♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]  (อ่าน 1088741 ครั้ง)

ออฟไลน์ mellowshroom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1


เนเน่ น่ารักจัง ..^ ^

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6

Wasansims

  • บุคคลทั่วไป
รออยู่นะครับ *0*

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 728
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เสียงดังขนาดนั้น

จะฟันหักมั๊ยเจ้าแมวน้อย(เกี่ยว???)

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
แปะไว้ก่อนเน้อ...............

.......................................

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
สนุกจังเลย สงสัยใคร่รู้ที่มาที่ไปของหลายสิ่งในเรื่อง อยากรู้สุดคือเฮียเฮทำเมินเนเน่ เพื่อออ :angry2: น่าติดตามๆ
//ตอนพี่ยูทำตัวลับๆล่อๆ แถมบอกว่า โป๊อยู่?!! ใจหนึ่งไพล่คิดไปว่า...พี่ยูกับพี่เฮดีส...ได้กันเองซะรึเปล่า อุ๊บส์   :oo1:

ประโยคเด็ดโดนใจโดยเฮ(ฮา)ดีส : "...เคยเห็นแขนกับตัวแยกกันเหรอ"
  555 กร๊ากกก คุณ lie-boy คิดได้ไงเนี่ยมุขนี้ จังหวะนั้นอย่างฮาอ่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-03-2013 17:47:13 โดย wargroup »

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy
สุดขีด 11

หลังจากที่ผมพยายามยืนยันให้พี่ยูรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ แล้วก็เดินกลับมาบ้านของตัวเองแต่ก็ไม่วายจะหันกลับไปมอง ในใจลึกๆ แล้วคาดหวังว่าจะได้เจอกับเขาโดยบังเอิญ ผมนั่งลงบนม้านั่งหน้าบ้านแล้วครุ่นคิดเหตุผลที่เขาจงใจหลบหน้าหลบตา แต่ว่าบางทีมันอาจจะไม่เกี่ยวกับผมก็ได้ล่ะมั้ง ผมคิดมากไปเองหรือเปล่าวะ? ผมถอนหายใจเบาๆ รู้สึกกลัดกลุ้มใจเต็มไปในอกไม่รู้จะระบายมันออกมาได้ยังไง

พี่เฮดีสมาหาพี่ยูมันไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร เพราะพวกเขาสองคนเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนอยู่ในคณะและสาขาภาควิชาเดียวกัน ก็แล้วทำไมผมต้องรู้สึกหงุดหงิดใจอย่างนี้ด้วยล่ะ ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกันย่อมต้องไปมาหาสู่มากกว่าจะมาหาผมที่รู้จักกันแค่ผิวเผิน อะไรกัน แบบนี้มันก็เท่ากับว่าผมต้องการให้พี่เฮดีสมาหาตัวผมเองน่ะสิ?

ทะ...ทำไมล่ะ?

จู่ๆ หัวใจของผมก็เต้นตึกๆ ท่ามกลางความเงียบงันโดยรอบ ผมหน้าร้อนผ่าวเหมือนคนเป็นไข้ หว่า! นี่มันปฏิกิริยาบ้าบออะไรกันเนี่ย!? อย่างกับ...อย่างกับว่า...ผมกำลัง...

“เฮ้ยยย! รัญ! พี่บอกไอ้เฮดีสให้แล้วนะ พรุ่งนี้เลิกเรียนมาที่บ้านพี่นะมันจะรอเจอแกอยู่ที่นี้”

“...ครับ” ผมนิ่งก่อนจะค่อยๆ พยักหน้าส่งยิ้มแทนคำขอบใจไปให้กับพี่ชายผู้แสนดี

ผมลุกขึ้นจากม้านั่งแล้วเอ่ยขอตัวเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว จนพี่ยูตะโกนไล่หลังถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย บ้าเอ๊ย! เมื่อกี้นี้มันอะไรกันน่ะ!? ทำไมผมถึงดูน่ารังเกียจอย่างนั้นกัน! ทั้งๆ ที่พี่ยูอุตส่าห์ช่วยพูดให้เขายอมมาพบกับผม แต่ผมกลับอิจฉาที่พวกเขาทั้งสองดูสนิทสนมกันมากแบบนั้น ชั่ววูบหนึ่งของความน่ารังเกียจผมกลับคิดร้ายเสียจนตัวเองละอาย

ผมเกิดความรู้สึกสับสนและวุ่นวายจิตใจเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจบึ่งรถออกจากบ้านมาทำจิตให้สงบเหมือนเดิม ใช่แล้วล่ะครับ สถานที่พึงพาทางใจของศาสนา ต้องช่วยผมให้รู้สึกผ่อนคลายและตัดจิตใจอันน่ารังเกียจนั้นได้แน่ๆ ตอนนี้ก็เย็นเงียบสงัด ซึ่งเป็นเวลาที่บริเวณเงียบสงบมีผู้คนอยู่บางตา ส่วนมากนั้นเป็นเหล่าผู้คนที่มาเดินจงกรมบ้าง นั่งสมาธิภาวนาบ้าง ผมจอดรถแล้วเลือกสถานที่เหมาะๆ สักแห่งเป็นจุดเริ่มต้นในการทำสมาธิ

ใจเอ๋ย สงบโดยไว!

ผมหลับตาแล้วสูดอากาศเข้าไปในปอดก่อนจะก้าวเดินอย่างช้าๆ ตั้งสมาธิอยู่ที่ปลายเท้าของตัวเอง เดินไปเรื่อยๆ และเริ่มคิดพิจารณาหาต้นเหตุของความทุกข์ เพื่อแก้ไขตามหลักของอริยสัจสี่

อืม ต้นเหตุของความวุ่นวายใจนี่ มันมาจากอะไรกันนะ? จู่ๆ ก็รู้สึกโมโหขึ้นมาซะเฉยๆ เมื่อดันไปคิดว่าพี่ยูกับพี่เฮดีสพวกเขาสนิทสนมกัน และวูบหนึ่งก็แอบคิดว่าสองคนนี้มีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่า? พี่ยูบอกว่าโป๊อยู่ด้วยยิ่งทำให้ผมคิดไปไกล อ่า พี่ยูน่ะมีแฟนอยู่แล้วจะไปมีอะไรกับพี่เฮดีสได้ยังไง? แถมทั้งสองยังเป็นผู้ชายอีกด้วย เฮ้อ คิดอะไรไร้สาระจริงๆ ว่ะ ถ้าทั้งสองจะมีอะไรเกินเพื่อนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมด้วย ทำไมผมต้องไปโมโหพวกเขา บ้าเอ๊ย ไม่เข้าใจเลย ผมขมวดคิ้วมุ่นพยายามขบคิดจนหัวจะแตกแต่ก็ไม่ได้อะไรคืบหน้าเลย

ยิ่งคิดก็เหมือนจะยิ่งสงบใจไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ผมทรุดตัวลงนั่งบนม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ บรรยากาศเงียบสงบทำให้ผมผ่อนคลายและนั่งเงียบๆ พิจารณาตัวเองอย่างจริงจัง ช่วงนี้ผมยุ่งมากจริงๆ แถมยังเหนื่อยกว่าปกติ มันล้าทั้งร่างกายและจิตใจเลยล่ะ ภายนอกน่ะไม่แปลกเท่าไรหรอก เพราะผมเทียวไปคณะวิศวะบ้าง แวบไปโรงพยาบาลบ้าง มันก็ต้องมีล้ากันบ้าง แต่ไอ้ใจนี่สิเหนื่อยเพราะอะไรกัน? หรือนี่จะเป็นเพราะความคิดขัดแย้งกันในใจที่เกิดขึ้นตั้งแต่รับปากพี่ไนซ์กันนะ? จากตอนนั้นผมก็คอยปฏิเสธกับตัวเองว่าที่ผมรับปากไม่ใช่เพราะอยากจะเกี่ยวข้องหรือยุ่งกับเขา ก็แค่ผมอยากจะช่วยพี่ไนซ์เท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆ ทั้งสิ้น จึงมันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ

ผมนั่งกลุ้มใจกับตัวเองแล้วเริ่มยอมรับเงียบๆ ว่าจริงๆ แล้วที่รับปากจะช่วยพี่ไนซ์ก็เพื่อเป็นข้ออ้างเท่านั้นแหละ ใช่แล้วล่ะ! ก็ผมน่ะไม่ได้หน้าด้านที่จะไปเจอกับคนที่ไม่อยากจะเจอผมหรอกนะ มันก็ต้องหาเหตุผลไปเจอน่ะสิ! อีกอย่างก็แค่อยากรู้เรื่องของเขาเท่านั้นเองนะ ไม่ได้มีเจตนาร้ายสักหน่อยนี่น่า และผมเองก็อยากจะให้เขาได้เจอกับคุณแม่ด้วย บางทีเขาอาจจะไม่ทำตัวเป็นทุกข์แบบที่เป็นอยู่ก็ได้ ก็แค่อยากให้เขายิ้มได้เหมือนพี่ไนซ์บ้าง

...หืม?

ผมชะงัก นั่งตัวแข็งทื่อแข่งกับต้นไม้ข้างๆ อยู่เป็นเวลานาน เมื่อกี้เหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้แฮะ ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามเข้มแล้วหัวเราะแห้งๆ

ไม่มั้ง ไม่น่าใช่หรอก ฮ่าๆๆๆ....

ม่ายยยยนะ!!! ผมไม่ได้...ไม่ได้...ชะ...ไม่ช่ายยยยย!

ผมกำลังโวยวายปฏิเสธกับตัวเอง สุดจะรับตัวเองไม่ได้ นี่มันอย่างกับว่าผม...ผม...โธ่เอ๊ย! มันจะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงกันล่ะ ผมเป็นผู้ชายทั้งแท่งนะ เฮ้ย! ไอ้เรื่อง...เรื่องบ้าบอแบบนี้น่ะ ไม่อยากจะเชื่อ มันต้องไม่ใช่เรื่องจริงแน่ ผมอาจจะเข้าใจผิดคิดไปเองก็ได้

ระหว่างที่ผมกำลังคร่ำเครียดพยายามหาข้อแก้ต่างให้กับตัวเอง เสียงมือถือของผมก็ดังขึ้น อ่า ใครโทรมาตอนนี้วะ? ผมล้วงยกขึ้นมาดูหน้าจอ

‘พี่ไนซ์’

โทรมาทำไมกันน่ะ? อ๊ะ จะว่าไปแล้วผมยังไม่ได้บอกพี่ไนซ์เลยว่าพี่เฮดีสยอมพบแล้ว จะให้ทำยังไงต่อไป ผมรีบกดรับสายแล้วกำลังจะเอ่ยทักทายอีกฝ่ายด้วยมารยาทของสากลในการรับสาย แต่ทว่ากลับมาเสียงเอ่ยเจื้อยแจ้วดังขัดขึ้นมาก่อน

[หวัดดีฮับ! ป๋มชื่อไมนอ~ แล้วน้านใครอา?]

ไมนอ? ไมนอสหรือเปล่าวะ?

ผมเกาหัวแกรกๆ หรือว่าลูกพี่ไนซ์จะเล่นมือถือกดมั่วๆ มาหาผมวะ? เสียงอ้อแอ้ๆ ของเด็กก็ยังคงพูดต่อไปเรื่อยเปื่อยไม่มีจุดหมาย นี่ผมควรจะกดตัดสายดีหรือเปล่า? แบบนี้มันหมดเงินค่าโทรเปล่าๆ นะ ผมกำลังกดตัดสายแต่ก็ชะงักเมื่อไมนอสพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมยังไม่ได้ตัดสาย

[แม่ชื่ออารายเหยอ? ป่อบอกไมว่าถ้าป่อไปยุที่ไกลๆ กลับมาไม่ล้าย น้องจายป่อจะรับพวกเราไปเลี้ยง ป่อบอกว่าตอนน้านพวกเราจะมีแม่ล้วย! แต่ไม่เอาหยอก จำไมต้องให้ป่อไปไกลๆ ถึงจะมีแม่ได้ล่า! ไมไม่ยอมหยอกกก! แง้~~~~~~~~!!!]

“...”

จู่ๆ เด็กมันก็ร้องไห้ ผมควรทำยังไงดีวะ? ผมได้แต่อึ้งไม่รู้จะปลอบใจเด็กยังไงดี แถมยังไม่รู้เรื่องด้วยว่าอีกฝ่ายพูดถึงเรื่องอะไร ผมยื่นมือถือออกห่างจากหู เพราะไมนอสเริ่มแหกปากร้องกรอกเสียงมาหาผมเต็มที่ จากนั้นสายก็หลุดไปซะเฉยๆ อะไรกันวะ? ผมมองมือถือของตัวเองอย่างงงๆ ไม่นานก็โทรกลับมาอีกครั้ง ผมกดรับทันที

“สวัสดีครับ”

[หวัดดี! ฮ่าๆๆๆ เมื่อกี้ขอโทษนะ เจ้าลูกบ้านี่มันดันเอามือถือไปเล่นน่ะ!]

เสียงอันเป็นเอกลักษณ์สดใสร่าเริงของพี่ไนซ์ลอดตามสาย เสียงหัวเราะร่าของเขายังเหมือนเดิมไม่มีผิด แล้วไอ้ดราม่าเล็กๆ เมื่อกี้มันอะไรกันวะ? ผมเอ่ยตอบกลับไปเพื่อไม่ให้เขาเป็นกังวล เสียงร้องไห้ของเด็กก็ไม่มีแล้วด้วย สงสัยไมนอสโดนลากไปเก็บซะแล้วล่ะมั้ง?

“อ้อ ไม่เป็นไรครับ”

[ว่าแต่เป็นยังไงมั้ง พอจะมีหวังบ้างไหม?]

“จริงสิ ผมกำลังโทรไปบอกพอดีเลยครับ พรุ่งนี้พี่เฮดีสจะมาที่บ้านเพื่อนของพี่เขาแล้วจะให้ทำยังไงต่อดีครับ?”

[จริงเหรอ!? ดีล่ะ พรุ่งนี้เธอมารับผมที่โรงพยาบาลนะ ผมจะพูดกับเฮดีสเอง!]

“ได้ครับ” ผมตอบตกลงไปอย่างเสียมิได้ เพราะว่ายังไงเรื่องครอบครัวมันก็ควรจะให้คนในครอบครัวเป็นคนพูดถึงจะดูเข้าท่ากว่านี่น่า แถมถ้าผมเป็นคนพูด มันก็ดูเหมือนไปแทรกแซงเรื่องส่วนตัวของพวกเขา

ผมคุยกับพี่ไนซ์สองสามประโยคแล้ววางสายไป ไม่นานผมก็นึกขึ้นได้ พี่ไนซ์เป็นคนไข้ไม่ใช่เหรอจะออกมาได้ยังไงล่ะ? เฮ้ย นี่คงไม่ใช่ให้ผมพาหนีออกมาจากโรงพยาบาลหรอกใช่ไหม!? ไม่หรอกมั้ง พี่ไนซ์อาจจะขออนุญาตออกมาก็ได้ ผมพยายามจะไม่คิดมากในเรื่องนี้แล้วลุกขึ้นเดินไปหาเจ้าเวสป้าคันเก่งเพื่อกลับบ้าน


:L2:

       

“เดี๋ยวๆ! ทำไมกูจะต้องแสดงด้วยวะ?” ผมร้องประท้วงอย่างไม่พอใจเมื่อเพื่อนยื่นบทละครมาให้ดู

ตอนนี้ผมอยู่ที่คณะ และกำลังเตรียมการซ้อมการแสดงในวันงานราตรีต้นกล้า แน่นอนว่าตัวแทนเจ้าป่าและเทพีฯ ของเราจะต้องเป็นตัวเด่นในการแสดงในครั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันจำเป็นต้องโชว์ความสามารถหลากหลายของตัวเอง และหากอยากแสดงให้เห็นถึงความรักความสามัคคีกันในหมู่คณะในการร่วมมือร่วมใจกันก็ต้องแสดงละครสถานเดียว ดังนั้นการแสดงละครสั้นจึงนิยมนักแล!

“ช่วยไม่ได้นี่หว่า มันเหลือบทนี้บทเดียว วันนั้นมึงไม่มาเข้าประชุมเองแถมโดดซ้อมไปตั้งหลายรอบแล้วด้วย อย่าโวยวาย!” ซันเซ็ตผู้เป็นเจ้าพ่องานกำกับเบื้องหลังสวนกลับมาอย่างไม่เกรงใจ แถมยังดูเหมือนหงุดหงิดเมื่อเอ่ยถึงช่วงนี้ที่ผมทำตัวเป็นนินทาหายแวบๆ โธ่เอ๊ย กูกำลังทำความดีช่วยเหลือคนอยู่โว้ย แต่นักแสดงสมทบอย่างผมจะเอาอะไรไปเถียงท่านผู้กินกับได้ล่ะครับ ผมเดินคอตกมานั่งมองบทของตัวเองแล้วถอนหายใจเฮือก

จะไม่อะไรเลยน่ะ ถ้าบทนี้มันไม่ใช่บทตัวโกงน่ะ!

“รัญ เปลี่ยนกับกูไหมล่ะ?” โอเล่ที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามยิ้มแจ่มใสมาให้กับผม พยายามจะแลกบทของตัวเอง

อะไรของมึงวะโอเล่? ทำไมถึงอยากจะเปลี่ยนขนาดนั้นกัน!? ผมระแวงกับความมุ่งมั่นแลกเปลี่ยนของโอเล่ พยายามกุมบทที่ได้มาไว้แน่น อยากเปลี่ยนขนาดนี้เจ้านี่ต้องได้บทที่แย่มากแน่ๆ!

“มึงแสดงเป็นอะไรวะ?” ผมถามออกไปเบาๆ โอเล่มันก็ฉีกยิ้มแล้วโบกมือไปมาด้วยสีหน้าล่อลวง

“โอ๊ย บทง่ายๆ มึง! พูดสองสามคำเอง”

“บทอะไรวะ?”

“ก็แค่เพื่อนสาวนางเอกเอง”

“...กูขอปฏิเสธ!” ผมรีบเอ่ยปัดแล้วลุกพรวดเดินจ้ำมานั่งกับมอตโตที่กำลังนั่งทาสีฉากอยู่

เกือบไปแล้วไหมล่ะ? ถ้าผมไม่เอะใจซะก่อนป่านนี้ได้บทที่ย่ำแย่กว่าเดิมเสียอีก นี่ใครเป็นคนคิดบทนรกๆ แบบนี้ออกมากันนะ? ซันเซ็ตใช่ไหม!? ผมเหลือบมองมอตโตที่ไม่พูดไม่จา นั่งละเลงสีอย่างเงียบๆ ชักจะอิจฉานิดๆ แฮะ

“ทำไมมึงถึงไม่ได้แสดงวะมอต?”

“ไม่รู้” มอตโตหยุดมือแล้วหันมาตอบด้วยหน้าตาย ผมมองเพื่อนแล้วเข้าใจทันทีว่าทำไมถึงให้มันมาเป็นคนทำฉาก! ผมถอนหายใจเฮือกแล้วหยิบบทมาอ่านอีกครั้ง ก่อนจะทำใจไม่ได้จนต้องตะโกนถามผู้กำกับที่กำลังบอกบทให้แก่พระนางของละครเรื่องนี้

“ซัน! ไม่มีบทต้นไม้หรือก้อนหินบ้างเหรอวะ!?”

“ไม่มีโว้ย!”

“เป็นเสาก็ได้” ผมพยายามต่อรอง

“มึงเงียบไปเลยรัญ! กูเสียสมาธิหมด!” ซันเซ็ตนิ่วหน้าจนยับยู่ยี่อย่างเหลืออดเหลือทนกับผม มันหันหน้ามาแล้วชี้หน้าผมก่อนจะเอ่ยสั่งย้ำเสียจนผมไม่กล้าพูดอะไรกับมันอีก ทำไมซันเซ็ตมันน่ากลัวจังเลยวะ? ใครไปทำอะไรให้มันเครียดขนาดนั้น ผมถอนหายใจปลงๆ แล้วตั้งใจท่องบทในมือ

“ช่วงนี้มึงไปทำอะไรที่โรงพยาบาลวะ?”

“ห๊ะ? อะไรนะ?”

มอตโตหันมาถามผมแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำให้ผมสะดุ้งโหยงหันหน้าลอกแลกอย่างมีพิรุธ โชคดีที่คนถามผมเป็นมอตโตที่ไม่มีวิสัยชอบเสือกเหมือนตัวที่เหลือ เขาแค่เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามเซ้าซี้อะไรกลับมา

“ไปเยี่ยมคนรู้จักน่ะ แล้วมึงรู้ได้ยังไงวะ?”

“พ่อกูบอกน่ะ”

อ๊ะ จริงสิ! ผมลืมไปว่าพ่อของมอตโตทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น อา~ รู้สึกโล่งอกหน่อยนึกว่ามีข่าวลืออะไรซะอีก ยิ่งตอนนี้ข่าวลือมันระบาดเร็วกว่าปกติซะด้วย พอได้คำตอบมอตโตก็หันไประบายสีฉากต่อเงียบๆ เหมือนเดิม

ผมยกนาฬิกาขึ้นมาดูเวลา อันที่จริงแล้วผมกะจะแวบหายไปแต่เห็นพวกเพื่อนๆ แล้วรู้สึกผิดที่ไม่ได้ใช้อะไรเลย ทำให้ผมมานั่งท่องบทแทนที่จะไปรับพี่ไนซ์อย่างที่นัดกันเอาไว้ แต่ไม่เป็นไรหรอกครับผมโทรไปบอกพี่ไนซ์กับพี่ยูแล้วว่าจะช้ากว่ากำหนดหน่อยเพราะติดงานที่คณะ

“โอเค ฉากนี้ผ่านแล้ว เฮ้ย! ไอ้รัญท่องบทได้หรือยังวะ เหลือมึงคนเดียวแล้วนะโว้ย!” ผู้กำกับตะโกนข้ามหัวมาที่ผมซึ่งกำลังนั่งท่องบทด้วยความงุนงงไม่เข้าใจ ไอ้ที่ถามว่าจำได้ไหมน่ะเหรอ? เรื่องนั้นไม่น่าห่วงเท่าไรหรอกครับ ที่น่าเป็นห่วงน่ะมันควรจะเป็นไอ้บทในมือของผมมากกว่านะ! คุณผู้กำกับตะโกนถามความพร้อมของผมอยู่หลายครั้งกดดันให้ผมต้องลุกเดินไปหามัน

“มึงจำบทได้แล้วใช่ไหม?”

“คิดว่า” ผมพยักหน้าเนือยๆ ให้มันอย่างไม่มั่นใจ ผมยกบทขึ้นมาอ่านอีกรอบแต่มันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เฮ้อ~ ผมทำหน้ากลุ้มใจจนผู้กำกับเข้ามาชักความเข้าใจเกี่ยวกับบท พร้อมกับอธิบายตำแหน่งจุดยืนในแต่ละฉาก การเคลื่อนไหว การแสดงอารมณ์ โอเค กูเข้าใจมึงนะซัน แต่มึงคิดยังไงถึงให้กูเล่นบทนี้ด้วย นี่มันกลั่นแกล้งกันชัดๆ!

“เอาล่ะๆ พยายามใส่อารมณ์เข้าไปให้บทให้ได้ความที่สุด เอาเต็มที่ของมึงอะ ได้เท่าไรก็เท่านั้นแหละ” ซันเซ็ตตัดบทรวบรัดพูดแบบมันไม่ค่อยคาดหวังอะไรกับผมเท่าไร มันตบไหล่ของผมเบาๆ แล้วตบมือเรียกเหล่านักแสดงที่เข้าฉากมาเริ่มซ้อมกันต่อ ผมมองบทพยายามจดจำมันอีกครั้ง

“อย่าซีเรียสมึง สบายๆ” พระเอกของเรื่องเดินเข้ามาพูดกับผมด้วยท่าทางผ่อนคลาย ชิวสุดๆ ทำไมมันไม่ตื่นเต้นอะไรกับเขาบ้างวะ? ผมขมวดคิ้วแล้วมองไปที่นางเอกของเรื่องกำลังเตรียมตัวอยู่อีกฝั่งแล้วหันมามองซีเนียร์ พอจะเข้าใจความรู้สึกของมันครับ เอาเถอะครับ จะอะไรมากมาย คณะของเราแค่หาผู้หญิงได้ก็ดีถมแล้ว อย่าไปคาดหวังอะไรมากเลย!

“เอ้าๆ! เตรียมพร้อมนะ ฉากที่หนึ่ง เริ่มได้!”

[กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ได้มีอาณาจักรที่งดงามและกว้างใหญ่จึงปกครองโดยราชินีแดง แต่แล้ววันหนึ่งราชินีแดงก็สิ้นพระชนม์ไปอย่างกะทันหัน ทิ้งไว้เพียงเจ้าชายหนุ่มรูปงามเอ็ดเวิร์ดผู้โศกเศร้าเสียใจกับการสูญเสียมารดา]

สัญญาณจากผู้กำกับดังขึ้น เหล่านักแสดงก็เริ่มเข้าบทบาทกันทันที เริ่มจากผู้กำกับหนุ่มหล่อไฟแรงเริ่มบรรยายไปตามท้องเรื่องเกริ่นเปิดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะน่าฟัง จากนั้นก็ถึงฉากเปิดสักที ผมกับซีเนียร์รีบเดินเข้าฉาก พระเอกหรือในบทก็คือเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดนั่งคุกเข่าแล้วเริ่มร้องไห้คร่ำครวญ

“โฮ~~~~~!!! เสด็จแม่~! ไม่นะพระเจ้าค่ะ กระหม่อมไม่เชื่อ! พระองค์ยังไม่ตาย!!!”

“ฝ่าบาทระงับความเสียใจบ้างเถิด” ผมเอ่ยคำพูดแรกออกไปพยายามทำตัวนิ่งๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มเต็มที่ ซีเนียร์เงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกับทำหน้าโศกเศร้าเสียใจ แต่ทำไมผมรู้สึกว่าหน้าฮาอย่างนี้วะ? แม่ง เกือบเผลอหลุดมาดขรึม หัวเราะมันแล้วนะเนี่ย ผมเม้มปากเป็นเส้นตรงขมวดคิ้วพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้

“ท่านลอเรนซ์ เสด็จแม่มาด่วนจากไปเช่นนี้ เราควรทำอย่างไรดี?”

ครับ ในละครผมชื่อลอเรนซ์ เป็นขุนนางคนสนิทและเป็นตัวร้ายของเรื่อง!

“มิต้องทำอันใดฝ่าบาท กระหม่อมได้จัดเตรียมเอาไว้แล้ว”

พูดเสร็จผมก็ตบมือไปตามบท ซีเนียร์ก็ทำหน้างุนงงสงสัย จากนั้นเหล่านักแสดงสมทบก็เดินขบวนเข้ามาเป็นแถวซึ่งพวกเขารับบทเป็นทหารน่ะครับ

“ฝ่าบาทเตรียมพิธีสถาปนาขึ้นครองบัลลังก์เรียบร้อยแล้วพระเจ้าค่ะ”

“เห ยังเร็วไปที่จะเอ่ยเช่นนั้น เรายังไม่ได้เป็นพระราชาสักหน่อย” ผมพยักหน้ารับยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากตามบทที่เขียนไว้แล้วโบกมือปฏิเสธ ซีเนียร์ลุกขึ้นจากพื้นแล้วถามเสียงดัง

“นี่มันหมายความว่าอย่างไรท่านลอเรนซ์!?”

“ก็หมายความว่าราชินีนั้นตายก็ต้องมีคนขึ้นปกครองแทนน่ะสิ และแน่นอนคนนั้นย่อมไม่ใช่เจ้า แต่เป็นข้า! ข้า ลอเรนซ์ ผู้นี้ต่างหากล่ะ”

“คัท!!!”

ละครกำลังดำเนินไปอย่างไหลลื่น จู่ๆ ผู้กำกับก็ตะโกนสั่งคัทเสียงดังแล้วเดินดุมๆ เข้ามาหาผม กูทำอะไรผิด? เมื่อกี้พูดตามบทเป๊ะๆ แล้วนะ ซันเซ็ตส่ายหน้าไปมาอย่างไม่พอใจในการแสดงของผม มันเม้มปากมองหน้าผมด้วยสีหน้าท่าทางดูแคลนกันสุดๆ ถ้าไม่พอใจมึงมาแสดงแทนกูเถอะ กูไม่เสียดาย!

“มันไม่ได้! ลอเรนซ์ต้องเหี้ยมกว่านี้! ร้ายกาจกว่านี้! ทำหน้าให้มันเลวๆ หน่อย!!!”

ทำหน้าเลว มันทำยังไงวะ? ผมฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ของคุณผู้กำกับแล้วนิ่งไปเลย กูทำสุดความสามารถแล้วโว้ย จะให้ทำหน้าชั่วไปถึงไหน? กูชั่วได้แค่นี้ ถ้ายังไม่พอใจกูก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ซันเซ็ตทำหงุดหงิดแล้วมันก็ชี้เข้าตัวเอง

“ดูกูเป็นตัวอย่าง!”

“เออๆ” ผมกอดอกมองผู้กินกับจะแสดงเป็นตัวอย่าง ซันเซ็ตเริ่มจากท่าทางนักเลงหัวไม้

“ฝ่าบาท! หึ ระงับความเสียใจบ้างเถิด” มันพูดอย่างกับหาเรื่องชาวบ้านเขาเลย แถมยังทำตัวทุเรศ ขากถุยปานกุ๊ยข้างถนน โอ้โห ประโยคเดียวกันแต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันลิบลับ นี่สิตัวโกงที่แท้จริง! มึงมาแสดงแทนกูเลยดีกว่า ง่ายกว่าเยอะ!

“...แน่นอนคนนั้นย่อม...ไม่...ใช่...เจ้า! แต่เป็นข้า! ข้า ลอเรนซ์ผู้งดงามผู้นี้ต่างหากล่ะ ก๊ากๆๆๆ!!”

เดี๋ยวๆ ไอ้คำว่างดงามมันผุดมาจากบ่อฟะ!?

ซันเซ็ตหันมามองผมแล้วพยักหน้าชี้ให้ดูตัวอย่างจากมัน เสียงหัวเราะที่แม้แต่ตัวโกงในหนังจีนกำลังภายในยังต้องหลบทางให้ ฟังดูแล้วมันชั๊วชั่ว! คนอื่นๆ พยักหน้ามองซันเซ็ตอย่างทึ่งๆ

“โถ คำพูดเดียวกันแท้ๆ แต่ให้ความรู้สึกต่างกันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”

“หึๆ” ซันเซ็ตยิ้มกระหยิ่มรับภาคภูมิใจเอามากๆ ไม่มีท่าทางถ่อมตัวแม้แต่น้อย ซีเนียร์พยักหน้ารับ

“เออว่ะ ให้ความรู้สึกต่างกันจริงๆ อย่างกะคุณชายกับกุ๊ยข้างถนนเลย!”

“ไอ้เวร! ใครเป็นกุ๊ยวะ!!?” ซันเซ็ตที่กำลังทำหน้าภูมิใจหันขวับมามองแทบไม่ทัน มันยกขาฟาดซีเนียร์ที่หัวเราะหึๆ ในลำคอที่ได้ด่าเพื่อนอย่างสมใจอยาก คนอื่นๆ พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยอย่างแรง เดือดร้อนจนเจ้าตัวต้องตะคอกให้กลับไปประจำตำแหน่งเดิมของใครของมัน ซันเซ็ตหันมาพูดกับผม

“มึงทำได้สักครึ่งหนึ่งของกูก็ยังดีว่ะ ตามนี้นะ”

“...” เกรงว่าแค่หนึ่งในสี่กูก็ยังไม่ได้!

แล้วพวกเราก็เริ่มซ้อมกันอีกครั้ง แต่ละครั้งผมก็ถูกผู้กำกับตะโกนคัทอยู่ตลอด ผมพยายามเต็มที่แต่ก็ยังถูกไอ้ผู้กำกับเฮงซวยตะโกนแผดเสียงใส่หน้าอยู่เหมือนเดิม โว้ย! คนยิ่งรีบๆ อยู่ด้วย ผมก้มมองดูเวลาอย่างเป็นกังวล นี่มันก็ใกล้จะเย็นแล้วแต่ผมก็ยังติดแหง็กอยู่ที่นี้เหมือนเดิม ไอ้ผู้กำกับของเรื่องก็ยังจะ...

“เอาใหม่!ๆๆๆ”

“เอาใหม่โว้ยยย!”

ทำยังไงแม่งก็ไม่ถูกใจสักที ผมเองก็ชักจะอารมณ์เสียเหมือนกันนะ ซันเซ็ตเดินมาคุยกับผมด้วยสีหน้าจริงจังและเข้มเครียด อธิบายฉากต่อไปที่เป็นการต่อสู้ระหว่างพระเอกกับตัวร้ายเพื่อแย่งชิงนางเอก เป็นฉากคลาสสิกใช่ไหมล่ะครับ?

“มึงด่าใส่อารมณ์ไปเต็มที่แล้วฟันดาบไปที่ไอ้ซีเนียร์เดี๋ยวมันจะหลบ จากนั้นก็ฟันแบบนี้...”

หลังจากที่ผู้กำกับอธิบายทุกอย่างเสร็จ ก็เริ่มซักซ้อมการแสดงแบบปลอมๆ กันไปก่อน เพราะพระเอกผู้ไม่มีความกระตือรือร้นใดๆ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ผมจึงต้องซ้อมฟันดายกับซันเซ็ตไปพลางๆ 

“เอาล่ะ อย่างที่กูบอก ทำหน้าดูถูกแล้วด่าใส่กูเต็มที่เลยนะ เอ้า เริ่มเลย”

“กากเดนหน้าโง่ๆ! อย่างเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้ ยังใจกล้าเสนอหน้ามาที่นี้อีก อยากตายนักข้าก็จะทำให้สมหวัง หึๆ ตายซะเถอะ!!!” ผมตะโกนเสียงดังตามบทแล้วเหวี่ยงไม้ในมือที่ติงต่างว่าเป็นดาบใส่ซันเซ็ตที่ยืนเอ๋อ มันโดนผมฟาดใส่เต็มเหนี่ยว เฮ้ย! ทำไมมึงไม่หลบวะ!? คุณผู้กำกับหงายล้มไปกับพื้นเล่นเอาคนอื่นๆ วิ่งเข้ามาดูอาการ

“กูไม่เป็นไรโว้ย แค่ตกใจเฉยๆ!” ซันเซ็ตรีบลุกขึ้นมาแล้วโบกไม้โบกมือไล่คนที่เข้าไปมุงออกห่างจากมัน จากนั้นมันก็หันมาหาผมเหมือนกับคนอื่นๆ ที่มองผมอย่างแปลกใจ อะไรงั้นเหรอ? พอซีเนียร์เดินเข้ามาผมก็เปลี่ยนไปซ้อมกับพระเอกของเรื่อง ผู้กำกับตะโกนเริ่ม ผมก็ขมวดคิ้วนิ่วหน้าตะโกนเสียงดัง

“กากเดนหน้าโง่ๆ อย่างเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้ ยังใจกล้าเสนอหน้ามาที่นี้อีก อยากตายนักข้าก็จะทำให้สมหวัง ตายซะเถอะ!”

“คัท!” เสียงผู้กำกับดังขึ้นขัดทำให้ทุกคนหยุดการเคลื่อนไหว ซันเซ็ตขมวดคิ้วแล้วเดินเข้ามาแทรกระหว่างผมกับซีเนียร์ มันมองผมนิดหน่อย

“เอาแบบซ้อมเมื่อกี้สิวะ ไอ้เมื่อกี้อย่างกับจะเอาไม้จิ้มฟันไปจิ้มพุงมันเล่นแน่ะ ไม่มีความหนักแน่นเหมือนที่ซ้อมกับกูเลย อีกรอบๆ!”

“กากเดนหน้าโง่ๆ อย่างเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้ ยังใจกล้าเสนอหน้ามาที่นี้อีก อยากตายนักข้าก็จะทำให้สมหวัง ตายซะเถอะ!”

“คัททททท! อีกรอบบบบ!”

“กากเดนหน้าโง่ๆ อย่างเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้ ยังใจกล้าเสนอหน้ามาที่นี้อีก อยากตายนักข้าก็จะทำให้สมหวัง ตายซะเถอะ!”

ผู้กำกับสั่งคัทแล้วคัทอีก ผมก็พูดจนเสียงแหบเสียงแห้ง โว้ยยยย! เมื่อไรจะผ่านสักทีโว้ย!!?

“กากเดนหน้าโง่ๆ อย่างเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้ ยังใจกล้าเสนอหน้ามาที่นี้อีก...”

“คัทโว้ยยยยย!!!”

“ไหน! มึงลองพูดอีกรอบสิ!” ซันเซ็ตเดินเข้ามาเป็นรอบที่ร้อยแล้วให้ผมฝึกพูดบท ผมมองหน้ามันแล้วขมวดคิ้วนิ่วหน้า แม่ง ไม่ให้กูผ่านสักที ห่านิ มึงจะทำละครเวทีระดับโลกเลยหรือไงวะ!? จะอะไรนักกับกูเนี่ย! ถ้ามันยุ่งยากขนาดนี้ส่งกูไปเป็นเด็กหลังฉากแบบมอตโตเฮอะ! ผมสูดลมแล้วกัดฟันพูดออกไปอีกรอบพร้อมกับถลึงตาจ้องหน้าไอ้ผู้กำกับเรื่องมากเขม็งเหมือนจะหาเรื่อง

“กากเดนหน้าโง่ๆ!!! อย่างเจ้าจะมีปัญญาทำอะไรข้าได้ ยังใจกล้าเสนอหน้ามาที่นี้อีก อยากตายนักข้าก็จะทำให้สมหวัง หึๆ ตายซะเถอะ!!! พอใจหรือยังวะไอ้ห่าซันเซ็ต!!!?”

“...ผ่าน” ซันเซ็ตที่ถูกตะโกนตอกหน้าสะดุ้งโหยงแล้วรีบโบกมือให้ผ่านทันที ผมทำเสียงขึ้นจมูก กว่าจะผ่านต้องให้กูโมโหก่อนตลอด! ก่อนที่จะเดินแยกย้ายกันไปผมก็หันไปพูดกับผู้กำกับอย่างห้วนๆ

“เฮ้ย วันนี้กูมีธุระ จะซ้อมก็รีบซ้อม”

“ไม่มีปัญหา...ไอ้พวกซื่อบื้อ!!! มัวแต่นั่งอยู่นั้นแหละ รีบๆ เข้ามาซ้อมจะได้เสร็จเร็วๆ! คุณเนรัญเขามีธุระโว้ยยย”

ผมยืนมองซันเซ็ตที่เดินไปเตะเหล่านักแสดงที่นั่งพักกันอยู่แล้วตะโกนบอกอย่างเคร่งเครียด ซีเนียร์มองหน้าผมแล้วก็ลุกขึ้นเดินมาเตรียมซ้อม ส่วนคนอื่นๆ พากันส่ายหน้าหัวเราะคิกคักกับท่าทางรนๆ ของผู้กำกับ เฮ้ย กูรีบจริงๆ นะโว้ย ยังจะมานั่งกินนมปั่นเม้าธ์มอยสบายใจอยู่อีก ไอ้พวกนี้นี่ อาทิตย์นี้ยิ่งเครียดๆ และอารมณ์เสียง่ายๆ อยู่ด้วย หน้าของผมที่เพียรพยายามรักษาความเรียบเฉยเอาไว้ก็เริ่มลงเหวไปเรื่อยๆ

“เร็วๆ สิโว้ย!!!”

“...อะไรเล่า จะรีบทำไม รัญมีธุระนี่ ไม่ใช่พวกเราสักหน่อยที่มี เนอะๆ”

“กู...จะ...กลับ...แล้ว” ผมพูดออกมาอย่างช้าๆ แล้วเดินไปหยิบกระเป๋ายัดไอ้บทงี่เง่าใส่เข้าไปแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจกับปฏิกิริยาท่าทางของเหล่าเพื่อนๆ ที่ตกอกตกใจ ซันเซ็ตตะโกนตามหลังมา

“ไอ้รัญ! พวกนั้นแค่ล้อเล่นเอง”

“ก่อนจะล้อเล่นช่วยดูหน้ากูด้วย” ผมหันกลับมาพูดเสียงเรียบๆ ก่อนจะหันกลับไปเดินต่อ พวกเพื่อนๆ เงียบกริบไม่มีใครพูดอะไรตามหลังผมมาเลยสักคนเดียว







คนยิ่งเครียดๆ กันอยู่ยังจะมาทำให้อารมณ์เสียอีก เนอะรัญ!?
ไม่รู้หรือไงว่าการเผชิญหน้ากับเฮดีสมันต้องเครียดขนาดไหน!
อ๊ะ ตอนหน้าถึงคราวเฮดีสมาแบบเต็มๆ ตัวแล้วล่ะ!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2013 15:09:48 โดย lie-boy »

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
คิดถึงเฮดีสแล้วง่ะ :man1:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
อ๊ากกก
เนรัญขึ้นแล้วนะทุกคนนน
ทำไมทำตัวกันแบบนี้ 55555
ตอนหน้าเฮียมาแล้ว แต่ไม่รู้จะมารูปแบบไหนนี่สิ เง้ออ

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
 :m20:  เพื่อนๆ แอบช็อคกันอ่ะดิ๊    o18


เย้เย่   เฮียเฮดีสจะมาแล้วววววววววววววววววววววววววววว    :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
นั่นไง น้องเนเน่ของขึ้นซะแล้ว o3 o3
ตอนหน้าเฮียจะโผล่แล้ว คิดถึงจัง :man1: :man1:

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
รัญตอนโกรธน่ากลัวมากกกกอะ คนเงียบๆแบบนี้โหดสุด

ออฟไลน์ พิรุณสีเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ในที่สุดคนเขียนก็เก็บตังค์มาจ่ายค่าตัวเฮียเฮดีสครบแล้วววว  :mc4: :mc4:

น้องเนเน่โมโหแล้วน่ากลัวนะคะเนี๊ย ดูๆ ไว้นะคะอิคุณพี่เฮดีส ถ้ายังทำตัวแบบนี้ระวังเจอเนเน่โหมดนี้เข้านะ
ส่วนเรื่องพี่ไนซ์แลดูดราม่าเล็กๆ งืออออ สงสารน้องหนูไมนอส

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
หึงงง แล้วพาลลลล  :angry2: :angry2: :m31:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
รัญเครียดดดด !!!!

 o22 o22

MangoBlue

  • บุคคลทั่วไป
หนูรัญโกธรด้วยอะ!!! พยายามนึกหน้าตอนหนูโกธรอยู่นะ55555

ป.ล.พี่เฮดีสค่าตัวแพงเหมือนเดิม โผล่มาแค่ชื่อเองอะ รอตอนหน้าค่าาา อยากเจอเฮียแกเต็มๆ

 :laugh:

ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
เนรัญอนาคตหึงโหด เฮดีสงานงอกแน่

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อย่างฮาอะ คิดได้งัยให้เนรัญเป็นตัวร้ายอะ

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
รัญเริ่มหึง เริ่มหวง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เนเน่น่าจะเอาอารมณ์โกรธ ๆ แบบนี้ไปใช้กับพี่เฮดีสบ้าง เผื่อจะหงอ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ไอ้พี่เฮดีส ทำเป็นหลบหน้าหลบตา อย่าให้เจอนะ  :m16:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
หนูรัญน่ากลัวแท้ๆ โกรธทีนี่วงแตกชัวร์
คิดถึงเฮียเฮดีสอะ ค่าตัวแพงไปป่าวว บู่~ ;3;

ออฟไลน์ MaiSwifties

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รันรันเริ่มหลุด  :laugh:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
หนูรัญวีนแตกกกกก

Violet Rose

  • บุคคลทั่วไป
เนเน่จังโกรธแว้วๆๆๆๆๆ  :m31: :m31: :m31: :m31: :m31:

ออฟไลน์ iyng1338

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
กะเฮดีส ทำให้ได้อย่างนี้มั่งสิ!

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
นู๋เนเน่มาดโหดก็ยังน่ารัก >////<

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
เราเตือนคุณแล้วเนอะรัญเนอะ


 :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด