ตอนพิเศษคั่นตอนที่10กับ11
-ตอนพิเศษนี้เป็นเรื่องราวที่สมมติขึ้นในอนาคตซึ่งอาจจะมีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เกี่ยวเนื่องกับเนื้อเรื่องปกติ คำเตือนในการอ่าน :
1. หาที่สงบๆและปลอดผู้คนเผื่อจะต้องกรีดร้องหรือนั่งอมยิ้มคนเดียว
2. เตรียมผ้าเช็ดหน้า หรือกระดาษทิชชู่ให้พร้อม
3. ถุงเลือดกรุ๊ปของท่านในกรณีที่มีการเสียเลือด4.ถ้าคิดว่าพร้อมแล้วก็ไปอ่านกันเลยคิดถึง
ผู้บริหารในชุดสูทหลายคนพากันเดินออกมาจากห้องประชุมด้วยสีหน้าอิดโรยเต็มทีเมื่อการประชุมบอร์ดบริหารเรื่องการลงทุนธุรกิจตัวใหม่ของบริษัทในวันนี้ที่ดำเนินต่อเนื่องยาวนานถึงสี่ชั่วโมงสิ้นสุดลง นิธิศเองก็เป็นหนึ่งในนั้น...
เมื่อกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเองได้นิธิศก็ทิ้งตัวเองลงบนเก้าอี้แล้วเอาศีรษะพิงพนักไว้ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า
ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เลขาสาวจะเดินเอากาแฟเข้ามาเสิร์ฟให้โดยไม่ต้องรอให้เขาอนุญาตก่อน
“ถ้าวันนี้ผมดื่มแก้วนี้เข้าไปอีกแก้ว ผมคงไม่ต้องนอนแล้วล่ะคุณพัดชา”
นิธิศลืมตาขึ้นมามองเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆ...แค่ในห้องประชุมอย่างเดียวเขาก็เผลอยกดื่มไปไม่รู้กี่แก้วแล้วถ้าจะต้องดื่มเข้าไปอีกมีหวังคืนนี้เขาคงได้นั่งตาค้างไปจนถึงสว่างเป็นแน่
“งั้นเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีไหมคะ”
“ไม่ดีกว่า นี่ก็เลยเวลาเลิกงานแล้ว คุณไม่ต้องอยู่รอผมหรอกเพราะเดี๋ยวผมเก็บของเสร็จก็จะกลับแล้วเหมือนกัน”
มองไปที่นาฬิกาที่บอกเวลาสี่โมงครึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเก็บแฟ้มเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะเข้าชั้นให้เรียบร้อย...เดี๋ยวต้องไปรับวิพารันต์ที่บ้านมาริสาอีก
“เอ่อ...คุณไนท์...เรื่อง...ดูงานที่ต่างจังหวัดพรุ่งนี้”
เลขาสาวเอ่ยปากถามคนที่เป็นเจ้านายถึงคำสั่งสายฟ้าแลบในห้องประชุมที่นิธิศจะต้องรับผิดชอบไปตรวจสอบและดูงานที่ต่างจังหวัดตั้งแต่พรุ่งนี้และนับไปเป็นเวลาอีกสองอาทิตย์
“ครับ?”
“คุณไนท์...จะไม่ให้พัดไปด้วยจริงๆเหรอคะ...”
“ครับ...ดูงานที่นั่นก็คงไม่มีอะไรมาก ผมไปคนเดียวก็พอ”
นิธิศตอบพลางเก็บแฟ้มสุดท้ายที่อยู่บนโต๊ะเข้าชั้น...ถึงเรื่องของเขากับพัดชาจะจบลงไปด้วยดีแล้วและเขากับเธอก็ยังคงเป็นผู้ร่วมงานที่ดีต่อกันแต่งานในครั้งนี้เขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีเลขาไปด้วย
“แต่พัดเป็นเลขา...”
“...ผมไปคนเดียวได้ครับ”
เมื่อคนที่เป็นเจ้านายยืนยันแบบนั้นคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาอย่างเธอจึงทำได้แค่ก้มหน้าเก็บถ้วยกาแฟแล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
.................
..............................
หลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วนิธิศก็ออกจากบริษัทแล้วขับรถตรงไปรับวิพารันต์ที่บ้านของมาริสาเหมือนปกติ...ลูกค้าในร้านที่เย็นป่านนี้ยังดูคึกคักไม่ต่างอะไรกับตอนเปิดร้านใหม่ๆ...เห็นแล้วมันน่าหงุดหงิดชะมัด...ร้านของเพื่อนขายดีก็สมควรจะดีใจด้วย...มันน่าจะเป็นอย่างนั้นถ้าสาเหตุของการขายดีเป็นเทน้ำเทท่าแบบนี้ส่วนหนึ่งไม่ได้มาจากวิพารันต์...คนรักของเขา
เดินเบียดเสียดเข้าไปภายในร้านที่ดูจะแน่นขึ้นถนัดตาเมื่อมีแต่ลูกค้าขาเข้าทว่าดูเหมือนจะไม่มีใครอยากออก...
“รันครับ กลับบ้านกันได้แล้ว”
ส่งเสียงเรียกให้เจ้าตัวที่ยืนช่วยมาริสาจัดขนมใส่กล่องให้ลูกค้าอยู่รู้ตัวก่อนที่จะเดินเข้าแหวกฝูงลูกค้าเข้าไปด้านในเคาท์เตอร์ได้สำเร็จ
“อื้อหือ จะรีบกลับไปไหนพ่อคุณ ช้านิดช้าหน่อยบ้านมันไม่หายหรอก เห็นมั้ยเนี่ยลูกค้าเต็มร้านขนาดนี้ เอ้า จะยืนอยู่เฉยๆทำไมล่ะ ไหนๆก็เข้ามาแล้วช่วยกันทำมาหากินหน่อย”
ถึงจะยังง่วนกับการจัดขนมให้ลูกค้าแต่มาริสาก็ยังมิวายหันมากัดจิกเพื่อนรักที่นับวันจะยิ่งทำตัวหวงคนรักของตัวเองเสียยิ่งกว่างูจงอางหวงไข่
วิพารันต์ที่เห็นด้วยกับคำพูดของมาริสาก็เลยได้แต่หันมาส่งยิ้มให้นิธิศก่อนจะหันไปสนใจลูกค้าที่ยืนเรียงรายอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ต่อ...งานยังไม่เสร็จจะหนีกลับบ้านได้ยังไงกัน
“ขอบคุณครับน้องรัน แล้วพรุ่งนี้พี่จะแวะมาหา...เอ่อ...แวะมาซื้อขนมอีกนะครับ”
ตั้งใจจะพูดแบบนั้นจริงๆแต่พอเห็นสายตาของคนที่ยืนอยู่ข้างๆวิพารันต์แล้วลูกค้าหนุ่มก็เลยต้องรีบเปลี่ยนรูปประโยคเสียใหม่...ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร...มาทุกวันก็เห็นทุกวัน...ยืนจ้องหน้ากันอย่างกับจะกินเลือดกันแบบนี้ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าของหัวใจหนุ่มน้อยน่ารักคนนี้เป็นแน่
เนื่องจากพูดไม่ได้จึงมีเพียงแต่รอยยิ้มเท่านั้นที่ส่งกลับไปให้ลูกค้าแทนคำขอบคุณที่อุตส่าห์เข้ามาช่วยอุดหนุน...แต่เท่านั้นก็คงมากพอสำหรับใครหลายๆคน....ยิ้มที่หวานเสียจนคนมองแทบใจละลาย...
นิธิศมองภาพนั้นแล้วก็ได้แต่หงุดหงิดอยู่ในใจ...ยิ้มเก่งเหลือเกิน...เดี๋ยวนี้เจ้าตัวเล็กของเขาชักจะยิ้มมากเกินไปแล้ว...ทั้งๆที่เมื่อก่อนกว่าจะยิ้มได้เขาต้องสอนแล้วสอนอีก...ถ้ารู้ว่าถ้าสอนแล้วจะยิ้มเก่งยิ้มหวานยิ้มเรี่ยราดให้คนอื่นมากขนาดนี้ไม่สอนเสียก็ดีหรอก...ที่คิดอะไรพาลไปทั่วเสียขนาดนี้ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้วิพารันต์ยิ้ม...แต่เขาแค่นึกอยากให้รอยยิ้มน่ารักแบบนี้เป็นของเขาคนเดียวต่างหาก
“เฮ้อ หมดเสียทีนะ ฉันยืนจนเมื่อยไปหมดแล้ว”
มาริสาเริ่มออกอาการบ่นพลางนั่งนวดขาตัวเองเบาๆเมื่อในที่สุดก็ขายขนมจนเกลี้ยงตู้
“ปิดร้านไปซักวันสองวันก็ได้นะ ไม่มีใครว่า”
นิธิศหันไปพูดเหน็บแนมเพื่อนเล็กน้อยในขณะที่ช่วยวิพารันต์เก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน
“อย่าได้ฝัน ขืนทำแบบนั้นแม่ฉันก็ได้ด่ายับเลยสิ อีกอย่าง...ถ้าปิดร้านไป พวกหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ลูกค้าประจำของฉันคงต้องนั่งเพ้อคิดถึงยิ้มหวานๆของน้องรันเป็นแน่แท้...”
มาริสาว่าพลางทำท่าเพ้อฝันทำเอานิธิศนึกอยากจะรังแกผู้หญิงขึ้นมาตงิดๆ...ดูก็รู้ว่ากำลังกวนประสาทเขาอยู่แต่มันก็อดที่จะหมันไส้ไม่ได้อยู่ดี...
“เดี๋ยวเถอะ กวนฉันมากๆฉันจะไม่ให้รันมาช่วยแกขายขนมแล้ว”
มาริสาหัวเราะชอบใจที่ได้เห็นท่าทางขี้หวงเหมือนเด็กๆของเพื่อน...จุดอ่อนของนิธิศมันก็อยู่ตรงนี้แหละ...เรื่องไหนก็ทนได้ยกเว้นเรื่องวิพารันต์เรื่องเดียว
“ฮ่าๆ ไปๆ ไอ้ไนท์พาน้องรันกลับเรือนหอรอรักของแกไปได้แล้วไปฉันจะได้ปิดร้านแล้วเหมือนกัน”
“เออๆ งั้นฉันกับรันกลับแล้วนะ”
“อือ โชคดี พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะคะน้องรัน”
วิพารันต์หันมายิ้มให้มาริสาก่อนจะเดินตามนิธิศไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าร้านพอดี มาริสามองตามหลังทั้งสองคนไปแล้วอดที่จะอมยิ้มให้กับความน่ารักของคู่นี้ไม่ได้...กว่าจะมาถึงวันนี้ได้เหนื่อยกันน่าดูเลยนะ
......................
...................................
“รันครับ มันอาจจะเร็วไปหน่อยแต่พี่ก็เพิ่งรู้วันนี้เหมือนกัน คือพรุ่งนี้พี่ต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดกว่าจะกลับก็อีกตั้งสองอาทิตย์ คราวนี้นานกว่าครั้งที่แล้วหน่อยรันอยู่คนเดียวได้ไหมครับ”
นิธิศเอ่ยปากบอกวิพารันต์ในขณะที่นั่งเช็ดผมให้อีกฝ่ายอยู่บนเตียง...ถึงจะไม่อยากให้วิพารันต์ต้องอยู่คนเดียวนานๆขนาดนี้แต่นี่เป็นงานเร่งด่วนที่เขาจะต้องไปทำและไม่สามารถที่จะพาเจ้าตัวไปด้วยได้
พรุ่งนี้เลยเหรอ...ร่างเล็กชะงักตัวไปนิดหน่อยเมื่อได้ยินแบบนั้นก่อนจะพยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบ...ไม่อยากอยู่คนเดียวอีกเพราะรู้ดีว่ามันเหงาไหนเวลาที่อีกคนไม่ได้อยู่ข้างๆ...แต่ก็ไม่อยากให้นิธิศต้องมานั่งเป็นห่วงทั้งๆที่ไปทำงาน...อยากให้ไปด้วยความสบายใจ
โอบกอดร่างบอบบางจากทางด้านหลังเมื่อเห็นแบบนั้น...วิพารันต์เป็นแบบนี้เสมอ...เข้าใจทุกอย่างได้ง่ายและมีเหตุผล
“อืม หรือว่าจะไปนอนค้างกับมาริสาเหมือนคราวก่อนไหมพี่จะได้โทรไปบอกมันไว้”
กระซิบเบาๆที่ข้างหูแล้วไล้ปลายจมูกไปที่แก้มนวลสูดกลิ่นหอมอ่อนๆที่คุ้นเคย...วิพารันต์ส่ายหน้าพรืดเป็นคำตอบ...ไม่ได้เจอหน้ากันแบบนี้อย่างน้อยขอให้ได้กลับมานอนที่บ้านก็ยังดี
“เอาแบบนั้นจริงๆเหรอครับ หืม”
นิธิศถามย้ำอีกทีเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเหงาที่ต้องนอนอยู่ในห้องคนเดียวแต่วิพารันต์ก็ยังเลือกที่จะยืนยันคำเดิม
“ตามนั้นก็ได้ครับ แต่พี่จะบอกมาริสาไว้แล้วกัน เผื่อวันไหนรันเปลี่ยนใจ...”
พลิกให้อีกฝ่ายหันมามองหน้ากันให้ชัดๆก่อนไล่จูบลงมาตั้งแต่หน้าผาก...เปลือกตา...จมูก...และหยุดตรงที่ริมฝีปากนิ่ม
“...ปากหวานๆนี่ใช่มั้ยนะที่ชอบเที่ยวแจกยิ้มให้คนอื่นไปทั่วน่ะ หืม พี่หวงนะรู้ไหม...หวงมาก...แน่ะ...พูดแล้วยังจะมายิ้มยั่วพี่อีกนะ...อยากโดนลงโทษมากเหรอครับเด็กน้อย...”
เมื่อเห็นวิพารันต์ทำท่าน่ารักใส่แบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะจุ๊บลงไปที่ริมฝีปากแดงเรื่อนั่นอีกทีด้วยความหมันเขี้ยว...ปลายจมูกซุกซนไล้ไปตามโครงหน้าหวานก่อนจะชุกไซ้ไปตามลำคอขาว...กดจูบลงไปแรงๆแล้วฝากรอยรักเอาไว้ให้เห็นเป็นสีกุหลาบ...ถึงจะรู้สึกเจ็บนิดๆแต่วิพารันต์ก็ยอมเอียงคอให้นิธิศได้สัมผัสอย่างเต็มที่
มือใหญ่สอดเข้าไปลูบไล้ผิวเนื้อเนียนใต้ชุดนอนตัวบางของวิพารันต์ก่อนจะเลยขึ้นไปหยุดหยอกล้อกับยอดอกสีชมพูหวาน...สะกิดและเขี่ยเบาๆจนร่างบางสะท้านบิดไปมาด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกปลุกขึ้น
“รันรู้ไหมว่าพี่รักรันมาก...หวงมาก...แล้วตอนนี้ก็กำลังหลงมากด้วย”
กระซิบแล้วใช้ฟันกัดเบาๆที่ใบหูนิ่มในขณะที่มือก็กำลังจัดการกับเสื้อผ้าของคนใต้ร่างอย่างชำนาญ...ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำแบบนี้...แต่น่าแปลกที่ทุกครั้งที่ทำจะมีความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับครั้งแรกเสมอ
ริมฝีปากของนิธิศไล่จูบไปตามร่างกายขาวเนียนของวิพารันต์...ปลายลิ้นไล้เลียและดูดเบาๆที่ยอดอกทั้งสองข้างจนแผ่นหลังบางอยู่ไม่ติดกับที่นอน สองมือเล็กขยุ้มจับอยู่ที่ผมของนิธิศอย่างลืมตัว...สติที่ดูเหมือนจะหลุดลอยไปถูกแทนที่ด้วยอารมณ์หวาม
กางเกงขายาวยางยืดของวิพารันต์ถูกถอดออกไปแล้วเผยให้เห็นส่วนอ่อนไหวที่ถูกกระตุ้นจนเริ่มแข็งตัว...อายจนไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย...นิธิศที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มชอบใจก่อนจะก้มลงไปป้อนจูบเนิ่นนานและร้อนแรงให้เป็นรางวัลสำหรับคนน่ารัก
“ทำมาตั้งหลายครั้งแล้วป่านนี้ยังไม่ชินอีกเหรอครับ หืม”
แกล้งกระซิบเย้าแหย่อีกฝ่ายจนหน้าใบหน้าหวานที่แดงอยู่แล้วด้วยแรงอารมณ์แดงมากกว่าเดิม...ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเลยใช้ฝ่ามือเล็กๆของตัวเองตีไปที่แขนของนิธิศแก้เขิน
“โอ๊ะ...เดี๋ยวนี้มีทำร้ายร่างกายกันด้วย...สงสัยคืนนี้ต้องลงโทษกันแบบชุดใหญ่ซะแล้ว”
ว่าขำๆก่อนจะระดมจูบไปทั่วใบหน้าของวิพารันต์...มือข้างหนึ่งของเขายังคงทำหน้าที่ปลุกเร้าส่วนหน้าของคนตัวเล็กต่อไปในขณะที่อีกมือหนึ่งเริ่มที่จะลุกล้ำไปที่ช่องทางด้านหลัง...
ขยำเบาๆที่เนินเนื้อนุ่มก่อนจะใช้นิ้วชำแรกเข้าไปภายในช่องทางที่อุ่นร้อน...ที่ที่เป็นของเขาคนเดียว
วิพารันต์สะดุ้งเฮือกเมื่อโดนสิ่งแปลกปลอมเข้ามารุกล้ำ...ถึงจะทำบ่อยแค่ไหนแต่เวลาแบบนี้ก็ไม่เคยชินเสียที
เมื่อการเตรียมพร้อมร่างกายของวิพารันต์เรียบร้อยแล้วนิธิศก็ทำการกำจัดเสื้อผ้าของตัวเองไปให้พ้นทางก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเจลหล่อลื่นบนหัวเตียงมาใช้กับส่วนนั้นของตัวเองที่ตอนนี้พองคับแน่นรอการปลดปล่อย
วิพารันต์เบนหน้าหนีกับสิ่งที่ได้เห็นอย่างนึกอาย...จะมองกี่ครั้งก็ไม่อยากจะเชื่อว่าสุดท้ายแล้ว...ของแบบนั้น...จะเข้ามาอยู่ในตัวของตัวเองได้
“อย่าเกร็งนะครับเด็กดี...”
แยกเรียวขาของวิพารันต์ออกให้กว้างพอที่จะรองรับตัวเองได้พอดี
ริมฝีปากแดงเรื่อที่เริ่มบวมขึ้นมาเล็กน้อยเพราะพิษจูบถูกเม้มเข้าหากันเมื่อส่วนหัวถูกดันผ่านเข้ามาได้...เจ็บ...แต่ไม่มากเท่าครั้งแรก...
“หายใจเข้าลึกๆนะ...”
ว่าแล้วก็ค่อยๆดันส่วนที่เหลือของตัวเองเข้าไปจนหมด...วิพารันต์ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาคล้องคอนิธิศเอาไว้เมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับตัวเข้าออกช้าๆในขณะที่มือใหญ่ก็ไม่ลืมที่จะขยับช่วยส่วนน่ารักของวิพารันต์ให้ไปรู้สึกไปพร้อมๆกันด้วย
“อือ...อ่า...เก่งมาก...เก่งมากครับรัน...”
นิธิศครางพลางโถมตัวเข้าใส่ช่องทางนุ่มที่บีบรัดเขาเป็นระยะ...เสียงเนื้อกระทบเนื้อปนกับเสียงหอบหายใจของทั้งสองคนดังลั่นไปทั่วห้องนอน...แม้จะไม่มีเสียงครางของวิพารันต์แต่ใบหน้าแดงก่ำที่ชื้นไปด้วยเหงื่อกับหยาดน้ำตาใสๆที่คลออยู่บนดวงตากลมโตก็ทำให้สติสตังของนิธิศกระเจิดกระเจิงได้อย่างไม่ยาก
ก้มลงไปจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่กลีบปากนิ่มก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบหมอนมารองสะโพกกลมกลึงของอีกฝ่ายให้ลอยเด่นขึ้นมาทั้งๆที่ตัวเองก็ยังขยับเข้าออกอยู่แบบนั้น...วิพารันต์รู้ดีว่าการกระทำแบบนี้ของนิธิศหมายถึงอะไร...แต่กว่าเขาจะสอนเจ้าตัวให้รู้เรื่องได้ขนาดนี้ก็ใช่อยู่นานพอสมควรเลยล่ะ
แรงกระแทกที่หนักหน่วงและเร็วขึ้นทำให้คนตัวเล็กต้องกระชับกอดร่างของคนตัวโตกว่าให้แน่นขึ้น...เรียวขาขาวทั้งสองข้างไขว้มาโอบรอบสะโพกสอบของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นจนแทบไม่เหลือพิ้นที่ว่างทำให้ทั้งสองคนสัมผัสกันและกันได้มากยิ่งขึ้น...
มือเล็กจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของอีกคนเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ...ใบหน้าหวานที่ซบอยู่บนไหล่กว้างเชิดขึ้นสูงเมื่อรู้สึกใกล้จะถึงฝั่งเต็มที...
“อ่า...รัน...อีกนิดนะครับ...คนเก่งของพี่”
นิธิศเร่งขยับกายเข้าออกให้เร็วขึ้นกว่าเดิมและเน้นกดไปที่จุดดีๆภายในที่ทำให้วิพารันต์ต้องตอดรัดเขามากขึ้น...บทรักอันแสนหวานของทั้งสองคนจบลงเมื่อร่างของวิพารันต์เกร็งกระตุกไปถึงฝั่งก่อนที่จะตามด้วยนิธิศ...ความอุ่นร้อนที่ถูกฉีดเข้าไปภายในเป็นสิ่งที่เจ้าตัวรู้สึกได้
“อ่า...เหนื่อยไหมคนเก่ง”
ใบหน้าหวานพยักหน้าขึ้นลงแล้วซบลงกับอกกว้างด้วยความอ่อนแรง
นิธิศก้มลงจูบที่ขมับชื้นเหงื่อของวิพารันต์ก่อนจะพลิกให้อีกฝ่ายขึ้นมานอนอยู่บนตัวของตัวเองทั้งๆที่ส่วนนั้นยังเชื่อมต่อกันอยู่
“...รันครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ก็ไม่อยู่แล้ว...ไม่อยู่ตั้งเป็นอาทิตย์ๆคงคิดถึงรันแย่...ให้พี่อีกนิดนึงได้ไหมครับ...”
น้ำเสียงออดอ้อนกับมือไม้ที่เริ่มอยู่ไม่สุขเริ่มลูบไล้ไปตามผิวเนื้อเนียนเรียบอีกครั้งทำให้วิพารันต์ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกคน...
เอาแต่ใจ...ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผู้ใหญ่อย่างนิธิศเริ่มกลายเป็นคนแบบนี้...แต่บางที...เหตุผลนั้นออาจจะเป็นเพราะว่าเขา...อยู่กับ ‘เด็ก’ มากเกินไปก็เป็นได้
“...นะครับ...เดี๋ยวจะไม่ได้เจอหน้ากันสองอาทิตย์เชียวนะ...ไม่คิดถึงพี่บ้างหรอ”
คิดถึงสิ...แล้วก็คงจะคิดถึงมากๆด้วย...ได้แค่คิดแต่พูดออกไปไม่ได้...แล้วจะทำยังไงให้รู้...ก็คงมีแค่วิธีเดียว...วิธีที่ถึงแม้จะต้องเหนื่อย...แต่ก็อยากทำ...ทำให้รู้ว่าก็คงจะคิดถึงมากเหมือนกัน...
คิดได้แบบนั้นวิพารันต์ก็เงยหน้าขึ้นมาจากอกอุ่นๆแล้วหยัดตัวขึ้นไปจูบเบาๆที่ริมฝีปากของนิธิศ...แค่นั้น...อีกฝ่ายก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าตัวเล็กของเขาต้องการจะสื่ออะไร...ก็น่ารักมากเสียขนาดนี้จะไม่ให้รักจะไม่ให้หลงได้ยังไง
“...ถ้าคิดถึงพี่มาก...คืนนี้ก็รักพี่ให้มากๆนะครับคนเก่ง...”
ทิ้งท้ายเอาเอาไว้แบบนั้นก่อนที่บทรักอันแสนหวานของทั้งสองคนจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง...อีกครั้ง...และอีกครั้ง...
.................
..............................
เช้าวันรุ่งขึ้น...เวลาที่นิธิศจะต้องออกเดินทางตามกำหนดการนั้นคือสิบโมงครึ่งในช่วงเช้าจึงพอที่จะเหลือเวลาในการจัดเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าซึ่งคนที่ช่วยจัดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากวิพารันต์
“แค่นี้ก็พอแล้วครับรัน พี่ไปสองแค่สองอาทิตย์นะไม่ได้ไปทั้งเดือน”
นิธิศพูดขำๆก่อนจะลงไปนั่งกอดรัดฟัดเหวี่ยงคนรักให้ชื่นใจ...คงจะเป็นห่วงเขามากล่ะสิถึงได้จัดของให้เสียเยอะมากมายขนาดนี้
ไม่เคยต้องอยู่ห่างกันนานขนาดนี้มาก่อนเพราะอย่างมากสุดที่เคยก็แค่หนึ่งอาทิตย์...ยังจำถึงความรู้สึกตอนนั้นได้ว่าคิดถึงมากขนาดไหน...คิดถึงมาก...จนต้องนอนกอดหมอนของอีกคนร้องไห้
“...รัน...ร้องไห้ทำไมครับคนเก่ง...หืม...”
ไม่รู้ว่าน้ำตาของตัวเองไหลลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่...รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกอีกฝ่ายกอดเอาไว้แน่น...
“ร้องไห้แบบนี้พี่ไม่อยากไปเลยนะ...ยิ้มให้พี่ดูนะครับคนดี”
กดจูบลงไปที่ขมับแล้วลูบศีรษะคนรักอย่างนึกเป็นห่วง...เห็นน้ำตาแบบนี้แล้วไม่อยากไปเลยให้ตายสิ
วิพารันต์พอได้ยินแบบนั้นก็รีบเช็ดน้ำตาก่อนจะรีบเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้นิธิศดูทันที...ไม่อยากให้ไม่สบายใจ....ร่างสูงยิ้มตอบกลับให้กับภาพที่เห็น...เขารู้ว่าวิพารันต์เป็นห่วงความรู้สึกเขามาก
นั่งกอดกันอยู่แบบนั้นได้สักพักก็ถึงเวลาที่จะต้องออกจากห้องเสียที วิพารันต์เดินไปส่งนิธิศที่หน้าประตูเหมือนทุกวันแต่คราวนี้กว่าจะได้เห็นหน้ากันก็ถือว่านานหน่อย
“พี่ไม่อยู่สองอาทิตย์ดูแลตัวเองดีๆนะ มีอะไรก็ส่งข้อความหาพี่หรือไม่ก็บอกมาริสานะ เข้าใจไหมครับ”
วิพารันต์พยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบในขณะที่มือของตัวเองก็ยังจับมือนิธิศไว้ไม่ปล่อย
“ดีมากครับ...งั้นพี่ต้องไปแล้วนะ...”
ก้มลงไปหอมแก้มวิพารันต์ทั้งสองข้างแล้วหันหลังเตรียมจะเดินไปกดลิฟต์แต่ก้าวไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักเพราะคนตัวเล็กวิ่งมาดักที่ข้างหน้าเขาแล้วเขย่งปลายเท้าเล็กๆขึ้นมาจุ๊บริมฝีปากเขาเบาๆก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในห้อง...นิธิศที่ไม่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยแต่หันหลังไปมองตามก่อนจะยืนยิ้มกับตัวเองตรงนั้นพักหนึ่ง...เปลี่ยนใจไม่ไปตอนนี้จะได้ไหมเนี่ย...
............
..............................
จบ ตอนพิเศษ.
สวัสดีค่ะ วันนี้มาแบบแปลกๆ สงสัยกันล่ะสิว่าทำไม มันไม่มีอะไรมากหรอกค่ะก็แค่...คอมพัง!! คอมที่เขียนตอนที่ 11 เสร็จแล้วมันเกิดดับและเปิดไม่ได้อีกเลย TT ช่วงนี้รอคนมาซ่อมเลยต้องนั่งเขียนตอนพิเศษรอค่ะ (บางคนแอบดีใจที่พังเพราะไม่งั้นตอนนี้คงไม่บังเกิด ฮา) ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะออกมาเป็นแนวนี้แต่เขียนไปเขียนมาไหงเป็นแบบนี้ได้ก็ไม่รู้ 55 ไม่ได้เขียนมานานแล้วค่ะฉากนี้ สนิมเขรอะถ้าไม่ดียังไงก็แนะนำกันได้นะคะ เอาตอนนี้มาให้นั่งอ่านรอตอนที่ 11กันไปก่อนเดี๋ยวคอมใช้ได้เมื่อไหร่(ยังกำหนดวันไม่ได้)จะได้เอามาลงให้อ่านกัน ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามค่า
ป.ล.ใครยังไม่ไปไลค์เพจ รบกวนด้วยนะคะ เพราะบางทีจะแจ้งข่าวสารกันในนั้นค่า