ขออภัยที่ให้รอค่ะ ทัดเองพยายามที่จะให้จบในตอนนี้แต่
555+ ยังไม่จบ รออีก 1 ตอน confirm ฟันธง
(ถ้าไม่จบก็จะจบดื้อ ๆ แล้ว ยิ่งเขียนยิ่งยาว

)
มาม่ากันไปเยอะ.~ พอซะที คนเขียนไม่ไหวแล้ว ฮือๆ

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด กรีดร้องให้สะใจ
ต่อไปนี้เรามา Sweet กันต่อค่า
Special The Valentine. (5)ผมเดินมาจนถึงห้องสมุดกลางเห็นรถเก๋งจอดอยู่ พร้อมกับใครสักคนที่เดินวนไปวนมาที่รถ
ไอ้ตัวเล็กทุบหลังผมเบา เป็นสัญญาณว่าจะลง...เจอพี่แล้ว ผมพยักหน้า วางไอ้ตัวเล็กลง
“พี่” ไอ้ตัวเล็กวิ่งไปหาพี่สาวที่ยืนหันหลังอย่างรวดเร็ว คงจะดีใจมากจนลืมเจ็บ
“แป้ง...” เธอหันมาหาน้องชายแล้วโอบกอด สำรวจสภาพที่ดูขมุกขมัวของน้องชาย
“หายไปไหนมาคะ พี่ตกใจแทบแย่ แล้วนี่เป็นอะไรคะ” หญิงสาวจับน้องชายหมุนไปหมุนมาอย่างสำรวจ
“แป้งหลงทางครับ แล้ววิ่งไปชนพี่คนโน้นล้มอ่ะ พี่เค้าเลยมาส่งแป้งครับ พี่เค้าใจดีมากๆ” น้องแป้งตอบ
“ขอบคุณค่ะ” เธอหันมายิ้มให้ผม... แต่ผมยิ้มค้าง บังเอิญมากที่ผู้หญิงคนนี้คือ “ฟ้า”
“รบกวนอีกนิดได้มั้ยคะ พอดีฟ้าต้องไปเอาเอกสารข้างบนค่ะ ฝากน้องอีกหน่อยได้ไหมคะ” ฟ้าเอ่ย
ด้วยสีหน้าท่าทางที่เกรงใจ ผมผ่อนลมหายใจช้าๆ เบาๆ เพื่อไม่ใช่อีกฝ่ายรู้สึก
“ได้ครับ ...ไม่รบกวนเลยครับ” สวยครับ...และสวยมาก พูดจาสุภาพ ไม่หลงรักยังไงไหว...ผมได้แต่คิดเศร้าๆ
“มะ...ไม่เอาอ่ะ ฟ้าอย่าไปนะ ฮึกๆ ให้แป้งไปด้วย ฮึกๆ “ ไอ้ตัวเล็กดึงมือฟ้าใหญ่ ร้องไห้สะอึกสะอื้น
งอแงไม่ยอมห่างจากฟ้า ......
“แต่แป้งเจ็บ..จะเดินไหวได้ไงคะ คนดีรอตรงนี้นะเดี๋ยวมา”
“มะเอา ฮึก ๆ ฮึกๆ จะไป แป้งจะไปด้วย ” ไอ้ตัวเล็กโยเยไม่เลิก
“เดี๋ยวผมไปหยิบให้ก็ได้ครับ ไม่เป็นไรครับไม่รบกวนหรอก” ผมตอบฟ้า ที่ทำท่าทางลังเล
“ขอบคุณนะคะ อยู่ชั้นดาดฟ้าค่ะ เป็นกล่องเอกสารสีส้มค่ะมีกล่องเดียว
น่าจะหาไม่ยาก ยังไงรบกวนด้วยนะคะ” ฟ้าเอ่ยอย่างเกรงใจ ไอ้ตัวเล็กโอบกอดฟ้าแน่น
เสียงสะอื้นยังมีเป็นระยะ นึกในใจว่าทำไมฟ้าต้องพาแป้งมามหาลัยนะ แล้วนี่ก็ดึกมากแล้ว
ผมรีบตรงดิ่งไปที่ชั้นดาดฟ้าที่ว่า ตอนนี้ใช้ลิฟท์ไม่ได้แล้วครับ มันล็อค ผมต้องเดินขึ้นไปชั้น 5 เอง
“แกร๊ก ..แกร๊ก” ผมเดินไม่นาน ได้ยินเสียงข้างเหมือนใครหมุนกุญแจประตู แต่ไม่ได้ใส่ใจ อาจจะหูแว่ว
“ติ๊ด..ติ๊ด” ผมหยิบมือถือเพื่อดูข้อความ มันถูกส่งมาจากคนที่หายไป....ไอ้เป้
ข้อความที่ 1 “ขอโทษครับ”
ผมยังก้าวท้าวเดินไปเรื่อยๆ ตามขึ้นบันไดชั้น 1
ข้อความที่ 2 “ขอโทษ...ที่ทำให้เหงา”
ข้อความที่ 3 “ขอโทษ...ที่เสียงดังใส่”
ข้อความที่ 4 “ขอโทษ...ที่ไม่ได้ดูแล”
ข้อความที่ 5 “ขอโทษ...ที่ไม่ได้อยู่ข้างๆ”
ข้อความที่ 6 “ขอโทษ...ที่เอาแต่ใจ”
ข้อความที่ 7 “แค่อยากให้รู้....กุไม่เคยนอกใจ..... เชื่อใจกุนะ”
ผมยังก้าวท้าวเดินไปเรื่อยๆ ตามขึ้นบันไดชั้น 2 มือเริ่มสั่น น้ำตาเริ่มไหล~
ตาที่พล่าไปด้วยน้ำตาเริ่มมองไม่เห็น แต่ยังพยายามอ่าน
ข้อความที่ 8 “อยากบอกว่าสองตานี้ไม่เคยมองใคร”
ข้อความที่ 9 “มีไว้แค่มอง.......มึง แค่คนเดียว” ผมต้องใช้มือปาดน้ำตาหัวใจเต้นรัว
ข้อความที่ 10 “คิดถึงครับ คิดถึงมาก”
ข้อความที่ 11 “อยากกอดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ข้อความที่ 12 “อยากให้ยืนอยู่ตรงนี้....เป็นคนคนเดียวที่ -กุจะรัก-”
ผมยังก้าวท้าวเดินไปเรื่อยๆ ตามขั้นบันไดชั้น 3 น้ำตาอาบแก้มเป็นทาง หยุดไม่ได้
ในใจได้แต่นึก ...อยู่ที่ไหน มึงอยู่ที่ไหนเป้ อยากเจอเหลือเกิน ริมฝีปากสั่นระริก
ข้อความที่ 13 “รักนะครับ”
ข้อความที่ 14 “รักมาก”
ข้อความที่ 15 “ยิ้มได้มั้ย....เลิกร้องไห้ได้แล้ว” มันพูดเหมือนเห็น
มึงรู้ได้ไงเนี่ย ผมอมยิ้มเช็ดน้ำตาอีกครั้ง .... (ไหนกุว่าจะเลิกร้องไห้ ทำไม่ได้สักที)
ข้อความที่ 16 “จำไว้อย่างเดียวก็พอ......ว่า กุรักมึง”
ผมยังก้าวท้าวเดินไปเรื่อยๆ ตามขั้นบันไดชั้น 4 อีกชั้นก็จะถึงชั้น ดาดฟ้าแล้ว
ข้อความที่ 17 “อยากจะบอกว่า รักนะครับ”
ข้อความที่ 18 “รัก”
ข้อความที่ 19 “รัก”
ข้อความที่ 20 “รัก”
ข้อความที่ 21 “รัก”
ข้อความที่ 22 “จะทำยังไง ...ก็จะรัก”
ข้อความที่ 23 “รัก”
ข้อความที่ 24 “รัก”
ข้อความที่ 25 “รักนะครับ...ที่รัก”
ข้อความที่ 26 “และจะรัก...ตลอดไป” ข้อความสุดท้ายจากไอ้เป้
พร้อม ๆ กับการก้าวมาถึงชั้นดาดฟ้า ที่ระหว่างทางมีแค่แสงไฟจาง ๆ แค่พอให้มองเห็นทาง
ประตูอยู่ตรงหน้า ...อยากจะรีบกลับไปตามหา คนที่ขโมยหัวใจผม อยากบอกว่าผมก็ “รัก” มันเหมือนกัน
อยู่ที่ไหนนะ? มึงอยู่ที่ไหน? ผมรู้สึกสังหรใจว่า ...คนที่ผมตามหาจะอยู่
.
.
.
“แกร๊ก...แกร๊ก” ผมหมุนประตูเปิดออก ยืนนิ่ง...ภาพที่เห็นราวกับฝัน แผ่นหลังใครบางคนที่คิดถึง
กับสวนดอกไม้บนชั้นดาดฟ้า........กุหลาบ เต็มไปด้วยดอกกุหลาบทั้งสวน (บนดาดฟ้าเนี่ยนะ)
ถึงจะมีดอกไม้ชนิดอื่นมาแซมบ้าง แต่แทบทั้งหมดเป็นกุหลาบ ผมมองจ้องไปยังแผ่นหลังกว้าง ที่ตอนนี้หันมายิ้มให้ผม
...ข้างบนไม่มีร่องรอยกล่องเอกสารที่ฟ้าให้ผมหา...ไม่มีเลย.... มีแต่คนเสื้อตัวสีส้ม
ไม่รู้ฟ้ายังอยากจะได้ไหม.... แต่ผมไม่อยากให้ ...ไม่อยากให้ใครแล้ว อยากเป็นเจ้าของแค่คนเดียว
ไอ้เป้ยิ้มกว้างแล้วค่อย ๆ เดินตรงมาที่ผม
“ผั๊วะ... โอ๊ย!!” ผมต่อยไปที่หน้าไอ้เป้เต็ม ๆ มันล้มคว่ำไม่เป็นท่า ค่อยๆยกมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่มุมปาก
ถึงผมจะให้อภัย ..แต่ยังไงขอต่อยให้สะใจสักทีเถอะว่ะ ผมก้าวขาขึ้นไปคร่อมตัวไอ้เป้
“ตุ๊บ ๆๆ...ฮึกๆ ”รัวกำปั้นทุบหน้าอกมันให้น่วม แต่กลับเป็นผมที่ร้องไห้...กลับเป็นผมที่เจ็บจน....น้ำตาไหลไม่หยุด
“มะ...มึง ฮึก ๆ....... ทิ้งกุ” มือไอ้เป้เอื้อมมาจับมือผมทั้งสองข้าง แต่ผมสะบัดจนหลุด
“ผั๊วะ...โอ๊ย” ผมต่อยมันสุดแรง ...ที่เดิม และข้างเดิม ให้เหมือนผมเจ็บ เจ็บแบบเดิม ๆ
ที่เดิม ๆ ได้แต่ร้องไห้จนตัวโยน เอามือสองข้างไล่เช็ดน้ำตาให้ตัวเอง
“ขอโทษ...ขอโทษครับ...จะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว อย่าร้องไห้นะครับ
อย่าร้องไห้นะคนดี.......... เป้ขอโทษ” ไอ้เป้บอกเสียงแผ่ว
มันรั้งผมไปกอดแน่น ๆ กดจูบเบาๆ หัว ผมซุกหน้ากับอกไอ้เป้ ร้องไห้จนแรงสะอื้น ส่งไปถึงคนตรงหน้า
มันกอดผมอยู่อย่างนั้น
“ให้โอกาสกุ...สักครั้งได้มั้นปิงปอง ...แค่ครั้งเดียวก็พอ” ไอ้เป้เอ่ยเสียงแผ่ว น้ำเสียงเจ็บปวดแทรกเข้ามา
ทำผมใจหาย ผมไม่ได้ตอบแต่ยังร้องไห้สะอึกสะอื้น อยู่อย่างนั้น สักพักน้ำตาก็หยุดไหล
“ฮึก.............. ฮึก..........” เสียงร้องไห้เริ่มจางหายไป กลายเป็นนอนนิ่งซบอยู่บนตัวไอ้เป้
เมื่อได้ระบายเมื่อครู่ ความรู้หนักอกก็ค่อยๆ เบาลง ...........
“หายโกรธกุรึยัง” ไอ้เป้เอ่ยถามขึ้น
“ไม่รู้เว้ย....ไม่หาย ไม่หายโกรธเด็ดขาด” ผมตอบเสียงแข็ง ทั้งที่ตอนนี้ก็นอนนิ่งอยู่บนอกมันไม่ยอมขยับไปไหนแท้ ๆ
แก้มป่องเองโดยอัตโนมัติ กัดริมฝีปากตัวเองแน่น มันวางคางไว้ที่ไหล่ผม ก่อนจะกระซิบ
“เหรอครับ แล้วทำยังไงถึงจะหาย อยากจะกอดแทบแย่ คิดถึงแทบจะขาดใจอยู่แล้ว” มันว่า ดันตัวผมออก
จ้องมองมายังผมที่ยังอึ้งอยู่ ด้วยสายตาที่แสนรัก มันกดจูบที่หน้าผากอีกครั้ง
ผมเห็นเลือดที่มุมปากที่มันยังไม่มีโอกาสได้เช็ด
“ไม่รู้...มึงทำให้โกรธ มึงก็ทำให้หายเองดิ ชิส์” ผมสะบัดที่พาดอยู่บนอกไอ้เป้ ดูไปแล้วคล้าย ๆ กับผมเอาหน้าถูอกมันมากกว่า
“เอางี้แล้วกัน...กุยอมให้มึงสั่งอะไรก็ได้อาทิตย์หนึ่ง กุจะทำตามโดยไม่ปฏิเสธเลย” มันยกข้อเสนอ
“เดือนหนึ่ง”ผมต่อรอง ไม่ได้หันไปมองตอบไอ้เป้
“หึหึ เอาทั้งชีวิตเลยมั้ย ..กุให้ได้อยู่แล้ว”ไอ้หล่อ (ที่ตอนนี้ปากเจ่อเพราะโดนต่อย) พูดกลั้วหัวเราะ
“อุ๊ย....เจ็บ” มันลูบปากตัวเองป้อย ๆ ที่เผลอยิ้มกว้าง ผมหันไปมองนิด ๆ
“อย่าท้า...กุเอาจริง” ผมขู่อย่างต่อเนื่อง
“ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้ ...กุเคยขัดใจมึงเหรอ?” ไอ้หล่อย้อนถามผม
“....................” ผมไม่มีคำตอบ เพราะมันไม่เคยขัดใจผมเลยสักครั้งเดียว ไอ้หล่ออมยิ้มที่มุมปาก
“หายโกรธนะครับ นะ นะ นะ นะครับ” มันอ้อนต่อ ผมเหลือบมองด้วยหางตา
ก่อนจะพยักหน้าหงิก ๆ แทนคำตอบ ไอ้เป้เผลอยิ้มกว้าง แต่ก็ร้องโอดโอยในที่สุด
“ชะอุ๊ย ...เจ็บ หมัดหนักเป็นบ้าเลย กุไม่หล่อแล้ว อย่าทิ้งกุนะ..ปิงปอง” มันส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้ผม
ผมยิ้มรับกับท่าทางขำ ๆ ของมัน
“อืม ..ไม่ทิ้งหรอกจะเลี้ยงไว้ดูเล่นสักตัว ฮ่า ๆ” เราต่างยิ้มให้กัน สายตาประสานกัน.....
.
.
“สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ...ที่รัก” ไอ้เป้บดจูบริมฝีปากผมแผ่วเบา แต่อบอุ่น
รอยยิ้มที่เคยจางหายค่อย ๆ ปรากฎ กลับมาอีกครั้ง หัวใจที่พองโต ใหญ่ยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ
ฟ้าก็รู้สินะ ผมอมยิ้มตอบกลับ
“...สุขสันต์วันวาเล่นไทน์....” ผมตอบ ซุกตัวกับอกของอีกฝ่าย คิดถึง.......เกินจะบรรยาย
ไอ้เป้ดันตัวของเราสองคนให้ลุกนั่ง เราสองคนเอนหลังพิงกำแพงที่ก่อขึ้นสูงประมาณ 1.20 เมตร
“ทำไมมีสวนดอกไม้ที่นี่ได้?” สงสัยเหลือเกินว่าทำไมที่นี่ถึงมีสวน ทั้ง ๆ ที่เป็นดาดฟ้าห้องสมุด
“อาจารย์เค้าจะทำสวน ....กุเลยอาสา แต่เค้าไม่ได้จะปลุกกุหลาบ..แต่ ..กุอยากปลูก
อ้อนวอนอยู่นานกว่าจะได้เป็นสวนกุหลาบ หึหึ ตลกมั้ย กุเถียงอาจารย์ใหญ่เลยแค่เรื่องดอกไม้
สรุปปีนี้ทั้งปี กุต้องมารดน้ำทุกวัน หรืออย่างน้อย อาทิตย์ 3 ครั้ง” ไอ้เป้เล่าขำๆ
“แล้วมึงจะเถียงทำไม ปลูกอะไรก็เหมือนกัน” ผมว่า ไม่เข้าใจว่าจะเถียงทำไม
“ไม่เหมือน...เพราะกุปลูกไว้ให้มึงดู ไม่ได้อยากให้ใครดู ” ไอ้เป้บอก
สายตามองมาสบตาผม ใบหน้าผมร้อนผ่าว แอบก้มงุด ๆ หนีหน้าไอ้หล่อ ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ
.
“.จำได้ไหมปิงปอง ตอนปี1 ตอนที่เราต้องมาช่วยทางห้องสมุดปรุงปรุงซ่อมแซมครั้งใหญ่
ตอนนั้นเหลือแค่มึงกับกุที่ซ่อมหนังสืออยู่ด้วยกันบนนี้จนดึก แล้วเจ้าหน้าที่ก็ดันลืมเราสองคนไว้
ล็อดประตูซะงั้น เราเลยต้องนอนที่นี่ คืนนั้นดาวสวยมาก ...จำได้ไหม คืนนั้น...เป็นครั้งแรกที่กุได้กอดมึงทั้งคืน
เพราะอากาศที่หนาว เป็นครั้งแรกที่ได้กอดมึง...ตอนที่มึงยังรู้สึกตัว กอดมึงโดยที่ไม่ต้องกลัวว่ามึงจะรังเกียจ
นึกแล้วอยากขอบคุณอากาศที่หนาวเย็นวันนั้น มันทำให้กุไปไหนไม่รอดยิ่งรู้สึกตัวว่าต้องการมึง
มากกว่าครั้งไหน ๆ และยิ่งกว่าแน่ใจว่าต้องเป็นมึง เป็นมึงเท่านั้นที่อยากให้อยู่ข้าง ๆ กุ หึหึ
มึงจำได้ป่ะ ...มึงเคยบอกว่าอยากให้ที่นี่มีสวนดอกไม้..จะได้นอนดูดาวในที่ที่ห้อมล้อมไปด้วยดงดอกไม้ ...
และกุสัญญาว่าจะทำให้ ยังจำได้ไหม” มันน้ำเสียงเต็มไปด้วยความสุข
เหมือนวันนั้นวันที่มันคุยกับฟ้าที่ริมระเบียง วันที่ทะเลาะกับผม ....... น้ำเสียงของมันเหมือนเดิมไม่มีผิด
“มะ..มึง ฮึก ๆ จำได้ด้วยเหรอ ....เป้” ผมกอดได้เป้แน่นขึ้นอีก ...น้ำตาไหล-ไม่คิดว่ามันจะยังจำได้
เรื่องแค่นี้....เรื่องแค่นี้เอง ผมเองที่ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ...ลืมแม้กระทั่งคำขอของตัวเอง
แต่ที่นี่มันอาคารของมหาลัยนะ ไม่ใช่ใครอยากจะมาทำอะไรก็ได้สักหน่อย... ดอกไม้ทั้งสวน ทำได้ไงวะ
“จำได้ดิ...จำได้อยู่แล้ว เรื่องของมึง ทุกๆ เรื่อง...ไม่มีทางที่จะลืมหรอก ก็กุสัญญาว่าจะทำให้แล้วนี่นา .
....... รักมากขนาดนี้จะให้ลืมได้ไงครับ อย่าร้องไห้นะกุอยากเห็นมึงยิ้ม .....คนดี ยิ้มนะครับ” ผมพยายามยิ้ม
ไอ้เป้เอื้อมมือมาจับแก้ผม ก่อนจูบปลอบที่หัว แต่มือมันสากมาก มากเสียจนระคายใบหน้าผม
ผมหยิบมือไอ้เป้ขึ้นมาดูแล้วก็ต้องอึ้ง มือที่ไม่เคยมีแม้แต่รอยข่วน มือนิ่มที่เหมือนกับมือคุณชายอย่างมัน
แม้จะไม่นิ่มเท่าไอ้นัยมือ แต่ก็ไม่เคยทำอะไรให้บาดเจ็บขนาดนี้ ตอนนี้มีเต็มไปด้วยรอยแผลและรอยด้าน
ผมหันไปสบตามไอ้หล่อเต็มไปด้วยคำถาม
“ทำไมมือเป็นแบบนี้?”
“ต้นไม้ที่นี่กุปลูกเองทุกต้น หนามตำบ้าง ข่วนบ้าง พอใช้จอบกระแทกดินให้แน่น
มือมันก็ค่อย ๆ พองบ้าง เป็นแผลบ้าง แล้วก็ด้าน แต่ตอนนี้ไม่เจ็บแล้ว....คุ้มแล้ว
ที่มึงได้มาเห็น....คุ้มค่าพอแล้ว” มันตอบส่งยิ้มมาให้ผม แต่ใจผมสั่น รู้สึกผิดที่ต่อยมันไป
“เป้.....ขอบใจ ฮึกๆ..ทำไมต้องทำเพื่อกุขนาดนี้ พอแล้วไม่เอาแล้ว แค่มึงอยู่กับกุก็พอแล้ว”
น้ำตาผมไหล อย่างกลั้นไม่อยู่ ส่ายหัวไปมากับอกคนตรงหน้า ได้ยินเสียงมันหัวเราะ
“ปิงปองครับอย่าร้องสิครับคนดี ... คำถามเดิม ๆ แต่จะให้บอกสักกี่ทีถึงจะเข้าใจนะ
.....ก็เพราะว่าเป้รักปิงปองไงครับ” มันไล้มือสาก เช็ดน้ำตาให้ผมอย่างลืมตัว หน้าผมเลยเป็นรอยแดงพรืดดด เต็มหน้า
“เจ็บ” ผมบอกในที่สุด เหมือนมันจะยังไม่รู้สึกตัว
“อ๊ะ...ขอโทษ กุลืม หึหึหึ ขอโทษนะครับ ป่ะดูดอกไม้กัน”
“นี่กุหลาบพันธ์ Ambridge Rose,Bishop's Castle,Claire Austin,Crocus Rose,
Crown Princess Margareta ,Evelyn ,Falstaff,Geoff Hamilton,Golden Celebration”
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=heritagerose&date=04-03-2011&group=46&gblog=3ผมเห็นมันติดชื่อไว้ที่ต้นบรรยายสรรพคุณเสร็จสรรพ เป็นดอกไม้สายพันธุ์ต่างประเทศที่ปลูกในไทย
และมันก็พึ่งสั่งซื้อมาจากเชียงใหม่ เวลาที่คิดจะเตรียมแค่ 1 อาทิตย์ ดังนั้นมันจึงหายหัวไปเลย
“ฟ้ากับแป้ง ก็รู้เรื่องใช่ไหม?” ผมถามขึ้น มันพยักหน้าตอบ
“กุมีไรจะสารภาพ...กุไปตีซี้น้องฟ้า ให้ช่วยเรื่องนี้” มันยกกุญแจของหอสมุดให้ผมดู และเรื่องการสั่งดอกไม้
“แต่น้องเค้ามีข้อแลกเปลี่ยน ....คือแกล้งเป็นแฟนเค้า 1 อาทิตย์ด้วย
เพราะมีคนมาตามตื้อแต่น้องเค้าไม่ชอบ กุเห็นว่าได้ประโยชน์สองฝ่ายก็เลยทำ ที่สำคัญกุกับน้องเค้า
ไม่ได้มีอะไรกันเกินเลย และไม่คิดจะมีด้วย เพราะ.... เพราะมีมึงแค่คนเดียวก็พอแล้ว” มันหันมายิ้มให้ผมอาย ๆ
นาน ๆ จะเห็นมันเป็นแบบนี้ที ทำเอาผมขำ มันเลยหันมาทำตาดุใส่แก้เขิน ฮ่าๆ แต่ผมกลับไม่รู้สึกกลัวสักนิด
“วันนั้นที่กุตะโกนใส่ กุแค่ตกใจ ขอโทษนะแต่ในนั้นมีข้อความเรื่องการเซอร์ไพร์เต็มไปหมด... กลัวมึงรู้
คิดอะไรไม่ออกเลยแกล้งโมโหไว้ก่อน เพราะมันเหลืออีกวันเดียวแล้วแท้ๆ ไม่อยากจะให้ล้มกลางคัน
แต่ ...ตั้งแต่วันนี้มึงจะดูตอนไหน เมื่อไหร่ก็ได้เลย ขอโทษนะ....ที่ทำให้เสียใจ” มันหันมามองผมหน้าหงอย
แต่ผมยิ้มรับ พยักหน้าตอบไปให้ ...
“อืม....ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วหล่ะ” น้ำตาผมหยุดไหลตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้ใบหน้าผมเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------