มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]  (อ่าน 712275 ครั้ง)

MelodyKJJ

  • บุคคลทั่วไป
 :sad4: อ่า สงสารพี่สิงห์ง่าาาาาาา T T แต่แอบมีฉากกุ๊กกิ๊ก = = จูบแบบร้อนแรง 55555
รู้สึกดีทุกครั้งที่พี่เข้าถึงตัวน้อง  :-[ ใจมันเต้นๆ หวิวๆ ทุกทีที่อ่าน  :impress2:
จ้อยเริ่มสงสารแล้วเห็นความดีของพี่สิงห์แล้วใช่มั้ย รักกันไวๆน้าาาาาาา คนอ่านทรมานไม่ไหวแล้ว  :o12:
ขอบคุณมากครับ ที่อัพแล้ว มาอัพครึ่งหลังไวๆนะ 
ปล. That's amore  ทำเขินมากๆ ครูคนึง 55555

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
จะสงสารใครดีน้อ
น้องจ้อยของพี่ก็น่าสงสารอยู่แล้ว
ตอนนี้อิพี่สิงห์ก็น่าเอ็นดูไม่แพ้กัน
โธ่อกคนอ่านเอ๋ย
เจียมตัวมั่ง กว่าจะได้อ่านน้องจ้อยรักพี่สิงห์
อกเรานี้คงพรุนกลัดหนองก่อนเป็นแน่แท้
 o7

ออฟไลน์ fox

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ว้ากกกก หวานขนาดนี้ มดจะขึ้นคอมมั้ยเนี่ย >w<

yellowswarn

  • บุคคลทั่วไป
หายไปนานเลยกลับมาอ่านอีกที
อมยิ้มแก้มแตกกับคู่รอง :impress2:
พี่สิงห์กับน้องจ้อย
โอ้ยยย...ขอเป็นแม่ยกพี่สิงห์อีกคนนะคะ
คนอะไรไม่รู้ ซึนว่ะ :sad4:
น้องจ้อยใจแข็งมากเลย
หงุดหงิด :a5:ตรงที่ความคิดไม่ตรงกับซะที มันเลยเป็นแบบนี้ไง

ชอบฉากโมโหนะ เชียร์ให้มีตลอดเวลาที่อ่าน
เรานิยมฉากแบบนี้อิอิ



ส่วนคู่พระ หวานกันไม่แคร์สายตานักเรียน :-[
ครูคนึง ทำเราฟิน อยากกรี๊ดเป็นภาษาเยอรมัน
ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ อยากแปลงร่างเป็นหนูเล็ก อิจฉาอ่ะ
อยากได้แบบนี้บ้าง :serius2:
ในความเห็นเรา ไม่ผิดหรอกที่คนคนหนึ่งจะเริ่มรักใครได้รวดเร็ว
ทั้งที่เพิ่งเสียที่คนรักสุดใจไป ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้หรอกค่ะ
และก็ยินดีกับชายเล็กและครูคนึง หวานกันแบบนี้ต่อไปนะ
ไม่เอานะมาม่า เค้าไม่ชอบมาม่า ไม่อยากร้องไห้ :o12:


ปล. เราชอบจิ้นสิงห์กะจ้อยเป็นเทมจีตลอดเลย อิอิ เขินอ่ะ แบบว่า สิงห์ = ท็อป จ้อย = จี อร๊ายยยยยยย ฟินยิ่งกว่าฟิน
ขอบคุณคุณดอกไม้มากๆค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399


เพิ่งเข้ามาอ่านจบ ตอน 2 อาทิตย์ก่อน อู่หนังสือมาอ่านนิยาย

ปกติเราไม่ค่อยได้อ่านนิยายภาษาด้วยเยี่ยงนี้มาเท่าไหร่นัก  :really2:   :o8:

นึกขึ้นมาได้ก็เข้ามาเม้นด้วยๆเลยค่ะ ชอบมากมายก่ายกองมหาศาลเลยค่ะ

ปกติเป็นคนเม้นนิยายไม่เก่งนัก แต่อ่านแล้วยิ้มตาม เห็นภาพตาม ได้ฟีลสุดๆเลยค่ะ โดยเฉพาะฉากงานวัด ส่วนตัวชอบมากๆเลย

ค่ะ สงสารคู่พระนางรอง ลุ้นจนอึจะไม่ออกแล้ว

เคยแชร์ไว้บนเฟช เพื่อนถามไปอ่านยังออกปากชมว่าภาษาสวยมาก สวยกว่าหนังสือเป็นเล่มที่มันซื่ช้อมาอ่านอีก

 :impress2: :impress2: :impress2: ชอบจังเลยค่ะ คุณดอกไม้ อย่าลืมมาต่อตอนใหม่ไวไวนะคะ เป้นนิยายอีกเรื่อง

ที่กำลังอยู่ในดวงใจน้อยๆของคนอ่านคนนี้เลยค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
บทที่ ๑๙

อกเอยมันแค้น

(ครึ่งหลังจ้ะ :L2:)


ตกเย็นย่ำค่ำ  เรือนไทยไม้สักหลังงามของกำนันเสริมแสนเงียบเหงา  อาหารมื้อค่ำผ่านไปอย่างอ้างว้างเนื่องจากเหลือเพียงคุณนายพูนทรัพย์นั่งกินอยู่ลำพังอย่างเดียวดาย  ตัวกำนันนั้นออกไปตั้งแต่บ่ายยังไม่กลับ  แกบ่นว่ารำคาญลูกเมียเหลือทน  แล้วก็ให้น้าเวกขับเรือยนต์พาออกไป  ไปไหนก็สุดที่จะรู้ได้  ส่วนไอ้สิงห์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณนายยิ่งแล้วใหญ่  นักเลงหนุ่มบิดรถเครื่องออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้า  ดูท่าหนนี้เตลิดไปไกลกว่าทุกที  ป่านฉะนี้ยังไม่เห็นแม้เงา 
   
กับข้าวกับปลาที่จ้อยทำค่ำนี้ดูจะจืดชืดไปเสียสิ้น  เจ้าแม่เงินกู้ดั่งกินข้าวคลุกน้ำตา  จ้อยเห็นอย่างนั้นแล้วก็อดสงสารไม่ได้  หัวอกคนเป็นแม่  หลงดีใจที่ระยะนี้ลูกชายกลับมากินข้าวบ้านทุกวัน  ผ่านไปไม่ทันไรก็เกิดเรื่องให้ลูกชายเตลิดหายไปอีก  คุณนายแตะข้าวแค่แมวดมก็รามือ  ปลีกตัวกลับเข้าห้อง  จ้อยเก็บสำรับกับข้าวเห็นเหลือบานเบอะแล้วให้รู้สึกสะท้อนใจนัก 

“น้ารึหลงดีใจ  เห็นหมู่นี้ตาสิงห์อยู่ติดบ้าน  ไม่ทันไรก็ดีแตกเสียแล้ว  เฮ่อ” น้าแป้นถอนใจเฮือก  ใบหน้าโศกสลด  จ้อยได้แต่ก้มหน้าเจียนใบตองไม่พูดจา  ดูเถอะ  ขนาดคนอื่นอย่างน้าแป้นยังสลด  แล้วผู้เป็นแม่อย่างคุณนายจะยิ่งเสียใจสักแค่ไหน  ไม่แน่.. ในห้องนอนใหญ่ที่มีปิดไฟมืดนั่น  คุณนายอาจนอนน้ำตาเปียกหมอนอยู่ก็เป็นได้
   
สิงห์โชคดีกว่าเขาตั้งเยอะที่เกิดมามีพ่อแม่สมบูรณ์พร้อม  แทนที่จะเคารพบูชาดั่งพระในเรือน  แทนที่จะถนอมใจห่วงใยความรู้สึกผู้ให้กำเนิดสักนิด  กลับทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์อยู่ร่ำไป  ระวังเถิด  ตายไปจะต้องไปแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรน้ำตาแม่ 

น้าแป้นยังถอนใจเฮือกๆ ราวกับไม่มีวันหมด  สองคนช่วยกันเจียนใบตองไว้ห่อข้าวต้มผัดใต้แสงตะเกียงเรืองรอง  รายการของหวานเปลี่ยนแปลงกะทันหัน  คืนนี้บ้านเงียบเหงา  ทำกล้วยบวชชีไปก็ไม่มีคนกิน  จึงตั้งใจว่าจะรอให้กล้วยงอมจัดแล้วเอามาทำข้าวต้มผัดแทน 
   
คิดไปก็เข้าที.. อย่างน้อย.. สิงห์ก็ชอบกินข้าวต้มผัด

ใจหนอใจ  แปลกจริง  ทั้งที่เกลียดแสนเกลียด  แล้วไยกลับจำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้ได้ขึ้นใจ

“ตาสิงห์จะไปไหนด๊าย” น้าแป้นว่าเสียงสูง “หายไปทั้งวันอย่างนี้  คงไม่แคล้วไปขลุกอยู่กับพวกไอ้ลอย  เพื่อนพาเลวแท้ๆ” 
   
จ้อยเห็นด้วยอยู่ในใจ  มงคลชีวิตข้อที่หนึ่งยังว่าไว้ ‘อย่าคบคนพาล’ หากสิงห์ไม่หลงระเริงไปตามเพื่อนเลวๆ เสียก่อน  ป่านนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็คงยังสวยงามเหมือนตอนเด็กๆ

แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปอย่างใจนึก  เขาไม่ชอบนินทาคนอื่น  ทว่าเหมือนน้าแป้นจะจัดอยู่ในจำพวกตรงข้าม
   
“คนอย่างไอ้ลอยน่ะนะ มันไม่กินแต่ขี้ไม่ปี้แต่หมา” ถ้อยผรุสวาทแสนเผ็ดร้อนมีอันต้องสะดุด  เมื่อคนฟังชะงัก  เงยหน้าจ้องเขม็งคล้ายจะปราม  นักเรียนครูเหลียวซ้ายแลขวา  เห็นแม่ผ้าขาวผืนน้อยนั่งเล่นเม็ดน้อยหน่าอยู่ไกลออกไปก็โล่งใจ 
   
จ้อยไม่ชอบคำหยาบ  โดยเฉพาะคำหยาบที่พูดต่อหน้าเด็ก
 
“ขอโทษทีนะครู  น้ามันไม่มีการศึกษา คำพูดคำจาก็เป็นอย่างนี้ละ” สาวใหญ่หดคอกระซิบกระซาบ  ก่อนเล่าต่อด้วยแววตาจงเกลียดจงชัง “แต่จริงๆนะ  ไม่รู้มันจะเกิดมาทำไม ไอ้เคาะกะลามาเกิด  สันดานหมาแท้ๆ  ครูเชื่อไหม  กับน้า..หน้างอกออกฝี แถมแก่เป็นแม่มันได้ มันยังไม่เว้นเล้ย  วันก่อนที่ตลาด  มันหลอกจับมือถือแขนน้าด้วย”
   
หนุ่มน้อยเกือบพลาดเฉือนนิ้วตัวเอง  อย่าว่าแต่น้าแป้น  เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ ยังเคยถูกมัน..

ไม่สิ.. ไม่ใช่แค่ไอ้ลอย  สิงห์ก็เคยทำกับเขาแบบนั้นเหมือนกัน

แต่.. ทำไม.. จ้อยกลับรู้สึกว่ามันต่างกัน..
   
“เฮ้อ.. ไม่รู้ตาสิงห์ไปคบมันได้ยังไง” น้าแป้นยังคงจ้อไปเรื่อย  ขณะที่จ้อยปล่อยความคิดล่องลอยไปไกลแสนไกล  มือเล็กยกขึ้นแตะริมฝีปาก.. ซ้ำๆ..

****************************
   
คืนวันศุกร์  นักเรียนชายเดินกันเป็นกลุ่มๆ หน้าโรงหนังเปรมประชา  โรงหนังทำด้วยไม้ หลังคาสังกะสี ข้างหน้าโรงติดไฟสว่างจ้า  ข้างในมีม้านั่งไม้แข็งๆ นั่งไม่สบายนักแต่ก็เหมาะสมกับการดูหนังคาวบอยอันเป็นหนังประเภทที่นิยมกันมากดี 
   
ส่วนการประกาศหนังนั้น  เขาใช้รถบรรทุกคันเล็กๆ ปิดป้ายสองข้าง ตีกลองและฉาบแล่นช้าๆ ไปทั่วเกาะเมือง  วันนี้ขณะกำลังตรวจการบ้านนักเรียนในห้องพักครู  เลอมานยังได้ยินเสียงรถประกาศแว่วมา 
   
การแปลชื่อหนังเป็นภาษาไทย  มีความมุ่งหมายที่จะเรียกร้องเร้าใจให้อยากดู  ‘The Magnificent Seven’ ก็กลายเป็น
’เจ็ดเสือแดนสิงห์’  เด็กหนุ่มสูงศักดิ์ยืนอ่านโปสเตอร์อีกใบที่แปะอยู่ติดกัน อืม.. ‘The Frogman’ ยังกลายเป็น ‘เสือใต้น้ำ’ เลยแฮะ  คำว่า ‘เสือ’ ปรากฏอยู่ในชื่อหนังหลายเรื่อง  จนเขาคิดว่าถ้าไม่มีคำนี้อยู่ในภาษาไทย  คนแปลคงลำบากไม่ใช่น้อย

ค่าตั๋วดูหนังตกราคาใบละ ๑๐ บาท ทีแรกเลอมานจะเป็นคนออกให้เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะเลี้ยงทั้งสง่า, สันติและอาจารย์คนึง แต่อาจารย์กลับไม่ยอมท่าเดียว  ดึงดันจะจ่ายให้ทุกคนเอง  เถียงกันอยู่นาน  จนสง่าต้องแอบกระซิบว่าการปฏิเสธน้ำใจผู้ใหญ่นั้นเสียมารยาท  เล่นเอาคุณชายหน้าเจื่อน
   
เขาแค่เกรงใจ เพราะรู้มาว่าเงินเดือนข้าราชการครูนั้นไม่ได้มากมายอะไร  ทุกวันนี้ก็เห็นคนรักจับจ่ายใช้สอยอย่างมัธยัสถ์  ไม่เคยมีสักครั้งที่จะเห็นคนึงฟุ่มเฟือย คนึงไม่เคยเที่ยวเตร่ตามสโมสรหรือโรงบิลเลียดอย่างอาจารย์คนอื่น ซ้ำยังต้องแบ่งเงินเดือนส่งฝากธนาณัติไปให้พ่อแม่ผู้ชราภาพเป็นประจำทุกเดือน
   
“ไม่ต้องห่วง  แค่นี้ครูขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก” เขาทำสีหน้าแบบไหนออกไป  เสียงทุ้มอ่อนโยนจึงหล่นจากริมฝีปากได้รูป ประกายอ่อนเอื้อจึงฉายชัดจากดวงตาสีเข้ม ความอ่อนละมุนใดคลี่พันหัวใจไว้จนอุ่นซ่าน
   
“เอาไว้เล็กค่อยตอบแทนครูวันหลัง..” ใบหน้าคมสันโน้มลงกระซิบให้พอได้ยินกันแค่สองคน “..ด้วยอย่างอื่น”

คุณชายอมยิ้มแก้มแดงเรื่อ  ความอุ่นทวีเป็นความร้อนเสียแล้วซี

จวนได้เวลาฉายหนัง  สง่ากับสันติพาคุณชายเข้าไปหาที่นั่งด้านใน  จัดแจงกันเองเสร็จสรรพไม่ปรึกษาใคร  กว่าเลอมานจะรู้ตัวอีกที  ก็ถูกจับให้นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างสองสหายแล้ว 
   
อาจารย์คนึงที่นั่งติดกับสง่ากระแอมขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง  “สง่า  สลับที่เดี๋ยวนี้  ให้คุณชายนั่งข้างครู”
   
“อะไรเล่าอาจารย์  เด็กๆ เขาจะคุยกัน” เด็กขี้เถียงอย่างสง่าพูดแบบนี้  เล่นเอา ‘ผู้ใหญ่’ เม้มปากเป็นเส้นตรง
   
“เผื่อคุณชายฟังไม่ทันตรงไหน  พวกผมจะได้คอยอธิบายไง” สันติเข้าข้างเพื่อนเต็มที่  เลอมานได้แต่อึกอัก  เหลือบมองคนรักที่ถูกสง่านั่งขวางกั้นไว้อย่างอึดอัดใจ
   
“พูดไม่รู้ฟังนะ” อาจารย์เริ่มทำหน้าดุขึ้นมาแล้ว “หรืออยากโดนหักคะแนน”

เจอขู่แบบนี้เข้าไปคู่หูก็หัวหด  สง่าจึ๊ปากเสียดมเสียดายก่อนยอมสลับที่กับเลอมานอย่างเสียไม่ได้  ในที่สุด.. อาจารย์ก็ได้นั่งข้างศิษย์รักสาสมใจ
   
แสงไฟสว่างค่อยดับมืดลง  เหลือเพียงแสงจากจอผ้าใบตรงหน้า  เลอมานกำลังจดจ่ออย่างตื่นตาตื่นใจมีอันต้องสะดุ้งเมื่อมือที่วางไว้บนพนักถูกลูบไล้ไปมาแผ่วเบา 
   
เด็กหนุ่มสูงศักดิ์หันมองตัวการข้างกาย  คนอะไร  ทำเป็นตั้งหน้ามองตรงราวกับตั้งใจดูหนังเต็มที่  แต่มือซุกซนกลับกุมมือเขาเอาไว้จนแน่น  ค่อยๆ แทรกนิ้วกุมกระชับ  เลอมานได้แต่อมยิ้มในแสงสลัว  ใจเต้นถะถี่ขึ้นมา  มือเล็กกุมมือใหญ่นั้นไว้แน่นเหนียวเช่นเดียวกัน

*****************************
   
นาฬิกาลูกตุ้มที่แขวนไว้ข้างผนังตีเหง่งหง่างบอกเวลา ๓ ทุ่ม  จ้อยปิดหนังสือถอนใจเฮือกๆ  ตัวหนังสือที่อ่านไปไม่เข้าหัวเลยสักนิด 
   
ใจมันคอยพะวงอยู่แต่กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
   
ดึกป่านนี้แล้ว  ไอ้สิงห์จะกินข้าวหรือยัง  แผลเลือดโกรกที่ขมับจะเป็นอย่างไรบ้าง  มีใครดูแลทำแผลให้หรือยังหนอ  แล้วค่ำคืนนี้ไอ้นักเลงหัวไม้คนนั้นจะนอนที่ไหน  จะไปก่อเรื่องวิวาทกับใครอีกหรือเปล่า

เห็นไหม  เรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น  แต่จ้อยไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงหยุดคิดไม่ได้ 
   
ใจที่ลอยเหม่อไปไกลมีอันต้องชะงัก  ทั้งร่างสะดุ้งโหยง  เมื่อบานประตูไม้เปิดออกชนิดไม่ให้สุ้มให้เสียง  หากพอเห็นผู้มาเยือนถนัดตา  ริมฝีปากที่เตรียมแย้มยิ้มส่งให้มีอันต้องหุบฉับ
   
คุณนายพูนทรัพย์ในชุดนอนกรุยกรายยืนอยู่ตรงหน้า  หาใช่คนที่เขารอคอยอยู่ไม่ 

คิดถึงตรงนี้ก็ตกใจ  นี่เขากำลัง ‘รอคอย’ ไอ้สิงห์อยู่อย่างนั้นหรือ 
   
“ตาสิงห์ยังไม่กลับมาอีกหรือ” เมียกำนันถามเสียงละห้อยเมื่อกวาดตามองไปรอบห้องแล้วไม่พบลูกชายสุดที่รัก 

“ยังเลยจ้ะ” ฟังคำตอบแล้วคุณนายก็ถอนใจเฮือกๆ  เดินไปทรุดกายนั่งลงบนเตียงกว้าง  มือขาวลูบไล้หมอนลูกชายแผ่วเบา 
   
“เฮ้อ.. ป้าข่มตาหลับไม่ลงเลยจริงๆ” นัยน์ตาที่กราดเกรี้ยวใส่จ้อยอยู่เสมอ บัดนี้กลับสลดลงอย่างน่าสงสาร “จ้อยเอ๋ย  อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ  ไปตามตาสิงห์ให้หน่อยได้ไหม”
   
หนุ่มน้อยนึกประหลาดใจที่เขาไม่รู้สึกขัดข้องสักนิด  รอยยิ้มอ่อนจางเจือบนใบหน้าละมุนกระทบแสงตะเกียงเรืองรอง  เสียงอ่อนโยนรับปากผู้ใหญ่เป็นมั่นเหมาะ  เพราะอดคิดไปไม่ได้ว่าเป็นความผิดของตนเหมือนกัน  ที่ทำให้ลูกชายกำนันเตลิดออกจากบ้านไปแบบนั้น
   
ป้าทรัพย์ไหว้วานแบบนี้ก็ดีเสียอีก  อย่างน้อยจ้อยจะได้มีข้ออ้างไปตามหา  เจ้ากุ๊ยกะโหลกกะลานั่นจะได้ไม่หลงเข้าใจว่าจ้อยเป็นห่วง
   
ห่วงหรือ?  ไม่หรอก  ไม่ได้เป็นห่วง  แค่อยากรู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่  เท่านั้นเองจริงๆ   

คล้อยหลังคุณนายพูนทรัพย์  จ้อยก็ลุกขึ้นมาจัดแจงตัวเอง  แอบยืมน้ำมันใส่ผมตันโจของสิงห์มาลูบลงผมสักนิดพอให้หายยุ่ง  คว้าเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่สิงห์ซื้อให้มาสวม  เผื่อพี่เห็น พี่จะได้ดีใจที่น้องไม่ได้เอาไปทิ้งขว้าง

และหากพบกันสองคน  หากเป็นไปได้  จ้อยก็อยากจะเอ่ยปาก ‘ขอโทษ’ สักคำ

****************************

จันทร์ไม่สกาว  ดาวจึงแข่งแสงซุกซน  ฟ้าบนมืดเหมือนผืนกำมะหยี่  ประดับอัญมณีเป็นรูปเป็นรอย  ตรงนั้นลูกไก่ ๗ ตัว  ตรงโน้นจระเข้  ตรงนู้นคันไถ 
   
หนังจบแล้ว  คนึงขับรถพาเด็กๆ เดินเที่ยวตลาดโต้รุ่งเลียบคลองเมือง  สง่ากับสันติได้ข้าวหลามคนละกระบอก  ส่วนคุณชายเดินแทะไหมฝันสีฟ้าอย่างใจลอยอ้อยอิ่ง  เดินกินกันไปคุยกันไปใต้แสงดาวพราว
   
“ทำไมทุกคนในหนังถึงพูดเสียงเดียวกันหมด” เลอมานถามสง่าและสันติถึงประเด็นข้องใจในหนังที่เพิ่งดู “แล้วทำไมผู้หญิงพูดเสียงแหลมอย่างนั้นเหมือนกันทุกคน”
   
“ไม่รู้หรอกหรือ” สง่าร้องถามแล้วหัวเราะเอิ้กอ้าก
   
“รู้หรือเปล่าว่าผู้ชายเป็นคนพากย์” สันติถามกลับ “คนพากย์คนเดียวพูดแทนหมดทุกตัว” แล้วก็หัวร่อกันใหญ่  เลอมานได้แต่พยักหน้าหงึก  เพิ่งรู้เอาเดี๋ยวนั้นเองว่าคนพากย์มีความสามารถแค่ไหน  พูดคล่องคนเดียวได้ตลอดเรื่อง  ไม่มีตะกุกตะกักเลย

อาจารย์หนุ่มเดินรั้งท้ายตามหลัง  คล้ายระมัดระวังความปลอดภัยให้นักเรียนในความดูแล  แต่สายตาจับจ้องอยู่เพียงคนเดียว 
   
“คำว่าฉิบหายแปลว่าอะไร” เด็กหนุ่มสูงศักดิ์ถามซื่อๆ แต่เล่นเอาคนฟังแทบสำลัก  สันติทำหน้าเหมือนข้าวหลามติดคอขึ้นมาดื้อๆ  อาจารย์คนึงกระแอมไอ  ต่างพากันอธิบายอยู่นานกว่าเลอมานจะนึกออกว่าตรงกับภาษาอังกฤษว่า ‘Damn’ นั่นเอง 
   
“เออ คุณเล็ก” สง่าก็อยากถามบ้าง “ทำไมฝรั่งมันจูบกันแต่ละที  ขยี้ซะปากบิดปากเบี้ยว” ไม่ถามเปล่า  ทำปากยื่นปากยาวประกอบเสียด้วย  เล่นเอาคุณชายหัวเราะคิก 
   
“เมืองนอกมันหนาวละม้าง” สันติออกความเห็น  ดันแว่นขึ้นดั้งจมูกท่าทางทรงภูมิ 
   
“คุณเล็กเคยจูบใครปากบี้อย่างนั้นหรือเปล่า” สง่าเล่นถามแบบนี้  คนถูกถามถึงขั้นหน้าร้อนวาบ  เหลือบมองคนตัวโตที่เดินตามหลังมาติดๆ
   
“เคยแต่ถูกจูบ” คำตอบยิ้มๆ
   
“ฮ้า!” สง่าร้องลั่น  ตาโตเท่าไข่ห่าน “สาวฝรั่งนี่ใจกล้าขนาดนั้นเชียว”

เลอมานไม่ตอบคำ  ได้แต่ยิ้มละมุนก้มหน้าบิไหมฝันเนื้อนุ่มเข้าปาก  รสหวานซ่านแล่นลามจากปลายลิ้นสู่หัวใจ

อยากบอกสง่าเหลือเกินว่า สาวฝรั่งที่ไหน  หนุ่มไทยใกล้ตัวนี่ละ  ร้ายนักเชียว   

ศิษย์อาจารย์พากันเดินกลับมายังรถจี๊ปที่จอดไว้  สง่าตาไวกว่าใคร  เพียงเห็นเพื่อนตัวเล็กเดินมาแต่ไกลก็โบกมือร้องเรียกโหวกเหวก  ดึงดูดสายตาอีกสามคนที่เหลือให้หันมองเป็นตาเดียว
   
คนที่เป็นฝ่ายตกใจกลับเป็นจ้อย  หนุ่มน้อยทำหน้าเหมือนเด็กขโมยขนมแล้วถูกจับได้  ได้แต่ยืนทื่อเป็นตุ๊กตายอมให้สองสหายลากแขนคนละข้างมาคุยกันที่รถแต่โดยดี
   
“โอ้โห.. แล้วนี่จะไปไหน  แต่งตัวเสียเรี่ยม” สง่าเพิ่งเห็นเพื่อนรักถนัดตา  เจ้าตัวกะเปี๊ยกในเสื้อเชิ้ตตัวใหม่  รีดเรียบ  ซ้ำยังหอมกลิ่นการบูรอ่อนๆ  คนถูกสำรวจด้วยสายตาได้แต่ยืนเก้อ มือไม้ลูบผมเงอะงะเหมือนไม่รู้จะเอามือไว้ตรงไหน 
   
“ทีเราชวนละไม่ยอมมา” คุณชายโอดไม่จริงจังนัก  แต่เพียงคมตาคมปลาบเหมือนใบข้าวตวัดฉับเดียวจ้อยก็หน้าเจื่อนแล้ว   
   
“นัดสาวที่ไหนหรือจ้อย” อาจารย์คนึงแซวขึ้นมาบ้าง  เล่นเอาจ้อยโบกไม้โบกมือหน้าตาตื่น  ครั้นพอให้เหตุผลว่าคุณนายพูนทรัพย์ใช้ให้มาตามหาลูกชาย  เพื่อนๆ ของจ้อยก็บ่นเป็นเสียงเดียวกัน  ทั้งบ่นเมียกำนันที่ใช้งานไม่ดูเวล่ำเวลา  ทั้งติเตียนเจ้านักเลงที่ดีแต่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้คนอื่น
   
ยิ่งพอรู้ว่าจ้อยเดินขาลากตั้งแต่หัวตลาดยันท้ายตลาด  เที่ยวเสาะหาตามโรงบิลเลียด  แม้กระทั่งซ่องนางทองใบก็ไปด้อมๆ มองๆ มาแล้ว  เสียงบ่นก็ทวีความเผ็ดร้อนเป็นเสียงก่นด่าแทน  คนึงเห็นวงหน้าอ่อนใสชื้นเหงื่ออย่างนั้นก็สงสาร  ชักชวนกึ่งบังคับให้ขึ้นรถไปตามหาด้วยกัน 

จ้อยสุดแสนจะเกรงใจ  แต่เขาปฏิเสธอาจารย์ไม่เป็นจริงๆ 

***********************
   

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
ดึกดื่นป่านนี้  โรงเหล้ากลับยังครึกครื้น  ปกติก็เป็นแหล่งมั่วสุมเหล่าอบายชนผู้มัวเมากับสุราอยู่แล้ว  คืนนี้ยิ่งทวีความคึกคักเป็นสิบเท่า   
   
เพราะคืนนี้มีเจ้ามือใหญ่  ประกาศอู้ฟู่ว่าจะเลี้ยงเหล้าให้กับทุกคน  ดื่มกินกันได้ไม่อั้น  แบบนี้พวกขี้เมาทั้งหลายก็หวานหมู  มากันแน่นขนัดทั้งหัวหงอกหัวดำ  ตาสุ่มขี้เมาประจำตลาดถึงขั้นนอนกองอยู่หน้าร้าน  สองมือยังกอดขวดเหล้าขาวแนบแน่นประหนึ่งเมียรัก

ทุกบาททุกสตางค์ลงบัญชีคุณนายพูนทรัพย์ ศรีตลา 

“เอ้าชนโว้ย!” เสียงห้าวประกาศลั่น  ไอ้ลอย ไอ้เลิศ ไอ้หมานเฮรับลูกพี่แล้วยกแก้วชนกันดังเคร้ง   

ขึ้นชื่อว่าเหล้าแล้วไซร้  เมื่อกินเข้าไปต้องเมาแน่ 
   
ขึ้นอยู่กับว่าจะเมามากเมาน้อยเท่านั้นแหละ

คนอย่างไอ้สิงห์  ได้ชื่อว่าเป็นนักดวดคอทองแดงแข็งโป๊ก  ค่าที่ริอ่านหัดดื่มเหล้ามาตั้งแต่นมเพิ่งแตกพาน  ดังนั้น  ทั้งที่ชายหนุ่มปักหลักนั่งดื่มมาตั้งแต่หัวค่ำ  ป่านฉะนี้ออกอาการเพียงแค่เลือดลมสูบฉีดร้อนกรุ่น  ใบหน้าคมคร้ามขึ้นสีแดงเรื่อ  แต่สุ้มเสียงยังชัดแจ๋ว  ไม่ได้ยืดยาดยานคางเหมือนขี้เมาบางคน   
   
หัวหน้าอันธพาลคึกคักเฮฮา  เฮฮาจนผิดปกติ  มีแต่ไอ้ลอยที่ดูออกว่าลูกพี่ของมันพยายามเอาเหล้าเข้ากลบรอยแตกร้าวในจิตใจ
   
ในที่สุดไอ้สิงห์คนเดิมก็กลับคืนมา  ตั้งแต่เช้า  ลูกพี่พาไปมั่วสุมอยู่ในบ่อน  พอบ่ายก็ไปต่อที่โรงบิลเลียด  ตกเย็นก็นั่งเคล้าเหล่าอีตัวที่ซ่องอีทองใบ  จนค่ำก็พากันมาที่โรงเหล้า 
   
มันต้องแบบนี้สิ  ไอ้สิงห์ที่ไอ้ลอยรู้จัก  เลวครบสูตรแบบนี้  หาดีไม่ได้แบบนี้ 
   
ไม่ใช่พอย่ำเย็นผีตากผ้าอ้อมก็รีบร้อนกลับไปกินข้าวบ้าน  อาบน้ำนอนแต่หัวค่ำเหมือนช่วงหลายวันที่ผ่านมา   

สิงห์ยกแก้วเหล้ากรอกปากแก้วแล้วแก้วเล่า  เทลงคอพรวดๆ เหมือนน้ำเปล่า  เคาะโต๊ะร้องเพลงกันโหวกเหวก  เที่ยวขุดคุ้ยเรื่องคนนั้นคนนี้ขึ้นมาคุย  หัวเราะกันอึกทึก  แต่ทุกช่วงจังหวะผีผ่าน  วงเหล้าครื้นเครงพลันเงียบกริบชั่วขณะ  ลูกพี่มองแก้วเหล้าตรงหน้าด้วยดวงตาหมองเศร้า  ไอ้ลอยเห็นแล้วได้แต่ยิ้มหยัน 
   
“ทะเลาะกับไอ้จ้อยมาล่ะสิ” ลูกน้องคนสนิทถามพลางเทของเหลวสีอำพันลงคอ  มันหรี่ตามองเห็นลูกพี่ทำท่าแทบสำลัก  ตาดำเบิกกว้าง
   
“มึงพูดอะไร” ใบหน้าคมสันแดงก่ำ  เจ็บจี๊ดตรงใจดำที่ถูกแทงอย่างจัง 
   
“เห็นที่ร้านกาแฟเมื่อเช้าก็รู้แล้ว  แค่ไอ้เจ๊กมันนินทาหน่อยเดียว  พี่ก็โดดไปชกปากมัน  แตะไม่ได้เลยสินะ” ไอ้ลอยหยิบถั่วคั่วเข้าปาก  พูดเรื่อยเปื่อยเหมือนทองไม่รู้ร้อน “แล้วเป็นไง  มันมาดูดำดูดีพี่บ้างไหม  คงไม่เลยสิ  พี่ถึงออกมาหาพวกฉันแบบนี้”
   
สิงห์นิ่งงัน  กำหมัดเกร็งแน่น  เข็มเล่มหนึ่งปักตรึงอยู่กลางใจ  เจ็บแสบเหลือดี
   
“ใช่สิ  มันเป็นนักเรียนครูนี่  อีกปีสองปีก็ได้ดิบได้ดี  มีคนยกมือไหว้ทั้งตำบล  ส่วนเรามีแต่คนถ่มน้ำลายไล่หลัง” ไอ้ลอยพล่ามไม่หยุด “นี่ขนาดมันยังไม่ได้เป็นครูนะ  ถ้ามันเป็นครูแล้วมันมิถีบหัวพี่เลยเรอะ”

เข็มเล่มเดิมกดลึกลงไปอีก

“ไอ้ลอย!  ถ้ามึงพูดอีกคำเดียว..” มือใหญ่โจนเข้าขยุ้มคอเสื้อลูกน้องคนสนิท  ดวงตาลุกโชนราวสัตว์ป่า  แต่ไม่อาจทำให้คนตรงหน้าสะดุ้งสะเทือนได้สักนิด 
   
“พี่จะชกปากฉันเหมือนไอ้เจ๊กหรือไง” ไอ้ลอยเพียงยิ้มมุมปาก  จ้องตาอย่างไม่เกรงกลัว  ก่อนเหลือบมองเห็นร่างเล็กเดินตรงเข้ามา  มันบุ้ยปากให้ลูกพี่หันไปดู “ดูสิ ใครมา”

สิงห์หันขวับ  พอเห็นว่าเป็นใครก็เท่านั้น  มือที่ขยุ้มคอเสื้อลูกน้องก็คลายออกโดยอัตโนมัติ
   
ไอ้จ้อยมันช่างอายุยืนดีแท้  พูดถึงไม่ทันขาดคำ  จู่ๆ ก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้า  ดวงตาสีเข้มสำรวจคนตรงหน้าหัวจรดเท้า  นักเรียนครูตัวเล็กในเสื้อเชิ้ตสีฟ้าที่มองปราดเดียวก็จำได้ว่าเป็นตัวที่เขาซื้อให้เองกับมือ  วงหน้าอ่อนใสแม้จะดูประหม่า  แต่เมื่อมายืนอยู่ตรงนี้  ในสถานที่แบบนี้  จ้อยก็ดูยังผ่องแผ้วเหมือนดอกไม้ขาวหอมที่ปลิวตามแรงลมมาตกลงบนกองสวะ 
   
“มาทำไม” นักเลงโตถามเสียงห้วน  เบือนหน้าหนีไปทางอื่น  กรอกเหล้าเข้าปากอีกอึกใหญ่
   
จ้อยกลืนน้ำลายลงคอฝืดฝืน  เหงื่อออกชุ่มมือจนต้องกุมกันไว้  ไอ้ลอย ไอ้เลิศ ไอ้หมานมองมาเป็นตาเดียว แต่คนที่อยากให้มองที่สุด  กลับไม่เหลียวหันมาสักนิด 
   
หนุ่มน้อยรวบรวมความกล้าพูดออกไป “กลับบ้านเถอะ”

ยังไม่หันมาอีก..

ประโยคต่อไป  จ้อยต้องรวบรวมความกล้ามากกว่าเดิม  เติม ‘หัวใจ’ ใส่ลงไปหนึ่งเหยาะ

“เป็นห่วง”

สองคำ  เบาหวิว  แสนสั้น  แค่สองคำเท่านั้นเอง  แต่สิงห์ไม่อาจหาคำตอบให้ตัวเองได้  ว่าทำไมคำง่ายๆ สองคำแค่นั้นถึงทำให้หัวใจอันห่อเหี่ยวอับเฉา  กลับพองฟูแทบทะลุอก  ทำให้ดวงจิตอันมืดหม่น  เกิดแสงสว่างเรืองรองเหมือนดาวดวงช่วงโชนสู่ใจได้เพียงนี้   

“เอ็งห่วงพี่เป็นด้วยหรือ” นักเลงหนุ่มตวัดถามเสียงห้วน  ใบหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุราหันมองน้อง  ดวงหน้านวลละอองผ่องใสมองมา  ดาวดวงใดบรรจุอยู่ในหน่วยตากลมโตนั้น 
   
สิงห์ตาไม่ฝาดแน่!  เขาเห็นจ้อยพยักหน้า!  นิดเดียว.. นิดเดียวเท่านั้น

เท่านั้นก็มากเกินพอแล้ว

ชายหนุ่มกระแอมไอ  บอกพวกลูกน้องโดยไม่มองหน้า “กูกลับล่ะ  เดี๋ยวแม่บ่นหูชา  ขี้เกียจฟัง” ว่าแล้วก็รีบร้อนลุกพรวดพราด  ไม่รู้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะหัวใจเต้นรัวจนเสียการทรงตัวกันแน่  ร่างสูงใหญ่จึงเสียหลักเซแซ่ด  คงจะล้มไปแล้วถ้าคนตัวเล็กไม่ปราดเข้ามาประคองไว้ 
   
ใกล้แสนใกล้  ใกล้จนได้กลิ่นแป้งละมุนอ่อนใส  เนื้อตัวหรือก็นุ่มนิ่ม  ตรงข้ามกันเหลือเกินกับเขาที่คลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้า  กล้ามเนื้อแข็งกระด้างแถมยังมอมแมมโสโครก   

คนตัวโตผละออกห่าง  โบกไม้โบกมือไล่  บอกเสียงแข็งว่าเดินเองได้

ไม่ได้รังเกียจน้อง  แค่กลัวกายใจอันโสมมของเขาจะทำให้น้องแปดเปื้อน 
   
จ้อยจึงเพียงตามหลัง  ยามสิงห์เดินออกจากโรงเหล้าด้วยกิริยาของนักเลงเกรื่องกร่างที่พยายามซ่อนหัวใจอันอิ่มเอิบไว้สุดความสามารถ 
   
ทว่ากลุ่มคนที่ยืนคุยกันอยู่ข้างรถจี๊ปสีขาวที่จอดนิ่งหน้าร้านนั้นทำให้ชายหนุ่มถึงกับชะงักนิ่ง  ทั้งร่างชาวาบ
 
ไอ้คนึง ไอ้ชายเล็ก ไอ้สง่า ไอ้สันติ!

พวกมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!?

   
หัวสมองที่ถูกกระตุ้นเร้าด้วยสุรา  หัวใจที่ถูกกระตุ้นเร้าด้วยพิษรักแรงหึง  ปะติดปะต่อเรื่องราวขึ้นเองได้ไม่ยากเย็น

สิงห์เหมือนร่วงจากฟ้าลงดินแข็ง  ความเจ็บและชาเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่ง  ดีใจแล้วพลันเสียใจ  หวานชื่นแล้วพลันขมปร่า  ชายหนุ่มไม่คิดว่าอารมณ์เหล่านั้นจะเกิดกับตัวเองในเสี้ยววินาที  เขาหันขวับจนแทบชนน้องที่เดินตามหลังมา  มือใหญ่บีบข้อมือเล็กแน่น  ลากตัวไปตรึงกับข้างฝา 
   
ท่ามกลางคนเป็นสิบในโรงเหล้า  แต่ทุกคนต่างมัวเมา  ไม่มีใครสนใจ 
   
ยกเว้นไอ้ลอยที่ลอบมองมาอย่างเงียบงัน

“หมายความว่ายังไง” นักเลงเลือดร้อนเค้นถามเสียงปร่า  ยิ่งเห็นตาใสๆ มองมาอย่างไม่เข้าใจ  ไฟฟอนยิ่งโหมกระพือในหัวใจแทบคลั่ง
   
“ทำไมถึงมาด้วยกัน!” เสียงห้าวตะคอกลั่น “ไปดูหนังกับพี่ไม่ได้  แต่ไปกับพวกมันได้ใช่ไหม!”
   
“ปะ..เปล่านะ.. แค่บังเอิญเจอกัน” จ้อยละล่ำละลักแก้ตัว  มือใหญ่ยิ่งบีบแน่นจนต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
   
“งั้นหรือ” สิงห์แค่นหัวเราะ  สายตาเยาะหยันสำรวจคนตรงหน้าหัวจรดตีน “แล้วทำไมต้องแต่งตัวอย่างนี้” มือแข็งเป็นคีมเหล็กบีบคางเล็กแน่นจนหน้าเบ้  จับกระแทกกับข้างฝาดังตึงๆ  ไม่สนใจว่าน้องจะเจ็บแค่ไหน  “ผัดหน้าเสียนวลเชียวนะ  ไว้รอใครมาหอมล่ะ  หรือทั้งสี่คน”

ปีศาจตนใดสิงสู่ใจ  หรือมันซ่อนเร้นแฝงกายอยู่ในนั้นมาตั้งแต่ต้น  ดวงตาเคียดแค้นจ้องมองวงหน้าอ่อนใสราวจะกินเลือดกินเนื้อ  มือใหญ่เพิ่มแรงบีบจนจ้อยน้ำตาคลอ 
   
“ผู้ชายเดิมตามเป็นฝูงเลย  ชอบสิท่า  เอ็งชอบคนไหนล่ะ  ไอ้คนึงที่ออกเงินให้เรียน  หรือไอ้คุณชายที่ซื้อของให้  อ้อ  ไอ้สองตัวนั่นก็เคยกอดไหล่กอดคอเอ็งนี่” ใบหน้าคมสันโน้มเข้ามาใกล้  ลมหายใจรวยรินกลิ่นเหล้าคลุ้ง “ร่านเหมือนแม่ไม่มีผิด”
   
จ้อยเงยหน้ามองราวกับไม่เชื่อหู  ริมฝีปากเม้มแน่น  น้ำตาแห่งความผิดหวังคลอเบ้า  รวบรวมเรี่ยวแรงผลักร่างสูงใหญ่ออก  มือเล็กเงื้อขึ้นตบหน้าคนใจทรามจนหน้าหัน  เกิดเสียงฉาดดังสนั่น   
   
นักเลงหนุ่มเจ็บจนชา  แต่ยังไม่ถึงเสี้ยวความเจ็บที่หัวใจ  สายตาเคียดแค้นชิงชังนิ่งมองกันละกัน  น้องหอบหนักจนตัวสั่นสะท้าน  พี่ซื้ดปากยกมือลูบคาง  แต่ริมฝีปากกลับยิ้มหยันน่าพรั่นพรึง 
   
พี่โจนพรวดเดียวถึงตัว  มือใหญ่จิกผมนุ่มกระชากจนหน้าแหงน  จับกระแทกกับข้างฝาอย่างรุนแรงป่าเถื่อน 

“โอ๊ย!”

เสียงจ้อยร้องลั่นมาจากในโรงเหล้า  ดังจนได้ยินมาถึงข้างนอก  เลอมาน คนึง สง่าและสันติชะงักกึก  ไม่ต้องรอปรึกษากัน  ทั้งสี่วิ่งตรงเข้าไปข้างในทันที
   
ภาพที่เห็น  ไม่ว่าจะมองยังไง  ก็คือภาพนักเรียนครูกำลังถูกอันธพาลรังแกชัดๆ  ร่างสูงใหญ่เป็นหินผาตรึงเด็กหนุ่มตัวเล็กไว้กับข้างฝาด้วยมือเดียว  อีกมือจิกผมจ้อยไว้แน่น  มือเล็กพยายามแกะออก  ทั้งร้องทั้งดิ้นรนด้วยความเจ็บ  แต่ไอ้คนใจต่ำไม่แยแสสักนิด   
   
“ปล่อยจ้อยนะไอ้ชั่ว!” สง่าก็เลือดร้อนไม่น้อยหน้าใคร  เด็กหนุ่มตะคอกลั่น  คนึงปราดเข้าไปหมายช่วยลูกศิษย์  ในขณะที่เลอมานได้แต่ยืนเงอะงะทำอะไรไม่ถูกอยู่กับสันติผู้รักสงบสมชื่อ   
   
“เรื่องของนายกับบ่าวพวกมึงไม่เกี่ยว!” ไอ้อันธพาลชี้นิ้วกราด  มือยังคว้าแขนเล็กไว้แน่น “อย่ามาแหยม  ใครแส่กูจะยิงแม่งให้หมด!”
   
“อะไรกันแหยม  อะไรกันแส่” สถานการณ์แบบนี้คุณชายยังจะถามพาซื่อ 
   
“ก็แปลว่าเสือกน่ะซีไอ้โง่!” คนตัวสูงเด่นแค่นหัวเราะ  พ่นน้ำลายถ่มถุยดูเป็นอสุรกุ๊ยอย่างแท้จริง 
   
คนรักถูกมันสบประมาทอย่างนั้น  ขีดความอดทนของอาจารย์หนุ่มขาดผึง  ร่างสูงใหญ่ทัดเทียมกันเดินอาดไปผลักอกกว้างอย่างแรง  ฤทธิ์สุราทำให้คนกร่างเซแซ่ดไปชนโต๊ะหงายล้มระเนระนาดทั้งคนทั้งโต๊ะอย่างน่าทุเรศ  คนึงดึงจ้อยออกมาได้ทันท่วงที  เลอมานผวาไปรับ  หนุ่มน้อยถึงกับตัวสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขนเพื่อนผู้สูงศักดิ์
   
เสียงโครมครามทำให้ขี้เมาทั้งร้านหันมองเป็นตาเดียว  ไอ้ลอยเพิ่งเข้ามาช่วยประคองลูกพี่ลุกขึ้น  ไอ้หมานยืนเบ่งอยู่ข้างๆ ราวกับพวกจิ้งเหลนริมถนน  ส่วนไอ้เลิศนอนกรนเหมือนหมูน้ำลายยืดนองโต๊ะไปนานแล้ว 
   
“ทำไมต้องจิกผมด้วย” เลอมานลูบผมจ้อยที่ยังตัวสั่นอย่างน่าสงสาร  คราวนี้เขาเหลือทนแล้วจริงๆ 
   
“มันเป็นขี้ข้ากู  กูจะทำอะไรกับมันก็ได้!” นักเลงโตว่ากักขฬะหยาบคาย  หน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์โทสะ
   
“แกมันใจร้ายเหมือนสัตว์ไม่มีผิด” สันติโพล่งขึ้นมาบ้าง
   
“มึงน่ะซีสัตว์!” สิงห์ร้องโต้ตอบทันควัน “ไอ้พวกสัตว์หัวสูงทำเป็นผู้ดี  ถ้านักเลงจริงก็มาสิโว้ย”

คนึงกำหมัดแน่น  ขบกรามจนข้างแก้มขึ้นเป็นสัน  สุดจะทนได้อีกต่อไป  แต่คนเป็นครูบาอาจารย์อย่างเขาไม่ควรใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา  อาจารย์รั้งแขนเด็กๆ ไว้ “กลับเถอะ” พูดกับลูกศิษย์แต่สายตาคมกร้าวมองพวกอันธพาลอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ “อย่าลดตัวลงไปแลกกับคนพวกนี้”

แต่น้ำกำลังเชี่ยว  คลื่นโถมซัดสาดคลุ้มคลั่ง  เรือใหญ่แค่ไหนก็ขวางไว้ไม่อยู่
   
“ไอ้พวกกุ๊ยชั้นต่ำ  วันๆ สร้างแต่ความเดือดร้อนให้คนอื่น  โตเป็นควายแล้วแท้ๆ” สันติชี้หน้าด่าเจ็บแสบ
   
“จ้อยใกล้จะสอบแล้ว  ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เขาต้องอ่านหนังสือนะ  กุ๊ยอย่างแกจะไปเข้าใจอะไร  เขามีการศึกษา  ส่วนแกมันนักเลงหัวไม้โง่เง่า  ฉันถามตรงๆนะ  โปสเตอร์ตรงโน้นน่ะ  แกอ่านออกหรือเปล่า” สง่าร่ายเป็นชุด  แต่ละคำแทงใจไอ้สิงห์อย่างจัง   
   
“มึงพูดอะไร  ดูถูกกูเรอะ” มันเค้นเสียงถามคั่งแค้น  กำหมัดแน่น 
   
“แกมันกระจอก  ไอ้พวกไม่มีดีแต่ทำเป็นอวดเก่ง  อันธพาลกระจอกเอ๊ย!”

สง่าพูดไม่ทันขาดปาก  ไอ้สิงห์ก็เสือกเข้าให้ที่กกหู  นักเรียนปากกล้าเซแซ่ดไปปะทะกับเพื่อนและอาจารย์  เขาสลัดหัวตั้งหลักแล้วโจนเข้าใส่อีกครั้ง  จ้อยเข้ามาขวางก็ถูกผลักออกไปเสียไกล  และแล้ววงตะลุมบอนก็เกิดขึ้น  ปัดคำว่ากติกาทิ้งไปได้เลย  ผู้คนแตกฮือเป็นฝูงผึ้ง  ไอ้หมานซัดหมัดโครมเข้าขากรรไกรสันติจนแว่นกระเด็น    ไอ้ลอยหมายหัวเลอมานไว้  มันปรี่เข้ามากระชากคอเสื้อแต่ก็ถูกคนึงตะครุบไหล่หันกลับไปชกเข้ากระโดงคางจนหน้าหัน 
   
“อย่าชกกันเลย  ขอทีเถอะ  ถ้าอยากจะชกก็มาชกจ้อยนี่!” ตัวการของเรื่องทั้งหมดปราดเข้ามากางแขนขวางกลางสง่าและไอ้สิงห์ที่ใบหน้าบอบช้ำกันทั้งคู่ 
   
พอลูกพี่หยุด  ลูกสมุนก็หยุดตาม  ไอ้หมานปล่อยคอเสื้อสันติอย่างเสียไม่ได้  ส่วนไอ้ลอยลดหมัดที่จะตะบันหน้าอาจารย์หนุ่มลง 
   
หัวหน้าอันธพาลนิ่งมองนักเรียนครูตัวเล็กตรงหน้าด้วยดวงตาคลอวับ  และโดยไม่มีใครตั้งตัวทัน  มือแข็งดั่งคีมนรกคว้าหมับเข้าที่ลำคอขาว  กระชากตรึงกับข้างฝาอย่างรุนแรง  จ้อยปิดตาแน่นตอนกำปั้นนั้นเงื้อง่าขึ้นแหวกอากาศมาอย่างรวดเร็วจนลมเสียดหูดังวี้ด..

ปึ้ง!

ผิดคาด!  แทนที่จะชกหน้าจ้อย  หมัดนั้นกลับกระแทกเข้าข้างฝา  ไม่ใช่แค่ทีเดียว  แต่มันกระหน่ำชกรัวอยู่ร่วมสิบครั้ง  เสียงห้าวคำรามอย่างคลุ้มคลั่ง  ฟังเหมือนสัตว์ป่าเจ็บปวด  ต่อให้หมัดมันแข็งแค่ไหนก็คงแข็งสู้ไม้ประดู่ไม่ได้แน่  เลือดสดๆ ไหลซิบตามข้อนิ้วแตกยับ 

“มึงจะดูถูกกู กูไม่ว่า” สิงห์หอบสะท้าน  จ้องมองลึกลงไปในดวงตาตื่นตระหนก  ราวจะเค้นหาคำตอบจากส่วนลึก  มือที่บีบรอบลำคอเล็กค่อยคลายลง “แต่ทำไมต้องพาพวกมาดูถูกกูด้วย”

“แค่ก.. มะ..ไม่ใช่อย่างนั้นนะ..” จ้อยถอนสะอื้นทั้งยังสำลัก  ปฏิเสธเสียงสั่น  ครั้นพอเห็นดวงตาสีสนิมเหล็กมองมาอย่างไม่ยอมรับฟังคำใด  น้ำตาหยดหนึ่งก็ร่วงลง “ไว้สร่างเมาแล้วค่อยมาคุยกัน”
   
เพื่อนนักเรียนครูกรูกันเข้ามาลากจ้อยออกไป  หนุ่มน้อยหันมองพี่ทั้งน้ำตานองหน้า 
   
เขาไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้  ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย 

สิงห์ได้แต่มองตามด้วยสายตาปวดร้าวระคนเคียดแค้น  ไอ้ลอยจับลูกพี่ที่ยังทิ้งสายตาไว้หน้าประตูให้นั่งลงเก้าอี้  รินเหล้าให้อย่างเอาอกเอาใจ  โรงเหล้าเริ่มโล่ง  นักเลงตีกันทีผู้คนก็ซาลงไปเยอะ 

“ไม่ได้เรื่อง  เป็นฉันนะ  ป่านนี้มันท้องไปนานแล้ว” มันส่ายหน้าระอา  ยิ้มมุมปากคล้ายจะหยัน  สิงห์ไม่พูดอะไร  คว้าแก้วเหล้าซัดเข้าปากเพียวๆ  หวังราดลงไปดับไฟแค้นที่คุกรุ่น
   
หารู้ไม่ว่าให้ผลตรงกันข้าม

“มัวแต่เป็นคนดี  สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรสักอย่าง  ทั้งตัวทั้งใจ” เหล้าเป็นน้ำมันชั้นเยี่ยม  คำพูดยุยงเป็นเชื้อไฟชั้นยอด  ไอ้ลอยคอยเติมทั้งน้ำมัน  ทั้งเชื้อไฟไม่ให้พร่อง

“แต่ถ้าพี่เลว  อย่างน้อย.. พี่ยังได้ตัวมัน”


ไฟกองเดิมพลันสว่างวาบ  ลุกโชน 
   
ราวปีศาจร้ายที่พร้อมจะแผดเผาทำลายทุกสิ่งให้มอดไหม้เป็นผุยผง 


โปรดติดตามตอนต่อไป

---------------------------------------------------------------------------------------
*อกเอยมันแค้น, ธาตรี คำร้อง, ณพดฬ ชาวไร่เงิน ขับร้อง

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
ตอบเม้นกันค่ะ :L2:

BBnuna
เวลาเขียน คนเขียนก็สิงสถิตอยู่ในห้องครัวเหมือนกันค่ะ เขียนไปกินไป แฮ่ๆ (จนตัวเป็นตุ่มT^T)

armmyrine
พี่สิงห์กับน้องจ้อยท่าทางจะปวดตับกันอีกนานค่ะ เฮ่อร์ 

maru
น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนเนอะ  น้อยจ้อยก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ คงรู้สึกผิดบ้างละค่ะ  แต่มารู้สึกเอาตอนนี้มันสายเกินไปไหมน้อ

silverspoon
ความรู้สึกจ้อยกับสิงห์จะสวนทางกันไปอีกนานนนน เลยยยยยย

~l3aml3ery~
ไม่รู้อาจารย์แกจะหวานได้สักกี่น้ำค่ะ ส่วนจ้อยกับสิงห์ เหอะๆๆ ตอนหน้า พี่สิงห์เอาจริงแล้ว ><

IIMisssoMII
น้องจ้อยกับพี่สิงห์ก็คู่หลักค่ะคุณน้ำส้ม คู่หลักทั้งสองคู่เลย แต่เหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะคุณชายเดินทางมาเมืองไทย เลยดูโฟกัสไปที่คุณชายมากกว่า  ว่าแต่คุณน้ำส้มเตือนช้าไป  ไอ้พี่สิงห์โดนไอ้ลอยยุอีกแย้ว T^T

a_tapha
อย่าเพิ่งหวานซี ยังไม่ได้ขื่นขมระทมอุราสาแก่ใจคนเขียนเลยน๊า (ซาดิสม์เนอะ)

darkuril
ช่วงนี้ภารกิจรัดตัวอีรุงตุงนังค่ะ ย้ายทั้งบ้านทั้งออฟฟิศ เหนื่อยจ๊าดนัก เลยอัพช้าไปหน่อย ขอโทษนะคะ ว่าแต่อย่าสมน้ำหน้าจ้อยเลยเน้อ  น้องกำลังจะถูกลงโทษแล้วจ้า

$VAN$
ไม่รู้ว่าจ้อยเพิ่งรู้สึกผิดตอนนี้มันจะสายไปไหม  พี่สิงห์โดนไอ้ลอยยุอะไรมาอีกแล้ว T^T

malula
ขำวิมานสีชมพูอมม่วงวิ้งๆค่ะ (เห็นภาพเลย๕๕๕+) ส่วนให้พี่สิงห์หยดสร้างวีรกรรมคงยากค่ะ พี่แกเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ^^”

PetitDragon
ชายเล็กเขินแทบม้วนเลยค่ะ เล่นหวานออกสื่อ ดีนะพวกนักเรียนไม่ทันสังเกตกัน :)

NannY
พี่สิงห์จะทำมากกว่าตบอีกค่ะ เหอๆๆ

nunnan
คนเขียนไม่ทำร้ายพี่สิงห์แล้วน๊า  หันไปทำร้ายน้องจ้อยแทนล่ะ

Nus@nT@R@
เขียนมาตั้งนานแล้ว คนเขียนเพิ่งรู้สึกว่าพี่สิงห์น่าสงสารจริงๆ ก็ตรงประโยคนั้นแหละค่ะ

ณยฎา
เพราะเนอะเพลงนี้ That’s amore~

roseen
พี่สิงห์เตลิดไปหาไอ้ลอยแล้ว น้องจ้อยแย่แน่เลย T^T

nong PeePee
ขอบคุณที่ชอบนะคะ :)

Zymphoniz
กว่าพี่สิงห์กับน้องจ้อยจะรักกัน ไม่นานถึงขั้นจวนจบเรื่องหรอกจ้า เอาน่าๆ ตอนนี้อาจยังขมๆอยู่ พอบทจะหวาน คนเขียนจะเขียนให้หวานจับใจเลย คันไม้คันมือแล้ว อรั๊ง~

CoMa
เดี๋ยวพอน้องจ้อยกับพี่สิงห์หวาน คุณชายกับอาจารย์จะได้ขมบ้างไงคะ สลับกันเนอะ^^

aisen
“นี่แหละความทุกข์” ก๊ากกกกกก สิงห์กะจ้อยลูกแม่ เมื่อไหร่จะมีวันเวลาดีๆกับเขาบ้างน้อ

koikoi
พี่สิงห์ยังไม่ถึงขั้นบัวใต้ตมน๊า แค่ปริ่มๆตมค่ะ ยังมีโอกาสผุดขึ้นพ้นน้ำถ้าได้รับความโอกาสและความรักที่จริงใจ รอคอยวันนั้นของพี่สิงห์นะคะ :)

EoBen
น้องจ้อยไปง้อแล้วน๊า  แต่ไม่รู้ทำไม๊ทำไม อะไรๆมันดูจะเป็นใจให้พี่กับน้องผิดใจกันตลอด (ยังจะทำไก๋ คนเขียนแหละรู้ดีที่สุด^^”)

่patsaporn
หนักใจแทนจ้อยกับสิงห์เหมือนกันค่ะ  ดูท่าต่อจากนี้อะไรๆจะแย่ลงซะด้วย (คนเขียนก็ซ้ำเติมเข้าไป) ส่วนอาจารย์ก็ทำคุณชายเขินเลย แต่คงงอนไม่ให้หอมไม่ได้อ่ะค่ะ ถ้าอาจารย์ไม่หอมก่อนนอน คุณชายนอนไม่หลับนะ ๕๕๕+

→Yakuza★
ขอบคุณที่เข้าใจพี่สิงห์นะคะ  เราเองก็เชื่อว่าเนื้อแท้แล้วพี่สิงห์เป็นคนดี  แต่เพราะครอบครัว การเลี้ยงดู โรงเรียน เพื่อนเลว ทำให้พี่แกกลายเป็นคนแบบนี้ คนแต่งขอโทษที่ใจร้ายน๊า ก็เค้าชอบเห็นผู้ชายร้องไห้นี่นา T^T

ละล้าละลัง
สงสารพี่สิงห์กันมาเยอะแล้ว  งั้นต่อไปเรามาสงสารน้องจ้อยกันมั่งเนอะ

tuek
พอน้องจ้อยกะพี่สิงห์หวานกัน ชายเล็กกะอาจารย์ก็จะขมบ้างล่ะ เพื่อความสะมะดุลค่ะ ^^

kai_kaka
ยินดีต้อนรับสู่นิยายเรื่องนี้ค่ะ มามะมากอดกันน๊า คนอ่านอ่านแล้วชอบ คนเขียนก็ดีใจค่ะ^^

zazoi
แบบว่า.. พอไปอยู่ในสถานการณ์นั้น  จ้อยคงลำบากใจที่จะบอกว่าคุณนายเป็นคนสั่งไม่ให้ไปน่ะค่ะ  เพราะถ้าบอกความจริง  สิงห์ก็อาจจะไปเอาเรื่องกับแม่อีก  นอกจากจะไม่อยากเห็นแม่ลูกเขามีปัญหากัน น้องจ้อยก็คงคิดว่าสุดท้ายคุณนายก็มาลงที่น้องจ้อยอยู่ดี เลยไม่บอกดีกว่า (อธิบายยาวเหยียด ทำไมไม่เขียนไว้ในนิยายล่ะเอ้อ คนอ่านเขาจะได้เข้าใจ) คือเราวางคาแรกเตอร์จ้อยเป็นคนขี้เกรงใจ (ยกเว้นกับสิงห์) ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน ไม่ชอบพาดพิงบุคคลที่สามด้วยน่ะค่ะ  เลยออกมาเป็นแบบนี้ :D

Pithchayoot
น่าสงสารทั้งคู่เลย แต่ชอบจัง ดีจ้ะเด็กๆ ร้องไห้กันเข้าไป เจ็บปวดกันเข้าไป ความสะใจจงบังเกิดแก่คนเขียน อา~

The_Beggar
สองอารมณ์ดีเนอะแต่ละบท เปลี่ยนฟีลแทบไม่ทันเลยทีเดียว๕๕๕+

Takamine
ว้าวๆๆ เพลงเพราะมาก ชอบมากเลยค่ะ เคยฟังเหมือนกันจากเฟซบุคน้องที่คณะวารสาร ตอนฟังครั้งแรกก็แอบๆนึกถึงพี่สิงห์เหมือนกันน๊า ไม่นึกว่าจะมีคนคิดตรงกัน ขอบคุณมากนะคะ^^

MelodyKJJ
แอร๊ ชอบเหมือนกันเลยค่ะ ชอบบทรักของผู้ชายโหดๆ เถื่อนๆ ม้ากมาก นิยายเรื่องไหนพระเอกคาแรกเตอร์แบบนี้ล่ะโดนใจที่ซู้ดดด พอได้เขียนนิยายก็เลยต้องมีพระเอกแบบนี้มาประดับ เขียนแล้วกระชุ่มกระชวยใจค่ะ

choijiin
ถ้าคนอ่านอกพรุนกลัดหนอง คนเขียนจะไปบ่งหนองให้เองจ้า ๕๕๕+ คาดว่าไม่น่ารอนานขนาดนั้นหรอกม้าง ไม่นานเกินรอหรอก เชื่อเค้าสิ^^

fox
ตอนนี้ยังมีโอกาสหวาน ก็อยากให้หวานกันให้เต็มที่จ้า อ่ะ ยื่นไบก้อนให้ฉีดไล่มดเน้อ^^

yellowswarn
กรี๊ซซซ ชอบฉากโมโหเหมือนกันค่ะ พี่สิงห์โมโหทีน้องจ้อยช้ำตลอดอ่ะ ส่วนอาจารย์กับหนูเล็กช่วงนี้ก็หว้านหวานเขียนไปปัดมดไป ๕๕๕+ ส่วนเรื่องจิ้นพี่สิงห์กับน้องจ้อยเป็นเทมจี จิ้นได้ตามสะดวกเลยจ้า เราไม่ปิดกั้นจินตนาการคนอ่านเนอะๆ (บางคนจิ้นเป็นโน่ริทก็มีน้า) ปล.อยากบอกว่าต้องเอาคำว่าเทมจีไปเซิร์จกูเกิ้ลเลยล่ะค่ะ ความรู้เรื่องนักร้องเกาหลีของคนเขียนติดลบจริงๆ ^^”

SungMinKRu
อ่านแล้วชอบก็ดีใจมากๆเลยค่ะ ขอบคุณคุณ SungMinKRu และขอบคุณเพื่อนที่แนะนำให้อ่านด้วยนะคะ ท่ามกลางนิยายมากมาย ขอบคุณนะคะที่อ่านและชอบนิยายที่คนเขียนตัวน้อยๆ(เหรอ?) บรรจงเขียนขึ้นด้วยความรักเรื่องนี้ แค่มีคนอ่าน คนเขียนก็ดีใจแล้วค่า


ตอนนี้หายไปนานหน่อยแต่ก็ยาวน๊า :-[
ต้องขอโทษคนอ่านด้วยนะคะที่มาช้า กำลังอยู่ในช่วงย้ายบ้าน ย้ายออฟฟิศ อะไรๆก็ขลุกขลักอิหลักอิเหลื่อ
ยังไม่ได้ขอติดเนตเลย (บทนี้ก็นั่งส่งอยู่ในร้านเนต เด็กๆหันมองกันใหญ่ ยัยป้านี่มาไม๕๕๕+)

รักคนอ่านค่ะ

ดอกไม้  :L2:

๕ ต.ค. ๕๕

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
อาจารย์อยากนั่งกับคุณเล็กออกนอกหน้าไปรึเปล่าเอ่ย
แต่ว่าไม่ได้เนาะ นานๆจะมีโอกาสสวีทในโรงหนัง

“เป็นห่วง”
แค่คำนี้คำเดียวจากจ้อย ทำให้คนอ่านพลอยหวามสุขไปด้วยกับพี่สิงห์ผู้น่าสงสาร
แต่แล้ว ...
พี่สิงห์ดั๊น~เข้าใจผิดจ้อย โฮ~เศร้าไม่เสร็จอีกแล้วเรา :o12:

ไอ้ลอยนี่ รู้สึกว่าตอนนี้ความเลวร้ายจะชัดเจนขึ้นมากนะ :beat: เดี๋ยวจับส่งประกวดด้วยดีกว่า เหอๆๆ

It_s_me

  • บุคคลทั่วไป
พี่สิงห์กับน้องจ้อย นึกว่าจะได้หวานชื่นกันแล้วซะอีก
กำลังจะดีอยู่แล้วเชียว กำลังจะดีแล้วแท้ๆ....
พี่สิงห์ก็เลือดร้อน คอยจะหึงท่าเดียว
น่าจะมาสั่งสอนจริงๆ แล้วก็เชื่อเข้าไปเถอะไอ้ลอยน่ะ
ฮึ่ยยย อ่านแล้วเจ็บปวดปนโมโห *อกเอยมันแค้น*

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






iamoumm

  • บุคคลทั่วไป
อาจารย์คนึงกับคุณเล็กน่ารักไม่เปลี่ยนเลย แอบหวานกันได้ตลอดสิน่า
ขออย่าให้มีดราม่าเหมือนสิงห์หับจ้อยเลย
สิงห์หนอสิงห์คนเขาอุส่าเป็นห่วงเลยออกมาหา ปากหนอปาก
พูดอะไรไม่เคยจะคิดก่อนเลยจริง เป็นไงอะ เหมือนจะดีแล้วแท้ๆ
สุดท้ายก็อิหรอบเดิม เฮ้อ เหนื่อยใจแทนจริงๆ เมื่อไหร่จะได้เข้าใจกันสักทีน้า
อยากให้รักกันเร็วๆจังเลย ดราม่าไม่ไหวๆ
ไอ้ลอย ไอนี่ก็เลวจริง เลวแล้วเลวอีก เฮ้อ เลิกคบมันไปซะเถอะสิงห์
กลับไปดูแลจ้อยเหมือนเิดิม  :o12:
สู้ๆนะคะคุณคนเขียน  :L2:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ไปกันใหญ่แล้วไอ้พี่สิงห์ ทั้งเมาทั้งหึงมั่วไปหมด
กว่าจะได้รักกันน้องจ้อยของป้ามิน่วมแย่หรือ
ไอ้ลอยไอ้ตัวบ่าง ...
ความรู้สึกคงสวนทางกันอีกนานอย่างที่คนเขียนบอก
มีอย่างที่ไหนตอนที่พี่สิงห์อยากเอาใจน้อง ซื้อเสื้อ ซื้อขนมให้
เรื่องดันจบที่พี่สิงห์ไปมีเรื่องชกต่อย ถูกพ่อดุด่า ถูกน้องเมิน
พอมาตอนนี้น้องเป็นห่วงออกตามหา อยากขอโทษ
แล้วเป็นไง ... คนอ่านอยากบ้า มันแค้น ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 12:54:33 โดย malula »

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
อยากให้ลอยโดนโทรมสัก 3 ยก รำคาญมันคิดแต่เรื่องแย่ๆ   :beat::z6: :beat:
อยากให้จ้อยเข้าใจสิงห์เร็วๆ เบื่อคุณนายด้วย เซ็งๆๆๆๆๆ  :z3:
คนแต่งอยากเห็นผู้ชายร้องไห้ก็ไปแกล้งลอยเลย เกียจมัน เลิกแกล้งสิงห์เถอะ สงสาร ปวดใจไม่ไหวแร้ววว

อกเอยมันแค้น

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
สิงห์ทำไมไม่ฟังจ้อยบ้าง จ้อยเป็นห่วงสิงห์มากรู้ไหม สงสารจ้อย สิงห์อารมณ์รุนแรงไปไหม ทำไมทำร้ายจ้อยแบบนั้น แต่จริง ๆ เพื่อน ๆ จ้อยก็ไม่น่าจะมาวุ่นวาย แล้วพูดแบบนั้นกับสิงห์นะ ไม่งั้นเรื่องคงไม่วุ่นวายขนาดนั้น สิงห์คงไม่ทำตามที่ลอยบอกหรอกนะ สิงห์จะทำอะไรคิดให้ดี ๆ อย่าทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองเสียใจทีหลังเลย แค่ตอนเด็ก ๆ ไม่พอหรือไงสิงห์ อย่าเอาอารมณ์เป็นใหญ่สิ ใจเย็น ๆ

darkuril

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่แล้วอ่านแล้วสงสารสิงห์ เกลียดจ้อย
ตอนนี้อ่านแล้วสงสารจ้อย -*- เกลียดพี่สิงห์
(//เพราะพี่จี้เขียนดีไป เลยอินไปหมด55)
แต่ไม่ว่าจะอ่านตอนไหนๆ ก็เกลียดไอ้ลอยอยู่ทุกตอน :m31:

ออฟไลน์ naja-kitase

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
กรี๊ดดดดดด อย่ามาเสี้ยมพี่สิงห์อย่างนี้นะ!
ใจจริงก็อยากให้น้องจ้อยเป็นของพี่สิงห์ แต่คือถ้าไปข่มเหงน้องแบบนี้
ความร้าวฉานมันก็จะยิ่งมากขึ้นๆ ดราม่ามากขึ้นอ่ะสิ งื้อออออออออออออ
เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน โฮววววว 

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

โธ่เว้ย!!!! มันจะดีอยู่แล้วเชียว!
เกิดมาเป็นหมาบ้าทำไมตอนนี้ห๊ะ
น้องอุตส่าห์มาตาม ยังทำตัวไม่ได้เรื่องอีก
ไม่ฟังกันบ้างเลย
เป็นอย่างนี้ซะตลอด ใครจะไปทนห๊ะ!
สงสารก็สงสาร แต่ทำตัวดีๆหน่อยสิสิงห์ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
อย่าไปหลงลมปากไอ้ลอยเชียวนะ ขอร้อง
เดี๋ยวก็มองหน้ากันไม่ติดเข้าไปใหญ่หรอก

.................... เฮ้อ!

A_ay

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วโมโหสิงห์จริงๆ :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:

ถ้าจะหน้ามืดขนาดนี้
ก็ไม่ต้องได้จ้อยแล้ว :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
 :a5: :a5: :a5:
ทำไมมันเป็นอย่างเง๊ พี่สิงห์อ่ะ ป่าเถื่อนจัง :m15:

bow55

  • บุคคลทั่วไป
เกือบดีกันแล้ว อีกนิดเดียวจริงๆ
บร๊ะ สงสารทั้งคู่อ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
บีบหัวใจพี่มาก ณ จุดนี้  :m15:
โถพี่สิงห์ เป็นเพราะการศึกษาน้อยด้วยรึป่าว ถึงใช้แต่อารมณ์ เหตุผลอะไรไม่เคยตรอง สติไม่เคยมา
เรียนน้อยไม่ว่า แต่ไม่จำเป็นต้องคิดน้อยไปด้วยนี่สิ
นี่น้องจ้อยคงต้องตกเป็นทาสอารมณ์เจ็บแค้นทั้งกายใจไปอีกนานใช่มั้ย (ตามสไตล์คุณดอกไม้) ขอตัวไปเตรียมผ้าเช็ดหน้า :monkeysad:

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
  :serius2: อันนี้คือโกรธนักเขียนที่ทำให้พี่สิงห์เข้าใจจ้อยผิด
 :o12: อันนี้คือสงสารทั้งสิงห์กะจ้อย.... 
 :pig4: ส่วนอันนี้จะเป็นพระคุณมากถ้านักเขียนที่น่ารักจะใจร้ายน้อยลงทำให้คู่สุดที่รักของข้าพเจ้าเข้าใจกันซะทีเถิด...

ออฟไลน์ nong PeePee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
 :เฮ้อ: เกือบดีแล้วเชียว
พี่สิงห์ใจเย็นๆหน่อยน่ะ  o13

ออฟไลน์ Donaldye

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 563
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
โอ้ยเครียดกดดัน อย่าทำอะไรจ้อยนะไอ้พี่สิงห์ :z3:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
สิงห์โดนไอ้ลอยยุอะไรอีกเนี่ย
สงสารจ้อยจังเลย
+1 และเป็ดนะคะ

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สงสารรรรรรรรรรรรรรรร ทั้ังพี่สิงห์&จ้อย  (รักสองคนนี้ที่สุดดดดดด)

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
สงสารคุณนายอ่ะ เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่
แต่ตอนนี้อยากจะกระโดดถีบไอ้ลอยที่สุด  :z6: :z6:
ทำไมแกไปยุสิงห์มันอย่างงั้นวะ!!

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
 :z6: เกลียด (อิ) ลอยมาก  :z6:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
โหวตไอ้ลอยให้เป็นตัวเลวแห่งปี (เห็นอยู่ในเซ็งเป็ดอวอร์ดหลายเม้นท์อยู่นะคะ)
จะด่ามันว่าไรดีกลัวหยาบคายคันปากยิบๆๆๆจ้างอันธพาลไปรุมอัดแม่ม!! พี่สิงห์ออกห่างจากมันเถอนะ
มันทำให้สิงห์ยิ่งดูแย่ทั้งในสายตาน้องและสายตาทุกคน

โฮ้ย...ท้อแท้กับคู่นี้เหลือหลาย น้องอุตส่าห์ใส่ชุดที่พี่ซื้อให้ไปตามหาอยากให้ชื่นใจ
พอเจอก็บอกว่าเป็นห่วง จะดีอยู่แล้ว สิงห์ไม่น่าขาดสติแบบนี้เลย เค้ารักเค้าหวงของเค้าก็เข้าใจ
แต่บางทีสติและความเชื่อมั่นก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่งั้นสิงห์คงต้องจับจ้อยมัดไว้อยู่บ้านอ่ะ
กลายเป็นเรื่องชกต่อยใหญ่โตไปเลย หาว่ามาดูถูกกันอีก เรื่องนี้ยิ่งเป็นปมด้อยสิงห์อยู่ด้วย
กลับบ้านไปนอนหัวค่ำให้น้องจ้อยทำกับข้าวให้กิน คุยกันจุ๋งจิ๋ง หรือไปช่วยพ่อทำงานดีกว่าเนอะ
 ดีกว่ากินเหล้ากับลูกน้องเลว ๆ อีก
เอิ่ม...หลังจากไอ้หมาลอยพูดแบบนั้น พี่สิงห์ไม่ยิ่งรุนแรงกับน้องเหรอ...ไม่น้า~~~
น้องจ้อยทั้งบอบบาง อ่อนหวาน น่ารัก คนอ่านหวงม้ากมากค่ะ

ครูคะนึงกับคุณเล็กสติลหว้านหวานยิ่งกว่าสายไหมที่คุณเล็กกิน มีจับมือกันในโรงหนัง
ตอนคุณเล็กพูดถึงเรื่องจูบน่ารักชะมัด

ขอบคุณค่า...ตอนหน้าอยากอ่านเร็ว ๆ มากเลย เป็นกำลังใจให้นะคะ

Mio

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:  ตอนหน้าท่าทางน้องจ้อยมิวายโดนไอ้พี่สิงห์ปู้ยี่ปู้ยำช้ำไปทั้งร่างแน่
สงสารแต่อยากอ่าน (อ่าว อินางฟ้า...)
สามคำ>>>อย่า เลว ร้าย (กว่านี้)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด