(ต่อ)
“เรื่องนั้น...คงเพราะกูดูเหมือนจะสนิทกับจี้มากกว่าคนอื่นล่ะมั้ง พวกเพื่อนก็เลยชอบล้อว่าพวกกูเป็น ผัว-เมีย กัน..นานๆ จี้ก็ขึ้นไปดูแลความเรียบร้อยบนห้องกูให้บ้าง...มีหลายเรื่องที่กูเล่าให้มันฟัง..ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ...จะบอกว่ามันรู้จักกูดีกว่าคนอื่นก็คงไม่ผิด..แต่ก็ไม่ได้รู้ไปหมดทุกอย่างหรอก...เชิญคำถามต่อไปได้เลยครับท่านอาจารย์” เอี้ยฟ้ายิ้มน้อยๆ คล้ายกำลังล้อเลียนผม
ผมทำเป็นไม่ใส่ใจแล้วยิงคำถามต่อตามที่มันขอ “ที่พูดเมื่อวานหมายความว่าไง? ..ที่บอกว่า..ยินดีด้วย..”
“ก็ตามนั้น” มันตอบสั้นๆ แล้วเปลี่ยนไปพัดให้ตัวเองบ้าง
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..ผมไม่ควรตีความมากกว่าสิ่งที่ได้เห็นหรือได้ยินสินะ อะไรวะ? บางครั้งความคิดมันก็ซับซ้อนซะจนผมคิดไม่ถึง แต่บางครั้งมันก็ไม่ได้คิดอะไรเลยแบบนี้ ..ตกลงมันเป็นคนยังไงกันแน่เนี่ย?
“แล้วมึงทำยังไงกับเมมฯนั่น?” มันถามผมกลับบ้าง
“หักทิ้งชักโครกไปแล้ว” ผมตอบพลางนึกถึงเมื่อวานเย็นตอนกลับถึงคอนโด ..ตอนแรกผมก็ลังเลแหล่ะว่าควรจะทำยังไงดี แต่พอลองเปิดดูแค่ไม่กี่วินาทีแรกผมก็ดึงมันออกมาหักแล้วโยนลงชักโครกแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย
“ดีแล้วล่ะ” มันพึมพำพลางพยักหน้าเห็นด้วย
“กูนึกว่าไอ้โรคจิตอย่างมึงจะเสียใจซะอีกที่ได้ยินแบบนี้” ผมล่ะไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ
“มึงแค่พูดให้กูเสียใจเหรอ?” มันถามหน้าซื่อ
“กูทำจริง!”
“อ้อ.. งั้นก็ดีแล้วล่ะ..มีเรื่องไม่คาดฝันมากมายเกิดขึ้นบนโลกใบนี้..ถ้าไม่ทำลายทิ้งซะ...ซักวันมันอาจจะตกไปอยู่ในมือของคนอื่น...ถึงตอนนั้นกูคงได้เสียใจจริงๆ” มันพูดเสียงเรียบเรื่อย แล้วกลับมาพัดให้ผมอีกครั้ง
“กูสิต้องกังวลเรื่องนั้น มันคลิปของกู มึงเกี่ยวอะไรด้วย?”
“มึงพูดก็ถูก...แต่กูไม่อยากให้คนอื่นเห็นมึงโป๊น่ะ” คำพูดของมันทำเอาผมเริ่มร้อนขึ้นมาอีกรอบ แต่ประโยคถัดมานี่ทำผมอยากหักคอมันทิ้งจริงๆ
“...เออ ซันนี่ นอกจากกูแล้ว...มึงเคยแก้ผ้าต่อหน้าใครอีกมั้ย? โอ๊ะ..”
ผมเตะหน้าแข้งมันไปเต็มแรง คนเอี้ยอะไร? กวนส้นตีนจนน่ากระทืบจริงๆ
ผมพยายามจะไม่ใส่ใจความกวนประสาทของมัน พลางนึกถึงคำถามที่จะถามต่อไป “ช่วงที่ผ่านมามึงหายหัวไปไหน?”
“กูว่านี่มันไม่ค่อยเหมือนสัมภาษณ์เข้าเรียนเลยนะ” ไอ้เอี้ยฟ้าท้วงขึ้นเหมือนเพิ่งจะนึกได้
“อ่ะ..ทำไมจะไม่เหมือน?!” ผมรีบแย้ง พยายามคิดหาเหตุผลเพื่อประกอบการแถอย่างมีหลักการ “..กูไม่ชอบนักเรียนที่ขาดเรียนบ่อยๆ ขาดเรียนนานๆ ขาดเรียนไม่มีสาเหตุ”
คนฟังเลิกคิ้วเหมือนไม่ค่อยเชื่อ มันโคลงหัวไปมา แต่สุดท้ายก็ยอมตอบ
“พอดีช่วงนี้กูยุ่งนิดหน่อย ...เอาเป็นว่า...กูจะส่งใบลาล่วงหน้าแล้วกัน..ถ้าจะหายไปอีก...มีคำถามอีกมั้ย?”
“มึงยังไม่ได้ตอบเลย..ว่ามึงจะรักใคร?” ผมวกกลับไปที่คำถามแรกๆ เม้มปากสนิท ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเริ่มทำงานหนักอีกครั้ง
“นี่มึงแกล้งโง่ หรือโง่อย่างบริสุทธิ์ใจอ่ะ ซันนี่?”
ผมถลึงตาใส่มัน ตีนก็หมายจะเตะหน้าแข็งมันอีกรอบ แต่คราวนี้มันไหวตัวทัน ชักขาหนีไปก่อน “กูถามให้มึงตอบ ไม่ได้ถามให้มึงด่ากู!”
มันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำหน้าอย่างกับจะบอกว่าผมเป็นคนที่งี่เง่าที่สุดเท่าที่มันเคยเสวนาด้วย ..เดี๋ยวเหอะมึง!
“มึงจะให้กูไปรักใครได้ล่ะ นอกจากมึง?” มันบอก แล้วเอาแผ่นเมนูเสียบกลับที่เดิม ก่อนจะหันไปโบกมือเรียกคนขายให้มาเก็บเงิน “ตกลงจะสอนให้มั้ย?”
ผมยังไม่ทันได้ตอบ พ่อค้าก็เดินมาคิดเงินก่อน เลยพอมีเวลาให้ผมนั่งปรับสภาพจิตใจและสีบนใบหน้ากับคำตอบที่เพิ่งได้รับมา.. คำที่คนหนึ่งพูดออกมาจากปากง่ายๆ คล้ายเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่อีกคนกลับยุ่งยากวุ่นวายใจ คิดแล้วคิดอีกก็ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเชื่อดีไหม? จริงจังแค่ไหน? แล้วมันจะเป็นยังไงต่อ?
สองคนนี้จะไปด้วยกันได้แน่เหรอ? ...ผมมองไม่เห็นความเป็นไปได้เลย
“ไปเหอะ ซันนี่” เอี้ยฟ้าจ่ายเงินเสร็จก็ฉุดให้ผมลุกตามไป
พอเข้าไปนั่งในรถได้ก็ยังไม่มีใครพูดอะไร ผมขับรถออกมาโดยไม่ได้ถามผู้โดยสารว่าจะไปไหน รู้ตัวอีกทีก็ถึงคอนโดตัวเองเรียบร้อยแล้ว หันไปมองคนข้างๆ ก็เห็นว่าทางนั้นมองอยู่ก่อนแล้ว
“เอ้อ.. เดี๋ยวมึงเอารถกูกลับไปก็ได้ พรุ่งนี้ค่อยเอาไปคืนที่คณะ” บอกจบผมก็ทำท่าจะเปิดประตู หวังจะรีบลง แต่อีกคนกลับคว้าข้อมือผมเอาไว้
“พรุ่งนี้วันหยุด”
“ห๊ะ...งั้นค่อยคืนวันจันทร์..ก็ได้” ผมเริ่มทำหน้าทำตัวไม่ถูกอีกครั้ง เมื่อถูกจับจ้องด้วยดวงตาสีดำสนิท ผมอ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ก็นึกไม่ออกว่าควรจะพูดอะไร สุดท้ายก็กลับไปเม้มปากอีก ..ให้ตายเหอะ ทำไมคนบ้าอย่างมันถึงทำให้ผมรู้สึกประหม่าได้ขนาดนี้วะ?
ตอนนี้ผมชักจะไม่แน่ใจแล้วล่ะว่าใครบ้ากว่าใคร..?
“ทำไมไม่ชวนกูค้างด้วยเลยล่ะ?” เสียงเนิบๆ ที่ดังขึ้นในระยะประชิดทำเอาผมตกใจจนต้องหันไปมอง แต่พอหันไปปลายจมูกก็ไปแตะกับปลายจมูกของอีกคนพอดี
“พูดอย่างกับกูเคยชวน ทุกทีก็เห็นหน้าด้านเดินตามเข้ามาเองตลอด” ผมว่า พลางขยับถอยห่าง แต่ก็ไปติดที่ประตูรถ พอจะเปิดประตู ก็ถูกมือของอีกฝ่ายเอื้อมมาจับไว้ก่อน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมถูกเอี้ยฟ้าล็อคนิ่งเอาไว้บนเบาะ
“ก็อยากให้ลองชวนดูบ้าง” คนพูดขยับหน้ามาใกล้อีกจนปลายจมูกเราเกยกัน
“ไม่” ผมเบี่ยงหน้าหนี เลยถูกมันฝังจมูกคงบนแก้มเสียเต็มเปา พอหันกลับมามองเคืองๆ ก็ถูกมันดูดปากอีกที
“เหอะน่า” เสียงมันพูด ขณะเปลี่ยนเป้าหมายไปคลอเคลียแถวซอกคอผม
“ไม่ ..อ๊ะ” ผมหลุดปากร้องเบาๆ เมื่อถูกฟันเย็นๆ ขบเอาแถวต้นคอ ผมพยายามจะผลักหน้ามันออกไปให้พ้น ปากก็ร้องประท้วง “ไม่เอา.. ไอ้เอี้ยฟ้า! มึงบอกให้กูสอนเรื่องรักนะ ไม่ใช่สอนเรื่องเซ็กส์”
“แล้วจะรับปากมั้ยล่ะ?” มันรวบมือผมไว้ แล้วย้ายมาจูบซอกคออีกข้าง
“หยุดทำแบบนี้ก่อนแล้วจะบอก” ผมต่อรอง เริ่มหายใจติดขัดกับการรุกรานของฝ่ายตรงข้าม
“บอกก่อนดีกว่า” แต่มันไม่ยอมรับข้อเสนอของผม แง่ง! แถมยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากคอผมด้วย
“ก็ได้ๆ ตกลง แค่เรื่องรักนะ ไม่รวมเรื่องเซ็กส์ ปล่อยได้แล้ว” ผมเริ่มโวยวายอีกรอบ
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องหลังนี่กูค่อนข้างมั่นใจตัวเองพอสมควร” มันเงยหน้าขึ้นมาพูดยิ้มๆ แล้วยอมปล่อยผมสักที “..อยากให้สอนให้มั้ย?”
“ไปสอนพ่องเหอะ!” ออกจากรถได้ผมก็ชูนิ้วกลางใส่หน้ามันเลย ก่อนจะเดินฉับๆ แบบไม่สนใจว่ามันจะขับรถผมกลับคอนโดตัวเองไป หรือจะตามผมไปที่ห้อง แต่พอนึกอะไรได้ผมก็หันกลับไปบอกมันที่ยังยืนนิ่งอยู่ตรงรถ
“บอกไว้ก่อนนะ ว่าค่าคอร์สกูแพงมาก!”
“เอาเหอะ งานนี้กูทุ่มหมดตัว” แว่วเสียงมันตอบกลับมาแบบสบายๆ สไตล์มัน
กุญแจ?! ..ห่าแล้ว กุญแจห้องไปไหนล่ะเนี่ย? หรือจะลืมไว้ในรถ?
พอถึงหน้าห้องผมก็ได้แต่ยืนล้วงกระเป๋านู้นกระเป๋านี้จนทั่ว แต่ก็ไม่เห็นมีวี่แววว่าจะเจอกุญแจห้องเลย ปกติผมจะแยกกุญแจรถกับกุญแจบ้านไว้คนละพวงอยู่แล้ว เพราะผมไม่ได้ใช้รถตัวเองทุกวัน เพราะงั้นเรื่องที่จะติดอยู่ในรถน่ะลืมไปได้เลย
แต่เอ.. ก็ไม่แน่นะ เอี้ยฟ้าขับรถออกไปหรือยังวะ?
!!.. ยังไม่ทันจะหันไปมองด้านหลัง ร่างของใครบางคนก็มาซ้อนอยู่ข้างหลังของผมพอดี ..มันมาได้เงียบจริงๆ
แต่..เหอะ..ถึงผมไม่ชวนมันก็หน้าด้านตามมาอยู่ดี เห็นไหมล่ะ?
“สะเพร่าจังเลยนะ ซันนี่” มันเอาคางมาเกยไว้บนไหล่ผม ส่วนมือก็เอากุญแจมาไขห้องให้ “ให้ทั้งกุญแจรถ กุญแจบ้านไว้ขนาดนี้..ถ้ากูพาคนมายกเค้าบ้านมึงนี่...โทษใครไม่ได้เลยนะ”
“ก็ลองดูดิ กูจะได้พาตำรวจไปลากคอมึงเข้าคุกซะ จะได้ไปกวนประสาทใครเค้าไม่ได้อีก” ผมว่า ดึงประตูเปิดแล้วเดินเข้าไป
“โอ๊ะยะๆ..” เอี้ยฟ้าเดินตามเข้ามาติดๆ มันคว้าเอวผมไปกอดจากทางด้านหลังทันทีที่ปิดประตู
“ปล่อยน่า” ผมพยายามจะแกะมือมันออก แทนที่มันจะยอมปล่อย มันเสือกกอดผมแน่นกว่าเดิมจนหลังผมแนบสนิทกับอกมัน ส่วนหลังของมันก็พิงประตูห้องเอาไว้ ผมเลยต้องสั่งเสียงแข็ง “กูบอกให้ปล่อย ไอ้เอี้ยฟ้า!”
“ไม่ได้เจอตั้งนาน..เหมือนกูจะคิดถึงกลิ่นมึงนะ” มันพูดด้วยสำเนียงเรื่อยๆ ตามปกติ พลางคลอเคลียจมูกไปตามคอ ตามลาดไหล่ของผม “เมื่อวานก็อยากจะลากขึ้นไปดมบนห้องอยู่หรอก..แต่ติดที่จี้มันอยู่ด้วยน่ะสิ..ขืนกูทำจริง..มีหวังโดนบ่นจนหูเปื่อย”
“ไอ้โรคจิต! มึงเป็นหมารึไง?”
ไม่รู้ทำไมคำพูดแสดงความโรคจิตของมันถึงทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาได้ สงสัยว่าโรคนี้มันจะส่งผ่านทางการออสโมสิสได้ล่ะมั้งเนี่ย หึยยย.. ไม่ได้การ ผมต้องอยู่ห่างๆ ไอ้บ้านี่เอาไว้ซะแล้ว เดี๋ยวมันจะปล่อยเชื้อแปลกๆ ซึมผ่านผิวมาใส่ผมมากกว่านี้
“ปล่อยโว้ย!” ผมเริ่มดีดดิ้นแบบไม่คิดชีวิต(ใช่สิ ถ้าคิดสักนิดคงดีดมันออกไปแต่แรกแล้ว)เมื่อมือของมันเลื้อยต่ำลงมาเรื่อยๆ จากหน้าท้อง มาเข็มขัด มา..โอ๊ยยยย พอๆๆๆๆ
“อื้อ..” พอผมแกะมือมันออกจากด้านหน้าได้ มันก็ใช้อีกมือจับคางผมให้หันไปหาแล้วประกบริมฝีปากลงมาแบบไม่คิดจะถามความสมัครใจกันสักนิดเลย..
ตอนแรกผมกัดฟันแน่น ไม่ให้ลิ้นร้อนของมันรุกล้ำเข้ามาได้ แต่เอี้ยฟ้าก็เพียรดูดเม้มซ้ำๆ ย้ำๆ ที่ริมฝีปากผมไปเรื่อยอย่างไม่รีบร้อนอะไร ส่วนมือมันก็ลากไล้ปาดป่ายไปตามหน้าท้องบ้าง สะโพกบ้าง หน้าขาบ้าง โดยมีมือของผมตามแกะตามแงะให้พ้นตัวอยู่ตลอด
พอจิตใจมัวสาละวลอยู่กับมือ รู้ตัวอีกทีก็เผลอรับลิ้นของอีกฝ่ายเข้ามาในปากเรียบร้อยแล้ว “..อือ”
ก่อนจะหมดลม.. ปากของผมก็ถูกปล่อยให้ไปช่วยจมูกเอาอากาศเข้าปอด ส่วนปากของเอี้ยฟ้าก็พรมจูบไปตามแก้ม ระเรื่อยขึ้นไปจนถึงใบหู ก่อนกระซิบเสียงพร่าบ่งบอกถึงความต้องการของร่างกาย
“ซันนี่...ของกูชักจะขึ้นแล้วล่ะ”
“..อึก..มึงนี่..ยิ่งกว่าหมาติดสัด..อีก...อื้อ”
เอี้ยฟ้าไม่ปล่อยให้ผมพูดมากกว่านั้น มันบดจูบลงมาอีกครั้ง คราวนี้ทั้งเร่าร้อนและเรียกร้องหนักกว่าเก่า มันจับผมให้หันไปหาทั้งตัว มือที่เคยลูบอยู่แถวสะโพกเลื่อนลงไปขยำก้นผมอย่างมันส์มือ
!!... แต่ก่อนที่อะไรๆ มันจะเตลิดไปไกลกว่านั้น หูผมก็จับเสียงอะไรบางอย่างได้
จังหวะเดียวกับที่ประตูห้องนอนผมเปิดผางออก ผมก็ปล่อยหมัดขวาตรงยัดพุงเอี้ยฟ้าไปเต็มแรง หมอนั่นถึงกับทรุด แต่ยังไม่ร่วงลงไปเพราะมีไหล่ผมให้เกาะ
หันไปมองทางประตูห้องนอนของตัวเองก็เห็นผู้ชายตัวผอมสูง ผมยาวหยักศก หนวดเครารุงรัง ระบุอายุไม่ได้ ท่าทางกระเซอะกระเซิงเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน สองแขนกางอ้าออก ปากฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี แล้วตะโกนเสียงดังตื่นเต้น
“เซอร์ไพรส์!”!!.. แต่พอลืมตาขึ้นเห็นผมที่ยืนเบียดกับเอี้ยฟ้าอยู่หน้าประตูบ้านก็ดูเหมือนเขาจะอึ้งไป
“.........”
ก็ไม่รู้ล่ะนะ ว่าระหว่างผมกับตาหนวดนี่ ใครเซอร์ไพรส์กว่ากัน...?
TBC. 