(ต่อ)
ตึก ตึก ตึก ตึก
ใครน่ะ?! เสียงใคร?!
ตึก ตึก ตึก ตึก
ใคร?! ออกมานะ!
ตึก ตึก ตึก ตึก
ซิน?!! ซินใช่ไหม?
ซิน! ซิน! ซิน..จะไปไหน?
ซิน! จะไปไหน? รอด้วยสิ!
ซิน! รอด้วย! อย่าเพิ่งไป! รอด้วย!! อย่าไป...
“ระวังหน่อย ซันนี่ ..วิ่งแบบนั้นเดี๋ยวก็หกล้มขาเจ็บอีกหรอก”
“ถ้าขาเจ็บอีกพี่ก็แบกซันกลับบ้านอีกสิ”
“ไม่ได้ วันนี้พี่ไม่ว่าง เพราะงั้นนายห้ามล้มเด็ดขาด เข้าใจ๋?”
“ไม่เข้าใจ ไม่ว่างได้ไง? พี่จะไปไหน?”
“ก็ไปดูอาไท่แข่งไง พี่ว่าพี่บอกนายไปแล้วนะ”
“แล้วจะทิ้งให้ซันกลับบ้านคนเดียวเนี่ยนะ?”
“งั้นนายจะไปด้วยกันมั้ยล่ะ?”
“จะไปได้ไง? พี่ก็รู้ว่าวันนี้ซันถูกครูทิมทำโทษให้ทำการบ้านเยอะแยะไปหมด”
“นั่นเป็นเพราะนายมัวแต่คุยในชั่วโมงเรียนไงล่ะ พี่เตือนนายแล้วก็ไม่เชื่อ”
“จะยังไงก็ช่างเหอะ พี่ต้องกลับไปช่วยซันทำการบ้าน”
“แต่นั่นมันการบ้านของนายนะ”
“แล้วไง? จะไม่ช่วย?”
“...โอเค ช่วยก็ช่วย แต่ต้องเป็นหลังจากที่พี่กลับมาจากสนามแข่งแล้ว”
“แต่ซันไม่อยากกลับบ้านคนเดียว”
“แค่วันเดียวเองน่า..นะ พี่สัญญาว่าจบเกมแล้วจะรีบกลับไปช่วยนายทำการบ้านทันทีเลย โอเคป่ะ?”
“ไม่โอเค พี่ต้องกลับพร้อมซัน”
“เฮ้.. นายก็รู้ว่าวันนี้เป็นนัดสำคัญของอาไท่ แล้วพี่ก็สัญญาไว้แล้วว่าจะไปเชียร์”
“สัญญาได้ก็ยกเลิกได้”
“ซันนี่?”
“โทรไปบอกหมอนั่นสิว่าพี่ไปไม่ได้แล้ว ถ้าพี่ไม่โทรเดี๋ยวซันโทรเอง เอาโทรศัพท์มา..”
“ซันนี่!”
“เออ! ก็ได้! อยากไปไหนก็ไปเลย! กลับคนเดียวก็ได้วะ!”
“เฮ้ ซันนี่?”
“จะไปไหนก็ไป! ไม่ต้องตาม!”
“ไม่เอาน่า ซันนี่”
“ปล่อย! ไม่ต้องมายุ่ง! ไม่อยากเห็นหน้าแล้ว!!”
“โอเคๆ พี่ยอมแล้ว..ยอมแพ้แล้ว ..อย่าโกรธเลยนะคนดี เดี๋ยวพี่จะรีบโทรไปบอกอาไท่เดี๋ยวนี้เลยว่าไม่ไปแล้ว”นั่นผมเหรอ..?
ใช่สิ.. นั่นผมเอง..
ผมคนที่เอาแต่ใจ.. ผมคนไม่ที่เคยฟังเหตุผลของใคร.. ผมคนที่อยากได้อะไรก็ต้องได้..
นั่นคือตัวผมก่อนหน้านี้...
“น้องกานต์คร้าบ~ น้องกานนนนนนนต์”
“อ้าว พี่โต๊ด มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าฮะ?”
“มีครับ.. ช่วยอวยพรให้พี่ทีสิ พรุ่งนี้พี่ต้องพาทีมเทนนิสโรงเรียนเราไปแข่งแล้ว น้องกานต์คนน่ารักช่วยอวยพรให้ทีมเราชนะหน่อยนะ พลีสสสสสส~”
“ฮ่ะๆๆ อะไรกัน เรื่องแค่นี้เอง..”
“ขอให้ตกรอบแรกนะฮะ พี่โต๊ด”
“อร๊ายยย! ไหงน้องฉายพูดงั้นล่ะคร้าบ? มันไม่ดีน้า~ ทำเสียฤกษ์หมดเลยเรานี่ ...นะ น้องกานต์ อวยพรพี่ทีสิ”
“ขอให้ชนะ เอาถ้วยกลับมาประดับฝาห้องลุงหนวด ผอ. ให้ได้นะฮะ ..พี่โต๊ด สู้ๆ”
“สู้ๆ ! เยสสส!! เทพีแห่งชัยชนะยืนข้างโต๊ดแล้ว ..ไปก่อนนะ ไว้เดี๋ยวพี่จะเอาแชมป์กลับมาฝากนะคร้าบ~”
“ฮ่ะๆๆ โชคดีฮะ”
“น้องกานต์จ๋า อวยพรพวกพี่ด้วยสิ มะรืนพวกพี่ก็จะไปแข่งวอลเล่ย์หญิงเหมือนกันนะ”
“ขอให้ชนะนะฮะ พี่ศิคนสวย”
“ฮิ้ววววว~ งานนี้พี่ศิคนสวยของน้องกานต์สู้ตายค่า!”
“ฮ่าๆๆๆๆ”และนั่นก็คือซิน..
‘กานต์ระพี’ ..คนดีที่ใครๆ ก็รัก
พระอาทิตย์อันเป็นที่รัก.. พระอาทิตย์อันแสนสดใส..
ซินเกิดมาเพื่อเป็นที่รักของทุกคน ..รวมทั้งผมด้วย
“ซิน? ซิน? อยู่แถวนี้รึเปล่า?”
“..........” หืม..? เสียงใครคุยกัน?
“..........” ซินกับ..อาไท่?
อ๊ะ ตรงนี้ได้ยินไม่ถนัดเลยแฮะ ..ต้องเข้าไปอีกหน่อย
“...อืม ก็แบบนั้นแหล่ะ เราขอโทษจริงๆ นะ ที่วันก่อนผิดสัญญา”
“ไม่เป็นไร ไท่เข้าใจ ยังไงเรื่องของฉายก็ต้องมาก่อน..”
“ไท่ไม่โกรธเรานะ?”
“ไม่หรอก ใครจะไปโกรธกานต์ลง.. แต่รอบหน้าไท่จะเข้าชิงแล้ว คราวนี้ยังไงกานต์ก็ต้องไปเชียร์ให้ได้นะ”
“อื้ม สัญญา.. คราวนี้ไม่เบี้ยวแน่”หลายครั้งที่ผมรู้สึกหวง..
และอีกหลายครั้งที่ผมรู้สึกอิจฉา...
ผมไม่ชอบให้ใครมาสนใจซินมากกว่า..
รวมทั้งไม่ชอบให้ซินไปสนใจใครมากกว่าผมด้วย!
“..ขอโทษจริงๆ น้า~”
“กานต์...ไม่อยากไปเชียร์ไท่เหรอ? บอกมาตรงๆ ก็ได้นะ ..ไท่ไม่โกรธหรอก ..แล้วก็จะไม่ทำให้ลำบากใจอีกด้วย”
“ไม่ๆๆ ไม่ใช่แบบนั้นนะ มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ..เชื่อเราสิ ไท่ ..เมื่อวานน้องเราปวดท้อง ป๊ะป๋าก็ไม่อยู่บ้าน แล้วจะให้เราทิ้งน้องให้อยู่คนเดียวทั้งแบบนั้นได้ยังไง? ..จริงสิ! เมื่อวานไท่ชนะนี่นา ยินดีด้วยนะ เอางี้ดีมั้ย.. เย็นนี้เราไปกินไอติมกัน ..นะ? เราเลี้ยงเอง ถือว่าฉลองแชมป์ให้ไท่ไง”
“จริงนะ?”
“จริงสิ เดี๋ยวเลิกเรียนเราไป..”
“ไปไหนกันเหรอ? ..ไง อาไท่? ได้ข่าวว่าได้เป็นแชมป์อีกแล้วนี่นา ยินดีด้วยนะ ..แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปเชียร์ พอดีเราไม่ค่อยสบายน่ะ”
“อืม.. กานต์บอกเราแล้วล่ะ ..แล้วนี่ฉายหายดีแล้วเหรอ?”
“ก็ดีขึ้นเยอะล่ะ.. ว่าแต่เมื่อกี๊พูดว่าจะไปไหนกันเหรอ? ฉลองรึเปล่า? ไปด้วยคนได้มั้ย?”
“ก็กำลังจะชวนอยู่นี่ไง งั้นเดี๋ยวเย็นนี้เราสามคนไปกินไอติมที่ร้านเดิมกันนะ พี่เลี้ยงเอง”
“ไชโย~ ได้กินของฟรีอีกแล้ว”
“ฮ่ะๆๆ ท่าทางนายดีใจกว่าเจ้าของแชมป์อย่างเราอีกนะ ฉาย”
“นั่นน่ะสิ ..เห็นของฟรีเป็นไม่ได้เลย”
“ก็นะ.. ฮ่ะๆๆ”
“ว่าแต่ว่าเอาตังค์มาให้พี่ยืมก่อนสิ เดือนนี้พี่ใช้เกินงบแล้วอ่ะ”
“ว่าไงนะ?!”
“พี่บ่จี๊~”
“ฮ่าๆๆๆ”
“หุบปากนะ อาไท่! ..ไม่ ซันไม่ให้พี่ยืม!”
“ซานนนนนี้~”
“เอางี้แล้วกัน เดี๋ยวไท่เลี้ยงเอง”
“จริงนะ?!!”
“แหม ถามพร้อมกันเชียว”
“ฮ่าๆๆๆ”แม้จะห่างกันหนึ่งชั้นปี แต่ไท่หลันก็เป็นเพื่อนที่ผมกับซินสนิทมาก..
ไท่หลันไม่เคยบ่นเรื่องความเอาแต่ใจไร้เหตุผลของผม..
ไท่หลันมักจะใจดีกับผมเสมอ...
“...ไม่ต้องขอโทษแล้วกานต์ มันซ้ำซากเกินไป ..ไท่เบื่อที่จะฟังแล้ว”
“ไท่โกรธเรา? แต่เราไม่ได้ตั้งใจจะผิดนัดจริงๆ นะ ..เป็นเพราะน้องเราไปรับปากทางนั้นไว้ แล้วถ้าเราไม่ไปเป็นเพื่อนน้องเราก็จะไม่ยอมไป ..เราไม่อยากให้น้องผิดคำพูด”
“กานต์ก็เลยยอมผิดคำพูดซะเองด้วยการยกเลิกนัดดูหนังของเรางั้นสิ? ..ทั้งที่ไท่เป็นคนนัดกานต์ก่อนแท้ๆ”
“เราขอโทษ..”
“ก็บอกว่าไม่ต้องพูดแล้วไง ..ช่างมันเถอะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว”
“แต่ไท่ยังไม่หายโกรธเรา”
“ไท่ไม่ได้โกรธกานต์! ไม่เคยคิดจะโกรธด้วย ไท่ก็แค่...ไท่แค่น้อยใจ ..ไม่ว่าเมื่อไหร่ในหัวของกานต์ก็มีแต่เรื่องของฉาย ..ไท่..แค่อยากจะมีพื้นที่เล็กๆ อยู่ในนั้นบ้าง ..สักหนึ่งส่วนพันก็ยังดี”
“ไท่..?”
“กานต์.. ไท่ชอบกานต์นะ ..ชอบ..มาตั้งนานแล้ว”
“เราก็ชอบไท่เหมือนกัน ไท่เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา”
“ไม่ กานต์.. ไท่ไม่ได้หมายถึงชอบแบบนั้น ไท่หมายถึงชอบแบบ..แบบ..เออ! แบบที่กานต์เคยชอบพี่แจนน่ะ”
“...หมายถึง ไท่..อยากเป็นแฟนกับเรา...งั้นเหรอ?”
“อืม.. ได้มั้ย?”
“..........” อาไท่..ชอบ...ซิน..?ผมเคยคิดว่าไท่หลันเข้าใจซิน.. เข้าใจผม..
แต่เปล่า...
ไท่หลันแค่อยากเอาใจซิน
ไท่หลันก็เหมือนกับคนอื่นๆ
เขาให้ความสนใจแก่ซินมากกว่าจะเป็นผม!
“ขอโทษนะ ไท่ ..เราไม่ได้..คิดกับไท่แบบนั้น”
“เหรอ... ไม่เป็นไร.. ไท่ขอโทษนะ.. ที่ทำให้ต้องลำบากใจ กานต์อย่าเกลียดไท่เลยนะ”
“ไม่ๆๆ เราไม่มีวันเกลียดไท่หรอก ไท่เป็นเพื่อนรักของเรา”
“ขอบใจ... เอ่อ เราขอร้องอะไรกานต์ซักอย่างได้มั้ย? อย่าเอาเรื่องที่เราพูดกับกานต์วันนี้ไปบอกใครได้มั้ย? ..แม้แต่กับฉาย ..ปล่อยให้มันเป็นความลับ ที่รอวันเลือนหายไปพร้อมความทรงจำของเราสองคน ..ได้มั้ย กานต์?”
“ได้สิ เราสัญญาว่าจะไม่บอกใคร ..แต่เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมใช่มั้ย ไท่?”
“อื้ม เราจะเป็นเหมือนเดิม”
“.........” ซินไม่จำเป็นต้องเล่า เพราะเราได้ยินทั้งหมดแล้ว อาไท่..ซินเป็นของผม
และผมไม่มีวันอภัย.. ให้กับคนที่คิดจะหักหลังผม!
“สกปรกที่สุด! ไม่คิดว่านายจะเป็นคนแบบนี้เลยนะ ซูไท่หลัน!”
“เดี๋ยวฉาย นายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร เราไม่เข้าใจ”
“แล้วเมื่อตอนพักกลางวันนายไปพูดอะไรกับซินมาล่ะ? ทุเรศมาก! ตัวเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังกล้าไปพูดแบบนั้นกับซินอีก วิปริต!!”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะซันนี่! ห้ามว่าอาไท่แบบนั้นนะ!”
“ทำไมจะว่าไม่ได้?! ก็มันเรื่องจริง! ถ้าพี่รังเกียจก็พูดออกไปตรงๆ เลยนะซิน ไม่ต้องไปทนฝืนใจคบกับคนโรคจิตวิปริตแบบนี้หรอก!”
“พี่ไม่ได้..”
“นั่นสิ กานต์.. ถ้ารังเกียจก็บอกกันมาตรงๆ เลยก็ได้ ไท่ยอมรับได้ ..ไม่เห็นต้องแกล้งทำเป็นรับปาก แล้วมาหักหลังกันแบบนี้เลย เกลียดไท่ขนาดนั้นเลยหรือไง?”
“ไม่ใช่นะ ไท่! เราไม่ได้คิด..”
“ใช่! ทั้งเกลียดแล้วก็รังเกียจมากๆ จนไม่อยากจะเห็นหน้านายอีก! ต่อไปนี้ไม่ต้องมาให้พวกเราเห็นหน้าอีกนะ!”
“ซันนี่!!”
“ได้! ต่อไปนี้เราจะไม่มาให้พวกนายเห็นหน้าอีก แต่..”
“โอ๊ย ไท่! จะพาเราไปไหน? เราเจ็บนะ ปล่อยเราก่อน..”
“ปล่อยซินนะ ไอ้โรคจิต! บอกให้ปล่อยไงวะ!”
“ปล่อยแน่.. แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“อาไท่?”
“..ไหนๆ ก็เกลียดกันแล้วนี่ ..ไท่เองก็เกลียดคนชอบหักหลัง หน้าไหว้หลังหลอกอย่างกานต์เหมือนกัน ..งั้นเราก็มาเกลียดกันให้สุดๆ ไปเลยดีมั้ย? เอาให้จำได้ไม่ลืมไปตลอดชีวิตเลย”
“ไม่นะ ไท่! ไท่กำลังเข้าใจเราผิด”
ปัง!
ปึง! ปึง! ปึง!
“เปิดประตูนะ! ปล่อยซินออกมาเดียวนี้นะ ไอ้บ้า!! เปิดนะ! เปิดเซ่! ฮือออ.. เปิดประตูนะไอ้โรคจิตบ้า!”ใช่แล้ว..
เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะผมเอง..
ผมเป็นสาเหตุของเรื่องเลวร้ายทั้งหมด
ผมเป็นสาเหตุแห่งฝันร้ายของซิน
ผมทำให้ไท่หลันเข้าใจผิด
ผมหักหลังทุกคน..
ปึง! ปึง! ปึง!
“ฮือออ...เปิดประตูนะ! เปิดประตู.. เอาซินกลับมา.. ฮือออ.. ปล่อยซิน ออกมานะ..ไอ้บ้า ..ปล่อยซิน..”แต่ผมกลับเอาแต่โทษคนอื่น..
ทั้งที่คนที่สกปรกที่สุด...ก็คือตัวผมเอง
ผมทำลายทุกอย่างด้วยมือของผมเอง..
ตึก ตึก ตึก ตึก
ใครน่ะ?
ตึก ตึก ตึก ตึก
ใคร?! ออกมานะ!
ตึก ตึก ตึก ตึก
ซินใช่ไหม? ใช่ซินหรือเปล่า? ออกมาเถอะ
“พี่มาเพื่อที่จะเตือนสตินายแค่นี้ล่ะ ..จะเลือกทางไหนก็คิดดูให้ดีแล้วกัน แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน...ก็เตรียมใจรับผลที่จะตามมาเอาไว้ด้วยล่ะ”ตึก ตึก ตึก ตึก
ฟ้า? ..ฟ้าเหรอ?
“มันคงจะดีกว่า.. ถ้าคุณจะถอนตัวเสียตั้งแต่ตอนนี้ แล้วเดินเข้าไปบอกคุณหนูว่าคุณจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก ..ต่างคนต่างไป”ตึก ตึก ตึก ตึก
ฟ้า! เดี๋ยวก่อน ฟ้า! จะไปไหน?! รอก่อน!!
“อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด..‘เรา’..ผมกับฟ้าประทาน..จะเป็นคนตัดสินเอง” ตึก ตึก ตึก ตึก
ไม่นะ ฟ้า! อย่าเพิ่งไป! ฟ้า! อย่าไปนะ! ไม่! อย่าไป...
“ทั้งหมดมันก็เป็นเพราะมึงนั่นแหล่ะ!! ที่ซินต้องมาเจ็บหนักแบบนี้ก็เพราะมึง! ที่กูต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ก็เพราะมึง! มานะก็ด้วย! ที่หมอนั่นต้องมาบาดเจ็บก็เพราะเรื่องของมึงอีกใช่มั้ยล่ะ?! มึงมันตัวซวย ฟ้า! มึงมันตัวหายนะ!! ใครที่อยู่รอบตัวมึงก็พลอยหายนะไปด้วย! เหมือนกับกู!! เหมือนกับซิน!! เหมือนกับมานะ! หรือแม้แต่แม่ของมึงเอง!! มึงมันไม่สมควรจะเกิดมาด้วยซ้ำ ฟ้าประทาน!!!”ตึก ตึก ตึก ตึก
อย่าไปนะ ฟ้า!!!!!
อีกแล้ว..
ผมทำพลาดอีกแล้ว
ผมทำทุกอย่างพัง..
ผมทำลายทุกอย่าง.. ด้วยอารมณ์ที่ไม่รู้จักระงับ ..ด้วยคำพูดที่ไม่รู้จักคิด ..ด้วยความกลัวที่ไม่มีจุดสิ้นสุด
กลัวที่จะสูญเสีย.. กลัวที่จะเจ็บปวด.. กลัวที่จะถูกลืม...ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
เหมือนกับครั้งนั้น.. ครั้งก่อนนั้น.. และก่อนหน้านั้นๆ อีก..
ผมทำแต่เรื่องผิดพลาด
ผมทำให้ซินเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า
แล้วผมก็ยังทำให้ฟ้าเจ็บอีก
คนที่ไม่สมควรจะเกิดมาน่ะมันผมต่างหาก!
ตึก ตึก ตึก ตึก
?!
“ไม่เป็นไรนะ ซันนี่?”
“..ซิน?”
“อย่าร้องไห้สิ น้ำตาไม่เหมาะกับมึงหรอก”แต่ไม่เคยมีเลยสักครั้ง.. ที่ซินจะโกรธ.. จะเกลียดผม..
ไม่ว่าผมจะร้ายกาจแค่ไหน ..ซินก็ให้อภัยผมได้เสมอ
ตึก ตึก ตึก ตึก
?!!
“ไม่เป็นไรนะ ซันนี่?”
“..ฟ้า?”
“ร้องไห้ไม่แมนนะ”แล้วฟ้าล่ะ? ..ฟ้าจะโกรธผมไหม? ..จะเกลียดผมหรือเปล่า?
ฟ้าจะยอมให้อภัยกับความงี่เง่าของผมได้หรือเปล่า?
ผมยังพอมีหวังที่จะได้รับโอกาสนั้นไหม?
“ไปก่อนนะ ซันนี่ // ลาก่อน ซันนี่”
“เดี๋ยว!! เดี๋ยวก่อน ฟ้า! เดี๋ยวก่อน ซิน! พวกมึงจะไปไหน? อย่าเพิ่งไป! อย่าทิ้งกูไป!!”ผมได้แต่มองตามหลังซินเดินไปทาง ฟ้าเดินไปอีกทาง และตะโกนเรียกแบบนั้นซ้ำๆ จนเสียงเริ่มแหบแห้ง แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะหันกลับมามอง..
“อย่าไปนะ ซิน! อย่าไปเลย ฟ้า! ไม่ให้ไป!! อย่าไป! อย่าทิ้งกูไปแบบนี้! กลับมา! อย่าไป...” ทุกคนกำลังจะหายไป..
ทุกคนกำลังจะทิ้งผมเอาไว้..
ผม...ไม่เหลือโอกาสให้แก้ตัวอีกแล้วจริงๆ เหรอ?
ผม...ไม่เหลือใครแล้วจริงๆ เหรอ?
“อย่าไป...ฮือออ..”TBC. 
อ่านจบตอนนี้แล้วมีใครคิดจะเปลี่ยนใจจากรักเป็นเกลียดซันนี่มั้ย?
อย่านะ อย่า.. รักแล้วรักเลย ไม่รับเปลี่ยนคืนนะเออ ไม่ๆๆๆ
เราก็เตือนคุณไปตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้วไง ว่า ‘ตะวัน’ น่ะ ‘ร้าย’
ทำไมไม่มีใครเอะใจ? ฮะฮะ..
ก็มารอดูต่อไปว่าร้ายแบบนี้แล้วจะยังเป็น ‘ที่รัก’ ของนภาต่อไปได้มั้ย...เนาะ
