เย่ๆๆๆๆ หายไปจนผมว่าทุกคนนึกว่าผมตายไปแล้วแน่ๆ 555555 แต่ยังอยู่ครับผม พอดีตอนนั้นช่วงน้ำท่วมก็เลยยุ่งมากๆ แถมต้องเตรียมฟิตแอดมิชชั่นอีก ในที่สุดช่วงนี้ก็พอมีเวลาปั่นเรื่องต่อ ยังไงต้องขอโทษทุกๆคนจริงๆนะ สำหรับตอนนี้อาจจะสั้นซักหน่อย เพระามันเป็นตอนจบ part พอดี ยังไงก็ ขอขอบคุณทุกคนไว้ด้วยนะครับบบบบบ... จุ๊บๆ
“อ้าว เห้ย! ป๊า!!” ไอ้ตี๋ตะโกนอย่างตกใจ คาดว่าฝ่าย ‘ป๊า’ น่าจะวางสายใส่หน้ามันไป
“So…. What are we gonna do?” ผมถามเกร็งๆ ก็แหม มันก็รู้สึกผิดเหมือนกันนิ่ครับ ไปทำแม่มันช็อค ขนาดนี้ ต้องถามอาการหน่อย
แต่มันก็ยังเงียบครับ และยังคงดูอาการแม่มันซึ่งนอนขากระตุกชี้ฟ้าแด่วๆต่อไป
“Is she dead?” ผมยื่นหน้าเข้าไปมอง จังหวะเดียวกับที่มันยืนขึ้นแล้วหันมาลากมือผมออกมาจากห้องแรงๆ
“Hey!! It’s hurt! You grab me too tight. Let me go!!” ผมสะบัดมือมันแรงๆทำให้แขนผมหลุดจากพันธนาการของมัน “What’s wrong with you!?”
“ยังจะมาทำโวยวายอีกนะมึง! สร้างปัญหาให้กูได้ไม่หยุดหย่อนจริงๆ!!” มันชี้หน้าผมก่อนจะเอามือกุมขมับแล้วถอนหายใจ ส่วนผมเหรอครับ จะทำอะไรได้ หน้าจ๋อยสิครับ โดนด่าว่าเป็นตัวสร้างปัญหาเนี่ยะ “เดี๋ยวอีกซักพักป๊ากูจะมาที่นี่...”
“พ้าร์?... You mean – fish??”
“นั่นมันปลา โว้ยยยยย!!!! ป๊าๆ อ่ะ ป๊า มาย ฟาเต้ออ่ะ!!” มันหันมาโวยวายแยกเขี้ยวแบ็กกราวด์เป็นสีแดง
“So why don’t you call your parents ‘พอร์’ and ‘แมร์’?”
“ภาษาจีนโว้ยยยยย!!! มันก็คือๆกันแหละน่า!!” โวยวายอีกละ
“Ah! I see. Chinese language is always complicated, isn’t it?” ผมทำท่าครุ่นคิด
“อืมมมม จะว่าไปก็จริงนะ ภาษาจีนหลายคำก็...” มันทำท่าครุ่นคิดตามก่อนจะ....
“มันใช่ประเด็นที่ไหลล่ะโว้ยยยยยยยยยย!!!” โวยวายอีกรอบครับ
“So, what’s the point here?”
“หือ?? ชี้อะไรวะ?? งง” เอ๊า พอเข้าเรื่องก็โง่เสวยอีกครับ
“Errrrr. I mean พราเดน”
“อ่อ ประเด็นน่ะเหรอ” มันทำท่านึกได้ก่อนจะเดินไปที่ประตู
“Yeah?”
“ประเด็นคือ เมิงต้องออกไปจากห้องนี้” มันพูดพร้อมกับเปิดประตูห้องมันออก ผมก็ได้แต่ยืนมองประตูสลับกับมองหน้ามัน
Chapter 5: Where can I go then!!?
“You’re kidding, right?” ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อที่มันพูด อยู่ดีๆจะมาไล่ผมเนี่ยนะ แล้วผมจะไปที่ไหนล่ะ ตอนนี้ห้องอื่นเค้าออกไปข้างนอกกันหมดแล้ว เหมือนอย่างเมือ่วานไง
“กูไม่เด็กแล้วเห้ย! กูโตแล้ว”
“I mean – You’re joking!”
“เห้ย! กูพูดจริงๆ เมิงต้องออกไป”
“Hell to the no! I’ll stay!” ผมเริ่มมีน้ำโห ยืนกอดอก
“อ่าว เหี้ยนี่! ห้องก็ห้องกู กูบอกให้ออกก็ออกไปเด๊ะ!!”
“Why do I have to leave?!!”
“บีคอส มาย ฟาเต้อ อีส คัมมิ่ง!!!”
“Huh!!” ผมอุทาน เอามือปิดปาก “God sake!! Did your father cheat on your mother?!! Are you alright??”
“.....ห๊ะ” มันทำหน้าเป็น Question mark
“You said your father is cumming – like have some orgasms with other girl??”
โป๊ก!!
“Ouch!!” โดนมันเขกหัวไปเต็มๆ เล่นซะผมเห็นดาวเต็มหัวผมเลย “What the fuck!!! That’s hurt!!”
“เออ สมน้ำหน้า อยากลามปามถึงพ่อมึงนัก” มันยืนกอดอกสะใจในขณะดูผมเอามือคลำหัว
“What’s so wrong with what i said?? You said your dad’s cumming”
“คนละ คัม กันแล้วมึงเอ๊ยยยย! กูหมายถึง ป๊ากูกำลังจะมา อันเด้อสะแต๊น?”
“Ahhh I see”
“ให้ตายสิ กว่าจะเข้าใจ”
“Okay. So, your dad’s coming so why I can’t stay?” ผมวกกลับเข้ามาประเด็นหลัก
“โอ๊ยยยย!! อยู่ไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้สิจะอะไรนักหนา!!” เอ๊า ถามดีๆ จะโวยวายอีกทำไมวะ
“Why!!???” ผมถามเสียงเข้มขึ้น
“ป๊าม้ากูได้ฆ่าเอาสิ!! ป๊าม้ากูไม่อนุญาตให้ใครมาค้างห้องกูโดยไม่ได้รับอนุญาต”
“Awwwww. Such overprotective parents” แหงหล่ะครับ พ่อแม่อะไรวะ หวงลูกเกิ๊น
“เออๆ มึงจะพูดเหี้ยอะไรของมึงก็เชิญ แต่ว่า เมิงอยู่ไม่ได้” มันพูดจบก็ลากผมออกมานอกห้องเลยครับ
“What??!! You can’t do this!! Where would I stay!!??”
“ไม่รู้เว่ย! เรื่องของเมิง”
ก่อนที่ไอ้พริกมันจะปิดประตู ผมก็อาศัยความไวของตัวผมกระโจนเข้าไปในห้องอีกครั้งอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วระดับ Godspeed
“เห้ย!! ไอ้นี่!!! พูดไม่รู้เรื่อง!!”
“It’s unreasonable!! Why don’t you just tell your parents that I lost my key??!!”
“เมิงเป็นโจอี้บอยรึไงวะ! แร็พอยู่นั่นแหละ!!!” หะ? ใครนะ โจอี้บอย? ไม่รู้จัก เค้าเป็นใคร
“I don't know who's that but whatever. Just – Tell – Them. I lost my key”
“โอเคๆๆ เรื่องกุญแจมันน่าจะใช้อ้างป๊าม้ากูได้” มันยกมือยอมจำนน “แต่เมิงอาจจะลืมไปว่า ป๊าม้ากูก็เคยมีเรื่องกับมึงเหมือนกัน”
จริงด้วย... ลืมนึกไปเลยเฮ้ย เรื่องนั้น ไอ้จะเอามาอ้างว่าเข้าใจผิดตอนนี้ก้อไม่ได้ ขนาดกะตัวลูก มันยังชั่วร้าย ยียวนขนาดนี้ แล้วตัวพ่อตัวแม่ล่ะจะขนาดไหน...
“W – Well…. I’ll just explain that it’s just a misunderstanding situation” เอาว่ะครับ ใจดีสู้เสือมันซักตั้ง
“เหรอออ มึงรู้มั้ยว่าหลังจากวันนั้นป๊ากูพูดด้วยซ้ำว่า ฝรั่งอย่างมึงถ้าเจออีกทีจะกระโดดถีบให้กระเด็นกลับอเมริกาไปเลยด้วยซ้ำ” โอ้ย อะไรมันจะโหดขนาดนี้วะ “เมิงเข้าใจรึยังว่าทำไมกุถึงไม่อยากให้ป๊ากับม้าเจอมึง เดี๋ยวเรื่องมันจะใหญ่โตอีก
“So what I’m gonna do”
“อย่างที่บอกนั่นแหละ มึงคงต้องออกไปก่อนว่ะ” นี่สรุปเอาจริงเหรอ
“Seriously? There’s no other way?? I mean I have no place to stay!!!” ผมเริ่มสติแตกสิครับ ผมจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ ห้องอื่นก็ไม่มีคนด้วย
“ก็กูบอกแล้วไงว่า เรื่อง – ของ – มึง”
“Fuck this! I’m not going anywhere!!” ผมโวยวายแล้วกระโจนไปหลบที่โซฟาของมัน
“บ๊ะ!!! ทำไมหน้าด้านงี้วะ! บอกให้ออกก็ออกไปดิ๊!!” พูดยังไม่ทันจบประโยคตัวมันก็มาคว้าผมไว้แล้วครับ แต่ใครมันจะยอมไปง่ายๆล่ะเห้ย! ผมก็คว้าหมับที่โซฟา แล้วพยายามยึดให้แน่นที่สุด แต่ฝ่ายมันเองก็ใช่ว่าแรงน้อยที่ไหน แรงยังกะควาย ดึงแล้วดึงอีกจนผมแทบจะไม่ไหวแล้ว แต่ทว่า ในที่สุด มันก็ยอมแพ้ความด้านของผมจนได้ครับ อิอิ “เออๆ กูยอมก็ได้ มึงอยู่ต่อได้...”
“That’s what I’m talking about!” ผมยิ้มอย่างมีชัย
“แต่”
“but?” แต่?? แต่อะไร มันพูดจบก็รีบเดินหายเข้าห้องมันไปก่อนจะออกมาพร้อมกับกางเกงว่ายน้ำและผ้าขนหนูของมัน
“เอานี่ไป”
“What’s this?”
“มึงลงไปว่ายน้ำข้างล่าง แล้ว... เดี๋ยวถ้าป๊ากูไปแล้ว เดี๋ยวกูลงไปบอกมึง” เอางั้นเหรอ?? แล้วผมจะเชื่อมันได้มั้ยเนี่ยะ
“Well… How can I trust you? You might just kick me out and left me in the pool…”
“แล้วมึงมีทางเลือกอื่นมั้ยล่ะ” ไม่มี แต่จะให้เชื่อไอ้หมอนี่ได้แน่ๆเหรอ “มึงไม่ต้องห่วงหรอก ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ เดี๋ยวกูลงไปหาถ้าพ่อแม่กูไปแล้ว”
เหยดดดดดด ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ หล่อจริงๆว่ะไอ้ตี๋ แถมทำหน้าจริงจังอีก เอาวะ น่าจะเชื่อมันได้แหละมั้ง “Alright. I’ll leave for now”
“กู้ด” มันพูดพร้อมกับดันผมไปที่หน้าประตู
หลังจากนั้นผมก็ลงไปว่ายน้ำด้วยกางเกงว่ายน้ำของมัน (หยีชะมัด แต่จะทำไงได้ล่ะ)ที่ชั้นลอยซึ่งเป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากตัวคอนโด ผมเพิ่งจะสังเกตว่า มันใส่กางเกงไซส์ใหญ่มาก! ซึ่งผมต้องดึงสายซะจนแทบจะยาวระพื้นถึงจะพอดีตัวผม เฮ้อ แต่จะว่าไป เท่าที่ฟังไอ้พริกพูด ทำไมพ่อแม่มันดูจู้จี้ยังไงไม่รู้แหะ ต่างจากครอบครัวชาวอเมริกันโดยสิ้นเชิงเลย ปล่อยอิสระเต็มที่ ใช้ชีวิตได้ตามใจ อิสระใหม่จากวันทูคอล (เอ้ย ไม่ใช่แล้ว) ผมสงสัยจริงๆว่ามันไม่อึดอัดบ้างเลยรึไง
เวลาล่วงเลยไปนานเกือบๆสามชั่วโมงเห็นจะได้ ที่ผมกึ่งว่ายกึ่งลอยกึ่งตีน้ำกึ่งพ่นน้ำกึ่งนอนแผ่อยู่ในสระ ท่ามกลางแดดที่จ้า จนผมรู้สึกได้ว่า จากความเป็นฝรั่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ผมเริ่มโอนสัญชาติเป็นแอฟริกันแล้ว ทำไมมันนานอะไรนักหนาเนี่ยะ จนป่านนี้ไอ้พริกยังไม่โผล่หัวมาซะที ในที่สุด ผมก็ตัดสินใจขึ้นจากสระน้ำ แล้วรีบไปอาบน้ำเช็ดตัว แล้วมาใส่เสื้อเตรียมขึ้นไปหามัน อะไรมันจะนานนักหนาวะ แล้วอยู่ดีๆ
“แบร่!!!!” ไอ้พริกโผล่ออกมาจากเสาต้นหนึ่ง แทบจะหน้าชิดกับหน้าผม
“Aaaaaaaaa!! Fuck me!! Fuck me!!” ผมก็ตกใจสิครับ รีบถอยออกมาทันที แต่ดูเหมือนไอ้พริกเองก็ตกใจเหมือนกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพราะคำอุทานของผม
“กูไม่เอามึงหรอก ไอ้ฝรั่งนี่” มันทำหน้าแหยๆหลังจากตั้งสติได้
“Huh” ผมถอนหายใจก่อนจะโวยวาย “What the hell are you doing! If I have heart attack, I could die!!”
“โอยยย โวยวายอะไรมึง แอ๊ดทงแอ๊ดแท็ก แฟ้บ บรีสเอ็กเซล อะไรไม่รู้เรื่อง กูก็หยอกเล่นๆเฉยๆ ได้เห็นมึงทำหน้าเหวอด้วย 555555”
“Argh, whatever. What took you so long?” ผมถามทันทีว่าทำไมถึงช้านัก
“ห๊ะ??” ทำหน้าเอ๋อกวนบาทากูอีก
“I mean it’s almost three hours –“ ผมชูนิ่วสาม แล้วชี้ไปที่นาฬิกาที่อยู่ไม่ไกลมากนัก “- since I left the room!”
“อ๋ออออ คือจริงๆแล้วอ่ะนะ” มันเดินเข้ามาตบบ่าผมท่าทางกวนประสาท “ป๊าม้ากูกลับนานและล่ะ”
“What?”
“กลับนานแล้ววว ม้ากูซักพักก็ได้สติ บอกว่าจะไปหาหมอผีอะไรนี่แหละ แล้วป๊ากูก็พาม้ากูซิ่งไปเลย กูก็เลยได้มีเวลา มาแอบเห็นฝรั่งหน้าเจื่อน ว่ายน้ำไป ว่ายน้ำมา แล้วก็ทำหน้าเป็นตูด –“ มันพูดแล้วหันหน้ามาทำหน้าล้อเลียนใส่ผม “- เนี่ยะ แบบเนี้ยะ กร๊ากๆๆๆๆ”
“i – i – i – i Here!!” โอยยยยย แม่ง สรุปว่ามาแอบดูอยู่ตั้งนาน เลวมาก แล้วก็ไม่โผล่หัวมา
“โว๊ะ คำด่าภาษาไทยชัดเชียวมึง สุโค่ยว่ะ แหม่ๆ แต่ก็น่ารักดีนะมึง”
“Cute? Me?” งงว่ะ นี่สรุปว่าชมเหรอ
“ก้อออออ มันดูฮาดี พิศดาร ไม่เหมือนคนยังไงไม่รู้ กร๊ากกกกๆๆๆๆ” มันพูดก่อนจะเดินนำผมไปที่ลิฟต์ ปล่อยให้ผมยืนยั๊วะ กับคำชมแบบลูบหลังแล้วตบหัวของมันนี่แหละ
To be continued