It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]  (อ่าน 602045 ครั้ง)

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ค้างอ้ะ
แล้วป๋าน้องยีนจะว่ายังไงเนี่ยยยย :serius2:

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ี่พี่ชมพูทำไรไม่ปรึกษาเล้ย เกงยีนโกรธตาย

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
บอกไปแล้วๆ
นี่เป็นแผนหรือนี่ :laugh:
ว่าแต่..ลุ้นคำตอบวุ้ย :z10:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โอ้วววว พี่ชมพูวววววววววววว
กล้าหาญชาญชัยดีแท้

bowstory2

  • บุคคลทั่วไป
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงง TAT

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
พ่อตาเตรียมลูกปินไว้รึเปล่า..

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
พี่ชมภู กล้าหาญจริงๆ :really2:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
แรงตรงนี้แหละพี่ชมพู

ออฟไลน์ Momichi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
พี่ภูแมนมากๆๆๆๆ. ยกนิ้วให้
ทีนี้ก็มารอลุ้นกันว่าป๊าจะว่าไง.
ป๊าอาจจะตอบว่า มาบอกทำไมป๊ารู้แล้ว 5555

ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
ว้าว ว้าวววว ลุยเลยพี่ชมพู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1

ออฟไลน์ •ไนท์คลุง•

  • Night ♥ .....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?action=profile
อร๊ายยย แอบตกใจว่า เอ้ามันจบแล้วนิ
ค้างอ่ะ :z3:
อยากรู้ว่า ป๊าจะตอบว่าไง
อยากเห็นคุณป๊าตอบแบบอึนๆเหมือนไม่ตกใจ  :laugh:

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
โอ๊ยยยค้างงงมว๊วกกกก พี่ชมพู แมนมากอ๊าาา >< กรี๊ดกร๊าดด มาต่อเร็วๆ นะคะ อยากอ่านต่อมว๊ากเลย
ชมพู <3 ไฮยีน จุ๊บๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
โอ๊ยยย...มาปล่อยระเบิดทิ้งไว้ลูกใหญ่ขนาดนี้

แล้วยังจะหายไปนานอีกอ่าาาาา  :z3: :z3: :z3:

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ตอนที่ 32 : การเดินทาง





















ผมตัวชาวาบขึ้นมาทันทีที่ได้ยินไอ้พี่ชมพูบอกป๊าอย่างนั้น ถ้าผมรู้สักนิดว่ามันจะพูดเหี้ยอะไร ผมคงไม่ปล่อยให้มันมาเหยียบบ้านผมวันนี้หรอก แม่งงงง สาดดดดเอ๊ยยยย!!!


มือไอ้พี่ชมพูถูกผมสะบัดออกอย่างรวดเร็ว แต่เหมือนมันเดาได้ว่าผมจะทำอะไร  ถึงได้บีบมือของผมเอาไว้ ไม่ให้หลุดออก ผมเลยต้องเปลี่ยนเป็นรีบปฏิเสธกับป๊าทันที เพราะผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าหลังจากได้ยินแบบนั้นแล้วป๊าจะรู้สึกยังไง


“ป๊า มันไม่ใช่นั้น อย่าไปเชื่อไอ้พี่ชมพู”


“พอเถอะยีน”


ทั้งที่ผมอยากแก้ตัวว่ามันไม่ใช่ความจริง ไอ้พี่ชมพูแค่สร้างเรื่อง แค่ล้อเล่น แต่ป๊ากลับบอกผมแบบนั้น ทำให้ผมรู้สึกเหมือนยืนไม่อยู่ด้วยซ้ำ ผมไม่รู้ว่าป๊าจะผิดหวังในตัวผมแค่ไหน แต่ผมรู้ว่าป๊าต้องรู้สึกแบบนั้นมากๆ เพราะผมไม่เคยมีพฤติกรรมอะไรที่จะส่อไปทางว่าผมจะเป็นเกย์ ผมจะชอบผู้ชาย แต่ป๊ามาได้ยินกับหูเองแบบนี้โดยไม่มีวี่แววมาก่อน ป๊าคงจะช็อก


ผมรู้สึกแย่มากจริงๆ เพียงแค่คิดกับตัวเอง แล้วป๊าจะรู้สึกมากกว่าผมอีกกี่เท่า ป๊าคงรับไม่ได้ ผมรู้สึกแย่จนตัวสั่น ทำอะไรไม่ถูกแล้วต่อจากนี้ เพราะสายตาของป๊าที่มองมาทางผม มันแฝงไปด้วยความผิดหวังอย่างที่ผมคาดเดาไว้


“ป๊า...”


แรงที่เหลืออยู่ ผมใช้ไปกับการเรียกป๊าเสียงอ่อน ผมไม่มีแรงแม้แต่จะโกรธไอ้พี่ชมพูด้วยซ้ำที่มันทำอะไรโดยไม่ถามผมก่อน แล้วยังเป็นเรื่องร้ายแรงแบบนี้


“แต่ผมรักน้องจริงๆ นะครับคุณป๊า ผมยืนยัน และผมก็รักด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดจะคาดหวังอะไรจากน้องเลย”


ไอ้พี่ชมพูพูดอะไร มันไม่เข้าหัวของผมแล้ว ผมทรุดฮวบลงกับพื้น หมดแรงแล้วจริงๆ เพราะยิ่งเห็นสายตาของป๊าที่ยังไม่เปลี่ยนไป ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเห็นป๊ามองผมด้วยสายตาแบบนี้แม้แต่ครั้งเดียว


ไอ้พี่ชมพูคงเห็นว่าผมจะทนยืนไม่ไหวแล้ว เลยดึงผมขึ้นมาพยุง ก่อนจะจับไปนั่งที่โซฟาอีกตัวหนึ่ง และมันก็หันไปพูดกับป๊า


“ป๊าอนุญาตให้ผมกับน้องคบกันได้หรือเปล่าครับ”


“ตั้งแต่เมื่อไร”


เสียงของป๊าถามแผ่ว กดลงต่ำให้เข้มขึ้น แต่มันก็ยังไม่หวาดหวั่น ผิดกับผม ที่กำลังดำดิ่งลงในความรู้สึกแย่


“เดือนที่แล้วครับ”


เหมือนป๊าจะหมดเรื่องพูดกับไอ้พี่ชมพู หรือเพราะอยากคุยกับผมก็ไม่รู้ แต่ผมไม่มีแรงจะตอบ ไอ้พี่ชมพูเลยเสนอตัวตอบแทน ตอนนี้ป๊าเลยหันมาเรียกผมแทน


“ยีน”


ในเมื่อป๊าเจาะจงมาที่ผมแบบนี้ พี่ชมพูก็ออกหน้าอะไรไม่ได้อีก ผมจึงต้องรับคำป๊าเสียงแผ่ว


“ครับ”


“ป๊าบอกให้ยีนทำตัวดี อย่าเที่ยว เกเร สำมะเรเทเหล้า อย่ามั่วผู้หญิง แต่ป๊าไม่ได้บอกให้ยีนมีแฟนเป็นผู้ชาย”


“ครับ”


ผมตอบอะไรไม่ได้ พูดได้แค่คำเดียว สิ่งที่ป๊าพูดมาผมเข้าใจได้เป็นอย่างดี แต่ผมก็ยังพยายามหาทางออก


“ถ้าป๊าไม่อยากให้ผมคบกับพี่ภู ผมเลิกกับพี่ภูก็ได้”


“เกงยีน!! มึงพูดอะไร”


มันตะเบ็งเสียงออกมาดังเหมือนไม่พอใจมาก ผมรู้ว่ามันต้องรู้สึกแบบนั้นอยู่แล้ว เพราะมันพยายามแสดงออกให้รู้ว่ามันรักผม แต่ผมกลับจะขอเลิกมันเพราะหตุผลนี้


“คุณป๊าครับ ถึงคุณป๊าจะไม่พอใจที่ผมคบกับน้อง แต่ผมก็ไม่เลิกกับน้องเด็ดขาด ผมจะทำให้คุณป๊ายอมรับ และอนุญาตให้ผมคบกับน้อง”


ไอ้พี่ชมพูหันไปบอกป๊าด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ผมเองก็มองไปที่ป๊าเหมือนกัน และพอป๊าหันมาสบตากับผม ป๊าก็ถาม


“แล้วยีนล่ะ จะยังเลิกไหม”


ผมไม่รู้ว่าเจตนาของป๊าคืออะไร จะให้ผมเลิกกับพี่ชมพู หรือถามว่าไอ้พี่ชมพูพูดถึงขนาดนี้แล้ว ผมจะยังเลิกอยู่อีกมั้ย


“ป๊า”


“จะยังอยากเลิกอีกมั้ย หรือจะทำให้ป๊าเห็นว่ายีนกับภูรักกันจริงๆ”


ป๊าคงรู้ว่าผมคาดเดาความหมายไม่ได้ เลยพูดให้ชัดเจนกว่าเดิม สร้างความหวังให้ไอ้พี่ชมพูมากทีเดียว เพราะพอผมหันไปก็เห็นว่าไอ้พี่ชมพูกำลังยิ้มอยู่ และมันก็หันมามองผมเหมือนกัน


“ป๊า.. ป๊ายอมเหรอครับ”


“หรือจะเลิก”


ป๊าถามกลับมาเล่นเอาผมลน เกือบตอบไม่ทัน


“ครับๆ ไม่เลิกแล้ว”


“แล้วพวกเราต้องทำยังไง คุณป๊าถึงจะยอมรับครับ”


เป็นวิธีโง่ๆ ที่มาถามป๊าว่าต้องการอะไร แทนที่จะคิดวิธีที่ทำให้ป๊ายอมรับความสัมพันธ์ของเราด้วยตัวเอง แต่ป๊าก็ต่อว่าไม่ได้อะไร แค่บอกมาว่า...


“ถ้าทางบ้านเธอยอมรับ ฉันก็จะยอมรับ”


สิ้นคำบอกของป๊า ผมกับพี่ชมพูหันมามองหน้ากัน โดยที่ผมไม่รู้ว่าความหวังนั้นมันจะริบหรี่หรือเปล่า มันเองก็เช่นกัน

















หลังจากคุยกับป๊าเสร็จ ผมกับไอ้พี่ชมพูก็กลับเข้ามาในห้องนอนของผม เพื่อคุยกันว่าเราจะทำยังไงต่อ เพราะป๊าดันเสนอมาอย่างนั้น แล้วก็ดูท่าว่าจะไม่เปลี่ยนใจด้วย แต่งานนี้ไม่ใช่ผมคนเดียวที่กลุ้ม มันเองก็ไม่แพ้กัน


“พ่อแม่กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ลูกสะใภ้เป็นผู้ชาย”


ได้ยินมันพูด ผมก็ตบกะโหลกมันไปหนึ่งที ตอนนี้ผมเลิกเศร้า เพราะมันผ่านมาแล้ว ถึงจะรู้สึกแย่ที่ทำให้ป๊าผิดหวังก็ตามเหอะ แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะทำอย่างที่ป๊าต้องการ


“ลูกสะใภ้ผู้ชายห่าอะไร”


“ก็มึงเนี่ยแหละ เดี๋ยวกูต้องเอาไปฝากพ่อกับแม่แล้ว มึงก็ทำใจกล้าหน้าด้านให้ได้อย่างกูล่ะ”


“งั้นผมถอย”


ผมพูดง่ายๆ แต่มันแย้งทันที


“เฮ้ย มึงไม่ใจเลยว่ะ”


“ก็พี่มันควายยยยย!!! คิดวิธีเหี้ยอะไรแบบนี้ออกมา สาดดดด ผมก็นึกว่าจะดี ถ้ารู้นะ ผมกระทืบพี่ก่อนพี่เอาหมาใส่ปากแล้ว”


ได้ทีผมก็ระบายอารมณ์ใส่ มันเลยเอาแขนมาล็อกคอผมแล้วลากตัวไปใกล้ๆ แถมยังเอากำปั้นมากดแล้วหมุนๆ บนหัวผมอีก เหมือนในชินจังนั่นแหละ มึงไม่รู้หรือไงว่ามันเจ็บบบ!!! เชี่ยยยย!!!


ผมโวยแล้วดึงมือมันออก แต่ยังไม่ทันได้กระชาก เสียงประตูห้องของผมก็ดังขึ้น ผมกับไอ้พี่ชมพูหันไปมองทางเดียวกัน แล้วก็เห็นว่าคือไอ้เหี้ยตัวหายนะที่เข้ามาทำลายชีวิตผม


“ไหนมึงบอกกูว่าเลิกแล้ว”


มันเดินมาหยุดที่เตียงแล้วกระชากผมออกจากตัวไอ้พี่ชมพูด้วย แต่พี่ชมพูก็ไม่ปล่อยผมง่ายๆ มันคว้าตัวผมเอาไว้แล้วกอดหมับทั้งตัว ยิ่งกว่าอุรังอุตังหวงลูกซะอีก แถมยังแยกเขี้ยวน้ำลายย้อนใส่ไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เปล่าหรอกครับ ไอ้พี่ชมพูมันเป็นหมีควาย จะมาแยกเขี้ยวเป็นอุรังอุตังได้ไง ความจริงผมโม้ไปงั้นเอง ไอ้พี่ชมพูมันทำหน้าเฉยชา ทำเหมือนไอ้เหี้ยน้ำไม่มีตัวตน ผมเลยย้อนกลับไป


“แล้วกูบอกเหรอว่ากูเลิกกับเขาแล้ว”


“แต่มึงก็ทำให้กูคิด”


“มึงคิดไปเอง กูช่วยไม่ได้จริงๆ วะ”


ผมทำหน้าสงสารมันเต็มที่ แต่เหมือนจะไปกระตุกต่อมโมโหของมันได้ ไอ้สัดน้ำทำหน้าหงิก ไม่พอใจสุดๆ แล้วโพล่งมา


“มึงอยากให้กูบอกป๊ามึงใช่มั้ย ว่ามึงเป็นอะไรกับมัน”


ไอ้เหี้ยไอน้ำทำหน้าเหนือกว่า แต่ผมไม่ยี่หระอะไรกับคำพูดของมันเลย และรู้สึกเหนือกว่ามันด้วยซ้ำ คงเป็นข้อดีอย่างเดียวที่ได้จากสิ่งที่ไอ้พี่ชมพูทำ


“มึงอยากบอกก็บอกไปสิ แต่ระวังหน้าแหกกลับมา”


“แหกเหี้ยอะไร มึงคิดว่ากูไม่กล้า?”


“กูรู้ว่ามึงกล้า แต่ป๊ากูรู้แล้ว”


พอผมพูดแบบนั้น ไอ้คนที่ล็อกตัวผมไว้ก็หัวเราะลั่นห้อง ทำเหมือนแม่งจะไปแข่งหัวเราะลงกินเนสต์บุ๊ค แล้วก็เป็นเรื่องสะใจสุดๆ ผมเห็นไอ้น้ำมันหน้าซีดลงไปนิดนึง ผมก็อดขำไม่ได้ มั่นใจในตัวเองดีนัก แหกบ้างนะมึง ไอ้ควายยยย


แต่ใช่ว่าแค่หัวเราะแล้วไอ้เหี้ยพี่ชมพูจะสะใจพอ มันยังดึงหน้าของผมให้หันไปทางมัน แล้วประกบลงมาแบบไม่ให้สัญญาณอะไรเลย ผมเกือบจะกระชากหัวมันออกแล้ว แต่ก็นึกได้ว่าไอ้สัดน้ำมันอยู่ในห้องด้วย แล้วก็คงกำลังมองผมอยู่ ซึ่งก็จริงตามที่ผมคิด เพราะเหลือบตาไปมองมันทางหางตา ก็เห็นว่ามันกำลังทำหน้าเจ็บใจที่เอาชนะพวกผมไม่ได้


เห็นแบบนั้นผมเลยกดท้ายทอยของไอ้พี่ชมพู ให้ปากของมันแนบปากของผมได้สนิทกว่าเดิม ไอ้หมีควายมันเลยได้ที ดูดปากผมอย่างเมามันแล้วยังสอดลิ้นเข้ามาล้วงๆ ควักๆ ในปากของผมซะอีก แต่ผมก็ยอมตามน้ำไป ตวัดลิ้นเล่นกับมันไปด้วย


แต่เท่านั้นคงยังไม่พอสำหรับไอ้หมีกาม มันผลักผมให้หงายเงิบลงบนเตียงและคร่อมตัวผมเอาไว้ ทั้งที่ปากของเรายังไม่ได้แยกจากกัน มือหยาบใหญ่ล้วงเข้ามาใส่เสื้อของผมอย่างชำนาญ แต่มันก็เป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะถ้าผมเผลอเมื่อไหร่ มันก็จะพร้อมจะเอาเปรียบผมทุกทาง พยายามจะทำให้ผมออกปากว่ายอมมันให้ได้ แต่ก็ไม่เคยสักครั้ง


ผมรับจูบหนักๆ มือก็ลูบหลังของคนจูบไปด้วย รู้สึกว่าอารมณ์เริ่มคุขึ้นมา เพราะไอ้คนข้างบนเสือกจริงจังเกินไป ผมก็ผู้ชาย ไฟมันติดง่ายเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่ลืมที่จะเหลือบมองไอ้น้ำที่ยังคงจ้องมาที่ผม อย่างกับว่าอยากเห็นผมกับไอ้พี่ชมพูกระแทกกันจนเสร็จ ผมเลยสะกิดไอ้คนที่กำลังจะลงมาละเลงลิ้นกับหัวนมของผม เรียกสติให้มันรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ และเราไม่ได้อยู่กันแค่สองคน


นักฉวยโอกาสมือทองหันไปมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ยิ้มเยาะหน่อยๆ ก่อนจะบอกไอ้คนที่ยืนตัวแข็งจ้องผมกับมัน ตาไม่กะพริบ จริงๆ แล้วไอ้เชี่ยนี่อยากดูใช่มั้ยเนี่ย?!!


“มึงอยากดูจนจบมั้ย กูจะได้จัดที่นั่งให้มึง”


ไอ้พี่ชมพูถามอย่างไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะหันกลับมาดูดปากผมแรงๆ หนึ่งที


“แต่กูว่าคงไม่จำเป็นที่กูจะต้องแสดงความเป็นผัวเมียให้คนนอกดูหรอกมั้ง”


มันพูดเน้นย้ำสถานะให้มากกว่าเดิม แต่ผมเนี่ยแหละอยากเตะมันนัก แต่ติดที่ว่าตอนนี้ยังทำไม่ได้ ส่วนไอ้คนที่หมีควายพูดด้วยกลับไม่สนใจ มันเลยหันมาพูดกับผมแทน


“เกงยีน ไอ้ห่านั่นอยากได้ยินเสียงมึงครางวะ”


คิ้วของผมกระตุก ตีนก็กระตุก แต่ก็ต้องยอมนิ่งเฉย ยิ้มแย้มตอบมันไปอย่างโคตรตอแหลเขาทลายสึนามิถล่ม


“ผมไม่อยากให้ใครได้ยิน”


“เฮ้ย มึงได้ยินมั้ยวะว่าเมียกูไม่อยากให้ใครได้ยินเสียงคราง เมียกูอยากให้กูฟังคนเดียว”


โอ้โห ไอ้เหี้ยยยยย!!! ผมอยากตะโกนคำนี้ใส่มันมาก สาดดดดเอ๊ยยยย พอเห็นว่ากูทำอะไรไม่ได้มึงเอาใหญ่เลยนะไอ้หมีควาย ไอ้สังคังชักกระตุก ไอ้เปรตขี้แตกแหกตูด


“เพราะงั้นมึงก็.. ไสหัวไปได้แล้ว”


มันพูดยิ้มๆ พลางพยักพเยิดให้ไอ้คนที่มันพูดด้วย เชิงเป็นคำสั่ง ซึ่งคราวนี้ไอ้สัดน้ำก็ยอมออกจากห้องไป และเมื่อในห้องไม่มีไอ้เลวน้ำ ก็สบายกูละ ผมถีบไอ้พี่ชมพูออกจากตัวทันที และไม่ใช่เบาๆ คนโดนถีบกระเด็นตกเตียงไปเลยด้วยซ้ำ ไอ้เหี้ยพี่ชมพูกุมท้องโอดโอยเรียกความยุติธรรมที่ผมไม่มีให้


“มึงถีบกูทำไม”


“แล้วเมื่อกี้พี่พูดเหี้ยอะไรครับ เห็นผมตอบโต้ไม่ได้ก็เอาใหญ่เลยนะ”


“เอาน่ะกูอยาก แต่ใหญ่นะใช่กูเลย”


มันยังมีหน้ามากวนตีน ผมดึงเสื้อยืดที่ใส่อยู่ลง เพราะเมื่อกี้แม่งล้วงจนเสื้อที่ผมใส่อยู่เลิกขึ้นจนเกือบถึงหัวนม แล้วดันตัวขึ้นนั่ง ลูบผมยุ่งกระเซิงให้กลับเข้าที่


“อย่ามัวแต่พูดมาก มาคิดต่อเลยว่าจะเอายังไง”


“ทำให้เสร็จ”


ไม่ต้องเดาเลยว่ามันหมายถึงความหมายในแง่ไหน ไอ้ห่าาา


“อยากให้ผมออกกำลังกายมากสินะ”


มันยังกวนไม่เลิก หนำซ้ำยังทำหน้าหน้าน่าประเคนตีนใส่สุดๆ ผมเลยลุกขึ้นมายืนบนเตียง บิดคอ บิดข้อมือ ให้กระดูกลั่นเล่นๆ กะว่าถ้ามันยังกวนตีนผมอีกรอบ ผมจะเตะเสยคางมันแบบจัดเต็มเนี่ยแหละ


“เอ่อ.. โอเค ได้ มึงลงมาก่อน”


ดูท่าว่ามันจะเกรงๆ ลูกเตะของผมอยู่เหมือนกัน เลยยอมพูดดีๆ เดินมานั่งที่เตียงแล้วดึงมือผมให้นั่งลงด้วยกัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังบ่นอุบอิบ


“มึงทำของกูหดเลย”


“สมควร หึ”




















สรุปแล้ว พี่ชมพูก็ชวนผมให้ไปบ้านมันที่เชียงใหม่ จะได้จัดการอะไรให้เรียบร้อย เพราะมันไม่แน่ใจว่าถ้าขืนชักช้าป๊าจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า สุดท้ายก็ต้องออกเดินทางกัน ทั้งที่ผมไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลยว่าพ่อกับแม่ของมันจะรับเรื่องนี้ได้


แต่ว่าใช่ว่าเราจะไปกันแบบสบายๆ นะครับ แทนที่จะตีตั๋วขึ้นเครื่อง แค่สองชั่วโมงก็ถึง มันเสือกบอกว่าจะขับรถไปเอง จะได้แวะเที่ยวระหว่างทางได้ด้วย ดูมันก็ยังจะมีอารมณ์สุนทรีย์ มันแวะสวนนกชัยนาท เขื่อนภูมิพล ซื้อขนมจากนครสวรรค์ไปฝากพ่อฝากแม่มัน ไปดูโบราณสถานอย่างวัดพระแก้วที่กำแพงเพชร


เราได้รูปมาเป็นกระตั๊ก เพราะพี่ชมพูบังคับผมให้ถ่ายด้วยกัน และแน่นอนว่าเราออกต่างหวัด มันค่อนข้างจะปลอดภัยสำหรับผม ดีว่ามันไม่เข้าไปเที่ยวปายด้วย เพราะงั้นผมจึงไม่ต้องแว่นตา พลอยให้ผมรู้สึกเป็นอิสระมากกว่าเดิม เพราะไม่ต้องคอยสร้างภาพเผื่อใครพบเห็น





‘ไว้เคลียร์เรื่องบ้านกูเสร็จ ก็ชวนเพื่อนมึงกับเพื่อนกูมาเที่ยวปายกัน’





นั่นเป็นคำชวนก่อนพี่ชมพูจะพาผมไปถึงบ้าน ผมก็เออออ เพราะจะไปปายต้องข้ามเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอน ยังไงก็ต้องผ่านบ้านมันก่อนอยู่แล้ว แถมนี่ยังเหลืออีกแค่อาทิตย์กว่าๆ ก็จะเปิดเทอมแล้วด้วย ยังไม่รู้เลยว่าจะทำให้พ่อกับแม่มันยอมรับได้เมื่อไหร่ ถ้าไม่ทันเปิดเทอมก็คงต้องตัดใจไปก่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าป๊าจะจัดการเรื่องนี้ยังไงเหมือนกัน


บ้านของมันอยู่ในรีสอร์ทขนาดใหญ่ของเชียงใหม่ ปกคลุมด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ ด้านหนึ่งมองเห็นเขาสูงที่ผมเดาว่าเป็นดอยอินทนนท์ เพราะตอนเด็กครอบครัวของผมเคยมาเที่ยวที่นี่ครั้งนึง


พี่ชมพูขับรถผ่านเข้าไปด้านในหลังจากพนักงานหน้าทางเข้าของรีสอร์ทเปิดทางให้อย่างกระตือรือร้น สงสัยคงดีใจที่นายน้อยของบ้านกลับมามั้ง ผมมารู้จากพี่ชมพูว่ารีสอร์ทแห่งนี้จะไม่ให้คนภายนอกเข้าออก เพื่อให้ลูกค้าได้พักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวและเพื่อความปลอดภัย


รถที่ผมนั่งวิ่งไปตามถนสองเลนเลยบ้านพักหลังอื่นๆ ไป ทุกเรือนในคุ้มนี้ทำด้วยไม้ทั้งสิ้น ทรงของบ้านก็ออกแบบให้เป็นแบบล้านนา ทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ผมก็แอบคิดไม่ได้ ถ้าหากว่ามีใครไม่ระวังทำไฟไหม้ จะวอดวายกันทั้งคุ้มหรือเปล่า


“ที่นี่สวยกว่าระยองที่เคยไปทำหนังสั้นคราวนั้นซะอีก”


ผมว่ามันมีเอกลักษณ์ มีเสน่ห์และมนต์ขลัง ทำให้ซึมซาบไปกับอารยธรรมเก่าแก่ได้มากกว่า ถึงได้ดูน่าสนใจและน่าอยู่อาศัย


“ก็ที่นี่มันได้มีกลิ่นอายล้านนา แต่ที่นั่นแค่สร้างบรรยากศให้ดูเป็นธรรมชาติและกลมกลืนเฉยๆ”


“แต่ถ้าไฟไหม้นี่คงฉิบหายวายวอดสินะ”


“ไม่หรอก เห็นข้างนอกเป็นไม้แบบนั้น แต่จริงๆ ข้างในเป็นปู แล้วปิดด้วยไม้ประดู่อีกที”



“ย้อมแมวนั่นเอง”


ผมพูดเหน็บๆ มัน แต่ใจจริงไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก ผมว่าก็เป็นการป้องกันที่ดี ซึ่งดูเหมือนไอ้พี่ชมพูจะรู้ว่าผมคิดยังไง ถึงได้ย้อนกลั้วขำ


“มึงจะมาแอบเผาบ้านกูเหรอ”


“ถ้าเผาก็โง่แล้ว สู้เอามาเป็นของตัวเองยังดีซะกว่า”


“มึงอยากได้?”


“ถ้ามีตังค์ก็คงจะขอซื้อบ้านสักหลังนึงมั้ง เอาหลังใหญ่สุด พี่ต้องลดราคาให้ผมครึ่งนึงด้วย”


เพราะบ้านพักแต่ละหลังนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ประหนึ่งเป็นบ้านที่ใช้อยู่อาศัยได้เสียด้วยซ้ำ จะมีหลังเล็กลงก็เป็นแบบใช้ค้างคืนทั่วไป ที่ผมคาดว่าคงไม่มีครัว ไม่มีลานจอดรถ เหมือนรีสอร์ททั่วๆ ไป นอกจากนั้นยังมีบ้านหลังขนาดใหญ่อยู่อีกฟากหนึ่งสำหรับครอบครัวใหญ่


“ไว้มึงคบกับกูสักสามสิบสี่สิบปี มึงก็ได้เป็นเจ้าของเองล่ะ  ไม่ต้องควักกระเป๋าด้วยซ้ำ”


“ถ้าผมคบกับพี่นานขนาดนั้น พี่จะยกให้ผมเหรอ”


“มึงเอาป่ะล่ะ”


ผมหัวเราะร่วน หัวเราะแบบไม่เชื่อคำพูดของมัน เลยโดยมือใหญ่ๆ ที่ละจากพวงมาลัยมาขยี้หัว ด้วยความหมั่นไส้ ไม่พอใจ หรือหงุดหงิด ก็ไม่รู้ แต่มันก็ทำเสียงขู่ผมนิดๆ


“มึงคิดว่าไม่รอดเหรอ”


“แล้วพี่คิดว่าจะรอด?”


มันละมือออกจากหัวของผมแล้วไปจับพวงมาลัยต่อ


“มึงเห็นกูไม่หนักแน่นหรือไง”


“เปล่า ก็แค่ ไม่แน่ใจแค่นั้น”


ถึงบ้านหลังใหญ่ซึ่งอยู่ด้านในสุดของรีสอร์ทหรือที่ไอ้พี่ชมพูมันเรียกว่าคุ้ม มันก็หยุดและหันมาพูดกับผมแบบเผชิญหน้ากันตรงๆ


“เดี๋ยวกูทำให้ดู”


“ทำอะไร”


ผมออกจะงงๆ นิดหน่อย เพราะเหมือนเรื่องมันเริ่มออกทะเล


“ทำให้มึงรักกูจนโงหัวไม่ขึ้นไง”


“โธ่ ขี้โม้ว่ะ”


เย้ยมันเสร็จ ผมก็ลงจากรถ มันไม่ได้ต่อประโยคอะไรต่อ เพราะคงรู้สันดานผมแล้วว่าแค่พูดหยอก พูดล้อไปแค่นั้น ไม่ได้จริงจังอะไร


ผมหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าที่เตรียมของมาสำหรับอยู่ที่นี่หนึ่งสัปดาห์ออกมาจากเบาะหลังของรถ ไอ้พี่ชมพูก็ทำอย่างเดียวกัน แต่กระเป๋ามันใบเล็กกว่า


“เข้าบ้านกัน”


พี่ชมพูเดินมายืนอยู่ข้างผมแล้วชวนอย่างกับผมสนิทสนมกับคนในบ้านหลังนี้งั้นแหละ แต่ผมก็เดินตามมันขึ้นไปอยู่ดี


ผมสังเกตว่าบ้านหลังนี้มีความแตกต่างจากบ้านหลังอื่นๆ อยู่ เพราะบ้านหลังอื่นที่เปิดให้แขกเข้าพักจะทำด้วยไม้ประดู่ตามที่มันบอก ส่วนบ้านหลังนี้น่าจะทำจากไม้สัก มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับทุกเรือนในคุ้มนี้ แต่ก็คงสมฐานะเจ้าของรีสอร์ทนั่นล่ะ


พวกเราเดินขึ้นไปจนถึงด้านบนของบ้าน ก็เห็นว่าผู้หญิงมีอายุกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่คนเดียว ผมเดาว่าคงเป็นแม่ของคนที่พาผมมาที่นี่ เพราะมันพาผมเดินตรงเข้าไปหา วางกระเป๋าข้างๆ ม้านั่งที่มีเบาะนุ่มๆ วางรองไว้เพื่อไม่ให้เจ็บเวลานั่ง


พี่ชมพูยกมือไหว้แม่ ผมก็ทำตาม แล้วก็ไม่พ้นว่าแม่มันถามถึงคนแปลกหน้าอย่างผมว่าเป็นใครมาจากไหน แต่ไอ้พี่ชมพูก็ดีตรงนี้แหละ มันแนะนำผมกับแม่ให้เองเลย


“รุ่นน้องที่มหา’ลัยครับ แล้วนี่พ่อกับทีไปไหนกันหมดครับ”


“พ่อเขาไปออฟฟิศ ไปดูความเรียบร้อย ส่วนทีไปซื้อของ สักพักก็กลับ”


“อ๋อ งั้นเดี๋ยวผมพายีนไปเก็บของก่อนนะ”


“เก็บเสร็จแล้วก็ออกมานั่งคุยกับแม่ด้วย” แม่พูดกับไอ้หมีควายตัวโต ก่อนจะหันมาพูดกับผม “ตามสบายนะลูก”


“ขอบคุณครับ”


ผมยกมือไหว้อีก มารยาทดีครับ ฮ่าๆๆ แล้วพอผมไหว้แม่มันเสร็จ มันก็พาผมมาที่ห้อง ตอนแรกผมนึกว่ามันจะอาจหาญให้ผมนอนห้องเดียวกับมันแล้ว แต่นี่ได้ห้องข้างๆ ครับ


หลังจากเอาของไปเก็บที่ห้องแล้ว ผมก็เดินไปที่ห้องมัน เรื่องเคาะประตูคงไม่ต้อง เพราะมันเองก็ไม่เคยเคาะประตูห้องผมเหมือนกัน เข้าไปแล้วผมก็เห็นมันจัดของใช้ที่เอาติดมาด้วยให้เป็นระเบียบ ส่วนเสื้อผ้ามันไม่ได้เอามา เพราะมันต้องมีเก็บไว้ที่บ้านอยู่แล้ว ผมเลยไปนั่งรอที่เตียง


“มึงไม่จัดของเหรอ”


“ไว้เดี๋ยวค่อยจัดก็ได้”


“งั้นรอกูเดี๋ยว”


พี่ชมพูบอกอย่างนั้นทั้งที่มือยังไม่ละจากของซึ่งกำลังจัดวางบนโต๊ะ เมื่อจัดเสร็จ มือใหญ่ก็หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาจากตู้เสื้อผ้า มันเอาชุดมาวางบนเตียงข้างๆ ผม แล้วถอดเสื้อออกที่ใส่อยู่ออก ก่อนจะใส่เสื้อตัวใหม่เข้าไปแทน จากเสื้อคอวีที่ค่อนข้างดูดี แต่ตอนนี้กลายเป็นเสื้อยืดคอกลมธรรมดา แต่มันไม่เปลี่ยนแค่เสื้ออย่างเดียว ยังเปลี่ยนกางเกงต่อหน้าผมหน้าตาเฉย จากยีนขายาวก็กลายเป็นกางเกงผ้าสั้นเท่าเข่า


“มึงไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือไง ใส่กางเกงยีนอยู่บ้าน ไม่เกะกะเหรอ”


“ไม่ได้เอาขาสั้นมาอะดิ”


ผมตอบ ไม่ได้เตรียมไว้เลย เพราะไม่ใช่เจ้าของบ้านที่จะแต่งตัวสบายๆ ได้ มันเลยเดินไปหยิบกางเกงตัวขาสั้นที่คล้ายๆ กันมาให้ผม ผมก็เดินกลับห้องไปเปลี่ยนทั้งเสื้อและกางเกง แต่คราวนี้แต่งตัวก็ไม่ต้องเดินไปห้องข้างๆ แล้ว เพราะไอ้พี่ชมพูมันมาหาที่ห้องแทน


“ใส่ได้ป่ะวะ”


“หลวมไปหน่อย แต่ใส่เข็มขัดก็โอเค”

“อืม งั้นเดี๋ยวออกไปหาแม่กัน”


หมีตัวใหญ่หมุนตัว จะเดินออกจากห้อง แต่ผมเรียกมันไว้ก่อน มันเลยหันมาหา


“พ่อกับแม่พี่นี่เขาแอนตี้เรื่องแบบนี้ป่ะ”


“เรื่องแบบไหน” มันทำหน้างงๆ อยู่แป๊บนึงก่อนจะถามต่อ “ที่ผู้ชายรักกับผู้ชายน่ะเหรอ”


“อือ”


ผมพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปหามัน มันเลยเอามือลูบหัวของผมเบาๆ ทำอย่างกับมันรู้งั้นแหละว่าผมรู้สึกดีเวลาถูกทำแบบนี้ แต่ใช่ว่ามือมันจะลูบๆ อยู่บนหัวผมอย่างเดียว มันลูบลงมาถึงแก้มด้วย บีบเบาๆ เหมือนจะแสดงความห่วงใยมั้ง ผมเดา เพราะเห็นมันมองผมด้วยอารมณ์คล้ายๆ แบบนั้น


“กูไม่เคยพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่ว่ะ เลยไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงเหมือนกัน มึงก็รู้ว่ามึงเป็นผู้ชายคนแรกที่กูรักน่ะ แล้วมึงก็ไม่ใช่รักแรกด้วย”



“...”


“กูเลยเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาที่รักมึง”







ต่อด้านล่างค่ะ

v

v








ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ต่อจากข้างบน




v

v

มันพูดแบบเปิดอกแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกดีอยู่เหมือนกัน ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่นะ ที่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะหันมาชอบเพศเดียวกัน อยู่ๆ ก็มีความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมา และยอมรับมันได้โดยไม่ขัดแย้งในใจ เพราะกว่าผมจะยอมรับและเปิดโอกาสให้มันก็ต้องคิดแล้วคิดอีก


“แต่กูจะพยายามทำให้พ่อแม่ไม่ต่อต้านมึง โอเค?”


“อืม”


ผมแค่ครางเสียงรับรู้ในคำพูดของมัน แต่ก็มากพอสำหรับพี่ชมพูแล้ว มันถึงได้จูบเบาๆ ลงบนหน้าผากของผม แล้วจูงมือให้เดินออกจากห้อง แต่จูงถึงหน้าห้องแค่นั้นมันก็ปล่อยออก แล้วเปลี่ยนเป็นเดินนำผมกลับไปที่ห้องนั่งเล่นเหมือนเดิม


ผมกับพี่ชมพูนั่งลงบนม้านั่งไม้ ซึ่งตั้งฉากอยู่กับม้านั่งของแม่พี่ชมพู คล้ายๆ กับห้องนั่งเล่นของบ้านผมนั่นแหละ


“กินอะไรกันมาหรือยัง ถ้ายัง แม่จะให้เด็กๆ ตั้งโต๊ะให้”


พอเราสองคนนั่งกันเรียบร้อย แม่ของพี่ชมพูก็ถามทันที แล้วก็เป็นพี่ชมพูเหมือนเดิมที่ตอบคำถาม


“เรียบร้อยแล้วครับ”


เมื่อเช้าเรากินอาหารของโรงแรมที่เราไปพักก่อนจะออกมาที่นี่กัน จึงยังไม่หิว เพราะเพิ่งผ่านมาชั่วโมงกว่าเอง ส่วนเรื่องในโรงแรมเมื่อคืนก็ไม่มีอะไรหรอกครับ พอเข้าโรงแรมก็กินข้าว อาบน้ำ แล้วนอน ไอ้พี่ชมพูก็นอนกอดผมจนเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ซึ่งก็ดีแล้ว ผมขี้เกียจจะมาสู้รบกับแม่ง


“อืม แล้วนี่น้องเขาชื่ออะไร แม่จะได้เรียกถูก”


“ชื่อไฮยีนครับ”


พี่ชมพูตอบให้เสร็จสรรพ แม่มันได้คำตอบก็หันมายิ้มให้ผม ผมก็ยิ้มตอบกลับ ยังวางตัวไม่ถูกสักเท่าไหร่ คงเพราะว่าเป็นแม่ของไอ้พี่ชมพูด้วยนั่นแหละ ผมถึงรู้สึกประหม่าอยู่หน่อยๆ ยังเกรงๆ ว่าถ้ารู้ว่าผมกับพี่ชมพูเป็นแฟนกัน แม่มันจะเป็นยังไง ไหนจะพ่อมันอีก เพราะผมมีแค่ป๊า ยังเจอด่านใหญ่เลย แต่นี่ของมันมีตั้งสองคน ผมเลยอดหวั่นไม่ได้


“งั้นแม่เรียกน้องยีนแล้วกันนะ”


“ครับ”


ไอ้พี่ชมพูอมยิ้มกับคำเรียกนั้น เพราะมันเหมือนกับแม่ของมันกำลังเอ็นดูผม แต่ผมไม่รู้ว่าจะแค่ตอนนี้หรือเปล่า


“น้องยีนคงสนิทกับภูสินะ ภูถึงพามาบ้านได้ ปกติจะมีเพื่อนๆ มาเที่ยวเล่นก็ตอนปิดเทอมใหญ แต่คราวนี้มาแปลก”


ผมรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาเลยกับคำพูดประโยคนั้น ไม่รู้ว่าเขาจะจับความผิดปกตินี้ได้หรือเปล่า


“ก็สนิทกันครับ ผมเป็นพี่ที่ดูแลยีนตอนอยู่มหา’ลัย เพราะยีนอยู่ปีหนึ่งครับ”


โล่งใจอยู่หน่อยๆ ที่ไอ้พี่ชมพูไม่เรียกผมว่าน้องต่อหน้าแม่ของมันเหมือนตอนที่มันเรียกผมตอนอยู่กับป๊า เพราะไม่อย่างนั้นคงสงสัยหนักกว่าเก่าแน่


“อย่างนั้นเหรอ แล้วทำไมพามาเที่ยวคนเดียวล่ะ คนอื่นไม่มาหรือ”


“ครับ คนอื่นๆ เขาไม่ว่าง”


“อืม แล้วจะอยู่กี่วันกันจ๊ะ”


คราวนี้แม่ของพี่ชมพูหันมายิ้มให้ผม พลอยให้รู้สึกโล่งออกขึ้นเป็นกอง แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ ผมจึงพยายามทำตัวนิ่งเฉยให้มากที่สุด


“น่าจะอาทิตย์นึงครับ เพราะใกล้เปิดเทอมแล้ว”


“จ้ะ ตาภู ไม่คิดจะให้น้องตอบแม่บ้างเลยหรือไงนะเรา”


เห็นไอ้พี่ชมพูโดนดุ ผมก็แอบขำในใจอยู่ แต่ไอ้คนที่ถูกผมหัวเราะกลับไม่สะทกสะท้าน ก็คงตามประสาหน้าด้านของมันนั่นแหละครับ


“ก็น้องเขาประหม่านี่ครับ เขากลัวว่าแม่จะดุ”


“กลัวทำไมกัน” แม่พี่ชมพูบอกอย่างนั้นแล้วหันหน้ามาสบตากับผมตรงๆ จนผมอยากจะหลุบตาหนี “แม่ไม่ดุหรอกนะ น้องยีนสบายใจได้ ถ้าจะดุ แม่ก็จะดุพี่ภูแทนนะจ๊ะ”


รอยยิ้มใจดีส่งมาให้ ทำให้ผมเบาใจกว่าเดิม หันไปยิ้มให้กับรุ่นพี่ตัวโต ทว่าไม่ใช่เพราะความดีใจ แต่ตลกหมีตัวใหญ่กำลังทำหน้าปุเลี่ยนๆ ที่รู้ว่าตัวเองจถูกดุแทนผม สมน้ำหน้า แบร่ๆๆๆ


ผมหันไปแลบลิ้นให้พี่ชมพูนิดๆ มันเลยมองผมตาขวาง แต่ระหว่างที่เรากำลังก่อสงครามกันเงียบๆ เสียงหนึ่งก็แทรกขึ้นมา


“อ้าว ภู กลับมาแล้วเหรอ ไหนมาบอกว่าคราวนี้ไม่กลับ”


ชายวัยห้าสิบเดินมานั่งลงข้างๆ แม่ของพี่ชมพู และก็คิดไม่ยากว่าเขาเป็นใคร ผมยกมือไหว้ พร้อมๆ กับไอ้พี่ชมพู


“หวัดดีครับ พ่อ”


“เออๆ ดีๆ แล้วนี่ใครกัน”

พ่อของพี่ชมพูหันมาเห็นผมพอดี คนที่นั่งข้างๆ พ่อมันจึงตอบให้ ผมนึกชอบคุณแม่ของพี่ชมพูที่อธิบายให้คนถามฟัง พ่อของพี่ชมพูเลยพยักหน้าอย่างเข้าใจสองสามที


“ภูมันอยู่ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้างล่ะ”


ผมโดนถามตรงๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะพ่อของมันจ้องหน้าผมไม่กะพริบตา ผมเลยยิ้มเจื่อนๆ กลับไป ก่อนจะตอบไปตามตรง


“เพราะว่าเป็นประธานชั้นปี ก็เลยดูบ้าอำนาจ เผด็จการ แต่รุ่นพี่ รุ่นน้อง หรือพวกเพื่อนๆ กันก็ไม่มีใครเกลียดพี่..ภูนะครับ”


รู้สึกแปลกๆ นิดหน่อยที่ต้องเรียกชื่อไอ้พี่ชมพูว่า ภู เหมือนอย่างชื่อจริงมัน เพราะเอาจริงๆ ผมก็ไม่เคยเรียกมันแบบนี้เลย นอกจากเวลาจะเหน็บหรืออะไร แล้วก็ต่อหน้าป๊าเท่านั้นน แต่ดูเหมือนคำตอบของผมจะเป็นที่พอใจของพ่อกับแม่พี่ชมพู เพราะพ่อของไอ้หมีหัวเราะเสียงดัง ส่วนแม่ก็ยิ้มๆ


“เออๆ เรานี่ร้ายไม่เบา กล้าว่ามันด้วย ดีๆ”


“โธ่พ่อ ผมไม่ได้นิสัยเสียขนาดนั้นสักหน่อย”


ถึงไอ้พี่ชมพูจะแก้ตัว แต่พ่อของมันก็ยังหัวเราะอยู่ ไอ้หมียัษ์เลยทำหน้าบูดใส่ เห็นแล้วผมก็ขำ เพราะมันทำตัวเหมือนเป็นเด็กเลย แต่นอกจากพ่อของมันที่เพิ่งเข้าบ้านมาแล้ว ยังมีอีกคนที่เพิ่งมา เสียงหวานๆ ดังมาจากทางด้านนอก


“หัวเราะอะไรกันคะ เสียงดังลั่นเลย มาช่วยทีหิ้วของก่อน”


ได้ยินเสียงนั้น พี่ชมพูก็รีบลุกเดินออกไปนอกบ้าน ก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมกับถุงของใช้เต็มสองมือ ตามด้วยเสียงบ่นของผู้หญิงรุ่นๆ เดียวกับผมที่เดินตามหลังมันมา


“พี่ภูไม่ยอมบอกทีเลยนะว่าจะกลับมา ทีจะได้รอแล้วให้ไปซื้อของด้วยกัน เห็นมั้ยว่าน้องต้องแบกของกลับมาเองคนเดียว”


“ก็พี่ไม่แน่ใจว่าจะกลับมาถึงวันไหน”


มันตอบกลับก่อนจะวางของลงบนโต๊ะซึ่งอยู่ตรงหน้าพวกเราทุกคน และนั่งลงข้างผมเหมือนเดิม ส่วนคนที่มาใหม่ก็ไปนั่งม้านั่งอีกฝั่งหนึ่งซึ่งตรงข้ามกับผมและไอ้พี่ชมพู และเพราะเราต่างนั่งตรงข้ามกัน ทำให้ผมต้องมองเธออย่างช่วยไม่ได้ แต่เห็นหน้าเธอแล้ว ผมกลับรู้สึกคุ้นๆ และเธอเองก็คงรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน เพราะผมเห็นเธอจ้องเขม็งมาที่ผม


“เดี๋ยวแนะนำก่อนนะ” พี่ชมพูขัดขึ้น “นั่นน้องสาวฉัน ชื่อที ชมนที ทีนี่รุ่นน้องของพี่ชื่อไฮยีน”


ชื่อที่พี่ชมพูบอกมามันสะกิดอะไรบางอย่างในความทรงจำของผมขึ้นมาได้ ผมเบิกตาขึ้น และเธอเองก็อยู่ในอาการเดียวกันกับผม ปากของเธอหลุดเสียงออกมาแผ่วเบา


“ไฮ....ยีน?”











====================
ทรมานกับการอัพตอนนี้มาก เพราะว่าง่วงจนทนไม่ไหวแล้ว แต่ก็อยากให้เสร็จ :z10:

มาแต่งตอนนี้เพราะแอบอู้ คิดงานไม่ออก

เรื่องนี้ใกล้จบแล้วนะคะ เหลืออีกประมาณ 4-5 ตอน

ขอบคุณที่คิดตามกันค่ะ


Undel2Sky



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2012 23:42:29 โดย undersky »

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :serius2: ที กับ ยีน มีไรกันป่าวอ่ะ ลุ้นๆ

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ทีกับยีนมีอะไรกันอ่า
รีบๆมาเฉลยนะคะ


ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
 o22


รู้จักกันมาก่อนหรอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






NARUE

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:


ค้างนะ ทีกับยีน รู้จักกันเชิงไหนเนี๊ย????

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
หวังว่าทีกับยีน จะรู้จักกันในทางที่ดีนะ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ทีเป็นแฟนเพื่อนไฮยีนคนใดคนหนึ่งป่าวน๊อ ชักจะลืมๆ เรื่องละ  :really2:

เค้าไม่กินมาม่านะคนแต่ง  :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ •ไนท์คลุง•

  • Night ♥ .....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?action=profile
เดาๆ

ไม่ทีกับยีน เคยเป็นแฟนกันก็ เพื่อนของทีที่เคยเป็นแฟนกับยีน
หรือไม่ก็ เคยมีเหตุการณ์อะไรบางอย่าง ทำให้สองคนนี้เคยพบกัน มาก่อน โอ้วว ตื่นเต้นน!

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อุ๊ย !  จบตอนแบบให้มีอะไรคาใจซะงั้น ยีน ที มีความหลังอะไรร่วมกันนะ
และด่านพ่อกับแม่พี่ชมพูนี่จะผ่านง่ายๆเหมือนด่านพ่อของยีนรีเปล่า

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เอ้ย ,,อย่าบอกนะว่าเป็นแฟนเก่า

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
งานจะเข้าเกงยีนมั๊ยน๊า :z2:

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



     มาไกลถึงเชียงใหม่แต่ดันเจอคนรู้จักซะงั้น
     คราวนี้มาแบบความหลังดีๆ หรือมีคดีเก่าติดตัวกันแน่ล่ะน้องยีน




ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
อืมมมมม ชื่อคุ้นๆ ว่าจะเกี่ยวอะไรกะเพื่อนๆยีนส์อ่ะเปล่าา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด