[จบแล้ว]“ปีนเกลียว”...(นึกแล้วเชียว ว่าต้องจีบติด!) บทพิเศษ ชวิน VS หมอเขม P.10 [Up 27/2/12]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ตัวละครในเรื่อง "ปีนเกลียว" คุณชอบใครมากที่สุด

ภู ภูเบศธ์ - หญ้าอ่อนแพ้วัวแก่ ที่จีบไม่เก่ง แถมยังปากหมา
สอง กมลินทร์ - วัวแก่แพ้หญ้าอ่อน แล้วดันชอบแต่คนปากหมา
ตรฤณ - วันๆไม่ทำอะไรนอกจากหาทางประเคนวัวแก่ใส่ปากหญ้าอ่อน
กร ทิวากร - แกนนำผู้ก่อการร้ายของสอง แต่เป็นผู้ก่อการรักของตรฤณ
วิน ชวิน - ชอบทำตัวเป็นพ่อหวงลูกชาย แถมฉลาดร้ายยิ่งกว่ากร

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]“ปีนเกลียว”...(นึกแล้วเชียว ว่าต้องจีบติด!) บทพิเศษ ชวิน VS หมอเขม P.10 [Up 27/2/12]  (อ่าน 103183 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
กรเริ่มใจอ่อนแระน้านี่ อิอิ

สองเองก้อดูเหมือนเริ่มคิดได้ อิอิ เล่นซะเขิลแทนเยย

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกนะค๊าฟฟฟ

รอรอน้อ^^

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
เคลียร์จร้าาา  กร

เคลียร์ด่วนๆๆ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ผูกมาก แก้ยาก
รักยาก เข้าใจยาก..

ออฟไลน์ ooopimmyooo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
กร รู้ใจตัวเงอยังง่ะ?
งานงอกเลย สงสารตรฤนที่สุดอ่ะเรื่องนี้ T^T

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
สองเริ่มมีใจแล้วใช่ม๊าาาาา งั้นภูก็มีสิทธิ์แล้วอ่ะเซ่!!! โอ้ยยยยยย ดีใจเว๊!!! สองจะมีสามีเป็นตัวเป็นตนวะที 555555555  :impress2:  :impress2:

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
งานนี้พี่กรตายเพราะลูกๆในปากตัวเองแท้ๆ

ออฟไลน์ aft22423

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ชอบคู่ตรฤณค้า~. น่ารักน่าเชียร์มากมาย รอลุ้นอยู่ว่าจะเคลียร์กันยังไง

ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 12 ปากเขามีไว้....


“พูดบ้าอะไรของแกไอ้ภูเบศธ์! ฉันน่ะเหรอจะชอบตรฤณ...ไม่มีวันซะหรอก!


_____________



“แต่ถ้าเป็น ‘รัก’ ก็ไม่แน่ใช่มั๊ยล่ะ?”ตรฤณเอ่ยพร้อมกับเหยียดริมฝีปากเผยยิ้มจนแก้มปริ ไม่ได้มีทีท่าว่าจะน้อยอกน้อยใจหรือว่าเจ็บปวดกับคำพูดของกรแม้แต่น้อย

พอดีรู้จัก “คนปากแข็ง” อย่างไอ้สองซะดิบดี...พอเจองานนี้กูถึงไม่เดือดร้อน!

“นาย..ว่าอะไรนะ?”กรถึงขั้นต้องใช้นิ้วแคะหูตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่กำลังได้ยินนั้นถูกต้อง ไหนจะรอยยิ้มกวนๆของตรฤณนั้นอีกที่ทำเอากรเริ่มหาทางไปต่อไม่ถูก

   จะด่าก็ปากไม่ขยับจะปฏิเสธก็ทำไม่ได้
   เพราะเกรงว่าหัวใจมันจะบอกว่าเป็นเรื่อง “จริง”


“มองหาอะไรอยู่เหรอ...กร?”ตรฤณยังคงมองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นว่ากรหันซ้ายหันขวาไปมาราวกับหาตัวช่วย แต่จะให้ทำยังไงได้ก็ภูเบศธ์หลานรักของกรเดินหายตัวไปตั้งแต่ที่ตรฤณปรากฏตัวเสียแล้ว เพราะถ้าจะว่ากันตามเป็นจริง ตรฤณเดินมาถึงบริเวณนี้ได้สักครู่แต่แค่ไม่ยอมปรากฏตัวให้คนอื่นเห็นเท่านั้นเอง

“คือ....”เหมือนสมองของกรจะถูกสตั๊ฟเอาไว้ชั่วขณะทำให้สมองหยุดคิดและต่อด้วยการที่ปากขยับพูดอะไรไม่ออก ในเมื่อยังโดนตรฤณจ้องตาเอาไว้อย่างนี้แถมยังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆซะด้วยสิ

“ถ้าเป็นภูเบศธ์น่ะ..หายไปตั้งแต่ที่ฉันมา...แต่ถ้ามองหาตรฤณ..ก็เดินมาให้ถึงตรงหน้านี่แล้วไง”ตรฤณว่าพร้อมเผยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ใครจะไปมองหาคนอย่างนายกัน”กรก้มหน้าก้มตาพูดก่อนจะเบี่ยงตัวไปอีกทางเพื่อหนีการรุกไล่ของตรฤณ

“อะไรกัน~ น้อยใจนะเนี่ย...ก็อุตส่าห์จะตามมา ‘หึง’ แต่คนจะให้หึงดันเดินหนีซะได้”ตรฤณพูดลอยๆทำเอากรทำตาโตเท่าไข่ห่านด้วยความตกใจ

นี่อย่าบอกนะว่าตรฤณ ได้ยินเรื่องที่กูพูดกับภูเบศธ์น่ะ?

“นายได้ยิน?”กรถามด้วยสีหน้าเลิ่กลั่ก

“เปล่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นแหล่ะ”ตรฤณยังคงตอบพร้อมกับรอยยิ้มกวนประสาทและกรเองมองเลยก็รู้ว่าคนพูดมันโกหก

“ตอแหล! นายได้ยินใช่มั๊ย?”ในเมื่อเพิ่งโดนด่ามาหมาดๆยังเจ็บใจไม่หายก็ขอหาที่ลงสักหน่อยก็ท่าจะดี

“แล้ว..จะให้ได้ยินอะไรล่ะ?”คนตัวสูงกว่าทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ราวกับว่าตัวเองไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น แต่มันเหมือนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาบางอย่างในตัวของกรที่ทำให้ควันออกหูได้ไม่ยากกับท่าทางของตรฤณ

“ก็เรื่องที่ฉันน้อยใจเพราะนายไม่หึงฉันกับชวินยังไงล่ะ!” กรตะใกนใส่หน้าตรฤณอย่างหมดความอดทน แต่ทว่าคนโดนตะโกนใส่กลับไม่มีทีท่าว่าจะกลัวน้ำเสียงนั้นแต่กลับยิ้มจนเห็นฟันขาวๆเรียงกันอย่างสวยงามจนกรเองยังนึกแปลกใจ

ปกติพอโดนตะคอกใส่ก็ทำหงอยอย่างกับลูกหมีตามหาแม่ แต่คราวนี้กลับทำหน้าเปรมปรีอย่างกับหมีได้กินปลาทาโร่!

ก่อนที่กรจะรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกไป ตรฤณก็หัวเราะออกมาซะดังลั่นอย่างชอบอกชอบใจ

“ฮ่าฮ่าฮ่า...ยอมรับว่าแอบรักฉันตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง”

กูจะได้ไม่เหนื่อยตามจีบอีกให้เสียเวลา!

“แอบรัก?...ฝันกลางวันอยู่เหรอ? ฉันแค่น้อยใจนะมันไม่ได้หมายความว่ารักสักหน่อย!”
ตอนนี้เลือดลมตีขึ้นหน้ากรอย่างที่เจ้าตัวเองก็แยกแยะไม่ออกว่าเป็นเพราะโมโหหรือว่าเขินที่หลุดปากพูดเรื่องที่ตัวเองน้อยใจให้ตรฤณรับรู้

“อ้าวแล้วถ้าไม่รักแล้วนายจะอยากให้ฉันหึงทำไม?”ตรฤณยังคงรุกถามเพื่อไม่ให้กรมีเวลาคิดคำตอบเพื่อแก้ตัว

“ไอ้คนหลงตัวเอง!” ริมฝีปากสีสดเอ่ยด่าอีกครั้งแต่ตรฤณก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหุบยิ้มง่ายๆ

“แน่นอน..ไม่งั้นคนอย่างกรจะหลงรักเหรอ?”

“ตรฤณ!”
ให้ตายเหอะไม่เคยโดยไอ้บ้านี่ต้อนจนมุมขนาดนี้เลย!

“เรียกชื่อหวานใจ อยู่เหรอครับ?”เพียงเพราะคำพูดของตรฤณทำเอากรไม่คิดอยากจะอ้าปากพูดอะไรอีกเลย

พูดอะไรมันก็หาเรื่องเข้าข้างตัวเองไปซะทุกครั้ง
นี่ขนาดแค่เรียกชื่อมันยังหาเรื่องเข้าข้างตัวเองได้อีกครั้งเลยคิดดู๊!

“........อะ....ไอ้...ไอ้.....”
กรรู้สึกได้เลยว่าตัวเองกำลังกำมือเอาไว้แน่น แถมด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว แล้วตอนนี้กรเองก็มั่นใจเลยว่ามันเป็นเพราะโมโหแน่นอน หาได้เป็นเพราะความเขินไม่!

“จะบอกว่า ไอ เลิฟ ยู....เหรอครับ กร”

“.........”กรอ้าปากค้างหาทางไปต่อไม่เป็น ตรฤณก็ได้แต่ยิ้มทั้งที่ความเป็นจริงแล้วใจเต้นตุ้มๆต่อมอย่างคนที่กำลังกลัวอะไรบางอย่าง
ขอบอกตามตรงว่าการที่ทำเป็นปากกล้าอยู่ต่อหน้ากรในตอนนี้ ไม่ใช่ว่าอยากลองดี แต่เป็นเพราะอยากลองใจ

ไม่ใช่อะไร .... เพราะกูก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะโดนกรเอาหลุยส์หวดหัวกูเอา! ถ้ายังพูดจาไม่เข้าหูเขาอยู่แบบนี้
เอาวะ! ถ้าไม่โดนเอาหลุยส์ตีหัว....กูก็โดนเอาตัวไปชำแหละอยู่ดี หากทิวากรตั้งสติได้


“อ้าว...อึ้ง...แน่ะๆๆอย่าถือขึ้นมานะ ไม่งั้นฉันจะ....”ตรฤณเริ่มรับรู้ได้ถึงลางร้ายอะไรบางอย่างเมื่อเห็นกรไม่พูดไม่จาแต่เอามือคว้าหูกระเป๋าหลุยส์วิคตองใบโตเอาไว้ ทำให้ตรฤณต้องรีบยกมือขึ้นปรามก่อนที่มันจะเหวี่ยงมาโดนเข้ากับศรีษะของตัวเองอย่างที่กรตั้งใจเอาไว้

“จะทำไม?! หา! ถ้าฉันจะฟาดไอ้นี่ใส่คนปากดี นายจะทำไม?!”ในเมื่อไปไม่รอดกรก็ขอกู้สถานการณ์ด้วยการขึ้นเสียง แถมยังสลับโหมดเป็นพ่อเสือเตรียมขย้ำหมีตัวใหญ่ตรงหน้า

“ฉันก็.....จะวิ่งหนีน่ะสิถามแปลกๆ!” พูดจบก็ใส่เกียร์หมีวิ่งสุดแรงเกิดโดยที่สันกระเป๋าหลุยส์ของกรเฉียดหัวไปในระยะสองมิลลิเมตร

“ไอ้บ้าตรฤณเอ้ย ไม่น่าไปดีใจเล้ยที่โดนมันจีบ!”กรบ่นอยู่กับตัวเองก่อนจะรีบตะครุบปากตัวเองทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองหลุดพูดอะไรบอกไป

คราวนี้มันวิ่งไปไกล....คงไม่ได้ยินที่พูดแล้วล่ะมั้ง!
เฮ้อ~


_____________


    ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งสมส่วน ใบหน้าคมคายหล่อเหลาเข้าขั้นพระเอกหนัง แต่เจ้าตัวกลับไม่คิดจะสนใจภาพลักษณ์ของตัวเอง ในเวลาที่อารมณ์ไม่ดีอะไรๆก็ดูจะน่าหงุดหงิดไปซะทุกเรื่อง แม้แต่ผมหน้าม้าของตัวเองก็ยังรำคาญ มือใหญ่ถูกยกขึ้นมาเพื่อรวบผมหน้าของตนเองก่อนจะใช้มืออีกข้างควานหายางรัดผมในกระเป๋าเสื้อ ที่มักพกติดตัวไว้เสมอ
เมื่อรวบผมหน้าขึ้น ดูเหมือนทัศนียภาพในการมองสิ่งต่างๆตรงหน้าจะชัดเจนขึ้นมาทันตาแต่ทว่าอารมณ์หงุดหงิดก็ยังคงไม่จางหาย เลยต้องเดินทอดอารมณ์ไปเรื่อยๆจนมารู้สึกตัวอีกทีก็ถึงดาดฟ้าของตึกเสียแล้ว มือแกร่งเกาะราวกั้นเอาไว้แน่นก่อนจะชะโงกหน้าออกไปเล็กน้อยเพื่อรับลมเย็นๆบนตึก ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นผู้คนที่เดินอยู่ด้านล่าง สายตาไล่มองไปเรื่อยตามประสาคนไม่มีอะไรจะทำหรือแม้แต่จะมอง จนกระทั่งสายตาเหลือบไปรถBMWที่มาจอดเทียบหน้าคณะ แล้วร่างสูงยาวเข่าดี หน้าตาหล่อเหลาเอาการเดินลงจากรถ ทำให้รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นทันทีหลังจากที่ใบหน้าคมฉายแววเรียบเฉยอยู่นาน

“นั่นหมอเขม...เด็กเก่าสองนี่นา..”คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างสงสัยแต่ก็พอจะเดาออกว่าหนุ่มน้อยคนนี้คงเป็นอีกคนที่สองลืมบอกตัดความสัมพันธ์ เพราะเขานั้นไม่ค่อยจะเห็นนักศึกษาแพทย์คนนี้มาป้วนเปี้ยนแถวคณะเท่าไหร่ ก็คงจะเป็นเด็กที่สองมีไว้แก้เหงานานๆทีในเวลาที่เด็กประจำไม่ว่าง อีกอย่างหมอเขมเองก็คงไม่ว่างมาหาสอง  อาจจะเป็นเพราะคณะที่เขาศึกษาอยู่ก็ได้

ดีกรีนักศึกษาแพทย์ปีสอง...คงบอกได้ไม่ยากว่าต้องเรียนหนักแค่ไหน

ภูเบศธ์ยกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะรีบวิ่งลงจากดาดฟ้าทันทีเมื่อคิดแผนดีๆที่จะแยกชวินออกสองได้ชั่วคราว(ก็ยังดี) ภูเบศธ์พยายามใช้เวลาให้น้อยที่สุดในการวิ่งจากดาดฟ้าลงมาชั้นล่างเพื่อวิ่งให้ลงมาทันใครบางคนที่กำลังจะเยื้องกรายเข้ามาสู่เขตตึกคณะบริหารธุรกิจ

“นาย...แฮ่ก...นาย..หมอเขม”
ภูเบศธ์วิ่งลงมาแล้วต้องหอบแฮ่กเนื่องจากระยะทางที่วิ่งลงมานั้นนับได้ว่าห้าชั้นที่ต้องติดสปีดใส่เกียร์หมาวิ่งลงมาแบบไม่คิดชีวิต และในที่สุดก็ทันจนได้แล้วรีบเรียกรั้งอีกคนเอาไว้ภูเบศธ์วิเคราะห์ภายนอกของ นักศึกษาแพทย์เขมชาติ คร่าวๆก่อนจะถอนหายใจทิ้ง เมื่อคิดว่าแผนที่เขาคิดไว้นั้นอาจไม่เป็นไปอย่างที่คิดเท่าไหร่การที่จะหาเรื่องให้เด็กแพทย์ลุกขึ้นมาบุ่มบ่ามหาเรื่องชวินนั้นเข้าขั้นว่ายาก เพราะจากหน้าตาที่ดูเรียบร้อย บวกกับอากัปกิริยาที่ภูเบศธ์คาดเดาได้เลยว่า “ไอ้เนี่ย พูดน้อยแน่ๆ” มันเป็นตัวเสริมว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยว่าแผนของเขานั้นจะสำเร็จ

แต่สุดท้ายภูเบศธ์ก็ยังเลือกที่จะลองอยู่ดี
“มีอะไรกับผมหรือครับ?”

แน่ะ!   ขนาดพูดยังดูดี ราคี เอ้ย! ราศีนักเรียนแพทย์พากันรุมจับแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว 

“คือ...นายมาหารุ่นพี่สองเหรอ?”ภูเบศธ์ถาม แต่เขมกลับทำหน้าประหลาดใจ

“คุณรู้ได้ยังไงครับ? ว่าแต่คุณรู้จักพี่สองใช่มั๊ย?”เขมถามกลับทันที และก็ถือว่าเป็นไปตามแผนของภู

“ใช่...คือฉันเป็นน้องรหัสพี่สองเองแหล่ะแต่ฉันว่านายไม่ควรมาหาพี่สองตอนนี้หรอกนะ”ภูเบศธ์ทำหน้าลำบากใจจนอีกฝ่ายนึกสงสัย

“ทำไมเหรอ? พี่สองไม่ว่างเหรอครับ? ถึงฝากคุณมาบอกผม”หมอเขมถามกลับอย่างสุภาพเช่นเคยทำเอาภูเบศธ์นึกแสลงหูพิกลมือแกร่งยกขึ้นมาแคะขี้หูพร้อมด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเอือมกับคำพูดอันแสนไพเราะของพวกผู้รากมากดีแถวนี้
ก็ปกติต่อให้คุยดี ก็แค่ก็มึงกับกู อ่อ แต่ถ้าจะให้ดูดีมีชาติตระกูลขึ้นมาหน่อยก็ ฉันกับนาย...คุณกับผม...เหรอ?  คำพูดอันแสนไพเราะเพราะพริ้งฟังเสนาะหูเหล่านี้ไม่เคยอยู่ในสารระบบความคิดของภูเบศธ์หรอก

“เปล่าหรอก...แต่ว่าตอนนี้พี่สองน่ะกำลัง..”ภูเบศธ์เว้นระยะเพื่อยืดจุดไคล์แม็กซ์ไปสักนิดเพื่อดูปฏิกิริยาโต้ตอบของหมอเขม

“พี่สองทำไมเหรอครับ?”ถึงคำพูดจะไพเราะเสนาะหูแต่ภูเบศธ์กลับจับได้ถึงคลื่นความถี่ของเสียงที่ดังขึ้นมาอีกนิดเหมือนคนกำลังหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย

อ๊ะอ๊ะ!หงุดหงิดล่ะสิที่ไม่รู้ในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ เอ๊ะ?หรือว่ามันหงุดหงิดกูที่ไม่ยอมบอกมันสักทีวะ-“-

“ก็ตอนนี้น่ะ...พี่สองกำลังพลอดรักกับเด็กใหม่เขาอยู่น่ะสิ ผมเลยมาเตือนคุณด้วยความหวังดีหากไม่อยากเจอภาพอันบาดตาบาดใจ” ภูเบศธ์นึกยิ้มกับคำพูดที่ดูจะไปยียวนกวนประสาทอีกฝ่ายได้ไม่น้อย เพราะหมอเขมดูจะชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆหลับตาลงราวกับคนที่พยายามข่มอารมณ์เอาไว้

ขนาดโมโหยังดูผู้ดีอีกเหอะ ไอ้หมอเขม

“อย่างนั้นเหรอครับ...งั้นผมไม่รบกวนพี่สองดีกว่า”
หมอเขมพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วเดินจากไป

หือ? มันง่ายขนาดนี้เลยเหรอวะ? เฮ้ย! ไม่รู้สึกอยากต่อยเด็กใหม่ของสองบ้างหรือไง?
เฮ้อ...คิดเอาไว้แล้วเชียวมาแบบผู้ดีมาดนิ่งแบบนี้ไม่น่าหาเรื่องใครเป็น

แต่ทว่าหลังจาทกที่ภูเบศธ์คิดสารตะอยู่คนเดียวอย่างไม่พอใจ หมอเขมกลับเดินย้อนกลับมาแถมยังเดินเลยหน้าภูเบศธ์ไป เพื่อไปยังจุดๆที่สองชอบนั่งอยู่เป็นประจำ

สนุกแน่..คราวนี้รุ่นพี่สอง ฮ่าฮ่า

“พี่สอง” หมอเขมเรียกชื่อรุ่นพี่ตัวเล็กที่ตัวเองปลื้มอยู่นานแถมได้ไปรับไปส่งอยู่หลายครั้งด้วยน้ำเสียงที่ยากจะอธิบาย ทำให้สองและชวินที่กำลังนั่งกระหนุงกระหนิงกันอยู่ที่โต๊ะต้องหันมาสนใจ โดยมีภูเบศธ์เป็นแบ๊คลอบสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ

“หมอเขม....” สองเอยชื่ออีกฝ่ายก่อนจะเหลือบมองหน้าเด็กหนุ่มร่างสูงสลับกับชวินที่นั่งอยู่ข้างๆตัวเอง

“ใครเหรอครับพี่สอง” หมอเขมเหลือบมองชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มที่นั่งอยู่ข้างๆสองอย่างไม่ค่อยเป็นมิตรนัก

“อ๋อ....คือ..นี่ชวิน..เป็น”

เพื่อนของสองครับ.....” แต่ยังไม่ทันที่สองจะพูดจบชวินก็ชิงตัดหน้าพูดต่อจนจบ     และปิดท้ายด้วยการลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือเพื่อหวังจะเช็คแฮนด์ทำความรู้จักทำเอาสองถึงขั้นงงกับอาการของเพื่อนรักที่ดูจะดี๋ด๋าเกินไปหน่อยแค่ได้รู้จักกับเด็กในฮาเร็มของสองอีกคน


ทีอีตอนเจอกับภูเบศธ์ไม่เห็นมันจะยื่นมือทำความรู้จักเลย
แล้วนี่อะไร?!ยื่นมือหวังจับพร้อมกับทำสายตาวิบวับที่ทำเอาคนมองอย่างกูขนลุก    ไอ้ชวิ๊น!


“เพื่อน?...แค่เพื่อนใช่มั๊ยครับพี่สอง ทำไมมีคนผมบอกว่าเป็นเด็กของพี่สองล่ะครับ” หมอเขมยังไม่หายคลางแคลงใจจึงต้องถามย้ำอีกครั้งซึ่งมันก็ทำเอาสองสะอึกไปไม่น้อย

หมาตัวไหนมันบังอาจคาบข่าวไปบอกเด็กในเครือกูอีกล่ะ! 

ไอ้ตรฤณเหรอ?!... ไม่น่าใช่มันจะมาหาเรื่องกูกับไอ้ชวินทำไม...แต่ถ้าไม่ใช่ไอ้ตรฤณ แล้วใครล่ะวะที่กล้าทำแบบนี้อีก

“ไม่ใช่หรอกครับ.ผมเป็นเพื่อนกับสองจริงๆ พอดีว่าเพิ่งกับมาจากอเมริกา คนอื่นที่ไม่รู้เพิ่งเห็นอาจจะเข้าใจผิดได้” ชวินอธิบายด้วยภาษาสุภาพทำเอาสองต้องถอยออกห่างเพื่อนคนนี้อีกสักก้าวด้วยความประหลาดใจ

ผีตัวไหนมันเข้าสิงไอ้ชวินเพื่อนกู กรุณาออกจากตัวเพื่อนกูที กูสยองครับ!

“อ๋อเหรอครับ...อย่างนี้นี่เอง ผู้ชายคนนั้น..อ่อ น้องรหัสของพี่สองถึงได้บอกผมอย่างนั้น สงสัยคงจะเข้าใจผิดสินะครับ”หมอเขมยิ้มกลับอย่างสุภาพ ทำเอาสองต้องยิ้มกลับแบบงงๆกับคำพูดของหมอเขม

น้องรหัส? ได้ข่าวว่าน้องรหัสกูเป็นผู้หญิง กูไม่อยากจะเชื่อจริงๆครับว่าไอ้หมอเขมมันจะแยกเพศคนไม่ออก ไม่งั้นมันเรียนหมอไม่ได้หรอกกูมั่นใจ!

“เอ่อ..คือ..น้องรหัสพี่เป็นคนบอกอย่างนั้นเหรอหมอเขม?”สองลองถามเพื่อความแน่ใจ ทั้งที่ก็แปลกใจกับไอ้ท่าทางของไอ้ชวินที่ทำเป็นสะกิดยิกๆอยู่ข้างๆแขน

“ครับ..เขาบอกอย่างนั้น..เอ เมื่อกี้ยังเห็นอยู่แถวนั้นอยู่เลยนี่นา”หมอเขมยืนยันและสองก็มั่นใจว่าอย่างหมอเขมคงไม่ได้โกหก แถมยังมีการหันไปทางด้านหลังราวกับว่าเคยเห็นคนที่ว่าเอาไว้จริงๆแต่แค่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว
กูว่ากูรู้แล้วล่ะว่าน้องรหัสกูคนไหน...เห็นหลังไวๆเพิ่งวิ่งหนีไปเมื่อกี้หลังจากที่รู้ตัวว่าจะถูกจับได้
ไอ้เด็กเวรภูเบศธ์ ตามราวีกูไม่เคยเลิกรา!

“เอ่อ..คือหมอเขมรอแป๊บนะ สงสัยพี่คงต้องไปเคลียร์กับน้องรหัสพี่นิดนึง..เข้าใจผิดแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ได้จริงๆ”ถึงแม้น้ำเสียงจะหวานจ๋อย แต่ถ้าหากภูเบศธ์ได้ยินคงรู้สึกได้เลยทันทีว่าภัยกำลังจะเดินทางไปหาถึงที่เสมือน KFC ที่ส่งไก่แบบเดลิเวอรี่ให้ถึงหน้าบ้าน

มึงตายแน่ภูเบศธ์!

พอสองเดินหายไปจากสายตา ก็เหลือเพียงชายหนุ่มสองคนที่ความสูงไล่เลี่ยกัน แถมด้วยความหล่อที่ยังกินกันไม่ขาดยืนจ้องหน้ากันแบบไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องอะไรต่อดี

ถ้ายังไงน้องเขม นั่งรอสองอยู่กับผมที่นี่ก็ได้นะครับ..ถ้าไม่รังเกียจ

_____________



“ไอ้ภู!”

“คร๊าบบบบ... ”หลังจากที่กำลังวิ่งๆอยู่ก็ต้องหยุดวิ่งทันทีแล้วหันหน้าไปยิ้มหวานเจี๊ยบให้คนที่ตามมา

“อ่อไม่สิ...นายเป็นน้องรหัสฉันนี่นา...ไม่บอกก็ไม่เคยรู้เลยนะเนี่ย แล้วข่าวที่ว่านายเป็นหลานรหัสกรน่ะ..โกหกหรือไง?”สองจ้องหน้าอีกฝ่ายก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เด็กตัวโย่ง

“เปลี่ยนขั้นจากหลานรหัสกลายเป็นน้องรหัสเด็กปีสี่นี่ทำตัวแก่แดแก่ลมใช่ย่อยเลยนะนายเนี่ย~”     สองยังคงยิ้มหวานถึงภูเบศธ์จะรู้ดีว่ามันอันตรายขนาดไหนแต่ยังไงภูเบศธ์ก็ขอทำใจดีสู้เสืออยู่ดี

“ใครบางคนก็ชอบทำตัวเป็นวัวแก่แทะเล็มหญ้าอ่อนข้างทางไม่เลิกไม่ราเหมือนกัน....แล้วไง..รถไฟชนกันเป็นสิบยังไม่รู้จักเข็ดรู้จักหราบจำ!” ภูเบศธ์ประชดประชันด้วยท่าทางที่สูสีพอตัว

แหม่!นอกจากจะปากหมาตัวพ่อไอ้ปากปีจอยังพ่วงความสามารถในการประชดเข้าขั้นอัจริยะด้วย!


“เออ! แล้วไงอย่างน้อยก็ยังดีกว่าหญ้าอ่อนบางตัวที่แม้แต่วัวยังไม่อยากจะแล”สองตอกกลับด้วยท่าทางสบายๆแต่ภูเบศธ์กลับรู้สึกสนุกได้ต่อล้อต่อเถียงกับสองเป็นรอบที่สองของวัน

“ที่พูดมาน่ะแน่ใจเหรอ?” ยังไม่ทันได้ตั้งตัวภูเบศธ์ก็เดินเข้ามาประชิดติดกับตัวสองจนได้

“แน่ใจนะ...ว่าวัวแก่‘ตัว’นี้ไม่สนใจหญ้าอ่อน‘คน’นี้จริงๆ” พูดไม่พูดเปล่ามือใหญ่โอบเอวคนตัวเล็กเพื่อนรั้งเข้ามาหาตัวเองเบาๆ
ให้ตายเหอะ! พอได้ทีล่ะจงใจเรียกกูเป็น “ตัว” เชียวนะมึง!

“ปล่อยเลยนะ! ไอ้เด็กบ้านี่~”สองดิ้นขลุกขลักทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่เคยดิ้นแล้วหลุดจากวงแขนนี้สักที อ่อ! ถ้าไม่นับตอนหึงไอ้ชวินจนหน้ามืดตามัวแล้วสะบัดไอ้เด็กนี่หลุดได้แบบไม่รู้ตัวอ่ะนะ

“ทำไมล่ะ?...ก็ตอบมาก่อนสิว่าพี่สองไม่ได้สนใจผมจริงๆ”ภูเบศธ์ยื่นหน้าเข้าไปถามใกล้ๆทั้งที่ความจริงโอบคนตัวเล็กเอาไว้ติดตัวก็ใกล้อยู่แล้ว แต่ภูเบศธ์ก็ยังจงใจก้มหน้าลงไปใกล้ๆ     เพื่อแกล้งให้ใบหน้าของคนในอ้อมกอดขึ้นสีแดงระเรื่อประดับบนใบหน้าเล่น

“ตอบไม่ได้ล่ะสิเพราะพี่สองก็สนใจผมเหมือนกัน”ในเมื่อสองเงียบภูเบศธ์ก็ขอเข้าข้างตัวเองโดยการตอบคำถามเสียเอง
“จะบ้าหรือไงเล่า! ปล่อยเลยนะเว้ย” สองยังคงพยายามปฏิเสธก่อนจะพยายามแกะมือใหญ่ที่โอบรัดเอวตนเองเอาไว้
จะว่าไปก็ไม่เชิงว่าจะเอ่ยปากด่าไอ้เด็กตรงหน้า แต่ตอนนี้สองอยากด่าตัวเองมากกว่าที่เดินมาหาเรื่องให้ไอ้เด็กเวรนี่เนียนกอดตัวเองอีกจนได้!

“ไม่ปล่อย...ชอบให้กอดไม่ใช่หรือไง? หือ...”ภูเบศธ์ยังคงพยายามยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆเพื่อหวังแกล้งคนตัวเล็ก แต่สองเองก็พยายามเบือนหน้าหนีเหมือนกัน

“ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย....”สองยังพยายามขึ้นเสียงขู่

“ไม่..”

ยังกอดไม่หนำใจจะยอมปล่อยมือง่ายๆได้ยังไงเล่า~

“ปล่อยเถอะนะภูเบศธ์~”
เอ๊ะ?..คราวนี้มาแปลกแฮะ พูดซะเสียงอ่อนเสียงหวานเชียว

“นะ...ภูเบศธ์”สองพยายามใช้ไม้เด็ดที่ทำให้ไอ้เพื่อนตัวดีสองตัวใจอ่อนมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ลองมาใช้ดูกับภูเบศธ์ก็คงจะไม่ต่างกันเท่าไหร่

แต่ทว่า..ภูเบศธ์ต่างจากตรฤณและชวิน

“ไม่ยอมปล่อยง่ายๆหรอก”
แววตาอีกฝ่ายดูกรุ้มกริ่มจนทำให้ใจเต้นแปลกๆ แถมมือก็ใช้การไม่ได้ในเมื่อถูกรัดตัวเอาไว้อย่างนี้ เท้าก็คงใช้อีกไม่ได้เพราะว่าไอ้เด็กนี่รู้ไต๋เขาหมดไม่ว่าจะหาทางเอาตัวรอดยังไง 

เอาวะ! ทางรอดสุดท้าย

“อ๊ากกกกก!” ปากเล็กงับเข้าที่ไหล่ของคนตัวสูงทันทีหลังจากที่ร้องขออยู่นานแต่ภูเบศธ์ก็ไม่ยอมปล่อยสักทีก็คงต้องใช้ปากให้เป็นประโยชน์สักหน่อย แถมยังได้ผลเกินคาดอีกด้วย!

“กัดมาได้ยังไง ผมเจ็บนะ”ภูเบศธ์โวยวาย

“สมน้ำหน้า! พูดดีๆไม่ยอมปล่อยเอง”ในเมื่อหลุดจากอ้อมแขนของภูเบศธ์ได้อีกครั้งสองก็เดินถอยห่างออกมาสักสองสามก้าว แล้วจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เข้าที่ตามเดิม โดยที่ภูเบศธ์ก็ได้แต่มองไหล่ตนเองที่เพิ่งถูกกัดผ่านเสื้อเชิ๊ตไป รอยน้ำลายยังคงติดเอาไว้เป็นอนุสรณ์แต่ร่างสูงกลับทำท่าไม่ใส่ใจนักก่อนจะเดินไปคว้าข้อมือของคนตัวเล็กเอาไว้อีกครั้ง

“รู้อะไรมั๊ย? ปากน่ะเขาไม่ได้มีไว้กัด แต่เขามีไว้พูด...”ภูเบศธ์ใช้มืออีกข้างจิ้มๆที่ริมฝีปากสองอย่างนึกแกล้ง แต่สองก็พยายามเบือนหน้าหนีความรำคาญนั้น

“แล้วก็มีไว้จูบ เข้าใจมั๊ยครับ” พูดจบริมฝีปากของร่างสูงก็ประกบเข้ากับริมฝีปากเล็กทันที ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างด้วยความตกใจ พอจะใช้มือดันอีกฝ่ายออกก็ดันช้าไปเพราะถูกรวบมือเอาไว้อีกแล้ว

“อื้อ....อือ...~” เสียงหวานครางในลำคอประท้วงอีกฝ่ายแต่มีหรือที่ภูเบศธ์จะใส่ใจแถมยังเป็นการเปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนล่วงล้ำเข้าไปภายในเพื่อควานหาความหวานจากอีกฝ่ายได้อีกด้วย

“อะ...อ.....” ลิ้นอุ่นชื้นละเลียดริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายอย่างเอาแต่ใจก่อนจะยอมผละออกอย่างนึกเสียดาย เมื่อรู้สึกว่าคนตัวเล็กเริ่มหายใจติดขัดราวกับคนขาดออกซิเจน

“ปากน่ะมีไว้จูบดีกว่ามีไว้กัดอีกนะครับ...พี่สอง”ริมฝีปากอิ่มพูดชิดแนบติดกับริมฝีปากของคนตัวเล็กอย่างยียวนก่อนจะเผยยิ้มอย่างผู้ชนะเมื่อมองเห็นร่างเล็กมีใบหน้าแดงซ่านด้วยความเขิน

“ฉันว่า....”สองเอ่ยขึ้นก่อนจะตวัดสายตามองร่างสูงตรงหน้า

“หน้านายก็เหมาะกับการที่มีไว้ให้ฉันต่อยเหมือนกัน นะไอ้ภูเบศธ์!”

พลั๊ว!
กำปั้นของสองเข้าเป้าแบบเต็มๆ ว่าแล้วก็เดินจากไป พร้อมกับใช้หลังแขนเช็ดริมฝีปากแรงๆ

เพราะกลัวว่าถ้าร่องรอยยังหลงเหลือ...แล้วหัวใจจะยิ่งหวั่นไหวไปมากกว่านี้

“มือหนักใช้ได้เลยแฮะ”ภูเบศธ์มองร่างเล็กที่เดินจากไปก่อนจะใช้หัวแม่มือเช็ดริมฝีปากตัวเองที่มีเลือดซิบออกมาเล็กน้อย

ได้ดีฟคิส แต่ต้องแลกกับหนึ่งหมัด...มันก็คุ้มแล้วล่ะวะ ภูเบศธ์เอ้ย!

_____________


“เฮ้ย! สอง”

“อะไร?...มึงหายหัวไปไหนมาเนี่ย?”สองหยุดเดินทันทีที่ถูกเรียกตัวเอาไว้ แถมด้วยการถามคำถามกลับทันทีเมื่อรู้ว่าตรฤณเป็นคนเรียกตัวเอง

“ไปหาเรื่องให้กระเป๋าหลุยส์เฉียดหัวเล่นไงมึง..ว่างๆมึงจะลองดูก็ได้นะ”ตรฤณพูดทีเล่นทีจริงแต่สองไม่อยากจะสนใจนักว่าไอ้เพื่อนตัวดีเขาไปหาเรื่องใครมาถึงได้โดนประทุษร้ายขนาดนั้น

“ขอโทษทีกูเป็นคนดี..ไม่มีใครอยากทำร้ายกูหรอก”

“นี่...ว่าแต่คนทำร้ายเหอะ มึงเองก็เดินเอาปากไปชนกับอะไรมามันถึงได้เจ่อแบบนั้น?”ตรฤณมองด้วยแววตาสงสัยก่อนที่สองจะรีบกัดปากล่างของตัวเองเอาไว้ทันที

“ไม่นี่..ไม่มี...กูเผลอกัดปากตัวเองอย่างนี้ไง..”สองส่ายหน้ารัวพร้อมกับกัดปากล่างตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อพิสูจน์ว่าที่มันบวมแดงก็เพราะตัวเองกัดปากของตัวเอง ถึงตรฤณจะติดใจสงสัย แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรนี่นาว่าสองไปโดนอะไรอย่างอื่นที่ทำให้ปากเล็กเจ่อได้ถึงเพียงนั้น

“ว่าแต่มึงเหอะ ยอมปลีกตัวออกจากไอ้ชวินด้วยเหรอ? ถึงไม่ได้เอยู่ด้วยกัน”ตรฤณถามอย่างสงสัยต่ออีกในขณะเดินไปเรื่อยๆพร้อมกับสอง

“เออ! กูลืมไอ้วินไว้ที่โต๊ะ...ตายห่าจะมีแมวตัวไหนมาคาบมันไปแดกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แม่งยิ่งชอบนั่งทำหน้าหล่ออยู่ด้วย!”พูดจบก็รีบวิ่งกลับไปยังที่ประจำของตัวเองโดยมีตรฤณวิ่งตามไปติดๆ

______________


ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป

“กูว่าแล้วไง...ว่ามันต้องมีแมวมาขโมยปลาย่างของกู! ”

“นั่นมันหมอเขม เด็กมึงไม่ใช่เหรอ?”

“เออ! เด็กในเครือกูนี่แหล่ะตัวดี!”พูดจบก็เดินไปนั่งกระแทกก้นลงข้างๆชวินที่ยังคงมองเด็กในฮาเร็มของสองด้วยสายตาเชื่อมแบบที่สองไม่เคยเห็น

“อ้าวสอง..มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่...”

“กูก็ต้องรีบมาก่อนที่มึงจะเขมือบเด็กในเครือกูสิวะไอ้วิน!”ถึงตอนแรกจะคิดว่ามีคนมาแย่งชวินไปต่อหน้าต่อตา แต่พอลงพื้นที่มาดูสถานการณ์ใกล้ๆแล้ว สองคาดว่าตัวเองมองไม่ผิดไป ที่เห็นว่าชวินกำลังสั่งขนมจีบให้เด็กของตนเองแบบไม่เกรงใจใคร

“อย่าขัดเวลาหากินกู! มึงมีเด็กเยอะแยะ ขอกูสักคนจะเป็นไร”ชวินแอบกระซิบกับสองเบาๆก่อนจะหันไปยิ้มให้หมอเขม

กูว่าไอ้ลักษณะท่าทางแบบนี้มันคุ้นๆแฮะ...แม่งลอกเลียนแบบไอ้สองมาเป๊ะๆเลยนะไอ้วิน!

ตรฤณกลายเป็นคนนอกอย่างเสียไม่ได้ในเมื่อ หมอเขมก็เคยเป็นเด็กของสองแถมตอนนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ หมอเขมเด็กแพทย์ผู้เคราะห์ร้ายคนนี้จะต้องตกมาเป็นเด็กของไอ้ชวินอีกคน

จะว่าไป...ก็ไม่เคยเห็นไอ้วินมันสนใจใคร...
ก็เพิ่งรู้นี่แหล่ะว่าแบบน้องหมอเขมนี่เป็นสเป็คไอ้วิน-“-


“ได้ยังไง เด็กนี่ของกู..แล้วมึงก็เป็นของกู”สองขึ้นเสียง

เอาแล้วไง..องค์ลงเจ้าแม่สองอีกแล้ว...อะไรอะไรก็ของสองเขาหมดล่ะ!

“อ้าว?..ไหนพี่วินบอกว่าเป็นเพื่อนพี่สองยังไงครับ?”หมอเขมถามอย่างสงสัย

“ห๊า?..พี่...พี่วินอย่างนั้นเหรอ..หมอเขมเอ้ย นายถูกหลอกแล้วล่ะ ไอ้หมอนี่อายุยี่สิบเท่ากับหมอเขมนั่นแหล่ะ”สองเกิดอาการเคืองชวินขึ้นมาเลยหาเรื่องขัดคอ

“อ้าว...อายุเท่ากันอย่างนี้...ก็เป็นเพื่อนกันได้เลยสินะครับ...ก็เห็นบอกว่าเป็นเพื่อนพี่สองผมก็เลยนึกว่าอายุเท่ากัน”หมอเขมพูดต่อ

“พอดีผมเรียนเร็วไปสองปีน่ะครับ...”ชวินตอบอย่างสุภาพ

“อย่างนี้ก็เรียนเก่งน่ะสิครับ?”ดูท่าว่าหมอเขมจะสนใจชวินไม่น้อย

“ก็ได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาตรีที่อเมริกา....โคตรโง่เลยล่ะมั้ง!”
สองประชดประชันใส่แต่หมอเขมกลับยิ้มกว้างราวกับปลื้มชวินเข้าไปใหญ่

   “จริงเหรอครับ...เก่งจังเลยนะครับ”    แววตาของหมอเขมเป็นประกายและชวินเองก็มองหมอเขมกลับด้วยความปลาบปลื้มทำเอาสองรู้สึกว่าตัวเองถูกถีบกระเด็นออกจากวงโคจร เลยจำต้องลุกขึ้นอย่างโมโหแล้วผลักหัวเพื่อนตัวดีไปหนึ่งดอก

“ผลักหัวกูทำไมเนี่ย สอง!”

มึงเอาไปเลย กูไม่อยากสนใจมึงแล้ว! หมอเขมด้วยเลิกยุ่งกับพี่ไปเลย!”สองว่าด้วยความโมโหก่อนที่จะถูกตรฤณจูงไปอีกทาง

“ใจเย็นๆเว้ยสองเด็กมึงมีเยอะแยะ ปล่อยให้ตกถึงท้องไอ้วินสักคนจะเป็นไรไป...”

“ฮึ้ย~ กูเกลียดไอ้วินมันจริงๆ“สองกัดฟันพูดและเหตุการณ์ในครั้งนี้เองที่เป็นตัวบอกอย่างดีว่าที่ผ่านมานั้นสองไม่ได้หึงชวิน แต่เพียงแค่หวงตามประสาเพื่อนเท่านั้น

แต่ครั้งนี้...จะยอมสักครั้งก็ได้วะ!

“มึงเองก็เลิกสนใจไอ้วินเหอะมึงควรจะหันไปสนใจเด็กของมึง ยกตัวอย่างเช่น ภูเบศธ์”

“แล้วทำไมมึงต้องยกตัวอย่างชื่อไอ้เด็กนี่ด้วยวะ?” สองถามกลับอย่างใส่อารมณ์ คนยิ่งกำลังหงุดหงิดที่เพื่อนกำลังจะมีแฟนอยู่ก็ตามที

“อ้าว...ก็ในฮาเร็มมึงเหลือใครบ้างล่ะนอกจากภูเบศธ์น่ะ น้องบอลเหรอ? ถูกกรขู่ไม่กล้าโผล่หน้ามาเจอมึงแล้วล่ะ”ตรฤณอธิบายด้วยความสบายๆ

“อะไรนะ? ไอ้แกนนำผู้ก่อการร้ายนั่นเองเหรอที่ขู่จนน้องบอลของกูไม่กล้าโผล่หัวมาให้กูเห็นอีกน่ะ!”

“แกนนำผู้ก่อการร้าย?”ตรฤณถามอย่างสงสัยในคำพูดของสอง

“ก็เออสิวะ! แม่ง ร้ายจริงๆ...มึงเลิกจีบไปเลยนะคนนี้กูไม่ปลื้ม!”

   สองพูดไปก็ฟัดเหวี่ยงไปมาตามประสาคนโมโห แต่นั่นทำเอาตรฤณหลุดขำกับคำที่สองเอามาตั้งเป็นฉายาให้กร
จะว่าไป “แกนนำผู้ก่อการร้าย” ก็เหมาะกับกรซะยิ่งกว่ากิ่งทองกับใบหยกซะอีกว่ามั๊ยครับ?

ไม่งั้นวันนี้กูก็คงไม่โดนกระเป๋าหลุยส์ประทุษร้ายแน่นอน!

“ไม่ได้ๆ...โหดๆแบบนี้ล่ะกูชอบนัก ได้ใจกูดี”

“กูเพิ่งรู้ว่ามึงโรคจิตชอบคนโหดๆ”สองมองตรฤณอย่างที่ไม่อยากจะคาดถึงนัก

“ส่วนกูก็รู้มานานแล้ว ว่ามึงโรคจิตที่ชอบคนปากเสีย” ตรฤณย้อนคืนเข้าให้ทำเอาสองต้องหันมาทำตาขวางใส่

“ไอ้ตรฤณ!”

“หยุดเลยมึง! กูกำลังจะบอกว่าก็พอกันนั่นแหล่ะ”ตรฤณรีบดักคอซึ่งมันก็เป็นจริงอย่างที่ตรฤณว่าไว้จริงๆ

“แต่กูว่าคนที่กำลังจะพอๆกันกับพวกเราอีกคน...คงจะเป็นไอ้วินซะละมั้ง”สองพูดพร้อมกับหันกลับไปมองชวินกับหมอเขม แล้วหันมามองตรฤณอย่างขอความคิดเห็น

“กูก็กำลังคิดเหมือนมึงอยู่พอดีเลย...”ตรฤณยักไหล่ก่อนจะคว้าคอเพื่อนตัวเล็กมากอดเอาไว้แล้วเดินไปด้วยกันอย่างสบายอารมณ์

“มีอีกเรื่อง...”ตรฤณพูดขึ้น

“เรื่องอะไร?”คิ้วเรียวเลิกขึ้นเป็นเชิงสงสัย

“กูไม่เชื่อหรอกนะว่าที่ปากมึงเจ่อเพราะกัดปากตัวเอง...คงไปเจอหมาที่ไหนกัดปากมาล่ะสิท่า ฮ่าฮ่า”



TBC

ดูท่าทางทุกคนจะเป็นกังวลเรื่องของตรฤณและกรมาก ฮ่าฮ่า
บอกแล้วว่าคู่นี้เค้าฮา ไร้ดราม่าแน่นอนค่ะ
แต่คู่หลัก...ก็ฮาตามกันไป ไร้ดราม่าอีกเช่นกัน
แต่ดูว่าตัวละครเรื่องนี้ จะวนเวียนกันไปกันมาอีกมากมาย....
เดี๋ยวคนนี้รักคนนั้น เดี๋ยวคนโน้นรักคนนู้น...ฮ่าฮ่า

ขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้นะค้าาา :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตามมาฮากระเป๋าหลุยส์  :jul3:

ดีจัง ไม่อืดมาม่า  :z2:

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
น่าร๊ากกกกกกกก.............อิอิ บทจะน่ารักก้อน่ารักกานหมดเยย อิอิ

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า

อ่านแระฮากับนิสัยของทุกคนเยย

รอรอน้า^^

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ aft22423

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
มีคู่ใหม่อีกใช่ไหมจ๊ะ รอดูอยู่เน้อ

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
 :m20: :m20: :m20: :m20:


เค้ารู้ทันอ่ะ  สอง  แก้ตัวไงดี

vi2212

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ooopimmyooo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
โธ่ นายตรฤณ
ไอเราก็นึกว่าจะก่อดราม่าซะแล้ว 5555

สองโดนหมากัดปากเจ็บมากมั้ย ตัวเองก็ไปกัดกับหมาด้วยเหมือนกันนี่

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ก๊ากกกกกกกกกกกกก ตรฤณช่างแสนรู้จริงๆว่าปากของสองอ่ะต้องโดนหมาที่ไหนกัดอ่ะ  :m20:   :m20:   :m20:  อย่างฮาอ่ะ

แต่เค้าสงสัยอยู่เรื่องค่ะ ว่าทำไมเด็กๆในฮาเร็มของสองแต่ละคน มันดูท่าทางเคะๆ กันทุกคนเลยอ่ะคะ ไม่มีใครเมะซักคน หรือสองจะชอบคนน่ารักๆ คะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Meen_Emp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
55555
สองถูกหมากัดปาก.....

ภูจัดการสองเลย 

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
หมากัดปากเหรอ :laugh:
ว่าแต่วินกับเขม :m28:

ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 13 พ่อ หรือ เพื่อน?

“กูไม่เชื่อหรอกนะว่าที่ปากมึงเจ่อเพราะกัดปากตัวเอง...คงไปเจอหมาที่ไหนกัดปากมาล่ะสิท่า ฮ่าฮ่า”

ฉลาดเกินควรอีกแล้วมั๊ยล่ะ ไอ้ตรฤณ!

___________________


“หรือว่าไม่จริง?”
ตรฤณถามอีกครั้งเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กข้างๆทำหน้างอง้ำแถมด้วยการปิดปากเงียบสนิทราวกับว่าไม่อยากตอบคำถาม

“.........”ความเงียบคือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับสองในตอนนี้

“ตอบกูมาตามตรง..ไม่งั้นขอให้ฮาเร็มมึงแตก!

ช่างเป็นคำแช่งที่กูรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินครับเพื่อนตรฤณ! ความสุขกูนะนั่น เอามาล้อเล่นได้ยังไง

“เออ!”เสียงเล็กกระแทกเสียงกลับอย่างเสียไม่ได้ ไม่ใช่กลัวว่าฮาเร็มตัวเองจะแตกอย่างที่ถูกสาปแช่ง แต่แค่คิดได้ว่าโกหกเพื่อนไปก็ไร้ประโยชน์

แสนรู้กว่าหมา แถมยังฉลาดยิ่งกว่าปลาโลมา ก็เลยขี้เกียจจะหาข้อแก้ตัว เพราะไม่ว่าจะแก้ตัวยังไงมันก็รู้ไต๋กูอยู่ดี!

“‘เออ’ในที่นี้หมายความว่ายังไง?”ทั้งสายตาและน้ำเสียงพากันพร้อมใจกันยียวนกวนประสาทเพื่อนตัวเล็กอย่างชัดเจน

“ก็เออ~..ไง!”สองตอบกำกวมแบบลากเสียง

“สรุปว่าโดนหมากัดปาก?”

“เอาชื่อหมาด้วยเลยมั๊ย?”สองถามทั้งที่รู้ว่าตรฤณรู้คำตอบดีอยู่แล้ว

“แน่นอน..เพื่อความมั่นใจ”

“หมาภูเบศธ์ไง? แม่งชิงเวอร์จิ้นกูแล้วยังมาชิงเฟริสคิสกูอีก เลวจริงๆ!”ถึงปากจะต่อว่าอีกฝ่ายเป็นเซ็ตคอมโบ แต่ทว่าใบหน้าหวานของสองกลับแดงซ่านขึ้นมาจนตรฤณต้องกลั้นขำเมื่อเห็นว่าสองออกอาการเขินอายอย่างเห็นได้ชัด

“มึงรู้ตัวมั๊ยว่าหน้ามึงแดง?”ตรฤณลองถาม

“กูรู้เว้ย! แม่งโมโหจนอยากเอาหัวมันมาเฉาะกินแทนลูกมะพร้าว”

“แน่ใจว่าไม่ใช่เขิน?”ตรฤณยังคงรุกถามอีก

ไม่แน่ใจเว้ย! มึงจะมาถามซักไซ้เอาอะไรกับกูมากวะตรฤณ....แค่นี้กูอายจะแย่อยู่แล้ว!”

ต้องมาเล่าว่าไปถูกใครกัดปากมา...ใช่ว่ากูเขินไม่เป็นนะเว้ย!
พอดีใบหน้ากูยังบอบบาง ไม่ถึงขั้นฉาบด้วยซีเมนต์แบบมึง!


“ที่มึงอาย เพราะมึงชอบเด็กนั่นล่ะสิ”น้ำเสียงตรฤณปรับเปลี่ยนเป็นราบเรียบ และแสดงเจตนาว่าคำถามที่ถามมานี้ไม่ได้กะว่าจะถามกวนประสาท..

แต่ที่ถามเพราะอยากได้ความจริง...กูจะได้รีบวิ่งไปบอกให้ทิวากรมาสู่ขอมึงให้หลานรหัสเขา!


“ไม่รู้ว่ะ....กูพูดจริงๆว่ากูไม่รู้ว่ากูรู้สึกยังไงกับเด็กนั่น น่ารำคาญก็เท่านั้น ปากหมาก็เท่านี้...ไม่มีข้อดีอะไรให้กูหลงมันสักอย่าง”สองบรรยายไม่เรื่อยตามแต่ใจจะคิดออก

“หน้าตา?”ตรฤณลองตั้งคำถาม

“หน้าผากก็เถิก จมูกก็บาน ไม่เข้าสเป๊ค ตัดไป”สองตอบหน่ายๆ พร้อมกับปัดข้อสันนิษฐานนี้ทิ้งไปอย่างไม่ใยดี

“เรียนเก่ง?”

“ข้อนี้กูว่ามันไม่ได้อยู่ในรายการสเป๊คในฝันกู เพราะฉะนั้นตัดไปอีกหนึ่ง”สองเดินไปคิดไปเรื่อยๆ จนตรฤณต้องรีบค้นหาข้อดูของเด็กหนุ่มปีหนึ่งนามว่าภูเบศธ์อีก

แหม่! มาว่าเรื่องเรียนเก่งไม่ใช่สเป๊ค! ได้ข่าวมาว่าแต่ละคนในสังกัดมึงเนี่ย เกรดเฉลี่ยอยู่ระดับขั้นว่าที่เกียรตินิยมกันทั้งน้าน~

“สูง?”

“มึงก็เห็นว่าเด็กกูสูงบ้างเตี้ยบ้าง เพราะงั้นตัดไปได้เลย”สองตอบสบายๆอย่างคนไม่คิดมาก แต่คนอย่างตรฤณเค้นสมองมาคิดจนจะหมดคำจะพูดอยู่แล้ว

“ปากหมา?”

“.........”

เฮ้ย? พอถามอย่างนี้ล่ะ ทำคิดนานเว้ย!

“ไอ้บ้า! เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่ทำให้กูชอบได้หรือไง..มึงไม่เห็นเหรอว่ากูไล่เตะไอ้เด็กนั่นอยู่เช้าเย็น”สองหันมาทำตาดุใส่

“อ้าว..ก็กูพูดแต่เรื่องดีๆมึงก็บอกว่าตัดไป กูก็ไม่รู้จะหาอะไรในตัวไอ้เด็กนั่นมาให้มึงชอบแล้ว”ตรฤณเริ่มหมดความอดทนจนได้

“ก็เพราะอย่างนี้น่ะสิกูถึงไม่ได้ชอบมันเข้าใจยัง?”   สองยิ้มเหมือนเป็นผู้ชนะใจตัวเองถึงจะเคยสับสนอยู่ในทีแต่พอสุดท้ายก็หาข้อมาลบล้างกลบหนี้ได้อย่างสมเหตุสมผล เพราะฉะนั้น สองไม่ได้ชอบเด็กเวรอย่างภูเบศธ์แน่นอน ชัวร์ป้าบ!

“เออ...ไม่ชอบก็ไม่ชอบ..ไอ้เด็กนั่นเปลี่ยนใจเมื่อไหร่แล้วอย่ามานั่งเสียใจทีหลังแล้วกัน!”ตรฤณถอนหายใจทิ้งก่อนจะเดินไปพร้อมกับสองที่เงียบไปจนสังเกตได้


_______________


“มาทำไม?!”

“คราวนี้มาดี เฮ้ย อย่าจับอาวุธสิกร!

ตรฤณค่อยเดินเข้าไปหากรอย่าสงบเสงี่ยมเจียมเนื้อตัว ก่อนจะทำตาโตร้องอย่างตกใจเมื่อกรใช้มือจับกระเป๋าสะพายที่อยู่ข้างๆตัวขึ้นมา

กูเกรงว่าครั้งนี้มันจะไม่หวุดหวิดเหมือนคราวที่แล้ว...เพราะไม่แคล้วว่ามันจะถูกหน้ากูจังๆถ้ายังยืนอยู่ในรัศมีสองเมตรนี้!

    “อาวุธบ้าอะไร?! นี่มันกระเป๋าฉัน ก็จะหยิบออกให้นายนั่งไง หรือว่าจะไม่นั่ง?”

โฮ่~ โล่งอกที่คราวนี้หลุยส์วิคตองไม่ใช่อาวุธที่จะทำร้ายกู แต่ถ้าเกิดกูไปตรงนั้น เห็นทีว่าอาวุธคงเปลี่ยนจากกระเป๋าเป็นมือของกรแทนซะละมั้ง

“ทีอย่างนี้ล่ะดุจัง~”ภูเบศธ์ที่กำลังนั่งก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่ข้างๆเงยหน้าขึ้นมองกรที่ดูจะอารมณ์ไม่ดีไปทันตาทั้งที่เมื่อกี้  ยังหาเรื่องก่อกวนอารมณ์คนอื่นแล้วตัวเองนั่งขำอยู่แท้ๆ
นี่ถ้าคาบเรียนต่อไปไม่มีควิซ ภูเบศธ์ก็คงไม่มานั่งอ่านตำราราวกับเด็กคงแก่เรียนแบบนี้ แถมพอตั้งใจจะอ่านหนังสือ ก็ดันโดนญาติผู้พี่ที่พ่วงตำแหน่งปู่รหัสกวนประสาทจนอ่านหนังสือไม่ทะลุเข้าหัว

“อ่านหนังสืออยู่เหรอภู...”ในเมื่อตรฤณเห็นภูเบศธ์นั่งอยู่ใกล้ๆจึงทักไปตามมารยาท

“เปล่าครับ......ซักผ้า”ภูเบศธ์สบตาตรฤณครู่หนึ่งก่อนจะก้มหน้าก้มตาลงไปอ่านหนังสือต่อ ทำเอาคนที่ถามไปตามมารยาทอึ้งไปหนึ่งดอก แต่ก็ต้องแหล่มองคนสวยอย่างไม่ค่อยชอบใจเมื่อ กรแหกปากหัวเราะแบบไม่รักษาภาพพจน์ความสวยไว้เลย

ช่างปากหมาสมกับที่ไอ้สองด่าเช้าเย็น!

“เอาน่า~ มันกำลังเครียดปล่อยมันไปเหอะ ว่าแต่นายมาหาฉันมีอะไร?”ในเมื่อหัวเราะจนหมดแม็กซ์ กรก็เริ่มหันไปสนใจตรฤณพร้อมกับยอมพูดจาดีๆด้วย

“เรื่องสองน่ะ”พูดจบก็ทิ้งตัวลงนั่งลงตรงข้ามกับกร โดยที่ไอ้เด็กที่ขยันอ่านหนังสืออยู่ข้างๆหันขวับมาสนใจสิ่งที่ตรฤณจะพูดต่อทันทีหนังสงหนังสือปิดดังตั้บเลยคิดดูเอาแล้วกัน

    “ทีอย่างนี้ทำมาเป็นสนใจ..ไม่ซักผ้าต่อล่ะ?”ตรฤณได้ทีก็ตอกกลับคืนพอเป็นพิธี แต่ยังไม่ทันที่ภูเบศธ์จะเดือดดาล กรก็เป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาแทนโดยการเอาสมุดของภูเบศธ์ที่วางอยู่ใกล้มือม้วนเป็นทรงกระบอก แล้วซัดเข้าให้ที่แขนของตรฤณ

“อย่าไปกวนน้องฉัน! เล่ามาว่ามีอะไร”กรเค้นถามทำเอาตรฤณและภูเบศธ์มองตากันแล้วพากันหันไปสนใจกร

“แล้วก่อนที่พี่ตรฤณจะมา...หมาตัวไหนมันกวนฉันจนไม่ได้อ่านหนังสือล่ะ?”

“ใช่สิคนนี้น่ะ..แตะต้องไม่ได้เลยนะ รักจังอ่ะ!”ภูเบศธ์และตรฤณรวมหัวกันประชดกรคนละเรื่องเดียวกัน ทำเอากรทำตาเขียวใส่สองหนุ่ม

“พอเลยทั้งสองคน...ตรฤณเล่ามาว่ามีอะไร” เหมือนคราวนี้ว่ากรจะแก้ตัวไม่ขึ้นเลยต้องทำเป็นวางอำนาจแล้วสั่งการให้ตรฤณพูดในเรื่องที่จะนำมาเสวนาในวันนี้ ในเมื่อครบองค์ประชุม ก็พร้อมที่จะชุมนุมได้

“คืองี้..เรื่องสองน่ะ...มันเพิ่งบอกกับฉันว่ามันไม่ได้ชอบภู”
ตรฤณพูดจบภูเบศธ์นั่งคอตกแต่กรยังถามต่อ

“แล้วไง?”

“แต่ฉันว่า..มันชอบภูนะ”ประโยคนี้ทำเอาเจ้าของชื่อชูคอขึ้นมาสนใจอีกครั้ง

“แต่แค่ว่า...มันยังไม่ยอมรับหัวใจของมันเอง”ตรฤณพูดต่อ

“งั้น....ฉันว่าฉันมีแผนนะ”กรรีบเสริมขึ้นมาพร้อมกับทำแววตาวิบวับราวกับคนคิดแผนเด็ดได้

“แผน?”ตรฤณและภูเบศธ์พูดพร้อมกันก่อนจะหนไปสนใจกรอีกครั้ง

“แผนที่ทำให้สอง...รู้ตัวว่าหลงรักไอ้เด็กปากหมาคนนี้เข้าแล้วยังไงล่ะ!”

กูว่าสมแล้วที่ที่กรได้ตำแหน่ง...แกนนำผู้ก่อการ‘ร้าย’ ของไอ้สอง!
แต่สำหรับกู เห็นทีว่าจะต้องเป็นผู้ก่อการ ‘รัก’ ซะมากกว่า!


“แล้วแผนที่ว่ามันคืออะไร?”กรรีบหันไปตามเสียงที่ถามขึ้นมาทันที

“พอถึงเวลาแล้วฉันจะบอก”กรว่าโดยที่ภูเบศธ์และตรฤณหันมองหน้ากันโดยมิได้นัดหมายเอาไว้ล่วงหน้าอีกครั้งด้วยความที่ไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่กรกำลังคิดอยู่

“แล้วเรื่องของเราล่ะ? เมือไหร่จะถึงเวลา”

“หือ? นายว่าอะไรนะ?”ถึงแม้เมื่อสักครู่กรจะได้ยินเต็มสองรูหู แต่ลองถามดูอีกครั้งเผื่อตรฤณจะเปลี่ยนคำถาม เพราะถ้าหากไม่เปลี่ยนคำถาม...ก็เตรียมโดนหนังสือเด็กปีหนึ่งตีหัวได้เลย

“เอ่อ ช่างมันเถอะไม่ใช่สาระสำคัญอะไรหรอก”ตรฤณยิ้มแก้มปริที่หาทางคงอยู่ของเงาหัวเอาไว้ได้...โดยมีภูเบศธ์แอบนั่งขำอยู่คนเดียว

เพราะหากยังถามซ้ำรอบสอง รับรองได้เลยว่าหัวพี่ตรฤณหลุดออกจากบ่าชัวร์!

________________________


ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ คณะบริหารธุรกิจยังคงดูวุ่นวายเช่นเดิม ถึงแม้จะอยู่ในเวลาเรียน แต่บางคนที่ตั้งใจเรียนจนไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ก็ต้องเดินออกจากห้องเรียนมาหาอะไรดื่มเพื่อถ่างตาอยู่ให้ครบสามชั่วโมงสำหรับการเรียนต่อหนึ่งคาบ บางคนที่ไม่มีเรียนก็นั่งเล่นคุยกันไปเรื่อยอยู่ใต้คณะเพื่อรอเวลาเรียน
ส่วนชวิน...คนที่ไม่ได้เรียนอยู่ในคณะนี้แต่ต้องมาคณะนี้ทุกวันตามคำสั่งของสอง พอเริ่มไม่มีอะไรทำ เพื่อนเข้าเรียนหมด ก็เริ่มเสาะหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อทำฆ่าเวลา แต่คิดให้ตายก็คิดไม่ออก ก่อนหน้านี้ที่ตามเพื่อนมาที่มหาลัยด้วย ก็ไปนั่งเรียนด้วยตลอด แต่ทว่าหลังจากที่เจอน้องเขมที่คณะ ชวินกลับยืนยันว่าจะไม่ไปนั่งเรียนแต่จะนั่งเป็นเป้าสายตาอยู่ข้างล่างเผื่อน้องเขมจะแวะเวียนมาหาอีก

_______________


~RRRRRRRRRRrrr~

เสียงเครื่องมือสื่อสารแบบพกพาของใครบางคนดังขึ้น จนคนในห้องเรียนรับรู้อย่างทั่วถึงรวมไปถึงอาจารย์ที่กำลังเคร่งอยู่กับการสอนด้วย ถึงได้มองลอดแว่นมาทางหนุ่มน้อยที่กำลังเทเป้ตัวเองเพื่อหามือถืออย่างคนตกใจ เพราะตอนแรกเสียงมันดังขึ้นเจ้าตัวก็พยายามควานหาเพื่อนำมาปิดเสียง แต่สุดท้ายแล้วก็หาไม่เจอ และไม่อาจทราบได้ว่ากระเป๋าใบนั้นมันรกมากหรืออย่างไร “กมลินทร์” ถึงหามือถือที่ใส่ไว้ในกระเป๋าเป้ตัวเองไม่เจอ

“อ๊ะเจอแล้ว!    ” สองพูดขึ้นอย่างดีใจเมื่อเทกระเป๋าลงบนโต๊ะหมดแล้วก็เจอลูกรักดิ้นครืดๆพร้อมกับแผดเสียงเพลงดังลั่นจนลืมสนใจสิ่งรอบตัว ทั้งสายตาของเพื่อนทุกคนที่จับจ้องมายังสอง รวมถึงอาจารย์ที่สอนอยู่หน้าห้อง...และตรฤณที่เนียนเขยิบตัวออกห่างสองไปอีกสองเก้าอี้ราวกับว่าไม่ใช่คนรู้จักกัน สองรีบตัดสายทันทีเมื่อเห็นว่าชื่อใครปรากฏเด่นหราอยู่บนหน้าจอ  แล้วเงยหน้าขึ้นไปก้มหัวขอโทษอาจารย์ผู้สอนอย่างเกรงใจ แต่ยังไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์ก็แผดเสียงขึ้นอีกครั้งราวกับกลั่นแกล้งเพราะสองยังไม่ได้ปิดเสียง

“ถ้ามันจะยังดังอยู่อย่างนั้น อนุญาตให้ออกไปคุยธุระร้อยล้านที่ด้านนอกได้นะ”ฟังดูก็รู้ว่าโดนอาจารย์ก่อนจะมีเสียงหัวเราะเบาๆจากทุกสารทิศของห้องเรียนดังขึ้นจนสองต้องรีบเอาลูกเดินออกจากห้องเรียนแล้วกดรับสายทันที

“โทรมาหาแป๊ะมึงเหรอ?  มึงก็รู้ว่ากูเรียนอยู่” ทันทีที่รับสายสองก็กรอกเสียงด่าไปตามสายทันที

“อ้าวถ้าเรียนอยู่ทำไมถึงรับโทรศัพท์กูได้?”

“ก็กูโดนไล่ออกมานอกห้องเป็นที่เรียบร้อยที่กูดันลืมปิดเสียง เพราะมึงคนเดียวเลย แม่งอายตายห่า”  สองบ่นงุ้งงิ้งพอเป็นพิธีก่อนจะถามต่อถึงสาระสำคัญที่ทำให้ชวินต้องโทรมากลางเวลาเรียนแบบนี้

“ว่าแต่มึงมีอะไรทำไมถึงโทรหากู”

“อย่ามาทำเป็นบ่นกูรู้หรอกว่ามึงกะว่าจะออกจากห้องเลยแล้วไม่กลับเข้าไปอีก”
“แน่นอน! มึงอย่ามาทำเป็นรู้มากรีบพูดมา”สองพูดไปก็เดินลงไปชั้นล่างกะว่าจะเดินลงไปสมทบกับชวินที่อยู่ด้านล่างส่วนกระเป๋าเป้ที่ทิ้งไว้บนห้องเดี๋ยวค่อยส่งเมสเสจไปบอกให้ตรฤณเอาติดมือมาด้วยตอนเลิกเรียน

“มึงมีเบอร์น้องเขมป่ะ?”

ห๊า! เพราะเรื่องนี้นี่นะที่มึงโทรมาทำให้โทรศัพท์กูดังแล้วต้องอายเพื่อนยกห้องน่ะ! ไอ้วิน กูลงไปถึงเมื่อไหร่จะชกหน้ามึง!

“ไม่มี!”

กูงอนนะเว้ย!  นอกจากมึงซึ่งเป็นรักแรกกูกำลังจะมีรักใหม่ แถมยังเป็นรักใหม่กับเด็กเก่ากูอีกต่างหาก! มันน่านัก

“โกหก!”

“ก็รู้ว่ากูโกหกแล้วจะถามกูทำเพื่อ?..แค่ขอเบอร์หมอเขมตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง”สองบ่น

“เออนั่นแหล่ะขอเบอร์!”

“เตรียมจดนะมึง”
สองว่าผ่านโทรศัพท์ทั้งที่เดินไปถึงข้างหลังชวินเป็นที่เรียบร้อย

“กูไม่มีกระดาษว่ะ”ชวินว่าเพราะมีแต่ปากกาอยู่ในมือ ซึ่งเป็นปากกาที่พกติดตัวเสมอ

“เอาตีนกูมั๊ย..มันยังพอมีที่ว่างให้มึงจดอยู่”
สองพูดพร้อมกับยกเท้าใส่วินอย่างหมั่นไส้

“กวนตีนแล้วมั๊ยมึง”พอได้ยินเสียงสองที่ไม่ใช่มาจากโทรศัพท์ชวินก็หันหลังไปเจอฝ่าเท้าของสองก่อนจะจับข้อเท้านั้นลงไปวางกับพื้นเช่นเดิม

บุญเท่าไหร่แล้วที่ไอ้สองไม่ฟรีคลิ๊กเข้าที่กลางหลังกูน่ะ

“ทำไมมาหึงอะไรเอาป่านนี้..มึงบอกกูเองนี่ว่าเด็กนี่มึงยกให้กู”

“ไม่ได้หึงแต่หมั่นไส้!” สองกระแทกก้นลงข้างๆชวินก่อนจะทิ้งหัวลงซบกับไหล่เพื่อนรักอย่างออดอ้อนไม่เข้ากับอารมณ์โมโหก่อนหน้าเอาเสียเลย

“หมั่นไส้แต่มาซบไหล่กู..มันหมายความว่ายังไงวะ?”ฝ่ายที่โดนซบไหล่ว่าขำๆก่อนจะดันหัวสองให้ตั้งตรงอย่างเดิมทั้งที่สองเองก็ไม่ค่อยพอใจ

“ก็มึงกำลังจะมีแฟน...” สองพูดเสียงอ่อนก่อนจะเอนหัวไปซบไหล่ชวินอีกครั้งราวกับมีแรงดึงดูดระหว่างหัวตัวเองกับไหล่ของอีกฝ่าย แล้วติดแปะไม่ยอมลุกถึงแม้ชวินจะพยายามดันออก..จนสุดท้ายจนปัญญาก็ต้องยอมให้ซบไหล่อยู่ดี

“มึงก็หาแฟนบ้างสิ..”ชวินว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ใครล่ะ?..เป็นมึงก็ไม่ได้..หมอเขมก็เพิ่งถูกมึงเคลมไป..น้องบอลก็ถูกกรร่ายมนต์ดำใส่จนไม่กล้ามาเจอหน้ากู”

“ภูเบศธ์ล่ะ?”ชวินเสนอเพราะเหมือนสองจะลืมไปอีกหนึ่งชื่อถึงบางคนที่สองเอ่ยขึ้นมาชวินจะไม่รู้จักก็ตามที

“โอย...ปล่อยมันไปตามบุญตามกรรมเหอะ..แค่นี้ยังจองเวรจองกรรมกันไม่พออีกหรือยังไง..ไม่ว่ากูจะหันไปทางไหนแม่งก็พากันพูดแต่ชื่อนี้...กูชักเซ็ง”สองบ่นยืดยาวแต่นั่นกลับทำให้วินหัวเราะ

“ก็เพราะมึงเหมาะกับไอ้เด็กนั่น มึงไม่รู้ตัวจริงๆเหรอ? ไม่งั้นน่ะไม่มีคนเชียร์หรอก”

เชียร์หรือจับกูใส่พานแล้วประเคนใส่ปากไอ้เด็กนั่นกันวะ?!

“แต่กูไม่ได้ชอบไอ้เด็กนั่นนี่!”สองรีบเถียงกลับ

“อ๋อ..ถึงว่า...เด็กนั่น....” ชวินพูดขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มหน้าตาคุ้นๆกำลังเดินอยู่กับใครบางคนแล้วกำลังจะเดินขึ้นตึกโดยที่ไม่ได้สนใจคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งที่ทุกทีจะต้องส่องหาเป็นอันดับแรก

“เด็กนั่นอะไร?”สองถามอย่าสงสัยแต่วินกลับไม่พูดอะไรทำแค่เพียงสะกิดให้สองมองเห็นเด็กที่ตัวเองกำลังพูดถึง

ภาพเด็กเวรภูเบศธ์ กำลังหัวร่อต่อกระซิกกับเด็กผู้หญิงต่างคณะตรงบันไดทางขึ้นตึก กระแทกเข้าสู่สายตาสองเต็มๆ!

“ถึงว่า เด็กนั่นถึงได้มีเป้าหมายใหม่ที่ไม่ใช่มึง”วินพูดเสริมภาพได้อย่างลงตัวพลางแอบสังเกตอาการของเพื่อนรัก
ไม่อยากจะบอกเลยว่ากูก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อการร้ายของไอ้สอง..เมื่อวานนี้เอง!

“อ้าว..ไง...ดีใจใช่มั๊ยล่ะที่หมดเวรหมดกรรมกับเด็กนั่นได้สักที..ไปดื่มฉลองกันดีมั๊ย?”วินลองเสนอ...ตามแผนของกร(อีก)

“เออ! ไม่ถึงตีสองกูไม่กลับ!”สองพูดอย่างมาดมั่นพร้อมกับสายตาที่ยังคงมองเด็กหนุ่มที่เคยคุ้นและเด็กผู้หญิงแปลกหน้าเดินขึ้นตึกไป

สองพยายามบอกตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไรกับภาพตรงหน้า ไม่ใช่ดีใจหรือว่าเสียใจทั้งสิ้น แต่บางทีมันเหมือนถูกหักหน้ามากกว่าก็ดันเห็นคนที่ตามจีบตัวเองอยู่ไปเดินหวานกับคนอื่นต่อหน้าต่อตาแบบนั้น มันน่านัก!

จะทำอะไร จะจีบใครใหม่ก็เชิญเล้ย ภูเบศธ์!
เพราะคืนนี้ กมลินทร์ จะดื่มฉลองสละโสด ไหนๆเด็กในฮาเร็มก็หายหมดแล้ว!


____________________


“คราวนี้ก็ต้องใช้ยานอนหลับอีก”

“แล้วก็จับสองขึ้นเตียงกับภูเบศธ์โอเคมะ? ”ทั้งประโยคแรกและประโยคที่สองกรเป็นคนพูดเองทั้งหมด โดยมีหนุ่มหน้าหล่อต่างสไตล์สามคนนั่งฟังอย่างตั้งใจ

หล่อแรก...ขาวตี๋อินเทรน มาแรงในกระแสวัยรุ่นผู้หญิงเดี๋ยวนี้..แต่ไม่ว่ายังไงกรก็มองว่าหน้าเหมือนหมีอยู่วันยังค่ำ

หล่อสอง...สูงยาวเข่าดีตาโตคิ้วเข้มแถมผิวเข้มเป็นของแถมถ้าบังเอิญว่ากรไม่ได้ชอบของขาวๆ ก็คงก็ชมได้เต็มปากว่าไอ้หนุ่มนี่หล่อลากดิน

หล่อสุดท้าย...บรรยายไม่ค่อยจะถูกเนื่องจากเห็นหน้ามันตั้งแต่อ้อนแต่ออก...แต่เท่าที่รู้หล่อที่สุดในบรรดาหนุ่มๆที่นั่งอยู่ตรงนี้!
(หาเรื่องเข้าข้างได้ตลอดอ่ะกูหมั่นไส้! : จากผู้คนที่หมั่นไส้ภูเบศธ์แต่ไม่เคยแสดงออก มีอักษรย่อ ต. นำหน้า)

“ไม่ได้!” เสียงของหนุ่มที่สองดังขึ้นห้ามถึงตอนแรกจะรู้ว่ากรจะใช้ยานอนหลับ แต่พอบอกถึงเรื่อง “ขึ้นเตียง” ชวินกลับร้องคัดค้านอย่างหัวชนฝา โดยที่มีตรฤณทำตาเหมือนจะเห็นด้วยแต่แสดงออกอะไรมากไม่ได้   เพราะยังมีความเกรงใจกรอยู่ไม่น้อย

“ทำไมจะไม่ได้ ก็ให้ภูเบศธ์รวบหัวรวบหางสองซะ จะได้เลิกซ่าแถมยังรู้ตัวว่ารักภูเบศธ์อ่ะ”กรเถียงคืนแต่วินก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่ได้ๆเพื่อนฉัน..ฉันก็หวง” ชวินพูดด้วยสีหน้าเคร่งเพราะรู้ถึงเรื่องที่สองโดนชิงเวอร์จิ้นไปรอบที่แล้วนั้นไม่เป็นความจริง แต่ถ้าครั้งนี้ยังสร้างสถานการณ์อย่างนี้อีกเกรงว่าจะได้เสียกันจริงๆน่ะสิ
“เอางี้...ถ้าวางยานอนหลับไอ้สองจริงๆ ภูเบศธ์อย่าทำอะไรไอ้สองมันได้ป่ะ? แค่นอนเฉยๆแบบคราวที่แล้วน่ะ”ในเมื่อเห็นทีท่าไม่ค่อยดีเพราะเดี๋ยวชวินจะเปิดฉากตีกันกับกรเสียก่อน ตรฤณเลยต้องหาทางอื่นมาแก้ขัดโดยหันไปตกลงกับภูเบศธ์แทน

“ผมไม่มั่นใจตัวเอง”ภูเบศธ์ตอบตามความจริงเพราะแค่ครั้งที่แล้วตอนตื่นขึ้นมาก็ยังเกือบเผลอทำอะไรต่อมิอะไรสองอยู่แล้ว ดีที่เจอลูกถีบก่อนเลยพอจะตั้งสติได้บ้าง

“แหม่~    หยวนๆเหอะโตๆกันแล้วเรื่องแบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าร้ายแรงอีกอย่างภูเบศธ์น่ะมันรักจริงหวังแต่งนะ” ในเมื่อมองจากสถานการณ์กรก็พอมองออกเลยว่าตอนนี้กำลังตกลงทำสนธิสัญญาอยู่กับพ่อของสองถึงสองคนที่หวงลูกชายราวกับไข่ในหิน

อ้อ ถึงว่า ~ ตรฤณถึงชอบหาเรื่องขัดตลอดเวลาที่เห็นภูเบศธ์ถึงเนื้อถึงตัวสอง ถึงจะไม่ค่อยแสดงออกชัดเจนก็เหอะ แต่ชวินนี้..แสดงออกชัดเจนว่าหวงเพื่อนเกรงว่าหากยังเล่นไม้แข็งกับคนคนนี้ ภูเบศธ์จะไม่ได้ทั้งตัวและหัวใจของสองซะเปล่าๆ

“ก็เข้าใจนะ...ว่าถ้าให้ได้ใกล้ชิดกับคนที่รักมากๆแบบนั้นจริงๆมันอดใจยากแต่นายต้องทำเพื่อพิสูจน์สิว่ารักสองจริงๆไม่ใช่ว่าหวังแต่ตัว” ชวินเสนอซึ่งภูเบศธ์ก็ต้องตอบรับอย่างว่าง่าย

นั่นสินะ..ก็รักสองซะขนาดนี้..จะยอมทำตัวเป็นคนดีสักวันก็ได้วะ!

“โอเคนะ...ตกลงว่าวางยาสองอีกรอบ แล้วทำเหมือนเดิม”กรสรุปและทุกคนก็เห็นด้วย แต่ใครบางคนจากหนึ่งในสี่กลับเห็นด้วยและคิดแผนต่อยอดได้ขึ้นอีกหนึ่งแผนอย่างแยบยล~


_____________


“ไปกันเลยป่ะ?”วินกระทุ้งศอกถามเพื่อนตัวเล็กเบาๆเมื่อสองกำลังสนใจอย่างอื่นมากกว่าตัวเอง



แหม่! น่าหมั่นไส้ กระหนุงกระหนิงกันได้ใจกูจริงๆ!
แต่สองกลับไม่ได้ยินคำที่วินพูดเพราะมัวแต่จ้องปร์คภูเบศธ์กับเด็กผู้หญิงคนอื่นที่เพิ่งเดินผ่านหน้าไปหลังจากที่พวกเขากำลังจะเดินออกจากคณะ


“มึงว่าสองมันหึงภูเบศธ์เปล่าวะเพื่อน?”ในขณะที่สองจ้องจะกินเลือดกินเนื้อภูเบศธ์อยู่ลืมสนใจคนอื่น เพื่อนและเพื่อก็แอบกระซิบกระซาบกัน

“กูก็อยากคิดอย่างนั้นนะเพื่อน แต่แม่งสายตาเหมือนอยากแดกหัวไอ้เด็กนั่นมากกว่าหึงอีกว่ะ”เพื่อนพูดจากภาพที่เห็น

“ไอ้สองนี่แม่งเข้าใจยากจริงๆ”ตรฤณส่ายหน้าก่อนจะมองหน้าชวินที่เห็นด้วยกับคำพูดของตัวเอง

“ลองมอมเหล้ามันมั๊ยล่ะ? เผื่อมันจะยอมพูดอะไรบ้าง”ชวินลองเสนอ

“เอาสิถ้ามึงมอมไอ้สองได้อ่ะนะ~”ตรฤณกระซิบตอบกลับโดยที่ทำตายิ้มๆเพราะรู้กันดีว่าเห็นอย่างนี้สองก็ฉลาดกว่าที่คิดไว้เยอะ(ในบางเรื่องก็เท่านั้นแหล่ะ)

“พวกมึงกระซิบอะไรกัน?”

“อ๊าว! ก็มึงอยากเผลอ กูจะจีบกัน กับไอ้วินบ้างจะเป็นไร”ตรฤณทำตาหวานหยดย้อยพร้อมกับกระแซะตัวใหญ่ๆใส่เพื่อนร่างสูงโปร่งอย่างออดอ้อน เพื่อเสริมคำพูดทำเอาสองต้องปิดตาด้วยความอนาถใจ

ตัวก็ใหญ่ แต่แรดได้ใจจริงๆเลยมึงอ่ะ!

“พอเหอะตรฤณ..กูรับไม่ได้...ว่ามาอยากไปที่ไหน”ในเมื่อถามไปเห็นทีจะไม่ค่อยได้ความก็ขอวกกลับเข้าเรื่องที่วินถามเอาไว้ตั้งแต่ต้น

“ที่เก่ามั๊ยมึง...ที่เก่าที่เป็นต้นตอให้มึงเสียเวอร์จิ้นให้ไอ้เด็กนั่น”

“ความคิดมึงบรรเจิดมากครับสถานที่แห่งความหลังกูไม่อยากไปให้เสียความรู้สึกหรอกเว้ย!”สองรู้สึกหงุดหงิดทันที ยิ่งพูดถึงไอ้เด็กปากหมาเท่าไหร่สองก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดใจมากเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

“งั้นไปที่ใหม่ก็ได้..”ตรฤณว่าก่อนจะควงพวงกุญแจรถเล่น

“ที่ไหน?”สองเลิกคิ้วถาม

“เดี๋ยวถึงแล้วมึงก็รู้เอง ตามมาเหอะ” ตรฤณยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเดินนำหน้าสองและวินไปที่รถทันที

_______________________________


ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป

.

ผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที รถออดี้สีน้ำเงินเข้มก็จอดเทียบหน้าร้านอาหารกึ่งร้านนั่งดื่มที่มีให้เห็นทั่วไป สองและวินลงจากรถก่อนที่ตรฤณจะขับรถไปหาที่จอดในลานจอดรถที่อยู่ข้างๆร้าน บรรยากาศดูสบายๆ เปิดเพลงคลอเบา แถมแสงไฟสลัวๆ แบบนี้สองล่ะชอบนัก! 
ว่าแล้วร่างของคนสองคนก็เดินเข้าไปภายในร้านโดยมีพนักงานออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่น ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะนั่งที่พนักงานเสิร์ฟจัดเตรียมไว้ให้ ไม่นานนักตรฤณก็ตามมาสบทบอีกหนึ่ง

“อยากสั่งอะไรมึงสั่งเลย..กูเลี้ยงปิดฮาเร็ม”สองพูดอย่างใจใหญ่ทำให้ตรฤณและวินต้องหันมามองหน้ากัน

“เฮ้ย~ หิมะตกเมืองไทยชัวร์ป้าบว่ะมึง! คนขี้งกอย่างไอ้สองออกปากเลี้ยงพวกเรา”


“จะกินไม่กิน?!” สองถือสมุดเมนูเตรียมฟาดหัวพร้อมคำขู่ทำให้ตรฤณผู้บังอาจแซวสองต้องสงบปากสงบคำ

“กินๆ...แม่งดุจริง ถึงว่าภูเบศธ์มันถึงทนจีบได้ไม่นาน”ตรฤณพูดลอยๆแต่ทำเอาสมุดเมนูลอยข้ามโต๊ะไปถูกหัวตรฤณราวกับจับวาง

“อย่าพูดถึงไอ้เด็กนั่น ไม่งั้นมีต่อยอีกแน่!”สองชี้หน้าขู่จนตรฤณต้องทำคอหดด้วยความกลัวจะมีก็แต่วินที่จิบเบียร์ที่พนักงานเพิ่งเสิร์ฟให้ไปพลางมองดูสองและตรฤณต่อปากต่อคำกันเล่น

“ถามจริงเหอะ มึงกลัวสองจริงเหรอวะ?”ในขณะที่สองกำลังจิ้มนู่นจิ้มนี่บนเมนูเพื่อสั่งอาหารกับพนักงาน วินก็ค่อยๆวางแก้วเบียร์ลงบนโต๊ะก่อนจะถามตรฤณ

“ท่าทางอย่างนั้นน่ากลัวตาย...”ตรฤณว่าขำๆก่อนจะยกแก้วขึ้นมาจิบเบียร์บ้าง

“ก็พอจะเข้าใจอะไรบ้างแล้วล่ะ..เพราะแต่ละคนที่มึงชอบ ดุๆทั้งนั้น”วินพูดยิ้มๆแต่กลับโดนตรฤณตบขาเข้าให้เพื่อเตือนสติก่อนจะเหลือบมองไปทางสอง แล้วก็ต้องโล่งอกเพราะดูเหมือนบุคคลที่กำลังพูดถึงไม่ได้ยิน

แต่ก่อนกูก็แค่หลงผิด อย่าได้คิดเชียวว่ากูเคยแอบชอบไอ้สองมันน่ะ!

   “มันไม่ได้ยินหรอกน่า...อย่างมันน่ะไม่รู้เรื่องหรอก” ชวินว่าก่อนจะมองไปยังสองที่ยังคงสั่งอาหารเจื้อยแจ้วอยู่คนเดียว จนพนักงานเสิร์ฟเริ่มอมยิ้มแปลกๆ

ติดใจความน่ารักของไอ้สองมันอีกคนแล้วล่ะสิ!

“มึงเลิกสั่งได้แล้วกูจะสั่งมั่ง!” ตรฤณรีบตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการเรียกพนักงานเสิร์ฟมาใกล้ๆบ้าง เพราะอย่างนี้ไงพวกเขาถึงไม่ค่อยไว้ใจคนอื่น การเป็นเพื่อนกับสองก็เหมือนพ่วงตำแหน่งคุณพ่ออีกตำแหน่งต้องคอยระวังและหวงสองไม่ให้หนุ่มๆหน้าไหนมายุ่งด้วยถ้าไม่ผ่านการตรวจเช็คโดยตรฤณหรือไม่ก็วิน

“ก็เห็นแม่งนั่งคุยกันอยู่สองคน กูก็สั่งเองหมดเลย”ใบหน้าหวานติดจะรำคาญก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่มตามเพื่อนอีกสองคนบ้าง

ไม่นานเกินรออาหารทั้งหมดที่สั่งก็ค่อยๆทยอยเสิร์ฟบนโต๊ะ ทั้งสามหนุ่มกินไปคุยไปอย่างออกรสชาติ สักพักพอเหยื่อเผลอ ตรฤณก็จัดการใส่ยานอนหลับลงในแก้วเบียร์ของสองอย่างแนบเนียนโดยที่สองไม่สังเกตเห็นแล้วสักพักแขกของร้านที่พนักงานพากันต้อนรับ แต่สำหรับสองอาจอยากจะเตะออกนอกร้านให้รู้แล้วรู้รอดก็โผล่เข้ามาในร้าน แถมเหมือนไม่เห็นพวกสองที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเสียด้วย

“โลกกลมจริงๆ”สองออกอาการเซ็งอย่างเห็นได้ชัดพร้อมกับยกแก้วเบียร์ที่เพิ่งถูกใส่ยานอนหลับขึ้นดื่ม โดยที่ตรฤณเองก็ลุ้นจนตัวโก่งเช่นกัน

“อะไรของมึง?..นั่นกร ภูเบศธ์นี่...อ้าวแล้วมากับใครอีกคนล่ะนั่น?”ตรฤณมองตามสองก่อนจะเจอเป้าหมายที่นัดแนะไว้ก่อนแล้วล่วงหน้าแต่ก็ทำท่าทางประหนึ่งตกใจ จนวินอยากให้รางวัลตุ๊กตาทอง

“ไม่เรียกให้พวกนั้นมานั่งด้วยกันล่ะ?” วินพูดขึ้นบ้างหลังจากเงียบอยู่นานแต่สองกลับส่ายหน้ารัว

“ถ้ามึงอันเชิญพวกนั้นมานั่งโต๊ะด้วย กูกลับ!”สองไม่ได้พูดอย่างเดียวแต่ดูท่าว่าจะทำอย่างที่พูดด้วยจนตรฤณต้องปรามเอาไว้

“เออๆ..ไม่ชวนก็ไม่ชวน..แต่ว่ากูคงต้องไปทักพวกนั้นหน่อย..อีกอย่างกูอยากรู้ด้วยว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร..น่ารักซะด้วยสิ ” พูดจบก็ย้ายก้นออกจากโต๊ะโดยที่สองก็มองตามหลังไปพร้อมกับยกเบียร์ดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว

และเพียงไม่นานนัก..สองก็หมดสติดับคาโต๊ะ ก่อนที่วินจะหันไปเรียกตรฤณ มือใหญ่กลับใส่อะไรบางอย่างลงไปในแก้วตรฤณอีก พอเสร็จธุระวินก็เรียกตรฤณมาที่โต๊ะทันที

จะทำการใหญ่ทั้งที ต้องเตรียมการดีๆอย่าให้ใครรู้!

“หลับสนิทเลยแฮะ” ตรฤณสะกิดสองตั้งแต่เบาจนถึงแรงแต่สองก็ทำตัวอ่อนปวกเปียกไร้สติเหมือนอย่างเคย ทั้งกร ภูเบศธ์ และวินมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันไปหลังจากที่ให้น้องหน้าม้ามาเล่นละครตบตากลับไปแล้ว

“เอาล่ะ..นายก็เอาตัวสองไปได้เลย” กรหันไปสั่งภูเบศธ์ซึ่งเตรียมเดินเข้าไปแบกสอง แต่ทว่าโดนชวินตัดหน้า

“เดี๋ยวฉันหิ้วไอ้นี่ไปส่งที่รถให้ นายก็ตามมาแล้วกัน”ชวินพูดเรียบๆก่อนจะหิ้วปีกสองออกจากร้านไปโดยมีภูเบศธ์เดินตามไปติดๆ

“ภูเบศธ์...”เมื่อเดินมาถึงรถของภูเบศธ์วินก็นำตัวสองไปนั่งเบาะหน้าข้างคนขับก่อนจะเอ่ยชื่อภูเบศธ์เสียงเข้ม

“อย่าล่วงเกินไอ้สอง...เข้าใจ?”ถึงน้ำเสียงจะราบเรียบแต่ภูเบศธ์หลับรู้ดีว่านี่คือคำสั่ง ภูเบศธ์พักหน้าก่อนจะพูดว่า

“เพื่อคนที่ผมรัก...ผมทำได้ทุกอย่าง”ภูเบศธ์ยิ้มรับก่อนจะโค้งให้ชวินนิดๆแล้วก็ขับรถออกไป พอรถหายไปจากสายตา วินกลับยกยิ้มอย่าเจ้าเล่ห์เมื่อแผนหนึ่งสำเร็จก็ยังเหลืออีกแผนที่ยังคงต้องจัดการ


“อ้าว.....กรไปไหนซะล่ะ?”
เมื่อเดินมาถึงที่โต๊ะ กลับเห็นตรฤณนั่งอยู่คนเดียว
แหม่! โชคจะเข้าข้างกูไปถึงไหนวะเนี่ย?

“ไปเข้าห้องน้ำน่ะ”ตรฤณตอบพอได้ยินอย่างนั้น ชวินก็เตรียมเสิร์ฟแก้วใหม่ให้กรทันที       พร้อมกับแอบใส่อะไรบางอย่างที่เคยใส่ไว้ในแก้วตรฤณก่อนหน้านี้ด้วย สักพักกรก็กลับมาพร้อมกับที่สามหนุ่มนั่งฉลองกันครื้นเครงไป ปริมาณยาที่ชวินใส่นั้นน้อยมาก แต่จะค่อยๆออกฤทธิ์ ไม่ถึงขั้นดับสนิทอย่างสองทันที แต่จะค่อยๆเบลอ แล้วออกอาการง่วงนอนอย่างเห็นได้ชัด

“รู้สึกง่วงๆเนอะว่ามั๊ย?” ตรฤณสะบัดศรีษะเหมือนพยายามไล่ความง่วงแต่ทว่าสะบัดเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกว่าเปลือกตาเตรียมจะปิดสนิทอยู่ดี

“นั่นสิ...ฉันก็รู้สึกว่าง่วงๆนะ..หรือว่าเมาแล้วล่ะเนี่ย?~” กรเองก็มีอาการไม่ต่างจากตรฤณเท่าไหร่ ชวินถึงกับลอบยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์

นี่แหล่ะรางวัลสำหรับแกนนำผู้ก่อการร้ายทั้งสองตัว รับรองตื่นเช้ามาได้เป็นผัวเมียกันชัวร์ๆ!..กูฟันธง!


:: TBC ::

 o18 << ชวินเป็นอย่างนี้เลยล่ะค่ะ หน้าหล่อ แต่แอบถือมีดอันแหลมคม ฮ่าาาาา
สรุปงานนี้ กรที่ว่าร้าย...เจอ ชวินเข้าไป....ฮ่าาาาาาาาาาาาาา(ไม่อยากจะคิดเล้ยยยยย)

ตอนนี้ก็มาถึง ตอนที่ 13 ล่ะค่ะ อยากรู้จังเลยว่า..คุณคนอ่านชอบใครกันมากที่สุด อิอิ เดี่ยวจะทำโพลด้วย เล่นกันนะค้า><  o13


มาคอยดูกันต่อไปนะคะว่า พรุ่งนี้ตื่นมา...ใครจะมีสภาพอย่างไรบ้างอิอิ

changasa@hotmail.com

  • บุคคลทั่วไป
เจ๋งๆ หัวหน้าผู้ก่อการโดนย้อนแผนตัวเอง เสร็จแน่ๆ ทั้งกรทั้งสอง  :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-01-2012 23:07:55 โดย changasa »

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4
แกนนำผู้ก่อการร้าย  เจอ   แกนนำผู้ก่อการร้ายกว่า  เข้าไป   จอดเลยทีเดียว



 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:


 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
นี่สิ แกนนำผู้ก่อการร้าย เอ๊ย ก่อการรัก ตัวจริงเสียงจริง :m20:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ร้ายกาจม๊วกนายชวิน อิอิ

แล้วแบบนี่จะเปงไงน้อ อิอิ

อย่าลืมมาต่ออีกน้า^^

รอรอนะค๊าฟฟฟ :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
555555+  วินแสบอ่ะ ขอให้ตำแหน่งวินเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้ายเลยล่ะ เสร็จวินล่ะ!! ขอให้ได้ขอให้โดน วี๊ดดดดวิ้วววววว!!  :oo1:   :oo1:   :oo1:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ผู้ก่อการร้าย ตัวจริง มาแว้วววว..

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด