สุดขีด 4ผัวะ!!!
เข้าดั้งเต็มๆ เลยครับ เจ็บแทน ผมยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ในขณะที่คุณพี่เฮดีสเดินไปลงทัณฑ์พวกที่โผล่มาไม่ดูเวล่ำเวลา เสียงชกแต่ละครั้งทำเอาผมปวดกระดูกแปลบๆ โอ๊ย เจ็บแทน! การลงโทษจากเทพเจ้าแห่งความตายก็ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องไร้ซึ่งความปรานี เหมือนผมยืนอยู่ในดินแดนปรโลกของจ้าวแห่งนรก ผมยกมือปิดตาเอาไว้ ให้ตายเถอะ เลือดสาดกระเซ็นยิ่งกว่าฉากสยองขวัญในหนังผี
ผัวะ!!!
เสียงร้องโอดครวญของพวกที่โดนยำ มันช่างน่าสงสารจริงๆ พวกนั้นร้องขอแค่ไหนคุณพี่เฮดีสก็หน้านิ่งลงมือลงเท้าแบบไม่ออมแรงเหมือนเดิม ทำไมเขาถึงได้โหดร้ายขนาดนี้กัน!? ทำเกินไปแล้ว ผมแค่ยืนดูยังสั่นไปด้วยความกลัว แม่จ๋า! ผู้ชายคนนี้ยิ่งกว่าปีศาจซะอีก! ผมเม้มปากกระโดดหลบซากศพที่ถูกเหวี่ยงมา ผมเซล้มนั่งปุ๊กกับพื้น มองภาพตรงหน้าที่เหมือนอยู่ในนรก
“อ๊ะ อย่าครับ! ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะ!” ผมร้องเสียงหลง โบกมือปฏิเสธพัลวัน
จู่ๆ ก็มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้พุ่งมาทางผมแล้วฟาดไม้เต็มแรง ผมกลิ้งหลบได้ทันแต่มันก็ยังตามมาทำร้ายผมไม่เลิก ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยวะ!? ไอ้ที่ดูเหมือนจะหลบง่ายๆ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เห็นในละครเขาทำได้ง่ายๆ แต่ความจริงนั้นมันไม่เหมือนกันเลยสักนิด อะจ๊าก! ผมเบิกตามองเงาทะมึนตรงหน้าที่กำลังง้างมือกะจะฟาดเต็มแรง ผมหลับตาท่องบทสวดมั่วซั่วเท่าที่คิดได้
พระพุทธเจ้าช่วยลูกด้วย!
“...” เอ๋? ไม่เจ็บไม่ปวดอะไรเลยสักนิด
ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างงุนงง พระพุทธเจ้ามาช่วยผมเหรอ?
ตรงหน้าของผมมีชายคนหนึ่งที่น่ากลัวดั่งปีศาจยืนกันไม้ให้กับผม ไม่น่าจะใช่พระพุทธเจ้า อีแบบนี้มันยักษ์มารชัดๆ! ใบหน้านิ่งนั้นจัดการไอ้คนที่ไล่ตีผมแบบไม่ยั้งมือจนล้มลงไปกองกับพื้น คุณพี่ยังไม่สะใจมากพอตามไปกระทืบซ้ำจนอีกฝ่ายจมดิน เสียงกรีดร้องของผู้โชคร้ายทำให้ใจของผมสั่นสะท้าน แม้จะเป็นคนมาทำร้ายผมก็ตามแต่เขาก็ดูน่าสงสาร
“หนอยยย! ไอ้เฮดีส!!” ตัวหัวหน้ากรีดร้องไม่ยอมแพ้แม้จะถูกต่อยหน้ายับไปแล้ว มันลุกขึ้นหยิบไม้หน้าสามที่หล่นอยู่ใกล้ๆ ลากพื้นเหวี่ยงใส่เจ้าคนที่ยังทำหน้าตายด้าน เฮดีสรับไม้ที่เหวี่ยงมาด้วยมือเปล่า บิดทั้งไม้ทั้งแขนของไอ้หัวหน้านั้นเต็มแรงจนมันร้องเจ็บปวดเสียงดังลั่นพร้อมๆ กับเสียงกรุบคล้ายเสียงกระดูกหัก ไม้หล่นจากมือมันแล้วทรุดตัวลงบนพื้น แขนตกห้อย อา แขนหลุดแน่เลย! เฮดีสถีบมันจนหน้าถลาไปกับพื้นและกำลังตามไปซ้ำอีกครั้ง
“เหวอออ!” ผมร้องเสียงหลงพร้อมกับโยกตัวหลบไม้หน้าสาม
อีกแล้วเหรอ!?
ผมก็ยังถูกปองร้ายอยู่ดี จะเอาอะไรกับกูนัก! เห็นกูสู้ไม่ได้ก็เข้ามารุมกูจังเลย แน่จริงไปสู้กับไอ้คุณพี่เฮดีสสิว่ะ นั่นศัตรูของพวกมึงไม่ใช่หรือไง!? ผมหลบพวกนั้นแบบหวุดหวิด ไม้เฉียดหัวไปนิดเดียวเอง โฮฮฮ~! อย่าแห่มารุมได้ไหม แค่หลบไม้คนสองคนก็หลบไม่ทันอยู่แล้ว ยังจะแห่มาอีก! ไม่ไหวแล้วนะ ผมหยิบไม้ที่ตกข้างๆ หวดใส่พวกมันบ้าง
จริงๆ ผมก็สู้คนนะ!
ผัวะ!
“โอ๊ย!”
พวกมันตีไม้ในมือของผมจนกระเด็นปล่อยจากมือ แง้~ มือของผม เจ็บแปลบเลยอะ สุดท้ายผมก็ต้องโดนตีเหมือนเดิมสินะ โธ่เอ๊ย! โอ๊ยยย~!!! หือ? อ้าว! ไม่โดนตีนี่หว่า ผมอุตส่าห์เอามือปกป้องหัวตัวเองไว้อย่างดี แถมยังซ้อมร้องไว้ก่อน แต่ก็ไม่รู้สึกเจ็บใดๆ เลย ผมมองไปข้างหน้า มีคนเดียวแหละที่มาช่วยผมได้
“บอกแล้วว่ามีกูทั้งคน จะกลัวอะไร”
ไม่ซึ้งครับ เพราะมีพี่ ผมถึงได้เจอประสบการณ์เสี่ยงตายแบบนี้!
คุณพี่เฮดีสดึงผมลุกขึ้นแล้วพาบุกตะลุยนรกต่อ ไม่ต้องพาผมมาด้วยได้ไหมครับ ปล่อยผมไว้ที่เดิมเถอะ! เตะสูงฟาดก้านคอจนเจ้าพวกจนสลบเหมือด เฮือก เตะได้มุมสวยมาก ผมอ้าปากเหวอเมื่อโดนดึงกระชากไปอีกทางแล้วขายาวๆ ของคุณพี่เฮดีสก็ถีบคนที่เข้ามาทางด้านหลัง ผมโดนดึงไปด้านหลัง คุณพี่เขาก็หมุนตัวเองไปถีบแล้วชกเจ้าพวกนั้นซะร่วงไปเป็นกลุ่ม
มันทำให้ผมคิดถึงฉากต่อสู้ในหนังแอ๊กชั่นที่พระเอกจะจับมือนางเอกแล้วสู้ไปด้วย แต่ทำไมตอนนี้ตูกลายมาเป็นนางเอกซะเองล่ะโว้ย! ถูกดึงไปมาจนมึนหัวไปหมดแล้ว ผมถูกดึงกลับมาเซไปตกเข้าแขนของคนที่ดึงผม เอิ่ก! นี่มันฉากโรแมนซ์ในหนังเลยน่ะเนี่ย ขนลุกโว้ย! ดันสบตาเข้ากับเทพเจ้าแห่งความตายซะด้วย ผมตัวแข็งทื่อทำหน้าเหวอแดก พี่แกก็เอานิ้วมาจิ้มหน้าผากของผม
“ทำหน้าตลกว่ะ”
“ยกโทษให้ไม่ได้!! ไอ้เฮดีส!!” เจ้าหน้าลิงลูกน้องเบอร์หนึ่งลุกขึ้นมาแล้ววิ่งเข้ามาใส่ คุณพี่เฮดีสผลักผมออกไปทันที โธ่ ไอ้หัวหน้ากลุ่มนี่มันยังมีแรงลุกขึ้นมาอีกเหรอ? ผมยืนมองท่านเฮดีสกระทืบอีกฝ่ายอยู่ข้างเดียว ผมว่าหมอนั่นไม่น่าลุกขึ้นมาเลยว่ะ แบบนี้เจ็บกว่าเดิมอีก ไม่รู้จะบอกว่าโง่หรือกล้าดีนะเนี่ย ระหว่างที่ผมยืนดูโดยไม่ระวังตัวก็มีคนเข้ามาจับตัวผมล็อกแขนเอาไว้ แถมยังเอามือเค็มๆ มาปิดปากผมไว้อีก อะไรกันวะ เฮ้ย!!
“เดี๋ยวนี้ไอ้เวรเฮดีสมันเปลี่ยนมาแดกถั่วดำแล้วเหรอวะ?”
“เออว่ะ หน้าสวยดีนะโว้ย”
“แบบนี้กูก็ชักจะสนใจขุดทองเหมือนกันว่ะ ฮ่าๆๆๆ”
อ้าวเฮ้ย ไอ้เหี้ยมไม่มีมอม้า! พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวะ!? ถึงมึงอยากจะเป็นเจ้าของเหมืองแต่กูไม่ยอมเป็นเหมืองให้มึงขุดหรอกโว้ย ผมดิ้นสู้สุดฤทธิ์ ไอ้พวกบ้านี่มันก็เล่นชกหน้าท้องของผมจนจุก กรรม! เห็นแต่ในละครโดนจริงๆ เจ็บกว่าที่คิดไว้อีก ปัดโธ่! สงสัยต้องขอความช่วยเหลือแล้วล่ะครับ
“อือ! อือ!”
คุณพี่เฮดีส! ช่วยผมหน่อยเซ่!! อย่ามัวแต่กระทืบไอ้หน้าลิงนั่นได้ไหม ทางนี้กำลังแย่แล้วนะ! ผมพยายามตะโกนออกไปแต่มันก็ทำได้แค่เสียงในลำคอ โธ่โว้ย!! เจ้าพวกนี้ลากผมออกไป พวกมึงจะพากูไปไหนวะ!? ผมรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายสะบัดตัวออกจากพวกมันแต่ก็โดนรวบตัวไว้อย่างรวดเร็ว
บัดซบ!! พวกมึงจะทำอะไรกู!!? คุณพี่เฮดีสก็ยังติดการต่อสู้ตรงนั้น ผมถูกโยนเข้ามาในซอกมืด ไอ้พวกนั้นก็เข้ามายุ่งกับเนื้อตัวผม โว้ยยย! หยุดนะเจ้าพวกบ้า อย่ามาแตะต้องกู ผมใช้มือปัดป้องตัวเอง ไอ้พวกนั้นก็รุมปิดปาก ยึดแขนยึดขาของผมเอาไว้
แควกกก!!!
เสียงเสื้อนักศึกษาถูกดึงกระชากออกอย่างแรง ดีนะที่ใส่เสื้ออีกชั้นไม่งั้นตอนนี้ผมเปลือยไปแล้ว มืออันน่าขยะแขยงของไอ้เวรตัวไหนก็ไม่รู้สอดเข้าไปใต้เสื้อของผม ไม่นะ! ขยะแขยงจนขนลุกเกรียวไปหมด อยากจะร้องไห้! ผมพยายามดิ้นอีกครั้ง ไอ้พวกนี้ก็หัวเราะเสียงหื่นกามที่สุดในสามโลก
“ยิ่งดิ้นยิ่งดี พี่ชอบ!”
“เพิ่งเข้าใจโจรข่มขืนก็ตอนนี้แหละว่ะ ฮ่าๆๆๆ”
ม่ายยยย!! โจรข่มขืนมันฉุดแต่สาวๆ นะโว้ย พวกมึงจะวิปริตผิดเพศเกินไปแล้ว ปล่อยกู! ผมกัดมือที่ปิดปากของตัวเองเอาไว้เต็มแรงจนเลือดของมันออก ไอ้พวกบ้านั่นรีบเอามือของตัวเองจากปากผมแล้วร้องเสียงหลง ตอนนี้แหละ!! ผมตะเบ็งเสียงร้องไปสุดเลเวล
“รุ่นพี่!! ช่วยผมหน่อยโว้ย!!”
“...” เงียบไร้เสียงตอบรับ ไอ้บ้าเฮดีสมันหนีไปโดยทิ้งผมไว้หรือไงวะ!? โธ่เอ๊ย!! กูจะโดนข่มขืนอยู่แล้วนะโว้ย~!!
“พี่คร้าบ!! ช่วยผมหน่อย...อือ!!” ผมพยายามร้องตะโกนอีกครั้ง คราวนี้ไอ้บ้านั่นก็ตบหน้าผมแล้วเอามือมาปิดปากเอาไว้ หน้าที่โดนตบแม่งโคตรแสบ ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วยวะ!?
“หึๆ เรียกไปก็เท่านั้นแหละ ยอมเป็นเมียพี่ดีๆ ซะเถอะ ถ้าบริการดีๆ เดี๋ยวพี่จะเก็บน้องเอาไว้เลี้ยง”
สาดดด!! กูไม่เอาอาเฮียหน้าเหี้ยอย่างมึงโว้ย! ผมหลับตาปี๋เมื่อไอ้หน้าเหี้ยๆ กำลังก้มลงมาหาผม
“โอ๊ยยย!!”
ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงอะไรมาโดนตัว เสียงร้องโอดโอยก็ดังขึ้นรอบตัวผม ผมรีบลืมตาขึ้นมามอง เห็นคุณพี่เฮดีสกำลังดึงผมของไอ้หน้าเหี้ยที่บังอาจคิดจะเป็นอาเสี่ยของผม คุณพี่เฮดีสทำหน้าซะน่ากลัวกว่าเดิมอีก ปกติพี่แกทำหน้านิ่งไร้อารมณ์แต่ตอนนี้กลับยิ้ม อย่าคิดว่ามันเป็นยิ้มที่ดูดีนะครับ มันช่างเป็นยิ้มที่ชวนขนลุกและน่าสะพรึงที่สุด!
คุณพี่เฮดีสดึงผมของไอ้บ้านั่นขึ้นสูง อูยยย! ปวดหนังหัวแทน ไอ้บ้านั่นร้องน้ำตาไหลพราก สงสัยจะเจ็บมากแน่ๆ จากนั้นเขาก็เหวี่ยงมันไปกระแทกเข้าเหลี่ยมเสาจนหัวแตกเลือดไหลอาบหน้าทันที คุณพี่เฮดีสหัวเราะในลำคอพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง พระเอกที่มาช่วยผมกลับทำตัวน่ากลัวสยดสยองยิ่งกว่าพวกตัวร้ายเสียอีก! ผมอ้าปากแทบไม่กระดิกตัว สาบานเลยว่าชาตินี้ผมไม่ต้องการเห็นคุณพี่เฮดีสยิ้มแบบนี้อีกเป็นครั้งที่สองแน่!
คุณพี่เฮดีสลากไอ้พวกที่คิดจะฮุบเหมืองของผมมายำทีละคน แต่ละคนจัดหนักซะเละไม่มีชิ้นดี กระทืบแล้วกระทืบอีก แถมแรงชนิดที่ครั้งเดียวแข้งขาหักเป็นชิ้นๆ แต่นี่พี่แกเล่นซ้ำแล้วซ้ำอีก ผมว่ามันไม่ใช่แค่หักแล้วล่ะ มันมีโอกาสเป็นพิการตลอดชีวิตแน่! เสียงร้องโอดโอยขอความเห็นใจของพวกมันดังโหยหวน ผมรีบลุกขึ้นยืน โอ๊ย! ผมกุมท้องที่เจ็บแปลบ สงสัยจะเป็นตอนถูกชกแน่ๆ ผมมองคุณพี่เฮดีสที่เหมือนคนเสียสติ เขาหัวเราะสะใจไปกระทืบพวกมันไปไม่มีท่าทางจะหยุด
“รุ่นพี่ หยุดเถอะครับ!” ผมเรียกเขาแต่ก็เหมือนลมที่ผ่านพัดทะลุหูของพี่แกไป เดี๋ยวพวกมันตายนะครับ! หยุดทีเถอะ ผมไม่อยากถูกมองว่าสมรู้ร่วมคิดกับฆาตกร!
“พี่ครับ! ผมบอกให้หยุดไง!!”
“พี่เฮดีส!!!” ผมตะโกนสุดเสียง เขาก็หยุดชะงักแล้วหันมามองผม
“เมื่อกี้เรียกว่าอะไรนะ?”
หะ!? หรือว่าเขาจะไม่ชอบให้ใครมาเรียกแบบสนิทสนม? ผมพยายามถอยตัวออกห่างเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เขาเลิกสนใจซากศพในมือเดินมุ่งหน้ามาหาผมด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ความเร็วระดับเทพ เฮ้ยๆ เดี๋ยว! แว๊กกกก!!! อย่าทำอะไรผมเลย ผมขอโทษ! ผมถอยมาจนมุมรีบยกมือไหว้อย่างเคารพแต่เขาก็ไม่ได้ตีผมแต่อย่างใด กลับเอ่ยถามเสียงเหมือนตื่นเต้น
“เมื่อกี้เรียกว่าอะไร?”
“เอ๊ะ? พี่เฮดีส?” ผมเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างงุนงงแล้วตอบกลับไป
“...เออ กลับ” คุณพี่เฮดีสเงียบไปสักพัก ก่อนจะพยักหน้าแล้วหันตัวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ผมมองตามเขาไปด้วยความแปลกใจ อะไรของเฮียแกวะ? ผมไม่เข้าใจเลยว่ะ ผมวิ่งตามหลังพี่เฮดีสพอใกล้จะถึงก็หยุดเดินแทน ผมกับพี่เฮดีสเดินเว้นระยะห่างกันพอสมควร พวกเราเดินออกจากซอยเปลี่ยวมาที่ลานจอดรถข้างร้านขนมหวานร้านเดิม ตอนนี้ผู้คนกำลังคึกคักเชียวครับ หลังมอช่วงนี้เป็นช่วงที่ผู้คนออกมาสังสรรค์กัน ผมมองสภาพของตัวเองแล้วรีบเดินมาอยู่ข้างๆ คนที่เดินนำหน้า ใช้ตัวใหญ่ๆ ของเขาบังตัวผมเอาไว้
เวรเอ๊ย แต่ละคนมองผมด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นสุดๆ แต่พอเห็นว่าใครเป็นคนเดินอยู่ข้างๆ ผมก็อ้าปากเหวอรีบหันหน้าหนีหวาดกลัวกันสุดชีพ เสียงซุบซิบอย่างกับเสียงฝูงผึ้งบินว่อนทำให้ผมประหม่า พรุ่งนี้คงจะไม่มีข่าวแปลกๆ เกี่ยวกับผมใช่ไหม? ไม่นะ! จู่ๆ ผมก็ถูกดึงเข้ามากอด ผมเงยมองคุณพี่เฮดีสอย่างสงสัย ผมไม่ได้ผลักเขาออกแต่ใช้ประโยชน์จากตัวสูงๆ บังหน้าของตัวเองไว้จนกระทั่งไปถึงรถ
“พี่ เราจะไปไหนเหรอครับ?”
“กลับห้อง”
“วันนี้ขอกลับบ้านได้ปะ?”
เมื่อเข้ามาในรถผมก็ถามขึ้น อยากจะกลับบ้านน่ะครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อยๆ ยังไงชอบกล ถ้าได้กลับบ้านก็คงจะดีแต่ว่าผมก็ไม่ได้หวังอะไรมากหรอกนะ แค่ขอไปอย่างนั้นแหละ รู้อยู่ว่าเขาเป็นคนตามใจฉันไม่ใช่ตามใจคุณ! ระหว่างที่สตาร์ทและขับออกมาจากลานจอดรถ เราสองคนเงียบ ผมมองมือของตัวเองที่วางไว้บนตักเกือบจะหลับอยู่แล้วจนกระทั่งได้ยินเสียงของคนข้างๆ
“ทางไหน?”
“ว่าอะไรนะครับ?”
“บ้านไปทางไหน?” พี่เฮดีสถามเสียงเรียบ ผมก็เลิกเอ๋อรีบบอกทางไปทันที
ไอหยา ไม่คิดเลยว่าเขาจะไปส่งผมจริงๆ ด้วย ดีจังที่เสี่ยงถามไป เฮ้อ ไอ้เวสป้าเพื่อนยากที่ขอร้องให้พี่ลูกหมีเอากลับมาบ้านมันอยู่ดีหรือเปล่าน่า แค่ไม่ได้อยู่บ้านวันเดียวผมก็กังวลใจจริงๆ แปลงผักหลังบ้านจะเป็นยังไง ไม่ได้รดน้ำตั้งวันหนึ่งแน่ะ เฮ้อ...
“บ้านผมหลังนี้ครับ”
พอถึงบ้านผมก็รีบบอกทันที พี่เขาก็จอดตรงหน้าบ้านเป๊ะ
“ขอบคุณครับ” ผมรีบลงรถแต่ถูกดึงแขนเอาไว้ก่อน ชะเอ่อ... มีอะไรงั้นเหรอครับ? ผมรู้สึกเป็นกังวลชอบกล ไม่นะ บางทีผมอาจจะคิดไปเอง คุณพี่เฮดีสปล่อยแขนของผมแล้วเอ่ยเสียงเรียบ
“เปิดประตูให้ด้วย จะเอารถเข้าไปจอด”
“อ้อ ครับ” ผมพยักหน้าไปอย่างเอ๋อเหรอ เดินมาเปิดประตูโรงจอดรถให้ อืม ทำไมต้องเอารถเข้ามาจอดด้วยล่ะ เอ๊ะ นี่เขาคงจะไม่คิดค้างที่นี้หรอกนะ!? เฮ้ย! ผมจ้องเขม็งจนกระทั่งอีกฝ่ายขับรถมาจอดไว้ เขาก้าวลงจากรถแล้วเดินมาที่ผม
“พี่จะค้างที่นี้เหรอครับ?”
“อืม” เขาพยักหน้าแล้วเดินนำไปอย่างกับเป็นเจ้าของบ้าน ปล่อยให้ผมอ้าปากเหวอ
อะไรกันเนี่ย!? คิดว่าจะได้พ้นเจ้าบ้านี่ซะอีก แต่ทำไมกลายเป็นว่าผมพาผู้ชายเข้าบ้านแบบนี้ได้ล่ะเนี่ย! อีแบบนี้ผมก็หนีพี่ท่านไม่พ้นน่ะสิ! รู้จักบ้านแบบนี้ต้องตามมาจิกหัวผมแน่ๆ โฮ~! นี่มันเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดดด~! ผมรีบเดินตามหลังของเขาล้วงเอากุญแจเปิดเข้าบ้าน
พอเข้ามาในบ้านผมก็วิ่งวุ่นเอารองเท้าใส่ในบ้านมาให้ คุณพี่เฮดีสก้มมองรองเท้าอยู่นาน แอ๊! นี่มันรองเท้าพิกเล็ตสีชมพูแหววเลยนี่หว่า ผมรีบเปลี่ยนคู่เป็นเจ้าหมีพูห์ทันที คุณพี่แกก็ยังยืนนิ่ง เอ่อ... คู่นี้ดีที่สุดแล้วครับ ถ้าไม่ใส่ก็เอาเจ้าคิตตี้ไปใส่แทนก็ได้นะ ผมหยิบทิกเกอร์มาใส่แล้วกำลังเดินไป แต่ดูเหมือนสายตาของแขกกำลังจ้องทิกเกอร์ของผมเขม็ง เอ่อ... หมีพูห์ก็เท่นะครับ โอเค! เปลี่ยนกันก็ได้ จ้องอยู่นั่นแหละเจ้าบ้าเอ๊ย! ผมถอดทิกเกอร์แล้วไปใส่หมีพูห์แทน ในที่สุดคุณพี่เฮดีสก็ยอมถอดรองเท้าแล้วใส่เจ้าทิกเกอร์ เชอะ หมีพูห์ออกจะเท่!
“พี่ใช้ห้องของพ่อแม่ผมละกัน ห้องนี้ครับ ไม่มีใครใช้นานแล้วล่ะ แต่ผมทำความสะอาดตลอดนะ ใช้ได้เลย อ่า เดี๋ยวผมไปเก็บผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟันให้นะครับ” ผมเดินเข้าห้องตัวเองเพื่อมาหยิบผ้าขนหนูในตู้และหยิบแปรงสีฟันใหม่ พอลุกขึ้นแล้วหันตัวออกเดินก็ไปชนเข้ากับคนที่ยืนแข็งทื่อเป็นตอ เฮ้ย ตามมาตั้งแต่เมื่อไรน่ะ!?
“ห้องนายเหรอ?”
“เอ่อ ครับ” ผมพยักหน้ารับมองหน้าอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ จู่ๆ เปลี่ยนมาใช้สรรพนามสุภาพเฉยเลย ก่อนหน้านี้ยังหยาบคายยิ่งกว่าจิ๊กโก๋ พี่เฮดีสมองไปรอบๆ ห้องอย่างสำรวจ เอ่อ ไม่ต้องสนใจห้องของผมขนาดนั้นก็ได้ มันไม่มีสมบัติซ่อนอยู่หรอก
“เล็กจัง”
“ครับๆ มันเล็ก เพราะฉะนั้นพี่ต้องไปอยู่ห้องใหญ่นู้น!” ผมโยนผ้าขนหนูและแปรงสีฟันให้แล้วดันเขาออกไปจากห้อง ดันอีกฝ่ายมาถึงห้องใหญ่ซึ่งเคยเป็นห้องของพ่อแม่ผม
“ร้อน”
ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้ขี้บ่นจัง!
“เดี๋ยวผมเปิดแอร์ให้ พี่ก็ไปอาบน้ำได้แล้ว เอ่อ... จริงสิ แผลที่แขนล่ะ!?”
ฉิบหายแล้ว เขามีแผลที่แขนแต่ดันไปบู๊ซะแหลกลาน ป่านนี้แผลมันคงจะไม่อักเสบเป็นหนักกว่าเดิมหรือไง พอผมพูดเรื่องแผลขึ้น คนหน้านิ่งก็เหมือนคิดได้
“มิน่าล่ะถึงรู้สึกเจ็บขัดๆ แถมยังชกไม่เต็มแรงเลย”
นั่นยังไม่เต็มแรงอีกเหรอครับเฮีย!? เห็นชกแต่ละทีเลือดกบปากแน่ะ ผมถอนหายใจยาวแล้วเดินมาดึงเสื้อช็อปให้เขาถอด เจ้าบ้านี่ก็เริ่มทำสำออย ยกแขนไม่ขึ้น แกะกระดุมไม่ได้ ถุย! ทีตอนกระทืบคนไม่เห็นจะยกลำบากตรงไหน ผมเร่งให้เขาถอดเร็วๆ เพราะจะได้ดูแผลแล้วเตรียมทำแผลให้ เขามองผมเล็กน้อยก่อนจะเหลือบสายตาไปมองทางอื่นแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่ง
“อย่าใจร้อนน่า คืนนี้ของเรายังอีกยาว”
ไม่ยาวเฟ้ย ตูอยากอาบน้ำนอนแล้ว!