It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: It's U, It's Me : กวนนัก แต่รักนะครับ (จบ) [21/7/59]  (อ่าน 602766 ครั้ง)

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



     โฮ่ ครบ 1 ปีแล้วเหรอเนี่ย
     อย่างงี้ต้องบอกว่า Happy birthday รึเปล่านะ




ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
มาตั้งป้อมรอ
คิดถึง :กอด1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
1 ปีแล้วหรอ ไวจริง

 :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :mc4: :mc4:..เย้ๆๆรออยู่นะคะ

ออฟไลน์ •ไนท์คลุง•

  • Night ♥ .....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?action=profile
เข้ามารอทุกวันนน

คิดถึงงงมากก

แต่เข้าใจคนทำงานครับว่าไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้น แต่ก็สู้ๆนะครับ

ออฟไลน์ So_Da_Za

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
หน่วงๆในความรู้สึก
คือไม่เข้าใจพี่ชมพูอ่า

pimmae12

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
อ๋อ ตอนนี้เข้าใจแล้วครับว่่าหายไปไหนนานเลยย
ตอนแรกคิดว่านักเขียนทิ้งให้มันเป็นนิยายดองเค็มไปแล้วครับ แต่ปรากฎว่ายังเขียนต่อรู้แค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้วครับ  :sad4:
ยังไงก็ติดตามตอนต่อไปนะค้าบบบ ลุ้นซะเหลือเกิน ชมภู-ไฮยีนเนี่ยย อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อค้าบบบ  :call:

ordinary

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดก็ตามอ่านทันแล้ว  :o12:
เฮ้ออออ สงสารทั้งพี่ภูทั้งน้องยีนเลยสำหรับตอนล่าสุด

ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ตอนที่ 36 : ไม่ใช่คนเดียวที่เจ็บปวด (Chomphoo’s Part)



















สายตาของคนสองคนที่ผมรักดูแปลกเมื่อสบตากันเป็นครั้งแรก เสียงของน้องสาวดังขึ้นมาอย่างผิดปกติและผมก็รู้ได้ หลังจากนั้นผมรู้สึกว่ามีอะไรติดค้างอยู่ในใจของผมตลอดเวลา กระทั่งทีเดินเข้ามาหาผมในห้องนอน ผมก็ได้รู้เหตุผลนั้น


“พี่รู้จักยีนมานานแล้วเหรอ”


“ก็ประมาณสามเดือนกว่า”


“เหรอ แต่ทีดีใจมากเลยนะที่พี่พายีนมาที่บ้านเรา เพราะว่าทีไม่เจอยีนมาเกือบปีแล้ว”


ประโยคท้ายของเธอทำให้ผมต้องบังคับตัวเองไม่ให้เบิกตากว้างอย่างตกใจ ซึ่งมันก็สำเร็จ เธอจับไม่ได้ ผมจึงถามเสียงนิ่ง


“รู้จักกันมาก่อนเหรอ”


“ค่ะ” ทีพูดยิ้มๆ “ช่วงที่ทีลงไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพปีที่แล้วเราเป็นแฟนกัน”


“ทำไมพี่ไม่รู้ ทีก็อยู่กับพี่”


ผมรู้สึกว่าหัวใจของผมสั่นมากตอนถามกลับไปแบบนั้น ผมไม่เข้าใจ เหมือนสมองจะไม่รับรู้เสียด้วยซ้ำกับคำบอกของน้องสาว มันเกินกว่าที่ผมจะคาดเดาได้


“ก็ทีไม่บอกพี่น่ะสิ จะบอกได้ไง มาเรียนพิเศษแต่กลับได้แฟนเฉยเลย”


เธอทำปากยู่พูดกับผม ทำอย่างกับว่าถ้าผมรู้จะกีดกั้นอย่างร้ายกาจงั้นแหละ ผมก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดที่จะขัดขวางความรักของน้องสาว แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ดูเลยว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร นิสัยเป็นยังไง แต่มารู้ตอนนี้ผมค่อนข้างช็อก และยิ่งช็อกมากกว่าเดิมที่คนคนนั้นเป็น...แฟนของผม


“แล้วตอนนี้...”


“หลังจากทีกลับเชียงใหม่ก็ไม่ได้ติต่อกันอีก แต่เมื่อกี้ทีคุยกับยีนแล้ว ที่บ้านยีนมีปัญหานิดหน่อย ยีนก็เลยไปอยู่ต่างประเทศมาพักหนึ่ง”


คำตอบนั้นผมไม่รู้ว่ามีความจริงอยู่มากน้อยแค่ไหน แต่จากที่เคยคุยกับกัส เค แม้แต่กราฟ มันทำให้ผมเดาว่าคนที่ชื่อไฮยีนไม่ได้ไปต่างประเทศอย่างที่บอก ที่ไม่ติดต่ออาจจะเพราะเบื่อแล้ว หรือเจออะไรที่น่าสนุกกว่า ก่อนที่จะมาเจอผมยีนเป็นแบบนั้น ยีนคนนั้นที่ผมไม่ค่อยได้รู้จัก


“แล้วตอนนี้ ยังชอบอยู่หรือเปล่า”


แม้จะถามอย่างนั้น แต่ผมก็รู้สึกว่าหัวใจมันเจ็บทุกครั้งที่ขยับปากพูดออกไป ไม่ว่าใคร ถ้าเจอสถานการณ์อย่างผม คงรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไหร่


พี่ชายกับน้องสาวมีแฟนเป็นคนเดียวกัน


มันแย่ยิ่งกว่าที่ผมกับยีนเป็นแฟนกันทั้งที่เป็นผู้ชายเหมือนกันซะอีก แต่ผมย้อนอดีตไม่ได้ ย้อนให้ผมไม่รักยีนไม่ได้ และผมก็เลิกรักยีนในตอนนี้ไม่ได้เหมือนกัน


“ชอบสิ พี่ภูรู้หรือเปล่า ยีนเป็นรักแรกของทีเลยนะ แล้วถ้าตอนนี้เราได้กลับมาคบกันอีกคงดีมากๆ เลยแหละ พี่ภูว่าอย่างนั้นมั้ย”


“อือ”


ท่าทางระหว่างที่พูดออกมาของน้องสาวสดใสร่าเริง หน้ามีแต่รอยยิ้ม จนผมรู้สึกเหมือนความรู้สึกของผมกำลังจมดิ่งลงเรื่อยๆ ผมทำร้ายความรู้สึกของทีโดยการบอกออกไปไม่ได้ว่าตอนนี้ยีนเป็นแฟนของผม ตอนนี้ผมกับยีนรักกัน เพราะผมไม่รู้ว่าทีจะเสียมากแค่ไหน ผมรู้ว่ารักแรกมันลืมยาก โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดีเสมออย่างที ตอนนี้ผมทำได้แค่กำมือแน่นและเม้มปากเข้าหากัน เพื่อไม่ให้หลุดคำพูดพวกนั้นออกไป


“งั้นพี่ภูช่วยทีนะ ทีอยากอยู่กับยีนสองคน สักวันนึงก็ได้”


“อืม ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเข้าไปช่วยงานพ่อที่ออฟฟิศแล้วกัน”


น้ำเสียงที่เปล่งออกมาไม่เต็มที่ แต่ผมก็เค้นเสียงออกมาให้ชัดเจนที่สุด เพื่อไม่ให้ทีจับได้ว่าผมกำลังรู้สึกย่ำแย่แค่ไหนกับความจริงในอดีต แต่ทีคงจับสังเกตไม่ได้ เพราะเธอกำลังดีใจที่ผมยอมเปิดโอกาสให้



















เป็นครั้งแรกที่ผมเข้ามาทำงานของรีสอร์ท ครับ รีสอร์ท เพราะไม่ใช่งานภายในคุ้มเท่านั้น แต่รวมรีสอร์ททั้งหมดของครอบครัวผม ซึ่งมันค่อนข้างน่าปวดหัว ผมไม่ถนัดงานแบบนี้ ทั้งแผนการพัฒนา แนวทางปรับปรุงรูปแบบการบริการ หรือค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่ผ่านมา เป็นเรื่องยากสำหรับผมมาก เพราะแค่เห็นตัวเลข ผมก็จะอ้วกแล้ว


ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังเลือกมาเข้ามาทำงานที่ผมเต็มใจยกบาททุกสตางค์ และพื้นที่ทุกตารางหน่วยให้กับทีที่ชอบงานบริหาร เพราะผมมั่นใจว่าผมคงฟุ้งซ่านหากปล่อยให้ตัวเองว่าง แต่ใช่ว่ามาทำงานให้ยุ่งๆ แล้วผมจะไม่เป็นอย่างที่คิดไว้


เป็นการทำงานที่ผมรู้สึกกระวนกระวายใจเป็นครั้งแรก ไม่ใช่เหตุผลว่าเพราะผมเพิ่งเคยมาทำงานของรีสอร์ท แต่เพราะใจของผมพะวงถึงคนสองคนที่ผมไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังอยู่ที่ไหน และทำอะไรกันอยู่ ผมได้แต่บอกตัวเองให้นิ่งเฉยเข้าไว้ อย่าไปสนใจ แม้ว่าจะร้อนรนจนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ตาม


ผมคิดว่าผมผิดที่เปิดโอกาสให้ที แต่ถ้าจะให้ผมไปไปไหนมาไหนกับยีนโดยไม่แคร์ความรู้สึกของที ผมก็คงทำไม่ได้ และผมก็คงรู้สึกทนไม่ได้เหมือนกัน


ไม่ว่าเลือกทางไหน ก็เป็นเรื่องเจ็บปวดสำหรับผมอยู่ดี


เพราะงั้นถึงจะตกเย็นแล้ว งานที่ผมทำก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ทั้งที่ผมรู้ว่าพ่อก็คาดหวังในตัวผมอยู่ว่าจะเรียนรู้และสามารถช่วยงานน้องได้ เพราะถึงผมจะไม่รับช่วงดูแลกิจการต่อ ผมก็ยังต้องเป็นที่ปรึกษาให้กับทีในวันที่สมบัติทุกชิ้นของพ่อกลายมาเป็นของผมและทีอยู่ดี


ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างเหน็ดเหนื่อยใจ ก่อนจะกลับเรือนไปอาบน้ำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น แต่ถึงจะสบายตัวขึ้น แต่ความรู้สึกของผมก็ยังหม่นหมองอยู่ดี แล้วความรู้สึกนั้นก็เพิ่มขึ้นไปอีกหลังจากยีนเข้ามาหาผมที่ห้อง


คำพูดที่ยีนพูด สิ่งที่ยีนทำ เป็นสิ่งที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้หากว่าเราอยู่ในสภาวะปกติ ผมนึกถึงสัญญาของเราที่ผมเป็นคนเริ่ม ผมบอกให้ยีนพูดตรงๆ กับผม มีอะไรก็ให้บอกกัน แต่ผมกลับกำลังผิดสัญญา ผมรู้ตัว แต่ผม... ทำตามมันไม่ได้ ผมพูดไม่ได้ว่าผมทิ้งระยะห่างจากยีนเพื่อน้องสาว น้องสาวเพียงคนเดียวที่ผมมีอยู่


ริมฝีปากที่ประกบกันอยู่ของเรามันถ่ายทอดความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ผมรู้ว่ายีนกำลังรู้สึกแบบไหน และผมก็รู้สึกไม่ต่างกัน แต่ผมไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ผมอาจจะดูโหดร้ายที่เลือกทำร้ายความรักของตัวเอง ทำให้คนที่รักผมต้องเจ็บปวด โดยที่ผมเจ็บปวดกว่าเขาเสียอีก แต่เพราะผมเป็นพี่ชาย พี่ชายที่ไม่เคยทำให้น้องสาวเสียใจ และ...


เหตุผลเดียววิ่งวนอยู่ในหัวผม ก่อนที่ผมจะรู้สึกตัวว่าเราจูบกันนานเกินไปแล้ว ทั้งที่ผมอยากจะดึงยีนเข้ามากอด อยากเอ่ยคำขอโทษกี่ครั้งก็ได้ถ้าทำให้มันไม่โกรธเคืองผม แต่ผมก็ต้องหยุดความคิดนั้นและดันตัวบางๆ ออก ซึ่งมันก็ทำให้ผมเห็นแววตาเศร้าๆ และเจ็บปวดของยีนเต็มตา


ผมเม้มปากแน่นและเอ่ยปากขับไล่คนที่รักทางอ้อม ทั้งที่ยีนพยายามเหนี่ยวรั้งด้วยคำพูดที่ผมคงดีใจหากไม่ตกอยู่ในสถานการณ์นี้ แต่ผมก็ตอบสนองไม่ได้ แม้จะดีใจที่ได้รู้ว่ายีนยอมแลกเพื่อให้ผมกลับไปเป็นเหมือนเดิม


“กูรอได้”


เป็นคำเดียวที่ผมพูดออกไปได้ จากนั้นยีนก็เดินออกจากห้องของผมไป และผมก็ทำได้แค่มองประตูห้องที่ปิดลงอยู่อย่างนั้น ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ผมได้แต่เฝ้ามองประตูไม่ละสายตา กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ประตูห้องเปิดออกและทีวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหา


“พี่ภู ยีน... ยีนเป็นไข้สูงมากเลย มือ... มือก็เป็นแผลด้วย ม่วงช้ำแล้วก็เลือดแห้งติดเต็มมือเลย”


หัวใจของกระตุกรุนแรงจนมันแทบจะหลุดลงไปกองบนพื้น ผมรีบพุ่งตัวไปยังประตูห้องทันที ไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำสำหรับเวลาที่ผมใช้ในการเข้าไปอยู่ในห้องที่มีร่างของยีนนอนกองอยู่บนพื้นใกล้กับประตูห้อง ผมก้มลงไปอุ้มยีนขึ้นมา เลือดที่เปื้อนอยู่บนผนังใกล้ๆ กันนั้นให้คำตอบกับผมว่าทำไมมือของยีนถึงได้มีเลือดกรังอยู่ รู้อย่างนั้นผมยิ่งรู้สึกแย่ไปกว่าเดิม


ผมทำให้มันเป็นแบบนี้ ผมทำให้มันต้องมาเจ็บตัว ต้องมาไม่สบายอยู่แบบนี้


อุ้มยีนไปนอนบนเตียงได้ ผมก็รีบหันไปสั่งทีที่ตามเข้ามาในห้องด้วย ให้ไปเอาผ้าขนหนูกับอ่างใส่น้ำมา ก่อนจะไล่ทีออกจากห้องเสียงดังจนแทบเรียกได้ว่าตะคอกด้วยซ้ำ ใจของผมมันร้อนรนไปหมด มือของผมสั่น มันสั่นเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำตั้งแต่จำความได้ ผมเสียใจ ผมกลัวว่ายีนจะไม่สบายหนัก เพราะแค่ตอนอุ้มยีนมา ผมก็รู้แล้วว่าตัวของยีนร้อนมากขนาดไหน


ความรู้สึกผิดท่วมทะลักอยู่ในใจของผม ยิ่งเห็นหน้าซีดเผือด แต่ว่าตัวร้อนระอุ มือที่ช้ำและบวมเลอะเลือดจนแห้งไป ตาที่ปิดสนิทมีคราบบางอย่างเปื้อนอยู่ ตอกย้ำให้ผมรู้ว่าผมทำให้ยีนเสียใจมากแค่ไหน ผมทำร้ายยีน ทำร้ายทั้งจิตใจและร่างกาย ผมมันเป็นคนที่แย่มาก เหี้ยมาก ผมทำร้ายความรู้สึกของตัวเองยังไม่พอ แต่ยังทำให้คนที่รักต้องเจ็บปวดไปด้วย


น้ำอุ่นๆ ค่อยๆ เอ่อออกจากตาของผม หล่นลงบนหน้าของยีนที่ยังนอนนิ่ง ผมจึงต้องรีบปาดน้ำตาออกจากตาของตัวเอง แล้วก็น้ำที่หยดลงหน้าของยีนด้วย ผมพยายามไม่ร้องไห้ ไม่แสดงออกถึงความเสียใจ เก็บมันเอาไว้ข้างใน ให้ลิ้มรสของความทรมานที่ทำให้ยีนต้องเป็นแบบนี้ แต่ผมก็ทำไม่สำเร็จ น้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุดจนผมทนไม่ไหว ดึงตัวของยีนมากอดเอาไว้แล้วได้แต่พร่ำคำคำเดียว


“กูขอโทษ ....ยีน ....กูขอโทษ ..พี่ขอโทษ ...พี่ขอโทษ”


















ยีนทำให้ผมเป็นห่วงตลอดเวลา ผมต้องออกไปทำงานด้วยใจพะวักพะวน ทั้งที่อยากจะเฝ้ายีนอยู่ที่ห้อง แต่ผมก็ต้องยอมอดทนเพราะทีขอเฝ้ายีนเอง ผมทำได้แค่รับปากแล้วเดินออกมา งานไม่คืบหน้าสักนิด เพราะผมมันโง่เรื่องการบริหารอยู่แล้ว พอมาตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ ยิ่งทำให้ผมอ่านอะไรก็ไม่เข้าหัว ได้แต่ทิ้งตัวอยู่บนเก้าอี้อย่างเลื่อนลอย ใจเฝ้าแต่คิดถึงคนที่นอนอยู่บนเตียงว่าจะเป็นยังไงบ้าง จนเย็น ผมถึงได้กลับไปที่เรือนอีกครั้ง และสิ่งแรกที่ผมทำก็คือเข้าไปหายีน เข้าไปดูอาการว่าเป็นยังไงบ้าง


“ยีนเป็นยังไงบ้าง”


“ไข้ลดลงนิดหน่อยแล้วค่ะ พี่ภูช่วยเช็ดตัวให้ยีนหน่อยสิ เปียกไปทั้งตัวแล้ว ทีเช็ดไม่ได้อะ ยีนตัวหนักมาก”


ได้รับฟังคำขอของน้องสาวแล้วผมก็รีบพยักหน้าอย่างไม่ต้องลังเล ทีเลยไปเอาผ้ากับอ่างน้ำมาให้ผมอีกรอบ ก่อนจะออกจากห้องไป ให้ผมได้ทำหน้าที่ดูแลคนป่วยเท่าที่พอจะทำได้ ผมจึงค่อยๆ เช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ยีน


ผมอดไม่ได้ที่จะลูบหน้าผากของมันแล้วเลื่อนมากุมมือที่เล็กกว่าเอาไว้เพื่อถ่ายทอดความห่วงใยให้มันรับรู้ แม้ตอนนี้มันจะไม่สติก็ตาม เพราะหากยีนรู้สึกตัว ผมคงไม่สามารถพูดออกไปได้


“หายเร็วๆ นะ มึง กูเป็นห่วงมึงมาก”


“กูขอโทษที่ทำให้มึงต้องไม่สบายอย่างนี้”


“กูขอโทษที่ทำให้มึงเจ็บ ทำให้มึงเสียใจ แต่ถึงยังไง ...กูก็รักมึงเสมอ”


ผมจูบที่หน้าผากมันเบาๆ แล้วไล่มาที่ปาก พยายามเก็บเกี่ยวความรู้สึกและสัมผัสจากมันให้ได้มากที่สุด ก่อนจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะคิด


“หายเร็วๆ นะมึง”


ผมไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ในความรู้สึกของผมมันนานมากกว่าผมจะยอมทำใจปล่อยยีนไปแล้วเดินออกจากห้องนั้น ให้ทีรับช่วงดูแลต่อ ทั้งที่รู้ว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้อยู่ใกล้มัน


“ทีรักยีนมากใช่มั้ย”


“ค่ะ”


ผมรู้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากจะถามความรู้สึกของทีให้แน่ใจ แล้วพอได้คำตอบ ก็ทำให้ผมเจ็บได้อย่างที่คิด เป็นเรื่องน่าตลกจริงๆ ที่พี่ชายกับน้องสาวมารักคนเดียวกัน แล้วยัง... รักมาก


“ถ้างั้นก็ดูแลมันดีๆ นะ คงใกล้หายแล้ว”


“แน่นอนอยู่แล้ว”


ได้ยินเสียงของทีจบ ผมก็รีบเดินออกจากห้องไป ไม่อยากเห็นรอยยิ้มของทีที่ทำให้ผมปวดใจ ถึงผมจะตัดสินใจว่าจะปล่อยยีนให้กับที แต่ผมก็ยังไม่เก่งพอจะปัดความเสียใจของตัวเองทิ้งได้


ผมไม่เคยรักใครเหมือนมัน


แต่ผมไม่มีทางเลือก ความสุขของน้องสาวมาก่อนตัวผมเสมอ ไม่ว่าจะตอนเด็กหรือว่าโตแล้ว มันก็เป็นสิ่งที่สมควรที่สุด ผมทำถูกแล้ว ยีนไม่ใช่เกย์ ไม่ได้ชอบผู้ชายมาตั้งแต่ต้น กว่าจะยอมรับผม ต้องใช้เวลาตั้งเท่าไหร่ ยีนคงยินดีมากกว่าถ้าได้รักผู้หญิง แล้วยังความสัมพันธ์ของทีกับยีน...


ผมรู้ว่ายีนไม่ใช่สุภาพบุรุษอะไร ที่ผ่านมาก่อนจะเจอผมคงใช้ชีวิตไม่ต่างจากกัสหรือเค เพราะไม่อย่างนั้นป๊าของมันคงไม่สั่งห้ามทำตัวเสเพลอีก แล้วทีกับยีนก็เคยคบกัน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีอะไรเกินเลย ถึงผมจะรู้ว่าน้องสาวไม่ได้เป็นพวกปล่อยตัวหรือใจง่าย แต่... คนเป็นแฟนกัน


นั่นเป็นเหตุผลใหญ่อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมถอยห่างจากยีน คงไม่มีพี่ชายคนไหนปล่อยให้น้องสาวเสียตัวฟรี แล้วเอาแฟนของเขามาเป็นของตัวเองหรอก






















ถามว่าทรมานมั้ย ผมตอบได้เลยว่าผมทรมานมาก ต้องคอยหลบเลี่ยงคนที่รัก ไม่ให้เผชิญหน้ากัน เพราะนับจากวันนั้น ผมก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวยีน เย็นชา ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจว่าผมจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไร ไม่สนใจว่าเราได้เจอกันหรือเปล่า ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผมควรยินดี แต่ความจริงแล้ว ผมกลับรู้สึกเจ็บหนักกว่าเดิม เจ็บยิ่งกว่าที่เห็นทีกับยีนอยู่ด้วยกัน


แต่มันก็สมควรแล้ว สมควรกับการกระทำของผม ผมทำร้ายมันก่อน จะได้รับความรู้สึกนั้นกลับมาก็คงไม่แปลก ก็ดีแล้ว ที่ผมต้องเจ็บปวดคนเดียว มันไม่ต้องมารู้สึกแบบนั้น ผมผิดคนเดียว เพราะงั้นผมก็ควรยอมรับความปวดร้าวในครั้งนี้


อย่าให้ยีนต้องเจ็บเลย ผมคนเดียวก็พอ ผมทนได้


“ทำไมนั่งอยู่คนเดียวซะล่ะ”


วานซืน ทีไปหกล้มอีกท่าไหนไม่รู้จนได้แผลที่เข่ามา ทั้งเมื่อวานและวันนี้เลยไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหน แต่ผมแปลกใจว่าทำไมเธอนั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่นอยู่คนเดียว ทั้งที่น่าจะมีใครอีกคนอยู่ด้วยกัน แล้วตอนนี้ก็สองทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว


“เห็นบอกว่าจะออกไปจองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่บ่ายๆ แล้ว ยังไม่กลับมาเลย”


คำตอบของทีทำให้ผมรู้สึกาช็อกอยู่หน่อยๆ เพราะตามกำหนดการเดิม ผมกับมันจะกลับด้วยกันวันมะรืน แต่นี่มันหนีไปจองตั๋วเครื่องบินคนเดียวโดยไม่บอกผม เกลียดกันแล้วสินะ สมควรแล้วจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็รู้สึกแย่อยู่ดี


“แล้วไม่ห่วงเพื่อน เอ่อ... แฟนของเรามั่งหรือไง แล้วจะกลับมายังไง คุ้มก็ไม่ได้ใกล้ตัวเมืองหรือสนามบิน”


ผมรู้สึกว่าตัวเองขึ้นเสียงมากไปหน่อย พอเผลอสบตากับทีเข้าเลยต้องเบี่ยงหน้าหนีไปอีกทาง คงเพราะผมลืมตัว แล้วก็เป็นห่วงยีนด้วย


“เดี๋ยวทีโทรถามให้นะ”


ผมทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ รอให้ทีโทรหาคนหนีเที่ยว จนได้ความมาว่ายีนอยู่ที่ไหนก็ยิ่งอารมณ์เสีย ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้จนทีต้องหันมาถามอย่างตกใจ


“พี่จะไปไหน”


“ไปรับหมอนั่นไง หนีเที่ยวแล้วไม่บอกใครว่าไปไหน มันควรหรือไง”


“งั้นเดี๋ยวทีบอกยีนก่อนนะ”


แล้วทีก็กลับไปคุยโทรศัพท์อีกรอบ แต่แค่แป๊บเดียวก็หันมาบอกผม


“ยีนบอกว่าจะจ้างรถมาส่ง”


“บอกมันไปว่าไม่ต้อง พี่จะไปรับเอง รออยู่ที่หน้าประตูท่าแพ”


ให้ทีเป็นคนส่งสารต่อ ส่วนผมก็รีบไปเอากุญแจรถมาแล้วบึ่งไปประตูท่าแพทันที และด้วยถนนนอกเมืองที่ไม่ค่อยมีรถวิ่งในเวลานี้ ทำให้ผมเร่งความเร็วได้เต็มที่ แต่ก็ชะลอลงเล็กน้อยเมื่อเข้าสู่ตัวเมือง ก่อนจะไปหยุดและจอดรถบริเวณที่สามารถจอดได้ แล้วจึงเดินไปรอที่จุดนัดหมาย


ผมชะเง้อคอมองหาคนที่รออยู่เพราะกลัวว่ายีนจะหนีผมไปก่อน มองหาอยู่สักพัก ผมก็สะดุดกับร่างสูงโปร่งที่กำลังยืนอยู่หน้าร้านขายสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต แล้วก็เดาไม่ยากเลยว่ามันซื้อไปให้ใคร เพราผมได้ยินเต็มสองหูว่าทีเป็นคนฝากซื้อ


แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดมากไปกว่าการที่ยีนยังไม่ยอมกลับคุ้มก็คือสาวๆ เมืองเหนือที่กำลังเกาะแกะมัน ทั้งที่รู้ว่าผมไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไร แต่ผมก็อดได้ที่จะโมโหอยู่ดี เพราะการที่ผมปล่อยให้ยีนไปหาทื ไม่ได้หมายความว่าผมจะให้ผู้หญิงหรือแม้แต่ผู้ชายคนอื่นมายุ่งกับมันได้


ผมรอยีนซื้อของด้วยความไม่พอใจ จนมันเดินออกมา ผมก็รีบเข้าไปหาแล้วคว้าถุงในมือมันมาถือไว้ ออกเดินนำแล้วยังสั่งให้มันกินของที่ทีฝากซื้อให้หมด จะว่าผมไม่พอใจก็ได้ เพราะผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ หงุดหงิดมาตั้งแต่เห็นมันยืนยิ้มคุยกับผู้หญิงพวกนั้นแล้ว แล้วยังเห็นว่ามันต่อคิวซื้อของให้ทีหลายคิวอีก ผมอดคิดไม่ได้เลยว่าตอนคบกัน ทีจะถูกยีนเทคแคร์ดีแค่ไหน ทั้งที่ตอนที่มันคบกับผม แทบนับครั้งได้ ที่มันทำอะไรดีๆ ให้ผมก่อน


รถออกตัวค่อนข้างกระชาก แล้วก็เป็นอย่างนั้นมาตลอดทาง กระทั่งถึงคุ้ม ผมแย่งมันถือของ มันก็หงุดหงิดใส่ แล้วยังคำพูดที่ตีตัวออกห่างนั่นอีก พูดอย่างสุภาพ แต่ให้อารมณ์ประชดประชัน


สิ่งที่มันไม่รู้ก็คือ ความเฉยชาที่มันแสดงออกมาเหมือนแท่งน้ำแข็งที่เหลามาอย่างดี พุ่งปักลงมาบนอกของผม เลือดไม่ไหล เพราะความเย็นเยียบนั้นทำให้ความเจ็บปวดแข็งตัว อัดแน่นอยู่ในหัวใจจนทรมาน แต่สิ่งเดียวที่ผมทำได้ก็คือ การนิ่งเฉย ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร ก่อนจะแยกย้ายกันไป



















ผมนอนแผ่อยู่บนเตียง คิดอะไรมากมายกับเรื่องที่ผ่านมา ตอนที่ผมรู้จักกับยีน ตอนที่ผมแกล้งมัน ตอนที่ผมเอาแต่คิดถึงมัน ตอนที่มันหน้าแดงเพราะผม ตอนที่... เราจูบกัน ผมกอดมันครั้งแล้วครั้งเล่า ช่วงเวลาที่ผมมีความสุข แต่ตอนนี้มันไม่มีคำนั้นเหลืออยู่แล้ว


เสียงถอนหายใจดังอยู่หลายครั้ง เพราะถึงจะบอกว่าผมถอยห่างจากมันมา ผมก็ยังทำใจไม่ได้ ผมตัดใจจากมันไม่ได้ และผมก็ไม่คิดที่จะตัดใจ มันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมผมต้องเลิกรักมัน แต่ถ้ามันจะเลิกรักผม ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง


“หลับหรือยังคะ”


ไม่รู้ว่าตอนไหนที่ทีเข้ามาในห้อง แต่พอได้ยินเสียง ผมก็รีบลุกพรวดขึ้นนั่ง มองหน้าน้องสาวที่ส่งยิ้มให้ รอยยิ้มที่สดใส ไม่มีพิษมีภัยอะไรกับใคร


“มีอะไรหรือเปล่า”


“ทีอยากมาคุยกับพี่ภู”


“มาคุยอะไรกับพี่”


ผมพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ไม่แสดงออกถึงความรู้สึกย่ำแย่ที่ครอบคลุมอยู่ในใจทั้งหมด ขณะที่ทีเดินมานั่งข้างๆ ผมบนที่นอน


“เรื่องของยีน”


หัวใจของผมกระตุกไปหนึ่งจังหวะแรงๆ แต่ผมก็ไม่แสดงออกทางสีหน้า และจ้องหน้าทีที่มองตอบผมอย่างไม่หลีกเลี่ยง


“ทีรู้นะว่าพี่กับยีนรักกัน”


“ว่าอะไรนะ”


ผมค่อนข้างตกใจ ไม่ล่ะ ตกใจมากที่ทีพูดแบบนี้ออกมา ผมไม่ได้แสดงออกด้วยซ้ำว่าผมรู้สึกยังไงกับยีน ไม่ได้ทำให้ทีเห็นว่าผมรู้สึกกับยีนมากเกินกว่ารุ่นน้อง ผมแทบไม่ได้อยู่กับมันเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไมทีถึงพูดแบบนี้ แล้ว... ทีพูดออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน


“อย่าปิดบังเลย ทีรู้แล้ว แล้วทีก็ไม่โกรธด้วย แต่ทีอยากมาขอโทษพี่ภู”


“ขอโทษพี่? ทำไม”


จากตกใจ ตอนนี้ผมกลับงงแทน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกว่าก้อนเนื้อในอกไหวระรัว ยังไม่เข้าใจว่าทีรู้ได้ยังไง


“ที... ทีทำให้คนที่รักกันผิดใจกัน ทีขอโทษนะคะ ตอนแรกทีไม่รู้ ทีก็แค่อยากเล่าให้พี่ฟังเฉยๆ ว่าทีได้เจอแฟนเก่า แต่ทีไม่คิดว่าพี่จะเปิดโอกาสให้ทีกับยีนได้อยู่ด้วยกัน”


ผมพูดอะไรไม่ออก รู้สึกว่าคำพูดมันจุกอยู่ในคอ ได้แต่ฟังคนตัวเล็กพูดต่อ


“แต่พอทีรู้ ทีก็ยังไม่ทำอะไร ทียังปล่อยให้เป็นแบบนั้น จนทีมารู้ว่ายีนจะกลับ ทียอมรับไม่ได้ ทีทำใจไม่ได้ที่ยีนจะกลับทั้งที่ยังผิดใจกับพี่อยู่”


ความเสียใจของทีผมรับรู้ได้ เพราะตอนนี้ตาของทีกำลังเคลือบด้วยน้ำใสๆ ทำให้ผมรู้สึกปวดใจขึ้นมาอีกที่ทำให้น้องสาวร้องไห้ ผมดึงตัวทีมากอดเอาไว้ แล้วลูบหัวเบาๆ


“บอกพี่ซิ ทีรู้ได้ยังไง”


“คือ... ที วันที่ยีนไม่ได้สบาย พี่จะเช็ดตัวให้ยีนเลยไล่ทีออกไปนอกห้อง แต่ทีออกมานานแล้วพี่ก็ยังไม่ออกมา ทีเลยเปิดประตูเข้าไปดูว่ามีอะไรหรือเปล่า แล้วทีก็เห็นว่าพี่กอดยีนอยู่ เอาแต่พูดว่าขอโทษ ทีไม่เคยเห็นพี่ร้องไห้เลยสักครั้ง แต่พี่กอดยีนร้องไห้ ทีก็เลยรู้ว่าทีทำผิด”


คำอธิบายทั้งหมดทำให้ผมเข้าใจว่าทีคงรู้สึกแย่ไม่ต่างกัน ผมเลยกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก เพื่อบอกให้ทีรู้ว่าผมไม่ได้จะต่อว่าอะไรเลย


“มันถูกแล้วล่ะ ทีกับยีนควรจะคู่กัน ไม่ใช่พี่”


“ทำไมพี่พูดแบบนี้ล่ะ ยีนเขารักพี่นะ แล้วพี่ก็รักยีน ไม่ใช่ที ถึงทีจะรู้สึกกับยีนอยู่บ้าง แต่มันผ่านมาปีหนึ่งแล้วนะคะ ความรู้สึกมันไม่มากเท่าเดิมแล้ว ทีไม่ได้รักยีนมากเหมือนแต่ก่อน เป็นพี่ต่างหากที่รักยีน”


ผมรู้ว่าทีกำลังพยายามเสียสละ แต่ไม่ได้หรอก ผมต่างหากที่ควรทำแบบนั้น ทีเป็นน้องสาวคนเดียวของผม ผมจะต้องทำให้เธอมีความสุข ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง


“แต่ทีกับยีนเคยมีอะไรกันแล้ว พี่.. พี่ยอมรับได้หรอกที่จะเอาแฟนน้องสาวมาเป็นของตัวเอง”


“พี่ภู”


ทีดูตกใจมากที่ผมพูดแบบนั้น แต่มันก็คือความจริงที่ผมต้องยอมรับ


“พี่รู้ว่าทีไม่ใช่คนใจง่าย แต่ยีนเป็นคนที่ทีรัก พี่เข้าใจ แล้วพี่ก็รู้ว่ายีนเป็นคนแบบไหน”


“ไม่ใช่นะ มันไม่ใช่แบบนั้น” ทีส่ายหัวแล้วพยายามดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของผม “ที่พี่ยอมห่างกับยีนแล้วเปิดโอกาสให้ทีก็เพราะแบบนี้เหรอ”


ถูกเจาะถาม ผมก็อ้ำอึ้ง ตอบไม่ถูก แต่เพราะโดนสายตาคาดคั้นของที จึงยอมตอบไป


“ก็.. ส่วนหนึ่ง”


“พี่ภูบ้า ทำไมไม่ถามทีก่อน ทีกับยีนไม่เคยมีอะไรกันนะ”


ผมรู้สึกว่าตาของตัวเองเหลือกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น แถมยังพูดอะไรไม่ออกด้วย ทุกอย่างมันดูกลับตาลปัตรไปหมด


“ทีไม่เคย?”


“ก็ไม่เคยน่ะสิ”


ทีพูดเสียงแข็งเหมือนโกรธที่ผมคิดว่าเป็นอย่างนั้น แต่การคาดเดาของผมไม่ได้ผิดไปเสียทีเดียว เพราะทีอ้ำอึ้งบอกมา


“จริงๆ ก็มีโอกาสแหละ แต่ว่ายีนเขาไม่ทำ”


“ไม่ทำ?”


ผมค่อนข้างงงนะ ที่ทีบอกว่ายีนไม่ทำ ทั้งที่คนอย่างไฮยีนที่น่าจะไม่ปฏิเสธใคร และไม่เคยให้ใครปฏิเสธ ไม่ทำเรื่องแบบนั้นทั้งที่มีโอกาส


“ใช่ เมื่อกี้ทีเพิ่งไปถามยีนมาเอง รู้มั้ยยีนตอบว่าอะไร”


ทีถาม แต่เหมือนไม่ต้องการคำตอบมากกว่า และผมเองก็ส่ายหัวตอบไป เพราะไม่รู้จริงๆ ยีนมักทำอะไรเหนือความคาดหมายของผมเสมอ


“ยีนบอกว่าทีจริงจังกับยีนเกินไป ยีนทำไมไม่ได้เพราะเดี๋ยวจะโดนทีจับ ตลกใช่มั้ยล่ะ ยีนน่ะ บอกว่าจะยอมมีอะไรกับคนที่ไม่จริงจังกับตัวเองเท่านั้น เพราะกลัวปัญหาตามมาทีหลัง”


ไม่รู้ว่าทำไม แต่ตอนนี้เหมือนมุมปากของผมพยายามจะยกตัวขึ้น หรือผมจะดีใจที่ทีกับยีนไม่เคยมีอะไรกันอย่างที่ผมคิด ถ้าอย่างนั้น ผมจะทำยังไงต่อดี แต่ที่แน่ๆ ความรู้สึกที่เหมือนเมฆดำคลุมมาหลายวันตอนนี้เหลือเพียงหมอกขาวจางๆ


“ว่าแต่พี่เถอะ เคย... กุ๊กกิ๊กๆ อะไรกับยีนหรือยัง”


“คิดอะไรของเราน่ะ” ผมเขกหัวของทีไปเบาๆ ทีเห็นสีหน้าทะเล้นถามมาแบบนั้น ก่อนจะถามถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง “ที... ไม่ได้รักยีนแล้วจริงๆ เหรอ”


“อืม ไม่ได้รัก ก็แค่ชอบ นิดๆ หน่อยๆ”


ไม่ตอบแค่อย่างเดียว แต่เธอยังเอานิ้วโป้งมาแตะที่ปลายนิ้วก้อยเพื่อบอกปริมาณเสียอีก


“แน่ใจเหรอ จะไม่เสียใจเหรอ”


“คนที่เสียใจน่ะ เป็นพี่ต่างหากถ้าเกิดว่าทีคบกับยีนต่อไป”


“พี่เข้าใจแล้ว ขอบใจนะ”


ตอนนี้เหมือนทุกอย่างกระจ่างแล้ว และมันก็ทำให้ผมเหมือนคนที่บ้าไปเองคนเดียว ทำทุกอย่างเพราะคิดว่ามันถูกต้อง แต่จริงๆ แล้วมันกลับเป็นน้ำที่ระหายไปจนมองไม่เห็นด้วยตา


“ถ้างั้นก็... พรุ่งนี้ง้อยีนให้ได้นะคะ ทีบอกยีนไปแล้วล่ะว่าทีรู้เรื่องพี่กับยีนแล้ว เพราะงั้นก็ไม่น่าจะยาก แล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรด้วย จะมีก็แต่... พี่จะหาทางคืนดียังไงเท่านั้น”


“นั่นแหละ ที่ยากที่สุด”


ผมดึงทีมากอดอีกครั้ง คล้ายกับเป็นการขอบคุณไปในตัว พลางคิดว่าควรจะทำยังไงกับพรุ่งนี้ เพื่อไม่ให้คนที่ผมทำผิดด้วยหนีกลับไปกรุงเทพก่อน และยอมอภัยให้กับความคิดงี่เง่า ทำอะไรไปโดยพลการของผม







อ่านต่อด้านล่าง

v

v




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2012 00:11:20 โดย undersky »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ undersky

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-0
    • Undel2Sky's Facebook ♥
ต่อจากข้างบน

v


v









แม้แต่วันที่บอกว่าจะกลับ ยีนก็ยังไม่มองหน้าผม ที่โต๊ะกินข้าว หรือกระทั่งตอนที่พ่ออวยพรเสร็จแล้ว เพราะงั้นผมเลยต้องอาศัยจังหวะเดียวทีเหลืออยู่ ดึงมันเอาไว้ตอนที่กำลังจะออกจากบ้านไป และผมก็บอกทีแล้วไม่ต้องตามลงมา ไม่ต้องให้ใครไปส่งยีน เพราะมันจะไม่ได้กลับวันนี้ แต่ต้องกลับพรุ่งนี้พร้อมผม


ยีนทำไมหน้าไม่พอใจแบบโคตรมากตอนที่ถูกผมดึงกระเป๋าเสื้อผ้าของมันเอาไว้ แล้วก็ไม่ใช่แค่สีหน้าที่แสดงออกว่าไม่พอใจ เพราะมันพยายามยื้อตัวประกันไว้สุดแรง แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะผมดึงตัวมันมากอดเอาไว้ก่อน ผมอยากให้มันรับฟังเหตุผลของผม ถึงจะเป็นเหตุผลงี่เง่าที่ไม่สมควรมีก็ตาม แต่ประโยคที่หลุดออกมาจากปากของมันทำให้ผมอึ้ง


“พี่จะให้ผมอยู่ที่นี่ต่อไปทำไมล่ะครับ หรือว่า... อยากให้ผมมาเป็นเขยของที่นี่ แม่ของพี่ยิ่งอยากได้ผมเป็นลูกเขยอยู่”


ผมไม่รู้เลยว่าแม่พูดอะไรกับมันเอาไว้ แล้วยีนพูดจริงหรือเปล่า แต่มันก็ทำให้ผมใจหล่นวูบลงไปที่ก่อนแล้ว ผมรู้ได้เลยว่าตอนนี้สีหน้าของผมกำลังเป็นยังไง ผมสบตามันด้วยแววตาแบบไหน ผมเสียใจ ผมผิดเอง และผม... ไม่ต้องการเสียมันไปอีกแล้ว


“กูขอโทษ”


ไม่รู้ว่าเสียงของผมเป็นยังไงนอกจากความอู้อี้เพราะผมเอาหน้าซุกกับซอกคอมันเอาไว้ กระชับอ้อมกอดเอาไว้ให้ผมได้รับรู้การมีตัวตนของยีนมากขึ้น


ผมอยากอยู่อย่างนี้ อยากกอดยีนเอาไว้นานๆ


“มาขอโทษอะไรตอนนี้”


แต่สิ่งที่ตอบรับกลับมาตรงข้ามกับสิ่งที่ผมต้องการโดยสิ้นเชิง เพราะเสียงของมันแข็งกร้าว และยังพยายามจะดันตัวผมออก ผมเลยต้องออกแรงกอดมันให้มากกว่าเก่า


“มึงฟังกูก่อนได้มั้ย กูผิดไปแล้ว ฟังกูก่อนนะ”


“มีอะไรที่ผมต้องฟังด้วยเหรอครับ” มันเงยขึ้นมองผมด้วยแววตามหยามหยัน “ผมเข้าใจหมดทุกอย่างแล้ว”


“กูขอโทษ กูผิดที่ถอยห่างจากมึงมา แต่กูมีเหตุผล กู... กู”


“ไม่ต้องพูดหรอกครับ มันจบแล้ว ผมไม่อยากฟัง”


มันหันหน้าหนีผมไปอีกทางเพราะไม่สามารถหลุดออกจากอ้อมกอดของผมได้ แต่ผมประคองหน้าของมันให้หันกลับมา


“แต่มึงต้องฟัง กู... กูก็แค่เข้าใจผิดคิดว่ามึงกับทียังรักกันอยู่”


ในที่สุดผมก็พูดออกมาได้ แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมากลายเป็นท่าทีไม่ยี่หระของคนที่ผมต้องการอธิบายความผิดพลาดให้ฟัง


“แล้วไงครับ ตอนนี้ผมกับทีก็รักกันดี”


“อย่ามาประชดกูเลย ทีบอกกูแล้วว่าระหว่างมึงกับทีไม่มีอะไร ทีไม่ได้รักมึงแล้ว แต่เป็นกูนี่ที่ยังรักมึงอยู่”


“รัก? อย่าพูดอะไรตลกๆ หน่อยเลยครับ”


“เกงยีน มึงเข้าใจกูนะ ทีเป็นน้องสาวกู กูคิดว่ามึงกับทียังรักกัน แล้วกูก็ทำให้น้องเจ็บปวดไม่ได้”


“เลยทำผมแทนว่างั้น”


ท่าทีกร้าวร้าวแสดงออกมาให้ผมเป็นอย่างชัดเจน ตั้งแต่ที่รู้จักกันมาผมเพิ่งเคยเห็นมันในรูปแบบนี้เป็นครั้งแรก ในช่วงที่เราเพิ่งรู้จักกัน มันไม่ชอบผมก็จริง แต่ก็ไม่ได้เป็นถึงขนาดนี้ ไม่ได้ทำให้ผมสะอึกและหน้าชาอย่างตอนนี้


“กูไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น กู... กูเป็นพี่ชาย มึงเข้าใจความรู้สึกกูมั้ย พี่ชายที่อยากปกป้องน้องสาว พี่ชายที่อยากให้น้องสาวมีความสุข แล้วกูก็... คิดว่ามึงกับทีมีอะไรกันแล้ว กูก็เลยไม่อยากให้น้องเสียตัวฟรี มึงเข้าใจกูมั้ย กูไม่อยากให้ผู้ชายมาเอาเปรียบน้องกูแล้วก็ทิ้งไป”


“พี่คิดว่าผมมีอะไรกับที?”


“ก็.. มึงก็น่าจะรู้ตัวว่ามึงเป็นยังไง แล้วจะไม่ให้กูคิดได้ยังไง ไม่ใช่ว่ากูอยากให้เป็นแบบนั้น แต่พอคิดว่ามึงกับทีเคยเป็นแฟนกัน กูก็ตัดความคิดนั้นไม่ได้ แต่ตอนนี้กูรู้แล้วว่ามึงกับทีไม่เคยมีอะไรกัน ทีบอกกูแล้ว แล้วก็บอกด้วยว่าทีไม่รักชอบอะไรมึงแล้ว”


“ทีบอกแล้วพี่ก็เชื่อ?”


“กู...”


“ไม่คิดว่าทีโกหกหรือไง พี่ก็รู้ดีนี่ว่าผมเป็นคนยังไง ผมจะพลาดเหรอ”


“กูเชื่อ มึงอย่ามาทำให้กูเขวเลย มึงให้อภัยกูเถอะนะ กูขอร้องมึงจริงๆ กูยอมรับผิดทุกอย่าง กูมันโง่เอาที่คิดไปเองคนเดียว กูยังรักมึง กูรักมึง เข้าใจหรือเปล่า”


ผมพยายามพูดเพื่อให้ยีนใจอ่อน แต่กลับไม่มีอะไรที่ทำให้ผมเชื่อมั่นได้เลยว่ามันจะยอมอ่อนให้ผม แววตาของมันยังสงบนิ่ง แฝงแววเชือดเฉือนผมเสียด้วยซ้ำ


“เข้าใจสิ เข้าใจว่าเพราะทีบอกอย่างนั้น พี่ก็เลยรีบมาขอโทษผม หน้าด้านจังนะครับ”


“เกงยีน...” ผมเรียกมันเสียงอ่อน เพราะดูเหมือนมันจะไม่ยอมให้อภัยผมเลย “มึงบอกกูมา มึงจะให้กูทำอะไร กูจะยอมมึงเท่าที่กูทำได้ ขอแค่มึงยอมให้อภัยกู หายโกรธกู”


ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยยอมใครขนาดนี้มาก่อนในชีวิต นอกจากคนในครอบครัว แต่ตอนนี้ผมกำลังกลายเป็นไอ้ขี้แพ้ต่อหน้ามัน แต่ศักดิ์ศรีของผมไม่มีเหลือตั้งแต่ได้รู้จักกับมัน เพราะงั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ สิ่งที่ผมควรแคร์มากที่สุดก็คือยีน


“ถ้าผมสั่งพี่ให้ไปตายพี่คงไม่ทำ”


“เกงยีน มึงโกรธกูขนาดนั้นเลยเหรอ”


“หึ แล้วพี่คิดว่าความเสียใจของผมมีค่าเท่าไหนล่ะครับ”


“กูขอโทษ”


“แล้วความเจ็บปวดของผมมันไร้ค่าหรือไง”


น้ำเสียงของมันเยียบเย็นกว่าครั้งไหนๆ จนใจของผมสั่นไปหมด กลัวว่ามันจะไม่ให้อภัย ผมไม่มีอะไรไปต่อรองกับมันแล้ว


“กูทำผิดกับมึง กูสำนึกผิดแล้ว ยกโทษให้กูเถอะนะ”


“พี่คิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลย”


“ก็ทำให้มันง่ายหน่อยได้หรือเปล่า”


ผมต่อรองด้วยเสียงอ้อนๆ แล้วก็แทบกระโดดตัวลอยกับคำตอบของมัน


“ก็ได้ งั้นสาบานมา”


“สาบาน?”


“ใช่ ไม่ต้องถามมากแล้วพูดตามผม หรือทำไม่ได้”


“ทำได้ ทำได้ครับ”


“ดี งั้นยกมือขึ้น”


ถึงจะยังงงๆ อยู่ แต่ผมก็ยกมือขึ้นมาสูงระดับหน้าของตัวเอง ซึ่งยีนก็ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เริ่มประโยคที่ผมต้องสาบาน


“ข้าพเจ้า นายชมภู บริวัตรสหการ ขอสาบานว่า ข้าพเจ้ารัก นายพชร วัฒนกิตติพงศ์ เพียงคนเดียว จะไม่นอกใจ และจะเอาใจ”


ผมเกือบยิ้มออกมากับประโยคแรก พลางคิดว่าถ้าให้สาบานแบบนี้ก็ดีสิ ไม่เห็นจะร้ายแรงตรงไหนเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ขอใส่ความรู้สึกของตัวเองเข้าไปหน่อย


“ข้าพเจ้า นายชมภู บริวัตรสหการ ขอสาบานว่า ข้าพเจ้ารัก นายพชร วัฒนกิตติพงศ์ เพียงคนเดียว จะไม่นอกใจ และจะเอาใจใส่”


แต่ดูเหมือนยีนจะไม่เห็นด้วยกับผมเท่าไหร่ ถึงได้ถลึงตาให้ ผมก็เลยยิ้มให้นิดๆ แสดงความจริงใจว่าผมจะทำอย่างนั้นจริงๆ


“ขอสาบานว่าจะไม่ทำให้ นายพชร วัฒนกิตติพงศ์ ผิดหวัง เสียใจ หรือเจ็บปวด จะทำตามที่ นายพชร วัฒนกิตติพงศ์ บอกโดยไม่คัดค้านหรือโต้แย้ง และจะไม่กระทำการเชี่ยๆ หมาๆ อย่างที่แล้วมาอีก”


คราวนี้ผมมองหน้ายีน รู้สึกไม่ค่อยอยากพูดเท่าไหร่เพราะช่วงค่อนๆ ท้ายประโยค ไอ้เรื่องไม่ทำให้เจ็บปวดหรือเสียใจ ผมน่าจะทำได้ เพราะมีบทเรียนจากครั้งนี้แล้ว แต่ไอ้ที่ว่าไม่คัดค้านโต้แย้ง ผมคงทำไม่ได้ชัวร์ๆ แล้วนี่ยังถูกด่าทางอ้อมว่าเป็นหมาอีก


แต่ใช่ว่าจะทำอย่างใจได้ เพราะยีนจ้องหน้าผมเขม็ง ใช้ตาคู่นั้นบีบบังคับให้ผมพูด ผมก็เลยต้องพูดออกไปอย่างช่วยไม่ได้ ถึงจะอึกอักสักหน่อยก็เถอะ และผมก็หวังว่ายีนจะเปลี่ยนใจทีหลัง ไม่โหดร้ายกับผมถึงขนาดนั้น


“หากข้าพเจ้าไม่สามารถทำตามคำสาบานของข้าพเจ้าได้ ขอให้ถูกกะเทยยักษ์เอาตูดร้อยที”


ผมชะงักหลังได้ยิน เพราะไอ้ประโยคที่ยีนให้ผมสาบานเมื่อกี้มันโคตรน่ากลัว แล้วผมก็รู้อยู่แก่ใจว่าผมคงจะทำไม่ได้ แต่ยีนยังพูดต่อ


“ถูกกระทืบพันครั้ง”


เหงื่อของผมเริ่มตกกับประโยคต่อมา ทั้งโดนกะเทยเอาตูด แล้วยังให้โดนกระทืบอีก แฟนใครว่ะ โคตรโหดเลย กลัวชักกลัวๆ มันแล้วว่ะ


“และจู๋ด้วนใช้การไม่ได้ตลอดชีวิต”


มาถึงอันสุดท้ายผมพูดไม่ออกแล้ว มันยิ่งกว่าไอ้ข้อข้างบนๆ นั่นอีก แต่พอผมไม่พูด ยีนก็เขม็งตาใส่ บังคับให้ผมเลือกระหว่างพูดหรือไม่พูด ถ้าไม่พูดก็จบกัน แล้วผมจะทำยังไงได้ ก็ต้องแพ้อีกเหมือนดิม ผมค่อยๆ พูดออกมาอย่างยากลำบาก


“ข้าพเจ้าของสาบาน”


จบคำของผม ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น แต่มันไม่ได้ออกมาจากปากของผม และก็ไม่ได้ออกมาจากปากของยีน แล้วมันมาจากไหน


ผมหันไปมองรอบตัว มองอย่างละเอียดถี่ถ้วน และก็ได้เห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ที่เฉลียง ทั้งสามคนต่างมองมาที่ผมกับยีน  และไม่ต้องเดาว่าเสียงหัวเราะนั้นมาจากใคร ...เสียงจากคนในบ้านของผม


พอเห็นอย่างนั้นผมก็คว้ามือของยีนมาจับเอาไว้ทันที เราสองคนมองหน้ากัน หัวใจที่เต้นเป็นปกติเมื่อกี้ ตอนนี้กำลังเร่งจังหวะอย่างหวาดหวั่น และผมก็รับรู้ได้ว่ายีนคงไม่ต่างกัน เพราะตอนนี้คนทั้งบ้านคงรู้แล้วว่า... ผมกับยีน เป็นอะไรกัน







===================
กลับมาแล้วค่ะ แต่พร้อมหายตัวเสมอ  :z10:

เดือนที่แล้วหลายอย่างที่ต้องทำมันมาพร้อมๆ กัน เลยไม่ได้แต่ง
ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ให้รอเป็นเดือน
ขอบคุณคนที่ยังรออ่านอยู่จริงๆ ค่ะ


ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วนะคะ


Undel2sky



 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2012 16:14:46 โดย undersky »

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
โหยยย รอนานมากค่าแต่ก็รักคนแต่งเหมือนเดิมม อิอิ

พี่ชมพูนี่เกือบทำให้ดราม่าแล้วนะรู้มั้ย อ่านไปแบบมึนๆ หน่วงๆ ก็รู้ว่ารักน้อง

แต่คุณพี่ลืมนึกถึงความรู้สึกของยีนอ่ะ น่าจะถามก่อนแต่นี่เล่นทิ้งห่างให้น้องเลย เกงยีนเจ็บปวดน้าา

ว่าแต่ว่าทั้งบ้านรู้ถึงความรักของพี่ภูกับยีนแล้ว? รับได้ด้วย? โอ้ววจอร์ดดด

ตอนจบแฮปปี้เอ็นดิ้งแน่ค่าาา รอตอนหวาน อิอิ

ปอลอ. คำสาบานนั่นเกงยีนเล่นงานได้เจ็บแสบค่า ชนะเริดด  o13 o13

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เกือบไปแล้วไม๊ล่ะพี่ภู แต่ว่า คำสาบานน่ากลัวมากๆอิอิ

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
ขอบคุณจริงๆที่น้องยีนส์ไม่งี่เง่า เฮ้ออออออออ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
แหมๆๆๆๆ อยากจะขอก้านคออิพี่ภูซักทีเป็นการลงโทษ


คิดเอาเองไปโลกหน้าจนเรื่องวุ่นวายไปหมด
น่าหมั่นไส้อ่ะ สาบานแค่นี้มันยังน้อยไป
ต้องเพิ่ม หมดสมรรถภาพเป็นการถาวร

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
แงงงงงงงง เค้าจะร้องไห้งอแง หายไปนานง่า ตอนมาม่าอี๊ก T^T
กลับมาครั้งนี้กำลังคืนดีกันแล้ว แต่ค้างอีก แอร้ยยยยยยย ฮืออ
ว่าแต่ยีนส์ยกโทษง่ายไปอะ เป็นเราจะหนีกลับแล้วให้มาตามง้อหนักๆ จะได้เข็ด หึหึ

+เป็ด

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
น้องยีนช่างน่ารัก กรี๊ดดดดดดดด!!!!!!!!!! :-[ :o8: :impress2:

เป็นคำสาบานที่สุดสยองเลยอ่ะ  o22

เอาซี๊พี่ชมพู ลองทำน้องเกงยีนเสียใจอีกซี๊ 5555555555 :laugh: :m20:


sunshadow

  • บุคคลทั่วไป



     เหอๆๆ ไหงจบฮาๆอย่างงี้ล่ะ
     ไอ้ที่เครียดๆมันหายไปไหนหมด
     แล้วนี่แอบดูกันทั้งบ้านเลยเหรอ




ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ดีกันซะที
แต่พี่ภูอ่ะคิดตื้นไปมั้ย
น่าตีจริงๆ
คำสาบานยีนเจ๋งมาก
ลองดูสิสาบานไปแบบนี้จะกล้าทำผิดอีกมั้ยพี่ภู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ordinary

  • บุคคลทั่วไป
ตอนหน้าจบแล้ว  :a5:
ตอนนี้น้องยีนเอาคืนได้สะใจมาก 55

ออฟไลน์ zelesz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ทำไมจะจบเร็วเยี่ยงนี้ -0-
ดีใจละครับที่อุส่ามาต่อหลังจากที่หายไปน๊านนาน
ยังไงก็รอตอนสุดท้ายตอนหน้านะครับ

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
โหดชิบหายยยยยยยยย 5555555555555555555555555555555555555555555555555555555

bryden

  • บุคคลทั่วไป
คือ อีน้องทีดอกทองมากอ่ะ หน้าด้านจริงๆมาขออยู่กับผู้ชายตามลำพัง
อีพี่ชายนี่ก็งี่เง่า คิดเองเออเอง แล้วก็คิดได้นะว่าไม่อยากให้น้องเสียตัวฟรี
โทษนะ ถ้าคิดว่าน้องสาวตัวยอมเสียตัวให้แฟน งั้นน้องยีนรงไม่ใช่ผัวแรกและผัวสุดท้ายอ่ะ


ทำเขาเจ็บปวดเจียนตาย เลือกที่จะทำร้ายคนที่ตัวบอกว่ารัก
แล้วมาตามง้อขอให้เขายกโทษง่ายๆ รึไง

แต่อีน้องยีนดันยอม ก็เอาเหอะ ทำตัวให้ดีๆอย่างที่สาบานล่ะ

จบโหมดโหดแล้ว เรารออะไรที่หวามๆหวานๆอยู่นะ

อยากกินไข่พะโล้ โปะ

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
เรื่องที่ทำให้ตัวเองเจ็บปวดเนี่ย พี่ภูทำตัวเองแท้ๆ :เฮ้อ:
แต่ยีนก็น่ารัก ตลกกับคำสาบานด้วย จะโหดไปไหนเนี่ย :m20:

ออฟไลน์ nong PeePee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
น่ารักมากๆคู่นี้ดีกันแล้วอิอิ  :-[

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
โอ๊ะลืมถามมม เรื่องนี้จะจัดทำหนังสือมั้ยค่ะ อยากเก็บไว้^^

ออฟไลน์ Momichi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ยังไงก็ยังรู้สึกหมั่นไส้อีพี่ภูอยู่ดี ชริชะ คิดเองเออเอง เอาแต่ความคิดความรู้สึกตัวเองเป็นใหญ่ เข้าโหมดนางเอกน้ำเน่าหลังข่าวมากๆๆ
น้องยีนส์ต้องเอาให้เข็ดนะ อย่ายอมง่ายๆๆ แค่สาบานมันยังน้อยไป ชริ ทำน้องยีนเค้าร้องไห้ ต้องโดนอย่างสาสม เอาใจสู้ช่วยน้องยีนส์ กำหราบพี่ภูเอาให้อยู่หมัด จะได้เข็ด ชริ

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
น้องยีนให้อภัยง่ายอะ พี่ภูน่าจะโดนเยอะกว่านี้อีกหน่อยนะ
ทำน้องเสียใจขนาดนี้ :z10:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด