รักนี้ไม่ต้องมี 'เสียง' [แจ้งข่าว P.77] [14/08/59]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักนี้ไม่ต้องมี 'เสียง' [แจ้งข่าว P.77] [14/08/59]  (อ่าน 778336 ครั้ง)

amyrang

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้น่ารักมากเลย อ่านไปยิ้มไป ทั้งเรื่อง
ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ ที่แต่งเรื่องดีๆ อบอุ่นๆ แบบนี้ให้ได้อ่าน

+1ให้เลยค่ะ

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
ชอบนิยายเรื่องนี้มากๆค่าาาา
อ่านแล้วร้องไห้ตามเลยอ่ะ
จะติดตามผลงานเรื่องต่อไปน้า  สู้ สู้ ค่า

Aini_es

  • บุคคลทั่วไป
สนใจรวมเล่มด้วยคนค่ะ เอา 1 ชุดค่ะ

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
อ่านจบแล้วดีจังในที่สุดน้องรันก็พูดได้

ออฟไลน์ howru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
สนุกมากเลย แต่ไม่น่าจบเร็วเลย
น้องรันอุตส่าห์พูดได้แล้ว.. เสียดาย nc เอ้ย! ไม่ใช่ละ555

จะติดตามผลงานต่อไปนะจ๊ะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ londoneye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ชอบค่ะที่จบแบบนี้

เพราะรักนี้ไม่ต้องมีเสียง....การจบแบบสื่อสารกันด้วยการเขียนที่เข้าใจกัันแค่สองคน...กลับยิ่งทำให้รู้สึกอบอุ่นกว่าการที่รันจะใช้คำพูดบอกว่ารักพี่ไนท์ซะอีก

เป็นเรื่องที่อ่านแล้วก็อบอุ่นยิ้มได้ทุกครั้งที่นึกถึง

ความสัมพันธ์ของคนสองคนที่ค่อยๆดำเนินไปเรื่อยๆ... :-[

อ่านเรื่องนี้แล้ว...ทำให้รู้สึกว่าความรักอย่างนี้มันช่างดีจริงๆ :o8:

 :pig4:ขอบคุณค่ะคุณน้องที่ทำให้คุณพี่ได้อ่านเรื่องรักที่น่ารักอย่างนี้ o13

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2

ออฟไลน์ oppee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
อ่านตอนแรกเราอยากร้องไห้เลย ทำไมชีวิตจของรันถึงได้น่าสงสารขนาดนี้
แม่ของรันใจร้ายมากๆ ยังไงรันก็เป็นลูกแท้ๆที่คลอดออกมานะ แต่ก็นะ
โชคดีที่ยังมีจิตใต้สำนึกที่ดีอยู่บ้างที่ไม่เอารันออก เฮ้อ คิดแล้วเศร้า
แต่พอมาอยู่กับไนท์ทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นเรี่อยๆ รันเริ่มดูสดใสมาก น่ารักที่สุด
แล้วทุกอย่างก็ขยับจากความสงสาร เป็นผูกพันธ์ จนกลายมาเป็นความรัก
อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้รู้ว่า คำพูดไม่ใช่ทุกอย่าง
การกระทำที่ทำให้ซึ่งกันและกันต่างหากที่เป็นตัวสำคัญ
ไนท์กับรันรักกันมากๆ แบบมันเกินคำว่าแฟนหรือคนรักไปแล้ว
มันแบบ อยู่ด้วยกันตลอดไป ช๊อบมากๆ อ่านแล้วซึ้งสุดๆ
 :L2: ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านกันจ๊า

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
อยู่ดีๆก็คิดถึงเรื่องนี้เลยแวบเข้ามาดู
คิดถึงพี่ไนท์น้องรันจริงๆเลยน้า (แต่ก็ยังอู้ตอนพิเศษอยู่ 55)
ไว้เขียนเสร็จแล้วจะเอามาลงให้อ่านกันน้าาาา อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Firebird

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ SOBANG✖

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ลงชื่อจองด้วยคร่า ^ ^

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
จอง 1 ชุดค่า ขอรายละเอียดทาง pmหน่อยค่า

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ไนท์เป็นคนใจดีนะเนี่ย รันน่ารักมาก ๆ เลย แม่รันใจร้ายนะนั่น พ่อรันก็เหมือนกันพูดแบบนั้นกับแม่รันใจร้ายน่าดูเหมือนกัน

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
 
น้ำตาคลอ  ตอนที่น้องรันอ่านบันทึก

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
อ่านแล้วชอบเลย
อบอุ่น หวาน ซึ้ง  :L1:
ขอจองหนังสือด้วยคนค่ะ

ออฟไลน์ zoe131313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
สอนใจล้านเปอเซน จัดมาเลย จาก ยัยนี่เตี้ย

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dream_yaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จองด้วยคนน่ะค่ะ

อยากอ่านNCด้วยอ่ะค่ะ

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
 :monkeysad: :monkeysad: :sad11: :sad11: :m15: :m15:

พออ่านแล้วฟังเพลงประกอบ น้ำตาพรากเลยทีเดียววว

ออฟไลน์ palm-metto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
อ่านจบแล้ววว
วู้ววว
เรื่องนี้ ทั้งสนุกทั้งน่ารักเลยอ่ะ

หวาน นนนน ทั้งเรื่องเลย
อ่านไปยิ้มไป มีความสุข
มันแสดงให้เห็นว่า ไม่มีเสียง แต่ก็มีรักได้นะ
อิอิ

ขอบคุณรักเขียน ที่เขียนนิยาย ดี ๆ อย่างนี้ให้อ่านนะค่ะ
 o13

ออฟไลน์ mook0007

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เป็นเรื่องที่น่ารักดีค่ะ ชอบมาก ถึงตอนแรกน้องรันจะน่าสงสารก็เถอะ
ขอจองด้วยคนนะคะ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7

ตอนพิเศษ(1)
หึง


วันเวลาที่ยังคงเดินต่อไป อากาศของประเทศไทยที่เอาแน่เอานอนกับอะไรไม่ได้ เมฆสีเทาที่จับกลุ่มกันลอยอยู่บนท้องฟ้าดูหนักอึ้งจนต้องกลั่นตัวเป็นหยดน้ำตกลงมาสู่พื้นดินพอให้ได้คลายร้อนกันได้บ้าง หลังจากที่อากาศร้อนจัดสะสมมาเกือบจะหนึ่งอาทิตย์เต็ม

เสียงเปาะแปะของน้ำฝนที่สาดเข้ามากระทบกับกระจกตรงระเบียงยังคงดังต่อเนื่องในเหมือนเพลงขับกล่อมเช้าของวันหยุด อากาศที่เย็นขึ้นจากเดิมเล็กน้อยทำให้ร่างบอบางของวิพารันต์ที่ขดตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนาอยู่แล้วต้องขยับตัวเข้ามาซุกหาไออุ่นจากอกของนิธิศเพิ่มเติม

“หนาวเหรอครับ ให้พี่ลุกไปปิดแอร์ให้ไหม”

ก้มลงกระซิบถามที่ข้างใบหูนิ่มก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปแนบลงบนแก้มเย็นของคนที่กำลังนอนหลับสบาย

“...ไม่หนาว...แต่ขอกอดหน่อย”

เสียงหวานเอ่ยตอบทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาก่อนจะมุดตัวเองให้เข้าไปอยู่ในวงแขนของอีกฝ่ายให้ร่างกายแนบชิดกันมากยิ่งขึ้นเรียกรอยยิ้มเล็กๆจากมุมปากของนิธิศได้เป็นอย่างดี...ขี้อ้อน...ตั้งแต่ที่พูดได้มาเนี่ยรู้สึกว่าเจ้าตัวเล็กจะทำตัวน่ารักแถมขี้อ้อนขึ้นเยอะจนช่วงนี้เขาเองแทบไม่อยากจะปล่อยให้เจ้าตัวอยู่ห่างสายตาถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

“ขี้อ้อนใหญ่แล้วนะเราอะ”

นิธิศว่าด้วยความหมันเขี้ยวพลางอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาบีบจมูกอีกฝ่ายเล่น ทำเอาคนตัวเล็กต้องย่นจมูกหนี เกิดเป็นการหยอกล้อทักทายกันยามเช้าที่เรียกเสียงหัวเราะคิกคักได้เป็นอย่างดี

“หื้อ พี่ไนท์พอแล้ว คิกคิก อะ...อื้อ จั๊กจี๋”

วิพารันต์ส่งเสียงประท้วงพลางมือเล็กทั้งสองข้างก็ออกแรงดันใบหน้าของคนตัวโตกว่าที่ยังแกล้งไล่พรมจูบไปตามโครงหน้าหวานของตนและเริ่มลามลงมาจนถึงลำคอ

“อืม...อยากให้พอต้องทำไงครับ”

นิธิศว่าแล้วท้าวแขนคร่อมตัวเองลงกับที่นอนโดยที่มีร่างบอบบางนอนหอบหายใจน้อยๆจากการเล่นกันเมื่อครู่อยู่ด้านล่าง ไม่ต้องพูดอะไรไปมากกว่านั้น วิพารันต์อมยิ้มน้อยๆอย่างเข้าใจก่อนที่วงแขนเรียวจะเอื้อมไปโอบรั้งคอของคนตัวโตกว่าให้โน้มลงมาใกล้
สัมผัสนุ่มนิ่มที่รู้สึกได้ยามที่ริมฝีปากของทั้งสองแตะกัน นิ่งค้างเพียงชั่วครู่นิธิศจึงเริ่มขยับแระเล็มไปรอบๆสลับงับกลีบปากบางเบาๆเป็นเชิงหยอกเอินให้คนตัวเล็กเปิดปากรับลิ้นร้อนของเขาให้เข้าไปสำรวจภายใน...

“...พี่ไนท์...อือ...”

เสียงหวานที่ครางเครือในลำคอ นิธิศผละออกให้เจ้าตัวมีโอกาสหายใจได้บ้างก่อนจะกดย้ำลงไปอีกครั้งแล้วผละออกมาอย่างนึกเสียดาย

“เช้านี้อาบน้ำด้วยกันเลยนะครับ เดี๋ยวสายแล้วคุณพ่อจะรอนาน”

เอ่ยบอกชิดริมฝีปากของอีกฝ่าย ไม่รอคำตอบ รีบลุกขึ้นยืนฉวยโอกาสตอนที่วิพารันต์ยังไม่ทันได้ตั้งตัวอุ้มช้อนร่างบอบบางมาไว้แนบอกแล้วพาเดินเข้าห้องน้ำไปทั้งแบบนั้น

ทั้งๆที่ก็อยากจะให้เร็วขึ้นแท้ๆ แต่ดูเหมือนว่าการที่เข้าไปอาบน้ำพร้อมกันสองคนแบบนี้จะยิ่งทำให้เสียเวลาไปมากกว่าเดิม เพราะกว่าทั้งสองคนจะอาบกันเสร็จก็กินเวลาไปกว่าครึ่งชั่วโมงซึ่งมันคงจะไม่นานขนาดนี้ถ้าหากคนชวนเองไม่มัวแต่อ้อยอิ่งหลอกหากำไรจากคนตัวเล็กจนเกือบจะได้ทำกิจกรรมอย่างอื่นแทนการอาบน้ำ
บรรยากาศการจราจรในเช้าวันหยุดที่มีฝนโปรยปรายเล็กน้อยแบบนี้ค่อนข้างที่จะปลอดโปร่งมากกว่าวันทำงานอยู่มากจึงทำให้นิธิศใช้เวลาในการขับรถไม่นานก็มาถึงบ้านของติณภพ

“คุณท่านคะ คุณหนูมาถึงแล้วค่ะ”

เพียงแค่สาวใช้เดินเข้าไปบอกว่าวิพารันต์มาถึงแล้วเท่านั้น คนเป็นพ่อที่ตื่นมานั่งรอการมาถึงของลูกชายสุดที่รักอยู่ในห้องนั่งเล่นตั้งแต่ยังไม่แปดโมงเช้าดีก็รีบวางหนังสือพิมพ์ที่ยังอ่านค้างอยู่ในมือแล้วลุกเดินออกมาจากห้องทันที

“สวัสดีครับท่าน”

นิธิศกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ทันทีที่เห็นซึ่งคนเป็นพ่อตาเองก็พยักหน้าให้น้อยๆเป็นเชิงรับรู้ก่อนที่จะหันไปสนใจเจ้าตัวเล็กที่ยืนยิ้มหวานอยู่ข้างๆ

“ตัวเล็ก มา มาให้พ่อกอดหน่อยเร็ว”

ติณภพพูดพลางอ้าแขนออก ซึ่งคนเป็นลูกเองก็ไม่รีรอที่จะเดินเข้าไปหาแล้วกอดตอบกลับอย่างอ้อนๆทำเอาทุกคนที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่อดที่ยิ้มตามไปด้วยไม่ได้

“เก้าโมงกว่าแล้ว กินอะไรกันมาหรือยังลูก หิวไหม พ่อสั่งให้คนทำข้าวต้มกุ้งไว้ให้แล้ว เดี๋ยวไปกินกันเลยดีกว่าเน๊อะ ไนท์ก็ด้วยนะ อยู่กินอาหารด้วยกันก่อนแล้วจะกลับก็ค่อยกลับ...”

“ครับ...”

คำเรียกชื่อที่เปลี่ยนมาเป็นกันเองมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ของติณภพ...คำเรียกที่นิธิศยังรู้สึกไม่คุ้นชินมากนัก แต่นั่นก็เป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งบอกว่าตอนนี้คุณว่าที่พ่อตาเริ่มที่จะยอมรับในตัวเขาให้เข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของบ้านมากขึ้นกว่าเดิมอีกขั้นแล้ว

“ช่วงนี้งานที่บริษัทเป็นไงบ้างล่ะ ได้ข่าวว่าหนักอยู่เหมือนกันนี่นะ”

“ครับ ก็อย่างที่ท่านรู้มานั่นแหละครับ ช่วงนี้ทางบริษัทกำลังจะทำเรื่องเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ก็เลยค่อนข้างจะยุ่งกันหน่อย แต่หลังจากอาทิตย์นี้ก็คงจะน้อยลงแล้วล่ะครับ”

บทสนนาของทั้งสองคนเริ่มขึ้นและดำเนินต่อไประหว่างมื้ออาหารเช้าโดยมีวิพารันต์ที่นั่งกินข้าวต้มฟังอยู่เงียบๆ เพราะถึงพอจะได้ยินเรื่องพวกนี้อยู่บ่อยๆแล้วแต่เจ้าตัวเองก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจเรื่องธุรกิจหรืองานอะไรแบบนี้เสียเท่าไหร่ รู้แต่เพียงแค่ว่าช่วงนี้นิธิศค่อนข้างจะงานยุ่งจนไม่ค่อยจะมีเวลาอยู่ด้วยกันเสียเท่าไหร่นัก

“เออ จริงสิตัวเล็ก เย็นนี้พ่อต้องไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนพ่อน่ะ ตัวเล็กไปกับพ่อนะลูก”

ติณภพเอ่ยปากพูดกับลูกชายในขณะที่นั่งดูโทรทัศน์กันอยู่ในห้องนั่งเล่นหลังจากที่นิธิศขอตัวกลับไปสะสางงานที่เหลืออยู่อีกนิดหน่อย และจะกลับมารับวิพารันต์ใหม่ในเช้าวันพรุ่งนี้

“อ่า อีกแล้วคุณพ่อ งานนี้รันไม่ไปไม่ได้เหรอ”

พูดพลางคนตัวเล็กที่นั่งกอดหมอนอิงอยู่ก็ทำแก้มป่องหันไปมองหน้าคนเป็นพ่อด้วยสายตาอ้อนๆ

“ทำไมล่ะลูก”

“ก็รันไม่ค่อยชอบออกงานแบบนี้อะ อีกอย่างช่วงนี้รันก็ไปกับคุณพ่อหลายงานแล้วนะ”

“แน่ะๆ อย่าเพิ่งงอแงสิลูก ฟังเหตุผลพ่อก่อนนะลูก ที่พ่ออยากให้ลูกไปด้วยก็เพราะหนูเป็นลูกของพ่อแล้วอีกหน่อยหนูก็ต้องออก
งานบ่อยๆ พ่ออยากให้หนูชินกับงานเลี้ยงพวกนี้เอาไว้นะรู้ไหมหือ”

ขยับเข้าไปใกล้ร่างบอบบางก่อนจะยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มของลูกชายเบาๆด้วยความเอ็นดู

“...นะ ไปเป็นเพื่อนพ่อนะคนเก่ง”

วิพารันต์ทำปากยู่แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมพยักหน้าตอบตกลงกลับไป ก็นะ ถึงใจจะไม่อยากไปแค่ไหนแต่เล่นเจอคำขอร้องแบบนี้ของคนเป็นพ่อเข้าไปลูกคนไหนจะกล้ายืนกรานปฏิเสธได้ล่ะ

................................
...............................................

รถยุโรปคันหรูขับเข้ามาจอดเทียบหน้าตัวบ้านหลังใหญ่ที่วันนี้เจ้าของของมันใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดของตัวเอง หนึ่งในบอดี้การ์ดของติณภพที่นั่งอยู่ด้านหน้าคู่กับคนขับรีบเปิดประตูลงจากรถมาเปิดประตูให้คนเป็นเจ้านายที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังกับคุณหนูของบ้าน

แขกในงานที่มีไม่มากนักเพราะดูเหมือนว่าเจ้าของงานจะชวนเฉพาะคนที่สนิทจริงๆเท่านั้นจึงทำให้บรรยากาศงานเลี้ยงในวันนี้ดูเป็นกันเองเสียมากกว่าเป็นทางการเหมือนงานอื่นๆ

“สุขสันต์วันเกิดไอ้จักร แก่ขึ้นอีกปีแล้วนะ ฮ่าๆ”

ทันทีที่เจอหน้าเพื่อนผู้เป็นเจ้าของงานติณภพก็รีบเดินตรงเข้าไปทักทายตามภาษาเพื่อนเก่าที่สนิทและคบกันมานานมากกว่ายี่สิบปี

“อ้าว มาแต่เมื่อไหร่ล่ะวะเนี่ย กำลังนึกถึงอยู่เลย คิดว่าท่านประธานจะยุ่งจนมาไม่ได้ซะแล้ว”

หลังจากทักทายกันเสร็จเรียบร้อยแล้วสองเพื่อนสนิทก็ยืนพูดคุยลำลึกความหลังครั้งเก่ากันอีกนิดหน่อยก่อนที่คนเป็นพ่อจะหันมาแนะนำลูกชายสุดของตัวเองให้เพื่อนรู้จักอย่างเป็นทางการ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้มีโอกาสพามาให้ได้เห็นหน้าคร่าตากันจริงๆเสียที

“ตัวเล็ก นี่ลุงจักรนะ เป็นเพื่อนพ่อเอง”

“สวัสดีครับลุงจักร”

วิพารันต์กล่าวพร้อมประนมมือขึ้นขึ้นไหว้ เรียกรอยยิ้มและความเอ็นดูจากจักรกฤษณ์ได้เป็นอย่างดี

“สวัสดีลูก แต่วันหลังเรียกอาว่าอาก็พอนะลูก ลุงมันแก่ไป เพราะความจริงแล้วอายุอาก็ไม่ได้มากกว่าพ่อหนูซะเท่าไหร่หรอก  ฮ่าๆ”

คนรับไหว้ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี

“ครับคุณอา...”

“ฮ่าๆ ไอ้ติณ ลูกแกนี่มันน่ารักจริงๆอย่างที่เค้าว่ากันเลยว่ะ นี่ถ้ายังว่างนะฉันคงขอจองตัวมาให้เจ้าลูกชายฉันละ...ว่าไงลูก สนใจเปลี่ยนใจจากคุณนิธิศมาสมัครเป็นลูกสะใภ้อามั้ย ลูกชายอายังว่างอยู่นะ”

“เหรอ ลูกชายแกว่างอยู่จริงเหรอไอ้จักร อย่ามาโม้หน่อยเลย ฉันได้ข่าวว่าลูกชายแกควงหนุ่มควงสาวอาทิตย์นึงไม่ซ้ำหน้า เรียกได้ว่าเปลี่ยนเป็นว่าเล่น ขนาดเรียนยังไม่จบนะนั่น”

“ฮ่าๆ ก็แค่ควงไง ยังไม่เจอใครถูกใจจริงๆเสียหน่อย ฉันเองก็ไม่อยากจะห้ามอะไรมันมาก ขอแค่มันไม่ไปทำให้ใครเค้าเดือดร้อนก็พอ...อะนั่น พูดไม่ทันขาดคำก็มาละ”

จักรกฤษณ์พูดพลางพยักพเยิดไปทางด้านหลังที่ลูกชายตัวแสบของตัวเองกำลังเดินมา ทำเอาทั้งติณภพและวิพารันต์อดไม่ได้ที่จะหันไปมองตาม

“สวัสดีครับอาติณ”

ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ยกมือขึ้นไหว้ติณภพด้วยท่าทางสุภาพ

“ตายยากจริงนะ อากับพ่อแกกำลังนินทาอยู่ก็โผล่มาได้จังหวะพอดี”

“อ้าวเหรอครับอา ฮ่าๆ แล้วไม่ทราบว่าพอจะบอกผมได้มั้ยว่านินทาผมเรื่องอะไร...กันอยู่”

เสียงของธานินทร์แผ่วลงเล็กน้อยในท้ายประโยคเมื่อสายตาเจ้ากรรมดันไปสะดุดอยู่ที่ร่างบอบบางของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆติณภพ...น่ารัก

“อะ...ฮึ่ม จ้องลูกอาตาไม่กระพริบเลยนะเจ้าเอ็ม เดี๋ยวก็คิดค่ามองเสียเลยดีไหม”
 
“หา เอ่อ...คือ...ลูกคุณอา...คนนี้...น้องรัน?”

ธานินทร์หันกลับมามองหน้าติณภพสลับกับวิพารันต์อย่างกำลังเรียบเรียงความคิด เพราะเมื่อช่วงก่อนตอนที่เรื่องของติณภพกับวิพารันต์กำลังเป็นข่าวดังเขาก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจอะไรมากนักเนื่องจากไม่คิดว่าจะมีอะไรน่าสนใจ จะมีก็เพียงแต่คำบอกเล่าของจักรกฤษณ์ซึ่งเป็นพ่อเท่านั้นที่พอจะทำให้เขารู้เรื่องราวความเป็นมาเป็นไปของเรื่องนี้คร่าวๆว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่พอวันนี้ ตอนนี้ได้มาเจอ ได้มาเห็นตัวเป็นๆเท่านั้นแหละไอความเสียดายที่ไม่ได้นึกสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่แรกก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที...แหม...ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าลูกชายของเพื่อนพ่อจะหน้าตาน่ารักได้มากขนาดนี้

“เอ้างง งงเลยสิเอ็ง ฮ่าๆ มาๆเดี๋ยวพ่อจะแนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ...รัน นี่พี่เอ็มนะ ก็อย่างที่บอกพี่เอ็มเป็นลูกชายของอาเอง ส่วนเอ็ม นี่น้องรัน ลูกชายของอาติณอย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปแล้วแกไม่ค่อยสนใจฟังอะ”
คนเป็นพ่อที่พอจะจับอาการของลูกตัวเองได้ว่ารู้สึกอย่างไร จึงไม่วายที่จะขอตอกย้ำซ้ำเติมความรู้สึกเสียดายเข้าไปอีกเสียหน่อย

“โถ่ พ่อก็ เรื่องมันแล้วไปแล้วก็อย่าเอามาตอกย้ำกันสิครับ...อ่า...สวัสดีครับน้องรัน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”

หันไปบ่นกระปอดกระแปดกับพ่อนิดหน่อยก่อนที่จะหันกลับมาฉีกยิ้มกว้างให้คนตัวเล็กแล้วยื่นมือข้างหนึ่งออกมาข้างหน้า ส่วนตัววิพารันต์เองพอเห็นอีกฝ่ายทำแบบนั้นก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะยื่นมือของตัวเองออกไปจับอีกฝ่ายบ้าง

“ยินดีที่รู้จักเหมือนกันนะพี่เอ็ม”

เสียงหวานตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มหวานทำเอาคนมองหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“ปล่อยมือน้องได้แล้วมั้งอาว่า จับนานไปแล้วนะ”

เมื่อเห็นว่าลูกชายของเพื่อนเริ่มมีพฤติกรรมที่ส่อแววว่าติดใจในความน่ารักของเจ้าตัวเล็กเหมือนคนอื่นๆที่ผ่านมา อาการหวงลูกที่พักนี้ไม่ค่อยได้แสดงออกมาก็กลับมากำเริบอีกครั้ง

“อะ ฮ่าๆ ขอโทษทีครับ”

ธานินทร์พูดกลั้วหัวเราะก่อนจะยอมปล่อยมือเล็กให้เป็นอิสระ

งานเลี้ยงที่ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ติณภพพาวิพารันต์เดินไปทักทายและนำตัวให้บรรดาเพื่อนฝูงที่สนิทกันหลายคนรู้จัก จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงห้าทุ่มจึงได้ลาเพื่อนและขอตัวกลับออกจากงานกันมาก่อนเพราะดูจากสภาพตาปรือๆกับการอ้าปากหาวซ้ำๆของเจ้าตัวเล็กแล้วคงจะอยากกลับบ้านไปนอนเต็มที

“ลูกชายพ่อนี่เสน่ห์แรงจังนะ ดูสิพาไปงานไหนก็มีแต่หนุ่มมาคอยเดินตามตลอด”

พอขึ้นรถมาได้คนเป็นพ่อเองก็อดที่จะหันไปแซวลูกชายของตัวเองไม่ได้ เพราะเท่าที่ลองสังเกตดูแล้วทุกครั้งที่เขาพาเจ้าตัวไปออกงานด้วยก็มักจะมีหนุ่มหน้าตาดีๆลูกหลานผู้บริหารมาคอยเดินตามชวนคุยหรือไม่ก็บริการนั่นนี่ให้ได้อยู่ตลอด รวมไปถึงงานนี้ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากธานินทร์ที่คอยเดินตามเทคแคร์หยิบน้ำหยิบขนมให้คนตัวเล็กอยู่เป็นระยะๆจนชนิดที่ว่าหากคนตัวเล็กต้องการอะไรแล้วบอกเจ้าตัวก็ยินดีที่จะบริการด้วยความเต็มใจอย่างที่สุด

“หื้อ คุณพ่ออะ เสน่ห์แรงอะไรกัน มั่วแล้ว”

ตอบคนเป็นพ่อกลับไปทั้งๆที่ดวงตากลมโตเริ่มจะปรือจนยากที่จะฝืนให้ลืมขึ้นมาได้อีก

“มั่วอะไรกัน พ่อว่าพ่อดูออกนะว่าพี่เอ็มเค้าสนใจลูกอะ เฮ้อ...มีลูกน่ารักแบบนี้พ่อก็หนักใจเหมือนกันนะเนี่ย เอ...แต่จะว่าไปแล้วนอกจากพ่อแล้วพ่อว่าก็ยังมีอีกคนที่น่าจะรู้สึกหนักใจยิ่งกว่าล่ะมั้งคราวนี้...อะอ้าว หลับไปซะแล้วตัวเล็ก”

ติณภพยิ้มบางๆให้กับภาพของลูกชายที่นั่งคอพับคออ่อนหลับสนิทไปเรียบร้อยแล้ว มือหนาที่เริ่มมีริ้วรอยไปตามกาลเวลาเอื้อมไปลูบศีรษะเล็กแผ่วเบาพลางนึกไปถึงอีกคนที่น่าจะต้องหนักใจอีกคนที่ป่านนี้คงนอนหลับสนิทไปแล้วไม่ต่างกับคนตัวเล็กตรงนี้...มีแฟนน่ารักก็ต้องทำใจหน่อยล่ะนะพ่อว่าที่ลูกเขย

.................................
...............................................

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-10-2012 10:29:17 โดย Rafael »

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7


รถยุโรปคันหรูขับเข้ามาจอดเทียบหน้าตัวบ้านหลังใหญ่ที่วันนี้เจ้าของของมันใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดของตัวเอง หนึ่งในบอดี้การ์ดของติณภพที่นั่งอยู่ด้านหน้าคู่กับคนขับรีบเปิดประตูลงจากรถมาเปิดประตูให้คนเป็นเจ้านายที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังกับคุณหนูของบ้าน

แขกในงานที่มีไม่มากนักเพราะดูเหมือนว่าเจ้าของงานจะชวนเฉพาะคนที่สนิทจริงๆเท่านั้นจึงทำให้บรรยากาศงานเลี้ยงในวันนี้ดูเป็นกันเองเสียมากกว่าเป็นทางการเหมือนงานอื่นๆ

“สุขสันต์วันเกิดไอ้จักร แก่ขึ้นอีกปีแล้วนะ ฮ่าๆ”

ทันทีที่เจอหน้าเพื่อนผู้เป็นเจ้าของงานติณภพก็รีบเดินตรงเข้าไปทักทายตามภาษาเพื่อนเก่าที่สนิทและคบกันมานานมากกว่ายี่สิบปี

“อ้าว มาแต่เมื่อไหร่ล่ะวะเนี่ย กำลังนึกถึงอยู่เลย คิดว่าท่านประธานจะยุ่งจนมาไม่ได้ซะแล้ว”

หลังจากทักทายกันเสร็จเรียบร้อยแล้วสองเพื่อนสนิทก็ยืนพูดคุยลำลึกความหลังครั้งเก่ากันอีกนิดหน่อยก่อนที่คนเป็นพ่อจะหันมาแนะนำลูกชายสุดของตัวเองให้เพื่อนรู้จักอย่างเป็นทางการ เนื่องจากก่อนหน้านี้เขายังไม่ได้มีโอกาสพามาให้ได้เห็นหน้าคร่าตากันจริงๆเสียที

“ตัวเล็ก นี่ลุงจักรนะ เป็นเพื่อนพ่อเอง”

“สวัสดีครับลุงจักร”

วิพารันต์กล่าวพร้อมประนมมือขึ้นขึ้นไหว้ เรียกรอยยิ้มและความเอ็นดูจากจักรกฤษณ์ได้เป็นอย่างดี

“สวัสดีลูก แต่วันหลังเรียกอาว่าอาก็พอนะลูก ลุงมันแก่ไป เพราะความจริงแล้วอายุอาก็ไม่ได้มากกว่าพ่อหนูซะเท่าไหร่หรอก  ฮ่าๆ”

คนรับไหว้ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี

“ครับคุณอา...”

“ฮ่าๆ ไอ้ติณ ลูกแกนี่มันน่ารักจริงๆอย่างที่เค้าว่ากันเลยว่ะ นี่ถ้ายังว่างนะฉันคงขอจองตัวมาให้เจ้าลูกชายฉันละ...ว่าไงลูก สนใจเปลี่ยนใจจากคุณนิธิศมาสมัครเป็นลูกสะใภ้อามั้ย ลูกชายอายังว่างอยู่นะ”

“เหรอ ลูกชายแกว่างอยู่จริงเหรอไอ้จักร อย่ามาโม้หน่อยเลย ฉันได้ข่าวว่าลูกชายแกควงหนุ่มควงสาวอาทิตย์นึงไม่ซ้ำหน้า เรียกได้ว่าเปลี่ยนเป็นว่าเล่น ขนาดเรียนยังไม่จบนะนั่น”

“ฮ่าๆ ก็แค่ควงไง ยังไม่เจอใครถูกใจจริงๆเสียหน่อย ฉันเองก็ไม่อยากจะห้ามอะไรมันมาก ขอแค่มันไม่ไปทำให้ใครเค้าเดือดร้อนก็พอ...อะนั่น พูดไม่ทันขาดคำก็มาละ”

จักรกฤษณ์พูดพลางพยักพเยิดไปทางด้านหลังที่ลูกชายตัวแสบของตัวเองกำลังเดินมา ทำเอาทั้งติณภพและวิพารันต์อดไม่ได้ที่จะหันไปมองตาม

“สวัสดีครับอาติณ”

ชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ยกมือขึ้นไหว้ติณภพด้วยท่าทางสุภาพ

“ตายยากจริงนะ อากับพ่อแกกำลังนินทาอยู่ก็โผล่มาได้จังหวะพอดี”

“อ้าวเหรอครับอา ฮ่าๆ แล้วไม่ทราบว่าพอจะบอกผมได้มั้ยว่านินทาผมเรื่องอะไร...กันอยู่”

เสียงของธานินทร์แผ่วลงเล็กน้อยในท้ายประโยคเมื่อสายตาเจ้ากรรมดันไปสะดุดอยู่ที่ร่างบอบบางของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆติณภพ...น่ารัก

“อะ...ฮึ่ม จ้องลูกอาตาไม่กระพริบเลยนะเจ้าเอ็ม เดี๋ยวก็คิดค่ามองเสียเลยดีไหม”
 
“หา เอ่อ...คือ...ลูกคุณอา...คนนี้...น้องรัน?”

ธานินทร์หันกลับมามองหน้าติณภพสลับกับวิพารันต์อย่างกำลังเรียบเรียงความคิด เพราะเมื่อช่วงก่อนตอนที่เรื่องของติณภพกับวิพารันต์กำลังเป็นข่าวดังเขาก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจอะไรมากนักเนื่องจากไม่คิดว่าจะมีอะไรน่าสนใจ จะมีก็เพียงแต่คำบอกเล่าของจักรกฤษณ์ซึ่งเป็นพ่อเท่านั้นที่พอจะทำให้เขารู้เรื่องราวความเป็นมาเป็นไปของเรื่องนี้คร่าวๆว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่พอวันนี้ ตอนนี้ได้มาเจอ ได้มาเห็นตัวเป็นๆเท่านั้นแหละไอความเสียดายที่ไม่ได้นึกสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่แรกก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที...แหม...ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าลูกชายของเพื่อนพ่อจะหน้าตาน่ารักได้มากขนาดนี้

“เอ้างง งงเลยสิเอ็ง ฮ่าๆ มาๆเดี๋ยวพ่อจะแนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ...รัน นี่พี่เอ็มนะ ก็อย่างที่บอกพี่เอ็มเป็นลูกชายของอาเอง ส่วนเอ็ม นี่น้องรัน ลูกชายของอาติณอย่างที่เคยเล่าให้ฟังไปแล้วแกไม่ค่อยสนใจฟังอะ”
คนเป็นพ่อที่พอจะจับอาการของลูกตัวเองได้ว่ารู้สึกอย่างไร จึงไม่วายที่จะขอตอกย้ำซ้ำเติมความรู้สึกเสียดายเข้าไปอีกเสียหน่อย

“โถ่ พ่อก็ เรื่องมันแล้วไปแล้วก็อย่าเอามาตอกย้ำกันสิครับ...อ่า...สวัสดีครับน้องรัน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”

หันไปบ่นกระปอดกระแปดกับพ่อนิดหน่อยก่อนที่จะหันกลับมาฉีกยิ้มกว้างให้คนตัวเล็กแล้วยื่นมือข้างหนึ่งออกมาข้างหน้า ส่วนตัววิพารันต์เองพอเห็นอีกฝ่ายทำแบบนั้นก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะยื่นมือของตัวเองออกไปจับอีกฝ่ายบ้าง

“ยินดีที่รู้จักเหมือนกันนะพี่เอ็ม”

เสียงหวานตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มหวานทำเอาคนมองหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“ปล่อยมือน้องได้แล้วมั้งอาว่า จับนานไปแล้วนะ”

เมื่อเห็นว่าลูกชายของเพื่อนเริ่มมีพฤติกรรมที่ส่อแววว่าติดใจในความน่ารักของเจ้าตัวเล็กเหมือนคนอื่นๆที่ผ่านมา อาการหวงลูกที่พักนี้ไม่ค่อยได้แสดงออกมาก็กลับมากำเริบอีกครั้ง

“อะ ฮ่าๆ ขอโทษทีครับ”

ธานินทร์พูดกลั้วหัวเราะก่อนจะยอมปล่อยมือเล็กให้เป็นอิสระ

งานเลี้ยงที่ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ติณภพพาวิพารันต์เดินไปทักทายและนำตัวให้บรรดาเพื่อนฝูงที่สนิทกันหลายคนรู้จัก จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงห้าทุ่มจึงได้ลาเพื่อนและขอตัวกลับออกจากงานกันมาก่อนเพราะดูจากสภาพตาปรือๆกับการอ้าปากหาวซ้ำๆของเจ้าตัวเล็กแล้วคงจะอยากกลับบ้านไปนอนเต็มที

“ลูกชายพ่อนี่เสน่ห์แรงจังนะ ดูสิพาไปงานไหนก็มีแต่หนุ่มมาคอยเดินตามตลอด”

พอขึ้นรถมาได้คนเป็นพ่อเองก็อดที่จะหันไปแซวลูกชายของตัวเองไม่ได้ เพราะเท่าที่ลองสังเกตดูแล้วทุกครั้งที่เขาพาเจ้าตัวไปออกงานด้วยก็มักจะมีหนุ่มหน้าตาดีๆลูกหลานผู้บริหารมาคอยเดินตามชวนคุยหรือไม่ก็บริการนั่นนี่ให้ได้อยู่ตลอด รวมไปถึงงานนี้ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากธานินทร์ที่คอยเดินตามเทคแคร์หยิบน้ำหยิบขนมให้คนตัวเล็กอยู่เป็นระยะๆจนชนิดที่ว่าหากคนตัวเล็กต้องการอะไรแล้วบอกเจ้าตัวก็ยินดีที่จะบริการด้วยความเต็มใจอย่างที่สุด

“หื้อ คุณพ่ออะ เสน่ห์แรงอะไรกัน มั่วแล้ว”

ตอบคนเป็นพ่อกลับไปทั้งๆที่ดวงตากลมโตเริ่มจะปรือจนยากที่จะฝืนให้ลืมขึ้นมาได้อีก

“มั่วอะไรกัน พ่อว่าพ่อดูออกนะว่าพี่เอ็มเค้าสนใจลูกอะ เฮ้อ...มีลูกน่ารักแบบนี้พ่อก็หนักใจเหมือนกันนะเนี่ย เอ...แต่จะว่าไปแล้วนอกจากพ่อแล้วพ่อว่าก็ยังมีอีกคนที่น่าจะรู้สึกหนักใจยิ่งกว่าล่ะมั้งคราวนี้...อะอ้าว หลับไปซะแล้วตัวเล็ก”

ติณภพยิ้มบางๆให้กับภาพของลูกชายที่นั่งคอพับคออ่อนหลับสนิทไปเรียบร้อยแล้ว มือหนาที่เริ่มมีริ้วรอยไปตามกาลเวลาเอื้อมไปลูบศีรษะเล็กแผ่วเบาพลางนึกไปถึงอีกคนที่น่าจะต้องหนักใจอีกคนที่ป่านนี้คงนอนหลับสนิทไปแล้วไม่ต่างกับคนตัวเล็กตรงนี้...มีแฟนน่ารักก็ต้องทำใจหน่อยล่ะนะพ่อว่าที่ลูกเขย

.................................
...............................................

เสียงรถยนต์ที่คุ้นเคยพร้อมกับภาพร่างสูงของนิธิศที่ก้าวลงมาจากรถในทุกเช้าของวันอาทิตย์เพื่อที่จะมารับคุณหนูของบ้านกลับไปดูเหมือนจะกลายเป็นภาพที่คุ้นชินของเหล่าบรรดาสมาชิกในบ้านเทพเทวากุลไปแล้วเมื่อเจ้าตัวปฏิบัติได้สม่ำเสมอและค่อนข้างจะตรงเวลาไปเสียทุกครั้ง

“มาแต่เช้าเหมือนเดิมเลยนะคะคุณไนท์ คุณหนูยังไม่ลงมาเลยค่ะ จะให้ป้าขึ้นไปช่วยดูให้มั้ยคะ”

“อ้อ ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมนั่งรอได้”

นิธิศตอบพร้อมกับส่งยิ้มกลับไปให้ป้าแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของที่นี่ที่เดินเข้ามาทักทายเขาในขณะที่กำลังคุมสาวใช้อีกหลายคนทำความสะอาดมุมต่างๆของบ้านอยู่

“ค่ะๆ งั้นเชิญคุณไนท์เข้าไปนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวป้าจะให้เด็กยกน้ำเข้าไปให้ดื่ม”

“ขอบคุณครับ”

ก้มหัวให้อีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปนั่งรอวิพารันต์ในห้อง สักพักสาวใช้คนหนึ่งก็เดินยกถาดน้ำมาเสิร์ฟให้พร้อมกับติณภพที่เดินเข้ามาพอดี จึงได้โอกาสทักทายและนั่งพูดคุยเรื่องทั่วไปกันได้สักพักจนกระทั่งคนที่เขารออยู่เดินลงมาจากห้อง ถึงได้พากกันยกโขยงไปกินอาหารเช้ากันเสียก่อนมื้อนึงอย่างทุกทีจึงเป็นอันได้ฤกษ์ที่ติณภพจะอนุญาตให้นิธิศจะพาลูกชายสุดที่รักของเขากลับบ้านได้

“เป็นอะไรครับรัน นั่งหาวไม่หยุดเลย เมื่อคืนนอกดึกเหรอหืม”

ร่างสูงที่กำลังตรวจความเรียบร้อยของเอกสารงานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะนำเข้าที่ประชุมในวันพรุ่งนี้อยู่บนโซฟาหันมาเอ่ยปากถามวิพารันต์ที่นั่งหาวหวอดๆทำตาแดงๆกอดผ้าห่มอยู่ข้างๆ ดูก็รู้ว่าง่วงแต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมเข้าไปนอนในห้องดีๆ

“อื้อ เมื่อรันวานไปงานเลี้ยงวันเกิดกับคุณพ่อมาเลยกลับดึก ตอนนี้ง่วงมากเลย”

“ง่วงก็เข้าไปนอนในห้องดีๆสิ มานั่งเฝ้าพี่อยู่แบบนี้ทำไมล่ะครับหืม”

“ก็รันไม่อยากเข้าไปนอนคนเดียวนี่”

พูดพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากหาว แถมขยี้ตาให้ดูอีกรอบทำเอานิธิศอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่มของอีกฝ่ายเบาๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคราวนี้จุดประสงค์ของเจ้าตัวเล็กในครั้งนี้คืออะไร ขยับตัวจัดที่จัดทางตัวเองใหม่ให้เรียบร้อย ดึงหมอนอิงใบเล็กให้เข้ามาใกล้แล้วตบเบาๆที่หน้าตักของเองสองสามทีให้เป็นอันรู้กันสองคน

ล้มตัวลงนอนโดยใช้ตักของนิธิศทำหน้าที่เป็นหมอนชั่วคราว ตะแคงตัวขดตัวเข้ากับผ้าห่มที่เตรียมมาพร้อมกับคว้าหมอนอิงที่อีกฝ่ายเอามาวางไว้ใกล้ๆเข้าไปกอด

“สบายเลยสิ ได้ที่นอนแล้วก็รีบนอนซะเด็กน้อย เดี๋ยวตอนบ่ายๆพี่จะปลุกออกไปหาอะไรกินกันนะ เข้าใจมั้ยครับ”
ว่าพลางก็ก้มหน้าลงไปฝังจมูกลงกับแก้มเนียนใสสูดกลิ่นหอมอ่อนๆของผิวเนื้อนิ่มก่อนจะผละออกมาแล้วกดซ้ำลงไปอีกครั้งด้วยความหมันเขี้ยวในความขี้อ้อนของเจ้าตัวเล็กที่บทจะอ้อนก็ทำเอาซะผู้ใหญ่อย่างเขาไปไหนแทบไม่เป็น

“อื้อ ”

ตอบกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มก่อนที่จะค่อยๆหลับตาลงโดยที่มีมือของอีกฝ่ายคอยลูบศีรษะเบาๆเป็นการกล่อม...ที่ทำตัวแบบนี้ ที่อ้อนแบบนี้ก็ไม่ได้อยากจะขออะไร แต่แค่คิดว่าช่วงนี้ตัวเองและนิธิศมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยกว่าปกติถึงได้อยากทำ อยากอยู่ใกล้ๆ อยากใช้เวลาทุกนาทีด้วยกันให้คุ้มค่าที่สุดถึงแม้จะเป็นเรื่องแค่นี้ เรื่องที่ดูเล็กน้อยในสายตาของคนอื่น

ลมหายใจที่ผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกให้รู้ว่าเด็กขี้อ้อนของเขาเข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อยแล้วนิธิศจึงค่อยๆละมือออกจากศีรษะก่อนที่จะหันกลับไปตั้งหน้าตั้งตารีบจัดการกับกองเอกสารตรงหน้าต่อ ซึ่งกว่าจะเสร็จก็กินเวลาไปกว่าสองชั่วโมง บวกกับการที่ต้องนั่งท่าเดียวกันนานๆเพื่อให้เจ้าตัวเล็กได้นอนสบายๆนั่นก็ทำเอาเขารู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวอยู่ไม่น้อย
 
“พี่ไนท์เมื่อยมากมั้ย”

คนที่ตื่นมาได้สักพักแล้วแต่ก็ยังเนียนไม่ยอมลุกหันหน้ามาเอ่ยถามคนรักตาแป๋ว

“มากที่สุด โดนเด็กที่ไหนก็ไม่รู้นอนทับ แถมตื่นแล้วก็ยังไม่ยอมลุกอีก สงสัยจะเดินไม่ไหวแล้วเนี่ย”

นิธิศแกล้งว่า...แต่เป็นการว่าที่ยิ้มทั้งปากยิ้มทั้งตาทำเอาคนถูกว่าหัวเราะคิกคัก

“เดินไม่ไหวก็ไม่ต้องเดินสิ”

“อ้าว ไม่ให้เดินอย่างนี้พี่ก็พาใครบางคนแถวนี้ออกไปหาอะไรอร่อยๆไม่ได้ล่ะสิ เนี่ยทำงานเสร็จพอดีเลย”

“อะ ก็ได้ๆ งั้นเดี๋ยวรันช่วยพี่ไนท์ก็ได้ ปะ อ๊ะ”

ได้ยินแบบนั้นคนตัวเล็กก็รีบขยับตัวลุกขึ้นยืนทันที สองมือเล็กยื่นออกมาข้างหน้าหมายจะให้อีกฝ่ายจับแล้วตัวเองจะช่วยพยุงเดิน แต่เจ้าตัวก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อมือที่ยื่นออกไปถูกอีกฝ่ายดึงเข้าหาตัวจนร่างบอบบางเซเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด

“อื้อ พี่ไนท์ แกล้งรันเหรอ”

วิพารันต์ร้องประท้วงเสียงอู้อี้ พยายามดันตัวเองออกมาจากอ้อมแขนแกร่งที่รัดช่วงเอวของตัวเองอยู่แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เป็นผล

“ฮ่าๆ ไม่ได้แกล้งสักหน่อย แค่อยากกอดอะ ได้ไหม ให้พี่กอดได้ไหมครับหืมเด็กน้อย”

ตอบกลับไปชิดใบหูพร้อมกับเป่าเบาๆ ทำเอาร่างบางต้องย่นคอหนี...ปากก็บอกว่าไม่ได้แกล้ง แต่ที่กำลังทำอยู่นี่ก็มันก็เรียกว่าจงใจแกล้งเลยล่ะ

“หื้ออ พี่ไนท์อะ ไม่เอาแล้ว อยากกอดก็กอดเฉยๆสิ”

วิพารันต์ที่พยายามดันตัวเองออกมาพอให้มองหน้าคนขี้แกล้งได้ก็ทำแก้มป่องใส่ ในขณะที่มือทั้งสองข้างก็ยังดันอยู่ที่อกของอีกฝ่าย

“อืม...ก็แล้วถ้าตอนนี้พี่อยากทำมากกว่ากอดล่ะ รันจะให้พี่ทำไหม”

นิธิศเอ่ยถามยิ้มๆ ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปยังนัยน์ตากลมโต ทำเอาคนถูกมองต้องหลุบตาลงต่ำหน้าขึ้นสีอย่างช่วยไม่ได้

“ว่าไงครับคนเก่ง”

ถามย้ำไปอีกครั้งอย่างนึกอยากแกล้งคนน่ารักที่กำลังทำตัวน่ารักให้ได้เขินเล่นเพราะเขารู้ดีว่าเจ้าตัวต้องเข้าใจว่า คำว่า ‘ทำ’ ที่เขาหมายถึงในที่นี้นั้นหมายความว่าอะไร

“อะ...อะไรเล่าพี่ไนท์ ไหงบอกว่าจะพาไปกินข้าวไม่ใช่เหรอ ไม่หิวหรือไง รันหิวแล้วนะ”

พยายามตอบแบบเลี่ยงประเด็นเต็มที่ ก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิมจนแทบจะชิดอกของอีกฝ่ายพลางมือที่ยันอยู่ก็เปลี่ยนมาเป็นจับกระดุมเสื้อของนิธิศเล่นเหมือนเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากในเวลานี้ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนขี้แกล้งได้เป็นอย่างดี

“หืม หิวเหรอครับ หิวแล้วทำไมทำท่าจะปลดกระดุมเสื้อพี่อย่างนั้นล่ะเด็กน้อย”

ได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้นก็เหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัว รีบผละมือของตัวเองออกมาจากกระดุมเสื้อเชิ๊ตของคนตัวโตกว่าทันที...ชอบแกล้ง นิธิศชอบแกล้งให้อาย แล้วพอเขาอายก็จะเป็นแบบนี้ ทำอะไรไม่ถูก มือไม้มันเกะกะไปหมดจนไม่รู้จะเอาไปไว้ตรงไหน

“พี่ไนท์อะชอบแกล้งอย่างนี้อยู่เรื่อย รันโป้งพี่ไนท์แล้ว”

ตัดสินใจเงยหน้าแดงๆของตัวเองขึ้นมาพูดกับคนรักเนื่องจากไม่รู้ว่าจะต้องยังไงให้อีกฝ่ายเลิกแกล้งตัวเองเสียที ส่วนตัวนิธิศเองพอเห็นเห็นเจ้าตัวเล็กของเขาเริ่มมีอาการงอนขึ้นมาอย่างนั้นก็เลยต้องรีบง้อโดยการพาออกมาเดินเที่ยวในห้างหาอะไรอร่อยๆกินโดยด่วน แต่ถึงกระนั้นก็ดูเหมือนว่าคราวนี้เจ้าตัวจะใจแข็งกว่าปกติเลยทำให้การง้อในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะใช้ระยะเวลานานกว่าทุกครั้งจนกระทั่งกินข้าวกันจนเสร็จแล้วก็ยังไม่ยอมหาย ‘โป้ง’ เขาเสียที

“อะฮึ่มๆ พี่รันงับ หายงอนพี่ไนท์ได้แล้วนะงับ ไม่สงสารพี่ไนท์บ้างเหรองับ งอนนานพี่ไนท์จะร้องไห้แล้วน้า”

คว้าเอาตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลขนนุ่มตัวหนึ่งจากชั้นมาบังหน้าตัวเองไว้แล้วเดินไปหาวิพารันต์ที่ยืนดูของถัดจากตรงนั้นไม่ไกลนักก่อนจะเอ่ยปากพูดโดยดัดเสียงให้สูงขึ้น

“ฮื่อ พี่ไนท์ อายเค้า เอาไปเก็บเลยนะ”

บอกออกไปแบบนั้นพลางริมฝีปากบางก็พยายามกลั้นยิ้มกับวิธีการง้อแบบนี้ของคนรักเต็มที่ เพราะยังอยากจะลองแกล้งงอนอีกฝ่ายคืนดูบ้าง

“งั้นพี่รันก็หายงอนพี่ไนท์ก่อนสิงับ นะ นะ ดีกันนะ”

พูดพลางยื่นมือของตัวเองออกมาก่อนจะส่งนิ้วก้อยให้อย่างที่เจ้าตัวเล็กชอบทำบ่อยๆเวลาที่โดนเขาดุ จนคนที่โดนลอกเลียนการกระทำอดไม่ได้ที่จะเผลอใจอ่อนจนยื่นนิ้วก้อยเล็กๆของตัวเองออกไปเกี่ยวกับนิ้วของอีกฝ่ายง่ายๆ เป็นอันว่าต้องล้มเลิกแผนการแกล้งงอนเอาไว้แต่เพียงเท่านี้

“อ้าวน้องรัน บังเอิญจังเลยนะครับมาเดินซื้อของเหมือนกันเหรอ”

ธานินทร์ที่เผอิญเดินผ่านมาแล้วสังเกตเห็นวิพารันต์ยืนอยู่แถวนี้พอดีจึงไม่ลังเลที่จะเดินเข้ามาแวะทักทายทันที แม้ว่าเมื่อเช้านี้หลังจากที่ไปลองเรียบๆเคียงๆถามคนเป็นพ่อมาแล้วว่าเค้าพอจะมีสิทธิจีบเจ้าตัวได้ไหม และคำตอบที่ได้ก็ทำเอาต้องรับประทานแห้วกันไปตามระเบียบเพราะคนน่ารักที่เขากำลังนึกสนใจอยู่มีเจ้าของแล้ว และจากที่เห็นตอนนี้ก็น่าจะเป็นผู้ชายคนที่ยืนถือตุ๊กตาหมีอยู่ข้างๆนั่นแหละ

“อ๊ะพี่เอ็ม สวัสดีครับ”

วิพารันต์ที่หันมามาตามเสียงเรียกยกมือขึ้นไหว้คนมาใหม่ก่อนที่จะแนะนำคนรักของตัวเองให้ธานินทร์ได้รู้จักกันไว้ ซึ่งจากการที่ได้พูดคุยกันแม้เพียงไม่นานแต่สิ่งที่ธานินทร์ได้เห็นได้สัมผัสมันก็ไม่ผิดจากที่จากที่พ่อของเขาบอกเอาไว้เสียเท่าไหร่ ถึงจะรู้สึกเสียดายแต่ก็ต้องยอมรับว่าในสายตาของเขาทั้งสองคนดูเหมาะสมกันมากจริงๆจนเขาอดที่จะอิจฉาขึ้นมาไม่ได้เชียวล่ะ

“เดี๋ยวนี้ตั้งแต่คุณพ่อพาออกงานเนี่ยรู้สึกจะรู้จักหนุ่มๆเยอะเหลือเกินนะหืม”

นิธิศเอ่ยขึ้นพร้อมกับลูบผมที่นอนเล่นดูโทรทัศน์อยู่ข้างๆหลังจากที่ขอตัวแยกกับธานินทร์จากที่ห้างกลับมาพักผ่อนกันต่อที่คอนโดแล้ว

“อื้อ คิก”

ตอบพลางตาที่จ้องอยู่ที่สารคดีสัตว์โลกบนจอก็สลับหันมาเหลือบมองใบหน้าคมของนิธิศที่คิ้วเข้มเริ่มจะขมวดเข้าหากันดูตลกไปอีกแบบ

“แน่ะ ยังจะมาขำอีก รู้หรือเปล่าว่าพี่เริ่มจะหึงแล้วนะ”

คราวนี้ไม่ได้แกล้งหรือพูดเล่น แต่ที่พูดก็เพราะตอนนี้รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เพราะพักนี้มักจะมีลูกชายผู้บริหารหรือไม่ก็ลูกชายเพื่อนของติณภพเข้ามาทักทายทำเหมือนสนิทสนมกับเจ้าตัวเล็กของเขาบ่อยๆ ซึ่งแรกๆเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ช่วงหลังๆที่ยิ่งติณภพพาเจ้าตัวออกงานมากเท่าไหร่ก็ดูจะเยอะขึ้นมากจนเขาอดจะคิดมากไม่ได้

“หึงทำไม ทำไมต้องหึง”

ละสายตาออกจากหน้าจอโทรทัศน์แล้วลุกขึ้นมานั่งก่อนจะปีนขึ้นไปนั่งบนตักนิธิศเพื่อจะได้เห็นหน้ากันชัดๆก่อนจะเอ่ยปากถามเสียงทะเล้น

“ถามแบบนี้ ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งไม่รู้กันล่ะหืมเด็กน้อย”

“ตอบมาเถอะน่าพี่ไนท์นะ รันอยากฟัง นะ”

เจ้าตัวเล็กเริ่มออกอาการอ้อนอีกครั้ง...ไม่ใช่ไม่รู้ แต่เพราะรู้ดีนั่นแหละถึงได้อยากฟัง

“จริงๆเลยนะเรา ก็เพราะ รัก ไงครับถึงได้เป็นแบบนี้ รักมากถึงได้หึงมาก รักมากถึงได้หวงมาก แล้วก็รักมากถึงได้ห่วงมาก...ตอบไปหมดขนาดนี้แล้วที่นี้พอใจหรือยังหือเด็กขี้สงสัย”

ตอบพร้อมกับไล้มือไปตามโครงหน้าหวานก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปจุมพิตเบาๆที่หน้าผากมน

“อื้อ คิกๆ รันก็รักพี่ไนท์เหมือนกัน แล้วก็รักคนเดียวด้วย เพราะฉะนั้นไม่ต้องหวงรันมากก็ได้น้า รันไม่ไปรักคนอื่นหรอก สัญญาเลย”

ขยับตัวเข้าไปจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากของคนรักก่อนจะผละออกมาเป็นการยืนยันคำพูดของตัวเอง ซึ่งนั่นก็ทำให้หน้ายุ่งๆของนิธิศในตอนแรกเปลี่ยนมาเป็นอมยิ้มได้ไม่ยาก

“ทำตัวยั่วกันแบบนี้ ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะครับว่าตอนนี้พี่ได้ได้แกล้งเล่นไม่เหมือนตอนกลางวันนะ เพราะฉะนั้นต่อให้รันงอนพี่...คืนนี้...พี่ก็จะไม่ปล่อยนะครับเด็กน้อย...”

กระซิบบอกข้างใบหูเล็กเป็นเหมือนเป็นการบอกให้เตรียมตัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะเปลี่ยนตำแหน่งมาครอบครองริมฝีปากนุ่มนิ่มของคนตัวเล็ก...อ่อนหวานแต่ก็แฝงไปด้วยความร้อนแรงในคราเดียวกัน...

“อือ...พี่ไนท์...ตรงนี้...ไม่เอา”

เสียงหวานเอ่ยปากประท้วงออกมาเมื่อมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายเริ่มทำการปลดกระดุมชุดนอนตัวเก่งของเขาทั้งๆที่ยังนั่งกันอยู่ท่าเดิมบนโซฟาในห้องรับแขก

“ไม่งอแงนะ ตรงนี้แหละครับเด็กดี พี่ไม่ไหวแล้วนะครับ”

ตอบกลับไปในขณะที่ริมฝีปากก็ซุกไซ้ไปตามลำคอขาว ขบเม้มสร้างรอยประทับความเป็นเจ้าของไปทุกที่ที่ลากผ่านจนคนตัวเล็กต้องร้องครางออกมากลั้นไว้ไม่อยู่ ก็ไม่ใช่ว่าเก็บกดมาจากไหน แต่เรื่องด้วยช่วงนี้ที่งานในบริษัทค่อนข้างยุ่งทำให้เขาได้แต่แระๆเล็มๆ ไม่มีโอกาสได้กอดเจ้าตัวเล็กแบบจริงๆจังๆแบบนี้มาสองอาทิตย์เต็มแล้ว

“อ้อนพี่หน่อยได้ไหมรัน ตอนนี้...พี่อยากให้รันอ้อนพี่”

นิธิศกระซิบบอกเสียงพร่าหลังจากที่ทั้งกำจัดสิ่งกีดขวางอย่างเสื้อผ้าออกจากร่างกายของคนรักและของตัวเองออกไปจนหมดเรียบร้อยแล้ว

“ฮื่อออ อ๊ะ อ๊า พี่ไนท์ จะให้...รันอ้อน...ยังไง”

ถามกลับไม่เป็นประโยคพลางแอ่นตัวรับสัมผัสจากทั้งมือและปากของร่างสูงที่กำลังสนุกอยู่กับการหยอกล้อยอดอกสีชมพูสวยจนคนถูกรังแกต้องจิกนิ้วเล็กๆของตัวเองลงไปบนกลุ่มผมของอีกฝ่ายเป็นการระบายความเสียวซ่าน

“วันนี้...พี่อยากให้รันอยู่บนตัวพี่...นะ...นะครับ”

ได้ยินแบบนั้นใบหน้าหวานที่ขึ้นสีเรื่ออยู่แล้วด้วยแรงอารมณ์ที่ค่อยๆสูงขึ้นก็ดูเหมือนจะแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้...อาย...ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่นิธิศยังขอให้เขาเป็นฝ่าย ทำ เอง

“ฮื่อ อ๊ะ พี่ไนท์...อือ...ระ...รัน...ทำ...ไม่เป็น...อึก...อื้อ”

เมื่อนิ้วทั้งสามที่ใช้ทำการเตรียมพร้อมการรองรับร่างกายของเขาถูกออกไปแล้ว ร่างสูงก็ทำการยกสะโพกกลมของคนรักให้ลอยสูงขึ้นก่อนจะค่อยๆกดลงมาให้ดูดกลืนส่วนแข็งขืนของเขาทีละน้อย

“อะ...อือ...งั้นทำตามพี่บอก...หายใจเข้าลึกๆ...อย่าเกร็งนะคนเก่ง...ค่อยๆกดสะโพกลงไปนะครับ”
ร่างบางพยักหน้ารับพยายามทำตามสิ่งที่อีกฝ่ายบอกทั้งๆที่หยาดน้ำตาเอ่อขึ้นมาคลอเบ้า และในขณะเดียวกันนิธิศเองก็ช่วยบรรเทาความทรมานของอีกฝ่ายด้วยการขยับส่วนอ่อนไหวของเจ้าตัวไปด้วยจนทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง

“ทีนี้ก็...เอาเข่ายันโซฟาไว้...อะ...แล้วก็...ค่อยๆขยับนะ...อืออ่า...นั่น...อย่างนั้นแหละเก่งมาก...”
คนตัวโตกว่าเอ่ยปากสอนพลางใช้มือช่วยประคองจับสะโพกขาวเนียนให้ขยับขึ้นลงช้าๆจนเห็นว่าเริ่มคุ้นชินจึงปล่อยให้เจ้าตัวโยกคุมจังหวะด้วยตัวเอง โดยที่เขาคอยทำแค่ประคองและสวนเข้าให้สอดรับกับจังหวะของคนรัก

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า พี่ไนท์ พี่ไนท์...รัน...ไม่ไหวแล้ว...”
วิพารันต์ครางปนหอบเมื่อรู้สึกว่าการเดินทางของอารมณ์ใกล้จะถึงจุดสูงสุดเต็มที

“อื้อ...อีกนิด...อีกนิดนะครับคนดี”
นิธิศบอกพร้อมกับจัดการจับร่างบอบบางให้พลิกกลับลงไปอยู่ด้านล่างก่อนจะเป็นฝ่ายขยับดำเนินบทรักต่อจากนั้นด้วยตัวเอง

“ฮื่อ...พี่ไนท์ อึก อ๊ะ อ๊า รันรัก...พี่ไนท์...รัก...คนเดียวนะ”

คนตัวเล็กครางออกมาฟังแทบจับใจความไม่ได้ก่อนทีจะปลดปล่อยออกมาพร้อมกับที่รู้สึกได้ถึงของเหลวอุ่นร้อนที่ถูกฉีดเข้ามาในร่างกายเมื่อร่างสูงก็เป็นฝ่ายปลดปล่อยตามมาอย่างติดๆกัน

“อ่า...พี่...ก็เหมือนกันครับรัน”

นิธิศบอกก่อนจะทิ้งตัวลงนอนแล้วคว้าคนรักเข้ามากอดไว้แนบอก...ถึงแม้ว่าโซฟานี่มันจะแคบไปเสียหน่อยสำหรับการนอนของคนสองคน แต่มันจะเป็นอะไรไปล่ะ ถ้าคืนนี้เขาจะอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากเตียงกว้างๆในห้องมาเป็นนอนกอดเจ้าตัวเล็กแบบเนื้อแนบเนื้อที่โซฟาแบบนี้ดูบ้าง

“เหนื่อยมากมั้ยหือ...”

กระซิบถามคนในอ้อมกอดที่ทำตาปรือเนื่องจากรู้สึกเพลียเต็มทีจากกิจกรรมเมื่อครู่พลางเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มที่เจ้าตัวเอามาทิ้งเอาไว้บนโซฟาเมื่อตอนกลางวันขึ้นมาคลุมตัว

“งือ มาก”

“ฮ่าๆ แล้วคราวนี้จะงอนพี่อีกหรือเปล่าหือ”

นิธิศยังไม่วายแกล้งถาม

“หื้อ งอน แต่ตอนนี้รันง่วงมากเลย ถ้าจะง้อพรุ่งนี้พี่ไนท์ค่อยง้อนะ”

พูดจบเจ้าตัวเล็กก็ขดตัวซุกกับอกของเขาแล้วหลับไปเสียอย่างนั้นจนนิธิศเองอดที่จะนอนยิ้มปลงกับตัวเองไม่ได้...ก็ชอบทำตัวน่ารักอย่างนี้อยู่เรื่อย แล้วเวลามีหนุ่มๆเข้ามายุ่งแบบนี้จะมาบอกให้เขาไม่ต้องหึงไม่หวงเจ้าตัวได้ยังไงไหวล่ะเนี่ย...จริงไหม?




Fin.



สวัสดีค่าา ไม่เจอกันนาน วันนี้แวะเอาตอนพิเศษตอนแรกที่เพิ่งเขียนเสร็จ(และจะลงเล่มด้วย)มาลงให้อ่านกันนะคะ
(กว่าจะเขียนเสร็จใช้เวลาไปหลายเดือนเลยล่ะ เพราะติดนั่นติดนี่และเขียนไม่ออกด้วย ฮาา)
ดีไม่ดียังไงติชมกันได้ตามสบาย เพราะช่วงนี้รู้สึกตัวเองเขียนไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
(แต่ยังต้องเขียนอีกหลายตอน อยากได้อะไรก็แนะนำๆกันเข้ามานะคะ อยากได้ไอเดียร์)
ส่วนข่าวคราวอะไร ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบผ่านแฟนเพจก่อนเหมือนเคยนะคะ

ออฟไลน์ Goingunder

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
รันน่าร๊ากกกก
มีให้ง้อพรุ่งนี้ด้วย อยากดูเขาง้อกันอ่ะ :o8: :o8:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
น้องรันกลับมาเยี่ยมคนอ่านแล้ว
 :กอด1:
หลังจากออกเรือนไปตั้งหลายเดือน
คนอ่านก็คิดถึงมากๆเลย
กลับมาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
 :jul1:
พี่ไนท์ของเราก็ทำแต้มโชว์คนอ่านซะเลย
เรียกเลือด เรียกน้ำตาลกัยก่อนนอน
คืนนี้สงสัยจะหลับฝันดีแน่ๆเลย
 :z1:

ออฟไลน์ Zitraphat

  • ความแน่นอนตั้งอยู่บนฐานแห่งความไม่แน่นอน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1025/-43
    • https://www.facebook.com/zitraphat.chonlavade
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ  o13

MooN_LinghT

  • บุคคลทั่วไป
 :jul1: อ๊ายยยย ไม่แปลกใจที่หวงขนาดนี้ น่ารักมากก >/////<  :-[ :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด