รักนี้ไม่ต้องมี 'เสียง' [แจ้งข่าว P.77] [14/08/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักนี้ไม่ต้องมี 'เสียง' [แจ้งข่าว P.77] [14/08/59]  (อ่าน 752074 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
17
ผ่าตัด


การเริ่มต้นทำโปรเจ็คงานในความรับผิดชอบของนิธิศเริ่มขึ้นทันทีที่เขากลับมาหลังจากไปส่งวิพารันต์ที่สนามบินแล้ว

วันเวลาไม่เคยรอใคร เขาต้องทำงานแข่งกับมันด้วยปัจจัยที่มีจำกัดเช่นนี้…

ผู้ร่วมงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานชิ้นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนที่จะทำงานนี้ให้ออกมาเสร็จสมบูรณ์โดยเร็วที่สุด การทำงานล่วงเวลาที่เกิดขึ้นในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งถึงแม้จะมีบางคนที่บ่นกระปอดกระแปดไปบ้าง เพราะนั่นหมายความว่าในช่วงนี้วันหยุดงานที่เคยมีจะหายวับไปกับตา แต่ทว่าคนส่วนใหญ่ก็เต็มใจที่จะสละเวลาพักผ่อนของตัวเองมาช่วยนิธิศ หลังจากที่ได้ฟังเหตุผลจำเป็นของคนเป็นผู้จัดการแล้ว

“พัดว่าคุณไนท์น่าจะพักสักหน่อยนะคะ”

พัดชาเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะตลอดสองสามวันที่ผ่านมานี้เจ้านายของเธอแทบจะใช้ชีวิตกินนอนอยู่ในบริษัทครบยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่แล้ว

“ผมไม่เป็นไรครับคุณพัดชา ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก”

ร่างสูงว่าในขณะที่สายก็ยังจับจ้องอยู่ที่กองเอกสารบนโต๊ะทำงานของตัวเอง โดยที่ไม่แม้แต่จะยอมเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย
เวลาในการทำงานของเขาเหลือน้อยลงทุกวินาที...

“แต่พัดว่า...”

“อืม...ผมรบกวนคุณพัดชาช่วยเอาแผนการตลาดนี้ไปให้คุณรุจิราแก้ไขให้หน่อยได้ไหมครับ แล้วบอกเธอด้วยว่าถ้าไม่เข้าใจตรงไหนให้รีบเข้ามาถามผมทันที”

“ได้ค่ะ...แต่คุณไนท์...”

“ขอกาแฟให้ผมสักถ้วยก็พอครับ...”

เลขาสาวยื่นมือมาหยิบแฟ้มเอกสารที่นิธิศสั่งก่อนจะต้องถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินออกไปจากห้องเพราะดูท่าแล้วว่าอีกฝ่ายคงจะไม่อยากให้เธอเซ้าซี้อะไรไปมากกว่านี้


..........................
........................................


หนึ่งอาทิตย์กว่าแล้วสำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยของวิพารันต์ เวลาที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับประเทศไทยทำให้เจ้าตัวต้องปรับตัวเป็นอย่างมากในวันแรกที่มาถึง ซึ่งกว่าที่วิพารันต์จะทำตัวให้ชินกับเวลาใหม่ของที่นี่ได้ก็เพิ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง

บ้านพักต่างอากาศที่คนตัวเล็กกำลังอาศัยอยู่ในตอนนี้เป็นบ้านของติณภพที่เจ้าตัวซื้อทิ้งเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน เพื่อเอาไว้ใช้สำหรับพักอาศัยเวลาที่ต้องเดินทางมาดูงานที่นี่ในช่วงที่ธุรกิจของเขาเริ่มขยายตลาดออกมาลงทุนร่วมกับบริษัทในประเทศนี้ใหม่ๆ

“ตัวเล็ก พ่อกลับมาแล้วลูก...”

ติณภพที่เพิ่งกลับเข้ามาส่งเสียงเรียกลูกชายสุดที่รักซึ่งเขาไม่สามารถพาออกไปทำงานด้วยได้ จึงต้องให้เจ้าตัวนั่งเล่นอยู่ภายในบ้านคนเดียวโดยถ้าอยากได้อะไรเป็นพิเศษก็ให้บอกกับสาวใช้อีกสองคนที่พามาด้วย

“เพลง พลอย คุณหนูไปไหน”

คนเป็นพ่อเอ่ยถามสาวใช้ในบ้านเมื่อไม่เห็นวี่แววของวิพารันต์ที่ปกติจะนั่งเล่นอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก

“วันนี้ทั้งวันคุณหนูเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องนอนทั้งวันไม่ยอมออกมาข้างนอกเลยค่ะ”

หนึ่งในสองคนนั้นเป็นคนตอบ

“แล้วได้ทานอะไรบ้างหรือยัง”

“ตอนกลางวันคุณหนูไม่ยอมทานข้าว เพลงเลยเอานมเข้าไปให้ดื่มแทนค่ะ”

“อืม...งั้นเดี๋ยวฉันเข้าไปดูเอง ทั้งสองคนไปจัดโต๊ะอาหารรอเลยแล้วกัน”

สายตาที่ทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง อากาศในช่วงฤดูใบไม่ผลิที่ไม่หนาวจัดจนเกินไปแต่ก็เย็นพอที่จะทำให้คนที่คุ้นเคยแต่กับอากาศของประเทศในเขตร้อนต้องสวมเสื้อคลุมทับสักชั้นเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ซึ่งคนตัวเล็กเองก็ยังยืนยันที่จะใส่แต่เสื้อกันหนาวตัวเดิมโดยไม่ยอมเปลี่ยน แม้ว่าจะผ่านไปเป็นอาทิตย์แล้วก็ตาม...เสื้อกันหนาวตัวเดิมกับวันแรกที่ใส่มา

เสื้อกันหนาว...ตัวที่นิธิศเป็นคนใส่ให้เขาเองกับมือตอนอยู่ที่สนามบิน...

“ตัวเล็ก...เป็นอะไรไปลูก”

ประตูห้องนอนที่ไม่ได้ล็อคเอาไว้ ติณภพเดินเข้าไปหาลูกชายแล้วเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กเบาๆ

วิพารันต์หันกลับมามองคนเป็นพ่อแล้วขยับตัวเข้ามากอดเอวอีกฝ่ายเอาไว้แน่น กอด...กอดที่เหมือนกันแต่ให้ความรู้สึกที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง อุ่น...ความรู้สึกที่สัมผัสได้เพียงแค่ร่างกาย ทว่าเข้าไปไม่ถึงจิตใจ...

ไม่เคยห่างกันนานขนาดนี้มาก่อนตั้งแต่ที่อยู่ด้วยกันมา เหงา...ความรู้สึกที่เคยคิดว่าเข้าใจดี แต่ตอนนี้กลับรู้สึกได้เลยว่าที่ผ่านมานั้นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ ความรู้สึกที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่วันแรกที่มาถึง

...เหงาจนอยากจะร้องไห้...

“สองคนนั้นบอกว่าตอนกลางวันลูกไม่ได้ทานข้าว ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าหืม”

ติณภพถามพลางยกมือขึ้นมาอังที่หน้าผากเล็กอย่างนึกเป็นห่วง แต่เจ้าตัวเองก็ส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร

“ถ้าไม่ได้เป็นอะไรก็ต้องทานข้าวนะลูก ปะ...ไปทานข้าวกับพ่อนะ”

พยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินตามคนเป็นพ่อออกไปจากห้อง ไม่ได้หิว ไม่ได้อยากกิน แต่ก็ไม่อยากทำให้ใครต้องเป็นห่วงไปมากกว่านี้

อาหารมื้อเย็นที่ดำเนินผ่านไปอย่างเรียบง่ายอีกหนึ่งวัน ช่วงนี้นิธิศคงจะกำลังยุ่งมากกับการสะสางงาน

เข็มนาฬิกาที่ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆชี้บอกเวลาสองทุ่ม เวลาที่ไม่ตรงกัน เวลาที่ห่างกันถึงสิบสองชั่วโมงด้วยระยะทางที่ห่างกันคนละซีกโลก...ตอนนี้ที่ประเทศไทยก็คงจะประมาณแปดโมงเช้าพอดี

เดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้งเมื่อทำธุระส่วนตัวทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ล้มตัวลงนอนบนที่นอนนุ่มบนเตียงขนาดใหญ่ ขนาดที่ดูยังไงก็ใหญ่เกินไปสำหรับการนอนคนเดียว...

ขดตัวเองเข้ากับผ้าห่มผืนหนา มือเล็กกอดกระชับเสื้อคลุม‘ตัวเดิม’ให้เข้ามาแนบกับผิวเนื้อมากขึ้น สิ่งเดียวในตอนนี้ที่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ในอ้อมกอดของใครอีกคนที่คุ้นเคย กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆของนิธิศที่ยังติดอยู่บนเสื้อแม้ว่าตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมาจะทำให้มันเริ่มจางไปบ้างแล้วก็ตาม ทว่าถึงจะเป็นแบบนั้น แต่อย่างน้อย...นั่นก็ทำให้เจ้าตัวผ่านค่ำคืนเหงาๆแบบนี้ไปได้อีกคืนล่ะนะ...

ทางด้านอีกฟากฝั่งของซีกโลก การทำงานต่อเนื่องโดยที่ไม่มีวันหยุดยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

นิธิศละสายตาของตัวเองขึ้นมาจากกองเอกสารตรงหน้าแล้วใช้มือนวดขมับเบาๆ เขาเหลือเวลาอีกเพียงแค่สี่วันเท่านั้นก่อนที่วิพารันต์จะต้องเข้ารับการผ่าตัดตามกำหนดการ ความกังวลที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ เขารับปากกับเจ้าตัวเล็กไปแล้วและเขาจะผิดคำสัญญาไม่ได้

อาการปวดหัวตุบๆที่รุมเร้าอยู่ในช่วงสองสามวันนี้ดูเหมือนจะเป็นหนักขึ้นเนื่องจากร่างกายที่ได้รับการพักผ่อนน้อย มือใหญ่เอื้อมไปกดเครื่องอินเตอร์คอมที่วางอยู่บนโต๊ะบอกให้เลาขาสาวนำน้ำเปล่ากับยาแก้ปวดเข้ามาให้เขาสักสองเม็ด

“พัดบอกให้พักก็ไม่ฟังกันบ้างเลย ทำแบบนี้เดี๋ยวตอนงานเสร็จจะได้ลาป่วยแทนลากิจเอานะคะ...”

พัดชาว่าพลางวางถาดยาพร้อมกับแก้วน้ำสะอาดไว้บนโต๊ะทำงานของนิธิศ

“คุณพัดชาก็พูดเกินไป ผมรู้ตัวเองดี เรื่องอดนอนนิดๆหน่อยๆแค่นี้ผมไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก”

หลายคนคงไม่รู้ว่านิธิศเป็นพวกประเภทดื้อเงียบ เนื่องจากเจ้าตัวจะไม่ได้มีอาการอย่างนี้ให้ใครเห็นบ่อยมากนักนอกจากคนเป็นแม่ที่เสียไปแล้วกับเพื่อนสนิทสามคนที่คบกันมานาน แต่ถ้าหากเกิดเจ้าตัวเป็นแบบนี้ขึ้นมาเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ ใครก็อย่าคิดห้ามเสียให้ยากเลยทีเดียวเพราะนั่นก็ไม่ต่างอะไรกับการเหนื่อยเปล่า

“ค่ะๆ รู้ตัวเองก็ดีแล้วค่ะ งั้นถ้าคุณไนท์ต้องการอะไรอีกก็เรียกพัดได้นะคะ”

พัดชาพูดอย่างอ่อนใจก่อนจะยื่นมือไปรับถาดกับแก้วเปล่าที่อีกฝ่ายส่งให้แล้วเดินออกไปจากห้อง

สองนาทีสำหรับการพักหลับตาในห้องทำงานสี่เหลี่ยมหลังจากทานยาแก้ปวดเข้าไปแล้ว นิธิศสูดหายใจเข้าปอดลึกๆอยู่สองสามทีเพื่อไล่อาการง่วงก่อนจะเริ่มกลับมาทำงานต่ออีกครั้ง

ลงทุนทำขนาดนี้แล้ว...ถ้างานมันจะไม่เสร็จก็ให้มันรู้ไปสิ


...........................
..........................................


งานที่ยากก็จะยากอยู่อย่างนั้นหากเราไม่ลงมือทำ เพราะในความเป็นจริงแล้วหากเพียงแค่เราลองลงมือทำก่อนสิ่งที่เราคิดว่ายากที่สุดอาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคิดเสมอไป...

ความจริงในข้อนี้นิธิศเป็นผู้พิสูจน์ให้เห็นแล้วเมื่อเขาเร่งทำงานอย่างหนักต่อเนื่องกันเกือบสองสัปดาห์ จนในที่สุดโปรเจ็คงานนี้ของเขาก็เสร็จสมบูรณ์ทันวันเวลาที่จองตั๋วเครื่องบินเอาไว้อย่างฉิวเฉียด ซึ่งตัวนิธิศเองก็เลือกสายการบินที่บินตรงจากไทยไปถึงที่นั่นเลยโดยไม่พักเครื่องที่ประเทศไหนก่อนเพราะนั่นจะทำให้เขาเสียเวลารอเปลี่ยนเครื่องอีกสามถึงสี่ชั่วโมง

แต่ถึงจะคิดคำนวณเวลาเอาไว้แบบนั้นแล้วก็ยังมีอันต้องเสียเวลาไปอีกจนได้เมื่อสายการบินที่เขาเลือกเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เครื่องต้องดีเลย์อีกเกือบสองชั่วโมง ซึ่งพอบวกกับชั่วโมงบินปกติที่ต้องใช้ระยะเวลาถึงสิบกว่าชั่วโมงแล้วก็ทำให้นิธิศมาถึงที่นี่ในเวลาเก้าโมงเช้าของวันที่วิพารันต์จะต้องเข้ารับการผ่าตัดพอดี

ร่างสูงรีบหยิบโทรศัพท์มือถือที่ถูกเปลี่ยนระบบให้โทรได้ในต่างประเทศเรียบร้อยแล้วขึ้นมากดโทรหาติณภพทันทีที่ลงจากเครื่องได้เพื่อบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขามาถึงแล้ว

ขายาวก้าวเร็วๆออกมาจากสนามบินแล้วอาศัยโดยสารรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลตามที่ติณภพบอกมาตามสาย ตอนนี้เขามีเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นสำหรับการเดินทางไปเจอเจ้าตัวเล็กตามคำสัญญา...

หลายวันที่ผ่านมานี้วิพารันต์ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นเพื่อตรวจร่างกาย จนเพิ่งจะเมื่อวานนี้เองที่ทางแพทย์สั่งให้ร่างบางอยู่นอนค้างที่นี่เลยเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการผ่าตัดที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

ภายในห้องพักของผู้ป่วย ดวงตากลมโตของร่างบอบบางในชุดปลอดเชื้อสีเขียวกำลังจ้องมองอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์ที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้ให้ดู ท่าทางภายนอกของเจ้าตัวที่ดูเหมือนสนอกสนใจกับบทสนทนาภาษาที่ไม่คุ้นเคยในนั้น หากแต่ความจริงแล้วในตอนนี้จิตใจของเจ้าตัวกำลังจดจ่ออยู่กับการรอคอยการมาถึงของใครอีกคน

เสียงเปิดประตูห้องที่ดังขึ้น...

รีบหันไปมองตามเสียงนั้นเผื่อว่าจะเป็นใครที่รออยู่...แต่ก็ไม่ใช่

“เมื่อกี้พี่ไนท์ของลูกโทรมาบอกพ่อว่าลงจากเครื่องแล้ว แต่พ่อไม่แน่ใจว่าจะมาทันตอนลูกเข้าไปไหม เพราะระยะทางกว่าจะมาถึงที่นี่มันก็ไกลพอสมควร...”

ติณภพเอ่ยขึ้นพร้อมกับหย่อนตัวนั่งลงข้างๆลูกชาย วิพารันต์หลุบตาลงมองพื้นพลางสองมือเล็กก็เลื่อนมากุมกันไว้หลวมๆ ก็เกี่ยวก้อยสัญญากันเอาไว้แล้ว ก็ต้องทันสิ นิธิศจะต้องมาทัน

...เขาเชื่อแบบนั้น

สายตาที่มองออกไปภายนอกรถสลับกับก้มมองนาฬิกาข้อมือที่สวมอยู่ ดูเหมือนว่าวันนี้เวลาจะเดินเร็วผิดปกติ แต่ทุกอย่างก็กลับดูเคลื่อนไหวช้าลงชวนให้รู้สึกหงุดหงิด

รถแท็กซี่ขับมาจอดเทียบประตูหน้าโรงพยาบาล...เลยเวลาผ่าตัดมาแล้วเกือบยี่สิบนาที

ร่างสูงมองแผงมิเตอร์ด้านหน้าคอนโซลรถแล้วยื่นเงินพร้อมกับทิปตามธรรมเนียมให้คนขับก่อนจะรีบก้าวยาวๆไปที่แผนกหูคอจมูกตามที่ติณบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้

ทันที...ขอให้ทันทีเถอะ...

“รัน คุณหมอเข้าไปรอยี่สิบนาทีแล้วนะครับ พ่อรู้ว่าหนูอยากจะรอพี่ไนท์ก่อน แต่เดี๋ยวยังไงตอนออกมาก็ต้องได้เจอกันอยู่แล้ว หนูเข้าไปก่อนดีไหมลูกเดี๋ยวคุณหมอจะดุเอา”

ติณภพเอ่ยปากกล่อมลูกชายสุดที่รักที่ตอนนี้นั่งอยู่บนรถเข็นคนป่วย โดยมีมีพยาบาลสาวชาวต่างชาติยืนรออยู่ข้างๆเตรียมที่จะพาเจ้าตัวเข้าห้องผ่าตัดได้ทันทีที่เจ้าตัวพร้อม

มือเล็กเอื้อมไปจับมือคนเป็นพ่อเอาไว้แน่นอย่างต้องการจะอ้อน อยากจะรอ อยากจะขออยู่ตรงนี้ให้นานอีกหน่อย เพราะอยากจะเจอ อยากเจอนิธิศ...ก่อนที่เขาจะต้องเข้าไปในห้องที่ดูน่ากลัวแบบนั้น

“โอเคๆ อีกสามนาทีนะครับ พ่อให้เวลาหนูรออีกสามนาทีเท่านั้นนะ ถ้าคราวนี้ถึงพี่ไนท์ของลูกยังไม่มา ลูกก็ต้องเข้าไปแล้วนะ”

และติณภพก็ยังต้องใจอ่อนกับลูกอ้อนของลูกชายเป็นทุกครั้งไป วิพารันต์พยักหน้าตอบตกลงกับข้อแม้ที่ได้รับ นิธิศกำลังจะมา เพราะมั่นใจ เพราะเชื่อใจ เพราะคิดแบบนั้น แม้ว่าจะเป็นเวลาอีกเพียงแค่สามนาที ถึงจะมีเวลาแค่นั้น ก็เลยยังอยากที่จะลองรอดู

ประตูลิฟต์ที่เปิดออก...เสียงของรองเท้าหนังที่เสียดสีกับพื้นดังขึ้นเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าของคนตัวเล็กซึ่งกำลังนั่งหลับตา โดยมือทั้งสองข้างประสานกันอยู่ที่อกภาวนาให้คนที่รออยู่มาให้ทัน

นิธิศหันไปมองหน้าติณภพเล็กน้อยเป็นเชิงขออนุญาต ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้าให้เบาๆแล้วหันไปพูดอะไรสักอย่างกับพยาบาลที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะพากันเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นเพื่อให้ทั้งสองคนได้คุยอะไรกันก่อนนิดหน่อย

“พี่มาตามคำสัญญาแล้วนะครับเด็กดี ขอโทษ...ที่ต้องทำให้ต้องรอนานนะ”

ย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับคนที่ยังนั่งหลับตาอยู่ ก่อนจะชะโงกหน้าไปกระซิบที่ข้างใบหูนิ่ม

การรอคอยที่สิ้นสุดลง...

เสียงที่คุ้นเคย เสียงที่อยากได้ยินมาตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมา วิพารันต์รีบลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วโผเข้ากอดอีกฝ่ายทันทีด้วยความคิดถึง

มาแล้ว มาจริงๆ พี่ไนท์ของเขา...มาแล้วจริงๆ

“คิดถึง พี่คิดถึงรันมากที่สุดเลยรู้ไหม”

นิธิศว่าพลางกอดตอบร่างบางด้วยความรู้สึกที่มากมายไม่แพ้กัน

อุ่น อ้อมกอดที่ทำให้อุ่นได้มากกว่าร่างกาย อ้อมกอดที่ทำให้อุ่นไปถึงหัวใจ อ้อมกอดที่ทำให้อุ่นได้มากกว่าใคร อ้อมกอดที่มีเพียงคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่ทำให้รู้สึกแบบนี้ได้

“พี่กับคุณพ่อจะนั่งคอยอยู่ข้างนอกนี่นะครับ เดี๋ยวรันเข้าไปแป๊ปเดียวเดี๋ยวก็ออกมาเจอกันแล้ว ไม่ต้องกลัวนะคนเก่ง”

ร่างสูงว่าแล้วผละออกมากดจูบลงไปที่หน้าผากมนทีหนึ่ง เมื่อเห็นติณภพส่งสัญญาณให้รู้ว่าได้เวลาที่เขาจะต้องปล่อยให้เจ้าตัวเล็กเข้าไปภายในห้องผ่าตัดแล้ว ซึ่งวิพารันต์เองพอได้เจอกับนิธิศอย่างที่ต้องการแล้วก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่ายก่อนจะยอมให้พยาบาลสาวเข็นตัวเองเข้าไปภายใน

ประตูที่ปิดลงพร้อมกับร่างของวิพารันต์ที่หายลับเข้าไป แสงไฟสีแดงหน้าห้องสว่างขึ้นบ่งบอกว่าการผ่าตัดได้เริ่มขึ้นแล้ว
นิธิศกับติณภพนั่งรออยู่บนเก้าอี้หน้าห้องที่จัดเตรียมเอาไว้ เข็มนาฬิกาที่เมื่อหลายนาทีก่อนยังคิดว่าเดินเร็วไปดูเหมือนจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้งเช่นเดียวกับอัตราการเต้นของหัวใจ

“ผมคิดว่าคุณจะมาไม่ทันเสียแล้ว...”

ติณภพเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบเมื่อบริเวณนั้นเหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น

“ก็ไม่รู้จะเรียกว่าทันได้หรือเปล่านะครับ เพราะจริงๆแล้วถ้ารันไม่รอผม ผมเอง...ก็คงจะมาไม่ทันเหมือนกัน”

“ตัวเล็กเชื่อใจคุณมาก แกบอกผมว่าคุณสัญญากับแกเอาไว้แล้ว แล้วคุณก็ไม่เคยผิดสัญญา เพราะเป็นแบบนั้น...แกถึงได้รอ”

นิธิศไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีก สายตาของเขาหยุดจ้องมองอยู่ที่ประตูห้องเบื้องหน้าก่อนจะระบายยิ้มบางๆออกมาเมื่อนึกถึงคนที่อยู่ในห้องนั้น...วิพารันต์เชื่อใจเขาเสมอ

“เดินทางมาแบบนี้คงจะเหนื่อยมาก คุณจะไปพักสักหน่อยก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวทางนี้ผมจะอยู่เฝ้าลูกเองเพราะยังไงตอนออกมาก็คงอีกหลายชั่วโมงกว่าตัวเล็กจะรู้สึกตัว”

ติณภพว่า

“ขอบคุณครับ แต่ไม่ดีกว่า ผมบอกรันไว้แล้วว่าผมจะนั่งรออยู่ตรงนี้ ถึงรันจะไม่รู้ตัว แต่ผมก็ยังอยากจะอยู่รอจนกว่าจะเห็นเขาออกมาอย่างปลอดภัยก่อน”

ร่างกายที่เหนื่อยสะสมมาจากการทำงานที่มีเวลาพักเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน บวกกับความอ่อนเพลียจากการเดินทางที่ยาวนานพอสมควรทำให้ตัวนิธิศเองก็รู้สึกอยากจะพักอยู่เหมือนกัน...แต่ทว่าต้องไม่ใช่ตอนนี้

สามชั่วโมงของการผ่าตัดที่สิ้นสุดลง...สามชั่วโมงที่อาจจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนคนหนึ่งไปได้อย่างสิ้นเชิง ไฟสีแดงที่หน้าห้องผ่าตัดถูกเปลี่ยนเป็นสีเขียวก่อนที่แพทย์สองสามคนจะทยอยกันเดินออกมา

ติณภพรีบลุกขึ้นไปสอบถามผลของการผ่าตัดทันที ซึ่งผลที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจ และทางแพทย์เองก็ได้อธิบายเพิ่มมาว่าการผ่าตัดในครั้งนี้เป็นเพียงการผ่าตัดเอากล่องเสียงบางส่วนของวิพารันต์ที่เป็นปัญหาออกเท่านั้น และหลังจากระยะการพักฟื้นที่ต้องงดใช้เสียงประมาณสองถึงสามสัปดาห์แล้ว คนไข้ก็จะสามารถเปล่งเสียงพูดออกมาได้เหมือนกับคนปกติ แต่อาจจะต้องได้รับการฝึกฝนการพูดจากนักแก้ไขการพูดอีกสักหน่อยเพื่อการออกเสียงที่ชัดเจนมากขึ้น

ร่างบอบบางของวิพารันต์ที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยฤทธิ์ของยาสลบที่ยังไม่หมดดีถูกเข็นเข้ามาพักอยู่ในห้องพิเศษหลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้นลง

หลังมือข้างซ้ายของเจ้าตัวถูกเจาะโยงสายน้ำเกลือเอาไว้ อีกทั้งยังมีท่อรับอาหารเหลวที่ต้องใส่ผ่านจมูกลงไปยังกระเพาะอาหาร เนื่องจากหลังจากนี้ไปอีกประมาณสองสัปดาห์วิพารันต์จะไม่สามารถทานอาหารทางปากได้

ร่างสูงยืนรอจนพยาบาลสาวจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยและเดินออกไปจากห้องแล้ว จึงค่อยๆลากเก้าอี้มาชิดกับเตียงคนไข้ สัมผัสอบอุ่นที่ถูกส่งผ่านจากมือหนึ่งสู่อีกมือ นิธิศเอื้อมมือไปจับมือเล็กของอีกฝ่ายเข้ามากุมไว้หลวมๆก่อนจะลูบไปมาเบาๆอย่างนึกโล่งอกที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี

เหมือนภารกิจสิ้นสุดลง...ร่างกายที่อ่อนเพลียเต็มทีของนิธิศเริ่มแสดงอาการให้เจ้าของรับรู้ว่าถึงเวลาที่จะต้องให้มันพักผ่อนบ้างแล้ว เปลือกตาที่ค่อยๆปิดลงช้าๆ ความเงียบที่เกิดขึ้น เงียบ...จนได้ยินเสียงลมหายใจของคนสองคนที่ดังเข้าออกสม่ำเสมอ


...ภาพหนึ่งคนป่วยกับอีกหนึ่งคนเฝ้าที่หลับไปพร้อมๆกันด้วยความเหนื่อยอ่อน ภาพที่แม้แต่คนเป็นพ่ออย่างติณภพเองเห็นแล้วยังไม่อยากที่จะเข้าไปรบกวน...


...ภาพที่นิธิศนั่งจับมือของวิพารันต์เอาไว้แล้วฟุบหน้าหลับลงไปทั้งแบบนั้น...



TBC.


Rewrite




ฮือ ช่วงนี้คนเขียนป่วยค่ะ เป็นหวัดหน้าร้อน น้องรันใกล้จะหายแต่ตอนนี้คนเขียนไม่มีเสียงแทนแล้วค่ะ ฮาา
ตอนหน้าถ้าไม่มีการผิดพลาดประการใดก็น่าจะจบแล้วนะคะ อิอิ
ใกล้ประกาศผลแอดมิชชั่นเต็มที ใกล้วันรู้ชะตากรรมตัวเองแล้ว กรี๊ดดด (ไม่เห็นเกี่ยวกับนิยาย ฮาา)


ป.ล. ยังมีบางคนสงสัยเรื่องตอนพิเศษที่แต่งไว้ก่อนหน้านี้ อย่าได้เอาไปคิดรวมกันเด็ดขาด
ตอนพิเศษจับมันแยกชิ้นส่วนออกจากเนื้อเรื่องหลักไปได้เลยค่ะ เพราะบนหัวก็เขียนเอาไว้แล้วว่ามีแค่บางส่วนเท่านั้น
ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหลัก ส่วนอื่นๆเป็นฉากสมมติค่ะ เพราะถ้าเขียนล่วงหน้ายาวขนาดนั้นกลัวคนอ่านไม่ได้ลุ้น // 55


ขอบคุณทุกความเห็น ขอบคุณทุกการติดตาม เจอกันตอนหน้าค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-08-2016 14:37:55 โดย Rafael »

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
 :z13: :z13: :z13:

น้องรันจะพูดได้แล้ววววว  :impress2:

 :pig4:นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2012 20:30:51 โดย Pupay »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
หลังผ่าตัดแล้ว เสียงของน้องจะหวานขนาดไหนน๊า

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เดี๋ยวน้องรันก็จะพูดได้แล้ว

ออฟไลน์ windel

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ๊าย~~  :m3: :m3: :m3: :m3:
อีกเดี๋ยวเดียวคุณไนท์ก็จะได้ยินเสียงน้องรันแล้วน่ะสิ  :-[
คงจะหวานนนนนน อ๊ายยย~  :m1:

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ซึ้งงงงง!!!!!!! :กอด1:

ออฟไลน์ owo llยมuมข้u

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
>[]< กรี้ดดดด น่ารักจริงๆ คู่นี้

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
น้องรันจิพูดได้แล้ว ตื่นเต้นแทนพี่ไนท์ง่ะ

AnimajuS

  • บุคคลทั่วไป
หายไวๆนะคนเก่ง จะได้พูดกะเขาซะที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :-[ :-[



โอยยยเรื่องนี้จะน่ารักไปไหน

อ่านทีไรใจมันอื่มมันฟูตลอด ทุกสิ่งที่คนที่เป็นคู่รักควรจะทำ ปฏิบัติต่อกัน ทั้งหมดอยู่ในตัวพี่ไนท์และน้องรัน


 :กอด1: +1 +เป็ดให้่กำลังใจน้องรันและความน่ารักของพี่ไนท์

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
อ่านกี่ทีๆก็อบอุ่นจริงเลย ดีใจด้วยกับทุกๆคนจริงๆเลย
อยากจะบอกว่าคนเขียนไม่สบายเหมือนกันเลย เสียงหายเหมือนกันด้วย55555
ไงก็อย่าลืมดื่มน้ำเยอะๆและพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะค่ะ^^

ออฟไลน์ Ball

  • He exists now only in my memory.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +239/-0
ยังคงละมุนและอบอุ่นเสมอสำหรับเรื่องนี้
น้องรันจะพูดได้แล้วนะคะพี่ไนท์
ต้องดูแลน้องให้ดีๆนะ

ออฟไลน์ slurpee04

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-1
อบอุ่น  :กอด1:

KanomPhing

  • บุคคลทั่วไป
น้องรันนนนนน

ในที่สุดพี่ไนท์ก็มาทัน ไม่เสียแรงที่รอเนอะ

ฟื้นมาเร็วๆน้า จะได้พูดกะพี่ไนท์ได้ซะที

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
พี่ไนท์สุดยอด มาทันเวลาพอดีเป๊ะ อย่างนี้น้องรันหายไวแน่ๆ

ปล.Rafael รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
:กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2012 22:16:33 โดย evilheart »

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
อบอุ่น :-[... อย่าเพิ่งรีบจบ
หลังผ่าตัด มีเรื่องให้เขียนอีกยาว ชีวิตคู่เพิ่งเริ่ม
เป็นกำลังใจให้คนเขียน :L2:
เจอหวัดหน้าร้อนเช่นกันครับ รักษาสุขภาพด้วย
+1+เป็ด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2012 21:07:41 โดย Horizon »

PAAPAENG~

  • บุคคลทั่วไป
จริงๆแล้วแอบไม่อยากให้น้องรันพูดได้...
แต่...ถ้าพูดได้มันก็จะจบแบบแฮปปี้เอนท์ดิ้งใช่มั๊ยล่ะ
เพราะงั้น...พูดได้ก็ดีนะ พี่ไนท์จะได้ฟังเสียงครางได้ คิคิ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ในที่สุดพี่ไนท์ก็มาซะที น้องรันทั้งน่ารักน่าสงสาร

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






faratellll

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ากกก จะจบแล้ว คงคิดถึงน้องรันมาก มากเลยยย  :sad4:

P.S. นู๋รัน รีบตื่นมาบอกรักพี่ไนท์ เร๊ว  :กอด1:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
ว้าว น้องรันจะพูดได้แล้ว แล้วก้อขอให้หายเร็วเร็วน๊า

chantana

  • บุคคลทั่วไป
+1  ให้จร้าาาา

คนแต่งอยากให้มีคนมาจับมือใก้ล ๆ เหมือนน้องรันจิ ถึงได้ป่วยนะ    :n1:

แต่คนอ่านอยากให้มาต่อไวไว รีบหายป่วยนะตะเอง เค้ารออยู่   :กอด1:

รอตะเองจร้าาาาาาาาาาา    :call:

ออฟไลน์ ruby

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 477
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-3
ไม่อยากให้รีบจบเลย คิดถึงน้องรัน+พี่ไนท์
ขอตอนพิเศษเยอะๆเลยค่ะ :pig4:
ขอให้สมหวังนะค่ะ(แอด) แล้วก็หายป่วยเร็วๆ

กระต่ายชมจันทร์

  • บุคคลทั่วไป
สอดจมูกกินทางปากไม่ได้...สยอง...

เดี๋ยวน้องรันจะพูดได้แล้ว คำแรกที่จะพยายามพูดจะเป็นชื่อแฟนหรือเปล่าน้า~ (แอบน้อยใจแทนพ่อนิดๆถ้าเป็นอย่างนั้นแต่ก็เข้าใจ)

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
โห ขนาดอดหลับอดนอนแล้วยังเกือบมาไม่ทันแหนะ

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
รอตอนต่อไป มาเร็วๆ นะครับ อิอิ

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
ในที่สุดพี่ไนท์ก็มาทันนนนน
ดีจังเลย ,,
น้องรันคงมีกำลังขึ้นอีกหลายกองเลย
ต่อไปก็ต้องอดทน  รอเวลา
อีกไม่นานก็จะพูดได้แล้วสินะะ

^^

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ลุ้นไปด้วยเลยตอนนี้

ออฟไลน์ tumtok

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 648
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-4
น้องรันสู้ๆ ฝึกพูดได้เร็วๆนะ :call:
แอร๊ยยยยน้องรันจะพูดได้แล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด