[MOMENT] The Series - UPDATE เรื่องรวมเล่มค่ะ!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [MOMENT] The Series - UPDATE เรื่องรวมเล่มค่ะ!  (อ่าน 61296 ครั้ง)

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
เรื่องที่ 4: Touch
วัดตัว วัดใจ กันอีกนานเลย
แต่คงไม่วัดกันได้ไม่เท่าไหร่
ก็รุ้แล้วว่า มันช่างลงตัวจริงๆ

ออฟไลน์ @Iriz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-2
เข้ามาโหวต ฮาน กับ บลู จาก Courage ค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
ยะฮู้ววววว มาไล่อ่านแล้วค่า~ ถ้าอ่านเม้นเราแล้ว งงๆงวยๆ ขอได้โปรดทำใจ เพราะเราถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นตัวหนังสือไม่เป็น T^T

1. ฟ้า-วินด์
     มันกรี๊ดดดดดดดดดด มันละมุนมากกกกกกกกกก ชอบค่ะ >_<

2. ฮาน-บลู
     เราชอบความรักที่แตกต่าง ทั้งเรื่องอายุ สิ่งแวดล้อม ฐานะ เราว่ามันน่าสนใจดีค่ะ ^^

3. นิล-เบน
     อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก เพื่อนสนิท(ต่างคนต่าง)คิดไม่ซื่อ ชอบ!!!

4. เคน-ฮารุ
     ก็นะ มันคือการเริ่มต้นเท่านั้นอ่ะ จะเป็นไงต่อ คู่นี้น่าลุ้นดีแฮะ ^^

5. เชษฐ์-โซ่
     รักต่างวัย ชอบแนวๆนี้อ่ะ ^^ สารภาพว่าอ่านที่แรกเราคิดว่าเป็น โซ่-เชษฐ์ มากกว่านะ แหะๆๆ

6. เท็ตสึยะ-นิน
     เรื่องนี้ก็คือการเริ่มต้น น่่าสนใจ แต่ยังไม่ดึงดูดใจเรามากพอ ^^

7. กันย์-อันดา
     เป็นเรื่องที่อ่านไปยิ้มไป แอบลุ้นตามไปด้วย เป็นอีกหนึ่งเรื่องของการเริ่มต้น ^^

8. เจฟ-นท
     อั๊๊ยยะ!! เรื่องนี้ชอบค่ะ ชอบผู้ชายจอมวางแผนหน้ามึนๆ ฮาาาาา

9. เจเจ-อเล็กซ์
     เรื่องนี้ขอผ่านค่ะ เราไม่ค่อยชอบอ่านพวกแฟนตาซี ขออภัยค่ะ ^^

10. ตรี-คทา
     เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ คึคึ ชอบค่า~~

11. ภู-จิน
     เรื่องนี้อ่านเป็นเรื่องแรกเลย เม้นไปแล้วด้วย

จบแล้ววววววววว เหลือโหวตซินะ ชอบที่สุดคงเป็น ฮาน-บลู , ตรี-คทา , ภู-จิน
แต่ถ้าต้องเลือก เราขอเลือก "ฮาน-บลู" ค่ะ คู่ของ ตรี-คทา , ภู-จิน เป็นรักในวัยเดียวกัน
แต่รักต่างวัยอย่าง ฮาน-บลู หาอ่านแบบถูกใจยากเหลือเกิน ที่สำคัญเราชอบ "โชตะ" ด้วยแหล่ะ ฮี่ๆๆ

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
อาจจะยังไม่ได้โหวตนะ
ขออ่านให้จบทุกเรื่องไปก่อน

Guardian
สุดท้ายน้องโซ่ก็ถูกโซ่ที่แข็งแกร่งกว่าแต่อ่อนโยนรัดไว้ในความดูแลด้วยความเต็มใจ

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณคุณนิ้วไขว้ :L2:
ขอเลือกเรื่องแรก Coffee ฟ้ากับวินด์
ปล.พิพักพิพ่วน เป็นคำกริยา แปลว่า กระอักกระอ่วน รวนเร กังวล ตรงกับ Hesitate or worry เป็นคำที่ผู้ใหญ่ชอบพูดจริงจ้ะ ผู้ใหญ่สมัยก่อนมีคำพูดที่ฟังแล้วเพราะดีนะ แม้จะเป็นคำที่ความหมายไม่ใช่บวกก็ตาม

fingerscrossed

  • บุคคลทั่วไป
มาสรุปยอดโหวตประจำวันที่ 2 มีนาคม กันสักหน่อยดีกว่าค่ะ

1. ฟ้า กับ วินด์ จาก Coffee - 1 โหวต
    (จากคุณ kakuro)

2. ฮาน กับ บลู จาก Courage - 4 โหวต
    (จากคุณ TeaCafe ,คุณ t_cus, คุณ @Iriz และ คุณ love2y)

3. นิล กับ เบน จาก Friendship

4. เคน กับ ฮารุ จาก Touch - 4 โหวต
    (จากคุณ sukie_moo, คุณ yeyong, คุณ CarToonMiZa และคุณ นอนกินแรง)

5. เชษฐ์ กับ โซ่ จาก Guardian - 1 โหวต
    (จากคุณ fuku)

6. นิน กับ เท็ตสึ จาก Insomnia
 
7. กันย์ กับ อันดา จาก Postcards

8. นท กับ เจฟ จาก Plan

9. เจเจ กับ อเล็กซ์ จาก Eternity - 1 โหวต
    (จากคุณ you 13)

10. ตรี กับ คทา จาก Skinship

11. ภู กับ จิน จาก Breathless - 3 โหวต
    (จากคุณ silverphoenix คุณ fuku และคุณ pnatbutter)

ก็ถึงตรงนี้แล้ว ถ้าตกหล่นใครก็วานแจ้งนิดนึงค่ะ จะได้เข้าไปอัปให้ ต้องขอบคุณทุกคนมากนะคะ สำหรับคนที่ยังทำใจโหวตไม่ได้ เพราะรักพี่เสียดายน้อง ไม่เป็นไรค่ะ นิ้วไขว้เข้าใจ แต่อยากจะแจ้งว่า... สัปดาห์หน้า นิ้วไขว้จะงานยุ่งมาก ชนิดไม่มีวันว่าง แถมยังต้องเดินทางไปต่างจังหวัดด้วย ดังนั้นจนกว่าจะกลับมา ท่านใดที่ยังสนใจอยากจะโหวต ก็ยังแวะเวียนเข้ามาได้นะคะ

เสร็จธุระแล้ว นิ้วไขว้จะมาสรุปผลโหวตครั้งสุดท้าย แล้วจะได้เคาะตัดสินกันไปเลยค่ะว่า จะแต่งตอนพิเศษให้กับเรื่องไหน

ขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-03-2012 19:47:14 โดย fingerscrossed »

fingerscrossed

  • บุคคลทั่วไป
เพื่อนนักอ่านทุกท่านคะ หลังจากที่นิ้วไขว้หายหน้าหายตาไปเกือบสัปดาห์นึง ตอนนี้กลับมาแล้วค่ะ

และดูเหมือนว่าจะมีปัญหานิดหน่อยเกิดขึ้นแล้ว เกี่ยวกับตอนพิเศษนี่แหละค่ะ... ก็จะอะไรซะอีกล่ะคะ ยอดโหวตไม่เยอะน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ดันมีสองเรื่องที่มีคะแนนโหวตเยอะที่สุดเท่ากันน่ะสิคะ แล้วทีนี้นิ้วไขว้จะทำยังไงดีล่ะคะเนี่ย... จะเลือกเรื่องไหนดี  :sad4:

ใครมีไอเดียหรือคำแนะนำดีๆ วานบอกหน่อยเถอะค่ะว่า ระหว่าง Touch กับ Courage เนี่ย นิ้วไขว้ควรเลือกเรื่องไหนมาแต่งเป็นตอนพิเศษดี โธ่ ...  :z3:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
แต่งมันทั้งสองเรื่องเลยค่ะ อิอิ
คนอ่านได้กำไรเห็นๆ

ออฟไลน์ @Iriz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-2
เข้ามาเห็นด้วยกับคห.บนค่ะ  :o8:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
^
^
^
เห็นด้วยต่อๆกัน :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






fingerscrossed

  • บุคคลทั่วไป
ดูท่าจะไม่มีทางเลือกเท่าไหร่แล้วใช่ไหมคะ... มาค่ะ 2 เรื่องก็สองเรื่อง ขอเวลานิ้วไขว้หน่อยก็แล้วกันนะคะ เสร็จแล้วจะทยอยเอามาลงให้อ่านกันจนครบ... แหม คนอ่านนี่ก็ร้ายกาจไม่เบากันเลยจริงๆ ^^'''
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2012 10:59:31 โดย fingerscrossed »

ออฟไลน์ @Iriz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-2
 :mc4:
จุดพลุรอ พร้อม+1เป็นกำลังใจให้คุณนิ้วไขว้ค่า  :L2:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
เป็นกำลังใจให้คุณนิ้วไขว้ค่ะ จะรออ่านทั้งสองเรื่องเลย ^^

Way

  • บุคคลทั่วไป
ตามอ่านจนครบจนได้

fingerscrossed

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาวันนี้ อยากจะกรี๊ด... ยอดวิวทะลุหกพันไปแล้วเรียบร้อย ขอบคุณเพื่อนนักอ่านทุกคนอีกครั้งนะคะที่แวะเข้ามากัน คนเขียนดีใจมากจริงๆค่ะ

แล้วก็... มาคราวนี้ ไม่ได้มามือเปล่าแล้วค่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า จู่ๆจะเขียนตอนพิเศษจบไปแล้วตอนนึงภายในระยะเวลาอันรวดเร็วมาก จบเฉยเลย... แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อยก็มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมาฝากเสียที หลังจากห่างหายไปพักนึงนะคะ

สำหรับตอนพิเศษเรื่องแรกที่นิ้วไขว้เลือกเขียนก็คือ ตอนพิเศษของ Courage ซึ่งก็คือคู่ของฮานกับบลูนั่นเองค่ะ ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่า มันหวานเหลือเกิน ตอนเขียนน่ะไม่รู้ตัวหรอก มือมันพาไป แต่พอกลับมาย้อนอ่านอีกรอบ... พี่เอ๊ย... ถ้าจะหวานใส่กันขนาดนั้น และถ้าจะอ้อนกันขนาดนั้น  :o8:

ดังนั้นคำเตือนของตอนพิเศษตอนนี้ก็คือ... ระวังจะเลี่ยนค่ะ อ่านไปเขินไปกันเลยทีเดียว

ยังไงขอเชิญไปทัศนากันก่อน แล้วจะทิ้งท้ายตอนจบอีกทีค่ะ

-----------------------------------
เรื่องสั้นตอนพิเศษ : Courage – Weakness

หญิงวัยกลางคนเดินออกมาจากห้องพร้อมเอกสารปึกหนึ่งในอ้อมแขน ก่อนจะปิดประตูเบื้องหลังลงด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
   
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่ “คุณ” ของเธอ หรือจะเรียกให้ถูกก็คือนายใหญ่ของที่นี่คลายความเคร่งเครียดลง มีสีหน้าอ่อนโยนขึ้น และมีรอยยิ้มให้เห็นบ่อยขึ้นกว่าที่เคย แน่ล่ะ แม้ว่าก่อนหน้านี้ คุณฮาน จะไม่ใช่เจ้านายแบบที่เจ้าอารมณ์ หรือเข้มงวดจนน่ากลัวประสาคนที่มีตำแหน่งใหญ่โต แต่ก็มีความน่าเกรงขามระคนกับใบหน้าและบุคลิกเคร่งขรึม ที่ทำเอาใครต่อใครครั่นคร้ามไปตามๆกัน เพียงแค่ใช้สายตามอง เรียกว่ายังไม่ทันออกปาก พนักงานก็กลัวกันหัวหด ด้วยไม่รู้ว่านายใหญ่คิดอะไรในใจ
   
แต่ระยะหลังมานี้ รอบตัวคุณฮานนั้น ดูมีบรรยากาศที่อ่อนโยนขึ้นจนรู้สึกได้ ขนาดพนักงานทั่วไปยังสังเกตเห็น แล้วคนที่ทำหน้าที่เป็นเลขามานานกว่าสิบปีอย่างเธอ มีหรือจะมองไม่ออก

“คุณเอมคะ” เสมียนสาวรายหนึ่งถึงกับอดรนทนไม่ได้ จนต้องออกปากถามเธอตรงๆทันทีที่เอมอรวางเอกสารลงบนโต๊ะและทรุดตัวลงนั่ง “คุณเอมว่า เดี๋ยวนี้คุณฮานดูอารมณ์ดีขึ้นไหมคะ แพรบอกไม่ถูก แต่แบบว่า...”

ความอยากรู้อยากเห็นนี่หนอ เอมอรยิ้มน้อยๆออกมาอย่างเข้าใจสถานการณ์ แต่ก็เลี่ยงที่จะไม่พูดอะไรมากเกินไป อย่างไรเสีย นี่ก็เป็นเรื่องของเจ้านายที่เธอทำงานด้วยโดยตรง อีกทั้งแต่ไหนแต่ไรมา เอมอรก็ไม่ใช่คนปากมากอยู่แล้ว ออกจะพูดน้อยเสียด้วยซ้ำ ประสาคนที่ทำงานมานาน และเป็นผู้ใหญ่กว่าใครเพื่อน
   
“คุณฮานเธอก็ไม่ได้ดูเปลี่ยนไปเท่าไหร่นี่คะแพร เคยใจดียังไงก็ยังคงเป็นอย่างนั้นแหละ”
   
“ฮื้อ ไม่นะคะ แพรว่า สีหน้าท่าทางเธอดูอ่อนโยนขึ้น ไม่ได้ดูเคร่งเครียด หรือขรึมจนติดจะมืดมนอย่างแต่ก่อน เดี๋ยวนี้แพรเห็นเธอยิ้มทักทายกับพนักงานทุกคนอย่างเป็นกันเองขึ้นเยอะเลย”
   
“แล้วไม่ดีหรือคะ” เอมอรว่ายิ้มๆ พลางจัดเรียงเอกสารไปด้วย
   
“ดีสิคะ แต่แหม... เป็นใครจะไม่สงสัยบ้างล่ะคะว่า ทำไมนายใหญ่เราถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้”
   
“พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่เรื่องของเจ้านาย อย่าไปยุ่งเลยค่ะ พี่ว่า ถ้าเธอเปลี่ยนไปจริงๆ แล้วเป็นไปในทางที่ดีแบบนี้ ก็น่าจะดีแล้ว” เมื่อผู้อาวุโสกว่า พูดตัดบทเหมือนไม่อยากจะเอ่ยถึงเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว เด็กสาวจึงทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะหันกลับไปทำงานของตัวเองต่อไป
   
ในฐานะเลขาที่ทำงานด้วยกันมานานขนาดนี้ มีหรือเอมอรจะไม่รู้ถึงสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงที่ใครก็พูดกัน ก็เธอเองนี่ล่ะ ที่คอยทำหน้าที่เป็นธุระจัดการแบบกลายๆให้ตั้งแต่แรก แถมยังเจอกับตัวต้นเหตุที่ว่ามาแล้วก็หลายหน ก็พอจะเข้าใจได้ไม่ยากนักหรอกว่า ทำไมคุณฮานจึงเปลี่ยนไปจากเดิมจนใครๆก็รู้สึกได้
   
ถ้าไม่ใช่คนที่มีความรู้สึกด้านชาจนเกินไป ก็น่าจะพอมองออกว่า คุณฮานดูมีความสุขขึ้นกว่าแต่ก่อน
   
ใครจะไปเชื่อว่า คนธรรมดาคนหนึ่งจะมีอิทธิพลต่อชีวิตของอีกคนได้มากถึงเพียงนี้ อาจจะเป็นเพราะวัยเด็กของคุณฮาน อาจจะเป็นเพราะความสว่างไสวของเด็กคนนั้น หรืออาจจะเป็นเพราะโชคชะตา อะไรไม่รู้ล่ะ ที่ประกอบกัน จนทำให้คนสองคนได้พบกัน
   
เอมอรเป็นหญิงวัยกว่าสี่สิบที่มีครอบครัวแล้ว เธอแต่งงานมาสิบกว่าปี มีลูกสาวและลูกชายวัยไล่เลี่ยกันอยู่สองคนเหมือนครอบครัวตามปกติทั่วไปก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะทำให้เธอเป็นคนจิตใจคับแคบในการยอมรับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนเมื่อไหร่กัน เอมอรไม่เคยเชื่อว่าเพศสภาพจะกลายมาเป็นตัวตัดสินว่าใครไม่สมควรจะรักใครมานานแล้ว และเชื่อด้วยว่าหากคนสักคนจะรักคนอีกคนเพราะความเป็นตัวตนของคนคนนั้นเสียอย่าง จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม ย่อมเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น
   
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือน่ารังเกียจอันใดสักนิด เมื่อคนสำคัญของคุณฮาน จะเป็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง ไม่ใช่หญิงสาวจากตระกูลมั่งคั่งแบบที่คนส่วนใหญ่มองว่า น่าจะเหมาะกับคนระดับคุณฮานมากกว่า
   
เอมอรเคยพบเด็กคนนั้นอยู่หลายครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะนายใหญ่เป็นผู้ไหว้วานให้ช่วยโทรนัดหมายจิปาถะให้ คุณฮานก็จะเป็นคนโทรให้เด็กหนุ่มคนนั้นขึ้นมาหาเองบ้างเป็นครั้งคราว
   
เธอยังเคยคิดกับตัวเองด้วยซ้ำว่า คุณฮานของเธอตาแหลมไม่เบาที่เลือกเด็กหนุ่มคนนี้ ไม่แค่หน้าตาที่ชวนมองเท่านั้น แต่ยังเป็นกริยามารยาทและนิสัยใจคอที่แม้แต่คนละเอียดละอออย่างเธอ ยังอดชื่นชมไม่ได้ เด็กอะไรกัน อายุยังน้อยแท้ๆ กลับดูฉลาดเฉลียว แต่ก็ใสซื่อจริงใจ ทั้งที่ดูเป็นคนคล่องแคล่ว แต่กลับมารยาทดี สุภาพ แล้วยังจะรอยยิ้มที่ช่างเหมาะกับใบหน้าที่ดูจะสดใสตลอดเวลานั่นด้วย
   
ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าทำไม คุณของเธอถึงได้หลงรักเด็กผู้ชายคนนี้ได้ถึงเพียงนั้น ทั้งที่ราวกับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เธออาจจะรักใครไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะไม่เคยเห็นเธอจะทำท่ายินดียินร้ายอะไรกับใครเลยแท้ๆ
   
“คุณเอมครับ...” เสียงนุ่มทุ้มคุ้นหูเอ่ยขึ้นทางโทรศัพท์ หลังจากเสียงของมันทำเอาเธอตื่นจากภวังค์แทบจะทันที “เดี๋ยวเย็นนี้บลูจะเอาพิซซ่าขึ้นมาส่ง รบกวนคุณเอมกระจายให้กับพนักงานที่ต้องอยู่ดึกเพราะปิดงบฯ คืนนี้ด้วยนะครับ แล้วก็ให้บลูเข้ามาหาผมที่ห้องได้เลยนะ”
   
“ได้ค่ะคุณฮาน” เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง คุณฮานที่เคยเย็นชา กลับนึกถึงพนักงานที่ต้องทำงานจนดึกแบบนี้ ไม่เหมือนคุณฮานคนเดิมเลยจริงๆ
   
“ขอบคุณครับ” เอมอรวางหูและง่วนกับงานบนโต๊ะต่อ

**************************
   
เขาเปลี่ยนไปมาก ขนาดที่คนรอบข้างยังดูออก แล้วมีหรือที่เขาจะไม่รู้ตัวเอง
   
ตลอดระยะเวลาห้าหรือหกเดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่เขาได้รู้จักกับบลู เขาก็รู้แล้วว่า ชีวิตของเขาจะต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่เขาเองก็คาดเดาอะไรไม่ได้เหมือนกัน
   
ทีแรกฮานไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกอบอุ่นที่ซ่านขึ้นในหัวใจทุกครั้งที่มีบลูอยู่ใกล้ๆมันคืออะไร ไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกโหยหาและคิดถึงเวลาที่ไม่ได้เจอหน้า มันเรียกว่าอะไร ไม่แน่ใจว่าการอยากทำอะไรเพื่อใครสักคนที่เขารู้สึกว่าพิเศษสุดนั้น มันมีคำจัดความไหม
   
จนกระทั่งบลูเอ่ยแก่เขาในวันหนึ่งว่า “ผมว่าคุณดูมีความสุขขึ้นนะครับ” นั่นแหละ เขาจึงได้แต่เลิกคิ้วประหลาดใจขึ้นมา และหันกลับมามองความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองอย่างตั้งใจดูสักครั้ง
   
เขาเองก็ไม่แน่ใจ แต่ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับบลูทำให้เขามีความรู้สึกอย่างที่เป็นอยู่นี้ เขายอมรับก็ได้ว่าเขาคงมีความสุขขึ้นมากจริงๆ ลึกๆเขายังรู้สึกดีใจด้วยที่ความสุขในแบบของเขามันไม่ได้หวือหวา ไม่ได้โลดโผนโจนทะยาน ไม่ได้ทำให้เขากลัวว่ามันจะไม่ยั่งยืน แต่มันค่อยๆก่อตัวขึ้นในแบบที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจอย่างยิ่ง
   
ไม่น่าเชื่อว่าคนที่รู้สึกไม่มีความสุขอยู่ตลอดเวลาเป็นส่วนใหญ่อย่างเขา จะรู้สึกแบบนี้ก็ได้ด้วยเหมือนกัน
   
ถ้าจะให้เปรียบ บลูก็เหมือนแสงสว่างที่อบอุ่นในฤดูหนาว ไม่ใช่แสงเจิดจ้าร้อนแรงแผดเผา แต่มันทำให้จิตใจที่หนาวเหน็บเยือกเย็น อบอุ่นขึ้นได้อย่างอ่อนโยน
   
นี่เขาจะเพ้อเกินไปหรือเปล่านะ
   
แต่ใครจะไปเชื่อล่ะว่า เด็กบ้านแตกคนหนึ่ง จะสร้างความสุขให้เกิดกับ คนที่มาจากครอบครัวที่มีพร้อมคนหนึ่งได้มากขนาดนี้ โชคชะตานี่หนอช่างเล่นตลกเสียจริง
   
ฮานไม่เคยรุกหนัก ไม่เคยทำให้บลูรู้สึกอึดอัดหรือลำบากใจสักครั้ง อะไรที่จะทำให้บลูสบายใจ สะดวกใจ เขาก็ยินดีจะปล่อยให้บลูได้ทำอย่างที่ต้องการ บลูยังอยากทำงานพิเศษของเขาต่อไป ฮานก็ไม่เคยห้าม แค่เป็นห่วงนิดหน่อยเวลาที่เด็กหนุ่มจะต้องขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าการจราจรที่ติดขัดในเมืองใหญ่อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเท่านั้น นานๆเขาก็แวะไปหา ไม่ก็ไปรับไปส่งบลูที่บ้านเสียที บางทีก็มีพาไปหาอะไรง่ายๆทานบ้าง ไม่ก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดใกล้ๆเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง  เป็นเรื่องง่ายๆที่ห่างไกลคำว่าโลดโผนไปลิบ
   
เขายังมั่นใจด้วยว่า บลูเองก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับการที่ต้องมารู้จักคบหากับคนในระดับผู้บริหารใหญ่แบบเขา ไม่เคยกังวลเรื่องฐานะทางสังคมที่แตกต่างกัน ไม่เคยมองว่าอายุที่แตกต่างกันจะเป็นปัญหาอันใด บลูก็ยังเป็นบลูที่ซื่อตรง จริงใจ ตรงไปตรงมา และที่สำคัญเข้มแข็งไม่เคยเปลี่ยนแปลง
   
เด็กอะไรน่าแปลก และน่าทึ่งผิดกับเด็กหนุ่มในวัยเดียวกันเหลือเกิน
   
ฮานทึ่งในความเข้มแข็งอันนั้น เขาเคยสงสัยว่า บลูจะมีความอ่อนแออยู่บ้างไหม เพราะเจอกันคราวใด บลูไม่เคยแสดงถึงความทุกข์ใจใดๆให้เห็นเลย ทั้งๆที่พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งที่ต้องทำงานพิเศษหาเลี้ยงตัวเองเพื่อช่วยแม่ ทั้งที่ยังต้องเรียนหนังสือไปด้วย แต่ทำไมบลูยังยิ้มอยู่ได้ แถมยังเป็นยิ้มที่สว่างไสวเสียขนาดนั้น
เขารู้ดีว่ายังต้องเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับบลูอีกมากมาย และอยากจะให้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าจะเร่งรัดอันใด ฮานรู้ว่าบลูไม่ใช่คนที่จู่ๆจะมานั่งเปิดใจเล่าปัญหาอะไรของตัวเองให้ใครฟังได้ง่ายๆ เพราะบลูเป็นคนที่เข้มแข็งขนาดนั้นนั่นแหละ

************************
    
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ฮานเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะยิ้มกว้างขวางในแบบที่บลูเคยบอกว่า น่ามองกว่าใบหน้าเคร่งเครียดที่เขามักจะทำอยู่เป็นประจำตั้งเยอะ
   
ร่างที่เดินผ่านเข้ามาในประตูเป็นร่างที่คุ้นตา โดยเฉพาะตลอดช่วงระยะเวลาห้าหกเดือนที่ผ่านมา รูปร่างผอมเพรียวแต่สมส่วนด้วยความสูง 175 แขนขายาว ผิวขาวสะอาด นิ้วมือเรียวสวยชนิดที่ฮานต้องมองตามอยู่บ่อยๆ เด็กหนุ่มถอดหมวกที่ติดยี่ห้อร้านพิซซ่าที่เจ้าตัวทำงานอยู่ออก แล้วจึงใช้มือขาวๆนั้นขยี้ไปที่ผมหมาดชื้นดำขลับของตัวเองพลางย่นจมูก
   
“คุณฮาน ผมไม่ได้มาช้าเกินไปใช่ไหม”
   
ไม่มีเสียงตอบจากประธานบริษัทที่แสนจะเคร่งขรึมในสายตาของพนักงานใต้บังคับบัญชา แต่ร่างที่ใหญ่กว่านั้น ลุกขึ้นก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเด็กหนุ่มที่ยังคงปัดผมของตัวเองไปมาไม่เลิก
   
สัมผัสอันอบอุ่นจากมือใหญ่ข้างหนึ่งบนศรีษะกลมๆของบลูทำให้เด็กหนุ่มต้องหยุดมือด้วยความฉงน ก่อนจะยิ้มออกมา เมื่อเห็นใบหน้านิ่วของคนตัวสูงที่อ่านได้ชัดเจนว่า กำลังไม่ชอบใจอะไรบางอย่างอีกแล้ว
   
“ทำไมถึงเปียกมาอย่างนี้” เสียงทุ้มนั้นเจือแววดุ แต่บลูกลับรู้สึกว่า มันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลยสักนิด
   
“วันนี้ฝนตกทั้งวันครับ ลูกค้าก็เลยโทรสั่งกันเยอะกว่าปกติ ก็เลย...”
   
“ตากฝนส่งพิซซ่ามาตั้งแต่กี่โมงแล้วเรา” ฮานถามทันทีชนิดไม่รอให้อีกฝ่ายได้ทันจบประโยค
   
“ประมาณเที่ยงจนถึง...” บลูนับนิ้วอย่างไม่แน่ใจ
   
“นี่สองทุ่มกว่าแล้ว”
   
“ก็นั่นแหละครับ แต่ก็ไม่ได้วิ่งตลอดซักหน่อย... ก็มีช่วงได้พักบ้างอยู่นะ”
   
“แล้วชุดที่ใส่นี่ล่ะ...” ฮานสัมผัสได้ถึงความชื้นบนเสื้อของเด็กหนุ่ม ไม่ต้องสืบเลยว่า กางเกงก็คงจะชื้นพอๆกัน
   
“ก็ชุดนี้ชุดเดียวทั้งวัน” บลูตอบยิ้มๆ “ผมเป็นพนักงานส่งพิซซ่านะครับคุณฮาน จะมีชุดเปลี่ยนเยอะแยะได้ที่ไหน” น้ำเสียงนั้นเจือแววล้อ
   
อีกฝ่ายที่เถียงไม่ออกจึงทำได้แค่ถอนหายใจแรงๆออกมา มือที่วางอยู่บนศรีษะขยี้ผมดำขลับที่ยังชื้นฝนอยู่นั้นเบาๆ ฮานเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กและเสื้อเชิ้ตตัวหนึ่ง ก่อนจะยื่นให้ร่างเล็กกว่าพร้อมสำทับทันทีชนิดไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ต่อปากต่อคำด้วย
   
“เช็ดผมให้แห้ง แล้วก็เปลี่ยนเสื้อซะ นี่เสื้อฉันเอง ตัวใหญ่หน่อย แต่ก็น่าจะดีกว่าให้เธอใส่เสื้อเปียกๆอย่างนี้ ฉันจะออกไปสั่งงานข้างนอก เธอรอฉันอยู่ในห้องนี้แหละ เสร็จแล้วฉันจะพาไปส่งที่บ้าน ฝนยังตกอยู่ฉันไม่ยอมให้เธอขี่มอเตอร์ไซค์ตากฝนแล้ววันนี้ เข้าใจไหม”
   
บลูทำตาโตก่อนจะหัวเราะพรืดออกมาเบาๆ ไม่บ่อยหรอกที่ฮานจะพูดบ่นอะไรยาวๆ แถมยังทำท่าฮึดฮัดหงุดหงิดแบบนี้อีก แล้วจะให้เขาดื้อแพ่งอยู่ได้ยังไงกัน เพราะก็รู้อยู่เต็มอกอยู่แล้วว่า ฮานเป็นห่วงเขาอย่างกับอะไรดี
   
“คร้าบ... รับทราบคร้าบ” บลูรับของจากมือฮานก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำ ทิ้งให้ร่างสูงใหญ่ส่ายหน้าอยู่อย่างนั้นแต่ก็อดยิ้มให้กับร่างเล็กกว่าที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำส่วนตัวที่ค่อนข้างกว้างขวางนั้นไม่ได้

**************************

(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2012 21:35:37 โดย fingerscrossed »

fingerscrossed

  • บุคคลทั่วไป
ฮานยกข้อมือขึ้นดูเวลาพลางขมวดคิ้ว เขาคิดว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานในการสั่งงานแต่กลับกินเวลายาวนานเป็นชั่วโมง เพราะต้องช่วยแก้ปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่รู้ว่าบลูจะเป็นอย่างไรบ้าง ปล่อยให้รอนานขนาดนั้น
   
แต่ภาพที่เห็นเมื่อเขาเปิดประตูห้องเข้ามาก็คือ ร่างเล็กๆในเสื้อเชิ้ตสีอ่อนของเขาที่ดูใหญ่จนหลวมโพรกเมื่อมาอยู่บนร่างของบลูแบบนี้กำลังนอนหลับสนิททีเดียว เสื้อที่หมาดชื้นถูกพับเอาไว้อย่างเรียบร้อยบนโต๊ะพร้อมหมวกแก็ปที่ก็หมาดพอๆกัน เป็นคนที่มีระเบียบไม่เปลี่ยนแปลงจริงๆ
   
ฮานยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนเมื่อเห็นบลูนอนหลับสนิทบนโซฟาตัวนุ่ม แขนทั้งสองข้างซุกอยู่ตรงขาเรียวยาวที่คู้งอขึ้นมา ร่างสูงใหญ่ทรุดนั่งลงมองใบหน้าที่หลับสนิท เขายกมือขึ้นเพื่อตั้งใจจะปัดปอยผมดำสนิทออกให้ แต่กลับต้องนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกถึงไอร้อนกรุ่นออกมาจากร่างนั้น
   
ผมแห้งสนิทแล้วก็จริง แต่บลูไข้ขึ้นสูงเลยทีเดียว มิน่าถึงได้นอนคุดคู้ขนาดนั้น เป็นไข้ยังไม่พอ ยังมาเจอกับเครื่องปรับอากาศที่เย็นฉ่ำในห้องซ้ำเข้าไปอีก เขาล่ะนึกอยากจะตีเจ้าเด็กดื้อที่นอนหน้าซีดแก้มแดงเพราะพิษไข้นี่เสียจริงที่ตากฝนมาทั้งวันแถมยังปล่อยให้ตัวเองสวมใส่เสื้อผ้าชื้นฝนโดยไม่ใส่ใจจะผลัดเปลี่ยนเลยสักนิด อีกใจหนึ่งก็นึกอยากจะเตะตัวเองสักป้าปที่ทำงานติดพันจนต้องปล่อยให้เจ้าตัวเล็กนอนซมเพราะไข้ขึ้นแบบนี้
   
ฮานเดินไปหยิบเสื้อนอกที่พาดอยู่ตรงพนักเก้าอี้ทำงานของเขา แล้วเดินมาห่มเพิ่มความอบอุ่นให้กับบลูที่ยังคงนอนหลับไหลไม่ได้สติ ก่อนจะยกหูโทรศัพท์ขึ้น
   
“คุณเอมครับ ช่วยโทรหาไอ้หมอเพื่อนผมให้หน่อย” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยอย่างติดจะร้อนใจ
   
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณฮาน”
   
“บลูไม่สบาย ช่วยโทรนัดหมอให้ด้วยครับ บอกมันว่าเดี๋ยวผมเข้าไป”
   
“ได้ค่ะ” เอมอรรู้งานทันทีโดยไม่จำเป็นต้องให้ฮานอธิบายอะไรอีก
   
เด็กหนอเด็ก เขานึกในใจ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆโซฟายาวที่มีคนป่วยนอนซมอยู่อีกครั้ง
   
“บลู...” เสียงทุ้มแผ่วเบา แต่ก็ดังพอจะเรียกสติคนป่วยให้รับรู้ได้บ้าง “บลู... “ เขาเรียกซ้ำ
   
ร่างผอมๆที่ดูจะเล็กไปถนัดตาขยับตัวอย่างเมื่อยล้า เปลือกตาขยับขึ้นลงเหมือนไม่อยากตื่น
   
“อือ... ผม... ทำไมหนาวจัง” บลูเอ่ยทั้งที่มีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น
   
“เธอไม่สบายมากนะ เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปหาหมอ ลุกไหวหรือเปล่า”
   
บลูไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป แต่พยายามที่จะชันตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วก็พบว่ามันช่างยากเย็นเสียจริง ขนาดค่อยๆขยับตัวแล้วแท้ๆ ยังรู้สึกมึนไปหมด เหมือนทุกอย่างรอบตัวมันหมุนติ้ว แค่จะนั่งปกติยังยากเย็นเหลือเกิน   “โอย...” เสียงร้องเบาๆนั้น ทำเอาฮานต้องผุดลุกขึ้นนั่งลงข้างๆ พร้อมใช้มือแข็งแรงข้างหนึ่งประคองใบหน้าที่กรุ่นร้อนด้วยพิเศษไข้นั้นพิงที่ไหล่ของเขา ก่อนจะใช้แขนโอบคนป่วยเอาไว้ ใบหน้าที่ขมวดมุ่นของบลูทำเอาฮานเป็นกังวล
   
“พักก่อนนะ... ไหวหรือเปล่าบลู” น้ำเสียงที่เจือความเป็นห่วงไม่ปิดบังเอ่ยขึ้นเบาๆอย่างอ่อนโยน
   
“ผมไม่แน่ใจ...” เสียงที่ตอบกลับมาแผ่วโหย
   
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจัดการเองนะ”

************************
   
บลูไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง วูบหนึ่งเหมือนรู้สึกว่าทุกอย่างมันช่างเบาหวิวเหมือนล่องลอยอยู่ ถ้าไม่ติดว่าทรมาณเพราะฤทธิ์ไข้ เขาคงจะรู้สึกสบายมากทีเดียว แต่นี่ขนาดรู้สึกอุ่นขึ้นบ้างแล้วแต่มันก็ยังหนาวเกินไปอยู่ดี
   
ความรู้สึกที่เหมือนจะวูบหายไป พลันก็เหมือนจะกลับมาได้สติอีกครั้ง
   
บลูไม่แน่ใจว่าตัวเองตื่นหรือฝันไป แต่เหมือนจะได้ยินเสียงพูดตอบโต้กันไปมาอยู่ใกล้ๆนี้เอง แต่บางวูบก็เหมือนกับว่าเสียงนั้นอยู่ห่างออกไปไกลเหลือเกิน
   
“นี่แกอุ้มมาส่งเองเลยเหรอวะฮาน”
   
“เออน่า ช่วยหน่อย ไข้สูงขนาดนี้จะให้ฉันทำยังไงวะ”
   
สักพักสติก็เหมือนจะวูบดับลงไปอีก แล้วก็เหมือนจะจำได้ว่าเป็นเสียงของฮานที่เอ่ยออกมา
   
“ต้องถึงกับนอนโรงพยาบาลไหม”
   
“ไม่ต้อง ถ้ามีคนคอยดูแลก็ให้กลับได้เลย”
   
“....”
   
ก่อนที่บลูจะหลับไหลไม่ได้สติไปอีกหน

**************************
   
“บลู... บลู...”
   
เปลือกตาคู่นั้นค่อยๆเปิดออก ก่อนจะกระพริบถี่อย่างอ่อนแรง
   
“เป็นยังไงบ้าง”
   
เด็กหนุ่มนิ่วหน้า เพราะอาการปวดหัวและปวดเมื่อยเนื้อตัวที่จู่โจมเข้ามาพร้อมๆกัน พอจะรู้ตัวอยู่บ้างว่าตัวเองป่วย และดูท่าจะป่วยมากด้วย บลูรู้สึกหนาวเหน็บ แม้จะมีผ้าห่มผืนนุ่มห่มคลุมถึงคออยู่ก็ตาม ผ้าขนหนูเย็นๆที่น่าจะอุ่นร้อนขึ้นตามอุณหภูมิร่างกายของเขาในตอนนี้ วางอยู่บนหน้าผาก ความรู้สึกทรมาณนั้นมันช่างหนักหนาจนไม่อาจจะอดกลั้นอะไรต่อไปได้อีก ความอ่อนแอมันท่วมท้นขึ้นมาในหัวใจ เกินกว่าที่บลูจะรับมือได้แล้วจริงๆในยามนี้
   
“บลู...” ฮานเอ่ยราวกับจะปลอบประโลม ปลายนิ้วแข็งแรงยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลลงที่หางตา... ดวงตาคู่สวยที่ฮานไม่เคยได้น้ำตาแห่งความอ่อนแอเลยสักครั้ง ตอนนี้กลับมีน้ำตาเอ่อท่วมขึ้นเป็นครั้งแรก “ชู่ว... ไม่เป็นไรนะ อย่าร้องไห้ ฉันอยู่กับเธอตรงนี้แล้ว...”
   
“ผมเจ็บ...” น้ำเสียงอ่อนระโหยเอ่ยออกมาพร้อมเสียงสะอื้นเบาๆ “ทำยังไงดี... ผมหนาว” น้ำตาอุ่นร้อนยังคงไหลออกมาไม่หยุดราวกับเขื่อนแตก
   
ฮานกอดบลูกระชับเอาไว้ในอ้อมแขนโดยไม่ลืมที่จะห่มคลุมร่างที่เล็กกว่านั้นด้วยผ้าห่มผืนนุ่มเอาไว้ให้กระชับขึ้นเสียก่อน บลูเหมือนเด็กชายตัวน้อยๆที่อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจเมื่อป่วยหนักแบบนี้ เขายังอดสงสัยไม่ได้ว่า เจ้าตัวรู้บ้างไหมหนอว่า ตัวเองเปราะบางและน่าทะนุถนอมเพียงไรยิ่งในสภาพนี้ด้วยแล้ว
   
ร่างของบลูห่อตัวคุดคู้ซุกอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรงของฮาน มือของเขายังคงปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอยู่เรื่อยๆ ฮานกดจมูกลงบนเส้นผมอ่อนนุ่มของคนป่วยอย่างรักใคร่ ก่อนจะกระชับกอดให้แน่นขึ้นเมื่อร่างนั้นยังคงสั่นเทา เขาโยกตัวน้อยๆเหมือนจะปลอบประโลมให้ร่างนั้นสงบลง ปากก็พร่ำแต่เสียงชู่ว... เบาๆ สลับกับการจุมพิตที่หน้าผากบ้าง ที่ขมับบ้างจนนับครั้งไม่ถ้วน    
   
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฮานเผลอหลับไปทั้งที่ยังมีคนป่วยอยู่ในอ้อมแขน นานแค่ไหนก็ไม่รู้ที่คนป่วยหยุดร้องไห้ไปแล้ว จนเมื่อฮานสะดุ้งตื่นอีกครั้ง เขาจึงขยับตัวให้นั่งสบายขึ้นอีกนิด ก่อนจะค่อยๆประคองร่างของบลูลงนอนบนเตียงเนื้อนุ่มแทนร่างกายของเขาที่รับศึกหนักอยู่นานนับชั่วโมง
   
ถึงขนาดนอนหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก็คงจะนานโขอยู่เหมือนกัน
   
ยังไม่ทันที่ฮานจะดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างของคนป่วยที่ดูพิษไข้จะจางลงบ้างแล้ว ร่างขาวซีดนั้นก็คว้าตัวของเขาเอาไว้ราวกับกลัวว่าเขาจะหนีหายไปไหน ทั้งที่คนทำไม่ได้มีสติอะไรเลยแท้ๆ
   
ฮานได้แต่ยิ้มออกมาก่อนที่จะไถลตัวลงนอนเคียงข้างคนป่วยที่ยึดเขาเอาไว้ไม่ปล่อย ทันทีที่ดึงผ้าห่มคลุมร่างของเขาและบลูเอาไว้ ร่างเล็กๆนั่นก็เขยิบเข้ามาซุกอยู่ในอ้อมอกของเขาราวกับเป็นหมอนข้างที่มีชีวิตก็ไม่ปาน ฮานโอบแขนข้างหนึ่งรวบร่างของบลูเอาไว้ ลมหายใจอุ่นร้อนแต่ว่าสม่ำเสมอขึ้นบวกกับอาการครั่นเนื้อครั่นตัวที่เบาบางลงบ้างแล้วของคนป่วย ทำให้ฮานเบาใจลงไปได้มาก และกลับกลายเป็นว่า การที่มีร่างของบลูแนบชิดกับเขาแบบนี้ทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน
   
เขาเคยได้ใกล้ชิดหรือปล่อยให้ใครได้ใกล้ชิดกับเขาขนาดนี้มาก่อนหรือไม่หนอ ... ก็น่าจะมีแค่บลูคนนี้แค่คนเดียวเท่านั้นที่เขาจะปล่อยให้เข้ามาครอบครองพื้นที่ในชีวิตของเขาได้ถึงเพียงนี้
   
ฮานก้มลงจูบกลางกระหม่อมของบลูเบาๆก่อนจะขยับตัวเพียงเล็กน้อย และหลับไปทั้งที่มีคนป่วยอยู่ในอ้อมกอดแบบนั้น

*********************
   
ร้อน...
   
บลูขยับยุกยิกไปมาเพราะรู้สึกอบอ้าวกว่าปกติ หรือว่าแอร์ในห้องจะไม่ทำงานอีก ทำไมถึงได้รู้สึกร้อนขึ้นได้
   
ห้อง... งั้นหรือ?
   
บลูได้แต่ทำตาโตเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่า ห้องที่นอนอยู่ไม่ใช่ห้องนอนของตัวเอง เพดานนี่ก็ไม่ใช่ สัมผัสของเตียงหรือหมอนก็ไม่ใช่ แล้วยิ่งหมอนข้างนี่ยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่
   
หมอนข้างเขาไม่ได้หน้าเหมือนคุณฮานในระยะประชิดแบบนี้สักหน่อย แถมคงจะกอดเขาแน่นอยู่แบบนี้ไม่ได้แน่ๆ!
   
พอเริ่มจะขยับตัวยุกยิกขึ้นมา ก็ดูเหมือนอ้อมแขนที่ว่านั้นจะยิ่งกระชับแน่นขึ้น ก่อนจะมีเสียงง่วงงุนเอ่ยขึ้น
   
“ถึงไข้จะลดลงก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะหายแล้วนะ”
   
บลูทำท่าจะเขยิบตัวออกจากวงแขนนั้นอีก
   
“นอนนิ่งๆ เดี๋ยวก็ไข้กลับอีก”
   
“ผม...” บลูไม่รู้ว่าจะถามอะไรออกไปก่อนดี
   
“เธอเป็นไข้สูงมากเมื่อคืน แทบไม่ได้สติเลย ฉันต้องอุ้มเธอไปหาหมอแล้วก็ต้องพากลับมาที่บ้านฉันนี่แหละ”
   
“แล้วแม่...”
   
“โทรไปบอกแล้วเรียบร้อย... เมื่อคืนดึกแล้ว จะปลุกให้แม่เธอมาดูแลก็ดูจะยุ่งยาก แล้วอีกอย่าง...” ฮานไม่พูดอะไรต่อ จนร่างในอ้อมแขนเงยหน้าขึ้นมองเหมือนจะบอกว่า รอฟังอยู่ “ฉันคงไม่สบายใจ ถ้าไม่ได้อยู่ดูแลเธอด้วยตัวเอง”
   
“ก็เลยพาผมมาที่บ้านคุณแทน”
   
“ทำนองนั้นแหละ”
   
“คุณเลยต้องลำบากเพราะผมเลย”
   
“ผลจากความดื้อของเธอไง” เสียงนั้นเจือแววตำหนิ แต่ก็ไม่ได้ฟังดูจริงจังสักเท่าไร
   
“แต่ผมสงสัยจัง...”
   
“สงสัยอะไร”
   
“ต้องถอดเสื้อผ้าคนป่วยขนาดนี้เลยเหรอ”
   
“ฉันต้องเช็ดตัวให้เธอนี่”
   
“ผมแซวเล่นหรอกน่า” บลูพูดติดตลก
   
“เมื่อคืนเธอเพ้อ...”
   
“ผมเนี่ยนะ” เรื่องนี้น่าตกใจสำหรับบลูมากกว่าการที่ต้องตื่นขึ้นมาในห้องคนอื่นในสภาพไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเสียอีก
   
“ร้องไห้ด้วย... หนักเลย”
   
“ผมน่ะเหรอ” เสียงนั้นร้องออกมาอย่างไม่เชื่อหู
   
ฮานหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะคลายอ้อมกอดลง และกดจูบหนักๆบนหน้าผากมนของเด็กหนุ่ม
   
“บลู คนเราเวลาที่ร่างกายมันอ่อนแอ จิตใจมันก็ต้องอ่อนแอลงเป็นธรรมดา” ฮานว่าต่อเมื่อเห็นนัยตากลมตานั้นจ้องเป๋งกลับมา “เธอเข้มแข็งน่ะเป็นเรื่องที่ดี แต่บางที จะอ้อนกับคนอื่นบ้างก็ได้”
   
“ผมทำไม่เป็นนี่ครับ”
   
“ทำไมจะทำไม่เป็น...” ฮานจ้องตอบกลับดวงตาคู่นั้น “เธอก็ทำอยู่นี่ไง”
   
บลูทำอะไรไม่ได้ นอกจากก้มหน้างุดกับอ้อมอกแข็งแรงแต่อบอุ่นนั้น
   
“เวลาอ่อนแอก็บ่นออกมาบ้าง เวลาจะเอาแต่ใจตัวเองก็อ้อนบ้างก็ได้ อ้อ... แล้วที่บอกว่าให้อ้อนกับคนอื่นน่ะ ฉันหมายถึงแค่ฉันคนเดียวนะ อย่าไปอ้อนแบบนี้กับใครเชียว”
   
“อ้าว... คุณฮานนี่ยังไง”
   
“เธอไม่รู้ตัวหรอกนะว่าเวลาตัวเองทำท่าแบบนี้น่ะ มันอันตรายแค่ไหน ใครจะไปยอม”
   
บลูหัวเราะพรืดออกมา
   
“ฉันพูดอะไรตลกตรงไหน” เสียงฮานติดจะฉุนนิดๆ
   
“เปล่า... ก็แค่...” บลูว่า “คุณฮานน่ารักดีนะ”
   
“ฮื้อ... ฉันเนี่ยนะน่ารัก” เสียงนั้นเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินสักเท่าไหร่
   
“น่ารักสิครับ”
   
ฮานไม่ได้เอ่ยอะไรอีก กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ก่อนจะจุมพิตที่หน้าผากของบลูอีกครั้ง และทำท่าจะผละออกไป
   
“จะไปไหน...” เสียงของบลูประท้วง
   
“เธอป่วย ฉันจะโทรให้คุณเอมไปลางานให้เธอ ฉันเองก็จะลางานด้วยเหมือนกัน"
   
“ผมดีขึ้นแล้ว คุณฮานไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ”
   
“บลู...” ดวงตาของฮานที่จ้องตอบกลับมาทำให้บลูต้องหลบสายตาคู่นั้นเสีย “เชื่อฟังฉันบ้างเถอะ...”
   
ก่อนที่ฮานจะได้ลุกออกไป ก็ต้องชะงักเพราะแรงกระตุกเบาๆที่ชายเสื้อยืดตัวนุ่มที่เขาสวมใส่อยู่
   
“ถ้างั้น...” บลูก้มหน้างุดกับผ้าห่ม และยังคงไม่ยอมสบสายตาคมคู่นั้น “เสร็จแล้ว คุณฮานต้องกลับมาอยู่เป็นเพื่อนผมนะ... ผมจะรอ” พูดจบเจ้าตัวก็รีบนอนตะแคงหันข้างไปอีกทางหนึ่งทันที โดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับว่าอย่างไร
   
บลูรู้สึกร้อนที่ใบหน้าจนถึงหู ค่อนข้างแน่ใจว่าไม่ใช่เพราะพิษไข้อย่างแน่นอน แต่กว่าจะทันได้คิดอะไรต่อ ก็รู้สึกถึงแรงยวบที่เตียงข้างๆตัว ลมหายใจอุ่นๆรดอยู่ตรงแก้มก่อนริมฝีปากของฮานจะกดหนักๆลงไปอย่างมันเขี้ยว เสียงกระซิบข้างหูเด็กหนุ่มทำเอาเขาเขินเสียจนไข้แทบจะกลับมาอีกครั้ง
   
“ขี้อ้อนแบบนี้ ดีกว่าจริงๆด้วย... รอนะ เดี๋ยวฉันกลับมา”
   
คงไม่ไช่แค่ฮานแล้วล่ะที่รู้สึกมีความสุขกับการที่มีคนตัวเล็กคนนี้อยู่ข้างๆตัว เพราะบลูเองก็รู้สึกได้ถึงความสุขที่ท้วมท้นขึ้นมาตลอดเวลาที่มีเขาอยู่เคียงข้างเช่นกัน

-------------------------- END ---------------------------

จบแล้วค่ะสำหรับตอนพิเศษเรื่องแรก ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะยาวขนาดนี้ เพราะตอนพิมพ์มันแป๊ปเดียวเองค่ะ ก็หวังใจไว้นะคะว่า คงจะพอทำให้แฟนๆของคู่นี้หายสงสัยไปได้บ้างแล้วว่า ความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นยังไง และพัฒนาไปแค่ไหน ซึ่งน่าจะถูกใจกันบ้างล่ะนะคะ

เรื่องต่อไป ก็คือ Touch ถ้าคนเขียนไม่ติดอะไร ก็น่าจะปั่นต้นฉบับให้เสร็จได้เร็วๆนี้ล่ะค่ะ

ขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่เรื่อยๆนะคะ

*** แก้ไขตัวสะกดผิดแล้วค่ะ ขอบคุณที่เตือนนะคะ เรื่องนี้ไม่มีเวลาได้ตรวจทานมากเท่าเรื่องอื่นๆ ก็แบบนี้ล่ะค่ะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2012 16:14:12 โดย fingerscrossed »

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
เย้ๆๆๆ คุณนิ้วไขว้มาแล้ว กำลังนึกถึงอยู่เชียว

อยากจะบอกว่า น่ารักอ่ะ น่ารักมากกกกกก

อ่านไปเขินไป หนูบลูน่ารัก คุณฮานก็ดูอบอุ่นมากเลยค่ะ ตอนนี้ยิ้มแก้มจะแตกแล้ว

อยากจะเข้าไปสิงทั้งหนูบลูแล้วก็คุณฮานเลยค่ะ ก็หนูบลูทั้งสดใส น่ารัก ส่วนคุณฮานก็อบอุ๊น อบอุ่นนี่เนอะ

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษของเรื่องนี้นะคะ ชอบมากๆ รออ่านเรื่องต่อไปค่ะ ^^

ออฟไลน์ @Iriz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-2
อ๊ายยย หวานมากกกเลยค่ะตอนนี้ อ่านไปยิ้มไป แก้มแทบปริเลยทีเดียว
คุณฮานนี่ดูอบอุ๊นอบอุ่น ส่วนบลูก็น่ารักกก ยิ่งเวลาตอนอ้อนนี่..  :กอด1:
ชักอยากอ่านเรื่องยาวแล้วสิ  :-[

ตอนนี้แอบเจอคำผิดนิดนึงค่ะ
น่ามองหว่าใบหน้าเคร่งเครียด
แต่พยายามที่จะชันตัวลูกขึ้นนั่ง
ถึงขนานนอนหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
วี้ดวิ้วววววววววว
หวานอ่ะ หวานมาก อ่านไปเขินไป :-[
ยิ้มเหมือนคนบ้า

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3862
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
น่ารักอ่ะหวานเบา ๆแบบนี้ชอบ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
อร๊ายยยยยยยยยยยยยย เขินนแทนน ชอบคู่นี้จังเลยค่ะ อิอิ ทำเป็นเรื่องยาวเถอะค๊าาา  :-[

ออฟไลน์ Salome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ชอบค่ะชอบ อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่น น่ารักดี พี่ฮานดูแลน้องดีมาก
เหมือนทั้งคู่เป็นส่วนเติมเต็มซึ่งกันและกันเลยนะ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
อ๊ากกกก น่ารักมากมาย

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
อ่านแล้วแอบม้วนต้วนยิ่งกว่าบลูอีก

มารอเคน กับ ฮารุ

ออฟไลน์ moredee

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-8
 :L2:หวานจนใจละลาย  :กอด1:

fingerscrossed

  • บุคคลทั่วไป
เรียนเพื่อนนักอ่านที่รัก นิ้วไขว้ไม่ได้หายไปไหน แต่ว่างานเข้ารุนแรง สัญญาค่ะว่าจะเอาตอนพิเศษมาลงให้ได้เร็วที่สุด ขอเวลาไปตั้งสติสักนิดนะคะ

ขอโทษที่ล่าช้า เกรงใจก็เลยขอเข้ามาชี้แจงแถลงไขเบาๆค่ะ ^^'''

ออฟไลน์ kabung

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-3
เข้ามาจับจองที่ ฮรี่ฮรี่

ออฟไลน์ @Iriz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-2
ไม่เป็นไรค่าคุณนิ้วไขว้ รอได้เสมอ  :-[

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
รับทราบค่ะ

ออฟไลน์ phakajira

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
อ่านทีเดียวเลย 11 เรื่อง 555 ชอบ คู่นิล-เบน , เชษ-โซ่  แต่ถ้าชอบสุดก็คง นิล-เบน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด