ขอแจ้งให้ทราบคุ่ะตอนพิเศษของ เอกกะันัยนั้น
เนื่องจากว่ามันท่าจะยาว ฮ่า ๆ ไม่มีความสามารถเขียนสั้น ๆ แล้วจบได้
เลยแต่เป็นเรื่องใหม่ค่ะ โปรดติดตามในชื่อเรื่อง
มากกว่าเพื่อน...ไอ้มั้ยวะ
ตามลิ้งข้างล่างนี่เลยค่ะ ได้ทำการคัดลอกตอนที่โพสก่อนหน้านี้ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=31213.msg1807014#msg1807014
ตอนที่ 2 ขอ.......เคลียร์ (part 2)
มันกลับไปแล้วมีแต่ผมที่ยังวุ่นวาย ทำตัวไม่ถูก
ลุกขึ้นไปอาบน้ำ คิดถึงแต่เรื่องไอ้นัย มันวนอยู่ในหัว
ไม่ไปไหนเลย ยิ่งอยู่ในห้องนอนผมยิ่งคิดถึง
ทั้งรสสัมผัส และความรู้สึกที่มันมากมายจนล้นเอ่อ
เป็นครั้งแรกที่ผมสติแตกขนาดนี้ยั้งความต้องการ
ของตัวเองไม่อยู่ ทั้งที่ปกติผมเป็นคนคุมเกมได้เสมอ
ไม่เคยเผลอปล่อยอารมณ์ดิบให้รุนแรงจนอีกฝ่ายต้องเจ็บ
และครั้งนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคงเจ็บมากเดินกระเพลก ๆ
ไปนู่นหน้าขาวซีดเผือด ... หน้าตาเหยเกเมื่อเริ่มเดิน
ผมอยากโทรหามันอยากรู้ อยากถามมัน อยากไปดูแลมัน
แต่ก็ไม่กล้า...เพราะมันบอกให้ผมลืม ...ลืมเรื่องเมื่อคืน
“ทำไงดีวะ ..แม่งเอ๊ยยยย”ผมตะโกนอย่างเหลืออด
ผมเตะ ตระกล้าผ้าให้ล้มเกลื่อน
รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เผลอไปมองเห็นชุดไอ้ตัวป่วน
ที่ใส่เมื่อคืนนี้ พร้อมคำพูดแม่ง....เวลาผมทำห้องรก
“ห่า......แม่ง นี่ห้องคนรึรังหนูวะ
ถ้ากุไม่กลับลำบากไม่มานอนห้องมึงหรอก” มันจะบ่น
ผมทุกครั้ง ตอนหลัง ๆ ผมก็พัฒนาตัวไม่ให้มันบ่น
มันไม่ใช่คนเรื่องมากหรอกคับ แค่ผิวมันแพ้ง่าย
และผื่นขึ้นทีเป็นสัปดาห์กว่าจะหาย หึหึ
ผมก้มไปเก็บเสื้อผ้าใส่ตระกล้าให้เรียบร้อย หยิบ
ชุดไอ้ตัวป่วนขึ้นมาดู เห็นแล้วนึกถึงเจ้าของมัน
เสื้อรัดรูปที่ใส่แล้วพอดีตัว กางเกงขาเดปที่ฟิตซะ
เห็นทุกสัดส่วนของไอ้ตัวป่วนอย่างชัดเจน
หน้าผมร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง ห่า....ทำไมตัวมันรุ่มร้อนขนาดนี้
“โอ๊ยยยยยยยยย กุเป็นบ้าไรเนี่ย” ผมถอนหายใจ
พูดกับตัวเอง ทำไมต้องคิดแต่เรื่องไอ้นัยว้า
.
ผมตัดสินใจออกมาข้างนอก ถ้าขืนยังอยู่ในห้องนี้
กุต้องเป็นบ้าแน่ ๆ เพราะคิดถึงแต่เรื่องมัน
(คงเป็นเพราะผมรู้สึกผิดเลยคิดแต่เรื่องมันนะสิ...นะ ปลอบใจตัวเอง ^^’)
ผมขับรถไปถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังแถวสยาม
เดินไปเรื่อย ๆ ทั้งเข้าร้านหนังสือ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า
ร้านรองเท้า ...ดูมันแก่ว ๆ ยังไงไม่รู้ เหงา ๆ ด้วย
เพราะปกติผมก็ลากไอ้คุณหนูมาเป็นเพื่อนทุกครั้ง เดินไปเดินมาตั้งนาน
มันก็พึ่งจะบ่าย 4 โมง ทั้งที่เดินโคตรจะเหนื่อย
(โอยย...ทำไมเวลาแม่งเดินช้าขนาดนี้วะ หรือว่านาฬิกากุตาย )
ผมเงยหน้ามองหาร้านที่มีนาฬิกาเพื่อเปรียบเทียบเวลา แต่ความจริงก็คือความจริง
ใช่ครับตอนนี้มันแค่บ่าย 4 โมง แม้ผมจะพยายามใช้เวลาให้หมด ๆ ไป
เพราะไม่อยากคิดเรื่องมันแล้ว สุดท้ายผมตัดสินใจไปดูหนังดีกว่า
มีเรื่องที่อยากดูมาก ๆ ตั้งใจว่าจะชวนไอ้นัยมาดูด้วยเสาร์นี้ถ้าไม่เกิดเรื่องเมื่อคืนซะก่อน
นี่เป็นสิ่งที่ผมชอบทำที่สุด (น่า...คงจะลืมเรื่องมันไปได้บ้างหล่ะน่า ^^’)
ผมเดินเข้าไปต่อแถวซื้อตั๋วเสร็จได้รอบ 6โมงเย็น เลยไปเลือกซื้อป็อปคอนกับเครื่องดื่ม
สองอย่างนี้ขาดไม่ได้เลยครับ ชอบมาก (พยายามทำตัวลั้นลาสุด ๆ )
นั่งรออยู่ไม่นานก็ถึงเวลาเข้าโรงหนังสักที ผมเลือกที่นั่งเป็นแถวบน ๆ ครับ
เนื่องจากหนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวโรแมนติก ฉะนั้นคนส่วนใหญ่ที่มาดู
มันจะมาเป็นคู่ และไอ้คุ่ที่ว่ามันเป็นคู่รักครับ ขณะที่ผมมาคนเดียวเริ่มเสียใจนิด ๆ
คนค่อนข้างบางตาเนื่องจากหนังเรื่องนี้เข้ามาสักระยะแล้วครับ มีเรื่องวุ่น ๆ กับ
ชีวิตหลายอย่างถึงทำให้ผมไม่มีโอกาสได้มาดูสักที ทั้งแถวมีผมนั่งอยู่คนเดียว
เกิดอาการขนลุกซู่ ผีจะหลอกกุป่ะวะ ถัดไป 2 แถวมีคู่รัก 1 คู่ และแถวถัด ๆ ไป
อีกปะปาย นั่งกันซะห่าง หนังเริ่มฉายแล้วครับ เนื้อเรื่องก็ประมาณว่า
พระเอกเป็นทหารครับ ถูกกองทัพส่งตัวออกไปช่วยรบกับประเทศเพื่อนบ้าน
ตามสนธิสัญญาอะไรสักอย่างที่ต้องส่งทหารไปช่วยรบเวลาผ่านไปประมาณ1 ปี
พระเอกก็ตายครับ เพราะไปดันไปรู้เรื่องความลับด้านผลประโยชน์ ของผุ้นำ
ระหว่างประเทศตนและประเทศเพื่อนบ้านเข้า เลยโดนฆ่าปิดปาก
(หึหึ พระเอกแม่งเสือกจริง ๆ ครับ เค้าปิดแต่ไอ้นี่สงสัยเลยไปสืบจนรู้
และถูกฆ่า ตามที่โบราณว่า “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่คนพูดมักจะตาย”
กร๊ากกกกกกกก ล้อเล่นครับ แค่มันคล้องจองเท่านั้นเอง”)
โดยทางกองทัพปิดเรื่องครับ แต่ก่อนที่ทางพระเอกจะถุกจับ
ได้ส่งหลักฐานมาให้นางเอกเรียกร้องความยุติธรรม ...อ้อ นางเอกเป็นทนาย
ที่เก่งติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศครับเชียวนะครับใช่ย่อยที่ไหน
(หึหึ...ว่าแต่มึงตายคนเดียวไม่พอใช่มั้ย ต้องลากเมียไปตายด้วย = =’ )
แล้ววิญญาณพระเอกเลยกลับมาหานางเอก ด้วยความคิดถึงทั้งคู่ก็ซั่มกันครับ
(Something like that ก็ประมาณนั้นแหล่ะครับอย่างที่คิด คึคึ)
ทั้งเร่าร้อน ดูดดื่ม ส่งเสียง...อ่าอืมม เป็นระยะ ไอ้ข้างในไม่เท่าไหร่
แต่...เห้ย ไอ้คู่ข้างนอกนี่สิ คู่ที่อยู่ใกล้ ๆ ผม แม้จะมืดแต่ก็ชัดครับ
(เพราผมตั้งใจดู หุหุ กร๊ากกกกกกกกกกกก)
ไอ้ผู้ชายก้มไปจูบแฟนตัวเองอย่างดูดดื่ม มือนี่ไล้ไปทั่วเค้นกันอย่างเมามันส์
(เกรงใจกูนิสสสสนึงดิ....ถ้าเอากันแข่งกะหนัง เช่าไปดูที่บ้านดีกว่าป่ะวะ =.=)
“อืมมมมม........” เสียงคางเบา ๆ เล็ดลอดออกมาจากลำคอผู้หญิง
ถ้าผมไม่เห็นว่าเค้ากำลังทำอะไรกันก็คงไม่ได้สนใจ
(โอยยย ...ไม่ไหวแล้วครับ เห็นขนาดนั้น รู้สึกนะเว่ย) เซ็งเลยครับ
แม่ง...ไม่ดงไม่ดูแล้ว ไม่งั้นผมคงได้เข้าไปแจมไอ้คู่ข้างหน้าเป็นแน่แท้
น้องผู้หญิงเค้าก็หน้าตา ผิวพรรณ ที่สำคัญหุ่น เอ็กซ์ ได้ใจมั๊ก ๆ อ่ะ
(เสียดายแต่ไอ้ผู้ชาย ...หน้าแม่งปลวกได้อีกครับไม่เหมาะกะน้องเค้าเลย
แต่หุ่นมันนี่ ท่าจะเร้าใจสาว ๆ อยู่ในที่มืดอย่างนี้คงพอทุเลา
มองหน้ามันไม่ค่อยชัดน้องเค้าคงรู้สึกดี หึหึ)
เกือบ ๆ สองทุ่ม เห้ออออออออออ ผมมองดูนาฬิกาอีกครั้งยังไม่ดึกเลย
กลับห้องไป คงเซ็งเหมือนเดิม ผมตัวสินใจโทรหาไอ้เป้ครับ
“ฮัลโหล...ว่าไง” เสียงไอ้เป้กรอกมาตามสาย
“มึงว่างป่ะวะ” ผมเอ่ยถามขึ้น
“ไม่ว่างว่ะ กุมาเป็นเพื่อนไอ้ปิงปอง กะ ปางอ่ะ มาดูมันซ้อม .... มึงมีไร” มันว่า
“ไม่มีไร...แค่หาเพื่อนกินเหล้า” ผมตอบเซ็ง ๆ ไปกะไอ้ปิงปองอีกแล้ว
(กุไม่ใช่เพื่อนมึงใช่มั้ยเชี่ยนี่ ....แอบพาล หึหึ)
“ไม่สะดวกว่ะ...กว่ามันจะซ้อมเสร็จเหอะ อีกนานมึงไม่ไปกับไอ้นัยอ่ะ ” มันว่า
“เมื่อวานมันก็กินจนเมาแล้วอ่ะ ไม่อยากกวนมัน” ผมตอบเลี่ยงๆ
(ใครจะบอกความจริงว่ะ ว่ากุพึ่งข่มขืนมันเลยเกรงใจไม่กล้าชวย เหอ ๆ)
“เออ...เอางี้นะ...” มันพูดเปิดประเด็นให้เป็นความหวัง ผมแอบยิ้ม
(หึหึ...มึง จะกลับมาเป็นกินเป็นเพื่อนกุใช่ป่ะ)
“มึงไปแดกคนเดียวแล้วกัน เจอกันวันจันทร์ ฮ่า ๆ” มันว่าขำ ๆ
“ห่า ...เออ กุไปคนเดียวก้อได้ แม่ง...อยู่กันไปเลยนะ 3 คน
ผัวเมียมึงอ่ะ อย่าได้พรากจากกัน” ผมด่าประชดนิด ๆ
“ฮ่า ๆ อย่างอน ๆ มึงไม่ใช่ไอ้นัย พวกกุไม่ง้อว่ะ” มันพูดติดจะขำ
“เออ ๆ งั้นแค่นี้แหล่ะ แม่ง” ผมพูดกดวางสายแม่งเลย
(ไปคนเดียวก็ได้วะ) ผมขับรถไปถึงผับที่พวกผมมาประจำ
ไม่ค่อยชอบเปลี่ยนที่ เพราะคุ้นเคยกันดีกับเจ้าของร้านและเด็กในร้านนี้
ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรพี่เค้าก็จะได้ช่วยเคลียร์ครับ
“ไงเอก...วันนี้มาคนเดียวเหรอ” เจ้าของร้านครับแกมาทักทายเป็นปกติ
“ครับ..พอดีเพื่อนผมไม่ว่างกันอ่ะพี่” ผมตอบ
“เหรอ..อืม อ้าวพี่เห็นไอ้นัยก็มา ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ” พี่เค้าถาม
“อ้าว...มันมาเหรอพี่ตอนไหนอ่ะ ไม่เห็นชวย” ผมตอบ
(มันคงอยากชวนผมหรอก ...+_+...)
“มันมาตั้งแต่หัวค่ำนู่น ...เมาเละแล้วมั้งป่านนี้ เตือนมันหน่อย
เพลา ๆ มั่งเห็นคั่วสาวลากไปฟัดหน้าห้องน้ำนู่น ฮ่า ๆ
ระวังเจ้าที่ของเค้ามั่งนะโว้ย” พี่โจ้บอก
“ครับพี่ หึหึ” ผมตอบขำ ๆ แต่ในใจชักไม่ขำด้วย
ผมสั่งเบียร์มานั่งดื่มไม่กล้าไปกวนไอ้คุณหนูมัน กินไปได้
สองแก้ว แม่ง...ใจผมมันอยู่ไม่สุขวุ่นวายได้อีก ทั้งโมโห
ทั้งหงุดหงิดไม่รู้เป็นอะไร ผมตัดสินใจเลิกดื่ม..เปลี่ยน Target
ไปตามหาไอ้ตัวป่วนแทน แน่นอนผมมุ่งตรงไปหน้าห้องน้ำ
ตามที่พี่โจ้บอก เต็ม ๆ ครับ ไอ้นัยแม่ง...กำลังแลกลิ้นอย่างเมามันส์
กับสาวหุ่นสะบึม มันเมาจนต้องพิงหลังกับผนังปล่อยให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายลุก
เสื้อเชิ๊ตสีดำที่กระดุมถูกแกะจนเผยให้เห็นหน้าอกขาว
ถูกสาวชุดแดงใช้มือลุบไล้ไปตามหน้าอกขาวที่มีกล้ามนิด กระชากใจสาว
นวดเฟ้นเม็ดสีแรง ๆ กระตุ้นอารมณ์อีกฝ่าย
(แม่ง...สีแดงอย่างเดียวเลยนะมึง เดี๋ยวสีเหลืองเค้าน้อยใจ หึหึ
ล้อเล่นคร้าบบบบบบบ )
“อ่า..”ไอ้นัยครางงงงกระเส่า สองมือกดสองมือสะโพกสาวชุดแดง
ให้แนบกับช่วงล่างตัวเอง พยายามจะล้นกระโปรงน้องเค้า
(แม่งงงงงง...ผมฉุนกึกขึ้นมาทันที ไม่รู้กุเกี่ยวไรแต่กุโมโห)
“ไอ้นัย” ผมเรียกเสียงดัง แทบกลายเป็นตวาด
ได้ผลครับ ...ทั้งคู่หยุดซั่ม น้องชุดแดงที่ผมไม่รู้ว่าน้องเค้าชื่ออะไร
(ไม่รู้จะชื่อผลไม้อีกรึเปล่า แม่งไอ้นี่มันรักสุขภาพครับ ฮ่า ๆ อันนี้ไม่เกี่ยว)
หันมามองหน้าผมงง ๆ เลิกคิ้วเป็นคำถาม ไม่ได้หวาดกลัวอะไร
“หนูเคยไปเหยียบหางพี่เหรอคะ ...ถึงต้องมากวนตอนกำลังซั่มเนี่ย”
“ห่า...เมาแล้วมั่วตลอด แม่ง...กลับได้แล้ว” ผมว่า เดินเข้าไปกระชากแขนมัน
ไอ้นัยเซตามแรงดึงของผมเพราะมันเมามากจริง ๆ
“ชิส์ แม่งปล่อยกุ ปล่อยยยยยยยยยยย กูกกกกกกกกกก” เสียงไปแล้วครับ
“ห่า กูบอกให้กลับ” ผมดุ โมโหแม่งจริง ๆ แต่หาเหตุไม่ได้จริง
“ชิส์ ยุ่งแม่งงงงงงง ปล่อยดิ้” มันดิ้นขลุกขลัก พยายามหนี
แต่มันจะสู้อะไรผมได้ เพราะที่ไม่เมาและไม่มีสติ
(ครับถูกแล้วครับ ไม่มี สติ เรียกว่าฉุนขาด) ว่าแล้วก็กระทำการ
สอดมือเข้าข้างลำตัวไอ้นัยแล้วลากมันมาที่รถผม
ตลอดทางไอ้ตัวป่วนทุบ ๆ ตี ๆ ผมเป็นระยะ เบา ๆ ครับ
(เพราะมันมีแรงเหลืออยู่แค่นั้น กร๊ากกกกก เสร็จกุ หึหึ)
ผมยัดไอ้ป่วนนั่งด้านหน้า รัดเข็มขัดเรียบร้อย แม่ง..ถ้ากวนกุ
กูจะจูบ (กร๊ากกกก ข้ออ้างครับดูดีมีเหตุผล หึหึ)
ผมกลับไปประจำที่คนขับ ไอ้ป่วนแทบลืมตาไม่ไหวครับ
แต่ปากแม่งนี่ ก่นด่ากูจังนะ ............. = =”
ผมโน้มตัวไปกดจูบหนัก ๆ ให้ไอ้คนปากดี สอดลิ้นร้อน ๆ
อย่างเผลอไผล บรรยากาศที่เป็นใจ มืดสนิทบริเวณลานจอดรถของผับ
ไร้ซึ่งผู้คนเนื่องจากว่าตอนนี้พึ่ง 4 ทุ่มยังไม่ถึงเวลาเลิกผับ
จับมือกดหน้าไอ้ตัวป่วนให้มันอยู่นิ่ง กวัดลิ้นดูดกลืนลิ้นไอ้นัย
“อ๊ะ.......อืมมมมมมม” มันครางหวานจนผมแทบสติแตก
อยากจะจับแม่งกดซะตรงนั้น มันไม่ได้ขัดขืนคงเพราะอารมณ์ที่ค้าง
จากสาวชุดแดงที่ว่า ผมรีบละปากก่อนที่จะหยุดไม่ได้ มองไอ้ป่วน
หน้าแดงหอบหายใจอยู่ข้าง ๆ ปากแดงบวมเป่ง ผมกลืนน้ำลายลงคอช้า ๆ
ไม่อยากหยุดเลยจริง ๆ แต่ก็ต้องตัดใจ ค่อย ๆขับรถออกไปจากผับมุ่งหน้า
กลับคอนโดผม
--------------------------------------------------------------------------