เชลยเจ้าพ่อ {Yaoi} ตอน๓๑ ๑๘/๐๕/๒๕๕๕ (จบแล้วคร๊าบ)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เชลยเจ้าพ่อ {Yaoi} ตอน๓๑ ๑๘/๐๕/๒๕๕๕ (จบแล้วคร๊าบ)  (อ่าน 452998 ครั้ง)

ออฟไลน์ จอมเสเพลชายแดน

  • ไม่ต้องมีชีวิตนิรันตร์ แต่ขอให้มีชีวิตอยู่ในความทรงจำก็พอ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ไต้ฝุ่นอย่างทำน้อง!

หน้าที่นั้นเป็นของเฮียเทียนนา!

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
วันนี้ก็มารอ

อากาศใต้ผ้าห่ม

  • บุคคลทั่วไป
ไต้ฝุ่นนนนนนนนนนน :m16:
ฉันจะจ้างคนไปรุมโทรมแก อยากนักใช่ไหมมมมมม :m31:

139147

  • บุคคลทั่วไป
 :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:  ไต่ฝุ่นนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!

แสนเสน่หา

  • บุคคลทั่วไป
ตอน๑๘ หอมหวานอร่อย

ผมยอมรับอย่างไร้ศักดิ์ศรีเลยว่า ผมกลัว
กลัวว่าจะไม่โชคดีเหมือนสองครั้งที่ผ่านมา


ขอบตาร้อนผะผ่าว เหมือนน้ำตาที่สะกดกลั้นอยู่กำลังจะไหลออกมา ปากผมเม้มเข้าหากันสนิท จ้องมองคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ผมจะไม่มีทางทำอะไรต่ำๆ ตามที่เขาสั่งเด็ดขาด เขาปลดเข็มขัดของตัวเองออก ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสติตัวเองกลับมา
   
“อาจารย์ครับ ทางนี้เลยครับ อาจารย์ หลังตึกนี้เลยครับ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นมาแว่วๆ ทำใจผมชื้นขึ้นมานิด
   
ทุกคนที่ยืนล้อมตัวผมหันไปทางมุมตึกกันหมด พวกที่ออกไปดูต้นทางวิ่งมาอย่างหน้าตื่น ผมไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่รู้สึกได้ว่าตัวเองพอมีหวังที่จะรอดบ้างแล้ว
   
“มีคนมาทางนี้ มันเรียกอาจารย์มาด้วย”
   
“โธ่เว้ย!” ไต้ฝุ่นสบถอย่างหัวเสีย เขารีบจัดการใส่กางเกงตัวเองให้เรียบร้อย เขามองหน้าผมที่ทรุดลงอยู่กับพื้น แล้วรีบพาเพื่อนหนีไปอีกทางหนึ่ง
   
สักพักพวกเพื่อนในห้องผมกลุ่มใหญ่วิ่งเข้ามา ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก น้ำตาแทบจะปริ่มออกมาเมื่อเห็นหน้าเพื่อนตัวเอง พงษ์รีบวิ่งเข้ามาหาผม ผมโผเข้ากอดเขา หลับตาแน่นเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมาให้เพื่อนเห็น ผมได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของเพื่อนหลายคนที่ยืนล้อมรอบ
   
“แกไม่เป็นอะไรใช่ไหม” พงษ์ถามด้วยความเป็นห่วง
   
“เกือบเป็นแล้ว ถ้าพวกแกมาช้ากว่านี้” ผมผละตัวออกจากพงษ์ แล้วตอบด้วยรอยยิ้ม ให้เพื่อนหมดห่วง
   
“ใครทำอะไรแก บอกฉันมา แล้วพี่ไต้ฝุ่นของฉันล่ะ อยู่ไหน เขาปลอดภัยหรือเปล่า” เสียงคนสวยของห้องถาม
   
ผมที่กำลังจะเอ่ยปากตอบชื่อตัวบงการก็ต้องปิดปากลง ที่ถามแบบนี้แสดงว่ายังไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นฝีมือของไต้ฝุ่น ทุกคนยังเข้าใจผิดคิดว่าผมโดนลูกหลงที่เข้ามาช่วยคนเลว
   
“บอกไปแล้วแกจะทำอะไรเขาได้ยะ ขนาดพี่ไต้ฝุ่นกับซนยังเจอหนักขนาดนี้ ถ้าเป็นแก แกคงตายก่อนได้ไปแปลงเพศแน่ย่ะ” เสียงเพื่อนอีกคนพูดขึ้นมาแขวะกันเอง
   
“แล้วไหนอาจารย์อ่ะ” ผมกระซิบถามพงษ์
   
“มีที่ไหนกัน พวกมันก็แกล้งพูดเสียงดังๆ ให้พวกระยำที่ทำร้ายแกมันหนีไปก็เท่านั้นแหละ ความจริงข้าไม่น่าบอกให้แกมาเลย กลายเป็นโดนลูกหลงไปด้วย”
   
“มันคงเป็นความซวยของข้า”
   
“นี่แกยังไม่บอกพวกฉันเลยนะว่าพี่ไต้ฝุ่นปลอดภัยดีหรือเปล่า” เพื่อนสาวคนเดิมซักผมอีกครั้ง
   
“สรุปเป็นห่วงข้าหรือมันกันแน่ มันสบายดี ยังไม่ตาย แต่คงใกล้แล้วแหละ” ผมพูดอยากเคียดแค้น จนซ่อนแววตาของตัวเองไม่มิด พงษ์มองหน้าผมเหมือนจะเริ่มรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ ผมหลบสายตาแล้วที่มองมาอย่างจับผิด ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเปลี่ยนประเด็น “แล้วพวกแกมาช่วยข้าได้ไง ไม่โดนอาจารย์ด่าหรือไง”
   
“ข้าเห็นว่าแกไปนาน คิดว่าต้องโดนลูกหลงแน่ๆ เลยขออนุญาตอาจารย์ออกมาเข้าห้องน้ำ”
   
“ยกโขยงมากันขนาดนี้ อาจารย์ไม่สงสัยหรือไงวะ”
   
ผมมองไปรอบๆ ยกกันมาเกือบครึ่งห้อง แล้วบอกอาจารย์ว่ามาเข้าห้องน้ำ เขาคงจะเชื่อหรอก ทำอย่างกับว่าอาจารย์เขาจะโง่ กลับไปคงได้โดนเทศน์ชุดใหญ่ แล้วยิ่งสภาพหนังหน้าผมเป็นอย่างนี้อีกด้วย คงจะแดงช้ำไปทั่วทั้งหน้า แผลเก่าก็คงจะฉีกอีก ใกล้จะหายแล้วเชียว  แต่ก็ดี แผลเก่าพวกเพื่อนก็ไม่ทันสังเกต จะได้ไม่ต้องสงสัย
   
“ไม่รู้เหมือนกัน อาจารย์แกยังไม่ทันได้อนุญาตอะไร พวกข้าก็วิ่งออกมากันแล้ว”
   
“แล้วอย่างนี้กลับไปไม่โดนเชือดหรือไง”
   
“แล้วจะกลับไปทำไมล่ะ ก็รอให้หมดคาบเลยไง”

“ทำอย่างกับว่าคาบหน้าจะไม่เจออาจารย์แกอีก หนีไม่พ้นหรอก”
   
“คาบหน้าก็ส่วนคาบหน้า แกคงไม่บ่นอะไรมากหรอกน่า”
   
“ถ้างั้นตอนนี้พาซนไปทำแผลที่ห้องพยาบาลก่อนไหม ดูสิ หน้าช้ำหมดแล้ว” เพื่อนอีกคนในวงล้อมเสนอแนวคิด แต่ถ้าไปตอนนี้มีหวังอาจารย์ในห้องพยาบาลรู้แน่ว่าเด็กมีเรื่องกัน แล้วยิ่งเป็นผม ไม่กลายเป็นขี้ปากคนในโรงเรียนหรอกหรอ เดี๋ยวข่าวจะถูกแพร่ไปว่าลูกเจ้าพ่อโดนทำร้ายสะบักสะบอมจนหมดสภาพ
   
“ไม่เป็นไร วันสองวันก็คงหาย ไปห้องพยาบาลเดี๋ยวก็โดนอาจารย์ซักอีกยาว ข้าว่าข้าจะกลับก่อน”
   
ถ้าให้ผมขึ้นไปเรียนต่อก็คงไม่มีสมาธิ และเป็นที่สงสัยของอาจารย์ที่เข้ามาสอนซะเปล่าๆ อีกอย่างไม่อยากเจอหน้าไต้ฝุ่นตอนเย็นด้วย ภาพที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันนั้น กับเมื่อครู่นี้มันยังฝังลึกในใจผม ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่สำเร็จสักครั้งก็ตาม ถ้าให้ผมเห็นหน้าเขาในตอนนี้ ผมคงได้เข้าไปบีบคอเขาให้แหลกคามือแน่
   
“ฝ่ายปกครองคงให้แกกลับก่อนหรอก แค่เขาเห็นหน้าแก เขาก็รู้แล้วว่าไปมีเรื่องมา”
   
“ถ้ารอเลิกเรียน คนที่เห็นยิ่งไม่เยอะกว่าหรอ ไปตอนนี้แหละ เดี๋ยวข้าขอลุงยามเอา”
   
“โทรให้พ่อแกส่งคนมารับดีกว่าไหม” เสียงหนึ่งเสนอขึ้นมา
   
ให้พ่อผมส่งคนมารับอย่างนั้นหรอ ผมก็รอวันที่จะเป็นอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน
   
“ไม่เป็นไร ข้ากลับแท็กซี่เองได้” ผมบอก แล้วหันหน้าไปหาพงษ์ “ไอ้พงษ์ เลิกเรียนแล้ววานเอากระเป๋าข้าไปฝากไว้ที่รถนายเทียนได้ไหม แกจำรถได้ใช่ป่ะ”
   
“จำอ่ะจำได้ แต่ไม่เอาไปฝากได้ไหม น่ากลัวจะตาย ไม่รู้ว่าจะถูกอุ้มฆ่าหรือเปล่า” พงษ์พูดแบบหวั่นๆ ผมก็พอเข้าใจ ใครจะไปกล้าอยู่ใกล้ชายร่างยักษ์หน้าโหดเหมือนคนขับรถนายเทียนล่ะ ยิ่งนายเทียนยิ่งแล้วใหญ่ แม้หน้าตาพอใช้ได้ คือ...ยอมรับว่าหน้าตาดีก็ได้ แต่สายตาที่จ้องมองแต่ละคน ใครเขาก็กลัวทั้งนั้นแหละ
   
“เถอะน่า ช่วยข้าหน่อย เขาไม่ทำอะไรแกหรอก ถ้าเขาถาม แกก็บอกไปว่าข้ากลับไปแล้ว แต่ไม่ต้องบอกสาเหตุไปนะ ส่วนไต้ฝุ่น ถ้าเกิดเจอมัน ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับเรื่องทั้งหมด เข้าใจนะ” ผมกำชับพงษ์ พงษ์หรี่ตามองผมด้วยความสงสัย
   
“คนที่ทำร้ายแก คือพี่ไต้ฝุ่นใช่ไหม” พงษ์กระซิบถามให้เบาที่สุด และมั่นใจว่ามีแค่เราสองคนที่ได้ยิน
   
“ช่างมันเถอะ แกอย่ารู้เลย ช่วยข้าหน่อยละกัน”
   
ผมไม่อยากโกหกเพื่อนตัวเอง และก็ไม่อยากบอกด้วย ถ้าพงษ์รู้ ผมกลัวว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และเขาก็อาจจะเข้าไปหาเรื่องไต้ฝุ่น แต่ผมก็พอเดาออกว่าพงษ์ค่อนข้างมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองสงสัย
   
ขาของผมก้าวออกมาจากที่ตรงนั้น ผมเดินออกมาจากโรงเรียนอย่างง่ายดาย เขาว่ากันว่าเวลาจะไปเรียนที่ไหน หรือว่าย้ายไปอยู่หอพัก สิ่งแรกที่ทำคือต้องตีสนิทกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซื้อของติดไม้ติดมือไปทุกครั้งเมื่อมีโอกาส เพียงเท่านี้ก็จะสามารถทำให้เรื่องยากบางเรื่องเป็นเรื่องง่ายไปได้
   
ผมนั่งรถแท็กซี่กลับมาที่บ้านของตระกูลศิวโลกเทพ แค่ได้ก้าวเท้าเดินเข้าบ้านก็ไม่รอดพ้นสายตายายฟัก แกหันมาเห็นผมที่กำลังเดินดุ่มๆ เข้าบ้าน แกพยายามซักเรื่องรอยช้ำบนหน้าผม แต่ผมทำเป็นไม่สนใจแล้วรีบเดินขึ้นข้างบนทันที ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่แสนนุ่มสบาย

พยายามทำใจให้โล่ง ไม่คิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น คิดไปมันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา มีแต่จะทำให้เครียดเสียเปล่า ที่ผ่านมามันก็เป็นได้แค่อดีต สูดลมหายใจเข้าลึกๆ คิดซะว่าตัวเองนอนอยู่บนก้อนเมฆ นุ่ม สบาย ปราศจากสิ่งอื่นใด ไม่มีความจำเป็นต้องไปนึกถึงเรื่องอะไรให้ปวดหัว

“ซน เปิดประตู ฉันบอกว่าให้เปิดประตูไง ไอ้ตัวแสบ เปิดประตู” ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงคนที่ยืนแหกปากอยู่หน้าบานประตูห้อง นายเทียนใช้อำนาจกับผมแม้กระทั่งสั่งให้เปิดประตู ถ้าไม่เปิดมีหวังเขาพังประตูห้องผมเข้ามาแน่

ผมเหลือบมองดูนาฬิกาข้างหัวเตียงที่บอกเวลาว่าตอนนี้เกือบจะ ๕ โมงเย็นแล้ว เผลอหลับไปตั้งนาน ผมลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูให้เจ้าของบ้าน ผมต้องรีบหันหลังให้เขาทันทีที่เห็นสีหน้าเขาตอนเจอหน้าผม ผมลืมไปเสียสนิทว่าสภาพหนังหน้าตัวเองตอนนี้มีแต่รอยฟกช้ำ อุตส่าห์เลี่ยงไม่ให้คนอื่นทักเรื่องนี้ แต่ดันหาเรื่องใส่ตัวกับคนที่เลี่ยงตอบไม่ได้เสียด้วยสิ

“มะ...มีอะไร รีบว่ามา ถ้าเรื่องงาน ผมรู้หน้าที่ตัวเองดี แต่วันนี้ขอลา ไม่สบาย อยากนอนพัก” ผมหันหลังสรุปรวดเดียว แล้วเอื้อมมือไปปิดประตู แต่นายเทียนเอามือดันประตูไม่ให้ปิดเสียก่อน เขาเดินเข้ามาในห้องผมแล้วปิดประตูเอง กระเป๋านักเรียนของผมที่อยู่ในมือเขาถูกโยนลงบนเตียง

“หน้านายไปโดนอะไรมา ยายฟักก็บอกว่าเราไปมีเรื่องทะเลาะต่อยตีกับคนอื่น”

“รู้ดี ยายแกตัวติดกับผมตลอดเลยหรือไง”

“หันหน้ามาคุยกับฉัน อย่าหันหลังให้ ไม่ชอบ” นายเทียนว่าพลางจับตัวผมให้หันกลับไปหาเขา แต่ผมก็ยังมานะหันหน้าเลี่ยงสายตาเขาอยู่ดี

“ไม่ชอบก็ไม่ต้องคุย ผมง่วงนอน”

“ไม่ต้องหันหน้าหนีหรอกน่า ฉันเห็นหมดแล้ว แล้วจะบอกได้หรือยังว่าไปมีเรื่องกับใครมา สภาพหน้าถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้” นายเทียนเห็นว่าผมนิ่งเงียบไม่ยอมปริปากตอบคำถามเขา เขาเลยซักอีกครั้ง “ไอ้ตัวแสบ ตอบฉันมาดีๆ ว่าไปฟัดกับใครมา”

ทำไมต้องมาถามในเรื่องที่ผมไม่อยากบอกด้วยนะ แล้วถ้าผมบอกเรื่องนี้กับนายเทียน มันจะเกิดอะไรขึ้น น้องชายเขาจะโดนระเบิดลูกใหญ่ลง หรือจะเป็นผมที่โดนกล่าวหาว่าสร้างเรื่องยุแยงให้พี่น้องแตกกัน แต่ในใจลึกๆ ผมเชื่อว่านายเทียนต้องเชื่อเรื่องจริงจากปากผม ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่บางทีนายคนนี้ก็เดาใจไม่ถูก ผมเลยไม่กล้าที่จะเสี่ยง กลัวผลลัพธ์มันจะออกมาอีกโผน่ะสิ

“คุณจะรู้ไปทำไม ผมก็แค่ตัวประกันของคุณ จะมาสนใจอะไรนักหนา ไม่ใช่พี่น้องคุณที่ต้องคอยเป็นห่วงสักหน่อย”

 “ก็เพราะนายเป็นคนของฉันไง ฉันสั่งให้บอก ก็ต้องบอก” คนเอาแต่ใจจ้องหน้าผมนิ่ง “สรุปจะไม่บอกใช่ไหม ไม่บอกก็ไม่บอก อย่าให้ฉันรู้เองก็แล้วกัน”

“แล้วไง คุณรู้มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก”

“เจ็บปากแล้วยังมาทำเป็นปากดีอีก หายามาทาหรือยัง”

“ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย” ปากผมก็พูดไปอย่างนั้น แต่ยังไม่ได้ส่องกระจกดูสภาพตัวเองเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่อยากส่อง ไม่อยากหวนกลับไปนึกถึงเหตุการณ์นั้น

“ลงไปหายาทาไป แผลจะได้หายเร็วๆ”

“ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องทายา”

“ไอ้ตัวแสบ จะทำให้ฉันอารมณ์เสียไปถึงไหน ฉันบอกว่าอะไรก็ให้ไปทำอย่างนั้น อย่ามาขัด บอกยายยิ้มไม่ก็โชติ อนงค์ก็ได้ ให้มาช่วยทายา”

“ผมทาเองได้ ไม่ใช่คุณนะที่ต้องให้คนอื่นมาทาให้”

“ทาเองได้ก็รีบๆ ลงไปทาสิ ฉันมีธุระให้นายทำต่อ” นายทิวากรเร่งผม ขนาดเขาเห็นว่าผมสภาพยับเยินขนาดนี้ ยังคิดที่จะใช้งานผมต่ออีก

“ธุระอะไรของคุณอีก วันนี้ผมไม่ค่อยสบาย”

“ธุระที่นายต้องไป และปฏิเสธไม่ได้”

“ผมอยากกลับบ้าน” ผมพูดโผงขึ้นมา  เจ้าพ่อจ้องหน้าผมนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ

“กลับไปทำไม” เขาถามเสียงห้วน

“ผมคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่นม ผมอยากกลับบ้าน คุณให้ผมกลับไปเถอะนะ”

ผมไม่รู้เหตุผลว่าทำไมถึงยอมไปขอร้องเขาได้ อาจเป็นเพราะตอนนี้ผมอยากกลับไปหาความอบอุ่น ความปลอดภัยที่บ้านอีกครั้ง ขืนอยู่ที่นี่ต่อผมก็ไม่รู้ว่ามันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับผมอีก ผมยอมรับอย่างไร้ศักดิ์ศรีเลยว่า ผมกลัว...กลัวว่าจะไม่โชคดีเหมือนสองครั้งที่ผ่านมา

“เดี่ยวนี้ยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อร้องขอให้ปล่อยตัวแล้วหรอ ทำไม ทนอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้วหรือไง” จากน้ำเสียงที่ให้ความรู้สึกเป็นห่วงกลับกลายมาเย้ยหยันผม

“เออ ทนไม่ได้แล้ว ผมอยากกลับบ้าน คุณได้ยินไหมว่าผมอยากกลับบ้าน” ผมแหกปากตะโกนลั่น เหมือนให้ได้ระบายบางสิ่งบางอย่างออกมา

น้ำตาไหลเอ่อมาอีกครั้ง ผมเกลียดตัวเองที่เป็นคนอ่อนแอชะมัด ทำไม ผมคิดว่าตัวเองเริ่มพอทำใจให้มีความสุขกับบ้านหลังนี้แล้วเชียว แต่ทำไมถึงต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ ด้วย แล้วเมื่อไรชีวิตผมถึงจะได้กลับไปเป็นเหมือนเดิมสักที

“นายได้กลับแน่ แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ ตอนนี้นายต้องลงไปทายา เปลี่ยนชุด แล้วไปทำธุระกับฉัน” นายเทียนสั่งเสร็จแล้วเดินออกไป

หลังจากที่ผมทายา เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ผมก็ถูกนายใหญ่ของบ้านลากขึ้นรถลีมูซีนคันเดิมที่คนขับจอดรอที่มุกหน้าบ้าน รถแล่นตรงออกไป ผมไม่ทันได้ถามเขาว่าจะพาไปไหน เพราะร่างกายที่อ่อนเพลียทำให้ผมไม่มีอารมณ์อยากจะสนทนากับใคร รถแล่นออกไปไม่ถึงห้านาที ผมก็งีบหลับไปอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็ถึงลานจอดรถที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมืองเสียแล้ว ผมลงมาจากรถด้วยความงวยงงว่าผมจะต้องมาทำธุระอะไรที่นี่

“พามาปล้นร้านทองหรือไง” ผมหันไปถามคนที่เดินอยู่ข้างๆ

“อย่างนี้พาไปเยาวราชไม่ดีกว่าหรอ มาที่นี่จะได้ของปลอมกลับไปด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“แล้วตกลงพามาทำอะไรที่นี่” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย บอกตามตรงว่าวันนี้ผมไม่มีอารมณ์ที่จะทำอะไรทั้งนั้น

“ปากหายเจ็บหรือยัง”

“เพิ่งโดนไม่กี่ชั่วโมง มันจะหายเร็วอย่างนั้นได้ยังไง ลองโดนบ้างไหมล่ะ”

“ลามปามแหละ ปากดีอย่างนี้ไงถึงได้โดนหมัดชาวบ้าน เจ็บปากอย่างนี้จะกินอะไรได้บ้างเนี่ย”

“แล้วจะเลี้ยงหรือไง”

“ก็เออน่ะสิ วันนั้นที่บอกจะเลี้ยงก็ไม่ได้เลี้ยง ดันมีคนข้อเท้าพลิกเดินไม่ได้ ต้องพากลับบ้าน วันนี้ก็ดันมาเจ็บปากอีก” เขาพูดแล้วมองมาที่ปากผมแบบยิ้มๆ มีความสุขหรือไงที่เห็นคนอื่นเจ็บตัว

“คุณอยากกินอะไรก็เดินเข้าร้านไปเลยนะ ผมไม่ขอเสนอความเห็น”

“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ฉันคงไม่เสียเวลามาถามนายอีกแล้วแหละ”

“ถึงถามคุณก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดี”

ผมเดินตามแผ่นหลังกว้างนั้นขึ้นไปชั้นบนของห้าง เขาพาผมเข้าไปร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดังร้านหนึ่ง ร้านเล็กๆ แต่ถูกตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตกโบราณเลยดูหรูหรา เสียงดนตรีบรรเลงเบาๆ ให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายเมื่อเข้ามา พวกเราเลือกที่จะนั่งมุมในสุดของร้าน เพราะคนไม่เดินพลุกพล่านให้วุ่นวาย พนักงานยื่นเมนูอาหารมาให้ผมและนายเทียน

“อยากกินอะไรก็สั่งเลยนะ วันนี้ตามใจนาย...แค่เฉพาะเรื่องกินเท่านั้น”

ผมเปิดเมนูอาหารแล้วสั่งของโปรดไปสี่ห้าอย่าง แม้ว่าจะไม่ค่อยมีอารมณ์ทำอะไรเลย แต่ท้องผมก็ร้องโครกครากต้องการอาหารลงกระเพาะ  คนตรงหน้านั่งเปิดเมนูอาหาร แต่สายตากลับจ้องมาที่ผม

“แล้วคุณไม่สั่งอะไรหรือไง มัวแต่จ้องเดี๋ยวก็ไม่ได้กินหรอก”

นายเทียนหัวเราะเบาๆ แล้วสั่งเมนูขึ้นชื่อของร้าน พนักงานคนเดิมจดรายการอาหารแล้วเดินกลับไป นายเทียนชวนผมคุยเรื่องไร้สาระไปเรื่อย ผมกับเขาผลัดกันกวนประสาท ต่อปากต่อคำกัน เขาไม่วกกลับไปถามถึงสาเหตุของรอยช้ำบนใบหน้าผมอีกเลย จนผมรู้สึกสบายใจมากขึ้น คนตัวสูงนั่งแกล้งกวนประสาทผมจนอาหารที่สั่งได้มาเสิร์ฟ

“สั่งเยอะแบบนี้ กินไม่หมดโดนแน่” นายเทียนมองอาหารที่วางบนโต๊ะ

“ของแบบนี้หมดอยู่แล้วน่า แล้วคุณคิดยังไงพาผมมากินอาหารอิตาเลี่ยน”

“อย่าบอกว่าไม่ชอบนะตัวแสบ เห็นสั่งอย่างชำนาญเชียว”

“ยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่าไม่ชอบ ก็แค่สงสัยเฉยๆ” ผมพูดพลางตักฟาร์ฟาลเลจิ้มซอสมะเขือเทศแล้วเอาเข้าปาก

ฟาร์ฟาลเลเป็นอาหารอิตาเลี่ยนที่ขึ้นชื่ออีกชนิดหนึ่ง ทำมาจากพาสต้าแผ่นสี่เหลี่ยมแล้วจับจีบเป็นโบว์ ซึ่งความจริงตั้งใจทำออกมาให้เป็นรูปผีเสื้อตัวแบนๆ ตามความหมายของชื่อ คนส่วนมากมักกินกับซอสที่ทำมาจากเนยแข็ง แต่ผมชอบที่จะจิ้มกับซอสมะเขือเทศมากกว่า

“ก็เห็นว่าอาหารอิตาเลี่ยนรสชาติไม่จัดดี เหมาะกับสภาพปากนายตอนนี้มากที่สุด”

“ให้ผมกินส้มตำไก่ย่างตอนนี้ก็ยังไหว”

“อย่าทำปากเก่งนักเลยไอ้ตัวแสบ ตอนอยู่ในบ้านยังทำหน้าบอกบุญไม่รับเลย”

“ผมชื่อซนนะ เรียกไอ้ตัวแสบอยู่นั่นแหละ” ผมสังเกตว่าเขาเรียกแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว มันแปลกๆ สงสัยจะรู้สึกไม่ค่อยชินสักเท่าไร

“เอ้า! ก็นายแสบจริงๆนี่นา เรียกแบบนี้เหมาะกับนายดีแล้ว ไอ้ตัวแสบ!”

ได้ยินเขาย้ำชื่อนี้ แล้วใจมันเต้นตึกๆ ช่วยกลับมาเรียกแบบเดิมทีเถอะ เรียกแบบนี้แล้วมันรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก

“ถ้าอย่างนั้นผมจะเรียกคุณว่า...”

“อะไร ไม่ต้องคิดเรียกล้อเลียนฉันเลย เล่นด้วยแล้วชักลามปามใหญ่”

“อย่างนี้คุณก็ขี้โกงดิ”

“ขี้โกงอะไร ฉันขี้โกงตรงไหน ฉันมีสิทธิ์เรียกนายแบบนี้ แต่นายไม่มีสิทธิ์ตั้งฉายาให้ฉัน เข้าใจไหม ไอ้ตัวแสบ”

“คุณนี่มันเผด็จการจริงๆ”

คนตัวสูงหัวเราะเบาๆ แล้วก้มหน้ากินต่อ พวกเรากินกันจนหมดเกลี้ยง ความจริงผมก็กินได้แค่ไม่เท่าไรเอง อ้าปากกว้างไม่ค่อยได้ รู้สึกแผลมันตึง กระเพาะก็จุได้ไม่ค่อยเยอะด้วย ที่อาหารบนโต๊ะหมดก็เห็นจะเป็นฝีมือนายเทียนซะมากกว่า
   
กินเสร็จนายเทียนก็พาผมเดินเล่นไปทั่วห้าง รู้ว่าผมหน้าเยินแล้วยังจะพามาเดินประจานทั่วห้างดังอีก ผมก็ได้แต่เดินตามเขาไปเรื่อย เข้าได้เกือบทุกร้าน แต่ไม่เห็นจะซื้อของสักร้านเลย
   
“เป็นไง สบายใจขึ้นบ้างไหม”
   
“เรื่องอะไร ก็ไม่เห็นมีเรื่องให้ทุกข์ใจนี่นา” ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเจ้าตัวหมายถึงเรื่องอะไร
   
“อย่าทำปากแข็ง ถ้าไม่มีจริงๆ นายก็คงไม่ร้องอยากกลับบ้านหรอก”
   
“ก็อยากกลับบ้านจริงๆ นี่นา คุณไม่เป็นผม คุณก็ไม่รู้หรอก”
   
“เอาเถอะ เลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า อยากได้อะไรไหม แต่ฉันไม่ซื้อให้หรอกนะ”
   
“แล้วคุณจะถามทำไม”
   
นายเทียนหัวเราะในลำคอ เขายกมือขึ้นมาเหมือนจะมาจับหัวผม แต่แล้วเขาก็ชักมือกลับไป ผมทำเป็นไม่สนใจ แล้วเดินนำเขาไปอย่างไร้จุดหมาย ถือว่ามาเดินย่อยละกัน
   
ในระหว่างที่ผมกับนายเทียนกำลังเดินกลับ ผมก็รู้สึกว่ามีใครสักคนกำลังเดินตามพวกผมมาอยู่ห่างๆ และผมก็คิดว่านายเทียนก็รู้สึกเหมือนกัน มีหรือที่เจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาจะกลัว แต่ว่าในที่สาธารณะแบบนี้คงจะทำอะไรไม่ได้ เขารีบพาผมเดินจ้ำไปที่ลานจอดรถ ยิ่งมาทางนี้ก็ยิ่งปลอดสายตาผู้คนน่ะสิ
   
“น้องคะน้อง คุณน้องคะหยุดก่อนค่ะ” น้ำเสียงใหญ่ของบุรุษเพศแต่กลับมีจริตจะก้านเหมือนผู้หญิงเอ่ยขึ้นมา
   
ผมกับนายเทียนหันไปตามต้นเสียงพร้อมๆ กัน ก็พบสาวประเภทสองคนหนึ่งเดินเข้ามาหา คิ้วดกหนาของนายเทียนขมวดเข้าหากันจนเกือบจะพันกันอยู่แล้ว ผมก็งงไม่ต่างอะไรกับเขานักหรอก ผมคลำกระเป๋ากางเกงตัวเอง เผื่อว่าโทรศัพท์มือถือไม่ก็กระเป๋าสตางค์จะหล่นหายแล้วหล่อนเก็บได้
   
“ครับพี่ เรียกผมหรือเปล่าครับ” นายเทียนตั้งสติได้ก่อนผม ก็เอ่ยถามคนตรงหน้า
   
“คุณน้องใช่ เอ่อ...คุณทิวากร เจ้าของกิจการในเครือศิวโลกเทพหรือเปล่าคะ”

ดูแล้วพี่คนนั้นเขาก็อยากจะถามว่าใช่เจ้าพ่อแห่งเทียนหลงหรือเปล่า แต่เขาก็คงไม่กล้าถามแบบนั้นไปตรงๆ เพราะหลายคนคงรู้ดีว่าพวกสมาคมเหล่านี้ไม่ได้ทำแต่ธุรกิจที่สุจริตแน่

“มีอะไรหรือเปล่าครับ” นายเทียนไม่ตอบ แต่ถามกลับไป

“คือพี่ชื่อปาล์ม ปาล์มมี่น่ะค่ะ พี่เป็นโมเดลลิ่ง คือว่า...แบบว่า พี่อยากจะเชิญคุณน้องทิวากรให้เกียรติไปถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารให้พี่หน่อยน่ะค่ะ” พี่เขายื่นนามบัตรตัวเองมาให้นายเทียน

ผมถอนหายใจ โล่งอกไปที ที่แท้ก็โมเดลลิ่ง แมวมอง หานายแบบไปถ่ายแบบ ทำให้ผมหายใจไม่ทั่วท้องตั้งนาน ผมมองหน้าคนถูกชวนที่ทำหน้างงๆ กับการถูกเชื้อเชิญแล้วอดขำไม่ได้ คุณพี่ปาล์มมี่ที่ใจกล้าแบกหน้ามาหาเจ้าพ่อแห่งเทียนหลงก็ยืนตัวเกร็งด้วยความกลัว ทำให้ผมต้องแกล้งกัดเจ้าพ่อตัวดีเบาๆ

“ปกนิตยสารสัตว์เลี้ยงหรอครับ”

“เปล่านะจ๊ะ เปล่า คือเป็นนิตยสารวัยรุ่นค่ะ คุณน้องนี่ก็” พี่ปาล์มมี่ โมเดลลิ่งสาวประเภทสองแก้ตัวเป็นพัลวัน เพราะคงกลัวเจ้าพ่อใหญ่จะเข้าใจผิด หล่อนหันมามองหน้าผมอีกครั้ง ก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “คุณน้องคนนี้ใช่ลูกชายของคุณไพโรจน์ ศารทูลนฤบาลหรือเปล่าจ๊ะ คุ้นหน้า เหมือนเคยเห็นตามข่าวสังคมบ่อยๆ”

“ใช่ครับ เป็นน้องชายที่สนิทกับผมเอง ส่วนเรื่องงานที่พี่เสนอ ผมต้องขอปฏิเสธนะครับ คือผมไม่ได้เป็นนายแบบมืออาชีพ จะทำงานพวกพี่เสียเปล่าๆ”

“ไม่ค่ะ ไม่เลย ไม่ลองดูหน่อยหรอ นะ พี่อยากได้คนดัง หน้าตาดีๆ อย่างคุณน้องทิวากรมาเป็นนายแบบให้หนังสือพี่สักครั้ง” พี่เขาทำหน้าอ้อนวอน มีการหันมามองหน้าผม เหมือนกับว่าให้ผมช่วยพี่เขา

“คุณก็ลองไปสิ ไม่เห็นมีอะไรเสียหายเลย จะได้มีคนรู้จักคุณมากขึ้น ดีซะอีก”

“แล้วไม่ลองไปเองล่ะ ไอ้ตัวแสบ”

“เขาชวนคุณ ไม่ได้ชวนผม ลองดูสักครั้งเถอะน่า เอาเวลาหลีสาวของคุณไปทำอะไรที่มีประโยชน์บ้าง”

“นี่นายได้ค่านายหน้าให้มาชวนฉันหรือเปล่าเนี่ย”

“เออคือ...ถ้าคุณทิวากรไม่สะดวกจริงๆ ก็ไม่เป็นอะไรค่ะ” น้ำเสียงของโมเดลลิ่งสาวเทียมฟังดูผิดหวังที่ถูกนายเทียนปฏิเสธ หล่อนก็คงไม่กล้าตื้อเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลอย่างนายเทียนมากนักหรอก

“ได้ครับ คุณเทียนเขาตกลงรับงานนี้แล้วครับ” ผมพูดขึ้นมาเมื่อเห็นว่าพี่ปาล์มมี่เขาถอดใจ

“นี่นาย ฉันยังไม่ได้...”

“คุณเป็นถึงเจ้าพ่อ ก็รักษาคำพูดหน่อยสิ”

นายเทียนกัดฟันกรอดเมื่อรู้ว่าถูกผมแกล้งเข้าให้แล้ว เห็นสีหน้าเขาแบบนี้แล้วผมค่อยมีความสุขขึ้นมาหน่อย ระยะหลังรู้สึกว่าตัวเองเริ่มโรคจิต ต้องแกล้งฝ่ายตรงข้ามถึงจะสบายใจ

“จริงหรอคะ ถือเป็นเกียรติกับทางเรามากค่ะ ที่ได้เจ้า...เอ่อ คุณทิวากรมาเป็นนายแบบให้กับนิตยสารเรา” คุณพี่เขาปลาบปลื้มใจใหญ่ ทั้งๆ ที่เขาก็รู้ว่าคุณทิวากรของเขายังไม่ได้ตกปากรับคำอะไรเลย

“แต่วันนี้ผมไม่สะดวกนะครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ใช่วันนี้แน่ เอาเป็นว่าพี่ขอเบอร์โทรศัพท์คุณทิวากรได้ไหมคะ พี่จะได้โทรศัพท์ไปนัดอีกที”

นายเทียนทำท่าอึกอักที่จะต้องไปเป็นนายแบบจำเป็นจริงๆ เขามองมาทางผมอย่างหาเรื่อง ผมก็ได้แต่อมยิ้มน้อยๆ นายเทียนจำใจให้เบอร์โทรศัพท์เขาไป แต่เขาให้เป็นเบอร์โทรศัพท์บ้านนะ เพราะโทรศัพท์มือถือเขาเป็นส่วนตัวจริงๆ
   
พี่ปาล์มมี่กับนายแบบหน้าใหม่ตกลงทุกอย่างเสร็จสรรพ เขาก็พาผมเดินกลับไปที่รถด้วยสีหน้าเบื่อโลก คงจะมีแต่ผมที่ยิ้มออก นายเทียนมองหน้าผมแล้วทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ ทำให้ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้
   
“เป็นไง สบายใจแล้วล่ะสิ ที่ได้แกล้งฉัน รู้อย่างนี้ไม่น่าพาออกมาเลี้ยงข้าวเลย”
   
“คุณพาผมมาเองนะ ผมไม่ได้ขอร้องให้ผมพามาสักนิด”
   
“นายนี่...แสบจริงๆ เลย ไอ้ตัวแสบ”







ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
นายเทียนน่ารักอ่ะ  :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-03-2012 10:52:52 โดย pare_140 »

tookujang

  • บุคคลทั่วไป
ว้าวๆๆๆๆ เค้าเริ่มหวีตกันแล้วอ่ะ คิคิ
 :3123:  กดเป็ดให้กำลังใจคนแต่งค่ะ

139147

  • บุคคลทั่วไป
 o13 o13 o13 o13 o13  ทำได้ดีไอตัวเเสบ  อิอิอิ  เจ้าพ่อเราโดนเล่นแล้ว 

ออฟไลน์ O[]OVampire

  • เพียงเธอสบตา...แทบลืมหายใจ เพียงเธอ...จากไป...ตราบชั่วลมหายใจ ...ไม่ลืม
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
ยิ้มแก้มปริ เริ่มมีแอบหวานกันแล้ว รีบมาต่อด่วน
อยากอ่านต่อค่่ะ

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ไอ้ตัวแสบ เทียนเรียกซนแบบนี้แล้วดูสนิทเพิ่มขึ้น
ไต้ฝุ่นแกจะเอาน้องซนทำเมียให้ได้ใช่ไหม วิธีการแกนี่สมกับเป็นตัวร้ายจริง ๆ
 :z6: :z6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เชลยเจ้าพ่อ {Yaoi} ตอน๑๘ ๑๔/๐๓/๒๕๕๕
« ตอบ #489 เมื่อ: 14-03-2012 11:25:14 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 976
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ตอนนี้น่าร๊ากกกกกกกกกกก  :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:

ถ้านายเทียนรู้เรื่องละก็ แกตายแน่ ไอ้ไต้ฝุ่น .. :angry2: :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ jitsupa apple

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
อยากรู้จังว่าเทียนถ่ายแบบจะเป็นยังไง :z1:
เทียนคงจะรู้อยู่แล้วนะเรื่องที่ซนเกือบโดนข่มขืน

ออฟไลน์ wikichan

  • ชื่อ:Wi! วิ! วิกิ! วิเวียน//วันๆ ไม่ทำอะไรชอบอ่านมังงะและนิยายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบผลงานของพี่แพร์ Nigiri_Sushiที่สุดอ่านทุกเรื่องแต่ไม่ได้ซื้อทุกเรื่อง อยากเจอตัวจริงสักครั้งนึงแบบว่านักเขียนในดวงใจ #เพ้อ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
น่ารักมามาก คร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

ติดตามต่อไป~

spisyjames

  • บุคคลทั่วไป
น่ารัก น่าชัง ดีจิง คู่ เนี้ย

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
น่ารักจังแฮะคู่นี้  ><

ออฟไลน์ koonpalmzaa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เมื่อไหร่จะรักกันซักทีน้าๆๆๆๆ :-[ :-[

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
สวีทเบาๆ

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ต�วแสบแสบสมชื่อจริงๆ
อยากให้คู่นี้รักกันไวๆจังเลย
แล้วรีบมาต่อนะคะ
+ 1 นะคะ

fight

  • บุคคลทั่วไป
 :a5: o22  คิดว่าซนจะโอนไต้ฝุ่นเล่น(ก่อนคุณเทียน)ซะแล้ว  :oo1: :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เชลยเจ้าพ่อ {Yaoi} ตอน๑๘ ๑๔/๐๓/๒๕๕๕
« ตอบ #499 เมื่อ: 14-03-2012 19:38:15 »





ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ไอ้ไต้ฝุ่นเลว
ตอนนี้แอบหวาน

ออฟไลน์ thanatphon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
น่ารัก :man1:  อยากอ่านต่อแล้วอะ

ออฟไลน์ EVE910

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 550
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
 :กอด1:

ออฟไลน์ Joe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบไอ้ตัวแสบครับ มาต่อเร็วๆ นะครับ :impress2:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :angry2: :angry2: ไอไต้ฝุ่นมันชั่วไม่เลิกลา


ตอนนี้แอบหวานกันเบาๆน่ะ พี่เทียนกับไอตัวแสบ  :-[

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
 :m19:นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว ไอ้ใต้ฝุ่นบร้าาาาาา

แอบหวานเนอะ :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15
สวีทๆ

pronpailin

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยยยยยยย สวีทแบบ เบาๆ แต่ สั้นๆ อ่ะ

ออฟไลน์ everyone

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :z1: :z1: :z1: :z1:
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[.

ออฟไลน์ Karn12

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +165/-2
หวานนิด ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด