]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (จบ) แจ้งข่าว ให้ติดตามในแฟนเพจ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (จบ) แจ้งข่าว ให้ติดตามในแฟนเพจ  (อ่าน 304325 ครั้ง)

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #30 เมื่อ06-01-2012 11:46:36 »

โว๊ะ ซี๊ดมาก แต่แอบสงสารพวกผู้หญิงนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2012 20:50:37 โดย NewYearzz »

ออฟไลน์ Also

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #31 เมื่อ06-01-2012 21:15:05 »

 :L2: :L2:
เป็นกำลังใจให้ค้า
ดันๆเรื่องใหม่ หุหุ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #32 เมื่อ06-01-2012 21:56:49 »

:call: :call: :call:

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #33 เมื่อ06-01-2012 22:52:20 »

ความสัมพันธ์พัฒนาไวมากๆ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #34 เมื่อ07-01-2012 02:30:30 »

โอ้ชวนกันเข้าห้อง ท่าทางเรื่องจะเดินไวนะเนี่ยแต่ปมมันอยู่ตรงเรื่องความสับสน กับตัวแฟนๆด้วย
แล้วจะรออ่านต่อน๊า

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #35 เมื่อ07-01-2012 15:12:06 »

 :3123:

tamahomae

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #36 เมื่อ07-01-2012 17:11:23 »

ได้อ่านจากในเมลแล้วรู้สึกไม่ได้ฟิล เลยมาอ่านอีกที
..........................................
ไม่แปลกที่เริ่มจากมิตรภาพแล้วจะกลายมาเป็นความรัก
 :n1:
แต่อย่าให้กิ๊กกับน้อยเสียใจเยอะนะคะ ยังไงก็สงสารผญ.บ้าง :impress3:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #37 เมื่อ07-01-2012 21:40:31 »

แล้ว กิ๊กกับน้อยละ

จะเสียใจแค่ไหน

ให้เค้ากิ๊ก กันด้วยสิ

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #38 เมื่อ07-01-2012 22:48:11 »

สองคนนี้น่ารักจัง  :กอด1:

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #39 เมื่อ07-01-2012 22:53:11 »

มารอตอนต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
« ตอบ #39 เมื่อ: 07-01-2012 22:53:11 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก
«ตอบ #40 เมื่อ08-01-2012 20:33:34 »

SeeeDz ที่ 3

เรามาถึงหอของผมในเวลาเกือบเที่ยงคืน เพราะกว่าที่นะจะพาผมมาถึงที่นี่ได้ เขาต้องกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อหยิบเสื้อผ้าสำหรับใส่นอนคืนนี้กับพรุ่งนี้ติดมือมาก่อน ทั้งๆ ที่ผมบอกเขาแล้วว่าให้เขาใช้ของผมได้ แต่เขากลับบอกว่าเกรงใจและขอเสียเวลาแค่นิดเดียว และหลังจากนั้น แทนที่เราจะตรงมาที่ห้องของผมเลย เขายังจะมีอารมณ์พาผมไปขี่มอเตอร์ไซค์วนแถวมหาวิทยาลัยเล่นรอบหนึ่งก่อนอีกด้วย

“เป็นไง แว้นซ์รับลมตอนกลางคืน สดชื่นขึ้นมั่งรึยัง” เขาหันมายักคิ้วให้ผมหลังจากที่ผมลงจากรถของเขาแล้ว

“เออๆ สดชื่นก็สดชื่นวะ” ผมยิ้มน้อยๆ “ไป ขึ้นห้องกัน กูอยากอาบน้ำนอนเต็มแก่แล้วว่ะ”

“ได้ครับ พี่ซี!”

“เดี๊ยะๆ กวนตีน” ผมชี้หน้าเขา “เออ จะว่าไปแล้ว มึงไม่ต้องโทรบอกกิ๊กรึไง ว่าคืนนี้จะไม่กลับไปนอนหอน่ะ”

“ส่งเมสเสจไปบอกแล้ว แล้วมันก็ตอบกลับมาแล้วด้วย ไม่มีปัญหาว่ะ”

“เออ ง่ายดีเนอะ”

“ก็งี้แหละ คู่เราคบกันแบบให้อิสระแก่กันอะว่ะ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว อาศัยความไว้วางใจกันเป็นหลักน่ะ”

ผมคิดตามที่เขาพูดแล้วก็พยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็หันไปเปิดประตูหอออก แล้วจึงเดินนำเขาไปยังบันได

“ห้องอยู่ชั้นไหนวะ”

“ชั้นสองอะ ห้องริมสุด เดินตามกูมาเลย”

หลังจากที่เดินเงียบๆ กันอยู่ 2-3 นาที เราก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของผม ผมไขกุญแจแล้วเปิดประตูออก เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในห้อง ผมก็ถอดรองเท้าออกแล้วโยนกระเป๋าลงไปบนเตียงทันที

“เอ้า เข้ามาๆ ตามสบาย นั่งบนเตียงก็ได้นะ” ผมชี้ไปที่เตียง แต่เขากลับยังคงยืนตัวแข็งอยู่หน้าห้อง “อ้าว ทำไมวะ เข้ามาดิเฮ้ย”

เขามองไปรอบห้อง ก่อนจะก้าวเท้าเข้ามาข้างในแล้วจึงปิดประตูตามหลังลง “รู้สึกเกรงใจชอบกลวะ แหะๆ”

ผมหัวเราะแล้วส่ายหน้าเบาๆ นี่เขาคือนะคนเดียวกับคนที่เพิ่งยืนร้องเพลงบนเวทีต่อหน้าคนดูนับร้อยเมื่อกี้จริงๆ เหรอเนี่ย

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า ทำยังกับไม่เคยไปห้องเพื่อนมาก่อนเลยไปได้”

“ก็ไม่เคยอะดิ”

“เฮ้ย จริงอะ”

“เออ ก็จริงดิวะ จะโกหกทำไม บอกแล้วไง กูไม่ได้มีเพื่อนเยอะแยะมากมายอะไรหรอก คือก็มีเพื่อนนะเว้ย ไม่ใช่ว่ากูไม่มีคนคบ ที่สนิทมากๆ ก็มี แต่กูแค่ยังไม่เคยพาใครเข้าห้องแล้วก็ยังไม่เคยไปห้องใครแบบนี้เลยไง กูขี้เกรงใจว่ะ”

ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจ “หืมมมม...”

“ว่าแต่ห้องมึงสะอาดดีว่ะ เป็นระเบียบดี”

“ก็งี้แหละ กูต้องคอยเก็บห้องไว้เผื่อพ่อหรือแม่จะโผล่มาเมื่อไหร่ก็ได้น่ะ” ผมปลดกระดุมเสื้อออก

“เพื่อนกูเคยบอกว่าไอ้พวกหน้าตาดีๆ อะ มักจะไม่เป็นระเบียบแล้วห้องมักจะรก งี้ทฤษฎีนี้ก็ไม่เป็นความจริงอะดิวะ”

“ทำไมวะ นี่มึงจะบอกว่ากูหน้าตาไม่ดีหรือยังไงกันแน่” ผมหัวเราะ “แล้วห้องมึงอะ เป็นไง รกโคตรเลยอะดิ”

ผมถามเขาแบบนี้ก็เพราะว่าตอนที่เขาไปเก็บเสื้อผ้าที่หอ เขาให้ผมยืนรออยู่ที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขา ไม่ได้ให้ผมขึ้นไปที่ห้องของเขาด้วย

“โคตรพ่อโคตรแม่เลยอะ ฮ่าๆๆ” เขาหัวเราะ “เมื่อกี้กูถึงไม่ให้มึงขึ้นห้องไง กูอาย”

“อายทำไมวะ เรื่องธรรมดาว่ะ กูว่าห้องผู้ชายเนี่ย ถ้ารกอะปกติ ถ้าสะอาดดิแปลก จริงมะ”

เขาพยักหน้าเห็นด้วย “จริงที่สุด”

“แต่คิดไปคิดมา มึงนี่ดูท่าทางจะเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงเหมือนกันนะเนี่ย ไอ้นะ”

“ก็มีบ้าง แต่ไม่ได้ถึงกับติสท์แตกอะไรขนาดนั้นหรอกว่ะ คงเป็นเพราะกูเป็นคนขี้เกรงใจคนมั้ง บางทีเลยเหมือนจะเป็นคนเก็บตัวๆ หน่อยน่ะ”

“เอาตรงๆ เลยนะ” ผมโยนเสื้อที่ถอดเสร็จแล้วลงตะกร้าผ้า “กูว่ามึงเป็นคนบุคลิกหลากหลายมากๆ เลยว่ะ มึงบอกว่ามึงขี้อาย แต่มึงเป็นนักร้อง มึงบอกว่ามึงเป็นคนขี้เกรงใจ แต่เล่นกีฬารักบี้ แถมตัวยังกะควาย แต่บางทีกลับดูเป็นคนใจอ่อน ใจเย็น อารมณ์ดีบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้อะ... อ้อ! แล้วบางทีก็ยังกวนตีนมากด้วย”

นะหัวเราะเขินๆ “ขนาดนั้นเลยเหรอวะ กูดูเป็นคนซับซ้อนขนาดนั้นเลยเหรอ จริงๆ มันก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรขนาดนั้นหรอกเว้ย”

“กินน้ำมั้ย” ผมเดินไปเปิดตู้เย็น “แม่งจะหมดแล้วว่ะ เหลืออยู่ขวดเดียว กูลืมซื้อขึ้นมาอะ”

“งั้นก็กินเบียร์ดีกว่า” เขายักคิ้วพร้อมกับหยิบกะป๋องเบียร์ออกมาจากถุงเซเว่นแล้วโยนมาให้ผมกระป๋องหนึ่ง “ฉลองที่มึงแพ้ตุ๊ดดดด”

“เดี๋ยวกูปากระป๋องเบียร์อัดหน้าเลย ไอ้ห่า! จะว่าไปมึงรู้ได้ไงวะว่าไอ้นั่นมันเป็นเกย์อะ กูว่ามันก็แอ๊บเนียนอยู่นา”

“อ้าว มึงลืมไปแล้วเหรอว่ากิ๊กมันมีเพื่อนอยู่คณะนั้นน่ะ”

“เออ จริงด้วยว่ะ”

ผมเดินมานั่งบนเตียงข้างๆ เขา จากนั้นเราก็ชนกระป๋องเบียร์ นั่งดื่มนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเบียร์หมดกระป๋อง ผมก็ขอตัวไปอาบน้ำก่อน และเมื่อผมอาบเสร็จ นะก็ใช้ห้องน้ำต่อจากผม ส่วนผมที่อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จจนรู้สึกสบายตัวแล้วก็ตาเริ่มจะปิดทันที

“จะนอนแล้วเหรอวะ” นะถามขึ้นหลังจากที่เขาเปิดประตูห้องน้ำออกมา

“ยังว่ะ แค่เคลิ้มๆ เฉยๆ ฮ้าวววว..ว...ว” ผมวางโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงแล้วอ้าปากหาววอด

“งั้นนอนเหอะ เอาไว้เราค่อยคุยกันพรุ่งนี้ก็แล้วกันเนอะ”

“สาดดดด ไม่ต้องมาหาเรื่องเลย กูจะนอนฟังมึงพูดเอง หลับเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ พรุ่งนี้บ่ายๆ ค่อยตื่นมาฟังต่อ”

“โห กะตื่นบ่ายเลยเหรอวะ”

“เร็วไปเหรอ”

“ก็คงงั้นมั้ง” เขาหัวเราะเบาๆ แล้วเดินมานั่งลงบนเตียง “กูขอเปิดพัดลมเป่าหัวแป๊บนึงนะ”

“ตายสบายเลย” ผมอ้าปากหาวอีกรอบ

“ปกติมึงขี้เซารึเปล่าวะ ไอ้ซี” เขาพูดใส่พัดลม

“ไม่รู้ว่ะ ก็นอนได้เรื่อยๆ อะ ทำไมวะ”

“เปล่า ก็แค่ถามดูเฉยๆ เพราะกูคิดว่าพรุ่งนี้กูคงตื่นก่อนมึงแหง”

“เออ ก็คงอย่างนั้นอะว่ะ มึงตื่นเช้าเหรอ”

“ถ้าไม่มีเรียน ไม่ตั้งนาฬิกาปลุก เต็มที่ก็เก้าโมงหรือสิบโมงอะ”

“อืมมมม... แล้วสรุปว่ามึงเป็นคนยังไงกันแน่วะ ไอ้นะ กูอยากรู้จริงๆ นะเนี่ย ว่าตกลงที่กูรู้จักมึงมาได้ราวๆ เดือนนึงเนี่ย มึงแม่งเป็นคนแบบไหนกันแน่”

เขาหัวเราะชอบใจทันที “ก็เป็นอย่างที่มึงรู้จักนั่นแหละเว้ย คือจริงๆ กูเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออกหรอก กูค่อนข้างเก็บตัวนะ แล้วนอกจากนั้นก็เนี่ยแหละ อย่างที่มึงเห็นว่ากูเป็นคนสบายๆ ไม่เรื่องมากอะ”

“แล้วทำไมมึงถึงได้กล้าขึ้นเวทีไปร้องเพลงแบบนั้นได้วะ ไม่อายเหรอ”

“แรกๆ ก็มีบ้าง ตื่นเวที ไรเงี้ย แต่มันไม่เหมือนกับประกวดเดือนนะเว้ย ไอ้ซี กูไม่ได้คิดว่าตัวเองหน้าตาดีขนาดนั้น กูไม่ได้มั่นใจในหน้าตาของตัวเองที่จะให้ใครต่อใครมาโหวตกู แต่กูแค่ชอบร้องเพลง มันก็คล้ายๆ กับที่กูบอกว่ากูเล่นบาสได้ แต่ชอบรักบี้มากกว่านั่นแหละ กูคิดว่าเวลากูร้องเพลง หน้าตากูมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยอะ แต่มันเป็นที่เสียง เป็นที่การร้องของกูจริงๆ ที่จะทำให้คนฟังกู คือมึงเข้าใจปะว่า ณ ตรงนั้นแล้ว กูเหมือนได้ปลดปล่อยอะ ได้แสดงความเป็นกูอีกด้านออกมา โดยที่กูไม่ต้องเขินหรือกังวลอะไรเกี่ยวกับหน้าตารูปลักษณ์กูเลย”

ผมนอนฟังเขาเงียบๆ แต่ก็คิดอยู่ในใจว่าเขาไม่รู้ซะแล้วว่าที่จริงคนดูที่กรี๊ดเขาเยอะๆ นั่น ก็เป็นเพราะหน้าตาของเขาด้วยเหมือนกันนั่นแหละ

“แต่เมื่อกี้ตอนในหอประชุมกูยังไม่ค่อยได้ยินเวลามึงร้องเพลงจริงๆ จังๆ เลยว่ะ ไอ้นะ อยู่หลังเวที แล้วเสียงมันอู้ๆ ก้องๆ บอกไม่ถูกอะ เอาไว้มึงร้องให้กูฟังด้วยนะเว้ย”

“ไม่ต้องเลย ไอ้ห่า กูเขิน!”

ผมหัวเราะ “ไหนบอกว่าถ้าเป็นการร้องเพลงแล้วมึงจะไม่อายไง”

“ไม่รู้เว้ย ถ้าจู่ๆ ให้มาร้องแบบนี้กูอายว่ะ” เขาปิดพัดลมและยืนขึ้น จากนั้นก็เดินตรงไปหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป้ “นี่ กูจะให้มึงดูอะไร” เขายื่นรูปถ่ายใบเล็กๆ เก่าๆ ใบหนึ่งให้ผม

ผมรับรูปใบนั้นมาดูแล้วก็ต้องหันขวับกลับไปมองหน้าของเขาสลับกับรูปถ่ายในมืออยู่ถึง 2-3 ครั้งกว่าจะเข้าใจว่าเด็กประถมตัวดำๆ แกร็นๆ ที่อยู่ในรูปนี่คือเขานั่นเอง

“นี่มึงจริงๆ เหรอวะ!”

“ฮ่าๆๆ เออดิ ไม่เหมือนเลยใช่มั้ย” เขายื่นรูปถ่ายอีกใบให้ผม “ส่วนนี่รูปตอน ม. 1”

“เฮ้ยยยย! ยังกะคนละคนเลยอะ! คือไอ้เด็กสองคนนี้เนี่ย กูพอดูรู้ว่ามันคือคนๆ เดียวกันนะเว้ย แต่แบบ แม่งไม่ใช่มึงอะ!”

“ใช่มั้ยล่ะ ตอนเด็กๆ กูเป็นคนตัวเล็กนะเว้ย ขี้โรคด้วย พ่อก็เลยจับกูกินอาหารเสริมเยอะ บังคับให้กูกินนมเยอะๆ เล่นกีฬา เล่นดนตรี ทำนั่นทำนี่หลายอย่างเพื่อสร้างความมั่นใจให้กูไง และพอช่วงประถมปลายๆ จนถึงมัธยมต้น ช่วงนั้นกูก็เริ่มสูงขึ้นพรวดพราด แต่ตอน ม. 1 ในรูปนี่กูยังดูผอมแห้งเก้งก้างอยู่เลยใช่มั้ยล่ะ ขี้เหร่ด้วย แถมยังใส่แว่นหนาเตอะอีกต่างหาก” เขาหัวเราะ

“แล้วตอนนี้มึงไม่ได้ใส่แว่นแล้วเหรอ”

“กูใส่คอนเท็กเลนส์น่ะ เวลาเล่นกีฬามันสะดวกกว่าเยอะ อย่างตอนนี้ที่กูถอดคอนแท็กเลนส์ออกไปแล้ว กูก็มองเห็นหน้ามึงไม่ค่อยชัดหรอกนะเว้ย”

“สั้นมากมั้ยวะ”

“ถ้าสายตาก็ไม่มากเท่าไหร่หรอก แต่ถ้าอย่างอื่นอะ ยาวพอสมควร”

“ครวยยย!” ผมถีบเขาเบาๆ “กูไม่ได้อยากรู้หรอก ไอ้สาดดด”

เขารับรูปทั้งสองใบจากผมเก็บใส่ลงกระเป๋าสตางค์เหมือนเดิม “ก็นั่นแหละ คือเหตุผลที่ทำไมกูถึงกล้าร้องเพลงบนเวที แต่ไม่กล้าประกวดเดือน และที่กูไม่กล้าบอกมึงว่ากูเป็นนักร้อง ก็เพราะกูเขินนี่แหละ กูไม่ได้อยากจะพรีเซนท์ตัวเองอะไรขนาดนั้น กูไม่เหมือนมึงนี่หว่า ที่มั่นใจว่าตัวเองหน้าตาดีเลยกล้าแสดงออกอะไรอย่างนั้นน่ะ”

“อ้าว ไอ้ห่า หันกลับมาว่าแดกกูอีก กูแค่รู้ตัวว่าตัวเองหน้าตาดีเว้ย แต่ไม่ได้หลงตัวเองหรือคิดว่าตัวเองดูดีกว่าใครๆ ในโลกนี้หรอก เพราะกูคิดว่าถ้ากูทำเป็นพูดว่า ‘เอ่อออ... ผมไม่หล่อหรอกครับ แค่หน้าตาพอดูได้’ กูว่ากูก็คงตอแหลอะว่ะ”

“ฮ่าๆๆ เออๆ กูเข้าใจ แล้วอย่างกูเนี่ยจะเรียกว่ากูตอแหลได้มั้ยวะ”

“มึงคิดว่ามึงไม่หล่อปะล่ะ”

“ไม่อะ กูคิดว่ากูดูดีกว่าตอนเด็กๆ เยอะ” เขาหัวเราะ “แต่กูก็ไม่ได้มั่นใจขนาดนั้นไง”

“เออ งั้นมึงก็ไม่ตอแหล ระ หรอกก...ก... ฮ้าววว...ว...ว”

“หาวอีกแล้ว ไอ้ตี๋เอ๊ยยย ปิดไฟนอนเหอะว่ะ เอาไว้ค่อยคุยกันต่อพรุ่งนี้แล้วกัน”

“โอเคๆ งั้นมึงปิดไฟให้กูด้วยนะ กูจะนอนละ” ผมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัว แล้วจากนั้นไฟในห้องก็ดับลง

ผมรู้สึกถึงร่างกายหนักๆ ของนะที่คืบคลานขึ้นมานอนลงบนเตียงข้างๆ ผม

“แล้วตกลงมึงคิดว่าพอจะรู้จักกูมากขึ้นรึยังวะ” เขาถาม

“ก็คงงั้นแหละ แต่กูว่ามึงยังไม่ได้มีอยู่แแค่นี้หรอกใช่มั้ยล่ะ”

“ก็อาจจะล่ะมั้ง ใครจะคบกับกูอะ ต้องอยู่กับกูไปนานๆ แล้วจะค่อยๆ เห็นเอง”

“เออ อันนี้กูเข้าใจ... แล้วมึงอะ คิดว่ารู้จักกูดีรึยัง”

เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ “กูว่าข้างนอกมึงเป็นยังไง ข้างในมึงก็อย่างนั้นอะ”

“ถูกเผงงง”

“แต่กูบอกตรงๆ ว่ากูชอบนะเว้ย ที่มึงเป็นคนแบบนี้อะ กูว่าเราสนิทกันไวดีด้วยว่ะ”

“งืมมม ก็จริงของมึง...”

“จะว่าไป นี่งานเฟรชชี่ก็จบลงแล้ว มึงยังจะอยากให้กูช่วยเทรนมึงเล่นกล้ามอยู่ใช่มั้ย ยังอยากเพิ่มขาเป็นแปดขาอยู่ใช่ปะ”

“เออ ครวยย ไอ้สาดดด ตลกมากกก” ผมเริ่มงัวเงีย “ก็ตามนั้นแหละ แต่อาวไว้ห้ายกูหายเหนื่อยก่อนละกันน้า เมิงง... งืมมๆ”
เสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ ของเขาคือสิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่จะหลับลงไป...

วันต่อมาผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งบนเตียงที่ว่างเปล่า ผมพลิกตัวหันซ้ายหันขวามองหานะแต่ก็ไม่เจอร่างของเขาแม้แต่เงา ผมควานหานาฬิกาข้อมือที่ถอดวางไว้บนโต๊ะหัวเตียงมาดูก็เห็นว่าเป็นเวลาเกือบบ่ายสองโมงแล้ว ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งทั้งๆ ที่ยังคงมึนหัวอยู่นิดหน่อยแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อจะหยิบน้ำออกมาดื่ม ผมสังเกตเห็นว่านอกจากน้ำขวดเก่าที่เหลืออยู่ครึ่งขวดแล้ว ยังมีน้ำดื่มขวดใหญ่ที่ยังไม่ถูกเปิดออกใส่อยู่ในตู้เย็นอีกถึงสามขวด รวมทั้งนมกล่องใหญ่ และยังน้ำส้มอีกขวดหนึ่งด้วย

ผมหันไปมองที่ๆ นะเคยวางกระเป๋าเอาไว้เมื่อคืนก็พบว่ากระเป๋าของเขาหายไปแล้ว ผมจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาจากโต๊ะอ่านหนังสือ เมื่อผมเปิดเครื่องขึ้น ข้อความที่เด้งเข้ามาก็ทำให้ผมรู้ว่าน้อยโทรเข้ามาหาผมทั้งหมดห้าสาย และก็ยังมีเพื่อนที่คณะโทรมาหาผมอีกนิดหน่อย แต่ข้อความสุดท้ายที่ผมเปิดอ่านนั้นถูกส่งมาจากนะเมื่อเวลาประมาณ 11 โมง เขาส่งมาบอกผมว่า

‘กูซื้อข้าวกล่องมาให้มึงอยู่ในช่องฟรีซนะ แล้วก็น้ำ นม น้ำส้ม กูตุนไว้ให้แล้ว ตื่นมาก็แดกด้วยแล้วกัน โทษทีที่กลับออกไปก่อน พอดีมีนัดดูหนังและนัดโด๊ะกับแฟน คงเสร็จธุระค่ำๆ’

ผมอ่านข้อความแล้วก็นึกถึงเสียงหัวเราะของเขาขึ้นมาได้ทันที

ผมโทรกลับไปหาน้อยเพื่อรายงานตัวว่าตื่นแล้ว ที่จริงวันนี้เป็นวันเสาร์ และน้อยก็อยากจะชวนผมออกไปกินข้าวดูหนังด้วยกัน แต่กว่าผมจะแต่งตัวเสร็จ ทำอะไรต่ออะไรเสร็จก็คงจะเย็นจนเกินไป และค่ำวันนี้น้อยก็ต้องออกไปกินข้าวเย็นกับครอบครัวอีกด้วย ผมเลยถูกโวยวายเม้งใส่นิดหน่อยไปตามระเบียบ ว่ามันเป็นความผิดของผมที่ผมนอนปิดเครื่องแล้วยังตื่นสายจนเราไม่สามารถนัดทำอะไรกันได้ แต่ผมก็สัญญากับเขาไปว่าจะขอชดเชยให้กับเขาในวันพรุ่งนี้แทน

หลังวางสายจากน้อย ผมก็โทรกลับไปหาเพื่อนคนหนึ่งของผมที่โทรมาตั้งแต่เมื่อคืน มันบอกผมว่าเมื่อคืนหลังจากที่งานเลิก พวกมันมีไปต่อกันด้วย มันก็เลยโทรมาชวนผมเผื่อจะไปด้วยกัน ผมวางสายจากมัน โทรกลับไปหาเพื่อนอีกคนหนึ่งที่โทรมาเมื่อตอนสายๆ มันต่อว่าผมที่เมื่อคืนหายตัวไปโดยไม่บอกใครก่อน แล้วก็ชวนผมออกไปกินเหล้ากับพวกมันในคืนนี้ ผมบอกมันไปว่าผมยังไม่รับปากและจะโทรกลับไปหามันอีกครั้งตอนเย็น

ผมโยนโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นอีกครั้ง นะไม่ได้ซื้อข้าวมาให้ผมแค่กล่องเดียว แต่ซื้อมาถึงสองกล่อง ผมล่ะไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นคนมีน้ำใจและเอาใจใส่คนอื่นมากถึงขนาดนี้ ผมหยิบข้าวกล่องออกมากล่องหนึ่ง เอาเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ แล้วก็จัดการกินจนหมดเกลี้ยง ก่อนจะคลานกลับขึ้นไปนอนต่อบนเตียง

ผมถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ผมควานหาโทรศัพท์บนเตียงครู่หนึ่ง จากนั้นก็สไลด์หน้าจอรับสายโดยไมได้ดูชื่อของคนที่โทรเข้ามา

“ไง ตื่นยังวะ คนเก่ง”

“อืออออ...อ....อ ครายย...ยวะเนี่ยยย”

“เฮ้ยยย! ยังไม่ตื่นอีกเหรอวะ ห้าโมงเย็นแล้วนะเว้ย!”

“อืออ ไอ้นะเหรอวะ”

“เออ กูเอง นี่มึงยังไม่ตื่นจริงๆ เหรอเนี่ย นี่มึงนอนรึมึงตายวะ ไอ้ซี!”

“กูตื่นแล้ววว ไอ้ห่าาาา แต่กูนอนต่ออ มึงมีรายยย”

“ตื่นมาแล้วแดกข้าวแดกปลารึยัง”

“แดกแล้วค้าบบบ พ่อ ขอบคุณมากนะค้าบบบ”

“ฮ่าๆๆ เออๆ ก็ดีแล้ว นี่กูกลับมาถึงหอกันแล้ว ก็เลยลองโทรมาหามึงดูว่าเป็นไงบ้าง แค่นั้นแหละ”

“อ้าว มึงเสร็จ ‘ธุระ’ กับกิ๊กมึงแล้วเหรอวะ”

“กวนส้นตีนนะมึง แต่เออ เสร็จหมดแล้ว” เขาหัวเราะ “อีกเดี๋ยวกิ๊กมันจะออกไปกินข้าวกับเพื่อน กูก็จะไปกินข้าวกับเพื่อนๆ กูเหมือนกัน มึงจะไปด้วยกันมั้ยล่ะ”

“เพื่อนหนายวะ”

“เพื่อนที่วงกับเพื่อนที่ลงแข่งบาสของคณะบางคนอะ”

“หลายคนเหรอวะ”

“รวมกูด้วยก็แค่ 6-7 คนล่ะมั้ง”

“กี่โมงงง”

“สักทุ่มนึงอะ ถ้าจะไปก็บอก เดี๋ยวกูไปรับ”

“อืมมมม...” ผมคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“จะให้กูวางสายก่อนมั้ย พ่อคุณ”

“เออๆ โอเคๆ ไปก็ได้วะ อึ๊ดดดด..!!” ผมบิดขี้เกียจ

“ดีมาก ถ้างั้นเดี๋ยวหกโมงกว่าๆ กูไปหาที่หอ รีบๆ ลุกมาอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว ไอ้ตี๋”

“ครับ พ่อ!”

เขาหัวเราะทิ้งท้ายก่อนจะวางสายไป

ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวเกือบหนึ่งชั่วโมง จากนั้นก็โทรไปบอกเพื่อนว่าผมไปกับมันไม่ได้ แล้วจึงนั่งเล่นอินเตอร์เน็ตรอเวลาอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อนะโทรมาบอกผมว่าเขารออยู่ใต้หอแล้ว ผมก็ลงไปรับเขาขึ้นมาบนห้อง

“แล้วนี่จะไปกินกันกี่โมง”

“นัดกันที่ร้านประมาณทุ่มครึ่งอะ”

“กินไรกันวะ” ผมเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำส้มที่เขาซื้อมาให้ผมรินใส่แก้วสองใบ

“หมูกะทะ กินได้มะ”

“เฮ้ย ได้สิวะ แถวไหนอะ”

“ร้านตรงซอยข้างๆ โลตัสอะ เคยไปยัง”

“ยังว่ะ”

“ดีมาก เดี๋ยวพาแว้นซ์ไป 15 นาทีก็ถึง”

“จริงๆ เย็นนี้เพื่อนกูก็นัดกูไปกินเหล้านะเนี่ย แต่กูปฏิเสธมันไปละ”

“อ้าว จริงดิ แล้วทำไมไม่ไปกับพวกมันอะ”

ผมยักไหล่ “ไม่รู้ว่ะ ไปกับพวกมันไปเมื่อไหร่ก็ได้อะ แถมมึงเองก็รู้จักเพื่อนกูหลายคนแล้ว กูก็อยากรู้จักเพื่อนๆ มึงด้วยไง”
“เออ ก็ดีๆ เพื่อนกูนิสัยดีเว้ย กูว่ามึงเข้ากับคนง่ายอยู่แล้วด้วย ยังไงเดี๋ยวก็ต้องสนิทกันแน่นอน”

ผมยื่นแก้วน้ำส้มให้กับเขาที่นั่งอยู่บนเตียง “ขอบใจนะเว้ย ที่ซื้อน้ำซื้อข้าวไว้ให้กูอะ เท่าไหร่วะ เดี๋ยวกูคืนเงินให้”

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องคืนเลย ถือซะว่ากูเลี้ยงที่มึงได้ตำแหน่งรองอันดับสอง แล้วก็ที่อุตส่าห์ชวนกูมานอนห้องไง”

“มึงนี่มันจะเป็นคนดีไปรึเปล่าวะ ไอ้นะ กูเพิ่งเคยเจอใครที่เทคแคร์คนอื่นดีอย่างมึงเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย” ผมนั่งลงข้างๆ เขา

“มึงจะบอกว่าปกติคนรอบข้างมึงแม่งมีแต่คนไม่ดีเหรอวะ”

“เปล่า กูแค่จะบอกว่ามึงมันเป็นคนดีมากๆ เลยเท่านั้นเอง”

เขาหัวเราะเบาๆ “กูไม่ใช่คนดีเด่อะไรนักหนาหรอก กูเองก็เคยทำเรื่องเหี้ยๆ มาเหมือนกัน แล้วหลังจากนั้นกูก็เข็ดอะว่ะ ที่สำคัญ... กูก็ไม่รู้มันเกี่ยวรึเปล่านะ แต่มันเคยมีเรื่องบางเรื่องที่ทำให้กูรู้จักระมัดระวังเวลาใช้ชีวิตให้มากขึ้นด้วย ไรเงี้ยว่ะ”
“เรื่องอะไรวะ” ผมหันไปมองหน้าเขา

“อย่างเช่นเมื่อตอน ม. 5 กูเคยเป็นหนี้พนันบอลหลายหมื่นอะ พอพ่อกับแม่จับได้ก็เป็นเรื่องราวใหญ่โต แต่ที่กูเสียใจมากที่สุดคือพวกเค้าไม่ได้ด่าว่าหรือลงโทษอะไรกูเลยนะเว้ย เค้าร้องไห้ เสียใจ และพยายามหาเงินมาชดใช้แทนกู ทั้งๆ ที่ตอนนั้นบ้านกูเองก็กำลังลำบากอะ เพราะงั้นนับตั้งแต่นั้นมากูเลยเลิกเล่นพนันทุกชนิดแล้วก็ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำอะไรให้พ่อกับแม่เสียใจอีก ส่วนอีกเรื่องที่กูได้บทเรียนหนักๆ ก็คือ มีอยู่คืนนึงที่พ่อกูเค้าเมาแล้วขับรถโดยมีพวกกูนั่งกันอยู่ในรถครบเลย แล้วพ่อกูเค้าดันขับรถแหกโค้ง พวกกูรอดกันมาได้หมดก็จริง แต่ยกเว้นน้องสาวคนเล็กของกูอะว่ะ... ตอนนั้นกูยังแค่สิบขวบเอง ส่วนน้องกูก็เพิ่งแปดขวบอะ”

“งั้นแปลว่าตอนนี้ครอบครัวมึงก็เหลือแค่มึงกับพ่อสองคนเหรอวะ ไอ้นะ”

“เปล่าๆ มีพี่ชายอีกคนน่ะ ตอนนี้มันเรียนจบแต่งงานมีเมียไปแล้ว แต่ก็อยู่ที่โคราชกับพ่อนั่นแหละ”

“แล้ว... กูขอถามตรงๆ นะเว้ย มึงจะว่าอะไรรึเปล่าวะ”

“ไม่ว่าหรอก ถามมาเหอะ”

“คืออย่างเรื่องพนันบอลกูก็เข้าใจนะเว้ย แต่อย่างเรื่องพ่อมึงกินเหล้าเมาแล้วขับรถจนเกิดอุบัติเหตุเนี่ย มันทำให้มึงได้บทเรียนอะไรเหรอวะ คือมึงก็เลยสาบานว่าจะไม่กินเหล้าอะไรแบบนั้นปะ”

เขายิ้ม “เปล่าหรอก กูก็ยังกินเหล้าเหมือนคนอื่นๆ นี่แหละ กูยังไม่ใช่คนดีขนาดนั้น แต่ตอนนั้นกูเห็นพ่อกับแม่เสียใจมาก โดยเฉพาะพ่อที่หัวใจแตกสลายไปเลย เค้าโทษตัวเองและกูว่าตอนนี้ก็ยังไม่ยกโทษให้ตัวเองอยู่เลยด้วยซ้ำ มันทำให้กูโตมาแบบเห็นใจพ่อกับแม่อะ มึงเข้าใจปะ ยิ่งพอแม่เพิ่งมาจากกูไปอีกคน กูก็ยิ่งคิดว่าครอบครัวกูแม่งเหมือนถูกสาปยังไงไม่รู้ว่ะ กูเลยอยากจะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด มีสติที่สุด อะไรเงี้ย”

ผมหันไปมองใบหน้าด้านข้างของเขาด้วยความรู้สึกทึ่งๆ คงเป็นเพราะผมเติบโตมากับครอบครัวปกติ ธรรมดา ไม่เคยประสบเรื่องราวร้ายๆ ไม่เคยมีโศกนาฏกรรมอะไร จึงไม่เคยสำนึกถึงความสำคัญของครอบครัวและชีวิตมากเท่ากับเขา เขาทำให้ผมรู้สึกละอายตัวเองอยู่ลึกๆ เหมือนกันที่ถึงแม้ว่าเราจะอายุเท่ากัน แต่เขากลับมีความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่าผมเยอะ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ช่วยผมย้ำเตือนถึงความสำคัญของเรื่องที่ผมมองข้ามไปตลอดด้วยเหมือนกัน

“แล้วมึงอะ ครอบครัวเป็นไงมั่งวะ มีพี่น้องปะ” เขาหันมาถามผม

“ก็มีพ่อ แม่ พี่ชาย แล้วก็น้องสาวอะว่ะ พี่กูเรียนอยู่ปี 3 ที่มหาลัยอื่น ส่วนน้องสาวอยู่ ม. 5 พ่อเป็นหมอฟัน แม่เป็นครู นอกนั้นก็ปกติดี ไม่มีอะไรเลย ไม่รู้จะเล่าไงเหมือนกันว่ะ”

“ก็ดีแล้วนี่หว่า มึงพูดเหมือนอยากให้ครอบครัวมึงเกิดเรื่องเหมือนของกูนะ” เขาหัวเราะเบาๆ

“เฮ้ย เปล่าๆ กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่กูว่าชีวิตกูมันก็ปกติสุข เรียบง่าย เรื่อยๆ อะ แค่นั้นแหละ”

“แล้วมึงเคยทำเรื่องอะไรให้พ่อแม่เสียใจมั่งมั้ยวะ”

“ไม่เคยว่ะ คือกูก็ไม่ใช่เด็กดีอะไรมากมายหรอกนะ ก็มีบ้างที่เคยเกเร สอบตก โดดเรียน อะไรแบบเนี้ย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะว่ะ พี่ชายกูดิ แม่งเที่ยวเก่ง เจ้าชู้ และกะล่อนมาก แม่กูเค้าก็เลยกลุ้มๆ เหมือนกัน แต่ก็ดีที่มันยังไม่เคยทำเรื่องอะไรเหี้ยๆ จนทำให้ที่บ้านมีปัญหาอะนะ”

“แหมเว้ย มึงนี่มันเป็นเด็กดีกว่าที่กูคิดเยอะเลยนะเนี่ย” เขาทำหน้ากวนๆ

“เดี๋ยวกูเตะเลย! คนอย่างกูมันดูเป็นเด็กไม่ดีตรงไหนวะ!”

“ทุกตรงอะ ตั้งแต่หัวจรดตีนเลย” เขาหัวเราะพร้อมกับรีบดีดตัวลุกออกจากเตียงหลบฝ่ามือของผมไปได้อย่างเฉียดฉิว


ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #41 เมื่อ08-01-2012 21:07:34 »

ซีไม่ไปกับเพื่อนที่คณะ แต่เลือกไปกับนะแทน (นะก็เพื่อนนี่นา)
ต่อไปก็คงใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น นานขึ้น
รอเมล็ดงอกเงย...

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #42 เมื่อ08-01-2012 21:12:21 »

คาดเดาไม่ได้ว่าต้นรักจะผลิบานแบบไหน

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #43 เมื่อ08-01-2012 21:27:58 »

ได้รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยทุกวัน ต้นรักคงงอกเงยเร็วแน่นอน :o8:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #44 เมื่อ08-01-2012 22:10:29 »

ซี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เมื่อไหร่ต้นรักมันจะโตหนอ  เตรียมมาค่อยเฝ้าจ้า กลัวจะมีหนอน มีแมลงมากัดกิน จะจับบี้ให้หมดเลย

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #45 เมื่อ08-01-2012 22:35:17 »

เพาะรัก ตนนี้กำลังลงเม็ดพันธุ์เนาะ อีกหน่อยก็เป็นต้นกล้าล่ะ
รอดูต้นรักต้นนี้เจริญเติบโต

ออฟไลน์ londoneye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #46 เมื่อ09-01-2012 00:51:00 »

อิ..อิ...ค่อยๆรดน้ำพรวนดินกันต่อไป

ความสัมพันธ์กำลังพัฒนาเรื่อยๆ.....ชอบค่ะแบบนี้

มันอ่านแล้วแบบว่า....ดูมีที่มาที่ไป....เพราะว่าทั้งคู่เป็นผู้ชาย

และการที่จะมารักกันเองเนี่ย...มันต้องมีบางสิ่งบางอย่างหล่ะนะที่ทำให้ทั้งคู่ก้าวข้ามขอบเขตของคำว่าเพื่อนได้

แล้วจะเข้ามาช่วยรดน้ำพรวนดินบ่อยๆน้าคุณต้น :กอด1:

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #47 เมื่อ09-01-2012 03:47:58 »

เมล็ดรัก เห็นใบอ่อนแล้ว

winnie_the_far

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #48 เมื่อ10-01-2012 13:00:17 »

เมล็ดพันธุ์แห่งความรัก กำลังบ่มเพาะ... ไม่นานคงแตกหน่อ...

แต่คงต้องอาศัยสภาพแวดล้อมในการเติบโตไป

จะรอคอย ต้นรัก เติบโต...

การเทคแคร์อย่างดีของนะ ได้ตกไปในใจของซี...ทำให้ความสัมพันธ์ที่มียิ่งสนิทสนมขึ้นเรื่อยๆๆ

thesilkmai

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #49 เมื่อ10-01-2012 21:16:00 »

ขอบคุณมากค่ะ คอยลุ้นเหมือนความเห็นอื่นว่าเมื่อไหร่ต้นรักต้นนี้จะโตสักที ชอบเรื่องนี้มากเลยล่ะ :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
« ตอบ #49 เมื่อ: 10-01-2012 21:16:00 »





ออฟไลน์ peppier

  • ขาดคนรักนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีแค่ใจที่รักตัวเองก็พอ.. ~ ♥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #50 เมื่อ10-01-2012 22:12:45 »

พี่ต้นมาต่อแล้วววว
อิมเมจซีน่ารักมากกกกกกกกกกก !  :-[
ชอบอ่ะ นะก็หล่อ อยากได้หมดเลยย !  :laugh:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #51 เมื่อ11-01-2012 08:44:28 »

SeeeDz ที่ 4

เราสองคนมาถึงที่ร้านเป็นกลุ่มสุดท้าย นะแนะนำให้ผมรู้จักเพื่อนในวงของเขาอีกสามคน กับเพื่อนที่คณะวิศวะอีกสี่คน เนื่องจากว่าพวกเราเป็นเด็กปี 1 เหมือนกันหมด และพวกเขาต่างก็อัธยาศัยดีกันทุกคน จึงทำให้ผมสามารถทำความรู้จักและพูดคุยกับพวกเขาได้อย่างเป็นกันเอง หลังจากที่เรานั่งกินข้าวและชนแก้วเบียร์ด้วยกันไปได้พักใหญ่ๆ ผมก็รู้สึกคุ้นเคยกับพวกเขาทุกคนราวกับเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานาน

หลังจากที่เรากินกันเสร็จและจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อนในวงของนะก็ชวนพวกเราไปนั่งกินเหล้าด้วยกันต่อ แต่เพื่อนจากคณะของเขาสองคนที่ชื่อนนท์กับโจขอตัวกลับไปก่อน

“เพื่อนมึงสองคนนั้นดูสนิทกันดีว่ะ เท่าที่กูดูมันคุยๆ กัน เหมือนมันจะรู้จักกันมานานแล้วด้วยปะ” ผมหันไปถามนะ

“ช่าย มึงนี่ช่างสังเกตเหมือนกันนะ ไอ้นนท์กับไอ้โจมันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมแล้ว...” เขาพูดยิ้มๆ

“เหรอวะ อืมๆๆ”

มันยื่นหน้ามากระซิบลงที่หูของผม “ที่จริงมันสองคนเป็นแฟนกันด้วยว่ะ”

“เฮ้ยยย! จริงอะ!”

“เออ” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ

“ดูไม่เห็นออกเลย!”

“ดูไม่ออกว่ามันชอบผู้ชายน่ะ ใช่ แต่ถ้าถามว่าดูออกมั้ยว่าเป็นแฟนกัน พวกกูก็คิดๆ กันอยู่ตั้งแต่แรกแล้วว่ะ เพราะไอ้โจมันเป็นคนขี้หึงโคตรๆ น่ะ ก็เลยพอดูออกง่ายหน่อย แล้วหลังจากนั้นมันก็ยอมรับกันออกมาเองเลยว่าพวกมันเป็นแฟนกันจริงๆ”

“จริงดิ มันกล้าพูดกล้ายอมรับแบบนั้นเลยเหรอวะ”

“กูว่าไอ้โจมันอยากตัดไฟแต่ต้นลม ไม่อยากให้ใครมายุ่งกับไอ้นนท์น่ะว่ะ”

“เออ ก็สมเหตุสมผลอยู่นะ” ผมพยักหน้าหงึกๆ

“สาวๆ คณะกูกรี๊ดเสียดายของกันมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว”

“เออ ก็นั่นอะดิ แถมกูว่ามันสองคนก็ดูดีกว่าไอ้โด่งเยอะเลยด้วย ทำไมคนหน้าตาแบบพวกมันถึงไม่เป็นตัวแทนเดือนคณะมึงวะเนี่ย”

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้โจมันไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอก และมันก็ไม่ยอมให้ไอ้นนท์ลงประกวดอะไรแบบนั้นด้วย แม่งโหดจะตาย คนที่จะกำราบแม่งได้ก็มีแค่ไอ้นนท์คนเดียวเท่านั้นแหละ”

“งั้นเลยเหรอวะ”

“ช่ายยย และอีกอย่าง ถ้าเกิดไอ้นนท์หรือไอ้โจเป็นตัวแทนคณะกูจริง ตำแหน่งของมึงก็คงเหลือแค่อันดับสามน่ะสิวะ ไอ้ซี”

“เออคร้าบ ไอ้สาดดดด ว่าแต่ไอ้นนท์มันเป็นนักบาสใช่มั้ยวะ”

“ช่ายยย แถมยังเก่งด้วยนะเว้ย”

ผมมองตามหลังนนท์กับโจที่กำลังเดินไปยังลานจอดรถหน้าร้าน “แล้วพวกเพื่อนๆ มึงที่มากันวันนี้ก็รู้จักกันมานานแล้วใช่มั้ยวะ ดูเหมือนพวกสมาชิกจากวงมึงจะรู้จักเพื่อนที่คณะมึงกันมาตั้งนานแล้วทั้งนั้นเลยใช่ปะ เท่าที่กูลองสังเกตดูน่ะนะ”

“ช่ายแล้ว เพราะว่าเพื่อนที่วงกูมันไปป้วนเปี้ยนแถวคณะวิศวะบ่อยน่ะ แล้วพวกกูก็เคยไปกินข้าวกินเหล้าด้วยกันมาหลายรอบแล้วด้วย”

“อืมมม แล้วตกลงหลังจากนี้มันจะไปต่อไหนกัน”

“ก็คงร้านเหล้าหน้ามหาลัยแหละ มึงไปแน่ใช่ปะ”

“ก็ไปดิ กูสบายๆ อยู่แล้ว ว่าแต่มึงนั่นแหละ ไม่บอกกิ๊กของมึงก่อนรึไง”

“ยังจะเล่นไม่เลิกนะมึง มุกนี้น่ะ” เขาหัวเราะและตบหัวผมเบาๆ “กิ๊กมันไปนอนกับเพื่อน เพราะพรุ่งนี้มันก็กลับแล้ว เพราะงั้นไม่มีปัญหาเลย ว่าแต่มึงนั่นแหละ บอกแฟนมึงรึยัง”

“กูบอกน้อยไปแล้วว่าออกมากินข้าวกับมึง กลับดึก เพราะงั้นเอาไว้ให้มันโทรมาก่อนแล้วกัน ค่อยบอกอีกว่าจะกลับดึกแค่ไหน เพราะยังไงกูก็เดาว่ามึงจะไม่แดกจนเมาหรือจนดึกดื่นอะไรมากมายอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ”

“ใช่แล้ววว” เขายิ้มน้อยๆ “แต่ถ้ามึงอยากอยู่ดึกก็อยู่ได้นะเว้ย ไม่ต้องเกรงใจกู กูอยู่ได้”

“ไม่อะว่ะ เพราะพรุ่งนี้กูต้องออกไปกินข้าวดูหนังกับน้อยอีก ไม่อยากกลับดึกมากเหมือนกัน”

“โอเค”

เมื่อเราทุกคนเคลียร์เงินค่าหมูกะทะกันเสร็จแล้ว เราต่างก็แยกย้ายกันขึ้นรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนแต่ละคนไปยังร้านที่เรานัดหมายกันเอาไว้

ร้านที่เราไปนั่งต่อกันเป็นร้านขนาดเล็ก ไม่มีมีดนตรีสด และลูกค้าส่วนมากก็เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยของเราทั้งนั้น เมื่อเราทุกคนไปถึงที่ร้าน เราก็ได้โต๊ะที่อยู่ติดกับโต๊ะของกลุ่มผู้หญิงวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนพวกเพื่อนๆ ของนะจะพอใจมากที่ได้โต๊ะทำเลดีแบบนี้ หลังจากที่เราเริ่มดื่มกันไปได้สักพัก พวกเราก็เริ่มชนแก้วกับสาวๆ โต๊ะข้างๆ เริ่มเต้นด้วยกัน และเริ่มถูกเนื้อต้องตัวกันพอเป็นธรรมเนียม

เมื่อเริ่มดึกมากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็สังเกตเห็นว่า นอกจากผมที่มีผู้หญิง 2-3 คนปรายตามาให้ หรือให้ท่าแสดงความสนใจในตัวของผมแล้ว นะเองก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาเต้นและเกาะแกะอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลาด้วยเหมือนกัน ผมเห็นผู้หญิงคนนั้นกระซิบอะไรบางอย่างที่หูของเขา ส่วนเขาก็ตอบบางอย่างกลับไป ก่อนจะหันซ้ายหันขวาเหมือนกำลังมองหาใคร และเมื่อเขาเจอว่าผมยืนอยู่ตรงไหน เขาก็เดินตรงเข้ามาหาผมทันที เขาสะกิดเรียกผมให้ไปห้องน้ำด้วยกัน ผมจึงจำต้องทิ้งสาวๆ ที่กำลังยืนชนแก้วอยู่กับผมไปกับเขา

“มีอะไรวะ มึง” ผมถามเขาหลังจากที่เรายืนกันอยู่ในห้องน้ำแล้ว

“ไม่ไหวว่ะ ผู้หญิงคนนั้นแม่งไม่ปล่อยกูเลย ขนาดกูบอกว่ากูมีแฟนแล้วนะ แม่งก็ยังจะชวนกูกลับห้องด้วยให้ได้เลยอะ”

ผมหัวเราะชอบใจทันที “อ้าววว ไม่ดีรึไงวะ เสน่ห์แรงนะมึงเนี่ย”

“คงไม่เท่ามึงหรอก แม่งคนเดียวล่อสองคนเลยนะ นี่ถ้ากูไม่ลากมึงออกมาจะเป็นยังไงวะเนี่ย”

“ไม่เป็นเหี้ยไรหรอกกก! กูไม่นอกใจแฟนกูหรอกน่า ไม่อยากมีปัญหาว่ะ ตอนเค้าขอเบอร์กู กูก็บอกไปตรงๆ ว่ามีแฟนแล้ว แต่แม่งก็ยังไม่ยอมปล่อยกูไปสักทีเหมือนมึงนั่นแหละ กูก็เลยเอาวะ เลยตามเลย ชนแก้วไปเรื่อยๆ คุยไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน”

“ชนแก้วไปเรื่อยๆ แล้วมึงเมารึยัง”

“ยังว่ะ แค่กึ่มๆ นี่ก็เพิ่งห้าทุ่มกว่าเองนะมึง มึงเมาแล้วเหรอวะ”

“ไม่มีทางเหอะว่ะ กูก็ห่วงแต่มึงนั่นแหละ เกิดเมาแล้วเงี่ยนขึ้นมา เดี๋ยวจะพาลต้องเสียตัวให้ผู้หญิงพวกนั้นเอาน่ะสิว้าาา”

“โหหห กูไม่อ่อนขนาดนั้นหรอกน่า! มึงคิดว่ากูรอดพ้นเงื้อมมือผู้หญิงมากี่คนแล้ววะ!”

“หรือจะให้พูดง่ายๆ ก็คือมึง ‘เลือก’ ที่จะฟันผู้หญิงมากี่คนแล้วมากกว่า”

“ถูกต้องนะคร้าบบบ!”

เขาหัวเราะ “ฮ่าๆๆ เออๆ งั้นไปกินกันต่ออีกนิดเหอะ แล้วค่อยกลับ เอาเป็นว่า... สักเที่ยงคืนตรงเราค่อยกลับกัน โอเคมะ”

“ตามนั้น จัดไปเลย”

เราสองคนเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วก็ดื่มต่ออีกนิดหน่อย แต่คราวนี้ผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยชนแก้วกับผมคงเริ่มจะเมามากแล้ว เขาถึงได้กล้าที่จะกอดแขนกอดเอวผมอย่างไม่รู้สึกเกรงใจเพื่อนๆ ของตัวเองหรือสายตาของใครเลย ถึงผมจะไม่ได้รังเกียจ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกชอบที่ตัวเองเป็นฝ่ายถูกผู้หญิงลวนลามแบบนี้หรอกนะ นี่ถ้าหากว่าผมไม่ได้กำลังคบกับน้อยอยู่ ผมก็คงจะตอบรับการเชิญชวนของสาวคนนี้ไปนานแล้ว แต่นี่มันไม่ใช่ ผมมีแฟนแล้ว ผมไม่อยากจะทำตัวเป็นผู้ชายแบบนั้น... ผมว่าผมชักเข้าใจความรู้สึกของนะมากขึ้นอีกนิดแล้วสิ

ผมหันไปมองนะ แล้วจึงเห็นว่าเขาก็กำลังตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกันกับผมไม่มีผิด เขาสบตากับผมแล้วส่ายหน้าเบาๆ อย่างอ่อนใจ จากนั้นนะก็หันไปแกะแขนของผู้หญิงคนนั้นออกจากแขนของตัวเอง พร้อมกับก้มลงไปพูดบางอย่างกับเขา นะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมอีกครั้งแล้วพยักหน้าให้ผมครั้งหนึ่ง ผมคิดว่ามันคือสัญญาณว่าเราควรจะออกจากที่นี่กันได้แล้ว ผมจึงขอตัวจากคนที่เกาะแขนของผมอยู่ เดินไปบอกลาเพื่อนๆ ของนะ เคลียร์เงินส่วนของผม แล้วก็เดินตามหลังนะออกไปนอกร้านแบบติดๆ

“ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยย แม่งเลื้อยแม่งพันกูจนกูเกือบทนไม่ไหวไปแล้วนะน่ะ” นะพูดอย่างไม่ค่อยพอใจในขณะที่เรากำลังเดินไปยังฟีโน่ของเขา

“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ผมหัวเราะ

“ก็เออดิ กูเป็นคนหัวโบราณนะเว้ย มันรู้สึกแปลกๆ ว่ะที่ผู้หญิงแม่งจะมาทำอะไรขนาดนี้เนี่ย”

“แล้วถ้ามึงยังไม่มีแฟนอะ จะยังพูดแบบนั้นอยู่มั้ย”

“พูดสิวะ แต่ก็...” เขานิ่งไปพักหนึ่ง “คงต้องดูหน้าตา กิริยาท่าทางของอีกฝ่าย แล้วก็ความเงี่ยนของตัวเองอีกทีด้วยว่ะ ฮ่าๆๆ”

“ไอ้ทุยเอ๊ยยย! ฮ่าๆๆ”

“ว่าแต่มึงเองเหอะ ไอ้ซี นี่ถ้ามึงไม่มีแฟน มึงก็คงจัดไปหลายดอกแล้วสิ”

“ก็เออดิวะ แม่งงงง ถึงกูจะได้เจอน้อยอยู่บ้าง แต่เราก็ไม่ได้มีอะไรกันมาเกือบเดือนแล้วนะเว้ย กูแม่งเงี่ยนจนเขื่อนจะแตกอยู่แล้ว!”

“ฮ่าๆๆ ตรงไปตรงมาดี! เอ้า ขึ้นมาซ้อนท้ายพี่มา น้อง พี่จะพาน้องไปส่งที่หอให้อย่างปลอดภัยเอง รับรองไม่มีปล้ำ ไม่มีลวนลามให้น้องต้องไม่สบายใจแน่นอน”

ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วก็ขึ้นนั่งบนฟีโน่คันเก่งของเขา และอีกไม่กี่นาทีถัดมา เขาก็พาผมมาส่งถึงที่หน้าหอ

“วันนี้ขอบใจมึงมากนะเว้ย ไอ้นะ”

“ไม่เป็นไร มึงก็พักผ่อนซะ พรุ่งนี้จะได้ไปตะลอนๆ กับน้อยไหว”

“ไอ้เหี้ย เพิ่งเที่ยงคืนกว่าเอง แถมวันนี้กูก็นอนไปทั้งวันแล้วเหอะ”

“อ้าว พูดแบบนี้แปลว่าจะยังไม่นอนรึไงวะ”

“สนใจขึ้นไปแดกเบียร์บนห้องกูต่อหน่อยมั้ยล่ะ เมื่อกี้กูยังไม่สะใจเลย”

นะยิ้มกว้าง “จัดไปเลย!”

เราสองคนขี่มอเตอร์ไซค์วนออกมาซื้อเบียร์ที่เซเว่นหน้าปากซอยหอ แล้วจากนั้นก็ขึ้นไปดื่มกันต่อบนห้องของผม เรานั่งดูทีวีและนั่งคุยกันหลายเรื่อง แต่เมื่อมาถึงเบียร์กระป๋องสุดท้าย หัวข้อที่เราคุยกันก็ไม่พ้นเรื่องของเซ็กส์จนได้

“กูถามจริง ตอนมึงอยู่โคราช มึงมีไรกับแฟนบ่อยป่าววะ ไอ้นะ”

“กูไม่ได้เจอกันทุกวันอะนะ แต่ช่วงปิดเทอมก็อาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้ง แล้วแต่สะดวกว่ะ”

“แปลว่ามึงคบกันมานานแล้วเหรอวะ”

“ก็คบกันตั้งแต่ราวๆ เริ่ม ม. 6 เทอมปลายใหม่ๆ อะ นานมั้ยอะวะ”

“เฮ้ยย นานแล้วนะ ก็หลายเดือนอยู่นี่หว่า”

“แล้วมึงอะ”

“กูคบกันมาได้ 3-4 เดือนเอง แต่รู้จักกันมาก่อนหน้านั้นสักพักแล้ว”

“เหรอวะ แล้วที่มึงบอกว่ามึงไม่ค่อยได้มีอะไรกับแฟน งั้นปกติมึงทำไงวะ ไอ้ซี กูว่ามึงแม่งท่าทางจะขี้เงี่ยนด้วยดิ ถามจริง มึงเคยไปมีอะไรกับคนอื่นมั้ยวะ”

“เฮ้ยยย ไม่เคยเลยเว้ย เวลากูคบกับใคร กูไม่เคยนอกใจคนๆ นั้นไปมีอะไรกับคนอื่นเลยจริงๆ นะเว้ย กับน้อยก็เหมือนกัน อย่างช่วงหลังๆ นี้กูไม่ค่อยมีเวลาอะว่ะ มันก็ช่วยไม่ได้ แต่ถ้าเกิดแม่งเงี่ยนไม่ไหวจริงๆ กูว่ากูก็คงระบายออกด้วยวิธีเดียวกับมึงนั่นแหละ” ผมชูมือขวาขึ้น

“ฮ่าๆๆ เออ กูว่าก็คงเหมือนๆ กันทุกคนนั่นแหละมั้ง”

“เบื่อเหมือนกันนะเว้ย มือตัวเองเนี่ย แต่แม่งทำไงได้วะ” ผมกระดกเบียร์อึกสุดท้ายลงคอ

“ถ้าเป็นมือคนอื่นจะไม่เบื่อรึไง”

“ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้ว่ะ”

“ฮ่าๆๆ จะลองมั้ยล่ะ กูช่วยมึงเอง”

ผมหันขวับไปมองหน้าเขาทันที ซึ่งนะเองก็กำลังมองหน้าผมรออยู่แล้ว แก้มของเขาดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์ และแววตาของเขาก็ดูใส่ซื่อและจริงใจเหมือนกับปกติ แต่แล้วจู่ๆ ริมฝีปากเรียวบางของเขาก็ค่อยๆ ขยับเล็กน้อย

“แม่ง! ไอ้ครวยเอ๊ยยยย!!!” ผมชกลงบนต้นแขนของเขาทันที “กูก็นึกว่ามึงพูดจริงซะอีก!!”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!!” นะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสะใจจนเขาลงไปนอนขำตัวงออยู่บนเตียง

“มึงนี่มันล้อเล่นหน้าตายมากเลยนะ ไอ้ส้นตีน!!” ผมตบหัวเขาให้อีกที

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!!”

“ขำมากเดี๋ยวกูเอาครวยยัดปากเลย! เช็ดแม่งงง!”

“อุ๊บบบ..บ...บ” เขายกมือขึ้นปิดปาก แต่ก็ยังคงหัวเราะเบาๆ อยู่ “หึๆๆๆ”

“กูก็ตกใจหมด ไอ้ห่า! นึกว่ามึงเป็นเกย์ไปอีกคนซะอีก!”

เขาชันตัวขึ้นนั่งอีกครั้ง “กูเนี่ยนะ เกย์ กูดูเหมือนเหรอวะ หึๆๆ”

“ไม่อะ ไม่เหมือน แต่ไอ้นนท์กะไอ้โจเพื่อนมึงก็ไม่เหมือนเกย์เหมือนกันนี่หว่า”

“ครวยเถอะ ถ้ากูเป็นเกย์กูจะคบกับกิ๊กมาตั้งนานเหรอวะ สาดดด”

“เออๆ กูรู้น่า เมื่อกี้กูแค่ตกใจไง”

“แล้วถ้ากูเป็นเกย์ขึ้นมาจริงๆ มึงจะรับกูไม่ได้เลยรึไง”

“ไม่ว่ะ กูคงเฉยๆ อะ ยังไงมึงก็เพื่อนกูนี่หว่า และที่สำคัญ คณะกูคนเป็นเกย์กะเทยแม่งก็เยอะเหอะ กูว่ากูชินอะ”

“กูก็เหมือนกัน” เขาพูดพร้อมกับกระดกเบียร์อึกสุดท้ายลงคอ “นอนกันดีกว่าว่ะ กูเริ่มง่วงแล้ว เริ่มตึงๆ นิดๆ แล้วด้วย”

“นั่นดิ งั้นกูไปอาบน้ำก่อนดีกว่า” ผมลุกออกจากเตียงแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นพาดบ่า

“จะชักว่าวก่อนก็อย่าให้นานนักนะมึง” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ

“ครวยยยย” ผมหันไปชมเขาหนึ่งคำแล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำไป

“อย่าลืมนะครับ พี่ซี ถ้าพี่เบื่อมือตัวเองเมื่อไหร่ก็เรียกผมได้นะคร้าบบบ”

“จูบตูดกูก่อนเหอะมึง!” ผมถกกางเกงลงโชว์ก้นให้เขาดูครู่สั้นๆ ก่อนจะปิดประตูลง

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #52 เมื่อ11-01-2012 08:46:55 »

ใครอยากให้ 2 คนที่โผล่มาแว้บๆ มีบท ก็เม้นเยอะๆ ขอดูซิว่าสมควรจะได้รับบทบาทเพิ่มจากแรงเชียร์แฟนๆ รึเปล่า 55555

Benze030

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #53 เมื่อ11-01-2012 10:11:00 »

โอ้วววว โจนนท์คบกันยาวนานนนน^^ ดูท่าทางจะยังไม่เปลี่ยนไปกันเลยนะ อิอิ...อ่านแล้วยิ้มเลยอะพี่ต้น>< :-[

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #54 เมื่อ11-01-2012 10:51:32 »

นะนี่ขยันพูดทีเล่นทีจริงกับซีซะจริงๆ มีไรแอบแฝงป้ะ
คิดถึงน้องนนท์กะน้องโจจังเลย
ทำไงน้าจะได้เจอน้องนานๆ

tamahomae

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #55 เมื่อ11-01-2012 13:07:23 »

ตอนแรกคิดว่าซีจะเป็นคนที่มีปมซะอีก
แต่ดูเหมือนกว่านะจะกลายเป็นคนที่มีปม(ใช่มั๊ยเอ่ย เดาเล่นๆ) ^^
..........................................
โจกับนนท์ เนี่ยเห็นคอมเมนต์ข้างบนเอ่ยคิดถึงแสดงว่าต้องมาจากเรื่องไหนซักเรื่องใช่ม๊า
ต้องขอเวลาไปอ่านเรื่องเก่าๆของคนเขียนซะหน่อย จะได้ไม่ตกเทรน

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #56 เมื่อ11-01-2012 13:09:26 »

ซีกล้ามากจ้า
มีโชว์ก้นให้นะดูด้วยเว้ยเฮ้ย
เดี๋ยวจะยุให้นะจับซะให้เข็ด
คึคึ~

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #57 เมื่อ11-01-2012 18:13:27 »

เอิ่ม คู่นี้จะเป็นไปยังไงกันนะ?

แต่ว่า นนท์ โจ  :o11: ถ้าจะเอา 2 คนนี้มา

กรุณาสงสารแฟนคลับนัทอย่างผมคนนี้ด้วยเหอะครับ

ให้นัทได้มีความสุขกับใครเค้าบ้าง  :m15:

TimelessOne

  • บุคคลทั่วไป
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #58 เมื่อ11-01-2012 20:48:43 »

เช็ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

อ่านเจอแค่ชื่อนนท์กับโจก็ขอมาเม้นก่อนนเลยยย
surprise มากกกก  :o8:

กลับไปอ่านต่อละคับ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ]Lov3 SeeeDz + :: เพาะรัก (SeeeDz 3)
«ตอบ #59 เมื่อ11-01-2012 21:27:42 »

หัวข้อยังไม่เปลี่ยนเลยนึกว่ายังไม่ลง
มีแขกรับเชิญด้วย โจ-นนท์ แวะมาบ่อย ๆ นะป้าคิดถึง
นะเริ่มหมาหยอกไก่หรือเปล่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด