มาต่อให้ยาววววววววววววววว
องค์ที่ 14
ผมเผลอหลับ
ทั้งๆที่ยังถือโทรศัพท์อยู่เลย เมื่อคืนผมคงจะหลับเพราะความเหนื่อยที่เผชิญมา ทั้งวัน
เช้านี้ เป็นเช้าที่ผมรู้สึกหดหู่
และเหงาที่สุด ตั้งแต่ย้ายเข้ามาในอยู่ในกรุงเทพ
แม้ไอ้หมีฟาย มันจะดูยียวน กวนประสาท แต่อย่างน้อย มันก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผม มันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมไม่ได้อยู่คนเดียว
“กรูขอโทษ” ผมได้แต่ พึมพัมกับตัวเอง
ผมตั้งใจจะไปบ้านไอ้หมีฟายขี้ใจน้อย อย่างน้อย ผมอยากไปขอโทษมัน ด้วยตัวผมเอง
เอาวะ ลองโทรอีกที หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์มันอีกครั้ง (เผื่อฟลุ๊ค จะได้ไม่ต้องเสียตังค่ารถไปบ้านมัน 5555555 )
ติดครับ มันเปิดเครื่องแล้ว เย้ๆ
“ว่าไง” คำแรกของมัน น้ำเสียงเย็นชาสุดๆ
“ทศ คือกรู ......กรู” ไอ้ที่คิดไว้ว่าจะบอกมัน
กลับนึกไม่ออกซะงั้น
“ถ้ามรึงไม่มีอะไร กรูวางแล้วนะ” เอากรูแล้วมั้ยละ ไอ้หมีฟายขี้ใจน้อย
“เดี๋ยวมรึง กรูขอโทษ” ต้องรีบพูดอะไรก่อนที่มันจะวาง
“อะไรนะ”
“กรูบอกว่า กรูขอโทษ” ยอมครับ ครั้งนี้ต้องยอมมัน
“มันได้ยินไม่ค่อยชัด มรึงเปิดประตูก่อนดิ” อ้าว เครื่องมรึงไม่มีสัญญาณ แล้วมันเกี่ยวไรกะประตูห้องกรู แต่ก็ครับ ก็ตามใจมัน
อึ้งเลย..............
...........................
เป็นไอ้หมีฟายขี้งอนครับ มันยืนอยู่ห้องหน้า โทรศัพท์ผมแทบร่วง
“เมื่อกี้ฟังไม่ชัด พูดใหม่ดิ” นั่นเลยมรึง ได้ทีเอาใหญ่ แต่หน้าตามันโหดโคตรๆ
เสื้อผ้ากรูก็ยังไม่ทันได้ใส่มีแค่ผ้าขนหนูพันไว้ ขอกรูใส่เสื้อผ้าก่อนได้มะ เผื่อมรึงโหโมแล้วฆ่ากรูหมกห้อง อย่างน้อยศพกรูจะได้ดูไม่อุจาดตานัก
“กรูขอโทษ” พูดแล้วก็มองหน้ามัน
มันเงียบ.........................................
“เมื่อคืนกรูเหนื่อย อารมณ์ไม่ค่อยดี กรูเลยพาลใส่มรึง มรึงเข้าใจกรูมั้ย กรูไม่ได้ตั้งใจด่ามรึง กรูขอบใจที่มรึงห่วงกรู กรูขอโทษ” ได้พูดในสิ่งที่คิดไว้แล้วรู้สึกโล่งเลยครับ
“ก็แค่นั้นแหละ กรูไม่ได้โกรธมรึงหรอก” มันยิ้มละ ลักยิ้มมันลอยมาแต่ไกลเชียว
“แล้วมรึงปิดเครื่องหนีกรูทำไมอ่ะ มรึงรู้มั้ยกรูโทรหามรึงตั้งกี่ครั้ง ” ไหนมันว่ามันไม่โกรธ
“กรูแค่อยากให้มรึงรู้ ว่ากรูรู้สึกยังไง ”
“วิธีการบอกของมรึงนี่มันซาดิสโคตร
มรึงรู้มั้ย ว่ากรูนอนไม่หลับเลยนะมรึง” ขอนิดนึงอ่ะ
แล้วมันก็อ้าแขนออกกว้างๆ แล้วพยักหน้า หงึก หงึก
“กอดกรูหน่อย” มันเห็นผมทำหน้าแหยงๆ มันเลยทำท่าเดินมา จะกอดผมซะเอง
“เฮ้ย อะไรของมรึง” ถอยดิครับ มาไม้ไหนเนี่ย
“เค้าว่า การกอดกันมันสามารถอธิบายอะไรๆ ได้ดีกว่าการพูด” หวั่นๆครับ
“สภาพนี้อะนะ” ก็ผมมีแค่ผ้าเช็ดตัวพันอยู่ผืนเดียวเอง (ไม่ได้ให้ท่านะเนี่ย ก็คนมันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ)
มันพยักหน้า หงึก หงึก ยิ้มกรุ้มกริ่มเชียวมรึง เอ้า กอดก็กอด ว่าแล้วผมก็เดินไปกอดมัน แบบเขินๆ เกิดมา ไม่เคยกอดผู้ชายเลยนอกจากพ่อ แปลกดี ฮุฮุฮุ
“ผมมรึงหอมจัง” เล่นหัวกรูอีก
ไอ้นี่ลามละ ผมพลักตัวมันออก แต่ก็อย่างที่รู้ ตัวมันใหญ่อย่างกับหมีฟาย ผมตัวเท่าลูกเป็ด จะเอาแรงที่ไหนไปสู้มัน
“ก็กรูเพิ่งอาบน้ำอ่ะ แล้วนี่กอดพอรึยังมรึง” มันทำหน้าเหมือนเด็กโดนขัดใจ แต่ก็คลายแขนออก
“มานานยัง” มันส่ายหน้าแทนคำตอบ แค่นี้ทำงอน
“มรึงนี่ ขี้งอนจริง เป็นตุ๊ดป่าวว๊า” ผมก็แซวของผมแบบนี้ แต่มันหันกลับมาจ้องตาผมเขม็งเลย ตกใจเลยดิ อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วไอ้หนุ่มเอ้ย
“ถ้ากรูเป็น มรึงจะว่าไง” เอาละซิกรู หาเรื่องตาย
“ ตุ๊ดเค้าต้องตัวเล็กๆ สวยๆเว้ย มรึงเป็นไม่ได้หรอก 5555 ” ทำอารมณ์ขับกลบเกลื่อน
“แล้วถ้ากรูเป็นจริงๆละ” ไอ้นี่ ยังไม่เลิก เหอๆๆๆๆ
“ถ้ามรึงเป็นหรอ.....อืม…..กรูก็........จับมรึงทำเมียกรูเลยไง ดีมั้ยวะ 55555 ” แล้วผมก็แกล้งเข้าไปกอดมัน
ลูบตูดมัน (ไม่ได้คิดอะไรจริงๆๆๆๆๆๆ)
“มรึงนี่น๊า ไปๆ รีบไปแต่งตัว มรึงต้องไถ่โทษ ไปกับกรู” มันยีหัวผมเล่น ก่อนที่จะผละไปนั่งรอบนเตียงระหว่างผมแต่งตัว
...................................................................................................
“เราจะไปไหนกันอ่ะ” ส่องกระจกเสริมหล่ออีกนิด
“ทะเล” ว่าแล้วมันก็ยิ้มหน้าบาน พ่วงด้วยลักยิ้มของมันตามฟอร์ม
“เฮ้ย ไปทำไมอ่ะ” ไกลเชียวมรึง บ้านมรึงมีสัมปทานน้ำมันรึไงเนี่ย กรูไม่ช่วยออกค่าน้ำมันนะ
“พ่อกรูอยากกินหอยดอง” ว่าแล้วมันก็ลากแขนผมออกไป..........
รู้ละ ว่ามันนิสัยเหมือนใคร อย่างนี้ใช่มั้ย ที่เค้าเรียกว่า เชื้อไม่ทิ้งแถว เอ๊ะ รึว่าจะเป็น ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น