สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14  (อ่าน 202722 ครั้ง)

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
********************************************************************

ผิดไหม? หากเพื่อนรักจะหลงรักเพื่อนของตัวเองสุดหัวใจ หากแต่ด้วยความไม่ยั้งคิด กลับสร้างรอยร้าวระหว่างกันจนไม่อาจมองหน้า แล้วเขาจะทำอย่างไร เพื่อให้ได้กลับมาเคียงข้างกันอีกครั้ง แม้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

“ฉันเกลียดแก และจะเกลียดไปตลอดชีวิตที่ฉันมี”
แต่ฉันรักนายนะ และจะรักนายไปจนกว่าฉันจะหมดลมหายใจ

“ฉันจะทำให้นายเจ็บ ยิ่งกว่าที่ฉันเคยเจ็บ”
ทำเถอะ ถ้ามันจะทำให้นายสบายใจได้ ฉันก็ยินดี

“ออกไปจากชีวิตฉันสักที”
ถ้าฉันไปนายจะอภัยให้ฉันหรือเปล่า ถ้านายอภัยให้ฉันล่ะก็ ฉันสาบาน จะหายไปจากนาย ตลอดชีวิต...
<
<
<
<
<


ตอนที่ 1 *อีกครั้ง*
 
“อะไรนะ พี่จะให้ผมรับงานถ่ายแบบอีกงั้นเหรอ พี่ก็รู้ว่าผมไม่ค่อยสะดวก ผมไม่ไหวหรอกนะครับ”
“แค่สองอาทิตย์เองนะภู่ เป็นงานที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่หนักมากหรอก และที่สำคัญนะ งานนี้จะไปถ่ายทำกันถึงเกาะมัลดีฟแน่ะ เธอก็เหมือนได้ไปพักผ่อนนั่นแหละ ไม่ดีเหรอ?”
“ ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ ผมอยากพักอยู่บ้านมากกว่าอีก”
“โธ่ ถือว่าช่วยพี่สักครั้งเถอะนะ ครั้งเดียว งานนี้มันสำคัญกับอนาคตพี่เลยนะภู่ ช่วยพี่หน่อยเถอะนะ นะ นะ”
“แต่ว่า พี่แอนครับ...”
“อ๊ะ จริงด้วย พี่ลืมบอกไป คนที่จะมาเป็นตากล้องให้น่ะ เขาเป็นถึงตากล้องที่ได้ชื่อว่ามีฝีมือขั้นเทพเลยนะ”
“ใครเหรอครับพี่แอน”
“คุณนคินทร์ไงล่ะ ทั้งๆที่ฝีมือของเขาดังมากเลยนะแต่กลับไม่ค่อยยอมรับงานในวงการสักเท่าไหร่ แต่เพราะงานนี้มันสำคัญมากจริงๆ ไง เขาถึงได้ตกปากรับคำมาช่วยน่ะ ก็เหลือแต่เธอนี่แหละ ช่วยพี่หน่อยนะ ภู่นะ”
“เขา...เอ่อคุณนคินทร์ เป็นคนเลือกผมเหรอครับ”
“อ๋อ เปล่าหรอกจ๊ะ เรื่องนายแบบน่ะทางผู้จัดเขาเป็นคนเลือกเอง คุณนคินทร์เขาไม่รู้หรอก ตอนที่ไปขอคำปรึกษา คุณเธอก็บอกว่าจะใครก็ได้ไม่เกี่ยงล่ะ”
“งั้นเหรอครับ...ถ้าเขารู้ว่านายแบบเป็นผมเขาคงจะขอถอนตัวแน่ๆ”
“พูดอะไรน่ะ เธอน่ะนะ เป็นนายแบบในตำนานที่ไม่ว่าตากล้องคนไหนไหนก็อยากได้ตัวเธอทั้งนั้นแหละ”
“หึ หึ มันไม่แน่เสมอไปหรอกครับพี่แอน”
“หืม อะไรของเธอเนี่ย แล้วว่ายังไงตกลงรับงานนี้ไหมภู่ รับนะ รับนะ”
“...ก็ได้ครับพี่แอน ผมรับงานนี้ครับ แต่แค่งานนี้งานเดียวนะ ผมจะไม่รับงานอื่นอีกแล้วนะครับ”
“อุ๊ย จ๊ะๆ แค่งานนี้พี่ก็ดีใจแล้วล่ะ เย้ๆดีใจจังเลย”
“ฮะ ฮะ แล้วคอนเซ็ปงานเป็นยังไงเหรอครับพี่แอน”
“ก็เป็นงานถ่ายแบบเปิดตัวสินค้าใหม่ของแบรนด์เสื้อGEOGARDน่ะ งานนี้เขาทุ่มทุนกันแบบสุดตัว เลยอยากได้นายแบบขั้นเทพอย่างภู่ และตากล้องมือพระกาฬอย่างคุณนคินทร์ไงล่ะ ก็แบรนด์เขาดังมากเลยนี่นา จะเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งทีแค่นายแบบธรรมดาๆ มันไม่เวิร์คหรอกนะ ต้องเป็นเธอเท่านั้นแหละจ๊ะ”
“อืม ครับ แล้วจะเริ่มงานวันไหนเหรอครับ ผมจะได้เตรียมตัวก่อน”
“งานจะเริ่มอาทิตย์หน้าน่ะ เดี๋ยวพี่จัดตารางมาให้ภู่อีกทีนะ”
“ครับ รบกวนด้วยนะครับพี่แอน”
ภู่ หรือภุมรา นายแบบหนุ่มที่เคยโด่งดังมาก แล้วจู่ๆก็ประกาศตัวออกจากวงการเอาดื้อๆ ชายหนุ่มเป็นคนหน้าตาดี รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวละเอียด เรือนผมสีดำนุ่มสลวย ซอยสั้นระต้นคอ ตามสไตล์นายแบบ คิ้วสวยได้รูป ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่แสนทรงสน่ห์ เป็นที่หลงใหลแก่ทุกคนที่พบเห็น แม้จะเป็นนายแบบที่โด่งดัง ภายนอกอาจดูเป็นคนที่เย่อหยิ่งจองหอง เข้าถึงได้ยาก แต่จริงๆแล้วก็เป็นคนที่ไม่ถือเนื้อถือตัว และจริงใจกับทุกคนที่เข้าใกล้
เช้าวันเสาร์ชายหนุ่มสาละวนอยู่กับการจัดกระเป๋าเดินทางเพื่อเดินทางไปถ่ายแบบที่เกาะมัลดีฟ ตามตารางงานที่ได้รับมา เวลาแค่สองอาทิตย์ก็ไม่ได้มากมายนัก แล้วก็ไม่ใช่คนที่เรื่องมากอะไร ดังนั้นของที่นำติดตัวไปจึงมีแค่ของใช้จำเป็นแค่หยิบมือเดียว พอได้เวลาก็มีทีมงานมารับไปส่งที่สนามบิน

“ฮัลโหล ครับหมอ ครับ กำลังเดินทางไปสนามบินเลยครับ”
“.........”
“ฮะ ฮะ ฮะ ผมไม่ลืมหรอกน่า ผมจะซื้อมาฝากเยอะๆเลย”
“.........”
“ก็หมอไม่ยอมไปกับผมนี่นา ไหนว่าอยากพักผ่อนบ้างไง ไปกับผมก็ได้ เดี๋ยวผมเที่ยวเป็นเพื่อนให้เอง”
“............”
“ฮะ ฮะ ฮะ ได้ ได้ เดี๋ยวผมกลับมาแล้ว เราค่อยไปเที่ยวกัน เตรียมลาพักร้อนไว้ได้เลยครับ”
“..........”
“คร้าบ คร้าบ รู้แล้ว แล้วเจอกันครับ สวัสดีครับ”
พอวางสายก็หันมาเจอกับสายตาอยากรู้อยากเห็นของสต๊าฟหนุ่มที่นั่งมาด้วยกัน ดูท่าทางก็รู้ว่าหนุ่มคนนี้ชื่นชมเขาอยู่มากพอควร ดูจากหน้าตาแล้วอายุคงจะไล่เลี่ยกันอยู่ หรืออาจอ่อนกว่าเขาอยู่สักหน่อย แววตาดูเป็นมิตร ดูไม่มีพิษภัย
“คุณภู่ มีของเอาไปแค่นั้นเองเหรอครับ”
“อือฮึ ทำไมเหรอครับ”
“ น้อยไปหรือเปล่าครับเนี่ย ผมเคยเห็นนายแบบบางคน เวลาไปไหนมาไหนทีของเยอะแยะมากมายเลยนะครับ”
“หึ หึ แค่นี้ก็พอแล้ว ผมไม่ชอบขนของไปไหนเยอะๆ ไม่ได้จะย้ายบ้านสักหน่อยนี่ครับ”
“ฮ่าๆๆ จริงด้วยครับ”
“เอ่อ ขอโทษที ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย ทั้งๆที่คุณรู้จักผมแล้ว...”
“อ๊ะ ขอโทษครับลืมแนะนำตัวไป ผมชื่อซอ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ซอ”
“ตอนแรกผมคิดว่าคุณภู่ จะคุยด้วยยากกว่านี้ซะอีกครับ แต่เอาเข้าจริง คุณเป็นคนที่คุยได้ง่ายดีนะครับ”
“ฮ่ะ ฮ่ะ ใครๆก็ว่ากันอย่างนั้นแหละ ว่าแต่เรียกผมว่า ภู่ เฉยๆก็ได้ เรียกคุณภู่ ฟังแล้วมันจั๊กกะจี้นะครับ”
“ฮ่าๆๆ โอเค ครับ โอเค”
หลังจากคุยกันอย่างถูกคออยู่ได้สักพักก็ถึงสนามบิน คิดว่าถ้าได้ผูกมิตรไว้หน่อยก็ดีอย่างน้อยๆสองอาทิตย์ที่มัลดีฟก็จะได้มีเพื่อนคุย
ตลอดทางที่เดินเข้าไปเคาน์เตอร์เช็คอิน หัวใจของภุมราเต้นระทึกขึ้นเรื่อยๆ เขากำลังจะได้เจอกับคนที่เขาเฝ้ารอ คนที่อยู่ในหัวใจมาตลอด คนที่เป็นดั่งลมหายใจ คนคนนั้น คนที่ถูกเขาทำเรื่องที่เกินให้อภัย คนที่ชิงชังเขายิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ “นคินทร์”   
ในที่สุด ก็ได้พบกันอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะ สำหรับภุมรา มันนานราวกับทั้งชีวิตเลยทีเดียว พอไปถึงจุดรวมพลที่ทุกคนรวมตัวกันอยู่ ทุคนหันมามองที่เขา เพราะเขาหายจากวงการไปนาน สต๊าฟหลายๆคนต่างก็อยากจะทักทายด้วยความคิดถึง แต่เขามองไม่เห็นใครเลยสายตาพุ่งตรงไปที่คนคนนั้น คนที่เขาคาดหวังที่จะเจอมาตลอด เฝ้าอธิฐานให้ได้เจอ ยอมแลกทุกอย่างเพียงเพื่อจะได้ยืนเคียงข้างอีกครั้ง แม้จะแค่นาทีเดียว เขาก็ยินดี นคินทร์ ชำเลืองมองมาทางภุมราเพียงแวบเดียว แล้วก็หันกลับไป คงรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาจะมาเป็นนายแบบให้
‘ถึงจะรู้อยู่แล้ว แต่ก็เจ็บชะมัด’ ในใจของภุมรา คิดออกมาแบบนั้น
“อ้าวภู่ มาแล้วเหรอ มานี่เร็ว มาตรงนี้”
“สวัสดีครับพี่แอน”
“นี่พี่จะแนะนำให้รู้จักคุณนคินทร์”
ไม่มีใครรู้ว่าภุมรากับนคินทร์นั้นเคยรู้จักกันมาก่อนตั้งแต่ที่ยังไม่มีชื่อเสียงในวงการ
“คุณนคินทร์คะนี่ภุมราค่ะ นายแบบที่น่ารักของเราในงานนี้ แล้วก็ภู่จ๊ะ นี่คุณนคินทร์ นะ ยอดตากล้องสุดหล่อของเราเช่นกัน สนิทๆกันไว้นะจ๊ะ เขาว่ากันว่า งานจะออกมาดีได้ ตากล้องกับนายแบบต้องใจถึงใจนะ ฮิฮิ”
ภุมราทำเป็นโค้งให้ทั้งๆที่ไม่ได้ละสายตาจากใบหน้าคมเข้มนั้นเลยแม้แต่น้อย ฝ่ายนั้นเองก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเพียงแค่ยืนนิ่งๆเท่านั้น แอนที่พยายามสร้างบรรยากาศให้ดูเป็นมิตรถึงกับหน้าเจื่อนเพราะชายหนุ่มไม่เล่นด้วย ภุมราเป็นคนถอยออกมาก่อนเพื่อลดบรรยากาศอึดอัดที่เกิดขึ้น กลัวว่าอาจทำให้คนอื่นๆระแคะระคายเอาได้ แอนจึงรีบตามมาคุยกับภุมราด้วย
“นี่ๆ ภู่ อีตาคุณนคินทร์เนี่ยเย็นชาชะมัดเลยอ่ะ ไม่ยอมรับมุกพี่เลย จริงๆแล้วต้องเออออไปตามมารยาทบ้างสิ เสียเซลฟ์ชะมัดเลยเชียว”
“เขาคงเป็นคนนิ่งๆน่ะครับ คงไม่มีอะไรหรอก อาจตื่นคนก็ได้ หึหึ”
“ว๊าย ร้ายกาจ คุณนคินทร์เขาไม่ใช่สัตว์ป่านะภู่ เอ๊ะ หรือว่าใช่ ฮ่าๆๆ”   
ไม่มีใครเอะใจสงสัยบรรยากาศน่าอึดอัดระหว่างชายหนุ่มทั้งคู่ คงเพราะตัวนคินทร์เองนั้นก็ไม่ค่อยเป็นมิตรกับใครอยู่แล้ว
*************************************************


ฝากไว้ในใจทุกท่านด้วยนะเจ้าคะ
ครุคริ งุงิ งืมงืม :z3:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2014 00:54:29 โดย thearboo »

amfinetoday

  • บุคคลทั่วไป
มาให้กำลังใจคนแรก  o13 (รึเปล่า)

เรื่องน่าติดตามมากนะคนเขียน อยากรู้ว่า 2 คนมีเบื้องลึกเบื้องหลังยังไง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป...

อัพบ่อย ๆ หน่อยน้า จะคอยอ่าน

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 2 *เกาะสวรรค์*

6 ชั่วโมงจากกรุงเทพ และแล้วก็เดินทางมาถึงดินแดนในฝันของใครหลายๆคน เกาะมัลดีฟส์ ทีมงานทั้งหมดเดินทางมาถึงที่พัก บังกะโลสวย หาดทรายขาว ทะเลฟ้าใสเป็นประกาย  แค่ได้เห็น ทุกคนก็รู้สึกว่าความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางหายไปเป็นปลิดทิ้ง และตื่นเต้นกับการทำงานที่จะเริ่มวันพรุ่งนี้ และต่อไปอีก 2 สัปดาห์  ภุมราแอบคิดอยู่ในใจว่า บริษัท GEOGARD นี่ช่างเป็นพ่อบุญทุ่มเหลือเกินเพราะ แค่ทำโฆษณาลงนิตยาสาร ถึงกับลงทุนออกค่าที่กินที่พักให้ทีมงานทุกคน 7 ชีวิตมาที่มัลดีฟส์ คงไม่ใช่จำนวนน้อยๆเป็นแน่
บังกะโลที่จองเอาไว้มี 2 หลัง ขนาดกลางและขนาดเล็ก ดูเป็นส่วนตัว แอน ผู้จัดการส่วนตัวของภุมรา และเป็นผู้จัดการกับทริปถ่ายแบบทั้งทริปนี้ เป็นคนจัดการที่อยู่เสร็จสรรพ
“เอาล่ะ ทีมงานทั้งหมด 5 คนจะอยู่รวมกันที่บังกะโลหลังใหญ่นะคะ เพราะที่นั่นมี 3 ห้องนอน ส่วนน้องภู่ กับคุณนคินทร์ เป็นแขกพิเศษของเรา ขออนุญาตให้ทั้งสอง อยู่อย่างสบายๆ ไม่แออัด กับบังกะโล 2 ห้องนอนหลังเล็ก ที่ดูเป็นส่วนตั๊วส่วนตัวสำหรับ 2 หนุ่มนะค๊า” พูดจบทีมงานก็ขนของพะรุงพะรังเข้าไปในบังกะโลหลังใหญ่ทันที จนเหลือแค่ภุมรากับนคินทร์เท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ภุมรารู้ดีว่านคินทร์คงจะอึดอัดไม่น้อยที่ต้องมาอยู่กับเขาแค่ 2 คนในบังกะโลหลังนี้ แต่สำหรับภุมรานั้น ช่างเป็นความโชคดี อย่างที่อาจต้องใช้โชคทั้งชีวิต เพื่อคว้ามันเลยทีเดียว ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสที่ได้มานี้หลุดมือไปอบ่างเด็ดขาด คิดพลางก็ขนของตัวเองเดินตามนคินทร์เข้าไปในบังกะโล

“ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ”  ภุมราไม่รอช้า เอ่ยทักออกไปเป็นการลองเชิง หากแต่ไม่ได้รับเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายแต่อย่างใด
“ ตอนนี้ นายยังอยู่ที่เดิม หรือเปล่าน่ะ สบายดีใช่มั้ย?”  ภุมราลองชวนคุยอีกครั้ง หากแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับ อีกฝ่ายยังคงจัดเก็บของของตัวเองโดยไม่ได้สนใจเลยว่ามีอีกคนอยู่ในบังกะโลหลังนี้ด้วย
“หึหึ นายนี่ยังเงียบเป็นเป่าสากเหมือนเดิมเลยนะ ภู”
“อย่ามาเรียกฉันว่า ภู!! แกไม่มีสิทธิ์เรียกฉันอย่างสนิทสนมแบบนั้น!!” นคินทร์ตวาดกลับออกมา อย่างที่ภุมราคิดไว้ไม่ผิด ตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้น นคินทร์เคยประกาศกร้าวตัดขาดความเป็นเพื่อนกับเขาไปแล้ว ขนาดที่ว่าตายไม่เผาผี และจะโกรธมากหากเขาเผลอไปเรียกชื่อเล่นของเขาเข้า
“นี่นาย...ยังไม่เลิกเจ้าคิดเจ้าแค้นอีกเหรอ นานมากแล้วนะ อโหสิกรรมให้ฉันได้แล้วมั้ง”
“หุบปากไปเถอะ คนอย่างแก ตายไปกี่ชาติ ฉันก็ไม่มีทางให้อภัย!!” พูดจาคาดโทษ เคียดแค้น เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน นคินทร์ยังคงเป็นคนเดิมที่เขารู้จัก ยังคงเป็นคนที่เกลียดเขา และยังคงเป็นคนที่เขารัก
“โห...พูดแบบนี้ ให้ฉันตีความว่า ไม่ว่าชาติไหน นายก็อยากเกิดมาเจอฉันงั้นสิ ขาดกันไม่ได้เลยเนอะ” การพูดยียวนเป็นไสตล์ที่ภุมราคุ้นเคย และมันเป็นแค่หนทางเดียวเท่านั้นที่จะสามารถได้พูดคุยกับนคินทร์ ถึงจะไม่ใช่ในเชิงที่ดีนักก็ตาม
“ใช่...แกกับฉันยังต้องเจอกัน รวมทั้งกับฝ้ายด้วย เพราะแกยังต้องชดใช้ให้เธอ อย่างไม่มีวันสิ้นสุด สิ่งที่แกทำมันเกินจะอโหสิกรรม!!” นคินทร์ คำรามต่ำ แววตาวาวโรจน์จ้องมองมาในดวงตาของภุมรา หากแต่ดวงตาคู่นั้นกลับไม่เคยเห็นถึงความอาทรในดวงตาคู่นี้เลยแม้แต่ฝีกริ้น
“หึ...เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว นายยอมทิ้งทั้งชีวิตผูกพันกับฉันไปจนชาติหน้าเลยสินะ ฉันล่ะอิจฉาหล่อนจริงๆ...อึก!!” ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ภุมราก็ถูกอุ้งมือหนาของนคินทร์ล็อคเข้าที่คออย่างหนักจนแทบสำลัก มือกร้านบีบเค้น ราวกับจะให้คอเขาแหลกคามือ
“หุบปากเน่าๆของแกไปซะ  แกไม่มีสิทธิ์พูดถึงเธอแบบนั้น!!!”
“ทำไมจะพูดถึงไม่ได้ล่ะ ฝ้ายก็เป็นคนที่ฉันรักเหมือนกันนะ นายก็รู้ดีอยู่นี่”
“อย่าเรียกชื่อเธอ แกทำลายชีวิตเธอ แกมันใจบาปหยาบช้า ราวกับไม่ใช่คน” อุ้งมือที่บีบคอเขาอยู่กระชับแน่นขึ้นเข้าไปอีกจนลมหายจะเริ่มจะขาดห้วง นี่นคินทร์ตั้งใจจะบีบคอเขาให้ตายเลยอย่างนั้นหรือ นั่นสินะ ที่จริงนคินทร์คงอยากจะฆ่าเขาให้ตายๆไปซะตั้งแต่วันนั้นแล้ว
“นะ...นี่...ถ้ายังไม่คิด...จะฆ่าให้ตายตอนนี้ล่ะก็...ปล่อยมือก่อนเถอะ... ไม่งั้นพรุ่งนี้ฉันจะถ่ายแบบไม่ได้เอา” ภุมราพูดเตือนสติ ใช่ ถึงเขาสองคนจะมีความแค้นอะไรกันอยู่ก็ตาม แต่การที่ทั้งคู่อยู่ที่นี่ในสาเหตุจริงๆแล้วนั้นมันก็คือเรื่องงาน และเขาไม่ควรให้มันมีผลกระทบต่อทั้งทีมงานหรือลูกค้า นคินทร์คลายมือออกแต่โดยดี หากแต่อารมณ์คุกรุ่นก็ยังไม่จางหาย ฝ่ายภุมราพอหลุดจากอุ้งมือชายหนุ่มได้ ก็ถึงกับสำลักอากาศเสียตัวโยน และได้แต่ยืนมองนคินทร์เก็บของเข้าห้องส่วนตัวอยู่ตรงนั้น โดยไม่สามารถจะรั้งตัวกลับมาคุยดีๆได้อีก แต่ช่างเถอะ เหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์ มันต้องมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างล่ะน่า เขาจะพยายามทำให้นคินทร์อภัยให้เขาให้จงได้
ความมืดโรยตัวเข้าปกคลุมทุกพื้นที่บนเกาะเล็กๆนี้ ภุมรานอนอยู่ในห้องส่วนตัว โดยที่ใจยังคงคิดคำนึงอยู่ตลอด ว่าถัดออกไปจากห้องเขานี้ คือห้องของนคินทร์ คิดได้ว่า เขาทั้งคู่อยู่ใต้ชายคาเดียวกันในบังกะโลหลังนี้ ในที่ที่เป็นส่วนตัวนี้ เพียงแค่คิดแบบนั้นหัวใจของภุมราก็พองโตอุ่นซ่าน ด้วยที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้มีโอกาสนี้อีก  ดึกสงัดภุมราผลอยหลับไป และคงเป็นค่ำคืนที่เขาอาจฝันดี


...................................................................

ต่อด้านล่างจ๊ะ  :z6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2012 19:59:34 โดย thearboo »

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 3 *เหตุเกิดจากความเหงา*

แสงอาทิตย์ อบอุ่นในยามเย็นโพล้เพล้ เด็กชายตัวน้อยนั่งเหม่อลอยอยู่บนขอบสะพานหันหน้ามองไกลออกไปในทะเลกว้าง เฝ้าดูดวงอาทิตย์ ที่ค่อยๆไหลลงสู่ท้องทะเลอย่างช้าๆ และเงียบเชียบ เย็นขนาดนี้แล้ว เด็กชายวัย 10 ขวบยังคงนั่งอยู่คนเดียวไร้วี่แววใครมาสนใจดูแล นั่นเพราะเขาเป็นลูกที่ถูกลืม เด็กชาย “ภุมรา” 
เด็กน้อยถูกส่งมาอยู่ในความดูแลของคุณป้าที่จังหวัดเล็กๆนี่ ป้าของเขาทำงานกลางคืน เป็นเจ้าของบาร์เล็กๆริมชายหาด เพราะป้าทำงานกลางคืนจึงไม่ได้มาดูแลเด็กน้อยมากนัก หากแต่ก็เป็นญาติเพียงคนเดียวที่ยอมรับเลี้ยงเขา เด็กชายผู้ซึ่งพ่อแม่แยกทางกัน ไปมีครอบครัวใหม่ และเห็นเขาเป็นเพียงส่วนเกิน แม้จะยังส่งเสียเงินทองให้ แต่ก็ไม่ได้รับเลี้ยงดู ดังนั้นป้าเขาจึงรับมาอยู่ด้วย แม้จะไม่ได้มีเวลาดูแลมากมาย แต่ก็ให้ความรักเอ็นดูพอจะหล่อเลี้ยงหัวใจแห้งผากของเด็กน้อยให้พอชุ่มชื้นอบอุ่น 3เดือนแล้วที่เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ เด็กน้อยชอบมานั่งรับลมทะเลยามเย็นที่นี่ เพราะมันสวยงามและสงบ และที่สำคัญ 3 เดือนแล้วที่เขามาอยู่ที่นี่ แต่เขาก็ยังไม่มีเพื่อนเลยแม้สักคน
พระอาทิตย์ลับขอบทะเลไปแล้ว ความมืดปกคลุมทั่วพื้นที่ เด็กชายคิดจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน พลันสายตาไปเจอเข้ากับลูกหมาตัวหนึ่งนอนขดตัวอยู่ใกล้ๆถังขยะริมสะพาน ท่าทางดูเหมือนจะบาดเจ็บ ภุมราไม่รอช้า รีบเข้าไปดูอาการ ลูกหมาหน้าตาน่ารัก ดูไม่เหมือนหมาข้างถนน เด็กชายอุ้มลูกหมาน้อยขึ้นดูอาร ดูท่ามันจะโดนหมาเจ้าถิ่นทำร้าย แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บมาก แค่อยู่ในอาการตกใจกลัวเท่านั้น ภุมราเดินอุ้มเจ้าหมาน้อยตั้งใจที่จะพากลับไปรักษาที่บ้านเขา พลันมีเด็กชายอีกคนเดินมาขวางทางเขาไว้
“นี่ นาย นั่นน่ะหมาของฉันนะ!” เด็กชายที่มาใหม่ หน้าตาถมึงทึง ดูไม่พอใจนักที่เห็นภุมราอุ้มลูกหมาของตนอยู่
“ฉันไม่ได้จะขโมยนะ ฉันแค่เห็นมันบาดเจ็บเลยจะรักษาให้น่ะ” ภุมราอธิบายออกไป เด็กชายที่มาใหม่จึงคลายสีหน้าลง
“มันหายออกมาจากบ้านฉันมาน่ะ  แล้วคงหลงทางกลับไม่ได้” เด็กชายเจ้าของเจ้าหมาน้อยอธิบาย สายตับจับจ้องลูกหมาน้อยด้วยความสงสาร
“งั้น พามันไปบ้านฉันก่อนมั้ย หายาทาให้มันก่อนแล้วค่อยพากลับ”
“อืม ก็ดีเหือนกัน บ้านนายอยู่ใกล้ๆนี้เหรอ”
“ใช่ ตรงบาร์นั่นไงล่ะ”
“อ๋อ งั้นนายก็เป็นเด็กใหม่ หลานป้ากรรนิการ์เจ้าของบาร์นั่นที่เพิ่งมาอยุ่ใหม่ใช่มั้ย?”
“อีม”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉัน นคินทร์ เรียกว่า “ภู” ก็ได้”
“ฉัน “ภู่” ภุมรา  ยินดีที่ได้รู้จัก”
“งั้นเราจะให้ภู่เป็นเพื่อนคนสำคัญของเรานะ เพราะภู่ช่วยเจ้าตูบ หมาของเราไว้”
“ขอบใจนะ ภู นายก็เป็นเพื่อนคนแรกของเราที่นี่เหมือนกัน”
“ฮ่า ฮ่า เราก็ไม่ค่อยมีเพื่อนเหมือนกัน งั้นเรามาเป็นเพื่อนรักกันตลอดไปเลยนะ”
“ได้สิ”
จุดเริ่มต้นของมิตรภาพล็กๆ ของเด็กชายภุมรา และ เด็กชายนคินทร์ ทำให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดี เป็นเพื่อนรักของกันและกันมาตลอด ทั้งตอนที่ยังเรียนชั้นประถม มัธยม จนกระทั่งตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งสองคน เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี ที่ไม่ว่าใครก็ชื่นชมหลงใหล จนกระทั่งมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ทำให้มิตรภาพกว่า 10 ปีของทั้งคู่สะบั้นลง อย่างไม่มีทางจะต่อติดได้อีก


.....................................................................

เดี๋ยวมาต่อนะจ๊ะ  :z3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2012 20:00:01 โดย thearboo »

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
 :mc4:  ต้อนรับเรื่องใหม่ บวกเป็ดเป็นกำลังใจค่ะ

ว่าแต่วงเล็บไว้ว่าเรื่องสั้น แล้วมันสั้นขนาดไหนอะคะ? อ่านแล้วดูเหมือนมันจะยังอีกยาวเลย

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
มาม่าโชยยยยมาแต่ไกล

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 4 *ไม่คาดฝัน*

เช้าวันรุ่งขึ้น เป็นวันแรกของการถ่ายแบบ ทีมงานทุกคนเตรียมการพร้อมเพรียง ภุมรานายแบบหนุ่ม ตื่นมาเตรียมตัวแต่เช้า การถ่ายแบบวันนี้อยู่ในหัวข้อ “วันสบายๆ สายลม แสงแดด” ดังนั้นจึงต้องตื่นมาตั้งแต่เช้า เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น เพราะแสงแดดยามเช้าเป็นแสงที่สวยมาก การถ่ายแบบเริ่มขึ้น ไปได้สักพัก ภุมราก็เริ่มคิดที่จะหาเรื่องคุยกับนคินทร์อีก ตอนนี้อยู่กันเยอะ นคินทร์คงไม่กล้าปฏิเสธตน
“นี่ คุณตากล้องครับ คุณพูดน้อยอย่างนี้ตลอดเลยเหรอ” ยิงไปดอกแรก เสียงของภุมรา ทำให้ทุกคนหันมาสนใจ แต่ไม่ใช่นคินทร์ แน่นอนว่าคำตอบที่นายแบบหนุ่มได้รับคือ ความเงียบ
“นี่ คุณตากล้องครับ ไม่ได้เอาปากติดมาเหรอครับ” ดอกที่สองยังคงน้ำเสียงสบายๆ แต่เป็นคำพูดที่ค่อนข้างแรงสำหรับผู้ฟัง แต่ภุมราตั้งใจยั่วออกไป เพราะรู้ดีว่า อีกฝ่ายไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูงนัก
“อ๋อ~ เพิ่งรู้นะครับเนี่ย ว่าคุณตากล้องเป็นใบ้ หึหึ” การพูดจายียวนของภุมรา ยังความแปลกใจปนหวาดหวั่น เกรงจะมีวางมวย และยังรู้สึกแปลกใจซ้ำที่เห็นนายแบบผู้สุภาพเรียบร้อยใช้คำพูดที่ไม่เคยได้ยิน หากแต่นคินทร์ยังคงนิ่งเฉย ราวกับไม่ได้ยิน สิ่งที่ภุมราพูดมาทั้งหมด นายแบบหนุ่มเจ็บใจเล็กๆ ‘ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ’
ตอนกำลังจะเริ่มถ่ายแบบต่อ จู่ๆ นคินทร์ก็เดินเข้ามาผลักเขาจนล้มลงนอนหงายไม่เป็นท่าอยู่บนหาดทราย และเจ้าตัวก็ขึ้นไปยืนคร่อมอยู่บนตัวนายแบบหนุ่ม ภุมรานิ่งอึ้ง เขาคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะโดนตอบโต้กลับอย่างรุนแรงต่อหน้าคนอื่นๆแบบนี้
“ว้าย เดี๋ยวคะ เดี๋ยว ค่อยๆพูดค่อยๆจากันสิคะ ตายจริง” คนที่ตกใจที่สุดคงจะเป็นแอน ที่เห็นว่านายแบบกับตากล้องคนสำคัญเริ่มจะวางมวยกัน
“เอ่อ นี่ทั้งสองคน คือพี่แอนว่า...” จะไปต่อก็พูดไม่ถูกเมื่อเห็นทั้งสองหนุ่มจ้องตาอาฆาตกันอย่างไม่ลดละแล้วจู่ๆ...
“แชะ”
“แชะ”
เสียงลั่นชัตเตอร์ดังขึ้น ทำเอาทั้งแอน และภุมราสะดุ้ง ซอ ซึ่งเป็นเด็กจัดไฟวิ่งหูตาเหลือกเข้ามาจัดแสงแบบเฉียดฉิว
“เอาอย่างนี้เหรอ คุณนคินทร์” ภุมราพูดรอดไรฟัน ขณะนอนแผ่หรา ให้ตากล้องหนุ่มจับภาพ และด้วยความที่ภุมราเป็นนายแบบมืออาชีพ เขาย่อมไม่หวั่นไหว โพสต์ท่าให้ถ่ายมุมเด็ดอย่างชำนิชำนาญ จริงอยู่ว่าการโดนนคินทร์มองผ่านเลนส์จะทำให้หัวใจเขาระทึกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียสมาธินักหรอก
การถ่ายแบบวันนี้จบลงไปด้วยดี ไม่มีมวยคู่เอกหนุ่มหล่อให้ชม แต่ทีมงานก็ยังคงระส่ำระสาย เพราะนี่เพิ่งจะวันแรก ยังต้องทำงานด้วยกันไปอีกตั้ง 2 อาทิตย์ กลัวใจสองหนุ่มจริงๆ หลังจากกลับมาถึงบังกะโลที่พัก ภุมราข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อน เพราะวันนี้เขาโดน ตากล้องอวดดี จับเขากลิ้งอยู่บนทรายทั้งวัน หลังจากอาบน้ำแล้วนายแบบหนุ่มในชุดเสื้อเชิ๊ตกางเกงยีนส์สบายๆ เดินออกมารับลมข้างนอกบังกะโล พระอาทิตย์กำลังจะตกทะเล บรรยากาศดูว้าเหว่ ช่างเหมือนกับตอนนั้นเหลือเกิน ตอนที่ถูกเอาไปฝากป้าไว้ ทุกวันเขาก็จะนั่งมองพระอาทิตย์ตกอยู่คนเดียวอย่างนี้ ตอนั้นเขาเหงา แต่ตอนนี้เขาเหงากว่ามาก เพราะไม่มีเด็กชายนคินทร์ อยู่เป็นเพื่อนรัก เฮไหนเฮนั่น เป็นเพื่อนใจ ให้คำปรึกษา  นคินทร์คนนั้น คนที่เติมเต็มทุกอย่างในชีวิตที่ขาดๆเกินๆของเขา คนที่เขารักจนหมดใจ เขาเองแหละที่ผิด เป็นเขาเองที่ทำร้ายใจของนคินทร์ ถ้าวันนั้นเขาไม่ทำแบบนั้นลงไป วันนี้ นคินทร์กับเขาก็คงยังเป็นเพื่อนรัก ไม่เปลี่ยนไป เหมือนตอนนี้  หากว่าพอจะมีอะไรที่เขาทำได้ อะไรก็ได้ที่จะทำให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม ให้เขาได้อยู่เคียงข้างนคินทร์เหมือนเดิมไม่ว่าในฐานะอะไร เขาจะยอมทำทุกอย่าง และจะยอมแลกได้ทุกอย่างเช่นกัน
ระหว่างที่นั่งคิดอะไรอยู่เงียบๆ ตากล้องหนุ่มก็เดินกลับมาที่บังกะโลพอดี ครั้นพอหันมาเจอกับภุมรา ตากล้องหนุ่มก็คิดจะเดินหนีเขาเข้าห้องไปเสีย หากแต่มีหรือที่ภุมราจะยินยอม
“นี่ นคินทร์ นายทานข้าวเย็นหรือยังน่ะ?”
“............” ชายหนุ่มไม่ตอบ เดินตรงเข้าบังกะโลไปอย่างไม่สนใจนัก
“นี่ เดี๋ยวสิ นายคุยกับฉันสักนิดได้ไหมเนี่ย” ภุมราตามยื้อนคินทร์ไว้
“มีอะไรก็ว่ามา” แม้จะฟังดูห้วนๆ แต่มันคือคำตอบที่ทำให้หัวใจภุมรา พองโตขึ้น อย่างน้อยชายหนุ่มก้ยอมที่จะคุยกับเขา
“เรา...กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้หรือเปล่า?” คำขอร้องที่เขารอคอย เหมือนจะทั้งชีวิต เพื่อที่จะได้พูดออกมา
“อะไรนะ?”
“คือว่า...นายจะอภัยให้ฉันได้มั้ย แล้วกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
“นี่แกคิดจะขอกันได้ง่ายๆแบบนี้เลยงั้นเหรอ กับสิ่งที่แกเคยทำเอาไว้น่ะ?”
“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น คือว่าจะให้ฉันทำยังไงก็ได้นะ อะไรก็ได้ ที่จะทำให้นายให้อภัย ฉันจะทำทุกอย่างเลย”
“มันไม่มีอะไรของแกที่มีค่าพอที่จะมาแลกได้หรอก”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ นายถึงจะยอมน่ะ”
“...........” นคินทร์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของภุมรา ก่อนจะตอบออกมา
“ไม่มีทาง” ชายหนุ่มให้คำตอบหนักแน่น “ไม่มีทาง ที่ฉันจะอภัยให้แกได้หรอก ต่อให้แกตายตรงนี้ก็ตาม”
“ทำไมล่ะ...ทำไม” หัวใจภุมราถูกบีดรัด จนเหมือนมันจะหยุดเต้นเอาดื้อๆ
“แกมันไม่คู่ควร จริงๆแล้วแกมันไม่ควรมีสิทธิ์เสนอหน้าอยู่ในสังคมนี้ซะด้วยซ้ำ กับการที่แกทรยศฉัน ทำลายผู้หญิงที่ฉันรัก และไม่ยอมรับผิดชอบเธอ จนกระทั่งเธอตายน่ะ” นคินทร์รื้อฟื้นสิ่งที่คอยตอกย้ำหัวใจภุมรามาตลอดขึ้นมา  มันเกินกว่าที่ภุมราจะรับได้
“นายไม่ได้รู้อะไรเลย นคินทร์  นายมันไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหล่อนเป็นคนยังไง ไม่รู้ว่าผุ้หญิงคนนั้นคิดอะไร ไม่รู้ว่าฉันทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร นายมันไม่เคยรู้!!” ภุมราตวาดลั่น ทำไมถึงไม่เคยฟังเขา ทำไมผุ้ชายคนนี้ถึงได้ยึดติดขนาดนี้นะ ฉับพลัน ภุมราก็ถูกนคินทร์กระชากคอเสื้อขึ้น พร้อมกล่าวถ้อยคำทำร้ายจิตใจของนายแบบหนุ่มอย่างไม่คิดสงสาร
“ทำไมฉันจะไม่รู้! หึ ฉันรู้ดีว่าฝ้ายเป็นคนยังไง และฉันรู้ดีด้วยว่าคนอย่างแกมันเลว มีแต่ความคิดสกปรก คอยแต่จะโยนความผิดให้คนอื่น ไม่เว้นแม้แต่กับคนที่ตายไปแล้ว !!!!”  คอเสื้อถูปล่อยกะทันหัน ทำให้ภุมราเซเล็กน้อย แต่คำพูดของนคินทร์ทำให้ภุมราเสียศูนย์ถึงขีดสุด ‘ช่างไร้ค่า ราวกับไม่ใช่มนุษย์’
“ถ้านายคิดอย่างนั้น ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วล่ะ นายรู้ดีทั้งหมดอยู่แล้วนี่ อย่างที่นายบอกนั่นแหละฉันมันเลว ไร้ค่า หน้าหนาหน้าทน หึหึ เอาเป็นว่าฉันยอมรับผิดทุกประการแล้วกัน ขอโทษนะ” ภุมราหัวตื้อไปหมด คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ทั้งที่รักขนาดนี้ มากขนาดนี้แท้ๆ
“...........” คำพูดนั้นเล่นเอานคินทร์นิ่งอึ้ง เขาจ้องมองภุมราที่ทำท่าจะเดินจากไป

...................................................................................

ต่อด้านล่างจ๊ะ  :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2012 20:00:31 โดย thearboo »

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 5 *คำอ้อนวอน* 1

ภุมรารู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด เขารีบเดินจากมาจากตรงนั้น อยากออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้ายังต้องมองหน้านคินทร์ต่ออีกนิด เขาต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ และหัวใจเขาคงเกินจะรับไหว ภุมรามาถึงห้องพักในที่สุด แต่พอจะปิดประตูห้องก็ถูกนคินทร์เอาตัวเข้ามากั้นเอาไว้
“อะ อะไรอีกล่ะ”
“...............”
ภุมราภูกผลักเข้าไปในห้อง โดยมีนคินทร์ตามเข้าไปแล้วปิดล็อคประตู ทั้งสองยืนสบตากันอยู่ในห้องมืดๆ ภุมราไม่เข้าใจเลยว่านคินทร์ยังจะมีอะไรคุยกับตนอีก
“มีอะไรอีกล่ะ นายรู้ทุกอย่างอยู่แล้วนี่ ฉันก็ขอโทษและยอมรับทุกอย่างแล้วไง ยังจะมีอะไรอีกล่ะ”
“ฉันไม่เข้าใจ  ไม่เข้าใจว่าแกทำแบบนั้นทำไม” นคินทร์ตวาดถามออกมาพร้อมสาวเท้าเข้าไปใกล้ภุมรา
“หึหึ นายเคยบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่านายรู้ทุกอย่าง แล้วยังจะมาถามฉันอีกทำไมล่ะ” ภุมราตอบออกไปด้วยท่าทางที่ราวกับได้ฟังคำถามที่แสนจะขบขัน ได้ยินดังนั้น เส้นความอดทนของนคินทร์ คล้ายจะสะบั้นลงเสียให้ได้ ชายหนุ่มหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระบายความคุกรุ่นที่พร้อมจะระเบิดออกมาในอีกไม่กี่อึดใจนี้
“ฉันถามว่านายมีเหตุผลอะไรถึงได้ทำแบบนั้น” นคินทร์กัดฟันถามออกไป หากเขายังโดนภุมรายียวนอยู่แบบนี้ เขาอาจพลั้งมือฆ่าคนในวันนี้แน่ๆ
“เหตุผลเหรอ รู้แล้วมันจะได้อะไรล่ะ ในเมื่อผลมันก็ออกมาเหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรฉันก็ยังยืนยันว่าฉันจะทำ ดังนั้นฉันไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกับนายอีกแล้ว ออกไปซะ” ภุมราตอบออกไปด้วยเสียงที่เริ่มไม่มั่นคง เขาจะไม่ไหวอยู่แล้ว อย่าไล่ต้อนเขาได้ไหม ชายหนุ่มยื่นมือออกไปหวังจะผลักนคินทร์ไปที่ประตู แต่กลับถูกคว้าต้นแขนเอาไว้ซะเอง
“โอ้ย ฉันเจ็บนะ นคินทร์ ปล่อย!!” นคินทร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พลางถามออกมาเสียงต่ำราวกับคำราม วูบนั้นภุมรารู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ครานี้นคินทร์น่ากลัวเหลือเกิน แววตาที่มองมานั้นราวกับจะฉีกร่างเขาออกเป็นชิ้นๆ
“แต่ฉันต้องการจะรู้ ว่าแกทำแบบนั้นทำไม ทำไปเพื่ออะไร นายต้องการอะไร!!” ชายหนุ่มเลื่อนมือจากต้นแขนมาจับที่คอของภุมรา ราวกับกำลังเค้นคอนักโทษก็ไม่ปาน ภุมราตัวสั่นระริก เขาไม่ไหวแล้ว เขาทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
“มันไม่ใช่เหตุผลที่น่าฟังหรอก นคินทร์ นายคงไม่อยากได้ยินมันหรอก ฉันยอมรับโทษทัณฑ์ทุกอย่าง ขอเพียงอย่างเดียว อย่าถามถึงเหตุผลของมันอีก”  เขาอ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้าย อย่าให้เขาต้องพูดมันออกมาเลย แค่ที่เป็นอยู่นี่นคินทร์ก็เกลียดเขาอย่างกับอะไรดีอยู่แล้ว ขืนเขาพูดความจริงออกไป เขาจะต้องไม่ได้รับการให้อภัยอีกเลยตลอดชีวิตแน่ๆ นคินทร์กระชับมือที่คอของภุมรามากขึ้น มันอะกันนักหนา ทำไมชายหนุ่มข้างหน้าเขาถึงได้เป็นผู้ร้ายปากแข็งขนาดนี้ เขาแค่ต้องการรู้เหตุผล เขาอยากหลุดพ้นจากความสงสัยบ้าๆนี้เสียที
“แต่ฉันอยากรู้เดี๋ยวนี้ และแกก็ต้องพูดออกมา ก่อนที่ฉันจะหักคอแกซะตอนนี้ พูด!!” ถึงขีดสุดแล้ว เขาทนไม่ได้อีกต่อไป และถึงขั้นคิดว่า ถ้าชายหนุ่มข้างหน้าเขา ยังไม่ยอมปริปากอีกล่ะก็ เขาก็จะเค้นให้ตายกันไปข้าง คิดไปถึงกระทั่งจะหักคอขาวๆนี่ซะให้แหลกคามือ
“หึ หึ ได้ ถ้านายยืนยันอยากจะรู้ซะให้ได้ล่ะก็ ฉันจะบอกให้” ภุมราอดทนไม่ไหวอีกต่อไป จากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะไม่สนอีกแล้ว ไหนๆก็โดนเกลียดขนาดจะฆ่าเขาให้ได้มาตลอดอยู่แล้ว และคงไม่มีความหวังจะทำให้กลับมามองหน้ากันได้อีก จะโดนเกลียดอยู่แค่นี้ หรือมากกว่านี้ก็มีความหมายเหมือนกัน ดังนั้นต่อให้บอกหรือไม่บอกความจริงออกไปก็คงมีค่าเท่ากัน ถึงขั้นนี้แล้ว อะไรจะเกิดก็เกิดไปเถอะ เขาไม่คาดหวังอะไรอีกแล้ว ภุมราสูดกายใจเข้าลึก พร้อมจ้องเข้าไปในดวงตาวาวโรจน์คู่นั้น
“นั่นเพราะฉันรักนาย และไม่ต้องการให้ใครแย่งนายไปไงล่ะ”

...........................................................................................[/left]

ต่ออีกจ๊ะ ไม่มาลงตั้งนาน มาทีมาหลายตอนหน่อยจ๊ะ  :z10:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2012 20:00:55 โดย thearboo »

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 6 *คำอ้อนวอน* 2

“นั่นเพราะฉันรักนาย และไม่ต้องการให้ใครแย่งนายไปไงล่ะ” คำพูดนี้ถึงกับทำให้นคินทร์ตะลึง
มือที่บีบคอภุมราอยู่สั่นระริก
“อย่ามาล้อเล่นนะ” เสียงที่หลุดออกมาหลังจากที่ได้ยินเรื่องที่ไม่คาดฝันนั้นแหบแห้งราวกับออกมาจากลำคอที่แห้งผาก
“ฉันพูดจริง ฉันรักนาย นคินทร์ ฉันรักนายมาตั้งแต่ตอนที่เจอกันครั้งแรก รักนายมาตลอด แต่แล้วผู้หญิงคนนั้นกลับแย่งนายไป ทั้งๆที่ฉันอยู่กับนายมาก่อน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็แย่งนายไป ฉันทนไม่ได้เลยทำแบบนั้นลงไปไงล่ะ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังนิ่งเงียบภุมราก็พูอต่อออกไปอีก
“นายไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไง หล่อนชอบฉัน แต่กลับไปตกลงแต่งงานกับนาย เพราะผิดหวังจากฉันไงล่ะ หล่อนรู้ว่าฉันชอบนาย หล่อนเลยทนไม่ได้ก็เลยวางแผนแย่งนายไปจากฉันไงล่ะ!”
“หุบปาก แกอย่ามาใส่ร้าย ฝ้ายนะ ฝ้ายเขาไม่ใช่คนแบบนั้น เธอตายไปแล้วแท้ๆ แกยังจะไม่หยุดจองเวรเธออีกเหรอ ไอ้เลวเอ้ย!!” คำผรุสวาสที่ออกมานั้นยังผลให้ความคิดผิดชอบชั่วดีของภุมรามลายหายสิ้น เขาไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ยังไงในสายตานคินทร์เขาก็คือคนเลว งั้นเขาก็จะเลวให้มันถึงที่สุดกันไปเลย
“เพราะนายมันโง่ไงล่ะ นคินทร์ นายมันโง่ที่ไปหลงกับคำพูดและมารยาของผู้หญิงคนนั้น นายมันตาบอด”
“หุบปาก!!”
“นายอย่ามามัวหน้ามืดอยู่เลย นายก็รู้อยู่แก่ใจ แต่นายกำลังหลอกตัวเอง เข้าใจหรือเปล่า”
“พอที ภุมรา!! หยุดพูดนะ!!”
“ทำไมนายต้องจมปลักอยู่กับผู้หญิงคนนั้นด้วย นายควรลืมตามองรอบๆบ้างได้แล้วว่ามีใครที่คอยเป็นห่วงนายรักนายอยู่น่ะ!”
“คนอื่นเหรอ หมายถึงแกน่ะเหรอ ที่แกพูดมาทั้งหมดเนี่ย เพียงเพราะจะให้ฉันหันไปรักใคร่ชอบพอแกแทนอย่างนั้นใช่ไหม!?”
“ใช่!! ฉันต่างหากล่ะที่รักนาย ฉันต่างหากล่ะที่ทำได้ทุอย่างเพื่อนาย ตาสว่างซะทีสิ อึก!” มือที่กำรอบคอเขาอยู่ที่ดูเหมือนจะคลายลงแล้วเมื่อครู่ กลับกระชับแน่นขึ้นอย่างกะทันหัน รุนแรงราวกับจะบีบคอเขาให้แหลกคามือ
“งั้นเหรอ? แกรักฉันงั้นเหรอ มากขนาดไหนล่ะ ที่ว่าทำได้ทุกอย่างน่ะจริงเหรอ?” น้ำเสียงเรียบเย็นที่ถามขึ้นมานั้นถึงกับทำให้ภุมราสั่นสะท้าน พลันมือที่กระชับรอบคอนั้นก็เปลี่ยนเป็นลูบผมเขาเบาๆแทน แม้จะรู้สึกพรั่นพรึงอยู่ไม่น้อย แต่ภุมราก็รู้สึกดีใจเหลือเกินที่ชายหนุ่มเข้าใจเขา
“ใช่ ฉันรักนาย รักเท่าชีวิตที่ฉันมี นคินทร์  นายไม่ต้องรักฉันก็ได้  ขอแค่ให้นายรับรู้ว่าฉันรักนาย ขอแค่นายไม่เกลียดฉัน ฉันยินดีทำทุอย่างตามที่นายปรารถนา”
ฉับพลันร่างของภุมราก็ถูกผลักลงบนเตียงโดยแรง ตามด้วยนคินทร์ที่ขึ้นคร่อมบนร่างของภุมราไว้ อารามตกใจภุมรารีบกระเสือกกระสนหนีจากการถูกคุกคามตามสัญชาตญาณที่รู้สึกว่าอันตราย แต่ก็ใช่ว่าจะหนีพ้น ร่างของเขาถูกนคินทร์จับตรึงไว้กับเตียงนอนอย่างง่ายดาย
“ทะ...ทำอะไรน่ะนคินทร์ นะ...นายจะทำอะไร?” เสียงสั่นเครือถามออกไปด้วยความหวาดหวั่น น่ากลัวเหลือเกิน ครานี้เขากลัวนคินทร์เหลือเกิน กลัวแววตาที่เหมือนจะฉีกกระชากร่างเขาให้เป็นชิ้นๆนั่น กลัวอุ้งมือที่แม้เขาจะพยายามดิ้นรนหนีออกไปเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกบีดรัดแน่นจนเจ็บร้าวราวกระดูกจะแหลกเป็นผุยผง
“ไม่เห็นจะต้องถาม แกบอกเองไม่ใช่เหรอว่ารักฉัน มันก็หมายถึงแบบนี้ไม่ใช่รึไง อย่าบอกนะว่าไม่ใช่ ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้!!”
“ไม่ใช่...ไม่ใช่นะ ฉันไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ นคินทร์นายเข้าใจฉันผิดไป มันไม่ได้...”
“หุบปาก!! อย่ามาพูดยกหางให้ตัวเองดูดีไปหน่อยเลย คนสกปรกอย่างแกไม่ต้องทำเป็นพูดดีไปหรอก!!”
...เจ็บ เจ็บเหลือเกิน ภุมราถึงกับนิ่งอึ้งกับสิ่งที่นคินทร์พูด เขาจ้องลงไปที่นัยตาที่สะท้อนแต่ความรู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์ เหยียดหยันเขาแบบไม่มีปิดบัง ตัวเขารู้ดีอยู่แล้ว รู้อยู่เต็มอกว่าโดนเกลียดชังมากแค่ไหน แต่ทั้งๆที่เขาพูดคำว่ารักออกไป ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแววตานั้นให้มองเขาต่างออกไปเลยสักนิด เขายังคงเลวทราม จิตใจเขายังคงสกปรก ชีวิตเขายังคงไร้ค่า แม้แต่ลมหายใจก็คงมีแต่กลิ่นมนทิล...ไม่เอาแล้ว ไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว ต้องไป ไปเดี๋ยวนี้...
“ปล่อย!!” ภุมราตวาดลั่นอย่างสุดจะอดกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป พยายามดิ้นรนออกจากอุ้งมือที่ทำร้ายหัวใจเขาจนป่นปี้ไม่มีชิ้นดี
“ปล่อยเซ่!!” เหมือนยิ่งดิ้นรน ยิ่งถูกกดตรึง ยิ่งผลักไส ยิ่งถูกรุกไล่
‘แคว่ก!!’


......................................................................................

เอาอีกตอนละกันเนอะ  :z6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2012 20:01:20 โดย thearboo »

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 7 *อ้อนวอน 3*

‘แคว่ก!!’ เสื้อเชิ๊ตเนื้อดีขาดติดมือ ภุมราสะดุ้งเฮือก ตกตะลึงกับสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น หากยังไม่ทันได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดริมฝีปากอุ่นร้อนก็แนบเข้ากับซอกคอขาวอย่างจาบจ้วง ดวงตาภุมราเบิกกว้าง ตกใจสุดชีวิตกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
“อยะ...อย่า!! นคินทร์ อื้อ ปล่อยนะ!!” สองมือพยายามผลักไส ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความตื่นตระหนก หากแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้น
“นคินทร์ อย่านะ! หยุดเดี๋ยวนี้!!” นคินทร์คว้าใบหน้ของภุมราไว้ด้วยมือข้างเดียว แล้วบีบบังคับให้ใบหน้านั้นให้มองตรงมาที่เขา นคินทร์จ้องมองลงไปที่แววตาตื่นตระหนกของภุมราด้วยความรู้สึกเย้ยหยัน เขาเหยียดยิ้มเย็นที่มุมปากก่อนจะกล่าวคำทำร้ายหัวใจของภุมราอีกคำรบ
“จะดิ้นรนทำเป็นไร้เดียงสาไปทำไมกัน มันไม่เหมาะกับแกหรอก หึหึ” จบคำนคินทร์ก็ก้มลงลากลิ้นร้อนไปบนแก้มของภุมรา  ไล้ลิ้นลงไปยังซอกคอขาว ขบแทะ ราวกับกำลังจะกัดให้เนื้อขาดติดออกมา
“อ๊ะ...อยะ...อย่า อึก!” สองมือบางของภุมรา ยังคงผลักใส ทั้งทุบตีร่างหนา หากแต่ก็ไม่ได้เป็นผล ซ้ำยังถูกกดตรึงข้อมือทั้งสองข้างลงบนเตียงใหญ่ ราวกับถูกพันธนาการ นคินทร์บดเบียดร่างเข้าหาภุมราราวกับจะเย้ยหยัน พื้นที่ร่างกายที่เสียดสีกันนั้นร้อนผ่าว ร่างหนาบดจูบ ไล้เลีย ไปทั่วทั้งซอกคอขาวจนถึงแผงอก ภุมราสะดุ้งร่าง เมื่อยอดอกสีอ่อนถูกนคินทร์ดูดดุน
“อ๊า!! อย่า! นคินทร์ ตรงนั้น ไม่!!” อยากดิ้นรนหลบหนี แต่รู้ดีว่ายากนัก เมื่อข้อมือทั้งสองข้างยังถูกตรึงไว้ แถมยังถูกนคินทร์โถมทับมาทั้งตัวจะแทบหายใจหายคอไม่ออก
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ นคินทร์ ฉันเจ็บ! ไม่งั้นเรื่องมันไม่จบแค่นี้แน่!!” แม้จะหวาดกลัวแต่ปากของภุมรายังคงทำหน้าที่ได้ไม่มีขาดตกบกพร่อง
“หึ หึ ยังจะปากดีได้อยู่อีกนะ คนอย่างแก นี่มันไม่เคยรู้สึกสำนึกอะไรเลยนะ”
“บอก ให้ปล่อยไงเล่า โอ้ย!!เจ็บนะ!!” ยิ่งดิ้นรนผลักไส แรงบีบที่กดอยู่ที่ข้อมือยิ่งแรงมากขึ้น
“เจ็บ งั้นเหรอ...ทีอย่างนี้ทำเป็นเจ็บงั้นเหรอ คนที่ทำร้ายใครต่อใครได้อย่างเลือดเย็นอย่างแกน่ะ ยังจะเจ็บเป็นอยู่ด้วยเหรอ  คราวนี้ฉันจะทำให้แกเจ็บยิ่งกว่าที่ฉันเคยเจ็บ!!” ราวกับโดนกรีดซ้ำๆลงมาที่หัวใจที่บอบช้ำดวงนี้ หัวใจที่มีแต่รอยแผล แหว่งวิ่น และไร้ค่า ภุมราจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของผู่ที่อยู่ตรงหน้า สิ่งที่เขาเห็นคือความเกลียดชังที่เห็นมาตลอด และมันไม่เคยเปลี่ยนแปลง มือสั่นเทาเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง ปล่อยเขาทีเถอะ ให้เขาหลุดพ้นไปจากตรงนี้ที...
        ภุมราพยายามดิ้นรนออกจากการทาบทับของนคินทร์ จนเสื้อเชิ๊ตตัวบางที่ถูกนคินทร์ฉีกทึ้งเลื่อนหลุดลงมาเผยให้เห็นลาดไหล่ขาวนวล นคินทร์เลื้อยไล่ประทับรอยแค้นที่ตัวของภุมราจนช้ำไปทั่วแผ่นอกและลำคอ ภุมราหายใจหอบฮั่กมือที่พยายามผลักไสถูกตรึงไว้กับเตียงอย่างแน่นหนา เขาสะท้านกายทุกครั้งที่ลิ้นร้อนลากผ่านบนผิวกาย ไม่มีความอ่อนโยนให้เห็นเลยแม้แต่นิด ช่างกักขฬะจนทำให้เจ็บปวดทวีคูณ ภุมราผวากายดิ้นรนหนักหน่วงอีกครั้งเมื่อมือแกร่งกระชากกางเกงเขาออก มือที่หลุดจากพันธนาการทั้งทุบทั้งข่วนแขนกำยำของร่างข้างบนให้หยุดการกระทำ แต่หากไม่เป็นผล กระทั่งกางเกงหลุดออกจากตัวภุมราดีดตัวขดเข้าหากันเพื่อปกปิดเรือนร่างเปล่าเปลือยที่เหลือเพียงเสื้อเชิ๊ตขาดวิ่นปิดร่าง กายสั่นสะท้านราวสัตว์ตัวเล็กๆที่กำลังจะถูกขย้ำ นคินทร์ยืดตัวขึ้นพร้อมถอดเสื้อของตัวเองออก พร้อมทั้งปลดตะขอกางเกง การกระทำเหล่านั้นอยู่ในสายตาของภุมราทุกอย่าง ยิ่งทำให้ภุมราหวาดกลัว ร่างบางกระถดกายหนีทั้งๆที่แทบจะสิ้นเรี่ยวแรง มือกำยำกระชากข้อเท้าเขากลับมาพร้อมแทรกกายเข้ามาตรงกลางหว่างขา เสียงแกรกกรากของซิปกางเกงของนคินทร์ที่ถูกรูดลงสะท้อนลั่นอยู่ในโสตประสาทของภุมราจนเขาแทบคลั่งเมื่อพอจะเข้าใจว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ภุมราดิ้นรนครั้งสุดท้ายด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ปากตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งขอร้องอ้อนวอนให้หยุดการกระทำนี้ หากแต่บังกะโลทั้งหลังก็มีเพียงเขาอยู่แค่ 2 คนเท่านั้นมันจึงไม่เป็นผลใดๆ หัวใจของภุมราเต้นแรงจนแทบจะหน้ามืด ไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่ไม่โดนสัมผัส นคินทร์จับเข่าทั้งสองของภุมราแยกออกกว้าง
“อะ...อะไรน่ะ อยะ...อ๊า!!”  ท่อนลำใหญ่โตของนคินทร์พยายามดุนดันเข้าไป ฝืนรอยจีบรัดรึงเข้าสู่ช่องทางคับแน่นอุ่นร้อน
“ทำไมล่ะ แกอยากโดนอย่างนี้ไม่ใช่รึไง จะโวยวายไปทำไมเล่า” นคินทร์ยังคงเยาะหยัน พร้อมจับขาภุมราแยกออกกว้างเพื่อรองรับการสอดใส่ของตนให้ลึกล้ำยิ่งขึ้น
“จ...เจ็บ อ๊า...อยะ...อึก อ๊ะ”  เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นบนหน้าผากของภุมรา เจ็บ เขาเจ็บเหลือเกิน ทั้งร่างกายที่กำลังถูกย่ำยี และจิตใจที่กำลังโดนเหยียบย่ำ ฝ่ายนคินทร์เองก็มีสีหน้าทรมานไม่แพ้กัน ช่องทางคับแน่นจนทำให้เขาคิดอะไรแทบไม่ออก มีแต่ความปรารถนาอยากดึงดันไปจนสุดทางให้เร็วที่สุดเท่านั้น ภุมราใช้แรงน้อยนิดของตนปัดป่าย ไปข้างหน้า เผื่อว่าอาจพอมีทางที่จะหลุดพ้นจากความทรมาน
“อ๊ะ ยะ..อย่า นคินทร์...อย่า อ๊ะ อ๊ะ อ๊า” สองมือสั่นเทาถูกตรึงเอาไว้กับเตียงอีกครั้ง แผ่นหลังแอ่นโค้งทุกครั้งที่ถูกแทรกลึกเข้ามาในกาย เจ็บปวดราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“ถะ ถอนออกไปนะ...อะ..ออกไป..ขะ..ขอร้องล่ะ อื้ม อ๊ะ” เจ็บปวดจนทนแทบไม่ไหว ร่างกายสั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น น้ำตาปริ่มที่หางตา เจ็บปวดเหลือเกิน
“อึก ชอบไม่ใช่รึไง ที่พูดนี่ก็เพื่อยั่วฉันใช่มั้ยล่ะ คนสกปรก” คำพูดเชือดเฉือนที่จงใจพูดออกมาเพื่อทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายให้เจ็บช้ำจนเจียนตาย นคินทร์โน้มกายลงแนบชิดร่างข้างใต้กดร่างลงให้แนบชิดเสียดสีกันมากยิ่งขึ้น ยิ่งเร่งจังหวะเริงร่อน ร่างข้างใต้ยิ่งรุ่มร้อนแทบหลอมละลาย
“อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊า อย่า ไม่! อ๊ะ อึก!” แก่นกายใหญ่โตของนคินทร์ขยับเข้าออก กระแทกกระทั้นหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่น บรรยากาศแห่งเพศรสฟุ้งกระจายไปทั้งห้อง ร่างข้างใต้หอบหายใจ พร้อมส่งเสียงอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
 แม้นเกลียดชัง แต่ยากปฏิเสธว่าช่างน่าหลงใหล ยิ่งเห็นใบหน้าที่สะบัดไหวไปตามแรงอารมณ์ แผ่นอกที่หอบสะท้าน ยิ่งปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบให้พลุ่งพล่าน อยากรุกล้ำให้ลึกเข้าไปอีก อยากโยกไหวกระทั้นให้รุนแรงกว่านี้อีก อยากทำให้ใต้ร่างเขาสะท้านกายเย้ายวนให้มากกว่านี้ ส่งเสียงร้องหวานหูยิ่งกว่านี้ แรงอารมณ์ขับเคลื่อนนคินทร์ให้ขยับกายรุนแรงยิ่งขึ้น เร่งจังหวะไปจนสุดปลายทาง
“อ๊า~” ภุมรากรีดร้องเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อร่างกายถูกชำแรกเข้ามาจนถึงส่วนที่ลึกที่สุด เขารู้สึกได้ถึงกระแสธารร้อนจัดที่ฉีดพุ่งเข้ามาในกาย ร่างบางสั่นสะท้านอย่างยากจะอดกลั้น ธารอุทกอุ่นร้อนฉีดพุ่งเข้าสู่ช่องทางคับแน่น มากมายจนภุมราต้องส่งเสียงครางหวิวออกมา
“อึก...” นคินทร์ขยับกายเบาๆสองสามครั้ง เขาทะลักทลายในร่างนี้อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน  ความสุขสมเอ่อล้นจนขนลุกชัน  เรี่ยวแรงของภุมราราวถูกดูดกลืนเสียจนสิ้น ลมหายใจของทั้งสองหอบสะท้าน ภุมราบิดตัวเล็กน้อยขณะที่นคินทร์ถอดถอนร่างออกไป ราวกับพายุร้ายกลางทะเลที่ซัดสาดเรือสำเภาลำน้อยได้สงบลงเสียที น้ำตาหยดน้อยไหลลงจากหางตาก่อนที่สติจะดับวูบไป


....................................................................................

เฮ้ออออออ แล้วเจอกันใหม่นะเจ้าค๊า ครุคริ ครุคริ :z10:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2012 20:01:48 โดย thearboo »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
รุนแรง โหดร้ายได้อีก

ออฟไลน์ momo9476

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
ค้างมากมาย

ออฟไลน์ kuichai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นคินทร์ ทำแบบนี้ได้ไง เพื่อนคบกันมาตั้งแต่เด็กมาโกรธกันเพราะผู้หญิงคนเดียว  :m31: :m31:

อ้ายยยยยสงสารภู่อ่ะ  :monkeysad:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ต้อนรับเรื่องใหม่นะคร้าบ

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 8 *ฝ้าย*

วูบแรกที่ลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งที่เห็นก็คือเพดานห้องพักอันว่างเปล่า นคินทร์ ไม่ได้อยู่ในห้องนี้แล้ว
‘อยากอาบน้ำจัง’ คิดได้ดังนี้ ก็พยายามจะฝืนกายลุกขึ้น หากแต่ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บระบม ทั่วร่างหนักอึ้ง และเมื่อก้าวเท้าลงมาจากเตียงได้ก็เป็นอันทรุดฮวบลงไปนั่งกองบนพื้น เหมือนตุ๊กตาที่ไร้กระดูก
“โอย...” ภุมรายังคงฝืนกายลุกขึ้น เพือเดินไปห้องน้ำ เขาพยายามที่จะไม่คิดไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้น พยายามไม่คิดว่าที่ตนเจ็บแบบนี้เพราะอะไร
“...!!” พอฝืนกายลุกขึ้นเดินได้ไม่กี่ก้าว ภุมราก็เป็นอันต้องตกใจ เมื่อจู่ๆ สิ่งที่ถูกนคินทร์ปล่อยทิ้งไว้ในร่างของเขา ได้ไหลลงมาตามเรียวขา ร่างภุมราสั่นสะท้าน เขารีบฝืนกายเดินไปจนถึงห้องน้ำ อยากอาบน้ำเร็วๆ ล้างทุกอย่างออกไป ล้างความเจ็บปวดออกไป ล้างน้ำตาที่ไหลไม่หยุดนี้ออกไป
   
   ควันขาวลอยฟ่องรับลมทะเล ชายหนุ่มนั่งเหม่อมองทะเลยามราตรี ที่จริงเขาไม่ได้ติดบุหรี่หรอก แต่ยามนี้เขาอยากสูบมันเหลือเกิน รสชาดขมลิ้นของมันอาจทำให้เขามีสติ จากจิตใจที่สับสนว้าวุ่นที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้ แต่มันก็คงไม่ได้ผล นคินทร์เอื้อมมือหนาของตนขึ้นมากุมขมับ เขาสับสนกับสิ่งที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่ ‘นี่เขาทำอะไรลงไป’ ใจหนึ่งก็คิดที่จะปล่อยให้มันผ่านไป ดีเสียอีก เขาน่าจะสะใจด้วยซ้ำที่สามารถทำลาย คนเลวแบบภุมราลงได้ แต่อีกใจก็หนักอึ้ง เมื่อคิดถึง เสียงร้องอ้อนวอน อย่างทรมาน หยดน้ำตา และคำว่า “รัก” ที่คนคนนั้นเอ่ยกับตน นี่ต่อไปเรื่องราวจะเป็นไปในทิศทางไหนต่อ เขาคิดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ

   หลังจากที่นายแบบหนุ่ม อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ล้มตัวลงนอน ร่างกายอ่อนล้า หนักอึ้ง แต่หัวใจเขา อ่อนล้ายิ่งกว่าหลายเท่านัก คิดไม่ออกจริงๆว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อ เขาจะต้องทำตัวยังไง นอนคิดไปได้ไม่เท่าไหร่ เปลือกตาก็หนักอึ้ง และผลอยหลับไปในที่สุด

“จริงๆแล้วฝ้ายรักภู่นะ ภู่”

 “ภู่ ฉันคิดว่า ฉันคงชอบฝ้ายล่ะ”

“ฝ้ายรู้นะว่าที่ภู่ไม่ยอมรับรักฝ้าย เพราะภูใช่มั้ย ภู่รักภูใช่มั้ย”

“นี่ภู่ ฉันตกลงคบกับฝ้ายแล้วนะ”

“ใช่ภู่ ฝ้ายไม่ได้รักภู แต่ฝ้ายจะไม่ยอมให้ภู่สมหวังเด็ดขาด ถ้าฝ้ายไม่ได้ ใครก็ไม่มีทางได้ทั้งนั้น!!”

“ภู่ ฉันกับฝ้ายตกลงจะแต่งงานกันแล้วนะ”

“ทำไมฝ้ายจะทำไม่ได้ ฝ้ายจะกีดกันภู่ไปจนตายนั่นแหละ แต่ถ้าภู่รับข้อเสนอฝ้าย ฝ้ายลองจะคิดดูก่อนก็ได้นะ”

“ฉันรู้สึกว่าฝ้ายเปลี่ยนไป ภู่ ฉันจะทำยังไงดี”

“ถ้าภู่ยอมเป็นของฝ้าย ฝ้ายก็จะยอมปล่อยภูไป”

“ภู่ นี่นายเองเหรอ เป็นนายที่ทรยศฉัน!!”

“อย่าใส่ใจเลยภู่ ภู่ทำดีแล้วล่ะ อยู่กับฝ้ายแบบนี้และดีแล้ว”

“แกเป็นเพื่อนฉัน ถ้าแกรักฝ้ายจริง ฉันก็จะถอยให้นายเอง”

“ภู่ กล้าทำแบบนี้กับฝ้ายได้ยังไง ภู่รับปากฝ้ายแล้วไงล่ะ ว่าจะอยู่กับฝ้ายน่ะ”

“ฝ้ายบอกว่านายทำร้ายเขา จริงหรือเปล่าภู่”

“โกหกแล้วไง ฝ้ายก็ต้องกันไว้ก่อนสิ ไม่งั้นภู่ก็จะทิ้งฝ้ายไป”

“ใช่ ฉันยังรักฝ้ายอยู่ รักมากด้วย ดูแลเขาให้ดีๆนะภู่”

“ไม่นะภู่ ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ฝ้ายจะไม่ยอมปล่อยภู่ไปเด็ดขาด”

“ฝ้ายมาหาฉัน บอกว่านายไม่รับผิดชอบเธอ นายทำอย่างนั้นจริงๆเหรอ”

“ได้ภู่ ถ้าภู่จะไม่อยู่กับฝ้าย ไม่เป็นไร แต่ภู่จะไม่มีวันที่จะได้อยู่กับภูอีก”

“ฝ้ายจะทำให้ภู เกลียดภู่ไปตลอดชีวิตให้ดู!!”

“ไม่นะ อย่าทำอย่างนั้น!!!!!” ภุมราสะดุ้งตื่นขึ้นมาหอบตัวโยน นี่เขาฝันถึงเรื่องบ้าๆนี่อีกแล้วเหรอเนี่ย ประโยคสุดท้ายที่ฝ้ายพูดในฝันนั้น มันเป็นเรื่องจริง และเธอทำมันสำเร็จ
   ฝ้ายเพื่อนสาวที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย และเข้ามาสนิทกับภุมราและนคินทร์มาก เธอตกหลุมรักภุมรา และสารภาพรัก แต่ชายหนุ่มไม่สามารถตอบแทนน้ำใจได้ จะให้ทำยังไง ในเมื่อใจเขามีแต่นคินทร์ เพียงคนเดียว ฝ้ายที่รู้เรื่องเข้ากลับไม่ยอมเข้าใจ และไม่ยอมพ่ายแพ้ ฝ้ายรู้ตัวว่านคินทร์ชอบตนจึงได้ใช้ประโยชน์จาก ความรักที่นคินทร์ มีให้มาหลอกล่อให้ภุมราเป็นของตน เธอทำให้ความสัมพันธ์ของภุมราและนคินทร์แย่ลงทุกวัน ความรักที่เธอเคยมีให้ภุมราก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความคั่งแค้น จนสุดท้ายเธอก็สามารถทำให้ภุมรา แตกหักกับนคินทร์ได้ในที่สุด โดยการแสร้งทำเป็นโดนภุมราทำร้ายเลยกลับไปขออยู่กับนคินทร์ และจัดฉากให้ภุมราลงมือทำร้ายเธอต่อหน้านคินทร์ แผนการแยบยล จนภุมราพลาดท่า ฝ่ายนคินทร์ซึ่งวางใจในตัวฝ้ายมาตลอด ย่อมที่จะเชื่อฝ้ายมากกว่า อย่างไรเสีย ภุมราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะจะกลายเป็นการรังแกผู้หญิง จึงได้ปล่อยให้เลยตามเลยเท่านั้น

“ภู่ อภัยให้ฝ้ายนะ ที่ผ่านมาฝ้ายขอโทษ” คำพูดสุดท้ายก่อนที่ฝ้ายจะลาโลกนี้ไปอย่างกะทันหัน จากอุบัติเหตุ ภุมราอโหสิกรรมให้ฝ้าย หากแต่คนนอกอย่างนคินทร์ ซึ่งเข้าใจมาตลอดว่าภุมราทำร้ายหล่อน และเข้าใจผิดอย่างหนักว่า ที่ฝ้ายจากไปเพราะภุมรา เขาประกาศกร้าวในงานฌาปนกิจของฝ้าย ตัดความเป็นเพื่อนที่มีมากับภุมราทันที โดยที่ภุมราเองไม่มีโอกาสได้แก้ตัว หรือแม้แต่ตอนนี้ที่เขาทิ้งศักดิ์ศรีทุกอย่าง ง้องอน ก็ยังไม่เป็นผล หรือนี่คงเป็นผลกรรม ที่เขาเคยทำไว้กับฝ้าย ที่เธอรักเขา แต่เขากลับไม่ใยดีเธอ ผลกรรมนั้นมันเลยส่งผลให้เขาทรมานถึงตอนนี้ เขายอมรับว่าในตอนนั้นเป็นเขาเอง ที่กลัวฝ้ายจะแย่งนคินทร์ไป เขาถึงได้ยอมทำทุกอย่างเพื่อขัดขวาง และเผลอทำร้ายน้ำใจของฝ้าย ทำให้เธอชิงชัง เป็นเขานี่เอง

“ฝ้าย อภัยให้ภู่เถอะนะ ภู่ขอโทษ”


.........................................................................

มาลงเพิ่มความค้างคา...
แต่งไปแต่งมา ไหงพระเอกโง่จังว๊า....เฮ้ออออ :a5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2012 20:02:19 โดย thearboo »

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
 :เฮ้อ:  เหนื่อยใจแทนภู่
เมื่อไรภูจะฟังภู่บ้าง

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ใช่พระเอกโง่มาก ทำไมไม่ฟังบ้าง
แถมยังไปทำร้ายเขาอีก เพื่อนที่คบกันมาตั้งสิบกว่าปี เสียเพราะผู้หญิงคนเดียว ก็ไม่ไหวจะเครียนะคุณตากล้อง

ติดตามค่ะ

dawnthesky

  • บุคคลทั่วไป
น่าสนใจ น่าติดตามค่ะ

Ole

  • บุคคลทั่วไป
รอ  รอ รอ  คาฟฟฟฟ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
« ตอบ #19 เมื่อ: 04-01-2012 12:56:14 »





ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 9 *ขอให้เหมือนเดิม*


ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“น้องภู่ น้องภู่คะ น้องภู่ตื่นรึยัง?”
เช้าวันรุ่งขึ้นในการถ่ายแบบวันที่ 2 ทีมงานทุกคนเตรียมพร้อม หากแต่ไม่เห็นวี่แววของ ภุมรา นายแบบคนสำคัญ แอนจึงทำหน้าที่มาปลุกให้
“น้องภู่คะ ได้ยินพี่รึเปล่าคะ ภู่ น้องภู่”
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ออกจากห้องของภุมรา ทำให้แอนเริ่มใจเสีย
ปัง ปัง ปัง จากเคาะเปลี่ยนเป็นทุบประตูเลยงานนี้
“น้องภู่! น้องภู่! ได้ยินพี่มั้ยคะ น้องภู่!!”
เสียงกระวนกระวายดังลั่นของแอนทำให้ทีมงานทุกคนที่อยู่ข้างนอกตกใจ นคินทร์รีบวิ่งกลับเข้ามาในบังกะโลเพื่อดูเหตุการณ์ทันที
“เกิดอะไรขึ้นครับ คุณแอน?”
“คุณนคินทร์คะ คือว่า น้องภู่ค่ะ น้องภู่นายแบบของเป็นอะไรก็ไม่รู้ค่ะ พี่แอนเคาะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมขานเลย”
“งั้นคุณแอนลองเรียกต่อไปอีกหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมไปเอากุญแจสำรองกับทางคนดูแลที่พักก่อน”
“ค่ะ ค่ะ”

สักพักนคินทร์ก็กลับมาพร้อมกุญแจสำรอง พอไขเข้าไปสำเร็จ สิ่งแรกที่ทุกคนเห็นคือสภาพภุมราที่นอนคลุมโปงอยู่
“น้องภู่ เป็นอะไรไปคะ ได้ยินพี่แอนรึเปล่า?” แอนเดินเข้าไปกระซิบถาม พร้อมเขย่าตัวเบาๆให้เจ้าตัวรู้สึกตัว
“..........อืม” มีแค่เสียงครางบางเบาออกมาเป็นการตอบรับเท่านั้น
“ว๊าย!!! น้องภู่ ตัวร้อนอย่างกับไฟเลย ไม่สบายมากเลยนี่คะ ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลให้ที”
“ไม่ต้อง...ครับ...พี่แอน ผมยังไหว”
“ไหวยังไงคะน้องภู่ นี่ภู่ไม่สบายมากเลยนะ”
“ขอร้องล่ะครับ...พี่แอน ขอผมนอนพักที่นี่สักหน่อย เดี๋ยว...ก็ดี...ขึ้นครับ”
“โธ่ น้องภู่อย่าดื้อสิ....”

“เดี๋ยวผมดูแลคุณภุมราให้เองครับ คุณแอน ยังไงวันนี้พักกองก่อนก็แล้วกันนะครับ” ขณะที่แอนกับภู่ยังคงเถียงกันอยู่นั้น จู่ๆ นคินทร์ก็เสนอตัวดูแลภุมราให้ ยังความแปลกใจมาให้ทั้งคู่ไม่น้อย
“เอ่อ...จะดีเหรอคะ คุณนคินทร์ พี่ว่าจะเป็นการรบกวนคุณนคินทร์เสียเปล่าๆ ยังไงเรียกรถพยาบาลซะไม่ดีกว่าเหรอคะ?”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงซะผมกับคุณภุมราก็อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ผมดูแลให้ดีกว่าครับ รบกวนคุณแอนช่วยหายามาให้หน่อยแล้วกันนะครับ”
“เอางั้นก็ได้ค่ะ แต่เดี่ยวยังไง พี่จะคอยมาดูอยู่เรื่อยๆแล้วกันนะคะ ถ้าสายๆอาการยังไม่ดีขึ้น รบกวนตามคุณหมอดีกว่านะคะ”
“ได้ครับ”

ตกลงเสร็จสรรพต่อหน้าต่อตา ภุมราได้แต่เงียบไว้ เพราะก็ไม่มีแรงจะอิดออด  แบบนี้ก็ดีเหมือนกันอย่างน้อยเขาก็ได้นอนอยู่ตรงนี้ไม่ต้องเอาตัวเองที่มีร่องรอยน่าอายไปให้หมอดู

หลังจากที่แอนออกไปได้สักพัก ก็กลับมาพร้อมหยูกยาอาหารที่ทางบ้านพักจัดให้  นคินทร์เข้ามาช่วยป้อนข้าวป้อนยาอย่างดี ใจของภุมราย่อมพองโต ยินดี หากก็ไม่อาจปักใจในความน่ายินดีนั้น เพราะที่นคินทร์ดีกับตน อาจเป็นเพราะแค่รู้สึกสังเวช ที่เขาเจ็บ หรืออาจเป็นเพราะอยู่ต่อหน้าพี่แอน เขาไม่อาจคาดหวังสิ่งใดอีกต่อไป เมื่อผ่านเหตุการณ์เมื่อคืนมาแล้ว ใช่ว่าภุมราปลงใจหรือตัดใจได้ หากแต่ก้แค่เหนื่อยเหลือเกินแล้วเท่านั้นเอง

“ภู่ เดี๋ยวพี่แอนต้องไปวางตารางการทำงานใหม่กับพวกทีมงานนะ ยังไงพี่ว่า วันนี้กับพรุ่งนี้ภู่พักผ่อนแล้วกัน เดี๋ยวเราค่อยเริ่มงานกันใหม่เนอะ”
“ขอโทษนะครับพี่แอน เพราะภู่...ทำให้ลำบากกันหมดเลย งานก็ล่าช้า”
“ไม่เป็นไรหรอกภู่ อย่าซีเรียสไปเลยนะ นอนพักซะ รักษาร่างกายไว้ให้ดีดีกว่านะจ๊ะพ่อนายแบบ ถ้าไง เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนแล้วกันนะจ๊ะ”
“ครับ พี่แอน”

หลังจากทานยาแล้วภุมราก็หลับเป็นตาย เนื่องจากร่างกายที่เหนื่อยล้า และระบมไปทั่วร่าง กว่าเขาจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ปาเข้าไป 4โมงเย็นแล้ว
“ตื่นแล้วเหรอ?”
“.....................” ภาพแรกที่เห็นเมื่อลืมตา คือภาพของนคินทร์ที่นั่งมองเขาอยู่ หากแต่คอแห้งเกินกว่าจะเอ่ยอะไรออกไปได้
“นะ...น้ำ...” คำแรกที่ออกมาจากลำคอแห้งผาก นคินทร์ลุกขึ้นรินน้ำแล้วยื่นให้ ภุมราพยายามยื่นมืออันหนักอึ้งไปรับแก้วน้ำมา ‘ถึงจะยอมดูแล แต่ก็ช่างห่างเหิน’
“ขอบใจนะ ฉันดีขึ้นแล้วล่ะ นายกลับไปห้องเถอะ อย่าเสียเวลามาดูใจฉันเลย”
“อย่ามาทำอวดเก่งนักเลย หน้าเหมือนซากศพอยู่แล้วยังจะทำปากดีอีกเหรอ”
“พูดไป ถอนหายใจไป คงอึดอัดที่ต้องมาดูแลฉันล่ะสิ ไม่เห็นต้องเป็นวีระบุรุษขนาดนั้นเลยนี่ หรือว่านาย......”
“อะไร?”
“อยากรับผิดชอบฉันงั้นเหรอ? รับผิดชอบในสิ่งที่นายพรากไปจากฉัน...”
“..........หุบปาก แล้วกินข้าวซะ จะได้กินยา” นคินทร์ตัดบทไป โดยที่ไม่มีการต่อล้อต่อเถียง ชายหนุ่มเดินไปหยิบชามข้าวต้ม พร้อมจัดโต๊ะมาใกล้กับเตียงของภุมรา
“คุณแอนให้แม่บ้านยกมาให้เมื่อกี้นี้ ยังร้อนอยู่รีบกินซะสิ” ภุมราลุกขึ้นมานั่งทานแต่โดยดี ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดีเหมือนกัน ในเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าเองก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์อยากต่อปากต่อคำกับเขา มือบางสั่นน้อยๆพยายามจับจับช้อนให้มั่นเพื่อจะได้จัดการกับข้าวต้มตรงหน้าสัก 2-3คำ เพราะยังไงซะ ท้องเขาก็ร้องแล้วด้วย การกินข้าวต้มครั้งนี้ทุลักทุเลจนภุมราเองยังรู้สึกหงุดหงิด ทำไมนะมือไม้เขามันช่างไม่มีแรงเอาซะเลย หากยังไม่ทันจะเอาข้าวต้มเจ้ากรรมเข้าปาก ช้อนก็ถูกแย่งไปจากมือ
“มานี่...”
“อะ...อะไรน่ะ” ไม่พูดพร่ำทำเพลง ข้าวต้มอุ่นๆก็ถูกเสิร์ฟมาถึงปากภุมราเรียบร้อย
“ทะ...ทำอะไรของนายเนี่ย?”
“กิน กิน เข้าไปเถอะ อย่าถามให้มากความได้มั้ย! ป่วยอยู่ก็ช่วยเจียมตัวซะบ้าง!” ถึงกับเงียบรับประทานเลยทีเดียวสำหรับภุมรา ยอมรับว่าเถียงไม่ออก ที่จริงแล้วตัวเขาก็ไม่ได้อยากขัดใจที่อีกฝ่ายอยากจะเซอร์วิสเขาโดยการป้อน ใช่ว่าเมื่อในอดีตจะไม่เคยทำ หากแต่ เรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันช่างเลวร้ายเกินกว่าที่จะจินตนาการว่าจะมีเหตุการณ์อย่างตอนนี้อีก ร่างบางยอมถูกปรนนิบัติแต่โดยดี ระหว่างทางไม่มีการพูดคุยหรือแม้แต่กระแอมกระไอสักคำ ต่างคนต่างเงียบ ภุมราไม่สามารถหยั่งรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ สงสาร เห็นใจ รู้สึกผิด หรือแค่เพื่อมนุษยธรรม ทั้งๆที่จนถึงเมื่อวานชายหนุ่มตรงหน้า แทบอยากจะฆ่าเขาให้ตายคามือวันละหลายหน ภุมราคิดไม่ออกเลยจริงๆ


“นี่ นคินทร์...เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?”


................................................................................

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน ขอให้สุขีสุโขกันถ้วนหน้านะเจ้าค๊า :mc4:

วันนี้มาลงตามสัญญา แต่น้อยไปหน่อยขอโทษนะคะ อย่าห่วงค่ะ นี่คือเรื่องสั่น อีกไม่นานก็จะถึงบทสรุปแล้วค๊า เอิ๊กๆๆๆ :a5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2012 20:02:43 โดย thearboo »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
รอคำตอบจากปากนคินทร์
หวังว่าภู่คงไม่โดนข้าวต้มสาดหน้าหรอกนะ

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
ภู่มันก็รักภูจริงๆ เลยแฮะ   :เฮ้อ:

ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า  :pig4:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
อ่านแล้วมันเสียดแทงอารมณ์

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 10 *ความรู้สึก*
“นี่ นคินทร์...เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?”
ราวกับลืมหายใจชั่วขณะ คำถามเดิม ที่เคยถามซ้ำๆ รู้ตัวว่าเหมือนเจ็บไม่จำ  หากเขาไม่รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะถาม แสงแห่งความหวังแม้ริหรี่แต่มันคือสิ่งเดียวที่เขาจะสามารถยึดมั่นเอาไว้ในชั่วชีวิตนี้
ภุมราลุ้นระทึก รอคำตอบจากชายหนุ่มที่ยังคงนั่นนิ่งอยู่ตรงหน้า จะมีโอกาสไหม จะเป็นไปได้ไหม หรือเขาอาจโดนต่อว่าด่าทอ เหมือนทุกครั้ง เลวร้ายหน่อยก็คงโดนอะไรบางอย่างฟาดหัว นคินทร์เงียบเกินไป นานจนภุมราเจ็บยอกในอก
“มัน...ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้หรอก ไม่มีวันอีกต่อไป เลิกถามแบบนี้เสียที”
ในที่สุดชายหนุ่มก็ตอบคำถามเขา นึกไว้อยู่แล้วว่ามันคงไม่ใช่คำตอบที่ต้องการหรอก แต่ก็ยังดีที่ไม่มีอะไรมากระแทกหน้าเอาพร้อมคำตอบด้วย
“แล้ว...นายจะ...ให้อภัยฉันได้หรือเปล่า?”
“อิ่มแล้วใช่ไหม งั้นกินยา แล้วนอนพักไปซะ”
ไม่มีการตอบคำถามใดๆอีกชายหนุ่มตัดบท และจัดการเก็บชามข้าวต้มออกจากห้องภุมราไปทั้งอย่างนั้น คมมีดที่ไร้รูป ถูกกรีดช้าๆลงมาที่หัวใจของภุมรา  ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังหนานั้นอย่างเลื่อนลอย ‘ไม่มีทางเหมือนกันสินะ’  ทั้งชีวิตนี้เขาคงไม่มีทางได้รับการให้อภัยเลยสินะ ฉับพลันโพรงจมูกเขาก็ร้อนผ่าว ธารน้ำตาจากที่ไหนไม่รู้ได้ ไหลลงจากดวงตาเศร้าสร้อย พรั่งพรูสู่สองแก้มไม่ขาดสาย ‘จะแตกสลายอยู่แล้ว หัวใจ’

นคินทร์เดินเอาชามข้าวต้มมาเก็บไว้ที่เคาน์เตอร์ จากนั้นก็นั่งลงเงียบๆบนโซฟาหน้าห้องพัก ในหัวตื้อสนิทราวกับสมองไม่ทำงาน หัวใจเหมือนแบ่งภาค เจ็บแค้น ชิงชัง สงสาร เห็นใจ เดียดฉันท์ อาฆาต หากแต่ก็ยัง ห่วงหาอาทรณ์
“เป็นอะไรไปแล้วนะเรา หนักแน่นหน่อยสิ”
ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง เขาคิดผิดหรือเปล่านะที่ยอมรับงานนี้ ก็ตอนนั้นเขาไม่รู้จริงๆ ว่าต้องมาเจอกับภุมรา ที่จริงเขาอยากจบความรู้สึกนี้โดยการไม่มาเจอชายหนุ่มอีกตลอดชีวิต ไม่แน่ว่าเวลาอาจทำให้เขาลืมได้ ลืมในสิ่งที่อีกฝ่ายทำไว้กับเขาได้ หากแต่ตั้งแต่ที่สนามบินวันนั้น วันที่ได้พบหน้ากันอีกครั้ง ส่วนหนึ่งคือปฎิเสธไม่ได้เพาะตกปากรับคำทำงานนี้ไปแล้ว และอีกส่วนหนึ่งคือ เขาอยากลองอยู่กับภุมราอีกสักครั้ง เพื่อทดสอบว่าตัวเองปล่อยวางได้แค่ไหน และเพื่อเคลียร์บางอย่างในใจกับชายหนุ่มด้วย ซึ่งเขาตัดสินใจพลาด และมันพลาดเสียจนถอยหลังกลับไปไม่ได้อีก
“ภู ฝ้ายขอโทษ ฝ้ายไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายหัวใจภูนะ แต่เพราะภู่ ภู่เขาทำให้ฝ้ายเป็นแบบนี้”
“ฮือๆ...ฝ้ายเป็นของภูไม่ได้อีกแล้ว ฝ้าย ฝ้ายกลายเป็นของภู่ไปแล้ว ภู่เขา ...ฮึก...ภู่เขา ขืนใจฝ้าย ฝ้ายเป็นผู้หญิงไม่ดีไปแล้วภู”
“ภู ช่วยฝ้ายที ภู่เขาจะทิ้งฝ้าย ภู่เขาไม่รับผิดชอบฝ้าย ฝ้ายจะทำยังไงดี ฮือๆๆ”
“รอยช้ำบนตัวฝ้ายก็เพราะภู่เป็นคนทำนั่นแหละ ภู่โกรธที่ฝ้ายไม่ยอมออกไปจากชีวิตภู่ ภู่เลยทำร้ายฝ้ายไงล่ะ”
ฝ้าย ผู้หญิงที่เขารัก เธอสะอาด บริสุทธิ์เสมอในสายตาเขา เธอโดนภุมราทำร้ายน้ำใจอย่างแสนสาหัส แล้วหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เสียชีวิต เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ นั่นเป็นเพราะภุมราหรือเปล่า เพราะชายหนุ่มอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย แต่ภุมราเองก็ปฎิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ใจหนึ่งเขาก็เชื่อว่าคนอบ่างภุมราเป็นลูกผู้ชายพอ ที่ถ้ากล้าทำ ก็กล้ารับ เหมือนกับตอนที่เจ้าตัวยอมรับว่าตัวเองเป็นคนทำร้ายน้ำใจฝ้าย แต่อีกใจก็ไม่อาจยอมรับ มันมากเกินไป
พอคิดถึงเรื่องในอดีตขึ้นมาหัวใจนคินทร์ก็ราวถูกบีบรัด เขาหลับตานิ่งๆ เพื่อจะไม่คิดอะไรต่อ หากแต่ความคิดหนึ่งกลับฉายชัดขึ้นมาแทน
“อยะ อย่า นคินทร์ ปล่อย อ๊ะ...” ใบหน้าราวรูปสลักส่ายไปมา แก้มนิ่มแดงก่ำ ริมฝีปากแดงจัดถูกเม้มแน่น บางครั้งเผยอครางอ้อนวอนเสียงแหบพร่า ด้วยเพราะถูกขับเคลื่อนด้วยแรงอารมณ์ เรือนร่างที่ชวนให้ติดตรึงหลงใหล จนยากจะถอนสายตา เพียงแค่นึกถึงภาพนั้น ร่างกายเขาก็ร้อนผ่าว
“นี่เราเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย บ้าจริง”
พอรู้สึกตัวว่ากำลังตกไปอยู่ในภวังค์ที่ไม่เหมาะสม นคินทร์ก็พยายามสลัดภาพนั้นให้หลุดออกไป เพียงแต่จะได้นานสักแค่ไหนก็ไม่รู้
“ฉันรักนาย”
แต่ก็ที่จะสลัดความคิดออกไปได้หมด คำคำหนึ่งก็แว่วเข้ามาในโสตประสาท คำที่ยากเกินกว่าจะทำใจยอมรับ คำที่ทำให้ความเป็นปกติสุขในชีวิตที่เขาเพิ่งจะเริ่มต้นไขว่คว้าได้มาพังทลายลง หัวใจนคินทร์เต้นระรัวขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะคำคำนั้นหรือเพราะอะไร
ตอนนี้ไม่ว่าอะไรๆ ก็ดูยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด เขาสับสน ยิ่งเห็นภุมราอยู่ตรงหน้ายิ่งสับสน แถมเจ้าตัวยังไม่สบาย โดยที่นคินทร์รู้ดีว่า ที่อีกฝ่ายไม่สบายนั้นก็เพราะฝีมือของตน ทั้งที่เขาน่าจะสะใจที่เห็นอีกฝ่ายเจ็บปวดขนาดล้มหมอนนอนเสื่อ แต่นี่ทำไมหัวใจเขากลับสั่นไหว เมื่อเห็นอีกฝ่ายเจ็บ ถูกบีบรัด เมื่อเห็นอีกฝ่ายทรมาน
“เป็นบ้าไปแล้วสินะเรา”
ถึงจะรู้สึกเห็นใจ หรือรู้สึกอะไรก็ตามกับอีกฝ่าย แต่นคินทร์ก็ยังคงยืนยันที่จะไม่ขอกลับไปเป็นเพื่อนกันกับภุมราเหมือนเมื่อก่อนอีก และเรื่องที่เขาจะอโหสิกรรม หรืออภัยให้ได้หรือเปล่านั้น คงต้องปล่อยให้เวลาเป็นผู้กำหนดแล้ว
................................................................................................

มาต่ออีกตอนจร๊า ขอบคุณทุกกำลังใจค๊า :z10:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-03-2013 18:47:14 โดย thearboo »

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
ไม่เคยเชื่อคำพูดจากภู่ แล้วภูจะรู้ความจริงจากปากใคร?

ฝ้ายน่ากลัวจริงๆ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ myall

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-3
ว๊าวๆ เพิ่งมาเจอ สแกนดูแล้วชอบอ่ะแนวนี้
เดี๋ยวจะมาอ่านอีกทีนะจ๊ะ ตอนนี้ต้องทำงานก่อนล่ะ
จะแวะมาดูบ่อยๆ นะ
 :กอด1:

นั่นสิคะแล้วภูจะรู้ความจริงได้ยังไง เรื่องนี้มีคนรู้แค่ภู่กับฝ้ายนี่ใช่มั้ย
แอบสับสนชื่อนิดนึง ฮ่าๆ มาไวๆนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2012 17:36:28 โดย myall »

ออฟไลน์ momo9476

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
แวะมาดัน

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
มาต่ออีกนะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
จะครบเดือนหรือยังจ้ะ
รอตอนต่อไปอยู่นะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด