In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: In Abroad || รักแกไง... ไอ้ฝรั่ง [18/4/2013 - Season 2 ตอนที่ 1]  (อ่าน 135782 ครั้ง)

ออฟไลน์ irksome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
พริก ... เพิ่งรู้อ่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เรียนไปด่าไป มันคงจะรู้เรื่องอะนะคะ

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
รุนแรงกันจริงๆ เดี๊ยวสุดท้ายแอนนี่คงจะด่าไทยได้ชัดเจนแน่ๆ

diFil

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดด ชอบบ 5555
อ่านไปนั่งขำไปค่ะ  :laugh: :laugh:
รอลุ้นแอนนี่กับ PRICK 555
บวกเป็ดให้นะคะ รอติดตามค่ะ  :กอด1:

m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งเข้ามาอ่าน
เหมือนได้ฝึกภาษาไปในตัวเลย

Crossley

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปสองตอน ฮาเิงิบ :m20:

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
ช่วยสอนคำว่ารักให้แอนนี่ทีสิ พริก ฮ่าๆๆ o13

ออฟไลน์ shabushabu4

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เชียร์แอนนี่ รับ วะ ฮ่าๆๆๆ :laugh: :laugh:

Prick Opp!!!  :laugh:

I like this name. Ha ha ha   I  can't say a word... :z2: :z2:

I think everybody like it.

Finally, Please Up Up Up and Up  o18

ikora

  • บุคคลทั่วไป
จริงๆแล้วคำว่า Prick นอกจากแปลว่า โอโบ๊ะจามะ ในลักษณะของศัพท์แสลงแล้ว ยังใช้ในการด่าได้อีกด้วยครับ เช่น

That prick stole my boyfriend!! เป็นต้นนะฮะ

แล้วก็เป็น verb ได้ด้วยนะ แปลว่า ทิ่ม เสียดแทง (...เอ่อะ ไมมันส่อจังวะ  :oo1:)

นั่นแหละครับ เค้าก็เลยไม่ได้ใช้คำนี้กัน ไม่ว่าจะคำนาม หรือกริยาก็แล้วแต่อ่ะนะ

แวะมาแปะข้อมูลเล็กน้อยฮะ ตอนที่สาม เริ่มเขียนไปนิสนุงแล้ว ใจเย็นๆกันนะฮว้าฟ จุ๊บุจุ๊บุ  :pig4: :pig4: :pig4:

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ เหมือนฝึกภาษา   :laugh:

แต่ลดๆการใช้อีโมรูปภาพ  (   o13 o22 :o8:  ) อีโมติค่อน -*- = =; หน่อยนะคะ  แล้วก็ 55555+ ด้วยค่ะ อ่านแล้วขัดๆแปลกๆ   :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
ท่าทางจะตีกันตายก่อนรู้เรื่อง

ออฟไลน์ kogomon

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
+ 1 ให้กับเรื่องฮาๆ ครับ

แถมได้ขุดภาษาอีก

^^

ikora

  • บุคคลทั่วไป
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ เหมือนฝึกภาษา   :laugh:

แต่ลดๆการใช้อีโมรูปภาพ  (   o13 o22 :o8:  ) อีโมติค่อน -*- = =; หน่อยนะคะ  แล้วก็ 55555+ ด้วยค่ะ อ่านแล้วขัดๆแปลกๆ   :L2:

ขอบคุณมากฮะ จะพยายามลดๆลงดูนะฮีาฟฟฟฟ

OTAKKIEZ

  • บุคคลทั่วไป
กลายเป็นทั้งคู่จะได้คำด่ามาแทนล่ะมั้งเนี่ย 555

qwank8

  • บุคคลทั่วไป
ชอบบบฝรั่งงะ  :man1:

ikora

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 3 มาแล้วครับ ช่วงนี้คนเขียนยุ่งๆกับชีวิตนิดหน่อย อาจจะมาอัพนิยายช้ายังไงต้องขอโทษด้วยนะฮะ ^ ^  :call:






“มีนเมินเหี้ยไร กูแปลไม่ออก ฟังไม่รู้เรื่องเว้ย!!”

“ค้อเมิงแม่งยับค่ายนี่วาร์ แทนเท้ชึทอนแร็พแค็กฮายมันดีแคร์นีน่อย!!! (ก็เมิงแม่งหยาบคายนี่หว่า แทนที่จะต้อนรับแขกให้มันดีกว่านี้หน่อย!!!)”

นั่นแหละครับผมเอง ผมเถียงมันเป็นภาษาไทย ยอมรับครับว่า ถึงจะเรียนกับไอ้ตี๋นี่แค่เดือนเศษ (ซึ่งก็เป็นเดือนเศษที่น่าหงุดหงิดมาก) แต่ก็ออกเสียงภาษาไทยหลายๆคำได้ชัดขึ้นบ้าง... โดยเฉพาะคำที่ใช้ด่ากับมันนี่แหละ

….. โอ้ ดูผมสิครับ หน้าตาตอนด่ากับมันนี่น่ากลัวจริงๆ ธรรมดาผมไม่ใช่คนนิสัยแบบนี้ซะหน่อย

“ไอ้นี่!!! ออกเสียงยังไม่ถูกยังทำกระแดะพูดไทยอีกนะมึง พูดก็พูดไม่รู้เรื่อง!!”

“เอ๊า!! And when I speak English, you don’t have the gut to understand it at all!!!”

“เอ๊า ไอ้นี่นิ่!! อยู่ดีๆมึงก็พูดอังกฤษ จะเอายังไงวะ!! กูฟังไม่รู้เรื่องเว้ย!!” (พริก) โอ้ ดูผมสิครับ แววตาเปร่งประกาย เกรี้ยวกราด การตะเบ็งเสียงที่เห็นเส้นเลือดที่คอเป็นมัดๆ ราวกับว่าผมอยู่ในสงครามที่กำลังสู้อยู่กับทหารเลวชาวตะวันตก

(แอนนี่) หุบปากเหอะน่าไอ้ตี๋ น่าตาเมิงตอนด่า น่าเกลียดกว่ากูอีก... เห็นมั้ยครับคุณคนอ่าน ขนาดตอนบรรยาย เราสองคนยังอดจะทะเลาะกันไม่ได้ ก็ไอ้เจ้านั่นมันน่ารำคาญนิ่ครับ... ว่าแต่ว่า ตอนนี้มันเป็นตอนของผมไม่ใช่เหรอ คุณคนเขียน ทำไมให้ไอ้นี่โผล่มาด้วยล่ะ Hey!!












Chapter 3: The Lost Key


เรื่องของเรื่องที่เราทะเลาะกันใหญ่โตมันไม่ได้มาจากแค่เรื่องภาษาหรอกครับ แต่มันเกิดจากว่า...





(เมื่อสองวันก่อน)

“เอ้อ ตายจริงแอนนี่แม่ลืมไปเลย” แม่ผมสะดุ้งตัวขึ้นระหว่างที่เราทานข้าวกันอยู่

“หือ? อะไรแม่” ผมถามขณะสูดเส้นบะหมี่ต้มยำไม่ใส่พริก (อี๋ๆๆๆๆ ชื่อนี้ไม่อยากจะพูดเลย) ไม่ใส่ขิง ไม่ใส่น้ำพริกเผา และไม่ใส่กะทิ (แหม ผมกินเผ็ดไม่ได้นี่)

“แม่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้มีสัมนาที่ต่างจังหวัด ไปสามวัน”

“เอ๊า ไม่บอกซะมะรืนนี้เลยล่ะแม่”

“ก็มันเพิ่งนึกได้นี่นา”

“แล้วคือยังไงอ่ะ “

“อ่าว แล้วเราอยู่ได้มั้ยล่ะคนเดียว”

“แม่ อย่าลืมสิว่าผมอยู่คนเดียวมาสัปดาห์นึงก่อนแม่จะมาอีกนะ อยู่ได้อยู่แล้วน่า”

“อืมม งั้นก็ดี แม่จะได้อุ่นใจ ถ้ามีอะไรก็โทรมาบอกแม่แล้วกัน”

“รับแซบ!!”


แล้ววันรุ่งขึ้นแม่ก็ออกไปสัมนาแต่เช้า ซึ่งแน่นอนว่านั่นหมายถึงเวลาของ...... อิสรภาพ!!!! เยี่ยมจริงๆ อย่างงี้ผมก็ไปเที่ยวไหนก็ได้ตามสบายโดยไม่ต้องมีแม่มาคอยคุม เยส!! งานนี้แหละ พารากอนจ๋า เซนทรัลเวิร์ดจ๋า สยามจ๋า มาบุญครองจ๋า อยากไปมานานแล้ว วี้วววววว!!!  :mc4:

แล้วเมื่อวาน กับวันนี้ของผมก็หมดไปกับการเดินเล่น ช็อปปิ้ง ตามย่านวัยรุ่นของคนไทย จะว่าไปเด็กสยามนี่ก็หน้าตาดีเยอะนะครับ ดูเป็นดารากันได้แทบจะทุกคนเลย แถมยังตาถึงกันเยอะซะด้วย เพราะผมมักจะเห็นสายตาหวานแหววที่ส่งมาให้ผมเป็นระยะๆ เอิ๊กๆๆๆๆ ช่วยไม่ได้นะ คนมันหน้าตาดีก็อย่างงี้แหละ










(เมื่อวานนี้)

Don’t cry for me Argentina
The truth is I never left you…


เอ๊ะ ใครโทรมาตอนนี้วะ กำลังเลือกเสื้อใหม่อยู่เลย

“Hello?”

“ไอ้ฝรั่ง มึงอยู่ไหนวะ” ไอ้... พริก (วะฮ่าๆๆๆๆ) เวรแล้วไง ลืมไปเลยว่าต้องเรียนภาษา

“E – errrrr, today I’m kinda busy ว่ะ Maybe we should skip class today”

“หือ?? เอางั้นเหรอ?”

“Yep. I’m so busy right now” ผมตอบขณะที่ได้ยินเสียงมันร้อง ‘เยส’ เบาๆจากปลายสาย

“เออๆ โอเคๆ ไม่เป็นไรนะเว่ย ตามสบายเมิงเลย พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ยันสัปดาห์หน้า ถ้าไม่ว่างก็ได้นะ กูไม่ซีเรียส” มันพยายามตอบแบบเก็บอาการดีใจครับ ไม่ใช่แค่เมิงคนเดียวว่ะไอ้ตี๋ กูก็ดีใจที่ไม่ต้องไปเจอหน้ามึง

“Okay. I take my time”

หลังจากนั้น ผมก็วางสายไปด้วยความรู้สึก... ดีใจสุดๆไปเล้ยยยย!! วู้วว!! เอาล่ะครับๆๆ ได้เวลาผมช็อปปิ้งต่อแล้ว ขอตัวก่อนนะแจ๊










(วันนี้)

ของพะรุงพะรังไปหมดเลยครับ วันนี้ผมไปเดินแถวประตูน้ำมา ที่ห้างแพลตตินั่ม ซึ่งมีเสื้อผ้าเยอะแยะมากมายให้เลือก ผมล่ะถูกใจไปหมดเลยครับ ถึงแม้เสื้อผ้าจะออกแนวคนละสไตล์กับที่เค้าใส่กันที่อเมริกาก็เถอะ แต่อย่างที่เค้าว่า ‘เข้าเมืองตะหลิว ต้องตะหลิวตาม’ (ใช่เหรอ?) ...นั่นแหละครับ เอาเป็นว่า เราก็ต้องตามเทรนด์ของบ้านนี้เมืองนี้กันหน่อยแหละนะ ผมก็เลยซื้อเสื้อผ้ามา แทบจะเรียกได้ว่า โละของเก่าเลยล่ะ

...แต่ว่า....... เอ๊ะ?? ทำไมผมล้วงกระเป๋าผมแล้วไม่เจอกุญแจห้องซะทีนะ?? อืมมมมม หาทุกซอกของกระเป๋าก็แล้ว กระเป๋ากางเกงก็แล้ว กระเป๋าเสื้อก็แล้ว เปิดดูในกางเกงในเผื่อจะเจอก็แล้ว อะเจ๊ย! จะบ้าเหรอ มันไม่อยู่ในนั้นหรอก!! แต่ยังไง ผมหาที่ไหนที่ไหนก็ไม่มี..... เฮ้ย.....

เง้ออออออออออออออ!!! กรูทำกุญแจห้องหายยยยยยยยยยยยย!!!  :sad4:

ซวยแล้วๆๆๆๆ จะทำยังไงดีล่ะครับเนี่ยะ แม่ก็ไม่อยู่ ไอ้กุญแจอีกอันนึงก็อยู่ที่แม่ผมซะด้วย งานนี้เข้าห้องไม่ได้ แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ยะ....

เฮ้อออออ งานนี้เห็นที คงต้องขออาศัยซักห้องที่เราทำความรู้จักไว้ไปจนถึงวันพรุ่งนี้ซะแล้วล่ะ ....อ๊ะๆ!! คุณผู้อ่านอย่านึกเชียวนะว่าผมจะขอไปอยู่ห้องไอ้ตี๋ penis น่ะ ไม่มีทางหล่ะครับ ผมรำคาญมัน และมันก็รำคาญผม ไม่อยากจะเยื้องย่างเข้าไปในนั้นซะเท่าไหร่หรอก

ก๊อก ก๊อก ก๊อก
 
“Excuse me. Is anybody inside??” คำถามนี้เกิดขึ้นจากปากผมไม่รู้กี่สิบรอบแล้ว ผมเคาะประตูเรียกได้ว่าเกือบจะทุกห้องของชั้นนี้แล้วครับ แต่ทำไมนะทำไม... ทำไมไม่มีใครอยู่ในห้องกันเลยล่ะ ฮือออออ อย่างงี้ก็เท่ากับว่าผมน่าจะเหลืออยู่ตัวเลือกเดียวสินะ ฮือออออออ คุณผู้อ่านครับ มาถึงจุดนี้ เชิญจิ้นกันได้ตามอัธยาศัยเลย เพราะผมไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว กับการที่ต้องแบกหน้าไปเคาะห้องมันเนี่ยะ

“It’s gonna be alright, Annie…. Just one night” ผมปลอบใจตัวเองเมื่อมายืนอยู่หน้าห้องมัน แต่ทำไม คำปลอบใจผมมันดูส่อจังวะ

ตึก ตึก...

ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เหงื่อเริ่มไหลออกมาตามซอกมือ เสียงหัวใจผมดังชัดในหัวมากขึ้นทุกทีทุกที...

ตึก ตึก ตึก ตึก...

ผมค่อยขยับเข้าไปใกล้ประตูห้องมันมากขึ้น จังหวะหัวใจเต้นเร็วขึ้นอย่างน่ากลัว...

ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก...

ผมค่อยๆยกมือขึ้นช้าๆ เพื่อเตรียมเคาะประตู...

ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก...

“Alright, Annie. Just knock it!” ผมบอกตัวเอง ก่อนจะเริ่มเคาะประตู แต่แล้ว....

แอ๊ดดด

“มึงมีไรมึงก็พูดมา กูเห็นมึงยืนทำหน้าเป็นหมาแดกขี้อยู่หน้าห้องกูห้านาทีได้และ” ไอ้ตี๋พูดขึ้นหลังจากเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าเอือมสุดๆ

“W – Wait!! How could you know that I’m gonna knock the door??” ผมถามสีหน้าเหวอ

“ห๊ะ?? อะไรนะ” แม่งทำหน้าเอ๋อกวนทีนอีกและ

“The door!! How could you know!! I’m gonna …” ผมเคาะประตูหลังพูดจบ เผื่อไอ้เอ๋อนี่จะรู้เรื่องขึ้นมาบ้าง

“อ๋ออออ ก็มึงเล่นเดินเคาะทุกห้องในชั้นนี้ แถมพูดซะดัง กูจะไม่รู้ได้ไง” เอ่อะ มันพูดมางี้ ผมอายเลยครับ

“แหน่ะๆๆๆ เป็นไรเมิง อายอ่ะดิ่ หน้าแดงเป็นตูดลิงบาบูนเลย” มันแหย่แล้วหัวเราะกวนประสาท

“Shut up! I’m not that embarrassed”

“เออ เมิงจะพูดอะไรเมื่อกี้ก็ช่างเหอะ ว่าแต่ เมิงมีธุระอะไร”

“......” มันไม่กล้าพูดออกมาอ่ะสิครับงานนี้ จะมาขออยู่กับคนที่ด่ากันทุกวัน มีหวังบอกไป ผมโดนมันด่าเช็ดแน่ๆ

“อ่าว ไม่พูด??” กูไม่รู้จะพูดยังไงโว้ย

“E – Errrrr, Well….. Errrrrr”

“มึงเป็นกะละมังเหรอ น้ำเอ่อ รึไง??” มุขอะไรเมิงวะ แป้กชิบ

“No! I just…. Errrrrr……”

“จั๊สอะไร?”

“เฮ้อออออ” ผมถอนหายใจก่อนจะยอมบอกด้วยความอาย “คูเพิ่ร์งทำคุณแชฮ้องห้าย (กูเพิ่งทำกุญแจห้องหาย)”

“........???????” สีหน้ามันตอนนี้เป็น Question mark แล้วครับ “พูดเหี้ยไรมึงเนี่ยะ อิงลิช พลีส”

“I lost my key! I can’t enter my room, okay!?” ผมขึ้นเสียงเพราะทั้งอาย ทั้งสุดจะทนกับหูของไอ้พริก

“อ่าฮะ... แล้ว??” ไอ้นี่ ไม่ได้มีน้ำจิตน้ำใจจะช่วยเหลือกูเลยรึไง

“แลว what?! I can’t find a place to stay! My mom is going on a seminar!! She’s not here until tomorrow, okay??”

“เอ่อออออ...” มันทำหน้าเอ๋อ เรียบเรียงสิ่งที่ผมพูด “โซ ยูว้อนทูสะเตย์อินมายรู้ม??”

“That’s correct”

“เหอะๆ ฝันไปเหอะมึง กวนตีนอย่างมึง นอนเฝ้าโจรหน้าห้องกูดีกว่าว่ะ กร๊ากกกกก”  ไอ้เลวววววว แม่งจะปิดประตูใส่หน้าผมอีก ดีนะที่ผมยันประตูแล้วพยายามดันตัวเองเข้าไป

“เห้ยๆๆๆ!! อะไรมึง! กูไม่ให้เข้า!”

“ค้อคูชึเค้าอาร์ ซาร์ดดดดดด!!! (ก็กูจะเข้าอ่ะ สาดดดดดดด!!!)” ผมตะเบ็งเสียง ออกแรง และ

ตุ๊บ!!

สำเร็จครับ ผมผลักประตูเข้ามาในห้องมันได้ในที่สุด แต่ทว่า....

ขาของผมกับมันพันกันอีกแล้ว ไม่นะๆ นี่ผมจะล้มลงไปจูบกับมันอีกแล้วเหรอ ....ภาพตอนนี้สโลว์โมชั่นมากๆ ตัวของมันล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว ส่วนตัวของผมกำลังลอย และจะลงไปหามันแล้ว ใบหน้าของเราใกล้เข้ามา.... ใกล้เข้ามา... ใกล้เข้ามา.... และ.....



อั๊ก!! มันเอาเข่ายกขึ้นมากันครับ โอ้โห!! งานนี้เข่ามันกระแทกเต็มๆ แอนนี่น้อยแทบแตกสลายกันเลยทีเดียว

“Shit!!! It hurts!!!” ผมร้องเสียงหลง ขณะลงไปกลิ้งกับพื้น อื้อหือ หน้ามืดมากๆครับตอนนั้น ลมแทบจับ

“วะฮ่ะๆๆๆๆๆ ช่วยไม่ได้ เมิงอยากล้มลงมาหากูเองนะ ไอ้ฝรั่งขี้นก มันเป็นกลไกการป้องการตัวอย่างนึงน่ะ”

“You!!” ผมส่งสายตาอาฆาตไปให้มัน แบ๊คกราวน์ผมตอนนี้ลุกเป็นไฟแล้วฮะ

“เฮ้ยๆๆๆ ใจเย็นๆก่อนสินาย....” มันทำหน้าเหวอ เมื่อผมเริ่มเอาจริงครับ (แบ๊คกราวผมยังคงมีไฟลุกอยู่) มันค่อยๆถอยร่นเข้าไปในห้องขณะที่ผมค่อยๆก้าวอย่างร้ายกาจราวกับสิงโตที่พร้อมจะขยุ้มเหยื่อ “....ย – ยังไงเราก็คุยกันได้น่า เมิงอย่าเพิ่งโมโหดิ่วะ”

“You die!!!” ผมระเบิดออกมาก ก่อนจะกระโจนเข้าเกาะหลังไอ้ตี๋

“ว้ากกกกกกกกกก มึงเป็นตัวอะไร!!! ซอมบี้รึไงวะ เห้ย ปล่อยนะ!!!!!” มันโวยวายร้องลั่น ขณะที่ผมกำลังจะงับหัวมัน มันพยายามวิ่งหนีไปทั้งห้อง จนในที่สุด ผมก็เลิกเมื่อมันยอมให้ผมค้างห้องมันได้






“เอ้า มึงเอาไอ้นี่ไป” ไอ้ตี๋โยนถุงนอนมาให้ผม ผมมองมันสีหน้างงๆ?? จะให้กูนอนในนี้เนี่ยนะ??

“ทำหน้างงอะไรมึง มึงก็นอนในนั้นแหละ ไม่เคยนอนถุงนอนรึไง?”

“Hello?? I’m your guess. I should stay in your bed” ผมตอบแล้วเดินไปที่เตียงของมัน

“เห้ยๆๆๆ มากไปละเมิง” มันรีบกระโจนมาดันตัวผมออกไปจากเตียง “มาอาศัยกูอยู่ยังมาแย่งที่นอนกูอีก ได้ไงวะ”

“Come on, I can’t sleep in this… crap. It’s too old and stinky” แหงล่ะครับ ทั้งเก่าทั้งเหม็นใครจะไปนอนลง “Can’t we just – sleep in bed. I promise I won’t bite you, again”

“เห้อะ!! No way! ใครจะไปเชื่อเมิงวะ เมือ่กี้เล่นเอารากผมกูแทบหลุด ถ้าเมิงไม่นอนในถุงนอนนี่ก็ไปหาพื้นซักที่นอนนู่นไป”

“You’re so cruel” ผมเริ่มตัดพ้อ คนอะไรวะ ใจร้ายชิบ! แขกทั้งคนนะเว่ย

“เออๆๆ เอวเอิวอะไรกูไม่รู้เรื่อง ไปที่อื่นไปกูจะนอนและ” มันพูดแล้วเดินมาปิดไฟห้องนอนมัน ปล่อยให้ผมยืนหัวโด่เด่อยู่ในห้อง ก่อนที่มันจะล้มตัวลงนอนบนเตียงมัน... คิดจะเมินกูใช่มั้ยไอ้ตี๋ ด๊ายยยย กูจะหน้าด้านให้เมิงดูเอง กูไม่ยอมไปนอนบนพื้นหรอก

ผมไม่ลังเล ขึ้นไปนอนข้างๆมันอย่างเงียบๆ แต่เหมือนว่ามันจะรู้ตัวครับ

“เห้ยๆๆ อะไรมึง ขึ้นมาได้ไงวะ!” มันโวยวายแล้วดันผม ซึ่งเริ่มดิ้น ให้ตกเตียง

ผลัก!!

“Ouch! That’s hurt!!” ผมโวยวายขณะที่มันไปเปิดไฟ ผมส่งสายตาเดือดดาลไปให้มันทันที

“ไม่ต้องมาทำฤทธิ์เยอะเลยมึง! กูบอกแล้วว่าไม่ให้มึงมานอนบนเตียง!! จะอะไรนักหนาวะ!!”

“But I can’t sleep on the floor!!!”

“เรื่องของมึงสิ!! มาอาศัยกูอยู่แล้วยังมาทำตัวน่ารำคาญอีกนะมึง!!”

“Like I want to stay with someone so mean like you!!”

“มีนเมินเหี้ยไร กูแปลไม่ออก ฟังไม่รู้เรื่องเว้ย!!”

“ค้อเมิงแม่งยับค่ายนี่วาร์ แทนเท้ชึทอนแร็พแค็กฮายมันดีแคร์นีน่อย!!! (ก็เมิงแม่งหยาบคายนี่หว่า แทนที่จะต้อนรับแขกให้มันดีกว่านี้หน่อย!!!)”

“ไอ้นี่!!! ออกเสียงยังไม่ถูกยังทำกระแดะพูดไทยอีกนะมึง พูดก็พูดไม่รู้เรื่อง!!”

“เอ๊า!! And when I speak English, you don’t have the gut to understand it at all!!!”

“เอ๊า ไอ้นี่นิ่!! อยู่ดีๆมึงก็พูดอังกฤษ จะเอายังไงวะ!! กูฟังไม่รู้เรื่องเว้ย!!”

“โอ๊ยยยย!! เมิงค้อแฮ็ทฟังบาซาร์ English คูฮายรูว์เรืองเซว่ะ!!! (มึงก็หัดฟังภาษาอังกฤษกูให้รู้เรื่องสิวะ!!!)” ผมหมดความอดทนกับความกวนประสาท น่ารำคาญ นิสัยเสียของมันเต็มทนแล้วครับ ให้ตายสิ อย่างหาอะไรมายัดปากมันจริงๆ

“พูดเหี้ยอะไรของเมิ้งงงงง!! กูฟังไม่รู้เรื่องตั้งแต่ต้นประโยคละ – อุ๊บ!!” ผมทนไม่ไหวแล้วครับ หยิบหมอนข้างของมันขึ้นมาตีหัวมันนี่แหละ หุบปากซะที เมิง

“เชี่ยนี่ จะเล่นอย่างงี้ใช่มั้ย! ได้ๆ” มันเลือดขึ้นหน้า แล้วคว้าหมอนของมันขึ้นมา ก่อนจะหวดใส่ผมเต็มที่ แต่ผมหลบได้ครับ

“Awwww, you suck at this. It’s my turn!”  ผมหวดหมอนข้างใส่มันไปอีกหนึ่งดอก

ก่อนที่มันจะหวดผมกลับอีก แล้วในที่สุด สงครามหมอนก็เริ่มขึ้นครับ ผมกับมันหวดกันเต็มที่หลายๆครั้ง จนในที่สุด ฟูกก็เริ่มฟุ้งกระจายเต็มห้อง ผมเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาบ้างแล้ว อยู่ดีๆทั้งผมทั้งมัน ทั้งๆที่ด่ากันอยู่ แต่ก็หัวเราะไปด้วยอย่างน่าประหลาด เออ ทำไมมันรู้สึกสนุกดีแหะ ไอ้การตีหมอนเนี่ยะ

“Whoa!!” กำลังคิดอะไรเพลินๆครับ อยู่ดีๆผมก็ลื่นล้มอีกแล้ว (วันนี้หลายรอบแล้วนะ!!!) ผมคว้าแขนมันเป็นหลักไว้ แต่มันก็ดันล้มตามผมลงมาด้วย

“เฮ้ย!!”

 และคราวนี้เข่าผมก็ยกขึ้นมากั้นไว้ไม่ทันครับ!! ชิบแล้ว!! หน้ามันใกล้เข้ามาอีกแล้ว!! ผมหลับตจาปี๋ ไม่อยากจะนึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อแต่ว่า...

......

ผมไม่รู้สึกว่าริมฝีปากมันมาประกบผม ผมจึงลืมตาขึ้นมาและพบว่า.... ใบหน้าของมันซึ่งแดงก่ำพอๆกับมะเขือเทศ อยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึงเซน มันยันตัวเองไว้ได้ทัน อยู่บนตัวผมในขณะที่ผมเองตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกหน้าแดงขึ้นมาบ้างแล้ว และอยู่ดีๆ ผมก็รู้สึกเหมือนหูผมอื้อไปหมด ได้ยินแต่เสียงจังหวะหัวใจเต้น... เอ่ออออออ.... อะไรวะเนี่ยะ อยู่ดีๆมารู้สึกอย่างงี้ได้ยังไงวะเห้ย!! ไม่ได้ๆๆๆๆๆ ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลยครับ มันรู้สึกโหวงๆ ยังไงบอกไม่ถูก ยิ่งอยู่ต่อหน้ามันตอนนี้ ยิ่งไม่ชอบเลยครับ!!

“W – Well, Urrr” ผมเรียกสติตัวเอง และเหมือนไอ้ตี๋เองก็จะสะดุ้งได้สติขึ้นมา จึงรีบลุกขึ้นจากตัวผม ฟูกในห้องยกคงกระจายไปตามแรงลมของแอร์

“ม – เมิงจะนอนในนี้ก็ได้ ด- ด- เดี๋ยวกูไปนอนข้างนอกเองก็ได้ ไม่เป็นไร” มันพูดตะกุกตะกัก มือไม้ชี้ไปนู่นทีนี่ที

“N – No, it’s okay. I can stay outside” ผมพูด รู้สึกบอกไม่ถูก... เกร็งๆ คงเพราะรู้สึกยี๋ๆ จนไม่รู้จะพูดยังไง ซึ่งมันเองก็คงรู้สึกแบบนั้นเหมือนกันแหละ...

“ไม่เป็นไรหรอก..” มันพูดเร็วๆเสียงอ่อยๆ แต่ไม่มองหน้าผม “กู – ขี้เกียจเถียงกับเมิงแล้ววันนี้”

มันพูดเสร็จแล้วก็เดินอาดๆออกไปทันทีครับ หน้าผมเองยังไม่หายแดง หัวใจยังเต้นเร็วๆอยู่ เฮ้ออออออ อะไรวะเนี่ยะ นี่ผม.... รังเกียจมันจนอาการเป็นขนาดนี้เลยเหรอ...

ผมสั่นหัวหงึกๆเพื่อให้ลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แล้วหันไปปัดพวกฟูกที่อยู่บนเตียงออก เรื่องเก็บกวาดไว้ค่อยช่วยมันทำพรุ่งนี้ก็ได้ ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรตอนนี้แล้ว อันที่จริง ผมไม่อยากจะออกจากห้องนอนไอ้ตี๋เพื่อไปเจอมันในตอนนี้ด้วยซ้ำ มัน... ขยะแขยง... ใช่ๆ มันขยะแขยง ยังไงไม่รู้สิ เอาเถอะครับ คืนนี้ผมนอนก่อนดูกว่า ยังไงก็ ราตรีสวัสดิ์นะครับคุณผู้อ่าน  :bye2:



To be continued

ออฟไลน์ shabushabu4

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อร๊ายยยย ภาษาไทยแอนนี่ยังเลิศ แต่ก็ดีขึ้นมาหน่อยแล้ว (หน่อยจริงๆ) :z2:

ส่วน พ-พริ-ก ยังฉลาดเหมือนเดิม = = เค้าพูดไทยก็บ่น พูดอังกฤษก็บ่น ฮ่วยย :a5:

ขอให้กุญแจห้องหาไม่เจอเถอะ :call:


Crossley

  • บุคคลทั่วไป
สื่อสารยังไม่ทันรู้เรื่องแต่สปาร์คกันติด(?)ซะงั้น  :laugh:

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
ทั้งสองคนนี่มีแรงดึงดูดกันนะ จะจูจุ๊บกันก็จูบไปสิคร้าาา พริกบอกฟังไม่รู้เรื่องๆแต่ก็ดูเข้าใจตลอดนิ หรือใช้ภาษาใจฮ่าๆ

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
พูดไทยก็ไม่รู้ พูดอังกฤษก็ไม่เข้าใจ ต้องพูดภาษากายใช่มะถึงจะเก็ท :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คู่นี้สมน้ำสมเนื้อกันดีนะ คนหนึ่งพยายามหัดภาษาไทย คนหนึ่งหัดภาษาอังกฤษ 555555  แล้วก็ขอให้กุญแจหายต่อไปนานๆๆ นะ

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
บ๊ะ ถ้าคำด่ามันจะชัดเจนขนาดนี้

แอนนี่หัวไวมากกกก 555

ออฟไลน์ dezzetoeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เอ๊อออออ พริก ... นายเก่งจริงๆนะ แม้จะฟังแอนนี่ไม่รู้เรื่อง แต่ก็รู้จนได้ว่าจะเอาอะไร  :laugh:
เคมีเข้ากันอย่างนี้ คงไม่ just one night แน่ๆเลยอ่ะ  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
ฮาแหลกลานนนน  55555

นายที่สุดก่อด๊ายเตี๊ยงมาน้าจ๊าหนูแอ๊นนี้

filmybutter

  • บุคคลทั่วไป
555 อ่านเรื่องนี้ได้ฝึกภาษาไปพร้อมกัน

แอนนี้ แม่ส่งมาให้เรียนภาษาไทยให้พูดให้ชัด รู้สึกว่าเริ่มชัดแล้วนะคำด่า เนี่ย - -

ikora

  • บุคคลทั่วไป
แวะเอาตอนใหม่มาแปะตอนตีหนึ่งครับ (จะมีใครอยู่อ่านมะเนี่ยะ -*-)




ผมค่อยๆลืมตาขึ้นตื่นบนโซฟาเมื่อยามเช้ามาเยือน ธรรมดาผมเป็นคนตื่นเป็นเวลาอยู่แล้ว เพราะงั้นต่อให้หลับตอนไหน ผมก็จะตื่นตอนหกโมงสี่สิบห้าเป็นประจำ จะว่าไป ไม่รู้ว่าเมื่อคืนผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กว่าจะหลับนี่สิครับ หนาวชะมัด พอปิดแอร์ก็ร้อนจี๋ แต่พอเปิดก็หนาวซะตัวขดเลย แต่ว่า... เอ๊ะ เมื่อคืนตอนผมนอนมันไม่มีผ้าห่มไม่ใช่เหรอ?? แล้วมันมาอยู่นี่ได้ไงเนี่ยะ ผีหลอก??!! แน่ๆเลย ต้องเป็นผีอำแน่ๆ!! ก็ว่าอยู่ว่าเคยได้ยินข่าวลือว่าอพาร์ตเม้นใกล้ๆนี่มีผี แต่ไม่นึกว่ามันจะมาเฮี้ยนถึงคอนโดนี่!! ไม่ได้ๆ ท่าทางจะต้องไปหาหมอผีมาไล่ซะแล้ว

ซ่า!!

“เฮ้ย!!!” ผมลุกกระโจนไปหลบหลังโซฟา อยู่ดีๆก็มีเสียงน้ำมันในกระทะขึ้นมาจากห้องครัวได้ไงวะ ในเมื่อผมอยู่คนเดียวนี่หว่า เฮ้ย มันชักจะเฮี้ยนหนักเกินไปแล้วนะ ฮือๆๆๆๆๆ กลัวโว้ยยย ตัวสั่นไปหมดแล้ว จะทำยังไงดี...

“กล้าๆหน่อยสิวะไอ้พริก มึงมีพระนะเว่ย” ผมปลอบใจตัวเองเบาๆ แล้วจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วค่อยๆโผล่หน้าพ้นโซฟาทีละนิดๆ




...........................
...........................
...........................
...........................



!!!



“เฮ้ย!!!!” มีใครยืนท้าวสะเอวอยู่ตรงหน้าห้องครัววะ น่ากลัวอ่ะ เป็นเงาตะครุ่มๆ ผมรีบมุดหัวกลับมาหลังโซฟาทันที ก่อนจะรวบรวมสติอีกรอบ แล้วโผล่หัวออกไปมองอีก

!!!!!!!!!!!!!



อีกแล้วครับ!! คราวนี้เงาตะครุ่มๆนั่นท้าวสะเอวเหมือนเดิม แต่ระยะห่างมันใกล้เข้ามา ตอนนี้มาอยู่ทางเข้าตรงห้องรับแขก ใกล้ๆผมแล้วครับ



“ฮะ – ฮะ – เฮ้ยยย... ไอ้พริกๆๆๆ สวดมนต์ๆๆสิวะ พุทโธ ธัมโม สังโค พุทโธ ธัมโม สังโค...” ผมสวดบทสวดเบาๆ ขณะที่รวบรวมความกล้าอีกครั้ง... และ... ตัดสินใจลุกขึ้นยืน...



!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



ร่างนั้นมายืนท้าวสะเอวถึงที่โซฟาผมแล้วครับ!! คราวนี้ผมเห็นร่างนั้นชัดเจนเลยที่เดียว...

“What the fuck are you doing??” ไอ้ฝรั่งถามสีหน้างงงวย ขณะยืนท้าวสะเอวมองผม... เอ่อออออ ผมลืมไปแหะว่ามันมานอนค้างห้องผมเมื่อคืน

“อ – เอ่ออออ น้อตติงๆๆ” ขืนบอกว่ากลัวผี จะได้โดนมันหัวเราะเยาะสิครับ... เดี๋ยวก่อนนะ มันใส่ผ้ากันเปื้อนผมนี่หว่า

“อ้าว!! เมิง!! ใครอนุญาตให้เมิงใช้ผ้ากันเปื้อนกูวะ!” ผมชี้หน้าด่า

“I’m hungry so I’m preparing a breakfast”

“ไม่ต้องเลยเมิง! ใครใช้ให้เมิงเอาของกูไปทำกับข้าว!”

“Do you wanna eat or not?” หิอ??

“นี่เมิงทำให้กูด้วยเหรอวะ”

“แนน้อน I’m not that heartless like you” มันตอบก่อนจะเดินเข้าครัวกลับไปทำอาหารต่อ เออ จะว่าไปมันก็มีน้ำใจเหมือนกันเว้ย






สิบห้านาทีต่อมาอาหารเช้าก็พร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะอาหารครับ

“เช้ดดดดดด เมิงทำสเต็กเป็นด้วยเหรอวะเนี่ย??”

“For me, it’s just a piece of cake” มันยิ้มท่าทางภูมิใจ แต่ว่าแต่...

“เค้กอะไรของเมิง ไอ้นี่เค้าเรียกว่าสเต็ก กับข้าวประเทศเมิงแท้ๆ ยังไม่รู้อีก โอ๊ ไม่ไหวๆ” ผมส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายกับมัน ในขณะที่มันเองก็ดูจะฉุนที่ผมไปด่ามัน

“Whatever. I’m sick of you now” เอ๊า อยู่ดีๆก็หยิบจานมันเองออกไปกินอีกห้องเลยครับ

“นี่ๆ! มารยาทบนโต๊ะอาหารไม่มีรึไง”

“มายเม้ I don’t wanna see your face, it’s gross” มันตะโกนตอบมาจากห้องรับแขก

หลังจากนั้นผมกับมันก็กินกันเงียบๆครับ อื้ม สเต็กนี่อร่อยเหาะไปเลยแหะ ฝีมือทำอาหารไอ้ฝรั่งนี่ระดับภัตตาคารเลยนะเนี่ยะ

“ไอ้ฝรั่ง” ผมเรียกมันเมื่อเกิดข้อสงสัยแว๊บขึ้นมาในหัว

“What?”

“เมิงเอาผ้าห่มมาให้กูเหรอวะ”

“………Nope, youwalked in your sleep last night” แปลว่าอะไรอ่ะครับ ผมแปลไม่ออก

“อะไรวะ กูแปลไม่ออก”

“เมิงหล่อเม้อ” อ่า...ฮะ ถ้าผมเดาไม่ผิด มันน่าจะหมายถึงละเมอรึเปล่าหว่า

“เฮ้ย เป็นไปไม่ได้อ่ะ กูไม่เคยละเมอตอนนอนนะเว่ย”

“I’m serious. You talked in your sleep!” มันตอบผมมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“จริงเหรอวะ?” ผมถามตัวเองเบาๆ


ก๊อก ก๊อก ก๊อก


เสียงใครมาเคาะประตูแต่เช้าวะ ผมถามตัวเองขณะเดินไปดูที่ตาแมวหน้าประตู

!!!!!! งานนี้ตกใจซะยิ่งกว่าผีอีกครับ

“ม้า!!”





















Chapter 4: ม้า!!


ใช่ครับ! ม้า!! ....ไม่ใช่ม้าอย่างที่คุณผู้อ่านคิดนะครับ ไม่ใช่ม้าที่ใช้วิ่ง แล้วร้องฮี้! แต่นี่คือ ม้าครับ!! ...เอ่อ ผมหมายถึง แม่ผมน่ะครับ!!!!

“ไอ้ฝรั่งๆ” ผมหันไปเรียก ขณะที่มันมองผมงงๆ “เมิงอยู่เงียบๆนะ”

“Why?”

“เออ!! เงียบก่อนเหอะน่า!!”

“Don’t you dare order me!!” ไอ้เชี่ยนี่ มาทำยืนโมโหกูอีก อ๊ากกกกกกก กูจะบ้า

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เฮ้ยมึง กูไหว้หล่ะ พลีสๆๆ บีไควเอท โอเค้?” ต้องยอมไหว้มันครับมันถึงจะนั่งลงแถมมีการหันมามองผมอย่างไม่พอใจอีกแน่ะ

หลังจากนั้น ผมก็เลยถอดเสื้อออกเผยเรือนร่างอันเซ็กซี่ของผมและเต็มไปด้วยมัดกล้ามเพื่อยั่วไอ้แอนนี่ เห้ย!! ใช่ซะที่ไหนล่ะครับ ที่จริงผมทำอย่างงั้นเพราะมีแผนน่ะ

“What are you doing?” ไอ้ฝรั่งถามตาโต

“ชู่ว!!!” ผมบอกให้มันเงียบอีกครั้งก่อนจะแง้มประตูเปิดนิดๆ

“พริก เราทำอะไรเนี่ยะ ปล่อยให้ม้ารอตั้งนาน” ม้าผมแขวะเสียงเขียวอยู่หน้าประตู

“เอ่อ ม้า รอแปบนึงได้มั้ยอ่ะ พริกยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย”

“เรานี่นะ ทำอะไรอยู่ เอาๆๆ ม้ารออยู่หน้าห้องแล้วกัน”

“โอเคคับม้า” ผมตอบยิ้มๆ ทั้งๆที่ในใจนี่ กรี๊ดแต๋วแตกไปแล้วครับ

“อย่าให้รอนานล่ะ!”

“โอเคคับๆ” ผมรีบปิดประตู แล้วถอนหายใจออกมาดังๆ

“…Is …everything alright?” ไอ้ฝรั่งถามผมเมื่อเห็นผมท่าทางเหมือนหนีตาย

“โน... อิตน่อต” ผมตอบแล้วย่างสามขุมไปที่มัน ก่อนจะจับมือมันลากไปในห้องนอน

“Wh – What are you doing??!!” มันถามอย่างตกใจแล้วสะบัดมือผมหลุดออก

“โอยยยย มึง! กูไม่ทำอะไรมึงหรอกน่ะ!” มันยังทำหน้างุนงงอยู่ “คืองี้... ม้ากูมา เพราะงั้น มึงไปซ่อนในตู้เสื้อผ้ากูก่อน”

“You mean… horse???” มันยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่ หน้าตอนมันงงนี่มันดูตลกดีแหะ 555555…. เอ่ออออ ไม่ใช่ๆ คือผมหมายถึงดูเหมือนคนปัญญาอ่อนน่ะครับ

“ไม่ใช่ๆ คือ... กูหมายถึงแม่กูมา ม้าเป็นภาษาจีนน่ะ”

“Oh… I see”

“เออๆ เมิงจะเห็นอะไรก็ช่างก่อน เมิงเข้าไปซ่อนในตู้ก่อน เร็ว” ผมพูดแล้วรีบจับมันยัดเข้าตู้โดยที่มันก็ยังโวยวายภาษาอังกฤษของมันไปเรื่อยๆโดยที่ผมไม่รู้เรื่องซักกะคำจนผมปิดตู้ไป

ผมรีบวิ่งมาที่หน้าประตูก่อนจะหยิบเสื้อขึ้นมาใส่ตามเดิม


ปัง! ปัง! ปัง!


“พริก!! แกจะให้ม้ารอแกถึงพรุ่งนี้เช้าเลยรึไง!!” เอาแล้วครับ แม่ผมเริ่มมีน้ำโหแล้ว ทุบประตูซะผมนึกว่าซอมบี้บุกเลยทีเดียว

“ใจเย็นม้าๆ อ่ะ เข้ามาได้แล้วคับ” ผมรีบเปิดประตูให้แม่เข้ามา

“โอยยย ร้อนจริงๆ แกจะให้ม้าละลายอยู่ข้างนอกก่อนรึไง” ม้าผมหันมาแขวะขณะเดินเข้ามา

“โห่ม้า มันต้องใช้เวลาแต่งตัวนิดนึง มาต้อนรับม้าทั้งที่”

“ย่ะ มาต้อนรับมา ก็แค่เสื้อยืดกับบ็อกเซอร์เองไม่ใช่รึไง”

“อะฮ่ะๆๆๆ ก็นั่นแหละฮะ... ว่าแต่ม้ามีธุระอะไรเหรอ มาที่นี่แต่เช้า ไม่ได้เปิดร้านรึไง”

“ก็ถ้าไม่มีธุระก็คงไม่รีบมาที่นี่ป่านนี้หรอก พอดีว่าป๊าเค้าลืมของเอาไว้ที่นี่น่ะ” ม้าพูดขณะเดินมานั่งที่โซฟาและสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

“พริก เดี๋ยวนี้แกทำสเต็กเป็นแล้วเหรอ?” ชิบแล้วไง! ไอ้แอนนี่ลืมเอาไอ้นี่ไปด้วยรึไงวะ ไอ้ผมเองก็ลืมสังเกตอีกที จะบอกยังไงดีล่ะ

“อ – เอ่ออออ อันนี้ของซิสเลอร์น่ะม้า พอดีเมื่อวานไปกินมาแล้วเหลือน่ะ...”

“ซิสเลอร์?? ม้าจำได้ว่ามันไม่มีเมนูแบบนี้นะ?”

“ป – ป – เป็นโปรโมชั่นพิเศษของช่วงนี้น่ะม้า มีแค่ช่วงนี้เท่านั้นแหละ อะฮ่ะๆๆๆๆๆ” เหงื่อตกเลยครับผม

“อ่อออออ งั้นเองเหรอ เอ้อ งั้นวันนี้เดี๋ยวพอปิดร้าน ม้าลองชวนป๊าไปกินดีกว่า” เย้ย!!

“อ – อ่า... มันหมดโปรโมชั่นไปแล้วเมื่อวานอ่ะม้า พ – พอดีว่าเมื่อวานเป็นวันสุดท้ายน่ะ”

“อ้าว! เหรอ!! น่าเสียดายจริงๆ ม้าว่ามันน่ากินดีนะ” ม้าพูดพลางใช้มีดหั่นสเต็กมานิดนึง “ม้าลองชิมหน่อยแล้วกันนะ”

“อ – เอ่อ...” คือม้าครับ ชิ้นนี้ไม่รู้ไอ้ฝรั่งมันแทะยังไงไว้นะครับ ระวังน้ำลายนะครับม้า น้ำลายครับ น้ำลาย

“ทำไม แค่นี้หวงให้ม้ากินไม่ได้เลยเหรอ” แน่ะ ตัดพ้ออีก

“เปล่าๆๆ ม้าจะกินก็กินได้ครับ” มายิ้มอย่างมีชัย แล้วก็จิ้นสเต็กชิ้นนั้นเข้าปาก อ้ำ! (อี๋!)

“อื้ม!! อร่อยมาก!!” ม้าทำตาซาบซ่านหวานซึ้งเหมือนมีใครมาสารภาพรักเป็นครั้งแรก “เสียดายจริงๆนะพริก ที่หมดโปรโมชั่นไปแล้ว”

“นั่นน่ะสิม้า ผมก็เสียดาย” ผมยังคงแถต่อไป

“เอ้อๆ แล้วนี่ม้าไม่ได้จะมาหาของให้ป๊าเหรอ”

“เออ ใช่ๆ ลืมไปเลย เดี๋ยวต้องรีบกลับด้วย” ม้ามีท่าทีรีบร้อนขึ้นมาทันทีก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปในครัวพลางพูดว่า “เอ... แต่ม้าก็ไม่รู้ซะด้วยสิว่าป๊าเค้าเอาไปไว้ตรงไหนของเค้า”

“แล้วเจ๊มะนาวกับไอ้ตะไคร้เป็นไงมั่ง” ผมถามถึงพี่สาวกับน้องชายผมครับ

“มะนาวมันก็ยุ่งๆช่วงนี้แหละ เห็นว่ามันต้องทำรับน้องอะไรไม่รู้ ส่วนไอ้ไคร้มันก็เหมือนเดิม มีเรื่องกับเค้าไปทั่ว” เหอะๆๆ นี่แหละครับนิสัยน้องผม ชอบมีเรื่องกับชาวบ้าน จนแม้แต่ผมเองก้เอือมระอา

“...พริก ทำไมเรามีสเต็กนี่อีกจานล่ะ” แม่ผมตะโกนถามขึ้นมาจากในครัว อะจ๊ากก!! ลืมจานของตัวเองไปซะสนิท ผมรีบเดินอ้าวๆ เข้าไปในครัวก็พบกับแม่ที่มองผมอย่างสงสัย

“อ่อออออ คือผมกะจะกินสองชิ้นเลยน่ะม้า” ผมพยายามไม่สบตาม้า

“แล้วทำไมแกไม่ใส่จานเดียว” แม่ผมเริ่มเข้าโหมดจับผิดซะแล้ว

“ก็ – ก็ – ก็จานเล็กขนาดนั้นอ่ะ มันใส่จานเดียวไม่พอหรอกม้า”

“งั้นเหรอ” นัยน์ตาแม่หรี่เล็กลง ส่วนเหงื่อของผมก็ออกมากขึ้น

“แน่สิคับ” เชือ่เถอะค้าบบบบบบ เดี๋ยวจะงานงอก

“แล้วมีสองจานนี่ไม่คิดจะแบ่งม้าเลยรึไง??” ม้าเปลี่ยนเรื่อง แล้วเข้าสู่โหมดดราม่าครับ

“อ้าว ก็ผมกะจะกินสองจานไงม้า ต – แต่ถ้าม้าจะกินก็กินได้นะ”

“ไม่ต้องหรอก ม้าไม่กิน หาของต่อไปก็ได๊” เอ๊า งอน?? ดราม่า?? อะไรยังไง เหอะๆๆ ช่างเถอะครับ

“งั้นเดี๋ยวผมไปช่วยหาในห้องนอนนะม้า” ผมตัดบทแล้วเดินออกจากครัวมา

“ใบสั่งสินค้าสีฟ้าๆนะ” ม้าตะโกนบอกไล่หลัง

“คร้าบบ”






“ไอ้ฝรั่ง” ผมเรียกมันเบาๆ เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้า ไอ้นี่ลงไปหลบมุมในตู้เหมือนพวกลูกหมาเลยครับ

“Thank God! There’s no air in here. I can’t breathe” มันเริ่มบ่น

“เออน่า มึงทนอยู่ในนี้ไปก่อน”

“Did your horse leave?” ไอ้นี่กวนตีน

“ฮอร์ส(บิดา)มึงสิ แม่กูเว่ย”

“Oh! Yeah. Your mother. Did she leave??”

“เหอะ ยังว่ะ ม้ากูจะหาใบสั่งสินค้าสีฟ้าๆน่ะ”

“ซีฝาๆ...” มันทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอื้อมไปหยิบบางอย่าง “You mean this?”

“จะบ้ารึไง! นั่นมันกางเกงในกู” ผมมะเหงกหัวมันแรงๆหนึ่งทีเมื่อมันหยิบกางเกงในสีฟ้าของผมขึ้นมา

“Ouch!!!”

“เสียงอะไรน่ะพริก??” แม่ผมตะโกนถามมาจากในห้องนั่งเล่น

“โอะ – โอ๊ย!! พอดีว่าหัวผมไปกระแทกโต๊ะน่ะครับ” ผมแถในขณะที่ไอ้ฝรั่งทำปากประมาณว่า ‘It’s hurt’

“ระวังๆหน่อยสิเรา” แม่ผมเตือน

“คับๆ”

“Ah! I found it!!” ไอ้ฝรั่งชูใบสั่งซื้อสีฟ้าที่อยู่ในกองกางเกงในผมขึ้นมา (มันเข้าไปอยู่ในนั้นได้ไงวะ???)

“เฮ้ย ดีๆๆ งั้นเอามา –“ ก่อนที่ผมจะยื่นมือไปหยิบใบนั่น ประตูห้องผมก็เปิดออก...

“เวรละ!! ซ่อน!” ผมบอกมันเสียงเบาๆแล้วรีบปิดตู้เสือ้ผ้าทันที แล้วจึงแกล้งทำเป็นหาของอยู่แถวนั้น

“ม้าหาห้องอื่นไม่เจอซะที น่าจะอยู่ในห้องนี้แหละ” ม้าเดินเข้ามาสีหน้าหงุดหงิด

“แต่พริกก้ดูหมดแล้วนะม้า ยังไม่เจอเลย... พริกว่าม้าไปนั่งพักข้างนอกก่อนดีกว่า”

“โอยย ไม่ได้หรอก ม้ารีบ เดี๋ยวลูกค้าจะมาบ่ายนี้แล้ว ม้าช่วยเราหาในนี้แหละ” ม้า!! ไม่เป็นไรครับ! ขืนหาไปหามาจะงานงอก...

“เอ้อ แล้วหาในตู้เสื้อผ้ารึยังล่ะ” ยังไม่ทันขาดคำเลยครับคุณผู้อ่าน

“อ – เอ่ออออ หาแล้วม้า มันไม่เจออ่ะฮะ”

“เราหาไม่ทั่วรึเปล่า เดี๋ยวม้าหาอีกที” แม่เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าทันที

“ไม่เป็นไรหรอกม้า” ผมกระโจนเข้ามาขวางม้าไว้

“เอ๊ะ เรานี่อะไรเนี่ยะ” ม้าผมทำหน้างุนงงปนกับหงุดหงิด แล้วจึงอ้อมตัวผมไปที่ตู้

“เอ่ออ ม้า...”

“อะไรล่ะ?”

“พริกปวดท้องอ่ะ อยู่ดีๆก็ปวดเนี่ยะ โอ๊ยยยยยย” แอ็คติ้งสุดฤทธิ์แล้วครับ หวังว่าม้าจะเชื่อ

“อ้าว เป็นอะไรน่ะลูก สงสัยสเต็กแน่ๆเลย” เยส! ได้ผลแน่ ม้าหันมาหาผมด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“งั้นเดี๋ยวนะพริก เรานอนไปก่อน เดี๋ยวม้าดูในตู้นี่แล้วเดี๋ยวเอายามาให้” โอ้วววว โน่วววววววว!!! ม้ายังคงคิดจะเปิดตู้ต่อไปครับ

ม้าผมหยุดยืนหน้าตู้...




ตอนนี้ภาพทั้งหมดเหมือนภาพสโลว์โมชั่นมากๆครับ...






ม้าค่อยๆจับที่ที่จับของตู้....






ตู้เสื้อผ้าค่อยๆเปิดออก....






ผมหลับตาปี๋ ไม่อยากจะนึกว่าจะเกิดอะไรขึ้น....






แล้วในที่สุดตู้ก็เปิดออกกว้าง......






เหงื่อผมไหลไม่หยุดแล้ว..... จะเกิดอะไรขึ้น.........




...................
..............
.......
...
..






ม้ายังคงยืนนิ่ง มองไปที่ตู้ซึ่งไอ้ฝรั่งหายไปแล้ว??

เป็นไปได้ยังไงกัน หรือไอ้ฝรั่งเป็นคริส แองเจิ้ลกลับชาติมาเกิด (ได้ข่าวว่าเค้ายังไม่ตายนะ)




“เริ่มจากตรงไหนก่อนดีล่ะ” ม้าผมพึมพำกับตัวเองในขณะที่ผมยังคงสับสนว่าไอ้ฝรั่งหายไปไหน

ม้าผมเริ่มค้นตู้จากตรงส่วนที่มีไม้แขวนเสื้อผ้าเยอะแยะไปหมด จนกระทั่ง...

“เอ๊ะ นั่นอะไรน่ะ??” ม้าผมพึมพำขณะเพ่งมองไปในบางสิ่งหลังราวแขวนเสื้อ


หมั่บ!!!


มือหนึ่งหลังไม้แขวน จับเข้าที่แขนม้าอย่างรวดเร็ว ม้าของผมสะดุ้งแต่ไร้ซึ่งเสียงร้อง ส่วนผมเองก็ตกใจเช่นกัน

“คูณณณณ....... ยาร์กกกกกก..... ดายยยยยยย.... อาย....... นี....... ช่ายยยยยย..... มายยยยยยยย......” เสียงอันแหบพร่าของอะไรซักอย่างดังขึ้น ขณะที่มีอีกมือยื่นใบสีฟ้าออกมาใส่มือม้าผมที่ตัวสั่นอยู่... เดี๋ยวนะ ไอ้นี่มัน... - -*

“อาววววววว..... พาย...... เลว....... ค้อ.......” เสียงแหบพร่านั่นยังคงฟังไม่รู้เรื่อง แต่ผมรู้แล้วว่ามันคืออะไร แต่มันสายไปแล้ว

“คลับเปยซ้า!!!!” (มันคงจะพูดว่า กลับไปซะนะ ผมว่า) ใบหน้าของไอ้ฝรั่งโผล่ออกมาอย่างน่ากลัวและรวดเร็ว ดวงตาที่มันพยายามจะถลน และเสียงร้องที่มันดัด ถึงแม้ผมจะรู้ว่าเป็นมัน แต่ม้าผมซึ่งไม่รู้ ในตอนนี้ก็...

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” หลังจากกรีดร้องอย่างตกใจ ม้าผมก็ล้มลงไปกองกับพื้น ไร้สติ

“ม้า!!!” ผมรีบวิ่งไปพยุงตัวม้าซึ่งนอนแน่นิ่งไปแล้ว “ม้า ทำใจดีๆก่อน ม้า!!”

“Is she alright?” มันถามสีหน้าสำนึกผิด

“ไม่ต้องมาทำสำนึกเลยเมิง!! ทำเหี้ยไรเนี่ยะ หลอกแม่กู!!” ผมมีน้ำโหครับ

“Excuse me? If I didn’t do that, your mom would kill you now!!”

“อ๊อ เหรอ??? เมิงก็เลยชิงฆ่าแม่กูก่อนงั้นสิ??!!”

“I didn’t kill her!! I just make her sleep”

“พอเลยมึง!! ทำแม่กูแล้วยังไม่สำนึกอีก!!”

“I – “



เทียน มี่ มี
นี เซี่ยว เตอ เทียน มี่ มี
เฮา เซียง.....



เสียงริงโทนม้าผมครับ

ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายใบเล็กๆของม้า แล้วจึงกดรับสาย

“ฮัลโหลครับ?”

“พริกเหรอ” !!! ป๊า??

“อ่าครับ” ผมพยายามทำเสียงให้นิ่งที่สุด

“เรียกม้ามาคุยหน่อยซิ ไปนานแล้วยังไม่กลับมาซะที ร้านก็จะเปิดแล้ว”

“เอ่ออออ ป๊า พริกว่าม้าคงคุยไม่ได้ตอนนี้อ่ะ”

“หือ ทำไมเหรอลูก”

“เอ่อออออ.... ม้าเป็นลมไปน่ะคับ”

“.....เฮ้ย!! จริงป่ะเนี่ยะ เกิดอะไรขึ้น??” เสียงป๊าของผมฟังดูตกใจมาก

“ไม่รู้เหมือนกันคับ แต่เดี๋ยวคงจะฟื้นเองแหละครัย ไม่ต้องห่วง” ผมพยายามกล่อมพ่อให้หายตกใจ

“.....แค่นี้นะ เดี๋ยวป๊าไปหา”

“อ้าว เห้ย! ป๊า!!” ผมรีบจะห้าม แต่ไม่ทันแล้วครับ วางสายไปซะแล้ว ป่านนี้ป๊าผมคงรีบวิ่งไปออกรถมาแล้วล่ะครับ....

แล้วตอนนี้ผมจะทำยังไงกับไอ้ฝรั่งนี่ล่ะครับเนี่ยะ ถ้าป๊ามาอีกคน รับรองงานงอกเป็นกองพะเนินแน่นอน...


To be continued

ออฟไลน์ Dakzy

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
โอ๊ยยยย มันฮามากค่ะ ไม่ไหวแล้ว ขำสุดๆ

ชอบค่ะๆ ขอปะกิดเยอะๆเลยค่ะ สนุกดีอ่ะ

คนนึงพูด อีกคนก็แปลไปคนละความหมาย มันจะตีกันตายก่อนมั้ยเนี่ย

ฟิวส์ขาดง่ายทั้งคู่อ่ะ มีลางว่าแอนนี่จะเคะล่ะ หุๆ

คนเขียนเก่งภาษาอังกฤษจังเลยค่ะ ขอเยอะๆเลยนะคะ เราจะได้ฝึกด้วย^^

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :pigha2:

ขำจนกรามค้างไปหมดแล้วนี่ย  :m20:

แอนนี่หนูฮาได้ใจมากคะ   :laugh: :laugh:


บวก 1 ค่าาา

donghwa

  • บุคคลทั่วไป
ฮามากค่ะ พึ่งมาอ่าน แบบว่าชอบมากกก
เวลาพริกกับแอนนี่ด่ากันนี่มันส์พะย่ะค่ะมาก
ว่าแต่แอนนี่ปากจัดมากกกกกเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
มุขเล่นคำภาษาอังกฤษฮามากเลยค่ะ ชอบมากอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
สนุกดีค่ะ แล้วมาต่อเร็วๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ปล.หนังโป๊ที่พริกดูนี่หนังญี่ปุ่นชัวร์! ฟังจากซาวด์แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
ตลกดีครับคู่นี้ คุยกันคนละภาษา 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด