บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)  (อ่าน 908805 ครั้ง)

totoken

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยสำหรับนิยายเรื่องแรกในบอร์ดนี้นะครับ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2014 17:11:45 โดย AxCiO@ToToKeN »

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 01”กรหยก”
«ตอบ #1 เมื่อ27-12-2011 01:03:07 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 01”กรหยก”
เข้าใจว่าคนทุกคน ย่อมมีเหตุผลของการเดินทาง แต่ใจฉันยังอ้างว้าง เมื่อสิ่งที่หวังนั้นยังไกล

          ผมชื่อหยกครับ ชื่อจริงของผมชื่อว่า ”กรหยก” พ่อของผมชื่อ “หยกเทพ” แม่ของผมชื่อ”กรกนก” ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผมมีเชื้อจีนอยู่ในสายเลือดแน่นอน บ้านผมอยู่จังหวัดราชบุรีเป็นโรงน้ำแข็งใกล้ตลาด ผมเกิดมาได้ไม่นานคุณปู่คุณย่าผมก็เสียชีวิต หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ของผมท่านก็ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อเมริกา เนื่องจากพี่สาวคุณพ่อหรือคุณป้าของผมท่านแต่งงานกับชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นคู่รักของป้า พบกันระหว่างที่คุณป้าไปเรียนหนังสือที่นิวยอร์ก พอเรียนจบคุณลุงกับคุณป้าก็เปิดร้านอาหารไทย-ญี่ปุ่น ที่นิวยอร์กและขยายกิจการหลากหลายสาขา

          คุณลุงคุณป้าไม่มีลูกน้องหรือคนที่ไว้ใจได้ช่วยดูแล โดนพนักงานโกงเงินรายได้เงินสั่งซื้อของเข้าร้านไปหลายครั้ง ครอบครัวผมก็เลยต้องตามไปช่วยดูแลกิจการ เนื่องจากคุณลุงที่เป็นชาวญี่ปุ่นท่านไม่มีญาติพี่น้อง มีแต่ทางฝั่งป้าของผม แถมท่านทั้งสองยังไม่มีลูก ท่านจึงเอ็นดูและรักผมมากเป็นพิเศษ ผมไปอยู่ที่นั่นในฐานะลูกบุญธรรมของป้า และเรียนหนังสือที่นั่นตั้งแต่เด็ก ผมก็เลยพูดภาษาอังกฤษได้คล่องปรื๋อ แต่ผมพูดก็ภาษาไทยได้ชัดแจ๋วเลยครับ เพราะพ่อและแม่ผมท่านใช้ภาษาไทยคุยกันในครอบครัวเสมอ

          เมื่อผมเรียนจบชั้นไฮสคูล ในคืนที่ผมไปร่วมงานพรอมเพื่อเลี้ยงฉลองวันจบการศึกษา พ่อและแม่ผมท่านกลับประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่จากเหตุการณ์รถชนกัน จึงเป็นวันที่ผมโศกเศร้ามากที่สุดในชีวิต เพราะรู้ว่าหลังจากนี้ผมจะได้ชื่อว่าเป็นลูกกำพร้าไม่มีพ่อและแม่อีกแล้ว ผมจึงอยู่กับคุณลุงและคุณป้าจนเรียนจบมหาวิทยาลัย

วันหนึ่งคุณป้าท่านนำพินัยกรรมของคุณพ่อมามอบให้ ทำให้ผมทราบว่าผมมีมรดกเป็นบ้านสวนพร้อมที่ดินตั้งอยู่ใกล้บ้านเดิมที่จังหวัดราชบุรีของครอบครัวผมที่ได้รับมอบจากรุ่นปู่มาอีกที ที่ดินผืนนั้นตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งคุณป้าท่านบอกว่าให้สามีภรรยาคู่หนึ่งเช่าทำสวนทำไร่ไม่ไกลจากตลาดน้ำอัมพวาอันมีชื่อเสียง

          “หยกแน่ใจนะลูก...ว่าต้องการแบบนี้” วันนี้คุณป้ามาส่งผมที่สนามบินคนเดียว เพราะคุณลุงต้องดูแลร้านอาหารที่กำลังขยายสาขา และคุณป้ายังคงถามผมย้ำอีกครั้ง ซึ่งเราคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหลายรอบแล้ว ทำให้ผมรู้สึกว่าคุณป้าน่าจะเป็นกังวลมากเกินไป

          หลังจากที่ผมเรียนจบมหาวิทยาลัย ผมยังไม่ได้หางานทำจึงเลือกที่จะหาเรื่องขอกลับมาเที่ยวเมืองไทย ผมตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี โดยอ้างว่าจะยกที่ดินผืนนั้นให้กับผู้ที่เช่าอยู่ พวกเค้าคงจะดีใจและได้ใช้ประโยชน์ในการทำมาหากินเลี้ยงชีพต่อไป

          “หยกไม่อยากได้ที่ดินผืนนั้นหรอกครับป้า หยกอยากโอนให้กับคนที่เช่าอยู่มานานแล้วมากกว่า ป้าเองก็ไม่คิดจะกลับไปอยู่ที่นั่นแล้วไม่ใช่เหรอครับ” ผมตอบแบบนี้มาหลายรอบเหมือนกัน เพราะไม่เข้าใจว่าเราก็ได้ค่าเช่าจากการโอนเงินมาให้ปีละหมื่นบาทไทย มันไม่มากเลย แล้วป้าจะเก็บที่ดินผืนนั้นไว้ทำไม

          “ป้าแค่เป็นห่วงเรื่องที่หยกจะไปเมืองไทยคนเดียว มันอันตรายนะลูก ลูกไม่ได้กลับไปยี่สิบปีแล้วนะ” คุณป้ายังคงพยายามโน้มน้าวให้ผมเปลี่ยนใจ ไม่ว่าเรื่องจะไปโอนที่ดินด้วยตัวเอง และเรื่องที่จะไปอยู่เมืองไทยนานๆ คนเดียวด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลเหลือเกิน

          “หยกโตแล้วนะครับป้า อย่าเป็นห่วงเลยครับ อีกอย่างหยกอยากไปเที่ยวเมืองไทยด้วยครับ อยากไปเที่ยวบ้านเกิดเมืองนอนตัวเองสักครั้ง ป้าอย่าร้องนะครับ” ผมโอบกอดคุณป้าที่เริ่มมีน้ำตาซึม และตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มให้คุณป้าคลายกังวล

          “เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องเราก็ไม่มีที่นั่น แล้วจะไปอยู่ไปกินยังไง เกิดอะไรขึ้นมาหยกจะไปหาใคร ป้าไม่สบายใจเอาซะเลย” คุณป้ายังคงไม่หายห่วงผมซะที แถมยังทำหน้ายังกับจะร้องไห้ขึ้นมาอีกซะแล้วสิ

          “โธ่...คุณป้าครับ หยกบรรลุนิติภาวะแล้วนะครับ แล้วหยกก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนไกลๆ เลย ตอนนี้หยกอยากไปเที่ยวสักพักหนึ่ง ยังไงหยกจะส่งข่าวโทรมารายงานตัวบ่อยๆ ไม่ให้คุณป้าต้องเป็นห่วงดีไหมครับ” ผมยังคงฉีกยิ้มสู้กับความเป็นห่วงของคุณป้า แถมโอบแขนกระชับกอดคุณป้าให้แน่นมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งหอมแก้มคุณป้าทั้งซ้ายทั้งขวา

          “ฮึฮึ...ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลยเรา ลองถ้าไม่ติดต่อมาเกินวันหนึ่งดูสิ ป้าจะส่งคนไปตามกลับมาทันทีเลยเชียว” คุณป้าหัวเราะลงคอเบาๆ และยิ้มออกมาได้แล้ว คุณป้าทราบดีว่าหลังจากผมเรียนจบชั้นไฮสคูลก็มีเรื่องพ่อแม่ผมเสียชีวิตมาทำให้ผมเสียใจ จนเป็นเด็กเงียบขรึม ไม่ค่อยพูดจากับใคร เดิมทีความเป็นคนต่างด้าวมาอาศัยอยู่ในอเมริกาก็ทำให้มีเพื่อนน้อยอยู่แล้ว ผมจึงเอาแต่อ่านหนังสือตั้งใจเรียนจนได้เกียรตินิยมเลยทีเดียว ตอนนี้คุณป้าท่านคงอยากให้ผมมีชีวิตที่ผ่อนคลายขึ้นบ้าง

          “ป้าครับ...หยกต้องไปแล้วล่ะ ใกล้เวลาขึ้นเครื่องแล้วล่ะครับ ป้าต้องดูแลตัวเองด้วยนะครับ เดี๋ยวเครื่องลงแล้วหยกจะโทรหานะครับ” เสียงประกาศจากสายการบินเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องดังขึ้นมา ผมกอดคุณป้าอีกครั้งพร้อมยกมือพนมไหว้ แม้ผมจะเติบโตที่อเมริกา บ้านเราจะย้ายมาอยู่กันที่นี่ แต่คุณป้าก็ยังคงสอนให้ผมมีวัฒนธรรมและมารยาทแบบไทย และไม่ลืมขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยต่างๆ

          “เดินทางปลอดภัยนะลูก...คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองนะ รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆ นะลูก” คราวนี้คุณป้าน้ำตาไหลออกมาจริงๆ ทำเอาผมแทบจะร้องไห้ตามไปด้วยเลยทีเดียว เพราะตั้งแต่โตมาที่นี่ ผมยังไม่เคยห่างจากคุณป้าไกลและนานขนาดที่จะไปเมืองไทยคราวนี้เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-01-2012 23:59:33 โดย AxCiO@ToToKeN »

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 02 “กรหยก”
«ตอบ #2 เมื่อ27-12-2011 01:12:39 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 02 “กรหยก”
โอ...อัมพวานี่หนางามจริง ทุกสิ่งเป็นขวัญตา

          ระหว่างทางบินที่ผมต้องต่อเครื่องบินมาเมืองไทย สภาพอากาศไม่ดีมีเมฆฝนแปรปรวนจนทำให้ผมต้องรอเครื่องบินที่สนามบินในประเทศญี่ปุ่นอยู่นานมาก ผมจึงต้องเดินทางไปถึงเมืองไทยช้าไปแปดชั่วโมง แถมยังติดต่อกับที่พักที่จองเอาไว้ทางอินเตอร์เน็ตในเมืองไทยไม่ได้อีก ผมเลือกที่พักในตลาดน้ำอัมพวาชื่อ “บ้านขนม” โดยดูข้อมูลจากเว็บไซต์แล้วก็จองผ่านอินเตอร์เน็ต ผมโอนเงินค่าจองไว้หนึ่งเดือนเสร็จสรรพก็ส่งสลิปหลักฐานการโอนเงินไปทางอีเมล์ และได้รับการตอบรับกลับเรียบร้อย

          ผมเลือกที่นี่เพราะดูใกล้เคียงกับโฮมเสตย์ ที่มีสอนทำอาหารไทยและสอนทำขนมแบบไทยต้นตำรับด้วย ผมชอบทำอาหารอยู่เหมือนกันแต่ฝีมือการทำอาหารของผมก็ยังไม่ได้เรื่อง ก็กิจการที่บ้านผมเป็นร้านอาหารนี่ครับ ผมได้แต่เป็นลูกมือช่วยเหลืองานเล็กๆ ในครัวเมื่อมีเวลาว่าง ผมอาจจะเอาสูตรอาหารไทยต้นตำรับมาปรับปรุงใช้กับที่ร้านาหารของป้าผมที่อเมริกาก็ได้

แต่เหตุการณ์วันนี้ต้องทำให้ผมเลยเวลานัดที่ยืนยันไว้ทางอีเมล์ ผมคงถึงเมืองไทยแล้วเดินทางต่อเข้าไปเช็คอินไม่เกินบ่ายโมงวันเสาร์ไม่ทันอย่างแน่นอน ผมคิดว่าอาจโดนยกเลิกห้องพักที่จองไว้ แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย ถ้าไปไม่ทันโดนยกเลิกไปแล้วผมจะหาที่พักที่ไหนดี ไม่ได้เตรียมแผนสำรองเอาไว้ด้วย

          เมื่อเครื่องบินมาถึงประเทศไทยลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิเรียบร้อย ผมไม่มีเวลามากนัก รีบออกไปทางตรวจคนเข้าเมืองแล้วรีบไปรอรับกระเป๋าเป้ ซึ่งระบบของที่นี่ทำให้กระเป๋าเป้ของผมมาช้าอีก เฮ้อออ...ยืนรอจนเครียดไปเลย ผมกะไว้ว่าจะรีบไปหาซื้อซิมโทรศัพท์ของประเทศไทยมาใช้ จะได้โทรบอกคุณป้าว่าเดินทางมาถึงเมืองไทยอย่างปลอดภัย แม้จะขลุกขลักจนเลยเวลามานิดหน่อย แล้วก็จะได้โทรศัพท์ไปยืนยันกับทางโรงแรมที่จองห้องพักเอาไว้ สุดท้ายก็ได้แต่นั่งปลงตกบนสายพานระหว่างรอกระเป๋าที่มาช้าเสียเหลือเกิน

          พอผมได้กระเป๋าเป้ออกมาจากสนามบินก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มของเมืองไทยแล้ว กว่าจะหาซิมโทรศัพท์ได้ ข้าวปลาก็ยังไม่ได้กิน ผมรีบหาแท็กซี่ไปส่งที่ตลาดน้ำอัมพวาโดยด่วน พอขึ้นรถได้แล้วผมก็รีบเอาซิมโทรศัพท์มาใส่ในมือถือแล้วก็โทรกลับไปรายงานตัวกับคุณป้าที่อเมริกาทันที แล้วพยายามติดต่อโรงแรมแต่ไม่มีคนรับสายผมเลย กว่าผมจะมาถึงที่หมายก็มืดค่ำแถมค่ารถยังแพงเอาการอยู่เหมือนกัน

          ผมสะพายเป้ใบใหญ่พร้อมกางแผนที่ที่พิมพ์มาจากในเว็บไซต์เดินตามทางเข้ามาภายในตลาดน้ำ ผ่านผู้คนที่ยังพอมีให้เห็นกันอยู่พอสมควร เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ ผมจึงรีบเดินผ่านผู้คนไปยังโรงแรมที่ผมจองห้องพักเอาไว้ เดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาไม่ทันได้ดูบรรยากาศก้มาถึงจุดหมายปลายทาง

โรงแรมที่เห็นเป็นเหมือนบ้านไม้โบราณสองชั้นมีสามแถว ทาสีฟ้าหวานสดใสทั้งภายนอกและภายใน อาคารประดับด้วยโคมไฟโบราณสีส้มทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น โรงแรมตั้งอยู่ริมน้ำเปิดโล่งทั้งสามห้อง ห้องกลางมีบันไดไม้ทาสีฟ้าสลับขาวสดใสเหมือนกับตัวอาคารขึ้นไปยังชั้นสอง ตรงหน้าบันไดมีเคาเตอร์ซึ่งไม่มีพนักงานอยู่ที่นั่น

          ผมมองไปยังห้องซ้ายมือที่มีผู้คนมากมาย กำลังนั่งคุยกันเสียงดังอยู่ที่โต๊ะอาหารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสทำด้วยไม้สีขาวมีอยู่หลายโต๊ะกระจายกันเป็นกลุ่ม บนโต๊ะวางอาหารอยู่เต็มเหมือนจะเป็นร้านอาหารด้วย บนเก้าอี้ไม้ไม่มีพนักสีขาวเข้าชุดกันก็มีคนนั่งอยู่เต็มทุกโต๊ะ ทุกคนกำลังทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยและพูดคุยกันเสียงเจาะแจะดูมีความสุข

ส่วนห้องขวามือสุดมีชุดรับแขกไม้สักมันวาว มีผ้านวมรองนั่งหลากสีดูน่ารักดีตั้งอยู่ตรงมุมห้อง ริมผนังมีชั้นไม้ทาสีขาวตัดกับสีฟ้าบนผนัง บนชั้นไม้รองด้วยผ้าลูกไม้ถักเรียงรายเต็มไปด้วยขนมต่างๆ แลดูเหมือนเป็นร้านเบเกอรี่ขนมไทยเล็กๆ ดูการตกแต่งการจัดวางให้ความรู้สึกอบอุ่นดี ผมจึงเลือกที่จะนั่งรอที่ชุดรับแขกตรงห้องทางฝั่งขวามือ และมองดูผู้คนเดินผ่านไปมาบนทางเท้าริมน้ำหน้าโรงแรมฆ่าเวลา

          ผมนั่งได้สักพักก็เริ่มรู้สึกหิวจนท้องร้อง เลยลุกขึ้นเดินมาดูที่ชั้นไม้ต่างๆ ที่มีขนมวางเรียงอยู่ มีป้ายชื่อเป็นภาษาไทยพร้อมราคาบอกอยู่ทุกแถว ขนมไทยบางชนิดผมรู้จัก เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้น เพราะคุณป้าเคยทำให้ทาน แต่บางชนิดก็ไม่เคนเห็นมาก่อนเหมือนกัน ราคาไม่ได้แพงเสียด้วย

          “น้องมาซื้อขนมเหรอครับ เชิญเลือกดูตามสบายนะครับ” กำลังเลือกขนมดูเพลินๆ ผมก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงที่ดังมาจากทางด้านหลัง เมื่อหันมามองก็พบชายหนุ่มผิวสองสีเพราะสวมเสื้อกล้ามสีขาวตุ่น เลยทำให้เห็นสีผิวของเค้าอย่างชัดเจน ชายคนนี้สวมกางเกงผ้าหนาขาสั้นสามส่วนสีน้ำตาล ผิวในร่มผ้าเค้าแลดูขาวสะอาดแต่บริเวณแขน ขา และคอขึ้นไปที่คาดว่าน่าจะเป็นรอยโดนแดดเผากลับเป็นสีน้ำผึ้งเข้ม เค้าสวมร้องเท้าแตะหนีบระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ แถมมีผ้ากันเปื้อนสีฟ้าขลิบลูกไม้สีขาวพิมพ์กลางอกว่า “บ้านขนม” ชายคนนี้มีเหงื่อชื้นพราวบนใบหน้าและซึมเสื้อผ้าจนเห็นรอยเปียกชัดเจน สภาพเค้าดูไม่จืดเลย โชคดีนะที่หน้าตาหล่อคม แถมยังหุ่นดีมีกล้ามเนื้อชัดเจนเหมือนคนออกกำลังกายมานาน ทำให้ยังดูดีใช้ได้...ไม่สิไม่ใช่แค่ใช้ได้ โคตรหล่อเลยล่ะ ดูแล้วเค้าน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมหรืออาจจะแก่กว่าไม่กี่ปี แต่ชายคนนี้ค่อนข้างสูงกว่ามาก น่าจะประมาณร้อยแปดสิบกว่าๆ เกือบร้อยเก้าสิบเลยทีเดียว ส่วนผมสูงแค่ร้อยเจ็ดสิบห้าเอง จึงต้องแหงนหน้ามองเค้าแล้วต้องก้มมองรองเท้าอีกที เค้าเหมือนจะเพิ่งว่างจากการเป็นเด็กเสิร์ฟอาหารจึงเดินมาดูผมก็ได้

          “เอ่อ...ผมมาพักที่นี่นะครับ นี่เป็นเอกสารใบจองพร้อมสลิปโอนเงินค่ามัดจำครับ” ผมยื่นเอกสารที่พิมพ์ออกมาจากอีเมล์ให้เขาไป เค้าทำหน้างงๆ ใส่ผม แล้วยืนเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะรับเอกสารจากผมไปดู

          “ห้องเต็มหมดแล้วนี่ครับ คุณ...เอ่อ...กรหยกที่จองมาจากอเมริกา อ้อ...คือคุณนัดเช็คอินตอนบ่ายแล้วก็ไม่มา ทางเราก็ติดต่อคุณไม่ได้เสียด้วย ก็เลยให้ห้องพักกับคนอื่นไปแล้วล่ะครับ ยังไงผมจะคืนเงินมัดจำให้แล้วกันนะครับ” เค้าทำหน้าเศร้านิดหน่อยแล้วตอบผมอย่างรู้สึกผิดเต็มที่ แล้วยื่นเอกสารคืนให้ผม

          “เอ๊ะ...แล้วผมจะทำยังไงล่ะครับ นี่ยังไม่ทันจะข้ามวันเลย เพราะไฟล์ที่ผมเดินทางมันดีเลย์ก็เลยทำให้มาช้าไปหลายชั่วโมง แล้วโทรศัพท์ผมก็ไม่ได้เปิดโรมมิ่งไว้ด้วย พอผมหาซิมโทรศัพท์ได้ผมก็รีบโทรมาแต่พวกคุณไม่มีใครรับสายผมเลย เงินมัดจำผมก็โอนมาให้แล้ว คุณกลับเอาห้องที่ผมจองไว้ให้คนอื่นอย่างนี้ใช้ได้เหรอครับ ให้บริการกันยังไงเนี่ย” ผมโวยออกไปทันทีเพราะไม่รู้จะไปหาที่พักได้ที่ไหน ด้วยเป็นเวลานี้แล้วด้วย

          ผมชักสีหน้ามองนายคนนี้หัวจรดเท้าอีกครั้ง ด้วยการแต่งตัวที่ดูไม่ชวนมอง และความไม่รับผิดชอบในบริการ ผมเริ่มจะเหวี่ยงด้วยท่าที และน้ำเสียงที่ไม่พอใจสุดๆ เพราะไม่นึกว่าช้าไปไม่กี่ชั่วโมงทางโรงแรมกลับยกเลิกห้องพักผมง่ายๆ แบบนี้ วันนี้หงุดหงิดมาหลายเรื่อง แถมยังหิวข้าวสุดๆ อีกด้วย ต้องเอาให้เละกันไปข้าง

          “พอดีวันนี้มีแขกเข้าพักเยอะนะครับ แล้วก็มีลูกค้าต่างชาติติดใจอยากเรียนโปรแกรมทำขนมไทยที่มีทุกวันอาทิตย์ของที่นี่ในวันพรุ่งนี้ ก็เลยขอพักเพิ่มอีกหนึ่งวัน ทางเราก็ติดต่อคุณไม่ได้ แล้ววันนี้ลูกค้าที่มาทานอาหารเย็นก็จองไว้เต็มทุกโต๊ะ เราก็เลยไม่มีคนว่างกันเลยสักคน สงสัยจะไม่ได้รับโทรศัพท์คุณเมื่อเย็นนี้น่ะครับ ยังไงเราจะคืนเงินจองให้ ต้องขออภัยจริงๆ นะครับ” ชายหนุ่มคนนี้ทำตาขวางใส่ผมทันที ที่ผมมองเค้าหัวจรดเท้า แถมอธิบายแก้ตัวด้วยท่าทีนิ่งๆ แข็งๆ แล้วเริ่มใช้น้ำเสียงแข็งกร้าวขึ้นจากเดิม เหมือนจะไม่พอใจท่าทีโวยวายนิดๆ หน่อยๆ ของผม ผมคิดว่านี่ยังไม่ได้จัดเต็มเท่าไรเลยนะ

          “มีอะไรกันเหรอคะ...พี่กฤษ” กำลังจะฟาดฟันกันอยู่แล้วเชียว อ้อ...ไอ้ยักษ์คนนี้ชื่อกฤษ หญิงสาวหุ่นดี ผมยาวสีดำขลับ ดวงตากลมโตทำให้ดูเป้นคนมีหน้าตาสะสวย สูงเกือบเท่าผมเลยถือได้ว่าสูงมากสำหรับมาตรฐานหญิงไทย เธอเดินมากับผู้ชายอีกคนที่ตัวสูงกว่าผมแต่สูงไม่เท่านายกฤษ เธอกับชายอีกคนมีหน้าตาคล้ายกันทั้งคู่ยังกะเป็นพี่น้องฝาแฝด ทั้งสองแต่งตัวสะอาดสะอ้านดูดีกว่านายกฤษเยอะ แถมสวมผ้ากันเปื้อนแบบเดียวกันกับนายกฤษอีก คงจะเป็นพนักงานที่นี่เหมือนกัน

          “ทองกับน้องพลอยมาก็ดีแล้ว ลูกค้าคนนี้ชื่อคุณกรหยกที่จองห้องพักผ่านทางอีเมล์แต่ไม่มาเช็คอินตามนัด พอดีคู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่นที่มาพักตั้งแต่วันศุกร์ เมื่อเช้าเค้าขอพักอีกคืนเพราะอยากเรียนทำขนมไทยวันพรุ่งนี้พี่ก็เลยยกห้องให้เค้าพักต่อไปแล้วเมื่อตอนเย็น พี่ว่า...เราก็คืนเงินจองให้คุณกรหยกเค้าไปแล้วกัน” นายคนนี้พูดออกมาง่ายดายอย่างไม่รู้สึกสำนึกผิด ท่าทีไม่เหมือนครั้งแรกที่คุยกับผมซะงั้น

          “อ้าว...คุณกรหยกนี่เอง ดิฉันพลอยสวยค่ะ เป็นคนที่คุยประสานการรับจองห้องพักกับคุณทางอีเมล์ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะคะ คุณกรหยกใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ยังไงคืนนี้ดิฉันจะจัดการแก้ไขเรื่องห้องพักให้ได้แน่นอนนะคะ...พี่ทองหล่อไปเอาน้ำใบเตยเย็นๆ มาให้ลูกค้าก่อนเร็วเข้า” เธอหันไปสั่งพี่ชายที่ยืนนิ่งดูสถานการณ์อยู่ข้างๆ กันอย่างรวดเร็ว

“คุณกรหยกทานอาหารเย็นมารึยังคะ” คุณพลอยสวยดูมีมารยาท สำเสียงการพูดจาก้ดูน่ารักดี น่าคุยกว่านายกฤษเยอะ หลังจากเธอหันไปสั่งนายทองหล่อให้เอาน้ำมาให้ผม แล้วยังมีกะจิตดะใจถามเรื่องข้าวปลาอาหารกับผมอีก

          “ผมยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่ลงจากเครื่องบินครับ ตอนนี้เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน” ด้วยเสียงหวานๆ ของคุณพลอยสวยกับความมีน้ำใจทำให้ความโกรธของผมอ่อนลงไปเยอะ พูดจาโต้ตอบได้ดีขึ้น อารมณ์ขุ่นมัวก็เริ่มจากลง จนกระทั่งหันมาเจอนายกฤษที่ยืนทำหน้ายักษ์อยู่นี่ล่ะ ผมจึงเริ่มขมวดคิ้วพร้อมจะทำให้ผมมีอารมณ์ขึ้นอีกรอบ ไม่มีเซอร์วิสมายด์เอาซะเลย หน้าตาดีเสียเปล่าเห็นแล้วเซ็ง

          “ที่นี่มีเมนูประจำวันเป็นอาหารชุดไม่ซ้ำกันแต่ละวันนะค่ะ อาหารเช้าเที่ยงและเย็นรวมอยู่ในค่าห้องพักอยู่แล้ว มื้อเย็นวันนี้มีหมูสะเต๊ะทานกับขนมปังปิ้ง มีน้ำจิ้มเป้นเครื่องแกงโรยถั่วลิสงคั่วพร้อมอาจาดแตงกวาเปรี้ยวๆ หวานๆ แก้เลี่ยนเป็นของทานเล่นก่อนอาหาร แล้วค่อยทานข้าวพร้อมกับข้าววันนี้มี ต้มยำทะเลใส่เห็ดนางฟ้า ปลากะพงทอดทั้งตัวราดน้ำปลาทานคู่กับยำมะม่วง และปลาหมึกสดผัดกับไข่แดงเค็มค่ะ ของหวานประจำวันก็มีบัวลอยสามสีไข่หวานน้ำกะทิ เครื่องดื่มก็เป็นน้ำใบเตยค่ะ คุณกรหยกทานได้นะคะ” เธอหนิบกระดานชนวนขนาดเอสี่มาอธิบายพร้อมส่งยิ้มหวานหยดมาให้ผม คงเพราะเห็นผมเอานิ้วไล่ไปบนเมนูกระดานชนวนเล็กๆ บนโต๊ะ ซึ่งเป็นคำอธิบายส่วนผสมของอาหารทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษก็เลยนึกว่าผมไม่รู้จักอาหารไทยแน่ๆ มั้ง

          ความจริงผมพอรู้จักอาหารไทยพอสมควร เพราะคุณป้าผมเปิดร้านอาหารไทย-ญี่ปุ่นที่อเมริกา คุณป้าทำอาหารไทยเอง ส่วนคุณลุงเป็นคนทำอาหารญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ท่านทั้งสองมาคุมกิจการโดยจ้างพ่อครัวและแม่ครัวอีกที ผมเพียงแค่อยากรู้ว่าส่วนผสมของอาหารไทยต้นตำรับในเมืองไทยจะต่างกับอาหารไทยที่อเมริกาหรือเปล่าเท่านั้นเอง

          “ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ผมหิวมากแล้วก็รู้สึกเหนื่อยมากด้วย อะไรก็ทานได้ละครับ” ผมยิ้มตอบไปพร้อมรับแก้วน้ำจากคุณทองหล่อที่เดินยื่นให้ผมพอดี เครื่องดื่มสีเขียวอ่อนจางใสสวยดี มีหยดน้ำเกาะรอบแก้วบอกอุณหภูมิให้รู้ว่าเครื่องดื่มในแก้วเย็นมาก น้ำมีกลิ่นหอมๆ กลิ่นออกหวานๆ พอยกขึ้นจิบก็รู้สึกเย็นสดชื่นทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาก

          “เดี๋ยวดิฉันจะให้พี่กฤษกับพี่ทองหล่อไปจัดชุดอาหารมาให้คุณกรหยกทานก่อนนะคะ แล้วดิฉันจะหาห้องพักจากโรงแรมแถวนี้ให้ระหว่างคุณกรหยกทานอาหารรอนะคะ” คุณพลอยสวยพูดกับผมเสร็จก็ยิ้มหวานให้อีกที แล้วก็หันไปสั่งนายกฤษที่ยืนหน้าเป็นตูดหมึกอยู่ข้างๆ คุณทองหล่อให้ยกอาหารมาให้ผมทาน

          “ขอบคุณมากครับ” ผมตอบรับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลพร้อมยิ้มให้คุณพลอยสวยและคุณทองหล่อที่ดูมีน้ำใจ แถมหันไปมองหน้าตวัดสายตาชิงชังใส่คนแล้งน้ำใจที่น้ำดื่มสักแก้วก็ยังไม่คิดจะไปหยิบมาให้ ข้าวปลาก็ไม่คิดจะถามว่ากินรึยัง แล้วยังจะไล่ให้ผมไปหาที่พักที่อื่นอีก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 00:01:03 โดย AxCiO@ToToKeN »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #3 เมื่อ27-12-2011 01:50:08 »

เข้ามารอค่ะ
บาปยังไงอ่า

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 03 “กรหยก”
«ตอบ #4 เมื่อ27-12-2011 01:56:24 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 03 “กรหยก”
เมื่อแรกเจอกับเธอก็ละเมอ ดั่งต้องมนต์

          ผมนั่งรออาหารอยู่ได้ไม่นาน คุณทองหล่อกับนายกฤษก็นำถาดอาหารยกออกมาเสิร์ฟผมตรงหน้าเยอะแยะไปหมด หน้าตาอาหารที่จัดมาดูน่าทานมากมาย ผมมองสองหนุ่มจัดวางจานอาหารตรงหน้าพร้อมน้ำลายสออยู่ที่ริมฝีปากแทบจะไหลหกออกมาอยู่แล้ว

          “ทำไมมันเยอะจังเลยครับ ผมทานคนเดียวคงไม่หมดแน่เหลือไปเสียดายแย่เลยครับ คุณทองหล่อนั่งทานอาหารด้วยกันกับผมสิครับ” ผมออกตัวเชิญเพราะเห็นว่าลูกค้าที่นั่งทานอาหารอยู่อีกห้องริมซ้ายเริ่มทยอยขึ้นข้างบน บางส่วนก็ออกไปเดินเล่นข้างนอก แทบไม่เหลือลูกค้าให้คอยบริการมื้อค่ำกันแล้ว

          “คุณหยกทานไปเถอะ...ตัวยิ่งผอมๆ อยู่พวกเราทานกันแล้วตั้งแต่เย็น ตอนนี้ยังต้องเก็บโต๊ะล้างจานชามอีกกองพะเนินที่อยู่หลังร้านโน่น ไหนจะต้องเตรียมงานของวันพรุ่งนี้อีก” นายกฤษที่ผมไม่ได้ชวนเลยกลับเป็นคนตอบซะเฉย ผมไม่สนใจยังคงหันมามองคุณทองหล่อที่ยืนยิ้มอย่างเดียว นี่ตั้งแต่เจอหน้าผมยังไม่ได้ยินคุณทองหล่อพูดอะไรซักคำเดียว

          “เชิญคุณกรหยกทานตามสบายเลยนะครับ ทานอาหารให้อิ่มเสียก่อน ส่วนเรื่องที่พักน้องพลอยกำลังจัดการให้อยู่...ไม่ต้องเป็นห่วง ขาดเหลืออะไรเรียกพวกผมได้ตลอด พวกผมขอตัวไปจัดการหลังร้านสักครู่นะครับ” คุณทองหล่อยิ้มให้แล้วพูดกับผมออกมาแล้ว แถมน้ำเสียงยังไพเราะนุ่มนวลฟังสบายหู ไม่ห้าวและห้วนเหมือนนายกฤษเลยสักนิด

          ผมมองคุณทองหล่อกับนายตัวยักษ์หน้านิ่งเดินหายเข้าไปหลังร้าน ตอนนี้ผมก้มลงมองอาหารตรงหน้าแล้วเริ่มลงมือทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย อื้ม...อาหารอร่อยใช้ได้ รสชาติเข้มข้นกว่าอาหารไทยที่คุณป้าทำพอสมควร ฝีมือการปรุงจัดว่าเยี่ยมเลยทีเดียว ไม่สิ...อร่อยมากที่สุดเลยต่างหาก เผลอแพลบเดียวผมทานอาหารแทบจะหมดเกือบทุกอย่าง ทั้งที่ปริมาณอาหารน่าจะเตรียมมาสำหรับทานได้สามถึงสี่คนเลยทีเดียว

          “หึ...หึ...ท่าทางนี่คงหิวโซมาเชียวนะครับ ถึงกินเกลี้ยงจานแทบทุกอย่าง ฝืนทานหรือเปล่าครับคุณกรหยก” เสียงนายกฤษทำให้ผมชะงัก ต้องรีบเงยหน้าขึ้นไปมอง เจ้านี่ยืนอมยิ้มมุมปากมองผมเหมือนตัวตลก แถมยืนกอดอกในมือถือเหยือกน้ำแล้วก็เดินมาเติมน้ำในแก้วของผม ผมมองแก้วแวบหนึ่งก่อนจะยกขึ้นมาดื่มล้างปากหลังจากทานบัวลอยไข่หวานจนหมดถ้วย

          “อาหารมันอร่อยมากต่างหาก เลยเสียดายแทนคนทำถ้าจะเหลือทิ้งเหลือขว้าง ก็เลยต้องกินเองให้หมดดีกว่า” ผมตอบแบบไม่มองหน้าคนถาม

          “ขอบคุณนะครับที่ชมว่าผมทำอาหารอร่อยมาก” นายกฤษยิ้มเยาะก่อนตอบ ซึ่งทำให้ผมแทบไม่เชื่อหู รีบหันขึ้นไปมองหน้าคนพูดพร้อมอ้าปากพะงาบๆ แต่ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี

          “เอ่อ...นายทำเองเหรอ ฉัน...นึกว่าคุณพลอยสวยเป็นคนทำอาหารซะอีก แล้วไม่มีแม่ครัวเหรอ...หรือพนักงานคนอื่นล่ะ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี เลยถามออกไปแบบนั้นแก้เก้อ เหมือนจะเขินนิดหน่อย ไม่นึกว่าคนตัวใหญ่มาดแมนคมเข้มแต่งตัวบ้านๆ ดูสภาพไม่น่าจะทำอาหารออกมาได้อร่อยขนาดนี้ แถมยังอร่อยเสียทุกอย่างอีกด้วยแฮะ

          “ผมเป็นพ่อครัวของที่นี่เอง น้องพลอยกับนายทองเป็นเจ้าของโรงแรมรับช่วงต่อจากพ่อแม่มา น้องพลอยเป็นคนบริหารแล้วก็เป็นรีเซฟชั่น ส่วนเจ้าทองเป็นลูกมือผมในครัวแล้วก็เป็นเด็กเสิร์ฟ แล้วก็มีแม่บ้านอีกคนชื่อป้านิ่มคอยดูแลเรื่องห้องพักกับทำอาหารเวลาที่ผมไม่อยู่ ส่วนงานอื่นๆ ก็ช่วยกันทำ ห้องพักก็มีแค่หกห้อง ที่นี่เราบริหารจัดการกันเองแค่สี่คน” นายกฤษตอบยาวพร้อมกับก้มตัวคอยเก็บจานชามว่างเปล่าตรงหน้าผมใส่ถาดแสตนเลสใบใหญ่

          “มานี่...ผมช่วย” ผมรีบหยิบจานเปล่ามาเขี่ยกวาดเศษอาหารที่เหลือกองรวมกันในจานเดียว แล้วซ้อนจานอย่างชำนาญ จัดมุมวางลงถาดของนายกฤษ ให้เก็บได้จนเกลี้ยงโต๊ะ

          “นายดูคล่องดีจังนะ เคยเป็นเด็กเสิร์ฟเหรอ” นายกฤษถามผมพร้อมยกถาดที่เต็มไปด้วยจานชามยกขึ้นอย่างทะมัดมะแมง

          “บ้านผมเปิดเป็นร้านอาหารไทยที่อเมริกา ว่างๆ ผมก็มาช่วยงานที่บ้านเป็นประจำ” ผมตอบแบบไม่ใส่ใจนัก พร้อมจะเอาผ้าผืนเล็กที่นายกฤษดึงออกมาจากกระเป๋าหน้าตรงผ้ากันเปื้อนที่สวมอยู่ เตรียมมาช่วยเช็ดโต๊ะทำความสะอาดให้

          “คุณกรหยกไม่ต้องทำหรอก ตอนนี้คุณเป็นแขก เดี๋ยวผมทำเอง” นายกฤษตอบพร้อมคว้าผ้าผืนเล็กไปจากมือผม เช็ดโต๊ะด้วยมือข้างเดียวจนสะอาดอย่างรวดเร็ว พร้อมยกถาดกลับเข้าไปหลังร้าน

          “โธ่เอ้ย...เมื่อกี้ยังจะไล่ฉันไปพักที่อื่น ทีตอนนี้กลับบอกว่าเป็นแขกของที่นี่” ผมพูดกับตัวเองพร้อมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้รับแขกไม้สัก มองนาฬิกาตรงกลางห้อง โห...นี่จะสี่ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย มิน่ารู้สึกง่วงจังเลย ร่างกายผมมันเรียกร้องอยากจะนอนจนเต็มแก่แล้วล่ะสิ คุณพลอยสวยก็ไม่มาพาผมไปยังที่พักเสียที

          “คุณกรหยกครับ คือ...เอ่อ...น้องพลอยโทรมาบอกว่า พยายามเดินหาห้องพักทุกที่แล้ว แต่ว่า...คืนนี้ห้องพักแถวนี้เต็มทุกที่เลยล่ะครับ” ผมนั่งบ่นกับตัวเองในใจได้สักครู่ คุณทองหล่อก็มายืนทำหน้าละห้อยบอกข่าวร้ายให้ผมฟังเอาป่านนี้ ดีนะที่ได้ทานข้าวไปแล้ว ไม่อย่างนั้นผมคงอารมณ์เสียพิลึก

          เอาละสิ...ดึกดื่นป่านนี้แล้วผมจะไปพักที่ไหนละครับคืนนี้...เฮ้อออ...ให้ผมนอนที่นี่ตรงเก้าอี้ชุดรับแขกตอนนี้เลยก็ได้นะครับ ผมรู้สึกเพลียจนหนังตาผมพร้อมจะปิดอยู่แล้วตอนนี้ ด้วยเวลาที่อเมริกาต่างกับเมืองไทยเยอะพอสมควรอยู่แล้ว แถมตอนเดินทางผมก็แทบไม่ได้นอนเลย นี่ผมมาเมืองไทยแค่วันแรกก็มีเรื่องให้วุ่นวายเสียแล้วสิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 00:02:24 โดย AxCiO@ToToKeN »

totoken

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #5 เมื่อ27-12-2011 01:57:43 »

คุณ
เข้ามารอค่ะ
บาปยังไงอ่า

คุณ iamnan ครับ เรื่องนี้ผมแต่งไว้ค่อยข้างยาวครับ ลองติดตามไปสักพักนะครับ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมตั้งชื่อเรื่องแบบนี้ ^^

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #6 เมื่อ27-12-2011 02:05:12 »

คืนนี้หยกนอนไหนเนี่ย หึหึ  :o8:

อ่าเรื่องนี้มีมาม่าไหมอ่ะคะ...จะได้เตรียมใจ 55+  :กอด1:

 :L2: :L2: :L2: :L2:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #7 เมื่อ27-12-2011 02:07:12 »

คืนนี้หยกนอนไหนเนี่ย หึหึ  :o8:

อ่าเรื่องนี้มีมาม่าไหมอ่ะคะ...จะได้เตรียมใจ 55+  :กอด1:

 :L2: :L2: :L2: :L2:

ช่วงแรกลั้นลาไปก่อน แล้วค่อยกินมาม่า...อร่อยแน่นอนคับ ^^

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 04 “กรหยก”
«ตอบ #8 เมื่อ27-12-2011 04:33:25 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 04 “กรหยก”
หล่อพอดีคำ ไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป กะดูทีไร อ๊ะ...อ้ำเข้าไปพอดีคำ

          “กอดผมไว้ให้มันแน่นๆ หน่อยเดี๋ยวก็ร่วงลงไปหรอก อย่ามาทำเป็นรังเกียจตอนนี้เลยน่า” เสียงตะโกนแข่งกับสายลมแรงที่ปะทะเข้าใบหน้าบอกผมให้กอดเอวคนตรงหน้าเอาไว้ ก็กลัวตกอยู่หรอกนายกฤษเล่นขับมอเตอร์ไซด์เสียเร็วจี๋เชียว ไม่รู้ว่าอยากจะแกล้งผมหรือเปล่า ถึงได้บิดคันเร่งมอเตอร์ไซด์เอาเป็นเอาตายขนาดนี้ ผมเลยจำใจกอดซบคนตรงหน้า เอาใบหน้าแนบลงบนหลังกว้าง ได้กลิ่นเหงื่อของนายกฤษแล้วใจมันหวิวๆ ชอบกล

          หลังจากที่ผมทานข้าวเสร็จคุณทองหล่อก็มาบอกว่าหาห้องพักให้ผมไม่ได้ คุณพลอยสวยก็มายืนทำหน้าเศร้าอยู่ใกล้ๆ อยู่ๆ นายกฤษก็บอกมาว่าให้ไปนอนที่บ้านของเค้าก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน แถมยังบอกว่าตอนเช้าเค้าต้องช่วยยายกับตาไปรองน้ำตาลมะพร้าวมากวนทำน้ำตาลมะพร้าวไว้ขายอีก จะได้ให้ผมดูวิธีการทำน้ำตาลมะพร้าวแบบชาวบ้าน เอามุขนี้มาล่อคนอย่างผม...ชิ...หมั่นไส้ว่ะ

          แล้ว...ผมก็เลยตกลงไปนอนค้างที่บ้านนายกฤษอย่างเสียไม่ได้…แหม...แม้จะไม่ชอบหน้าคนชวน แต่จริงๆ แล้วก็อยากไปดูวิธีการทำน้ำตาลมะพร้าวเหมือนกัน ไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อนเลย ว่ามะพร้าวก็ทำน้ำตาลได้เหมือนกัน ไหนๆ มาเที่ยวเมืองไทยทั้งทีก็มาดูวิถีชาวบ้านด้วยเลยแล้วกัน คิดแบบนี้ผมก็สบายใจ

          “บ้านนายไกลจากตลาดน้ำอัมพวาเหมือนกันนะเนี่ย” ผมบ่นหลังจากลงจากมอเตอร์ไซด์นายกฤษแล้วมายืนรอเจ้าของบ้านอยู่ตรงหน้าบันไดบ้านไม้เรือนไทยแบบบ้านๆ เป็นบ้านยกพื้น ดูแล้วเหมือนในรูปภาพโปสการ์ดที่ขายในตลาดน้ำเลยแฮะ แค่ดูโทรมกว่านิดหน่อย

          “ตากับยายเค้านอนไปแล้ว คนที่นี่เค้านอนเร็วไม่เหมือนคนในตลาด อย่าทำอะไรเสียงดังล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยพานายไปไหว้ตากับยาย คืนนี้พักเอาแรงก่อนแล้วกัน” นายกฤษพูดเสียงไม่ดัง ตอบผมคนละเรื่องกับที่ถามพลางจูงมอเตอร์ไซด์ไปจอดไว้ใต้ถุนบ้าน พร้อมเอาโซ่มาคล้องไว้กับเสาบ้านเรียบร้อยแล้วก็เดินนำผมมาตกน้ำล้างเท้าก่อนขึ้นบันไดบ้านไปยังห้องพัก

          “ที่นี่มีแค่สองห้อง ห้องตากับยายแล้วก็ห้องของผม คุณกรหยกเข้าไปนอนในห้องของผมแล้วกัน” นายกฤษว่าพลางพาผมไปยังห้องนอนของตัวเองพร้อมเปิดประตูและสวิทช์ไฟ แสงสว่างทำให้เห็นภายในห้องนอนที่มีตู้เสื้อผ้าเก่าทำด้วยไม้หลังไม่ใหญ่มากเหมือนใช้แค่คนเดียว ติดกันมีตู้หนังสือไม้อัดค่อนข้างผุข้างในตู้มีแต่หนังสือเรียนเก่าๆ กับตำราอาหารเยอะแยะไปหมดแทบจะเต็มตู้ ข้างประตูห้องนอนมีโต๊ะลักษณะเหมือนโต๊ะหนังสือทำด้วยไม้เก่าๆ กับเก้าอี้ไม้เข้าชุด มุมห้องมีฟูกขนาดใหญ่พอสมควร พร้อมหมอนมุ้งและผ้าห่มพับอยู่เป็นระเบียบ

          “ถ้าให้ผมนอนห้องนาย แล้วนายจะไปนอนที่ไหนเหรอ” ผมเอ่ยปากถามขณะที่นายกฤษกำลังจัดแจงปูที่นอนและกางมุ้งภายในห้อง

          “ผมจะไปนอนข้างนอก ตรงกลางบ้านที่เดินผ่านมาเมื้อกี้นั่นล่ะ” นายกฤษตอบโดยที่ยังจัดที่หลับที่นอนให้ผมไปด้วย

          “ทำไมไม่นอนด้วยกันในห้องล่ะ นอนข้างนอกยุงกัดตายเลย ผมเกรงใจนะ มาทำให้นายลำบากแบบนี้” เกิดอาการกระอักกระอวลขึ้นมาทันที ในเมื่อมาแย่งที่หลับที่นอนคนอื่นเค้าแล้วยังต้องให้เจ้าของห้องนอนไปนอนตากยุงข้างนอกอีก

          “จะเกรงใจผมทำไม เมื่อกี้ยังโวยวายจะหาที่นอนให้ได้อยู่เลยนี่ ผมทำให้คุณไม่มีที่พักผมก็ต้องรับผิดชอบเอง” นายกฤษหยุดมือหันมามองผมแล้วยิ้มที่มุมปาก หัวเราะหึหึในลำคอน่าหมั่นไส้มาก แต่ยังไงก็เกรงใจอยู่ล่ะ ช่างมัน...ยอมๆ ไปก่อน

          “ถ้าอย่างนั้นให้ผมออกไปนอนข้างนอกเองดีกว่า ยังไงนี่ก็ห้องนอนของนาย พรุ่งนี้นายต้องทำงานหนักแต่เช้าอีกไม่ใช่หรือไง” ผมตอบแบบไม่อยากทะเลาะด้วย แล้วก็รู้สึกไม่ดีที่มาเอาเปรียบเจ้าของบ้านแบบนี้

          “ผมว่าเราไปอาบน้ำกันก่อน แล้วนอนด้วยกันในห้องนี้ก็แล้วกัน เบียดๆ กันหน่อยแล้วกันนะ คุณจะอาบน้ำรึปล่าว ถ้าจะอาบก็รีบตามผมมา” นายกฤษกางมุ้งเสร็จพอดี หันมาถามผมพร้อมถอดเสื้อแล้วก็เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าลายสก็อตตาใหญ่ๆ ที่ผมเคยอ่านเจอในอินเตอร์เน็ตเลยรู้ว่ามันเรียก “ผ้าขาวม้า” ผ้าผืนบางสีน้ำเงิน ขนาดเท่าผ้าขนหนู นายกฤษนำมานุ่งแล้วก็ล้วงมือสอดเข้าไปใต้ผ้าถอดกางเกงขาสั้นพร้อมกางเกงในออกมาเลยทีเดียว นายคนนี้มันหุ่นดีเป็นบ้า ตัวก็สูงขาก็ยาวหน้าอกนูนเป็นลูกหน้าท้องเป็นลอนลูกระนาด แพลบเดียวก็นายกฤษก็อยู่ในสภาพนุ่งผ้าข้าวม้าผืนเดียวพร้อมถือขันน้ำที่มีกล่องสบู่ แปรงสีฟันยาสีฟัน และแชมพูอยู่ในนั้น

          “เฮ้ย...รอด้วยสิ” เผลอมองเพลินไปหน่อ...อายว่ะ ผมรีบหยิบอุปกรณ์ มีผ้าขนหนู ครีมอาบน้ำ โฟมล้างหน้า ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ออกจากกระเป๋าเป้แล้วรีบเดินตามนายกฤษออกนอนห้องไปข้างล่าง พอเห็นหุ่นนายกฤษ ผมก็ไม่กล้าที่จะถอดเสื้อผ้าตอนนี้หรอก หุ่นผมออกจะผอมเพรียวแถมเพิ่งกินอิ่มๆ ติดออกจะมีพุงกะทิน้อยๆ ด้วยซ้ำ...อายจัง

          ตอนเดินขึ้นบ้านนายกฤษมาผมไม่เห็นห้องน้ำอยู่บนบ้าน ก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องไปอาบน้ำกันตรงไหน สงสัยจะอยู่ข้างล่าง บรรยากาศแถวนี้ช่างเงียบสงัดนองเสียจากมีแต่เสียงแมลงร้องกันระงม แถมตอนขับรถเข้ามาสองข้างทางก็มืดมากมีแต่ต้นไม้ นานๆ ทีจะเห็นแสงไฟจากบ้านเรือนของคนแถวนี้สักหลัง บรรยากาศแบบนี้ทำให้ผมค่อนข้างกลัวอยู่เหมือนกัน

          “ไปอาบน้ำกันตรงไหนเหรอ เดินไปอีกไกลหรือเปล่า” ผมรีบเดินตามไม่ห่างจากตัวนายกฤษออกมาทางหลังบ้าน

          “ที่อาบน้ำอยู่ลานหลังบ้าน ติดกับห้องส้วมตรงริมคลอง ที่นี่มีน้ำประปาให้ใช้ ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องลงไปอาบในคลองหรอกนะ” นายกฤษหันมาบอกพร้อมรอยยิ้ม หมอนี่เวลายิ้มก็หล่อน่ามองดีเหมือนกันนะ ตอนอยู่ที่โรงแรมไม่ทันได้สังเกตเพราะมัวแต่อารมณ์เสียอยู่

          “ถึงแล้ว...คุณจะเข้าไปอาบในห้องส้วมหรืออาบพร้อมผมตรงนี้ล่ะ” เดินลงมาจากบ้านอ้อมมาทางด้านหลังไม่ไกล ผมมองสภาพลานอาบน้ำที่ทำด้วยพื้นปูนเป็นสี่เหลี่ยมไม่กว้างมาก สภาพยังกะค่ายทหาร มีแท็งก์น้ำทำด้วยปูนทรงกระบอกเป็นบ่อสูงถึงหน้าอก บนปากบ่อมีท่อน้ำสีฟ้าพร้อมก๊อกน้ำสีทองเหลืองฝาเกลียวยื่นออกมาเพื่อปล่อยน้ำลงแท็งก์ ติดกันเป็นห้องน้ำปูนหลังคาสังกะสี ภายในห้องน้ำมีโอ่งน้ำเตี้ยๆ กับส้วมซึมแบบนั่งยอง ประตูส้วมเป็นไม้ผุๆ ด้านหลังเป็นคลองมีต้นไม้รายล้อม ยังดีที่มีแสงไฟสีส้มติดโคมห้อยอยู่กับต้นมะพร้าวเหนือลานอาบน้ำ และยังมีไฟนีออนภายในห้องน้ำอีกดวง

          “นายอาบยังไงล่ะ” ผมถามพร้อมมองนายกฤษที่เดินยิ้มไปเปิดน้ำใส่แท็งก์ แล้วก็หยิบอุปกรณ์อาบน้ำจากขันออกมาวางไว้ข้างตัวแล้วใช้ขันตักน้ำในแท็งก์ราดตัวและหัวอย่างรวดเร็ว นายกฤษไม่พูดไม่จาหยิบแชมพูมาสระผมจนเป็นฟองฟอด ต่อจากนั้นเอาสบู่มาถูไปตามลำตัวตัวอย่างคล่องแคล่ว แสงไฟสีส้มกระทบร่างกายของชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงใหญ่ยังกะนายแบบหุ่นดี สายน้ำทำให้ผ้าขาวม้าผืนบางที่นุ่งอยู่เปียกลู่แนบไปกับลำตัวจนเห็นส่วนโค้งของสะโพกกลมมนเป็นรูปเป็นร่าง ยังดีนะที่เจ้าตัวหันหลังให้ผมอยู่ แล้วด้านหน้าจะเห็นชัดขนาดไหนละเนี่ย คิดจินตนาการพลางกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

          “ฮ่าๆๆ เจอสภาพลูกทุ่งเข้าหน่อยทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชียวนะ คุณไม่รีบอาบเหรอ ไหนบอกว่าง่วงนอนไง” นายกฤษหันมามองผมพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ผมอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ส่วนนูนเด่นตรงกลางลำตัวเมื่อผ้าผืนบางเปียกชุ่มไปด้วยน้ำทำให้ผ้ามันทิ้งน้ำหนักตัวแนบเนื้อจนเห็นอะไรแกว่งไกวชัดเจนซะขนาดนั้น

          “นี่นายแก้ผ้าอาบน้ำกันกลางแจ้งอย่างนี้ประจำเลยเหรอ” ผมถามแก้เขิน ถึงผมจะรู้ตัวว่าจิตใจนั้นเอนเอียงไปทางชอบผู้ชาย และเคยแก้ผ้าอาบน้ำกับเพื่อนฝรั่งมาหลายคนหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยที่จะมีครั้งไหนที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นเท่ากับยืนมองนายคนนี้นุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำอยู่ตรงหน้าได้แบบนี้เลย หน้าผมเริ่มร้อนผะผ่าว รู้สึกได้เลยว่าหัวใจของผมเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอกเลยเชียว ดีนะที่ตอนนี้ค่อนข้างมืด ไม่งั้นนายกฤษต้องเห็นว่าผมกำลังหน้าแดงเป็นลูกแอปเปิ้ลสุกแน่ๆ

          “ผมแก้ผ้าตรงไหน นี่ก็นุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำประจำ ชาวบ้านแถวนี้เค้าก็อาบน้ำกันแบบนี้ล่ะ นายมาจากอเมริกาไม่ใช่เหรอ เคยได้ยินว่าพวกฝรั่งแก้ผ้าอาบน้ำกันโทงๆ เป็นเรื่องปกติ แหม...ทำมาเป็นตกใจกับคนไทยนุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำไปได้ หรือจะต้องให้แก้ผ้าขาวม้าออกนายจะได้ชิน ผมเคยแก้ผ้าอาบน้ำมาแล้วตอนไปเป็นทหาร ผมไม่อายหรอกนะ” นายกฤษพูดพร้อมทำท่าจะแก้ปมผ้าขาวม้าที่นุ่งอยู่ออกจริงๆ ผมมองคนตรงหน้าเอามือกำขยับปมที่ขมวดไว้ใต้สะดือตรงกลางลำตัว...ผมต้องร้องแว๊ก...เพราะตกใจสุดขีด ใจผมหายวาบแทบจะหลุดทะลุออกมากับท่าทีเอาจริงของหมอนี่...หัวใจจะวาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 00:04:18 โดย AxCiO@ToToKeN »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #9 เมื่อ27-12-2011 04:39:43 »

หวายชื่อเรื่องมันก็มาม่าแหละ ไม่อยากกินเลยมาม่าอ่ะ  กินจะเป็นโรคไตแล้วอ่ะ ฮิฮิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
« ตอบ #9 เมื่อ: 27-12-2011 04:39:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 05 “กรหยก”
«ตอบ #10 เมื่อ27-12-2011 05:25:07 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 05 “กรหยก”
จะข่มตาให้นอนเท่าไรก็ยังคงตื่น ตื่นด้วยความรัก ความรักที่มีมันล้นอยู่ในใจ

          “ไอบ้า...ไม่ต้องแก้ผ้าออกมาเลยนะ...ไม่อยากดูโว้ย...” ผมรีบโวยวายกลบเกลื่อนความเขินอาย ไม่รู้หมอนี่มันจะจับได้หรือเปล่าว่าผมกำลังตื่นเต้นกับการกระทำของเค้า ผมรีบหันมาถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก ผมสวมเสื้อแขนยาวกับกางเกงยีนส์มาด้วยทำให้ใช้เวลาถอดพอสมควร ผมถอดจนเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว แล้วก็เดินเข้าไปหยิบขันน้ำของนายกฤษที่ตักวางไว้บนขอบบ่อแล้วยืนแปรงฟันอยู่ เอามาราดน้ำใส่ตัวเองพร้อมลงมืออาบน้ำให้ตัวเองบ้าง

          “คุณกรหยกนี่ผิวขาวยังกับฝรั่ง ไปอยู่มืองนอกมากี่ปีกันเนี่ย” นายกฤษจ้องมองผมไปทั้งร่าง เขินนะเว้ย...อย่าจ้องนาน ไม่อยากจะคิดเยอะ สายตาคนถามไม่ได้สื่ออะไรทำนองโลมเลียหรือทางชู้สาวกับผมเลย แต่ผมดันคิดลึกไปเอง...เซ็ง

          “ก็ไปอยู่ที่โน่นตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะ เข้าเนิสเซอรี่อนุบาลที่โน่นเลยจนเรียนจบมหาลัยน่ะ ก็หลายปีอยู่” ผมตอบพร้อมรีบลงมืออาบน้ำเพราะอากาศเริ่มจะเย็น ยังดีที่น้ำในบ่อค่อนข้างอุ่น เหมือนถูกต้มด้วยการตากแดดมาทั้งวัน ตอนนี้เลยยังอุ่นๆ อยู่เพราะมีน้ำประปาจากในก๊อกสีทองเหลืองเติมผสมลงไป

          “โอ้โห...ผมว่าคุณไม่เหมือนไปอยู่มาทั้งชีวิตเลยนะ คุณพูดภาษาไทยชัดมากแถมยังไม่มีความเป็นเด็กนอกอยู่เลย ผมเห็นบางคนไปอยู่อเมริกาไม่ถึงปีก็พูดภาษาไทยไม่ชัดเสียแล้ว” ผมเริ่มงง...มองหน้าคนพูดด้วยความไม่แน่ใจว่าไม่รู้เจ้านี่มันจิกกัดอะไรผมหรือเปล่า หรือเค้าจะไม่รู้จริงๆ ว่าไอ้พวกที่ไปอยู่หรือไปเรียนที่เมืองนอกไม่ถึงปีแล้วกลับมาพูดภาษาไทยไม่ชัดนั้นมันพวกกระแดะ

          “ที่บ้านผมเค้าสอนให้พูดหรือใช้ภาษาไทยตั้งแต่เด็กๆ เวลาไปโรงเรียนก็พูดภาษาอังกฤษ พอกลับบ้านเราก็คุยกันเป็นภาษาไทยตลอด” ผมตอบตามความจริง หมอนั่นพยักหน้าทำเหมือนเข้าใจ แล้วผมก็เริ่มสงสัยว่าทำไมเจ้านี่มันไม่ยอมอาบน้ำต่อ กลับยืนมองผมเอาจ้องผมเอาอยู่อย่างนี้ มันอึดอัดพิกลแฮะ

          “นี่...นายทำไมไม่รีบอาบน้ำเข้าล่ะ มายืนมองผมอาบทำไม” ขนาดว่าแล้ว หมอนี่มันยังจ้องผมอยู่เลย

          “ก็คุณกรหยกขาวจั๊วะไปทั้งตัวขนาดนี้ น่ามองชะมัด ผมเลยมองเพลินไปหน่อย ผมว่าผู้หญิงแถวนี้เห็นผิวคุณยังอายไปเลยนะ” ไอ้บ้านี่มันตอบแบบไม่สะทกสะท้าน แต่ทำเอาผมเขินจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนอ้าปากหวออยู่อย่างนี้

          “ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นน่า ก็คุณเอาขันน้ำผมไปอาบแล้วผมจะอาบยังไงล่ะ นี่ก็ยืนรอขันจาดคุณจนสบู่แห้งหมดแล้วเนี่ย” เวรกรรม...ผมรีบเอาขันน้ำที่บ้วนปากเสร็จหลังจากแปรงฟัน ปาเข้าไปในบ่อให้น้ำกระเด็นใส่หน้าคืนคนข้างๆ ไป ไอ้ทะลึ่งนี่มันแกล้งผมเหรอเนี่ย ใจผมเต้นรัวไปหมด แล้วไป...นึกว่าเค้าพูดจริง...เสียดาย เฮ้ย...แล้วยังจะคิดว่าเค้าพูดจริงได้อีก โธ่...ท่าทางผมจะไม่ไหวกับไอ้คนข้างๆ นี่ซะแล้ว ผมกำลังสงสัยตัวเองว่าแอบชอบเค้าหรือเปล่าเนี่ย หรือแค่เพราะเค้าหล่อ...หรือแค่หุ่นดี...หรือแค่เค้าดูแข็งแรงมาดแมนสมชาย ว๊าก...หยุดคิดเดี๋ยวนี้เลยนะ ผมต้องรีบสั่งห้ามความคิดตัวเอง

          “เฮ้ย...เป็นอะไร แค่นี้ทำคุณโกรธผมเหรอ ทำไมยืนเงียบเชียว...ผมขอโทษ...แค่ผมชมว่าผิวสวยกว่าผู้หญิงแค่นี้เอง” เจ้านี่มันทำหน้าสำนึกผิดขึ้นมา คงนึกว่าผมโกรธเข้าให้ แต่จริงๆ แล้วกำลังสับสนกับตัวเองต่างหาก สงสัยจะชอบเค้าเข้าให้แล้ว

          “แล้วนายดีใจรึไงเวลามีผู้ชายมาชมนายน่ะ” ผมแกล้งตอบแบบเหวี่ยงๆ กลบเกลื่อนความเขินคืนไป

          “ก็มีบ่อยออก ลูกค้าชอบชมว่าผมหล่อมั่งล่ะ...หุ่นดีมั่งล่ะ...สูงดีมั่งล่ะ...ยังกะนายแบบอะไรมั่งล่ะโดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นเกย์ ผมได้ยินออกบ่อย...แต่ชินแล้ว” นายกฤษเค้าตอบได้ปกติมาก เหมือนเค้าไม่รู้สึกอะไรเลย สงสัยจะได้ยินคนชมบ่อยจริงๆ ก็เค้าหล่อจริงๆ นี่นา แต่ผมหมั่นไส้ว่ะ

          “โธ่...พวกหลงตัวเอง” ผมรีบหยิบผ้าขนหนูมาพันกายแล้วถอดกางเกงบ็อกเซอร์ออกบิดน้ำสะบัดพร้อมเก็บอุปกรณ์อาบน้ำเดินหนีเค้าขึ้นบ้านไป

          “อ้าว...เฮ้ย...คนอื่นบอกมาเว้ย...ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะโว้ย...คุณ” เค้ายังร้องบอกผมอีก เออ...กูรู้แล้วมึงมันหล่อลากลำไส้ใหญ่ ผมหันหลับมามองนายกฤษที่กำลังเอามือสองข้างบิดน้ำออกจากชายผ้าขาวม้า แล้วหยิบอุปกรณ์รีบเดินตามผมมาอย่างรวดเร็ว ส่วนตรงเป้าตรงกลางลำตัวมันยังแกว่งไกวตามจังหวะการเดินอย่างรีบร้อน ทำเอาให้หน้าผมร้อนผ่าวขึ้นมาอีก ต้องรีบเดินหนีเข้าบ้าน อย่าไปมอง...อย่าไปมอง ฮึ่ยยย...ต้องบังคับตัวเองไว้ให้ได้

          “นายมีไดรเป่าผมมั้ย” ผมถามพร้อมมองนายกฤษกำลังสวมกางเกงฟุตบอลตัวเดียวไม่สวมเสื้อ ท่าทางเหมือนจะนอนสวมแค่กางเกงตัวลื่นบางตัวนี้ตัวเดียวแฮะ แล้วเอาผ้าขาวม้าเปียกไปสะบัดตากที่ราวไม้ข้างนอก จากนั้นเอาผ้าขาวม้าอีกผืนที่แห้งออกมาจากตู้เสื้อผ้าเช็ดตามลำตัวแล้วก็ผมที่เปียกอยู่

          “บ้านผมไม่มีของสิ้นเปลืองพวกนั้นหรอก ใช้ผ้าเช็ดเอาน่ะ” นายกฤษตอบพร้อมสะบัดผ้าขาวม้าอีกผืนตากไว้ด้วยกันกับผืนแรก

          “ช่างบ้านนอกดีจริงๆ เลย...” ผมบ่นพร้อมเอาชุดนอนที่เป็นแบบเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวเข้าชุดกันมาสวม แล้วเอาผ้าขนหนูพยายามเช็ดเส้นผมเปียกชื้นที่สไลด์ยาวปรกหน้าปรกคอ กว่าจะแห้งก็คงหายง่วงพอดี รู้สึกว่าพอได้อาบน้ำแล้วสดชื่นจนหายเพลียไปเลย

          “จะไว้ผมยาวทำไมกัน ดูแลลำบาก ตัดสั้นแบบผมนี่สิ เช็ดแป็บเดียวก็แห้งแล้ว” นายกฤษพูดพลางเอามือลูบหัวตัวเอง ทรงผมรองทรงสั้นยังกะทหาร ไม่ทันสมัยเอาซะเลยดูๆ ไปหน้าตานายกฤษถ้าไว้ทรงผมสมัยนิยมเข้าหน่อยคงจะหล่อขึ้นน่าดูกว่านี้อีก นี่ถ้าจับแต่งตัวดีๆ เข้าก็ไปเป็นดาราได้สบายเลยนะเนี่ย

          “คุณจะนอนรึยัง พรุ่งนี้ผมต้องตื่นแต่เช้านะ คนที่นี่เค้าตื่นเช้ากันทั้งนั้น” กำลังมองเพลินก็โดนถามให้ปลุกจากภวังค์

          “แล้วนายตื่นกี่โมงล่ะ” ผมถามกลับทันที

          “ตีห้า มาช่วยยายเตรียมของใส่บาตร พระท่านจะพายเรือมาบิณฑบาตทุกเช้าที่คลองหลังบ้านนี่ล่ะ นายอยากใส่บาตรหรือเปล่า ผมจะได้ทำของใส่บาตรเผื่อไว้ให้ รู้จักไหมการทำบุญใส่บาตรพระตอนเช้าๆ น่ะ” มันถามเหมือนผมไม่ใช่คนไทย

          “รู้จักว้อย...พรุ่งนี้นายปลุกด้วยแล้วกัน ผมจะได้ไปใส่บาตรด้วย อยากทำบุญเหมือนกัน” ผมตอบไปแบบรำคาญ คุยกันนานสองนานทำให้รู้ว่าเจ้านี่จิตใจมันดี แต่ว่าปากมันไม่ค่อยดีเท่าไร

          นายกฤษเดินไปปิดไฟแล้วล้มตัวลงบนที่นอนข้างตัวผม ที่นอนขนาดพอดีตัวเราสองคนจนแทบขยับไม่ได้ กลิ่นสบู่หอมๆ จากกายคนที่นอนอยู่ข้างๆ กับผิวหนังเปลือยเปล่าช่วงบน โดยเฉพาะตรงลำแขนแข็งแรงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อเสียดสีกับตัวผมทำให้ผมตื่นเต้นพอสมควร เค้าให้ผมนอนหนุนหมอน ส่วนเค้าเอาผ้าในตู้เสื้อผ้าตัวเองมาซ้อนกันทำเป็นหมอนรองหัว อากาศข้างนอกไม่ได้เย็นอะไรมากจึงไม่มีใครห่มผ้า แถมผิวกายร้อนผ่าวๆ ที่สัมผัสกันอย่างบังเอิญยังทำให้รู้สึกถึงไออุ่น จนเกือบจะร้อนรุ่มเลยทีเดียว

          ผมรู้สึกเตลิดไปไกลแล้ว แต่คนข้างกายกลับเงียบสนิท นอนนิ่งไม่ไหวติง เผลอแป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่แรงขึ้นดังสม่ำเสมอเหมือนจะหลับไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนผมทั้งที่วันนี้เหนื่อยกับการเดินทางมาพอสมควร กลับนอนไม่หลับด้วยหลายประการทั้งแปลกที่ทั้งเหตุการณ์ต่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ และทั้งตัวคนที่นอนอยู่ข้างกายผมในตอนนี้อีก

          เวลาผ่านไปนานแค่ไหนผมไม่รู้ ผมได้แต่ข่มใจนอนฟังเสียงแมลงร้องกันระงมก็เริ่มเพลินจนเกือบจะหลับอยู่ดีๆ คนที่นอนข้างตัวผมกลับพลิกตะแคงตัวหันมาทางผม พร้อมเอาหัวซุกอยุ๋ตรงซอกคอของผมริมฝีปากของนายกฤษนาบอยู่ตรงลำคอของผมพอดี จมูกโด่งของเค้าก็พ่นลมหายใจอุ่นๆ อย่างสม่ำเสมอใส่รูหูผมให้ขนลุกเล่น ที่แย่กว่านั้นเจ้าตัวเอาแขนมาพาดกอดผมแล้วยังเอาขาก่ายขึ้นมาวางบนตัวผมอีก เอาละสิ...จะหลับอยู่แล้วเชียว ไอ้นี่ดันมายั่วทำให้ผมตื่นทั้งตัวซะอีก ตัวตื่นไม่พอ ไอ้ลูกชายข้างล่างพลอยจะตื่นตัวตามมาอีกด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 00:05:57 โดย AxCiO@ToToKeN »

totoken

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #11 เมื่อ27-12-2011 05:25:53 »

หวายชื่อเรื่องมันก็มาม่าแหละ ไม่อยากกินเลยมาม่าอ่ะ  กินจะเป็นโรคไตแล้วอ่ะ ฮิฮิ

ไตหาหัวจามอ่ะเป่าาา 555

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #12 เมื่อ27-12-2011 06:05:10 »

โอ้เรื่องใหม่ น่าสนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #13 เมื่อ27-12-2011 12:02:43 »

น่าติดตามอีกหนึ่งเรื่อง เป็นกำลังใจให้ครับ  :pig4:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #14 เมื่อ27-12-2011 13:03:44 »

เอ้ยยยยยิ่งอ่านยิ่งติด แอบกลัวมาม่าอ่ะแต่ก็จะอ่านต่อค่ะ

 :กอด1:

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #15 เมื่อ27-12-2011 14:07:10 »

-0-
อะไรก้านนนนนนนนน

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #16 เมื่อ27-12-2011 15:58:29 »

มาม่าอย่ามากนะ :z3:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #17 เมื่อ27-12-2011 16:04:59 »

มารออีก อิอิ ไม่น่ามีมาม่าเลยเนอะ กำลังนึกว่าว่ามันจะบาปยังไงหนอ แต่ถ้ามาม่า แล้วจบแฮปปี้ก็ค่อยยังโล่งใจไปหนึ่งเปราะ

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #18 เมื่อ27-12-2011 16:32:11 »

อ่า...เอามาม่าน้อยๆแล้วกันนะ

ที่บ้านตุนไว้ตอนน้ำท่วม...มีเยอะแล้วไม่อยากได้เพิ่ม  :laugh:

 :L2: :L2: :L2: :L2:

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #19 เมื่อ27-12-2011 16:43:22 »

มาให้กำลังใจเรื่องใหม่คร๊าาาา ว๊ายๆๆๆๆ คุณหยกหลงหนุ่มไทยซะแล้ว

กฤษอายุน้อยกว่าคุณหยกรึเปล่าคะ ถ้าใช่ละก็ อ๊ากกกกกกกกกกกก กินเด็ก ชอบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
« ตอบ #19 เมื่อ: 27-12-2011 16:43:22 »





totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 06 “กรหยก”
«ตอบ #20 เมื่อ27-12-2011 16:47:17 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 06 “กรหยก”
ทำใจผมเสร็จอีกแล้ว เธอทำผมเสร็จอีกแล้วไม่รู้เป็นยังไง

          ผมกำลังจะหลับไป ก็มีสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อนายกฤษมันเอาขามาพาดตรงหน้าขาผมพอดีแก่นกายความเป็นของชายผมก็เลยค่อยพองตัวขึ้นมา แรงกระตุ้นมันมีมากมายอยู่แล้วจากเมื่อตอนที่อาบน้ำด้วยกัน นี่ขนาดผมทั้งเหนื่อยทั้งเพลียนะยังจะมีอารมณ์หื่นมากมายขนาดนี้ได้อีก ผมด่าตัวเองในใจ ใช่ว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์ ตอนอยู่อเมริกาก็พอมีมาบ้าง แต่ยังไม่เคยถึงขึ้นลึกซึ้งสอดใส่ แค่ช่วยกันภายนอกมาตลอด และที่สำคัญ อย่าว่าแต่ไม่เคยมีอะไรกับคนไทยด้วยกัน ผมยังไม่เคยมีอะไรกับคนเอเชียด้วยกันเลย

          ที่ผ่านมาผมเคยมีประสบการณ์กับเพื่อนร่วมคลาสสมัยเรียนมาวิทยาลัยเค้าเป็นคนอเมริกัน ตอนนั้นเราว่ายน้ำกันเสร็จในยิม แล้วกางเกงใส่กางเกงว่ายน้ำเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำรวม เพื่อนผมคนนี้ชอบแอบมองผมบ่อยๆ วันนั้นผมได้เห็นรูปร่างเค้าเต็มตัวตอนเรากำลังอาบน้ำใต้ฝักบัวกันเพียงสองคน ทำให้ผมยิ่งรู้สึกสนใจในเป้าที่นูนเด่นของเขามากยิ่งขึ้นเพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์กับใครมาก่อน และแอบลอบมองเป้าเขาบ่อยๆ จนเหมือนเขาจะรู้ตัว

          พอผมอาบน้ำเสร็จกำลังจะเดินออกไปเค้าก็ดึงแขนผมไว้ แล้วชวนผมให้เดินเข้าไปในห้องส้วมแล้วปิดประตู เค้าทำให้ผมตื่นเต้นมากขึ้นด้วยการผลักผมนั่งฝนฝาชักโครกแล้วเอามือลูบไล้ไปตามตัวและเป้ากางเกงของตัวเอง เค้าสอนให้ผมรู้จักการใช้ปาก และต่อจากนั้นผมก็พอที่จะมีประสบการณ์สะสมมาบ้างกับเพื่อนชายเพียงสองถึงสามคน แต่ไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นและมีอารมณ์หื่นกระหายเท่ากับที่มีต่อนายกฤษคนนี้

          ผมนอนเกร็งตัวอยู่สักพัก นายกฤษก็เอาขาออกแล้วนอนตามปกติ แต่ตอนนี้ผมทนไม่ไหวเข้าแล้ว คิดว่ามันยังทะลึ่งใส่เราได้เมื่อตอนอาบน้ำด้วยกัน คิดดังนั้นมือผมก็เริ่มงาน ผมหันตัวตะแคงเข้าหานายกฤษ ใช้ฝ่ามือไปพาดสัมผัสไปตรงบริเวณหน้าท้องอันอุดมไปด้วยกล้ามนูนเป็นลูกระนาดของนายกฤษ โดยที่พาดค้างไว้ประมาณเกือบสิบนาที ทำประมาณว่าดูเชิงคนที่นอนหลับอยู่

แล้วผมก็ค่อยๆ ขยับเลื่อนฝ่ามือลูบไล้ผ่านสะดือจนถึงบริเวณขอบกางเกงบอลขาสั้นเนื้อลื่นบางของนายกฤษ ผมเลื้อยฝ่ามือสัมผัสผ่านกางเกงขวางกั้นลงไปถึงขาอ่อนโดยที่พยายามเอามือไปแตะโดนส่วนนูนเด่นตรงกลางที่ยังอ่อนนุ่มของกฤษอย่างเบามือที่สุด ผมเริ่มรู้สึกว่าส่วนนั้นเริ่มมีปฏิกิริยากับฝ่ามือผม

          เกินคาดแผนนี้นายกฤษคงเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับผมในฝันของเค้าอยู่เหมือนกัน แม้ภายในมุ้งจะมืดมากแต่ผมก็พอจะสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงรางๆ ว่าส่วนอ่อนไหวเริ่มแข็งจนเป็นลำยาวตุงโด่งจนแทบจะทะลุกางเกงอยู่แล้วเหมือนจะเต้นกระตุบๆ เป็นจังหวะเบาๆ ไปด้วย ผมตื่นเต้นมากจนเริ่มลืมตัวก็เลยเอามือไปกำโดนท่อนแข็งนั้นจังๆ อย่างที่คาดเดาเอาไว้จริงๆ ผมกำไว้ได้เกือบจะไม่รอบวง ผมรู้สึกได้เลยว่าแท่งนั้นมันแข็งและร้อนผ่าวอยู่ในฝ่ามือผม แม้จะมีกางเกงผืนบางเรียบลื่นเป็นมันขวางกั้นอยู่

          ผมอดใจไม่อยู่จึงเริ่มนวดเบาๆ จนเริ่มได้ยินเสียงลมหายใจของนายกฤษผ่อนออกมาแรงขึ้น แล้วทันใดนั้นมือของนายกฤษที่นอนหลับอยู่ก็มาจับมือผมเอาไว้อีกที ผมใจหายวาบแต่ยังเอามือออกไม่ได้ นายกฤษก็ยังไม่ขยับมืออกเช่นกัน ผมได้ยินแต่เสียงลมหายใจที่ค่อนข้างแรงของเจ้าตัว และเสียงหัวใจที่เต้นรุนแรงของผม

          “ตื่นนานแล้วเหรอ” ผมถามออกไปแก้เขินเมื่อเห็นว่าเราค้างอยู่นานพอสมควร เขานิ่งไม่ตอบผมแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือที่กุมมือผมออก ผมแอบอมยิ้มในใจคิดว่าเจ้าตัวคงมีอารมณ์ร่วมกับผมแม้จะตื่นแล้ว ผมไม่เคยลักหลับใครมาก่อนแต่อยากสัมผัสสัดส่วนของเขาโดยเร็ว แต่คิดอีกที...ยังหรอกเดี๋ยวไก่ตื่น มือผมก็นวดสัมผัสไปตามแท่งยักษ์อย่างต่อเนื่อง เขาเผยอปากผ่อนคลายอารมณ์ เสียงครางดังออกมาเบาๆ จากในลำคอ

ตอนนี้ผมนี่แข็งไปทั้งตัวทั้งลำน้อยเลยครับ เพราะนอกจากจะได้ยินเสียงครางของเค้าแล้วผมยังมองเห็นใบหน้าของกฤษจากด้านข้างบริเวณจอนและแก้มที่เนียนเรียบ แม้ผิวค่อนข้างคล้ำแดดแต่ก็รูปหล่อน่าดูเหมือนกัน

          “คุ...คุณ...เอ่อ...ใช้ปากแทนได้ไหม” ผมแทบจะตอบกฤษทันทีเลยว่าได้เหอะ แต่ผมไม่ได้ตอบกลับสอดมือเข้าไปในกางเกงอย่างรวดเร็วแล้วจับหับเข้ากลางลำแกร่งจนเจ้าตัวสะดุ้ง จากนั้นผมก็นำสิ่งที่ผมต้องการออกมาจากกางเกงคนที่นอนอยู่ข้างๆ แล้วก้มหน้าลงไปใช้ปลายลิ้นเลียสัมผัสลงตรงความบานใหญ่สีชมพูเข้มที่เริ่มมีความชุ่มชื้นซึมออกมาจากส่วนปลาย จากนั้นผมก็ครอบริมฝีปากลงไปจนคนข้างล่างเกร็งตัวงอ ร้องโอ้กเบาๆ พร้อมกับออกแรงดูดอมอย่างเอร็ดอร่อย เสียงครวญครางของกฤษดังออกมาเบาๆ ให้ผมรู้สึกพอใจกับอาการบิดตัวเกร็งไปมา

          “อ๊ะ...อา...อื้ออ...เสียวจัง” คนข้างล่างร้องออกมาทันทีที่รู้สึกถึงความอุ่นร้อนจากลินและริมฝีปากของผมที่ครอบลงมาแทนฝ่ามือที่ดึงรั้งส่วนหนังเข้าออก ตอนนี้ทั้งความอาย ความอยาก ความรู้สึกดี และความกลัวปะปนถาถมกันไปหมด ผมใช้สัมผัสจากภายในปากกระชับเร่งเร้าจนคนตรงหน้าดิ้นไปมาแทบขาดใจ มืออีกข้างคอยกระตุ้นที่เม็ดสีชมพูตรงยอดอกข้างขวาที่เต่งตึงจนร่างกายคนข้างล่างบิดไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ด้วยความเสียวกระสัน ฝ่ามือของเขาทั้งสองข้างที่ลูบไล้อยู่บนหัวผมพยายามดันหน้าผมออกทันทีที่ผมสัมผัสได้ว่านายกฤษใกล้ถึงจุดทะลัก

          “ระ...ระวัง...หยะ...หยุด...ผมจะไม่ไหวแล้วนะ...อ๊ะ...อ๊า...” ผมขืนตัวไว้รองรับของเหลวอุ่นร้อนที่เหมือนกักเก็บเอาไว้มานาน มันถูกปลดปล่อยออกมาอย่างมากมาย จนล้นทะลักออกมาจากปากของผมแม้จะพยายามรองรับไว้ด้วยปากทั้งหมดก็ตาม ทันทีที่ทุกอย่างหยุดลง ผมได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจหนักๆ ของนายกฤษ ผมมองอกหนากระเพื่อมขึ้นลงอย่างหนักหน่วง

          ผมจัดการทำความสะอาดให้กฤษด้วยลิ้นตัวเองจนเสร็จ ก็ลุกออกไปจากมุ้งเปิดกระเป๋าเป้หยิบน้ำยาบ้านปากออกมา เดินไปบ้วนปากทางหน้าต่างนอกห้องนอน ตอนนี้ผมรู้สึกกระอักกระอวลในใจแทนอารมณ์หวามไหวเมื่อครู่อย่างหมดสิ้น ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี และรู้สึกเหมือนคนที่นอนอยู่กลางห้องกำลังมองตามผมทุกอากัปกิริยาผ่านมุ้งผืนบาง

          “จะลงมานอนได้รึยัง” เสียงเข้มทำลายความเงียบงันอันน่าอึดอัด ผมละล้าละลังได้สักครู่ก็เห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะคิดมาก ความง่วงหายไปหมดสิ้น มีแต่ความอึดอัดและความละอายในจิตใจเข้ามาแทน ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยสติหลุดจนไม่สามารถหักห้ามจิตใจตัวเองได้เหมือนในครั้งนี้มาก่อน มันเกิดอะไรขึ้นกับใจผมกันแน่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 00:07:27 โดย AxCiO@ToToKeN »

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #21 เมื่อ27-12-2011 16:51:19 »

 :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์
«ตอบ #22 เมื่อ27-12-2011 16:52:10 »

มาต้มน้ำร้อน รอกินมาม่า ^^

totoken

  • บุคคลทั่วไป
โอ้เรื่องใหม่ น่าสนุกมากค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามผลงานนะครับ ^^

สนุกจัง ! เลยค่ะ ! อยากอ่านต่อ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ จะรีบปั่นมาให้อ่านนะครับ ^^

น่าติดตามอีกหนึ่งเรื่อง เป็นกำลังใจให้ครับ  :pig4:

ติดตามกันานๆ นะครับ ^^

-0-
อะไรก้านนนนนนนนน

แอบตื่นเต้นนะคับ 555

มารออีก อิอิ ไม่น่ามีมาม่าเลยเนอะ กำลังนึกว่าว่ามันจะบาปยังไงหนอ แต่ถ้ามาม่า แล้วจบแฮปปี้ก็ค่อยยังโล่งใจไปหนึ่งเปราะ

ยังไม่อยากบอกตอนจบเลย ตอนนี้อ่านช่วงแฮปปี้กันก่อนแล้วกันนะคับ ^^

อ่า...เอามาม่าน้อยๆแล้วกันนะ

ที่บ้านตุนไว้ตอนน้ำท่วม...มีเยอะแล้วไม่อยากได้เพิ่ม  :laugh:

 :L2: :L2: :L2: :L2:

ตอนนี้ยังไม่มีมาม่าครับ กว่าจะถึงกลางเรื่อง ผมแต่งไว้ยาวนะครับ สบายใจได้ ^^

มาให้กำลังใจเรื่องใหม่คร๊าาาา ว๊ายๆๆๆๆ คุณหยกหลงหนุ่มไทยซะแล้ว

กฤษอายุน้อยกว่าคุณหยกรึเปล่าคะ ถ้าใช่ละก็ อ๊ากกกกกกกกกกกก กินเด็ก ชอบบบ

สงสัยเสปคหยกจะไม่ชอบฝรั่งพอมาเจอหนุ่มไทยเลยอดใจไม่ไหวซะงั้น อิอิ เรื่องอายุยังไม่บอกคับ 555 ^^

wolfram

  • บุคคลทั่วไป

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
คิดไปคิดว่า บ้านหลังนี้ที่แวะมานอน คงไม่ใช่บ้านที่จะมาเซ็นยกให้หรอกมั้งเนอะ แต่ตอนนี้ :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: ฮิฮิ

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
ดูท่าจะมาม่า แต่เค้าขอจบแบบ Happy ได้ไหมอ่า  :call: :call:

รอตอนต่อไปจ้า  :L2:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด