♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]  (อ่าน 1089689 ครั้ง)

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
นานอีกแล้ว....














คนเขียนอัพถี่ๆ 2 ปีอัพครั้งแบบนี้รักตาย...เหอๆ = ="


























 :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready :ruready

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา อยากอ่านต่อค่า

รีบๆมาอัพนะคะ กำลังสนุกเลย :call: :call:

อยากรู้ว่าความลับเกี่ยวกะชื่อนี่มันคือยังไงกันแน่  :ling1:

ออฟไลน์ dark-soleil

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
เมื่อไหร่จะมาต่อน้าาาาาาาาา เค้ารอร๊อรอมานาน  :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ nnA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
หือ??

สุดขีด 15 มาแล้ววว  ว ว 

ไหนๆๆ ๆ ๆ  อยู่ไหนนน :confuse:

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy
ตอนที่ 15.1

กว่าจะจัดการเจ้าแฝดสองคนนั้นให้นอนได้เล่นเอาผมเสียเหงื่อไปสองกะมะลังครึ่ง เล่นงอแงจะให้ผมไปนอนท่าเดียว ตอนแรกผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ออกอาการงอแง(เงียบ)จับผมไม่ยอม ถามก็ไม่ตอบว่าต้องการอะไร ผมต้องอดทนดูเด็กงอแงผู้ใหญ่ดื้อดึงจนปวดสมองตึบๆ สุดที่ท้ายเด็กงอแงก็สู้ความดื้อดึงของผู้ใหญ่ไม่ได้ สองฝาแฝดยกมือยอมแพ้เข้าห้องนอนแต่โดยดี

หลังจากที่ส่งเด็กๆ เข้านอนเป็นที่เรียบร้อย ผมก็ต้องมานั่งอึดอัดกับผู้ใหญ่ที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไป เล่นนั่งเงียบสนิทไอ้รัญต้องส่ายหน้า ใครไปปิดสวิตช์ลำโพงเฮียแกวะ? ผมขยับตัวเปิดทีวีเพื่อเลี่ยงความอึดอัดที่ก่อตัวขนาดมโหฬาร การดูละครช่วยเลี่ยงความคลุมเครือในบรรยากาศได้มากโขเลยล่ะครับ ระหว่างที่เอ็นจอยกับละครน้ำเน่าชั้นดีบางครั้งผมก็หันไปมองเขาเป็นระยะๆ อีกฝ่ายยังคงนั่งนิ่งทำหน้าราบเรียบดั่งเตารีดทับไว้ไม่เปลี่ยน

คิดดูสิครับ ผมนั่งอยู่นี่เปลี่ยนท่าไปก็หลายสิบท่านั่งแล้วแต่พี่เฮดีสกลับนั่งนิ่งท่าเดียวอยู่อย่างนั้น มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อตายแน่ๆ ระหว่างที่ละครพักโฆษณาผมก็หันมาสังเกตคนข้างๆ อย่างละเอียด มองไปมองมาเหมือนคนที่จมอยู่ในกระแสความคิดส่วนตัวเลยแฮะ ผมเองก็ย้อนกลับไปเห็นเรื่องเด็กๆ เลยไปถึงเรื่องของพี่ไนซ์ นั้นทำให้ผมตัดสินใจเอ่ยทำลายความเงียบ

“พี่เฮดีส เมื่อตอนเย็นพี่พอลบอกว่าถึงพี่ไนซ์จะผ่าตัดแต่เขาก็จะไม่รอดอยู่ดี แถมยังพูดถึงชื่ออะไรก็ไม่รู้เกี่ยวกับตระกูลของพวกพี่ ผมไม่เข้าใจเลย ชื่อมันเกี่ยวอะไรกับที่พี่ไนซ์จะไม่รอดด้วย พี่รู้หรือเปล่า?”

พี่เฮดีสนิ่งเหมือนไม่ได้ยินที่ผมพูด ผมเงียบรอคอยอยู่นานก็แปลกใจไม่ได้ว่าเขานอนหลับในหรือเปล่า? นั่งนิ่งแม้แต่ตายังไม่กะพริบตาเลย ผมเม้มปากแล้วเอ่ยต่อไป

“ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง พอจะมีทางแก้ไขหรือเปล่า? ผมไม่อยากให้พี่ไนซ์เป็นอะไรไป...” ผมหยุดเอ่ย สายตาเห็นปฏิกิริยาจากเขาที่เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย เขาชำเหลืองมองมาที่ผมอย่างรวดเร็วแล้วกลับไปมองทางอื่นเมื่อมองเงยหน้าขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติเย็นชาหาที่ใดเปรียบ ผมเรียกความมั่นใจบอกความรู้สึกจริงๆ ออกมา

“ถ้าพี่ไนซ์เป็นอะไรไป พวกเด็กๆ ก็น่าสงสาร ผมอยากจะช่วยพวกเขาจริงๆ นะครับ เอ่อ...ที่สำคัญผมน่ะ...” ผมเม้มปากแน่น ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เงยหน้ามองเขาที่ตอนนี้หันมาจ้อง ผมค่อยๆ คลี่ยิ้ม เป็นยิ้มที่ผมส่งมันมาจากใจ จากข้างในจริงๆ

“ผมอยากให้พี่มีความสุข ว่าไงล่ะ แบบว่า...เอ่อ...ครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญใช่ไหมล่ะ เอ่อ...คือ...ผม...อยากช่วย” ผมเริ่มพูดตะกุกตะกักเพราะสายตาที่อีกฝ่ายใช้จ้องตอบกลับมามันทำให้ผมประหม่า ผมกลืนน้ำลายแล้วเริ่มใช้มือลูบต้นคอเพื่อสงบอารมณ์ อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มขึ้นจนร้อนผ่าวไปทั้งตัว โอย ตัวผมจะไหม้หรือเปล่า!?

“ฮึ ฉันน่าสงสารขนาดนั้นเลยเหรอ?”

ผมชะงัก เบิกตามองเขาแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าไปมา

“พี่เนี่ยนะน่าสงสาร ผมมองไม่ออกเลย”

เขาทำตาขวางใส่ผม

“ฉันดูไม่มีความสุขขนาดนั้นเลยหรือไง?”

“ก็ผมเห็นเหมือนพี่แบกโลกทั้งใบไว้คนเดียว” ผมตอบออกไปแบบเล่นๆ ไม่จริงจัง แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันก็ไม่ได้เกินความเป็นจริงเท่าไร เขาไม่ได้น่าสงสารเลยสักนิดและเหมือนคนไม่มีความสุข เป็นแอตลาสผู้แบกโลกมากกว่าเฮดีสซะอีก

“ทำไม?” พี่เฮดีสถามกลับมาเสียงเบา ผมเงียบ เหงื่อไหลพราก

เอ่อ...นั้นสิ! มันคงจะแปลกๆ สินะ ที่จู่ๆ คนรู้จักกันไม่นานมาพูดอะไรที่เหมือนหวังดีคล้ายกับจะมีจุดประสงค์แอบแฝง แต่ว่าผมไม่ได้หวังอะไรเลย มันแค่อยากให้เขาได้ยิ้มบ้างเท่านั้น นานมาแล้วตั้งแต่คุณยาย คุณพ่อคุณแม่ของผม แน่นอนพวกท่านเป็นคนที่ผมรักมาก อยากให้พวกท่านมีความสุข และเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ผมอยากให้มีความสุข ยิ้มสนุกสนาน อยากทำอะไรบางอย่างให้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ อาจจะด้วยบุคลิกของเขาหรือพฤติกรรมขัดแย้งในตัวเองของเขา แม้แต่ตัวผมก็ยังไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร

“ผมพูดจริงๆ นะครับ พี่ไม่ได้น่าสงสารเลย ผมแค่อยากให้พี่มีความสุข” ผมส่งยิ้มให้ เขาก็หลบตาไปอย่างรวดเร็ว ใช้มือปิดหน้าของตัวเองเอาไว้ หัวใจของผมเต้นตึกตัก บรรยากาศเหมือนมีปุยนุ่มนุ่มๆ ล่องลอยในอากาศ อะไรกันน่ะ? ถ้ามันไม่ตาฝาดล่ะก็ผมเห็นพี่เฮดีสหน้าแดงด้วยล่ะ ผมกัดริมฝีปากกลั้นยิ้มเอาไว้ มองคนปิดหน้าปกปิดความเขินอายของตัวเอง

“อือ” เขาส่งเสียงรับในลำคอทั้งๆ ที่ยังปิดหน้าปิดตาอยู่ ผมยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเอ่ยล้อด้วยน้ำเสียงขบขันหน่อยๆ

“พี่เขินเหรอ? ถึงได้แดงเถือกไปทั้งตัวเลย”

“เปล่า!” พี่เฮดีสหลุดตวาดเสียงสูง

ผมผงะตกใจเล็กน้อย ก็แค่ล้อเล่นอันที่จริงเขาไม่ได้แดงอะไรมากหรอก ไม่คิดว่าเขาจะมีปฏิกิริยาตอบกลับรุนแรงขนาดนี้ พี่เฮดีสพ่นลมหายใจใช้มือเสยผมแก้เก้อเขิน ริมฝีปากได้รูปสวยสีแดงระเรื่อเม้มเป็นเส้นตรง พยายามที่จะสงบสติอารมณ์จึงเขาก็ทำได้อย่างรวดเร็วเอามากๆ ช่างเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดีจริงๆ ผมนับถือเลย พี่เฮดีสใช้หางตามามองผมแล้วเอ่ยแก้ตัวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“ก็แค่อายแทนเจ้าคนที่สารภาพรักมาหน้าตาเฉยนั้นแหละ”

“หือ หมายถึงใครเหรอครับ?”

“ฮึ จะใคร ก็นายไง” พี่เฮดีสทำเสียงขึ้นจมูก หรี่ตามองผมจากที่สูง

ผมสะดุ้งตัวโหยง เฮ้ย! สารภาพรักอะไรกันล่ะ!? เอ๊ะ!? ผมคิดถึงคำพูดของตัวเองแล้วหน้าก็แดงแปร๊ดขึ้นมาเอง ไม่ใช่นะ! ผมไม่ได้หมายถึงอะไรอย่างนั้นสักหน่อย ผมลนลานจะแก้ตัว มือไม้โบกยิ่งกว่าที่ปัดน้ำฝนหน้ารถ

“มะ...ไม่...ผม เปล่า ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น...”

ยิ่งปฏิเสธก็เหมือนหน้าก็ยิ่งแดงจนจะสุกได้ที่ เสียงเต้นของหัวใจดังมาก ตุ้บๆ อยู่ในอก ผมลูบหน้าลูบตาของตัวเอง พยายามจะระงับอาการตื่นเต้นที่จู่ๆ ก็โหมเข้าหา ผมเริ่มจะเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง ผมลอบมองพี่เฮดีสที่มองมาที่ผมนิ่ง ไม่มีท่าทางอะไรใดๆ ยิ่งทำให้ผมทำอะไรไม่ถูก

“ขอจูบหน่อย”

“ไม่ได้!”

จู่ๆ เขาก็เอ่ยโผขึ้นมาหน้าตายเฉย ทำเอาใจของผมตีลังกาตลบหลังอย่างตกใจ ผมทำตาโตใส่อีกฝ่ายแล้วตอบปฏิเสธกลับอย่างรวดเร็ว จู่ๆ ก็มาขอจูบจะบ้าเรอะ! พี่เฮดีสส่งสายตาเย็นเยียบมาให้ในทันที เขาหันไปมองทางอื่นปากบ่นพึมพำงึมงำกับตัวเอง

“ไหนบอกอยากให้มีความสุข เฮอะ โกหกชัดๆ”

ผมได้ยินชัดเต็มสองหูเลยล่ะแต่ทำเหมือนไม่ได้ยิน เขานั่งนิ่งไม่พูดอะไรอีกเหมือนจะงอน แต่ผมไม่ง้อให้เปลืองตัวหรอก เรื่องอะไรจะมางอนเพราะผมไม่ให้จูบ แปลกเกินไปแล้ว! อยากจูบก็ไปจูบหลานพี่สิครับ เกี่ยวอะไรกับผมด้วย! แม้จะผ่านไปนานแต่คนงอนก็ไม่ยอมขยับตัวหรือส่งเสียงใดๆ เลย ผมถอนหายใจเปิดคำถามด้วยเรื่องอื่น

“พี่จะเข้านอนตอนไหน?”

เขาเหลือบมามองผมนิ่งๆ ดวงตาขยับมาเล็กน้อยแทบจะไม่เคลื่อนไหวส่วนใดๆ ของร่างกายเลย ผมประหลาดใจเป็นบ้า เขาทำมันได้ยังไงวะ? นั่งนิ่งไม่ขยับตั้งนานอย่างกับหุ่นแน่ะ พี่เฮดีสไม่ได้ตอบผมในทันที เขาเหมือนคิดอะไรบางอย่างก่อนแล้วค่อยเอ่ยออกมาหน้าตาย น้ำเสียงคล้ายๆ จะยังไม่หายเคือง

“จะนอนด้วยหรือไง?”

หา? ผมทำหน้างงหน่อยๆ ก็ตอนแรกผมจะนอนกับพวกเด็กๆ พี่ก็ไม่ให้ไปนอนพอตอนนี้กลับมาถามแบบนี้ จะเอายังไงกันแน่เนี่ย? ตกลงจะให้ผมนอนไหน? อะไรวะ ผมเป็นเจ้าของบ้านนะ! ทำไมต้องมารอถามแขกตัวเองด้วยว่าต้องนอนไหน? ทำไมมันกลับตาลปัตรกันแบบนี้ไปได้เนี่ย

“งั้นผมไปนอนก่อนนะ” ผมกำลังจะลุกขึ้นยืนแต่ก็ถูกดึงให้นั่งลงเหมือนเดิม พี่เฮดีสมองมามองผมแบบหันมาทั้งตัว ไอ้แบบนี้มันเหมือนกำลังเผชิญหน้ากันอยู่เลยแฮะ ในทางจิตวิทยามันไม่ค่อยดีเท่าไรน่า ผมเริ่มกังวลหน่อยๆ เริ่มคิดถึงไอ้ตอนเข้าคอร์สนวดแบบฟาสซิสต์กับคำขอหน้าตายของเขา หน้าก็เห่อร้อนทันที ผมรีบเอ่ยขัดขึ้น

“วันนี้ไม่มีเตะบอลนะครับ”

พี่เฮดีสออกอาการมากขึ้นนิดหน่อย เขาเลิกคิ้วขึ้นสูง เหมือนจะหัวเราะด้วยล่ะ ผมแปลกใจนิดหน่อย ไอ้ประโยคเมื่อกี้มันก็ไม่ได้ชวนหัวเราะอะไรนี่น่า อีกอย่างผมจริงจังน่ะนั้น!

“อย่าเพิ่งนอนเลย ทำอย่างอื่นกันดีกว่า”

ผมชะงัก สาบานได้ว่าน้ำเสียงของเขาแปลกไปนิดหน่อย ยังคงความเย็นเยียบเหมือนเดิมแต่ครั้งนี้เหมือนเพิ่มความยั่วยวนชวนจั๊กจี้ใจในนั้นด้วย ผมกลืนน้ำลายแล้วถามออกไปอย่างหวั่นๆ

“ทำอะไรครับ?”

“ดูหนัง”

พอได้คำตอบผมก็โล่งอกอย่างกับยกภูเขาออกไปทั้งลูกแน่ะ ไอ้เราก็แอบกลัวนิดๆ ว่าจะให้ทำอะไรซะอีก พี่เฮดีสปล่อยมือจากผมแล้วหันไปคุ้ยแผ่นดีวีดีที่ถอยออกมาจากร้านใหม่ๆ เขาหันมามองผมด้วยใบหน้าราบเรียบหล่อเหลาเป็นปกติ แต่ทำไมผมรู้สึกว่ามันออกจะมีเลศนัยนิดๆ นะ เขาใส่แผ่นรอให้เครื่องเล่นสักหน่อยก็ย้อนกลับมานั่งข้างๆ ผมเอนตัวรอดูด้วยท่วงท่าสุดแสนผ่อนคลาย ผมมองเขาอยู่สักพักพอหันไปมองหน้าจอผมก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม

ไม่ ไม่เอานะ!

พี่เฮดีสเหลือบมองมาที่ผมอย่างมาดมั่น อะไร? มองผมทำไมเล่า? เขานั่งกระดิกเท้าอย่างคนอารมณ์ดี ผมถึงกับพูดไม่ออก เหลือบมองหน้าจอแล้วมือเย็น หัวใจเต้นช้าลง เหงื่อแตกพลั่กตั้งแต่เห็นชื่อเรื่อง ใครก็ได้ช่วยพาผมออกไปจากที่นี้ที! ถึงผมจะเข้าวัดเข้าวาบ่อยแต่ไม่ใช่ว่าความกลัวเรื่องผีสางวิญญาณหลอนจะลดลงตามไปด้วยหรอกนะ! ผมกลัวขึ้นสมองเลยล่ะ!! เพราะอย่างนั้นผมถึงไม่ชอบอยู่คนเดียวไงเล่า

เสียงซาวด์หลอกหลอนเข้ามาในหูทำเอาผมขนลุกซู่ ผมหลับตาเอามือปิดหู ไม่เอานะ ให้ผมนั่งดูบอลสิบแม็ตช์ต่อกันยังได้เลย ขอแค่ไม่ดูหนังผีพวกนี้ก็พอ! ผมจะขยับนั่งหันหลังให้หน้าจอ พี่เฮดีสกลัวเหวี่ยงแขนพาดไหล่ของจับล็อกให้เผชิญหน้ากับจอภาพ อะไรเนี่ย!? แกล้งกันแน่ๆ เลย! คนๆ นี้รู้ว่าผมกลัวผีหรือเปล่าวะ!? มันเป็นความลับของผมเลยนะ มีแค่ไม่กี่คนหรอกที่รู้เรื่อง อ๊ะ จะว่าไปพี่ยูก็รู้นี่น่า นี่คงไม่ใช่เอาเรื่องนี้ไปเผาให้คนๆ นี้ฟังแล้วหรอกนะ แค่เริ่มเรื่องผมก็ลืมตัวผวาไปกอดคนข้างๆ สักพักก็รู้ตัวมากำลังกอดใครก็รีบปล่อยมือแล้วขยับมานั่งเกร็งตัว สะดุ้งเป็นพักๆ กับบรรยากาศของหนัง

เนื้อเรื่องเข้มข้นจนหนักเกินกว่าที่ผมจะต้านรับไว้ ผมตัดสินใจยื่นมือไปสะกิดคนที่ตั้งหน้าตั้งตาดูหนังที่กำลังเล่น เขาหันมามองผม

“ผมปวดฉี่”

เอาล่ะ พอฉี่เสร็จผมก็จะขังตัวอยู่ในห้องทันทีเลย พี่เฮดีสพยักหน้ารับด้วยใบหน้าราบเรียบ อ่าฮะ! ทางโล่งแล้วครับ ไม่มีทางที่ผมจะกลับมาดูหนังนี้เด็ดขาด! ผมรีบลุกขึ้นยืน เดินไปได้นิดหน่อยเสียงเยือกเย็นชวนขนลุกของพี่เฮดีสก็ดังตามหลังมา

“ระวังด้วยล่ะ”

ผมหันขวับกลับไปแทบจะทันที

ระวัง...ระวังอะไร!? ผมหน้าซีดขาวเป็นกระดาษ ใจฝ่อแฟ่บไม่เหลือ กัดฟันรีบสาวเท้าเข้าห้องน้ำด้วยอาการหวาดผวา ระแวดตัวจัดมองไปรอบๆ อย่าล้อเล่นน่า! มันไม่โผล่มาในห้องสว่างโร่แบบนี้หรอก ผมทำธุระด้วยอาการกระสับส่าย แปรงฟันก็แทบจะบ้วนไม่สะอาด ล้างหน้าด้วยความไวที่แม้แต่ตัวเองยังทึ่ง ทำนั้นนี้ลุกลี้ลุกลน แง้! ทำไมมันเงียบวังเวงแบบนี้วะ?

ผมสะดุ้งตกกับเงาของตัวเองในกระจก เวรเอ๊ย แค่เงาของตัวเองยังตกใจแทบฉี่ราด ผมถอนหายใจก้าวออกไปจากห้องน้ำ เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน! ผมหันมองซ้ายมองขวาอย่างงุนงง จำได้ว่าตอนผมเข้าห้องน้ำผมเปิดไฟในห้องแล้วนี่น่า แล้วทำไมมันถึงมืดตึดตืดแบบนี้ล่ะ!? ผมขนลุกซู่ ต้องลูบแขนปลอบใจตัวเอง บางทีผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ อาจจะลืมเปิดแล้วเดินห้องน้ำไปเลยก็ได้ ผมเปิดไฟในห้องสว่างโร่แล้วเดินมาที่เตียงนอนขนาดใหญ่ในห้องของพ่อแม่ที่วันนี้ผมทำความสะอาดเอาไว้เรียบร้อย ผมเปิดโคมไฟแล้วปิดไฟในห้อง แสงสว่างมัวๆ จากโคมไฟไม่ได้ช่วยให้ใจของผมสงบลงเลยแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้จินตนาการมันบรรเจิดยิ่งกว่าเดิม ผมไม่รอช้ารีบปีนขึ้นเตียงนอนห่มผ้าแล้วหลับตาในทันที ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นแหละ!

ก๊อกๆ กึกๆ

ผมพลิกตัวเม้มปากนิดๆ กับเสียงกุกๆ กักๆ โธ่ อย่าสิ ทำไมจู่ๆ ต้องมีเสียงอะไรเกิดขึ้นด้วยวะ ไอ้เราก็ยิ่งเด็กจินตนาการก้าวไกลอยู่ด้วย ผมตัวแข็งทื่อเมื่อจู่ๆ เสียงประตูเปิดเอี๊ยด พระรัตนตรัย ช่วยลูกด้วย! ผมไม่กล้าลืมตาไปดูว่าทำไมถึงประตูเปิดได้!? รู้แค่อย่างเดียวว่าตอนนี้ผมโคตรกลัวเลย หัวใจเต้นรัวในความเงียบอันวังเวง พี่เฮดีสแกล้งหรือเปล่าวะ? ผมภาวนาให้เป็นเขา ถึงจะเป็นการกลั่นแกล้งที่ไม่น่าให้อภัยแต่ก็ดีกว่าเจออย่างอื่นล่ะกัน!

กึก เสียงประตูปิดลง ผมทนไม่ไหวรีบลืมตาขึ้นหันไปมอง ผมถอนหายใจเข้าปอด เบิกตากว้าง ตัวแข็งทื่อแทบจะลืมหายใจ เงาผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่หน้าเตียงของผม แสงจากโคมไฟไม่สว่างพอที่จะทำให้ผมเห็นหน้าของผู้หญิงคนนั้น เธอสูงโปร่งและสวมชุดสีขาวยาว ชุดมาตรฐานของเหล่าผีสางในละคร เหวออออ! ใจหวิวๆ คล้ายจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ ไม่ไหวแล้ว โผล่มากันจะๆ แบบนี้! เธอคนนั้นค่อยๆ ยื่นมือมาหาผม ใกล้เข้ามาทุกที หัวใจของผมเต้นด้วยความถี่สูง ยิ่งระยะใกล้เข้ามาเท่าไรยิ่งเต้นเร็วขึ้น มือสว่างด้วยไฟสีนวลแตะลงบนหน้าผากของผม เย็นวาบขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ผมกลั้นหายใจแล้วแหกปากร้องลั่น

“ว้ากกก!!!”

ผมน็อตหลุด ร้องไม่ได้สติ ผุดลุกขึ้นจากเตียง หลับหูหลับตาพุ่งออกไปจากห้อง ความเร็วแบบทำลายสถิติ ชนเข้ากับบางอย่างจนล้มหงายหลัง ผมร้องอีกครั้งด้วยความตกใจ เสียงเย็นเยียบคุ้นเคยดังขึ้นใกล้หูพร้อมกับร่างกายใหญ่โตที่โอบรอบ ผมลืมตาขึ้นเห็นพี่เฮดีสโอบกอดตัวผมไว้แน่น ผมตัวสั่นเทากลัวจนคิดอะไรไม่ออก ยกมือกอดเขาไว้แน่นเป็นที่ยึดเหนี่ยว พี่เฮดีสพยายามทำให้ผมสงบลง เจอหน้านิ่งที่ต่อให้ฟ้าดินถล่มทลายลงมาก็ไม่มีอาการตื่นตกใจของเขาแล้วผมก็รู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด   

ผ่านไปสักพักผมก็ค่อยๆ สงบใจได้และเริ่มขบคิดกับสิ่งที่ได้เจอะเจอ ให้ตายเถอะ ผีคือกลุ่มก้อนก๊าซความร้อนไม่ใช่หรือไง!? ทำไมถึงได้โผล่มาเป็นตัวเป็นตนขนาดนี้! ผมเริ่มหายใจติดขัด ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว เมื่อกี้มันจับตัวผมเย็นอย่างกับน้ำแข็งแน่ะ ฮือออ! แบบนี้ผีแน่ๆ เลยครับ! 

“ชู่ว ไม่มีอะไร ไม่ต้องกลัว”

“เป็นอะไร?” พี่เฮดีสกระซิบถามผมเสียงเบาราวกับกลัวว่าผมจะตกใจ ผมส่ายหน้าไปมากับอกกว้าง สะอึกสะอื้นตอบไม่ได้ศัพท์ พี่เฮดีสลูบหลังของผมเอ่ยถาม แต่แล้วผมก็ขนลุกชันอีกครั้งเพราะดันไปคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ตายเถอะ อยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิดทำไมเพิ่งมาโผล่เอาตอนนี้กัน

“เมื่อกี้มี...มีใคร...อึก...เข้ามาในห้อง...ผม...เขา...”

“ใจเย็นๆ ยัยนั้นทำอะไร?”

ผมค่อยๆ ผ่อนลมหายใจ หลับตา ซึบซับเอาความสงบนิ่งจากอีกฝ่าย ผมเช็ดน้ำตาป่อยๆ แล้วชะงักตัว เดี๋ยวนะ! ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เหงื่อเย็นไหลลงตามใบหน้า สันหลังเย็นวูบ ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าคนที่เข้ามาในห้องเป็นผู้หญิง แล้วทำไมเขาถึงพูดว่ายัยนั้น!? ผมเงยหน้ามองพี่เฮดีสอย่างรวดเร็ว เห็นเขากำลังคุยกับใครบางคนด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ผมแทบจะลมจับ! ผงะถอยห่างจากเขา แต่โดนจับเอาไว้ก่อน

“เป็นอะไร?”

“พี่ปล่อยผมก่อน” ผมร้องขึ้นเสียงสูงแทบจะร้องไห้ อยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิดเพิ่งมาเจอผีเอาวันนี้ มันแปลกๆ ที่แท้ดันชักศึกเข้าบ้านนี่เอง โธ่เอ๊ย! ก็ลืมนึกไป ‘เฮดีส’ คือ เทพแห่งนรกภูมิ ขนาดผียังมาหาเลย สมแล้วที่เป็นเฮดีส! ผมหน้าซีดพยายามดึงตัวออกจากเขา พี่เฮดีสถอนหายใจเบาๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของผม เขาหรี่ตาเล็กน้อยแล้วขู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ถ้ายังดิ้น ฉันจะบอกให้พวกมันมาจับนายกิน”

กึก! ผมหยุดดิ้นแทบจะทันทีทันใด พระเจ้า! พูดเรื่องน่ากลัวได้หน้าตาเฉยเลยว่ะ ผมเหงื่อแตกพลั่ก กลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ เขาส่ายหน้าเล็กน้อยเหมือนเอือมระอา ยกมือโยกหัวของผม

“หายใจด้วย”

เฮือก! ผมรีบหายใจเสียงดัง แฮะๆ ขอโทษครับ ลืมหายใจไปแวบหนึ่ง

“พี่รู้ได้ยังไงว่าเป็นผู้หญิง ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ทันได้บอก”

เมื่อตั้งสติได้ผมก็ทำสีหน้าจริงจังแล้วถามออกไปด้วยน้ำเสียงเข้มที่สุดเท่าที่จะทำได้ พี่เฮดีสปล่อยผม ผมใช้โอกาสนี้ถอยร่นออกห่างจากเขาทันที พี่เฮดีสย้อนถามกลับมา ทำหน้าไม่รู้เรื่อง

“...ฉันพูดอย่างนั้นเหรอ?”

ผมไม่หลงกลง่ายๆ หรอก

“แล้วเมื่อกี้พี่คุยกับใคร?”

เขาเหลือบมามองผมด้วยสายตาเย็นเยียบเป็นน้ำแข็ง เล่นเอาผมขนลุกขนพอง มันเย็นยิ่งกว่าถูกผีจับตัวซะอีก ผมกัดฟันรอคำตอบ

“เพ้อเจ้อ ฉันจะคุยกับใครถ้าไม่ใช่นาย”

“อย่าโกหก! ผมเห็นพี่เงยหน้าคุยกับใครสักคน ที่แน่ๆ ไม่ใช่ผม! ขอร้อง ผมกลัวจริงๆ นะ!” เสียงของผมสั่นเคลือ เหมือนคนกำลังจะร้องไห้

“กลัว?” สีหน้าของคนที่ยืนไม่ไกลตีสีหน้าทะมึนใส่ เขาเอ่ยทวนคำเสียงสูง ผมจ้องเขม็งแล้วพูดดักก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้าใจผิดคิดไปเอง

“ผมกลัวผี ไม่ได้กลัวพี่!”

พี่เฮดีสนิ่งเงียบไป เขาเหลือบมองผมเร็วๆ แล้วเชิดหน้าไปทางอื่น

“ฮึ น่าเชื่อหรอก พอฉันเข้าใกล้ทีไรก็เห็นนายตัวซีดตัวสั่นทุกครั้ง”

ไอ้ประโยคที่เหมือนคนขี้ใจน้อยนั้นทำให้ผมประหลาดใจมากพอแล้ว แต่ไอ้อาการใช้หางตามองเหมือนคนน้อยใจนี่สิ ทำเอาผมเกือบจะหลุดหัวเราะอยู่แล้วเชียว พี่เฮดีสเนี่ยนะหรือผมมโนไปเอง ผมพยักหน้ายอมรับตามสิ่งที่เขาพูด มันก็ถูกที่ว่าผมตัวซีดตัวสั่นทุกครั้งที่เข้าใกล้เขา แต่นั้นไม่ใช่เพราะกลัว โอเคก็กลัวอยู่นิดหน่อย

“ผมกลัวผีมากกว่าคนเป็นๆ”

“ฉันน่ากลัวกว่าผีอีก นายไม่รู้เหรอ?” พี่เฮดีสเอ่ยตอบกลับพร้อมกับกระตุกมุมปากเหมือนกับยิ้ม ยิ้มที่ทำให้ใจของผมสั่นไหว อะไร? น่ากลัวกว่า? มันหมายความว่ายังไง? เสียงหัวใจของผมที่เต้นตึกๆ รัวในอก สมองหยุดแล่นไปชั่วขณะ เขาค่อยๆ เดินเข้ามาหาผมอย่างช้าๆ ทุกก้าวย่างทำเอาผมตัวสั่น ไม่ใช่กลัวแต่มัน... อธิบายลำบาก ตื่นเต้น? กังวล? ผมเหม่อเผลอก้าวถอยหลังทำให้เขาหยุด

“เห็นๆ กันอยู่ว่านายกลัวอะไรมากกว่ากัน” พี่เฮดีสเอ่ยเสียงเย็นชาและมองผมอย่างผิดหวัง

ไม่ ไม่ใช่นะ ผมก็แค่... ก็แค่...

พอเห็นผมนิ่งเงียบเขาก็เดินหนีกลับไปที่ห้องนั่งเล่น ผมถึงหลุดจากภวังค์แสนวาบหวามน่าหวาดเสียวแล้วสูดอากาศเพิ่มออซิเจนในสมอง เอ๊ะ แล้วคำตอบของคำถามที่ผมถามไป เขาตอบหรือยังวะ? เท่าที่จำได้ยังไม่ตอบนี่หว่า หรือว่าเขาตั้งใจเลี่ยงคำตอบ?

“พี่กำลังนอกเรื่องอยู่นะครับ คิดว่าจะทำให้ผมลืมได้ล่ะสิ เมื่อกี้พี่พูดกับใคร?”

“...” ทีนี้นิ่งเงียบเป็นหุ่นไปเลยครับ

หนอย ใช้ความเงียบมาต่อสู้งั้นเหรอ!? งานนี้ผมไม่อยากปล่อยผ่านไปง่ายๆ หรอก! บางทีการเป็นคนเห็นผีได้ต้องเป็นอะไรที่พิเศษ และอาจจะเกี่ยวกับสิ่งที่พี่พอลบอกใบ้ก็ได้ ชื่อยังไงล่ะ! ชื่อเฮดีสอาจจะทำให้เห็นผีได้!? ผมเริ่มใช้พลังจินตนาการแต่แล้วก็ต้องทำใจรับไม่ได้ นี่มันแฟนตาซีเกินไปแล้ว แค่ชื่อจะไปทำให้มีพลังเห็นผีได้ยังไงกัน ไม่เข้าท่าสุดๆ ถึงจะไม่เชื่อผมก็ต้องให้เขาอธิบายเจ้าสิ่ง(ไม่)มีชีวิตชุดขาวโปร่งแสงที่ผมเห็นให้ได้!

แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่สนใจผมเลย ตั้งหน้าตั้งตาดูหนังสยองขวัญเลือดสาดเหมือนมันโคตรสนุก จะกะพริบตาก็เสียดายว่าจะพลาดฉากเด็ด ผมยืนกอดอกพยายามไม่ใส่ใจกับเสียงหวีดร้องขวัญผงาจากหนัง แต่สมองเจ้ากรรมยิ่งพยายามจะละเลยเสียงนั้นยิ่งได้ยินชัดเจน ทำไมเสียงมันโหยหวนขนาดนั้นวะ? มันต้องน่ากลัวมากแน่ๆ! หยุดเลยไอ้เนรัญ จะไปจินตนาการภาพทำไมวะ?

ผมเริ่มสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเผลอตัวกรีดร้องพร้อมกับตัวประกอบของหนัง พอได้สติก็แทบจะมุดพื้นหนีอาย ผมตัดสินใจหันไปเผชิญหน้ากับทีวีที่ฉายภาพไม่เจริญหูเจริญตา สะดุ้งแล้วหลับตาปี๊ดกับภาพแสนโหดร้ายนั้น ควานหารีโมตรีบกดปิดทีวีแล้วหันมาพูดกับพี่เฮดีสที่นั่งทำหน้าเมินเฉย

“ผมว่าเรามาคุยกันจริงๆ จังๆ กันดีกว่า”

เขายังคงนิ่งเงียบเหมือนเดิม

“ผมอยากรู้เกี่ยวกับตระกูลของพี่ที่มันเกี่ยวข้องกับชีวิตของพี่ไนซ์ ได้โปรด ผมอยากรู้จริงๆ” ผมยื่นความจำนงอย่างเด็ดขาดและจริงจัง พี่เฮดีสมองมาที่ผมแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นสุดขั้ว แต่มันไม่ทำให้ผมเจ็บปวดเท่าคำพูดของเขา

“มันไม่เกี่ยวกับนาย เรื่องของตระกูลคนนอกไม่มีสิทธิ์รู้”

“อย่าอ้างอย่างนั้นขนาดพี่ยูยังรู้ได้เลย! ทำไมพี่จะเล่าให้ผมฟังไม่ได้ล่ะ!?” อะไรมันดลใจให้ผมตอบกลับไปอย่างนั้นกันนะ พอรู้ตัวว่าตัวเองกำลังก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวในครอบครัวของเขามากเกินไป แถมยังเอาพี่ยูพี่ชายแสนดีมาเกี่ยวอีก ผมก็รู้สึกผิด พยายามระงับอารมณ์กรุ่นๆ ในใจและกำลังจะเอ่ยขอโทษ

“เจ้านั้นไม่เหมือนกัน”

พอพี่เฮดีสเอ่ยประโยคสั้นๆ ที่ทิ่มแทงใจของผมแทบพรุนไปทั้งดวงทำเอาผมยืนเซ่อไปเลย

อ้อ ผมไม่เหมือนกับพี่ยู ผมเข้าใจ ผมไม่ใช่เพื่อน พี่คงไม่ไว้ใจผมที่จะเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง ผมเข้าใจดีว่าเราอาจจะรู้จักกันได้ไม่นาน แน่ล่ะ มันจะเหมือนกับเพื่อนที่คบกันมานานได้ยังไง ผมนี่มันบ้าชะมัด ผมยกมือนวดดวงตาอันเหนื่อยล้าอ่อนแรง มันปวดหนึบและร้อนผ่าว ทั้งๆ ที่ผมเข้าใจแต่ทำไมถึงได้รู้สึกแย่ขนาดนี้กันนะ? ผมจ้องเขาด้วยดวงตาอันพร่ามัวไปด้วยม่านน้ำตาที่เอ่อท่วม แข็งใจบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น เสียงที่พูดออกมามันก็น่าสมเพชอยู่ดี

“ผมเข้าใจ พี่ไม่ไว้ใจผม”

พี่เฮดีสหันมามองผมแล้วขมวดคิ้ว เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ผมยกมือขัดขึ้นก่อน บ้าเอ๊ย ทำไมขอบตาถึงได้แสบขนาดนี้กัน ผมพยายามกักน้ำตาไม่ให้ไหลแต่แล้วก็ทำไม่ได้ มันไหลตามแรงโน้มถ่วงธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของโลก ทั้งๆ ที่ปวดหัวแทบจะระเบิดแต่ผมก็พยายามจะยิ้ม กลายเป็นว่ามันเป็นยิ้มที่ดูไม่ได้เลย 

“ผมขอโทษที่ทำให้ลำบากใจ ขอโทษที่ยุ่งกับเรื่องของพี่มากไป ขอโทษจริงๆ”

“อย่าร้องไห้” พี่เฮดีสลุกขึ้นยืน เขายกมือขึ้นห้ามแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอันทุ้มต่ำ มันฟังดูเหมือนเขาตกใจ ผมช้อนตามองไปที่เขา เขาขมวดคิ้วตีสีหน้าลำบากใจทำอะไรไม่ถูก ผมหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลรินแล้วเอ่ยปลอบใจ ไม่อยากให้เขาต้องรู้สึกผิดกับอาการบ้าๆ ของผมในตอนนี้

“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่รู้สึกสับสนกับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น อย่าสนใจเลย” ผมถอนหายใจปิดตาลงอย่างเชื่องช้า ขอผมพักสักหน่อย ตั้งแต่เจอกับเขา มีเรื่องราวเกิดขึ้นเยอะแยะจนผมรู้สึกรับมือไม่ทันเหมือนกัน และเหตุการณ์น่ากลัวเมื่อกี้ก็ทำให้ผมอ่อนแอกว่าปกติ 

ผมตัวสั่นเมื่อรับรู้ถึงการโอบกอดอันนุ่นนวลจากใครบางคน ผมตกอยู่ในความอบอุ่นของอ้อมกอด แรงกอดรัดที่เหมือนหวงแหน ท่าทางทะนุถนอมของการประคองกอดของเขาทำให้ผมใจเต้น ร่างกายที่สูงใหญ่แผ่ความอบอุ่น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำหอมและน้ำยาปรับผ้านุ่มบนเสื้อผ้าของเขาทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย ผมเอนตัวพิงเขาปล่อยน้ำตาที่กลั้นไว้ออกมาในครั้งเดียว

“ขอโทษจริงๆ ครับ”

...ที่มาร้องไห้ร้องห่มอย่างกับเด็กๆ แบบนี้ ผมเสียใจแต่มันหยุดไม่ได้

“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ” พี่เฮดีสถอนหายใจ เขากระซิบข้างหูของผมแผ่วเบาเหมือนสายลมแผ่ว โอบกอดผมไว้แน่นหนาราวกับกำลังปกป้อง มือใหญ่ที่ลูบหลังปลอบประโลมผมนุ่มนวลอ่อนโยน

ผมได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะมั่นคงของเขาแล้วเริ่มสงบจิตใจ กลับมาควบคุมตัวเองได้ และเริ่มรับรู้ถึงพฤติกรรมอันชวนอับอายของตัวเอง ใบหน้าของผมร้อนเหมือนมีถ่านไฟแนบ แย่แล้ว! ตอนนี้ผมจะผละออกยังไงดีถึงไม่ทำให้บรรยากาศไม่อึมครึมไปกว่านี้? ผมเงียบด้วยความจนปัญญา เกร็งตัวแข็งทื่อไม่กล้าแม้จะขยับ





โย่ว! ตายแล้ว ผ่านมาเกือบจะสองเดือน เห็นคนอ่านแทบจะแช่งปอย 555
ขอโทษน่า~~~  :mew2:  จะพยายามมาชดเชยนะจ้ะ จะพยายาม!

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2013 00:14:50 โดย lie-boy »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ขอจิ้มก่อน หึหึ มาสายนะเนี่ยคุณนักเขียน ต้องทำโทษโดนการแถมอีกตอนนะ อิอิ ^_^

...........................................

เฮดีสเริ่มมีพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อและจิตใจแล้ว แอบดีใจเล็กๆ แต่สงสารหนูรัญ ไปสารภาพรัก(โดยไม่ได้ตั้งใจ/ไม่รู้ตัว)กับคนกล้ามเนื้อตายซะงั้น -*-
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2013 00:56:31 โดย cattydoggy »

ออฟไลน์ พลอยสวย

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1622
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-5
 :mc4: :mc4: :mc4: จุดพลุๆๆ เย้ๆๆน้องรัญมาแว้วว

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ถ้าอยากชดเชย
ต้องมาต่อบ่อยๆนะคะ
รออยู่ค่าาา
แล้วสรุปเฮดีสคุยกะใคร???

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ไม่น่าอ่านตอนดึกๆเลย  ง่ะ!!     เค้ากลังน้าาาาา!!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ michiri.sama

  • ลูกเป็ดที่หมกมุ่นในโลกสีม่วง (´∀`)♡
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
แย่แล้วววววววว เฮดีสคุง ทำเนรัญน้อยร้องไห้ติดๆกันภายในตอนเดียว แต่ปลอบน้องได้โคตรจะอบอุ่นนุ่มนวล การกระทำสวนทางกับคำพูดอย่างยิ่ง พ่อหนุ่มซึนของเรา 555555555555

เรารอเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อเลยนะคะ ชอบมากหนุ่มน้อยซื่อๆน่ารักๆกับพระเอกโหดๆเงียบๆขรึมๆแต่ใจจริงแล้วทั้งรักทั้งหวงนายเอกนะจ๊ะ อะไรแบบนี้ ฟินมาก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

คนเขียน T____T หายไปนานเบย คิดถึงนะคะ อย่างน้อยส่งข่าวมาหน่อยก็ยังดี คนอ่านจะได้ไม่เป็นห่วงนะจ๊ะ ♥

เอาเป็นว่า รอติดตามตอนต่อไปเช่นเคยจ้า~

ออฟไลน์ minere_mi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
เหยดดดดดด!!!เห็นตอนแรกนึกว่าตาฝาด!! :laugh: :mc4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :m2: ขอบคุณที่กลับมา น้ำตาไหลพรากๆเลย

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
คลิกเข้ามานี่มือสั่นเลย ดีใจที่มาต่อ 555
ทำน้องร้องไห้อีกแล้วนะ

ออฟไลน์ et-file

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
มาเพิ่มอีก ตอนเดียวไม่พอ :ling1: :ling1: :katai1:

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
เอิบ...ตกลงผู้หญิงคนนั้นคือใคร??
เมียเฮดีสอ่อ?(โดนตบ)

ปล.ครั้งที่แล้วทวงนิยายคยเขียนไปโดน -1 เลย เออ...สงสัยคงใช้คำพูดไม่สุภาพ
ขอโทษนะคะ หึหึ

ออฟไลน์ t152_rakjai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พี่เฮดีสคุยกับผีได้...จะน่ากลัวไปไหน
แต่ตอนนี้พี่แกเริ่มมีมุมอบอุ่นอ่อนโยนนิด ๆ ละ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่เฮดีส ทำไมมันลึกลับขนาดนี้
จับเนรัญทำเมียจะได้เป็นคนในตระกูล อุ้ย! คิดอะไรออกไป

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
ไดอ่านต่อแล้ว ดีใจสุดๆเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
คนแต่งหายไปนานนนนมาก จนจำเนื้อเรื่องแทบไม่ได้ ขอบคุณมากค่ะ มาช้าดีกว่าไม่มาเลย  :pig4:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เฮีย
จับรัญปล้ำเลยเหอะ เชียร์ๆ
กร๊ากกกกก

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ melody

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
นึกว่าเรื่องนี้จะไม่มาต่อซะแล้ว ^^
แต่เนื้อเรื่องเริ่มดำเนินไปช้าๆนิสนึงเนาะ

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ตอนแรกมองผ่านไปแล้วก็ต้อง หือ...กลับมาดูใหม่นึกว่าตาฝาด

กรี๊ดดดดดดดดด มาอัพแล้วจริงๆด้วย

น้องรัญโดนแกล้งน่าสงสาร หมั่นไส้เฮดีสว่ะ

แล้วนั่นผีผู้หญิงจริงป่ะ อยากรู้จริงๆ

สัญญาแล้วนะว่าจะกลับมาชดเชย มาเร็วๆเลย

เรารออยู่  :mew1:

ออฟไลน์ raviiib❁

  • คนเขียนนิยาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
ลืมเนื้อเรื่องจนต้องกลับไปอ่านตอนแรกเลยค่ะ555555555555
เฮดีสทำเนเน่ร้องไห้อีกแล้วววววว :angry2:
ปมเยอะจริงไรจริงคะเรื่องนี้ ว่าแต่ผีนั่นเอามาหลอกเนเน่หรอเฮดี้สสส?

รอตอนต่อไปน้า คิดว่าจะดองเค็มซะแล้วเรื่องนี้ :m15:

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
 :m3: :m3: :m3: :m3: ว้ายยยยยย มาแล้ววววววววววววว
 คราวนี้เฮียแกพาลูกน้อง(?)มาด้วย เอามาหลอกเนเน่หรา ทำเนเ่น่เสียขวัญเลย กอดปลอบถึงเช้าไปเลยค่ะเฮีย  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ junjou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • www.facebook.com
คถ.เฮดีสกับเนรัญสุดๆ ><

ออฟไลน์ hibatsumoe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ไม่เสียมารยาทใช่ไหมคะ ถ้าจะบอกว่าถึงกับขยี้ตาที่เห็นว่าเรื่องนี้อัพ!!! // โดนถีบ :z6:
แต่ว่าละลายแทนอ่า พี่เฮดีสแกเล่นกอดแบบอบอุ่น ละลายยยยย><
อัพช้าไม่เป็นไร เห็นว่าพี่แกหล่อ ให้อภัยละกัน จุ๊บ ><

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ลืมตอนเก่าแล้วอะ เหอะๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด