♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]  (อ่าน 1089748 ครั้ง)

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ระเบิดภูเขาเผากระท่อมเลยนะตอนนี้
มันส์มากกกกกกกกกก!
เฮเคตเกลียดเน่จริงดิ่?
เกลียดแต่จูบเนี่ยนะ หึหึ
เฮดิสห้ามตายนะ
เดี๋ยวเฮเคตแย่งบทพระเอก 5555

"...ลูซิเฟอร์ไม่ได้มีปีกแค่คู่เดียว"
หมายความว่าไง?
แต่ใช่...เรื่องนี้ยังไม่จบ 5555

ปล.หวังว่าคงไม่หักมุมให้สามมหาเทพคนใดคนนึงโกงอีกหรอกนะ

รอครับ

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ยังจะมีตัวชั่วโผล่มาอีกเหรอออออออ :hao5:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
นี่เรากำลังอ่านนิยายแอคชั่นบู๊กระจายกันอยู่หรือเปล่า ฮ่าๆ
ตอนแรกๆก็ดูเป็นรักหวานแหวว หลังๆนี่สู้กันเลือดสาด

ีรออ่านตอนต่อไปนะคะ

 :hao7:

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
อิชั้นสับสนไปหมดละคะ ฮือออ หลากหลายเรื่องมาก โอ๊ยมึน

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
สุดยอด.,อลังการมาก

ออฟไลน์ mukkai

  • a Day dreamer
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ถ้าจะกระอักเลือดสาดขนาดนี้
โอย จะสงสารรึจะฮาเนรัญดีถูกพี่เฮตีสกระอักเลือดใส่
แต่แบบ ว๊ากกกกกก เจ้าเฮเคต แกตีเนียนเกินไปแล้วนะย๊ะ มาจูบเนเน่ของพี่เฮตีสได้จะใด
หนูเนเน่เรายิ่งมึนๆอยู่ แต่งงกับคำพูดบวกกับการกระทำของเฮเคต
มันมีอะไรแอบแฝงนะ? ลุ้น

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
เป็นตอนที่อลังการงานสร้างฟนตาซีสุดๆ
เนื้อเรื่องก็ซับซ้อนขึ้นอีกแล้ว นี่มันจะกลายเป็น 3p รึเปล่าเนี่ย//โดนตบ

ลูซิเฟอร์ไม่ได้มีปีกคู่เดียว ลูซิเฟอร์มีปีก 6คู่ หรือว่าพี่เฮดีสมีแฝด 6คน  :a5: //ไปกันใหญ่แล้วฉัน
หรือคราวนี้อาจได้มีบู๊กับเพื่อนด้วยรึเปล่านะ ศึกเทพเจ้ากับเวทย์มนต์อะไรงี้

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
วุ่นวายฝุดฝุด



ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
โอ๊ยยยย เฮียเฮดีสสู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
ใครเป็นคนบงการกันแน่เนี่ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เกี่ยวไรกับลูซิเฟอร์ บอกข้าทีเฮเคต อ่อพวกแกสองคนเนี้ยตกหลุมรักเนเน่งคู่เลยสินะ ไม่ใช่ว่าสองคนนี้คือคนเดียวกันแต่แยกร่างมาหรอกนะ #มโน

silver

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกว่าเฮเคตต้องชอบเนเน่มากแน่ๆ แต่ปากไม่ตรงกับใจกันทั้งคู่พี่น้อง ซึนกันสุดๆ หรือคนอ่านจะคิดไปเอง  :katai1:

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
อ่าาาาื อารมณ์แบบ :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
เฮเคตหลงรักเนเน่จังแน่ๆ ปากบอกว่าเกลียดนะ แต่การกระทำนี้หลงรักชัดๆ 555
น่าสงสารอ่ะ แสดงว่าตัวร้ายที่แท้จริงยังมี รอลุ้นกันต่อว่าจะเป็นใคร
ขออย่าให้เป็นคนใกล้ตัวก็เป็นพอเนอะ ไม่งัน T^T เศร้าแน่ๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
สรุปดีหรือไม่ดีละเนี่ย คงไม่หักมุม 3P นะ

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
พี่เฮดีสต้องไม่ตาย เกลียดอีป้าแก้วตาจริงจัง
เฮเคตไม่ได้เกลียดเนเร่หรอกเริ่มรักเนเน่แล้วใช่ไหมล่ะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
บอกตามตรงว่าตอนนี้เราโมโหเนรัญมาก

ด้วยอะไรก็แล้วแต่เราทั้งอ่านทั้งกัดฟันไป

เพราะขัดใจในตัวเนรัญ ก็พอเข้าใจไนซ์นะ

ว่าไอ้ที่เกลียดน่ะมันคืออะไร เราเองก็เกลียด

ที่เนรัญเป็นแบบนี้เหมือนกัน

เฮดีสรีบๆฟื้นนะ

ออฟไลน์ pk11677

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แลดูมีปมมม สรุปเฮเคตมันคนดีหรือร้ายกันแน่เนี่ยยย
น้องอยากจิอ่านต่อแล้วววว สนุกกกกก :z3: :ling1: :hao7:

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
หาคำตอบกันต่อไป :mew2:

—`•B€NM๏R€`•—

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
3 p เหอะ เฮดีส :z6:

ออฟไลน์ nnA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ว๊ากกกกกกกกกกกกก

ค้างๆๆๆๆ มาต่อเร็วๆนะ

แล้วตกลง ลูซิเฟอร์มีปีกกี่คู่ล่ะ??

ออฟไลน์ waris

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เฮเคตแย่งซีนเฮดีสอย่างรุนแรง

//แต่ทำไมเราชอบ  :o8:

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
พี่เฮดีสอย่าเป็นอะไรนะ
ทำไมเฮเคตถึงพูดอะไรแบบนั้น
อะไรคือยังไม่จบ งงไปอีก

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ไม่รู้เรื่องมันลึกลับซับซ้อนหรือเราคิดอะไรตามไม่ทันนะ
สมกับงานแฟนตาซีสุดๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy
สุดขั้ว 34

ผมพุ่งเข้าไปพลิกตัวพี่เฮดีสนอนหงายขึ้น ก้มแนบหูกับอก ได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นก็ถอนหายใจโล่งอก คงจะแค่สลบไป ผมขมวดคิ้ว หันกลับไปมองตรงจุดที่เฮเคตเคยยืนอยู่แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแล้ว ความสงสัยแล่นเข้ามาในใจ จริงๆ แล้วหมอนั้นตั้งใจบอกให้ผมมาทางนี้หรือเปล่า แต่มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ผมคงจะคิดมากไปเองนั่นแหละ มันก็แค่เรื่องบังเอิญ

ผมหันกลับมาสนใจพี่เฮดีสที่นอนนิ่งไม่มีท่าทางจะตื่นขึ้นมา รอบตัวก็วุ่นวายไปหมด ไม่รู้ว่าใครเป็นใครบ้าง ผมตัดสินใจหลบซ่อนตัวอยู่ตรงนี้ต่อไป ระหว่างนั้นก็คอยดูอาการของพี่เฮดีส แม้จะโล่งใจที่เห็นเขายังหายใจอยู่แต่ก็วางใจเลยยังไม่ได้ เพราะเขาบาดเจ็บหนักมาก ถ้าขืนไม่รีบรักษาอาการจะต้องหนักกว่าเดิมแน่ ผมเอื้อมมือไปจับเอื้อมที่เปื้อนเลือดและฝุ่นดินของเขาไว้ ร่างกายที่ยังอุ่นจนร้อนของเขาทำให้ผมมั่นใจว่าเขายังมีชีวิตอยู่

ใบหน้าของพี่เฮดีสเปรอะเปื้อนไม่หลงเหลือส่วนสะอาดสักจุด ผมใช้เสื้อตัวเองที่ยังสะอาดเอี่ยมเช็ดทำความสะอาดให้ (เรื่องนี้ต้องขอบคุณลินเช่ย์ เพราะเธอ ผมถึงสะอาดสะอ้าน ปลอดภัย) จู่ๆ ทั่วทั้งบริเวณก็สว่างวูบจนมองอะไรไม่เห็น ตามด้วยเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยง ผมสะดุ้งตกใจก้มตัวแอบมองลอดพุ่มไม้ หรือว่าเมื่อกี้จะเป็นพลังของพี่ซูส? ทางด้านนู้นคงกำลังต่อสู้กันดุเดือดมากแน่ๆ ยังไงก็ตามขอให้การต่อสู้นี่จบลงเร็วๆ เถอะ พี่เฮดีสจะได้ถึงมือหมอสักที

ระหว่างที่หลบซ่อนตัวในพุ่มไม้หนาผมก็สอดแนมสถานการณ์ข้างนอกไปด้วย เมื่อเห็นมีคนวิ่งผ่านไปมาผมก็ขยับตัวหมอบข้างตัวพี่เฮดีส คนพวกนั้นเดินขวักไขว่คล้ายกำลังมองอะไรบางอย่าง ยิ่งค้นมาใกล้พุ่มไม้ผมก็ตัวเกร็ง หวาดกลัวว่าจะเป็นพวกศัตรูที่กำลังตามหาเฮเคต เสียงแหวกพุ่มไม้ดังกรอบแกรบ ผมก็หลับตาปี๋กอดพี่เฮดีสไว้แน่น

“เฮ้ย! เจอตัวแล้ว!!!” เสียงตะโกนของใครบางคนดังอยู่บนหัวของผม เสียงของเขาคล้ายกับใครบางคนที่ผมรู้จัก คนๆ นั้นตะโกนบอกอีกครั้งอย่างดีใจปนรีบร้อน เสียงฝีเท้าอีกหลายคู่ดังตามมา เสียงของคนๆ นั้นคุ้นมากทำให้ผมเงยหน้าหันไปมองแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเขาชัดๆ ผมอ้าปากเหวออุทานเรียกเขาอย่างงุนงงปนยินดี

“มอตโต!?”

มอตโตหันมามองผมอย่างแปลกใจ

“อ้าว ไหนบอกว่าสงบอยู่ไง เนรัญเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” พี่โพมเพิ่งเดินมาถึง เอ่ยทักผมเสียงสดใส ยิ้มคล้ายกำลังปกปลอบจิตใจแตกตื่นของผม เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย ผมเกือบจะร้องไห้เมื่อเห็นเป็นคนรู้จัก ตอบเสียงตะกุกตะกักไม่เป็นประโยค

“ไม่ครับ ผะ...ผม...ไม่...เป็นไร...แต่ว่า...พี่เฮดีสเขา... ช่วยพี่เฮดีสด้วยครับ!”

“แน่นอนอยู่แล้วล่ะครับ” เสียงทุ้มต่ำที่ฟังแล้วอบอุ่นดั่งแสงตะวันเอ่ยแทรกขึ้นระหว่างผมกับพี่โพม แล้วชายหนุ่มรูปหล่อที่มาพร้อมรอยยิ้มสว่างไสวของเขาก็ปรากฏตัวขึ้น ผมหันไปมองแล้วกะพริบตาปริบๆ น้ำตาแตกพลั่กๆ ในใจยินดีปรีดาสุดจะเปรียบได้

พี่อะพอลโลลลลล!!!

แม้นึกถึงพลังพิเศษที่คนๆ นี้มีไว้ครอบครอง ผมก็หลั่งน้ำตาด้วยความยินดีและโล่งอก แทบจะลุกขึ้นเต้นจังหวะแซมบ้า เท่านี้พี่เฮดีสก็ถือว่าปลอดภัยหมดห่วงแล้ว! ทั้งสามคนเดินเข้ามาหาผม พี่พอลย่อตัวนั่งลงแล้วลูบหัวผมเบาๆ เอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

“โอ๋ๆ อย่าร้องไห้เลยนะครับ คงจะตกใจมากสินะครับ”

“ฮือ...ฮือ...” ผมพูดอะไรไม่ได้ นอกจากร้องไห้ตอบกลับ พี่พอลจ้องผมด้วยสายตาเห็นใจ เขากำลังขยับตัวเข้ามาใกล้ผม อ้าแขนกว้างแต่ก็ชะงักกึก มือที่เปื้อนเลือดดึงแขนเขาไว้แน่นจนขยับไม่ได้ เสียงไอแค่กๆ ดังขึ้นพร้อมกับร่างของคนที่นอนสลบขยับตัวลุกขึ้น พี่พอลหันไปมองเจ้าของมือข้างนั้นแล้วยิ้มแห้งๆ ออกมา พี่โพมยกมือปิดปากหัวเราะคึๆ ส่วนเจ้ามอตโตถอนหายใจเฮือก

“พี่เฮดีส!” ผมดีใจมากเมื่อเห็นเขาฟื้นขึ้นมา รีบพุ่งใส่คนบาดเจ็บหนักอย่างลืมตัว กอดคอเขาแล้วจูบลงริมฝีปากได้รูปที่เปื้อนเลือดจนแห้งเกรอะ ก้มหน้าร้องไห้กระซิกๆ แนบอกเปื้อนเลือด พี่เฮดีสที่มึนงงจากการเพิ่งฟื้น เจอการกระทำชวนตกใจของผมยิ่งทำให้มึนงงกว่าเดิม เขาค่อยๆ โอบตัวผมลูบหลังปลอบอย่างงุ่มง่าม เหลือบสายตาพิฆาตมองพี่โพมที่ทำหน้าตลกใส่

“...พี่มันบ้า” ผมเงยหน้าขึ้นมาจ้องใบหน้าของพี่เฮดีสที่นิ่งเรียบ เขามองตอบกลับมานิ่งๆ ไม่พูดอะไร ผมถอนหายใจแล้วเอ่ยตำหนิเขาเบาๆ พี่เฮดีสกะพริบตาคล้ายกำลังหาคำพูดมาพูดกับผมแต่ก็คิดไม่ออก เขายกมือจะจับตัวผมแต่ก็เอาลงเพราะมือของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด เขามองผมนิ่งแล้วเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งว่า

“ขอโทษ อย่าร้องไห้”

“พี่ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม?”

“อืม ไม่เป็นอะไรมากหรอก อย่าร้อง”

“อะแฮ่ม! ฉันว่ารักษาบาดแผลก่อนดีไหม? รักษาเสร็จแล้วค่อยสวี้ตกันต่อ” พี่โพมกระแอมขัดผมกับพี่เฮดีส ผมเงยหน้าพี่โพมแล้วเริ่มอายกับพฤติกรรมหน้าหนาของตัวเอง ค่อยๆ ถอยห่างจากพี่เฮดีส เปิดทางให้พี่พอลได้ลงมือรักษาคนเจ็บ ผมเอ่ยขอโทษ พี่พอลยิ้มรับอย่างไม่ถือสา

ปล่อยพี่เฮดีสให้เป็นหน้าที่ของพี่พอล ผมก็ไปมองมอตโตด้วยความแปลกใจ อีกฝ่ายเหลือบมามองผมด้วยสายตาเฉยชาตามปกติ ท่าทางปากหนัก ถามไปก็คงไม่ได้คำตอบ ผมจึงเลือกถามคนที่น่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุด

“แล้วพี่โพมมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงครับ?”

“อ้อ เรื่องมันยาวน่ะ เอาเป็นว่าพวกเรารู้เรื่องก็รีบมาช่วยเลยนะ”

“พวกเราหรือครับ?”

“อืม ก็มากันหลายคนน่ะ ไม่อย่างนั้นจะไล่พวกคนร้ายกาจพวกนั้นไปได้ยังไงกันเล่า เรียกว่าสามัคคีคือพลังยังไงล่ะ!” พี่โพมยิ้มกว้างกำหมัดชูขึ้นมา ผมไม่ค่อยเข้าใจนักแต่ก็พยักหน้าเออออไป คุยกับพี่โพมไปก็ไม่ได้คำตอบ ผมจึงตัดใจหันกลับไปมองพี่เฮดีส

แสงสว่างนวลๆ รอบตัวพี่เฮดีสจางหายไป จากเมื่อกี้ที่เป็นไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้แต่พอผ่านมือหมอขั้นเทพก็กลับมาหล่อปิ๊งเหมือนเดิมทุกประการ พี่พอลถอนหายใจพรูพร้อมกับปาดเหงื่อ พี่เฮดีสมองสำรวจตัวเองอย่างไม่ใส่ใจมากนัก เขาหันหน้ามามองผม สายตาเหมือนสอดส่องทั้งตัว ผมยิ้มรู้ว่าเขามองทำไมจึงบอกออกไปเพื่อไม่ให้เขาเป็นห่วง

“ผมไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนหรอก ลินเช่ย์ปกป้องดีมาก”

“คนที่เหลือล่ะ?” พี่เฮดีสหันไปถามพี่โพม เสียงของเขายังแหบแห้งแม้แผลจะหายไปหมดแล้วก็ตาม พี่โพมยักไหล่แล้วตอบยิ้มๆ

“สบายดี อาจจะมีไหม้เกรียมกันนิดหน่อย เมื่อกี้พี่นายโมโหจัดซัดสายฟ้าชุดใหญ่แน่ะ”

“แล้วพี่มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงครับ? ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น?” ผมถามพี่เฮดีสต่อทันที ผมงี้อุตส่าห์ตามหาเขาไปทั่ว กลัวจะเป็นอะไรไป แต่ปรากฏว่าเขากลับมานอนสลบเหมือบอยู่ในพุ่มไม้ซึ่งเป็นที่ซ่อนตัวชั้นเยี่ยมแบบนี้ซะอย่างนั้น พี่เฮดีสหันมามองผมครุ่นคิดสิ่งที่ผมถาม เขานิ่งไปสักพักก่อนจะสะดุ้งเฮือกเหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ร้องถามหันมองซ้ายขวา

“แล้วไอ้เวรนั้นล่ะ!?”

“หมายถึงเฮเคตน่ะเหรอครับ? เขาคงหนีไปแล้วล่ะมั้ง ท่าทางบาดเจ็บสาหัสด้วย” พวกพี่โพมไม่เข้าใจว่าพี่เฮดีสถามถึงใครถึงได้ทำหน้างุนงงกันแบบนั้น แต่ผมไม่ใช่ รู้ดีเลยล่ะว่าเขาหมายถึงพี่ชายฝาแฝดซึ่งผมแอบมีความผิดติดตัว ยังไงก็ตามขอให้มันเป็นความลับแบบนี้ต่อไปล่ะกัน พอความปลอดภัยของชีวิต พี่เฮดีสกัดฟันกรอด ท่าทางขุ่นเคืองใจ หรือว่าตอนระเบิดครั้งนั้นจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขา? พี่เฮดีสกลับมาหน้านิ่งรวดเร็ว

“ช่างแม่ม จะช้าหรือเร็วยังไงมันก็ต้องตายอยู่แล้ว อึดหน่อยก็ทนได้ถึงแค่วันพรุ่งนี้” พี่เฮดีสพึมพำกับตัวเอง เสียงของเขาเย็นและเหี้ยมมาก ผมยังแอบผวา อีกสามคนลอบมองตากันด้วยสีหน้าอึดอัด ผมเหลือบมองพี่เฮดีส เขานิ่งเหมือนกำลังขบคิดเรื่องบางอย่าง ผมขมวดคิ้วจ้องพี่เฮดีสเขม็ง ทำไมตาของพี่เฮดีสเป็นสีแดงแบบนั้นล่ะ!?   

“อย่าเพิ่งพูดอะไรมากจะดีกว่า ถึงบาดแผลจะหายไปแล้วแต่มันก็แค่ภายนอก อาการบาดเจ็บภายในกับความอ่อนล้าก็ยังสะสมอยู่ในตัว รีบไปพักก่อนเถอะ” พี่พอลเอ่ยเบรกทุกคน ตัดบทของผมที่กำลังเอ่ยทักท้วง แต่มองอีกทีตาของพี่เฮดีสก็กลับมาเป็นสีดำเหมือนปกติ เอ๊ะ หรือว่าผมมองผิดไปเอง เห็นสีเลือดจนสายตาเพี้ยนแล้วล่ะมั้งเนี่ย มองตาของพี่เฮดีสอีกครั้งก็ยังคงเป็นสีดำ ก็คงจะตาฝาดจริงๆ นั่นแหละ

พี่พอลมองหน้าทุกคนก่อนจะพยักพเยิดไปทางคนบาดเจ็บ ส่งสัญญาณให้พี่โพมและมอตโตแบบรับรู้กันเอง สองพี่น้องหรี่เข้าไปจับคนเจ็บหิ้วปีกคนละด้าน คนเจ็บไม่ทันได้ตั้งตัวตกใจกับการช่วยอันไร้ความนุ่มนวลร้องประท้วงเสียงแหบแห้ง

“ปล่อยนะโว้ย กูเดินเองได้ ขาไม่ได้หัก!”

“พี่เงียบๆ เถอะ เหนื่อยจนไม่มีแรงเหลือแล้วยังจะทำปากเก่งอีก” ผมอดไม่ได้ เดินเข้าไปตีไหล่ของคนเจ็บแล้วบ่นพลางทำหน้าจะร้องไห้ไปด้วย คนโวยวายถึงได้สงบลง ยอมเสียหน้าให้คนพยุงเดินเข้าบ้าน พี่โพมหัวเราะขำแต่แล้วเขาก็ร้องเสียงหลงอย่างเจ็บปวด ผมเห็นพี่เฮดีสใช้มือกระชากผมของพี่โพมจนหน้าแหงน ปล่อยเขาไปเถอะครับ ตอนนี้คงจะหงุดหงิดที่ถูกคนอื่นช่วยหรือไม่ก็ทำแก้เขิน เอิ่ก อย่างหลังนี้คิดซะว่าผมมโนล่ะกัน

พวกเราเดินเข้ามารวมตัวกันที่ห้องโถงกว้างของคฤหาสน์ เห็นคนอื่นๆ เยอะแยะเต็มห้องไปหมด ผมเห็นลินเช่ย์แวบๆ สงสัยพวกเขาจะถูกต้อนเข้ามาในห้องนี้เพื่อที่จะถูกคุ้มครองง่ายๆ ล่ะมั้ง ผมมองไปรอบๆ เยอะจนลายตา จำได้แค่คนสองคนที่เคยพูดกันเท่านั้น อ๊ะ เหมือนผมจะเห็นใครบางคนที่คุ้นๆ ว่าเคยเจอกันที่ไหนสักแห่ง พ่อบ้านกำลังปรนนิบัติให้ยาดมยาหม่องกับคนๆ นั้นอยู่ ใกล้ๆ กันนั้นก็มีเด็กแฝดยืนมองรอบตัว สีหน้างุนงงไม่เข้าใจ

“แม่...” พี่เฮดีสดีดตัวออกจากสองพี่น้องโพมมอตโตแล้วเดินโซเซเข้าไปหาใครบางคนที่ถูกห้อมรอบโดยเหล่าคนใช้ ผมกะพริบตาปริบๆ ในหัวเหมือนมีอะไรระเบิดตูม มองคนที่พี่เฮดีสเดินเข้าไปหาด้วยความตกใจ ผมแทบจะถลึงตาออกจากเบ้า ตบหน้าผากตัวเองดังเพี้ยะ บ้าเอ๊ย

ดวงใจ...!?

ผมยืนเม้มปากแน่น มิน่าล่ะถึงได้หน้าคุ้นๆ ผมเคยเจอคนๆ นี้มาก่อนหลายครั้งด้วยล่ะ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าคุณป้าคนนั้นจะเป็นแม่ของพี่เฮดีส!? ทำไมโลกนี่มันถึงได้คับแคบอย่างนี้กันนะ ผมอึ้งมาก ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกยังไงดี คุณป้าดวงใจลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียกของพี่เฮดีส เธอพุ่งเข้ามากอดลูกชายทันที จากนั้นก็สำรวจเนื้อตัวแต่ก็ไม่เจอบาดแผลอะไรถึงได้ถอนหายใจโล่งอก ผมเห็นสองแม่ลูกเป็นห่วงเป็นใยกันก็สบายใจ หันไปมองรอบๆ ห้องก่อนจะชะงัก

รู้ว่าคุณป้าดวงใจเป็นแม่ของพี่เฮดีสยังไม่ตกใจเท่าเห็นอัญดานั่งที่โซฟาข้างๆ แม่ของพี่เฮดีส!?

นี่มันอะไรกัน ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี้ ใกล้กันนั้นเป็นชายหนุ่มสวมแว่นทรงกลมที่นั่งรถเข็น เดาว่าเขาอาจจะเป็นพี่ชายของอัญดาที่ชื่อว่าอัษฎาคนนั้น แล้วทำไมสองคนนี้ถึงได้มาอยู่ที่นี้ล่ะ แถมคนอื่นๆ ยังไม่มีใครทักท้วงหรือแปลกใจ มีแค่ผมที่ข้องใจคนเดียว ผู้ชายใส่แว่นนั่งรถเข็นคนนั้นหันมามองผมแล้วเลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าตกใจแวบหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นสงสัยงุนงง เขาเข็นรถเข้ามาหาใกล้ผมแล้วเอ่ยถามว่า

“เธอชื่ออะไร?”

ผมมองเขาอย่างตกใจที่จู่ๆ เขาก็พุ่งเข้ามาถามชื่อแบบนี้ ผมเหลือบไปมองพี่เฮดีสที่หันมามองแต่ก็ถูกคุณแม่เรียกให้หันกลับไปคุย ผมใจไม่ดี รู้สึกไม่ชอบคนๆ นี้ เพราะเขาเป็นคนบ่งการให้พวกนักเลงมาทำร้ายพี่เฮดีส เขาถามผมอีกครั้ง สีหน้าใจเย็นมาก ไม่สนใจท่าทางไม่เต็มใจของผมเลย ผมเม้มปากแล้วเอ่ยบอกสั้นๆ

“เนรัญครับ”

“...พ่อแม่เธอชื่ออะไร?”

หา ทำไมจู่ๆ ถึงได้ถามชื่อพ่อแม่ตั้งแต่เจอหน้ากันแบบนี้ล่ะเนี่ย!? ขนาดแฟนของผมยังไม่เคยถาม(หรืออันที่จริงคือไม่ใส่ใจที่จะถาม)เลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมจู่ๆ เขาถึงได้ถามคำถามแบบนี้กับผมล่ะ เห็นผมไม่ยอมตอบ เขาจึงเอ่ยชื่อสองชื่อออกมา สองชื่อนั้นทำให้ผมสะดุ้งเฮือก เบิกตามองเขาด้วยความตกใจปนหวาดระแวง ทำไมเขาถึงได้รู้ชื่อของพ่อแม่ผมได้ล่ะ!? พอเห็นปฏิกิริยาของผมเขาก็ถอนหายใจเบาๆ จ้องหน้าผมนิ่ง ผมรู้สึกหนาวเยือกเมื่อถูกสายตาของเขาจับจ้อง คนๆ นั้นหันไปมองทางพี่เฮดีสแล้วหันกลับมามองผมอีกครั้งก่อนจะทำหน้าไม่พอใจแวบหนึ่ง

พี่ซูสเดินเข้าในห้องโถง ทุกคนพร้อมใจกันแหวกเปิดทางให้แก่หัวหน้าครอบครัวที่รีบเดินด้วยสีหน้าตึงเครียด พี่ชายอัญดากลับไปอยู่ข้างๆ น้องสาวที่นั่งเหม่อลอยเหมือนเดิม ผมละความสนใจจากพี่ชายของอัญดาไปที่พี่ซูส พี่ซูสทรุดตัวลงกวาดสายตามองไปโดยรอบทีหนึ่งแล้วเอ่ยถามกับพ่อบ้านว่าอยู่กันครบไหมและมีใครบาดเจ็บบ้าง โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร อยู่กันครบและทุกคนก็ไม่เป็นอะไร พี่ซูสถอนหายใจแล้วพยักหน้าก่อนจะโบกมือให้พวกเขาไปพักผ่อนได้ พ่อบ้านบอกทุกคนให้ไปพักผ่อนตามสบาย สถานการณ์ปลอดภัยหายห่วงแน่นอนแล้ว

ทุกคนถอนหายใจโล่งทยอยแยกย้ายกันออกไป ไม่มีใครตื่นตระหนกหวาดกลัวกันเลย มันทำให้ผมรู้สึกแปลกใจมาก เหมือนพวกเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าจะมีเหตุการณ์วุ่นวายแบบนี้เกิดขึ้น คุณพ่อบ้านพาคุณแม่ของพี่เฮดีสไปพักพร้อมกับพวกเด็กๆ ไมนอสกับแมนทีสเหลือบมามองผม ทำหน้าไม่อยากไป ผมยิ้มแล้วส่งสัญญาณมือให้ทั้งสองตามพ่อบ้านไป สองฝาแฝดทำท่าลังเลแต่สุดท้ายก็เดินตามพ่อบ้านไป




.....อ่านต่อรีต่อไป  :L2:

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy
ในห้องกว้างจึงเหลือเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ ผมกวาดสายตามองทุกคนในห้องอย่างรวดเร็ว มีพี่ซูส พี่เฮดีส พี่อะพอลโล พี่โพม มอตโต อัญดา อัษฎา ผม สาวผมบ๊อบเทสีแดง และชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เป็นหมี พวกเรามองหน้ากันไปมาเหมือนจะสำรวจว่าใครเป็นใครบ้าง ผมยืนเหลอหลาทำตัวไม่ถูก จะว่าไปคงมีแต่ผมล่ะมั้งที่เป็นคนนอก เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นไส้ติ่งที่ไม่ได้รับเชิญ สาวผมแดงมองผมด้วยสายตาแปลกใจวูบหนึ่งก่อนจะหันไปพูดกับพี่ซูส

“เรื่องนี้คงไม่ใช่แค่เรื่องในครอบครัวของคุณแล้วล่ะซูส ถ้าเกี่ยวกับ ‘ลูซิฟ’ แบบนี้มันต้องเป็นปัญหาใหญ่มาก ก่อนอื่นฉันคิดว่าเราควรบอกเรื่องนี้ให้กับทางตระกูลใหญ่ซะก่อน”

“ถึงฉันจะไม่อยากให้ทางตระกูลใหญ่มาเกี่ยวข้อง แต่ถ้ามันเกี่ยวกับลูซิฟจริงก็ต้องแจ้งทางตระกูลใหญ่อย่างที่เธอพูดนั่นแหละ นี่มันซวยจริงๆ พับผ่า” พี่ซูสพยักหน้ายอมรับ ถอนหายใจพรู สีหน้าจนใจเด่นชัด 

ระหว่างนั้นคนที่ไม่ใส่ใจบรรยากาศรอบตัวก็กวักมือเรียกให้ผมเดินไปหา ผมส่งใบ้ทางสายตาให้กับเขาว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลา แต่เขาก็กวักมือแรงๆ ทำสายตาแข็งใส่ เรียกร้องให้ผมไปหาอย่างเอาแต่ใจเป็นที่สุด ผมส่ายหน้าแล้วขยับปากอย่างไร้เสียงว่าไปไม่ได้ พี่เฮดีสขมวดคิ้วทำหน้าบึ้ง ลุกขึ้นพรวด ทำเอากลุ่มคนที่กำลังปรึกษากันอย่างเคร่งเครียดตกใจหันมามองเขาเป็นตาเดียว

“มีอะไรเหรอ?” พี่ชายคนโตของครอบครัวเอ่ยถาม พี่เฮดีสเหลือบมองพี่ชายตัวเอง

“ถ้าเกี่ยวกับลูซิฟจริง ก็แค่เรียกพี่โพซกลับมาก็เท่านั้น นอกจากเขาแล้วไม่มีใครรับมือกับลูซิฟได้” เขาเอ่ยห้วนๆ ไม่สนใจเรื่องที่คนอื่นเขาปรึกษาหารือกันหน้าดำคร่ำเครียดเลยสักนิด พูดจบก็เดินฉับๆ มาหาผมแล้วดึงแขนเดินออกไปจากห้องโถงนั้น ไม่สนใจปฏิกิริยาของคนอื่นๆ บ้างว่าจะรู้สึกยังไงกับท่าทางของเขา

“ถ้าอย่างนั้นรบกวนเธอช่วยแจ้งไปทางตระกูลใหญ่ให้ทีนะอธีน่า”

“โอเค แล้วใครจะเป็นคนเรียกเจ้าจอมอู้กลับมาล่ะ?”

“เฮราคลีส นายพอจะรู้ไหมว่าเจ้างี่เง่านั่นมันหนีไปเที่ยวที่ไหน?”

หลังจากเดินมาผมได้ยินเสียงของพี่ซูสปรึกษากับสาวผมแดงและพ่อหมีเบอร์สองคนนั้น ผู้หญิงผมบ๊อบเทสีแดงชื่อ ‘อธีน่า’ ส่วนพ่อหมีเบอร์สองที่ยืนกอดอกทำหน้าเคร่งขรึมหันหลังให้กับพวกเราอยู่ตลอดคนนั้นคือ ‘เฮราคลีส’ ถ้าจำไม่ผิดทั้งสองชื่อเป็นชื่อเทพกรีกนี่น่า หรือว่าพวกเขาจะเป็นญาติฝ่ายพ่อของพี่เฮดีส จะว่าไปแล้วพวกพี่โพมก็เป็นญาติฝ่ายแม่นี่นะ งั้นมีแต่ผมหรือไงวะที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ผมหันกลับไปมองแล้วแปลกใจเมื่อเห็นพี่ชายของอัญดาคนนั้นมองตามมาด้วยสายตาที่ผมเองก็ไม่เข้าใจ พอเห็นผมมองตอบกลับเขาก็ขมวดคิ้วแล้วหันไปมองน้องสาวตัวเองที่นั่งเหม่อลอยอยู่ข้างๆ ยังไม่ทันได้มองว่าเขาจะพูดอะไร ผมก็ถูกใครบางคนลากถูขึ้นบันไดไปซะก่อน อะไรเนี่ย!? พี่เฮดีสแกไปกินรังแตนที่ไหนมาวะ กระชากเอาๆ นี่พี่ยังเป็นคนเจ็บอยู่ไม่ใช่หรือไงครับ!? พอมาถึงก็รีบยัดผมเข้าห้อง ทำท่าว่าเหมือนจะเก็บไม่ให้ใครมาเห็น ผมมองพี่เฮดีสอย่างงุนงง

“เป็นอะไรของพี่เนี่ย?”

“ง่วง” เขาตอบสั้นๆ ทำเดียว เอ่อ แล้วง่วงเนี่ยจำเป็นต้องล็อคประตูห้องด้วยเหรอ ง่วงก็นอนสิครับ พี่เฮดีสล็อคประตูห้องแล้วก็ตามด้วยหน้าต่าง ทุกซอกทุกตอกที่มีให้ล็อคพี่แกจัดการปิดมันให้หมด ห้องธรรมดาๆ ก็กลายเป็นห้องขังที่มืดสลัว พี่เฮดีสเดินโซเซๆ ไปเตียงนอนแล้วชะงัก หันขวับมาจ้องผมเขม็ง ผมที่โดนจ้องขนลุกซู่

อะ...อะไร...ครับ? จะนอนก็นอนไปสิ จะหันมาทางนี้ทำไมกัน ตกใจหมด พี่เฮดีสตาปรือง่วงเต็มที่แต่ก็ไม่ยอมนอน เขากวักมือเรียกผมไปหา สีหน้าทะมึนตึงเอามากๆ ผมเนี่ยกลัวจนไม่กล้าเดินเข้าใกล้ ตอนง่วงนอนพี่เฮดีสดูเหี้ยมเกรียมกว่าตอนปกติหลายเท่าตัว พอถูกขัดใจคนง่วงก็เกิดโมโหขึ้นมาทันที พึมพำอะไรกับตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินมาลากผมขึ้นเตียงไปด้วยกัน

“พี่จะนอนก็นอนไปสิ ผมยังไม่ง่วงสักหน่อย”

“ไม่เอา นอนด้วยกัน” เขาเอ่ยแล้วกอดรัดผมไว้แน่น เอาขาก่ายตัวไว้ อย่างกับว่ากลัวผมจะหนีไป ผมเหลือบมองใบหน้าเปื้อนฝุ่นดินและเขม่นระเบิดแล้วถอนหายใจ ให้นอนสภาพแบบนี้เนี่ยนะ จะหลับลงได้ยังไง ทั้งเหงื่อทั้งเลือด กลิ่นสุดจะทนจริงๆ ผมเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง

“นอนก็ได้ แต่อย่ากอดแน่นแบบนี้สิครับ มันเจ็บ”

“ไม่ได้ เดี๋ยวมีคนขโมยไป”

“พูดอะไรอย่างนั้น ใครจะมาขโมยผมกันเล่า”

“แล้วก่อนหน้านั้นใครเกือบโดนเขาลักพาตัวไปกันล่ะ?”

พี่เฮดีสหาวหวอดๆ ตาปรือต่ำลงแทบจะปิดแต่ก็ยังโต้ตอบกลับมาเสียจนผมสะอึก ก่อนที่ผมจะพูดอะไรก็มีเสียงประตูเคาะก๊อกๆ ดังขึ้น ผมสะกิดให้พี่เฮดีสตื่น เขาทำหน้าหงุดหงิดหนักกว่าเดิม จับผ้าห่มกระชากเดินปึงปังไปเปิดประตู ท่าทางจะล็อคเยอะไปหน่อยตอนเปิดจึงลำบาก คนง่วงนอนเริ่มทำหน้าหงิกเป็นม้า ผมเห็นแล้วอยากจะหัวเราะ สมน้ำหน้า ตัวเองทำตัวเองเอง อยากล็อคเยอะดีนัก เป็นไงล่ะ พี่เฮดีสกระชากเปิดประตู เห็นเป็นพ่อบ้านก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ คุณพ่อบ้านเอ่ยรับด้วยสีหน้าราบเรียบ ไม่มีท่าจะเกรงกลัวจ้าวนรกที่กำลังหิวนอน

“คุณผู้หญิงบอกให้ผมนำยามาให้ครับ”

“ไม่จำเป็น”

“แต่ท่านไม่สบายใจนะครับ ตอนนี้ก็ยังเป็นห่วงคุณอยู่เลย ไม่ยอมพักผ่อนสักที”

“ตอนนี้แม่ทำอะไรอยู่ล่ะ?” พี่เฮดีสหน้าคลายตัวลงนิดหน่อยเมื่อได้ยินเป็นเรื่องของแม่ของเขา แต่เสียงก็ยังห้วนเหมือนเดิม

“ท่านกำลังทำอาหารให้พวกคุณซูสอยู่ในครัวครับ เห็นว่าไม่อยากรบกวนคนอื่นๆ ที่กำลังพักผ่อน”

พี่เฮดีสได้ยินก็ทำหน้าไม่พอใจ คุณพ่อบ้านก็เอ่ยต่อเสียงเรียบ

“คุณผู้หญิงกังวลมากไปจนนอนไม่หลับก็เลยหาอะไรทำเพื่อคลายกังวล แล้วถ้าคุณช่วยกรุณาทานยาเหล่านี้ก็จะดีต่อท่านมาก คุณผู้หญิงจะได้สบายใจพักผ่อนได้ตามปกติ อีกอย่างตัวคุณเองก็ได้รับบาดเจ็บภายในมาไม่น้อยเลยนี่ครับ”

พี่เฮดีสทำเสียงจิ๊เบาๆ ก่อนจะกำยาบนถาดขึ้นมาโยนใส่ปากตามด้วยดื่มน้ำอึกใหญ่ล้วนเดียวหมด เขาโบกมือไล่คุณพ่อบ้านทันที คุณพ่อบ้านยิ้มแล้วโค้งตัวเดินจากไป พี่เฮดีสปิดประตูดังต้าม! เดินวนกลับที่เตียง ไม่ลืมจับผมไปนอนกอดฟัดเป็นหมอนข้างเหมือนเดิม ผมที่กำลังจะอ้าปากพูดก็ถูกเขาชิงตัดหน้า

“เงียบ ฉันจะนอน” เขาเอ่ยเสียงเฉียบขาดเสียจนผมไม่กล้าจะพูดอะไรต่อ จึงปล่อยให้เขานอนหลับไป ไม่นานลมหายใจเข้าออกของพี่เฮดีสก็สม่ำเสมอ เข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างรวดเร็ว สงสัยจะเหนื่อยมากจริงๆ ครับ แขนของเขาคลายลงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ยอมปล่อยตัวผม ผมลองขยับตัวก็ถูกอีกฝ่ายตีแขนดังเพี้ยะ ผมตกใจหันไปมองนึกว่าเขาตื่นแต่กลับเห็นนอนหลับตานิ่ง

อะไรเนี่ย เมื่อกี้มันอะไรกันน่ะ? ละเมอเหรอ? ผมทำอะไรไม่ได้ก็ปล่อยให้เขากอดนอนหลับไปทั้งอย่างนั้น ผ่านไปสักพักก็รู้สึกง่วงๆ ตาเคลิ้มจะหลับ สุดท้ายก็ฝืนเปลือกตาที่ย่นปิดลงทุกทีไม่ไหว ก็ผล็อยหลับไปในที่สุด รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกอะไรก็ไม่รู้เย็นๆ หยดลงบนหน้า ผมขมวดคิ้วยกมือเช็ดสิ่งนั้นออกจากหน้า สุดท้ายผมก็ลืมตา ภาพตรงหน้ามัวๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ ชัดเจน ผมกะพริบตามองคนตรงหน้าด้วยความงุนงงสับสน

“พี่ทำอะไรน่ะ มันเย็นนะ” ผมขยับตัวลุกขึ้น ปัดกระป๋องน้ำอัดลมเย็นเจี๊ยบที่พิงหน้าผมออกไปแล้วเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงโมโห ตอนไม่อยากนอนก็ชวนนอน พอตอนนอนหลับสนิทแล้วก็มากวนคนอื่นให้ตื่น เขามองหน้าผมนิ่งๆ คล้ายกับไม่เคยเห็นผมทำหน้าบึ้งโมโหแบบนี้ เขาเอียงหน้าพิจารณาอยู่นานจนผมตามองตาขวางกลับ เขาก็หัวเราะขำออกมา

“กล้าทำหน้าแบบนี้กับเฮดีสด้วยสินะ”

“!!!?” ร่างกายของผมพลันชาวาบ ดีดตัวถอยห่างจากคนตรงหน้าทันที ผมตกใจจนแทบจะหัวใจวาย สำรวจคนตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน ชุดของเขาเป็นสีขาวสะอาด นั่นทำให้ผมงุนงงสับสนมาก ยิ่งมองไปรอบตัวก็ยิ่งงงหนักกว่าเดิม ที่นี้มันไม่ใช่ห้องนอนที่ผมนอนหลับไปกับพี่เฮดีสนี่น่า แล้วมันที่ไหนกันล่ะเนี่ยยยย ผมมาที่นี้ได้ยังไงงงง!? สมองของผมแตกจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ มองดูสถานที่แห่งนี้แล้วยิ่งรู้สึกว่าคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ยังไงก็คิดอะไรไม่ออกในสถานการณ์ที่กะทันหันแบบนี้

“ที่นี้คือโรงพยาบาล เป็นช่วงเวลาที่ๆ ฉันชอบมากช่วงหนึ่ง” เฮเคตลุกขึ้นยืนเอ่ยเสียงเนิบนาบแล้วโยนกระป๋องน้ำอัดลมมาที่ผม ผมไม่ยอมรับของจากเขาแน่นอน กระป๋องนั้นจึงตกลงพื้นอย่างไม่ถูกแยแส เฮเคตยิ้มที่มุมปากเขาผิวปากเบาๆ ไอ้กระป๋องนั้นก็ดีดถูกหน้าผากของผมเข้าอย่างจัง ไอ้บ้าเอ๊ย! เขาหัวเราะชอบใจที่เห็นผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย

“นาย! พาฉันมาที่นี้ทำไม!? พาฉันกลับไปเดี๋ยวนี้เลย!”

“จะกลับเลยเหรอ เอาน่า อยู่กับฉันอีกหน่อยจะเป็นไรไป”

“ใครจะอยากอยู่กับนายล่ะโว้ย!? จริงสิ นาย...คงไม่ได้ทำอะไรพี่เฮดีสหรอกใช่ไหม!?” ผมตะโกนถามด้วยสีหน้าโมโหมาก เล่นลิ้นอยู่นั่นแหละ กวนโมโหคนอื่นได้ดีจริงๆ ถ้าผมมาที่กับหมอนี้ได้ งั้นก็แสดงว่าเขาเข้าไปในห้องนอนของพี่เฮดีสแล้วอาสาช่วงที่พวกเรากำลังหลับพาผมมางั้นเหรอ ทุเรศเอ๊ย! ฉวยโอกาสตอนที่ชะล่าใจลงมือจริงๆ ด้วย พวกเจ้าเล่ห์!

“จะบอกอะไรให้นะ ฉันทำอะไรแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะฉันกำลังจะตาย” เฮเคตเอ่ยเสียงราบเรียบ ผมชะงักหันไปมองเขานิ่ง แล้วเขาก็ยิ้มออกมากว้างเหมือนล้อเลียนผม ผมแทบอยากจะเข้าไปตบเขาสักที อะไรของเจ้านี้วะ เอาความเป็นความตายมาล้อเล่นคนอื่นแบบนี้ได้ยังไงกัน แต่พอคิดอีกทีก็เป็นไปได้เพราะพี่เฮดีสก็พูดไว้แบบนั้นว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงพรุ่งนี้

“ไม่ได้ล้อเล่นสักหน่อย ฉันกำลังจะตายจากร่างนี้แล้วจริงๆ สภาพร่างกายนี้มันเสียหายหนัก แฟนของเธอยิงมาแบบไม่ให้ฉันอยู่หายใจต่อได้แม้ครึ่งวันเลยนี่น่า แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ฉันอุตส่าห์ถ่อสังขารมาหาเธอหรอกนะ จริงๆ แล้วฉันมีเรื่องจะขอร้องน่ะ” เขาทำหน้าจริงจัง น้ำเสียงก็ฟังแล้วเหมือนไม่ได้โกหก แต่ผมก็ยังระวังตัวอยู่ดี ผมเอ่ยถามเรื่องที่เขาอุตส่าห์หอบสังขารไม่เที่ยงของตัวเองมาขอร้องผม เฮเคตยิ้มกว้างแล้วตอบกลับเสียงใสว่า

“ขอนอนตักหน่อย”

“ไอ้บ้าเอ๊ย!” ผมจับกระป๋องน้ำอัดลมได้ก็ขวางใส่เจ้านั้นเต็มแรง เสียดายที่เขาหลบมันได้ หึ ไอ้เรารึก็จริงจังด้วย เห็นว่าเป็นคำขอร้องก่อนตายจะยอมเสียเวลาฟังสักหน่อย กลับพูดนอกเรื่องออกมาอีก เฮเคตหัวเราะขำ มันมีอะไรน่าขำฟะ!? ผมทำหน้าบึ้งหนักกว่าเดิม เฮเคตเอ่ยเสียงราบเรียบ

“กำลังจะบอกว่าถ้าให้นอนตักจะเล่าทุกอย่างให้ฟังเลย ไม่ยอมก็ไม่เล่า”

ทำไมผมรู้สึกว่าฝาแฝดคู่นี้มันนิสัยเหมือนกันเลยวะ!? ผมกัดฟันกรอดแล้วเปลี่ยนท่านั่ง เฮเคตหัวเราะรีบล้มตัวนอนลงวางหัวลงบนตักที่แข็งทื่อของผม ผมกัดฟันอดทนแล้วเอ่ยเร่งให้เขาเข้าเรื่องสักที เฮเคตพยักหน้าแล้วค่อยๆ พูด

“ฉันจะพูดจนกว่าจะหมดลมหายใจเลยล่ะ ไม่ต้องห่วงกว่าจะกั๊ก อืม งั้นเริ่มจากเรื่องที่ฉันเจอพ่อ...” เฮเคตหลับตาลงแล้วเขาก็ค่อยๆ เล่าเรื่องราวของตัวเอง ตั้งแต่ได้เจอพ่อของเขาเมื่อสี่ปีก่อน เขาเปลี่ยนชื่อ เรื่องราวเหมือนกับที่พี่เฮดีสเล่าให้ผมฟัง แต่ต่างนิดหน่อยตรงที่จริงๆ แล้วนิสัยของเขาก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เรื่องที่เขากับอัญดาที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ตลอดจนถึงเรื่องที่เขาทำชั่วช้าอะไรมาบ้าง ความลับที่น่าตกใจทั้งหลายพรูพรายจากปากของเฮเคต ผมฟังไปตัวสั่นไป ทั้งโมโหทั้งหวาดกลัว หมอนี้มันเล่าเรื่องเลวร้ายพวกนั้นได้หน้าตาเฉยมาก มันทำให้ผมกลัว

“...ตระกูลภฤตย์ปรเมษฐ์มีวิชาย้ายวิญญาณคนเป็น แต่มันเป็นวิชาที่ยุ่งยากมาก คนที่จะย้ายวิญญาณกันได้จะต้องเป็นคนที่มีความใกล้เคียงทางกายภาพ และจะต้องมีความใกล้ชิดกันทางสายเลือดด้วย...”

“นาย! หรือว่า...” เจ้าหมอนี้มันกำลังจะ... ผมตกใจลุกขึ้นพรวด เฮเคตกลิ้งตัวลุกขึ้นยืน เขาถอนหายใจแล้วส่ายหน้า

“ไม่ใช่ ครั้งนี้ฉันกำลังพูดถึงเธอกับ...แค่กๆ” เฮเคตไออย่างรุนแรงออกมา เขาโก่งคอสำลักเลือดออกมาเป็นกอง โซเซล้มคุกเข่าลง เขาเงยหน้ามองผมแล้วยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่อ่อนล้ามาก สายตาที่มองผมนั้นมันช่างเป็นสายตาที่ผมคุ้นเคย ผมขมวดคิ้วพยายามจะครุ่นคิดแล้วก็ตกใจเมื่อรู้ว่าสายตานั้นเหมือนใคร มันเหมือนของพี่เฮดีสนี่เอง!

สายตาที่เต็มไปด้วยความรักและห่วงใย...

“เธอจะต้อง...มีชีวิตรอดให้ได้ ฉัน...อยากอยู่กับเธอ...และ...เด็กๆ มากกว่า...ถึง...พวกเขา...ไม่ใช่...ของฉัน...” เฮเคตเอ่ยเบาๆ อย่างไร้เรี่ยวแรง เสียงของเขาขาดๆ หายๆ จนฟังไม่รู้เรื่อง เฮเคตไอแค่กๆ อีกครั้งแล้วเขาก็หลับตาอย่างอ่อนแรง กวักมือเรียกผมเข้าไปหา ผมลังเลใจอยู่สักพัก เห็นเขาแล้วเจ็บปวดใจเหมือนกำลังยืนมองพี่เฮดีสกำลังจะตายต่อหน้า โธ่เอ๊ย หน้าเหมือนพี่เฮดีสจริงๆ!

ผมเดินเข้าไปหาเขาถูกบอกให้นั่งลง ผมก็ยอมนั่งลงตามที่เขาขอ เฮเคตยิ้ม พลิกตัวนอนลงบนตักของผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาหลับตานิ่ง ผมแทบจะร้องไห้ วินาทีจะมองหน้าซีดไร้สีเลือดฝาดเหมือนผมกำลังเห็นพี่เฮดีสหมดลมหายใจไปต่อหน้าต่อตา ผมไม่ชอบความรู้สึกตอนนี้เอาซะเลย ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะบอกกับพี่เฮดีสว่าขอให้ผมตายก่อนเขา อย่าให้ผมเห็นเขาตายเด็ดขาด ผมกลัวว่าผมจะรับความรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ไม่ไหว ลมหายใจของเฮเคตค่อยๆ แผ่วเบาลงจนกระทั่งหน้าอกของเขาหยุดนิ่ง

....และแล้วเฮเคตก็จากไป






TBC.

ไหน! ใครที่ไหนบอกว่าจะให้คิวพระเอกยะ!?
....กราบขอโทษหลายๆ เด้อค่า///ผัวะ โดนเฮดีสเตะเสยตูด
เอาน่า ไม่มีใครแย่งซีนอีกต่อไปแล้ว มันตายห่าไปแล้ว
ตอนต่อไปเป็นด่านลาสต์บอส เฮดีสโชว์เมพไปแล้ว เนรัญก็ขอโชว์บ้าง(?)
เนรัญจะผ่านด่านลาสต์บอสไปได้หรือไม่ ติดตามตอนต่อไปแจ้~

ออฟไลน์ Red_sister

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
หมดทุกข์หมดโศกต่อไปให้มีแต่ความสุขนะคะ

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด