พิเศษสั้นๆ แก้คิดถึง
“ฮัดชิ้ว! ฮัดชิ้ว! ซืดดด”
เสียงจามพร้อมกับเสียงสูดน้ำมูกของใครอีกคนที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ ทำให้นิธิศที่ผละออกมานั่งทำงานอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องต้องเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายก่อนจะหันไปมองนาฬิกาบนผนังที่บอกเวลาสามทุ่มสิบห้า
“ปิดโทรทัศน์แล้วไปนอนพักได้แล้วมั้งครับคนป่วย ไหงรันบอกพี่ว่าขอดูแค่ชั่วโมงเดียวไงหือ”
“ขออีกนิดนึงนะพี่ไนท์ ซืด เนี่ยดูสิน้องหมีกำลังน่ารักเลยน้า”
พูดตอบกลับไปด้วยเสียงอู้อี้เพราะเป็นหวัด ในขณะที่สายตาก็ยังจับจ้องอยู่ที่หน้าจอสี่เหลียมเบื้องหน้าที่ฉายภาพของลูกหมีขั้วโลกสีขาวขนปุกปุย
“ครับๆพี่รู้ว่าน้องหมีอะน่ารัก แต่ตอนนี้น้องรันของพี่เริ่มจะไม่น่ารักแทนแล้ว ไม่สบายแล้วยังจะดื้อไม่ยอมไปนอนพักอีก”
นิธิศว่าพร้อมกับทยอยเก็บงานบนโต๊ะของตัวเองเพื่อไปจัดการกับเจ้าตัวเล็ก ที่วันนี้เขาเพิ่งจะพาไปหาหมอมาเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆในช่วงนี้ทำให้อีกฝ่ายเป็นหวัดเอาเสียง่ายๆ
“พี่ไนท์อะ นะ นะ แค่กๆ”
“ไม่ต้องอ้อนเลยครับ พี่ไม่ใจอ่อนหรอกนะคราวนี้”
ร่างสูงเดินมาหาวิพารันต์แล้วยื่นแก้วน้ำพร้อมกับยาแก้ไอและลดน้ำมูกมาส่งให้เจ้าตัวรับไว้ ก่อนจะเดินไปปิดกดปิดโทรทัศน์
“งื้อ”
วิพารันต์ส่งเสียงในลำคอประท้วงในการกระทำของนิธิศที่ในขณะที่ปากก็ยังดื่มน้ำจากแก้วอยู่
“ไม่งอแงนะรัน ช่องนี้เดี๋ยวมันก็มาฉายซ้ำให้ดูอีก ไว้ดูวันอื่นก็ได้ แต่ตอนนี้ได้เวลาที่คนป่วยต้องนอนแล้วครับ”
“นิดเดียวก็ไม่ได้เหรอ” คนตัวเล็กกระพริบตาปริบๆ
“นิดเดียวก็ไม่ได้ครับ ปะ ไปนอนกันได้แล้ว”
จัดการเดินไปปิดไฟในส่วนห้องนั่งเล่นให้หมด ก่อนจะกลับไปจูงมือของอีกฝ่ายที่ยังนั่งอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์ให้เข้าไปในห้องนอนพร้อมกันเป็นการกึ่งบังคับไปในตัว
“แล้วต้องพันคอแบบนี้ด้วยเหรอพี่ไนท์ ซืด”
วิพารันต์ก้มหน้าลงมองมือของนิธิศที่ตอนนี้กำลังจัดแจงพันผ้าพันคอให้เขาอยู่ด้วยความสงสัย
“ตอนกลางคืนอากาศมันเย็นครับ ต้องพันเอาไว้หน่อยจะได้อุ่นๆนะ ยิ่งเป็นหวัดอยู่ด้วยจะได้หายใจคล่องๆ”
กระชับผ้าที่พันรอบลำคอให้พอดี ดูจนไม่แน่นและไม่หลวมจนเกินไปจึงผละออกมาให้คนตัวเล็กขยับได้ขึ้นไปนอนประจำที่อยู่บนเตียง นิธิศจึงดับไฟแล้วล้มตัวลงนอนบ้าง
ความจริงวันนี้เขาเองก็ไม่ได้คิดจะนอนตั้งแต่หัวค่ำขนาดนี้หรอก แต่หากถ้าเขาไม่ยอมลงทุนมานอนเป็นเพื่อนเจ้าตัวเล็กแบบนี้อีกฝ่ายก็คงจะดื้อไม่ยอมเข้ามานอนง่ายๆเหมือนกัน
“ซืด แค่กๆ พี่ไนท์...รันนอนไม่หลับอะ”
ร่างบางที่ยังลืมตาโพลงอยู่ในความมืดหันมาสะกิดเรียกคนรักของตัวเองเบาๆ
“หือ หลับตาซะเดี๋ยวก็หลับเองนะเด็กดี”
ตอบพลางขยับตัวเข้าไปใกล้อีกฝ่ายให้มากขึ้น รั้งผ้าห่มที่ตอนนี้อยู่แค่ส่วนหน้าอกให้ขึ้นมาถึงคอแล้วเอื้อมมือไปรั้งร่างของเจ้าตัวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้
“พี่ไนท์...”
“...ว่าไงครับเด็กน้อย”
“รันหายใจไม่ออกอะ...แน่นจมูก”
“รออีกสักพักนะครับ เดี๋ยวยาออกฤทธิ์แล้วก็จะดีขึ้นเอง”
มือใหญ่พูดพลางลูบแผ่นหลังบางไปมาเบาๆเป็นการกล่อมไปในตัว
“พี่ไนท์...รันเริ่มง่วงแล้วอะ”
“ง่วงก็นอนสิครับเด็กดี” นิธิศว่า
“พี่ไนท์...”
เสียงของคนตัวเล็กดังขึ้นอีกครั้งในความมืดหลังจากเงียบไปนาน “ว่าไงครับ จะงอแงอะไรอีกล่ะครับหืม...”
“...ราตรีสวัสดิ์นะ” ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นบอกแล้วจูบเบาๆที่ปลายคางของคนตัวโตกว่าก่อนจะก้มลงไปซุกกับอกอุ่นๆแล้วหลับตาลงเมื่ออาการคัดจมูกของตัวเองเริ่มดีขึ้นตามลำดับ
ทำเอานิธิศเองที่ได้ยินและเห็นท่าทางแบบนั้นอดไม่ได้ก้มลงไปหอมที่หน้าผากเล็กเบาๆ พร้อมกับกระชับอ้อมกอดของตัวเองให้แน่นขึ้นอีกหน่อย
“...ราตรีสวัสดิ์เหมือนกันครับ รีบๆหายไวๆนะคนเก่งของพี่”
.....................................
..........................
Fin.
สวัสดีค่า คือก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เห็นหลายคนบอกว่าคิดถึงคู่นี้ พอดีมีเขียนๆเหลือไว้บ้างช่วงก่อนก็เลยเอามาปรับๆแก้ๆ ออกมาให้ได้อ่านกันนิดๆหน่อยพอให้ได้คลายความคิดถึงกันบ้าง อิอิ
ส่วนที่คนเขียนหายหน้าหายตาไปนานก็เพราะไปมัวแต่ปั่นงานโปรเจ็คเรื่องสั้นครบรอบหนึ่งขวบของ สนพ. Hermit Books ที่กำลังเปิดจองอยู่ตอนนี้น่ะค่ะ ซึ่งในโปรเจ็คนี้จะมีนักเขียนทั้งหมดสามคนสามเรื่อง ก็คือ
Indigo Rafael แล้วก็
ดอกไม้ ซึ่งโดยภาพรวมของเรื่องสั้นนี้จะเป็นเรื่องความรักที่เกิดขึ้นภายในบริษัทรับจัดงานวันเกิด โดยจุดเด่นของเรื่องสั้นนี้ก็คือตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้จะมีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกันทั้งหมด
จิ้มที่นี่เพื่ออ่านตัวอย่างเรื่อง By Indigoจิ้มที่นี่เพื่ออ่านตัวอย่างเรื่อง By Rafaelป.ล.แอบบอกนิดนึงว่าในโปรเจ็คนี้มีน้องรันไปร่วมแจมเป็นแขกรับเชิญพิเศษด้วยนะคะ ใครสนใจก็สามารถไปจับจองกันได้ที่
จิ้มเลยค่ะ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 สิงหาคมเลยค่ะ