♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]  (อ่าน 1089851 ครั้ง)

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ผิดคาดตั้งแต่เนเน่เจอผีแล้วพี่เฮแกสั่งผีล่ะ เราก็นึกเลยว่าเรื่องนี้มันต้องแฟนตาซีชัวร์ ไม่ยักกะรู้ว่าแฟนตาซีจริงๆ หนุกมาก พล๊อตเรื่องแบบตอนแรกนึกว่าธรรมดา ที่ไหนได้มีกลิ่นอายของแฟนตาซีมาด้วย ชอบอ่ะ *0*

รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
รีบๆมาต่อเลยนะคะ
ค้างงงงง
ต้องการสมการแก้คำตอบตระกูลเทพ

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
กลายเป็นแฟนตาซีซะแล้วเรอะ  :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อุ๊ยตาย. ตอนนี้เริ่ดค่ะ
น่าสงสารลินเช่ย์แบบเนเน่ยังไม่คุ้นชินซะที 555

ออฟไลน์ hibatsumoe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เรื่องนี้กลายร่างเป็นแฟนตาซีไปแล้ว
แต่เราก็ชอบค่ะ ช่วงนี้กำลังหาแฟนตาซีอ่านอยู่ด้วย
แต่แบบ พี่เฮดีสคะ หนูเนเน่เขาเป็นคนธรรมดา
ชอบถนุถนอมหน่อยเถิดเจ้าค่ะ ><
แต่ชอบน้องแมนมากๆ กินเครื่องจับเท็จ 555
หนูเนเน่โกหกไม่ได้แล้ว
รักคนเขียนนะคะ เปลี่ยนแนวได้ตรงใจ รอบนี้ต่อไวด้วย
ปกติเราจะต้องเอาไปแอบบ่นกับเพื่อนทุกทีว่านิยายที่รอไม่อัพ 555

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ตอนแรกที่อ่าน ดูจากชื่อเรื่องก็คิดว่า รัญคงเป็นดีสุดขั้ว พี่เฮดีสก็คงเป็นชั่วสุดขีด พออ่านไปเรื่อยๆ พี่เฮดีสก็ไม่ได้เลวอะไรหนักหนานิหน่า เอะหรือมีเบื้องหลัง พออ่านไปสักพักเริ่มมีตัวละครเทพโผล่มาเรื่อยๆ ก็คิดอีกว่า พ่อแม่บ้านนี้แปลก ทำไมตั้งชื่อลูกเป็นชื่อเดียวกับเทพละ ไม่ดีเลยนะ เด็กจะพาลป่วย เพราะชื่อมันสูงเกินไป แต่ก็ไม่คิดไร ก็นิยายนินะ และพออ่านมาเรื่อยๆจนถึงตอนล่าสุดเนี้ย ก็เริ่มเข้าใจละว่าทำไม เทพทั้งหลายมารวมตัวกันท้องฟ้าเลยปั่นป่วนสินะ แล้วที่ต่างมีผีหรือภูติอะไรก็ตามแต่อยู่ข้างตัวตลอด ก็แปลว่าครอบครัวนี้ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดาแล้วละ

ลุ้นจังว่าต่อไปจะเป็นยังไงต่อ

ทำไมพี่ไนท์ถึงป่วยหนัก ทำไมถึงชื่อไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้า ทำไมเป็นลูกยายคนนั้นแล้วไม่มีพลังวิเศษ หรือว่าเพราะใกล้ชิดกับพวกนี้ก็เลยป่วยหนัก เหมือนที่พี่เฮดีสเคยบอกว่าถ้าใครอยู่ใกล้ตัวจะซวย เกิดอันตราย เลยถอยออกจากเนรัญไปพักนึง
โอ้ยยย อยากรู้เยอะแยะเลย

ออฟไลน์ someone0243

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
 o22 o22 ...ช็อก!!  คนเขียนอัพบ่อย!
อิอิ แซวเล่นค่ะ ไม่ค่อยได้มาคอมเม้นต์เรื่องนี้(หรือไม่เคยเลยหว่า orz) แต่ชอบมากๆเลยนะคะเรื่องนี้!
รอตอนต่อไปค่ะ หวังว่าจะเร็วๆนี้นะคะ ( _  _ )

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ตอนหน้าก็จะรู้แล้ว  ตื่นเต้นอ่า!!!

ออฟไลน์ ronlbb

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ไหงกลายเป็นนิยายแฟนตาซี

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ตัดฉับ !! อ๊ากกกกกกกกกกก
อยากรู้อะ  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
เรื่องนี้มันอยู่นอกเหนือการคาดเดาเสมอเลย :m29:

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
อะไรกันเนี่ยยย นี่มันแนวแฟนตาซีนี่หว่า แบบนี้ชอบบบบบ  :katai2-1:

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
บ๊ะ ตอนหน้า พี่โพไซดอน พระราม9 ออกโรง 55555

ออฟไลน์ PoppyPrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re :
«ตอบ #1424 เมื่อ18-10-2013 20:59:37 »

เรื่องนี้มันมีปริศนาเยอะจริงๆ  #  ปล.  ชอบฉากทายาที่สุดเลยอะ  เขิน  -//-

ออฟไลน์ zoe131313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฟินๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
โอ๊ยยยยย อยากรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว รอให้ถึงตอนหน้าเร็วๆ  :mew1:

Alphas

  • บุคคลทั่วไป
กรีดร้องงงงง สนุกฝุดฝุด

ออฟไลน์ Sirada_T

  • We Will [Luk] You!!
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
เข้าใจว่าคนในตระกูล ทุกคนได้รับเชื้อเทพ ล่ะถ้าไม่ตั้งชื่อตามนั่นก็จะตาย  เผอิญเฮดิสดันได้เชื้อเทพแห่งตวามตายมา  ใครอยู่ใกล้ก็จะบาดเจ็บหรือตายในเร็ววัน ใช่ป่ะ?

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ไม่ได้อ่านนาน ค่อนข้างจะลืมๆเรื่องราวไปบ้างแล้ว

5555555555555555555555

ต้องไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกแล้วสินะ . . .

สนุกดีอ่ะ  ตอนหน้าจะได้เจอโพไซดอนด้วย

ไม่รู้จะเป็นยังไง

รอจ้ะ

ขอบคุณคนเขียนเน้ออออออออออ 

มาจุ๊บที  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ยัยคุณแม่แก้วตานี่ต้องเป็นแบบที่เราคิดแน่เลย ประเภทหลงรักลูกตัวเอง

เนรัญน่าสงสารมากที่ต้องมาโดนพิษแรงหึงขนาดนี้

พี่เฮดีสต้องปกป้องน้องให้ดีๆนะ

ปล.ใกล้จะรู้ความเป็นมาของตระกูลนี้แล้ว อยากให้มาต่อเ้ร็วๆจัง :hao7:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ชักสงสัย เป็นย่าหรือเมียกันแน่ร้ายยยจัง :katai1:

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
วู้  สนุกอ่ะ  เราปล่อยเรื่องนี้รอดสายตาไปได้ไงหว่า
ชอบๆอ่ะ   ชอบเฮดีสกับเนเน่มากๆ
:กอด1:

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เพิ่งเคยเข้ามาอ่าน
อ่านรวดเดียวถึงตอนนี้เลย
ตอนแรกๆ ก็เหมือนนิยายพระเอกซึน นายเอกเอ๋อธรรมดา
แต่พอลินด์เซย์โผล่มา พร้อมกับเงื่อนงำของพลังพิเศษของตระกูลเทพนี่
โอ้ เริ่มรู้สึกถึงกลิ่นไอความมหัศจรรย์อย่างคาดไม่ถึง
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วสิ
หรือน้องเนจะเป็นเทพีเพอร์ซิโฟนีจริงๆ

คนเขียนจ๋า
เค้าไม่อยากเดาเองแล้วอ่ะ
อยากอ่านต่อแล้ว มาเฉลยเร็วๆ เถอะนะคะ
;_;

maxsextex

  • บุคคลทั่วไป
มานั่งรอ

ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
รอๆ ค่าาาา อยากอ่านต่อง่ะ :hao5:

ออฟไลน์ sunshine538

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
คือจริงๆ แล้วก็พอจะรู้สึกอยู่ลางๆ แล้วนะ ว่าที่ท่านพี่และครอบครัวใช้ชื่อเทพยกเซ็ตกันแบบนี้ ถ้าไม่ตลกร้ายก็คงมีอะไรแอบแฝงอยู่ ก็นะ... นี่ประเทศไทย ใช้ชื่อเทพเจ้ากันซะขนาดนั้นก็ต้องน่าสงสัยสินะ 555

แต่คงเพราะการดำเนินเรื่องช่วงแรกที่เน้นปูพื้นความสัมพันธ์ของทุกๆ คนพร้อมๆ กันปล่อยปมนู่นนี่มาให้ชวนสงสัย ทำให้ความเป็นแฟนตาซียังไม่ชัด มาจะๆ เอาตอนลินเซ่ย์โผล่นี่แหละ 555 แล้วยังท่านแม่จอมโหดอีก ... สงสารเนเน่จัง ถ้าท่านพี่เฮดีสมาช่วยไม่ทันนี่คงแย่แน่ๆ  :z3:

อืม... ท่านพี่เฮดีสพาเนเน่เข้าบ้านเหรอ คงไม่ใช้ "วิธี" แปลกๆ หรอกนะ ที่แน่ๆ ท่านพี่เล่นหยอกน้องอีกแล้ว คราวนี้ลวนลามกันเห็นๆ ทนเข้าไว้ท่านพี่ ทนไว้  :hao6:

รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :call:

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy
สุดขั้ว 17

ใครมางั้นเหรอ?

ผมได้ยินคำบ่นของพี่เฮดีสแล้วเกิดคำถามในใจ มันเกี่ยวอะไรกับฝนและสายฟ้าพวกนี้หรือเปล่า? พี่เฮดีสหันกลับมายืดตัวนั่งตัวตรงยกแขนพาดบนพนัก ผมมองเขาที่วางท่านั่งเต็มที่อย่างงุนงง ผมมองไปรอบๆ ห้องโถงที่ประดับประดาด้วยของชั้นเลิศ มองไปทางไหนก็ระยิบระยับแยงตาแทบจะบอด จะว่าไปแล้วทำไมพี่เฮดีสถึงได้ไปอยู่ที่คอนโดนั้นแทนที่จะอยู่ที่นี้ล่ะ? บ้านก็ออกจะกว้างใหญ่มโหฬารขนาดนี้ ยังจะไปอยู่คอนโดนั้นคนเดียวอีก แปลกจังแฮะ

“อ๊า!!! คุณลุงงง~~ ซูสสส~~!!!” เสียงกรีดร้องตื่นเต้นยินดีของคู่ฝาแฝดตัวน้อยดึงความสนใจของผมให้หันไปมอง หน้าห้องโถงมีแขกคนใหม่เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มนิดๆ บนใบหน้าหล่อเหลาที่ใสวิ๊งเหมือนเทพบุตร คงจะเรียกว่าแขกไม่ได้หรอกครับ เขาน่าจะเป็นเจ้าของบ้านมากกว่า

ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีเทานวลย่องตัวนั่งลงอ้าแขนรับตัวไมนอสกับแมนทีสที่วิ่งพุ่งเข้าหาด้วยความเร็วและแรงชนิดกะจะทำทัชดาวน์คู่ ผมมองทั้งสามคนทักทายกันอย่างแปลกใจ เฮ้ย ไปสนิทสนมกันได้ยังไงน่ะ? ฝาแฝดยังกระดี๊กระด๊าทำตัวสนิทสนมกับพี่ซูสออกหน้าออกตาเหมือนรู้จักกันมานานแรมปี 

“เป็นยังไงบ้างเด็กๆ โตขึ้นหรือเปล่าเนี่ย?”   

“ฮะ! พวกเราสูงขึ้นนิดหนึ่ง!”

“ดีมาก! กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ เหมือนลุงกับคุณพ่อไง”

“คร้าบบบ!”

อาการของเด็กน้อยสองตัวนี่ยิ่งทำให้ผมสงสัยหนักข้อขึ้น ดูสิครับ ทำตาโตเปล่งประกายระยิบระยับอย่างกับแฟนคลับเจอไอดอลในใจอย่างนั้นเลย แถมยังทำตัวบ๊องแบ๊วออดอ้อนสมวัยกันสุดชีวิต ไอ้ตอนที่อยู่กับผมน่ะทำตัวแซบทรวงไม่ได้แอ๊บแบ๊วน่ารักคิขุกันแบบนี้เลย เจ้าเด็กสองตัวนี่น่ากลัวชะมัด!

“เฮ้ย รายการซูสพบประชาชนเอาไว้ก่อนได้ไหม? ช่วยๆ หลีกทางและลดเสียงให้ที ปวดหัวโว้ย!” แขกคนใหม่เดินเข้ามาส่งเสียงเตือนอย่างขุ่นเคือง ผมมองไปก็ต้องตกใจกับรูปร่างอันสูงใหญ่ของเขา เรียกได้ว่าสูงและใหญ่กว่าพี่ซูสกับพี่เฮดีสซะอีก แถมผมเผ้ายาวยุ่งเหยิงไว้หนวดไว้เครารกรุงรังปิดหน้าปิดตายิ่งกว่ามหาโจรเสียอีก! เขาใช้เท้ายันหลังพี่ซูสเบาๆ ทำเสียงฮึ่มๆ ในลำคอ

ไมนอสกับแมนทีสเงยมองแขกคนใหม่แล้วร้องโวยวายกอดคุณลุงไว้แน่น คุณลุงขมวดคิ้วอุ้มเด็กๆ ขึ้นแล้วหันไปเผชิญหน้ากับหมี ฝาแฝดแหกปากลั่น

“แว๊กกก! คุณลุง หมีบุกกก!”

“หมีบ้านพ่อแกเหรอ จะหล่อขนาดนี้ ไอ้เด็กเวรนี่!” คนที่ถูกว่าเป็นหมีคิ้วกระตุก กัดฟันกรอดแล้วตวาดกลับเสียงดัง ทำท่าจะเข้ามาจับตัวคนกล่าวหาที่พร้อมใจกันแหกปากร้องขอความช่วยเหลือจากคุณลุงที่ทำหน้าบิดเบี้ยวไม่พอใจกับสภาพแขกตรงหน้า พี่ซูสเอ่ยเตือนน้ำเสียงเข้ม

“โพซ อย่าพูดหยาบคายต่อหน้าเด็ก”

“หยาบตรงไหนเฮี้ย~ แล้วผมก็หล่อจริงๆ นะ!”

เฮียคนนั้นก็มั่นใจในตัวเองสุดๆ! ผมมองหน้าคนที่ประกาศดังก้องว่าตัวเองหล่อแล้วขำพรืด ไม่รู้ว่าหล่อจริงหรือเปล่า เพราะผมยาวๆ และหนวดเคราพวกนั้นมันบังซะมิดชิด ไมนอสกับแมนทีสเมื่อมีคุณลุงคอยหนุนหลังก็หันไปแย้ง

“ไม่เห็นจะหล่อตรงไหนเยย! คุณลุงซูสหล่อกว่าตั้งหลายเท่า”

“หมีจะหล่อได้ยังไง!”   

“หนอยยย! ไอ้เด็กตาต่ำ!” คุณหมีคำรามเสียงดังกระโจนเข้าใส่อย่างหัวเสีย แต่สองฝาแฝดถูกคุณลุงซูสอุ้มเดินหนีไปก่อน ทั้งสองหันไปแลบลิ้นปลิ้นตาหยอกล้อหมีป่าตัวโตอย่างเป็นต่อ ทำให้พ่อหมีตัวโตหน้าเหี้ยมเพิ่มดีกรีความน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมเป็นสิบเท่า เขาก้าวย่างสามขุมแล้ววิ่งไล่เกือบจะถึงตัวฝาแฝด สถานการณ์ปั่นป่วนเล็กๆ หมีเกิดออกอาการคลุ้มคลั่งไล่จับเด็กๆ ไม่ยอมอ่อนข้อให้

“จะหนีไปไหน หา!”

“ว๊ากกก! ช่วยด้วยจ้า หมีจะกินเด็กแล้วววว!”

สองฝาแฝดกระโดดจากพี่ซูสร้องกรี๊ดกร๊าดทำเหมือนกลัวกันเสียเต็มประดา แต่หน้าเนี่ยฉีกยิ้มถึงใบหูแน่ะ ไมนอสแมนทีสวิ่งหนีหมีกันชุลมุนวุ่นวาย เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากสนุกสนานกันใหญ่

ตอนแรกผมจะเข้าไปช่วยพวกเด็กๆ แล้วล่ะแต่พี่เฮดีสดึงเอาไว้ก่อน พอนั่งมองดูต่อไปก็เห็นได้ว่าคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหมี ไม่ได้จริงจังเลยเหมือนกำลังหยอกเล่นซะด้วยซ้ำ พี่เฮดีสยกถ้วยชามาจิบไม่สนใจละครลิงตรงหน้า พี่ซูสเดินมานั่งตรงกันข้ามกับพวกเรา สาวใช้ในชุดเครื่องแบบเรียบร้อยก็เข้ามารินน้ำชาให้

“สวัสดีครับเนรัญ มานานแล้วเหรอครับ?”

“สวัสดีครับ ไม่นานหรอกครับ เพิ่งมาถึงก่อนหน้าพี่นิดหน่อยครับ” ผมละสายตาจากละครหมีโหดโหมดคลั่งมาตอบพี่ซูสซึ่งเอ่ยทักทายขึ้นมาก่อน เขาเอนตัวพิงพนักด้านหลังนั่งไขว้ห้างด้วยท่าทางสบายเป็นกันเอง ผมยิ้มอย่างขัดเขินเล็กน้อย

ผมลอบมองพี่ซูสที่กำลังก้มหน้าจิบน้ำชา อ่า เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสสังเกตใกล้ขนาดนี้ จะว่าไปแล้วพี่ซูสเหมือนพี่เฮดีสไม่น้อย ผมสีดำที่ตัดสั้นเป็นทรงสุภาพ ตาสีน้ำตาลทอง ผิวขาว หน้าตาแนวตะวันตกชัดเจนกว่าพี่เฮดีส ที่เคยสงสัยว่าพี่เฮดีสต้องเป็นลูกครึ่งคงจะไม่ผิดซะแล้วล่ะครับ ก็พี่ชายของเขาหน้าฝรั่งจ๋าขนาดนี้นี่น่า

พี่ซูสเงยหน้าขึ้นจากถ้วยชาแล้วยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก แม้ภายนอกจะคล้ายกันแต่บรรยากาศรอบตัวกลับแตกต่างจากน้องชายอย่างชัดเจน พี่ซูสเหมือนเจ้าชายในนิทาน พูดจาสุภาพอ่อนโยน เป็นมิตร เข้าถึงได้ง่ายแต่ก็เย่อหยิ่งทะนงตน ถ้าพี่เฮดีสเปรียบเป็นราชาแห่งความมืด พี่ซูสก็ต้องเป็นราชาแห่งสรวงสวรรค์!   

“บอกไว้ก่อน ถ้าจะคุยอะไรล่ะก็ให้คุยหลังฉันได้นอนแล้ว”

ผมผงะตกใจกับการโผล่เข้ามากะทันหันของหมีหน้าเถื่อน เขาจับเด็กๆ โยนไปนั่งข้างพี่ซูสแม่นยำอย่างกับจับวาง แถมคู่แฝดไม่ร้องโอดโอยสักแอะ ซ้ำยังหัวเราะคิกคักชอบใจ เสียงเข้มพูดรัวเร็วตัดบทคนอื่นๆ พลางเดินอ้อมมานั่งลงข้างพี่เฮดีส เขาเอนตัวไปด้านหลัง แขนยกขึ้นพาดบนพนัก ขาตวัดไขว้ห้าง เชิดหน้าอย่างโอหัง

เอ๊ะ เดจาวู!!? 

ผมยกคิ้วขึ้น รู้สึกเหมือนเคยเห็นใครสักคนทำท่าแบบนี้ แน่ล่ะ มันเหมือนท่าวางมาดของพี่เฮดีสก่อนหน้านี้เปี๊ยบเลย! ถึงคนหลังเนี่ยออกจะดิบเถื่อนกว่าหลายเท่าก็เถอะ แล้วไอ้รังสีอันตรายรอบตัวแบบนั้นก็ช่างเหมือนพี่เฮดีสเหลือเกิน! หน้าเยี่ยงมหาโจรไม่พอยังมีท่าทางดุดันทำเอาผมไม่กล้าแอบมองเขาเลย คนรับใช้ยังตัวสั่นหน้าซีดกลัวอย่างเห็นได้ชัด รีบวางถ้วยไว้ตรงหน้าของเขาแล้วถอยหนีแบบไม่คิดชีวิต

พี่ซูสเปรยตามองงคนๆ นั้นอย่างเร็วๆ เหมือนไม่ชอบใจเท่าไรแต่ก็ไม่ว่าอะไร เขาหันมาเอ่ยกับผมอย่างเกรงใจ

“ต้องขอโทษแทนน้องชายด้วยนะเนรัญ เจ้านี่เหนื่อยนิดหน่อยเลยหงุดหงิดน่ะ”

“นิดหน่อย? เฮอะ ต้องปุเลงๆ ขับรถกลับมาตั้งกี่ร้อยกิโลคงจะแค่เหนื่อยนิดหน่อยหรอก!” เจ้าตัวที่ถูกขอโทษแทนทำเสียงขึ้นจมูก เอ่ยน้ำเสียงประชดประชันสุดชีวิต 

“โพซ แกเงียบก่อนได้ไหม?” พี่ซูสเหลืออดกับคำบ่นงึมงำของพ่อหมีป่าหันไปเตือนด้วยสายตาเย็นเฉียบ แต่คนที่เขาเรียกว่าน้องชายกลับยักไหล่ไม่สะเทือนสะท้านแถมไม่สนใจพี่ซูส

ดวงตาสีครามคู่สวยซึ่งมันแดงก่ำเหมือนคนอดหลับอดนอนหันขวับมามองพี่เฮดีสแล้วแยกเขี้ยวขู่เสียงต่ำ แค่นั้นยังไม่พอ การกระทำของเขาทำเอาผมสะดุ้งโหยง ก็เขาเล่นวางมือบนหัวพี่เฮดีสแล้วกดต่ำลงเลยน่ะสิ! แย่แล้ว คนๆ นี้หาเรื่องใส่ตัวเองชัดๆ!

“ไอ้เสือ ถ้าธุระของเอ็งไม่สำคัญล่ะก็พ่อจะเตะให้ช้ำในตาย!”

“พี่กล้า?” พี่เฮดีสหันไปสบตาแล้วเอ่ยตอบกลับนิ่งๆ ผมใจเต้นตึกตักกลัวจะมีการวางมวยเกิดขึ้นกลางห้องรับแขกนี้ หมีหน้าโหดหัวเราะเสียงทุ้มในลำคอแล้วตบหัวของพี่เฮดีสดังปึง เขาเอ่ยทับน้ำเสียงหมั่นไส้

“เออ ยิ่งกว่ากล้าอีกโว้ย! อยากลองไหม?”

ผมใจหายวาบ คนๆ นี้เป็นใครกันเนี่ย!? กล้าตบหัวของพี่เฮดีสได้หน้าตาเฉยเลย โอ๊ยยย!

“ไม่คิดว่าน้องจะคิดถึงบ้างเหรอ?” พี่เฮดีสที่ถูกตบหัวไม่โต้ตอบอะไรกลับไปใดๆ เขาเอ่ยถามกลับด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ไอ้ประโยคที่ว่านั้นทำเอาพี่ซูสสำลักน้ำชาไอแค่กๆ จนหน้าแดง ผมเหวอแดก และพี่หมีทำหน้าบิดเบี้ยวยิ่งดูเหี้ยมกว่าเดิม เขาหันไปถมน้ำลายขยับตัวออกห่างจากพี่เฮดีสด้วยความไวแสงเหมือนกลัวจะติดเชื้อโรค

“ถุย! ขนตูดแม่งลุก ห่าเอ๊ย พูดมาได้นะเอ็ง” เขาสบถเสียงดัง แจกลูกถีบอย่างแรงแถมฟรีให้อีกดอก

พี่เฮดีสล้มถลามาทางผม ผมก็กะจะรับตัวเขาเอาไว้แต่มันพุ่งมาเร็วมาก เฮ้ยๆ! อีแบบนี้คงได้ไปนอนกองกับพื้นทั้งสองคนแน่ ผมหลับตาปี๋ กลั้นหายใจรับการกระแทกลงพื้น แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น รู้สึกแค่ถูกกอดรัดแน่นเท่านั้น เอ๋? เกิดอะไรขึ้นน่ะ? ผมลืมตาขึ้นมาสบตากับดวงตาสีดำเข้มของพี่เฮดีสพอดี อ๊ะ มันอะไรกันเนี่ย? ผมงุนงงกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่

“เฮ้ย เคยบอกไปแล้วไม่ใช่หรือไง ถ้าเงี่ยนให้ไปทำในห้องมิดชิด อย่าประเจิดประเจ้อ” เสียงเตือนเรียบๆ ดังมาจากหมีเถื่อนทำเอาผมหน้าแดงระเรื่อรีบผลักพี่เฮดีสออกเร็วแบบเสี้ยววินาที ทั้งอายทั้งโมโห อยู่ดีๆ ก็มากอดกันหน้าตาเฉย แถมไอ้คำพูดนั้นก็ชวนให้เข้าใจผิดสิ้นดี ใครอยากจะไปทำอะไรในห้องก็ไปคนเดียวเถอะ!

พี่ซูสกระแอมเบาๆ ใช้สายตานิ่งๆ เตือนมา ผมก้มหน้าหนีอาย ไม่กล้าจะมองหน้าพี่ซูสตอนนี้เลย ไม่รู้เขาจะคิดยังไงเมื่อเห็นน้องชายมากอดฟัดกับผู้ชายด้วยกันแบบนี้ ให้ตายเถอะ แถมยังไม่ใช่แค่พี่ซูสคนเดียวด้วย แม้ห้องจะเงียบเหมือนร้างคนแต่อย่าลืมสิครับว่าคนรับใช้ยืนอยู่ไม่ไกลจากพวกเรา พวกนั้นยืนมองชนิดจดจ่อเลยล่ะ!

พี่เฮดีสกลับมานั่งทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในแบบของเขา ส่วนหมีในร่างคนไม่สนใจใครหน้าไหนเอนตัวนอนจะหลับมิหลับเหล่อยู่แล้ว! พี่ซูสราชาแห่งสวรรค์แทบจะดับยิ้มออร่าสว่างไสวเมื่อเห็นสภาพนั้น คิ้วเรียวชักกระตุก มุมปากกดลึกเหมือนกำลังข่มอารมณ์ขุ่นมัวในใจ เขากัดฟันตวาดเสียงแข็ง

“โพไซดอน! ลุกขึ้นมานั่งดีๆ!”

“ดีที่สุดแล้ว” คนถูกตวาดพึมพำตอบกลับรวดเร็ว ไม่แม้จะลืมตาขึ้นมาด้วยซ้ำ พี่ซูสถึงกับต้องกำหมัดข่มโทสะ เขาถอนหายใจเอือมระอาพลางยกมือปิดหน้าอย่างกลุ้มใจ แล้วหันมามองผมด้วยสายตาขอโทษอย่างแรงกับพฤติกรรมสุดเพี้ยนของน้องชาย ผมยิ้มรับแห้งๆ มองหมีที่นอนขึ้นอืดด้วยความไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

คุณพระช่วย! หมีเถื่อนตัวนี้ก็คือ...พี่โพไซดอน นั่นเอง!!!

“ขอโทษแทนน้องชายจริงๆ นะเนรัญ อ้อ เธอคงยังไม่รู้จักเจ้านี้สินะ น้องชายของพี่เอง ชื่อไพไซดอน มันเพิ่งเดินทางมาจากการดูงานต่างจังหวัดก็เลยเหนื่อยอย่างที่เห็นแหละ”

“ไม่เป็นไรครับ” ผมยิ้มรับอย่างเข้าใจ แม้ในใจจะอึ้งแค่ไหนก็ตามเถอะ นี่พี่โพไซดอนจริงๆ งั้นเหรอ? โอ๊ยยยย ต่างจากจินตนาการของผมลิบลับเลย! ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นหนุ่มมาดเนี้ยบผู้เคร่งขรึม แต่นี่ดันเป็นไอ้หนุ่มร่างหมีทั้งเนื้อทั้งตัวดิบเถื่อนหาความเป็นสุภาพชนแบบพี่ซูสไม่เจอเลยสักนิด! แถมหน้าตายังไม่หล่อเหลางดงามเหมือนพี่ซูสกับพี่เฮดีส ผ่าเหล่าผ่ากอสุดโต่ง!

“ดีสจะเอายังไงต่อ?”

“ไว้คุยหลังพี่โพซตื่นก็ได้” พี่เฮดีสมองพี่ชายคนรองที่เริ่มกรนครอกๆ ในลำคอ หันมาตอบพร้อมกับยักไหล่นิดๆ เหมือนจะบอกว่าคุยตอนนี้ไปก็ไร้ประโยชน์เพราะท่าทางจะปลุกตื่นได้ยาก พี่ซูสพยักหน้าเข้าใจ พอหันไปมองน้องชายตัวใหญ่แล้วกุมขมับกลุ้ม สีหน้าเริ่มอนาถากับท่านอนสุดพิลึก

“เอาเถอะ ก็แล้วแต่นายล่ะกัน งั้นไว้คุยกันหลังมื้อเย็นล่ะกัน ตอนนั้นเจ้านี่น่าจะตื่นแล้วล่ะ” พี่ซูสพูดราบเรียบตกลงกับพี่เฮดีส เมื่อทั้งสองฝ่ายโอเคเขาก็ลุกขึ้นยืน ก่อนที่จะเดินออกไปพี่ซูสก็ทำท่าเหมือนคิดอะไรขึ้นได้ เขาหันมาหาผมแล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก

“คงจะไม่ช้าไป ถ้าจะพูดว่า ‘ยินดีต้อนรับสู่บ้านก็อดไลค์เนส’ ครับเนรัญ”

ก็อดไลค์เนสงั้นเหรอ?

“รบกวนด้วยนะครับ” ผมลุกขึ้นแล้วผงกศีรษะรับ พี่ซูสยิ้มนิดๆ แล้วเดินไปสั่งพ่อบ้านให้มาจัดเก็บ เอ๊ย จัดการพาหมีที่นอนกรนครอกๆ ไปนอนให้เรียบร้อย พี่เฮดีสมองพี่ชายตัวใหญ่แล้วส่ายหน้าไปมา แล้วบ่นด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายแต่ผมคิดว่ามันฟังเหมือนเป็นห่วงมากกว่า

“พอออกไปทำงานคนเดียวทีไรกลับมาสภาพนี้ทุกที”

“มึงหัดดูแลตัวเองบ้างสิวะ แบบนี้มันลำบากพี่ลำบากน้องโว้ย” พี่ซูสขมวดคิ้วกอดอกแล้วบ่นสมทบอย่างอารมณ์เสีย ท่าทางสุภาพชนหายแวบ แถมยังยกเท้าเตะตัวน้องชายที่สะลึมสะลือขึ้นมาตอบ แม้จะง่วงแทบตายก็ไม่วายกวนโอยเหมือนเดิม

“หัดทำไม มีเฮี้ยกับไอ้ดีสก็เอาอยู่แล้ว”

“เอาอยู่พ่องงงงมึงสิ! กูก็มีลูกมีเมียให้ดูแล ไอ้ดีสก็เหมือนกัน ถ้าไม่ดูแลเองมึงควรจะหาเมียเป็นตัวเป็นตนมาดูแลได้แล้ว อายุมึงก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วด้วย” สบถลั่นทิ้งระเบิดลูกหนึ่งลงกลางกบาลของคนง่วงนอนอย่างรวดเร็ว ตามด้วยรายการบ่นไปเตะไปแต่คนนอนก็หาได้สนใจไม่ มองพี่ซูสตอนนี้แล้วอย่างกับตาแก่ที่กำลังบ่นลูกหลานเลยแฮะ

“เฮี้ย! ผมก็อยากได้อยู่นะ ไอ้ครั้งจะเลือกมันยากว่ะ แบบว่าเอก็สวย บีก็น่ารัก ซีก็เซ็กซี่ ดีก็เอาใจเก่ง ปัญหามันเยอะ เฮี้ยไม่เข้าใจคนเสน่ห์แรงหรอก ใช่ไหมวะดีส เอ็งก็พอๆ กับข้านี่แต่ข้าเยอะกว่าหน่อย อุ๊บบบบ!!!” พี่โพไซดอนแทบสำลักเมื่อพี่เฮดีสเล่นยัดขนมกำใหญ่เข้าปากระหว่างที่เขากำลังพูด เยอะกว่าอะไรนี่แหละครับ ผมฟังแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจแต่เห็นพี่เฮดีสเหล่มองมาที่ผมนิดหนึ่งเท่านั้นเอง พี่ซูสหัวเราะชอบใจยกนิ้วให้กับพี่เฮดีส พี่โพไซดอนส่งสายตาเขียวปั๊ดมาให้น้องชาย

“พี่ง่วงไม่ใช่เหรอ รีบไปนอนไม่ดีกว่าหรือไง?” พี่เฮดีสออกตัวก่อนอย่างรวดเร็ว พี่โพไซดอนทำเสียงในลำคอ ไม่ว่าอะไรทำแค่เคี้ยวขนมในปากตุ้ยๆ พี่ซูสหันไปกระชับคุณลุงพ่อบ้านอีกครั้ง

“ลุงช่วยโกนหนวดตัดผมให้มันดูเป็นผู้เป็นคนด้วยนะครับ เห็นแล้วรำคาญสายตา”

ฝาแฝดตัวน้อยเมื่อเห็นพี่ซูสจะเดินออกไปก็กระวีกระวายเข้ามาขออนุญาตกับผม ผู้ซึ่งเป็นผู้ปกครองชั่วคราว

“มัมมมมจ๋า~ ให้เค้าไปกับคุณลุงซูสนะ น่า~”

“ไม่ได้ครับ รบกวนคุณลุงทำงานซะเปล่าๆ”

ผมอายนิดหน่อยที่พวกเด็กๆ เรียกผมซะติดปากแบบนั้น เฮ้อ เอาไว้ว่างๆ ค่อยอธิบายให้พวกนี้เข้าใจซะแล้ว ต้องแก้คำเรียกนั้นให้ได้ก่อนที่ใครๆ จะพาเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ผมเงยหน้ามองพี่ซูสอย่างลำบากใจ ไม่อยากรบกวนครับ กลัวพวกเด็กๆ จะไปกวนเวลาทำงานทำการของพี่ซูส 

พี่ซูสมองพวกเด็กๆ ที่ส่งสายตาเว้าวอนน่าเห็นใจโอเว่อร์เสียจนผมหมั่นไส้ตะหงิดๆ เขาหัวเราะขำ

“ไม่เป็นไรหรอกครับเนรัญ ให้พวกเด็กๆ มาเถอะ ตอนบ่ายนี้ผมยกเลิกงานแล้วครับ”

“เย้~~!!! รักคุณลุงซูสที่สุดเยยยยย!” ไมนอสกับแมนทีสกรี๊ดกร๊าดกระโดดเหยงๆ เข้าหาคุณลุง หน้าตาดีใจกันสุดฤทธิ์ ชักจะสงสัยแล้วสิว่าพวกเขาไปสนิทกันตอนไหน? ท่าทางพวกเด็กๆ จะชอบพี่ซูสจริงอะไรจริง ถึงขนาดทิ้งร้างคุณแด๊ดดี๊ที่นั่งทำตัวเป็นคนนอกแบบนี้ ปกติเห็นติดแด๊ดจะตาย พูดคำสองคำก็แด๊ดๆ ไปซะหมดแบบนั้น พอมีลุงรูปหล่อใจดีเข้ามาหน่อยทิ้งแด๊ดหน้าตายไปเลยทีเดียว

ผมมองตามพี่ซูสกับเด็กๆ เดินออกไปจากห้องเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวอย่างเป็นห่วง เกรงใจจังเลยครับ พี่ซูสจะต้องปวดหัวกับความซุกซนของฝาแฝดจอมแสบนั้นแน่ๆ แต่อย่างว่าแหละเจ้าสองตัวนั้นอาจจะทำตัวเรียบร้อยเมื่ออยู่กับพี่ซูสก็ได้ พอเด็กน้อยทั้งสองไม่อยู่บรรยากาศก็เงียบตามไปด้วย ผมหันมามองพี่เฮดีสซึ่งกำลังช่วยพยุงร่างหมีๆ ของพี่ชาย แหม ก็ตัวใหญ่เกิ๊น คนหิ้วปาไปตั้งสี่คนแน่ะครับ ไม่งั้นหิ้วกันไม่ไหว!

แต่เมื่อกี้นี้ผมประหลาดใจเอามากๆ เลยนะ ไม่คิดว่าพี่น้องจะมีความสัมพันธ์ที่ดีมากขนาดนี้ นึกเอาไว้ว่าพี่น้องจะเขม็งกันเองหรือพี่เฮดีสจะต้องเย็นชากับพี่ชาย ชอบอยู่โดดเดี่ยวเป็นราชาอยู่บนยอดเขาอะไรอย่างนี้แต่เท่าที่เห็น... ผมเม้มปากพยายามจะไม่หัวเราะ ...เขาหงอกับพี่ชายสุดๆ เลย! โดยเฉพาะพี่ชายคนรอง ท่าทางจะสนิทสนมกันมากซะด้วยสิ อารมณ์ของผมปลอดโปร่งแจ่มใสขึ้นมาทันทีที่ได้เห็นมุมคาดไม่ถึงของพี่เฮดีส นึกว่าจะมีดราม่าพี่น้อง ผิดจากที่คิดไว้ลิบลับเลย!

พอส่งพี่โพไซดอนไปนอนเรียบร้อยพี่เฮดีสก็ย้อนกลับมาหาผมที่ห้องรับแขก เขานั่งลงที่เดิมแล้วเงียบไม่พูดอะไรสักคำ เอ๊ะ นี่เหลือพวกเราสองคนอยู่ที่นี้ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย? ผมมองหาพวกพ่อบ้านและเด็กๆ ในเครื่องแบบแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่คนเดียว หายไปไหนกันหมดนะ? ผมก้มพิจารณาขนมบนโต๊ะแก้ขัดบรรยากาศที่ไม่รู้ทำไมถึงได้แปลกๆ ไปจากเดิม มันชวนให้ประหม่าทำอะไรไม่ถูกทั้งๆ ที่พี่เฮดีสแค่นั่งนิ่งๆ เหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ทำไมผมถึงใจเต้นตูมตามเหมือนทั้งตัวมีกลองชุดตีรัวเป็นจังหวะเร็วและแรงแบบนี้วะ หรือผมกำลังตื่นเต้นที่จะได้รู้ปริศนาเบื้องหลังอันสำคัญของตระกูลนี้งั้นเหรอ? คงจะเป็นอย่างนั้นแน่ๆ เลยครับ

“...จะพาไปดูห้อง”

“เอ๊ะ? อ้อ ครับ!” ได้ยินเสียงของพี่เฮดีสพูดดังแทรกเข้ามาในห้วงความคิด ผมทำหน้าเอ๋อนิดหน่อยเพราะเมื่อกี้มัวแต่คิดอะไรเพลินๆ จนไม่ได้ยินคำแรกๆ แต่พอจะเดาจากท่อนท้ายๆ ของประโยคได้

เขาบอกว่าจะพาไปดูห้อง? หรือว่าผมจะได้ค้างที่นี้ในคืนนี้งั้นเหรอ? คุณพระ! เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสพักในสถานที่หรูหราโอ่อ่าอลังการแบบนี้ ผมเดาว่าห้องมันต้องดูดีกว่าโรงแรมห้าดาวแน่ๆ ผมพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น เป็นการดีทีเดียวที่ได้หลุดพ้นจากบรรยากาศชวนให้หวิวๆ หัวใจไปเปิดหูเปิดตากับคฤหาสน์หลังโตอันสวยงามแห่งนี้แทน

พี่เฮดีสลุกขึ้นเดินนำออกไปเหมือนกับทุกที ผมก็ลุกเดินตามไปติดๆ เขาพาผมเดินมาทางเดียวกันกับที่ลาก เอ๊ย ที่พาพี่ไพไซดอนไปเข้านอน เดินขึ้นบันไดหินอ่อนที่กว้างขวางมากไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุการชนกันที่บันไดตรงนี้ เดินขึ้นมานิดหน่อยจะเป็นชั้นพักของบันไดซึ่งจะมีบันไดแยกไปสามทางด้วยกัน

ที่บนผนังชั้นพักมีภาพวาดขนาดใหญ่เป็นรูปวาดหญิงสาวผมทอง นัยน์ตาสีฟ้าใส เธอมีรอยยิ้มอ่อนหวานมีเมตตา มือของเธอวางอยู่บนศีรษะของชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งคุกเข่าบนพื้น ข้างๆ หญิงสาวผมทองนั้นมีหญิงสาวอีกคนซึ่งยืนหันหลังทำให้ไม่เห็นด้านหน้าเห็นเพียงด้านหลังและผมสีน้ำตาลเข้มยาวสลวยของเธอ ภาพวาดนี้แขวนประดับไว้โดดเด่นไร้คู่ต่อสู้ที่จะมาเทียบรัศมีได้ สีที่พลิ้วไหวและละเอียดกลมกลืนทำให้ภาพวาดนี้ดูงดงามจริงๆ!

“นี่ภาพวาดใครเหรอครับ? มันสวยมากเลย” ผมหยุดยืนมองภาพวาดนั้นอย่างสนใจ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าแต่ผมชอบภาพวาดนี้มากเลย รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเมื่อได้ยืนอยู่ตรงหน้าภาพวาดนี้ เหมือนมีไออุ่นจากหญิงสาวผมทองผู้งดงามดุจเทพธิดาคนนั้นแผ่เข้ามาโอบอุ้มจิตใจและร่างกายเอาไว้ มันอ่อนโยนเหมือนถูกแม่ขับกล่อมไว้แนบอก ผมหลับตาซึมซับความรู้สึกแสนวิเศษนี้เอาไว้ให้มากที่สุด

“ภาพนี้ชื่อว่า ‘เทพีเฮร่าประทานพร’ หญิงสาวผมทองที่เห็นในภาพคือเทพีเฮร่า” เสียงของพี่เฮดีสดังอยู่ด้านหลังของผมไม่ใกล้ไม่ไกลนัก ผมจ้องเทพีเฮร่า อ่า เทพีเฮร่างดงามมากจริงๆ ดูอ่อนหวานมีเมตตาต่างจากที่ผมเคยได้อ่านหรือจินตนาการไว้ ซึ่งส่วนมากผู้คนจะคิดว่าเทพีเฮร่าเป็นหญิงสาวผู้หึงหวงสามีเท่านั้น แต่ภาพนี้กลับวาดออกมาได้สง่างาม มีเมตตา สมเป็นพระมารดาแห่งสรวงสวรรค์จริงๆ แล้ว...ผู้หญิงผมสีน้ำตาลกับชายหญิงที่นั่งคุกเข่านั้นล่ะ?

ผมหันไปมองพี่เฮดีส สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเขายืนอยู่ด้านหลังผมใกล้เสียจนตัวชิดกัน ทำไมผมถึงไม่รู้ตัวเลยว่าเขายืนอยู่ใกล้ขนาดนี้? และราวกับได้ยินเสียงถามในใจของผม เขายกมือวางลงบนไหล่ทั้งสองข้างของผมแผ่วเบาก้มหน้าลงมาตอบ

“ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ เทพีเฮร่าก็คือ... เทพีเพอร์ซีโฟเน่ พระชายาอันเป็นที่รักหนึ่งเดียวของจ้าวแห่งนรกฮาเดส”   

ดวงตาสีดำเข้มคู่สวยประกายระยิบระยิบอ่อนโยน จ้องลงมาที่ผม ตรึงสายตาให้สบตาเขานิ่ง สมองของผมเหมือนถูกลบล้างมันว่างเปล่าไปทันทีที่สบตากับเขา ความคิดความอ่านใดๆ หายไปหมด เหลือเพียงแค่รู้สึกถึงเขาที่อยู่ตรงหน้า น้ำเสียงที่พูดออกมานั้นก็นุ่มนวลชวนเคลิ้มฝัน หัวใจของผมกระตุกสั่นสะท้านหวั่นไหว ยากจะขัดขืนแรงปรารถนาที่ลุกลามแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว

แม้ก่อนหน้านั้นผมจะพยายามทำเหมือนไม่สนหรือไม่ใส่ใจมันแค่ไหนก็ตาม แต่ตอนนี้ผมไม่ยอมรับมันไม่ได้แล้วเพราะว่าหัวใจและร่างกายของผมมันดำดิ่งตกลงไปในหลุมแห่งรัก มันลึกมาก ลึกเกินกว่าผมจะตะเกียกตะกายพาตัวเองกลับขึ้นมา

เหมือนมีแรงดึงดูดอันแรงกล้าระหว่างเราสองคน มันค่อยๆ ชักจูงผลักดันผมและเขามาใกล้กัน ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจ ผมเผยอริมฝีปาก ปิดตา ปล่อยจิตใจนำพาร่างกายไปตามความต้องการ รับรู้ถึงริมฝีปากที่แตะต้องกันอย่างนุ่มนวลละมุนละไมหวานซ่านไปทั้งตัว ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของผมมันสั่นไหวราวกับว่ากำลังกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นยินดีกับการยอมรับความรู้สึกของตัวเองในครั้งนี้

หัวใจของผมพองโตและหวานล้ำเหมือนสายไหมก้อนยักษ์ พอถูกแรงบดเบียนที่หนักหน่วงขึ้นก็ละลายง่ายๆ กลายเป็นน้ำเชื่อมไปเสียแล้ว มันเนินนานจนลมหายใจของผมติดขัดและเรียนรู้ที่จะหายใจทางปากแทน พี่เฮดีสเคล้าริมฝีปากไม่ยอมห่างเฝ้าคลอเคลียจูบแล้วจูบเล่าอีกกี่ครั้งก็ยังไม่พอ

มันเร่งเร้าเว้าวอนเหมือนกับจะบอกผมว่า...อยากได้มากกว่านี้!

ร่างกายของผมตอบกลับการเรียกร้องไร้เสียงนั้นทันที เนื้อตัวร้อนวูบวาบ สติของผมเตลิบไปไกลแบบกู่ไม่กลับ แม้พี่เฮดีสจะยุติการจูบมาราธอนจับมือผมจูงมาส่งห้องพัก หรือแม้กระทั่งเขาพูดอะไรบางอย่างก่อนจะเดินจากไป ผมก็ยังไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด

ร่างไร้สติสตางค์ของผมนั่งตาลอยเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง บรรยากาศหลังฝนหยุดตกมีไอร้อนจากพื้นดินที่ระเหยขึ้นมาทำให้ร้อนอบอ้าว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่รับรู้ถึงมันสักนิด เฝ้าย้อนคิดถึงจูบแสนหวานและร้อนแรงนั้นซ้ำๆ ผมเอื้อมมือแตะริมฝีปาก แน่ใจว่ามันคงจะบวมเป่งเพราะถูกขบถูกดูดนับครั้งไม่ถ้วน ผมเม้มปากหน้าร้อนผ่าว

เฮ้อ ผมชักอาการหนักซะแล้วล่ะครับ

“มัมมมมม!!! ทางนี้!!!” เสียงเรียกแหลมปรี๊ดผ่าห้วงสีหวานฉ่ำของผมกระจุยกระจายแตกโพละเหมือนฟองสบู่ ผมกะพริบตาปริบๆ สติที่ตีตั๋วทัวร์รอบโลกเดินทางกลับเข้ามาอยู่ที่มันอีกครั้ง ผมก้มลงไปมองข้างล่าง เห็นไมนอสกับแมนทีสพยายามโบกมือหย่อยๆ และตะโกนเรียกผมจากด้านล่าง ผมยกคิ้วขึ้นนิดหน่อย เอ๋? ผมเห็นสองคนนั้นกำลังขี่ม้า ใช่หรือเปล่า?

“ขี่ม้ากันไหมฮะ!!?”

โอ้ ซ่าร่า มันยอดจริงๆ! ที่นี้มีม้าไว้ขี่ด้วยงั้นเหรอ? พระราชวังหรือยังไงกัน!? ผมหลุดอุทานด้วยความมหัศจรรย์ใจ สองฝาแฝดนั่งบนหลังม้าโดยมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนพี่ซูสนั้นผมไม่เห็นนะ แม้ผมไม่อยากขี่ม้าเท่าไรนักแต่ด้วยความเอาแต่ใจอย่างร้ายแรงของเด็กสองคนก็ทำให้ผมยอมพยักหน้าตกลงร่วมกิจกรรมขี่ม้าทัวร์รอบคฤหาสน์ด้วยกันกับคู่แฝด

กว่าผมจะลงมาหาพวกเด็กๆ ได้ เล่นเอาเสียเหงื่อไปมากพอตัว ก็คฤหาสน์มันกว้างขนาดนั้นนี่น่า! ผมเดินออกมาจากห้องแล้วเดินหลงทางวนเวียนกลับไปกลับมา มาหาทางออกไม่เจอ ถ้าตอนเดินมามีสติล่ะก็คงจะไม่ต้องรบกวนเด็กๆ ที่กำลังทำงานปัดกวาดแถวๆ นั้นให้นำทางมาแบบนี้แน่ๆ หว่า ขายขี้หน้าชะมัดยากเลยอะ!

“เอาล่ะ ตามกัปตันไมนอสมาได้เลย!”

ครับ เมื่อผมมาถึงโครงการดื่มฟรี กินฟรี ขี่ม้าทัวร์ไปกับกัปตันไมนอสก็เริ่มต้นขึ้น ผมที่ไม่เคยขี่ม้ามาก่อนได้นั่งคนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย โชคดีที่มีคนดูแลช่วยจูงม้าอีกแรง ผมชักจะเห็นใจเขาอยู่เหมือนกัน เพราะไอ้คฤหาสน์หลังนี้มันกว้างใหญ่มากๆ กว่าจะขี่ม้าชมทั่วก็นู้นแหละครับ เย็นนู้นเลย! พวกเขาต้องเดินจูงม้าไปกี่ชั่วโมงกัน ผมยังได้นั่งบนหลังม้าสบายกว่าหน่อย เอ๊ะ หรือว่าเดินมันจะสบายกว่านั่งโยกไปโยกมาบนหลังม้ากันนะ?

“เด็กๆ แล้วคุณลุงซูสไปไหนเหรอครับ?”

“มีงานสำคัญเข้ามาด่วนฮะ คุณลุงบอกว่าให้พวกเรามาขี่ม้ากันก่อนแล้วตอนเย็นๆ ค่อยว่ายน้ำด้วยกัน” ไมนอสเป็นคนตอบคำถามของผม ส่วนแมนทีสน่ะเหรอ? รายนั้นไม่รู้เป็นอะไรไม่ยอมพูดกับผมเลย งอนอยู่ได้ไม่หายโกรธกันสักที เฮ้อ นี่ผมจะต้องง้อเด็กนี่หรือเปล่าเนี่ย? ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดเนี่ยน่ะ?

เกิดเป็นไอ้เนรัญมันต้องอดทนจริงๆ!




TBC.


ต้องรอพี่โพไซดอนตื่นก่อนถึงจะเฉลยปริศนาได้!
แต่บอกที่มาของตระกูลนี้ไปแล้วเต็มๆ เลยนะ
คงพอจะเดากันออกหรือว่าไม่? 555

และแล้วก็เข้าใจว่าการหาภาพอิมเมจที่ตรงกับจินตนาการนั้นมันยากแค่ไหน!

"สามพี่น้องมหาเทพ"

ปล. พี่โพไซดอนเป็นแบบที่คนอ่านคิดไว้หรือเปล่า?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-01-2014 19:56:47 โดย lie-boy »

ออฟไลน์ LoLiBamBi_say

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
มาอ่านรวดเดียว บอกได้คำเดียว สนุกมว้ากกกก!!!

+1 ให้เลยค่า :oni2:

ออฟไลน์ PoppyPrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re
«ตอบ #1439 เมื่อ25-10-2013 06:40:26 »

ปริศนากำลังจะคลี่คลายแล้วใช่ไหมครับคนแต่ง  เปิดเข้ามาเห็นนิยายเรื่องนี้มาอัพตอนใหม่ ดีใจมาก คลิกเข้ามาอ่านทันที  #  มาต่อไวๆ  อย่าหายไปนานอีกนะครับ  คนอ่านรอคอยอยู่ครับผม

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด