♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]  (อ่าน 1088821 ครั้ง)

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
เห้ยยย ห้ามขี้เกียจนะ  :angry2: :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:   ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

ออฟไลน์ na_near

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 971
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
นู่รัยจะกลายเป็นเครื่องสังเวยหรือไม่?
ต้องรอตอนต่อไป :katai1:

MangoBlue

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่คู่นี้เขาจะหวานกันบ้างหนอ :katai1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
โหดเกินไปเปล่า เนเน่กลัวจนตัวสั่น

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
งื้อ ตัดตอนได้ค้างคามาก
รอจ้า

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
พี่ยู นี่เจ๋งงงงง  o13 


ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
สงสารน้องเนเน่

ถูกส่งมาบรรณาการ  :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ yokerohz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องรัญลากพี่เฮดีสเข้าวัดเลยค่ะ

 o13 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
หายไปนานเลยอ้าาา :o12:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
ส่งเนื้อเข้าปากสิงโต.....

ขอให้โชคดีนะหนูรัญ.................

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
เข้ามาดูถุกวันเลยยย ย รอหนูรัญเจอ เฮดิส

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 728
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เอิ้ววววว เป็นไงต่อทีนี้ ตามมม  :hao7:

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงง    :katai1:

สนุกมาก  รอๆ ติดตาม  :katai4:

มาต่อไวๆนะ


ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
เริ่มนานไปแล้ว...












นิยายไม่ใช่กิมจินะคะถึงจะได้ดองไว้แรมปีแล้วค่อยกิน 













 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ dark-soleil

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ฮือออออ คิดถึงเนเน่อ้ะ คนเขียน!!!!! :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ยังไม่มาอีกหรอเดือนนี้เรารอนานแล้วน้าาาาาาาาาาาาาาาา :serius2: :serius2:

รีบๆมาเลยไม่งั้นเราจะ......................จะ...................

จะ...........................
.

.

.

.

รอต่อไป  :เฮ้อ:



ออฟไลน์ HoMoSiS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ขอ NC  ณ ฉากนี้เจ้าค่าาาา  :hao6:

tippy

  • บุคคลทั่วไป
ชอบอ่ะ เนื่อเรื่อง าษาการเขียน สนุกดี แต่จะดีกว่านี้ถ้าคนแต่งมาต่อให้ไวเลยนะ ขอร้องงงงงงงงงงงงงง  :call: :call:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






yuyuhaku

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาจากเด็กดี รออยู่นะคะ มันสนุกดีอ่ะชอบเนรัญ

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
มารอตอนต่อไปครับผม

ออฟไลน์ nnA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
รอคนแต่งมาแต่งต่อ

รออ่านนะจ๊ะ

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy


สุดขั้ว 13

พี่เฮดีสหันกลับ ไม่สนใจ ท่าทางไร้เยื่อขาดใยแบบนั้นกลับทำให้ผมฉุนกึกในใจ อุตส่าห์เป็นห่วง ดูท่าความเป็นห่วงของผมท่าจะเป็นหมันซะแล้ว เฮ้อ! มานั่งจิบเหล้าสบายอกสบายใจแบบนี้ คงไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้ง? ผมเม้มปากก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ไม่เต็มใจเท่าไร ในห้องมีโซฟากำมะหยี่สีแดงซึ่งถูกพี่เฮดีสจับจองไปแล้ว กับโต๊ะที่วางเครื่องดื่มสารพัด นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรเลย แถมห้องยังมีสีทึมๆ มืดมัว โธ่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์! ห้องนี้เหมือนห้องลงทัณฑ์พิจารณาโทษอะไรเถือกนั้น หรือผมคิดฟุ้งซ่านไปเอง? ผมยืนเงอะงะทำอะไรไม่ถูก ไม่นานผมก็ชำเหลืองสายตาไปมองมนุษย์อีกคน เพื่อให้แน่ใจว่าผมไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียว

จ้อก... ในห้องเงียบ มีเพียงเสียงน้ำสีอำพันไหลจากปากขวดลงสู่แก้ว นี่มันเกินกว่าจะเรียกว่าอึดอัดแล้ว! ตัวผมไม่กล้าแม้จะเปิดปากพูดก่อน เพราะเกรงว่าจะทำให้ใครบางคนไม่พอใจ ผมยืนมองเขาอย่างครุ่นคิด ท่าทางนิ่งเงียบแบบนี้เล่นเอาผมทำอะไรไม่ถูก ถึงในตอนแรกที่เจอกันเขาจะไม่พูดอะไร แต่มันไม่เหมือนตอนนี้เลยสักนิด เพราะตอนนั้นเขาไม่พูดก็ยังมีปฏิกิริยาตอบกลับมาบ้าง แต่นี่เล่นทำให้คนอื่นเป็นอณูธาตุเป็นอากาศ มันก็ต้องเสียเซลฟ์เป็นธรรมดา ผมถอนหายใจเบาๆ ระบายความคับข้องใจ

ลองคิดทบทวนคำพูดพี่ยู ประมวลคำขอร้องของพี่ไนซ์อยู่นาน ก่อนจะกลั้นใจเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา กำมะหยี่นุ่มนิ่มก้น นั่งชิดขนาดแขนชนแขน พี่เฮดีสที่กำลังยกแก้วจิบเหลียวมามองหน่อยๆ หน้านิ่งสนิทอย่างกับเอาเตารีดทับครั้งแล้วครั้งเล่า ท่าทางไม่แปลกใจกับพฤติกรรมไม่กลัวตายดังกล่าว หัวใจของผมเต้นตุ้บๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวอีกฝ่ายด่าหรือเป็นเพราะกลิ่นหอมบางๆ ชวนวาบหวิวจากคนข้างๆ กันแน่? ผมค่อยๆ รวบรวมกำลังใจเงยหน้ามองไปที่เขา

“ผมชอบนั่งโซฟากำมะหยี่ มันนุ่นดี”

ผมร้องเสียงหลงในใจ อยากจะโขกหัวตัวเองสักร้อยครั้งกับข้ออ้างแสนห่วยแตกนี้! นี่ผมไปกินใจหมีที่ไหนมาถึงได้มีความกล้าผิดปกติแบบนี้ได้? งงตัวเองจริงๆ! พี่เฮดีสไม่พูดอะไร ขยับห่างไปเงียบๆ ผมเม้มปากมองท่าทางไม่อินังข้างขอบนั้นยิ่งรู้สึกฮึดหนักกว่าเดิม ผมขยับตามไปแบบไม่กลัวตาย เขาชะงักกึกแล้วขยับตัวออกห่างอีก ผมก็ขยับตามไปไม่ลดละ คราวนี้เขาขยับไปนั่งชิดขอบโซฟาเลยทีเดียว อะไรของพี่คนนี้กันนะ? รังเกียจกันจัง! ขนาดนอนร่วมเตียงกันมาแล้ว แค่นั่งใกล้แค่นี้จะเป็นอะไรไป? ด้วยความรู้สึกไม่พอใจที่ผุดขึ้นมาหนึ่งขุม ผมเขยิบพาตัวเข้าไปใกล้อีกครั้ง เขาหันมาจ้องผมเขม็ง อ้าปากจะต่อว่าแต่ผมรีบชิงแก้ตัวเสียก่อน

“ตรงนั้นอากาศเย็นน่ะครับ!”

เสร็จกัน! ข้อแก้ตัวนี้มันห่วยยิ่งกว่าตอนแรกเสียอีก!

พี่เฮดีสจ้องผมนานมากเหมือนกำลังคิดหาคำพูด ทางผมพยายามที่ขึงตาตอบไม่ยอมแพ้ พี่เฮดีสถึงกับเผลอหลุดอาการงุนงง แสดงความสับสนว้าวุ่นออกมาทางสายตา ก่อนที่จะค่อยๆ ดำดิ่งลับไปในห้วงสีเข้มของดวงตา อะไรบางอย่างในแววตานั้นทำให้ผมรู้สึกหวั่นไหว หน้าร้อนวูบต้องหลบสายตาออกมาก่อน อะไรกันน่ะ? ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก มือไม้เกะกะแทบจะพันกันอยู่แล้ว โอ๊ย แย่ขนาดหนักเลยครับ เสียงหัวใจเต้นดังตุ้บๆ อย่างกับมันออกมาเต้นข้างหู ฮือ จะเสียงดังไปไหนกันวะ!?

พี่เฮดีสเซสายตากลับไปเติมเครื่องดื่มในแก้วแล้วนั่งจิบเงียบๆ ผมจึงสงบจิตใจที่แตกซ่านค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ เฮ้อ เกือบไปแล้วสิ ผมนั่งถอนหายใจโล่งหันไปมองเพื่อนร่วมห้อง นี่เขาจะไม่พูดอะไรกับผมเลยหรือไง? ตั้งแต่ตอนนั้นมา เขาก็ไม่เคยพูดกับผมสักคำทั้งๆ ที่ก็พูดกับพี่ยู หรือแม้กระทั่งคนอื่นๆ เป็นปกติ แต่ทำไมถึงมีแต่ผมที่เขาไม่พูดด้วยล่ะ? ระหว่างที่ผมกำลังขบคิดเรื่อยเปื่อย ก็ถูกสายตาที่จับจ้องแน่วแน่คู่นั้นทำให้หลุดจากภวังค์ ผมกะพริบตาปริบๆ เอียงหน้าแล้วยิ้มนิดๆ

“มีอะไรเหรอครับ?”

แม้แต่ขนคิ้วของเขาก็ไม่ขยับตอบแม้แต่เส้นเดียว เอาเถอะ ผมชักจะชินกับอาการนิ่งของเขาซะแล้วล่ะ พี่เฮดีสจ้องมองผมไม่ละสายตา เขายกแก้วขึ้นจิบอย่างใจเย็น เอ่อ...ผมไม่ใช่กับแกล้มของพี่นะครับ การถูกจ้องไม่วางตาแบบนี้มันทำให้รู้สึกอึดอัด จะพูดอะไรก็ไม่พูดเอาแต่จ้องอยู่ได้ แก้วว่างเปล่า เขาถึงผละสายตาจากไป ผมรีบฉวยโอกาสสร้างผลงาน รีบชิงขวดเครื่องดื่มที่มือของเขากำลังคว้ามาถือไว้

“เดี๋ยวผมเติมให้”

รู้สึกดีนิดหน่อยที่เขาไม่ปฏิเสธ ผมรีบเติมเครื่องดื่มและส่งแก้วไปให้เจ้าของ พี่เฮดีสนิ่งไม่ขยับมารับ ผมถือค้างไว้นานสองนาน อีกฝ่ายก็ไม่มีวี่แววว่าจะรับแก้วไปจากผมเลยสักนิด แล้วผมก็วางแก้วในมือไว้บนโต๊ะ แอบมองซีกหน้าหล่อเหลาของเขาด้วยความเคลือบแคลงใจ

“มีธุระอะไร?” เขาถามเสียงห้วนสั้น จับความรู้สึกโกรธคุโชนได้เป็นอย่างดี

นี่ผมถูกเขาโกรธอยู่หรือเปล่า? มาคิดดูแล้ว ผมกับพี่เฮดีสรู้จักกันไม่นานเท่าไร แต่ดูสิ่งที่ผมทำลงไปสิครับ คิดแล้วก็รู้สึกอับอายขายขี้หน้า อยากจะมุดลงดินให้รู้แล้วรู้รอด ผมนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ ความรู้สึกช้าไปไหน? เรื่องส่วนตัวแบบนั้นใครบ้างที่จะไม่โมโหหรือโกรธ? ถ้าเป็นผมถึงไม่โกรธก็ต้องมีชักสีหน้าบ้างล่ะ ผมยอมรับตัวเองด้วยอารมณ์หดหู่

“ขอโทษนะครับ” ผมเอ่ยเบาๆ แสดงออกทั้งสีหน้าและท่าทางว่ารู้สึกผิดจริงๆ ที่เข้าไปยุ่งวุ่นวายโดยไม่เจียมตัวว่าตัวเองเป็นใคร ผมสำนึกผิดแล้วเพราะฉะนั้นขอร้องล่ะ พูดกับผมหน่อยเถอะ! ผมจ้องพี่เฮดีสละห้อยเพื่อสื่อว่าตัวผมรู้สึกผิดแค่ไหนที่ไม่ทันได้คิดถึงความรู้สึกของเขา ฮือ...ยกโทษให้ผมเถอะครับ!

พี่เฮดีสยิ่งทำหน้าถมึงทึงกว่าเก่า หนำซ้ำยังจ้องเขม็งระแวงตัวแจ

“ผมรู้สึกผิดจริงๆ ขอโทษที่เข้าไปยุ่งย่ามกับเรื่องส่วนตัวของพี่ ยกโทษให้ผมเถอะนะ!” ผมไม่ยอมแพ้ เอ่ยคำขอโทษไปอีกครั้ง พยายามขอคืนดี(ที่ไม่รู้ว่าพวกเราเคยดีกันตอนไหน) แต่ไม่รู้ทำไมบรรยากาศดูเหมือนจะแย่ลงกว่าเดิมอีก พี่เฮดีสทำท่าหวาดระแวงเหมือนแมวที่ขนลุกชันเต็มไปด้วยความระวังจากศัตรู คือ...ผมไม่ได้จะมาไม้ไหนเลยนะ ผมขอโทษจากใจจริงๆ! เห็นอีกฝ่ายไม่ไว้ใจขนาดนั้นผมก็รู้สึกเพลียหัวใจ

ผมก้มหน้าเงียบ มองมือที่วางไว้บนตัก ก็นะ เขาคงจะไม่ยกโทษให้ผมง่ายๆ เพียงแค่พูดคำขอโทษหรอก เกิดความเงียบของห้วงอวกาศคั่นกลางระหว่างเราสองคน ผมกัดริมฝีปากเบาๆ โธ่เอ๊ย ทำไมผมรู้สึกเสียใจกับท่าทางไม่ไว้ใจของเขาด้วยวะ มันก็สมควรแล้วล่ะ ดันไปทำอะไรบ้าๆ แบบนั้น ไอ้รัญมึงนี่มัน...เบอะจริงๆ! ผมพร่ำโทษตัวเองอยู่ในใจ หือ? เมื่อกี้เหมือนผมได้ยินเสียงคนข้างๆ นะ? ผมเงยหน้าแล้วตกใจแทบจะกลั้นหายใจ ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของเขาอยู่ใกล้แบบไม่รู้ตัว

“...เอ่อ...เมื่อกี้ว่าอะไรนะครับ?” ผมพยายามทำใจแข็งเอ่ยถามอีกฝ่ายอย่างยากเย็น เสียงที่หลุดออกไปนั้นแผ่วเบาและสั่นไหว หัวใจเริ่มหวั่นๆ เพราะความหล่อชวนหวั่นไหวอยู่ใกล้แค่นี้เอง มากขนาดปลายจมูกชนกันเลยล่ะ ตอนหันมาผมตกใจสติสตางค์ตีลังกาหลายตลบ ผมหรุบตาลงต่ำ ไม่มีความกล้าที่จะมองหน้าหรือตาของเขา

ผมยิ่งนั่งตัวแข็งทื่อเมื่อพี่เฮดีสค่อยๆ ก้มหน้าลงมาชิด อ๊ากกก! ก้มลงทำไมครับ!? จะใกล้กันเกินไปแล้ว! ลมหายใจร้อนระอุของเขาทำให้ผมขนลุกเกรียว หัวใจเจ้ากรรมเต้นโครมครามหมุนติ้วอย่างกับนักกีฬายิมนาสติกหมุนตัวบนบาร์ ร่างกายผมสั่นสะท้าน ทั้งตื่นกลัวและตื่นเต้น สมองพลันนึกไปถึงเหตุการณ์วาบหวิวแสนเร่าร้อน ผมใช้ลิ้นเปียกชื้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก ดวงตาดุเข้มขึ้นหรี่ลงมาจับจ้อง รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นเหยื่อผู้โง่งมที่ถูกดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นตรึงร่างเอาไว้อยู่กับที่ มือขนาดใหญ่ยกขึ้นมาเขาใช้นิ้วเรียวยาวจิ้มหน้าผากของผมเบาๆ น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้น

“เจ้าโง่”

ผมกะพริบตาทำหน้างง อะไรนะ? เจ้าโง่งั้นเหรอ? คำพูดแรกคือเจ้าโง่อีกแล้ว! ผมไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี? ดีใจอยู่หรอกที่เขาพูดด้วยแต่ไอ้คำพูดที่พูดออกมานี่สิ มันชวนเศร้ายังไงไม่รู้สิ? 

“ทำหน้าตลกชะมัด” พี่เฮดีสพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ เขาเตรียมนิ้วหมายจะดีดหน้าผากของผม ผมรีบหลับตาปี๋ทันที

แทนที่จะรู้สึกเจ็บที่หน้าผาก แต่กลับรู้สึกขนลุกวาบกับสัมผัสลูบไล้แผ่วเบานุ่มนวลบริเวณข้างใบหน้า มันชวนจั๊กจี้และรู้สึกวูบวาบแปลกๆ ตอนนี้หัวใจของผมเต้นรัวจนเจ็บคับอกอย่างกับเป็นคนเป็นโรคร้าย ไม่ไหวแล้ว! ผมรู้สึกเวียนหัว อยากจะสลบให้มันรู้แล้วรู้รอด มือสากขนาดใหญ่ลูบไล้ใบหน้าของผมแล้วทาบฝ่ามือร้อนผ่าวนาบแก้ม ออกแรงดึงเล็กน้อย

ผมซึ่งหลับตาอยู่ไม่กล้าแม้จะลืมตาขึ้นมาเลยล่ะครับ การที่มองไม่เห็นภาพมันทำให้ผมรู้สึกกลัวและที่มากกว่าความกลัว มันคือความตื่นเต้น คิดแล้วอยากจะกรีดร้อง ผมจะตื่นเต้นบ้าอะไรกัน! รีบลืมตาแล้วผลักผู้ชายคนนี้ออกไปสักที ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรหรอกแต่มันไม่ควรจะเกิดเหตุการณ์บ้าบอนี้ระหว่างผู้ชายสองคน ถึงมันจะไม่ใช่สิ่งที่สมองบรรจุขี้เลื้อยของผมจินตนาการไปไกลก็เถอะ แต่แบบนี้มันชวนให้เข้าใจผิดได้ง่ายเลยนะ คนหนึ่งหลับตาพริ้ม(ถึงหลับตาเพราะความกลัวก็เถอะ) อีกคนมือทาบใบหน้าและดึงเข้าหาตัวเอง ท่าทางแบบนี้ถ้าคนอื่นเข้ามาเห็นเป็นต้องเข้าใจผิดทุกรายแน่!

การไม่เห็นทำให้สัมผัสด้านอื่นๆ ของผมดีกว่าปกติ หูได้ยินเสียงสวบสาบของเนื้อผ้า เหงื่อยิ่งผุดไหลพราก ผิวหน้าต้องลมหายใจร้อนระอุที่รดระรินชวนวูบวาบ ยิ่งภาพในสมองที่เกิดขึ้นด้วยความเพ้อเจ้อผมก็รู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนผ่าวอย่างกับเตาไฟ โอ๊ยยยย!!! จะทำอะไรก็ทำเถอะครับ ตอนนี้ผมมึนงงไปหมดแล้ว อยากให้มันจบๆ  ไปสักที เหมือนตัวเองพร้อมจะเป็นลมอยู่ทุกเมื่อ แข้งขาไร้เรี่ยวแรง อ่อนระทวยไปหมดแล้ว!

ผมแทบจะหยุดหายใจ เมื่อรู้สึกถึงสิ่งหยุ่นนุ่มสัมผัสริมฝีปากของตัวเอง มันปัดผ่านเฉียดเลยไป หัวใจที่เจ็บปวดเพราะเต้นรัวแรงพลันระเบิดดังตูม พี่เฮดีสจูบผม!? ร่างกายเหมือนกรีดร้องด้วยเสียงแปดหลอด รู้สึกประหม่าสุดขีด รู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังกลั้นหายใจอยู่จึงรีบสูดอากาศเฮือก แต่แล้วอาการมึนงงก็เข้าโจมตี เพราะฝ่ามือขนาดใหญ่เคลื่อนมาบีบคางของผมอย่างแรง ลมหายใจร้อนระอุที่เคยผินผิวหน้าก็หายไป

แอร๊ยยย มันเจ็บนะครับ!

“ง่วงก็กลับไปนอนซะ” เสียงเย็นเยียบเอ่ยขึ้นแล้วสะบัดมือปล่อยคางของผมเป็นอิสระ ผมรีบลืมตาขึ้นมาแตะคางของตัวเอง น้ำตาคลอ รู้ตัวดีว่าไม่ได้เจ็บขนาดที่ต้องร้องไห้แต่ไอ้น้ำตานี่มาได้ยังไงผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้สึกสมเพชตัวเองนิดหน่อยที่วูบหนึ่งคาดหวังอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ความผิดหวังและความอับอายกำลังโจมตีเข้าสู่กลางหัวใจ ทำเอาผมรู้สึกหมดเรี่ยวแรงจะเงยหน้าขึ้นเผชิญหน้ากับความเป็นจริง สับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ มันเหมือนได้ขึ้นสู่ที่สูงยังไม่ทันได้สำรวจภาพงดงามจากข้างบนก็หล่นร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว

เสียงแก้วกระทบดึงความสนใจให้ผมหันไปมอง พี่เฮดีสวางแก้วเปล่าในมือไว้บนโต๊ะกระจกเบื้องหน้าและไม่ขยับเคลื่อนตัวใดๆ อีก ผมจ้องมองแก้วที่ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนเติมและวางเอาไว้ นี่เขาหยิบมันขึ้นไปดื่มงั้นเหรอ? ตาชำเหลืองมองคนนั่งข้างๆ ที่นั่งเงียบงันไม่พูดหรือขยับ ใบหน้าหล่อเหลาประหนึ่งเป็นภาพวาดหรือรูปปั้นชั้นเลิศ หน้านิ่งไร้อารมณ์ ยิ่งมองมากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกว่าตอนเขาเกิด พระเจ้าคงจะตั้งใจสร้างสรรค์คัดแต่ส่วนดีๆ ให้เขาแน่ ขนาดทำหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึกก็ยิ่งชวนให้น่าคลั่งไคล้หลงใหล หล่อ! หล่อเกินไปแล้ว! คนไทยแท้หรือเปล่า? ดูยังไงก็ไม่เหมือนเลย ให้ตายเถอะ!

“พวกพี่มาร้านนี้ประจำเหรอครับ?”

ผมข่มใจเก็บความรู้สึกใส่ลงไปในลิ้นชักที่ลึกสุด ก่อนจะเอื้อมมือหยิบขวดสีใสรินเติมใส่แก้วที่ว่างเปล่า แป๊บเดียวก็เต็มเหมือนเดิมเพราะแก้วยกสูงแบบนี้บรรจุได้น้อย ผมเอ่ยถามเพื่อคลายบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างผมกับพี่เฮดีส เขาพยักหน้าและตอบสั้นๆ

“ที่นี้เงียบ ไม่วุ่นวาย”

งั้นเหรอ เขาไม่ชอบความวุ่นวายสินะ? ข้อมูลที่ได้มาไม่ทำให้ผมแปลกใจเลยสักนิดและอดที่จะแย้มยิ้มเล็กๆ ออกมาไม่ได้ ว้า นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย? แค่นี้ก็ดีใจแล้วงั้นเหรอ? มักน้อยไปหรือเปล่านะเรา? แต่ก็ยอมรับเรื่องหนึ่งล่ะว่าผมสนใจเรื่องของเขาคนนี้เอามากๆ มันเป็นความอยากรู้อยากเห็นอันน่าสมเพชของมนุษย์สินะ

“นี่คืออะไรเหรอครับ?”

ผมมองขวดในมืออย่างสงสัย สูดจมูกฟุดฟิด กลิ่นมันหอมๆ ขวดนี้ที่พี่เฮดีสกำลังดื่มอยู่ถูกแช่อย่างเย็นจัดในถังน้ำแข็งก้อน ผมวางขวดไว้ที่เดิมแล้วหันมาถามด้วยความอยากรู้ จะว่าไปบนโต๊ะมีขวดเครื่องดื่มวางไว้เยอะแยะเลย ทั้งขวดทรงกลม ทรงเหลี่ยม ขวดเล็ก ขวดใหญ่ ซึ่งผมไม่รู้จักสักขวด แถมแต่ละขวดก็เป็นภาษาต่างประเทศทั้งนั้นเลย อ่านไม่รู้เรื่อง

“ยิน” พี่เฮดีสตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ เขาตวัดสายตามามองผมแวบหนึ่งแล้วหันไปสนใจแก้วในมือ ผมพยักหน้ารับ

ยิน? อืม จำได้คับคล้ายคับคลาครั้งหนึ่งพี่เฮดีสก็เคยดื่มอะไรที่ขึ้นต้นว่ายินเหมือนกัน อืม อะไรนะ? ผมขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สักพักถึงจำได้ อ้อ ยินแอนด์โทนิค! แล้วมันต่างจากยินตรงไหนกัน? เออ ช่างเถอะ ผมหันมามองพี่เฮดีสระหว่างที่เขานั่งจิบยินไปเรื่อยๆ ผมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ นิ้วเรียวยาวของเขาดีดเป็นจังหวะบนขอบปากแก้ว ถ้าเดาไม่ผิดผมคิดว่าตอนนี้พี่เฮดีสกำลังอารมณ์ดีเชียวล่ะ!

นั่งจ้องคนข้างๆ อยู่นานสองนาน ยิ่งดูก็ยิ่งต้องยอมรับว่าเขาคนนี้เหมือนหลุดมาจากภาพวาดไม่มีผิด เจริญหูเจริญตาเป็นบ้า เฮ้อ! ทำไมถึงได้ดูดีแบบนี้นะ? ผมมองเขาค้างไม่กะพริบตา รู้สึกตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นแล้วล่ะว่าเขาช่างเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาอย่างร้ายกาจจริงๆ ขนาดผมเป็นผู้ชายเหมือนกันยังอดที่จะมองแล้วมองอีกไม่ได้เลย นี่ถ้าเปลี่ยนเป็นสาวๆ ล่ะก็คงจะยอมสยบแทบเท้าแน่ๆ คิดนั้นคิดนี้จนกระทั่งผมคิดถึงวันสุดท้ายที่กลับมาจากโรงพยาบาลวันนั้นขึ้นมา ผมขยับตัวแล้วโพล่งถามไปไม่มีเกริ่นแม้แต่น้อย

“วันนั้นที่พี่บอกผมว่า ‘โชคดี’ มันหมายความว่ายังไงเหรอครับ?”

พอหลุดปากถามออกไปแบบไม่ทันได้คิดล่วงหน้าไว้ มันทำให้ผมแทบอยากจะชกตัวเองสักครั้ง บรรยากาศที่เริ่มดีขึ้นกลับมาเยือกเย็นในพริบตา แย่แล้ว! สัญญาณเตือนภัยดังหวอขึ้นมา เห็นใบหน้าที่แข็งกระด้างของพี่เฮดีส ผมก็รู้ว่าตัวเองได้เผลอถอดสลักระเบิดไปแบบไม่รู้ตัวเรียบร้อยแล้ว รอแค่ให้มันระเบิดตูมเท่านั้น

พี่เฮดีสเงียบไม่ตอบ ดวงตาสีดำเข้มคล้ายๆ เลื่อนลอย ผมจับจ้องปฏิกิริยาของเขาด้วยหัวใจที่เต้นตูมตาม ผมเม้มปากแน่นเกร็งตัวรอเสียงแผดร้องด้วยโทสะของอีกฝ่าย แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมจึงค่อยๆ คลายความหวาดหวั่นลง ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ในลำคอ เหลือบสายตาไปมองเขาที่ยังคงเงียบไม่พูดอะไรและดูเหมือนจะค่อยๆ สร้างกำแพงก่อเมืองขวางกั้นตัวเอง โอ ไม่นะ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลยนี่! ผมอุทานใจเสีย ถ้าปล่อยไป เขาอาจจะไม่พูดไม่จาทำตัวประหนึ่งคนไม่รู้จักกันอีกน่ะสิ ด้วยความร้อนร้นผมก็หลุดปากออกไปอีกครั้ง

“คือ...หลังจากวันนั้นพี่ก็หายหน้าไปเลย ผมก็เลยเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”

“ไม่มีอะไร” สั้นห้วน ได้ใจความ

ผมมองสำรวจตรวจตราอีกอย่างระมัดระวัง โอ อารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อยแล้วแฮะ แต่ยังไม่พ้นคำว่า ‘อันตราย’ สักนิด ผมชั่งใจลังเลที่จะเอ่ยอะไรออกไป เฝ้ามองเขาที่นิ่งสงบดุจรูปปั้นหินอ่อนอีกครั้ง บรรยากาศเงียบสงัดเข้ามาแทนที่ระหว่างพวกเรามันทำให้ผมอึดอัด พี่ยูไปมัวทำอะไรอยู่ ทำไมไม่มาสักที!? ผมคร่ำครวญในใจอย่างเศร้าโศก ไม่มีตอนไหนที่จะรู้สึกคิดถึงพี่ยูมากเท่าตอนนี้เลย!

“คือ... วันนั้นผมเห็นพี่ที่คณะวิศวะน่ะครับ พี่ไม่เห็นผมเหรอ?”

“แล้วไง?” เขาหันมาย้อนกลับด้วยหน้าตีรวนเหมือนหาเรื่อง วุ้ย อะไรฟะ จู่ๆ ตั้งป้อมหาเรื่องกันอย่างกะทันหัน ให้ตาย ผมไม่ทันอารมณ์คนแก่จริงๆ ครับ ผมส่ายหน้าแล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆ ไม่รู้สึกอะไรมาก พยายามจะไม่ทำให้มันดูเหมือน...งอน

“เปล่าครับ เรารู้จักกันแต่ทำไมไม่ทักกันบ้างเลย”

“แล้วเรื่องของพี่ไนซ์...” ผมเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อบทสนทนาส่อลงเหว

พี่เฮดีสแกว่งแก้วในมือเหลือบไปมองทางประตูห้อง สักพักใหญ่ก็เงยหน้ามามองผมพร้อมกับหรี่ดวงตาคู่สวย ผมใจเต้นตึกๆ มองริมฝีปากสวยได้รูปที่ค่อยๆ แย้มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขาวางแก้วในมือ โน้มตัวเข้ามาประชิดผมอย่างรวดเร็ว อะ...อะไร!? ผมเอนตัวออกห่างด้วยความระแวง

“อยากให้ทัก?”

เอ๊ะ คิดไปเองหรือเปล่า? ทำไมเสียงของเขามันชวนให้ร้อนวูบวาบแบบนี้นะ? เคลิบเคลิ้มไปครู่หนึ่งผมก็เริ่มสะดุ้งรู้สึกตัว ทำใจสู้พยักหน้ารับ หยา! มัวแต่หลงไปกับเสียงทุ้มต่ำน่าฟัง ไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ผมถูกกักขังไว้ในแขนทั้งสองข้างของเขา พี่เฮดีสจะทำอะไรกันเนี่ย!? อากาศเย็นแต่ตัวผมเหงื่อไหลหน้าร้อนผ่าว จังหวะหัวใจเต้นเสียงดังระงม ผมจะบ้าตายอยู่แล้ว เมื่อกี้เขายังเหมือนคนหาเรื่องอยู่เรื่อย แต่ทำไมตอนนี้ถึง...

สมาธิผมแทบจะกระเจิงทุกทิศ สัมผัสจากมือเรียวสวยที่เคล้าคลึงริมฝีปากของผมเบาๆ อีกข้างไล้ไต่ตามร่องสันหลัง ตั้งแต่หัวจรดเท้าของผมเต้นระริก ดวงตาสีเข้มจับจ้องจนรู้สึกสั่นสะท้านข้างใน เสียงทุ้มต่ำเย้ายวนกระซิบข้างหูเนิบนาบเจตนาล่อลวง

“นายว่าซื่อสัตย์มันดีไหม?”

“กะ...ก็ต้องดีสิครับ”

แอ๊กกกก เสียงสั่น!


ในหัวของผมว่างเปล่า กะพริบตาปริบๆ รู้สึกแต่มือที่คอยวนเวียนแตะต้องเนื้อตัว ช่ำชองมีลีลา ไม่ได้ทำให้รู้สึกตื่นกลัวกลับเพิ่มพูนความวาบหวามตามผิวกาย ตาหรุบมองริมฝีปากสวยได้รูปที่ขยับเอื้อยเอ่ยแล้วใจลอย ลำคอแห้งเหือดขึ้นมาทันที ให้ตาย! นี่ผมชักจะโรคจิตขึ้นทุกที ทำไมรู้สึกว่าปากสีสันสวยๆ นั้นมันน่า...กินจัง ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

“นั้นสินะ บางครั้งก็ต้องซื่อสัตย์กับตัวเองใช่ไหม?”

“คะครับ”

ลมหายใจสะดุดกึก คิดอะไรไม่ออก มืออุ่นร้อนลูบลงตามราบคอกระตุกปกคอเสื้อของผมเบาๆ ผิวกายที่ถูกลูบไล้รู้สึกร้อนวูบวาบ ชีพจรเต้นเสียงดังกลบเสียงรอบข้าง จะทำอะไรน่ะ? ปลดกระดุมเสื้อของผมทำไม!? ผมเริ่มตื่นตระหนก พยายามจะใช้มือมาขัดขวางแต่ถูกจับยึดเอาไว้แน่น ผมตาโตเงยหน้ามองสบตาเขาอย่างไม่เข้าใจ พี่เฮดีสทอดมองผมจากเบื้องบนอย่างใจเย็น

“ฉันเองก็ต้องเริ่มซื่อสัตย์กับตัวเองบ้าง”

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม!!?

“พี่!” ผมเรียกเสียงดัง เริ่มกลัวขึ้นมาจับใจ

ปัง!

“เฮดีส อย่านะมึง!”     

ประตูห้องเปิดดังผัวะพร้อมกับพี่ยูพุ่งเข้ามาแทบจะกลิ้งคลุนๆ เขายืนตัวตรงทำหน้าเข้มขึงชี้มาที่พวกเราแล้วตะโกนเสียงดัง พี่เฮดีสเหลือบไปมองอย่างไม่แปลกใจเลยสักนิด อย่างกับเขารู้อยู่ก่อนแล้วอย่างนั้นแหละ! ผมเหลือกตาด้วยความตกใจ พี่ยูเข้ามาได้ยังไง!? พยายามจะลุกขึ้นหนีจากท่วงท่าที่ชวนเข้าใจผิด แต่คนอยู่ข้างบนไม่ยอมกดผมนอนลงเหมือนเดิม ให้ผมลุกขึ้นเถอะครับ! ผมปิดหน้าหนีอาย

“น้องกูยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ใช่ไหมไอ้ห่าเฮดีส!?”

พี่ยูถามอะไรแบบนั้นวะ!?

“อ่า! รัญ มานี่ๆ!” พี่ยูกวักมือเรียก

พี่ครับ! ดูสภาพของผมก่อน ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากจะลุกแต่มันลุกไม่ได้ พี่ยูทำหน้าฮึดฮัดเรียกผมอีกครั้ง พี่เฮดีสรวบตัวผมขึ้นมากอดเอาไว้แน่น หันหน้าไปส่งสายตาท้าทายพี่ยูที่เต้นผ่างๆ เหมือนพื้นมีถ่านร้อนยืนไม่ได้ พี่เฮดีสยกนิ้วกลางให้เป็นของแถม

“ไอ้ห่าเฮดีส!” พี่ยูหัวเสีย

พี่เฮดีสยกตัวผมขึ้นอย่างง่ายดาย โอ๊ย อะไรจะแข็งแรงขนาดนั้น ขยับครั้งเดียวก็อุ้มผมขึ้นได้ ผมที่ไม่พูดอะไรก็เริ่มจะประท้วงลงจากอ้อมแขนเข้มแกร่ง พี่เฮดีสก้มหน้าลงพร้อมส่งสายตาเลเซอร์ดังชิ้ง ผมเงียบหยุดดิ้นเกาะไหล่เขาไว้ เห็นสภาพตัวเองแล้วรับไม่ได้จริงๆ พี่ยูที่กำลังโมโหก็กุมท้องหัวเราะตัวงอกลิ้งไปกับพื้นแน่ะ ผมหน้าแดงอับอายมากๆ ยังดีที่ตอนเดินมาถึงหน้าประตูเขาปล่อยผมลงพื้นให้ยืนเอง ไม่ลืมคว้ามือผมไปกุมไว้ กลัวผมวิ่งหนีไปหรือไง? พี่เฮดีสเปิดประตูแต่ก่อนจะเดินออกไป เขาหันไปพูดกับพี่ยู สีหน้าเหี้ยมโหดฉับพลัน

“พรุ่งนี้กูจะมาเอาโทษกับมึง”

“ไอ้เทพจอมอาฆาต!”

พี่เฮดีสไม่สนใจเสียงโอดครวญของพี่ยู ดึงผมออกมาจากห้องเดินลงมาจากชั้นสองรีบตัดร้านเดินออกไปจากร้าน เสียงแซวดังตามมาจากด้านหลัง พี่เฮดีสหันไปถลึงตาใส่เหล่าหนุ่มๆ ที่เป่าปากตบมือโดยมีพี่ยูเป็นผู้นำ พี่คนนี้ช่างไม่กลัวตายจริงๆ ว่ะ พี่เฮดีสชี้หน้าพี่ยูปล่อยมือผมแล้วกระโดดไปครั้งเดียวถึงใจกลางทันที กลุ่มก่อกบฎถึงกับหน้าเหวอแตกรังไปอย่างรวดเร็วแต่ผู้นำกบฎไม่รอดครับงานนี้ พี่เฮดีสจับคอเสื้อของพี่ยูแล้วยกขึ้นจนอีกฝ่ายร้องเสียงแหลม คนอื่นๆ ในร้านส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดขยับหนีกลัวตายกันถ้วนหน้า แต่มีหนุ่มหล่อคนหนึ่งยืนเชียร์อย่างกับเชียร์มวย

“เอาเลย! เอาเลย!”

“ไอ้ลาเต้! อย่ายุมันซี!!” พี่ยูหันมาตวาดตาขวางใส่ผู้ชายคนนั้น ผมยืนดู ไม่เข้าไปห้ามหรอกครับ เพราะดูยังไงมันก็เหมือนกับเป็นการหยอกล้อกันของเพื่อนฝูง พี่เฮดีสยังไม่ได้เอาจริงเลยสักนิด ที่ผมรู้ก็เพราะผมเคยเห็นตอนเขาสู้มาแล้วนี่น่า พี่เฮดีสเขย่าพี่ยูหัวสั่นหัวคลอนแล้วเหวี่ยงลงพื้น อ๊ะ เบาๆ หน่อยครับเดี๋ยวก็ได้กลับไปอยู่โรงพยาบาลอีกรอบ แต่ว่าพี่ยูคงจะชอบเพราะได้หยุดต่อ เฮอะๆ พี่เฮดีสก้มชี้หน้าข่มขู่อีกรอบแล้วเดินกลับมาหาผม เขาดึงผมเดินออกไปจากร้าน

“พี่โกรธอะไรพี่ยูเหรอครับ?” ระหว่างที่ถูกลากไป ผมเงยหน้าถาม พี่เฮดีสหันมาตอบด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว กัดฟันตอบ

“มันด่าฉันว่าโง่!”

ผมกะพริบตาปริบๆ พยายามก้มหน้าลงแล้วฉีกยิ้ม

“ยิ้มอะไร!?”

“ฮี่ๆ”





นานแล้วนะตัวเธอที่ไม่ได้มาอัพ เอาล่ะ
ถ้าไม่มีตัวกระตุ้น พระเอกเราก็ไม่กระตือรือร้น
เรื่องพี่ไนซ์รัญยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอกนะ
จะเป็นยังไง รอดูว่ารัญจะกล่อมอสูรร้ายได้หรือเปล่า?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2013 18:19:29 โดย lie-boy »

ออฟไลน์ Eternal luv

  • ชะตาฟ้าลิขิต แต่ชีวิตนะ...ของกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
 :z13: กระโดดเอาหัวโหม่งแทบไม่ทัน

แอบงงตอนแรกๆเพราะหายไปนานกว่าจะนึกตอนเก่าออก
พี่เฮดิสบอกว่าจะซื่อสัตย์กับตัวเองเเล้วใช่มั๊ย
จะยอมรับว่ารักแล้วใช่มั๊ยยยย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-07-2013 18:38:30 โดย boong086 »

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
หายไปนานเวอร์ค่ะ กลับมาน้อยจังงง อยากอ่านอีก แอบรู้สึกว่าชีวิตน้องรัญเริ่มสีเทาแล้วนะเนี่ย เพราะพี่เฮดิสแหงๆ555555

สงสารน้องรัญ อยู่กับคนน่ากลัวอย่างพระเอกเรา อีตาเฮดีสนี่ก็แข็งเกิ้น ไม่หวานเอาซะเลยนะเธอ แต่หลังจากนี้ละไม่แน่ หึๆๆ

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
กรี๊ดดดด ในที่สุดก็มาต่อแล้ว

ตอนนี้พี่เฮดีสได้ใจอะ :katai1:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
โอ๊ยย มันก็ยังค้างคา
อีพี่เฮดีสช่างเป็นพระเอกที่แม่มมมมมม
โคตรเข้าใจยากกกกกก
สงสารน้องงงง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด