มีกี่คนเราก็จะอัพ เด๋ว epologue ลงพร้อมกันสองเว็บเลย 555
...
วันรุ่งขึ้นโต้งนั่งรออยู่ที่น้ำพุ
“โต้งรอนานไหม”
“ไม่นานหรอก ไปกันเถอะ”
โต้งกับมิวเดินไปดูนู่นดูนี่ทั่วสยาม อย่างมีความสุข มีคนเข้ามาทักและขอถ่ายรูปกับมิวประปราย แต่มิวก็ไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนดังเลยซักนิดเวลาที่อยู่กับโต้ง โต้งก็มีความสุขมากกับวันนี้ ทั้งสองคนเดินดูและซื้อของนิดหน่อยจนมาถึงร้านขายชุดนักศึกษา
“ถ้าใส่ชุดนักศึกษาแล้วจะดูตลกไหมนะ” มิวถาม
“คงไม่หรอกน่า” โต้งยิ้มให้
“พี่ครับ ลองได้ไหมครับ”
“ลองได้เลยค่ะ เอ๊ะน้องที่เป็นนักร้องวงออกัสใช่ไหม”
“เอ่อ ใช่ครับ” มิวตอบพลางฝากของให้โต้งถือเพื่อลองเสื้อ
“พี่ชอบเพลงน้องมากเลยนะ เดี๋ยวซื้อแล้วพี่ลดให้พิเศษเลย”
“ขอบคุณครับ” มิวหันไปหาโต้งเพื่อให้ดูเสื้อที่ลอง เลิกคิ้วเชิงถาม โต้งยิ้มพร้อมพยักหน้า
“น้องคนนี้อยู่ในวงด้วยหรือเปล่าคะ”
“อ๋อเปล่าๆ ครับ ผมไม่ได้เล่นดนตรีหรอกครับ” โต้งตอบแล้วยิ้มให้เจ้าของร้าน
“อืม เห็นว่าหน้าตาน่ารัก นึกว่าเป็นดารากับเขาด้วย” โต้งยิ้มเขินๆ พยักหน้าเชิงขอบคุณ
“เราเลือกได้แล้ว โต้งไปดูสิ” มิวบอกให้โต้งเลือกเสื้อบ้างพร้อมกับหยิบของที่โต้งถือมาถือเอง
“เลือกไมค่อยเป็นน่ะ มิวเลือกทีสิ” โต้งเอาของกลับไปถือตามเดิม มิวหยิบเสื้อแบบคล้ายๆ ของเขาออกมาตัวหนึ่งบอกให้โต้งหันหลังแล้วเอาเสื้อทาบ
“คงใส่ไซส์เดียวกันแหละเนอะ แบบนี้ชอบไหม”
“ก็ดี มิวเลือกมาเหอะ เราดูไม่เป็น” เจ้าของร้านมองสองคนด้วยสายตาประหลาดๆ
“พี่ครับ หกตัวลดได้เท่าไหร่”
“พี่ลดให้ตัวละห้าสิบบาทแล้วกัน”
“โอเคครับ นี่เงินครับ”
“พี่ขอถ่ายรูปด้วยหน่อยได้ไหม”
“ได้ๆ ครับ” มิวถ่ายรูปคู่กับเจ้าของร้าน แล้วถ่ายกับลูกน้องในร้านด้วย จากนั้นก็เดินออกไป
“หนูว่ามันแปลกๆ นะพี่ ผู้ชายหน้าตาดีมาเดินซื้อของด้วยกันสองคน”
“แกจะบ้าเหรอ เขาก็เพื่อนกัน”
“ไม่รู้สิหนูว่าหนูว่ามันแปลกๆ”
คนในร้านพูดคุยกันหลังทั้งสองคนเดินออกไป
โต้งและมิวเดินซื้อของอีกพักนึง ไปเลือกร้านตัดกางเกงและจึงไปนั่งพักกินไอศกรีมกันที่ร้านประจำ พลางนั่งคุยกันไป
“วันนี้โต้งยิ้มทั้งวันเลย”
“เหรอ ไม่เห็นรู้สึก” โต้งตอบยิ้มๆ
“ตอนนี้ยังยิ้มอยู่เลย”
“เหรอ” พูดไปก็ตักไอศกรีมกินไปแก้เขิน
พอกินไอศกรีมจนหมด ทั้งสองคนก็เดินไปขึ้นแท็กซี่ “เราไปส่งมิวที่บ้านนะ”
“ก็ตามใจสิ”
ทั้งสองคนนั่งรถจนมาถึงบ้านของมิว โต้งลงมาด้วย
“อ้าว ลงมาทำไม ทำไมไม่นั่งคันนั้นกลับต่อไปเลย”
“อยากขึ้นไปดูอะไรก่อนน่ะ”
“เดี๋ยวน้านีย์ก็ว่าเอาหรอก”
“ไม่หรอก บอกไว้แล้วนี่ก็ยังไม่เปิดเทอมด้วย”
“อืมๆ ตามใจแล้วกัน”
โต้งกับมิวเดินขึ้นไปบนบ้านด้วยกัน
“อ้าวไม่พอดีกันเหรอ”
“อืม ใส่ไม่ลงน่ะ”
“ยังไงมันก็ของคนละตัวกันน่ะนะ แทนกันไม่ได้หรอก” โต้งบอกมิวพลางยิ้มให้
โต้งถามเรื่องตุ๊กตาไม้ ที่อยู่ที่หัวเตียง
“เออโต้งเรามีอะไรให้ดู” มิวพูดจบพลางเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์
“นี่รูปบรรยากาศงานคริสต์มาสปีที่แล้ว ที่เราเล่นคอนเสิร์ตน่ะ”
มิวเปิดดูรูปไปเรื่อยๆ “นี่ๆ มีรูปโต้งกับหญิงด้วยนะ” มิวเรียกให้ดูรูปโต้งกับหญิงเล็กๆ ในรูปบรรยากาศคนที่มาดูคอนเสิร์ต
“ไหนๆ” โต้งเอาหน้าก้มลงมาที่จอคอมพิวเตอร์ที่มิวนั่งอยู่ในลักษณะเท้าแขนไว้โต๊ะข้างหนึ่ง
มิวขยับตัวเล็กน้อยให้ห่างจากแขนโต้ง โต้งหันหน้ามาทางมิว ทั้งสองคนสบตากันอยู่ครู่หนึ่งโต้งค่อยๆ เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้กับหน้ามิว มิวหลับตาลง โต้งบรรจงริมฝีปากแตะริมฝีปากของอีกฝ่าย ทั้งคู่ตกอยู่ในห้วงความรักของกันและกัน …..
บนที่นอนโต้งและมิวนอนหงายมองเพดานอยู่
“หลังจากคอนเสิร์ต มิวกลับมาแล้วรู้สึกยังไง”
“อย่าถามเลย เราไม่อยากพูดถึงน่ะ”
“มิวเหงาไหม”
“อืม”
“เราก็เหงา เราพยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แม้ครอบครัวเราจะมีความสุขดีแล้ว แต่เราก็ยังรู้สึกเหงา”โต้งบอก
“ความเหงาก็เป็นอย่างนี้แหละ ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ และไม่เคยปราณีใคร”
“แต่ตอนนี้ เราจะไม่เหงาแล้วล่ะมิว”
“ทำไมเหรอ”
“เพราะเรามีมิวไง” โต้งยื่นแขนไปให้มิวนอนหนุนแล้วโต้งก็ดึงตัวมิวมากอดไว้