มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]  (อ่าน 711251 ครั้ง)

ออฟไลน์ Julytastic

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
กรี๊ดดดด ไม่ได้อ่านมหาหงส์ซะนาน ไม่รู้ว่ามาต่อแล้ว

ฮือออ ตอนแรกก็สงสารอาจารย์คนึงนะ แต่อ่านไปอ่านมากลับสงสารคุณชายเลอมานแทน คงจะเหงาน่าดู
หวังว่าหลังจากที่อาจารย์ฟังหม่อมดาราพูดมา อาจารย์คงจะไม่เก็บมาคิดจนประพฤติตัวกับคุณชายเหมือนคนอื่นๆนะ T T

แล้วก็คิดถึ๊งคิดถึงงงงพี่สิงห์
อยากอ่านตอนหน้าใจจะขาดรอนๆแล้ว อ่อนโยนมั่งได้มั้ยพี่ คราวนี้จ้อยจะโกรธพี่สิงห์มากกว่าเดิมมั้ยเนี่ย :katai1:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ถ้าจะตัดชึ่บขนาดนี้ก็ฆ่าคนอ่านให้ตายซะค่ะ ฮรืออออ ค้างมาก  :katai1:

ดราม่าหนักหน่วงมันทุกตรง ถ้าจิตไม่แข็งอ่านนิยายคุณดอกไม้ไม่ได้จริง ๆ นะคะ พาลจะบ้าเอา
ไล่ตามอ่านตั้งแต่ตอนคุณพ่อกับคุณย่ามา โอ๊ย อกจะแตกแทนอาจารย์ เมื่อไรจะกลับกันไป๊
คนอ่านใจจะขาดแทนอาจารย์แล้วค่ะ อาจารย์ต้องเย็นชากับน้องเล็กแน่ ๆ ฮือ ไม่อยากคิดว่าเธอ
จะเตลิดไปไหน เพราะเธออ่อนแอและเปราะบางมาก เพื่อน ๆก็ไม่สนใจแล้วอีกด้วย
กว่าจะปรับตัวเข้ากันได้ตั้งนาน มาเป็นแบบนี้โคตรเศร้านะ สงสารๆๆๆๆๆ แต่ด้านครูคนึงก็แบบนะ
ใครก็ต้องคิดว่าตัวเองต่ำต้อยกว่า ไหนจะเรื่องจินดาที่รู้สึกผิดขึ้นมาอีก โอ๊ย ดราม่ามากค่ะ

น้องจ้อยยยยยยยย ตัวเล็ก ๆ แต่ใจแข็งเหลือเกินลูก แต่เข้าใจเพราะน้องโดนทำมาเยอะ
พี่สิงห์แกก็นะอดทนได้จุดประมาณหนึ่ง แต่อย่าให้หึงขึ้นหน้าเพราะจะลืมทุกอย่าง
ตะโกนว่าเป็นผัวลั่นคุ้งน้ำกันเลย เอาดี ๆ สิพ่อเอ๊ย น้องยังไม่หายงอนนะเออ
เดี๋ยวรอคว่ำไปหรอก คู่นี้ก็แบบดราม่ามากอีกเช่นกัน อยากหวีดค่ะ 555

ขอบคุณนะคะ สัญญาว่าจะมาต่อเร็ว ๆ นะคะ  :L2:

ออฟไลน์ nong PeePee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
สิงห์กับจ้อยน่ารักมากอิอิ :o8: :o8: รีบมาต่อน่ะค่ะ  :monkeysad:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
รูปแมวเล็กที่กำลังขบหัวแมวใหญ่จนหน้าเหยเกนั่น จ้อยกับสิงห์อ๊ะป่าว หุๆๆ^^
สงสารสิงห์นะ หึงหวงเพราะรักมากแค่ไหน จ้อยไม่เคยรับรู้ ไม่ซาบซึ้งแถมยังเกลียดกลัวขยะแขยง
โอ๊ยปวดใจแทน
ส่วนอีกคู่ก็ เฮ้อ เศร้า เครียด มึน :o12:

NO.666

  • บุคคลทั่วไป
สงสารเล็กงะ สงสารสิงห์ กับจ้อยด้วย
เมื่อไหรจะมีความสุขกันเสียทีนะ

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ขอบคุณครับ


คิดถึงชายเล็ก

ออฟไลน์ Maree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สงสารจ้อยจัง ไอ้สิงห์ก็โหดเกิ้นนนนน :monkeysad:

ส่วนชายเล็ก ก็เหมือนกัน สงสารๆๆๆๆๆๆๆๆ  :m15: :m15:
ฮืออออออออออออ


ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
เฮ้อสิงห์เอ้ยย ถ้าอยากให้น้องดีด้วยคงต้องรอชาติหน้าแล้วละ เรื่องเก่ายังไม่ทันหาย เอามาเพิ่มอีกแระ

ตอนนี้เลอมานน่าสงสารอะ เพื่อนที่เคยเป็นเพื่อนเกรง กันหมดเลย อาจารย์ก็หายไปไหนไม่รู้ อย่าว่าแต่คนอื่นเลยขนาดอาตจารย์ยังคิดว่าตัวเองต่ำต้อย กว่าเลย อนาคตของทั้งคู่จะเป็นยังไงเนี้ย



ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ตอนที่แล้วสงสารอาจารย์คนึงจับจิต มาตอนนี้สงสารคุณชายเล็กจับใจ
เหมือนไม่มีที่อยู่ ทั้งๆ ที่ปรับตัวได้แล้วแท้ๆ

ออฟไลน์ nutjisub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
สงสารคุณชายเล็กมากบอกตรง ๆๆ คุณชายเล็กทำอะไรผิดทำไมทุกคนต้องรังเกียจด้วย นี่ถ้าไปห้องเจออาจารย์คนึง ทำห่างเหินคุณชายจะยิ่งเจ็บ สงสารจังเลย คุณชายเล็ก สู้ ๆๆๆ คุณชายเล็กสู้ตาย
ส่วนคู่ จ้อยกับสิงห์ เลิกลุ้นนานและ สิงห์ก็บื้อ จ้อยก็ดื้อ และมีทิฐิ ชาตินี้จะรักกันได้หรือเปล่าก็ไม่รู้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
กรี้ดดดดดดดดดดดด (พี่สิงห์) สงสาร (จ้อย) มันหน่อยสัดนิด 555+ //จัดหนักเลย กลางคลองนี่แหละ
เศร้าาาาาาาาาาาาา ไปนะ คุณชายเลอมาน ไม่มีใครเล่นด้วย

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ beautifuldead

  • wandered lonely as a cloud..
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ตามอ่านมารวดเดียว สงสารชายเล็กจริงๆ
ปล จ้อย ตอนแรกชอบจ้อยมากเลยนะ แต่ตอนนี้ขอโบกแปดทีรัวๆ จ้อยจะร้ายกับตัวต้นเหตุก็ทำไป
แต่การที่จ้อยมาพาลกับชายเล็กอีกคน นี่แบ่บ ลดอันดับความชอบลงไปน้อยกว่าไอ้ลอยเลยนะ เหิมมมมมมมม เคืองง
เอาจ้อยคนดีกลับมานะจ้อยยยยยย

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
มาทวงครึ่งหลังค่ะ o11
[/size]

ออฟไลน์ four4

  • รักนี้ชั่วนิรันด์
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
คุณดอกไม้ //ตอนต่อไปขอแบบพี่สิงห์จัดหนัก 555+

แต่มาคิดอีกที สงสาร"จ้อย"

รอ รอ รอ ยังไงก็ได้ขอแค่คุณดอกไม้มาต่อ

ออฟไลน์ maxiyorka

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ภาษาสวยมากเลยค่ะ ชอบมาก

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
บทที่ ๒๖

เหลือความดีให้พี่บ้าง   

(ครึ่งหลังฮะ :L2:)


“หรือมึงลืมไปแล้ว!  ต้องให้กูย้ำอีกสักทีให้จำใช่ไหม!” มือแข็งราวคีมเหล็กบีบคางจ้อยแน่น  ริมฝีปากรุมร้อนประกบลงมา  ร้อนวาบเหมือนถ่านนาบ  จ้อยดิ้นรนสุดชีวิต  กำปั้นเล็กรัวทุบถองพัลวัน  ยิ่งรุนแรงใส่ ไอ้สิงห์ยิ่งหยาบกระด้างคืนกลับ  สัมผัสสากระคายด้วยตอหนวดเคราแข็งๆ ซุกไซ้ลงซอกคอ 

“อย่า!” จ้อยผลักมัน มันยิ่งกอดรัดแน่น  แรงปะทะทำให้เรือน้อยเอียงวูบ  น้ำทะลักเข้ากราบเรือ  ตำราสองสามเล่มที่วางไว้แตะน้ำไปนิด  จ้อยใจหล่นวูบ “อย่า! เดี๋ยวหนังสือเปียก!”

คนตัวโตชะงัก  ดวงตาพราวระยับจ้องมองมา  มุมปากยักยิ้มเจ้าเล่ห์
เจ้าตัวเล็กหอบหายใจถะถี่ 
ดะ..เดี๋ยว..จ้อยไม่ได้หมายความว่า..   

ถ้าเป็นบนฝั่งละทำได้ใช่ไหม?!
   
หัวสมองบ้องตื้นอย่างไอ้สิงห์ตีความได้เช่นนั้นแหละ  ชักช้าอยู่ไยเล่า  ข้อลำล่ำสันพรวดเข้าคว้าไม้พาย  ไอ้ตัวจ้อยที่นั่งตัวสั่นงันงกอยู่เมื่อครู่ก็ผวามาแย่งคืนไปจากมือ  เรื่องอะไรสิงห์จะคืนให้  ใจมันหมายมาดแต่จะวาดพายเข้าฝั่งที่เต็มไปด้วยเรือกสนรกเรื้อ  หนังสือจะได้ไม่เปียกสมใจมัน  แต่ ‘อย่างอื่น’ ละเปียกแทนแน่ๆ  พ่อจะล่อให้ฉ่ำให้ชุ่มโชกสาสมใจเชียวล่ะ 
   
นี่มันพายไม้ประดู่  แต่ไอ้จ้อยมันยื้อแย่งเสียยังกะพายทอง  เรี่ยวแรงเท่ามดอย่างมันหรือจะสู้เขาได้  ลูกกำนันกระชากสุดแรง  ลูกแมวขนพองก็ปลิวหวือมาปะทะแผงอก  ท่อนแขนกำยำกอดรัดแน่น  หอมแก้มขาวอีกฟอดเรียกน้ำย่อย  คนพยศเหลือร้ายก็ฟาดเปรี้ยงเข้าให้เต็มกกหู  สองคนฟัดกันกลางคลองจนเรือน้อยโคลงวูบลอยวน 
   
“เฮ้ยๆๆๆ!” เสียงเอะอะมะเทิ่งดังขึ้นจากด้านหลัง “ไอ้ลำนั้นมันอะไรกันวะ!”
   
ทั้งคู่ชะงักกึก  ไอ้สิงห์หันขวับ  ยอมปล่อยเหยื่อในอุ้งมือทันที  อ๋อ นึกว่าใคร  เถ้าแก่จั่นเจ้าของแผงหมูในตลาดพายเรือบรรทุกใบตองมาเต็มลำ  หนอย ไอ้เจ๊กตื่นไฟ  มึงจะโผล่มาทำไมตอนนี้!
   
“ตีกันทำไม  เดี๋ยวก็ตกน้ำตกท่า” ผู้มากวัยกว่าเตือนด้วยเป็นห่วง  คนเสียเส้นที่ถูกขัดจังหวะกระฟัดกระเฟียด  ส่วนอีกคน.. นั่งหอบฮั่กๆ อยู่หัวเรือ  “โพล้เพล้อย่างนี้ ไม่รู้จักกลัว..เอ่อ กันบ้างเลย”
   
แกกลืนคำว่า ‘ผีน้ำ’ ลงคอไว้ทัน  โบราณเขาถือ  พายเรือกลางค่ำกลางคืนไม่ให้พูดถึง   
   
ชายจีนตัวกลมเป็นกระปุกตั้งฉ่ายเหลียวซ้ายแลขวา  ลมพัดวูบมาพาเย็นเยือก
   
ดูหรือนั่น.. เรือล่มแถวบ้านแพนแท้ๆ  เกณฑ์คนงมหาเท่าไรก็ไม่เห็น  อีกสามวันให้หลังกลับลอยมาเกยฝั่งที่ท่าท้ายโรงเรียน  แปลกประหลาด  ราวกับมีสิ่งใดผูกพันห่วงหา 
   
เถ้าแก่จั่นคันปากเหลือประมาณ  อยากจะทักถามผู้เป็น ‘น้องชาย’ ที่นั่งตัวสั่นอยู่หัวเรือว่า.. “จ้อยเอ๋ย.. นี่ก็ล่วงมานานโขแล้ว  เมื่อไรจะทำบุญร้อยวันให้พี่ลื้อสักที”
   
คนเขาลือกันทั้งบาง  ไอ้สุ่มขี้เหล้าประจำตลาด  มันพายเรือกลับทางนี้  พอผ่านคุ้งน้ำท้ายโรงเรียนฝึกหัดครูมาหน่อย  ก็มีมือขาวซีดโผล่ขึ้นจากน้ำมาจับหัวเรือ 
   
ไอ้สุ่มมันขี้เมา  พูดอะไรต้องเอาตะแกรงร่อนสองน้ำ  คนเลยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง  แต่แกไม่สนละ  เรื่องมันพอมีเค้า  แกเชื่อไว้ก่อนเป็นดี 
   
เช้าก่อนเถอะ  แกจะทักยายช้อยเรื่องงานบุญร้อยวันครูจินดา  แต่ตอนนี้  ขอพายตีคู่กับเรือลูกชายกำนันเป็นเพื่อนแก้เสียวสันหลังไปก่อนก็แล้วกัน

กว่าจะถึงเรือนกำนันก็มืดค่ำเข้าไต้เข้าไฟ  ไอ้ตัวจ้อยมันกอดตำราเรียนไว้แนบอก  ตลอดทางลูกชายกำนันเอาแต่แจวเรือนิ่ง  เจ๊กจั่นชวนคุยก็ตีหน้ายักษ์ใส่  ไม่พูดอะไรจนคำเดียว 
   
คล้อยหลังเจ้าของแผงหมู  ข้อแขนล่ำสันฉุดเหยื่อตัวน้อยขึ้นจากเรือ  เรือนทั้งหลังเงียบเชียบ  มีเสียงตำน้ำพริกดังมาจากในครัว  แว่วเสียงดีดลูกคิดป๊อกแป๊กมาจากห้องแม่  ส่วนพ่อ.. ดูท่าคงไม่อยู่ติดบ้านอีกตามเคย
   
นักเรียนครูพยายามขัดขืนสุดเรี่ยวแรงที่มี  เล็บคมๆ จิกลงท่อนแขนแกร่งจนขึ้นรอย  คนใจหินหรือจะแยแส  ไอ้สิงห์ออกแรงลากลิ่วๆ 
   
ความรักเหมือนโคถึก  กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป   บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
ถึงหากจะผูกไว้   ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง  บ่หวนคิดถึงเจ็บกาย**


“ป่นแน่ไอ้จ้อย คืนนี้ข้าจะขยี้เอ็งให้ป่น” เสียงห้าวเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน  ได้ยินอย่างนั้นจ้อยยิ่งสั่นผวา  ต่อต้านหนัก  ยิ่งพอถูกลากมาถึงหน้าห้อง  พอจะมองเห็นชะตากรรมตัวเองทันที  ร่างเล็กดิ้นพราด  ทั้งมือทั้งเท้าระรัวทุบถีบไม่ยั้ง  ตำราเรียนจะร่วงกระจัดกระจายก็ไม่สนใจแล้ว  คนตัวโตกลับไม่สะเทือนสักนิด  มือใหญ่กระชากประตูบานเฟี้ยมเปิด  ผลักจ้อยเข้าไปก่อนหันมาลงดาลแน่นหนา 
   
ในห้องนรกที่จ้อยพยายามหลีกลี้  ความกลัวรัวเข้าชำแรก  แทรกมาในความมืดสลัว  แม้เพียงจะหายใจยังติดขัดเหมือนมีอะไรมาจุกคอ  เงาทะมึนสูงใหญ่ย่างเข้าหา  ดูน่ากลัวราวปีศาจ  จ้อยถอยหนีทีละก้าวเงอะงะจนจนมุม
   
จ้อยอยากกรีดร้องเมื่อ ‘มัน’ ล่วงล้ำเข้ามาทุกที  ขาสั่น ไหล่สะท้าน แผ่นหลังติดฝาปะกน  ริมฝีปากรุมร้อนแนบลงบดเบียดดุดัน  นักเรียนครูสะท้านในอก  นี่ริมฝีปากคนหรืออสรพิษ  จ้อยกำลังถูกจูบหรือถูกงูพิษกัด  ไร้ซึ่งความหวามหวานอาทรเฉกเช่นคุณชายเลอมานได้รับจากอาจารย์คนึง  มีเพียงความทรมาน..รวดร้าว..ราวพิษสีดำพุ่งตรงถึงหัวใจ  มือหยาบกระด้างสอดเข้าใต้อกเสื้อ  ลากไล้หยาบโลนไปทั่วแผ่นอกและหน้าท้อง     
   
งูพิษผละออก  จ้อยขยับปากจะร้อง  มันก็ส่งเสียงชู่ว “อยากเสียงดังให้แม่ข้าได้ยินหรือ” มันขู่เสียงต่ำ  อีกมือเลื่อนเข้าอีกทาง  ลากแผ่วบนแผ่นหลังเย็นยะเยือก  มือหนึ่งตลบชายเสื้อนักเรียนตัวเก่าขึ้น  จ้อยสะดุ้งเฮือกเมื่อริมฝีปากผ่าวแนบลง  ตวัดลิ้นลงปลายตุ่มไต
   
ราวกับก้อนเนื้อในอกจะหยุดเต้นฉับพลัน  หรือไม่ก็คงถูกมันกัดกินไปหมดสิ้น  ความทรมานกรูแทรกเข้าทุกอณูเนื้อ  จ้อยเริ่มหายใจไม่ออก  หอบหนักถะถี่  ลมหายใจขาดหายเป็นห้วงๆ  ตัวเกร็งจนสั่นสะท้าน 
   
สิงห์ชะงัก  ยอมผละออกเมื่อรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ  ทันทีที่ปล่อยมือ  น้องก็ทรุดฮวบลงกองกับพื้นราวกับตุ๊กตาหมดลาน  เสียงหอบหายใจถี่กระชั้นขึ้นทุกขณะ  นักเลงหนุ่มเริ่มใจไม่ดี  รีบผวาเข้าจุดโคมอัจกลับทันใดเพื่อขับไล่ความมืดมิด   
   
ร่างเล็กกอดเข่าซุกกาย  ไหล่สะท้านเป็นลูกนก  มือขาวเกร็งจิกลงเนื้อเข่าจนเป็นรอย  แสงนวลตาสาดส่องกระทบดวงตาฉ่ำด้วยน้ำใสคลอคลอง   
   
บาดหัวใจราวคมมีด!
   
มีด.. ที่เอาไว้บากคอ ‘โคถึกที่คึกพิโรธ’ ในโรงฆ่าสัตว์!
     
ร่างสูงใหญ่ทรุดกายลงตรงหน้า  เอื้อมมือไปหา.. อนิจจา.. แค่นั้นน้องก็ผวาจนตัวสั่น  ถอยร่นจนแทบแทรกลงไปในฝาเรือน  ทว่าดวงตาที่มองมา  เปี่ยมด้วยความคั่งแค้น จงเกลียดจงชัง
   
ลมเพชรหึงอ่อนกำลังลงง่ายดายด้วยน้ำตาเพียงหยดเดียว
   
‘คืนนี้จะขยี้ให้ป่น’ อย่างนั้นหรือ?  ทั้งที่หมายมาดไว้เช่นนั้น  แต่ตอนนี้สิงห์เริ่มไม่แน่ใจ  ใคร? ‘ขยี้’ ใคร? ให้ป่นกันแน่?
   
ใช่หัวใจเขาหรือไม่ที่ถูกทำให้แตกป่น  ด้วยละไอหยาดน้ำที่คลอวับอยู่ในดวงตาคู่นั้น 
   
“จ้อย..” นักเลงโตครางแผ่ว  สองมือยื่นไปหมายจะรั้งน้องมากอดประโลมขวัญ  พลันชะงักเพียงเห็นน้องผวาเฮือก  ถอยร่น  ทว่าดวงตาแข็งกร้าวชิงชัง
   
แค่สายตาก็พาให้เจ็บแสบเหมือนถูกจับแช่ในน้ำกรด  พออาการ ‘หน้ามืดตามัว’ หาย ‘สติ’ ก็ค่อยคืนมา  ความจริงความผิดน้องก็แค่กระผีกริ้น  แค่ถอดเสื้อเล่นบอลกับเพื่อน  แต่ทำไมเขาต้องโมโหหึงจนลุกลามใหญ่โตก็ไม่อาจรู้  รู้เพียงแค่เห็นน้องสนิทสนมยิ้มแย้มเล่นหัวกับชายอื่น  หัวใจมันเหมือนถูกเด็ดออกจากขั้ว
   
พี่แค่.. คิดถึง.. แค่ห่วง.. หวง.. มากเกินไป
   
เขาโมโหตัวเอง  ลุกขึ้นเตะขาเตียงเปรี้ยง  กี่หนแล้วที่เป็นแบบนี้  พอหึงขึ้นหน้าก็ฟาดงวงฟาดงาไม่ฟังใคร  เอากำลังเข้าหักหาญท่าเดียว  สันดาน!
   
น้องยังกอดเข่าอยู่กับพื้น  มองมาอย่างหวาดระแวง  ไอ้สิงห์ทนอยู่ในห้องนี้ไม่ได้อีก  ขืนอยู่ต่อ  สายตานั้นอาจขยี้ใจเขาแตกป่นมากกว่านี้ 
   
หัวหน้าอันธพาลสวนกับมารดาที่พาไล  มืออวบขาวรั้งแขนไว้หมับ
   
“ไอ้จ้อยมันกลับมาแล้วเรอะ” คุณนายกระซิบกระซาบ  สิงห์เพียงพยักหน้าส่งๆ สลัดมือแม่ออกแล้วเดินขย่มธรณีจากไป 
   
คุณนายเงินกู้หันมองห้องลูกชาย  หมั่นไส้เหลือคณา  นังแป้นเที่ยวชมกรอกหูว่า ‘ครู’ ราศีจับ  คุณนายได้แต่เบะปาก  น้ำหน้าอย่างลูกอีกำไลน่ะเรอะจะมีวาสนาได้ถือพานถวายพวงมาลัยดอกไม้ให้เจ้า  ลูกอีหยำฉ่าอย่างมัน  เทียบกะลูกชายแกไม่ติดด้วยซ้ำไป   
   
ตำราเรียน ๓-๔ เล่มกองเกะกะอยู่หน้าประตู  คุณนายหอบเข้าไปโยนใส่นักเรียนครูคนดีที่กอดเข่าตัวสั่นอยู่ภายใน
   
จ้อยรีบปาดน้ำตาทิ้ง  กลืนก้อนสะอื้นกลับคืนลงไปในอก  คล้อยหลังไอ้สิงห์ไม่ทันไร  คุณนายใจร้ายก็พรวดพราดเข้ามาอีก  บ้านหลังนี้มันนรกของจ้อยชัดๆ!
   
“ไงยะพ่อตัวดี  กว่าจะเสด็จกลับมาได้  แหม้” เสียงแหลมสูงค่อนขอด  ปากแดงแสยะเหยียดหยัน “อยู่มันแต่โรงเรียนนั่นแหละ  จะเรียนให้เป็นเจ้าคนนายคนวันนี้วันพรุ่งเลยหรือไง!”
   
จากนั้นคุณนายก็สวดยับ  สาธยายถึงงานบ้านร้อยแปดที่ไม่มีคนทำตอนจ้อยไม่อยู่  ลำเลิกถึงบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่รดกะลาหัว  ตอกย้ำถึงหนี้ก้อนโตที่จ้อยมองไม่เห็นทางเลยว่าจะชดใช้หมดได้อย่างไร
   
“ฉันว่าแกไม่ต้องเรียนหนังสือแล้วดีกว่าไอ้จ้อย! เสียเวล่ำเวลา” เจ้าแม่เงินกู้ว่า “สันดานขี้ข้าจะร่ำเรียนไปทำไมนักหนา”
   
หนุ่มน้อยชะงัก  เงยดวงตาแข็งกร้าวขึ้นมองทันควัน 
   
“อ๊อมองหน้า?” คุณนายเริ่มถลกผ้านุ่งเท้าเอว  โทสะแล่นพล่านในแววตาเป็นริ้วๆ “เดี๋ยวนี้กล้ามองหน้าฉันยังงี้เรอะยะ!”
   
“จ้อยจะเรียน” จ้อยเป็นลูกหนี้ก็จริง  แต่มันเรื่องอะไรที่คุณนายต้องริบอนาคตของจ้อยไปเป็นดอกเบี้ยแบบนี้ 
   
“ฉันไม่ให้เรียน! แกจะทำไม! ฉันมีสิทธิ์! แกมันขี้ข้า” ปลายนิ้วสั่นระริกชี้หน้า  ปลายเท้าก็วาดเตะตำราเรียนที่วางแปะกับพื้นอย่างหยาบคาย “ลองไปเรียนสิ พรุ่งนี้ฉันจะริบที่ยายแกให้หมดเลย! ขายๆ มันไปซะ!”
   
นักเรียนครูคลานลนลานไปหาหนังสือ  หนังสือเรียนของจ้อยเก่ามากแล้วเพราะตกทอดมาจากพี่จินดาอีกที  สองมือเล็กคว้ามากอดแนบอกอย่างหวงแหน “จ้อยจะเรียน!”
   
คุณนายพูนทรัพย์คำรามในคออย่างน่ากลัว  ก่อนทำสิ่งที่จ้อยคาดไม่ถึง! 
   
มือขาวสะอาดกระชากตำราไปจากอก  แล้วฉีกควากออกต่อหน้า!  จ้อยมองอย่างตื่นตะลึงทั้งน้ำตาคลอเบ้า  ควากแรกปกถูกฉีกออกจากตัวเล่ม  ควากต่อๆ มาถูกดึงหลุดออกเป็นแผ่นๆ  และแล้วคุณนายก็กราดเกรี้ยวทั้งขยำทั้งขยี้ทั้งฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
   
“ป้าทรัพย์!” หนุ่มน้อยร้องเสียงหลง  ผวาเข้ายื้อแย่ง  ให้สาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เถิด  จ้อยอ่อนน้อมถ่อมตนกับผู้อาวุโสมาตลอดชีวิต  อย่าว่าแต่ขั้นลงไม้ลงมือ  แม้กระทั่งยืนค้ำหัวผู้ใหญ่จ้อยยังไม่เคยทำ  แต่หนนี้จ้อยทนไม่ได้อีกต่อไป!
   
หัวใจจ้อยถูกลูกชายคุณนายทำลายย่อยยับ  เหลือเพียงเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งการศึกษาที่ทำให้จ้อยรู้สึกว่าชีวิตยังมีค่า  ขอร้อง.. อย่าทำลายความหวังสุดท้าย  อย่าดับเปลวเทียนริบหรี่ในชีวิตจ้อยลงเลย  หาไม่.. ชีวิตนี้จะมีความหมายอะไรอีก  คงไม่ต่างจากก้อนเนื้อที่ยังหายใจได้  ใช้ชีวิตไร้ค่าไปวันๆ 

อนิจจา.. ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ  สตรีสูงวัยตรงหน้ายิ่งทวีความคลุ้มคลั่ง  ตำราเรียนที่จ้อยหวงแหนนักหนา  ตำราเรียนที่จ้อยพร่ำกราบเช้าเย็น  บัดนี้กระจัดกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อยเกลื่อนห้อง  หลานยายช้อยไล่เก็บทีละชิ้นทั้งน้ำตานองหน้า  เท่านั้นยังไม่หนำใจ  คนหัวหูยุ่งเหยิง  เดือดดาลจนหน้าแดงก่ำ  ก็ปราดเข้าไปคว้าตำราของจ้อยที่วางอยู่มุมห้องมาฉีกทำลายอีก  ปากก็พร่ำ.. “ไอ้ขี้ข้า!  อย่าริจะมาได้ดีเกินหน้าลูกกู!”

“พอแล้ว!” จ้อยพรวดขึ้นยื้อยุด  แขนเล็กๆ ผลักอกผู้มากวัยกว่าอย่างสุดทานทน  คนไม่ได้ตั้งตัวหงายหลังก้นจ้ำเบ้า  แกหอบจนตัวสั่น  เลือดฉีดขึ้นหน้าจนแดงก่ำ  กรีดร้องแทบไม่เป็นภาษามนุษย์ 
   
“ไอ้..ไอ้จ้อย มึงกล้าผลักกู!” สตรีที่คนยกมือไหว้ทั้งตำบลแค้นคลั่งอยู่กับพื้น  ทุกคำรีดเร้นออกมาจากหัวใจชิงชัง “ลูกอีดอกทอง มึงผลักกู!”
   
จ้อยยังกอดตำราย่อยยับไว้กับอก  อก..ที่บรรจุหัวใจย่อยยับไม่ต่างจากเศษกระดาษที่ถูกฉีกเกลื่อน  คุณนายยังไม่สาสมใจอีกหรือ  ไม่สิ.. ดูท่าจะเดือดดาลกว่าเก่าเป็นทวีคูณด้วยซ้ำ  ทำลายตำราเรียนจ้อยไปแล้วยังไม่หนำใจ  แกปรูดไปหาหีบหวายใบเก่าที่มุมห้อง  รื้อชุดนักเรียนของจ้อยที่พับเก็บอยู่ในนั้นออกมา! 
   
“ฮือ.. ป้าทรัพย์ พอได้แล้ว!” ร่างเล็กรี่เข้าห้าม  พยายามยื้อคืนสุดกำลัง 
   
“มึง! มึงอย่าเรียนเลยไอ้ขี้ข้า! กูไม่ให้มึงเรียน!” คุณนายฮึดฮัดอาละวาดเหมือนคนบ้า  สองมือดึงทึ้งเสื้อเชิ้ตสีหม่น  แต่เนื้อผ้าไม่เหมือนกระดาษ  แค่สองมือเปล่าตัดไม่ขาดดั่งใจแก! 
   
เจ้าแม่เงินกู้หอบชุดนักเรียนขี้ข้าโอหังออกจากห้อง  จ้อยตามไปทันที  เสียงโหวกเหวกโวยวายเคล้าเสียงร่ำไห้เรียกน้าแป้นกับน้ำฝนขึ้นมาดู  คุณนายโยนกองผ้าไว้กลางชานเรือนก่อนเดินตึงตังเข้าห้อง  จ้อยผวาเข้าไปกอดชุดนักเรียนแนบอก  ใจหายวาบเมื่อเห็นคนใจร้ายกลับออกมา.. พร้อมกรรไกรคมวาวในมือ!
   
“ป้าทรัพย์! อย่า! ฮือ..” เหตุการณ์จากนั้นชุลมุนสุดบรรยาย  เมียกำนันยื้อแย่งชุดนักเรียนที่จ้อยกอดไว้  ใช้กรรไกรตัดฉับๆ อย่างบ้าคลั่ง  จ้อยกรีดร้องลั่นปานดวงใจถูกคร่าไปพร้อมชุดนักเรียนอันทรงเกียรติที่กลายสภาพเป็นเศษผ้าขี้ริ้ว  น้าแป้นได้แต่ร้องห้าม  ส่วนหนูน้าฝนร้องไห้โฮ 
   
“หัดตักน้ำใส่กะโหลกซะบ้าง!  เป็นไม้เท้าอย่าสะเออะมายาวกว่าถ่อ  อยู่เป็นขี้ข้าที่นี่ไปจนตายเถอะมึง!” เสื้อเอย กางเกงเอย ถูกคุณนายตัดเสียรุ่ยร่ายเป็นเศษผ้า  คมกรรไกรเฉียดมือขาวที่พยายามยื้ออย่างน่าหวาดเสียว 
   
และแล้ว.. สิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดก็เกิดขึ้น!
   
“โอ๊ย!” จ้อยร้องลั่น  ทรุดฮวบลงกุมมือตัวเองแน่น  เลือดแดงฉานไหลทะลักจากง่ามนิ้ว  เนืองนองหยดแประลงพื้นเป็นดวงๆ 
   
ทุกคนตกตะลึง  ยิ่งเด็กหญิงถึงขั้นร้องไห้กรี๊ดๆ 
   
กรรไกรคมวาวด้ามแดงที่คุณนายพูนทรัพย์ใช้ตัดผ้ามาตลอด  ตอนนี้กลับเอามาใช้ตัดเนื้อคนโดยไม่ได้ตั้งใจ!  แน่นอน  แกไม่ได้ตั้งใจจริงๆ  แกแค่คิดจะตัดชุดนักเรียนไอ้บ่าวตัวดีให้ขาดวิ่น  มันจะได้ไม่มีปัญญาไปโรงเรียนได้อีก  แต่ไอ้ขี้ข้าเสือกเอามือมาขวางคมกรรไกรทำไม! 
   
ในแววตาตระหนก  มีความรู้สึกผิดลอยวูบ  แต่แค่เพียงแวบเดียว  แกรีบปัดความรู้สึกนั้นทิ้งเช่นเดียวกับกรรไกรเปื้อนเลือดที่ถูกโยนลงพื้น           
   
“ดะ..ดี! มือขาดไปเลย! สมน้ำหน้า!” นางพูนทรัพย์เสียงสั่น  เอาความกราดเกรี้ยวเข้ากลบเกลื่อน “ดูซิจะเอามือที่ไหนเขียนหนังสือ!”
   
หนุ่มน้อยสะอื้นฮั่ก  คมกรรไกรเฉือนเนื้อ  เจ็บปวดเหลือประมาณ  แต่ยังไม่ร้าวรานเท่าคมวาจาที่ผู้อาวุโสพ่นใส่หน้า  เฉือนใจแหลกยับไม่เหลือชิ้นดี!  น้าแป้นปรูดเข้ามาดู  แกครางหวิวในคอเมื่อเห็นแผลฉกรรจ์บนมือน้อย  คมกรรไกรกินลึกเข้าไปจนเห็นเนื้อขาวๆ โผล่ออกมาจากมืออาบเลือด   
   
“เอะอะอะไรกัน! แม่!” เสียงฝีเท้าตึงตังจนเรือนสะเทือน  ครั้นพอเห็นมือโชกเลือดของเจ้าตัวจ้อยเท่านั้น.. “จ้อย!” คนตัวโตผวาเข้าไปประคอง  เอาเศษเสื้อนักเรียนที่ถูกตัดจนวิ่นนั่นแหละห้ามเลือด 
   
เศษเสื้อนักเรียนที่ถูกตัดจนวิ่น?!
   
“แม่!” เสียงห้าวหันไปตะคอกมารดา  หลักฐานทนโท่แบบนี้  ตัวการจะเป็นใครไปได้ “แม่ทำอะไร!”
   
คุณนายฟังเสียที่ไหน  แกเบะปากเชอะแล้วเดินขาปัดเข้าห้อง  สิงห์ไม่มีเวลาพิรี้พิไร  วงแขนล่ำสันช้อนร่างคนเจ็บขึ้นอุ้มแนบอก  เขาต้องพาน้องไปโรงหมอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
   
จ้อยไร้เรี่ยวแรงจะพยศเช่นเคย  ดวงตานิ่งขึงดั่งไม่จดจ่อต่อสิ่งใด  สิ่งเดียวที่จับจ้องคือมือขวาของตนที่ถูกห่อหุ้มด้วยเศษชุดนักเรียนเปื้อนเลือด  ได้แต่ทอดร่างราวตุ๊กตาในอ้อมอกอุ่นจัด  สิ่งเดียวในห้วงคำนึงคือคำพูดของคุณนายเมื่อครู่ 
   
‘ดูซิจะเอามือที่ไหนเขียนหนังสือ’   
   
มือขวาที่เจ็บ.. ชา.. แทบไร้ความรู้สึก.. พาให้ใจเสีย..
   
จ้อยจะเขียนหนังสือได้อีกไหม..

*************************

(มีต่อจ้ะ :hao7:)

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
“อาจารย์มาแล้ว!” เสียงสดใสเจื้อยแจ้วทันทีที่คนึงเปิดประตูเข้าไปในห้อง “หายไปไหนมาครับ เล็กรอตั้งนาน” ร่างขาวลออ เนื้อตัวหอมสะอาดเข้ามากอดแขน  ความดีใจไหวระยิบในดวงตา  สดใสเหมือนเด็ก 
   
“ครู..” คนึงอับจนถ้อยคำ  ค่อยๆ แกะมือที่เกาะแขนออกอย่างนุ่มนวล “ครูไปทำงาน.. เอ่อ.. ตรวจการบ้าน”
   
เด็กหนุ่มมองมาตาแป๋ว  แววตาบ่งบอกว่าเชื่อหมดใจ  คนมุสาเสียอีกต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา  เขาไม่ได้หายไปตรวจการบ้านจริงดังว่า  แต่แค่ขอเวลาไป ‘ทำใจ’
   
ความเอ๋ยความรัก.. ยากยิ่งนัก.. จะหักใจลา..
   
ลาจากใดจะทรมานเท่า.. ลาจากทั้งที่ยังเห็นหน้า..

อาจารย์หนุ่มกลับเข้ามาอีกทีหลังอาบน้ำเสร็จ  ศิษย์รักยังนั่งรออยู่บนเตียง.. ของเขา  ร่างสูงใหญ่เดินไปทรุดกายนั่งลงที่โต๊ะทำงาน  หยิบแว่นมาสวม  เปิดนู่นเปิดนี่ไปเรื่อย 
   
“อาจารย์มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” สมกับเป็นเลอมาน  จับความรู้สึกในสีหน้าคนออกง่ายดายเหลือเกิน “หม่อมย่าคุยอะไรกับอาจารย์หรือครับ” มือเล็กนวดไหล่ให้อย่างเอาใจ
   
คนึงถอนใจพรู  ยังไม่ละสายตาจากหนังสือตรงหน้า  บอก ‘ทั้งหมด’ ได้หรือ 
   
“ท่านฝากฝัง.. ให้ดูแลบุตรชายคนเดียวของหม่อมเจ้าอาทิตย์ธวัชให้ดี”
   
อย่าให้มีพวกไม่มีสกุลรุนชาติที่ไหนมาเกาะแกะ...
   
ประโยคนั้นไม่ได้พูดออกไปดั่งใจคิด
   
“หม่อมราชวงศ์เลอมานเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลบูรพวงศ์  คู่ครองต้องเป็นคนที่คู่ควรกัน” อาจารย์หันมองศิษย์เต็มตา  ดวงหน้าผ่องใส  ริมฝีปากได้รูปยักยิ้มละมุน 
   
“อาจารย์..นี่มันสมัยไหนกันแล้ว  เล็กเป็นแค่หม่อมราชวงศ์เอง” ร่างเล็กทรุดลงนั่งกับพื้น  วางศีรษะลงบนตักเขา  เหมือนลูกแมวออดอ้อน “ถ้ามีลูก  ลูกก็เป็นหม่อมหลวง  ถ้ามีหลาน..หลานก็ไม่มีหม่อมอะไรนำหน้าแล้ว  เป็นนายเป็นนางสาวเหมือนคนอื่นๆ นั่นแหละ”
   
เด็กหนุ่มพูดเจื้อย  หารู้ไม่  ในคำพูดที่เหมือนไม่มีอะไร  ตอกลิ่มแหลมลึกลงหัวใจคนฟังทีละนิด 
   
มีลูก.. มีหลาน..
   
สิ่งนี้มิใช่หรือที่ผู้เป็นบุพการีเฝ้าปรารถนาจาก ‘ลูกชายคนเดียว’
   
สืบเชื้อสายวงศ์ตระกูล! 
   
อุปสรรครักนี้มิใช่แค่ชนชั้นที่แตกต่างเสียแล้วคนึง วนาสัย 
   
หากศักดินาฐานันดรเป็นกำแพงหินสูงชัน  ขนบประเพณีที่ไม่มีวันยอมรับความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย  คงเป็นดั่งมหานทีสีทันดร  อย่างแรก.. ยังพอปีนป่ายข้ามไปไหว  หากอย่างหลัง.. แค่มองหาฝั่งยังไม่เห็น
   
คนึงหลับตา ตรงหน้าคือกำแพงหินสูงลิบ  ถัดไปคือมหานทีเวิ้งว้าง  ความฝันที่จะได้ครองคู่กับหม่อมราชวงศ์เลอมานคือขอบฝั่งไกลโพ้นสุดสายตา  เขาจะตะเกียกตะกายข้ามไปได้อย่างไรกัน
   
ลำพังตัวเองยังไม่เท่าไร  เขาจะฉุดเลอมานลงมาแปดเปื้อนไปด้วยไม่ได้  เกียรติยศของมรว.เลอมาน  อย่าได้มาพังทลายลงเพราะเขาเลย
   
มือหยาบใหญ่วางลงบนศีรษะทุยสวย  ลูบไล้เส้นผมนุ่มมือแผ่วเบา  ขอสัญญาด้วยหัวใจต่อหม่อมดารา บูรพวงศ์  เขาจะคอยระแวดระวังให้ที  จะไม่ให้มีคนไม่มีสกุลรุนชาติที่ไหนมาเกาะแกะหม่อมราชวงศ์เลอมานได้ 
   
แม้กระทั่งตัวเขาเอง!
   
แต่คนอย่างคุณชายเล็ก  ให้บอกไปตรงๆ  เด็กรั้นอย่างนี้ไม่มีวันยอมแน่
   
จะทำฉันใดดีนะอกเอ๋ย.. 

*************************

ร่างผอมบางซีดเซียวหลับสนิทบนเตียงไม้สัก  หน้าขาวเท่ากับสีหมอนที่รองรับศีรษะ  สิงห์นั่งแปะอยู่กับพื้นข้างเตียง  นิ่งมองมือข้างขวาของน้องที่พันไว้ด้วยผ้าพันแผลหนาเตอะ 
   
น้องถูกกรรไกรกินเนื้อตรงง่ามมือระหว่างหัวแม่โป้งกับนิ้วชี้  บากลึกเกือบถึงกระดูก  เย็บไปสิบกว่าเข็ม  หมอสั่งให้ไปล้างแผลที่อนามัยทุกวัน  และข้อสำคัญห้ามให้แผลโดนน้ำเด็ดขาด 
   
หัวหน้าอันธพาลทอดสายตาโศกสลด  นี่หรือ.. เขาพาน้องกลับบ้านมาเพื่อให้มาเผชิญเคราะห์เช่นนี้หรือ  แผลลึกเอาการ  บ่งบอกว่าแม่เขาไม่ยั้งแรงเลย  แต่ถึงกระนั้น  ไอ้สิงห์ก็ยังปักใจเชื่อว่าแม่ไม่ได้ตั้งใจเล่นงานจ้อยถึงขั้นเลือดตกยางออกแบบนี้
มือใหญ่คว้าหมอนขิดมาหนุนนอนแอ้งแม้งกับพื้นหน้าเตียง  มุ้งเมิ้งไม่ต้องกาง  เกิดน้องตื่นขึ้นมากลางดึกจะเรียกหาอะไร  แค่ใช้ตีนสะกิดเขาก็พร้อมจะลุกทันที
   
สิงห์หลับไปนานเท่าไรไม่รู้ได้  มาสะดุ้งตื่นเอาเมื่อได้ยินเสียงกุกกักๆ  ร่างสูงใหญ่เด้งตัวลุกขึ้นพรวด  สิ่งแรกที่มองหาคือร่างน้อยที่นอนนิ่งบนเตียง  ใจหายวาบเมื่อพบเพียงเตียงว่างเปล่า!
   
แสงตะเกียงริบหรี่ที่จุดทิ้งไว้สะท้อนให้เห็นเงาตะคุ่มนั่งอยู่มุมห้อง  ชายหนุ่มถอนใจโล่งอก  ไขไส้ตะเกียงขึ้น  แสงสว่างกระจ่างเป็นวง  เมื่อนั้นจึงเห็นชัดเต็มตา 
   
น้องกำลังนั่งเก็บเศษกระดาษ.. ไม่สิ.. เรียกว่าตำราเรียนที่ถูกแม่เขาฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจะเหมาะกว่า  มือสั่นเทาค่อยๆ หยิบทีละแผ่น..ทีละชิ้น.. พยายามวางต่อกันให้เป็นหนังสือดังเดิม..
   
ฝนทั่งให้เป็นเข็มยังง่ายกว่ากระมัง
   
“จ้อย..” เสียงต่ำครางแผ่วในคอ  ขยับเข้าไปหา  น้องไม่เงยหน้ามองกันสักนิด  ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน
   
น้องใช้มือซ้ายหยิบปากกาที่หล่นอยู่แถวนั้นวางใส่มือขวา.. พยายามกำมือ..
   
กำไม่ได้..
   
ดวงตาว่างเปล่ามองปากกาในมือที่พอกด้วยผ้าพันแผลนิ่งงัน
   
สิงห์กลืนก้อนแข็งๆ ที่แล่นขึ้นจุกคอ  ก่อนเสียงทุ้มเอ่ยปลอบประโลม “แผลมันตึง..” มือใหญ่แตะแผ่วเบาที่มือสั่นระริก “..เลยจับปากกาไม่ได้  เดี๋ยวก็หายนะจ้อย”
   
ดวงหน้าซีดเผือดเงยขึ้นมองกัน  แสงตะเกียงนวลส่องให้เห็นหน่วยตาดำมีหยาดน้ำใสคลอคลอง
   
“ต้องการแบบนี้ใช่ไหม” เสียงแหบพร่าแผ่วหวิว “ที่บีบบังคับให้มาอยู่ด้วย  เพื่อมารังแกกันอย่างนี้ใช่ไหม” คนฟังได้แต่มองนิ่งงัน
   
“กูเกลียดมึง  กูจะเกลียดมึงไปจนวันตาย” สุ้มเสียงเบาบาง.. แต่เต็มเปี่ยมด้วยความชิงชังทุกถ้อยคำ  แววตานั้นเล่า.. ประหัตประหารใจกันจนไม่เหลือชิ้นดี 
   
แม้หัวใจแทบภินท์พัง  หากมือแข็งยังมีแรงเอื้อมไปหา  แตะซับหยดน้ำตาที่ทิ้งลงแก้มขาวแผ่วเบา 
   
ใครเลยจะรู้ดีเท่าเขา  นักเรียนครูผู้อ่อนโยน  ว่านอนสอนง่าย  กิริยานอบน้อม  ลึกลงไปในอกซ้าย  หัวใจที่ซ่อนอยู่ในนั้นแข็งปานหินผา  แต่วันนี้.. หินผามีรอยผุกร่อน  ทำท่าจะพังทลาย 
   
“ไม่เป็นไร..” เสียงเขาอ่อนโยนเช่นพี่ชายเอ่ยต่อน้องน้อย “เดี๋ยวจ้อยก็หาย  เดี๋ยวก็เขียนหนังสือได้.. นะ..”
   
“กูเกลียดมึง..”
   
“จ้ะ” รอยยิ้มของเขาบิดเบี้ยวเล็กน้อย  ดั่งพยายามบังคับสุดความสามารถ  หยาดน้ำรื้นสองตาจนเป็นไอฝ้าฟาง  มือหยาบใหญ่แตะลงมือน้อย  วางหัวใจไร้ค่าทั้งดวงลงไปบนนั้น “จ้อยต้องหาย  เชื่อพี่.. ”   
   
ตอนเด็ก.. พี่เคยบอกว่า.. ถ้าพี่ทำเบ็ดเกี่ยวตาจ้อยบอด  พี่จะควักลูกตาตัวเองให้แทน
   
พี่อาจขลาดล้ำซ้ำเขลา ใจเบาไร้แกนแก่นสาร..
   
แต่คำใดที่พี่เคยพูดไว้  พี่หมายความตามนั้นทุกคำ!

   
จันทร์ลอยดวงเด่นกลางผืนฟ้ามืด  เรือนไทยทั้งหลังเงียบกริบราวไร้ความเคลื่อนไหว  ทว่าที่นอกชาน  หัวหน้าอันธพาลยังนั่งอยู่ท่ามกลางกองเศษตำราและชุดนักเรียนที่ถูกตัดจนขาดเป็นผ้าขี้ริ้ว  มือใหญ่สาละวนเอาแป้งเปียกแปะกระดาษต่อกัน  สักพักก็ถอนใจพรืด  ไม่ได้เรื่องเลย.. ยับเยินขนาดนี้  ยิ่งพยายามยิ่งเลอะเทอะกว่าเก่า  เปลี่ยนไปคว้ากล่องเข็มของแม่  สนเข็มอยู่นานกับแสงตะเกียงพร่าไหว  หากพอฝีเย็บสะเปะสะปะเดินหน้าเป็นตะขาบขาคดได้ไม่เท่าไร  ปลายเข็มแหลมก็ทิ่มนิ้วเข้าให้  เรียกหยดเลือดแต้มผ้าขาวเป็นวง
   
ลูกชายกำนันกำลังสะบัดมือเร่าๆ  ตอนน้าแป้นหิ้วตะเกียงน้ำมันขึ้นเรือนมา “ไม่ไหวหรอกสิงห์เอ๋ย” สุ้มเสียงเปี่ยมไปด้วยความอาทร  แกทรุดตัวนั่งลงใกล้ๆ คว้าเศษเสื้อในมือใหญ่ไปเพ่งดูแล้วก็ส่ายหน้า
   
“แล้ววันจันทร์จ้อยมันจะเอาอะไรไปเรียนล่ะน้า” นักเลงโตถามแผ่ว  ลูบรอยเย็บเส็งเคร็งบนเศษผ้าแผ่วเบา  เข็มเย็บผ้ามันเล็กกว่าไม้หน้าสามตั้งเยอะ  ทำไมควบคุมทิศทางยากเย็นนัก
   
“ชุดนักเรียนนี่ไปให้นังแมวที่ตลาดมันตัดให้ก็ได้  วัดตัวครูไป  แต่คงเสร็จไม่ทันวันจันทร์หรอก” น้าแป้นช่วยแนะให้ “ส่วนหนังสือนี่น้าจนใจจริงๆ  ตลาดหัวรอจะมีขายไหมหือ”
   
สิงห์ถอนใจพรู  ไอ้ชุดนักเรียนน่ะพอหาทางได้  แต่ตำราเรียนนี่สิ  บางเล่ม.. คนโง่เง่าอย่างเขาอ่านปกไม่ออกด้วยซ้ำ  บางเล่มเป็นภาษาปะกิดเสียอีก  แล้วจะหันหน้าไปพึ่งใครดี  พ่อ? ไม่ได้!  ขืนให้พ่อรู้เรื่องนี้ละบ้านแตกแน่  พวกไอ้ลอย?  เฮ่อะ!  ไอ้พวกนั้นเลิกพูดได้เลย 
   
ใบหน้าเย่อหยิ่งทว่าดวงตาจริงใจของใครคนหนึ่งผ่านวาบเข้ามาในความคิด  นักเลงหนุ่มค่อยจุดยิ้มแห่งความหวังกลางแสงตะเกียงสลัว
   
เขาลืมคุณชายเล็กไปได้อย่างไรกัน!
   

โปรดติดตามตอนต่อไป

-----------------------------------------------------------------------------------------------------
*เหลือความดีให้พี่บ้าง, นนท์ปิญา คำร้อง, ธานินทร์ อินทรเทพ ขับร้อง
**มัทนะพาธา    



แหะๆ (หลบตาคนอ่านแล้วค่อยๆย่องตอดออกไป :katai5:)

ดอกไม้
๒๑ ธ.ค. ๕๖

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
โธ่มาตอนนี้ สวสาร สิงห์จับใจ โดนน้องจ้อยด่าว่า อย่างไรก็"จ๊ะ" คำเดียว เห้อ

tanuki

  • บุคคลทั่วไป
 :z3: :z3: มันทรมานใจดีจัง แต่ชอบครับ ฮ่าๆ
อยากอ่านอีกไวๆ เป็นกำลังใจให้ครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iiam

  • อัยแอม Bulan
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2

สงสารทุกคนในเรื่อง TT

รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ ลุ้นมาก จริงๆ TT

ออฟไลน์ Yforever

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮืออออ สงสารน้องจ้อยน้ำตาไหล  :sad4:

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
จ้อยจะด่าจะว่าอย่างไร พี่สิงห์ก็ได้แต่ จ้ะ โอ๊ยยยย สงสารละเกิน  :hao5:

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
โอยยยยยยยย นำตาไหลเลย สงสารน้องจ้อยอย่างที่สุด 
สงสารพี่สิงห์ด้วยยยยยยยยยย  โอยยยยยยยยยยย  ทรมานแท้ล่าาาาา
รักกันๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
กูเกลียดมึง :m15: :monkeysad: :sad11: :o12: :impress3:
รู้สึกเจ็บมากๆอ่ะ รับรู้ได้ถึงความเกลียดชังของจ้อยเลย
อาจจะเป็นกับจ้อยที่เป็นคนพูดเพราะ พอพูดคำนี้มันเลยทำให้เจ็บเป็น๒เท่า

สงสารพี่สิงห์

เกลียดแม่ผัว ...สันดาน(ขอยืมคำพี่สิงห์นะค่ะ)

ปล.นอนไม่หลับ  :laugh:

+๑
+เป็ด
 o13

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
มันรันทดมากจนไม่อยากอ่านแล้ว

ขออภัยคนเขียนจริงๆ เหมือนโดนผลักตกน้ำแล้วโดนเหยียบหัวซ้ำไม่ให้โผล่อ่ะ

คนเขียนเขียนดีไม่มีที่ติเลยค่ะ เราถึงไม่อยากอ่านช่วงนี้เท่าไร มันอินและมันหดหู่นะ เหมือนมองไม่เห็นฝั่ง

ออฟไลน์ YaoTJi

  • เพราะชีวิต ขาดวายไม่ได่้
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
มีแต่เรื่องดราม่า โฮฮฮฮฮ  :hao5:

ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
มันแบบว่า....เฮ้อออออ หน่วงสุดๆ

ออฟไลน์ eye-lifestyle

  • พรุ่งนี้ไม่เคยมีจริง
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด