It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]  (อ่าน 602010 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พลาดแล้วที่ไอน้ำดันมาเห็นช็อตเด็ด
แต่ยีนอย่าไปยอมมันนะ ถ้าวุ่นวายมากนัก บอกให้พีู่ภูจัดการเลย

ออฟไลน์ kumiko yamashita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 รอ ๆๆๆๆๆๆๆ    :bye2:

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
เห้ยยยยยยยย

้เห็นได้ไง  o22

มันสตอใส่ยีนมากกว่าป่าว  :z3:

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
เอา ไอน้ำ ไปเก็บ

ห่า มันจะทำเรื่อง ดราม่าปะเนี่ย

ไปไป๊ๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Momichi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
เกงยีนกวนได้น่ารักดี ชอบพี่ภูมากๆๆ น่ารัก
เสน่ห์แรงนะน้องยีนส์ มีหนุ่มมาป้วนเปี้ยนด้วย

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
อ๊ากกก ชอบคู่นี้มาก คนเขียนอย่าทิ้งกันไปไหนน้าาา >< :haun4:  :-[ :impress2:

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
พี่รักยีนนะครับ ป๊าดๆๆ ชอบคำนี้ คู่นี้บทจะหวานก็หวานเว่อ ติดตามค่ะ >< :)

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ฉุด !! ทำไม =[]= ตื่นเต้นแท้เหลา :sad4:

bowstory2

  • บุคคลทั่วไป
มาเห็นอะไรตอนเน้ ห๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา T[]T!!

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
ไปเห็นตอนไหนวะ ตาดีสุดๆ
แต่เกงยีนคงไม่ยอมถูกแบล็กง่ายๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
อ๊ากกก !! มันมาเห็นได้ไง ไม่น้าา  :m31: หวังว่าเกงยีนจะไม่โดนแบล็กเมน้าา  :m15: จะติดตามค่ะ :)) o18

ออฟไลน์ นิรนาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ค้างงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ Zarunghaja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-0
พึ่งได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมากเลย

ยีนน่ารักขึ้นเรื่อยๆ พี่ชมพูหื่นมาก  :z1:

บอกไอน้ำไปเลยว่าพี่ภูอ่ะแฟนเกงยีนนนนน อิอิ :really2:

มาต่อไวๆนะค้าบบบ  :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2012 22:12:01 โดย _HongGi10 »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
ไอ้ไอน้ำมันจะมีข้อแลกเปลี่ยนไรเกี่ยวกับที่มันเห็นยีนจูบกับพี่ชมภูไหมอ่ะ มันจะเจ้าเล่ห์ไหมมมม  :z3: :z3: :z3:

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ตอนที่ 30 : ทางเลือก


















รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วครู่ ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้นี้ผมได้ยินว่าอะไร พยายามคิดว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น ไอ้ไอน้ำไม่ได้พูดว่ามันเห็นว่าผมกับพี่ชมพูจูบกัน แต่หน้าตาของมันที่มองผมในตอนนี้ก็ทำให้ผมสะกดจิตตัวเองแบบนั้นไม่สำเร็จ เหี้ยเอ๊ยยย!!!


“มึงว่าอะไรนะ”


ผมทำแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินที่มันพูด เหมือนคนไม่รู้เรื่องอะไร มันเลยย้ำกลับมาอีกครั้งโดยไม่คิดเลยว่าผมจะกำลังตกอยู่ในความรู้สึกแบบไหน


“กูเห็นมึงกับรุ่นพี่ของมึงจูบกัน ชัดมั้ย”


“มึงพูดเหี้ยอะไร กูไปจูบตอนไหน”


“เมื่อกี้ กูจะเข้าไปหามึง แต่เปิดประตูเข้าไปแล้วก็เห็นเต็มๆ ตา”


ผมตัวชา พลางคิดว่ามันเป็นไปได้เหรอ ซึ่งมันก็ทำให้นึกได้ว่าผมไม่ได้ล็อกประตูห้อง เพราะคิดว่าเราคงแค่เข้ามาคุยอะไรกันนิดหน่อย แต่กลับกลายเป็นการพลาดพลั้ง พลาดอย่างมากจนผมอยากจะเอาหัวโขกกำแพง แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่ยอมรับง่ายๆ


“มึงมั่วแล้ว ไอ้ห่า กูไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น”


ทว่ามันกลับไม่มีน้ำหนักพอ เพราะไอ้น้ำหยิบโทรศัพท์ก่อนจะเปิดให้ผมดูรูปที่มันถ่ายเอาไว้ ตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนโลกถล่มลงมาด้วยซ้ำทันทีที่เห็นรูป เพราะมันชัดเจนว่าผมกับพี่ชมพูจูบกันจริงๆ และมุมที่ถ่ายก็เป็นทางประตูห้องนอนของผมเหมือนอย่างที่มันบอก


“กูไม่ตั้งตัวด้วยซ้ำว่าจะไปเจอภาพแบบนี้ มึงรู้มั้ยว่ากูเจ็บใจแค่ไหน แต่กูก็ยอมฝืนตัวเองเพื่อถ่ายรูปเอาไว้ เพราะมันจะเป็นประโยชน์กับกู”


“มึงต้องการอะไร ไอ้สัดน้ำ”


ผมข่มเสียงขรึม ตอนนี้ในหัวมันตื้อไปหมดจนคิดอะไรไม่ออก เสียงที่หลุดออกมาจึงมีเพียงเท่านี้ แต่นั่นก็มากพอจะทำให้คนที่รอโอกาสนี้มานานกดยิ้มมุมปากอย่างสะใจ


“มึงกับเขาเป็นแฟนกันใช่มั้ยล่ะ ถ้างั้น... กูอยากให้มึงมาเป็นแฟนกูแทน”


“ไอ้เหี้ย มึงคิดว่ากูจะยอมเป็นแฟนมึงหรือไง”


“กูไม่คิดหรอก แต่... ป๊ามึง พี่โซ คงยังไม่รู้สินะว่ามึงมีแฟนเป็นผู้ชาย”


“ไอ้สัด!! มึงมันเหี้ยจริงๆ”


คิดไม่ผิดเลยที่ผมเกลียดมัน เพราะมันนำพาความเดือดร้อนมาให้ผมเสมอ แต่มันก็ไม่ได้ยี่หระกับคำถามและสายตาโกรธแค้นทิ่มแทงของผม ยังคงยิ้มน่ากระทืบอยู่อย่างนั้น


“กูให้โอกาสมึงเลือกแล้วนะว่ามึงจะเอายังไง”


ในตอนนี้ผมไม่มีความคิดอื่นเลยนอกจากคำว่า เกลียดมัน!! ผมเกลียดมันจริงๆ เกลียดจนไม่อยากเห็น เกลียดจนอยากกระทืบแม่งให้ตายคาตีนไปซะ


“มึงลองคิดดูดีๆ นะ กูให้โอกาสมึงคิดถึงพรุ่งนี้”


มันว่าแบบนั้นแล้วเดินออกไปจากห้องของผมโดยที่ไม่ต้องออกปากไล่เหมือนทุกที


หลังจากมันออกไปแล้ว ผมก็ได้นั่งคิดกับตัวเองถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ความลับของผมถูกเก็บหลักฐานไว้อย่างชัดเจนและอยู่ในมือของคนอันตรายที่ผมไม่รู้ว่ามันจะไปถึงมือป๊าเมื่อไหร่ ผมรู้สึกเครียดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยเจอ


ผมพยายามคิดหาวิธีที่จะกำจัดหลักฐานชิ้นนั้นไป แต่ก็รู้ว่าไอ้ไอน้ำไม่ได้โง่ มันต้องระวังตัวแจอยู่แล้ว และไม่เปิดโอกาสให้ผมได้เข้าใกล้โทรศัพท์ของมันแน่ มันเป็นไปได้มันน้อยมาก น้อยจนผมคิดว่าอาจจะไม่มีทางสำเร็จ แต่เมื่อคิดอีกแง่ หากว่าผมทำลายรูปนั้นไปได้ ถึงมันจะไปบอกป๊า ป๊าก็คงไม่เชื่อง่ายๆ อยู่แล้วถ้าผมปฎิเสธ อย่างที่เขาว่ากันว่าเลือดข้นกว่าน้ำ ผมก็เชื่อว่าป๊าจะเชื่อผมมากกว่าคนที่เพิ่งเคยเห็นหน้าไม่กี่ครั้ง

แต่วิธีไหนล่ะที่จะทำให้ผมสามารถทำได้อย่างที่หวัง


คิดแล้วคิดอีกจนหัวจะระเบิดก็ไม่ได้ความคืบหน้าอะไรเลย ไม่มีวิธีไหนแล่นเข้าหัวแล้วคิดว่าเข้าท่า และมันน่าจะสำเร็จ เพราะผมเชื่อว่าหากว่าผมทำพลาดไปครั้งนึงแล้ว ผมจะไม่มีโอกาสได้ทำมันอีกเป็นครั้งที่สอง


“ลองไปคุยกับไอ้กราฟก็ได้วะ”


ในเมื่อพยายามหาทางแล้ว แต่มันไม่ได้ ผมก็หวังพึ่งอีกสมองหนึ่งที่ผมต้องยอมรับว่ามันฉลาดกว่าผมอยู่หน่อยๆ แต่ก่อนจะทำเริ่มทำอะไรทั้งหมด ผมก็เดินไปบอกป๊าที่ห้องว่าจะไปหาไอ้กราฟ และแน่นอนว่าป๊าต้องถามอยู่แล้วว่าผมจะไปทำไมเพราะนี่ก็ปาไปสามทุ่มแล้ว ผมก็แถอะไรที่เป็นไปได้ไป ว่าพวกผมจะไปคุยกันเรื่องจัดปาร์ตี้ให้พี่โซ ป๊าเลยอนุญาต


ผมนั่งแท็กซี่ตรงไปยังห้องไอ้กราฟทันที เรื่องการเข้าออกไม่มีปัญหา เพราะไอ้กราฟมันทำเรื่องให้ผมกับกัส เคลม เข้าออกห้องมันได้ตลอดตั้งแต่มันย้ายมาอยู่คอนโดนี้แล้ว ผมสแกนนิ้วที่ประตูทางเข้าด้านล่าง ก่อนจะขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่เป็นห้องของมัน เปิดประตูด้วยคีย์การ์ดที่มันให้ผมโดยไร้ความหวาดระแวงใดๆ


เข้ามาแล้วผมก็กวาดตาดูรอบๆ ห้อง มองหาเพื่อนคนสนิท แต่กลับไม่เจอ แม้ว่าจะเดินหาก็ไม่เห็น ผมจึงตรงไปยังห้องนอน เพราะคิดว่ามันอาจจะเข้าไปอาบน้ำก็ได้ แต่เมื่อผมเปิดประตูเข้าไปแล้ว กลับเจอสิ่งที่ทำให้ตกใจอย่างไม่คิดไม่ฝัน


ร่างเปลือยเปล่าของไอ้กราฟอยู่บนเตียงนั้น แต่กลับไม่ใช่แค่มันคนเดียวที่ผมเห็น มีใครอีกคนที่ผมจำหน้ามันได้ดี คนที่ผมไม่นึกว่าจะมีวันที่มันจะมาอยู่กับไอ้กราฟในสภาพแบบนี้ได้ ...ไอ้ไนล์


ผมปิดประตูลงอีกครั้ง ปิดการรับรู้ภาพด้านหน้าที่เห็น พยายามตั้งสติของตัวเอง ก่อนจะพยุงร่างออกไปจากห้องนี้ มึนงงไม่ต่างจากตอนที่ถูกไอ้เหี้ยน้ำจับได้ว่าผมกับพี่ชมพูเป็นอะไรกัน และไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง


กราฟกับไอ้เชี่ยไนล์..


ไม่รู้ว่าผมเดินออกมาจากคอนโดไอ้กราฟได้ยังไง ทั้งที่รู้สึกว่าผมไม่ค่อยมีสติด้วยซ้ำ ผมต้องสั่งตัวเองอีกครั้งให้ดึงสติกลับมา พยายามคิดว่าผมยังไม่รู้เหตุผล และที่ผมไม่เดินไปกระชากไอ้ไนล์ออกก็เพราะเหตุผลนี้เหมือนกัน ผมต้องฟังไอ้กราฟอธิบายก่อนว่าอะไรเป็นอะไร ผมถึงจะทำมัน


ผมหยิบโทรศัพท์มาโทรหาไอ้กัสแทน เพราะว่ามันเป็นที่พึ่งที่สองของผมถัดจากไอ้กราฟเสมอ ส่วนเคลม มันเป็นที่พึ่งสุดท้ายจริงๆ แต่ไม่ใช่เพราะมันดูไม่ค่อยจริงจัง เล่นไปเรื่อย เหมือนคนไม่เอาไหนในสายตาของคนส่วนมาก เพราะจริงๆ แล้วมันก็พึ่งได้อยู่ไม่น้อย เพียงแต่.. ผมจะเครียดตายก่อนมันจะช่วยผมแก้ปัญหา ดังนั้นผมจึงให้มันเป็นตัวเลือกสุดท้าย ซึ่งมันก็ไม่ได้น้อยใจอะไร เพราะรู้ตัวดีในนิสัยของตัวเองอยู่แล้ว


“มึงมารับกูที่คอนโดไอ้กราฟหน่อย”


บอกมันสั้นๆ แค่นั้นและฟังมันขานเสียงกลับว่าให้รอเดี๋ยว ผมก็รู้ได้ทันทีว่ามันคงไม่ได้ติดธุระกับผู้หญิงที่ไหน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นมันจะขอเวลาเพื่อใช้จัดการตัวเองสักห้าหรือสิบนาที เป็นแบบนี้ทุกครั้งจนมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ผมไม่ได้ใส่ใจ


กัสให้ผมรอแป๊บเดียวอย่างที่มันว่า เพราะสิบนาทีมันก็มาถึงคอนโดของไอ้กราฟ มาจอดรถด้านหน้าผมที่ยืนอยู่อย่างพอดิบพอดี ซึ่งผมก็ขึ้นนั่งบนน้องอีเกิ้ล Audi R8 LIMO สีขาวของมันในทันที เรื่องความแรงของรถนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ แถมยังเสริมความหรูตามลักษณะคุณชายปากหนักของมันเข้าไปอีก สาวที่ไหนเห็นก็หลง


“มึงไปไหน”


“ไปคอนโดมึงก็ได้”


เพราะไม่รู้จะไปที่ไหนที่จะสะดวกคุยในเรื่องนี้ ผมจึงเสนอว่าให้เป็นที่อยู่ของมันไป ซึ่งกัสก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร มันออกรถไปยังคอนโดของมันอย่างรวดเร็ว


















ผมกับกัสนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น มันมองหน้าผมเพื่อรอคอยให้ผมเป็นฝ่ายเปิดปากเล่ามาเอง มันก็เป็นแบบนี้ ไม่เคยคาดคั้นหาคำตอบ แต่กลับเข้าใจทุกอย่างได้ง่ายๆ และคาดเดาได้ถูกต้อง จะว่าเป็นคนฉลาดที่สุดในกลุ่มผมเลยก็ว่าได้


“กูไปหากราฟ เพราะมีเรื่องจะปรึกษามัน แต่พอกูไปหาที่ห้องแล้ว กูก็เจอ... มันนอนอยู่”


“มึงเจอใครนอนอยู่กับมัน?”


“อืม กูไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่กูเห็นนอนอยู่ข้างๆ ไอ้กราฟจะเป็นไอ้เหี้ยไนล์”


“ไนล์??”


ดูเหมือนว่าไอ้กัสจะตกใจไม่แพ้ผม มันเบิกตากว้างทั้งที่มองผมอยู่แบบนั้น


“เออ แม่ง เป็นไปได้ยังไงวะ ไอ้กราฟมาเอาไอ้ไนล์”


ผมบ่นอย่างไม่เข้าใจ ต่อให้คิดอีกกี่ตลบผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง และมันเป็นไปได้ได้ยังไง


“แต่มึงไม่ได้ทำอะไรใช่มั้ย”


“เออ มึงก็รู้ว่ากูเป็นยังไง ว่าแต่มึงพอรู้มั้ยว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้”


อย่างน้อยกัสก็อยู่คณะเดียวกับไอ้เหี้ยไนล์ล่ะวะ น่าจะมีอะไรแว่วๆ เข้าหูมันมั่ง แต่ทั้งที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ไอ้กัสกลับส่ายหัว


“กูไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับไอ้กราฟกับไนล์เลย”


“เออ มึงคงไม่รู้ใช่มั้ยว่าตอนเราไปทะเลคราวก่อน ไอ้เหี้ยไนล์มันไปด้วย แล้วมันก็เป็นคนทำให้ไอ้กราฟอาการกำเริบ ทำให้กราฟต้องมาเจอกับฝันร้ายอีกรอบ”


ไอ้กัสมองผมอย่างแปลกใจ เหมือนเรื่องที่ผมบอกเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอ ซึ่งมันก็ถูก เพราะวันนั้นไอ้ไนล์กลับไปก่อนที่ไอ้กัสกับเคลมจะมารวมกับผมบนหาด


“กูว่ามันชักยังไงๆ อยู่นะ”


“กูก็คิดงั้น ตอนแรกมันไม่ใช่แบบนี้นี่หว่า”


“มึงรู้อะไร”


ผมแน่ใจว่าไอ้กราฟคงไม่ได้เล่าให้ไอ้กัสหรือไอ้เคลมฟังแน่ เพราะขนาดผมยังต้องเค้นมันเลย แต่จะให้ผมปิดไอ้กัสก็ไม่ใช่เรื่อง ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ผมเลยเล่าให้ไอ้กัสฟังตามที่ผมรู้มา


“แล้วแม่งกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงวะ”


“นั่นล่ะ กูก็งง”


“งั้นกูว่าข้ามเรื่องไอ้กราฟไปก่อน เอาเรื่องมึงก่อน มึงว่าจะปรึกษาอะไรไอ้กราฟ”


ในเมื่อเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะสงสัยต่อไป เพราะยังไงก็ไม่ได้คำตอบ นอกจากไปเค้นไอ้กราฟเพื่อเอาคำตอบ ซึ่งตอนนี้คงไม่ได้ ไอ้กัสเลยเปลี่ยนเรื่อง


“ไอ้เหี้ยน้ำมันรู้แล้วว่ากูกับพี่ชมพูเป็นแฟนกัน”


“น้ำ? ไอน้ำ? น้องพี่น้ำอุ่นเหรอวะ”


“มันนั่นแหละ ไม่มีใครเหี้ยๆ แบบมันแล้ว”


ผมพูดอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ยิ่งนึกถึงแต่ละอย่างที่มันทำกับผมตั้งแต่มาไทยรอบนี้ อยากจับแม่งมากระทืบๆ ให้ลิ้นปี่ทะลักออกมาด้วยซ้ำ


“แล้วมันรู้ได้ยังไง”


“มันเข้าห้องกูแล้วดันมาเจอ...” ผมชะงักไปหน่อย เพราะลืมตัวจะพูดบางอย่างออกไป ไอ้กัสก็มองผมเหมือนรอให้พูดต่อ ผมก็เลยตัดใจพูดไป “เจอตอนกูจูบกับพี่ชมพู”


ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันที่จะต้องรู้สึกเขินขึ้นมานิดๆ ทั้งที่ไม่ว่าจะสุดเหวี่ยงกับผู้หญิงคนไหน ผมก็เล่าได้อย่างไม่สะทกสะท้าน แถมจะเล่าได้ทุกการกระทำตลอดกิจกรรมบนเตียงเสียด้วยซ้ำ นี่ถ้าไอ้เคลมอยู่ด้วยตอนนี้ มันล้อผมยาวไปอีกสิบปีแน่


“แล้วยิ่งแย่กว่านั้นคือมันถ่ายรูปตอนนั้นเอาไว้”


“มันยื่นข้อเสนออะไร”


ไอ้กัสยังเข้าใจง่ายเสมอ มันมองเจตนาของไอ้น้ำออกทันที แต่มันคงไม่คิดว่าคำตอบของผมจะเป็นแบบนี้ มันถึงได้ทำตาโตอย่างตกใจ


“มันบอกให้กูเป็นแฟนมันแทนพี่ชมพู”


“ฮะ??!! มึงบอกว่ามันขอมึงเป็นแฟน มันชอบมึงเหรอ”


“เออ มึงรู้มั้ย เมื่อคืนมันบุกมาจูบกูถึงห้อง ตอนกูนอนอยู่”


“เฮ้ย!!!”


ไอ้กัสร้องเสียงดัง มันคงไม่เชื่อมากโคตรๆ เพราะแม้แต่ผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่าไอ้เหี้ยน้ำจะชอบผม นึกแล้วก็ แสรดดดดดดดดดดดดดด อยากกลับไปกระทืบแม่ง!!


“กูจะทำไงดีวะ มันบอกว่าถ้ากูไม่ยอมเป็นแฟนกับมัน มันจะบอกป๊า บอกพี่โซ”


“แม่ง เล่นแบ็คเมล์มึงแบบนี้เลย หน้าตัวเมีย”


เพื่อนผมมันด่าครับ แล้วผมก็เห็นด้วย แต่ตอนนี้เรื่องด่าไอ้เชี่ยน้ำยังไม่สำคัญ ที่สำคัญกว่าคือผมจะทำยังไงต่อไปมากกว่า


“มึงว่ากูควรทำยังไงดีวะ”



“แล้วมึงคิดว่ามึงจะทำยังไง”


“กูว่าจะขโมยหลักฐานมาว่ะ”


“แล้วมึงคิดว่าถ้าขโมยมาได้ มันจะไม่ปากโป้งไปฟ้องหรือไง”


“แต่กูเชื่อว่าป๊ากับพี่โซจะเชื่อกูมากกว่า”


ผมบอกตามความคิดตัวเองที่คิดไว้ตั้งแต่ทีแรก แต่ดูเหมือนไอ้กัสจะไม่เห็นด้วย


“มึงจะโกหกป๊ากับพี่โซเหรอ ถึงเขาจะเชื่อมึง แต่มันก็มีเชื้อให้เขาตามเจอกองไฟอยู่ดี”


“แล้วมึงจะให้กูทำยังไงวะ”


รู้สึกเหมือนหมดหนทางขึ้นมาจริงๆ หลังจากไอ้กัสมันบอกผมแบบนั้น ซึ่งก็จริงของมัน


“มันจะอยู่ไทยอีกกี่วันวะ”


“อาทิตย์เดียว เห็นพี่โซบอกงั้น”


“ถ้างั้นก็ไม่น่ามีปัญหา มึงก็เฉยๆ ไป เดี๋ยวมันกลับเมกาคงจบ”


“กูว่าไม่ว่ะ ถ้ากูทำงั้น ก่อนกลับมันทิ้งระเบิดไว้ให้กูแน่”


พูดจบประโยคแล้ว ผมก็รู้สึกเครียดขึ้นมาอีกแล้ว พลอยให้ไอ้กัสตึงๆ ไปด้วย มันพยายามคิดหาทางเพื่อช่วยผมอย่างเต็มที่ ผมรู้ เพราะเราเป็นเพื่อนรักกัน เป็นคนสำคัญที่รองจากครอบครัว


“กูว่าทำอย่างที่กูบอก แล้วช่วงนี้มึงก็ห่างจากพี่ภูหน่อย ให้มันตายใจว่ามึงไม่อะไรกับเขาแล้ว”


“แล้วมันจะจบเหรอวะ ถึงมันจะกลับเมกาไปแล้ว ถ้ามันรู้ว่ากูกับพี่ชมพูยังอยู่ดี มันคงไม่เลิกจองเวรกู”


“เอาไว้ค่อยดูสถานการณ์อีกที” ไอ้กัสบอก “แต่กูคิดว่าถ้ามันกลับไปแล้ว อย่างมากมันก็บอกได้แค่พี่โซ แล้วกูก็เชื่อว่าพี่โซไม่มีทางบอกป๊า”


เสียงไอ้กัสหนักแน่นที่ประโยคสุดท้าย ให้ผมเชื่อและไว้ใจพี่ชายของตัวเอง ซึ่งผมก็แน่ใจเหมือนกันว่าพี่โซไม่มีทางบอกป๊า ถึงพี่โซจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าอย่างนั้น คำแนะนำของไอ้กัสก็น่าเสี่ยง


“งั้นกูเอาตามนั้นแล้วกัน”


“มึงอย่าลืมบอกพี่ภูแล้วกันว่ามึงจะทำอะไร”


“กูว่ากูจะไม่บอกว่ะ เดี๋ยวไม่เนียน กูอยากเคลียร์เองด้วย”


ผมบอกอย่างหนักแน่น แต่ไอ้กัสเสือกตอกกลับ


“อยากเคลียร์เองแล้วจะคุยกับไอ้กราฟกับกูทำไมวะ”


“ย้อนกูนะ” ผมจ้องเขม็งที่หน้าไอ้กัส แต่มันไม่สะทกสะท้านอะไรหรอก  “กูแค่อยากหาเพื่อนมาช่วยเสนอวิธีการให้กูต่างหาก เผื่อความคิดของกูยังไม่ดีพอ”


“มึงไม่กลัวพี่ภูโกรธหรือไง”


“ไม่กลัวว่ะ” ผมตอบมันแบบนั้นก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง เพราะสรุปเรื่องที่ผมต้องการความช่วยเหลือ หาทางออกได้แล้ว “อ้อ คืนนี้กูนอนกับมึงนะ แล้วก็มึงต้องช่วยกูอีกเรื่องด้วย”


“เรื่องอะไรวะ”


“กูบอกป๊าว่ากูออกมาคุยกับพวกมึงเรื่องจะจัดปาร์ตี้ให้พี่โซพรุ่งนี้”


“อ้อ ถ้าเป็นเรื่องนี้ ไม่มีปัญหาวะ กูว่าเคลมมันจัดการได้”


ไอ้กัสโยนงานเลยครับ โทรเรียกไอ้เคลมให้มาที่นี่ทันที แต่ผมก็ว่าเป็นเรื่องถนัดของไอ้เคลมจริงๆ เพราะแม่งเป็นเจ้าพ่อปาร์ตี้ เสนอหน้าไปแทบทุกงาน ทำตัวเหมือนบ้านจบ ต้องไปเก็บของกินตามปาร์ตี้ของคนอื่น


ไม่ถึงยี่สิบนาทีไอ้เคลมก็มาเสนอหน้าให้ผมเห็น ยิ้มแฉ่งพร้อมคำทักทายที่น่ายันให้ทะลุออกประตูที่มันเพิ่งเดินผ่านเข้ามา


“ว่าไงวะมึง ไม่เจอกันนาน เสียตูดให้พี่ภูแล้วดิ”


“นานห่าอะไร เพิ่งปิดเทอมไม่กี่วัน แล้วเสียตูดเหี้ยอะไร มึงต่างหาก วันนี้แหละ มึงจะเสียตูดให้กู”


ผมย้อน ก่อนจะลุกขึ้นวิ่งไล่กอดมัน ไอ้เคลมก็ทำเป็นวิ่งหนีไปกอดไอ้กัส เอาตัวไอ้กัสบังไว้เอาไว้ แล้วร้องปาวๆ


“ไม่เอานะ เค้าไม่เสียตูดให้ตัวเองนะ เค้าไม่อยากโดนพี่ภูเตะกระเด็น”


เสียงแม่งกระแดะ ตอแหลสุดๆ จนจากที่วิ่งไล่กอดมันเมื่อกี้ เปลี่ยนเป็นวิ่งไล่เตะแทน และพอมันเห็นว่าผมวิ่งไล่ มันก็วิ่งหนีอีก และผมกับมันคงวิ่งไล่กันเป็นเด็กอนุบาลอยู่อย่างนั้นถ้าหากว่าไอ้กัสแปลงร่างเป็นกรรมการ


“พวกมึงนี่ ถ้ายังวิ่งอยู่อีกกูจะถีบออกจากห้องให้หมด”


หลังจากนั้นพวกเราก็สงบกันเลย กลับมานั่งคุยกันเรื่องจัดปาร์ตี้ที่โซฟาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งไอ้เคลมก็อาสาเป็นพ่องานให้ มันว่าถ้ามันตื่นแล้วจูนคลื่นสมองของมันเสร็จ มันจะสั่งคนที่บ้านให้เตรียมอาหารสำหรับปาร์ตี้เล็กๆ และเมื่อตกลงกันได้เรียบร้อย พวเราก็เข้านอน แต่คืนนี้คงต้องนอนกอดกันสามคนบนเตียงนั่นล่ะครับ ส่วนไอ้กราฟ... ปล่อยมันไปก่อน




















ไอ้กราฟเพิ่งรู้เรื่องว่าเราจะจัดปาร์ตี้ให้พี่โซเย็นวันนี้ เพราะผมเพิ่งโทรไปบอกมันตอนเกือบๆ เที่ยงเอง ส่วนไอ้พี่ชมพู ตอนนี้ผมยังไม่ได้คุยครับ มันโทรหาผมตั้งแต่สิบโมงแล้ว แต่ผมบอกว่าอยู่คอนโดไอ้กัส ไว้ค่อยคุย มันเลยไม่ซักไซ้อะไร แต่พูดถึงมันแล้วก็คิดหนักอยู่หน่อยๆ หวังว่าวันนี้มันจะไม่ไปป่วนงานเลี้ยงจนไอ้เหี้ยน้ำทำอะไรเหี้ยๆ ขึ้นมากลางดง ผมเลยไม่บอกมันว่าจะจัดงานที่บ้านตอนเย็น


พวกเราแห่ขบวนกันไปที่บ้านผมครับ โดยมีไอ้กราฟมาสมทบทีหลังตอนเย็นๆ มันบอกไม่ว่าง ก็ไม่รู้ว่าไม่ว่างเพราะตัวมันเองหรือเพราะไอ้คนที่อยู่มันเมื่อคืน ไอ้กัสบอกผมว่าพวกมันจะอยู่อารักขาผมทุกวัน ไอ้เหี้ยน้ำจะได้มายุ่งอะไรกับผมมาก ผมรู้สึกรักเพื่อนโคตรๆ ก็ตอนนี้แหละ เวลาเดือดร้อนมันก็พร้อมจะช่วยเหลือกันโดยไม่ทิ้ง เพราะงั้นผมถึงยกให้พวกมันเป็นเพื่อนซี้เพื่อนตาย


คนจากบ้านของไอ้เคลมมาจัดสถานที่กันตอนบ่ายสี่ หลังจากพวกเรามาถึงไม่นาน ส่วนเจ้าของงานที่พวกผมจะเลี้ยง เห็นพี่กล้วยบอกว่าออกไปบริษัทกับป๊าตั้งแต่เช้า มีพี่น้ำอุ่นไปด้วย พวกมันเลยอดสวัสดี แต่คงไม่เป็นอะไร เพราะยังไงคืนนี้ก็ได้เจอ


พวกเพื่อนๆ ผมปลื้มพี่โซเหมือนกับผมนั่นแหละครับ เพราะพี่โซมีอะไรมากมายที่น่าชื่นชม ส่วนไอ้หมาน้ำยังอยู่ข้างใน ฟังแล้วผมก็โคตรเซ็ง แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ


“งานนี้มีใครมั่งวะ พวกกู พี่โซ แค่นี้ป่ะ”


ไอ้เคลมถามผม งานนี้มันลงทุนคุมคนงานจัดเตรียมเองเลย มันบอกว่าทำให้พี่โซทั้งที่จะให้คนอื่นทำส่งๆ ได้ไง กูต้องลงมือเองเว้ย ผมก็เลยปล่อยมันไป มีเดินมาดูเป็นระยะๆ แต่ก็ทึ่งในตัวไอ้เคลมเหมือนกัน เพราะไม่คิดว่าไอ้ลิงผือกจะยอมมายืนตากแดด


“เออ ก็แค่นั้นดิ จะให้กูชวนใครอีกวะ พวกมึงเลี้ยง จะให้เพื่อนพี่โซมาด้วยมันก็ไม่ควรป่ะวะ แล้วอีกอย่าง เขาไม่เตรียมตัวด้วยเหอะว่าจะมาวันนี้”


“อืม งั้นก็ตามนั้น เอาแค่โต๊ะใหญ่โตเดียวนะมึง จะได้ดูอบอุ่นเป็นกันเอง”


“มึงจะจัดยังไงก็เอาเหอะ”


ผมบอกมัน ก่อนเสียงโทรศัพท์จะดังอีกรอบ ไม่ใช่ใครอื่นหรอกครับ ไอ้คนที่วันนี้ไม่ได้เสนอหน้ามาบ้านผมนั่นแหละ


“ว่าไง”


[มึงกลับบ้านยัง]


“กลับแล้ว”


[งั้นกูไปหามึงที่บ้านนะ]


มันบอก ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าเสียงมันติดอ้อนหน่อยๆ


“มาทำไมอีกวะ ก็มาทุกวัน”


[แล้วมึงไม่คิดว่ากูจะคิดถึงมึงบ้างหรือไง]


เหมือนมันยิงปืนมาโป้งเดียว แล้วเจาะทะลุหัวใจของผม ผมรู้สึกอาการร้อนขึ้นมาเสียเฉยๆ ทั้งที่ก่อนหน้ายังไม่รู้สึกร้อนเท่าไหร่ แต่ตอนนี้หน้าผมร้อนมาก


สาดดดดดดดดดดด กูเขินอะไรอีกเนี่ย


ผมโวยกับตัวเองในใจกับอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้ รีบหันหลังให้คนอื่นๆ ที่กำลังทำงานกันอยู่ กลัวจะเห็นกันว่าหน้าผมเป็นยังไง เพราะแม้แต่ผมเองยังไม่กล้ายกมือขึ้นมาจับหน้าตัวเองเลย


“คิดถึงห่าอะไรล่ะ เมื่อวานก็เพิ่งเจอกัน”


ถึงจะตอบกลับไปแบบนั้น แต่หน้าของผมยังไม่หายแดงเลยด้วยซ้ำ ต้องเป็นเพราะว่านานแล้วที่มันไม่ได้พูดแบบนี้กับผม แต่ยิ่งกว่านั้นคือน่าโมโหตัวเองมากกว่าที่มาเขินมันอยู่อย่างนี้


[อ้าว ก็วันนี้กูไม่เจอมึง แล้วกูจะคิดถึง มันแปลกหรือไง]


มันยังคงเล่นงานผมด้วยคำว่าคิดถึง จนผมไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว เลยรีบโพล่งเปลี่ยนเรื่อง


“พี่โทรมาแค่นี้../เฮ้ยยีน อาหารคืนนี้มึงรีเควสอะไรเป็นพิเศษเปล่า”


ผมพูดยังไม่ทันจบ ไอ้เคลมก็ตะโกนแทรกขึ้นมาก่อน แล้วก็ดันซวยที่ไอ้พี่ชมพูเสือกหูดี


[อาหารอะไรเย็นนี้]


“เปล่า ไม่มีอะไร”


[อย่าโกหกกู]


มันทำเสียงเข้มเหมือนข่ม ส่วนผมหันไปถลึงตาใส่ไอ้เคลมแล้วเอาอีกมือชี้โทรศัพท์ที่ผมเอาแนบหูอยู่ มันถึงเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลง ยกมือขึ้นเหมือนขอโทษก่อนจะหันไปจัดการงานของตัวเองต่อ


[ว่าไงมึง]


คงเห็นว่าผมไม่ยอมตอบมันสักที มันถึงเร่งเอาคำตอบให้ได้ แล้วผมจะตอบว่าอะไรได้ล่ะครับ


“พี่อยากมาบ้านผมมากขนาดนั้นเลยเหรอครับ”


ผมถามกลับไป แล้วมันก็คงรู้ว่าผมแปลกไปจากเดิม เพราะน้ำเสียงไม่ใช่อย่างที่ใช้อยู่ประจำ


[แล้วมึงไม่อยากให้กูไปขนาดนั้นเลย]


“ถ้าผมบอกว่าไม่อยากให้พี่มา พี่จะมาหรือเปล่า”


ผมลองหยั่งเชิง ทั้งที่ก็พอจะรู้คำตอบอยู่แล้วว่าจะเป็นแบบไหน และมันก็เป็นอย่างที่ผมคิดไม่มีผิดเพี้ยน พี่ชมพูทำเสียงแข็งขึ้น


[กูก็จะรีบไปหามึง ไปถามมึงว่ามึงเป็นอะไร]


“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็มาเถอะครับ มีปาร์ตี้ตอนหัวค่ำ” ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะบอกประโยคนั้น และต่อประโยคเป็นคำเตือน “แต่ถ้าพี่มาแล้วเจออะไรที่แปลกไป พี่อย่าโวยนะครับ”


[หมายความว่ายังไง]


มันถามกลับ แต่ผมก็เลี่ยงที่จะตอบ แค่ขอวางสายแล้วก็ได้แต่มองโทรศัพท์ในมือ ผมไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้ ไม่อยากให้มันมารับรู้ถึงสิ่งที่ผมทำ ไม่อยากให้มันรู้สึกไม่ดี หรือแม้กระทั่งเสียใจที่ผมต้องทำเป็นหมางเมิน สู้ไม่ต้องมาหา ไม่ต้องมาเจอกันยังดีกว่า เพราะอย่างน้อย ผมก็ไม่ต้องทำให้มันต้องเจ็บปวด ถึงผจะไม่รู้ว่ามันจะรู้สึกมากเท่ากับที่ผมคิไว้หรือเปล่า แต่ผมก็คิดว่ามันเป็นอย่างนั้น.. เพราะมันรักผม และผมก็รักมันด้วยแล้วล่ะมั้ง ถึงได้คิดมากและรู้สึกอย่างที่เป็นอยู่นี้





อ่านต่อด้านล่างค่ะ

v

v



ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ต่อจากด้านบนค่ะ

v

v







ท้องฟ้ามืด ก็ถึงเวลารวมตัวของพวกเรา ผมเรียกพี่โซกับพี่น้ำอุ่นลงมากินอาหารที่ไอ้เคลมจัดเตรียมไว้ รวมทั้งป๊าด้วย แต่แป๊ะปฏิเสธ เพราะอยากให้เด็กๆ ได้ฉลองกันอย่างเป็นกันเอง


ตอนที่พี่โซกับพี่น้ำอุ่นกลับมาบ้านแล้วเห็นว่าพวกเราเตรียมยกอาหารมาจัดวางที่โต๊ะกลางก็มองอย่างสงสัยว่าพวกเราจะเลี้ยงใคร แต่พวกผมไม่ตอบหรอกครับ ถ้าบอกแบบนั้นก็ไม่เซอร์ไพรส์ ซึ่งพี่โซก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม จนผมเรียกให้ไปที่สนามหน้าบ้านนั่นล่ะ ถึงจะรู้ก็ขอบใจพวกผมกัน ไอ้เพื่อนลิงๆ ของผมก็เข้าไปกอดพี่โซกันคนละทีสองที ส่วนผมก็มองแล้วยิ้มตาม


ไอ้เคลมสั่งคนสร้างบรรยากาศในสนามหน้าบ้านของผมให้ดีขึ้น โต๊ะอาหารสำหรับพวกเราทุกคนเป็นโต๊ะยาวสิบที่นั่ง ปูด้วยผ้าสีขาวปักลายสีทอง อย่างกับงานแต่ง มีโต๊ะอีกตัวเป็นโต๊ะวางอาหารชนิดต่างๆ ที่มันให้แม่ครัวทำมา ทั้งสเต็กหันชิ้นเล็กกว่าปกติครึ่งเท่า สลัดผักและผลไม้ ขาหมูเยอรมัน แมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส แต่ใช่ว่าจะมีแค่อาหารจากเมืองนอกที่พี่โซกับพี่น้ำอุ่นคงกินจนเอียนแล้ว ยังมีอาหารไทย จำพวกน้ำพริกปลาทู ผักต้ม ไข่ชะอม แกงจืดเต้าหู้  ข้าวผัดหมู กะเพราไข่เยี่ยวม้า แม้แต่ส้มตำ ยำรวมมิตรก็ยังมี เรียกได้ว่เตรียมพร้อมมากๆ ว่าใครอยากกินแบบไหนก็พร้อม


รอบๆ มีแสงไฟสีขาวนวลส่องสว่างขัดกับท้องฟ้าที่มืดลงแล้ว ประดับด้วยแสงสีรุ้งดวงเล็กๆ กระจายอยู่รอบบริเวณ มีดอกไม้จัดอยู่สี่มุมเหมือนเป็นการแสดงอาณาเขต นี่ถ้าคนอื่นเห็นคงคิดว่าเป็นการเลี้ยงงานแต่งของพี่โซกับพี่น้ำอุ่น


ทุกคนนั่งลงตามใจชอบว่าจะเลือกตรงไหนเป็นที่ถิ่นหลักปักฐาน ผมนั่งลงข้างพี่โซ ส่วนที่ข้างๆ กะเว้นไว้ให้ไอ้กราฟ แต่กลับมีตัวเสือกมาเสนอหน้าซะก่อน


“มานั่งตรงนี้ทำไม นี่ที่เพื่อนกู”


ผมหันไปพูดกับมัน ไม่ได้เสียงดังมากนัก เพราะไม่อยากให้พี่โซกับพี่น้ำอุ่นไม่สบายใจ ซึ่งมันก็ตอบกลับมาด้วยเสียงระดับเดียวกัน


“ก็กูอยากนั่งตรงนี้ มึงตอบคำถามกูได้หรือยังล่ะ”


“กูไม่จำเป็นต้องตอบมึง”


ผมย้อน  ถึงจะตัดสินใจแล้วว่าจะทำยังไง แต่ก็ไม่คิดจะตอบมันออกมาโดยตรง ทว่าดูท่ามันจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่


“มึงท้าให้กูบอกพี่ชายกับป๊ามึงสินะ”


“มึงก็ดูเอาเองว่ากูเลือกทางไหน”


ผมบอกมันแค่นั้นก่อนจะหันกลับมา มองหน้าไอ้กัสที่อยู่ตรงข้าม มันก็พยักพเยิดหน่อยๆ เหมือนกับเป็นการบอกให้ผมปล่อยๆ ไอ้เชี่ยน้ำไป เพื่อตัดปัญหาที่จะตามมา เหมือนอย่างที่เราคุยกันไว้ ผมเลยหยักหน้าเบาๆ ตอบรับมัน ก่อนทุกคนจะเริ่มลงมือทานอาหารกัน


ใครจะทานอะไรก็ลุกขึ้นไปตักตามใจชอบ แต่ก็มีไอ้เหี้ยน้ำเสนอตัวว่าจะไปตักใส่จานใหญ่ แบ่งๆ มาให้จะได้ไม่ต้องลุกกันไปหลายๆ รอบ ก่อนมันจะเอาอาหารเกือบทุกอย่างมาวางบนโต๊ะ และไม่พ้นว่ามันตักอาหารมาใส่จานของผม โดยที่ผมไม่ต้องการด้วย


“กูไม่เอา”


“กินไปเหอะน่า กูอุตส่าห์ตักให้”


เสียงและคำพูดของมันเรียกพี่โซกับพี่น้ำอุ่นให้หันมามองได้ พี่น้ำอุ่นยิ้มนิดๆ แต่ผมกลับอ่านรอยยิ้มนั้นได้ว่า ญาติดีกันแล้ว ดีจริงๆ ส่วนพี่โซ เอียงตัวมากระซิบข้างหูผม


“เขาดีกับเราแล้ว ก็ดีกับเขาตอบด้วยล่ะ”


ฟังแล้วผมยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม ไหนจะต้องยอมอ่อนข้อให้มันเยอะขึ้น แล้วยังต้องทำเฉยชากับแฟนจริงๆ ของตัวเองอีก ถ้าเทียบระหว่างเป็นแฟนกับไอ้น้ำ กับให้ไอ้พี่ชมพูแยกร่างมีสองคนแล้วคบกับผมพร้อมๆ กัน ผมว่าอย่างหลังยังดีกว่า ถ้าไม่เพราะมันรู้จุดอ่อน ผมคงไม่แม้แต่จะมองหน้าไอ้เหี้ยน้ำ นี่ดีว่าพี่ชมพูไม่ได้มาอย่างที่บอกเอาไว้ ไม่อย่างนั้น ผมคงกดดันและรู้สึกผิดมาก


ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกำลังคิดถึงหรือยังไง แต่ไอ้คนที่ผมพูดถึงอยู่ในใจก็มาหยุดที่ด้านหลังไอ้กัส ตรงข้ามกับผมทันที และไม่ใช่แค่ไอ้พี่ชมพู แต่กราฟก็มาพร้อมกันด้วย


“มาได้แล้วเหรอมึง”


ผมเลือกจะคุยกับไอ้กราฟหลังจากทั้งคู่ทักทายพี่โซกับพี่น้ำอุ่น แล้วทำเป็นมองข้ามไอ้พี่ชมพูไป ทั้งที่ไม่อยากทำอย่างนี้เท่าไหร่ แต่ก็ทำ มันเองก็มองผมอย่างงงๆ ว่าทำไมผมถึงทักไอ้กราฟคนเดียว จะว่าผมเกลียดมันเหมือนเมื่อก่อนจนไม่อยากคุยด้วยก็ไม่ใช่ เพราะผมกับมันผ่านช่วงเวลานั้นมานานแล้ว มันก็รู้ดี


“ติดธุระว่ะ โทษที”


มันตอบผมมาแบบนั้น ก่อนจะเลือกที่นั่งข้างไอ้เคลมโดยไม่ต้องรอให้ใครบอก เพราะจะบอกว่าเป็นคนกันเองก็ไม่ผิด นอกจากพี่น้ำอุ่นกับไอ้เหี้ยน้ำแล้ว เพื่อนผมทุกคนก็สนิทสนมกับพี่โซดี


“เออๆ กินๆ”


ผมบอกตัดบท แม้จะสงสัยอยู่ว่าธุระที่มันบอกคงไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องไอ้ไนล์มากกว่า แล้วพอไอ้กราฟเห็นผมอนุญาตให้มันแดกได้ มันก็ไปตักอาหารมา ส่วนพี่ชมพู ยังยืนอยู่อย่างนั้น ไม่นั่งลง เอาแน่มองหน้าผม จนผมรู้สึกอึดอัด ต้องก้มหน้าหลบสายตาของมัน ไม่ใช่แค่ไอ้พี่ชมพูหรอกที่กำลังรู้สึกแย่ที่ผมทำเป็นมองไม่เห็น แต่ผมที่ทำแบบนั้นก็รู้สึกแย่ไม้แพ้มัน


เป็นไอ้กัสที่พอจะรู้สถานการณ์ มันถึงได้ชักชวนให้ไอ้พี่ชมพูนั่งด้วยกัน แล้วไล่ไอ้เคลมมานั่งฝั่งผม ข้างๆ ไอ้น้ำแทน ไอ้เคลมก็บ่นๆ อยู่หน่อย เพราะมันกินค้างอยู่ แต่ถึงงั้นมันก็ยอมย้ายที่ให้พี่ชมพูมานั่งข้างไอ้กัสแทนมัน เพราะไอ้เคลมก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ถ้ามันไม่รู้ ผมมั่นใจเลยว่ามันไม่ยอมย้ายที่ แต่สั่งให้ไอ้น้ำย้ายแทน


พี่ชมพูยอมนั่งแต่โดยดี ก่อนไอ้กราฟที่ตักอาหารมาเผื่อจะเอาจานวางตรงหน้ามันให้ ผมเหลือบมองมันนิดๆ ไม่ไปให้มันจับได้ว่าผมแอบมองอยู่ แต่ก็ยากที่จะทำแบบนั้น เพราะมันเอาแต่จ้องผมตลอด แม้แต่ตอนที่ตักอาหารเข้าปาก มันยังไม่ยอมก้มลงไปดูว่าตักผิดตักถูกหรือข้าวหกเรี่ยราดมั้ย แล้วก็ไม่ใช่ผมคนเดียวที่รับรู้ถึงสายตานั้น เพราะคนที่นั่งข้างๆ ผมมันก็เห็นได้ชัด มันเลยพยายามตักอาหารให้ผมหลายๆ อย่างเพื่อเย้ยไอ้พี่ชมพู พยายามชวนผมคุยทั้งที่ผมไม่ได้อยากคุยกับมันเลยด้วยซ้ำ


คนที่ถูกผมเรียกว่าหมีควายบ่อยๆ หน้าตึงมากกว่าเดิมจนผมรู้สึกเหมือนมีก้อนหินมาทับอยู่บนอก ตอนนี้คนที่กล้าและไม่กลัวใครอย่างผมกลับไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองไอ้พี่ชมพู ไม่กล้าที่จะสบตาที่กำลังจับจ้องผมมาด้วยความสงสัยและไม่พอใจ จนผมรู้สึกทนไม่ไหว ทั้งที่ไอ้เคลมคอยพูดคุยกับคนอื่นๆ สร้างบรรยากาศครื้นเครงไม่ให้น่าอึดอัด แต่ผมกลับหายใจไม่ออก


“กราฟ มากับกูหน่อย”


ไอ้กราฟซึ่งเป็นคนเดียวที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเงยหน้ามองผมทั้งที่ปากมันยังงับช้อนอยู่ด้วยซ้ำ แต่ผมไม่รอให้มันทักท้วงอะไร ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากโต๊ะไป ไอ้กราฟเลยต้องรีบลุกตาม ผมนำมันไปคุยกันอีกฟาก ไม่ให้คนอื่นๆ เห็นว่าผมกับไอ้กราฟคุยอะไรกัน


“มึงรู้มั้ยว่าเมื่อวานกูมีเรื่องจะปรึกษามึง”


“เรื่องอะไร?!”


มันทำตาโตตกใจที่ไม่รู้เรื่องเลยว่าผมกำลังเดือดร้อน เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่มันจะไม่อยู่ข้างๆ ผมเวลาที่ผมมีเรื่องไม่สบายใจ  กราฟเป็นเพื่อนที่อยู่กับผมไม่ว่าเมื่อไหร่ แต่ครั้งมันกลับพลาด และผมก็รู้ว่ามันกำลังรู้สึกแย่


“เรื่องนั้นไว้กูเล่าให้มึงฟังที่หลังได้ แต่กูมีเรื่องสำคัญที่จะคุยกับมึงมากกว่าเรื่องของกู”


ไอ้กราฟดูค่อนข้างงุนงงว่าผมจะพูดเรื่องไหน อารมณ์เมื่อกี้ผ่อนลงไปค่อนข้างมาก มันคงเห็นว่าผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่กับเรื่องนั้นล่ะมั้ง


“เรื่องมึงกับไอ้ไนล์”


ผมย้ำน้ำหนักที่ชื่อของคู่กรณี พลอยให้ไอ้กราฟต้องเบิกตากว้างอีกครั้ง มองหน้าผมด้วยแววตาที่ผมบอกไม่ถูก ตกใจ ไม่เชื่อ หรืดปิดบัง


“บอกกูหน่อยได้มั้ยว่ามึงกับมันมานอนอยู่บนเตียงด้วยกันได้ยังไง การพนันของมึงไม่ใช่แบบนี้ไม่ใช่หรือไง”


เน้นคำถามให้ชัดเจนเลยว่าผมต้องการอะไร  ให้มันรู้ว่าผมรู้เห็นเรื่องเมื่อคืนหมดทุกอย่าง มันเม้มปากนิดๆ ก่อนจะปล่อยออก เหมือนกำลังคิดว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี ผมรู้ มันกำลังคิดแบบนั้น เพราะผมรู้จักมันดี


“กู... กูเป็นแฟนกับมันแล้ว”


กลายเป็นผมที่ตกใจเสียเอง ผมไม่คิดว่าคำตอบที่จะได้เป็นแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้เสียด้วยซ้ำในความคิดของผม ไอ้กราฟจะเป็นแฟนกับไอ้เหี้ยไนล์ได้ยังไง!!


“มึงพูดว่าอะไรนะ”


ผมถามมันอีกครั้ง หวังว่าคำตอบจะไม่ใช่แบบเดิม แต่เพื่อนที่รักที่สุดของผมกลับทำให้ผมผิดหวัง


“กูเป็นแฟนกับมัน”


“มึงเป็นแฟนกับมันได้ยังไง มึงไม่รู้เหรอว่ามันทำเหี้ยๆ กับมึงไว้”


“กูรู้”


ไอ้กราฟตอบแค่นั้น แต่กลับทำให้ผมรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลาย ทั้งที่ไอ้เหี้ยไนล์เคยทำให้มันเกือบตาย และมันรู้อยู่แก่ใจ แต่มันก็ยังไปคบกับไอ้เหี้ยนั่น


“มึงรู้แล้วทำไมมึงยังไปคบกับมัน กราฟ กูไม่โกรธที่มึงไม่เล่าให้กูฟังว่าระหว่างมึงกับมันเกิดอะไรขึ้น แต่กูไม่ไหวถ้ามึงจะเอามันเป็นแฟน กูยอมรับไม่ได้ กูยอมรับคนที่ทำให้เพื่อนกูต้องกลับไปเจอฝันร้ายแบบนั้นไม่ได้ มึงเข้าใจกูมั้ย”


“กูรู้ ยีน กูรู้”


มันได้แต่ย้ำคำนั้น ตอนนี้ผมเบลอไปหมด รู้แต่ว่าผมไม่ยอมรับไอ้ไนล์ที่จะมาเป็นแฟนไอ้กราฟ


“ถ้าเป็นคนอื่นกูจะไม่อะไรเลย แต่คนนี้กูขอได้มั้ยกราฟ กูขอ มึงอย่าไปยุ่งกับมันอีกเลย ได้มั้ย ทำเพื่อกูได้มั้ย ถ้ามึงรู้ทำไมมึงยังไปคบกับมัน”


น้ำเสียงของผมไม่ได้เกรี้ยวกราด แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก และผมก็รู้ว่าไอ้กราฟเข้าความรู้สึกของผมทั้งหมด แต่มันก็เลือกที่จะไม่ตอบผม


“มันดีนักหรือไง มันดีกว่ากูอีกเหรอ ฮะ กราฟ มันดีกว่ากูเหรอ ระหว่างกูกับมัน มึงเลือกได้มั้ย”


ทั้งที่ไม่ได้อยากทำแบบนี้ ไม่อยากทำตัวเหมือนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของมัน เพราะผมเป็นแค่เพื่อนมัน เป็นเพื่อนที่มันรักที่สุด แต่ผมก็ทนไม่ได้ ผมกลัวว่าไอ้เหี้ยนั่นจะคิดทำอะไรกราฟอีก กลัวว่ามันคิดไม่ดีกับเพื่อนของผม เหตุผลที่มันรู้จักกันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ถ้าไอ้ไนล์ไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นไว้ ผมก็คงยอม แต่มันไม่ใช่ และมันก็เปลี่ยนความรู้สึกของผมไม่ได้


“มึงถามแบบนี้.. กูเลือกไม่ได้ ยีน กูเลือกไม่ได้ มึงเป็นเพื่อนรักกู ที่กูไม่ยอมเสีย แต่มันก็เป็นคนทำให้กูยอมเปิดใจจริงๆ อีกครั้ง มึงลองให้โอกาสมันสักครั้งไม่ได้เหรอ มันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้กูตกอยู่ในสภาพแย่ๆ แบบนั้นเลย มันแค่จะช่วยกู”


“ช่วยเหี้ยอะไรแบบนั้น”


“แต่ตอนนี้กูหายแล้ว”


ผมชะงักไป มองหน้ามันอย่างไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น แต่มันก็ย้ำด้วยเสียงจริงจัง


“กูหายแล้วจริงๆ”


ผมพูดอะไรไม่ออก มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่ากราฟหายจากอาการแบบนั้น ทั้งที่ต้องทนทุกข์กับมันมาสามปี แต่คำยืนยันของมันก็ทำให้ผมสับสน


“มึงเชื่อกูนะ ให้โอกาสมันสักครั้ง แล้วมึงจะรู้ว่ามันเป็นคนดี”


ผมไม่ตอบอะไร แต่หันหลัง เดินห่างออกจากมันมา แต่ไอ้กราฟก็ตามมาจนทันแล้วเอาแขนพาดคอของผมแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะด้วยกัน


ความรู้สึกแย่ๆ ยังรุมล้อมผม ถึงผมคิดจะยอมให้โอกาสกับไอ้ไนล์อย่างที่ไอ้กราฟขอเอาไว้ แต่ผมก็ยังรู้สึกเครียดอยู่ดี มันเป็นเพื่อนที่ผมรักมาก เพราะงั้นผมคงทนไม่ได้ หากว่ามันต้องตกอยู่ในสภาพเดิมๆ อีก ผมกลัวเรื่องนี้มากที่สุด กลัวอีกฝ่ายจะจากไป จะไม่เห็นค่า และเล่นสนุกกับมันตามเกมเพื่อเอาชนะ เพราะถ้าผมต้องเห็นมันกำลังจะตายต่อหน้าอีกครั้ง ผมคงทนไม่ไหว


มันเหนื่อยนะครับ ที่ต้องพยายามสุดชีวิตเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนให้พ้นจากความตาย และมันก็เจ็บไปทั้งใจที่เห็นเพื่อนเหมือนคนที่ตายทั้งเป็น ผมไม่อยากเห็นไอ้กราฟเป็นแบบนั้นอีกแล้ว


“ผมอิ่มแล้ว กลับห้องก่อนนะครับ”


ผมบอกพี่โซกับพี่น้ำอุ่น ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้เพื่อนๆ เป็นการบอกลา ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไป รู้สึกหดหู่ไปหมด ทั้งเรื่องไอ้กราฟและเรื่องของตัวเอง ไม่รู้ว่าอะไรนักหนาถึงเข้ามาทับถมผมในตอนนี้พร้อมๆ กัน คxยเอ๊ยยยยยยย!!


เดินเข้าตัวบ้านมาเพียงไม่กี่ก้าว แขนของผมก็ถูกใครบางคนดึงไว้ มันลากผมให้เดินเข้าไปด้านในด้วยกันให้เร็วกว่าเดิม แต่ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ไม่มีอีกคนตามมันมาด้วย เพราะรู้ดีว่าเพื่อนๆ ของผมคงจัดการแล้ว


“ปล่อยก่อน”


ผมบอกไอ้คนตัวโตที่มันลากผมเข้ามาจนเกือบถึงห้องนั่งเล่น ซึ่งมันก็ยอมทำตามแต่โดยดี แต่ก็หันมาจ้องหน้าผมเขม็ง พูดออกมาด้วยเสียงหนักๆ


“มึงมีอะไรจะบอกกูมั้ย”


“ไม่มี”


ผมสวนกลับทันควัน ทำให้มันยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิม


“งั้นกูถาม ทำไมมึงต้องทำเป็นไม่สนใจกู ทำไมมึงต้องทำเหมือนกูไม่มีตัวตน”


“ไม่มีอะไร”


ผมตอบมันเสียงแข็ง พยายามปั้นเสียงของตัวเองออกมาให้เป็นอย่างที่หวัง แต่กลับใช้ไม่ได้กับคนตรงหน้า มันจ้องหน้าผมใกล้ขึ้นอีก ราวกับจะใช้สายตาของมันทะลุทะลวงเข้ามาในใจผมจนอ่านออกทั้งหมด


“มึงคิดว่ากูจะเชื่อมึงเหรอ”


“ก็มันไม่มีอะไร แล้วพี่จะถามให้ได้อะไรขึ้นมา”


ผมแย้งเต็มเสียง ไม่ยอมที่จะบอกความจริงกับมัน เพราะถึงผมจะแน่ใจว่าไอ้กัสกับไอ้เคลมจะช่วยกันไอ้น้ำเอาไว้ แต่ผมก็ยังไม่วางใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไอ้เหี้ยนั่นจะไม่ใช่เล่ห์เพทุบายของมันจนมาแอบมองผมอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อแอบฟังผมกับพี่ชมพูคุยกัน


ทว่านั่นก็เป็นเหตุผลมากพอที่จะทำให้ไอ้พี่ชมพูอารมณ์กรุ่นจนทนไม่ไหว มันจับตัวผมขึ้นพาดบ่าโดยที่ผมไม่ได้ตั้งตัว ก่อนจะแบกผมขึ้นไปชั้นบนและเป้าหมายไม่ใช่ที่อื่นเลย นอกไปเสียจาก...ห้องนอนของผม








====================
กว่าจะได้อัพตอนนี้ ชัทดาวน์ตัวเองไปหลายรอบมาก

ช่วงนี้มาถี่หน่อย เพราะยังพอมีเวลา
แต่อีกไม่นานน่าจะหายเป็นเดือนๆ อีกแล้วล่ะมั้ง
บอกล่วงหน้าค่ะ

 :sad4:

ปล. บวกเป็ดให้ทุกคนที่ยังติดตามจนมาถึงวันนี้ค่ะ


Undel2Sky


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2012 01:12:44 โดย undersky »

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
เอิ้ววววววววววววววววววว

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ถามหน่อย เรื่องที่ไอน้ำเอามาขู่ยีนมันเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับใครบ้าง
ไม่ใช่พี่ภูกับยีนเหรอ? แล้วยีนคิดจะเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาคนที่เขาเกี่ยวข้องบ้างหรือเปล่า
ตอนแรกเห็นความคิดยีนดูมองรอบคอบดี ก็ลุ้นๆให้ไม่เดินตามสเต็ปนายเอกงี่เง่าทั่วไป
แต่...ป๊าดโถ่! มาตกม้าตายเอาตอนไม่ยอมบอกพี่ภูนี่แหละ โห่ อุตส่าห์ภาวนาไม่ให้เข้าอีหรอบนี้ :undecided:
ถ้าบอกพี่ภูมันก็จะไม่เกิดปัญหาอีกด้านตามมา แต่นั่นแหละประเด็น!!
เอาน่ะความคิดใครความคิดมัน ยีนคงมีเหตุผลของตัวเอง แถมยีนก็รู้จักแฟนตัวเองดีกว่า
แต่ส่วนตัวแล้วเราคิดเหมือนกัสว่าควรบอก ไม่งั้นปัญหามันจะยิ่งรุมเร้า ไหนจะไอน้ำ ไหนจะที่บ้าน ไหนจะแฟน โว๊ะ
เป็นแบบนี้แล้วแอบเซ็งเลย  :freeze: แต่หวังว่าที่พี่ภูแกลากเข้าห้องไปจะบังเกิดปัญญาและความเปลี่ยนแปลงบ้างเถิ้ดดด
พี่ชมปูววววเชื่อใจน้องด้วยน้า

อ้อ ลืมไป อันนี้ขอแถมให้ไอ้ไอน้ำ  :beat:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-09-2012 02:03:46 โดย RoseBullet »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
กำลังมันส์เลย
รออ่านต่อตอนหน้านะจ๊ะ

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ทำไมไม่ปรึกษาพี่ภูก่อนอ่า
สงสารพี่ภูแย่เลย
ส่วนเรื่องกราฟก็อยากรู้
มันเป็นมายังไงเนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
งงกับวิธีแก้ปัญหาของยีน เหอะๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
พ่อยีนยังไม่รู้เรื่องยีนกะพี่ภูหรอ คิดว่าเค้ามองไม่ออกหรอ :เฮ้อ:

แล้วยีนพลาดนะ ที่ไม่ปรึกษาพี่ภูโดยตรง

รอตอนต่อค่ะ

chai235

  • บุคคลทั่วไป
ตอนแรกคิดว่า ยีน แกล้งโง่นะ

นี่มัน โง่ จริงๆ นี่หว่า สมควรแล้ว ที่พี่ภูจะโกรธ

worst case ถ้าทำตามที่ไอน้ำขอ มันก็ อีหรอบเดิม ยอมไปก็แย่เหมือนเดิม

นี่มันโง่จริงๆ ไม่ใช้สตันท์ นี่หว่า

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



   น้องยีนโดนปัญหารุมเร้าซะละ แต่ทำไมไม่บอกพี่ภูไปตรงๆละ มีอะไรจะได้ช่วยกันแก้นะ




ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
เรื่องตัวเองก็เต็มฝืดแล้ว ยังจะไปรับเรื่องของกราฟมาอีก

เป็นแฟนกัน แทนที่จะคุยกันสองคน พี่ภูมันไม่ได้โง่นะ ที่จะมาบอกว่าไม่มีไรแล้วมันจะเชื่อ และยิ่งบอกว่าไม่มีไรนี่แหละ มันจะยิ่งเค้นจะยีนส์ระเบิดออกมา ยีนส์ฉลาดนะ แต่ทำไมตกม้าตายตอนนี้

ส่วนไอน้ำ ช่างเป็นผู้ชายที่น่าสมเพศเสียจริง

NARUE

  • บุคคลทั่วไป
 :z3:


อึดอัดแทนยีน

พี่ชมพูไปต่อยไอน้ำให้ที

ออฟไลน์ Zarunghaja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-0
น้องยีนโดนปัญหารุมเร้า  o22


อยากรู้เรื่องของกราฟกับไนล์  :really2:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อย่าได้แคร์ๆๆๆ เชียร์พี่ภู
ชัดเจนไปเลย จะได้ไม่มีอะไรให้ขู่อีก

armmyrine

  • บุคคลทั่วไป
เปิดตัวไปเลย.  ผู้ใหญ่เค้าไม่โง่หรอกน่ะ :z3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด