มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]  (อ่าน 711409 ครั้ง)

Zymphoniz

  • บุคคลทั่วไป
ฉึก ฉึก ฉึก
ไอ้เราก็ลุ้นกลัวคุณชายโดนทำร้าย
กลายเป็นจ้อยโดนซะนั่น
คุณดอกไม้ใจร้ายยยยย  :z3:

แต่ยังดีที่ไม่โดนมากไปกว่านี้
สงสารจ้อยจัง  :monkeysad:



ใช่เลยค่ะ พี่จี้อ่ะ ชอบให้เคะที่น่ารักโดนทำร้ายยยยย  :z3:


(แซวเล่นนะค้าาา แหะๆ  :กอด1:)

casper75

  • บุคคลทั่วไป
ชอบเรื่องนี้มากก อ่ะ
ใช้ภาษาได้สวยมาก อ่านเข้าใจง่าย เหมือนได้เข้าไปอยู๋ไปนิยายเลย

สงสารทั้งพระเอก นายเอกเลยค่ะ พระเอกต้องเสียคนรัก นายเอกก็ต้องจากบ้านมาไกล
ลุ้นให้ทั้ง 2 คนรักกันกันเร็วๆ

คู่พระรองก็น่าติดตาม เหตุการณ์อะไรที่ทำให้จ้อยจงเกลียดจงชังพี่สิงห์ขนาดนั้น

ขอบคุณคนเขียนนะค่ะ ที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่า่นกัน

แล้ก็รอตอนต่อไป อิอิ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ตกลงไปหน้า 4 แล้ว

ว่าแต่ ไม่รู้อ่านพลาดไปหรือเปล่า  จึงยังไม่รู้ว่า แฟนอาจารย์คนึงเสียเนื่องจากจมน้ำเพราะว่ายไปเอาอะไร  หรือเกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวต้อนรับ คุณชาย ยังไง

อิอิ

Huasia

  • บุคคลทั่วไป
ชอบค่ะชอบ เนื้อแบบว่าแหวกแนวมากค่ะ

ออฟไลน์ CoMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
อ่านแบบรวดเดียวเลยมันหยุดไม่ได้จริงๆ
น่าติดตามสุดๆมันยังมีอะไรคาใจอยู่แอบทรมานนิดนึง555
ภาษาสวยมากไม่เคยอ่านแนวนี้มาก่อนเลย
ติดซะแล้วแหละ จะติดตามต่อๆไปนะคะ^____^

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
พึ่งมาอ่านค่ะ

สนุกมากๆ ชอบๆค่ะ

ภาษาสลวย กลิ่นอายอดีต ช๊อบชอบค่ะ

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1

บทที่ ๙

น้ำตาดาว



เหม่อดูหมู่ดาวที่พราวพร่างฟ้า
หยาดสายน้ำตาหยดมาเหมือนว่า ช้ำใจ
โอ้ฟ้าลืมเลือนห่วงเดือนเหนือเจ้า หรือไร
เจ้าพราวผ่องใส ไม่เคยชื่นชม*



ผ้าม่านลูกไม้ขาวพลิ้วไหวในสายลมร้อน  แดดแรงจนท้องฟ้าใสกระจ่าง  เลอมานนอนตาปริบอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล  นับก้อนเมฆขาวที่เคลื่อนตัวอุ้ยอ้ายผ่านไปทีละก้อนๆ 
   
เลือดกำเดาหยุดไหลนานแล้ว  หากรอยช้ำที่ซีกแก้มยังเด่นชัด  ซ้ำยังปวดแปลบจนนอนตะแคงขวาไม่ได้ 

เมฆขาวรูปร่างคล้ายกระต่ายลอยผ่านไป  ขณะหม่อมราชวงศ์หนุ่มแว่วเสียงอาจารย์ใหญ่กับคนึงคุยกันหน้าห้องพยาบาล
   
“โอย..ผมใจหายหมด  ถ้าคุณชายเป็นอะไรไปล่ะก็ ท่านชายต้องกริ้วมากแน่” เสียงอาจารย์ใหญ่ดูกระวนกระวาย
   
“ผมมีหน้าที่ดูแลเขา  เขาบาดเจ็บแบบนี้เท่ากับผมบกพร่องต่อหน้าที่  เป็นความผิดผมเองครับ”

ยาที่อาจารย์พยาบาลทาให้แก้ฟกช้ำมันระเหยเข้าตาหรือไร  เขาถึงได้ร้อนผ่าวทั้งเบ้าตาแบบนี้   

เสียงเปิดประตูดังขึ้น  คนเจ็บหันไปมอง  แต่ก็ต้องหันกลับไปมองฟ้าเช่นเดิมเมื่อเห็นว่าผู้ที่เข้ามาในห้องคือใคร  นิ่งฟังเสียงลากเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ๆ  นิ่งฟังเสียงเปิดกระดาษหนังสือพิมพ์กรอบแกรบ

นี่คงมาเฝ้าตาม ‘หน้าที่’ สินะ 

“ยังปวดอยู่หรือเปล่า”

อ้อ.. และนี่ก็คงถามตาม ‘หน้าที่’

“อาจารย์จะไปไหนก็ไปเถอะ  ผมอยากพักผ่อน” เด็กหนุ่มเอ่ยทั้งที่สายตายังจับจ้องท้องฟ้านอกหน้าต่าง  สักพักจึงได้ยินเสียงถอนใจแผ่วเบา  ได้ยินเสียงฝีเท้าออกจากห้องไป

เหลือแต่เขาเพียงลำพังในห้องพยาบาลเงียบเหงาว่างเปล่า  ไม่มีใครมาเยี่ยมเขาสักคน 

เฝ้ามองปุยเมฆขาวบนท้องฟ้าสีฟ้าจัด  ใจหวนกระหวัดคิดถึงบ้าน  ป่านนี้ที่อังกฤษเป็นเวลาเท่าใด  ท่านพ่อ หม่อมแม่ กำลังทำอะไรอยู่  คิดถึงเขาบ้างไหม

แม้จะอยู่โรงเรียนประจำมากกว่าอยู่ที่บ้าน  แต่เมื่อบุตรชายท่านทูตเจ็บป่วยคราใด  เป็นต้องร่ำร้องขอกลับบ้านทุกที  แล้วชานนท์ เลขาหนุ่มของท่านพ่อก็จะรีบบึ่งรถมารับ  ครั้นถึงบ้านแล้วก็จะมีแต่คนมารุมล้อมเอาอกเอาใจ  ตักของหม่อมแม่อุ่นเสมอ  ข้าวต้มที่แม่นมของเขาทำก็อร่อยที่สุด  เรื่องตลกโปกฮาของนายแช่มก็ทำให้เขายิ้มหัวได้ทุกที  และมือของชานนท์ที่ลูบศีรษะเขาบ่อยๆก็อบอุ่นนัก 

ตรงข้ามกับที่นี่ทุกอย่าง  เด็กหนุ่มคิดพลางหลับตาลง..

เผื่อว่าเขาจะฝันถึง ‘บ้าน’

************************

ฟ้าเป็นสีม่วงอมส้มแล้วตอนที่เลอมานตื่นขึ้นหลังนอนหลับยาวด้วยฤทธิ์ยาแก้ปวด  มือเรียวเผลอยกขยี้ตาด้วยความเคยชิน แต่กลับต้องสะดุ้งด้วยความเจ็บเพราะเผลอไปถูกแผลช้ำเข้า
   
“ตื่นแล้วหรือ” เสียงทุ้มเรียกใกล้ๆ มีอันให้เขาต้องสะดุ้งคำรบสอง  และเมื่อหันไปมองก็ต้องแปลกใจ 

แสงตะวันสาดส่องหรือไร  ดวงตาเรียวคมที่เคยเย็นชาอยู่เป็นนิจคู่นั้นจึงดูคล้าย ‘อบอุ่น’ ขึ้น

“ยังปวดอยู่ไหม”

เพิ่งตั้งสติได้หลังมึนงงกับแววตาและน้ำเสียงที่เปลี่ยนแปลงไป  และที่สำคัญคืออาจารย์คนึงมานั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร  เด็กหนุ่มสูงศักดิ์ส่ายหน้าแทนคำตอบ ก่อนค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่ง

มือใหญ่ยื่นมาแตะหน้าผาก  กระแสอบอุ่นเข้มข้นจนร้อนวาบ  คนป่วยผงะเบือนหลบ  ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องหลบ 

อาจารย์หนุ่มยังทำหน้านิ่ง ยามถาม  “เดินกลับห้องไหวไหม” 

ถ้าบอกว่าเดินไม่ไหวแล้วจะทำยังไง  จะอุ้มเขากลับหรือ  ขอโทษเถอะ  เขาไม่ได้อ่อนแอเหลาะแหละปานนั้น

ใบหน้าที่ฟกช้ำไปแถบหนึ่งพยักหน้า ก่อนก้าวขาลงจากเตียง  ในขณะที่อาจารย์ทำท่าดูแลโดยไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวเขาแม้แต่น้อย  จนเมื่อเขาสะดุดตรงหน้าประตูนั่นละ  แขนแข็งแรงก็โอบกระหวัดรัดเอว ประคับประคองราวกับกลัวเขาจะลงไปนอนคลุกกับพื้น 

นี่ก็คงไม่พ้น ‘หน้าที่’ อีกแล้วกระมัง

ถึงห้องน้อย  คนึงค่อยๆประคองร่างแบบบางนั่งลงบนเตียง  ก่อนเอ่ย “ภรรยาอาจารย์ใหญ่ทำข้าวต้มไว้ให้  เดี๋ยวครูจะไปเอามาให้เรา”

ดวงตาคู่สวยมองร่างสูงใหญ่เดินออกจากห้องไป  ความมืดเริ่มโรยตัวลงช้าๆ เด็กหนุ่มเดินไปเกาะหน้าต่าง  แหงนหน้ามองดาวพริบพราว  กลิ่นดอกมหาหงส์หอมอวลมาตามลม

พลันได้ยินเสียงแว่วมาจากห้องข้างๆ ห้องของอาจารย์วิรัชกับอาจารย์ประพนธ์

“จริงๆนะ ผมล่ะสะใจที่สุด” เสียงวิรัชพูดพร้อมหัวเราะก้อง  เลอมานเงี่ยหูฟัง ยิ่งได้ยินถนัดชัดเจน  “ทำกร่างดีนัก  ทำไม่เป็นแล้วยังสาระแนไปยุ่ง  อาจารย์คนึงห้ามก็ไม่ฟัง  โดนเขาแกล้งตีระหัดใส่หน้าเข้าให้ จ๋อยไปเลย”

คนแอบฟังตัวชา  มือที่เกาะหน้าต่างเย็นเฉียบ

“คุณว่าเขาตั้งใจหรือ”

“จะเหลือเรอะ” เสียงหัวหน้าฝ่ายภาษาอังกฤษฟังดูสะใจเหลือหลาย “แหม้..อาจารย์คนึงทำถูกใจผมจริงๆ ผมละหมั่นไส้เจ้าเด็กนั่นมานานแล้ว”

ขอบตาร้อนผ่าวเกินระงับ  มือเรียวสั่นระริก  หากต้องสะดุ้งหันขวับยามได้ยินเสียงเปิดประตู 

คนที่มือหนึ่งหิ้วโถข้าวต้ม  มือหนึ่งถือชามดูตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำ 

“เป็นอะไร  ปวดหัวหรือ” คนึงรีบร้อนวางของในมือลงบนโต๊ะ  ปราดเข้ามาประชิดตัว  ยื่นหลังมือแตะหน้าผาก แตะแก้มซีดขาวเป็นระวิง  หากคนป่วยกลับส่ายหน้า  สูดจมูกลึก  เลอมานจึงเพิ่งรู้ตัวว่าน้ำตาเขาจะหยดมิหยดแหล่  มือบางรีบปาดทิ้งเร็วรี่  ก่อนเดินมานั่งที่โต๊ะ 

ข้าวต้มหมูหอมกรุ่นควันฉุยวางอยู่ตรงหน้า  คุณชายใช้ช้อนตักเข้าปากแล้วทำหน้าเบ้  เพียงแค่อ้าปากเขาก็ปวดร้าวไปทั้งซีกแก้ม  ต้องคอยกุมแก้มไปกินไปช้าๆ  แต่กินได้เพียงแค่สองสามคำเขาก็ต้องยอมแพ้

“อิ่มแล้วหรือ” คนนั่งจ้องอยู่อีกฝั่งโต๊ะถามพลางเลิกคิ้ว  ก่อนตักข้าวต้มขึ้นเป่า  ยื่นจ่อปากคนป่วย  “ฝืนกินอีกสักหน่อยเถอะ”

เลอมานส่ายหน้าช้าๆ  หลุบตาลงต่ำ  คำพูดที่วิรัชพูดยังกึกก้องอยู่ในหัว  คาใจนัก..

อาจารย์หนุ่มถอนใจเบาๆ  เก็บชามข้าวต้มที่พร่องไปนิดเดียวออกไป  แล้วกลับเข้ามาใหม่พร้อมอ่างเคลือบและผ้าขนหนู 

“เดี๋ยวครูจะเช็ดตัวให้” น้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา  คว้าผ้าในอ่างขึ้นบิดไล่น้ำพลางสั่ง “ถอดเสื้อผ้าสิ”     

คนฟังตาโตเท่าไข่  ขยุ้มคอเสื้อแน่น  “ผมเช็ดเองได้” 

แก้มบวมทำให้เสียงที่เปล่งออกมาอู้อี้ราวกับตัวตลก 

คนึงวางผ้าคืนน้ำ  เดินผ่านชั้นหนังสือใหญ่มายังเขตตัวเองตามมารยาท  เพื่อให้อีกฝ่ายเช็ดเนื้อเช็ดตัวอย่างสะดวกใจ  ชายหนุ่มทรุดตัวลงนั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะ  การบ้านที่ต้องตรวจก็ยังคั่งค้างอยู่  แต่สายตาเจ้ากรรมมันคอยจะมองผ่านช่องว่างที่ชั้นหนังสือไปยังอีกฝั่งห้องอยู่เรื่อย 

ร่างโปร่งบางค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้า  บิดผ้าให้หมาดน้ำก่อนไล้ไปตามเนื้อตัวเก้ๆกังๆ  สายตาคมนิ่งมองเรือนกายที่เห็นเพียงบางส่วนราวหลงละเมอ 

ดูผิวสินวลละอองอ่อน   มะลิซ้อนดูดำไปหมดสิ้น**


เมื่อใส่ชุดนอนเสร็จเรียบร้อย  เลอมานจึงเห็นอาจารย์หนุ่มเดินข้ามเขตมาเก็บอ่างเคลือบ  ดวงตาสีน้ำตาลใสมองตามไม่วางตา  คำพูดของวิรัชยังรบกวนอยู่ในหัวไม่วางวาย

“อาจารย์” เสียงอู้อี้เรียกไว้  เท้าที่กำลังจะก้าวจากห้องชะงัก  หันมาประสานสายตา 

อาจารย์ตั้งใจหรือเปล่า? 

อนิจจา  คำถามที่กึกก้องอยู่ในหัวใจไม่อาจผ่านปากไปได้ดั่งใจคิด  เพราะเขากลัวนัก  กลัวคำตอบที่จะได้ยินเหลือเกิน

“มีอะไรหรือ” อาจารย์เป็นฝ่ายถามทำลายความเงียบงัน  เลอมานยิ่งน้ำท่วมปาก  หลุบตาลงต่ำ  กล่าวอุบอิบ

“เปล่าครับ  ไม่มีอะไร” 


คล้อยหลังอาจารย์คนึงไปไม่ทันไร  เลอมานก็แว่วเสียงคนมาเรียกเขาที่ด้านล่าง 

“คุณชาย ๆ” เสียงเรียกนั้นไม่ดังนัก  เขาจึงฟังไม่ออกว่าเสียงใคร  ครั้นชะโงกหน้าต่างมองลงไปจึงได้รู้ 

นายสิงห์!

ฝ่ายนั้นยิ้มกว้างยามเห็นหน้าเขา  เหลียวซ้ายแลขวาเหมือนกลัวใครเห็นก่อนกวักมือเป็นความหมายให้เขาลงไปหา  เลอมานยิ้มน้อยๆเท่าที่แก้มบวมตึงจะอำนวย  คว้าสเว็ตเตอร์ผ่าอกเนื้อนุ่มสวมทับเสื้อนอน  ก่อนผินกายลงไปหาด้วยหัวใจลิงโลด

ลูกชายกำนันหิ้วตะกร้าผลไม้มาด้วย  มาเยี่ยมเขาเป็นแน่แท้

ทว่าหัวใจที่พองโต ใบหน้าที่บานแฉ่งเหมือนดอกไม้ต้องแดดมีอันต้องหุบ  เมื่อได้ยินคำพูดแรกที่ออกจากปากฝ่ายนั้น

“จ้อยล่ะ”

คุณชายแอบกัดริมฝีปาก  โธ่..หลงดีใจ นึกว่าสิงห์มาเยี่ยมเขาเสียอีก 

“จ้อยเป็นยังไงบ้าง” เสียงทุ้มถามห่วงใย แววตาอาทรถึงคนที่ถามหา  มือใหญ่กระชับตะกร้าผลไม้ในมือแน่น  ส้ม องุ่น แอปเปิล  คัดมาแต่ผลสวยๆ  ดวงตาสีน้ำตาลใสเหลือบเห็นน้ำอัดลมสีแดงในนั้นด้วย 

“ไม่รู้สิ วันนี้ยังไม่เจอเลย” เสียงอู้อี้ที่ผ่านริมฝีปากทำให้อีกฝ่ายชะงัก  เพิ่งสังเกตเห็นรอยช้ำเขียวคล้ำบนใบหน้างาม

“หน้าไปโดนอะไรมา” ดวงตาคมเข้มมองใบหน้าบวมช้ำอย่างสงสัยระคนตกใจ  เพราะสิงห์กลับไปก่อนเมื่อตอนกลางวัน จึงไม่รู้ว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น  นิ้วมือหยาบใหญ่ค่อยๆแตะลงบนซีกแก้มแผ่วเบา “เจ็บไหมนี่”

เลอมานหัวเราะขึ้นจมูก  อดคิดอย่างขำไปไม่ได้  แก้มเขาบวมเป่งจะทิ่มหน้าอีกฝ่ายอยู่แล้ว กลับเพิ่งมาสังเกตเห็น 

“คุณชาย” หัวหน้าอันธพาลรีบวกเข้าประเด็น  ไม่รอคำตอบ “ผมอยากไปเยี่ยมจ้อย  พาไปหามันทีสิ”

“หือ” สีหน้าเด็กหนุ่มสูงศักดิ์คงแสดงความสงสัยไม่น้อย  อีกฝ่ายจึงทำท่ากระสับกระส่าย  ถูปลายจมูกตัวเองไปมา  ใบหน้าคร้ามเข้มซับสีแดงเรื่อยามโน้มใบหน้าลงมาใกล้ชิด  เอ่ยแผ่วเบาแทบเป็นกระซิบ

“ไม่เจอมันหลายวันแล้ว  นะคุณชาย พาผมไปหามันที” มือใหญ่กุมมือน้อยเขย่าวิงวอน  จนเลอมานอดขำไม่ได้  “นะคุณชาย  เดี๋ยววันหลังจะพาไปเที่ยวอีก”

“ฉันไม่ใช่เด็กนะ” เสียงใสกลั้วหัวเราะ  มือยังกุมกันไม่ปล่อย  จนเมื่อลูกชายกำนันสีหน้าเปลี่ยนไป เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นใครอยู่ด้านหลังเขา  เลอมานหันขวับมองตาม  เห็นคนตัวสูงในเสื้อกุยเฮงกางเกงแพร  ผมเปียกชื้นเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ  หน้าขาวดูบึ้งตึง 

“ทำอะไรกัน”  ถามพลางยกมือข้างหนึ่งไพล่หลัง.. คล้ายซ่อนสิ่งใดไว้ 

คนถูกถามมองหน้ากัน  สิงห์กระซิบกระซาบ “คุณชายอย่าบอกใครนะ”

“เอ่อ..” คุณชายหันไปอึกอักอ้ำอึ้ง  โดนกำชับแบบนี้แล้วจะตอบคนถามว่าอะไร  สมองประมวลข้อมูลก่อนถ่ายทอดคำตอบแบบกำปั้นทุบดิน “ยืนคุยกัน”

สายตาคมวาวที่จ้องมองมาพาให้อึดอัดชอบกล  จนเด็กหนุ่มต้องจูงแขนลูกชายกำนัน นำให้ออกเดิน  อยากไปให้ไกลๆสายตาคู่นั้น

“ค่ำมืดแล้วจะไปไหน” กระชากถามเสียงห้วน  นักเรียนตัวดีชะงักยามอาจารย์ปรูดมาขวางหน้าไว้  สองสายตาประสานกัน   

ถ้อยคำที่คนึงพูดกับอาจารย์ใหญ่  และถ้อยคำที่วิรัชพูด  คละเคล้าขุ่นมัวในหัวใจ  ดวงตาสีน้ำตาลใสจ้องหน้าอาจารย์ผู้ดูแลเขม็ง  เอ่ยวาจาตัดรอนที่แม้ลูกชายกำนันยังขนลุก

“อาจารย์ไม่ต้องห่วงหรอก  เดี๋ยวสิงห์ดูแลผมเอง” 

“อ้อ” ริมฝีปากหยักได้รูปยิ้มเยาะ “เห็นทำหน้าเศร้าซึมทั้งวัน  ที่แท้ก็รอบางคนมาเยี่ยมหรอกหรือ”   

“พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น  ตีหน้าอ่อนใสให้ยุ่งเหยิง  ก่อนจูงมือใหญ่เดินหนีไปไม่สนใจ   

คนถูกเมินยืนคว้าง  อารมณ์เคืองขุ่นปะทุจนเผลอกำหมัด  หากสัมผัสบอบบางของสิ่งที่อยู่ในอุ้งมือทำให้ต้องรีบคลายแทบไม่ทัน 

***************************
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-01-2012 20:44:47 โดย ดอกไม้ »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
แบบว่า อยากอ่านมากกกกกกก

เลยไปตามอ่านที่เด็กดีเรียบร้อยแล้วคะ

รอให้ถึงตอนปัจจุบันเร็วๆ


ขอบคุณคะ

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
หอพักนักเรียนเป็นอาคารไม้สองชั้น  อาจารย์ผู้ดูแลหออนุญาตให้เลอมานและสิงห์เข้าไปได้อย่างสะดวก  บุตรชายท่านทูตพาลูกชายกำนันเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง  หยุดอยู่หน้าห้องหนึ่งซึ่งเขาแวะเวียนมาประจำจนคุ้นเคย 
   
“สง่า สันติ ฉันเอง” ว่าพลางเคาะบานประตูไม้เป็นมารยาท 
   
“เข้ามาเลยคุณชาย” เสียงสง่าโหวกเหวกมาจากในห้อง  มือเรียวจึงเปิดเข้าไปไม่รั้งรอ  ปล่อยให้คนตัวโตยืนกระสับกระส่ายเก้กังอยู่นอกห้อง  ได้แต่ชะเง้อแลมอง ไม่กล้าเข้าไป
   
ห้องของพวกจ้อยกะทัดรัดพออยู่กันได้สามคนไม่แออัด  เตียงสองชั้นของสง่ากับสันติชิดผนังด้านหนึ่ง  แค่กวาดตาดูก็รู้แล้วว่าเตียงไหน โต๊ะไหนเป็นของใคร  โต๊ะรกๆ เกลื่อนไปด้วยนิตยสารมวย  ผนังข้างเตียงติดรูปโผน กิ่งเพชร กับเพชรา เชาวราษฎร์ให้พรืดไปทั้งแถบนั่นเป็นพื้นที่ของสง่า  ส่วนโต๊ะของผู้คงแก่เรียนอย่างสันตินั้น  มีตำราเรียนปนกับหนังสือธรรมะวางอย่างเป็นระเบียบ  ส่วนของจ้อยนั้นดูสะอาดสะอ้านโล่งตากว่าใคร  มีเพียงหนังสือเรียนกับดอกมหาหงส์ปักอยู่ในแก้วส่งกลิ่นหอมเย็น  ปลาตะเพียนสานเองแขวนอยู่ที่หน้าต่าง  แหวกว่ายสายลมไปมา 

จ้อยนั่งพิงหมอนอยู่บนเตียง  รายล้อมด้วยสองสหาย  ร่างเล็กเขยิบนั่งหลังตรง ยิ้มกว้างทันทีที่เห็นเพื่อนผู้สูงศักดิ์

“อ่านหนังสือกันอยู่หรือ” เลอมานถามเมื่อเห็นตำราเรียนในมือทั้งสาม  และสองสามเล่มกางหราเกลื่อนเตียง

หากเมื่อนักเรียนทั้งสามเห็นหน้าผู้มาเยือนถนัดถนี่เท่านั้น  ห้องน้อยก็พลันชุลมุน
 
“คุณชาย! เจ็บมากไหมครับ” จ้อยยันกายลุกจากเตียง  กุมท้องเดินเขยกมาหา

“หนักขนาดนี้เลยเรอะ” สันติปราดเข้ามาใกล้ ขยับแว่นมองให้ชัดๆ

“ซี้ด..เห็นแล้วเจ็บแทน” สง่าทำท่าแหยง  กุมแก้มตัวเองเหมือนรอยช้ำนั้นอยู่บนหน้าตน
 
สามหนุ่มตรงเข้ามะรุมมะตุ้ม  คุณชายต้องรีบยกสองมือปราม  รีบวกเข้าเรื่องให้เร็วที่สุด       

“จ้อย มีคนมาเยี่ยมแน่ะ” ร้องบอกพลางหันมองหน้าประตู  ทั้งสามหันมองตาม  “สิงห์ เข้ามาสิ”

ลูกชายกำนันเยี่ยมหน้าเข้ามา  กระชับตะกร้าของเยี่ยมในมือแน่น กระแอมไอก่อนก้าวเข้าห้อง  ยิ่งเห็นสายตาไม่ต้อนรับของคนที่ตั้งใจมาเยี่ยมยิ่งประหม่าจนใจฝ่อ

นักเลงที่เคยเดินกร่างอยู่ในตลาด  บัดนี้กลับดูตัวลีบลงถนัดใจเมื่ออยู่ท่ามกลางกลุ่มนักเรียนครูโดยไร้ฝูงลูกน้องติดตาม

ตระหนักรู้ว่าสถานที่นี้ไม่ใช่ที่ของคนอย่างเขาเลยสักนิด 

แล้วที่ไหนเล่าถึงจะเหมาะ  ในบ่อน  ในซ่อง  ในร้านเหล้า  ในโรงบิลเลียดอย่างนั้นหรือ 

โสมมสิ้นดี
 
สายตาอ่อนโยนนิ่งมองคนเจ็บไม่วางตา  ร่างเล็กบางบอบช้ำทรุดนั่งลงบนเตียง  สายตาแชเชือนเบือนหนีไปมองนอกหน้าต่างราวกับหน้าเขามันน่าขยะแขยงนัก  สิงห์ถือโอกาสพิศเสี้ยวหน้าละมุน  ความอัปรีย์ที่ลูกน้องของเขาก่อไว้ยังทิ้งร่องรอยบนใบหน้า  หางคิ้ว มุมปาก ยังเขียวช้ำ   

“จ้อย  ข้ามาเยี่ยม” เสียงทุ้มเรียกแผ่ว  ทว่าใบหน้านั้นก็ยังไม่หันมา  “เอ็งเป็นยังไงบ้าง”
   
เหมือนพูดกับตุ๊กตา  ไม่มีคำตอบ  ไม่มีแม้หางตาเหลือบแลมอง

มุมหนึ่งแสนอึดอัด  แต่อีกมุมชุลมุนนัก  คู่หูลากคุณชายไปซักถามอาการเสียงโขมงโฉงเฉง  ก่อนสง่าจะโพล่งขึ้นมาว่าต้องเอาน้ำแข็งประคบ  แล้วทั้งคู่ก็ลากคุณชายถูลู่ถูกังออกจากห้อง  พาวิ่งโร่ไปหาน้ำแข็ง 

จ้อยชะงักตาเบิกกว้าง  ขยับปากจะเรียกเพื่อนไว้แต่ก็ไม่ทัน  ร่างบอบช้ำลุกขึ้นจะตามออกไป  แต่กลับซวนเซทรุดลงในอ้อมแขนแกร่งที่โผเข้ารับ  จึงรีบขืนตัวออกอย่างขยะแขยง 

ดวงตาสีเหล็กนิ่งมองนักเรียนตัวเล็กเดินกะเผลกไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ห่างจากเตียงออกไป  ได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น  นี่ไอ้จ้อยมันคิดว่าเขาชั่วช้าถึงขนาดจะปล้ำมันกลางหอพักรึไง 
 
อยู่กันเพียงลำพังสองคนแบบนี้ยิ่งชวนอึดอัด  มวลอากาศรอบตัวดูอึมครึม  ปลาตะเพียนน้อยที่ขอบหน้าต่างหยุดนิ่งไม่ไหวติง 

“ข้าซื้อของมาเยี่ยม” นักเลงตัวโตเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ  กระชับตะกร้าในมือยามเดินเข้าใกล้คนป่วย “มีน้ำแดงที่เอ็งชอบด้วยนะ  กินเลยไหม”

กุลีกุจอคว้าขวดน้ำอัดลมในตะกร้า  หยิบไฟแช็คเตรียมงัดฝาจีบ 

“ไปให้พ้น!” เสียงเล็กไล่ส่ง  ไม่ไล่เปล่า  มือน้อยปัดของในมืออีกฝ่ายเสียกระเด็น  ส้มสุกลูกไม้กระจัดกระจาย 

สิงห์นิ่งมองขวดน้ำแดงกลิ้งหลุนๆไปกับพื้นไม้กระดาน 

จำได้.. ในตลาดสดจอแจ  หน้าแผงร้านน้ำแข็งไส  น้ำหวานน้ำอัดลมหลากสีเรียงรายล่อตาล่อใจหมู่เด็กที่กระหายอยากดื่มด่ำรสซาบซ่า  เด็กน้อยแก้มใสคนหนึ่งยืนป้ายน้ำมูกน้ำตา

[ “..น้องจ้อยอยากกิน  น้องจ้อยอยากกินจริงๆนะ..”

“มันแพง  ขวดละตั้งบาท” พี่ชายต่างพ่อทรุดตัวลงนั่ง  ลูบหลังลูบไหล่น้อง “ขวดนึงซื้อไข่ได้ตั้งสามใบ  ซื้อปลาทูได้ตั้งหลายตัว  เก็บไว้ซื้อปลาทูดีกว่า  จ้อยชอบปลาทูไม่ใช่หรือ”

เด็กขี้แยสูดจมูกฟืด  พึมพำ  “..น้องจ้อยอยากกิน..”

เด็กชายตัวโตอย่างสิงห์ลอบมองอยู่เงียบๆ 

“เอาอย่างนี้ไหม” พี่ชายจับไหล่น้อง “พี่จินดาจะต้มน้ำกระเจี๊ยบให้กินแทน  สีแดงๆเหมือนกัน  อร่อยกว่าด้วย  เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อน  แล้วพรุ่งนี้เราไปขอปันกระเจี๊ยบจากลุงอ่ำกัน  ดีไหม”

งานของพี่ที่ว่า  คืองานรับจ้างในร้านก๋วยเตี๋ยว ทั้งเสิร์ฟ ทั้งล้างจาน ค่าแรงน้อยนิด

เด็กน้อยพยักหน้าอ้อมแอ้ม  พี่ชายยิ้มกว้าง ลุกขึ้นจูงมือน้องเดิน 

เด็กชายตัวโตปรูดเข้าดักหน้า  น้องน้อยชะงัก  ก่อนคลี่ยิ้มกว้าง “พี่สิงห์”

“จินดาไปทำงานเถอะ  เราพาจ้อยไปเอง”

เด็กชายสิงห์ขี่จักรยานพาน้องซ้อนลิงโลด  แต่พอถึงที่หมายกลับแทบเข่าอ่อน  ไร่กระเจี๊ยบที่เคยรกเครื้อกลับเตียนโล่ง  ตาอ่ำให้เหตุผลว่าแกฟันทิ้งเพราะจะปลูกอย่างอื่นแทน 

แววตาน้องเศร้าสลดน่าสงสาร 

“ไปกินน้ำแดงบ้านพี่ไหม”

“ไม่เอา” ใบหน้าอ่อนใสส่ายดิก  น้ำใสเอ่อกลบตา “แม่พี่สิงห์ชอบบอกว่าน้องจ้อยเป็นลูกนังหยำฉ่า”

แปลว่าอะไรไม่รู้  แต่ความหมายไม่ดีแน่
   
พี่ดึงตัวมากอด  แสนสงสาร  ก่อนคลายออกใช้สองมือเช็ดน้ำตาเปื้อนแก้ม 

“โตขึ้นพี่จะซื้อที่กว้างๆ ปลูกบ้านหลังโตๆ” วาดแขนเป็นวงกว้างเท่าที่แขนเด็กสิบขวบจะอำนวย “จ้อยอยากปลูกอะไรพี่จะตามใจหมดเลย  อยากได้อะไรบ้าง  มหาหงส์  มะขาม  มะม่วง  แตงโม ปลูกไว้กินเยอะๆ  กระเจี๊ยบด้วยเอ้า”

นึกย้อนกลับไปก็น่าขัน  บ้านในฝัน  ปลูกต้นไม้ได้มั่วจริงๆ

“ซื้อตู้เย็นหลังโตๆ แช่น้ำแดงเยอะๆ ให้จ้อยกินคนเดียว”

“แบ่งพี่จินดากับยายด้วยได้ไหม”

“ได้สิ”
   
สองพี่น้องจูงมือกันเดินไปในแสงอาทิตย์อัสดง

“พี่จะดูแลจ้อยเอง  ดูแลตลอดไปเลย” ]



...พี่จะดูแลจ้อยเอง  ดูแลตลอดไปเลย...

คำพูดเหล่านั้นหลุดออกมาได้อย่างไร  สิงห์นึกเท่าไรก็อับจนในสิ่งที่ตัวเองเป็น


“ไปสิ!  ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง  คนเขาไล่แล้วยังยืนเซ่ออยู่ได้”

ไม่ไล่เปล่า  มือเล็กก้มหยิบแอปเปิลที่กลิ้งไปแทบเท้า ปาใส่คนตัวโต โดนเข้าที่ต้นแขน  โทสะพุ่งวาบ  นักเลงหัวไม้ปรี่เข้าไปบีบต้นแขนเล็ก มือเดียวกำได้รอบ

แอปเปิลลูกเดียวไม่ทำให้เจ็บเท่าไร  แต่ทำไมสิงห์ถึงรู้สึกรานใจนัก

เวลาเพียงไม่กี่ปี  ความสัมพันธ์ที่เป็นดั่งแก้วใส  งดงาม เปราะบาง  เกิดรอยร้าวทั้งดวงจนไม่เหลือเค้าเดิมได้อย่างไร

มือที่กำรอบต้นแขนค่อยคลายออก  นิ่งมองแววตาชิงชังตรงหน้า 

จ้อยที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่แค่พ่อค้าขายผักซอมซ่อ  ไม่ใช่แค่เด็กกำพร้าแร้นแค้น  แต่เป็นนักเรียนครู  เป็นคนมีการศึกษา  เป็นชนชั้นมันสมองของชาติ  แม้ยามเจ็บไข้ยังสุกสกาวเหมือนดาวส่องแสง

ยิ่งมองยิ่งเห็นความต่าง  ยิ่งใกล้ยิ่งรู้สึกห่างไกล    

แม้จะรู้จุดอ่อนของคนตรงหน้าดี  หนี้ที่ติดค้าง ดอกเบี้ยที่งอกเงยจนถูกยึดโฉนดที่นานั่นปะไร  แต่สิงห์ไม่อยากเอามาใช้ข่มขู่  ไม่อยากถูก ‘เกลียด’ มากไปกว่านี้ 

ใจยังหวังอยู่เต็มเปี่ยม  ว่าสักวัน รอยร้าวนั้นจะสมานคืนดังเดิม

นักเลงโตหันหลังกลับ  ก้าวออกมาจากห้อง  ข้ามผ่านผลไม้กระจัดกระจาย   โดยมีสายตาชิงชังของนักเรียนดีเด่นไล่ส่งไม่วางตา

******************************

คุณชายเล็กเดินเอามือแนบแก้มกลับเรือนไม้  ถุงน้ำแข็งที่สง่ากับสันติโปะแก้มให้ยังทิ้งความเย็นไว้จนชาไปทั้งซีกหน้า  คิ้วเรียวขมวดมุ่น  เมื่อนึกถึงสภาพห้องจ้อยที่เห็นตอนกลับไปอีกที

ตะกร้าเอย  ผลไม้เอย  ขวดน้ำแดงเอย กระจายเกลื่อนพื้น  ไร้วี่แววลูกชายกำนัน  สง่าไล่เก็บของแพงอย่างแอปเปิลกัดกินเอร็ดอร่อย  แถมยังยัดใส่มือเขามาลูกหนึ่งอีกต่างหาก 

มือเล็กยกแอปเปิลแดงจัดขึ้นดม  หอม.. ได้กลิ่นแล้วชวนให้คิดถึงบ้าน  เพราะตอนอยู่อังกฤษเขากินแอปเปิลทุกวันเลยก็ว่าได้

เหลือบเห็นอาจารย์ตัวสูงยืนเอามือไพล่หลังอยู่ตรงหัวบันได  เลอมานแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น  ตั้งใจจะเดินผ่านไปเหมือนสายลมวูบหนึ่ง  แต่ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือแข็งแรงคว้าหมับที่ต้นแขนเล็ก  กระชากให้หันมาเผชิญหน้า 

“ครูเคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าตอนกลางคืนห้ามไปไหนก่อนได้รับอนุญาต” ความเคืองขุ่นปนในน้ำเสียงและแววตาเห็นได้ชัด  มือที่กำแน่นไม่คลายแรงบีบลงแม้แต่น้อย  จนนักเรียนนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ 

“ตอนผมไปกับสิงห์อาจารย์ก็เห็นนี่”

“แต่ครูยังไม่อนุญาต!”

หากดอกหางนกยูงจะร่วงลงหนึ่งดอกทุกครั้งที่คนึงตะคอกเขา  ป่านนี้ต้นหางนกยูงที่สูงตระหง่านอยู่หน้าเรือนไม้คงเหลือแต่กิ่งแห้งเหี่ยวเฉายืนต้นตาย

ทำไมนะ  ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ผิดในสายตาฝ่ายนั้นไปเสียหมด  เมื่อเขาทำผิดก็สมควรโกรธอันนี้พอเข้าใจ  แต่เมื่อเขาอยู่เฉยๆ คนึงก็ยังโกรธ  แม้บางครั้งจะพยายามทำดี  คนึงก็ยังโกรธอีก  แล้วจะให้ทำอย่างไร  ต้องทำแบบไหนถึงจะพอใจ 

สิ้นหวังทดท้อกับการเฝ้ารอเศษเสี้ยวความเมตตา  ทะเลทรายคอยฝนยังมีความหวังมากกว่าหม่อมราชวงศ์เลอมานคอยความอาทรจากอาจารย์คนึง  ใจล้าจนหมดแรงจะพยศ 

“จะลงโทษยังไงก็เชิญ  ไปหยิบไม้เรียวมาสิ” ขอบตาเขาร้อนผ่าวยามเงยหน้าขึ้นมองอาจารย์  ซึ่งคงจับอารมณ์ประชดประชันในน้ำเสียงเขาได้  มือที่แข็งแรงราวคีมเหล็กจึงค่อยคลายลง  เปิดโอกาสให้เลอมานสลัดตัวพ้นจากพันธนาการ  เดินหนีเข้าห้อง

อีกฝ่ายยังตามมาราวี  “เราไม่เหมาะจะใช้ชีวิตในกฎระเบียบเลย  ทำอะไรตามใจตัวเองตลอด”

มือบางที่กำลังถอดสเว็ตเตอร์ชะงัก  หันมองเจ้าของวาจาเสียดแทงใจ  แทบผงะเมื่อเห็นอีกฝ่ายในระยะประชิด  ใกล้จนเห็นไรหนวดเขียว  เห็นเงาตัวเองฉายชัดในแววตาเคียดขึ้ง  “ตอนแรกว่าจะกลับอังกฤษแล้ว  แต่สุดท้ายก็กลับมาที่นี่  คงเพราะถูกบังคับใช่ไหม  ถ้าไม่กลับมา  ท่านชายจะไม่ยกมรดกให้งั้นสิ”

เฆี่ยนเขาสักร้อยไม้ยังไม่เจ็บเท่านี้

“ไม่ใช่” คล้ายมีก้อนแข็งๆแล่นขึ้นมาจุกคอ  เด็กหนุ่มฝืนกล้ำกลืนมันลงไปอย่างยากลำบาก  เอ่ยความจริงที่ไม่เคยคิดจะบอกใคร 
“ถ้าผมไม่กลับมา.. ท่านพ่อจะบังคับ.. ให้ผมหมั้น”

“อ้อ..” อีกฝ่ายเพียงพยักหน้ารับรู้  “ผู้หญิงคนนั้นคงขี้ริ้วน่าดูเลยสินะ”

ดวงตาสีน้ำตาลใสคลอวับเงยขึ้นสบตาคนใจดำ  คนที่กรีดใจเขาขาดวิ่นแล้วยังสาดเกลือซ้ำ 

“เปล่า..” ไอร้อนที่กระบอกตาทำให้เขาต้องเบือนหน้าหนี  กระพริบตาถี่  “ผู้หญิงคนนั้น.. เป็น.. ”

กว่าจะเอ่ยได้แต่ละคำแสนยากเย็น

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนรักของ..” เลอมานสูดจมูกลึก  ใบหน้าคมคายอ่อนโยนของคนที่อยู่ไกลแสนไกลทั้งในความจริงและความฝันลอยวูบเข้ามาในห้วงคำนึง “..ของเลขาท่านพ่อ  แต่ท่านพ่อไม่ทรงทราบ”

ดวงตาหลุบต่ำนิ่งมองพื้นไม้กระดานที่เริ่มพร่าเลือน  ไม่รู้หรอกว่าคำพูดตนทำให้คนฟังใจอ่อนยวบลงเพียงใด  ไม่รู้หรอกว่าสายตาที่เอาแต่เกรี้ยวกราดใส่ บัดนี้มองเขาด้วยความอ่อนโยนและสำนึกเสียใจแค่ไหน  รู้แต่ว่าไอร้อนในตาตนมันผ่าวขึ้นทุกที 

“ทำไมถึงช่างขยันหาเรื่องให้คนอื่นปวดหัวนัก!”
“ผมมีหน้าที่ดูแลเขา  เขาบาดเจ็บแบบนี้เท่ากับผมบกพร่องต่อหน้าที่”
“ผมละสะใจที่สุด  โดนเขาแกล้งตีระหัดใส่หน้าเข้าให้ จ๋อยไปเลย”

    
ปลายจมูกโด่งรั้นแดงก่ำ  เลอมานสูดจมูกลึกก่อนเงยหน้าขึ้นประสานสายตา  ถามคำถามที่รบกวนอยู่ในหัวใจมาตลอด

“อาจารย์เกลียดผมใช่ไหม” 

นึกชื่นชมตัวเอง  เขาถามคำถามนั้นออกไปได้อย่างไรโดยที่เสียงไม่สั่นพร่า  วงหน้าคมคายตรงหน้านิ่งงันคล้ายถูกสะกด  สองสายตาประสานกันท่ามกลางความเงียบงัน  เลอมานรอคำตอบอยู่ชั่วอึดใจ

ขอชมตัวเองอีกครั้ง  เขาฝืนยิ้มออกไปได้อย่างไรทั้งที่น้ำตากำลังจะไหลลงร่องแก้มเขียวช้ำ 

“ไม่ต้องพูดหรอก  ผมรู้คำตอบแล้ว” ว่าพลางผินหลังหนีขึ้นเตียงนอน  มือแข็งคว้าแขนไว้  เด็กหนุ่มสูงศักดิ์ก้มหน้าเอ่ยแผ่วเบา

“ผมปวดหัว  อยากนอน” 

มือที่รวบต้นแขนไว้จึงค่อยคลายออกอย่างยอมจำนน


ดึกสงัด  เสียงหรีดหริ่งเรไรระงม  กลิ่นมหาหงส์ยิ่งหอมจัดยามดึก  คืนหน้าฝนอากาศเย็นสบาย  ทว่าอาจารย์ผู้แสนเข้มงวดกลับนอนพลิกกายกระสับกระส่าย  อาศัยเพียงแสงจันทร์สลัว  ลอบมองผ่านช่องว่างระหว่างชั้นหนังสือไปยังร่างที่นอนขดกายอยู่บนเตียงอีกฝั่งห้อง     

คำถามที่เด็กคนนั้นถามยังกึกก้องอยู่ในหัวใจ 

‘เกลียด’ อย่างนั้นหรือ?

หากเลอมานถามคำถามนี้ในวันแรกๆที่พบกัน  เขาจะตอบคำถามนั้นได้ทันทีโดยไม่ลังเล  ทว่าตอนนี้.. แม้แต่ตอบใจตัวเองยังตอบไม่ได้

ยังเจ็บยอกอยู่ในอก  ประกายตาตัดพ้อนั้น  ไยจึงติดตรึงใจ  ไยจึงสั่นสะเทือนนัก 

เสียงเตียงไม้ลั่นออดจากอีกฝั่งห้อง  คนึงสะดุ้งวาบ แสร้งนอนนิ่ง  หากสายตาจ้องเขม็ง  เห็นร่างบอบบางในชุดนอนค่อยๆลุกขึ้นนั่ง  พอเสี้ยวหน้านั้นหันมา  ชายหนุ่มรีบหลับตาปี๋  เงี่ยหูฟังอยู่สักพัก จนเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า  ได้ยินเสียงบานประตูไม้ลั่นออดในความเงียบ  จึงค่อยหรี่ตาขึ้นมอง 

เจ้าเด็กดื้อออกจากห้องไปเห็นหลังไวๆ 

ร่างสูงใหญ่ยันกายลุกขึ้นนั่ง  คิ้วหนาขมวดมุ่นอย่างนึกสงสัย  พรายน้ำบนนาฬิกาข้อมือที่วางไว้ข้างหมอนบอกเวลาเที่ยงคืนกว่า  เด็กนั่นจะไปไหนตอนดึกดื่นป่านนี้

อาจารย์หนุ่มก้าวลงจากเตียง  ติดตามไปด้วยฝีเท้าเบากริบ  เปิดประตูห้องอย่างเบามือไม่ให้ได้ยินเสียงบานพับลั่น  ทว่าในใจกลับร้อนรุ่มดังมีไฟสุม  หม่อมราชวงศ์เลอมานจะไปไหน.. หรือว่า..

นัดใครไว้?

ถึงนอกชาน  น้ำค้างลงเย็นจัดจนต้องห่อไหล่  กลิ่นมหาหงส์หอมเย็นคละเคล้าไปในมวลอากาศ  คนึงชะงักเมื่อแว่วเสียงสะอื้นไห้แผ่วเบามาตามลม  ค่อยๆสาวเท้าแทบย่องไปหัวบันไดซึ่งเป็นต้นเสียงนั้น

แสงจันทร์สลัวรางสาดส่องให้เห็นร่างหนึ่งซุกกายกอดเข่าอยู่กับขั้นบันไดข้างกอมหาหงส์ที่ออกดอกเต็มต้น  ไหล่เล็กบางสั่นสะท้านเหมือนลูกนกที่หลงทางมากับพายุ  เสียงสะอื้นไห้แผ่วเบานั้นเสียดแทงหัวใจคนได้ยินนัก

คนึงยืนอยู่ตรงระเบียง  ไม่กล้าก้าวขาลงบันไดไปหา  ได้แต่นิ่งฟังเงียบงัน 

“ฮึก.. ท่านพ่อ.. พี่ชานนท์.. ชายอยากกลับบ้าน..” เสียงร่ำไห้หาบ้านอย่างว้าเหว่นั้นบีบเค้นหัวใจคนฟังให้ปวดยอกด้วยความสำนึกผิด  อาจารย์หนุ่มหันหลังกลับเข้าห้อง  คว้าผ้าเช็ดหน้าของตัวเองติดมือมา

ลงบันไดได้เพียงสองขั้น  ร่างน้อยที่สั่นเทาก็สะดุ้งเฮือกหันขวับมามองอย่างรู้ตัว  พอเห็นหน้าเขาเท่านั้นดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างอย่างกับเห็นผี   

“ผะ..ผมเห็นอาจารย์หลับแล้ว  เลยไม่กล้าขออนุญาต” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาเบือนหนี  สองมือพยายามเช็ดน้ำตาเป็นระวิง  หากต้องร้องโอ๊ยออกมาเมื่อมือไปโดนแก้มที่เขียวช้ำเข้า 

อาจารย์หนุ่มนั่งลงเคียงข้าง  มือใหญ่ดึงมือเล็กออก  แสงจันทร์นวลอาบไล้เสี้ยวหน้างามละมุน  หยดน้ำตาต้องแสงจันทร์ดูราวเกล็ดเพชร  บรรจงใช้ผ้าเช็ดหน้าซับรอยน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา  ดวงตาที่แวววาวคล้ายดาวสุกใสมองเขาอย่างตกใจและไม่เข้าใจ

คนึงไม่มีคำพูดใดจะเอ่ย  เพียงจูงมือเรียวเล็กประคองให้กลับเข้าห้อง  ได้ยินเสียงสูดจมูกฟืดฟาดยิ่งบาดใจเขานัก 

   
“พรุ่งนี้ผมจะไปพบอาจารย์ใหญ่  ขอเปลี่ยนให้อาจารย์ประพนธ์ดูแลผมแทนดีไหม” เลอมานถามขึ้นเมื่อนั่งลงบนเตียง  พยายามดึงมือออกจากมืออาจารย์ที่ยังกุมมือศิษย์ไม่ปล่อย   

คนึงทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง  จ้องมองไม่วางตา  ก่อนลุกขึ้นไปจุดตะเกียงโคมที่วางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ  แสงทองเรืองรองกระจ่าง  ขับผิวขาวจัดของร่างบนเตียงจนนวลเป็นประกาย

อ้อมชั้นหนังสือไปหยิบดอกมหาหงส์ที่วางอยู่ข้างหมอนประคองไว้ในอุ้งมือใหญ่อย่างทะนุถนอม  ก่อนเดินกลับมาทรุดกายลงนั่งเคียงข้างคนที่ยังมองหน้าเขาอย่างพิศวง 

อมยิ้มเมื่อดวงตาสุกใสคู่นั้นเบิกกว้าง  ยามเขายื่นเจ้าดอกขาวลออส่งให้  ลูกแก้วสีน้ำตาลใสมองหน้าเขาสลับกับดอกมหาหงส์ไปมา   

เมื่อเห็นเขาพยักหน้ายืนยัน  มือเรียวจึงค่อยยื่นมาอย่างเก้กัง  ทว่าจู่ๆกลับชะงักคล้ายนึกขึ้นได้  ดึงมือกลับไปกระพุ่มไหว้อย่างอ่อนน้อมก่อนยื่นมือมารับ 

“ขอบคุณครับ”

อาจารย์ยิ้มอ่อนโยน  มือใหญ่วางบนเรือนผมสีอ่อน  ขยี้เบาๆอย่างนึกเอ็นดู  ก่อนไล้มาตามแนวโครงหน้าเรียวได้รูป  สัมผัสคราบน้ำตาที่เริ่มแห้งจาง  จมูกโด่งได้รูปก้มลงดมกลิ่นดอกไม้หอม  ก่อนเงยหน้าขึ้นถามคำถามเสียดแทงใจ   

“อาจารย์ยังไม่ตอบผมเลย”

ร่างสูงใหญ่ถอนใจแผ่วเบา  หยิบตลับไพลบดขึ้นเปิดฝาออก  กลิ่นหอมเย็นโชยฟุ้ง  บรรจงป้ายตัวยาลงบนแก้มขวาที่เขียวช้ำให้อย่างเบามือจนเหลืองอร่ามไปทั้งซีกหน้า   

ดวงตาคู่สวยวาววับด้วยน้ำใสจ้องมองเขานิ่งงัน 

“เจ็บหรือ” มือใหญ่ชะงัก  “ครูมือหนักไปหรือเปล่า  หรือยาเข้าตา”

นักเรียนส่ายหน้าสูดจมูกลึก  “อาจารย์ไม่ต้องห่วง  ผมจะไม่พาดพิงถึงอาจารย์  ถ้าอาจารย์ใหญ่ถามว่าทำไมถึงอยากเปลี่ยน  ผมจะบอกว่าผมเรื่องมากเอง  ดีไหม” 

น้ำตาหยดหนึ่งรินไหลลงร่องแก้ม  ล้อแสงตะเกียงดูราวเพชรน้ำงาม  กลิ้งผ่านริมฝีปากที่พยายามฝืนยิ้ม

เหมือนอะไรบางอย่างในหัวใจกำลังสั่นสะเทือน  อะไรบางอย่างที่ตนเป็นคนสร้างขึ้นเองกำลังพังทลายลงช้าๆ

อ้อมแขนแกร่งคว้าร่างแบบบางเข้ามากอดแนบอก  ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะตกตะลึงแค่ไหน     

“ครูขอโทษ” เสียงทุ้มพร่ากระซิบแนบหู  โยกโคลงร่างในอ้อมแขนไปมาอย่างปลอบขวัญ “ขอโทษที่ทำเล็กเจ็บ  ทำเล็กเสียใจ  ครูขอโทษ”

ความเอยความรัก         เริ่มสมัครชั้นต้น ณ หนไหน
เริ่มเพาะเหมาะกลางหว่างหัวใจ     หรือเริ่มในสมองตรองจงดี***


ณ เวลานี้  คนึงขอตอบว่าหัวใจ 

ไม่ใช่สมอง! 

เลอมานกระพริบตาไล่หยาดน้ำตาที่รินไหล  ได้ยินเสียงหัวใจเต้นชิดริมหู  อ้อมแขนอุ่นล้ำที่กอดรัดแน่นส่งกระแสอบอุ่นพุ่งวาบอาบทาทั่วหัวใจ

“อาจารย์.. เสื้ออาจารย์เลอะหมดแล้ว” ส่งเสียงประท้วงอู้อี้กับอกแกร่ง  กลับยิ่งถูกกอดแน่นกว่าเดิม 

Tell me where is fancy bred,
Or in the heart, or in the head?
How begot, how nourished?
Reply, reply.


เลอมานรู้คำตอบแน่วแน่..


In the heart.



โปรดติดตามตอนต่อไป

-----------------------------------------------------------------------------------------------
*น้ำตาดาว, ธาตรี คำร้อง,  บุษยา รังสี ขับร้อง
** ศกุนตลา
*** เวนิสวาณิช


(แอ๊ ข้อความมีตัวอักษรมากเกิน ขอไปตอบเม้นข้างล่างนะคะ^^")

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
ตอบเม้นกันเนอะ :L2:

silent_loner
ไม่เป็นไรค่ะเรื่องคอมเม้นคั่น  ดีซะอีกค่ะ  ดีใจที่ได้รู้ว่ามีคนอ่านระหว่างกำลังอัพอยู่ด้วย  ตอนนี้อาจารย์แกเริ่มเปิดใจแล้วน๊า จากนี้คงเลิกเก๊กแล้วล่ะค่ะ  ส่วนพี่สิงห์กับน้องจ้อย คู่นี้ก็คงปวดตับกันต่อไป  ส่วนเรื่องตอบเม้น  เราว่าสนุกดีนะคะ เหมือนได้คุยกับคนอ่านน่ะ ก็เลยชอบตอบเม้น (อยากบอกว่าจำคนอ่านได้ด้วยน๊า)

tonkhaw
เนอะๆๆ ตอนที่แล้วพี่สิงห์ทำตัวน่าตบบ้องหูมากเลย  แต่นับว่ายังดีนะคะที่ไม่ทำอะไรจ้อย

silverphoenix
มาร่วมมือกันแช่งให้ลอยมันเป็นหนองในกันเนอะ (สมัยนั้นยังไม่มีเอดส์) กรรมตามสนองซักทีเถิ้ด  แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ คนชั่วย่อมได้รับผลแห่งกรรมชั่วอยู่แล้ว  ตอนนี้ปล่อยมันลอยนวลไปก่อน  มารอลุ้นชายเล็กกันเนอะ  ว่าจะรอดปากเหยี่ยวปากกาไปได้สักกี่น้ำ

Artemis
ข้าน้อยมิกล้า ๆ  นิยายวายเรื่องเล็กๆจากนักเขียนหน้าใหม่เรื่องนี้ ไม่กล้าเทียบชั้นนักเขียนระดับปรมาจารย์หรอกค่ะ  (แต่ก็ยินดีน้อมรับคำชมเน้อ  กระโดดเข้ากอดเลยเชียวละ)  .....

เขินค่ะ ตอบเม้นไม่ถูก ไปไม่เป็นเลย  :-[ ..คือ..อยากบอกว่าขอบคุณมากนะคะ 
 
silverspoon
พี่สิงห์ต้องเกรงใจลอยค่ะ  เพราะลอยมันเป็นเมียหลวง เอ๊ย..ไม่ช๊ายยยย (รู้สึกจะเล่นบ่อยนะมุขนี้ เหะๆ)  คือต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเองน่ะค่ะ  ความรักจะช่วยละลายอัตตาได้หรือไม่ เรามาลุ้นไปด้วยกันเนอะ   

yayee2
พี่สิงห์ปากแข็ง  ส่วนน้องจ้อยก็ใจแข็ง.. แล้วเมื่อไหร่มันจะเข้าใจกันล่ะคู่นี้ โธ่.. เหนื่อยแทนพี่สิงห์เลยค่ะ  ส่วนอาจารย์ตอนนี้ก็เริ่มใจดีกับคุณชายแล้วนะคะ  (เห็นไหมๆ ความใกล้ชิดทำพิษเข้าจนได้)

ดอกเอ๋ย..เจ้าดอกคุณนายตื่นสาย  คนเขียนใจละลาย เพราะคอมเม้นคนอ่านเอย.. แอร๊ย 

roseen
ไม่อาววว..ไม่เปลี่ยน  ชื่อลอยนี่เอามาจากเรื่องชุด “หลายชีวิต” ของคุณชายคึกฤทธิ์น่ะค่ะ  ชื่อเหมือนกันแต่ระดับความเลวของไอ้ลอยของคุณชายคึกฤทธิ์เลวกว่าเยอะค่ะ  มันเลวแบบ..เลวจนอยากอ้วก   

Takamine
วันนี้เลือดท่วมจอแบบเจ็บๆ ไปแล้ว  ต่อไปจะเลือดท่วมจอแบบหื่นๆ มั่งล่ะ (ว่าเข้านั่น ไม่รู้เมื่อไหร่จะดำเนินเรื่องไปถึง) ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ 

นางฟ้า
พี่ก็ชอบคอมเม้นของน้องนางฟ้าเหมือนกันค่ะ ๕๕๕+  สามคำให้ไอ้ลอยนะ.. เลว ต่อ ไป (อ้าว) เก๊าะไอ้ลอยมันเป็นตัวร้ายนี่นา

pooinfinity
เดี๋ยวดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ คิดว่าคนอ่านคงเข้าใจสิงห์มากขึ้นค่ะ ว่าทำไมต้องทนคบพวกไอ้ลอยด้วย  ขอบคุณมากๆเลยนะคะที่รักคุณชาย  ถึงตอนแรกๆจะทำตัวไม่น่ารัก  แต่ตอนนี้ก็ปรับปรุงตัวแล้วน๊า

ken_krub
ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ^^

@BUA@
ความน้อยใจตามมาถึงตอนนี้ด้วยค่ะ  อ๊ะ..แต่ตอนนี้อะไรๆ ดูเหมือนจะดีขึ้นแล้วนะคะ

Jploiiz
เรื่องสิงห์กับพวกไอ้ลอยนี่เดี๋ยวคงจะได้อ่านกันในตอนต่อไปค่ะ ว่าเป็นยังไงมายังไง มาเริ่มคบกันได้ยังไง  ส่วนจ้อยจะเข้าใจพี่สิงห์บ้างไหมน๊า.. เหมือนพี่สิงห์ก็แอบหวังอยู่เหมือนกันนะคะ 

Zymphoniz
ตัวเองอ่ะ แซวเค้า.. เค้าเขินนะ  :o8:
ก็เมะผู้ถึกบึกบึน พอโดนทำร้ายแล้วมันไม่น่าถนอมน่าสงสารเหมือนเคะตัวน้อยๆนี่นา  หรือไม่มันอาจจะเป็นปมอะไรสักอย่างในจิตใต้สำนึกพี่  เกิดจากการที่พี่มักจะโดนหนุ่มๆน่ารักมารังแกทำร้ายจิตใจเสมอในชีวิตจริง   เลยทำให้พี่หาทางออกด้วยการระบายกับตัวละครในนิยายตัวเองก็เป็นได้       

oaw_eang
อ๊ะ เจ้สองเข้ามาอ่านด้วย ดีใจจังค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ส่วนเรื่องยัดเยียด พอย้อนกลับไปอ่านอีกที..แว้ก จริงด้วยค่ะ  สงสัยตอนเขียนจะเสียดายวรรคทอง(เรอะ?)  ตัดใจทิ้งไม่ลงเลยเอามาใส่รวมกันหมดเลย  อะไรที่มันมากไปมันก็ไม่ดีน่ะเนอะ  ถ้ามีโอกาสได้รวมเล่มจะแก้ไขตรงจุดนี้ก็แล้วกันนะคะ 

อ้อ..ส่วนที่เจ้สองสงสัย  เจ้สองไม่ได้อ่านพลาดหรอกค่ะ  ดอกไม้ยังไม่เฉลยเองแหละว่าชายเล็กไปทำให้จินดาตายได้ยังไง  ทิ้งไว้ให้เป็นปมปริศนา  รอวันคลี่คลายจ้า 

MIkz_hotaru
พอคุณชายทำตัวน่ารักแล้ว มันก็ไม่แปลกที่จะถูก ‘รัก’ เข้าสักวัน  แต่วันนั้นไม่รู้จะมาถึงเมื่อไหร่  คงต้องค่อยเป็นค่อยไปละค่ะ  เป็นคนชอบความรักที่ค่อยๆงอกงามน่ะ  คอยเป็นกำลังใจให้พวกเขานะคะ

ต่ายน้อย
ไม่ลงตัวขนาดนั้นหรอกจ้า  จุดบกพร่องถ้าส่องดีๆก็มีให้เห็นเยอะแยะเลย  สัญญาว่าจะพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้นไปนะจ๊ะ  ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจก้อนโตจ้า

ordkrub
อย่างที่ลอยมันพูดแหละค่ะ  ไอ้สิงห์มันโง่  เรียนไม่เก่งแถมยังไม่ทันคน  ถูกเขาจูงจมูกเอาง่ายๆ มันน่าปลดออกจากตำแหน่งพระรองนักเชียว

Phantom
วันนี้น้องจ้อยโดนแค่นี้  แต่วันหน้าละก็ไม่แน่นะคะ  (ฮุฮุ) ไม่รู้เป็นไร มีความสุขทุกครั้งที่เห็นคนน่ารักๆ เจ็บปวดหรือร้องไห้  ท่าจะโรคจิต ^^

oattie
ขอบคุณที่ชอบค่ะ  ดีใจจังเลย^^

casper75
ภาษาไทยเราเป็นภาษาที่สวยงามมากค่ะ  ละเอียดซับซ้อน  แค่ในความหมาย ‘ผู้หญิง’ ยังมีคำเรียกได้เป็นสิบ  เขียนนิยายทีก็หยิบคำมาใช้สนุกเชียวล่ะ  ขอบคุณที่มีอารมณ์ร่วมไปกับตัวหนังสือที่เราถ่ายทอด  ในฐานะคนเขียนคนหนึ่ง  ก็ต้องขอขอบคุณคนอ่านมากๆเช่นกันค่ะ     

Huasia
แหวกแนวจนตอนแรกที่จะเอามาลงยังกล้าๆ กลัวๆ เลยค่ะ  จะว่าไปก็กลัวตั้งแต่เริ่มเขียนแล้วล่ะ  มันจะแปลกเกินไปไหม  คนจะอ่านแนวนี้กันไหม  แต่พอมาคิดอีกที  ในเมื่ออยากเขียนก็เขียนเถอะ  ประกอบกับได้กำลังใจดีๆจากคนอ่านนี่แหละค่ะ  ขอบคุณมากนะคะ 

CoMa
มันออกหม่นๆ เศร้าๆ นิดนึงเนอะ  ตามประสาคนชอบดราม่าน่ะค่ะ  ขอบคุณมากเลยที่อ่านแล้วชอบ  คนเขียนได้ยินแล้วชื่นใจที่ซู้ดดด 

ลิงน้อยสุดเอ๋อ
ยินดีต้อนรับสู่นิยายเรื่องนี้จ้า  ขอบคุณที่ชอบนะคะ ^^   

ขอบคุณเล้าเป็ด  ขอบคุณผู้ดูแลบอร์ดทุกคน  ขอบคุณคนอ่านและนักเขียนคนอื่นๆด้วยค่ะ  ขอบคุณที่ช่วยกันสร้างชุมชนน่ารักๆ ที่ทำให้ชีวิตเบิกบานขึ้นเยอะเลย   :กอด1:

ดอกไม้
๒๗ มกราคม ๒๕๕๕

ปล. คุณพระ!  ศุกร์หน้าต้องลงตอน ๑๐ แล้วสิ  ต้นฉบับยังเป็นกระดาษชิ้นๆอยู่เลยค่ะ  เดี๋ยวขอเอามาปะติดปะต่อกันก่อนเน้อ   

ออฟไลน์ มะมะมะหมิว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ ทุกอย่างลงตัวมากๆ
ขอบคุณที่มาเขียนนิยายดีๆให้พวกเราได้อ่านกันนะคะ

 :pig4: :pig4:

Zymphoniz

  • บุคคลทั่วไป
จะได้อ่านตอนต่อไปแล้วววววว  :really2:

ตอนนี้สงสารคุณชายจับใจ  :เฮ้อ:

Mio

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:  สามคำให้คู่คุณชาย>>>รัก กัน แล้ว  :-[
รักคนเขียนมากกกกกกกกกกกกกก

silent_loner

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปแล้วสงสารชายเล็ก  :monkeysad:
เหมือนทุกอย่างที่อาจารย์คนึงทำในตอนแรกเหมือนไม่ชอบกัน
ถ้าที่จริงเราไม่ได้ผิดอะไร มันก็น่าน้อยใจอยู่นะ
มาอยู่ต่างถิ่นคนเดียว เจอเรื่องมากมายแล้วยังไม่มีใครเป็นที่พักพิง
ก็จะรู้สึกอ่อนแอและคิดถึงบ้านเป็นธรรมดา
แต่พอคุณดอกไม้บอกว่าต่อไปเริ่มดีขึ้นแล้วก็ค่อยโล่งใจ
ส่วนคู่สิงห์กับจ้อยนี้ก็ไม่คืบหน้าเลย เหมือนเมื่อก่อนน่าจะมีเรื่องผิดใจกัน พี่สิงห์สู้ๆนะ
ปล.เย้!!จำได้ด้วยเหรอค่ะ ดีใจจัง  :-[


ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
คุณดอกไม้ลงถึงตอนเก้าแล้ว อาทิตย์หน้าต้องลงตอนใหม่นะคะ
รอมาสามเดือน ไม่ได้ตามอ่านในเล้า เเต่มาเมนท์เพราะอยากอ่านตอนสิบค่ะ
เเต่จะมาตามต่อที่นี่แหละ เมนท์ทุกที่เลย

รักนิยายเรื่องนี้ สุดยอดนิยายสำหรับเราค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ อย่าหายไปนะ

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
คุณชายเป็นคนดีมากๆ น่ารักจะตาย
ทำไมอาจารย์คนอื่นถึงไม่คิดอย่างนั้นนะ
เฮ้ออ สงสารคุณชายจัง
เราอ่านไปนี่เศร้าตาม จะนั่งร้องไห้ตามแล้ว
อาจารย์คนึงก็อย่าไปดุคุณชายมากสิ
แล้วก็ดูแลดีดีด้วยนะ

รออ่านตอนต่อไปจ้า
อย่าให้รอนานมากน้า จะขาดใจ 5555
+1 ให้น้าาา

Loveyoujung

  • บุคคลทั่วไป
อ่านเรื่องนี้แล้วนึกถึงคนสมัยก่อน มันมีกลิ่นอายยที่ย้อนยุคมากก
ชอบนะ ดูอบอุ่น แต่...จินดาตายตั้งแต่ต้น เราก็เรยยกัวการเข้ามาอ่านอะค่ะ
ไม่อยากให้มันเศร้ามาก ยังงัยก็เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ตอนนี้ร้องให้ไปกับคุณชายเลย วสงสารคนไกลบ้าน

นานไปผู็คนคงจะเข้าใจเนื้อแท้ของคุณชายได้ว่าไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนะ

อย่างน้อยตอนนี้พระเอกเราก็อ่อนโยนกับคุณชายมากๆ อบอุ่นหัวใจจริงๆนะ  :monkeysad: (เช็ดน้ำตาเบาๆ)

ส่วนจ้อยกับสิงห์

หนทางช่างดูยาวไกล

อยากให้พี่สิงห์ได้ดูแลน้องจ้อยไวๆจัง :เฮ้อ:

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
น้องจ้อยยยยยยยยยยยยยย  :-[

ลืมคุณชายไปชั่วขณะ  o22


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






appletokki

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้สวยมากก หนูชอบแนวนี้อ่านแล้วประทับใจ
ชอบคู่สิงห์กะจ้อย มันอ๊ากกกกกกกกกก

wdaisuw

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ได้เมนต์มาสองตอน
ตอนเก้าแล้ว เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ตอนนี้รอจนจะลงแดงแล้วนะคะ :m31:

หิวมาม่า ชงมาหลายๆชามเลยได้มั้ยค้าา
คิดถึงทั้งสองคู่เลย :กอด1:

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วเคลิ้มคล้อยตามไปกับความรู้สึกของตัวละครเลยละครับ  o13

ชอบตอนที่อาจารย์คนึงกอดเลอมานแล้วโยกตัว ดูอบอุ่นมากในความคิดผม

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
“ขอโทษที่ทำเล็กเจ็บ  ทำเล็กเสียใจ  ครูขอโทษ”

หมดเลย หมดกัน พออ่านประโยคนี้ของคุณครู
ไอ้ที่น้อยใจแทนคุณเล็กมาสองสามตอน มันปลิวหายไปกับสายลมเีสียแล้ว  :-[

แล้วคุณเล็กล่ะ หวั่นไหวบ้างมั้ย

ออฟไลน์ fox

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่านทีไรร้องไห้ทุกที คุณชายเล็กโดดเดี่ยวอยู่ต่างบ้านต่างเมือง แล้วยังมีแต่คนหมั่นไส้อีก เฮ้อ...
ถึงตอนนี้ก็ทันอีกเวบแล้ว รอติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ  ^__^

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
คุ้นๆว่าเคยอ่านที่ไหนรึเปล่า ค้นไปค้นมา นึกออกแล้วว่าเคยอ่านที่เด็กดี แต่ไม่ได้แอด fav. ไว้ มาเจออีกทีที่นี้

ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันให้อ่านที่เล้านะค่ะ

ตัวคุณชายเอง เนื้อแท้ก็เป็นเด็กดี เพียงแต่ถือตนว่าเป็นผู้สูงศักดิ์ เลยอาจจะไว้ตัวไว้บ้างในช่วงแรกๆ แต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้าย

ชังน้องไม่ลงหรอกค่ะ ยิ่งมาเจอเรื่องแบบตอนปัจจุบันอีก น้องยิ่งน่าสงสาร คนชั่ว หน้าเนื้อใจเสือเนี่ย มีอยู่ทุกที่จริงๆไว้เว้นแต่ในเขตชนบท ยังดีที่ครูคนึงยังรู้อะไรเป็นอะไรบ้าง แม้ว่าจะมีแอบหลุดๆไป

แต่กว่าน้องจะมีความสุข สงสัยพวกแม่ๆอย่างเราคงเสียน้ำตาไปกับน้องหลายโอ่งแน่ๆ

+1 ให้นะค่ะ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ในที่สุดตอนใหม่ก็จะมาแล้วววว  :sad4:

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
แฟนคลับจ้อยน้ำตาตกกันแน่ๆเลย  ฮือๆๆ  สงสารอ่าาา
สิงห์ต้องเป็นคนดีนะลูกนะ  (แอบลุ้นในใจ 555)

ที่จริงเม้นในเด็กดีไปแล้วจิ๊ดนึง  แต่ตอนนั้นยังเฮิร์ตอยู่
เพราะสงสารจ้อยกับคุณชาย
เลยไม่ได้เม้นอะไรไปมากมาย  มาร่ายยาวในเล้าดีก่า  555

คุณครูคะ....คุณครูคะ....คุณครูเริ่มหวั่นไหวแล้วใช่มั้ยคะ  ฮิ้วววว

สุดท้ายอยากรู้เรื่องปริศนาการตายของจินดาจัง....

ปล.แอบสงสัยนิดนึง...พี่ชื่อจินดา...เก๋นะ...เพราะเชียว
น้องชาย...เคะน้อยน่ารักเหมือนกัน  แต่ชื่อจ้อย  = ="
5555  อย่าคิดมากๆ  แซวเล่นเฉยๆน้า

ปล2.เม้นไปแล้วรอบนึงอ่า  ไม่ติดต้องนั่งพิมใหม่หมด ในมือถือด้วย  ลำบากค่อด
ฮือๆ เศร้าาาา

yagin

  • บุคคลทั่วไป
ไชโยๆๆๆ  ในที่สุดตอนที่รอคอยก็มาถึง

น่ารักจังเลยคุณชาย เวลานี้เปราะบางมากๆเลยน่ะเนี่ย

เอาใจลุ้นต่อไปเน้อ เป็นกำลังใจให้คนเขียนน่ะจ๊ะ ^^

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้เเล้วน้ำตาไหลเลย
เสียดายทั้งอดีตของสิงห์แล้วก็จ้อย
สงสารทั้งเลอมานที่ต้องมารับรู้ความรู้สึกจริงๆที่มีต่อตน
แต่ยังไงทั้งคู่ก็รู้คำตอบเเล้ว "ในหัวใจ/In the heart"

+1 ให้คนเขียนนะ เป็นกำลังใจให้
เรื่องนี้สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เอาไปเลยสิบกระโลก
 o13 o13 o13 o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด