่องนั้นมากกว่าตัวกล่องหรือถุง
พี่ชมพูจับมือผมไปใกล้ตัว แล้วคล้องสร้อยสีเงินวาววับนั่นลงกับข้อมือของผม แม้ว่าผมจะไม่ได้อยากใส่สักเท่าไหร่ก็ตาม เพราะว่ามันเกะกะ แต่เหมือนว่ามันจะรู้ใจผมมาเกินไป ถึงได้โพล่งมา
“อย่าถอดนะมึง ต้องให้กูเห็นทุกครั้ง”
มันย้ำหนักๆ คงเพราะรู้สันดานผมดี ผมก็เลยต้องพยักหน้าไป พลางคิดในใจว่าถ้าเป็นงั้นผมก็คงต้องใส่ทุกวันห้ามถอด เพราะแม่งหาเรื่องมาเจอผมได้ทุกวัน
“แล้วนี่กูให้ขอขวัญ มึงไม่คิดจะดีใจหน่อยเหรอ”
“ก็ดีใจอยู่”
“มึงอย่ากวนตีน”
มันย้อน เอะอะก็หาว่าผมกวนตีน แต่ก็จริงๆ นั่นแหละ ผมกวนมัน แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยอมจะพูดกับมันดีๆ
“ขอบคุณมากครับ”
แจกยิ้มเผื่ออีกหน่อยด้วย เพราะนอกจากมันจะซื้อของขวัญวันเกิดให้ผมแล้ว ของที่ว่านี่ยังเหยียบหมื่น มันยากนะครับที่จะมีคนซื้อขอให้แฟนด้วยราคาแบบนี้โดยไม่คิดจะใส่ใจเงินที่ต้องเสียไป
“เออดี”
พอเห็นผมยิ้ม มันก็พอใจ ส่งยิ้มคืนให้ผม ก่อนจะโพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เอ้อ มึงทำตามสัญญาด้วย”
“สัญญาอะไร”
ผมแกล้งตีหน้าซื่อ ทั้งที่มันพูดแค่คำว่าสัญญา ผมก็รู้ได้ทันทีว่ามันกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่ถ้าไม่ทำซื่อ จะให้ผมทำอย่างที่สัญญาทันทีเลยได้ยังไง ถึงผมจะเป็นผู้ชาย แต่กับมันให้ทำแบบไม่มีเหตุผลก็เขินเป็นเหมือนกันนะเฟ้ย
“ก็ที่มึงสัญญาไว้ตอนจองตั๋วหนังไง”
“เหรอ ผมพูดอย่างนั้นด้วยเหรอ”
“อย่าทำเป็นลืมนะมึง ไม่งั้นกูให้คูณสิบ”
มันก้มหน้าเข้ามาใกล้าหน้าผมเชิงพูดข่มขู่ให้ผมกลัวแล้วรักษาสัจจะ
“โห โหดฉิบหาย เอาแต่ได้ พี่นี่โคตรวายร้ายเหอะ”
“พูดเหมือนมึงไม่ใช่วายร้าย”
มันย้อนศร เบนทิศมาที่ผมแทน ผมเลยต้องจำใจตอบตกลงไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ ก่อนจะเขย่งตัวขึ้นไปจูบปากมันเบาๆ แต่มันก็ไม่เบากับผมอย่างที่คิดไว้ แม่งใช้ริมฝีปากล่างช้อนเนื้อแดงๆ ของผมมาดูดเล่นเหมือนเป็นเยลลี่รสหวาน ก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปตามรุกล้ำภายใน มือหนาสองข้างต่างทำหน้าที่ของมันเอง
มือหนึ่งช้อนท้ายทอยของผม ส่วนอีกมือโอบเอวเอาไว้ แล้วผมจะทำยังไงได้นอกเหนือจากการยอมผ่อนตัวให้คล้อยตามมันไป กวัดแกว่งลิ้นกวาดไล่กันอย่างสนุกสนาน หยอกเอินเร่งเร้าทั้งที่กลีบปากชิดแนบ
ผมปล่อยให้มันทำตามใจและรอมันพอใจแล้วมันก็ถอนปากออกโดยที่ผมไม่ต้องเร่งเร้าให้ทำ หน้าหล่อๆ ที่จริงๆ ผมก็ไม่อยากยอมรับเท่าไหร่นั่นมองผมแล้วก็ยิ้มให้ แถมมันยังยิ้มหวานฉิบหาย ผมเลยรู้สึกว่าหน้าร้อนนิดๆ
โอ๊ยแม่ง เมื่อไหร่กูเลิกเขินไอ้ห่าพี่ชมพูสักที
สบถกับตัวเองโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องอะไรแล้ว ผมก็ออกบอกไล่ให้มันกลับบ้าน เพราะก็ทุ่มกว่าแล้วด้วย มันก็เลยบ่นตาม
“เอ่อ ไล่กูตลอดนั่นล่ะ”
แต่คำบ่นของมันไม่ใช่ว่าจะลอยๆ แล้วหายไปนะครับ มันคิดค่าบ่นด้วยการดึงผมเข้าไปจูบเบาๆ อีกหนึ่งทีก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ผมอมยิ้มกับตัวเองที่มันชอบเสาะหาโอกาส จนสุดท้ายก็ได้อย่างที่มันต้องการ
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายสำหรับผม ก็ไม่แน่ใจ
ผมนั่งลงบนที่นอนนุ่มๆ ของผมตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นมาดูของขวัญวันเกิดจากยักษ์หมีควาย แล้วก็ต้องอมยิ้มอีกครั้ง จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าผมเป็นอะไร ชักจะประสาทไปใหญ่แล้ว
ทว่าหลังจากนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เรียกให้ผมเดินไปเปิด แต่พอเปิดไปแล้วผมก็แทบจะปิดกลับไปทันที
“อะไรวะ มึงต้อนรับแขกแบบนี้เหรอ”
มันดันประตูกลับ แล้วแทรกตัวเข้ามาอยู่ในอาณาเขตห้องของผมจนได้ ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดมากกว่าเดิมเสียอีก
“สำหรับกู เป็นหมาเฝ้าบ้านมึงก็ได้รับเกียรติมากเกินไป”
ผมย้อน ก่อนจะเดินเลี่ยงมันกลับมาที่เตียง แต่แม่งคงนึกว่าผมเชิญชวนให้มานั่งข้างๆ ตามสันดานของมันมั้ง มันถึงได้มานั่งข้างผมหน้าตาเฉย
โอ๊ย ไอ้เหี้ย กูไม่ได้เชิญมึง ไสหัวไปไกลๆ!!
“เกินไปหน่อยมั้ง มึงเกลียดกูอะไรนักหนา”
“มึงควรถามตัวมึงเองนะไอ้สัด ออกไปจากห้องกูด้วย”
“กูจะคุยกับมึงหน่อยไม่ได้หรือไง”
มันยังพยายามจะถ่วงเวลาอยู่เรื่อยๆ แต่ผมไม่สนใจความพยายามของมันเลยสักนิด และไม่คิดด้วยว่ามันจะคุยอะไรกับผมเป็นพิเศษ นอกจากกวนตีนและหาเรื่องผม
“กูกับมึงไม่มีอะไรต้องคุยกัน”
ผมย้อนอย่างหมดความอดทน ไม่อยากคุยกับแม่งแล้ว เลยบอกไปอย่างตัดปัญหา
“ถ้ามึงไม่ออกจากห้องกูก็ตามใจมึง”
สิ้นเสียงของตัวเอง ผมก็ตรงดิ่งไปที่ประตูห้อง แต่ยังไม่ทันได้เดินออกไป เสียงคนบุกรุกก็ดังก้อง
“กูเห็นมึงจูบกับไอ้รุ่นพี่คนนั้น”
ผมช็อก ขาขยับก้าวไม่ได้ทันที
===================
ขอบคุณนะคะที่ยังติดตามกัน เห็น 2-3 บอกว่าดีใจที่มาต่อตอนใหม่
ดีใจเหมือนกันค่ะที่รู้ว่ายังมีคนรอเรื่องนี้อยู่
ตอนนี้มาเร็วหน่อยเป็นการไถ่โทษที่หายไปนานนะคะ
แต่งไปหลับไป ตรวจไปหลับไป

Undel2Sky