เชลยเจ้าพ่อ {Yaoi} ตอน๓๑ ๑๘/๐๕/๒๕๕๕ (จบแล้วคร๊าบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เชลยเจ้าพ่อ {Yaoi} ตอน๓๑ ๑๘/๐๕/๒๕๕๕ (จบแล้วคร๊าบ)  (อ่าน 452963 ครั้ง)

ออฟไลน์ coraline

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มีลุ้น

+1

THE MIN

  • บุคคลทั่วไป
รอจ้าาาา

แสนเสน่หา

  • บุคคลทั่วไป
มีโปรเจ็คเขียนเรื่องใหม่ นักอ่านอยากอ่านแนวไหน ก็ลองมาโหวตกันเล่นๆ ดูนะครับ

ช่วยกันโหวตด้วยนะครับ


<A HREF="http://my.dek-d.com/xinggan/poll/view.php?id=129934">แบบสำรวจ เรื่องใหม่ อยากอ่านแนวไหนกันครับ</A>

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
อยากอ่านต่ออ่ะ  นายเทียนเปนไรอ่ะ  ใจเต้นแรงเชียว  ชักยังไงๆซะแล้ววววว


 :really2: :really2: :really2: :really2: :really2:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
เข้าไปโหวตแล้วนะคะ
สงสัยคนอ่านชอบแนว ซาดิสต์ เถื่อน แน่ๆ(เราก็ชอบแนวนี้  :haun4:)

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
โหวดแล้ววว

ออฟไลน์ MM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของเรื่องนี้ รอติดตามตอนต่อไปด้วยคนจร้า :L2:

ออฟไลน์ pk11677

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มันนุกนะเนียมาอ่านรวดเดี่ยวเลย รอค่ะ

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
รอนะครับ

เมื่อไหร่จะถึงตอนสวีทน้า

ออฟไลน์ matame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
จูบสักฉากได้ม่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
เข้าไปโหวตแล้วนะคะ
อยากอ่านแบบพระเอกทำงานแล้ว แต่นายเอกยังเรียนอ่ะ
อั้ยย่ะ  ><


ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
โหวตแล้วนะจ๊ะ มาร้องเพลงรอน้องซนปากดี
กับนายเทียนปากร้ายยยย ฮ่า ฮ่า อยากรู้จริง ๆ คู่นี้มันจะชอบกันได้ยังไง

แสนเสน่หา

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาโหวตนะครับ

ฉากจูบ...ไม่แน่ใจ เหมือนว่าจะมี แต่ก็ไม่ชัวร์ ฮ่าๆ

ส่วนใครที่รอตอนต่อไป อดใจรอวันพรุ่งนี้นะครับ จะไม่ทำให้ผิดหวังเลย

ออฟไลน์ wizard_tao

  • หนุ่มใต้อู้กำเมือง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Joe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โหวตให้แล้วครับ

แสนเสน่หา

  • บุคคลทั่วไป
ตอน๑๔ แผนการณ์เชลย

ถ้าคนเป็นผู้นำแสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ของตัวเองออกมาหมด
คนอื่นเขาก็จะรู้ว่าสภาวะอารมณ์ในตอนนั้นเป็นอย่างไร


วันนี้วันเสาร์ พี่โชติมาปลุกผมแต่เช้าตรู่ เขาบอกว่าเป็นคำสั่งของพ่อบ้าน
ผมรีบจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วเดินออกไปหาพ่อบ้านที่ยืนอยู่ข้างๆ โต๊ะอาหารที่นายเทียนนั่งอยู่
   
“มีอะไร พ่อบ้าน” แม้คำพูดจะไม่มีหางเสียง แต่ผมก็ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวล
   
“นอนกินบ้านกินเมือง ถ้าไม่ให้คนไปปลุก แกจะนอนต่อไปถึงไหน”
   
“คือที่ส่งคนไปปลุก เพื่อให้ตื่นมาฟังพ่อบ้านบ่นเนี่ยนะ”
   
“เอาเถอะพ่อบ้าน นายคนนี้ผมจัดการเองได้ ไม่เป็นไร” นายเทียนที่ก้มหน้าก้มตากินข้าว เงยหน้าขึ้นมาบอกพ่อบ้านที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
   
พ่อบ้านหุบปากที่กำลังจะด่าผมต่อ ผมส่งยิ้มให้อย่างมีชัย
แต่ไม่ทันไร ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเห็นสายตาพิฆาตมองมาทางผม
คงจะเป็นคุณทิวากรของพ่อบ้านสินะ ที่มีคำสั่งให้พ่อบ้านหาคนไปปลุกผมแต่เช้า
   
“คุณมีธุระอะไร”
   
“นายลืมไปแล้วหรือไง ว่าวันนี้ต้องไปทำธุระกับฉัน” นายเทียนพูดเสียงเข้ม
   
“ธุระ ธุระอะไร” ผมเลิกคิ้วสูง ถามด้วยความสงสัย
   
นายเทียนไม่ได้บอกผมล่วงหน้าว่าผมมีธุระที่ต้องทำร่วมกับเขา
เขาทำหน้าไม่พอใจที่ผมมีสีหน้างุนงงอย่างนั้น ก็คนมันไม่รู้จริงๆ นี่นา
พ่อบ้านที่ยืนอยู่นิ่ง เดินเข้ามากระซิบผมเบาๆ
   
“ก็ไปหาท่านสมชายไง”
   
“ความจำนี่สั้นพอๆ กับตัวเลยนะ” นายเทียนพูดจนผมต้องก้มลงไปมองตัวเอง
เขาไม่ได้ใช้คำว่า ‘สั้น’ สักหน่อย ส่วนสูงต้องใช้คำว่า ‘เตี้ย’ ต่างหาก
อีกอย่างผมไม่ได้เตี้ย ก็แค่คนรอบข้างสูงกว่าผมเท่านั้นเอง
   
“เอ้า! ก็ตอนที่ผมพูด คุณไม่ได้บอกสักหน่อยว่าตกลง แล้วผมจะไปรู้ได้ยังไง”
   
“แล้วฉันต้องคอยบอก คอยรายงานนายทุกอย่างเลยหรอ ตกลงฉันหรือนายกันแน่ที่เป็นเจ้านาย”
   
“เอ้า!...”
   
“จะ ‘เอ้า’ อะไรนักหนา หัดมีความรับผิดชอบเสียบ้าง”

เวรกรรม! ผมกลายเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบไปตอนไหน ก็ผมไม่รู้จริงๆ นี่นา ว่านายเทียนจะตกลงทำตามที่ผมบอก

“จะว่าไป มันก็ไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องไปกับคุณนะ เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ผมเลยสักนิด”

“แต่นี่เป็นคำสั่งของฉัน และนายก็เคยพูดไว้ด้วย หรือตระกูลศารทูลนฤบาลจะเป็นพวกชอบผิดคำพูด”
ริมฝีปากของคนร่างสูงพูดยั่วอารมณ์ผม จนผมกำหมัดแน่น เพื่อระงับความโกรธ
มันก็แค่คำพูดยั่วอารมณ์ของคนหรอกน่า

“แต่ผมคิดไปคิดมา เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับผมเลยสักนิด ไม่มีส่วนได้หรือส่วนเสีย
ถ้าอย่างนั้นผมขอค่าตอบแทนสำหรับแผนที่ให้คุณ ได้ไหมล่ะ”

ผมเลือกใช้โอกาสนี้ให้เกิดผลต่อตัวเองมากที่สุด
ผมอยากกลับไปอยู่ที่บ้านแล้ว ทุกคืนผมต้องนอนคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่นม
ไม่เว้นแม้แต่ยามฝัน ที่บรรยากาศภายในบ้านจะวนเวียนเข้ามาในหัวตลอด
   
“จะกลับบ้าน หรือหาพ่อ” คำพูดนายเทียนทำให้ผมยิ้มออก
แต่ไม่ทันไร ผมก็ต้องหุบยิ้มลงเสียแล้ว “ฉันก็ไม่ให้ทั้งนั้น ฉันสั่งอะไรนายก็ต้องทำ โดยไม่มีข้อแม้หรือข้อแลกเปลี่ยนใดๆ”
   
“เพราะผมเป็นเชลย” ผมขึ้นเสียงสูงเพื่อถามเขาให้ย้ำกับสถานะของตัวผมเอง
   
นายเทียนนั่งนิ่งเงียบ ไม่ต่อความยาวสาวความยืดกับผม
เขาก้มหน้าก้มตากินข้าวในจาน ส่วนพ่อบ้านก็ไล่ผมให้ไปเตรียมตัว
ใจผมหดหู่เล็กน้อยต่อคำพูดของนายเทียน สิ่งที่ผมหวังไม่สมใจ
ตอนนั้นที่อยากช่วยเขา ผมก็ไม่ได้นึกถึงสิ่งตอบแทนใดๆ
แต่พอนึกขึ้นมาได้ ก็มีหวังว่าเขาจะให้ผมบ้าง อย่างน้อยได้เจอหน้าพ่อสักนิดก็คงจะดี
แต่ในเมื่อผมเคยบอกกับตัวเองไว้แล้วว่าจะช่วยเขา ผมก็จะต้องช่วย
   
ผมเตรียมตัวเรียบร้อย ก็เดินพร้อมกับนายเทียนจะไปขึ้นรถคันหรูที่จอดเทียบท่าที่มุกหน้าบ้าน
เพียงแค่คนขับรถเปิดประตู ร่างสูงของนายเทียนยังไม่ทันเข้าไปในรถ
ก็มีเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นมาเสียก่อน
   
“หลานคิดจะทำอะไร” ท่าทีของคุณชนินทร์ไม่ได้มีความสงสัยตามคำพูด แต่เหมือนจะถามเพื่อความแน่ใจมากกว่า
   
“ไปจัดการธุระของสมาคมตามที่อาบอกไงครับ”
   
“แล้วไอ้นี่ล่ะ จะเอามันไปด้วยทำไม” คุณชนินทร์หันมามองผม “มันเป็นลูกของใคร หลานก็รู้
แล้วทำไมยังไว้ใจมันได้อยู่อีก แม้ว่าพ่อมันจะเป็นเสือที่ไม่มีเขี้ยวเล็บแล้วก็ตามเถอะ”
   
“กรุณาอย่าพูดถึงพ่อผมแบบนั้น” ผมพูดเสียงแข็งใส่
   
“ซน ให้เกียรติอาฉันบ้าง” นายเทียนหันมาดุผม ก็เขาเป็นคนพูดจาหมาๆ นินทาพ่อผมอย่างนั้นก่อนนี่นา
ผมเป็นลูก จะให้อยู่เฉยได้อย่างไร นายเทียนนี่ทำผมอารมณ์เสียได้ทุกวันเลย
   
“ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ ก็พ่อแกทำตัวเป็นเสือร้ายผู้เก่งกล้า แต่ที่แท้...”
   
“เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมจัดการเองได้ ส่วนนี่...คนของผม ไม่ใช่คนของอา ผมดูแลเองได้ ไม่ต้องเป็นห่วง” นายเทียนว่า
พลางจับผมยัดใส่รถ เหมือนไม่ให้ผมเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการสนทนาของสองอาหลาน
   
“แล้วนี่มีแผนจะทำอะไรอีก หวังว่าจะเป็นแผนที่ดีให้สมกับเป็นเจ้าพ่อแห่งวงการนะ”
   
“รับรอง ไม่ใช่แผนนองเลือดเหมือนอาแน่” นายเทียนพูดจบ ก็เข้ามานั่งข้างๆ ผมในรถ
   
คนขับเดินมาปิดประตูรถ ผมมองออกไปข้างนอก เห็นคุณชนินทร์ชักสีหน้าไม่พอใจแล้วเดินจากไป
รถแล่นฉิวไปตามทาง ผมนั่งนิ่งเงียบ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร
จนรู้สึกว่ามีสายตาของคนข้างๆ มองมาที่ผม
   
“มีอะไร มองทำไม” ผมลูบคลำไปหน้าตัวเอง กลัวว่าจะมีอะไรติดอยู่
   
“เปล่า ก็แค่คิดว่าจะไว้ใจแผนการของนายได้ไง ว่ามันจะสำเร็จ” นายเทียนพูด แล้วเบนหน้าไปมองทางอื่น
   
“ถ้าไม่ไว้ใจ จะเปลี่ยนเป็นไม่ทำก็ได้นะ”
   
“นั่งนิ่งๆ ไปเถอะ อย่าพูดมาก”
   
“เอ้า!” ผมอุทานเสียงหลง ก็ตอนแรกผมก็นิ่งเงียบไปแล้ว จนมีรู้สึกว่าเขามองมานั่นแหละ ก็เลยถาม กลายเป็นผมผิดตลอด
   
รถแล่นมาจอดตามที่หมาย ผมไม่ลืมที่จะหยิบโรมานี – กองติ ไวน์องุ่นแดงราคาระดับมหาเศรษฐีที่นายเทียนสั่งคนให้หิ้วมา
ผมถือขวดไวน์แดงนั่นเดินตามหลังนายเทียนเข้าไปในคฤหาสน์หลังโตของรัฐมนตรีชื่อดัง
โดยมีลูกน้องเจ้าของบ้านนำทางเข้าไป
   
พ้นขอบประตูบ้านไม่กี่ก้าว ผมก็เห็นหญิงชายวัยไล่เลี่ยกันเดินมาทางนี้พอดี
ตอนแรกดูนายเทียนก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจสองคนนั้นที่กำลังจะเดินมา
แต่เมื่อเขารู้สึกถึงสายตาเฉี่ยวคมของหญิงสาวที่จ้องมองมา เลยทำให้เขามองกลับไป
   
ผู้หญิงรูปงามคนนี้คนเกือบทั่วประเทศคงรู้จักเขาดี แม้เขาอายุยังน้อย คงพอๆ กับนายเทียน
แต่เขาเป็นทั้งนางแบบ และดาราระดับแถวหน้า ใบหน้าเรียวเล็ก แววตามีเสน่ห์ จมูกโด่งสวย
ริมฝีปากเรียวบางเผยอออกจากกัน รูปร่างเซ็กซี่จนหลายคนต้องมอบตำแหน่งด้านนี้ให้เธอ
ริมฝีปากแดงแจ๋ของคุณ ‘พิมพ์’ คลี่ยิ้มมาทางพวกผม
   
ส่วนผู้ชายอีกคนที่เดินอยู่ข้างๆ เขา ใบหน้าและรูปร่างคล้ายๆ กันอยู่บ้าง
คิ้วโก่งหน้าได้รูป ตากลมโต รับเข้ากับจมูกที่โด่ง ผิวสีขาวเนียนช่วยให้ปากแดงระเรื่อนั่นดูเด่นขึ้นมา
คนนี้คงเป็นน้องชายคุณพิมพ์ ที่อายุอาราวคราวเดียวกับผม
เขาคนนี้ชื่อ ‘ภัทร’
   
“แขกพ่อหรอ” คุณพิมพ์เอ่ยปากเรียวงามถามลูกน้องที่เป็นคนพาผมเข้ามา
   
“ครับ แขกของคุณท่าน”
   
“สวัสดีค่ะ พิมพ์ไม่เคยเห็นหน้าคุณเลย” สายตาที่มองนายเทียนทำให้ผมรู้ว่าบทสนทนานี้เจาะจงอยู่กับแค่ร่างสูงที่เดินนำหน้าผมเท่านั้น
   
“ครับ คงเป็นเพราะผมไม่ได้ออกงานสังคมสักเท่าไร คุณเลยไม่เคยเห็นหน้า”
   
“เสียดายจัง พอดีวันนี้พิมพ์มีงานถ่ายแบบคู่กับเจ้าภัทร เลยไม่ได้อยู่ต้อนรับคุณ หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกนะคะ”
สายตาเย้ายวนที่มองนายเทียน ผมก็รู้หมดไส้หมดพุงแล้วครับว่าเจ้าหล่อนคิดอะไรอยู่
   
แต่ที่เดาไม่ออกเห็นจะเป็นคนน้อง ที่ได้แต่มองหน้านายเทียน ไม่ใช่สายตาที่มองแบบไม่สบอารมณ์
แต่ดวงตากลมโตคู่นั้นมองอย่างมีแววประกายบางอย่างต่างหาก
แต่พอเขาได้หันมาเห็นผม แววตาเป็นประกายนั้นได้หายไปทันที กลับกลายเป็นอีกแบบ
ที่ให้ความรู้สึกขุ่นใจเสียเหลือเกิน
   
สองพี่น้องเดินจากไป ลูกน้องท่านสมชายก็เดินนำผมต่อไปจนถึงห้องรับรองแขกที่มีโต๊ะยาวใหญ่ตั้งอยู่
ท่านสมชายนั่งไขว่ห้างอยู่หัวโต๊ะ เขาหันหน้ามาทันทีที่พวกผมเดินเข้ามา
รัฐมนตรีชื่อดังพยักหน้าให้สัญญาณแก่ลูกน้องว่าให้ออกไปได้ เพราะเขาต้องการความเป็นส่วนตัว
และมั่นใจว่าจะไม่เกิดอันตรายขึ้นต่อเขา
   
“สวัสดีครับท่านสมชาย” ร่างสูงที่ยืนเบื้องหน้าผมกล่าวทักทายก่อน ผมก็เลยยกมือไหว้ตาม
   
“อ้าว เชิญนั่งก่อนสิ เชิญๆ”
   
“ขอบคุณครับ” นายเทียนเอ่ยขึ้น เจ้าพ่อแห่งเทียนหลงนั่งเก้าอี้ที่ใกล้ท่านสมชายมากที่สุด ส่วนผมก็นั่งตัวถัดมา
   
“ถือเป็นเกียรติกับผมมาก ที่นายใหญ่แห่งธุรกิจเครือศิวโลกเทพมาหา ได้ยินชื่อเสียงมานานว่าไฟแรงจริงๆ”
สายตาของชายกลางคนเลื่อนมาจับจ้องที่ใบหน้าผม “อ้าว! นั่นทายาทของศารทูลนฤบาลนี่นา เป็นเกียรติ เป็นเกียรติต่อผมจริงๆ ฮ่าๆ” ท่านสมชายพูดอย่างอารมณ์ดี
แน่ใจหรอคำพูดของเขาทั้งหมดไม่ได้เกิดมาจากความเสแสร้ง
   
“เป็นเกียรติของพวกผมมากกว่าครับ” ผมตอบพลางยื่นขวดไวน์ราคาแพงให้กับนายเทียน
   
นายเทียนยื่นมอบให้ท่านสมชาย ท่านสมชายรับไว้แล้วจับขวดพลิกดูไปมา ริมฝีปากของชายสูงวัยยิ้มแล้วหัวเราะอีกครั้ง
   
“ฮ่าๆ โรมานี – กองติ รสนิยมดีจริงๆ”
   
“ของฝากจากพวกผมครับ”
   
“ขอบใจ แล้วเป็นไงมาไงเราสองคนถึงได้มาด้วยกันได้ อย่าบอกนะว่าข่าวลือที่...” ท่านสมชายกำลังพูดต่อ
ส่วนสมองผมก็โล่งเปล่า ไม่รู้ข่าวลือที่เขาว่าจะหมายถึงอะไร
   
แม้เรื่องนี้จะไม่ได้ถูกประกาศออกเป็นที่แน่ชัด แต่แน่ล่ะ คนวงในย่อมรู้จากคนวงในด้วยกันอยู่แล้ว
ก็เลยไม่เป็นที่สงสัยว่าคนอย่างท่านสมชายจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร แต่ก็คงคิดว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือ
เพราะหลักฐานที่จะมายืนยันข่าวลือเรื่องนี้ให้เป็นจริงก็เหลือแค่ตัวผมที่มาอยู่กับนายเทียน
ส่วนที่เหลืออย่างชีวิตพ่อผม ทรัพย์สิน หรือสมาคมราชาพยัคฆ์ก็ยังอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์
   
“ซน เขาเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนน้องผม เราสองคนเลยสนิทกัน” โชคดีที่นายเทียนแก้ต่างให้ทัน “วันนี้ตั้งใจว่าจะมาเยี่ยมท่าน
เขาเลยขอมาด้วย”
   
ผมยิ้มให้ท่านสมชายเพื่อยืนยันความจริง แต่ในใจพลางคิดว่า ผมกับเขาสนิทกันตอนไหน
หรือต่อยกันไป จิกหัวกันมาจนสนิทกันแล้ว กล้าพูดมาได้ว่าเราสองคนสนิทกัน ตลกสิ้นดี
   
“แล้วธุรกิจของคุณเป็นยังไงบ้าง มีอะไรให้ผมพอจะช่วยเหลือได้ไหม” ท่านสมชายพูดมาเปรยๆ
เขาคงจะรู้ดีว่าการนัดพบกันครั้งนี้ ฝ่ายนายเทียนจะต้องมีธุระสักอย่างแน่
   
“เสี่ยจาง ลูกน้องผมรายงานว่าเสี่ยจางส่งคนของเขามารุกรานเขตของผม” นายเทียนเข้าประเด็น
สีหน้าท่านสมชายก็ยังคงยิ้มแย้มรับคำพูด
   
“โธ่! คุณจะไปเอาอะไรกับนักเลงกระจอกอย่างเสี่ยจาง”
   
“ผมกำลังคิดว่าถ้าเสี่ยจางยังไม่เลิกส่งคนมารุกรานเขตผม ผมก็คงต้องประกาศศึกนองเลือดกับเขาแล้วแหละ”
น้ำเสียงนายเทียนพูดอย่างเย็นชา ตรงกันข้ามกับใบหน้าที่แสยะยิ้มอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
   
ท่านสมชายเงียบอยู่สักพัก สายตาทั้งคู่วอกแวกราวกับว่ากำลังตัดสินใจอะไรบางสิ่ง
หัวคิ้วขมวดจนแทบจะติดกัน แต่ริมฝีปากยังฝืนยิ้มอยู่
   
พ่อผมเคยพูดถึงตำราพิชัยสงครามของซุนวูให้ฟังว่า แม่ทัพผู้สันทัดในการทำสงคราม สามารถทำให้กองทัพข้าศึกยอมสยบโดยไม่ต้องรบ
ซึ่งผมก็คิดว่านั่นก็คือการเจรจา
   
“มันก็แค่เสี่ยกระจอก คุณวางใจได้ เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจะจัดการให้”
   
“ขอบคุณมากครับ ท่านสมชาย” เจ้าพ่อมังกรสวรรค์พูดเสียงเรียบ พลางโค้งหัวขอบคุณ
   
ท่านสมชายฝืนยิ้มรับ ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า
   
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีวันนี้มีธุระต่อ คงจะต้องขอตัวก่อน
ถ้าพวกคุณอยากจะเดินเล่นชมสวนที่บ้านก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวให้เด็กไปดูแล”
   
“อ๋อ! ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ก็รบกวนมากแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอตัวก่อน” นายเทียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวลา ผมยืนขึ้นตามแล้วยกมือลาเขา
   
พวกผมเดินกลับมาขึ้นรถทางเก่า พอเข้ามาในรถ ผมก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมทันที
ผมหันไปมองแล้วอดที่จะกลั้นยิ้มไว้ไม่ได้ นานทีที่นายเทียนจะปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเองออกมาตามธรรมชาติบ้าง
ไม่ใช่ทนเก็บไว้ไม่แสดงออกมา ให้รู้สึกถึงความอึดอัด
แต่ก็อย่างว่า คนเป็นผู้นำ คงแสดงอารมณ์ตัวเองออกมามากไม่ได้
   
ถ้าคนเป็นผู้นำแสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ของตัวเองออกมาหมด คนอื่นเขาก็จะรู้ว่าสภาวะอารมณ์ในตอนนั้นเป็นอย่างไร
มีความสุข จะดีใจเกินไปก็ไม่ได้ เพราะคนรอบข้างจะรู้ว่าสิ่งนี้ คือสิ่งที่เราชอบ มันจะกลายมาเป็นจุดอ่อนของเรา
เสียใจ จะมานั่งทุกข์ นั่งเศร้า หรือกอดเข่าร้องไห้ให้คนอื่นเห็นก็ทำไม่ได้ จะพลอยทำให้ลูกน้องตัวเองเสียขวัญและหมดกำลังใจไป
คิดดูสิ ขนาดผู้นำยังร้องไห้ แล้วจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของผู้นำได้อย่างไร หรือถ้าคนอื่นเห็นในสภาพแบบนี้
เขาก็คงได้ทีเยาะเย้ย หรือมีจังหวะที่จะฉวยโอกาสไป
นายเทียนถึงต้องเก็บอารมณ์ตลอดเวลาไง
   
ผมนั่งมองทิวทัศน์รอบตัวเมือง พลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทำให้เห็นเงาที่สะท้อนกระจกว่ามีสายตาคู่เดิมมองผมอีกแล้ว
ผมหันขวับจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจ เบนหน้าหนีทำเป็นไม่ได้มองผมอีกตามเคย
   
“ไม่ไว้ใจอะไรผมอีกล่ะ” ผมถามดักคอเสียก่อน
   
“ก็...ฉันก็แค่อยากรู้ว่าทำไมนายถึงให้ฉันพูดแบบนั้นออกไป แล้วท่านสมชายเขาจะทำยังไงต่อ”
   
“สาบานสิว่าคุณไม่รู้จริงๆ” ผมรู้ว่าหมอนี่ฉลาดจะตาย ทำไมเรื่องแค่นี้จะไม่รู้
แต่ความนิ่งเงียบของเขาเลยทำให้ผมต้องพูดต่อ “ก็เสี่ยจางเป็นคนของท่านสมชาย ถ้ามีเรื่องอะไรคงได้สาวไปถึงตัวท่านรัฐมนตรีคนนั้นแน่
มันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านสมชายจะไม่สั่งห้ามเสี่ยจาง เพราะไม่อย่างนั้นคงได้เดือดร้อนไปตามๆ กัน
อีกอย่างที่เป็นตัวช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นนั่นก็คือ ตัวผม” ผมชี้นิ้วมาที่ตัวเอง พร้อมยักคิ้วกวนๆ ไปให้เขา
เห็นเขาทำหน้านิ่งแบบนี้แล้วมันเบื่อนะ
   
“เกี่ยวอะไร เห็นนั่งนิ่งอยู่เฉยๆ พูดไม่กี่ประโยคจนน้ำลายคงบูดแล้วมั้ง”
   
“มันไม่บูดเพราะเถียงกับคุณนี่แหละ แล้วที่บอกว่าหมายถึงตัวผมเพราะว่า เขาก็รู้ว่าผมเป็นลูกใคร
เขาก็ต้องหวั่นอยู่แล้วที่ตัวแทนสองพรรคใหญ่บุกมาถึงถิ่น”
   
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าเสียดาย ที่เขาไม่รู้เลยว่าคนที่มาพร้อมฉัน
ไม่ได้มาเพราะเป็นตัวแทนราชาพยัคฆ์ แต่มาในฐานะเชลย” คำพูดของเขาทำให้ผมกัดฟันกรอด
   
“นี่คุณ รู้อย่างนี้ผมไม่น่าช่วยคุณเลย น่าจะปล่อยให้คุณโดนอาตัวเองดูถูกไปอย่างนั้น”
   
“ไม่ต้องให้นายช่วย ฉันก็ทำเองได้”
   
“แล้วทำไมไม่ทำเองล่ะ”
   
“ฉันก็แค่อยากรู้ว่าสมองนายจะคิดได้ดีแค่ไหน” นายเทียนยังวางท่าในการตอบ ผมล่ะหมั่นไส้กับท่าทางอย่างนี้เสียจริง
   
“แล้วดีพอที่จะทำให้คุณพอใจไหมล่ะ”
   
เจ้าพ่อวัยเยาว์ไม่ตอบแต่อย่างใด เขาหันหน้าไปสั่งคนขับรถให้เปลี่ยนเส้นทางไปยังห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
รถแล่นไปตามถนน ผมเบื่อที่จะเห็นใบหน้าคมเข้มแต่ไร้อารมณ์ของคนข้างๆ
เลยหันหน้าออกไปมองข้างนอกที่มีแต่ตึกสูงระฟ้าแทน
นานเท่าไรแล้วที่ผมไม่ได้ออกมาไกลถึงเพียงนี้
นานเท่าไรแล้วที่ผมขาดอิสรภาพในตัวเอง
   
ผมเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่รถจอดสนิทที่โรงจอดรถของห้างชื่อดัง
นายเทียนลากผมที่ยังมีสภาพมึนงงลงจากรถ
ผมปล่อยให้เขาลากเข้ามาในตัวห้างที่เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ
   
“ทำไม ให้ผมรอในรถก็ได้ หรือจะให้ผมมาเป็นบอดี้การ์ดให้คุณ” ผมเอามือขยี้ตาตัวเองให้หายจากความง่วง
   
“อย่างนายน่ะหรอจะเป็นบอดี้การ์ดได้ ฉันก็แค่...ก็แค่หิวข้าว”
   
“แล้วไง คุณก็ไปกินสิ ผมไม่หิว เดี๋ยวผมไปรอในรถ”
   
“ก็จะเลี้ยง จะไปไหม” เขาขึ้นเสียงกับผม ท่าทีไม่ได้ดุดันอะไรเลยสักนิด แต่เหมือนต้องการบังคับผมมากกว่า
   
เขาเดินนำลิ่ว ไม่รอคำตอบจากผม ผมเลยวิ่งตามไปประกบติดกับตัวเขา ใจดีอย่างนี้ก็เป็นแฮะ
   
“ฮั่นแน่! จะตอบแทนเรื่องเสี่ยจางล่ะสิ” ถึงไม่ได้ค่าตอบแทนเป็นสิ่งที่ผมต้องการ แต่ได้อย่างนี้ผมก็เอา ถือซะว่าเขายังดีที่มีน้ำใจตอบแทนผม
   
“อย่าพูดมาก น่ารำคาญ” ถ้าผมไม่ได้คิดไปเอง น้ำเสียงเขาฟังดูไม่ได้รำคาญตามคำพูดเลย แค่พูดตัดบทไปอย่างนั้น
   
เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น จนผมก้าวตามไม่ทัน ส่วนสูงที่ต่างกัน ก็ทำให้ช่วงความยาวของขาต่างกันไปด้วย
เขาก้าวยาวเท่าไร ผมคงก้าวยาวให้เท่าเขาไม่ได้ จนผมต้องวิ่งตามเขาเลยทีเดียว
   
“เดินช้าๆ ไม่เป็นหรือไงคุณ” ผมบ่น
   
“จะกินอะไร” นายเทียนพูดแล้วหยุดเดินกะทันหัน จนทำให้ผมที่วิ่งมาเกือบชนกับแผ่นหลังเขา โชคดีที่ผมเบรกขาตัวเองไว้ทัน
   
“ไม่รู้ ผมยังไม่หิว”
   
“แต่ฉันหิว” นายเทียนสวนกลับมาทันที
   
“คุณก็เลือกสิ มื้อนี้จะเลี้ยงผมไม่ใช่หรอ อยากเลี้ยงอะไรก็พาไปเลย
ไหนๆ ก็บังคับผมมาตลอดแล้วนี่นา ไม่ต้องมาตามใจผมหรอก” ผมไม่ได้ประชดนะ แต่คนมันยังไม่หิว
ก็เลยคิดไม่ออกว่าจะกินอะไร รอถามตอนที่ผมหิวสิ จะเอาให้คุ้มค่าที่นายเทียนจะเลี้ยงเลย
   
“ฉันกำลังบังคับให้นายเลือกร้าน นายก็ต้องเลือก” แม้แต่เลือกร้านนายเทียนก็ยังบังคับผม
ผมล่ะไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงกับชีวิตผม
   
“จำเป็นหรอที่ผมต้องทำตามที่คุณสั่ง”
   
“จำเป็น” นายเทียนตอบสั้นๆ แล้วเดินนำหน้าไปต่อ
   
ผมยังไม่ทันได้ตอบเลยนะว่าจะกินอะไร แต่ก็ดีแล้ว เขาจะได้เป็นคนเลือกร้านเอง ผมไม่เลือกก็โดนบ่น
แล้วคอยดูสิว่าถ้าผมเลือก เขาก็ต้องหาเรื่องบ่นอีก ต้องหาจนได้สักเรื่องแหละ
สู้ผมไม่ต้องใช้สมองเลือกจะดีกว่า ไหนๆ ก็โดนบ่นไปแล้ว
   
ไม่รู้ว่าจะรีบไปตามควายที่หายไป หรือต้อนควายเข้าฝูงกันแน่ เขาถึงได้เดินเร็วขนาดนี้
ท้องผมมันจะบ่นหิวเพราะความเหนื่อยที่ต้องเดินตามนายเทียนนี่แหละ
ทำอย่างกับชีวิตนี้จะมีเวลาอยู่ในห้างอีกไม่ถึงชั่วโมง
   
“นี่ คุณทิวากร รอ...โอ้ย” ผมตะโกนบ่นนายเทียนไม่ทันจบประโยค เท้าที่วิ่งตามเขาก็เกิดพันกันจนล้ม   
   
ตัวผมเกือบจะล้มลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น แต่ความไวปานจรวดที่นายเทียนพุ่งเข้ามารั้งเอวผมไว้ทำให้ตัวผมค้างอยู่กลางอากาศแบบนั้น

แขนแกร่งดึงตัวผมขึ้นมาจนแนบชิดกับแผ่นอกของเขา ผมเงยหน้าขึ้นมามองผู้ที่ช่วยผมไว้
ดวงตาคมที่สื่อถึงความเป็นกังวลมองทอดมายังใบหน้าผมที่แนบอยู่กับแผงอกที่มีบางสิ่งเต้นอยู่ข้างในราวกับอยากทะลุออกมา
ไม่ใช่เพียงแต่กล้ามเนื้อในอกข้างซ้ายของเขาที่เต้นดังขนาดนั้น กล้ามเนื้อในอกผมก็เต้นดังไม่แพ้กัน
ผมรู้สึกว่าเวลาในช่วงนี้หยุดหมุน ผู้คนรอบข้างหยุดเดิน หรือแม้แต่จมูกตัวเอง ก็ไม่ได้หายใจออกมา
ผมท่าจะบ้าไปแล้ว!

“ซุ่มซ่าม” ร่างสูงตีหน้านิ่งกลับไปสู่โหมดเดิม แล้วเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อเขามั่นใจว่าผมทรงตัวอยู่แล้ว เขาก็ปล่อยมือที่อยู่บนเอวผม

“โอ้ย...ซี๊ด...” ผมยืนไม่ถึงวินาที ก็ต้องไปนั่งกองลงกับพื้น ผมจับข้อเท้าตัวเองที่ปวดแปลบ
เหมือนข้อเท้าผมจะพลิกแล้วสิ

นายเทียนยืนกอดอกก้มมองผมหน้านิ่ง

 “สำออยอะไร” คำพูดของเขาทำให้ผมต้องเงยหน้ามอง ผมพยายามลุกยืนอีกครั้ง

“เปล่า โอ้ย” แต่ก็ไม่เป็นผล ผมต้องทรุดลงไปนั่งเหมือนเดิม

ริมฝีปากของคนที่ยืนตรงหน้าผมแสยะยิ้มออกมา คงเยาะเย้ยผมที่ไปนั่งกองอยู่แทบเท้าเขาล่ะสิ
เขาย่อตัวลงนั่งยองข้างๆ ผม แล้วส่งเสียงหัวเราะในลำคอจนทำเอาผมมองค้อนไป

“นายนี่จริงๆ เลย” นายเทียนว่าพลางช้อนตัวผมขึ้นพาดบ่าที่แข็งแกร่งของเขา

ผมตกใจจนเหวอ รีบทุบไหล่เขาแรงๆ ก็คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองเป็นทางเดียวกันหมด

“ปล่อยนะคุณ ทำบ้าอะไร ปล่อยผมลง ผมเดินเองได้” โวยวายจบ นายเทียนก็ปล่อยผมลงทันที
แต่ไม่ทันที่ผมจะทรงตัวยืนได้ ผมก็ต้องทรุดตัวนั่งลงไปกองอยู่กับพื้นเหมือนเก่า ก็เท้ามันไม่เอื้ออำนวยเลยน่ะสิ

“เดินได้ ก็เดินมาเอง” เขาเดินไปนั่งบนม้านั่งไม้ที่อยู่ใกล้ๆ แล้วสั่งผม ใกล้แค่นี้ทำไมผมจะเดินไปไม่ได้

แต่เมื่อผมลองฝืนใจลุก ก็ลุกไม่ขึ้นจริงๆ มันเจ็บจนรู้สึกระบมไปทั้งเท้า

“ทำไมผมต้องเดินไป ผมจะนั่งอยู่ตรงนี้” ผมนั่งแหมะลงกับพื้น ราวกับว่าไม่อยากทำตามคำสั่งของเขา
แต่ความจริงแล้ว ผมทำไม่ได้ต่างหาก

“จะนั่งขวางทางคนอื่นก็ตามใจ” คำพูดเขาทำเอาผมเงยหน้ามองไปรอบๆ ตัวเอง ที่มีคนเดินเลี่ยงผมผ่านไปมา

ผมฝืนใจตัวเองอีกครั้ง ใช้เท้าข้างที่ไม่เจ็บเป็นแกนหลักในการทรงตัว
แล้วค่อยๆ กระโดดเป็นกระต่ายขาเดียวไปยังม้านั่งที่มีนายเทียนนั่งอยู่
เหมือนนายเทียนจะยิ้มกับท่าทีของผม แต่เขาก็กลั้นเอาไว้

ผมนั่งลงข้างๆ นายเทียนโดยทิ้งระยะห่างพอสมควร
ผมรู้สึกว่าช่วงนี้คงต้องห่างจากตัวนายเทียนสักหน่อย ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมต้องบอกตัวเองแบบนั้น

นายเทียนย่อตัวนั่งลงกับพื้นต่อหน้าผม เขาจับขาผมให้ยื่นออกมา
มือแกร่งเลื่อนไปถอดรองเท้าผม แล้วค่อยๆ สัมผัสเท้าข้างที่เจ็บอย่างเบามือ

“ทำอะไร” ผมถามด้วยความสงสัย แล้วชักเท้าตัวเองกลับ ไม่ใช่สงสัยในสิ่งที่เขาทำ แต่สงสัยว่าทำไมเขาถึงทำต่างหาก

“เจ็บข้างนี้ใช่ไหม” เขาคว้าเท้าไว้ไม่ให้ผมชักกลับ แล้วเงยหน้าขึ้นมาถาม จนผมงงกับท่าทีของเขา

“ละเมอหรือเปล่า หรือหิวข้าวจนหน้ามืด”

“ถามว่าเจ็บข้างนี้ใช่ไหม” เสียงเขาเริ่มตะวาดเบาๆ ราวกับว่าไม่พอใจผม
พูดอย่างนี้สิค่อยสมกับที่เป็นนายเทียนหน่อย แต่มันไม่ใช่การกระทำที่เขาจะทำเลย

“อืม แล้วคุณ...คุณจะทำอะไร”

“ก็นวดเท้าให้ จะได้หายเจ็บ สงสัยข้อเท้าจะพลิก”

“คุณบ้าหรือผมฝันไป คุณเนี่ยนะ จะลดตัวมานวดเท้าให้ผม”

เขามักย้ำเสมอว่าผมเป็นเชลยของเขา ย้ำเสมอว่าไม่ให้ผมคิดตีตัวเสมอเขา
แล้ววันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ลดตัวมานวดเท้าให้เชลยที่เขามักดูถูกอย่างผม
เขาเป็นคนอย่างไรกันแน่ ผมสับสนในบุคลิกที่หลากหลายของเขาเหลือเกิน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย

หรือเพราะเขาทำแบบนี้ เพราะผมกับเขามีเรื่องให้ทะเลาะกัน เถียงกัน ต่อยตีกัน
แต่หลายครั้งเขาก็ทำราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรกับผม
เรื่องที่พ่อผมเคยวางแผนโค่นบัลลังก์เขา เรื่องที่เขาตลบหลังพ่อผม เรื่องที่ผมเป็นเชลยของเขา
เหมือนเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้น
มันเลยทำให้ผมรู้สึกสนิทกับเขาเหมือน...เพื่อนคนหนึ่ง

“ปากดีได้ตลอดเลยนะ”
   
บางทีผมอาจจะรู้สึกไปเองคนเดียวก็ได้








แสนเสน่หา

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อดึกไปไหมหว่า อิอิ
หวังว่าจะสนุกกับตอนนี้กันนะครับ

อย่าลืมไปกดโหวตกันด้วยนะ
จิ้มเอาเลย>>>  <A HREF="http://my.dek-d.com/xinggan/poll/view.php?id=129934">แบบสำรวจ เรื่องใหม่ อยากอ่านแนวไหนกันครับ</A>
เป็นโหวตว่า เพื่อนๆ นักอ่านทั้งหลาย อยากอ่านแนวไหนในเรื่องต่อไป ที่แสนเสน่หาจะแต่งครับ

ขอแจ้งวันปิดโหวตคือวันที่...๒๓ ก.พ. ละกันนะครับ
เพราะว่าจะมีอีกโหวต มาให้โหวตใหม่ อิอิ

แล้วเจอกันตอนหน้านะครับ

ออฟไลน์ Joe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เริ่มน่าสนใจมากขึ้นแล้ว ต่อไปจะมีอะไรอีกนะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
กิ้วๆ  เริ่มมีพัฒนาการหรือเปล่าน้าา คิคิ

ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คู่นี้เริ่มน่ารักแล้ว....อิอิ

้เป็นกำลังใจให้คนแต่ง 

 :L1: :L1: :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เชลยเจ้าพ่อ {Yaoi} ตอน๑๔ ๑๘/๐๒/๒๕๕๕
« ตอบ #289 เมื่อ: 19-02-2012 00:26:55 »





แสนเสน่หา

  • บุคคลทั่วไป
เริ่มน่าสนใจมากขึ้นแล้ว ต่อไปจะมีอะไรอีกนะ

ต่อไปบอกได้คำเดียวว่า......
เจอกันบนเตียงนะ

mister

  • บุคคลทั่วไป
อ๊าก กก  เขิน :-[

ออฟไลน์ Karn12

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +165/-2
เจ้าพ่อเริ่มหวั่นไหวแล้วล่ะสิ

ออฟไลน์ jaijaiz

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
นะน่ะน้าาา เจ้าพ่อมีซัมติ่งอะไรปิดไว้แน่ๆเลย
ขอเดาว่าแอบชอบหนูซนของเราใช่ไหม 55
จะรอตอนต่อนะคะ อย่าปล่อยให้เรา(แอบค้าง)นานเลยนะคะ

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
เริ่มน่ารักขึ้นมาบ้างละ

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
นายเทียนเริ่มน่ารักขึ้นเรื่อยๆนะ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ wizard_tao

  • หนุ่มใต้อู้กำเมือง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 417
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เริ่มมีพัฒนาการไปในทางที่ดีแฮะ

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
กิ้วๆๆ เริ่มล่ะ อิอิ

ออฟไลน์ EVE910

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 550
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
 :กอด1: :impress2:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
เทียนเริ่มอ่อนโยนกับซนแล้วใช้ไหม
+1 นะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด