หนุ่มขี้เก๊กสะดุดรักนายจอมดื้อ By Ms.Shizuru Lesson 141 THE END จบจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: หนุ่มขี้เก๊กสะดุดรักนายจอมดื้อ By Ms.Shizuru Lesson 141 THE END จบจ้า  (อ่าน 445302 ครั้ง)

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-09-2012 21:14:57 โดย shizuruviola »

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
หนุ่มขี้เก๊กสะดุดรักนายจอมดื้อ

Intro

หนุ่มน้อยร่างบางกำลังงัวเงียจากการถูกรบกวนการนอนในเช้าวันหนึ่งจากผู้เป็นอา คนที่คอยดูแลคนร่างเล็กนี้มาตลอด

“อัท ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปรายงานตัวไม่ทันหรอก” ผู้เป็นอาบอกกับอัท ที่ทำท่ายังไม่ตื่น

“อื้อ รู้แล้วน่าอา แปปนึงสิขอตั้งหลักก่อน”

“อย่าเลย บอกแบบนี้ทีไร ลงไปกองกับหมอนทุกที ลุกไปอาบน้ำไปเดี๋ยวอาจะไปส่ง บ้านนากับกรุงเทพไม่ได้ไปห้านาทีถึงหรอกนะ” ผู้เป็นอาบ่นนิดๆ

“อาอ่ะ ขี้บ่นจัง ลุกก็ได้ชิ” คนตัวเล็กหัวเสียเล็กน้อย และทำท่างอนซึ่งสร้างรอยยิ้มให้กับอาของเค้าได้ไม่น้อย หลังจากที่อัทเข้าห้องน้ำไปอาพูดอะไรบางอย่าง

“เมื่อไหร่จะโตสักทีนะ เจ้าอัทของอา” อาของอัทคิดและพูดออกมาเพราะด้วยนิสัยขี้งอน และดื้อไม่มีใครเกินของอัท บวกกับนิสัยขี้เล่นตลอดเวลาจึงทำให้คนที่อยู่รอบๆตัวอัทนั้นเต็มไปด้วยสีสัน   หลังจากที่อัทเข้าห้องน้ำไปได้สัก 10 นาที อาก็ได้ยินเสียงคนตะโกนลงมาจากห้องด้านบน

“อา อัทเสร็จแล้วนะ”

“เฮ้ย  อาบน้ำหรือวิ่งผ่านน้ำมาหึ”

“โถ่อา อัทก็ตัวแค่เนี่ยจะอาบทำไมมากมายให้มันเปลืองน้ำล่ะ”

“เถียงคำไม่ตกฝากเลยไอ้หลานคนนี้ ไปๆขึ้นรถ” อาไล่อัทไปขึ้นรถ

“อา เดี๋ยวแวะรับ เตย ไอซ์ เฟิร์น ด้วยนะเดี๋ยวพวกมันไปด้วย”

“ได้ที่เรียนที่เดียวกันหมดเลยหรอ” อาถามหลานด้วยความสงสัย

“ถูกต้องแล้วครับคุณอาที่รัก คบกันจนตายแหละ”

“อือได้สิ ว่าแต่รับที่ไหนล่ะ”

“ตอนนี้มันรอที่หน้าโรงเรียนนั้นแหละ เดี๋ยวอัทโทรบอกมันก่อนว่ากำลังจะออกไป”

“อาว่า หลานสะใภ้อาก็อยู่ในกลุ่มนี้แหละมั่ง”

“ไม่มีทางอา เห็นไส้เห็นพุงกันหมดแบบนี้ กินกันไม่ลงจริงๆ” อาหัวเราะกับความอารมณ์ดีของหลานของตัวเอง อารักหลานคนนี้มากเมื่อพ่อแม่ของอัทแยกทางกัน อัทก็ไม่ยอมตามไปอยู่กับพ่อกับแม่แต่ร้องจะตามมาอยู่กับตนเลยทำให้เค้าต้องเลี้ยงหลานคนนี้มาโดยตลอด แต่เค้าก็เต็มใจที่จะทำ

“นั้นไงๆ อาจอดๆ” อัทบอกอาให้จอดรถใต้สะพานลอยหน้าโรงเรียน

“ใจเย็นๆสิอัท เพื่อนไม่หนีไปไหนหรอก” เมื่อพูดจบรถก็จอดสนิทพอดี

“คุณอาสวัสดีค่ะ” เตย เฟิร์น ไอซ์ กล่าวทักทายอาของอัท

“สวัสดีครับ” อารับไหว้แล้วยิ้มให้ทุกคน

“ไอซ์มึงอ้วนขึ้นปะเนี่ย แม่งพุงโผล่เชียว” อัทเริ่มกวนไอซ์ก่อนเป็นคนแรก

“โหย ไอ้เตี้ยมึงก็ไม่สูงขึ้นเลยนะไอ้ห่า” ไอซ์ตอกกลับอย่างโมโห

“ถึงกูเตี้ยก็ไม่ได้ขอข้าวใครกินเว้ย” อัทยังไม่ยอมแพ้

“กูพุงโผล่ก็ไม่ได้หนักกะบาลมึงเหมือนกัน” ไอซ์ก็ไม่ยอมเช่นกัน

“หนักสิวะ กูหนักใจมีเพื่อนเป็นหมู ฮ่าๆๆๆๆ” อัทหัวเราะร่าในชัยชนะเพราะไอซ์เลิกต่อล้อต่อเถียงด้วยความรำคาญ

“พวกมึงหิวไหมวะ” คนตัวเล็กหันไปถามเพื่อน

“ไม่หิวหรอกว่ะ” เฟิร์นตอบ

“กูตื่นเต้นว่ะ ปวดฉี่ไปหมดเลย” เตยตอบ

“ใจเย็นโว้ย สัมภาษณ์ก็ผ่านมาแล้วกลัวห่าอะไร” คนตัวเล็กพูดอย่างอารมณ์ดี แต่จริงๆในใจเค้าก็แอบกลัวเหมือนกัน

“ก็กูตื่นเต้นนี่หว่า” เตยพูดอย่างงอนๆ และแล้วตอนนี้ ทั้งหมดก็มาถึงมหาวิทยาลัยแล้ว

“อัท กับเพื่อนไปรายงานตัวก่อนไปเดี๋ยวอาไปทำธุระก่อน”

“ครับอา ขอบคุณครับที่มาส่ง ไปเตย เฟิร์น ไอซ์ พร้อมนะเว้ย”

“เออ พร้อม” ทั้งสามคนตอบพร้อมกันและอาของอัทก็ขับรถออกไปจากมหาวิทยาลัย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-12-2011 19:23:46 โดย shizuruviola »

ออฟไลน์ EVE910

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 550
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 1

( Autt Part )

ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าห้องรายงานตัวแล้ว ผมพยายามทำใจให้สบายที่สุด แต่อีกสามคนที่อยู่ข้างๆผมเนี่ยสิ

“เฮ้ยๆ ผีเข้าหรอพวกมึงอ่ะ”

“เข้าแม่มึงอ่ะสิ กูตื่นเต้น” ไอซ์สวนกลับมาทันควัน สมกับที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลของผม

“อัท มึงดูใจเย็นจังนะ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าเล่นสนุกนะโว้ย มันชี้อนาคตกูได้เลยนะ” เฟิร์นมันหันมาบอกผม

“กูก็รู้แต่มึงตื่นเต้นไปก็เท่านั้นแหละว่ะ สู้มึงทำใจกล้าๆเข้าไว้ดีกว่า นี่แค่รายงานตัว ก็แค่เข้าไปแนะนำตัวเองแล้วก็ออกมาแค่นั้นเองมึงจะกังวลอะไรนักหนา” ผมว่ามันยืดยาว

“เออ กูจะพยายาม” เสียงตอบจากเฟิร์น จากนั้นพวกเราก็เงียบสนิทเหมือนเตรียมใจมาทำอะไรกันสักอย่างที่มันผิดมากๆ เพราะได้ยินแต่เสียงลมหายใจของคนสี่คน

“นางสาว จุฑารัตน์ แหยมนุช เชิญค่ะ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินออกมาประกาศเรียกชื่อเตยไปแล้ว ผมว่าน่าจะเป็นอาจารย์นั้นแหละ

“เฮ้ย เค้าเรียกชื่อกูแล้วอ่ะ” เตยพูดเสียงสั่นๆเล็กน้อย

“ใจเย็นๆดิ ไม่มีอะไรหรอก ไปๆเข้าไปได้แล้ว” ผมดันหลังให้เตยเข้าห้องไป และเมื่อเวลาผ่านไปสักครู่นึง เจ้าหน้าที่คนเดิมก็มาเรียกชื่อ ไอซ์ และเฟิร์นไปจนหมดเหลือแต่ผมนั่งอยู่คนเดียว

“นาย จิรายุส เขษมพันธ์ เชิญค่ะ” เค้าเรียกชื่อผมแล้ว

“คะ...ครับ” ผมตื่นเต้นนิดหน่อย แม้จะสอบสัมภาษณ์ผ่านแต่มันก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นอยู่ดี  เมื่อผมเข้าไปในห้องก็พบกับชายสูงวัยคนนึง ท่าทางจะเป็นผู้อำนวยการ

“สวัสดีครับ”

“สวัสดี เชิญนั่ง” เค้าพูดด้วยท่าทางเข้มๆ คงจะรักษามาดของผู้นวยการเพื่อที่จะได้มีคนเกรงกลัวบ้าง

“ครับ” ผมตอบสั้นๆ

“อ่ะ เชิญแนะนำตัวเองได้”

“ครับ ผมชื่อนาย จิรายุส เขษมพันธ์ จบจากโรงเรียน MS สาย ศิลป์-คำนวณ อายุ 18 ปี” แล้วผู้อำนวยการก็เปิดแฟ้มอะไรสักอย่างดู แล้วก็เงยหน้าขึ้นมาถามผม

“ทำไมถึงเลือกเรียน บริหารล่ะ”

“คือผมชอบทำงานบริหารน่ะครับ”

“อื้ม....งั้นผมขอให้คุณโชคดี พยายามเข้าล่ะ”

“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้แล้วออกมาจากห้องไปหาพวกเตยที่รออยู่ข้างล่าง

“ไอ้อัท เป็นไงบ้างวะ” เฟิร์นเป็นผู้ถามผม

“ก็ดี ไม่เห็นมีอะไรเลย” ตอแหล!!!! ที่สุดอ่ะ ตื่นเต้นแทบตาย

“มึงคงไม่ได้ไปกวนตีนผู้อำนวยการหรอกนะ” ไอซ์เอ่ยขึ้น

“ใครจะกล้าวะ” ผมก็สวนขึ้นทันควันเหมือนกัน

“เออดี ให้มันรู้กาลเทศะซะบ้าง” ไอซ์แอบเหน็บผม

“มึงบ่นอะไร อีหมูตอน ฮ่าๆๆๆๆ” ผมหยอกไอซ์แรงนิดหน่อย จริงแล้วไอซ์ก็ไม่ได้อ้วนหรอกเพียงแต่อวบนิดหน่อย แต่มันก็ดูน่ารักดี

“หมูตอนพ่อมึงสิ เดี๋ยวกูถีบหงาย”

“แน่จริงมึงวิ่งตามกูให้ทันก่อนเถอะ อียักษ์ขมูขี ฮ่าๆๆๆ”

“ไอ้อัท!!!! ไอ้เตี้ยยยยยย” ไอ้ไอซ์วิ่งไล่ผมมา แต่มันตามผมไม่ทันหรอกครับ ผมมาแอบยืนอยู่ข้างตึกคณะอะไรไม่รู้

“ไอ้อัท มึงตาย!!!!” ไอซ์ชี้หน้าคาดโทษผม

“ฮ่าๆๆ ตามมาดิอะไรหมดน้ำยาแล้วหรอ งั้นกูไปละ” ผมวิ่งไปหัวเราะไปแล้วก็ไปชนกับใครคนหนึ่ง

“ปึก.....โอ้ยยยยย” เสียงของคนที่ผมชนร้องขึ้น

“โอ้ยยยย   ซี้ด” สภาพผมก็ไม่ต่างกันเจ็บตัวเลย

“มึงเดินยังไงของมึงวะ...” ตอนแรกเค้าก็จะด่าผมแต่พอเงยหน้ามาเห็นผมเค้าก็หยุดด่า

“…” ผมไม่พูดอะไร

“ขอโทษครับสุดสวย” สุดสวย!!!! ผมปรี๊ดทันที

“สุดสวยแม่มึงสิ กูผู้ชาย” ผมตอบกลับด้วยความโมโห ถึงจะมีคนทักผมเป็นผู้หญิงบ่อยก็เถอะ แต่ยังไงมันก็ไม่ชินอยู่ดีอ่ะ

“อ้าวเฮ้ย ไอ้เหี้ย พูดแบบนี้จะหาเรื่องกูหรอวะ”

“ไม่มีใครเค้าอยากหาเรื่องมึงหรอก ถ้ามึงไม่เสือกปากพล่อย” ผมตอบมันกลับไป

“ไอ้สัด แลกกับกูสักหมัดไหม!!!” พูดจบมันก็พุ่งเข้ามาหาผมทันที

“เฮ้ย ไอ้สัดกูไม่กลัวมึงหรอก” ผมก็พุ่งเข้าหามันเหมือนกัน คนอย่างผมฆ่าได้แต่หยามไม่ได้

“เฮ้ยๆ หยุด หยุด หยุด!!!” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่พวกเราจะปะทะกัน ผมและไอ้หน้าหล่อชะงักและหันไปตามเสียง ก็เจอกับผู้ชายคนนึง ผิวขาว-เหลือง สูงน่าจะประมาณ 177 รูปร่างพอดีไม่ผอมไม่อ้วน

“จะอยู่รั่วมหาลัยเดียวกันอยู่แล้วเสือกตีกันเป็นหมาบ้าไปได้ เดี๋ยวกูซ่อมแม่งตั้งแต่ยังไม่รับน้องซะเลย ไอ้พวกห่านี้ ไปๆ แยกๆ” เมื่อพี่คนนั้นพูดจบก็เดินมาผลักผมกับไอ้หน้าหล่อไปกันคนละทาง

“แล้วจำไว้ พวกมึงอย่าทะเลาะกันอีก ไม่งั้นกูเอาตาย!!!” พี่คนนั้นมองจิกมาที่ผม ผมหันหน้าหนีไม่กล้าสบตา โอ้ยอะไรวะเนี่ย ขนาดแต่วันรายงานตัว ก็มีเรื่องแล้วถ้ามาเรียนจะมีอะไรตามมาอีกวะ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

ออฟไลน์ EVE910

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 550
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ติดตามต่อจ้า

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 2

( Autt Part )

หลังจากที่ผมกับไอ้เวรหน้าหล่อนั้นแยกกันผมก็เดินไปหาเตย ด้วยอารมณ์ที่บึ้งตึงสุดๆ ผมชักไม่อยากอยู่มหาลัยนี้แล้วสิ

“อ้าว นั้นไงไอ้อัทอ่ะ ไอซ์” เตยหันไปบอกไอซ์

“ไอ้เตี้ยมานี่ซะดีๆ” ไอซ์วิ่งเข้ามาหาผม

“เฮ้ย อย่าพึ่งดิ แม่งหงุดหงิดว่ะ” ผมบอกไอซ์ ไอซ์ก็หยุดแต่โดยดี พวกเรารู้ใจกันที่สุด ซึ่งถ้าหากผมอารมณ์เสียพวกนี่ก็จะหยุดเล่นและทำท่าเอาจริงกับชีวิตขึ้นทันที

“ไปแดกรังต่อรังแตนที่ไหนมาล่ะ” ไอซ์ถามผม

“เปล่าหรอก แม่งซวยนิดหน่อย เจอพวกเลี้ยงหมาในปาก” ผมบ่นอย่างอารมณ์เสีย

“ใครวะ อัท แล้วมึงทำไมต้องอารมณ์เสียด้วยวะ”

“ก็แม่งกู กำลังวิ่งหนีไอ้ไอซ์อยู่นี่แหละ แต่กูซวยเหี้ยอะไรไม่รู้ แม่งไปชนกับไอ้เวรที่ไหนก็ไม่รู้” ผมบ่นยาวเหยียด

“แล้วมึงอารมณ์เสียอะไรมา” คราวนี้เฟิร์นเป็นคนถามผม

“ก็กูอารมณ์เสียไอ้เวรนั้นแหละ แม่งพอชนแล้วมันเสือกบอกว่า ขอโทษครับสุดสวย” เมื่อผมพูดจบพวกเพื่อนผมก็มีปฏิกิริยาทันที

“อึก...อึก....คิก คิก.....ก๊ากกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ไอซ์ระเบิดหัวเราะดังลั่นแล้วตามมาด้วยเสียงของคนอื่น

“ขำเหี้ยอะไร กูไม่ขำนะโว้ย” ผมโวย

“เอาอีกแล้วหรอวะ รายที่เท่าไรแล้ววะเนี่ย กูว่ามึงน่าจะชินได้แล้วนะ” ไอซ์พูดไปขำไป

“พวกมึงมากไปและ หัวเราะขนาดนี้เดี๋ยวก็ตายหรอก” ผมบอกพวกมันแต่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุด

“สาธุ กูขอให้พวกมึงท้องเกร็งตาย” ผมแช่งพวกมันแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“จะโทรหาใครวะอัท” เฟิร์นถามผม

“เสือกเหี้ยไรล่ะ อีเฟิร์นหยัน” ผมจัดมันไปหนึ่งดอก มันฟันหน้ายาวไปหน่อยผมเลยตั้งฉายามันว่าเฟิร์นหยัน - - -> ฟันเหยิน 555555

“ดอก ถามดีๆ กวนตีนซะงั้น” มันบ่นนิดหน่อย

“กูจะโทรหาอาอ่ะแหละ จะได้บอกเค้าว่าเสร็จแล้ว” พูดจบผมก็กดเบอร์โทรหาอาทันที สักพักปลายสายก็รับ

“ฮัลโหล อา อัทเสร็จแล้วนะ”

(รออาอยู่นั้นแหละเดี๋ยวอาเสร็จธุระแล้วจะไปรับ)

“อาอยู่ไหนเนี่ย” ผมถาม

(ทำธุระอยู่ เดี๋ยวเสร็จแล้วรอหน่อยสิ)

“ครับอา เร็วๆล่ะ อัทอยากกลับบ้าน” พูดจบผมก็วางสายทันที

“ว่าไงวะอัท” ไอซ์ถามผม

“อาทำธุระอยู่ว่ะ อีกสักพักคงเสร็จ กูว่าเราไปหาไรกินกันก่อนไหมวะ” ผมชวนพวกมัน

“เออ ก็ดีว่ะกำลังหิวเลย” เตยพูดขึ้น

“มึงก็หิวตลอดเวลาอ่ะแหละ ถึงได้อ้วนเป็นหมูแบบนี้ไง”

“ไอ้อัท ไอ้ปากไม่หูรูดเดี๋ยวแม่ตบชัก!!!”

“กูไม่เคยกลัวเว้ย” ผมกวนลมมัน

“กูไม่เถียงกับมึงและ  ไปกันได้ยังอ่ะ”

“เออๆ ไปก็ไป กิน MK นะ” ผมไม่ฟังพวกมันเสนอความเห็นหรอก ลากมันไปเลยง่ายกว่า พวกผมกินกันจนอิ่ม แล้วกลับมารอที่มหาลัยที่เดิม ผมรอสักพักรถของอาก็แล่นเข้ามาในมหาวิทยาลัย

“ไง อัท เตย เฟิร์น ไอซ์ โทษทีนะ รอนานเลย พอดีอาติดธุระสำคัญน่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ อา ว่าแต่อาไปทำอะไรมา” ผมถามอา

“อื้ม อามีเรื่องจะบอกอัทด้วยนะ อัทไม่ต้องกลับบ้านที่บ้านนานะ”

“อ้าว!!! ทำไมล่ะอา” ผมถามอาด้วยความตกใจ มีอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้

“ก็อาไปซื้อคอนโด ใกล้ๆกับมหาลัยไว้แล้ว ให้อัทนั้นแหละ”

“อาไปซื้อทำไม มันแพงจะตายคอนโดในกรุงเทพอ่ะ อัทอยู่ห้องเช่าก็ได้” ผมบอกอาผมมองว่ามันสิ้นเปลืองเกินไปถึงอาผมจะมีเงินมากมายก็เถอะ

“ไม่แพงหรอกสำหรับหลานอา แค่นี้เล็กน้อยน่า”

“แต่ว่า...” ผมพูดไม่ทันจบอาก็พูดแทรกขึ้น

“ไม่มีแต่แล้ว...แล้วอาก็จะให้อัทลองอยู่ไปจนถึงเปิดเทอมเลย”

“เอ้ย อาแต่อัทยังไม่ได้เตรียมตัวเลย ของใช้ เสื้อผ้าอะไรอีกเยอะแยะ” ผมยกเหตุผลร้อยแปดพันเก้าเพราะอยากกลับไปบ้าน

“อาเตรียมทุกอย่างมาแล้ว”

“อาจะเอาของอัทมาได้ยังไง ยังไงอาก็เอามาไม่ครบหรอก” ผมบอก

“ไปดูหลังรถ” เมื่ออาพูดจบผมก็รีบไปดูที่หลังรถ และเมื่อเปิดกระโปรงรถดูก็มีแต่พวกกระเป๋าเสื้อผ้า กับพวกรองเท้า และของใช้ส่วนตัว

“อาเอามาไม่ครบอ่ะ ของอัทยังไม่ครบเลย” ผมบอกเมื่อเช็คของตัวเองแล้วมันไม่ครบจริงๆ

“เดี๋ยวอาพาไปดูที่ห้องนะ” อาพูดจบพวกเราก็พากันขึ้นรถเพื่อไปดูคอนโดที่ผมจะเข้าไปอยู่ อาขับรถมาไม่ถึงห้านาทีก็ถึงมันอยู่เยื้องๆกับมหาลัยนิดหน่อย

“ถึงแล้วที่นี่แหละ คอนโดของอัท” อาพูดบอกผม

“อา อัทว่ามันแพงไปไหม” ผมโอดครวญ ก็เพราะคอนโดที่อาซื้อให้ผมมันเป็นคอนโดขนาดใหญ่เลย ท่าทางจะแพงมากเอาเรื่องเลยทีเดียว

“ขึ้นไปดูข้างบนเถอะ” อาไม่พูดโต้อะไรแต่บอกให้ผมขึ้นไปดูห้อง เมื่อมาถึงหน้าห้องผมเปิดประตูเข้าไปก็ยิ่งตะลึงมากกว่าเดิม คอนโดนี่มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น และ 1 ห้องครัว  เมื่อผมเดินสำรวจของใช้ทุกอย่างของผมก็อยู่ในห้องเรียบร้อยแล้ว

“อาอัทว่ามันมากไปนะ” ผมเริ่มทำสีหน้าเครียดเพราะผมรู้สึกเกรงใจอามากๆ

“เฮ้ย อย่าคิดอะไรมาก ก็บอกแล้วไงสำหรับหลานอาไม่มากไปหรอก” เมื่ออาพูดขนาดนี้ถ้าผมยังดื้ออีกคงไม่ใช่เรื่อง ผมจึงหันไปคุยกับพวกเตย

“เตย แล้วพวกมึงพักที่ไหนอ่ะ” ผมถามมัน

“กูจะไปอยู่คอนโดพี่กูอ่ะ” อ้อ ไปอยู่กับพี่......แต่เตยมันลูกคนเดียวไม่ใช่หรอวะ

“พี่ไหนวะเตย กูจำได้ว่ามึงเป็นลูกคนเดียว”

“เค้าเป็นลูกน้ากูอ่ะ แต่แก่กว่ากู อยู่ปี 2 มหาลัยเดียวกับพวกเราอ่ะแหละ”

“อ๋อ....แต่สี่คนจะอยู่กันยังไงวะ”

“แค่สามคน พี่กูเค้าไปอยู่กับแฟน” โอ้ยแรง ใช่ผู้หญิงแน่หรอวะถึงกล้าออกไปอยู่กับแฟน

“แล้วพี่มึงเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายวะ”

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
รออ่านคร้าฟฟ มาไวๆนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
รอตอนต่อไปจร้า

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เป็นคุณอาที่รักหลานมากๆ เลยนะครับเนี่ย ลงทุนสุดๆ
คุณอามีคนดูแลหรือยังครับ? ^^

ออฟไลน์ EVE910

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 550
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ต้อนรับเรื่องใหม่
รอตอนหน้านะคะ

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 3

( Autt Part )

“มึงจะรู้ไปทำไม ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เองแหละ”

“เออ ไอ้สัดแค่นี้ต้องกั๊กไม่บอกด้วย” ผมทำท่างอนไอ้เตย

“เออ งอนเข้าไปเถอะ น่ารักตายอ่ะไอ้ห่า”

“ชิ พวกมึงกลับไปเลย กูไล่” ผมตั้งท่าไล่พวกมัน

“ทำยังกับพวกกูอยากอยู่ตายอ่ะแหละ อาคะเดี๋ยวพวกหนูกลับบ้านนาด้วยนะคะ เดี๋ยวต้องไปเก็บของแล้วพรุ่งนี้ถึงจะมาอยู่ในกรุงเทพ” ไอซ์บอกกับอาผม

“อื้มได้สิ เดี๋ยวอาไปส่ง....นี่ก็จะค่ำละเรากลับกันดีกว่า” เมื่ออาผมทำท่าจะกลับ

“อา ผมขอกลับไปด้วยสิ” ผมอ้อนอา

“ไม่ต้องเลย หัดอยู่คนเดียวซะบ้าง จะได้ชิน อีกอาทิตย์เดียวมหาลัยก็เปิดแล้วนิ”

“ก็ใช่แต่ว่า...” ผมพูดไม่ทันจบอาก็พาพวกเตยออกไปจากห้อง

“ดูแลตัวเองดีดีล่ะ อากลับละ” อาปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว ผมทำอะไรไม่ถูกตอนนี้ ก็เลยจัดของตัวเองไปพลางๆให้เข้าที่เข้าทาง สำรวจข้าวของเครื่องใช้ว่าขาดเหลืออะไรบ้างจะได้รีบออกไปซื้อ

“เอ...ยาสระผมไม่มี สบู่ไม่มี อะไรอีกหว่า....เออ มาม่าด้วยเผื่อหิว” ผมบ่นพรึมพรำคนเดียวเมื่อแน่ใจว่าไม่มีของขาดแล้วก็ออกไปซื้อของที่ห้างใกล้ๆคอนโดเนี่ยแหละ

เมื่อมาถึงห้างผมก็ตรงดิ่งไปที่ยาสระผม กับสบู่ และซื้อของอย่างอื่นอีกนิดหน่อยและตอนนี้ผมก็กำลังเดินไปแถบชั้นมาม่า  แต่ในขณะที่ผมกำลังเดินไปอยู่ก็ไปกระแทกกับอะไรเข้า

“ปึก...อุ้ยยย ขอโทษครับ” ผมรีบขอโทษคนที่โดนผมเข็นรถชน

“ไม่เป็นไรครับ” เมื่อเค้าหันหน้ามาผมก็....

“มะ..มึง  ไอ้ปากพล่อย”

“อ้าว...สุดสวยมาทำอะไรคนเดียวจ๊ะ” สุดสวย - - กวนตีนกูเอาโล่หรอ

“แหมๆ เจอกี่ทีหมาก็ยังอยู่ครบทุกตัวเลยนะ” ผมแอบเหน็บมัน

“โถ อีตุ๊ด กูหยอดหน่อยเดียวทำเป็น” ผมปรี๊ดอีกแล้วครับ

“ตุ๊ดพ่อมึงอ่ะดิ เจอกับกูได้นะไอ้สัด” ผมท้ามัน

“โธ่ ตัวเท่าลูกหมาเสือกไม่เจียมตัวนะมึงไอ้เตี้ย” มึงจะเรียกกูว่าเหี้ยอะไรแน่เนี่ย

“โป๊ก.....โอ้ย...” ผมหยิบของแถวนั้นเขวี้ยงหัวมันครับแล้วโดนซะด้วยแม่นเหมือนกันนะเนี่ยเราอ่ะ

“สัดเอ้ย มึงอยากลองดีกับกูใช่ไหม”

“แบร่ ๆ แน่จริงมึงก็เข้ามาสิ ฮ่าๆๆๆ” ผมรีบเข็นรถเตรียมหนีมันแต่

“โอ้ย....ขอโทษครับ” ผมรีบขอโทษคนตรงหน้า

“ไม่เป็นไรครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” เมื่อผมเงยหน้าขึ้นไปมองคนตรงหน้าก็พบผู้ชายผิวสองสี สูงซัก 178 ไม่อ้วนไม่ผอม ยืนมองผมอยู่

“ผมไม่เป็นไร ขอบคุณครับ” ผมส่งยิ้มกลับไป

“ไอ้ป๊อปไมไปไวจังวะ” มีเสียงคนพูดมาจากข้างหลังผม

“กูก็จะมาชวนมึงไปเลือกนี่แหละ เดี๋ยวเลือกมาไม่ถูกใจองค์จะลงมึงอีก”

“กวนตีนไอ้สัด ไปๆ   ไปก่อนนะจ๊ะ อีตุ๊ด” เมื่อมันพูดจบ ป๊อปก็มองมาที่ผม

“ตุ๊ดแม่มึงอ่ะสิ มึงระวังปากจะไม่ได้แดกข้าว” ผมด่ามันแล้วก็รีบเข็นรถออกมาจากตรงนั้นให้ไวที่สุด บอกตามตรงอายคนที่ชื่อป๊อปจังที่โดนไอ้เวรนั่นหาว่าเป็นตุ๊ด

เมื่อผมเดินซื้อของทั่วๆจนพอใจผมก็กลับมาที่คอนโด แล้วก็เอาของที่ซื้อมาจัดให้เข้าที่เข้าทาง เมื่อจัดเสร็จก็ไปนั่งดูทีวี จนเกือบห้าทุ่ม

“เฮ้อ....เหงาจังวุ้ย” ผมบ่นกับตัวเอง จริงๆผมค่อนข้างจะขี้เหงาเล็กน้อยเวลาต้องอยู่คนเดียว สรุปคืนนั้นผมก็หลับคาโซฟาหน้าทีวีนั้นแหละ

“ติ๊ด...ติ๊ด....ติ๊ด...” ผมงัวเงียขึ้นเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ผมหยิบมารับทั้งๆที่ไม่ได้ดูเบอร์

“ฮาโหล” ผมตอบรับปลายสาย

“อัท ทำไมยังไม่ตื่นอีกจะเที่ยงแล้วนะเมื่อคืนนี้ทำอะไร”

“เปล่าไม่ได้ทำอะไร แต่เหนื่อยมาหลายวันอยากพักนิดหน่อย” ผมบอกเหตุผลกับอา

“เดี๋ยวลงไปหาข้าวหาปลากินซะด้วยล่ะ”

“ทราบแล้ว” พูดจบผมก็วางสาย

“เฮ้อ วันนี้ทำอะไรดี มันว่างไปเปล่าวะเนี่ย” ผมรู้สึกมันว่างไปไม่มีอะไรทำเลย เมื่อผมคิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจ......นอนต่อ เพราะนี้พึ่งจะเที่ยง   ผมตื่นอีกทีก็ตอนสี่โมงเย็น ผมจึงคิดว่าน่าจะออกไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะแถวนี้หน่อย ไม่ได้ออกกำลังกายมานานแล้ว  และเมื่อผมมาถึงจากที่คิดว่าจะออกกำลังกายก็หายแวบไปจากสมองทันที แม่งคนเยอะเป็นบ้าเลย

“เฮ้ออออ   เดินเล่นเอาละกันนะ” ผมเดินไปรอบๆสวนสาธารณะก็ร่มรื่นดี ลมเย็นมากขนาดนี่พึ่งจะสี่โมงครึ่งเองนะเนี่ย และขณะที่ผมกำลังเดินเพลินๆอยู่นั่นเอง

“อ้าว น้องตุ๊ดจ้า มาทำอะไรจ๊ะ” เมื่อผมหันไปทางต้นสูงก็หมดอารมณ์เดินเล่นไปทันที

“กูจะมาทำเหี้ยไรก็เรื่องของกู ทำไมกูต้องเจอมึงแทบทุกที่เลยวะ ไอ้สัดหมานิ!!!” ผมจัดมันไปหนึ่งดอก

“โถ ไอ้ควายทำอย่างกับกูอยากเจอมึงมากนี่” มันสวนผม

“มึงจะไปไหนก็ไปป่ะ ไอ้ปลวกทะเล” ผมจัดให้มันดอกที่สอง

“ถ้ากูปลวกทะเล มึงก็ไอ้หนอนไส้เดือนแหละวะ”

“งั้นมึงก็คงเป็น พยาธิข้างขี้อ่ะสิวะ ฮ่าๆๆๆๆ” ผมสวนมันทันควันแถมตามด้วยเสียงหัวเราะดังลั่น

“ไอ้สัด ปากดีนะมึงไอ้เหี้ยเตี้ย ถึงจะเป็นตุ๊ดกูก็ไม่เว้นนะโว้ย บอกไว้ก่อน” ดูท่าทางมันอารมณ์เสียนิดหน่อย

“กูกลัวมึงตายอ่ะ แลกกับกูสักหมัดก็ได้นะโว้ย” ผมก็ใจดีสู้เสือ ปกติไม่ยอมใครอยู่แล้ว

“ฟึ่บ....ฟึ่บ....ฟึ่บ” มันสาวเท้าเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ยๆ ไอ้สัดขี้โกงเล่นทีเผลอนี่หว่า” ผมรีบสาวเท้าหนีมันทันที

“อย่าหนีนะโว้ย” มันตะโกนไล่หลังผมมา

“จะให้กูอยู่ตีหัวพ่อมึงหรอ ฮ่าๆๆๆ” ผมหัวเราะลั่นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า เพราะถึงแม้ผมจะตัวเล็กแต่ก็คล่องตัวอยู่นะ  และเมื่อผมวิ่งมาได้สักพักก็ชนกับคนอื่นอีกแล้ว

“ตุ้บ...โอ้ย......ขอโทษครับ” ผมรีบขอโทษก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองเสียอีก

“อ้าวนาย…” เมื่อผมเงยหน้าขึ้นไปมองก็ต้องแปลกใจ

“เจอกันอีกแล้วนะ บังเอิญจัง” ป๊อปนั่นเองคนที่ผมชน

“นายมากับไอ้เวรตะลัยนั่นหรอ” ผมถามแล้วชี้ไปที่ไอ้หน้าหล่อ

“โห แรงนะนาย มันชื่อวิน มันก็กวนตีนแบบนี้แหละ ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ”

“เราชื่ออัท..” ผมยังแนะนำตัวไม่ทันเสร็จก็มีอีกเสียงดังขึ้น

“ไอ้ป๊อปจับไอ้เหี้ยเตี้ยนั่นไว้ เร็ว!!!” ไอ้เวรนั่นมันตะโกนลั่น และเมื่อผมกันกลับมา

“ปึ้ก....จับได้แล้ว” ป๊อปจับข้อมือผม

“เฮ้ยๆ ปล่อยนะเว้ย” ผมสะบัดจนสุดแรงแต่เหมือนจะไม่มีประโยชน์ ไอ้พวกนี้มันแดกควายกันหรือไงวะ ตัวถึงได้มโหฬาลขนาดนี้ หรือว่ากูตัวเล็กเองวะ

“ไม่ปล่อยหรอ จัดให้     ผลั๊กกกกก” ผมถีบไปที่หน้าท้องป๊อปอย่างแรง

“โอ้ย.....”

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 4

( Win Part )

ผมเห็นไอ้ป๊อปลงไปนอนกองอยู่กับพื้นเพราะโดนไอ้ตัวแสบถีบที่ท้องอย่างจัง ตัวแค่นั้นทำไมมันฤทธิ์เยอะนักล่ะวะ ผมรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุด แต่ไอ้เตี้ยแม่งไวเป็นลิงเลย ผมจึงบอกเพื่อนๆผมที่อยู่ในสวนสาธารณะช่วยกันจับ

“ไอ้วาล ไอ้พัด ไอ้ปาล์ม ไอ้เบิร์น ช่วยกันจับไอ้เหี้ยเตี้ยนั่นดิ” ผมชี้นิ้วไปที่ไอ้เตี้ยที่วิ่งอยู่ข้างหน้า

“ไมวะ มันไปทำไรให้มึง” ไอ้วาลถาม

“มึงหันไปดูสภาพไอ้ป๊อปเอาดิ” ผมโยงให้ดูเหมือนว่าไอ้ป๊อปโดนทำร้าย

“เฮ้ย สัดมันเป็นไรมากปะวะ เฮ้ยพวกเราช่วยกันจับมันมาเร็ว” ไอ้วาลพูดจบก็รีบวิ่งตามไอ้เตี้ยนั่นไปดักซ้ายดักขวากันวุ่นวายไปหมด แต่ก็จับไม่ได้สักที จนตอนนี้ หกโมงครึ่ง

“แม่งไวจังวะไอ้เหี้ย” ไอ้ปาล์มบ่น

“นั้นดิ วิ่งมาจะสองชั่วโมงแล้ว แม่งยังหัวเราะได้อยู่เลย” คราวนี้ไอ้เบิร์น

“กูว่าเราต้องมี Plan เว้ย” ผมบอกพวกมัน

“อะไรของมึงวะ ไอ้มี Plan เนี่ย” ไอ้พัดทำท่างงสุดขีด

“แผน แผนการน่ะ ไอ้ควาย มึงเรียนจบมาได้ไงวะ” ผมด่ามัน

“เออ เอาไว้ก่อนเดี๋ยวบอกทีหลัง ตอนนี้มึงมีอะไรรีบพูดมา” ไอ้พัดเร่งเร้าผม

“คืออย่างนี้นะ......ซุบซิบ...ซุบซิบ” เมื่อผมบอกแผนการพวกมันเสร็จเราก็ดำเนินการทันที โดยการให้ไอ้พัดวิ่งตามไอ้เตี้ยไปคนเดียวแล้วสักพักก็จะให้มันแกล้งเป็นหอบ ผมคิดว่าไอ้เตี้ยมังคงไม่ใจร้ายขนาดที่จะเห็นคนอื่นเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตาได้หรอก

“เห้ยๆ ไอ้พัดมันเริ่มแล้วเว้ย” ไอ้ปาล์มสะกิดให้ผมดู แล้วก็ตามคาดครับ ไอ้เตี้ยนั่นมันเข้าไปดูไอ้พัดจริงๆ แล้วตอนนี้พวกผมก็เริ่มเคลื่อนไหว เราจะเดินเข้าไปหามันพร้อมกันเป็นหกเหลี่ยมเพื่อที่จะได้จับตัวมันได้

“พร้อมนะมึง” ไอ้เบิร์นหันมาถามผม

“เสมอเว้ย” ผมตอบมัน

“งั้น...ลุย!!!” พวกผมวิ่งกรูไปหาไอ้เตี้ยแล้วล้อมมันไว้ได้สำเร็จ

“เฮ้ยๆ มึงตอแหลกูหรอ ไอ้ควาย ไอ้หน้าเหี้ย” ไอ้เตี้ยโวยวาย

“มึงจะด่าเหี้ยอะไรมากมายวะ เดี๋ยวปั๊ดจับทำเมียแม่งเลย” ไอ้เบิร์นพูด

“เฮ้ย มึงมันก็ชอบอ่ะดิ ใช่ไหมจ๊ะ คุณตุ๊ด” ผมล้อเลียนมัน

“ไอ้เหี้ยปล่อยกูนะ กูหลุดไปได้จะซัดแม่งให้หงายทั้งหมดเนี่ยแหละ” ไอ้เตี้ย ดูท่าทางมันเริ่มโมโหขึ้นมาแล้ว

“โอ้วววว  มึงดูมันแต่งตัวดิ” ไอ้วาลพูด พวกเราก็พิจารณาการแต่งตัวของมัน....คือแบบว่า...

“ซู้ดดดดด.....คุณตุ๊ดว่างไหมจ๊ะ ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้เบิร์นกวนตีนไอ้เตี้ยครับ

“ไม่ว่างโว้ยยยย กูต้องไปจัดงานศพพวกมึง” ไอ้เตี้ยโวยวายไม่หยุด

“จุ๊ๆ พูดจาไม่เหมาะสมเลยต้องเดินทำโทษ” ไอ้เบิร์นพูดจบก็จับก้นไอ้เตี้ยไปหนึ่งที

“เห้ย ทำอะไร!!!” ไอ้เตี้ยตะโกนด้วยความตกใจ

“ไม่ชอบหรอ งั้น...แบบนี้” ไอ้เบิร์นลูบขาเนียนๆของมัน

“หึ้ย  พวกมึง  พวกมึง   พวกมึง!!!!!!” ไอ้เตี้ยตะโกนสุดเสียงแล้วก็หน้าแดงก่ำตัวสั่นหงึกๆ และเริ่มหายใจติดขัด

“เฮ้ยๆ มันเป็นอะไรวะ” ไอ้ปาล์มถาม

“เห้ย แม่งชักเปล่าวะ พามันไปโรงพยาบาลเถอะว่ะ ไม่น่าเล่นมากเลยกู” ไอ้เบิร์นบ่น พวกเราจึงรีบขับรถตามกันไปโรงพยาบาลทันที เมื่อถึงโรงพยาบาลแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก

“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ” เสียงพูดจากปลายสาย

“ครีม วินเองนะ” ผมรีบบอก

“อ้าว วินหรอ มีไรวะปกติไม่เคยจะโทรหาหรอก”

“พี่บอกพ่อกับแม่ด้วยนะว่าวันนี้อาจจะไม่กลับบ้าน ต้องเฝ้าคนป่วยที่โรงพยาบาล”

“ใครเป็นอะไรวะ” พี่ครีมถาม

“เปล่าหรอก ก็วินวิ่งไล่ใครก็ไม่รู้จนมันชักอ่ะ” ผมตอบตามความจริงแต่มันก็ไม่จริงทั้งหมดหรอกนะ

“อ้าว ไอ้น้องเวรอยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องใส่ตัวตลอด”

“เออ อย่าบ่นมากบอกพ่อกับแม่ด้วย แค่เนี่ยแหละ” ผมรีบตัดบท

“เดี๋ยว อยู่โรงพยาบาลไหนเดี๋ยวจะไปดูคนป่วย”

“จะมาทำไม มันมีแต่ผู้ชายอยู่กัน” ผมบอกเพราะมันจะดูไม่งาม

“นั้นแหละประเด็นที่กูจะไป รีบบอกมาได้แล้ว” ผมลืมไปว่าเนี่ยพี่ผม มันแรด!!! ซะยิ่งกว่าอะไรอีก

“เออ อยู่โรงพยาบาล................” ผมตอบกลับไป

“เออ เดี๋ยวประมาณ ยี่สิบนาทีถึง” พูดจบพี่ครีมมันก็วางสายไปทันที ผมจึงเดินกลับเข้ามาในห้องพักคนไข้

“พวกมึงใครจะนอนเฝ้ามันวะ” ผมถามพวกมันเพราะไอ้เตี้ยนี่ยังไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นขึ้นมาเลย  หมอบอกว่าเกิดจากอาการหอบกำเริบ และไอ้เตี้ยมันกดดันจนชัก

“เดี๋ยวกูเฝ้าเองก็ได้” ไอ้ป๊อปพูดขึ้น

“เห้ย กูเองกูเป็นคนแกล้งมัน”

“กูเฝ้าเอง กูเป็นคนล็อคตัวมัน” แล้วพวกมันก็เถียงกันไม่เลิก จนผมทนไม่ไหว

“หยุด!!! สรุป นอนแม่งหมดเนี่ยแหละ ชิบหายเถียงกันอยู่นั้นแหละ” ผมสรุปเองแต่ก็ไม่ได้มีใครคัดค้าน  ผมเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วนึกเรื่องที่จะถามขึ้นมาได้

“มันชื่ออะไรวะ” ผมถาม

“มันชื่ออัท” ป๊อปตอบ

“มึงรู้จักมันหรอ” ผมถามป๊อป

“เปล่า ก็มันบอกชื่อกูที่สวนนั่นแหละ”

“มันพักอยู่ที่ไหน ลูกเต้าเหล่าใครว่ะ” ผมถามอีกยาวเหยียด

“เอ่อ....กูไม่ใช่ Google ว่ะ จะได้รู้ทุกเรื่อง” ไอ้ป๊อปตอบ

“ไอ้สัด ถามดีดี เสือกกวนตีนกู” ผมด่ามัน

“ก็ดูมึงถามสิ ชิบหายคำถามมึงมันก็สิ้นคิดเหมือนกันนั่นแหละ”

“เออ ไอ้คนความคิดดี โดนตีนน่ะหายเจ็บยังวะ” ผมถามประชดมัน

“ไอ้สัด กูแค่พลาดนิดหน่อย” ไอ้ป๊อปบ่น และแล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น

“สวัสดีทุกคน!!!”

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson  5

( Win Part )

“สวัสดีครับ พี่ครีม” เพื่อนผมก็ยกมือไหว้ครีม

“จะมาทำไมวะ” ผมบอกครีม

“โห นี่มึงแกทักพี่ตัวเองแบบนี้หรอ”

“ไม่ต้องแอ๊บ พูดมึงกูอ่ะแหละ อย่าแรด” ผมด่ามัน

“ไอ้น้องส้นตีน งั้นกูไม่เกรงใจละ” ครีมอารมณ์เสียนิดหน่อย แล้วมันก็ถามผมต่อ

“ไหนล่ะคนป่วยน่ะ กูอยากเห็นหน้า” ครีมทำหน้าอยากรู้อยากเห็นมาก

“นู้น อยู่ห้องข้างในนั่นแหละ” ห้องนี้เป็นห้องพิเศษที่แบบว่าแพง ก็เลยมีแยกห้องให้หลายห้อง

“พาไปหน่อยสิ ว่าแต่หล่อไหมวะ”

“ครีม.....มึงแรดไม่เกรงใจเพื่อนกูเลย” ผมด่าพี่ตัวเอง

“เอ้า ของแบบนี้ถ้าไม่แสวงหาแล้วจะพบหรอ หุหุ” ท่าทางมันจะภูมิใจกับคติประจำใจของมันมาก

“อย่ามัวแต่พูดมาก พาไปดูได้แหละ กูล่ะตื่นเต๊นนนนน ตื่นเต้น จะหล่อมั้ยน่า”

“อีเพ้อเจ้อ   มาๆเดินตามมาเดี๋ยวก็เห็นเอง” ผมนำทางมันไปยังห้องของผู้ป่วย และเมื่อเลื่อนประตูเข้ามาในห้อง

“…”

“…”

“อะไร” ผมถามเมื่อครีมมันเห็นคนป่วยแล้วก็เงียบ แล้วหันมามองหน้าผม

“เอ่อ...เนี่ยอ่ะนะ คนป่วยที่แกแกล้งน่ะ”

“เออ ทำไม” ครีมทำหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อ

“นี่แก โรคจิตขนาดแกล้งเด็กมัธยมแล้วหรอวะ”

“มัธยมห่าอะไร มันจะเข้ามหาลัยแล้ว แถมมหาลัยเดียวกับกูกับมึงด้วยนั่นแหละ”

“จริงหรอ ดูแล้วกูไม่อยากจะเชื่อเท่าไรเลยว่ะ”

“มึงก็คงต้องเชื่อแล้วแหละ ว่าแต่มึงจะอยู่อีกนานไหม” ผมถาม

“แหม กูพึ่งมาถึงก็รีบไล่กูเลยนะ” มันส่งตาจิกมาให้ผม

“พอๆ ไม่ต้องจิก เดี๋ยวกูตบเบ้าตาหลุด”

“ไอ้น้องเลว กูพี่มึงนะ มึงนี่มันไม่เคยเคารพกูเลย” ครีมทำหน้าบ่งบอกว่าระอากับผมมากๆ

“เออ มึงอย่าบ่นมากจะกลับไปได้ยัง นี่จะสามทุ่มแล้ว มัวแต่แรดอยู่นั้นแหละ เดี๋ยวก็ได้ผัวหรอก” ผมด่ามัน

“เหอะ กูก็ห่ามาทั้งชีวิตนั่นแหละ สาธุกูก็ขอให้เจอไวๆละกัน”

“กลับไปๆว่ะ รำคาญและ” ผมบอกมัน

“เออ!!! ไล่อยู่ได้ไอ้ห่านี่” ครีมตะโกนลั่นห้อง

“มึงจะพูดเสียงดังทำไม อีห่านี่ เดี๋ยวแม่งก็ตื่นมาพอดี” ผมด่ามันอีกรอบ

“แค่ก ๆ ๆ” มีเสียงไอดังขึ้นผมจึงหันไปดูต้นเสียง

( Autt Part )

ผมรู้สึกตัวขึ้นมาเพราะเหมือนได้ยินเสียงรบกวนที่ดังมากอยู่ในห้อง และเมื่อผมลืมตาขึ้นมามองก็พบเพดานสีขาวสะอาดตาที่ไม่คุ้นเคยเท่าไร และเมื่อผมมองไปรอบๆก็เห็นว่าที่นี่คือโรงพยาบาลแน่นอน และ ขยับมาอีกนิดก็เจอตัวต้นเหตุที่ทำให้ผมต้องมาอยู่โรงพยาบาลและก็ผู้หญิงอีกคนนึง

“ไง ตื่นแล้วหรอ คุณตุ๊ด” กวนตีนกูอีกแล้วมึง

“...” ผมไม่ตอบมันเพราะผมกำลังเบลอๆอยู่ตอนนี้

“มึงนี่มันปากเสียจริงๆเลย เค้าแค่เป็นผู้ชายหน้าหวานมากกกก แค่นั่นแหละ” ผู้หญิงอีกคนนึงท้วงขึ้น

“เหอะ มันก็คล้ายๆกันนั่นแหละ” ไอ้นี่ไม่ยอมลดละ

“แล้วแต่มึงจะคิดเถอะ ไอ้สมองหมา ปัญหาควาย    น้องเป็นไงบ้างคะ ดีขึ้นไหม” ผู้หญิงคนนั้นหันมาถามผม

“ก็ดีขึ้นนิดหน่อยครับ” ผมตอบอย่างสุภาพ

“ก็ดีจ๊ะ ขอให้หายไวๆนะ....แม่แต่เราชื่ออะไรล่ะ”

“ผมชื่อ อัท ครับ” ผมตอบ

“ชื่อน่ารักจัง พี่ชื่อครีมนะคะ เป็นรุ่นพี่อัทปีนึง”

“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่ครีม” ผมบอกพี่ครีม

“ยินเช่นกันจ๊ะ  เดี๋ยววันนี้พี่กลับก่อนนะ แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะมาเยี่ยมใหม่” พี่ครีมบอกผมพร้อมกับส่งยิ้มมาให้

“ครับ ขอบคุณนะครับพี่” ผมตอบพี่เค้า

“ล่ำลากันพอหรือยังล่ะ จะได้รีบๆกลับไปสักที” ไอ้วินมันไล่พี่มัน

“เออ กูไปแน่ ไอ้ชาติหมา” พูดจบไอ้วินมันก็เดินนำพี่ครีมออกจากห้องไป ผมก็นอนอยู่ที่เตียงเหมือนเดิมกะว่าจะนอนสบายๆพักสักหน่อย แต่แล้ว...

“เฮ้ย  เป็นไงบ้างวะ” ผมหันไปตามเสียงที่โผล่พรวดเข้ามาจากทางประตู ก็เจอกับผู้ชายฝูงนึง   ฝูงจริงๆเพราะแม่งเยอะมาก มึงขนมาทำเหี้ยไรกัน

“กูไม่เป็นไร แต่พวกมึงได้เป็นศพแน่” ผมตอบพวกมันและคาดโทษพวกมันไว้

“ขนาดป่วยยังจะปากดีอีกนะมึง” ไอ้วินเดินเข้ามาในห้อง

“เรื่องของกู มึงเสือกอะไรด้วย” ผมด่ามัน

“เหอะ ปากดีเหลือเกิน” มันตอบผมกลับมา ผมกำลังจะสวนมันกลับแต่ก็มีคนห้ามปรามไว้ซะก่อน

“โอ้ยยย  พอก่อนสิพวกมึงทั้งสองคนอ่ะ เถียงกันให้ได้เหี้ยอะไร” เมื่อมันพูดจบ มันก็หันหน้ามาทางผม

“กูขอโทษด้วยสำหรับเรื่องที่พวกกูแกล้งมึง พวกกูแค่แหย่เล่นไม่คิดว่ามึงจะเครียดขนาดชักได้น่ะ” มันพูดแทนเพื่อนๆมัน ซึ่งตอนนั่นทุกคนก็เงียบ

“กูไม่ให้อภัย พวกมึงจำไว้เลย กูเอาคืนแน่” ผมบอกมัน

“เออ แต่มึงไม่ต้องรีบก็ได้นะ กูชื่อเบิร์น” มันแนะนำตัว

“ส่วนนี่ วาล  ปาล์ม  พัด ป๊อป” มันแนะนำเพื่อนมันทีละคน

“และนี่ก็ ไอ้วิน”

ออฟไลน์ igaga

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
 o18รออ่านต่อจร้า

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 6

( Autt Part )

“ไม่ต้องแนะนำหรอก คนเหี้ยๆแบบนี้กูไม่อยากรู้จัก” ผมบอกเบิร์น

“อ้าว กูอุส่าแนะนำชื่อมึงจะได้รู้จัก”

“กูขอมึงหรอ” ผมตอบมันทันควัน

“เออ กูยอมแพ้มึงมันกวนตีนได้โล่เลย” มันว่าผม

“สู้พวกมึงไม่ได้หรอก” ผมบอกมันกลับ

“แล้วทางบ้านมึงรู้หรือยังเนี่ย” ป๊อปถามผม

“เออ ยังเลยว่ะ” ผมลืมโทรบอกอาซะสนิทเลย แต่นี่ก็จะสามทุ่มครึ่งแล้ว ถ้าโทรไปละก็อาผมต้องมาเดี๋ยวนี้เลยแน่นอน และเพื่อความสบายใจของผมไว้บอกพรุ่งนี้ละกัน อาจะได้ไม่ต้องขับรถตอนดึกๆ

“ไว้เดี๋ยวกูค่อยโทรบอกพรุ่งนี้” ผมบอกป๊อป มันก็พยักหน้าอือ ออ ไปนั่นแหละ และผมก็สงสัยอะไรขึ้นมาอีกอย่าง

“แล้สพวกมึงมาทำไมกันเยอะแยะ กลับบ้านกลับช่องไปดิ อยู่ทำไมให้รก” ผมบอกพวกมัน

“พวกกูจะนอนเฝ้ามึงนั่นแหละ” เบิร์นตอบ

“เพื่อ??? อย่าดีกว่า ถ้าพวกมึงเฝ้ากู ประสาทแดกก่อนได้ออกจากโรงพยาบาลแน่ๆ” ผมบอกพวกมัน

“โหย พวกกูไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอกนะ” ไอ้พัดพูด

“แต่ยิ่งกว่านั้นอ่ะดิ เหมือนผีห่าซาตานส่งมาเกิด”

“มึงมันก็พอกับพวกกูอ่ะแหละ ไอ้เตี้ย อย่าเยอะ ที่กูไม่ทำอะไรมึงแล้วให้มึงมานอนด่าเนี่ย ไม่ใช่ว่าพวกกูยอมมึงหรอกนะ ก็แค่เห็นว่าเป็นคนป่วย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เห็นแล้วมันเวทนา” ไอ้วินด่าผม มันด่าผม!!!!!

“เหอะ ไอ้ควาย คิดว่ากูกลัวงั้นสิ พวกมึงมันก็ดีแต่หน้าตา สมองมีไว้ประดับศรีษะ” ผมด่ามันกลับไป

“มากไปและ ไอ้สัด!!!!” ไอ้วินทำท่าจะเข้ามาหาผม

“ทำไมๆ แน่จริงมึงเข้ามา กูจะตบมึงด้วยเสาน้ำเกลือเนี่ยแหละ” ผมทำท่าจะจับเสาน้ำเกลือฟาดมันจริงๆ

“พอๆ หยุดทั้งคู่นั้นแหละ พวกมึงห่างกันสักพักไป” ไอ้เบิร์นพูดขึ้น

“ไม่ต้องสักพักหรอก ตลอดไปเลยยิ่งดี” ผมบอกเบิร์น แล้วไอ้วินมันก็เดินออกไปแบบไม่สนใจอะไรนัก

“ไอ้ควาย!!!” ผมด่าไล่หลังมันไป

“มึงก็ไม่หยุดสักทีนะไอ้เตี้ย” ไอ้คนตัวใหญ่ว่าผม

“ชิ” ผมเบะปากใส่มันแล้วล้มตัวลงนอนต่อทันที รู้สึกง่วงยังไงก็ไม่รู้

เมื่อผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ดูนาฬิกา เจ็ดโมงครึ่งแล้วสินะ ผมนึกได้ว่ายังไม่ได้โทรบอกอาเรื่องเข้าโรงพยาบาลเลย พอนึกได้ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที แต่มันเป็นของโรงพยาบาลอ่ะแหละ เพราะผมไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดตัวตอนที่ไปสวนสาธารณะด้วย ผมถือสายรอสักพักปลายสายก็รับ

“ฮัลโหล สวัสดีครับ”

“อา อัทเองนะ” ผมบอกอา

“อ้าวว่าไงอัท เป็นไงบ้าง” อาน้ำเสียงเปลี่ยนเป็นสดใสในทันที

“ก็สบายดีอ่ะอา” ผมบอกอาทั้งๆที่ลืมดูสภาพตัวเอง

“หรอแล้วอัทอยู่ไหนเนี่ย กินข้าวหรือยัง” อาถามผมต่อ

“ยังไม่ได้กินเลย แล้วก็ตอนนี้อัทอยู่โรงพยาบาลอ่ะ” ผมบอกอากลับไป

“ห๊ะ!!! อัทเป็นอะไร ทำไมต้องไปโรงพยาบาล ใครทำอะไรอัท” โอ้วมาเป็นชุด จะตอบคำถามไหนก่อนดี

“อาใจเย็นๆ ค่อยๆพูด เดี๋ยวอัทจะตอบให้ทุกคำถามเลย”

“โอเคๆ งั้น   อัทเป็นอะไร” อาถามผมด้วยน้ำเสียงดูเป็นห่วงมาก

“ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่หอบแล้วก็ช็อก”

“เนี่ยนะ!!!!!! ไม่เป็นอะไรมาก” อาแทบจะตะโกนตอบผมอยู่แล้ว

“โฮ้ยอา เจ็บหูนะเนี่ย ตะโกนทำไมเนี่ย” ผมพูดเสียงดังกลับไป

“ใครทำอะไรอัท”

“ก็พวกพี่ห่าซาตานผุดขึ้นมาจากนรกชั้นมหาอเวจีล่ะมั้ง ตั้งแต่อัทเกิดมายังไม่เคยเจอใครกวนส้นตีนได้ขนาดนี้เลย อาเชื่ออัทปะ”

“เชื่อ เพราะอาก็ไม่เคยเจอใครยิ่งกว่าอัทเหมือนกัน แปลว่าไอ้นี้มันต้องสุดๆจริงๆ” อาแอบเหน็บผม

“อา สรุปจะเข้าข้างใคร” ผมทำเสียงงอนนิดหน่อย

“แล้วมันทำอะไรล่ะถึงได้หอบจนช็อกน่ะ” อาถามผมต่อ

“ก็อย่างที่บอกอ่ะแหละ มันกวนตีน แกล้งลวมลามอัทอ่ะ อัทเลยช็อก” ผมตอบอาไป

“อยู่โรงพยาบาลอะไร บอกอามาสิเดี๋ยวอาไปหาเดี๋ยวนี้แหละ” อาพูดท่าทางจะจริงจังมาก

“โอ้ย จะมาทำไมเดี๋ยวอัทก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว อาไม่ต้องมาหรอก บ้านนากับกรุงเทพไม่ใช่ใกล้ๆนะ ถึงจะไม่ไกลมากก็เถอะ” ผมบอกอา

“งั้นอย่างน้อยเดี๋ยวอาให้เตยไปดู บอกชื่อโรงพยาบาลมาเร็วๆ” ฮั่นแน่ ผมรู้ทันหรอก พอบอกไปปุ๊บเดี๋ยวอาก็จะมาเอง

“เดี๋ยวอัทโทรบอกเตยเองดีกว่า ดีเหมือนกันอัทจะได้มีเพื่อน”

“เอางั้นก็ได้ งั้นแค่นี้ก่อนนะเดี๋ยวอาเตรียมตัวไปทำงานก่อน ถ้ามีอะไรก็โทรหาอาได้ตลอดนะ”

“ครับ ขอบคุณครับอา แค่นี้แหละ” ผมวางสายอา แล้วต่อสายหาเตยทันที

“ฮัลโหล เตยหรอ”

“เออ ว่าไง” เตยน้ำเสียงท่าทางจะยังไม่ตื่น

“มึงอยู่ไหนอ่ะตอนนี้” ผมถามมัน

“อยู่ห้องพี่กู กับไอซ์ กับเฟิร์น” มันตอบผม

“มึงมาหากูหน่อยดิ” ผมบอกมัน

“อือ เจอกันที่ไหนล่ะ” อีนี่มึงคุยโทรศัพท์ช่วยตื่นหน่อยก็ดีนะแม่งคุยห่าอะไรแทบไม่รู้เรื่อง

“กูไปเจอมึงไม่ได้หรอก ตอนนี้กูอยู่โรงพยาบาล”

“ห๊ะ!!!! โรงพยาบาล”

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 7

( Autt Part )

“เป็นไงบ้าง ไอ้อัท!!!” เตยวิ่งเข้ามาหาผมด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ หลังจากที่ผมบอกสาเหตุการเข้าโรงพยาบาลของผม

“ก็ไม่เป็นไรแล้วแหละ เออไอ้เตยมึงห้ามบอกอากูนะว่ากูอยู่โรงพยาบาลอะไร” ผมรีบดักทางเตยไว้ก่อน

“อืม.....ได้” เตยทำท่าคิดก่อนตอบผม

“แล้วไอซ์กับเฟิร์นล่ะ” ผมถามเมื่อไม่เห็นสองคนนั้นมาด้วย ก็พวกนี้มันอยู่ด้วยกันนี่หว่า

“หลับยังไม่ตื่นว่ะ มึงก็รู้อีกสองคนนั้นนอนขี้เซาแค่ไหน”

“อ่อ อือ” หลังจากคุยกันอยู่นานผมกับเตยก็ต้องหันไปตามเสียงของคนนอกที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนา

“โอ้ย เสียงอะไรวะดังชิบหาย” เมื่อผมหันไปก็เจอกับไอ้วินนั่นแหละเดินทำหน้าบูดหน้าบึ้งมาแต่ไกลเลย

“เสียงคนคุยกันควายอย่าเสือก” ด่าแม่งเลย 555555

“มึงอ่ะดิควาย แล้วนี่...เพื่อนมึงหรอ” มันถามผม

“แม่กูเองแหละมึงทำไม” ผมอำมัน

“อ้าว  แม่หวัดดีครับ  คุณแม่นี่ยังสวยอยู่เลยนะครับ” โหย ไอ้ควายทำเป็นฉอเลาะเพื่อนกูไอ้โง่เอ้ย

“จ๊ะ ไหว้พระเถอะลูก” เยี่ยมไอ้เตยมึง มันก็ตอแหลใช่ย่อย

“อัทแล้วมึงกินอะไรหรือยัง” เตยหันมาพูดกับผม

“ยังเลยว่ะ กูก็หิวอยู่เนี่ย มึงไปหาอะไรข้างล่างมาให้กูกินสิล่ะ” ผมบอกมัน

“ไอ้เหี้ย ใช้กูยันเลยนะมึงอ่ะ เดี๋ยวกูถีบหนังหน้า!!!!” เตยพูดจบก็เดินหันหลังออกจากห้องไป ตอนนี้ในห้องส่วนของคนไข้เลยเหลือผมกับไอ้วินสองคน

“ไอ้เตี้ยไมมึงพูดกับแม่แบบนั้นวะ” มันพูดขึ้น

“เรื่องของกู กูพอใจอ่ะมีไรปะ”

“ไอ้ชาติชั่วลูกทรภีเอ้ย”

“เหอะ กูว่ามึงเอาเวลาไปสั่งสอนตัวเองเถอะ ไอ้ชาติหมา” ผมด่ามันไปอีกดอก

“วุ้ย คุยกับมึงแล้วอารมณ์เสียว่ะ ไอ้ปากเสนียดจัญไร” พูดจบมันก็สาวเท้าจะเดินออกจากห้องไป

“จะไปไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวกูทำบุญไปให้ อ้อ จะให้ดีลากเพื่อนเปรตของมึงไปด้วยก็ดีนะ” ผมด่าไล่หลังมันไป  หลังจากที่มันออกไปจากห้องได้สักพักเตยก็กลับมา

“เตยได้อะไรมามั่งวะ” ผมถามมัน

“ก็หลายอย่างอ่ะ มึงไปดูเองเถอะ” มันยื่นถุงเซเว่นมาให้ผม

“โหย อะไรวะได้มาแต่ของเซเว่น” ผมบ่นมัน

“มึงอย่าเรื่องมาก แดกๆเข้าไปเถอะ” ผมก็ไม่ได้เถียงมันอีกกินอย่างเดียวตอนนี้หิวมาก

“เออ เตย ไอ้เหี้ยนั่นมันโง่เนอะ ขนาดกูหลอกว่ามึงเป็นแม่กูมันยังเชื่อเลย คนเหี้ยอะไรวะ มีสมองแต่เสือกคิดไม่เป็น”

“มึงอ่ะระวังเถอะ หลอกคนอื่นเค้ามากๆ ระวังตัวเองจะโดนเอาคืนบ้างกูจะขำให้ให้ไขมันกูกระเด็นเลย” เตยว่าผมอย่างหมันไส้

“ชิชิ ใครมันจะมาเอาคืนกูได้ ระดับอัทแล้ว ไม่มีใครเทียบติดฝุ่นหลอกเว้ย” ผมโอ้อวดตัวเองอย่างภาคภูมิใจในความแก่นของตัวเอง

“ระวังเทอะ โบราณเค้าว่าไว้ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือปีศาจยังมีซาตาน” เตยพูดคำเปรียบเทียบขึ้นให้ผมฟัง

“ยุคไหนวะเตย กูไม่เคยเห็นได้ยินเลย” ผมงงจริงๆกับคำเปรียบเทียบของมัน

“ยุคกูนี่แหละ มึงจะทำไม”

“อ้าวอีนี่ มึงพูดมั่วนี่หว่า” ผมบอกมัน

“เออ กูกลับก่อนล่ะ เดี๋ยวอีสองตัวนั้นตื่นมาไม่เห็นกูจะหาว่ากูออกมาอ่อยเหยื่ออีก” เตยพูดจีบปากจีบคอ

“แรงขึ้นทุกวันนะมึงน่ะ ระวังเถอะจะเจอตัวเบรกแรง” ผมแซวมัน แต่จริงๆแล้วเตยมันก็ไม่ได้แรงอะไรหรอก มันก็ทำดัดจริตไปงั้นแหละเวลาอยู่กับพวกผม

หลังจากที่เตยกลับไปได้ไม่นานหมอก็เข้ามาบอกให้ผมกลับบ้านได้เลย ไม่ค่อยมีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว แต่ต้องให้ผมกินยาตามหมอสั่งให้ครบ ส่วนไอ้พวกนรกนั่นขนาดผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดธรรมดาแล้ว มันยังไม่ตื่นกันเลย ไม่รู้ว่านอนหรือตายกันแน่

“เฮ้ย ไอ้พวกขี้เกลียด นอนกันตะวันส่องดากแล้วเมื่อไรจะตื่นสักทีวะ” ผมไปยืนกลางแล้วกราดเลยครับ พวกมันก็งัวเงียลุกขึ้นทีละคนสองคนจนครบนั่นแหละ

“ขออีกแปปไม่ได้หรอวะ” ไอ้เบิร์นพูดขึ้น

“ได้ แต่ต้องไปต่อในโรงนะ เพราะกูกำลังจะได้กลับบ้าน ถ้าไม่อยากไปนอนต่อในโรงรีบตื่นได้แล้ว!!!!” ผมแทบจะตะโกนบอกพวกมัน

“หุ แม่งโหดเหี้ยอะไรนักวะ ใครได้ไปเป็นเมียน่าเบื่อตายห่า” ไอ้วินพูดขึ้น

“ไอ้สัดแล้วใครเค้าบอกมึงว่ากูจะมีผัว” ผมสวนมันทันควัน

“เหอะ หน้ายังมึงคงหาเมียได้หรอก ใครจะเอามึงวะตัวก็เล็กนิดเดียว เอวคอดกว่าผู้หญิงบางคนอีก กูเป็นผู้หญิงกูก็ไม่เอาหรอก อายแทนน่ะถ้าจะมีผัวสวยกว่าตัวเอง” เมื่อมันพูดจบผมก็ปรี๊ดขึ้นอีกแล้ว

“ไอ้....ไอ้...” ผมนึกคำด่ามันไม่ออกติดอ่างเลยวุ้ยกู

“พอๆ เดี๋ยวกูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดี๋ยวไปส่งมึงเอง” มันบอกผม

“ไม่ต้องเสือกูมีปัญญากลับเองได้ กูไม่ได้พิการ” ผมบอกมัน

“เออ เรื่องของมึง งั้นมึงก็กลับไปเถอะ พวกกูจะนอนต่อ” มันบอกผมกลับ

“เออ เรื่องของพวกมึงกูไปล่ะ ชาติหน้าฉันใด อย่าได้พบได้เจอกันอีกเด้อสาธุ” ผมยกมือไหว้คล้ายๆภาวนาฟ้าดิน  จากนั้นผมก็เดินออกมาจากห้องทันที แล้วตรงไปที่หน้าโรงพยาบาลเพื่อหาแท็กซี่ขึ้นกลับห้อง  และเมื่อมาถึงห้อง ผมก็ล้มตัวนอนทันทีเพราะรู้สึกเพลีย สงสัยท่าจะยังไม่หายดีเท่าไร

( Win Part )

หลังจากที่ไอ้เตี้ยมันกลับบ้านมันไปผมก็นอนต่อกันจนเกือบสิบเอ็ดโมง ที่ต้องตื่นสิบเอ็ดโมงเพราะแม่บ้านไล่ ประมาณว่าคนไข้กลับไปแล้ว คนเฝ้าอยู่หาสวรรค์วิมานอะไร และเมื่อผมกลับมาถึงบ้าน

“วิน กลับมาแล้วหรอ จะไปโรงพยาบาลอีกปะ” ครีมถามผม

“ไม่กลับ ทำไมวะ” ผมถามมันกลับ

“ก็กูอยากไปเยี่ยม อัทนี้ผู้ชายอะไรน่ารักยังกับเด็กผู้หญิง แถมตัวก็นิ่มยังกับตุ๊กตา ไม่เหมือนมึง ผิวสากอย่างกับทางลูกรัง” ครีมเหน็บผม

“แหม อีคนสวย หน้าตามึงก็ไม่ต่างจากหมาข้างถังขยะเท่าไรหรอก” ผมด่ามันกลับไปอย่างเจ็บแสบ และมันกำลังเตรียมด่าผมแต่ผมเบรกไว้ซะก่อน

“หยุด....กูรู้มึงจะพูดอะไร    ไอ้เตี้ยนั่นมันออกจากโรงพยาบาลแล้ว”

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 8

( Win Part )

“อ้าว ออกแล้วหรอ ทำไมออกเร็วจัง” ครีมถามผม

“กูก็ไม่รู้หรอก แต่ดีแล้วกูขี้เกลียดไปนั่งเฝ้ามัน ไม่ต้องทำห่าอะไรกันพอดี” ผมบ่นให้มันฟัง

“แหม ไอ้เหี้ย พูดเหมือนทุกวันนี้มึงทำธุรกิจพันล้านเลยเนอะ กูเห็นวันๆก็เอาแต่เที่ยวแดกเหล้า แล้วก็ฟันผู้หญิงไปทั่ว สักวันเถอะมึงจะโดนเอาคืน” ครีมบ่นผมยาวเหยียด

“ช่วยไม่ได้เว้ย คนมันหน้าตาดี” พูดจบผมก็เดินออกไปจากตรงนั้น ขืนยืนอยู่ต่อได้ต่อปากต่อคำกันไม่จบไม่สิ้นแน่ๆ ผมขึ้นมาบนห้องของตัวเอง ตอนนี้ก็เกือบๆสองทุ่มแล้วใกล้ได้เวลาในยามราตรีของผมแล้วด้วยสิ หุหุ

( Autt Part )

หลังจากวันที่ผมออกจากโรงพยาบาล พวก เตย ไอซ์ เฟิร์น ก็คอยมาเยี่ยมผมที่ห้องทุกวันซึ่งจริงๆแล้ว ผมหายตั้งแต่สองวันแรกที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วแหละ แต่ก็ดีเหมือนกันผมจะได้ไม่เหงา อย่างน้อยมีพวกมันคอยให้กวนประสาทก็ยังดี

“พวกมึงไปดูหนังกันไหม” ผมชวนพวกมัน

“เกิดคึกเหี้ยอะไรขึ้นมาล่ะ” ไอซ์ ถามผม

“ก็เปล่าหรอก กูเห็นว่ามหาลัยใกล้เปิดแล้ว กูก็อยากปลดปล่อยก่อนที่จะต้องไปเข้าระบบนักศึกษา แค่นั้นเอง” ผมบอกมัน

“ไม่รู้ว่าจะไปได้หรือเปล่า ขอโทรหาพี่ก่อนละกันนะ” พูดจบเตยมันก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์ผมก็นั่งคุยเล่นอยู่กับไอซ์กับเฟิร์นตามปกติ สักพักนึงเตยก็เดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแป้นมาเชียว

“ว่าไงวะ เดินหน้าบานเป็นจาน PSI เลยนะมึง” ผมว่ามัน

“ผ่านค่ะ คุณพี่อนุมัติ ว่าแต่มึงอยากดูเรื่องอะไรวะ” เตยถามผม

“เออ นั่นสิมึงอยากดูอะไรวะ” ไอ้เฟิร์นเสริมขึ้น

“ไม่รูว่ะ ไว้ไปดูรอบหนังพรุ่งนี้ทีเดียวเลยละกัน”

“เออ เอางั้นก็ได้” เตยพูด

“แต่ว่าตอนนี้กูหิว่ะ” ไอซ์พูดขึ้น

“อะไรวะ อีหมูตอน หิวอีกแล้วหรอ” ผมด่ามัน

“เออ กูหิวแล้ว และตอนนี้กูก็จะแดกมึงก่อนด้วยไอ้เตี้ย!!!” ไอซ์วิ่งไล่ผมทั่วห้อง แต่อ้วนๆอย่างมันตามผมไม่ทันหรอก   เราเล่นไปคุยไปเรื่อยจนเย็น พวกมันก็กลับห้องพวกมันไป พวกมันพักอยู่ห้องพี่มันซึ่งอยู่ไม่ห่างจากคอนโดผมเท่าไร

เช้าวันต่อมาผมตื่นขึ้นด้วยความสดใสเพราะวันนี้ผมจะได้ไปดูหนังกับเพื่อนผมแล้ว หลังจากที่ผ่านอะไรมาตั้งมากมาย เครียดครับ บอกตรงๆเลย ผมนัดกับพวกมันตอนสิบโมงที่ห้างแถวนั้นเลย ไม่อยากเดินทางไกลมากเหนื่อย  และเมื่อผมมาถึง ก็เจอพวกมันยืนรอกันอยู่ที่หน้าโรงหนังแล้ว

“ไออัทเร็วๆดิ” เตยเรียกผม

“เออ รอนานไหมพวกมึงอ่ะ” ผมถามมันเพราะผมมาเลทนิดหน่อย

“ไม่นานเท่าไรหรอก กูก็แค่กะว่าจะขอหมอนพนักงานมานอนรอแล้วอ่ะ” ไอซ์ประชดผม

“โถ อีเวอร์ เดี๋ยวกูถีบหนังหน้า” ผมด่ามัน ไอซ์ มันก็เบะปากใส่ผม แล้วเราจึงเดินไปดูโปรแกรมหนังกัน

“ดูอะไรดีวะ” เฟิร์นพูดขึ้น

“กูว่าดู Assaster กันน่าดูว่ะ” ผมพูด

“ไม่เอา ดู Loving Darling น่าสนุกกว่าเยอะ” ไอซ์ขัดผม

“ไม่เอา กูจะดู Assaster” ผมพูดแย้งขึ้น

“แต่กูจะดู Loving Darling” แล้วผมกับไอซ์ก็เถียงกันอยู่นาน จนเฟิร์นทนไม่ไหว

“หยุด!!! สรุปกูกับเตยจะดู DOA” ผมกับไอซ์จึงสงบศึกเพราะดูท่าทางเฟิร์นมันโมโหจริง และระหว่างที่พวกเรากำลังซื้อตั๋วอยู่นั้น ผมก็ถูกใครไม่รู้ชนจนล้มและที่สำคัญไอ้คนชนมันดันล้มมาทับตัวผมด้วย

“โอ้ย....” ผมเบลอเพราะกำลังงงๆอยู่

“ขอโทษครับ” และเมื่อผมเงยหน้าขึ้นไปก็พบกับ....

“เฮ้ยยยย ไอ้เหี้ยมึงอีกแล้วหรอ” ผมแทบจะตะโกนใส่หน้ามัน

“โอะ ดวงซวยเหี้ยอะไรบ่อยขนาดนี้วะ เมื่อไรกูจะแคล้วคลาดกับมึงสักทีเนี่ย” ไอ้วินพูด

“กูต้องพูดคำนั้น เจอหน้ามึงทีไรมีแต่เรื่องทุกที   แล้วมึงจะลุกไปได้หรือยังวะ กูหนักตัวยังกับควายเสือกทับมาได้นะมึง” ผมด่ามัน

“อ้าว มึงไม่ชอบหรอ” มันถามแล้วทำหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างใส่ผม

“ไม่ชอบ!!!” ผมตะโกนใส่หน้ามันเลย

“ก็นึกว่ามึงชอบ ตอนแรกไม่เห็นว่าอะไรนิ 55555” มันพูดแล้วขำเล็กน้อย

“ไอ้ชาติหมาลุกไปเลยนะมึง” ผมพูดและผลักมันไปพร้อมๆกัน

“ไอ้สัดเอ้ยเจ็บ” มันพูดแล้วลุกขึ้นไปจากตัวผม และขณะที่ผมกำลังลุกตาม

“เฮ้ยๆๆๆๆๆ ไอ้วินเดี๋ยวนี้มึงชอบแบบนี้หรอ” ไอ้เบิร์นครับมากันเป็นฝูงเหมือนเดิม

“อะไรมึง” มันถามได้หน้านิ่งมาก

“กูเห็นนะเมื่อกี้มึงทำอะไร เกรงใจสถานที่บ้างสิวะ” ไอ้เบิร์นพูดจบเพื่อนมันก็แซวตามกันยกใหญ่ ไอ้วินหันมามองหน้าผมแวบหนึ่งแต่ผมแอบเห็นมันยิ้มนิดนึงแล้วมันก็พูดว่า

“ก็มันมายั่วกู แถมแกล้งทำเป็นล้มให้กูทับด้วย” มันพูดจบเพื่อนมันก็หันมาทางผม

“พ่อมึงตาย” ผมตะโกนด่ามัน

“แหม่ ก็อยากเล่นด้วยอ่ะนะ แต่พอดีผมไม่ว่าง ไว้ว่างแล้วจะไปเล่นด้วยนะ” มันพูดแล้วส่งยิ้มกวนตีนมาให้ มันจงใจยั่วผมแล้วก็ขึ้นซะด้วย

“ไอ้สารเลว!!!!”

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 9

( Win Part )

“พูดจาไม่ลื่นหูเลยนะครับ คนสวย” ผมกวนตีนมันต่อ ไอ้เตี้ยแม่งยุขึ้นนี่หว่า

“มึงหุบปากอัปรีของมึงไปเลย ไอ้เศษคน” มันด่า ทำไมแม่งปากจัดนักวะ

“โฮะ อีตุ๊ดปากจัดเอ้ย” ผมด่ามัน

“เพื่อนกูไม่ใช่ตุ๊ด ไอ้หน้าสากกะเบือ” เพื่อนมันด่าผม พวกผมจึงหันไปมองแต่ท่าทางผู้หญิงพวกนี้จะไม่ได้กลัวผมเลยสักนิด

“มึงไม่ต้องมอง กูไม่กลัวพวกมึงหรอก ผู้ชายเหี้ยๆใช้ตีนเขี่ยก็เจอแบบพวกมึงเนี่ย ไม่น่าเกิดมาเลยนะ” เพื่อนมันอีกคนพูดขึ้น

“เฮ้ย ไอซ์ เตย พอเถอะว่ะ อายคนเค้า คนเริ่มมองแล้ว” ไอ้เตี้ยพูดแต่ก็จริงตอนนี้คนเริ่มมองมาที่กลุ่มพวกเราแล้วครับ

“ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ปากร้ายจังเนอะ มึงว่าไหมไอ้พัด ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงนะ คงจมกองเลือดไปแล้ว” ไอ้เบิร์นพูดขึ้น ดูเดือดนิดหน่อย

“กลัวตายห่าล่ะ จำไว้ด้วยว่าพวกกูไม่เหมือนใคร แล้วก็ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนอย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย สาธุ” เพื่อนมันพูดต่อ

“เก่งกันเหลือเกินนะครับ สาวๆ” ผมพูดบ้าง

“แน่นอนโว้ย ไปกลับเถอะ ไม่ดงไม่ดูมันแล้วหนังอ่ะ เจอเสนียดจัญไรตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าโรง ฤกษ์ คงไม่ดีเท่าที่ควร” พูดจบพวกมันก็เดินออกไปจากตรงนั้นทันที

“ปากแม่งน่าเอาตีนลูบว่ะ” ไอ้วาลพูดขึ้น

“เฮ้ยๆ ยังไงๆก็ผู้หญิงเว้ย” ปาล์มพูดบอกวาล

“ก็เล่นไอ้เตี้ยนั่นแม่งเลย” ไอ้วาลพูดสวนต่อ

“เหอะ ถ้ามึงจะเล่นไอ้เตี้ยนั่นนะ มึงกัดกับหมามันกว่าอีก แม่งตัวก็เล็ก แรงก็แทบไม่มี ผู้ชายเหี้ยอะไรไม่รู้” ผมพูด

“อ้าว มันไม่ใช่ตุ๊ดหรอวะ” ไอ้ป๊อปถามผม

“กูไม่รู้” ผมตอบมันตามตรง

“อ้าว แล้วมึงไปด่าเค้าเป็นตุ๊ด”

“กูก็กวนตีนมันไปงั้นแหละ แม่งก็ยุขึ้นด้วยนะมึงก็เห็น” ผมบอกไอ้ป๊อป

“เออ ชั่งเรื่องของมันไว้ก่อน กูว่าพวกเราไปดูหนังกันเถอะ จะเข้าแล้วเนี่ย” ไอ้พัดพูดขึ้น

“เออๆ ไปไป” พวกเราก็ทยอยกันเข้าโรงหนังกันไป

( Autt Part )

หลังจากที่พวกผมเดินแยกตัวออกมาจากพวกนรกนั่น หนังเหนิงไม่ดูมันแล้วเสียอารมณ์กันไปตามๆกัน ยิ่งนึกถึงก็ยิ่งโมโห

“อารมณ์เสียเลยว่ะมึง” ไอซ์พูดขึ้น

“ใจเย็น ปล่อยแม่งไปเถอะ ก็แค่ผีห่าซาตาน” เตยบอกไอซ์

“แต่ยังไงกูก็ขอบใจพวกมึงนะ ออกตัวแรงกว่ากูอีก” ผมบอกพวกมัน

“เหอะ ก็มันมาด่ามึง ยังไงกูก็ต้องช่วยมึงอยู่แล้ว เพื่อนกันเว้ย” แหม่น้ำตาจะแตกเลย ไอ้ไอซ์ ถึงผมกับมันจะชอบกัดกันแต่ถึงเวลามีปัญหาเราก็ไม่เคยทิ้งกัน

“เออ ขอบใจอีกทีละกัน” ผมบอกมัน

“ชั่งมันเถอะ ตอนนี้กูหิวว่ะ” ไอซ์พูดต่อ

“เออ เอาดิกินไรดีเดี๋ยวกูเลี้ยง”

“พูดแล้วห้ามคืนคำนะ” ไอซ์บอกผม

“เออ เดี๋ยวกูเลี้ยง” ผมย้ำบอกมัน

“กินไรดีวะ เฟิร์น เตย” ไอซ์หันไปถาม

“พึ่งเจออะไรร้อนๆมา ไปกินไอติมดับร้อนกันดีกว่า” เตยเสนอ

“เออ ดีเหมือนกันว่ะ กิน ซเวนเซ่นต์ละกันนะ” ผมพูดเสริม

“เออ งั้นไป” เมื่อไอซ์พูดจบพวกเราก็พากันเดินไปที่ร้านทันที พวกเรากินไอติมกันอย่างอารมณ์ดีแล้วตอนนี้เราก็กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรส

“เติมน้ำไหมคะ” พนักงานเดินมาถาม

“ไม่เอาครับ ขอบคุณครับ” ผมตอบ แล้วก็หันกลับมาคุยต่อ

“ไอ้เตยกูยังไม่เคยเห็นพี่มึงสักทีวะ” ผมถามมัน

“มึงจะอยากเห็นไปทำไมวะ” เตบตอบ

“ก็กูอยากรู้จักไว้ ยังไงเค้าก็เป็นพี่มึงนิ เผื่อมีอะไรพี่มึงจะได้ช่วยกูได้” ผมบอกเหตุผลร้อยแปดพันเก้ากับมัน

“เออ อีกไม่กี่วันมหาลัยก็เปิดแล้วมึงได้เจอสมใจมึงแน่” เตยบอกผม

“เออ กูจะไม่ถามมึงแล้ว ขี้เกลียดละ ถามกี่ทีมึงก็ตอบแต่แบบเนี่ย” ผมทำท่างอนใส่มัน

“โอ๋ ๆ อย่างอนนะ” ไอ้เตยพูดปะเหลาะผม

“เออ กูไม่งอนมึงก็ได้” ผมพูดแต่คงหน้านิ่งไว้

“แต่....” ผมพูดแล้วเว้นวรรค

“อะไร” เตยถามผม

“มึงต้องจ่ายค่าไอติมให้กูนะ” ผมบอกมันอย่างรวดเร็ว

“โป๊ก.....โอ้ยเจ็บนะ” ไอ้เตยตบหัวผมอ่า

“แดกเองก็จ่ายเองสิวะ ไอ้เตี้ยเอ้ย” มันด่าผมแถม

“ชิ จำไว้” ผมเบะปากใส่มัน และพวกผมก็ไปจ่ายตังแล้วเดินลุกออกไปจากร้านทันทีเพราะตอนนี้ก็เริ่มเย็นแล้ว

“เฮ้ย จะหกโมงแล้ว รีบกลับกันเถอะว่ะ” ผมบอกเพื่อนๆเพราะมัวแต่เดินเพลินคุยเพลินจนลืมดูนาฬิกาเลย

“เออว่ะ เดี๋ยวเย็นมากแล้วจะหารถกลับยาก กลับกันเลยละกัน” เฟิร์นพูดจบเราก็เดินไปท่ารถเพื่อขึ้นรถกลับที่พักตัวเอง ที่พักพวกมันก็อยู่ใกล้กับคอนโดผมนั่นแหละครับ ผมนั่งรถมาสัก 20 นาทีก็ถึงคอนโดผม

“เฮ้ยพวกมึงกูไปละนะ” ผมหันไปบอกพวกมันและเตรียมลุก

“เออ โชคดีเว้ย” ไอซ์พูด

“ไอ้เหี้ย อวยพรยังกับจะส่งกูไปตาย” ผมแซวมันเล่น

“เออ ไอ้เตี้ยกูจะส่งมึงไปตาย” ไอซ์พูดตามหลังมาหลังจากที่ผมลงจากรถแล้ว

“ไอ้เตี้ย บ๊ายบาย” ไอซ์พูดต่อ

“บ๊ายบาย” ผมโบกมือให้มัน แล้วก็เดินกำลังจะขึ้นไปบนห้องของตัวเอง แต่ผมก็สะดุดอะไรบางอย่างที่หน้าห้องตัวเอง

“หยา ๆ เว้ย ตก ตก ตก!!!!!!!” ผมอุธานแต่แล้วผมก็รู้สึกว่าทำไมตัวผมถึงไม่ลงไปกองอยู่กับพื้นล่ะ

“ขอโทษครับ ผมซุ่มซ่ามเองมีอะไร.......” ผมพูดไม่ทันจบก็อึ้ง

“ไงไม่เจอกันนานเลยนะ”

“พรหม!!!!!!!”

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 10

( Autt Part )

“อือ เราเอง” ชายตรงหน้าผมคนนี้ชื่อ พรหม สูงประมาณ 178 ผิวขาวหล่อหน้าใสกิ๊งเลย เค้าเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันจากโรงเรียนที่ผมจบ

“นายมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ” ผมถาม

“พอดีเราซื้อคอนโดอยู่ที่นี่น่ะ ว่าแต่นายอ่ะมาทำไรแถวนี้” พรหมถามผม

“เราก็ซื้อคอนโดอยู่นี่เหมือนกัน นายอยู่ชั้นไหนล่ะ” ผมถามกลับไป

“เราอยู่ชั้น 8 ห้อง 802”

“โห  บังเอิญจังเราอยู่ห้อง 801 ชั้นเดียวกับนายเลย”

“หรอ อื้มก็ดีนะ เราจะได้มีเพื่อนข้างห้องหน่อย อยู่คนเดียวก็เหงาๆเหมือนกัน” พรผมบอกผมแล้วยิ้มๆ

“อื้อ ยังไงก็ฝากตัวด้วยล่ะ เอ้อ ว่าแต่นายเรียนมหาลัยอะไรล่ะ” ผมถาม

“เรียน ม.KS น่ะ คณะบริหาร”

“...”

“มีอะไรหรือเปล่า” พรหมถามเมื่อเห็นผมเงียบอึ้งอยู่

“เอ่อ เราว่ามันบังเอิญไปนะ มหาลัยก็มหาลัยเดียวกัน แถมคณะเดียวกันอีกตั้งหาก” ผมพูดจบพรหมทำหน้าแบบไม่อยากจะเชื่ออยู่เหมือนกัน

“จริงหรอ งั้นก็ดีสิมีเพื่อนร่วมคณะตั้งแต่ยังไม่เปิดมหาลัยเลย” พรผมบอกผมแล้วยิ้ม

“อื้อ ก็จริงอ่ะ เอ้อ เราขอตัวก่อนนะนี่ก็มืดแล้วยังไม่ถึงห้องเลย ถ้าอาโทรเช็คเดี๋ยวจะซวยเอา”

“อื้อ ตามสบาย มีอะไรก็มาเคาะเรียกที่ห้องได้นะ”

“อื้อ เหมือนกันแหละมีไรก็มาเรียกละกัน ไปละ” ผมบอกลาพรหม

“อื้อ ไว้เจอกัน” เมื่อพรหมพูดจบลิฟท์ก็เปิดออกพอดี ผมจึงเดินก้าวเข้าไปในลิฟท์แล้วกดชั้น 8 เพื่อไปห้องของตัวเอง และเมื่อมาถึงห้องตัวเองผมก็นอนดูทีวีจนเผลอหลับคาโซฟาเหมือนเดิมน้ำท่าก็ไม่ได้อาบ

หลังจากนั้นหลายวันผ่านไปวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเปิดมหาลัยวันแรกแล้ว ผมรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ จึงนัดพวกเตย ไอซ์ เฟิร์น มาที่ห้องเพื่อลองใส่ชุดนักศึกษา และก็วิจารณ์กันอย่างมันส์ปาก

“เตยๆ กูว่ามึงเอากระโปรงสูงขึ้นมาอีกนิดดิมันยาวไปว่ะ” ไอซ์บอกเตย

“ไอซ์กูว่ามึงลดความอ้วนหน่อยก็ดีนะ เหมือนชุดมันจะแตกเลยว่ะ” ผมแซวไอ้ไอซ์

“มึงก็พูดเวอร์ กูใส่แล้วออกจะสวย ผู้ชายที่ไหนเห็นก็ต้องเหลียวหลังแทบทุกคนอ่ะแหละ” ไอซ์พูดอย่างมั่นใจ โถอีไอซ์พูดไม่ดูสภาพหน้าตัวเองเลย

“เออ อีคนสวย หน้าแม่งยังกับแมงกระพรุนโดนเหยียบ” ผมด่ามัน

“ปากดีหลายวะไอ้เตี้ย ไอ้สังคังใต้ขาหนีบ” ไอซ์ตอกผมกลับทันควัน

“แล้วสังคังบ้านป้ามึงเค้าเป็นกันใต้รักแร้หรอวะ” ไอซ์เบะปากนิดหน่อยแต่ก็หยุดเถียงผมไป

“อัท แล้วมึงไม่ไปใส่ชุดมาให้พวกกูเชยชมกันบ้างวะ นี่พวกกูก็ใส่ให้มึงเห็นหมดแล้วนะ” เฟิร์นพูดขึ้น

“เออ นั้นดิเอาเปรียบนี่หว่ามึงรีบไปเปลี่ยนมาให้พวกกูดูเลย กูอยากเห็น” ไอซ์พูดต่อ

“เออๆ พวกมึงเลิกบ่นได้และ เดี๋ยวใส่ให้ดูแล้วพวกมึงจะอึ้งว่า อู้ว เทพบุตรที่ไหนมาใส่ชุดนักศึกษาเล่น” ผมยอตัวเอง

“ถุย กูอยากจะอ้วกหน้ามึงอ่ะนะเทพบุตร ถ้ามึงบอกว่าเป็นเทพธิดากูยังเชื่อมากกว่าเลย” ไอซ์บอกผม

“เทพธิดาแม่มึงสิ เดี๋ยวกูถกหนังตีนยัดปากแม่งเลย”

“มึงอย่าพูดมากรีบไปเปลี่ยนได้แล้ว กูอยากดู” เมื่อมันพูดจบผมก็เดินไปเปลี่ยนชุดนักศึกษาตามคำเรียกร้องของพวกมันนั่นแหละครับ เสื้อแขนยาวพอดีตัว กางเกงเข้ารูปแต่ไม่ถึงกับรัด เสื้อก็เข้ารูปนิดๆ เลยทำให้ผมดูเอวคอดกิ่ว ทั้งๆที่เป็นผู้ชาย และเมื่อผมปรากฏตัวในชุดนักศึกษาต่อหน้าพวกมัน

“ว้ายยยยยย” ไอซ์ร้องขึ้น

“มึงเป็นอะไรอีไอซ์” เฟิร์นหันไปถาม

“มึงดูนู้นสิ” ไอซ์ชี้นิ้วมาทางผม เฟิร์น เตย ก็มองมาตามนิ้วที่ชี้

“เฮ้ยยยย  น่ารักอ่ะ!!!!!” ทั้งสามคนประสานเสียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“อะไรมึง” ผมถามมัน เอ่อถึงแม้จะเป็นคำถามโง่ๆก็เถอะ

“อัททำไมมึงซื้อเสื้อผ้าแบบนี้วะ” เตยถาม

“มันทำไมวะ” ผมถามมันกลับ

“ก็มันเหมือนเกย์อ่ะมึง”

“มึงเอาอะไรมาตัดสิน ไอ้เตย” ผมถามมัน

“มึงไม่ได้ส่องกระจกหรอ ตัวเล็กๆ เอวคอดกว่ากูอีก แถมเสื้อผ้าแอบรัดนิดหน่อยด้วย ผู้ชายที่ไหนเค้าแต่งตัวกันแบบนี้วะ” มันบอกผม

“แล้วทำไมต้องแคร์คนอื่นวะ ก็กูชอบใส่เสื้อผ้าพอดีๆตัว” ผมบอกมัน

“แล้วแต่มึงเถอะ แต่ระวังจะมีหนุ่มติดสอยห้อยตามเป็นแถวนะเว้ย” ไอซ์พูดขึ้น

“หรอ แต่ถ้าได้มาจริงๆกูจะยกให้มึงนะ กูเข้าใจมึงอดอยากมานาน” ผมแอบเหน็บมันโทษฐานที่มันแซวผม

“โถ ไอ้สัด กูพูดความจริงก็แรงใส่กูนะ”

“ก็มึงเสือกปากดี มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบเวลามีคนมาทักว่ากูคล้ายผู้หญิง มันไม่ใช่แนวกูเว้ย” ผมบอกมัน

“แต่มึงก็ไม่มีเพื่อนผู้ชายคบหนิ เพราะผู้ชายส่วนมากคิดว่ามึงเป็นกระเทย มึงถึงต้องมาคบพวกกูนี่ไง” ไอซ์บอกผม

“ไม่จริงสักหน่อย ที่กูไม่คบคนอื่นเพราะกูไม่อยากคบรำคาญ” ผมบอกไอซ์ เพราะเพื่อนผู้ชายที่ผมเคยคบเป็นเพื่อนชอบหยอกผมเป็นกระเทย ทั้งๆที่นิสัยผมต่างจากกระเทยโดยสิ้นเชิง เผลอๆแมนกว่าผู้ชายบางคนอีก

“แต่ตอนนี้กูมีเพื่อนผู้ชายแล้วนะเว้ย ตั้งคนนึง” ผมบอกพวกมันแล้วยิ้มๆ และนั่นทำให้พวกมันกรูกันเข้ามาสนใจผมทันที

“ใครวะ กูรู้จักหรือเปล่า มันหล่อไหม” เฟิร์นถาม

“รู้จักสิ รู้จักดีด้วยมั้ง” ผมบอกมัน

“ใครวะ???” พวกมันถามผมพร้อมกันท่าทางจะอยากรู้จริงๆ

“มึงจะเร่งกูทำไมเนี่ย” ผมแกล้งยืดเวลาออกไปอีก

“มึงอย่ามาเล่นลิ้น บอกมาสักทีว่าใครที่คบมึงเป็นเพื่อน” ตอนนี้พวกมันเงียบรอฟังคำตอบจากผมแล้ว

“ก็พรหมไง นักเรียน HOT ประจำ MS”

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 11

( Autt Part )

“ห๊ะ!!! จริงหรอแก ไอ้อัท” น้ำเสียงเตยดูตื่นเต้นมาก

“อือ เรียนมหาลัยเดียวกันกับพวกเราอ่ะแหละ คณะดียวกับกู” ผมบอกมัน

“แล้วมึงไปรู้ได้ยังไงวะ” ไอซ์ถามผม

“ก็วันที่กลับจากไปดูหนังกูกำลังรอลิฟท์ขึ้นมาบนห้อง แล้วเกิดสะดุดเลยล้มไปชนพรหมเข้าน่ะ” ผมเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

“แล้ว พรหมมันมาทำอะไรที่นี่วะ” เฟิร์นถามผม

“เอาเรื่องจริงๆเลยไหมพวกมึง” ผมทำน้ำเสียงตื่นเต้นสุดขีด แกล้งพวกมัน

“อะไรวะ!!! เล่าดิ” ตอนนี้หน้าพวกมันลุ้นมากครับ

“นี่ห้องอะไรวะ” ผมแกล้งถามพวกมัน

“ห้อง 801” เฟิร์นตอบผม

“อื้มมมมมมม” ผมขานรับเสียงยาวๆ

“ทำไมวะ” พวกมันถามย้ำอีก

“ก็ พรผม มันอยู่ห้อง 802” นี่เอง

“เฮ้ยจริงหรอ ว้ายยยยยย” พวกมันเหมือนถูกผีเข้าเลยครับ

“พวกมึงเบาๆหน่อย อีห่าเรื่องผู้ชายนี่หูผึ่งเลยนะมึง” ผมด่ามัน

“อัท มึงรู้ไหมว่ามึงโชคดีที่สุดในโลกเลย พรหม อ่ะนะ ทั้งหล่อ รวย สุขุม เรียน ก็เก่ง ถ้าใครได้ไปเป็นแฟนล่ะก็ไม่เสียชาติเกิดเลยนะเว้ย” ไอซ์พูด

“อีห่า พูดยังกับกูกับมันเป็นแฟนกันงั้นแหละ” ผมบอกมัน

“ก็ทำให้เป็นสิวะ” ไอซ์พูดต่อ

“เฮ้ยยยยย  กูเป็นผู้ชายอยู่เว้ย ยังอยากมีเมีย” ผมพูดบอกมัน

“แล้วผู้หญิงที่ไหนเค้าจะเอามึงวะ” เฟิร์นพูดขึ้น

“ทำไม กูหน้าตาแย่ขนาดจะไม่มีใครเอาเลยหรือไง”

“ก็เปล่าหรอก แต่กูคิดว่าถ้ากูเป็นผู้หญิงกูคงไม่อยากมีว่าที่สามีสวยกว่าตัวกูเองว่ะ”

“อีห่า สวยแม่มึงอ่ะดิ กูก็แค่หน้าหวานนิดหน่อย โดยรวมก็หล่อเว้ย” ผมบอกพวกมัน

“สวย!!!!” ไอ้เวรทีงี้สามัคคีดีจริงวุ้ย

“พวกมึงไอ้ปากท่อไอเสีย” จากนั้นพวกเราก็ด่ากันวิ่งไล่กันทั่วห้องจนมีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น

“ปิ๊ง ป่อง” เสียงออดหน้าห้องผมดัง

“ใครมาวะ” พูดจบผมก็เดินไปที่ประตูซึ่งไอ้พวกสามคนนั้นมันก็ตามผมมาด้วยและเมื่อผมเปิดประตู

“สวัสดีอัท”

“อ้าวพรหม มาเข้ามาก่อนสิ” พูดจบผมก็คว้ามือมันเข้าห้องทันที

“อัทมีแขกอยู่หรือเปล่า ไว้ก่อนก็ได้นะแค่จะมาชวนไปกินข้าวตอนเย็นน่ะ” พรหมพูดขึ้น

“หรอไปกินที่ไหนอ่ะ” ผมถามพรหมด้วยความสนใจ

“ก็คิดอยู่เนี่ยเลยจะมาถามความเห็น” เมื่อพรหมพูดจบก็หันไปมองสามสาวซึ่งจ้องมาอย่างไม่เกรงใจ

“เอ่อ....ถ้าเราจำไม่ผิดนี่ เฟิร์น เตย ไอซ์ ปะ” พรหมพูดขึ้น

“อื้ม  ว่าแต่นายรู้จักพวกเราด้วยหรอ” ไอซ์ถามขึ้น

“ก็เคยได้ยินมาบ้างน่ะ” พรหมตอบ

“เออนี่เย็นนี้พวกเธอก็ไปกินข้าวกับเราด้วยดิ” พรหมเอ่ยปากชวน

“เอ่อ   คงไม่ดีกว่าเย็นนี้เรานัดกับพี่เราไว้น่ะ” เตยพูดตอบพรหม

“หรอ งั้นไม่เป็นไรไว้โอกาสหน้านะ” พูดจบพรหมก็เดินออกจากห้อง

“เอ้อ อัทคิดออกแล้วก็ไปหาเราที่ห้องละกันนะ” พรหมหันมาบอกผมแล้วปิดประตู

“อ้ายยยยยยยยยยยยยยย  เสน่ห์แรงนะยะดึงดูดเพศเดียวกัน” ไอซ์พูดขึ้น

“นี่มึงชมหรือด่ากูเนี่ย ก็แค่กินข้าวไปเป็นเพื่อนกันไม่มีอะไรซะหน่อย” ผมบอกมันเพราะผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ

“เหอะ  ไม่มีอะไรในกอไผ่ค่ะ นางเอกนะคะ” ไอซ์ทำเสียงกวนตีนเอามาก

“อีแมมอธ อีรถถัง อีช้างแอฟริกา อี...” ผมด่ามันไม่ทันจบก็มีหมอนปลิวมากระแทกหน้าผมด้วยฝีมือของ...

“อีไอซ์ มึงเล่นงี้ใช่ไหมได้!!!” พูดจบผมคว้าหมอนข้างวิ่งไล่ฟาดมันทันที

“โอ้ยยย ก็มึงปากจัดอ่ะ อีตุ๊ดหน้าสวย” อ๊ากกกก มันกำลังทำให้ผมปรี๊ด

“ตุ๊ดหรอ มึงศพไม่สวยแน่ อีอึ่งอ่าง” แล้วเราก็กลับสู้โหมดเดิมคือ วิ่งไล่กันทั่วห้องด่ากันดังยิ่งกว่าตลาดสดจนเย็น

“เฮ้ย เดี๋ยวพวกกูกลับก่อนนะ พี่กูนัดกินข้าว” เตยบอก

“เออ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ที่มหาลัย”

“เออ บ๊ายบาย” พวกมันโบกมือลาผม ผมเดินกลับเข้ามาในห้องดูนาฬิกาสามโมงเย็นแล้วนี่หว่า

“เฮ้ยย ลืมไปหาพรหมเลย” เมื่อนึกขึ้นได้ผมก็รีบกุลีกุจอไปห้องพรหมทันที

“ปิ๊ง ป่อง”

“อ้าว อัทเข้ามาก่อนสิ” พรหมเปิดประตูออกมารับผม

“ขอบใจ” ผมแทรกตัวเองเข้าไปในห้องซึ่งไม่ต่างจากห้องผมเท่าไรนัก

“นี่พรหม เรื่องเย็นนี้อ่ะกินอะไรดีล่ะ เราเองก็คิดไม่ออก” ผมเปิดบทสนทนา

“นั้นสิ กินอะไรดีล่ะ” พรหมจ้องหน้าผม

“งั้นไปกิน MK กันไหม” ผมแนะของโปรดของผมขึ้น

“อื้อ ก็เอาสิอัทกินอะไรเราก็กินได้ทั้งนั่นแหละ” พรหมบอก

“งั้นเดี๋ยวไปกันสักกี่โมงดีล่ะ” ผมถามถึงเวลาไป

“แล้วแต่อัทเลย เรากี่โมงก็ได้”

“งั้นสัก หกโมงละกันนะ” ผมบอกพรหม

“ได้สิ เดี๋ยวเราไปเรียกที่ห้องละกัน”

“อื้อ ถ้างั้นเรากลับห้องก่อนละกันนะ” ผมบอก

“อื้อ แต่ถ้าเหงาก็มาได้ตลอดนะ” พรหมบอกผม

“อื้อ ขอบใจมาก” ผมยิ้มส่งไปแล้วเดินออกมาจากห้องเพื่อกลับไปที่ห้องตัวเอง

karn49

  • บุคคลทั่วไป
โหยยยยยยยยยยย > < !
เรื่องนี้ใครจะเป็นพระเอกเนี่ย ?
หาคนขี้เก๊กยังไม่เจอเลย
เจอแต่คนปากสุนัขปีจอ และผู้ชายที่แสนดี 5555555

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
โหยยยยยยยยยยย > < !
เรื่องนี้ใครจะเป็นพระเอกเนี่ย ?
หาคนขี้เก๊กยังไม่เจอเลย
เจอแต่คนปากสุนัขปีจอ และผู้ชายที่แสนดี 5555555
ติดตามเรื่อยๆจ้า ตัวละครยังอกไม่ครบ ^^

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 12

( Win Part )

ฮุ่ว~~~ ผมกำลังเบื่อและตื่นเต้นไปพร้อมๆกันเพราะพรุ่งนี้มหาลัยจะเปิดแล้ว วันแรกในรั้วของมหาลัยแค่คิดก็สนุกแล้วครับ ผมจึงนัดก๊วนมาที่บ้าน เดี๋ยวจะชวนพวกมันไปหาอะไรกินกันหน่อย

“เฮ้   ไอ้วิน” เสียงไอ้เบิร์นทักผมมาจากทางประตูหน้าบ้าน

“เออ กูกำลังออกไป” พูดขบผมก็ลุกออกจากห้องรับแขกเพื่อไปหาพวกมัน

“นัดพวกกูมา มีอะไรวะ” ป๊อปพูดขึ้น

“กูว่าจะชวนพวกมึงไปหาไรกินหน่อยว่ะ พรุ่งนี้มหาลัยจะเปิดแล้ว” ผมบอกพวกมัน

“ก็ดี แต่ที่ไหนวะ” ไอ้พัดถาม

“ที่ไหนก็ได้แต่ No Alcohol นะโว้ย” ผมบอกพวกมัน

“หู้ยยยย  อะไรวะ ยังงี้ก็ไม่มันอ่ะดิ” ไอ้วาลท้วงขึ้น

“เออน่า อดสักวันไม่ตายหรอก” ผมบอกมัน

“เอาเป็นว่าไปกิน ชาบูชิ กัน” ผมเสนอ

“ไม่เอาเลี่ยนว่ะ ไดโดมอน ดีกว่า” ไอ้ป๊อปขัดผม

“ชาบูชิ ดิบุฟเฟ่ต์ จะได้แดกเยอะๆ” ผมบอกเหตุผล

“แต่กูไม่ชอบอ่ะ แดกไม่อร่อย ไดโดนมอน ดิอร่อย” ป๊อปแม่งเถียงกูจังวะ

“ชาบูชิ เว้ย” ผมยังไม่ยอมแพ้

“ไดโดมอน” มันก็ไม่ยอมเหมือนกัน

“หยุด!!! สรุปคือพวกกูจะแดก MK มึงสองคนจะแดกอะไรก็เรื่องของมึง” คำพูดของไอ้วาลเป็นเหมือนประกาศิตสรุปคือ พวกเราก็ต้องกิน MK

และเมื่อมาถึงหน้าร้าน MK ซึ่งวันนี้ดูคนไม่ค่อยเยอะเท่าไรแต่ก็ดีเหมือนกันเพราะผมก็ไม่ชอบคนเยอะๆเหมือนกัน

“เฮ้ยๆๆๆๆ ไอ้วินมึงดูนั้นดิ” ไอ้เบิร์นกระชากคอผม

“อะไรของมึงวะ เดี๋ยวคอกูก็หลุดพอดี”

“เอาน่ารับรองถ้าคอมึงจะหลุดนะ ก็คุ้มค่า มึงดูนู้น” ไอ้เบิร์นชี้เข้าไปในร้าน MK และเมื่อผมมองตามที่มันชี้ผมก็ยิ้มขึ้น

“กูว่าได้สนุกกันแน่ๆงานนี้”

( Autt Part )

ตอนนี้ผมกำลังนั่งกิน MK อยู่กับพรหมสองคนตอนแรกพรหมบอกว่าเพื่อนจะมาด้วย แต่ดันติดธุระเลยมาไม่ได้ผมเลยมานั่งกินกับพรหมแค่สองซึ่งก็เหมือนจะมีหลายคนมองผมกับพรหมแปลกๆ แต่ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร

“พรหม ทำไมถึงเรียน บริหารล่ะ” ผมถามขณะกำลังเคี้ยวเป็ดย่างเต็มปาก

“ก็เรียนจบจะได้ไปบริหารงานที่บ้านน่ะ” พรหมตอบยิ้มๆ

“บ้าน พรหมทำอะไรหรอ” ผมถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

“ก็ขายพวก สุขภัณฑ์ อะไรพวกเนี่ย” พรหมพูดพร้อมกับสนใจอาหารตรงหน้าไปด้วย

“โห อย่างงี้ก็สบายอ่ะดิ เรียนจบก็มีงานรองรับเลย”

“ก็คงงั้นอ่ะแหละ” ผมกับพรหมก็คุยกันไปเรื่อย จนมีเสียงหนึ่งที่ขัดจังหวะการคุยกันของพวกเรา

“หวัดดีคนสวย” เมื่อผมหันหน้าไปจากที่อารมณ์ดีๆอยู่ผมรู้สึกหน้าตัวเองเริ่มตึงขึ้นมาทีละนิด

“หมาในปากก็ยังครบเหมือนเดิม หอนเก่งสะด้วย” ผมตอกกลับแบบไม่ไว้หน้า พรหมที่นั่งอยู่ถึงกับหลุดหัวเราะ แต่ก็พยายามเก็บอาการเพื่อไม่ให้เสียมารยาท ซึ่งไอ้วินก็หน้าเสียไปนิดหน่อย

“แหม ยังรุนแรงเหมือนเดิมเลยนะปากยังกับกรรไกรโรงบาล”

“จุ๊ๆ เลิกเห่าก่อนนะลูก พ่อลืมเอาตระก้อคอบปากมา” ผมตอกกลับไปอีกดอก ซึ่งตอนนี้ไอ้บ้านี่ก็เริ่มหน้าแดงขึ้นมาเพราะความโกรธ แต่ก็เก็บอารมณ์และพยายามทำท่าทางให้ปกติที่สุด

“อู้ววว จุกอีกแล้ว แล้วนี่ใครล่ะไม่คิดจะแนะนำให้รู้จักหน่อยหรอ” มันเริ่มลามไปถึงพรหม

“ก็นะ เค้าคงไม่อยากรู้จักกับคนชั้นต่ำอย่างมึงหรอก อุ้ย ขอโทษที พูดตรงไปหรือเปล่าเนี่ยเรา” ผมทำท่าทางได้ดัดจริตมาก แต่ตอนนี้หมันไส้มันมากกว่า

“หึ มากับสามีหรอ ถึงไม่อยากแนะนำให้รู้จัก” ตอนนี้มันคงเริ่มทนไม่ไหว เพราะมันเริ่มพูดจาด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้น

“เหอะ ความคิดต่ำๆ มันก็คู่กับคนชั้นต่ำจริงๆนั่นแหละเนอะ พรหม เนอะ” ผมหาแนวร่วมซึ่ง พรหม ก็ขำจนน้ำตาเล็ดที่ได้ฟังวาทศิลป์ในการปะทะคารมของผม

“เฮ้ยๆ พอเถอะไอ้วินมึงไปหาเรื่งมันก่อนนะ ไปๆนั่งๆ” ป๊อปเข้ามากระชากเพื่อนมันกลับไปนั่งโต๊ะข้างๆผมนั้นแหละ ห่างกันไม่ถึงสามก้าวเลยด้วยซ้ำ และสิ่งที่ผมคาดไว้ก็ไม่ผิด เมื่อมันปล่อยหมาออกมาวิ่งเล่นเรื่อยๆ

“น่าอิจฉาไหมมึงว่า วันนี้พาผัวมากินข้าวว่ะ” เสียงควายลอยมาจากโต๊ะข้างๆ

“…” ผมกับพรหมก็เงียบทำเป็นไม่สนใจ

“มึงว่าผัวเมียเค้าจะได้กันไหมวะ” มันพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่เกรงใจคนอื่นเลย

“กูว่าแม่งเอากันจนตูดบานแล้วมั้ง” เมื่อมันพูดจบผมชักจะเดือดดาลขึ้นมาและ

“น้องครับ” ผมเรียกพนักงาน

“ครับ รับอะไรเพิ่มดีครับ”

“น้องมีตระก้อครอบปากสุนัขไหม” ผมจงใจพูดเสียงดังๆให้โต๊ะข้างๆได้ยิน

“เอ่อ ไม่มีหรอกครับ พี่จะเอาไปทำอะไรหรอครับ” พนักงานถามด้วยอาการงุนงง

“ไม่มีหรอ น่าเสียดายจัง ไม่มีอะไรหรอกพอดีพี่เห็นคนแถวนี้ชอบปล่อยหมาจากปากมาเห่าหอน มันทำให้พี่รู้สึกรำคาญนะ ไม่มีอะไรและถ้างั้นน้องไปทำงานเถอะ” ผมด่ามันข้ามโต๊ะเลยครับ

“มึงว่าใครวะ!!!!” มันตะโกนกลับมา

“นั่นไงน้อง ได้ยินไหมเสียงเปรตขอส่วนบุญ พี่ว่าเก็บเงินพี่เลยดีกว่าขี้เกลียดฟังเสียงโหยหวน แค่หมาก็จะประสาทกินแล้ว” ผมพูดพนักงานก็ยิ้มแหยๆ และรีบเก็บเงินผมอย่างเร็วที่สุด

“สัดเอ้ย!!!! ปากแม่งน่าแดกคอนเวิร์ส” มันยังไม่ยอมเลิกรา

“พรหม เราว่าพรุ่งนี้ก่อนไปเรียนคงต้องไปทำบุญก่อน จะได้ปัดเป่าควาย ซวย!!!!! ออกไปได้บ้าง” ผมเน้นความว่าซวยแล้วหันหน้าไปทางพวกมัน

“ทั้งหมด 720 บาทครับ” พนักงานคนเดิมกุลีกุจอเข้ามาเก็บตังผมด้วยท่าทางเร่งรีบ

“เดี๋ยวเราจ่ายเองอัท” พรหมพูดขึ้น

“ไม่เอา กินด้วยกันหารกันสิ” ผมแย้งขึ้น

“ถือว่าเราเลี้ยงละกันนะมื้อนี้”

“หู้ววว ผัวเค้าเลี้ยงเมียดีเว้ย”

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
อัน นี้ เรา ว่า ไม่ น่า จะ เรียก ว่า "ขี้เก๊ก" นะ


เรียก ว่า "กวนตีน" มาก กว่า


เอิ๊กๆๆๆ   ด่า กัน แบบ ว่า  แรง ได้ อีก

karn49

  • บุคคลทั่วไป
ไม่กวน สักวัน จะเป็นอะไรไหมวิน ? 5555555

ออฟไลน์ shizuruviola

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
Lesson 13

( Autt Part )

ผมที่แทบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้ว ยืนกำหมัดแน่น แต่พรหมก็เอื้อมมือมาจับแขนผมไว้ก่อน

“ใจเย็นๆ อัท อย่าไปใส่ใจนักเลยคำพูดคนแบบนั้นน่ะ” พรหมพูดเตือนสติผม แต่ตอนนี้เอาช้างมาฉุดผมก็ไม่อยู่หรอก

“ได้ไงล่ะพรหม มันพูดจาหมาไม่แดกแบบเนี่ยใส่พรหมกับเรานะ เหอะ หน้าตาก็ไม่ดีแล้วยังเสือกทำตัวน่าเกลียดอีก” ผมถลึงตาใส่พวกมัน

“โว้ว ผู้ดีเอ้ย หน้าตาแม่งยังกะหลุดมาจากสวนสัตว์” มันสวนกลับมา

“งั้นกูคงหลุดมาจากพวกมึงแน่ๆเลย ไม่ใช่สัตว์ธรรมดานะ สัตว์เดรัจฉานเลยแหละ!!!!” ตอนนี้คนในร้านเริ่มมองว่า ไอ้ห่าสองตัวนี้มันเป็นอะไรกัน ยืนด่ากันไม่เกรงใจชาวบ้านเลย(ความคิดผมอ่ะนะ)

“อัทพอเถอะ ถือว่าเราขอละกันนะ” พรหมพูดขึ้น

“ห่วงจังนะเมียมึงน่ะ” ไอ้วินพูดใส่พรหม

“คุณเข้าใจอะไรผิดแล้วแหละ ผมกับอัทเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น” พรหมสวนกลับไป

“เหอะ พวกมือถือสากปากถือสิน กูว่าแม่งเอากันจนเห็นทุกซอกทุกรูแล้วว่ะ 5555” มันหันไปพูดกับเพื่อนมันซึ่งตอนนี้เองทำให้ผมเดือดจนขีดสุด

“ปากหมานักนะมึง!!!!” พูดจบผมคว้ากระบวยตักสุกี้เขวี้ยงไปที่หัวมันทันที

“โป๊กกกก     โอ้ยยยยยย เจ็บนะไอ้สัด!!!!!!!!” มันด่าผมดังลั่น ซึ่งผมไม่สนใจแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นทันที

“สำหรับคนปากหมาอย่างมึง!!!!” พูดจบผมก็ลากพรหมเดินออกไป

“อัทใจเย็นๆ” พรหมพูดขึ้นเมื่อเราเดินกันมาสักพัก

“พรหมเชื่อเราไหมเกิดมาไม่เคยเจอใครปากหมาขนาดนี้เลยจริงๆ สันดานชั่วสุดๆ” ผมระเบิดคำด่าออกมาเป็นชุด

“ฮ่าๆๆๆๆ อัทเราว่าอัทน่าจะไปจัดรายการ สารพัดคำด่า นะ แต่ละคำคนฟังนี่ปวดจิตเลยอ่ะ” พรหมพูดแล้วยิ้มให้ผม

“มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอกนะ บังเอิญได้มาตามสายเลือด” ผมพูดหยอกกับพรหม

“เฮ้ยยยย ตายห่าแล้วลืมจ่ายตังเลยสติหลุดจนลืมเลย” ผมหันหน้าไปบอกพรหม

“ฮ่าๆๆๆ เราจ่ายแล้วไม่ต้องกังวล” พรหมบอกผม

“อ้าว จ่ายไปเท่าไร มาหารกันดิ” ผมบอกพรหม

“เราไม่เอาหรอก เราเลี้ยงเองมื้อนี้”

“พรหม ไม่เอาเราไม่ชอบเกาะใครกินนะ” ผมบอกพรหมจริงจัง

“เฮ้ย อย่าคิดแบบนั้นดิ เอางี้อัทเลี้ยง ซเวนเซนต์ เราก็พอ โอเคไหม” พรหมยื่นข้อเสนอให้ผม

“โอเค เอางั้นก็ได้งั้นไปกันเถอะ” แล้วผมก็ลากพรหมเข้ามากินไอติม ซึ่งก็เป็นของชอบผมอีกตามเคยนั่นแหละ

“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยขึ้น

“กินไรดีอ่ะ พรหม” ผมหันไปถามพรหมซึ่งนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับผม

“อือ ไม่รู้สิ อัทสั่งให้เราหน่อยละกันนะ เราไม่ค่อยถนัดของหวานน่ะ” พรหมบอกกับผม

“อื้มได้เดี๋ยวเราจัดให้” ผมรับคำแล้วหันไปสั่งพนักงาน

“พี่ครับ เอาบานาน่า สปลิท สองที่ ถ้วยนึงเอาช็อกโกแลตสอง มะนาวหนึ่ง อีกถ้วยนึงเอา สตอเบอร์รี่ วนิลา มะนาว” ผมสั่งอย่างคล่องแคล้วเพราะผมชอบกินบ่อยๆ

“ค่ะ รอสักครู่นะคะ” แล้วพนักงานก็เดินจากไป

“อัท สั่งคล่องจัง ชอบกินไอติมหรอ” พรหมถามผม

“ที่สุดอ่ะ ชอบมากปกติถ้าว่างก็จะไปกินกับเพื่อนน่ะ” ผมบอกพรหม

“พรหมๆ ผู้หญิงโต๊ะนั้นมองพรหมแปลกๆนะ” ผมสะกิดพรหมเมื่อเห็นผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง มองพรหมหลายรอบแล้ว

“ชั่งเถอะ อย่าไปสนใจเลย” พรหมบอก หลังจากนั้นสักพักไอติมที่พวกผมสั่งก็มาวางอยู่ตรงหน้าแล้ว

“ว้าว มาแล้ว” ผมร้องขึ้นอย่างดีใจ

“อัท ชอบกินช็อกโกแลตหรอ” พรหมถามเมื่อเห็นผมเอาถ้วยที่มีช็อกโกแลตสองลูก

“อื้ม เราว่ามันหวานดีน่ะ” ผมตอบแล้วยิ้มๆ

“ถ้าชอบแล้วทำไมไม่สั่งสามลูกเลยล่ะ” พรหมถามผม

“ไม่ไหวอ่ะ เลี่ยนเกิน เราสั่งมะนาวมาเพื่อแก้เลี่ยนเนี่ยแหละ” ผมบอกเหตุผลกับพรหม พรหมนิ่งไปสักพัก

“เป็นอะไรไปหรือเปล่าพรหม” ผมถามเพราะ พรหมนิ่งไปเลยจริงๆ

“เปล่าๆ เราคิดอะไรไปเรื่อยเปลื่อยน่ะ” พรหมตอบผมแล้วก็นั่งกินไอติมต่อ

“คิดอะไรอ่ะ บอกเราหน่อยซี่” ผมถามอย่างอยากรู้อยากเห็น

“ก็เราคิดว่า ชีวิตก็เหมือนถ้วยไอติมที่มีการดำเนินของมันไปเรื่อยๆ ช็อกโกแลตคือความสุข มะนาวคือความทุกข์ ทุกอย่างมีการลบล้างกันเอง” พรหมพูดผมถึงกับงง คืออะไรหรอผมไม่เข้าใจ

“เอ่อ....เราไม่เข้าใจอ่ะ พรหมคิดลึกไปเปล่า” ผมว่า

“เราหมายความว่า ชีวิตน่ะไม่ได้มีแต่สิ่งสวยงาม มันต้องมีอุปสรรคมาเป็นสีสันของชีวิตบ้าง” พรหมบอกผม

“แล้วที่บอกทุกอย่างลบล้างกันเองหมายความว่าไงอ่ะ” ผมถามต่อเพื่อจะได้คลายความสงสัย

“ก็อย่างเช่น มีเกิด ก็ต้องมีตาย ขาวกับดำ ประมาณเนี่ย”

“โอ้โห ท่านอาจารย์พรหมคิดได้สุดยอด นี่กินแบรนด์ไปกี่โรงงานเนี่ย” ผมหยอกพรหมเล่น

“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก เราชอบคิดอะไรไปเรื่อยน่ะ”

“เอาเถอะ แต่อย่าคิดมากล่ะเดี๋ยวจะเป็นบ้าไปสะก่อน อ่ะกินต่อเถอะ” ผมพูดจบก็จ้วงไอติมเข้าปากตัวเองต่อจนหมดถ้วย

“โอ้ย อัทไม่ไหวละเราอิ่มมาก” พรหมบอกผม เมื่อผมมองไปที่ถ้วยของพรหมก็เกิดอาการเสียดายตั้งลูกครึ่งที่กินไม่หมด

“โห อะไรอ่า ตัวก็ใหญ่กว่าเรากินไม่หมด เอามานี่” ผมยกถ้วยไอติมพรหมมากินต่อ

“ตัวนิดเดียวไมกินเก่งจัง” พรหมถามผม

“เราก็กินเยอะนะพรหม แต่กินแล้วตัวมันก็ไม่ใหญ่ตามอ่ะไม่รู้จะทำไงแล้ว” ผมบอก

“กินเยอะๆ อ่ะดีแล้วจะได้โตไวๆไง” พรหมแหย่ผม

“เชอะ เราไม่ใช่เด็กนะ” ผมทำแก้มป่องใส่พรหมแล้วกินไอติมต่อจนหมด แล้วผมก็นั่งรถกลับมาคอนโดกับพรหมเพราะพรหมมีรถยนต์ส่วนตัว

“อัท พรุ่งนี้ไปพร้อมกันนะ” พรหมบอกผม

“อื้อ มาเรียกเราด้วยล่ะ” ผมบอกพรหม

“โอเค ไว้เจอกันพรุ่งนี้” พรหมพูดจบก็ไขประตูเข้าห้องตัวเอง

“บ๊าย บาย” ผมโบกมือเล็กน้อยแล้วเดินเข้าห้องตัวเอง เฮ้อ วันนี้ก็เป็นอีกวันที่สนุกและทุกข์ไปพร้อมๆกัน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด