โต้งตื่นมาราวๆ บ่ายสองโมง ค่อยพยุงตัวลุกขึ้นยืนขยี้ตา และเดินไปเปิดม่านให้แดดส่องเข้ามา มองหามิว แต่ไม่เจอมิวอยู่ในห้องนอน โต้งเดินลงบันไดมา พร้อมส่งเสียงร้องเรียกมิว
“มิว อยู่ไหนน่ะ”
“งั้นตามนั้นนะครับน้านีย์ แล้วเดี๋ยวผมจะบอกให้โต้งเตรียมตัวไว้ แค่นี้นะครับ” มิวกดวางโทรศัพท์
“คุยกับใครเหรอมิว” โต้งเดินลงมาถามมิว
“เราโทรบอกน้านีย์แล้วนะ เดี๋ยวน้านีย์มารับ” มิวบอกและยิ้มให้
“อืม” โต้งก้มหน้าก้มตาตอบ น้าเศร้าลงไปเล็กน้อย เดินหันหลังขึ้นไปเก็บข้าวของ และอาบน้ำ
มิวเดินตามขึ้นมาบนห้อง ดูไปรอบๆ ห้องเห็นเป้ของโต้ง มีตุ๊กตาที่มิวให้แขวนอยู่มิวแกะออกและหยิบมันขึ้นมาดูเห็นว่า ที่เท้าอีกข้างมีชื่อโต้งเย็บติดในลักษณะเดียวกัน รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนหน้ามิว โต้งที่อาบน้ำเสร็จแล้ว เดินเข้ามาในห้องพอดีเห็นมิวกำลังนั่งดูตุ๊กตาอยู่
“เห็นแล้วเหรอ” โต้งถามขณะเดิน “ไม่อยากให้มีชื่อมิวคนเดียวน่ะ กลัวมิวจะเหงา” โต้งบอกพลางยิ้มให้ พร้อมกับเช็ดหัวที่เปียกอยู่ไปด้วย
“ขอบใจนะ” มิวตอบและยิ้มอีกครั้งสายตายังคงมองทีชื่อโต้งอยู่ “สงสัยน้านีย์มาแล้ว” มิวบอกหลังจากได้ยินเสียงจอดรถและเสียงเปิดประตู
“เดี๋ยวเราลงไปก่อนนะ โต้งเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของเสร็จแล้วตามลงไปนะ” มิวลุกขึ้นเดินผ่านหน้าโต้ง
โต้งดึงมือมิวไว้ "ไม่ว่าต่อจากนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น มิวจำคำที่เราบอกมิวเมื่อคืนไว้นะ” โต้งบอกมิวด้วยคำพูดที่อ่อนโยน แต่สายตาสื่อความหมายมากกว่าคำที่พูดออกมาหลายร้อยหลายพันเท่า “แล้วเราจะไปดูคอนเสิร์ตของมิวนะ”
มิวพยักหน้า ยิ้มๆ เป็นการตอบ และเดินออกจากห้องไป
“โต้ง อยู่ไหนน่ะ กลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ” กรโวยวายอยู่ชั้นล่างของบ้านมิวแทนที่จะเป็นสุนีย์ มิวตกใจและรีบวิ่งลงไป
“หวัดดีครับน้ากร” มิวยกมือไหว้ แต่กรไม่ใส่ใจ
“ไอ้เจ้าโต้งมันอยู่ไหน” กรถามอย่างคนเมาแต่น้ำเสียงเฉียบขาด และดุดัน
“เดี๋ยวลงมาครับน้ากร เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้” มิวตอบ เสียงสั่นด้วยความกลัวเล็กน้อย
“ไม่ต้อง” กรตอบ
“พ่อ” โต้งร้องเสียงดังด้วยความตกใจเมื่อเห็นกร ขณะเดินลงมาจากชั้นบน
“กลับบ้านเดี๋ยวนี้” กรเดินไปดึงมือโต้งรีบเดินออกไปจากบ้าน
“แล้วแม่ล่ะ”
“แม่แกให้พ่อมารับแทน ไม่ต้องพูดอะไรมากไปขึ้นรถ”
โต้งหันมามองมิว มิวมีสีหน้าเป็นกังวลพยักหน้าให้ไปเถอะ
กรลากโต้งไปขึ้นรถโต้งยอมตามไป นั่งในรถแต่สายตายังคงมองมิวอยู่ตลอดเวลา
กรถอยรถออกไปอย่างรวดเร็ว มิวเดินออกไปหน้าบ้านมองรถโต้งขับออกไป
หญิงเดินเข้ามาหาจับไหล่โต้งสีหน้าเป็นห่วงเพื่อนมาก
“ไม่เป็นไรนะมิว”
“อืมไม่เป็นไรหรอก”
โทรศัพท์ของมิวดังขึ้น “มิว นั่นมิวใช่มั้ย นี่น้านะ น้ากรไปที่นั่นหรือเปล่า” เสียงสุนีย์ดังมาจากโทรศัพท์น้ำเสียงรอนรน
“ครับ น้ากรมาที่นี่ครับน้านีย์” มิวตอบด้วยความสงสัยปนตกใจ
“มิว มิวให้โต้งรั้งตัวน้ากรไว้นะ น้ากรเมาอยู่และหยิบกุญแจขับรถออกมาก่อน น้ากำลังรีบนั่งแท็กซี่ตามมา” สุนีย์รีบพูดด้วย
“น้ากรกับโต้งขับรถออกไปแล้วครับ น้านีย์ไปเมื่อกี๊นี้เอง” มิวตอบน้ำเสียงร้อนรนไม่แพ้อีกฝ่าย
“โอเค งั้นไม่เป็นไรนะมิว แค่นี้นะ” สุนีย์วางสายไป มิวสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“มีอะไรเหรอมิว” หญิงถาม
“น้านีย์ไม่ได้เป็นคนให้น้ากรมารับโต้ง และน้ากรก็เมาอยู่ด้วย” มิวตอบเสียงสั่น
“ตายจริง ทำไงดีล่ะ”
“เราจะตามไป” มิวบอกแล้วรีบเข้าบ้านไปหยิบของ จัดแจงปิดบ้าน
หญิงรีบวิ่งเข้าไปหยิบของในบ้าน เสียงหม่าม้าหญิงโวยวายตามหลังหญิงที่วิ่งอย่างรีบร้อนมา
“เราไปเป็นเพื่อน” หญิงตอบ มิวพยักหน้าแล้วทั้งคู่รีบวิ่งไปเรียกรถแท๊กซี่
บนรถที่แล่นด้วยความเร็วสูง กรและโต้งระเบิดอารมณ์ใส่กันอีกครั้ง
“พ่อไม่ได้อยากเลี้ยงโต้งมาให้เป็นคนแบบนี้”
“โต้งไม่ได้ทำอะไรผิด” ทั้งคู่ตะโกนใส่กันอย่างไม่ยั้งอารมณ์
“แกเป็นผู้ชายแต่แกชอบผู้ชายมันไม่เรียกว่าผิดแล้วให้เรียกว่าอะไร” กรหันมาตะคอกใส่โต้ง
“โต้งไม่ได้ชอบมิวเพราะมิวเป็นผู้ชาย โต้งไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นกับผู้ชายคนไหน โต้งรักมิวเพราะมิวคือมิว”
กรอึ้งไปเล็กน้อยกับคำพูดนั้น แต่ก็หันมาระเบิดอารมณ์ใส่โต้งต่อ “ฉันเสียใจที่เลี้ยงแกไม่ได้ดี”
“พ่อเลี้ยงเหรอ แม่ต่างหาก โต้งก็เสียใจที่มีพ่อที่ไม่เปิดใจรับฟังใคร” โต้งยังคงเถียงต่อ
“แก ไอ้โต้ง…”
เสียงแตรรถบีบเสียงดังยาว กรและโต้งหันไปทองเห็นรถของเขากำลังจะพุ่งชนรถเมล์
กรหักหลบทำให้รถเสียหลักไถลไปตามถนนพุ่งเข้าชนกับต้นไม้ข้างทางอย่างแรงจนต้นไม้แทบจะหักลงมา
ทั้งกรและโต้งมีเลือดออกตามตัวและหมดสติไป