It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]  (อ่าน 602654 ครั้ง)

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ป๊ะๆ จะผ่านด่านนี้หรือเปล่าน้า :z3:

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
เป็นอะไรกันอะ

ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
อยากรู้เรื่องราวต่อจังเลยยยย

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ไฮยีนแล้วอะไรต่อง่า แงงงง ค้างมาก รีบมาต่อไวไวนะค้า

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

bowstory2

  • บุคคลทั่วไป
ค้างแล้วค้างอีกกกกกกกกกกกก 5555555555555555555555555555

loveboys

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่าคงจะไม่ใช่เรื่องยุ่ง  ๆ นะครับ ขอให้ผ่านไปด้วยดีด้วยเถิ๊ดดดดดด

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
น่านนนนนนน มาม่าแน่ๆ

ออฟไลน์ Momichi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
จะรูจักกันแบบไหนเน้อ ชักหวั่นๆๆ

pimmae12

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันแล้ว เย้ !
มาต่อไวๆนะคะกำลังเข้มข้นเลยย  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ นิรนาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ยีนกับทีต้องรู้จักกันมาก่อนแน่เลย

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8

ออฟไลน์ coon_all

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
งานเข้าแล้วไหมล่ะน้องยีน
ขอให้เข้าในเรื่องดีๆนะ อย่ารังแกน้องมันมากสงสารT_T

ออฟไลน์ sbeam14

  • I♥เล้าเป็ด ก๊าบๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-4
 :call:  มาต่อด่วนๆ

คิดถึง+ค้างเบาๆนะ ตอนนี้  :laugh:
ใกล้จบแล้ว    o22   ขอตอนพิเศษเยอะๆเลยน่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ 【focus_kung】

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
บอกได้เลยว่าถ้าทีเป็นแฟนคนใดคนหนึ่งจริงก็... ตายห่า

555555555

ค้างค่ะ -..- มาต่อเร็วนะคะ

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ตอนที่ 33 : มีแต่ความไม่เข้าใจ



















“ไม่นึกเลยนะว่าเราจะได้เจอกันอีก”


บรรยากาศตอนนี้โคตรดี ท้องฟ้ามืดดำ มีแสงดาวระยิบระยับประปราย แต่ก็มองเห็นได้ชัดกว่าตอนอยู่กรุงเทพ อากาศเย็นๆ ของช่วงเวลาสามทุ่มทำให้ผมอดไม่ได้จะออกมานั่งเล่นที่ชานเรือนชั้นสอง แต่ถึงทุกอย่างจะดีสักเท่าไหร่ สิ่งที่ทำให้ทุกอย่างพังทลายก็คือเธอ


คนที่เดินมานั่งข้างๆ ผมที่ยื่นเท้าออกไปห้อยอยู่ด้านนอกรั้วไม้คือ ที คนที่ไอ้พี่ชมพูแนะนำว่าคือ ชมนที น้องสาวของมัน ไม่ใช่ไอ้คนพี่ที่ชื่อ ชมภู พ่อแม่มันก็เก่งนะ ตั้งชื่อลูกได้แปลกประหลาด แต่ก็มีความหมายที่เข้ากับกิจการของบ้าน โดยเฉพาะชื่อคุ้มชมจันทร์ของที่นี่  ไม่รู้ว่าตอนคลอดไอ้พี่ชมพู แม่มันไปเที่ยวภูเขาหรือเปล่า ส่วนที อาจจะเกิดตอนไปเที่ยวแม่น้ำล่ะมั้ง


ผมพยายามจมอยู่กับความคิดของตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้เลี่ยงการพูดคุยกับทีได้ เพราะเธอหันมาคุยกับผมก่อนจะมองไปด้านหน้า ทั้งที่ผมไม่หันไปมองหน้าเธอเลย


“นี่ ไฮยีน ได้ยินหรือเปล่า”


“อืม มีอะไรเหรอ”


ผมตอบแบบไร้อารมณ์สุดๆ ไม่ค่อยอยากคุยกับเธอเท่าไหร่ ถึงในอดีตเราจะเคยมีความทรงจำร่วมกันก็ตาม แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องมาคุยกับคนที่เคยจีบและคบหาอยู่เกือบสองเดือน แต่... ไม่ใช่แฟน ก็แค่หนึ่งคนในที่เคยคั่ว


“ทีบอกว่า ไม่น่าเชื่อว่าเราจะได้เจอกันอีก”


“อืม”


“โลกกลมจังเนอะ แต่ทีก็ดีใจที่ได้เจอยีน”


แต่ผมไม่ดีใจสักนิด แล้วโลกก็ไม่ได้กลม แต่มันบูดเบี้ยวถึงทำให้เกิดเรื่องเชี่ยๆ ที่ผมต้องมาเจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง ในฐานะน้องสาวของแฟน


“ยีนสบายดีมั้ย”


เพราะผมไม่ยอมพูดเหี้ยอะไรเลย ทีเลยพูดอีกรอบ ทั้งที่ผมอยากให้เธอเงียบไปซะ หุบปากแล้วเดินออกไปเลยยิ่งดี เจอทีแบบนี้แล้วผมรู้สึกว่าไอ้ความหวังที่ผมกับพี่ชมพูตั้งไว้ว่าจะทำให้พ่อแม่ของมันยอมรับเรื่องที่ผมกับมันเป็นแฟนกันก็กลายเป็นริบหรี่


แล้วตอนนี้ไอ้เหี้ยนั่นไปไหนวะ ทิ้งกูมาอยู่กับน้องมึงอยู่ได้


“สบายดี”


“ทีก็สบายดี แต่...คิดถึงยีนบ้างเหมือนกัน อยู่ดีๆ ยีนเล่นหายไปเลย ทีติดต่อไม่ได้ จะไปหาก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน”


“พอดีที่บ้านมีปัญหานิดหน่อย เราเลยต้องไปเคลียร์ แล้วหลังจากนั้นก็ต้องไปเมืองนอก มันกะทันหันไปหมด เราเลยไม่ได้บอกทีก่อน”


อย่าคิดว่าเรื่องที่ผมพูดเป็นความจริงเลยครับ เพราะใครเชื่อเหตุผลแหลสดของผมก็เท่ากับโง่เต็มที แต่ดูเหมือนเธอจะเป็นผู้โชคดีคนนั้น เพราะรีบทำตาโตหันมามองผมอย่างตกใจ


“ถ้างั้นก็แสดงว่ายีนไม่ได้จะทิ้งทีใช่มั้ย งั้นเรากลับมาคบกันนะ”


คำพูดของเธอดูง่าย แต่สำหรับผม มันเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ เธอจะเอาอะไรกับผมอีก ไม่เจอกันมาเกือบปีแล้ว จะให้สานสัมพันธ์ทั้งที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเลยคงเป็นไปไม่ได้ แล้วที่ผมเข้าไปจีบเธอ ก็เพราะเห็นว่าเธอน่ารัก สดใส ถ้าผมได้มา ก็คงเป็นการเพิ่มรสชาติใหม่ในชีวิต แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากไปซะแล้ว


“เรามีแฟนแล้ว”


“มี... มีแฟนแล้วเหรอ”

หลังจากฟังคำตอบของผม หน้าสวยๆ นั่นก็ซีดลงทันตา ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงหัวเราะขำที่ทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งหัวปั่นเพราะผมได้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่


“รักเขา...มากกว่าทีหรือเปล่า”


“มากกว่า”


ผมตอบอย่างไม่ลังเล เพราะถ้าให้เทียบความรู้สึกของผมระหว่างไอ้ตัวพี่กับคนน้อง พี่ชมพูก็มากกว่าเป็นไหนๆ เพราะผมไม่เคยรักที


“เหรอ” เธอหน้าเสียกว่าเดิม แต่ก็พยายามปรับให้เป็นปกติมากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็ซ่อนไม่มิด “เอ่อ... งั้นเดี๋ยวทีเข้าบ้านก่อนนะ น้ำค้างแรงแล้ว ยีนก็รีบเข้ามานะ”


“อืม”


“อ้อ พรุ่งนี้ทีจะพาไปดูรอบๆ บ้านด้วย”


“แล้วพี่ชม.. เอ่อ พี่ภูล่ะ”


“พี่ภูจะเข้าไปดูงานของคุ้ม ก็เลยให้ทีพายีนเที่ยวแทน”


“อืม”


ผมตอบได้แค่นั้น รู้สึกตื้อๆ ในหัวกับการกระทำของไอ้พี่ชมพู มันจะเอายังไงกันแน่ พาผมมาบ้าน มาจัดการปัญหาที่ค้างอยู่ แต่มันกลับทิ้งผมให้ไปกับน้องสาวมัน ส่วนมันจะทำงาน


“งั้นทีเข้าบ้านก่อนนะ ต้องรีบนอนเร็ว หน้าจะได้ผ่องๆ”


“ครับ”


“ฝันดีนะคะ”


“ฝันดีครับ”


คนที่ผมคุยด้วยเดินเข้าไปในบ้านแล้ว ผมเองก็ลุกขึ้นเหมือนกัน แต่จุดหมายที่จะไปไม่ใช่ห้องของตัวเองเพื่อนอนเร็วๆ ให้หน้าผ่องๆ เหมือนที แต่เป็นห้องข้างๆ กัน


ผมเคาะประตูอยู่หลายที กว่าประตูห้องจะเปิดออกมา ไอ้พี่ชมพูมองหน้าผมเหมือนแปลกใจที่ผมมาหา ทั้งที่เมื่อกลางวันผมก็มาหามัน ไม่เห็นจะมีอะไรแปลกตรงไหน


“มีอะไรหรือเปล่า”


“เข้าไปได้มั้ย”


ถามแบบนั้น มันถึงได้เปิดประตูให้กว้างขึ้น และพอเข้าไปแล้ว ผมก็ไปนั่งที่เตียงของมัน ส่วนไอ้พี่ชมพูกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานมั้ง ผมเห็นมีแฟ้มเอกสารกองๆ อยู่หลายแฟ้ม มีอันที่เปิดค้างไว้เหมือนว่ามันกำลังอ่านค้างอยู่ด้วย


“ผมมาหา จะไม่คุยด้วยหน่อยเหรอ”


“กูอ่านเอกสารอยู่”


“ที่ว่าพรุ่งนี้จะเข้าไปทำงานน่ะเหรอ”


“อืม ทีบอกมึงแล้ว?”


“เจอกันที่หน้าบ้าน”


โคตรแปลกกับบทสนทนาครั้งนี้ ผมเหมือนคนแอบรักที่มองแต่แผ่นหลังใหญ่ๆ ส่วนมันกลับไม่รู้เรื่อง เพราะไม่หันกลับมามองว่าสายตาของผมหยุดที่ไหน เป็นมันไม่ใช่เหรอที่รักผมก่อน??


“แล้วพรุ่งนี้จะให้ผมกับไปทีจริงๆ เหรอ”


“อืม กูไม่ว่าง ก็ต้องให้ทีพาไป”


“แล้วทำไมต้องที ปล่อยผมเดินคนเดียวก็ได้”


“เฮ้ย ได้ไงวะ กูเป็นคนพามึงมา แล้วจะปล่อยให้มึงอยู่คนเดียวได้ยังไง มึงไปกับทีน่ะดีแล้ว”


ไอ้พี่ชมพูพูดสนับสนุนเต็มที่ ผมเลยลุกแล้วไปยืนข้างๆ มันที่โต๊ะ และดูเหมือนมันจะรู้ตัวว่าผมไม่ได้นั่งอยู่ที่เตียงเหมือนเดิม เลยหันมามอง


“เอ่อ... ทีมันเป็นลูกรักพ่อกับแม่ ถ้ามึงสนิทหรือเข้ากับทีได้ จะขอให้ทีช่วยพูดกับพ่อแม่ก็ได้เรื่องของกูกับมึง”


“พี่คิดงั้นเหรอ”


“อืม”


มันตอบมา แต่ผมกลับรู้สึกว่าสิ่งที่มันพูดมาไม่ได้มีเจตนานั้นอย่างเดียว แล้วน้ำเสียงที่ใช้ก็ยังดูไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำอย่างทุกครั้งที่คุยกัน จนดูแปลก ผิดปกติมาก


“แล้วพี่พูดเองไม่ได้หรือไง”


“พูดได้ แต่ถ้ามีทีช่วย มันก็จะง่ายขึ้น แค่ทีอ้อนนิดหน่อย พ่อกับแม่ก็ยอมแล้ว เชื่อกูสิ”


“งั้นก็ตามใจ”


ผมตอบไปแบบนั้นทั้งที่ยังรู้สึกคลางแคลงในใจว่าเรื่องแบบนี้จะขอกันง่ายๆ ได้เหรอ แล้วยังท่าทีของมันอีก ผมรู้สึกกังวลขึ้นมาว่าทีจะบอกไอ้ตัวโตนี่หรือเปล่าว่าผมกับทีเคยมีอดีตยังไงกัน แต่คิดว่าเรื่องแบบนั้น ทีคงไม่เล่า


“ผมกลับห้องก่อนนะ”


“อืม”


ยังไม่ทันตอบ มันก็หันหน้าไปสนใจกระดาษปึกหนาๆ บนโต๊ะแล้ว ดูไร้ความสนใจกันสิ้นดี ผมเลยเดินกลับไปที่ห้องตัวเองแทน ยังอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ที่ไอ้พี่ชมพูมันแปลกไป เพราะอะไรวะ? หรือมันจะรู้ว่าผมกับทีเคยเป็นอะไรกันจริงๆ





















ตอนเช้าทีมาปลุกผมที่ห้อง เรียกได้ว่าเช้ามากด้วยซ้ำ เพราะเพิ่งจะเจ็ดโมง เธอยิ้มแบบที่คิดว่าน่ารักมาให้ ผมเลยต้องลุกขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงเมื่อคืนจะนอนเร็วกว่าปกติ แต่พอตื่นเช้า ผมก็ยังง่วงอยู่ดี


“รีบตื่นเร็ว ไปสูดอากาศตอนเช้าๆ กัน”


ไม่เพียงแค่ปลุกอย่างเดียว แต่มือของเธอยังมาจับแขนของผมแล้วลากออกจากเตียงอีกต่างหาก เฮ้ย คนเพิ่งตื่น จะลากไปไหนวะ!


“เรายังไม่ได้อาบน้ำแปรงฟันเลย”


“ไว้ค่อยมาจัดการทีหลัง ไปเร็วๆ”


บอกประโยคนั้นจบ คนที่ตัวเล็กว่าผม เพราะทีสูงแค่ร้อยหกสิบต้นๆ ก็ลากผมออกจากห้องนอนไปที่หน้าบ้าน จับมือผมเดินไปทั่วสนามหน้าเรือน

 
“อากาศตอนเช้าสดชื่นมากเลยนะ รับรอง ยีนจะไม่ง่วงจนต้องกลับไปหมกตัวอยู่ในห้องอีกทั้งวัน”


“อืม”


ถึงจะรู้สึกดีกับอากาศเย็นสดชื่นและบริสุทธิ์จนชุ่มปอด แต่ผมก็ตอบกลับแค่นั้นแหละ ไม่รู้จะพูดอะไรกับเธอ ตรงข้ามกับทีที่พยายามจะหาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคุยกับผมตลอดเวลา จนครึ่งชั่วโมงผ่านไปเธอถึงยอมให้ผมเข้าไปในบ้านเพื่ออาบน้ำแต่งตัว แล้วก็ไม่ลืมบอกว่าแปดโมงเป็นเวลาตั้งโต๊ะ


ผมอาบน้ำเสร็จก็ออกมาร่วมโต๊ะกินข้าวกับคนอื่นๆ และพอกินเสร็จ ไอ้พี่ชมพูก็ทำท่าจะออกจากบ้านไปทันที แต่มันคงหันมาเห็นผมพอดี เลยเดินเข้ามาหา


“เดี๋ยวกูไปทำงานก่อนนะ ถ้ามึงอยากไปไหนก็บอกที ให้ทีพาไป”


“อืม”


“แล้วเจอกัน”


“อืม”


กลายเป็นผมที่ตอบมันแบบนั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ผมรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในใจของพี่ชมพู และก็ทำให้ผมรู้สึก...แย่ แย่ว่ะ แย่จริงๆ เพราะมันไม่เคยเป็นแบบนี้ คนที่เคยวุ่นวายกับผมอยู่ตลอดเวลา แสดงออกให้รู้ว่ามันใส่ใจผม เห็นผมสำคัญ แต่ตอนนี้กลับไม่เหลือความรู้สึกนั้นอยู่


ผมอาจจะดูเหมือนไม่ได้สนใจ ไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้แสดงออกว่ามีความรู้สึกให้พี่ชมพูมากแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้และมันก็รู้คือ ผมรักมัน อาจจะมองว่าผมรักมันน้อย ทั้งที่มันกลับรักผมมาก แต่ไม่ว่าจะมากหรือน้อย รักก็คือรัก ผมรู้สึกแบบนั้นกับมัน และการที่ถูกมองผ่านและไม่ใส่ใจกัน ก็ทำให้รู้สึกแย่ได้มากพอสมควรเลย


เหมือนโดนมดแดงกัด เจ็บๆ คันๆ เพราะยังมีความสงสัยเกาะอยู่ในใจ แต่ถ้ารู้เหตุผลและเหตุผลนั้นทำให้รู้สึกแย่ ความเจ็บก็จะขยายวงกว้าง เหมือนแผลสดที่ไม่ได้รับยาจนเริ่มเน่า


ผมยิ้มเหยียดๆ กับความคิดของตัวเอง ไม่รู้เป็นห่าเป็นเหวอะไรที่คิดแบบนี้ออกมา แต่ก็ไม่นานนักหรอก เพราะทีเดินมายืนหน้าผม บังสายตาซึ่งมองไปทางคนที่แปลกไปจนไม่เห็นภาพตรงหน้าอีก


“ไปกันเถอะ นี่ทีไปเตรียมอาหารกลางวันไว้ด้วย เดี๋ยวเราเข้าไปนั่งกินกันในสวนนะ”


“สวน?”


“อือ สตรอเบอร์รี่กับลำไย ไปนะ”


ท่าทางที่ชวนดูร่าเริงสดใสไม่เปลี่ยนไปเลย และสิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปอีกอย่างหนึ่งก็คือ.... ผมก็ยังไม่รู้สึกอะไรกับเสน่ห์ข้อนี้ของที


“อืม”


หลังจากผมตอบ ทีก็พาผมเดินไปหลังเรือนใหญ่ ผ่านประตูรั้วไม้ที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์ แล้วผมก็เห็นอาณาเขตที่ถูกแบ่งเอาไว้ แต่สวนที่ว่ากลับดูแปลกตาจนผมต้องเดินเข้าไปดูต้นเขียวๆ ที่สูงพ้นดินมาไม่มาก แล้วพอเห็นจะจะตาก็ต้องหันไปพูดกับคนที่ยืนยิ้มดูด้านหลัง


“สตรอเบอร์รี่ที่นี่หน้าตาเหมือนมะเขือเทศเลยนะ”


ผมพูดจบ ทีก็หัวเราะเสียงใสแล้วเดินเข้ามาหาผม จับลูกกลมแดงๆ ขึ้นมาดูเล่น


“ก็ตอนนี้ยังไม่ถึงหน้ามัน เลยแบ่งสวนครึ่งนึงมาปลูกพวกพืชสวนครัวไง ช่วยประหยัดค่าอาหารของคุ้มด้วย”


“อืม เข้าใจคิดนะ”


“พี่ภูเป็นคนคิด ทีกับพ่อแล้วก็คนงานเลยมาช่วยกันทำ”


“อ้อ แล้วให้เรามาดูมะเขือทำไม”

 
“มาช่วยกันเก็บไง”


“เก็บ? เก็บมะเขือเทศเนี่ยเหรอ”


“ใช่”


ว่าอย่างนั้นจบ ทีก็หยิบตะกร้าใบกลางๆ ออกมาจากตะกร้าที่บอกว่าใส่อาหารกลางวันเอาไว้ มิน่าถึงตะกร้าถึงได้โคตรใหญ่ เห็นทีแรกผมยังงงอยู่ว่าของกินเยอะถึงขนาดต้องใช้ตะกร้าใบใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว


“โดนหลอกซะกลายเป็นคนโง่เลย”


ผมบอกอย่างที่คิด แต่ทีกลับหัวเราะชอบใจจนอดไม่ได้ที่ยกจะยกมือขึ้นไปขยับหัวเธอเบาๆ ทีรีบเบี่ยงตัวหลบ แต่มันก็ไม่พ้นมือผมหรอก เพราะผมขยับตามไปด้วย ก็เลยกลายเป็นว่าทีวิ่งหนีส่วนผมวิ่งตามไปเอาคืนจนหอบกันทั้งคู่


“พอ พอแล้ว ไม่เล่นแล้ว”


หน้าขาวๆ กลายเป็นสีแดงเพราะความเหนื่อย ทำให้ทีดูน่ารักขึ้น ผมคิดแบบนั้น  แต่มันก็แค่นั้น


“เก็บมะเขือเทศได้แล้วมั้ง เมื่อกี้เราเห็นมีอย่างอื่นด้วย”


“ใช่ๆ ไล่เก็บมันให้หมดเลย เสร็จแล้วเดี๋ยวพาไปดูของดี”


“ของดีอะไร จะหลอกอะไรอีกเปล่าเหอะ”


“ไม่หลอกแล้ว ของดีจริงๆ”


ได้รับคำบอกแบบนั้นมา ผมก็พยายามกล่อมตัวเองให้เชื่อ แล้วช่วยทีเก็บมะเขือเทศรวมทั้งพืชสวนครัวอื่นๆ เช่นพริก ตำลึง แครอท จนเกือบเต็มตะกร้า ทีก็เรียกให้ผมเดินตาม แต่คราวนี้สิ่งที่เห็นเหมือนเป็นโกดัง แล้วพอเข้าไปด้านในก็รู้ว่ามันคืออะไร


สีเขียวกับแดงสลับกันเกือบเต็มทั้งพื้น คราวนี้ผมไม่ได้ถูกหลอก เพราะสีเขียวและแดงนั้นคือสตรอเบอร์รี่


“ไหนบอกว่าไม่ใช่หน้ามัน”


“ในนี้ปรับคอนดิชั่นให้เหมาะกับการเจริญนอกฤดูกาล มันก็เลยโตได้ไง”


“อ้อ”


“ลองชิมดูมั้ยล่ะ อร่อยนะ สดและสุกใหม่ๆ กิโลนึงไม่ใช่ถูกๆ นะ ลูกโตเต็มคำด้วย”


ทีพยายามโฆษณาชวนเชื่อ แต่ไม่ต้องบอก ผมก็เชื่อจากสิ่งที่เห็นแล้ว ผมจึงรับผลสตรอเบอร์รี่ที่ทีดึงออกมาให้ชิมไปกัด มันไม่เปรี้ยว แต่หวาน ฉ่ำน้ำ เหมือนสตรอเบอร์รี่เมืองนอกมากกว่า สตรอเบอรืรี่ไทยที่จะติดรสเปรี้ยว


“อร่อยมั้ย”


เสียงดังอู้อี้จากปากเล็กๆ เพราะผลไม้ลูกโตคาอยู่ในปากไม่ต่างกัน


“อร่อย”


“เก็บไปกินก็ได้นะ ทีอนุญาต”


จากความรู้สึกไม่สบายใจนักที่ได้เจอกันอีกครั้ง มันอึดอัดจนไม่อยากอยู่ใกล้หรือพูดคุย แต่ตอนนี้ความรู้สึกพวกนั้นหายไปหมดแล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกดีที่มีเพื่อนคุยไม่ต้องอยู่คนเดียว เพราะถ้าเป็นแบบนั้นผมคงเอาแต่คิดถึงเรื่องไอ้พี่ชมพู แต่เมื่อนึกเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นในใจ


“ปกติเวลากลับมาบ้าน พี่ภูจะเข้าไปทำงานที่คุ้มทุกครั้งเหรอ”


“พี่ภูเหรอ ไม่เลย ปกติจะมาลุยในสวนมากกว่า งานใช้แรงงานน่ะถนัด”


“อ้าว แล้วทำไมวันนี้เขาถึงเข้าไป”


รู้สึกแปลกใจยิ่งไปกว่าเดิมจนอดกังวลไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่หมีควายของผมหรือเปล่า เพราะทำแต่เรื่องที่ไม่เคยทำทั้งนั้น


“ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเห็นว่าใกล้เรียนจบแล้ว น่าจะสนใจกิจการที่บ้านมั่งมั้ง”


“อืม”


“ว่าแต่ยีนเถอะ ทำไมมาสนิทกับพี่ภูล่ะ”


“ก็อยู่คณะเดียวกัน แล้วเพื่อนพี่ภูเป็นลุงรหัสของกราฟ เพื่อนสนิทเรา ทีน่าจะจำได้มั้ง เลยรู้จักแล้วก็สนิทกัน”


ตอบไม่ตรงสักเท่าไหร่ แต่มันก็เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมกับพี่ชมพูต้องเจอหน้ากันเกือบทุกวัน ถึงตอนแรกจะไม่ชอบขี้หน้ามันก็เหอะ คิดแล้วก็งงๆ เหมือนกันว่าแล้วอยู่ดีๆ ผมมาญาติดีกับไอ้พี่ชมพูได้ยังไง


เพราะมันชอบรุก ชอบทำหวาน ใส่บ่อยๆ?


“อ๋อ โชคดีจริงๆ นะเนี่ย”


ทียิ้มให้ผม เป็นรอยยิ้มที่หวานมาก ชนิดที่ผมแน่ใจว่าหากคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ผม แต่เป็นคนอื่นคงตกหลุมรักทีกันหมด























กินข้าวกลางวันที่เรือนปลูกสตรอเบอร์รี่แล้ว ผมกับทีก็ขนพืชผักที่ช่วยกันเก็บ รวมทั้งสตรอเบอร์รี่ลูกโตที่ทีเก็บเผื่อคนอื่นๆ กลับเรือน ล้างให้สะอาดแล้วแบ่งส่วนหนึ่งเก็บที่เรือน ส่วนที่เหลือซึ่งมากกว่า ทีชวนให้ผมเอาไปส่งที่โรงครัวของคุ้ม แล้วก็ถือโอกาสพาผมเที่ยวชมรอบๆ ด้วย


“ใครเป็นคนออกแบบรีสอร์ทเหรอ สวยทั้งที่นี่แล้วก็ที่ระยอง”


ผมถามระหว่างที่มองไปรอบๆ บริเวณที่ทีขับรถผ่าน แต่พอผมถามแบบนั้นแล้วทีก็หันมามองผมตาโตเหมือนจะตกใจ


“ยีนเคยไปรีสอร์ทแมกไม้แล้วเหรอ”


“อืม พี่ภูต้องถ่ายหนังสั้น ก็เลยให้เรากับพวกเพื่อนๆ ไปเล่นให้”


“ว้าว ทีอยากดูจัง”


รถที่เคลื่อนตัวอยู่หยุดลงก่อนประโยคนั้นจะตามมา ทีมองผมด้วยตาเป็นประกาย ทำให้ผมรู้สึกเขินๆ ขึ้นมานิดหน่อย


“ลองถามพี่ชายทีดูสิ เขาเป็นผู้กำกับ”


“ไม่พลาดแน่”


พูดอย่างนั้นแล้ว เธอก็หันกลับไปขับรถต่อ จนผมชมคุ้มชมจันทร์รอบนอกครบทุกส่วนแล้ว ทีก็พาผมไปเข้าไปในส่วนที่เป็นล็อบบี้ และเดินเลยเข้าไปอีกหน่อยก็เป็นส่วนของสำนักงาน ทีพาผมเข้าไปในห้องหนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นห้องพักที่มีการตกแต่งน่าสนใจเสียอีก แต่มันไม่ใช่ กลับกลายเป็นห้องทำงาน แล้วคนที่อยู่ในห้องก็ไม่ใช่ใครอื่น


พี่ชมพูเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มหนามามองพวกเรา คงเพราะได้ยินเสียงประตู แต่คำถามที่ไม่คาดคิดก็ทำให้ผมรู้สึกอึ้งๆ ไป เพราะไม่คิดว่ามันจะพูดประโยคนี้และน้ำเสียงแบบนี้


“ทำไมไม่เคาะประตูก่อน”


“แหม ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย คนกันเองทั้งนั้น”


ทีประจบ ก่อนจะเดินเข้าไปหาไอ้พี่หมีควาย มันปรายตามองผมไม่ถึงสองวินาทีก็เลื่อนสายตาไปทางน้องสาวของมันแทน


“ถ้าเกิดพี่ทำอะไรที่คนอื่นมาเห็นไม่ได้ จะว่ายังไง”


“ทีรู้ว่าไม่มีหรอก”


ไอ้คนตัวใหญ่ถอนหายใจออกมา ถึงจะไม่ได้ดังมาก แต่ผมก็ได้ยิน น้ำเสียงมันดูเหมือนหนักใจ แต่อะไรก็ไม่เท่ากับการที่มันไม่แม้แต่จะเหลือบมองมาทางผม จนผมอยากจะตะโกนใส่มันว่าเป็นเหี้ยอะไร แต่ความรู้สึกที่กำลังจู่โจมเข้ามาในใจก็ทำให้ต้องหุบปากเอาไว้ มองปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปอย่างไม่เข้าใจ


“แล้วนี่มาทำไม”


“ก็พายีนมาเดินเล่น”


“ในห้องทำงานนี่เหรอ”


“โอเคๆ ไม่กวนแล้วก็ได้”


ทีเดินกลับมา แต่ไอ้พี่ชมพูก็ไม่มองตาม ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หรือบางทีอาจจะกลัวว่าถ้าหันมาแล้วจะเห็นผมก็ได้ คิดเองก็เจ็บเอง ผมเม้มปากแน่นทั้งที่ยังมองมัน แต่ก็ถูกทีดึงมือให้เดินออกไปด้วยกันโดยไม่มีโอกาสรู้ว่าไอ้พี่ชมพูมีวี่แววจะหันมาทางผมบ้างหรือเปล่า





อ่านต่อด้านล่าง

v

v



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2012 23:34:59 โดย undersky »

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ต่อจากข้างบน


v


v








มื้อค่ำ ก็ยังกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนตอนเช้า แต่ความรู้สึกของผมมันย่ำแย่ไปกว่าเดิม ไอ้พี่ชมพูมันไม่มองผมอีกแล้ว ไม่คุยด้วย เหมือนผมไม่มีตัวตนอยู่ตรงนี้ มันเป็นเหี้ยอะไรกันแน่ ทำไมต้องทำแบบนี้วะ ผมสบถกับตัวเองในใจหลังจากแยกตัวออกมานั่งอยู่ที่เดียวกับเมื่อคืน


เรื่องที่ผมคุยกับพี่กล้วยก่อนจะมาที่นี่ย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง








วันนั้นก่อนเดินทาง พี่กล้วยกอดผมเอาไว้ แล้วบอกเรื่องที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน


‘คุณท่านรู้มาสักพักแล้วค่ะว่าน้องยีนเป็นแฟนกับคุณภู’


‘รู้นาน.. นานแล้ว หมายความว่ายังไงครับ’


ผมตกใจมากจนเผลอผลักพี่กล้วยออก แต่พี่กล้วยก็ยืนยันด้วยการพยักหน้าเบาๆ แล้วจับมือผมเอาไว้


‘วันที่น้องยีนกลับมาจากไปต่างจังหวัด แล้วคุณภูมาส่ง คุณท่านเห็น เอ่อ... เห็นว่าคุณภูกับน้องยีนทำอะไรกันอยู่หน้าบ้าน คุณท่านก็เครียดมาตลอดเลยค่ะ ยิ่งสังเกตพฤติกรรมของคุณภูทุกครั้งที่มาที่บ้านก็ยิ่งย้ำชัดว่าน้องยีนกับคุณภูเป็นอะไรกัน’


‘แล้วป๊า.. ป๊าไม่พูดอะไรเลยเหรอครับ’


ผมยิ่งตกใจไปกว่าเก่าเสียอีก ไม่คิดว่าวันนั้นป๊าจะเห็นจริงๆ เพราะป๊าทำเหมือนไม่รู้เรื่องมาตลอด


‘ไม่ค่ะ คุณท่านเก็บเรื่องนี้ไว้เงียบๆ คนเดียว แต่พี่รู้เพราะพี่ได้ยินคุณท่านคุยกับคุณแม่น้องยีนค่ะ แล้วท่านก็ดูเครียดมาก จนพี่ต้องคอยสังเกตอาการ กลัวว่าท่านจะเป็นอะไร แล้วตอนนั้นเป็นช่วงที่น้องยีนไปค้างกับคุณภูเพราะจะอ่านหนังสือสอบด้วย พี่ก็เลยต้องระวังเป็นพิเศษ’


‘แล้วป๊าไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ยครับ’



‘คุณท่าน เอ่อ... อาเจียนค่ะ แล้วก็หมดสติไป’


ฟังมาถึงตรงนี้ ผมแทบช็อก เพราะไม่รู้มาก่อนว่าป๊าจะเครียดเรื่องผมขนาดนี้ ผมทำให้ป๊าเครียดจนไม่สบาย ผมเสียใจมากที่ตัวเองเป็นสาเหตุ รู้สึกหัวใจมันชาหนึบ หดหู่ขึ้นมาทันที


‘แต่น้องยีนไม่ต้องห่วงนะคะ คุณท่านหายดีแล้ว พี่ตามคุณหมอมาดูอาการ แล้วคุณหมอก็รอจนคุณท่านฟื้น และแนะนำว่าไม่ให้คุณท่านเคร่งเครียดจนเกินไป เพราะท่านอายุมากขึ้นทุกวัน ถ้าเครียดมากจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ หมอยังสอนวิธีปรับจิตใจให้ปลอดโปร่งด้วยนะคะ เพราะงั้นพอน้องยีนกลับมา คุณท่านถึงไม่เป็นอะไรแล้ว’


ได้ยินแบบนั้นแล้วผมก็โล่งใจที่ป๊าไม่เป็นอะไรมาก และสุขภาพยังแข็งแรงอยู่ ไม่ได้ย่ำแย่ลงไป


‘ชอบคุณมากนะครับพี่กล้วยที่ช่วยดูแลป๊า ถ้าไม่มีพี่กล้วย ยีนก็ไม่รู้ว่าป๊าจะเป็นยังไง’


‘พี่เต็มใจค่ะ หน้าที่ของพี่คือดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านอยู่แล้ว เพราะงั้นก็ต้องรวมไปถึงทุกคนที่อยู่อาศัยภายในบ้านด้วย’


ผมรู้สึกขอบคุณแล้วก็ตื้นตันกับความมีน้ำใจของพี่กล้วยมากจริงๆ เพราะถึงพี่กล้วยจะบอกว่าเป็นหน้าที่ แต่ผมรู้ดีว่าพี่กล้วยเต็มใจดูแลผมกับป๊า


‘แต่พี่ขออย่างนึงนะคะ’


‘ขออะไรครับ’


‘ในเมื่อคุณท่านต้องอดทนจนผ่านความรู้สึกนั้นมาได้ น้องยีนกับคุณภูก็อย่าให้คุณท่านเจ็บโดยเปล่าประโยชน์เลยนะคะ’


พี่กล้วยบอกแค่นั้น ผมก็รู้แล้วว่าหมายถึงอะไร พี่กล้วอยากให้ผมกับพี่ชมพูผ่านบททดสอนนี้ไปให้ได้





นึกถึงเรื่องนี้แล้ว ก็ทำให้ผมตัดสินใจได้ ผมจึงลุกจากที่นั่งอยู่ ตรงไปห้องนอนของไอ้พี่ชมพู เคาะประตูห้องมันอยู่พักหนึ่งกว่าเจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมา และพอรู้ว่าเป็นใครมันก็ทำหน้าไม่ต่างจากเมื่อคืน แถมยังเพิ่มเติมด้วยสีหน้าที่บอกว่าไม่อยากให้ผมโผล่มาที่ห้องนี้


แต่คราวนี้ผมไม่ถามมันแล้วว่าเข้าไปได้หรือเปล่า แต่ผลักประตูแล้วเดินเข้าไป ไอ้พี่ชมพูเลยได้แต่เดินตามผมเข้ามา แล้วก็ทำเหมือนเมื่อวานไม่มีเปลี่ยน จมอยู่ในกองเอกสารโดยไม่สนใจผมสักนิด


“พี่เป็นอะไร”


ผมไม่รอให้มันเปิดปากพูดกับผมก่อน แต่เดินเข้าไปหาแล้วถามมันเอง ไอ้พี่หมีควายเลยหันมามองผมแวบนึง แล้วตอบเสียงเรียบ


“ไม่ได้เป็นอะไร”


“ไม่เป็นอะไรแล้วทำไมถึงต้องไม่มองผม ทำไมไม่พูดกับผม ทำไมต้องทำเป็นไม่สนใจกัน ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน”


“ไม่มีอะไร”


มันตอบกลับเกือบเหมือนเดิม และมันก็ทำให้อารมณ์ของผมพุ่งสูงขึ้นมา ความกรุ่นโกรธกำลังปะทุอยู่ในใจของผมจนมันร้อนไปทั้งอก


“ไม่มีอะไร พี่ตอบมาได้ยังไงวะ! พี่บอกพ่อกับแม่พี่แล้วเหรอ พ่อกับแม่ของพี่บอกให้พี่เลิกยุ่งกับผมงั้นเหรอ เขาให้พี่ทำอะไร หรือทีบอกอะไรพี่”


“ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”


ผมพยายามหาเหตุผล ที่พอจะเป็นไปได้ แต่ไอ้คนตรงหน้ามันปฏิเสธทั้งหมด จนผมคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ต้องเอาเหตุผลอะไรถามเพื่อรับฟังคำตอบ สุดท้ายก็ได้แต่พูดเสียงแผ่ว


“คืนนี้ผมขอนอนกับพี่นะ”


ความสับสนและว้าวุ่นใจทำให้ผมพูดประโยคนั้นออกมา แต่ผมก็คิดว่ามันเป็นทางสุดท้ายแล้วที่ผมจะพิสูจน์ว่าพี่ชมพูยังไม่ได้เปลี่ยนไป เพราะตลอดเวลาที่รู้จักกันมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมจะเอ่ยปากแบบนี้ มีแต่มันที่เป็นฝ่ายตื๊อแล้วตื๊ออีกให้ผมค้างด้วย แต่คราวนี้มันกลับทำให้ผมผิดหวัง


“อย่าเลย เกิดมีใครเห็นมึงมานอนห้องกูทั้งที่ห้องของมึงก็จัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว เดี๋ยวจะเป็นเรื่อง มึงนอนห้องมึงนั่นแหละ”


“พี่เกลียดผมแล้วเหรอ”


“ไม่ใช่”


“แล้วทำไม...”


ผมเม้มปากแน่น พยายามกดเก็บความรู้สึกที่กำลังทะลัออกมาให้กลืนหายไป ถึงคำว่า เกลียด ผมจะพูดออกมาเพราะต้องการประชดประชัน แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกเศร้าได้เหมือนกันเพราะเผลอคิดตามว่าถ้าพี่ชมพูเกลียดผมขึ้นมาจริงๆ ผมคงเสียใจ


“...”


พี่ชมพูไม่ตอบผม ทำเหมือนมันเป็นเรื่องลำบากลำบนมากที่จะตอบออกมา ผมเลยเป็นฝ่ายโน้มหน้าเข้าหาแล้วจูบบนปากของมันเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ บดคลึงริมฝีปากนั้น แล้วสอดปลายลิ้นเข้าไปคลุกเคล้าภายในผ่านช่องว่างเล็กๆ ที่คนตัวใหญ่เปิดออก แต่ก็ไม่นานที่ผมเป็นฝ่ายคุมเกม เพราะพี่ชมพูตอบโต้ผมกลับโดยการบุกมาให้ผมเป็นเจ้าถิ่น


เราสองคนจูบกันอย่างนุ่มนวลและค่อยๆ ร้อนแรง จูบของพี่ชมพูยังคงเหมือนเดิม เป็นจูบที่ผมชอบและทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่ปากของเราสัมผัสกัน ความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาให้กัน ผมยังรับรู้ได้ถึงความรัก เหมือนเดิม เหมือนที่ผ่านมา


ทว่าอยู่ดีๆ ร่างใหญ่ก็สะดุ้งแล้วผลักผมออกฉับพลัน ตาของมันเบิกกว้างขึ้นเหมือนคนตกใจ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงผลักผมออก


ผมทำอะไรพลาดไปตรงไหน?












=====================
เคานท์ดาวสู่ตอนจบ

คิดว่าน่าจะมีคนเดาเหตุผลของพี่ชมพูได้นะคะ


Undel2Sky

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2012 23:35:54 โดย undersky »

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เ้ง้อ,,,ไม่ค่อยเข้าใจพี่ภู เหรอว่าไม่อยากทำอะไรให้มันประเจิดประเจ้อกลัวคนที่บ้านรู้หรือว่าอะไรเนี่ย
แต่ทำแบบนี้สงสารยีนจัง หรือพี่ภูอยากทำให้ยีนรู้สึกเหมือนตอนที่ยีนไม่สนใจ เหมือนตอนที่จะตบตาเด็กเมืองนอกคนนั้น (ขอออภัยนึกชื่ออะไรไม่ออก อิอิ)

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ต้องมีใครเข้ามาในห้องแน่เลย

ออฟไลน์ Ticha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ sbeam14

  • I♥เล้าเป็ด ก๊าบๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-4

ออฟไลน์ Zarunghaja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-0
อ๊ากกก ค้างงง

ทำไมพี่พูทำแบบนี้ สงสารยีนอ่ะ :z3:


ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
เดาไม่ถูกอ่า
คนเขียนมาเฉลยที

bryden

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ยยยยยยยยยยย เชี่ยไรเนี่ย!!!!!
พาเขามาเปิดตัวกะพ่อแม่
พาเขามาพิสูจน์รักของตัวเอง
พาเขามาทั้งๆที่เขาฝากหัวใจ ฝากความหวังเอาไว้
แล้วมรึงทำงี้ได้ไง ไอ้พี่ชมภู
มรึงเป็นไร ผีคุ้มเข้าสิงหรือไง
ทิ้งน้องอย่างนี้ได้ยังไง

หรือน้องมรึง มาบอกอะไร
บอกว่าเคยคบ เมียมรึงหรือไง
จะยกเมียให้เป็นผัวน้อง รึไง???
อีนังน้องก็นะ เขาบอกว่ามีแฟนแล้ว แถมรักมากกว่าหล่อนอีก
ยังจะด้านมาตื้อเขาอยู่ได้


ไม่เข้าใจ ไม่เข้าในโว้ย
ยังไงกันแน่ไอ้พี่ชมภู
ตกลงมรึงรักน้องไหมเนี่ย
หรือคิดแทนน้อง รู้ว่าน้องเคยจีบผู้หญิง
เลยจะให้เขากลับไปคบกับน้องตัวเองหรือไง
ถ้าคิดงี้ก็ปัญญาอ่อนว่ะ ไม่แมนเลย
ไหนรับปากพ่อเขาว่าจะดูแลน้องอย่างดี
แล้วมาทำน้องเจ็บได้ยังไง
ไม่นึกถึงจิตใจน้องบ้าง

หนูยีนส์หนูไม่ร้องไห้ประกาสให้ก้องโลก
ให้ดังลั่นคุ้มไปเลยสิลูก ว่าหนูเสียใจ
ลุ้นแทบตายให้หนูร้องไห้
ไอ้คนใจร้ายมันจะได้รู้ว่าหนูเจ็บ
พี่มั่นใจว่ามันจะเจ็บกว่าหนูหลายเท่า


แล้วนี่ยังไง ยังไงค่ะคุณคนแต่ง
มาค้างไว้เจ็บลากปอดแบบนี้
แล้วบอกว่าตอนหน้าจะจบแล้ว
หรือยังไงคะ หรือว่าแค่ใกล้จบ
ไม่รู้ละ  ยังไงต้องหวานแบบอีโรๆ ก่อนจบด้วย
ไม่งั้นโป้ง (แกไปสนิทอะไรกะเขา - -")

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



    ดูน้องทีจะรักยีนมากเลยนะ
    แต่พี่ภูจะรักน้องสาวมากกว่าที่รักยีนรึเปล่า




ออฟไลน์ yongsulewa

  • 나는 상처를 줬어.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
อิพี่ภู พาน้องยีนส์มาแล้วทำตัวแบบนี้เรอะ ทำแบบนี้แล้วพาเขามาทำไมห๊ะัะะะ   :angry2:

ก็รู้ว่าน้องอึดอัดอ่ะ หนอยๆๆ ถ้ายีนส์หนีกลับไปละจะสมน้ำหน้า เชอะๆ  :m16: :m31:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Cappello

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
พี่ภูเป็นอารายยยยยย ทำไมทำแบบนี้กับยีนอ่ะ

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด