[จบแล้ว]“ปีนเกลียว”...(นึกแล้วเชียว ว่าต้องจีบติด!) บทพิเศษ ชวิน VS หมอเขม P.10 [Up 27/2/12]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ตัวละครในเรื่อง "ปีนเกลียว" คุณชอบใครมากที่สุด

ภู ภูเบศธ์ - หญ้าอ่อนแพ้วัวแก่ ที่จีบไม่เก่ง แถมยังปากหมา
สอง กมลินทร์ - วัวแก่แพ้หญ้าอ่อน แล้วดันชอบแต่คนปากหมา
ตรฤณ - วันๆไม่ทำอะไรนอกจากหาทางประเคนวัวแก่ใส่ปากหญ้าอ่อน
กร ทิวากร - แกนนำผู้ก่อการร้ายของสอง แต่เป็นผู้ก่อการรักของตรฤณ
วิน ชวิน - ชอบทำตัวเป็นพ่อหวงลูกชาย แถมฉลาดร้ายยิ่งกว่ากร

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]“ปีนเกลียว”...(นึกแล้วเชียว ว่าต้องจีบติด!) บทพิเศษ ชวิน VS หมอเขม P.10 [Up 27/2/12]  (อ่าน 103187 ครั้ง)

ออฟไลน์ ooopimmyooo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ง่ะ
เด้กเวรเจอศึกหนักแล้วไง
ไหนจะเด็กในฮาเร็ม ไหนจะรักแรกอีก ฮู้วววว

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
:sad4: สงสาีรภูอ่าาาาาา ชวินนี่รักแรกของสองเหรอ แล้วถ้ากลับมาไทย ภูเบศธ์จะเป็นเยี่ยงไรล่ะ ฮึ!!  :m15: โธ่ๆๆๆๆๆๆๆ พ่อภูของนม เอ้ย! ของเค้า  :impress3:

iiiampond

  • บุคคลทั่วไป
 o13

พี่พริ้ม!!!  ปอนด์ว่าจะอ่านตั้งแต่ใน ysp  แต่ไม่ว่างอ่านเลย
สิงห์ไทยบอยไปมาๆ  เจอปีนเกลียว  เอ๊ะ!  คุ้นๆ นะ  เหมือนเคยเห็น
พอเห็นชื่อยูส  ไอยะ  ><"  พี่พริ้มบ้านยูซู  ปลื้มได้อีกอะค่ะ

อ่านเป็นภาคไหนก็ชอบหมด  รีไรท์ก็ชอบปากภูเบศร์ กะ กมลินทร์  เคลิ้มนะเนี้ย
เพราะไม่ได้จิ้นเป็นหน้าน้องกับพี่เถิก  มันคนละฟีลกันอะค่ะพี่พริ้ม  รู้สึกแบบ
เรื่องนี้จะไทยดี  จิ้นง่าย  สนุกดีด้วย  อร๊าย  เป็นกำลังใจให้รีไรท์ต่อไปค่ะพี่พริ้ม
สู้ๆนะคะ  จะเข้ามาอ่านเรื่อยๆ  (หลังสอบเสร็จ)  แฮร่!

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
ตายละ  มีรักแรกมาอีก  พระเอกเราจะเป็นยังไงล่ะนี่ 

เฮ้ออออ  กลุ้มแทน

ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 7 ใครกันที่ ‘เขา’งอก


“สอง....มึงเลิกงอนกูยังเนี่ย?”

“........”

“สอง...กูถามน่ะได้ยินหรือเปล่า?”

“..........”

“สอง....”

“..........”

“นี่มึงแดกไปถาดที่หก แล้วมึงยังไม่คิดที่จะยกโทษให้กูอีกเรอะวะ!”

“ถาดที่สิบแล้วค่อยว่ากันก็ได้”ในที่สุดนายกมลินทร์ผู้ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับถาดพิซซ่าก็เปิดปากพูดโดยที่ไม่มองหน้าคนที่กำลังง้อด้วยซ้ำ ตอนนี้เรียกได้ว่าตรฤณแทบจะปิดร้านเลี้ยงสองเพราะตอนนี้มีเหลืออยู่โต๊ะเดียวที่ยังสั่งพิซซ่าอย่างต่อเนื่อง และดูท่าว่าจะยังไม่หมดออร์เดอร์ง่ายๆหาก ผู้ชายตัวเล็กตรงหน้าของตรฤณยังไม่เลิกยัดพิซซ่าชิ้นสุดท้ายของถาดที่หกเข้าปากแบบไม่เกรงกลัวว่าจะเสียภาพพจน์

“พี่! เอาฮาวายเอี้ยนอีกถาด”พอเคี้ยวหมดปาก สองก็หันไปสั่งพนักงานในร้านพร้อมกับชูนิ้วหนึ่งนิ้วเพื่อเป็นการสั่ง ทำเอาคนที่บอกว่า “จะพามาเลี้ยงไถ่โทษ” ต้องรีบควักกระเป๋าตังค์มานับเศษตังค์กันเลยทีเดียวว่าจะพอกับพิซซ่าถาดที่เจ็ดที่กำลังจะถูกยกมาหรือไม่

แม่งแดกอย่างกับมีสี่กระเพาะ นี่ถ้าไม่ใช่ว่าเพราะกูผิดกูไม่คิดเลี้ยงมึงให้เสียกะตังค์หรอกเว้ย!

ตัวก็เล็ก แต่ยัดเข้าไปได้ยังไงหมดวะนั่น?

“สอง กูถามจริงเหอะมึงกินประชดตังค์ในกระเป๋ากูป่ะเนี่ย?”ตรฤณถามอย่างอยากรู้ในขณะที่มองสองที่กำลังดูเมนูอย่างสนอกสนใจ ราวกับว่าอยากจะสั่งอย่างอื่นกินอีกนอกเหนือจากพิซซ่าถาดที่เจ็ด

“เปล่า...มึงบอกจะเลี้ยงกูไถ่โทษ กูก็มากินตามความประสงค์ของมึง”สองยังคงพูดในขณะที่สายตาไล่ดูภาพเมนูไปเรื่อยๆ

“แต่มึงกินเยอะไปแล้วนะเว้ย...ยังไม่อิ่มอีกเหรอ? อย่างน้อยก็บอกว่าหายโกรธกูแล้วก็ยังดี”   ตรฤณยื่นหน้าเข้าไปหาเพื่อนตัวเล็กพร้อมกับเอามือลดเมนูในมือสองลงเพื่อให้มองตากันได้ชัดเจน

แล้วจะเห็นว่ากูอุตส่าห์ทำตาแบ๊วอ้อนวอนมึงได้อย่างที่ไม่เคยทำเลยนะเว้ย!

“กูชอบนะคนขี้อ้อน...แต่ถ้าปัญญาอ่อนเชิญป้ายหน้าเลยมึง” สองมองตรฤณอย่างเอือมๆก่อนจะชักเมนูกลับมาดูอย่างไม่สนใจคนที่กำลังง้อตัวเอง

“สองอ่า...กูง้อมึงแล้วนะ..เลี้ยงพิซซ่าของโปรดมึงก็แล้ว...ขอโทษมึงก็แล้ว...มึงจะเอาอะไรกะกูอีก....สอง” ตรฤณเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนใจในเมื่อทำไปทุกวิถีทางแต่ดูท่าทางว่าเพื่อนซี้คนนี้จะยังไม่มีท่าทีว่าจะยอมยกโทษให้ง่ายๆ ถึงตอนที่ชวนมาเลี้ยงพิซซ่าสองจะดี๊ด๊าอยากมาเป็นพิเศษ แต่พอมานั่งกินจริงๆสองกลับยังไม่ยอมพูดจาเหมือนเดิม ไม่รู้เป็นเพราะยังโกรธไม่หายหรือว่าเพราะสนใจแต่ของกินอยู่กันแน่

“มึงก็เอาเวอร์จิ้นกูคืนมาก่อนดิ”สองพูดด้วยสีหน้าเรียบๆ แต่ตรฤณรู้ดีว่าไอ้อาการแบบนี้แหล่ะที่เรียกว่ายังงอนไม่เลิก

“มึงพูดอย่างกับว่ากูปล้ำมึงอย่างนั้นแหล่ะ ไอ้เด็กนั่นต่างหากไม่ใช่เหรอที่มึงต้องไปทวงเอาน่ะ” ตรฤณรีบโยนความผิดไปให้เพราะตอนนี้เขาไม่เห็นอะไรสำคัญมากไปกว่าเพื่อนรักตัวเล็กของเขาที่อยู่ตรงหน้าอีกแล้ว

“ถึงมึงไม่ได้เอาไป แต่มึงก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด!”สองรีบตอบกลับพร้อมกับที่พิซซ่าถาดที่เจ็ดถูกยกมาเสิร์ฟตรงหน้า
ดวงตาเรียวเล็กมองพิซซ่าในถาดก่อนจะเหลือบมองหน้าตรฤณอีกครั้งด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

“กูอิ่มแล้ว...”

“อ้าว?”ตอนนี้กลายเป็นตรฤณบ้างที่มองหน้าสองสลับกันกับถาดพิซซ่าหอมฉุยตรงหน้าอย่างอาลัยอาวรณ์เพราะดูท่าทางมันจะไม่ได้ถูกกินอย่างที่แล้วมา

“มึงไปจ่ายตังค์ด้วยแล้วกัน” พูดจบก็ตีหน้าตายเดินออกจากร้านไปหน้าตาเฉย ทำเอาตรฤณรีบวิ่งตามไปไม่แทบทัน

มึงนะมึง! ถ้าเดือนนี้กูจนขึ้นมาจริงๆ กูจะมาเกาะมึงเป็นปลิงอยู่ที่ห้องมึงให้ดู!

ตรฤณได้แต่ค่อนขอดอยู่ในใจก่อนจะเดินไปเช็คบิลแล้วรีบวิ่งตามเพื่อนรักไปทันที

“สอง!...มึงหายงอนกูยังเนี่ย?”ตรฤณรีบวิ่งไปดักหน้าแต่ก็ถูกสองผลักออกแล้วเดินต่อไป แต่ตรฤณเองก็ไม่ละความพยายามเดินตามง้อได้อย่างไม่รู้จักคำว่าท้อถอย

“ไม่! พอใจยัง?”สองตอบลอยๆโดยมีการกระแทกเสียงใส่เล็กน้อยพอให้รู้ว่ายังโกรธอยู่

กูเจ็บปวดมากครับสอง กระเป๋ากูแบนแล้วมึงยังไม่คิดจะตอบแทนด้วยการยกโทษให้กูอีกเหรอ?!

“แล้วจะให้กูทำยังไง สองมึงบอกกูดิกูยอมทำทุกอย่างมึงก็รู้ว่าเรามีกันอยู่แค่นี้”

“เปล่า..มึงอย่าลืมว่าไอ้วินอยู่ข้างกู กูตัดมึงออกจากสารระบบไปละ”พอเมื่อสองพูดออกมาอย่างนั้นตรฤณก็พอจะเข้าใจอะไรลางๆได้ว่าที่สองยังโกรธเขาไม่เลิกเพราะมีไอ้คุณชวินให้ท้ายนี่เอง

“ไอ้วินอยู่ตั้งเมกา มันจะมาช่วยอะไรมึงได้?”

“มันจะกลับมาเดือนหน้า” สองตอบในขณะที่เดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย และตรฤณก็เดินตามไปเรื่อยๆเช่นกัน

“หา?..เดือนหน้าทำไมเร็วจัง” ตรฤณลองคำนวณเวลาในหัวคร่าวๆก่อนจะถามออกมาอย่างสงสัย แต่คำตอบคือการส่ายหัวของสองแทนคำว่า         “กูก็ไม่รู้เหมือนกัน” ตรฤณจึงทำได้แค่เพียงคิดอยู่คนเดียวต่อไป

“คราวนี้แหล่ะ..กูคงจะได้ฤกษ์ปิดฮาเร็มตามคำสั่งมึงสักที”สองหันมาพูดพร้อมด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก ทั้งที่ตรฤณอยากจะโล่งใจที่ดูเหมือนคราวนี้สองยอมกลับมาพูดคุยกับตัวเองเหมือนเดิมแต่เพราะรอยยิ้มและคำพูดแบบนั้นของสองทำเอาตรฤณรู้สึกหนาวๆร้อนๆแทนใครบางคน..

ตายห่าล่ะครับคุณภูเบศธ์ บุญมีแต่กรรมบังแท้ๆเลยมึงเอ้ย!

ตรฤณทำได้แค่การถอนหายใจ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าสองแอบหลงรักเพื่อนสนิทอย่างชวินมานานหลายปี แต่สุดท้ายความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ต้องลงเอยด้วยคำว่าเพื่อน..เพราะมันคือมิตรภาพอันยาวนานที่สุด ต่างคนก็ไม่อยากให้มันจบลงเพราะมีคำว่า “รัก” เข้ามาขั้นกลางระหว่างความเป็นเพื่อนถึงตรฤณจะไม่เคยห้ามให้สองเปิดฮาเร็มเล็กๆเป็นของตัวเองตั้งแต่ที่วินไป ก็คงเพราะเห็นว่าเป็นความสุขของเพื่อนเลยไม่ได้อยากขัดอะไรมาก

   แต่เหตุผลที่แท้จริงของสองเอง...
   ก็คงเป็นเพราะหาเด็กแก้เหงาเพื่อรอใครบางคนกลับมา

ถ้าจะว่ากันตามความเป็นจริง ชวินก็เด็กกว่าพวกเขาตั้งสองปี แต่พอดีมันเสือกเกิดมาอัจฉริยะข้ามรุ่น มันถึงได้มาเรียนชั้นเดียวกันกับพวกเขา พอจบมัธยมปลายก็ได้ทุนไปเรียนต่อที่อเมริกาจนจบ ป.ตรี

ถ้าคราวนี้ไอ้วินกลับมา...แล้วเด็กปากหมาจะทำยังไง?

“นี่มึงจะปิดฮาเร็มเพื่อจะมาคบกับไอ้ภูจริงๆจังๆเหรอ?” ตรฤณพยายามหาคำพูดเพื่อเลี่ยงให้ห่างออกจากเรื่องของชวินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้และเพราะคำพูดของตัวเองเลยทำให้สองกันมาทำตาขวางใส่ทั้งที่เมื่อกี้ก็พูดกันดีๆแล้วแท้ๆ

เด็กดันพรรค์นั้นกูไม่สนใจหรอก! เพราะตอนนี้กูแค่รอคนของกูกลับมา”

“สองมึงก็รู้ว่าไอ้วินคิดกับมึงแค่เพื่อน”ตรฤณเองก็ไม่อยากจะพูดประโยคที่มันทำร้ายจิตใจของสองสักเท่าไหร่ ในเมื่อเพื่อนคนนี้ยังพยายามที่จะเพ้อฝันหาทางเข้าข้างตัวเองอยู่อย่างนี้ ตรฤณก็เกิดอาการเป็นห่วงและกังวลขึ้นมา

“แล้วไง?..สี่ปีที่ห่างกันกูว่ามันน่าจะมีอะไรอะไร..ให้มันคิดถึงกูบ้างล่ะน่า”สองพูดไปก็ยิ้มไปแต่นั่นยิ่งทำให้ตรฤณยิ่งเป็นห่วง เพราะรู้ดีว่าชวินเพื่อนรักอีกคนคิดกับสองแค่เพื่อนอย่างที่ปากว่าจริงๆเรื่องนี้สองก็รู้อยู่เต็มอกแต่ดูเหมือนว่าไม่อยากรับความจริงเสียมากกว่า

“แต่กูว่าภูเบศธ์...”

“ถ้ามึงยังคิดที่จะยัดเยียดไอ้เด็กนั่นให้กูอีกที คราวนี้มึงกะกูขาดกันจริงๆ”สองขู่จนตรฤณต้องถอนหายใจเป็นรอบที่แปดสิบแปดของวัน สมองเองก็ขบคิดต่างๆนานาว่าจะทำอย่างไรดีถ้าหากวินกลับมา

ไม่อยากให้เพื่อนซี้อย่างสองผิดหวัง

แล้วยังไม่อยากให้เพื่อนรักชวินลำบากใจ

สุดท้ายก็คงไม่อยากให้หลานรหัสของกรอย่างภูต้องเจ็บปวด

แล้ว....ตรฤณคนนี้จะต้องทำเยี่ยงไร? ใครก็ได้ช่วยบอกกูที!

เฮ้อ!  -..-


______________



“กร...เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

“หือ?...มีอะไรตรฤณวิ่งหน้าตั้งมาเชียว”กรที่กำลังจะเดินขึ้นไปเรียนต้องหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกเอาไว้ ทำให้กรจำต้องเบนเส้นทางจากการเดินไปที่ห้องเรียนมาเป็นโรงอาหารของคณะแทน

“เป็นอะไรทำไมทำหน้าเครียดอย่างนั้น? สองยังไม่ยอมคบกับไอ้ภูเบศธ์อีกเหรอ?”ถามด้วยความสงสัย พร้อมกับมองร่างสูงที่ค่อยๆหย่อนก้นนั่งลงตรงกันข้ามอย่างจำใจหลังจากที่ตอนแรก ทำท่าจะนั่งแหมะแปะติดกับคนที่นั่งลงก่อน แต่โดนสายตาพิฆาตเข้าให้ ตรฤณเลยจำต้องเดินอ้อมไปนั่งอีกทางอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ไอ้ไม่ยอมคบน่ะ..มันยังไม่เท่าไหร่หรอก”ตรฤณว่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดประหนึ่งว่าเพิ่งออกจากห้องสอบ แล้วเตรียมมาสารภาพผิดกับพ่อแม่ว่า “ผมทำข้อสอบไม่ได้”แต่คราวนี้ไม่ใช่...เพราะเป็นการสารภาพผิดกับแม่ทูนหัวแทน...

“หมายความว่ายังไง? เมื่อวานอุตส่าห์ส่งให้มันไปเคลียร์ด้วยตัวเองแล้วยังไม่ได้ผลอีกเหรอ?”

“เรื่องนั้นยังไม่ใช่ประเด็น”ตรฤณว่าพร้อมกับเอาคางเกยโต๊ะ

“แล้วอะไรคือประเด็นที่ว่า?”

“รักแรกของสองกำลังจะกลับมาแล้วไอ้สองเองก็พร้อมที่จะปิดฮาเร็มทันที”ตรฤณเปิดการแถลงข่าวทันทีที่กรสงสัย

“ห๊ะ? รักแรก..อะไรกัน...”

“ตัวพ่อกำลังจะมา ตอนนี้ฉันบอกได้แค่ว่าให้ภูเบศธ์จงทำใจ” ตรฤณพูดอย่างคนสิ้นหวังไร้หนทางแต่กรกลับไม่คิดอย่างนั้น

“ได้ยังไงกัน รักแรกก็ส่วนรักแรกสิ...รักครั้งใหม่สดใสยิ่งกว่า...นายไม่เคยได้ยินคำนี้เหรอ?” กรเองก็เริ่มกังวลนิดๆแต่ก็ยังพยายามที่จะดันหลนรหัสต่อไปเพื่อให้ไอ้คุณภูเบศธ์มันได้สมหวังในความรัก

โฮะ! ถ้าไอ้สองมันรักภูเบศธ์อย่างที่ว่าก็ดีสิ กูจะได้เลิกกังวลสักที

“แต่เท่าที่รู้มา เพื่อนฉันยังไม่มีทีท่าว่าจะรักหลานรหัสนายสักที”

“สักนิด?”

“ก็ไม่มี”

“นิด......เดียวก็ไม่มีเหรอ?”

“ไม่มีเลย...”ตรฤณย้ำทำเอากรต้องถอนหายใจ

ตั้งแต่กูอยู่กับมันมากูไม่เคยเห็นมันทำตาหวานใสมีแต่จะเตะใส่ไอ้ภูเบศธ์ทุกที

“งั้นคราวนี้ จับสองคนนั่นขังห้องนอนเอาแบบไม่ต้องมงต้องเมาแล้ว! เดี๋ยวฉันบอกให้ภูเบศธ์มันปล้ำเพื่อนนายเลย”กรว่าอย่างมาดมั่นแต่นั่นทำเอาตรฤณตกใจจนตาเหลือก

“เฮ้ย! ไม่ได้ๆ”
แค่นี้ไอ้สอง ก็โกรธกูจนง้อยากแล้วนะครับ กรุณาอย่ามาสร้างความร้าวฉานให้กูอีกรอบเลยครับกร

“ทำไมอ่ะ เพื่อนนายจะได้เลิกคิดถึงรักแรกไง?เอาแบบให้คิดถึงแต่ไอ้ภูเบศธ์ไปเลย”    ยังไงกรก็ยังเป็นนักวางแผนตัวยงที่ไม่เคยรู้เลยว่าตรฤณต้องได้รับเคราะห์กรรมกับแผนของตัวเองมาจนนับไม่ถ้วน

“แค่โดนไอ้สองมันงอนวันเดียวฉันก็จะตายอยู่แล้ว ขืนทำอย่างนั้นอีก ไอ้สองได้โกรธข้ามชาติแน่ๆ”

“แต่ถ้านายไม่ช่วยไอ้ภูเบศธ์มันก็จะอกหักนะนายไม่สงสารหลานรหัสฉันจริงๆเหรอ?”

ตอนนี้กูสงสารตัวเองมากกว่าครับคุณทิวากร

แน่ะ!  อย่ามาทำสายตาแบบนั้น ไม่รู้หรือไงว่ามันทำให้กูใจอ่อน!

“เอ่อ...”ทั้งที่อยากจะปฏิเสธใจแทบขาดว่าช่วยไม่ได้แล้วจริงๆ แต่พอหันไปเจอสายตาอ้อนๆของกรทำเอาตรฤณวางตัวลำบาก เลยทำได้แค่หลับหูหลับตาทำเป็นไม่อยากมอง

โรคหัวใจอ่อนแอกำเริบแน่ๆเลยครับงานนี้ !

“นะ..ตรฤณ ช่วยไอ้เด็กนั่นด้วยนะ  .”ได้ทีก็อ้อนอีก มือของกรเอื้อมไปวางทาบทับบนมือใหญ่ของตรฤณพร้อมกับส่งสายตาอ้อนๆให้ ทำเอาฝ่ายที่ถูกกุมมือต้องเบือนหน้าหนีเพราะไม่อยากใจอ่อน

แต่ทำไงได้ครับ ตาก็หวาน มือก็นุ่ม...แค่นี้ก็คุ้มสุดคุ้มแล้วเว้ยเฮ้ย!

“เอ่อคือ....”

“ตรฤณน้า~”

ยังคงอ้อนต่อไปให้ใจกูไหวหวั่นเล่นเหรอครับ?

“คือฉันกลัวว่าไอ้สองจะกะ..โกรธ”แต่พูดยังไม่ทันจบตรฤณก็ต้องรีบสงบปากสงบคำเพื่อเจอสายตาของกร

ชะอุ้ย! ตอนนี้กูควรจะกลัวกรโกรธมากกว่าใช่มั๊ยครับ ถ้าหากกูยังไม่รับทำตามคำสั่งอีก

 “โอเค..ฉันจะลองพยายามดูอีกที” ในที่สุดตรฤณก็ต้องยอมอีกจนได้ประกอบกับการที่เปลี่ยนจากการที่ให้มือนุ่มนั่นเกาะกุม มาเป็นจับมือเล็กนั่นมาแนบแก้มแทน

“ตรฤณ...มือ”

“มือ?”
ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เนียนจับเอาแนบแก้มต่อไป

เพี๊ยะ!

ถึงจะเกิดเสียงดังเล็กๆแต่ตรฤณรู้ดีว่าแรงไม่เล็กตามเสียง หลังจากที่กรสบัดมือจากการเกาะกุมจากมือใหญ่แล้วบังเอิญ (หรือว่าจงใจ) โดนแก้มของตรฤณพอดิบพอดี

“เอาเป็นว่าช่วยหน่อยแล้วกันนะตรฤณ”พูดจบก็รีบเก็บของแล้วเดินขึ้นตึกปล่อยให้ตรฤณนั่งลูบแก้มอยู่คนเดียวพร้อมด้วยสายตาละห้อย   

“ได้จับนิดจับหน่อย ก็ยังดีกว่าไม่ได้จับล่ะว้า~”ตรฤณปลอบใจตัวเองอยู่คนเดียวก่อนจะเดินขึ้นตึกเพื่อไปเรียนบ้าง แต่ระหว่างทางเดินกลับเจอเด็กในฮาเร็มของสองคนใหม่เดินเคียงคู่อยู่กับเจ้าของฮาเร็ม

“เฮ้ย สองไม่เข้าเรียนเหรอ?”เมื่อเห็นว่าสองกำลังจะเดินออกจากห้องพร้อมกับเด็กคนใหม่ที่ตรฤณไม่เคยเห็นหน้าค่าตามาก่อนเลยต้องถามขึ้น

“ไม่อ่ะ..พอดีจะออกไปดูหนังกับเด็กสักหน่อย”สองหันกลับมากระซิบก่อนจะยักคิ้วให้ตรฤณ ทำเอาตรฤณต้องถอนหายใจเพราะไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมารั้งให้สองไม่ไป

“โดดเรียนมากๆ..ระวังเขาจะยาวเป็นวานะครับรุ่นพี่กมลินทร์” ประหนึ่งสวรรค์มาโปรดตรฤณจริงๆ น้ำเสียงแบบนี้ คำพูดแบบนี้หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้วนอกจากปากของภูเบศธ์

“ไอ้ภู! ”

ไม่ต้องมองหน้าให้เสียเวลาสองเองก็รู้เลยทันทีว่าใครเป็นคนพูด

“ใครเหรอครับพี่สอง”

และนี่ก็เป็นคำถามยอดฮิตจากปากเด็กของสองเมื่อเจอกันกับภูเบศธ์

“เลิกยุ่งกับฉันสักทีได้มั๊ย?!” เพียงสองพูดออกมาอย่างนั้นทำเอาเด็กใหม่ของสองเข้าใจ(ไปเอง)เลยทันทีว่าคนคนนี้คงเป็นเด็กเก่าของสองที่ยังคงมาตามตอแยไม่เลิก(เหรอ?)

“พี่เขาบอกว่าอย่ามายุ่ง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง?”พอเด็กในสังกัดเริ่มออกอาการก้าวร้าวสองก็รีบรั้งแขนห้ามเอาไว้

“ต้อม.....ให้พี่จัดการเอง”
สองพูดแค่นั้นก่อนจะเดินไปยืนประจันหน้ากับตัวปัญหา ที่สองเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าสายตาที่เขากำลังถูกมองอยู่นั้นพยายามจะสื่อความหมายอะไร

   จะโกรธก็ไม่ใช่จะว่าน้อยใจก็ไม่เชิง..สองยอมรับว่าอ่านสายตาคู่นี้ไม่ออกจริงๆ

“ระหว่างฉันกับนายให้มันจบไปเถอะนะ”

เป็นครั้งแรกในรอบประวัติศาสตร์หรืออย่างไร ที่คนอย่างสองยอมพูดเพราะกับไอ้เด็กเวรอย่างภูเบศธ์

“จบอะไร..ในเมื่อเรื่องของเรามันยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ” ภูเบศธ์กดยิ้มที่มุมปากก่อนจะคว้าข้อมือของสองแล้วให้ออกเดินตามโดยมีเด็กใหม่อย่างน้องต้อมรีบวิ่งตามไป

เอาแล้วไงคราวนี้ ไอ้สองก่อเรื่องให้กูได้ตามเช็ดอีกแล้วครับ

ว่าแล้วตรฤณก็ต้องโดดเรียนแล้ววิ่งตามสามคนนั้นไปสมทบอีกทีอยู่ดี

“นี่ นายเป็นใคร จะพาพี่สองไปไหน!”

“นั่นก็อีกคน เขาจะงอกแล้วยังไม่รู้ตัว”ภูเบศธ์หยุดเดินแล้วหันไปบอกเด็กใหม่ของสองที่วิ่งตามมา

“หมายความว่ายังไงเขางอก? พูดมาดีๆเลยนะเว้ย”

“ก็พี่สองน่ะ...คบกับฉันอยู่ ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่กันแน่”เพียงแค่ภูเบศธ์ประกาศความเป็นเจ้าของออกไปสองถึงขั้นสะบัดมือ แล้วตบหัวไอ้คนที่เพิ่งลากตัวเองมาทันที

“คบใคร?..ใครคบกับนาย? ห๊า! ไอ้เด็กนี่”สองขึ้นคำขู่แต่ภูเบศธ์เองก็ไม่เคยคิดที่จะเกรงกลัวแถมยังรั้งรุ่นพี่ตัวเล็กให้เข้ามาใกล้ แล้วรีบโอบเอวแสดงความเป็นเจ้าของโดยที่สองเองก็พยายามขัดขืนจนสุดท้ายภูเบศธ์ต้องยื่นมาตรการขั้นเด็ดขาดให้โดยการกอดรัดเอาไว้เลยจะได้ไม่ดิ้นหลุดไปหาเด็กทางไหนได้อีก

“ไม่ได้คบก็ได้แต่พี่สองเป็นของฉันแล้วเท่านั้นเอง”ภูเบศธ์พูดด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทใส่ต้อมพร้อมกับการรีบคว้ามือเล็กๆเอาไว้ป้องกันการโดนประทุษร้ายอีกครั้งส่วนบุคคลที่สี่ที่แอบมองอยู่ใกล้ๆ ถึงกับตบไม้ตบมืออย่างถูกอกถูกใจในคำพูดของภูเบศธ์

กูถือพู่เชียร์เด็กดันของคุณทิวากรอยู่ กรุณาอย่ามองกูด้วยสายตาแบบนั้นนะจ๊ะ ไอ้สอง~

“ไอ้ตรฤณ! มึงมาช่วยกูเดี่ยวนี้!”ในเมื่อดิ้นไม่หลุดแถมไอ้เพื่อนตัวดีก็ยังทำท่าดีใจยกใหญ่ที่ภูเบศธ์กล้าประกาศโต้งๆว่าเป็นเจ้าของสองแล้วอย่างนั้น แต่ถึงอย่างนั้นตัวช่วยตัวสุดท้ายที่สองต้องเอ่ยปากขอร้องก็ยังคงต้องเป็นตรฤณอยู่ดี

“ก็ให้เด็กมึงช่วยสิ  เด็กมึงเก่งไม่ใช่หรือไง”พอถูกวนประสาทกลับทำเอาสองไม่รู้จะพึ่งใคร พอลองหันไปมองเด็กใหม่ที่เพิ่งได้มาควง ดูก็รู้ว่ารายนั้นไม่ยอมมาช่วยแน่ๆ ในเมื่อไอ้คนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของของตัวเองใช้สายตาขู่อยู่อย่างนั้น

“ต้อม..อย่าเข้าใจผิดนะ..พี่ไม่ได้เป็นอะไรกับไอ้เด็กนี่จริงๆ...”สองรีบหาทางแก้ตัวเมื่อดูเหมือนว่าน้องต้อมจะทำท่าถอดใจเมื่อรู้ว่าพี่สองมีเจ้าของแล้ว

“ผมว่าผมยังไม่อยากมีเขาตอนนี้หรอกครับพี่สอง”
พูดจบก็เดินจากไปทิ้งไว้แค่รอยยิ้มร้ายของไอ้เด็กเวรภูเบศธ์

“ฮ่าฮ่า....เป็นไงล่ะมึง”ในเมื่อเหตุการณ์สงบ ตรฤณก็หัวเลาะลั่นกับภาพตรงหน้าที่เพื่อนตัวเล็กเขายังอยู่ในอ้อมกอดของภูเบศธ์ที่พยายามดิ้นเท่าไหร่ก็ดิ้นไม่หลุด แถมยังโดนเด็กใหม่ตัดเยื่อใยก่อนอีกต่างหาก

   พูดตามตรงปรากฎการณ์ที่ไอ้สองถูกเด็กทิ้งหาดูได้ยากจริงๆนะครับกูขอบอก!

“ไม่ต้องมาพูดเลย อยากถูกเตะมากหรือไงไอ้ตรฤณ!”ร่างเล็กในอ้อมกอดของภูเบศธ์เดือดดาลพยายามเต็มที่ที่จะเตะเพื่อนตัวดี แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องหมดแรงเมื่อทำอย่างไรก็เตะไม่ถึงถ้าหากภูเบศธ์ยังรัดเอาไว้แบบนี้

“ก่อนจะมาเตะกู หลุดออกจากอ้อมกอดอันแสนอบอุ๊นนนนอบอุ่นของไอ้เด็กนั่นให้ได้ก่อนเหอะว่ะ! ฮ่าฮ่า”พูดทิ้งท้ายพร้อมกับส่ายตูดไปมาเพื่อล้อเพื่อนผู้ที่ไม่มีวันวิ่งมาเตะตูดของตรฤณได้

“ไอ้บ้าเอ้ย! ปล่อยสิวะบอกให้ปล่อยไงเล่า! ”ทั้งที่อยากจะวิ่งไปเตะก้นเพื่อนตรฤณใจแทบขาดแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ในเมื่อมือปลาหมึกของไอ้เด็กปากหมารัดเอาไว้แน่นยิ่งกว่าลูกลิงเกาะแม่

“บอกมาก่อนว่าจะไม่โดดเรียน..แล้วผมจะปล่อย”ภูเบศธ์พูดเสียงเรียบแต่ทว่ากลับดูมีอำนาจต่อจิตใจของสองจนเจ้าตัวเองยังรู้สึกแปลกๆ

“ฉันจะโดดหรือไม่โดดเรียนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย...ปล่อยก่อนสิวะ!”ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่แก้มสองแก้มของสองกลับรู้สึกร้อนผ่าว เมื่อรับรู้ว่าตอนนี้หลังตัวเองอยู่ชิดติดอกแกร่งจนได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย แถมด้วยแขนแกร่งที่ยังโอบรัดเอาไว้ถึงจะแน่น แต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัดอะไร..กลับรู้สึกดีด้วยซ้ำ

เฮ้ย! กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่รู้สึกดีที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของไอ้เด็กเวรนี่!

“อย่างน้อย..ผมก็ยังไม่อยากให้แฟนโดดเรียนแล้วไปหาแทะโลม เอ้ย! แทะเล็มหญ้าอ่อนที่อื่นหรอกนะครับ”

“ไอ้ภูเบศธ์! เมื่อไหร่จะเลิกว่าฉันเป็นควายสักที!”

“ครั้งนี้วัวครับ ไม่ใช่ควาย”

ครั้งนี้?! มึงบอกแค่ครั้งนี้? เออ ได้ทีเอาทั้งวัวทั้งควายมาหลอกด่ากูเชียวนะมึง!

กูควรจะขอบคุณมึงมั๊ยที่แถลงไขให้กูเข้าใจซะกระจ่าง..ไม่ว่าจะวัวหรือควาย มันไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอก!

“เออก็ทั้งสองอย่างนั่นแหล่ะ!”สองสะบัดหน้าหนีเพราะไม่รูจะสรรหาคำอะไรมาด่าทอไอ้เด็กเวรปากหมาตรงหน้า

“ก็ถ้าพี่สองยอมเข้าเรียน แล้วเลิกไปเสาะหาหญ้าอ่อนตามคณะต่างๆ บริโภคแทนอาหาร...ก็เมื่อนั้นแหล่ะที่ผมจะยอมทำตัวเป็นเด็กดีของพี่สอง” สองยืนฟังอย่างอึ้งๆในขณะที่คนพูดเองก็ชักจะเขินจนหูแดงหน้าแดงที่กล้าพูดอะไรออกมาแบบนี้

อ่า..กูชักจะมั่นใจแล้วสิว่านี่คือคำที่มันกำลังสารภาพรักกับกู!

“ถามจริง? อยากจีบฉันจริงๆเหรอ?”สองถามพร้อมกับพลิกตัวไปประชันหน้ากับคนที่เคยบอกว่าอยากจีบ

 “โห่...ทำขนาดนี้..ไม่อยากจีบเลยเนอะ” ว่าพร้อมกับโอบคนตัวเล็กให้แน่นขึ้น โดยที่สองเองก็ดูเหมือนจะยังไม่รู้สึกตัวที่ยืนให้เด็กมันกอดอยู่ได้นานสองนานโดยที่ไม่ได้ขัดขืนอะไร

“ทำขนาดนี้!  ที่ด่ากูอยู่ทุกวันนี้เนี่ยนะ แล้วบอกว่าอยากจีบ กูจะบ้าตาย”สองยกมือขึ้นมาตบหน้าผากตัวเองดังแปะแต่ภูเบศธ์กลับส่ายหน้าไปมา

“อย่าพูดไม่เพราะแบบนั้นสิครับ..”

   เหอะ! ที่มึงด่ากูอยู่ทุกวันถึงไม่เคยมีคำหยาบ แต่กูว่ามันคมยิ่งกว่าดาบอีกนะมึง!

พูดขึ้นมาที กูงี้เจ็บร้าวไปถึงไต!

“แล้วจะทำไม! เป็นพ่อฉันหรือไงถึงได้มาสั่งสอนฉัน”

“เปล่า..ก็แค่บอก”ภูเบศธ์ยักไหล่ประหนึ่งว่าไม่ใส่ใจเรื่องนี้ก็ได้

ถึงเป็นพ่อไม่ได้ แต่เป็นผัว ให้ได้ แล้วจะเอาไหมครับ?
ภูเบศธ์เองก็ทำได้แค่คิด..เพราะถ้าเกิดพูดออกมาจริง..ชีวิตอาจจะไม่เหลือเศษซาก

“เออ แล้วก็ปล่อยฉันได้แล้ว..ฉันจะกลับไปเรียน”ในเมื่อบทสนทนาดำเนินจนมาถึงทางตัน การทะเลาะกันก็ดูเหมือนว่าจะสิ้นสุดลง สองจึงต้องตัดบทสนทนาง่ายๆ แล้วภูเบศธ์ก็ยอมคลายอ้อมกอดแต่โดยดี

“แล้วอย่าแวะไปเล็มหญ้าข้างทางนะครับ!” เมื่อปล่อยให้รุ่นพี่ตัวเล็กเป็นอิสระแล้วเดินกลับไป ภูเบศธ์ก็ยังไม่ลืมที่จะพูดอะไรทิ้งท้ายไว้ให้คนบางคนได้คิดถึงเวลาจากกัน


อ๊ากกกกกก กูอยากฆ่าหั่นศพมันจริงๆเลย ไอ้ตรฤณมึงเตรียมมีดหมอให้กูที!

___________________________________

ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
“ไง เคลียร์กับเด็กเรียบร้อย?”เมื่อสองเดินเข้าห้องเรียนมาแล้วนั่งแหมะลงข้างๆกับตรฤณที่จองที่เอาไว้ให้หัวเล็กก็เคาะลงกับพื้นโต๊ะโดยไม่กลัวว่าจะเจ็บแม้แต่น้อย แต่ก็ต้องรีบผงกหัวขึ้นมาเมื่อโดนถาม

“เคลียร์กับผี! จนถึงตอนนี้มันยังด่ากูเป็นวัวไม่เลิก”สองโวยวายอย่างใส่อารมณ์จนอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่ที่หน้าห้องมองลอดแว่นเป็นเชิงตำหนิ ทำเอาสองต้องผงกหัวให้เป็นเชิงขอโทษแล้วหันมาทำตาขวางใส่ไอ้เพื่อนรักที่หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว

“แล้วไง..ก็มึงทำตัวอย่างนั้นจริงๆ..นี่กูบอกตามตรงนะ ถึงไอ้เด็กนั่นมันจะปากหมาไปหน่อย..”

ให้ตาย! ไอ้ตรฤณมันช่างกล้าใช้คำว่า “ไปหน่อย” เว้ยเฮ้ย! กูว่าอย่างนี้เขาเรียกว่าปากหมาตัวพ่อแล้วว่ะ!

“แต่มันก็ชอบมึงจริงๆนะ..ไม่ใช่คบมึงหวังอะไรอะไร~ แถมยังหล่อใช้ได้อีกด้วยนะ เด็กในฮาเร็มของมึงแต่ละคนกูว่าเทียบไม่ติดว่ะ”ตรฤณรีบเสนอสรรพคุณของภูเบศธ์ให้เพื่อนรักได้รับไว้พิจารณา

“ที่ว่าหวังอะไรอะไรนี่ มึงหมายถึงตัวกู?”

“อ้าว? นี่มึงไม่รู้จริงๆเหรอที่เด็กมาคบมึงเพราะหวังฟันมึงทั้งนั้น~ ผู้ชายบ้าอะไรตัวก็นิ่ม ตูดก็ใหญ่น่าฟัดกูไม่เชื่อหรอกว่าที่มาคบกับมึงน่ะบริสุทธิ์ใจ”

“ไอ้บ้านี่! กูบอกแล้วใช่มั๊ยว่าอย่าพูดถึงตูดกู”ถึงปากจะว่า แต่แก้มแดงของสองกลับแดงวาบขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

“แล้วมันจริงมั๊ยล่ะ? ว่าไอ้ก้นมึงนี่ล่ะคือจุดขายเลย”

“จุดขายบ้าอะไร....อ่อ...นี่มึงก็มองก้นกูเหมือนกันใช่มะ ไอ้เวรนี่!”เหมือนนึกขึ้นได้ก็ยกครีบฟาดหัวเพื่อนที่บังอาจมาคิดลามก

“เฮ้ย! ไอ้นี่อย่างกูนี่ต้องทิวากรโอนลี่เว้ย อย่างมึงนี่กูไม่อยากจะแล”

แหม่ ทิวากรสวยเค้าเลือกได้ เค้าถึงไม่อยากจะแลมึงเหมือนกันล่ะวะ ไอ้ตรฤณ!

“แล้วไง? ที่มึงจะพูดนี่มีแค่นี้ใช่มะ? เพราะสุดท้ายแล้วเด็กดันของมึงก็จีบกูหวังฟันเหมือนเด็กคนอื่นๆในฮาเร็มกูเหมือนกันไม่เห็นจะมีอะไรแตกต่าง”

“ไม่ใช่นะเว้ย! มันจริงจังกับมึงจริงๆ กูยืนยันได้”

“แล้วที่มันปล้ำกูไปแล้วล่ะ?”

“แล้วใครบอกว่ามันปล้ำมึง.. เฮ้ย!” พูดออกมาได้แค่นั้นตรฤณก็ต้องรีบเอามือขึ้นมาตะครุบปากตัวเองเอาไว้ แต่ดูเหมือนว่าจะช้าเกินไปเมื่อหันไปเจอกับสายตาคาดคั้นเอาคำตอบสอง

“เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะ? ตรฤณ...กูรู้สึกว่ากูจะได้ยินไม่ชัด”ไม่ใช่ว่าแค่โดนขู่แต่ตอนนี้ตรฤณกำลังถูกกำคอเสื้อไปคาดคั้นซะแล้ว

“เอ่อ..คือ..เมื่อกี้กูพูดอะไร?...ไม่นี่กูไม่ได้พู๊ด!”ตรฤณยังคงทำใจดีสู้เสือพร้อมกับค่อยใช้มือแงะมือเล็กที่ยังคงกำคอเสื้อเขาเอาไว้แน่นอย่างหาเรื่อง

“กูให้โอกาสมึงอีกครั้ง...มึงจะพูดหรือไม่พูด!” สองขู่ฟ่อทำเอาตรฤณเหงื่อตกมองซ้ายแลขวาก็หาทางหนีไม่เจอก่อนจะกลับมามองตาร่างเล็กอีกครั้งที่จ้องตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“คือเมื่อกี้..กูพูดว่า...ใครบอกว่ามันปล้ำมึง...”ในที่สุดตรฤณก็จำต้องพูดความจริงออกมา

“แล้ว!”

“เพราะมึงต่างหากที่ปล้ำมันน่ะ...สอง มึงรู้ตัวไว้ซะด้วย”

   
ตอนนี้ไอ้สองจะทำหน้ายังไงกูไม่รู้  รู้แต่ว่าตอนนี้กูรอดตายแล้วเว้ย!

ไปจัดการกันเอาเองนะเว้ย~ ตอนนี้ชายตรฤณขอเอาตัวรอดก่อนแล้วกัน


TBC

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
พี่ภูทำแต้มเร็วๆนะก่อนที่จะมีพายุลูกยักษ์มาอ่ะ

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :m20: :m20: :m20:  ชอบเพื่อนของสองซะจริง เกือบหลุดไปแล้วไม๊ล่ะ ..แต่ไปบอกว่าสองเป็นคนปล้ำภูนี่ สองจะเชื่อไม๊เนี่ยยยยยยยยยยยย ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ร้ายกาจ สลับกานซะงั้น

ยังไงก้อมาต่ออีกน้า รอรอเหมือนดิมน้ออ

อย่าลืมละนี่ อิอิ^^!!

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
รักครั้งแรกกำลังมา
รักครั้งสุดท้ายกำลังสู้อย่างสุดใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
ถ้ารักแรกกลับมามันจะเป็นยังไงต่อนะไม่อยากจะคิดเลย

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
รักครั้งแรกจงมีเมียที่เมืองนอกเสียเถอะนะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ชวินๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 8  หวั่นไหว



“เพราะมึงต่างหากที่ปล้ำมันน่ะ...สอง รู้ตัวไว้ซะด้วย”

กูเนี่ยนะปล้ำมัน....ขำขันเกินไปมั๊ยครับไอ้เพื่อนตรฤณ?



__________________


“ตลกละมึง...มึงใช้ส่วนไหนคิดว่ากูปล้ำมัน หัวแม่เท้า?” ถึงแม้ในตอนแรกสองจะทำตาโตเท่าไข่ห่านแถมด้วยใบหน้า(บาน)ตื่นตระหนกจนเกินกว่าเหตุก็ตามที แต่พอลองมานึกดูดีๆ คนอย่างสองเนี่ยเหรอจะปล้ำคนเป็น

ขอบอกตามตรง ตั้งแต่เกิดมาจนอายุปาไปยี่สิบสองกูยังไม่รู้วิธีทำเมีย!

แต่ถ้าวิธีเป็นเมีย.....อ่า....อันนี้ค่อยว่ากันหลังไมค์

“กูพูดจริง!”

ชายตรฤณย้ำทั้งทางสายตา พร้อมคำพูดคำจาที่แสนจะมั่นคง..แบบนี้ยังไม่เชื่ออีกเหรอ?

เดี๋ยวนี้ฉลาดขึ้นเยอะเว้ยเฮ้ย ไอ้สอง!

“กูว่า...เรื่องนี้มันชักจะยังไงๆแล้วล่ะ ”สายตาเรียวรีมองจ้องเพื่อนซี้อย่างจับผิดแต่ฝ่ายที่ถูกจับจ้องก็ทำได้แค่เพียงยกมือปัดป่ายไปมาราวกับปฏิเสธว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่าไม่ได้มีตื้นลึกหนาบางอะไรทั้งสิ้นอย่างที่ร่างเล็กเข้าใจ

“ช่วงนี้มึงชักจะไหลจนกูรู้สึกว่ามันแปลกๆ” ปากเล็กๆเม้มเข้าหากันเป็นปกติเวลาที่เจ้าของมันกำลังใช้ความคิด พร้อมกับที่คิ้วเรียวสวยเริ่มขมวดเข้าหากัน แววตาที่เคยสดใสเปลี่ยนเป็นแววสงสัยอย่างถึงที่สุดเท่าที่ตรฤณเคยเห็นมา

“มึงมีอะไรที่ปิดบังกูอีกใช่มั๊ย? นอกจากเรื่องที่มึงแปรพรรคไปหาคู่ปู่หลานรหัสนรกนั่นน่ะ ต้องมีเรื่องอื่นอีกแน่ๆเลยที่กูไม่รู้”

“ก็ไม่มีนี่~ มึงคิดมากไปหรือเปล่า”ตรฤณยังพยายามไหลไปตามน้ำเท่าที่สถานการณ์จะเอื้ออำนวย แต่ถึงกระนั้นสองผู้น่ารักก็ยังไม่หายข้องใจ

“แต่เรื่องที่กูปล้ำไอ้เด็กนั่น...มึงมั่วแน่ๆ!”

“เปล่า! กูไม่ได้มั่ว ไอ้ภูเบศธ์มันบอกกูมาอย่างนั้นจริงๆ..ว่ามึงน่ะยั่วมัน”

ยั่ว?  ไอ้เด็กชั่วกูไปยั่วมึงตอนไหนอีกล่ะ!

สองได้แต่นึกแล้ว....แล้วก็นึกอีกที..นึกยังไงก็จำอะไรไม่ได้ ให้ตายเหอะ!

“ไอ้บ้า! แล้วมึงเชื่อหรือไงว่ากูยั่วมันน่ะ..แล้ว..ถึงจะแค่ยั่วแล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่กูปล้ำมันล่ะ?”

“อ๊าว?..ก็มึงรุกก่อน เขาไม่เรียกว่าปล้ำเหรอ?”ตรฤณเองก็ชักจะสนุกเมื่อสองกำลังจะตกหลุมพรางอีกรอบ
กูล่ะชอบสมองกูจริงๆ..ที่คิดได้เร็วซะยิ่งกว่าลิงปีนต้นไม้

“โน๊ว!!! อย่างนั้นเข้าไม่เรียกว่าปล้ำเว้ย!...ว่าแต่กูยั่วมันจริงหรอ?”ถึงแม้ในคำแรกสองจะแหกปากลั่นปฏิเสธเสียงแข็งแต่พอมาประโยคที่พูดสุดท้ายกลับดูแผ่วเบาจนตรฤณต้องเอียงหูไปฟังพร้อมกับมุมปากแอบกดยิ้ม โดยที่สองไม่ทันได้สังเกตเห็น

“ถ้าไม่จริง..กูจะเอามาพูดทำเพื่อ?” ตรฤณแอบเข้าโหมดจริงจังตามสองไปเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต เพราะดูๆแล้วคนตัวเล็กจะเริ่มคิดหนักอีกรอบ เพราะไม่ว่าจะหลบจะเลี่ยงไปทางใด ไอ้เรื่องนี้มันก็ไม่ไปห่างจากตัวสักที

“ก็เพื่อให้มึงกับกรสมหวังกันไง! นี่อย่าคิดว่ากูไม่รู้ มึงเอาเวอร์จิ้นกูไปติดสินบนกรเพื่อขอเขาเป็นแฟนใช่มะ?”

“หา?”ตรฤณถึงขั้นกับอ้าปากตาค้างกับความคิดของสอง

เพื่อนสอง..มึงช่างคิดไปได้ ไอเดียมึงบรรเจิดมากครับกูขอบอก

“ก็ถ้ากูกับไอ้เด็กนั่นเป็นแฟนกันได้ กรเขาถึงจะยอมคบมึงใช่มั๊ยล่ะ?..กูรู้นะว่ากรน่ะดันหลานรหัสตัวเองแค่ไหน”

 “นี่มึงคิดไปถึงไหน?..อย่ามโนไปเอง..กูขอร้อง เพราะถ้าเป็นอย่างที่มึงว่าจริงๆ กูจับมึงมัดหัวมัดหางผูกโบว์ถวายไอ้ภูเบศธ์ตั้งแต่วันที่กรมาขอให้กูช่วยแล้ว!”

กูซึ้งจนน้ำตาจะไหลกับความเป็นเพื่อนที่มึงให้กูเลย...ไอ้ส้นตรฤณ

“แล้วไง..ถึงไม่ใช่ก็เกือบใช่อยู่ดี วันนั้นพวกมึงมอมเหล้ากูแล้วจับกูยัดใส่ห้องไอ้ภูเบศธ์ใช่มะ?”

“ก็เปล่าอีกล่ะ..เด็กนั่นก็บอกไม่ใช่เหรอว่ามึงชวนมันขึ้นห้อง...”

เอ..เหมือนจะจำได้ลางๆแฮะ?

“ไม่ๆๆ! มึงอย่ารื้อฟื้น”พูดไปพูดมาชักเริ่มรู้สึกว่าอะไรหลายๆเริ่มเป็นหลักฐานมัดตัวเองจนเกือบดิ้นไม่หลุดเรื่อยๆ ทางที่ดีควรหยุดพูดเรื่องนี้ไปซะ

   ก็เคยบอกแล้วว่าเมาไม่นับ...เพราะฉะนั้นอย่ามาบังคับกูให้รับมันเป็นเด็กในฮาเร็ม!

“พอชวนขึ้นห้อง ก็ต่อด้วยการ..”พอเห็นอาการของเพื่อนตัวเล็กที่ดูจะไม่อยากรับรู้ว่าตัวเองทำอะไรพลาดไป  ก็ยิ่งเปิดช่องว่างให้ตรฤณหาทางกลั่นแกล้งได้มากขึ้นโดยการพยายามพูดรื้อฟื้นความหลัง(ที่ไม่เคยเกิดขึ้น)ให้เพื่อนได้รับรู้อีก
“สต๊อปไปเลยมึง..ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว กูไม่อยากฟัง!”พูดจบก็ลุกเดินหนีไปดื้อๆทำเอาตรฤณได้แต่หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งอยู่ตรงนั้น

ภูเบศธ์...สงสัยต้องเคลียร์กันหน่อยซะล่ะมั้ง!

___________


“น้องครับ..เห็นภูบ้างมั๊ยครับ?”
เป็นเวลานานหลายนาทีที่สองเดินไปถามคนโน้นคนนี้ที่เดินออกมาจากห้องเรียนของเด็กปีหนึ่งเพื่อตามหาใครบางคน ที่อยากจะสะสางเรื่องราวที่ยังค้างคาสะสางไม่ได้สักที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เจอ ถามใครก็มีแต่ส่ายหน้า ไม่รู้จักบ้าง ไม่เห็นบ้าง...

แล้วกูเป็นบ้าอะไรวะถึงต้องมาทนทุกข์ทรมานเดินให้เมื่อยขาเพื่อตามหามัน!
ปกติเวลาไม่อยากเจอล่ะชอบโผล่หน้ามาให้เห็น แต่พอถึงคราวจำเป็นหลบจนไม่เห็นแม้แต่หางเชียวนะมึง!

สองเองก็ได้แต่ถอนหายใจ เดินหาก็แล้ว ถามหาเอาจากคนอื่นก็แล้ว แต่ไม่มีใครเห็นแม้แต่เงาหัวของภูเบศธ์เลยสักคน แต่พอนึกอะไรบางอย่างออก แววตาน่ารักก็กลับดูซุกซนขี้เล่นขึ้นมาทันที

“น้องครับ?...คือพี่อยากถามว่าน้องรู้จักภูเบศธ์มั๊ยครับ?”  สองยิ้มหวานตามสไตล์ก่อนจะเอ่ยปากถามเด็กหนุ่มปีหนึ่งหน้าตาดีเข้าขั้นที่บังเอิญเดินผ่านมาตรงหน้าเป็นเหยื่อล่อสายตาของสองได้เป็นอย่างดี

“เอ่อ..ไม่รู้จักครับ”เด็กหนุ่มตอบ...ซึ่งเป็นคำตอบที่สองรู้ดีอยู่แล้วเพราะเข็มที่ติดอยู่ที่เนคไทเป็นตัวบอกยี่ห้อว่าไอ้เด็กหน้าหล่อนี่ยี่ห้ออะไร...

“อ่า..น้องอยู่ ‘สังคม’ นี่นาจะรู้จักได้ยังไง..โทษทีๆ”สองยิ้มหวานให้อีกครั้งพร้อมกับโค้งให้เล็กน้อยเพื่อเป็นการขอโทษแต่ดูท่าว่าหน้าตาของสองจะเตะตากรรมการเข้าอย่างจัง ทำเอาหนุ่มน้อยยิ้มหวานกลับคืนให้กับท่าทางน่ารักของรุ่นพี่คณะบริหาร คณะที่ตัวเองถ่อมาเรียนตัวนอกเมเจอร์ ก็เพราะเผื่อว่าจะได้เจออะไรดีๆเหมือนที่ตัวเองกำลังเจออยู่ ณ ตอนนี้

ฮ่าฮ่า! ติดเบ็ดอีกหนึ่งแบบไม่ต้องเปลืองแรง

แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรอีกตามใจคิด อย่างเช่นว่า รุกถามอีกสักนิด ให้เหยื่อที่ติดเบ็ดยอมตามมาง่ายๆอะไรทำนองๆนั้น ก็ดันมีเสียงสวรรค์อันแสนคุ้นเคยแว่วมาให้ได้ยินเสียก่อน

 “ปล่อยไว้ไม่ได้เลยนะ..ชอบหากินหญ้าตามข้างทางจริงๆ”

ฮ่าฮ่า ไอ้บ้านี่ก็ติดเบ็ดไปกับเขาอีกหนึ่งด้วย! แผนนี้ใช้ได้
เพราะถ้ากูเล็มหญ้าอ่อนเมื่อไหร่ ไอ้เด็กปากหมาก็โผล่มาเมื่อนั้น!

“โผล่หางมาได้สักทีนะ!”พอเมื่อคนที่อยากเจอมาอยู่ตรงหน้าปลาที่กำลังติดเบ็ดก็จำต้องปล่อยไปอย่างน่าเสียดาย

เอาไว้ไอ้เด็กเวรนี่ไปเมื่อไหร่ เราค่อยมาสานต่อทีหลังก็ได้..คงไม่สายไปหรอกครับ

สองขยิบตาให้หนุ่มน้อยหน้ามนอย่าขี้เล่น ก่อนจะโดนเด็กตัวใหญ่แรงเยอะลากออกไปให้ห่างจากอาหารที่ล่อตาล่อใจตรงหน้าทันที

“ตามหาผมมีอะไรหรือเปล่า?”
ในขณะที่ลากมือเล็กให้เดินตามมาเรื่อยๆ ริมฝีปากหยักก็เอ่ยตั้งคำถามขึ้นทำเอาคนถูกถามได้แต่หรี่ตามองแผ่นหลังกว้างอย่างสงสัย

“ก็รู้อยู่ว่าตามหา..แต่ก็ไม่เห็นจะโผล่หัวโผล่หางมาให้เห็น เล่นบ้าอะไรอยู่ห๊ะ!”สองเดือดขึ้นอย่างงายดาย เมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองตามหาก็รู้อยู่ว่าโดนตามแต่แค่ไม่ยอมโผล่ออกมาให้เห็นเท่านั้นเอง ถ้าเป็นไปตามที่คิดจริงๆภูเบศธ์คงจะหลบอยู่ใกล้ๆตัวเขานี่แหล่ะ ถึงได้ออกมาขัดขวางเวลาหากินของสองได้ทันท่วงทีเสียเหลือเกิน

“ก็แค่อยากรู้ว่ามาตามหาทำไมจู่ๆออกไป    แล้วโดนตีหัวขึ้นมาล่ะใครจะรับผิดชอบ? เลยต้องแอบดูสถานการณ์ก่อนว่าพี่สองมีอะไรกับผมกันแน่ ถึงได้มาตามหาเอาแบบนี้ เห็นทุกทีชอบขู่ไล่ให้ไปไกลๆ แต่ครั้งนี้กลับเรียกหามันก็ดูแปลกๆอยู่นา”ในที่สุดภูเบศธ์ก็หยุดเดินพร้อมกับการหันมาแถลงไขที่ต้องซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆกับสองเพื่อดูสถานการณ์
“แล้วไง? ฉันอยากเจอนายบ้าง มันแปลกตรงไหนมิทราบ! เดี๋ยวปั๊ดต่อย”ได้ทีก็ขึ้นคำขู่ แต่ภูเบศธ์กลับทำได้แค่เพียงการหัวเราะเล็กน้อยกับท่าทางของรุ่นพี่ตัวเล็กตรงหน้า
ทำเป็นปากกล้า เดี๋ยวเผลอจับจูบขึ้นมา แล้วจะหาว่าไม่เตือน

“ว่าแต่อยากเจอผม คิดถึงเหรอ?”แววตาคมดูขี้เล่นขึ้นมาทันทีพร้อมกับไหล่กว้างกระแซะรุ่นพี่ตัวเล็กอย่างข้ามรุ่นราวกับว่าสนิทสนมกันมาก ซึ่งการกระทำเหล่านี้คนที่ถูกถามเองคงจะไม่ค่อยจะปลื้มเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้อยากพูดอะไรมากเพราะกลัวพูดไปแล้วจะโดนกัดกลับมาขี้เกียจวิ่งไปฟ้องไอ้เพื่อนตรฤณอีก

“ถ้าจะละเมอ ก็กลับไปนอนก่อนไป! ที่มาเนี่ยมีเรื่องอยากจะคุยด้วยหรอก”

“เรื่องอะไรน้าที่ทำให้รุ่นพี่สองถึงขั้นลงทุนตามหาผมด้วยตัวเอง”น้ำเสียงยียวนกวนส้นตีน ของภูเบศธ์ทำเอาเส้นเลือดตรงขมับของสองเต้นตุบๆแต่สองเองก็พยายามที่จะควบคุมตัวเองในอยู่ในสภาวะสงบ ไม่ให้พายุดีเปรสชั่นเข้าพาดผ่านพื้นที่ไม่งั้นเดี๋ยวภูเบศธ์จะไม่มีซากไว้ไห้คุย แล้วเรื่องจะไม่จบสักที

“ก็...เรื่องคืนนั้นน่ะ” สองหันซ้ายหันขวาก่อนจะพูดออกมาเมื่อไม่เห็นว่ามีใครอยู่แถวนั้น

“เรื่องคืนไหน? มีตั้งหลายคืน คืนวันจันทร์ อังคาร พุธ...”

มึงไม่ไล่ให้ถึงวันอาทิตย์เลยล่ะ?..อ่อ..ถึงวันตายเลยก็ได้นะ กูไม่ว่า!

“ไอ้ภูเบศธ์..กรุณาอย่ากวนตีน!” สองพยายามบังคับให้ดูปกติถึงแม่ว่ามือเล็กๆนั่นจะกำเอาไว้แน่นแล้วก็ตาม

“อ้าว? แล้วถ้าไม่บอกแล้วผมจะรู้มั๊ยล่ะว่าคืนไหน?”ถึงปากจะบอกว่าไม่รู้ แต่สายตาที่สื่อออกมาสองก็พอจะรู้เลยทันทีว่ากำลังโดนไอ้เด็กบ้านี่ปั่นหัวอยู่

“ก็เมื่อคืนวันเสี้ยงสายไง? หรือต้องให้พูดขยายความอีก!”

“แล้วมันคืนไหนล่ะ...ยังจำไม่เห็นได้เลย”

หรือว่าต้องให้กูตบหัวกระเตื้องเซลล์สมองอันฉลาดปราดเปรื่องของมึงถึงจะระลึกชาติได้?

“ก็คืนที่นายปล้ำฉันแล้วฉันก็ปล้ำนายไงที่นี้จำได้หรือยัง?!”

ในที่สุดความอดทนก็สิ้นสุดลง พายุดีเปรสชันโหมกระหน่ำพร้อมกับการพูดออกมาจนหมดเปลือกของสอง

“ไม่รู้สิ..สงสัยต้องลองปล้ำกันอีกสักครั้งล่ะมั้งถึงจะจำได้” ใบหน้าคมยกยิ้มที่มุมปากอย่างถูกใจกับคำพูดที่ตรงไปตรงมาของร่างเล็ก ถึงแม้จะขัดใจกับคำว่า “ฉันก็ปล้ำนาย”อยู่บ้างเพราะคำนี้มันหมือนว่าภูเบศธ์ถูกเปลี่ยนสถานะไปอย่างที่ไม่ควรจะเป็น

“ไอ้ภูเบศธ์! ฉันมาพูดดีๆกับนายนะ ทำไมถึงได้ชอบกวนประสาทฉันนัก!”

“ก็เพราะชอบไง ”

ช่างเป็นคำตอบที่ดูจะไม่ตรงกับคำถาม...
นี่มึงพูดเรื่องเดียวกันกับกูอยู่รึเปล่าเนี่ยไอ้ภูเบศธ์!


“แล้วถ้าชอบ ทำไมถึงได้ด่าฉันทุกทีล่ะวะ!”

“ก็เพราะพี่สองน่ารักยังไงล่ะ”

ดูท่าทางกูจะถามไม่ตรงคำตอบของมันซะล่ะมั้ง-“-

“แล้วทำไม.....”

แล้วทำไมกูถึงคิดคำถามต่อไม่ออก เพียงเพราะคำพูดไอ้เด็กนี่!

“ทำไม ผมถึงต้องชอบรุ่นพี่ขนาดนี้ด้วยนะ...ผมเองยังไม่รู้เลย”
ภูเบศธ์ถือโอกาสถามขึ้นมาเอง ก่อนจะคว้ามือเล็กๆเอามากุมไว้แล้วมองมือเล็กนั้นราวกับว่ามันคือลูกแมวน้อยที่น่าทะนุถนอมสองมองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง การกระทำนี้ทำเอาสองใบ้รับประทานไปไม่รู้กี่รอบตั้งแต่ที่รู้จักกันมาช่างเป็นคนที่ให้ได้หลายความรู้สึกจริงๆ....

“อะแฮ่ม! นี่เลิกทำซึ้งแล้วมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”ถึงจะไม่กล้าปฏิเสธว่ารู้สึกดีกับการกระทำของเด็กหนุ่มตรงหน้า แต่สองก็ดึงมือตัวเองกลับมาแล้วพยายามหาทางวกเข้าเรื่องจนได้

เกือบหวั่นไหวไปกับเสียงนุ่มๆ หน้าหล่อๆ ของไอ้เด็กนี่แล้วมั๊ยล่ะ!
เฮ้ยๆๆ! หยุดเต้นแรงสักทีได้มั๊ยวะ รำคาญ!


“เรื่องคืนนั้นน่ะ...ฉันอยากให้นายลืมๆมันไปซะ ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลยยิ่งดี”

“.........”คำพูดของร่างเล็กทำเอาร่างสูงที่ยืนฟังอยู่เงียบลงไปจนผิดสังเกต

“นะ..”สองเอ่ยคำสั้นๆเพื่อเป็นการขอร้อง

“ไม่...”

ทำไงล่ะ? พอดีคืนนั้นไม่มีอะไรให้จำ เลยไม่จำเป็นต้องลืม

“ภูเบศธ์ทางใครทางมันเหอะนะ..ฉันรู้ว่านายน่ะไม่ได้ชอบฉันจริงๆหรอกใช่ม้า~”

“มีใครเคยพูดหรือไงว่าผมไม่ได้ชอบรุ่นพี่จริงๆ”

“แต่ฉันไม่ได้ชอบนาย เพราะฉะนั้นก็ให้เรื่องนี้มันจบๆไปเหอะทางใครทางมัน ถึงนายจะจีบฉันต่อไป หรือว่าจะทำอะไรก็เชิญเถอะ ฉันไม่อยากจะสนแล้ว”สองพยายามหาคำพูดเพื่อให้จบเรื่องที่ดูเหมือนจะยิ่งยืดเยื้อเข้าไปทุกทีนี้ อาจเป็นเพราะบางทีหัวใจของเขากำลังเต้นแปลกไปเพราะเห็นสายตาของคนบางคน แล้วมันจะทำให้เรื่องนี้มันไม่จบไปอย่างที่ตั้งใจไว้

“ไม่อยากสนก็ไม่ต้องสน...ว่าแต่ว่ารูปพวกนี้จะให้ผมจัดการกับมันยังไงดีน้า~”ถึงจะน้อยอกน้อยใจที่โดนตัดความสัมพันธ์แต่ด้วยความมีไหวพริบดีทำให้ร่างสูงรีบควักโทรศัพท์ออกจากจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะรีบเอาเปิดดูหารูปบางรูปที่ถูกกรถ่ายเอาไว้เมื่อไม่นานและส่ง Bluetooth ให้เขามาเก็บไว้เชยชมดูเล่นคนเดียว...แต่ดูท่าทางว่าถึงคราวแล้วที่จะต้องนำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ซะ

“รูป?”

แล้วมันก็ได้ผล เพราะมันทำให้ร่างเล็กที่จะเดินจากไปอย่างไร้เยื่อใยหยุดชะงักและหันมาถามอย่างสงสัยในท่าทางของร่างสูงที่กำลังกดดูรูปในโทรศัพท์อยู่ ราวกับว่าเป็นรูปภาพที่น่าสนใจนักหนา ทำเอาคนนอกอย่างสองเกิดอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาบ้าง เพราะเหมือนมีลางสังหรณ์แปลกๆว่ารูปที่อีกฝ่ายกำลังไล่ดูอยู่มันต้องมีอะไรเกี่ยวกับตนเองอยู่แน่ๆ

หรือว่า..มันถ่ายรูปเอาไว้แบล็คเมล์?

“นี่! รูปอะไรบอกมาเดี๋ยวนี้นะ”
ว่าแล้วร่างเล็กก็เดินอาดๆกลับไปหาร่างสูงก่อนจะใช้มือคว้าโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายมาดูใกล้ๆจะได้เห็นเต็มๆตาว่ามันเป็นรูป

‘สองนอนซบไหล่ภูเบศธ์’

“อ๊ากกกก! รูปบบ้าอะไรเนี่ย?  ไม่ๆ ต้องเป็นรูปตัดต่อแน่ๆ!”สองมองดูรูปในโทรศัพท์ผลัดกับหน้าของไอ้เด็กเวรที่ยิ้มร้ายกลับมาให้

“ลบๆ..ต้องลบมันออก” ว่าแล้วมือเล็กก็กดโทรศัพท์ยิกๆโดยที่ร่างสูงที่ยืนมองอยู่ไม่ได้รู้สึกเสียดายรูปที่กำลังโดนลบ แถมยังเดินมาแล้วเอาหน้ายื่นเข้าไปใกล้ๆเพื่อดูร่างเล็กที่กำลังพยายามลบรูปอย่างเอาเป็นเอาตายพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก

“ลบไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะรูปพวกนี้ยังมีอีกเยอะที่เครื่องคนอื่น”ภูเบศธ์ว่าทำเอาสองแทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ลงกับพื้นให้มันลงไปนอนตายอยู่ที่นั่น แต่ดูท่าว่าตอนนี้สองอยากจับไอ้เด็กบ้านี่ไปเผา เอาแบบให้ไม่เหลือแม้แต่ซากเลยยิ่งดี แต่พอลองคิดดูอีกที เอามันไปยัดลงชักโครกแล้วกดน้ำทิ้ง มันจะหายไปจากโลกนี้มั๊ยวะ?

“เครื่องคนอื่น! นี่แกส่งไปให้คนอื่นดูจนทั่วแล้วเหรอ ห๊า!”สองโกรธจนเลือดขึ้นหน้ามือเล็กกระชากคอเสื้อไอ้หน้าหล่อ ที่บังเอิญยื่นเข้ามาใกล้จนใกล้มือเลยคว้าได้ง่ายๆ และเจ้าของคอเสื้อเองก็ไม่ทันจะได้ตั้งหลักเลยเซถลาถามคอเสื้อไปได้ง่ายๆเช่นกัน

“ใจเย็นๆสิครับ...รูปนี้น่ะมีแค่ที่เครื่องผมกับกรเท่านั้นแหล่ะ”ภูเบศธ์เองก็เริ่มจะเป็นห่วงสวัสดิภาพของตัวเองขึ้นมาเลยจำต้องตอบดีๆ

เพราะหากตอบไม่เข้าหูกูอาจโดนสองงับหัวเอาได้ง่ายๆนะครับงานนนี้

“กร...ฮึ้ย! ฉันชักจะไม่อยากให้ไอ้เพื่อนรักฉันจีบคนนี้แล้วสิ!”สองสะบัดมืออกจากคอเสื้อรุ่นน้องก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสียเพราะไม่ว่าจะเรื่องอะไร ก็ต้องมีชื่อ “กร” เข้ามาเอี่ยวด้วยทุกครั้ง

สงสัยสองต้องเอารายชื่อนี้เข้าแบล็คลิสต์ “ตัวอันตรายสำหรับสอง” ซะ

“ฉันล่ะเกลียดสายรหัสนี้จริงๆ” สองมองหน้าภูเบศธ์อย่างโกรธเคืองก่อนจะโยนโทรศัพท์กลับคืนให้เจ้าของของมันก่อนจะเดินหนีไป แต่ถึงอย่างนั้นภูเบศธ์ก็ยังทำต้องทำหน้าที่เดินตามรุ่นพี่สอง ที่ดูเหมือนว่าคราวนี้เขาจะทำให้คนคนนี้โกรธขึ้นมาจริงๆ

“จะตามมาทำไม?..กลับไปบอกกรเลยสิว่าจะส่งภาพนี้ให้ใครเชยชมก็เชิญเลยตามสบาย ฉันล่ะขี้เกียจจะยุ่งกับพวกนายแล้ว!”ดูก็รู้ว่าร่างเล็กกำลังประชด ภูเบศธ์ทำได้แค่ถอนหายใจแล้วเดินตามให้เร็วยิ่งขึ้นจนคว้าข้อมือเล็กนั้นเอาไว้ได้แล้วดึงให้สองหันหน้ามาหาตนเอง

“โกรธเหรอ?”

“ไม่มั้ง! แถวบ้านแกเขาเรียกอาการแบบนี้ว่าดีใจอยู่หรือไง?”สองเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเหลือบมองหน้าร่างสูงที่รั้งข้อมือตัวเองเอาไว้

“โอเค...ผมขอโทษ..ผมจะกลับไปบอกกรให้ลบรูปพวกนั้นออก...พอใจหรือยัง?”สุดท้ายคนที่ยอมก็ต้องเป็นภูเบศธ์

“ดี!ลบๆออกให้หมดซะเห็นแล้วรำคาญลูกตา”    สองพูดตามความรู้สึกของตัวเองจริงๆหรือว่าพูดเพียงเพราะกำลังอยากจะปกปิดความอายของตัวเองกันแน่...แต่ที่แน่ๆภูเบศธ์กำลังรู้สึกแย่มากๆกับคำพูดของสอง
“การที่เห็นตัวเองนอนซบไหล่ผมอยู่..มันเป็นรูปที่น่าเกลียดขนาดที่ดูไม่ได้เลยเหรอ?”

“แน่นอน..ถ้าคนที่ฉันซบอยู่ไม่ใช่นาย ฉันคงทำใจดูได้บ้างล่ะนะ”

“โอเค...ผมเข้าใจละ”

ภูเบศธ์เข้าใจทุกอย่าง ว่าสุดท้ายเขาก็เป็นเพียงแค่ไอ้เด็กปากหมาที่คนอย่างสองไม่เคยสนใจ

“งั้นต่อจากนี้...ผมจะเลิกยุ่งกับพี่สองตามคำขอ..จบเรื่องทั้งหมดไว้แค่นี้ แล้วเรื่องคืนนั้น ผมก็จะถือว่าไม่ได้เกิดขึ้นแล้วกัน”แววตาของร่างสูงดูเศร้าลงไปทันตาพร้อมกับการเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ากำลังท้อแท้ใจอย่างถึงที่สุด

“ก็...ก็ดี..เลิกยุ่งกับฉันสักที” ถึงอยากจะโห่ร้องด้วยความดีอกดีใจที่ไอ้เด็กปากหมายอมเลิกราบอกว่าจะไม่มารบกวนอีก แต่พอเอาเข้าจริงสองกลับรู้สึกแปลกๆ...ไม่เห็นอยากดีใจอย่างที่เคยคิดเอาไว้เลยแฮะ?

สุดท้ายก็เอ่ยออกไปเช่นนั้นทำเอามือใหญ่ค่อยๆคลายมือออกจากข้อมือของสอง คล้ายจะบอกว่า... ‘ได้เวลาปล่อยมือจากคนที่ไม่เคยสนใจตัวเองสักที’

“ลาก่อนครับ...พี่สอง” ภูเบศธ์พูดขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะเอี้ยวตัวหันหลังแล้วเดินจากไปโดยที่สองไม่ได้เอ่ยรั้งเอาไว้เลย ทั้งที่ถ้าหากภูเบศธ์เพียงแค่หันหลังกลับมา ก็จะพบว่ามือเล็กๆถูกยกขึ้นเหมือนจะเป็นการห้ามว่า “อย่าเพิ่งไป” แต่สุดท้ายภูเบศธ์ก็ไม่ยอมหันมา และสองก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกพร้อมกับลดมือลง

เฮ้อ...สงสัยปลายปีนี้ผมคงต้องได้รางวัลตุ๊กตาทองแหงๆเลยครับท่านผู้ชม

_________________


“มึง....เป็นอะไรอีกล่ะเนี่ย~ “ตรฤณนั่งมองเพื่อนรักที่เขี่ยข้าวในจานไปมาอยู่นานสองนาน แถมยังเหม่อแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนจะเอ่ยทักขึ้นแต่ก็ดูเหมือนว่าเสียงนั้นจะไม่ได้เข้าไปกระทบโสตประสาทของสองเลยสักนิดเดียว

“ไอ้สอง!”

“หา? มึงมีอะไรเหรอ?”ในที่สุดสติสตางค์ของสองก็กลับเข้าสิงสู่ร่างเช่นเดิม

“กูยังไม่ได้ถามมึงเลยว่าเมื่อกี้หายไปไหนมา” ตรฤณถามพร้อมกับตักข้าวเข้าปากแล้วเคี้ยวมันอย่างเอร็ดอร่อยผิดไปจากสองที่ยังคงนั่งเขี่ยข้าวเหมือนเดิม

“ไปหาไอ้เด็กเวรนั่นมา...”

“ไปหามันทำไม..คิดถึงมันเหรอ?”ตรฤณยังคงถามเล่นแต่สองกลับส่ายหน้า ทำเอาตรฤณแปลกใจกับอาการของเพื่อนรัก เพราะถ้าหากเขากวนไปอย่างนี้มีเหรอที่สองจะยอมนั่งนิ่งๆ มีแต่จะเอาตะเกียบทิ่มตาเขาเสียก่อน แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แฮะ...ไปโดนมนต์ดำไอ้เด็กปากหมามาเหรอวะ?

“เออกูมีเรื่องจะบอก ไอ้เด็กนั่นบอกว่าจะเลิกยุ่งกับกูแล้วล่ะ”

“อ้าวแล้วมึงไม่ดีใจเหรอ? ที่มันจะเลิกยุ่งกับมึง เห็นมึงเกลียดมันนักหนา”ตรฤณรีบถามกลับเพื่อสาวเอาคำตอบที่แน่ชัดมากกว่านี้

“ก็ดีใจสิ..กูดีใจแทบจะเต้นฮูลาฮูล่าแล้วเนี่ย”

แต่คำพูดมึงตรงข้ามกับท่าทางและการแสดงออกของมึงมากไปหน่อยมั๊ยวะสอง
บอกกูว่าอยากเต้นฮูลาฮูล่าแต่ทำหน้าอย่างกับจะไปงานศพ
กูชักจะไม่ค่อยเข้าใจมึงแล้วล่ะ!


“มึงแน่ใจเหรอ ว่ามึงดีใจที่ไอ้เด็กนั่นจะเลิกยุ่งกับมึงจริงๆ”ตรฤณเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจังให้เข้ากับสถานการณ์ซึ่งคำพูดเหล่านั้นก็ทำให้เพื่อนตัวเล็กได้คิด..คิดไปถึงใบหน้าไอ้เด็กปีหนึ่งที่ชอบหาเรื่องด่าหาเรื่องว่าสองได้สารพัดจะสรรหาคำมาด่า

คิดไปถึงคำที่ไอ้เด็กปีหนึ่งเคยบอกเอาไว้ว่า “อยากจะจีบ”

ไหนจะคำว่า “ชอบ” ไหนจะคำชมว่า “น่ารัก”

แต่สุดท้ายกลับทำหน้าเศร้า แล้วมาบอกว่าจะเลิกยุ่ง

เฮ้อ! ตอนนี้ความคิดของสองยุ่งเสียยิ่งกว่ายุงตีกันอีก!

ชักไม่ค่อยจะแน่ใจตัวเองว่า “ดีใจ” จริงๆหรือเปล่าซะแล้วสิ

สุดท้ายสองก็เลือกที่จะเอาจานข้าวที่ไม่ได้พร่องลงไปแม้แต่น้อยไปเก็บแล้วชวนตรฤณเดินเข้าห้องเรียน แต่ก่อนเข้าห้องตรฤณกลับขอปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำแล้วรีบเอาโทรศัพท์ออกมา

“นี่กร...ดูเหมือนแผนของนายจะได้ผลล่ะ^^”

_______________________



ryoko_chan

  • บุคคลทั่วไป
“ถ้ายังไม่ได้ผล มันก็ต้องลองด้วยวิธีนี้..”

“วิธีอะไร?” สองหนุ่มเอ่ยถามขึ้นพร้อมกันหลังจากนั่งสุมหัวปรึกษาปัญหาหัวใจกันอยู่นานสองนาน จนสุดท้ายนักวางแผนตัวยงก็คิดแผนสุดเด็ดออก

“แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลแค่ไหนกับเพื่อนของตรฤณนะ..ได้ข่าวว่าใจแข็งนักนี่”กรครุ่นคิดอีกครั้ง แต่ทั้งภูเบศธ์และตรฤณก็ยังรบเร้าให้บอกแผนอยู่ดี อย่างน้อยก็ต้องลองดูได้ผลไม่ได้ผลค่อยว่ากัน

“ลองทำเป็นไม่สนใจดูสักหน่อยมั๊ย?..แบบเลิกยุ่งเลิกตื๊อ อะไรทำนองนั้น..ลองให้สองรู้สึกตัวเองบ้างว่าถ้าไม่มีภูเบศธ์แล้วจะเป็นยังไง"กรร่ายยาวถึงวิธีการซึ่งภูเบศธ์เห็นด้วย แต่ตรฤณกลับรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจกับวิธีนี้เท่าที่ควร

“ฉันกลัวว่าไอ้สองมันจะรู้สึกสบายอกสบายใจจนจะลืมภูเอาง่ายๆน่ะสิ แค่เด็กในฮาเร็มของมันที่คอยเอาใจอยู่ที่วี่ทุกวันมันยังจำชื่อไม่ค่อยจะได้เล้ย~ อย่าคิดจะหายหน้าหายตาไปจากวงจรชีวิตมันเลย รับรองได้เลยว่ามันลืมชัวร์ๆ”

“ไม่ลองก็ไม่รู้นะ”ดูเหมือนภูเบศธ์อยากลองวิธีนี้ใจจะขาดซะแล้วสิ

“ตามใจ..ฉันเตือนแล้วนะ”ตรฤณไหวไหล่ก่อนจะมองหน้ากรเพื่อขอความคิดเห็น

“ให้มันลองทำเถอะ... ลองดูว่าเพื่อนนายน่ะจะไม่เคยสนใจไอ้เด็กนี่อย่างที่ปากว่าเอาไว้จริงๆหรือเปล่า..”กรบอกกับตรฤณพร้อมกับมองภูเบศธ์ที่ดูเหมือนอยากจะสนุกกับวิธีการ “เมินเฉย” กับสองเต็มที่

“งั้นก็ต้องลองดูสักตั้งแล้วกัน..เอาใจช่วยนะไอ้น้อง ” ตรฤณตบบ่าภูเบศธ์เบาเพื่อให้กำลังใจซึ่งภูเบศธ์เองก็ยิ้มรับกำลังใจนั้น


________________________


“มึงจะรีบไปไหนน่ะ?”ตรฤณรีบถามเพื่อนตัวเองทันทีเมื่อจบคาบเรียนแล้วเห็นว่าสองรีบเก็บของลงกระเป๋า

“น้องบอลจะมารับกลับ”สองตอคำถามพร้อมๆกับการเก็บกระเป๋าดินสอลงกระเป๋าเป้เป็นชิ้นสุดท้าย

“นี่กลับไปคบน้องเขาอีกแล้วเหรอ?”

“ก็ไม่ได้เลิกคบนี่หว่า..ไปก่อนนะเดี๋ยวน้องเขารอนาน”ว่าแล้วก็รีบเดินออกจากห้องไปทันที แทบทำเอาตรฤณควักโทรศัพท์ออกมาไม่ทัน

“นี่ภู...ไอ้สองกำลังจะลงไปแล้วนะ”พูดแค่นั้นอีกฝ่ายก็ตัดสายไป...เอาเป็นว่ารู้กันใช่มั๊ยไอ้น้อง!

ร่างเล็กที่กำลังรีบเดินลงบันไดกลับต้องชะงักเมื่อเห็นใครบางคนยืนพิงกับราวบันไดอยู่ข้างล่าง ถึงจะเห็นเพียงแค่ด้านหลังแต่สองก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร ทำเอาจังหวะในการเดินของสองค่อยๆช้าลง      พอร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านล่างหันมาทำเอาขาเล็กชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็เดินลงบันไดจนมาถึงขั้นสุดท้าย สายตาทั้งสองคู่ประสานกันโดยบังเอิญ ทำเอาหัวใจดวงน้อยกลับเต้นรัวอย่างไร้เหตุผล  บางทีสองอาจจะหวังไว้อยู่ลึกๆว่าไอ้เด็กนี่มารอตัวเอง..

“เฮ้! ไอ้กลองเย็นนี้ไปทำงานกันนะเว้ย” แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่ร่างสูงเอ่ยทักไม่ใช่สองที่เดินลงมาก็เท่านั้นเองก็เป็นคนบอกไม่ให้เขาเลิกยุ่งกับตัวเองเอง.. แล้วจะหวังอะไร?..กมลินทร์..กำลังหวังอะไรอยู่นะ..

ในที่สุดร่างเล็กก็เดินผ่านภูเบศธ์ไป แล้วเดินขึ้นรถของน้องบอลที่มาจอดเทียบอยู่หน้าคณะเป็นที่เรียบร้อย ส่วนทางภูเบศธ์ที่แอบมองร่างเล็กเดินขึ้นรถคนอื่นต่อหน้าต่อตาก็ทำได้แค่เพียงยืนมองอยู่อย่างนั้นโดยมีตรฤณยืนอยู่ข้างๆคอยให้กำลังใจอีกที
“ไหนพี่ตรฤณบอกว่าได้ผลไง? แล้วไหงเดินไปขึ้นรถเด็กในฮาเร็มหน้าตาเฉยแบบนั้นล่ะ”ภูเบศธ์มองรถหรูที่เคลื่อนๆตัวห่างไปเรื่อยด้วยแววตาละห้อยก่อนจะถามตรฤณที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่เมื่อวานมันแปลกไปจริงๆนะ แทนที่มันจะดีใจที่นายบอกจะเลิกยุ่งกับมัน แต่มันกลับหงอยเป็นวัวน้อยขาดแม่เลยล่ะ”ตรฤณอธิบาย

“สงสัยจะไม่ได้ผลแฮะ”ภูเบศธ์พูดอย่าท้อแท้และหมดกำลังใจ

“ก็บอกแล้วว่าไอ้สองเป็นพวกความจำสั้นเป็นปลาทอง”

พูดตามตรงว่าตรฤณไม่ได้อยากพูดทำร้ายจิตใจไอ้เด็กนี่หรอกนะ...แต่ทำไมยิ่งตรฤณพูด ภูเบศธ์ยิ่งห่อไหล่ทำหน้าเหมือนอยากบรรลัยหายไปจากโลกใบนี้เสียเต็มประดา

“เฮ้! อย่าเพิ่งท้อสิ..แต่เท่าที่รู้มา สองเป็นพวกไม่ค่อยรู้ตัวด้วยนะ....บางทีมันอาจจะยังไม่รู้ตัวก็ได้”

พอพูดอย่างนี้ ไอ้เด็กปากหมานี่ค่อยดูดีมีชีวิตชีวาขึ้นมาสักหน่อย

“ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นนะครับ..”

พูดแล้วก็ถอนหายใจ...ไม่ใช่อะไร แค่ตอนนี้คันปากที่ไม่ได้กัดคน

_______________

“พี่สองอยากไปดูหนังหรือเปล่าครับ..”

“.........”

“พี่สองครับ?”

“..............”

“พี่สอง”เด็กหนุ่มลองเร่งวอลลุ่มเสียงให้ดังยิ่งขึ้นในเมื่อเรียกคนที่นั่งอยู่ข้างๆอยู่นานสองนานเขาก็ไม่กันและดูเหมือนไม่รู้สึกตัวสักที

“หือ? บอลมีอะไรหรือเปล่า?”

“ผมถามว่าพี่สองอยากไปดูหนังหรือเปล่าครับ”

“อ๋อ...อยากสิ...อยากไป”สองหันกลับไปยิ้มให้หนุ่มน้อยสารถีส่วนตัวที่กำลังขับรถมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง

“ดูพี่สองเหนื่อยๆนะครับ..นอนไม่พอหรือเปล่า?” บอลเอ่ยถามแต่สองกลับส่ายหน้าเป็นคำตอบ เพราะคำพูดของเด็กปากหมาบางคนมากกว่าที่ทำให้สองดูไม่ค่อยสู้ดีนัก

เห?...ที่กูเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ตอนนี้เพราะไอ้เด็กปากดีนั่นเหรอ?

“ไม่มีอะไรหรอก..แค่ช่วงนี้มีอะไรให้คิดนิดหน่อยน่ะ”

อย่าให้ได้เจอหน้าอีกนะพ่อจะตั๊นหน้าให้!
โทษฐานทำให้สองผู้น่ารักดูเหนื่อยๆจนเหมือนคนนอนไม่พอ!

ว่าแต่คำพูดไอ้เด็กเวรนั่นมันมาทำอะไรให้กูเหมือนคนนอนไม่พอวะ?
(เห็นมั๊ยกูบอกแล้วว่าสองเป็นพวกไม่ค่อยรู้ใจตัวเอง! << ข้อความจากผู้หวังดี)

“ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ เล่าให้ผมฟังได้นะครับ”น้ำเสียงอ่อนโยนของบอลทำเอาสองยิ้มแก้มปริ

โอ๊ยยยย กูล่ะปลื้มใจเด็กๆในฮาเร็มหล่อก็เท่านั้น เอาใจเก่งก็เท่านี้ แล้วทำไมตอนนี้ในหัวกูต้องมีแต่ “ภูเบศธ์” ลอยอยู่ในหัวด้วยวะ?
เห็นหน้ามันลอยมา แล้วเสียอารมณ์ปลื้มเด็กชะมัด! 

“ไม่มีอะไรใหญ่โตหรอกบอล เรื่องหมูหมากาไก่น่ะ อย่าสนใจเลย”

“งั้นพี่สองก็อย่าเครียดสิครับ..ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลย”

เด็กหนุ่มยิ้มให้กำลังใจสองอีกครั้ง ก่อนจะรู้สึกแปลกๆกับอะไรบางอย่างเมื่อมองกระจกส่องหลัง เพราะเหมือนก่อนหน้าก็เห็นว่ารถคันนี้ตามติดตลอด พอลองมองดูอีกครั้งก็ยังคงตามอยู่ ชักจะแปลกๆซะแล้วล่ะมั้ง

“พี่สอง...เหมือนมีคนตามเราอยู่เลย”บอลบอกเล่าถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ว่าแล้วสองก็เอี้ยวหัวหันไปทางด้านหลังโดยไม่ต้องดูกระจกส่องหลังให้เสียเวลา

“พี่สองรู้จักรถคันที่ตามเรามาหรือเปล่าครับ?”บอลเองก็เริ่มใจไม่ดีเพราะไม่รู้ว่าตัวเองไปสร้างศัตรูอะไรไว้ทางไหนหรือเปล่า แต่ที่หวั่นๆก็คงจะเป็นเด็กของรุ่นพี่ตัวเล็กที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถอยู่มากกว่า ไม่ใช่ไม่รู้ว่าสองฮอตขนาดไหน แต่ก็ถือว่าโชคดีที่เข้ามาจีบแล้วสองยอมเล่นด้วย ..แต่ถ้าหากรู้ว่าจีบแล้วโดนตามแบบนี้บอลก็ชักจะป๊อดๆขึ้นมาได้เหมือนกัน

“นั่นมัน....”แค่หันไปเจอยี่ห้อกับสีรถสองก็รู้ทันทีว่ารถใคร....

รถ Audi A4 สีน้ำเงินเข้ม ของไอ้ตรฤณ เพื่อนกูเอง

“พี่สองรู้จักใช่มั๊ยครับ?”

“ฮ่าฮ่า ...ไม่รู้จักหรอก รถใครก็ไม่รู้...ไม่รู้เลยจริงๆ” สองยิ้มร้ายอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ทำเอาบอลเกิดอาการหนาวๆร้อนๆกับรอยยิ้มเช่นนั้น

กูล่ะอยากจะรู้จริงๆว่ามึงเอา ไอ้เด็กปากหมาภูเบศธ์นั่นตามกูมาทำไม..

ไอ้ตรฤณ...



TBC



ขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้นะค้า

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






vi2212

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นๆเมื่อไหร่ภูจะจีบติด :impress2:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เวรกรรม  นี่ก็เล่นตามซะรู้ตัวเลย  เฮ้อ

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
โอยยยยยยยยยย แผนจะแตกไม๊นั่นนนนพ่อภูเอ๊ยยยย!!  สู้ๆนะ ป้าเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ  :laugh:  :laugh:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
มันจะเปงอารายยังไงน้อ อยากรุ็เหมือนกานนะนี่

รอรอต่อไปน้า++

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ภู ทำไมไม่ควงคนอื่นให้เห็นชัดๆไปเลย ฮิ้วๆ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
ภูเอ้ยไม่แน่จริงนี่นา

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
ดูเหมือนอะไรๆก็เข้าข้างพระเอกเราจังเลยนะ  555 

ยกเว้น...รักแรกของสองที่กำลังจะกลับมา  อิอิ

Tassanee

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
แผนจะแตกก็คราวนี้หล่ะ..

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
หวา~ ฉุกเฉินๆ สองรู้ตัวแล้ว เปลี่ยนแผนสำรองด่วน! :z2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด