♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]  (อ่าน 1089635 ครั้ง)

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy
สุดขั้ว 18

ห๊ะ? เมื่อกี้พี่โพไซดอนพูดว่าอะไรนะ? คำเรียกเมื่อกี้ทำเอาผมติดสตั้นไปสิบวินาที พอได้สติพี่โพไซดอนก็ไม่อยู่ให้ถามซะแล้ว ผมหันไปมองอีกคนที่ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าว่าเขาเดินเร็วเป็นบ้า เดินนำไปไกลนู้นแน่ะ ผมเกาหัวแกรกๆ อะไรวะ? หรือว่าฟังผิด? เอ๊ะ เมื่อกี้พี่โพไซดอนพูดว่าซะไพรส์อะไรงี้หรือเปล่า มันคล้ายๆ เซอร์ไพร้ส์นะ กะ...ก็คงจะเป็นแบบนั้นแหละเนอะ ฮ่าๆ ผมกรอกตาไปมา เดี๋ยวนี้หูชักฟังเพี้ยนบ่อยๆ สงสัยลืมแคะมานานแล้วแน่ๆ ผมถอนหายใจเดินขึ้นบันไดไปห้องพักของตัวเอง

ว่าแต่พี่เฮดีสใช้วิธีอะไรทำให้พี่ชายทั้งสองคนมาเล่าเรื่องตระกูลให้ผมฟังแบบนี้ได้วะ? ไหนบอกว่าเป็นคนในตระกูลถึงจะมีสิทธิ์รู้ได้ ผมชะงักเท้ากึก ความคิดแปลกๆ แวบเข้ามาในหัวสมอง เฮ้ย คงไม่ใช่ว่า...ไม่ล่ะมั้ง ไม่ใช่หรอกมั้ง ฮ่าๆๆ! ผมหัวเราะกับตัวเองแล้วยิ้มเจื่อนๆ ลง เริ่มคิดอย่างจริงจังมากขึ้น

ไม่จริงน่า! ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ถามจริงคนบ้าที่ไหนจะใช้วิธีนี้กันล่ะ? มันเป็นวิธีที่สิ้นคิดเป็นบ้า แถมยังเป็นไปไม่ได้สุดๆ เดี๋ยวสิถ้าเป็นอย่างนั้นจริงครอบครัวของเขาจะมีท่าทีปกติขนาดนี้ได้ยังไงกันล่ะ? ถ้าน้องชายกำลังคิดจะออกนอกลู่นอกทาง คนเป็นพี่ก็ต้องห้ามปรามหรือไม่ก็คัดค้านไปแล้วสิ แต่นี่พวกเขาไม่พูดอะไรเลยสักนิด นั้นสินะ คนบ้าที่ไหนมันจะคิดแต่งงานกับผู้ชายด้วยกันล่ะ!? เฮ้อ ผมนี่ชักจะคิดเพ้อเจ้อไปใหญ่!

“น้องสะใภ้”

นั่น... ต้องเป็นเพราะหูเพี้ยนฟังผิดเองแน่ๆ!

ผมเดินก้มหน้างุดๆ ไปที่ห้องพัก ตอนนี้จำได้แล้วล่ะครับถึงจะกว้างไปหน่อยแต่ก็จัดเป็นสัดส่วนให้จำง่ายๆ ผมเงยหน้าขึ้นแล้วกรีดร้องเสียงดังลั่น คุณพระ! หัวใจข้าน้อยตกไปอยู่ตาตุ่มแน่ะ! ผมหน้าแดงด้วยความอับอายที่ออกอาการขี้ขลาดตาขาวไม่สมกับเป็นผู้ชายอกสามศอก แต่จะโทษผมฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกนะครับ ก็พี่เฮดีสเล่นยืนซุ่มเงียบอยู่ตรงมุมมืดแบบนี้ เป็นใครมันก็ต้องตกใจกันเป็นธรรมดานั้นแหละ พนัน...เอ๊ย แหม พนันมันไม่ดีเนอะ งั้นเปลี่ยนเป็น...รับรองได้ว่าเป็นคุณ คุณก็ต้องตกใจผวาแบบผมแน่ๆ

พี่เฮดีสมองผมด้วยสายตานิ่งที่ผมรู้ว่ามันออกไปทางเอือมระอากับอาการขวัญอ่อนของผม แหม ก็ใครจะไปขวัญกล้าเทียมฟ้าแบบพี่เขาล่ะครับ ขนาดผีลินเช่ย์เฮียแกยังโบกมือไล่มาแล้ว! แล้วพี่เฮดีสมายืนเก๊กเป็นคนในมุมแบบนี้ไปทำไมวะ? หรือว่ากำลังรอผมอยู่? ผมจำทางได้แล้วน่า ไม่หลงแบบเมื่อตอนเย็นอีกหรอก รับรองได้เลย!

“พี่มีอะไรงั้นเหรอครับ?”

“เรื่อง...หมอนั้น”

หมอนั้น? หมอโรงพยาบาลไหนกันล่ะ? แล้วผมจะไปรู้กับพี่ไหมล่ะครับเนี่ย ถามหาหมอไปทำไมกัน? หรือว่าพี่เฮดีสจะบาดเจ็บงั้นเหรอ!? เอ๊ะ ทำไมต้องทำหน้าสมเพชกันขนาดนั้นด้วย ไม่ได้หมายถึงหมองั้นเหรอ? แล้วหมายถึงใครกันล่ะ? ผมยืนคิดแล้วค่อยๆ หัวเราะแหะๆ ออกมา แบบว่าโคตรอายเลยครับพี่น้อง! เขาหมายถึงพี่ไนซ์ไม่ได้หมายถึงหมอจริงๆ สักหน่อย โธ่เอ๊ย ไม่ใช่แค่หูเพี้ยนเท่านั้น สมองผมก็เริ่มเพี้ยนอีกด้วย!

“พี่ไนซ์? เอ้อ จริงสิครับ ผมยังไม่ได้ถามเรื่องของพี่ไนซ์เลยแล้วนี่มีทางแก้ไขไหมครับ? แบบว่าคนที่ไม่ได้ตั้งชื่อเทพจะต้องยังไงถึงจะไม่ต้องตาย”

เมื่อพูดถึงเรื่องซีเรียสผมก็จริงจังขึ้นมาทันที แน่ล่ะ นี่มันเกี่ยวกับชีวิตของคนทั้งคนเลยนะครับ พี่เฮดีสมองผมนิ่งเหมือนกำลังมองหาอะไรอยู่ อะไรน่ะ? หน้าของผมมีอะไรติดอยู่งั้นเหรอ? ผมเลิกคิ้วแล้วลูบหน้าของตัวเองอย่างสงสัย พี่เฮดีสหันไปมองทางอื่นเขาถอนหายใจเอ่ยหน้านิ่ง

“ฉันเองก็เพิ่งรู้เรื่องอายุอะไรนี่พร้อมกับนายนั้นแหละ”

“เอ๋! พี่ไม่รู้งั้นเหรอครับ!?” ผมตกใจหน่อยๆ ที่เขามาสารภาพแบบนี้ พี่เฮดีสไม่รู้เรื่องมาก่อน เป็นไปได้ยังไงอะ?

“ฉันไม่สนใจเรื่องยิบย่อยพวกนี้หรอก” เจ้าตัวรีบหันมาอธิบายด้วยสีหน้าตาย น้ำเสียงแข็งๆ ขึ้นมาเหมือนจะสื่อว่าเรื่องไร้สาระที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาแบบนั้นจะไปจำทำไมให้รกหัวฟะ ผมมองเขาเขม็งแล้วแย้งไป

“แต่พี่พอลยังรู้เลยนี่ครับ”

“ฉันไม่ใช่ไอ้พอลนี่” พี่เฮดีสสวนกลับเสียงเย็นเฉียบตัดคำโต้แย้งของผมขาดเป็นสองท่อน ครับ พี่ไม่เหมือนพี่พอลและไม่ใช่พี่พอลแน่นอนครับ ผมเลิกเซ้าซี้ถึงเรื่องนี้แล้วเปลี่ยนหัวข้อไปเรื่องอื่น

“แล้วมันพอมีทางแก้ไขไหมครับ?”

“ไม่รู้ ต้องถามพี่โพซ เขาเคยอ่านบันทึกของตระกูลคงจะรู้วิธีแก้ไข”

“แล้วพี่จะอายุครบ 21 ปีตอนไหนเหรอครับ?” ผมรีบถามต่อด้วยความเป็นกังวลว่าถ้าชักช้าเรื่องนี้อาจจะไม่ทันการ เพื่อต้องได้ทำอะไรใช้เวลานานจนเลยวันครบรอบไปพี่ไนซ์ก็แย่น่ะสิ

“เฮอะ จะบอกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นจำไว้ให้ดีล่ะ...” พี่เฮดีสชำเหลืองมามองผมแล้วเชิดหน้าไปทางอื่นเหมือนไม่เต็มใจอยากจะบอกเรื่องนี้กับผม ทำไมอะ? ก็แค่วันเกิดเอง จะบอกไม่ได้เลยหรือไง?

“2 กันยา”

สิ้นคำก็เดินหนีไปด้วยความไวแสง ไม่ถงไม่ถามสุขภาพกันเลยสักคำ! ผมจะเรียกเขาไว้ก็ไม่ทันซะแล้ว อะไรของเขาวะ? แค่บอกวันเกิดเฉยๆ ทำไมต้องเดินหนีไปกันด้วย ผมเกาหัวด้วยความงุนงงและสับสนกับพี่เฮดีส เมื่อกี้วันไหนนะ? สองกันยา?

“ใกล้แล้วนี่!” ผมอุทานอย่างตกใจเมื่อรู้วันครบรอบกำหนดเส้นตาย แย่ล่ะสิ มีเวลาไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ! ผมถอนหายใจเฮือก หวังว่าพี่โพไซดอนจะมีวิธีรับมือกับเรื่องนี้ ตอนนี้ถึงผมจะเป็นกังวลไปมันก็เท่านั้น เฮ้อ รู้สึกว่าวันนนี้เหนื่อยเป็นพิเศษเลยแฮะ ทั้งวันผมเจออะไรมาเยอะแยะ รวบรวมตั้งแต่จำความได้จนถึงปัจจุบันยังไม่เท่ากับเจอในวันนี้วันเดียวเลย! ผมชักเริ่มง่วงแล้วสิครับ

ผมเดินไปเปิดประตูห้องแล้วเข้าไปมุ่งหน้าไปเตียงนอนทันที พอเปิดไฟในห้องเท่านั้นแหละผมก็อยากจะเป็นลมล้มตึง!

ลินเช่ย์ แม่ง นอนบนเตียงผมมมมมม~~~ !

แม่เจ้า ผมอยากจะร้องไห้ ทำไมเธอถึงได้จ้องแต่จะยึดพื้นที่บนเตียงของผมเสียทุกครั้งเลยนะ นี่คงไม่คิดจะมานอนด้วยกันหรอกใช่ไหม!? ถ้าเป็นอย่างนั้นมีหวังผมต้องนอนตาค้างทั้งคืนแน่ๆ โอ๊ยยยย คนยิ่งง่วงๆ อยู่ จะบ้าตายยยย! ผมยืนมองร่างซีดๆ ไร้คำพูดจะเอ่ยกล่าว

ลินเช่ย์ลืมตาขึ้นมาด้วยท่าทางสะลึมสะลือ เธอกะพริบตาปริบๆ แล้วเบิกตาโตกว้างเมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าเตียง โอ ตื่นแล้วเหรอขอรับ? ถ้าตื่นแล้วเชิญเสด็จออกไปจากห้องผมซะดีๆ เถิด! ให้ผมได้นอนอย่างสบายใจนะ ขอร้องงงง!

“...” ลินเช่ย์ยิ้มกว้างอย่างดีใจแล้วขยับปากพูดอย่างรวดเร็วแต่ทว่ามันกลับไม่มีเสียงอะไรใดๆ ออกมาเลย ผมเลิกคิ้วเอียงหน้ามองอย่างงุนงง เธอทำอะไรนะ? จะพูดก็ออกเสียงด้วยสิครับ ผมไม่ได้ยิน ไม่มีหูทิพย์นะเออ ลินเช่ย์พยายามพูดอยู่หลายครั้งแต่ผมก็ไม่ได้ยินอะไรเลย เธอพยายามอยู่นานแต่ก็เหมือนเดิมจนเจ้าตัวก้มหน้าทำเหมือนจะร้องไห้ เฮ้ย! เป็นอะไรเนี่ย ร้องไห้ทำไมครับ!?

“เอ่อ...อย่าร้องไห้เลยนะ เป็นอะไรเหรอครับ?”

ช่วยไม่ได้นะครับ ผมมันเป็นคนแพ้น้ำตาของสตรีเพศศศศศ! ถึงจะเป็นผีก็เถอะแต่ผมก็อดจะใจอ่อนไม่ได้ วันข้างหน้ามีหวังโดนผีสาวบีบน้ำตาใส่แล้วหลงกลโดนกินแหงเลยว่ะ ลินเช่ย์สูดอากาศเข้าไปในจมูกอันแดงแจ๋ที่เกิดจากการร้องไห้เบาๆ เธอชี้ปากของตัวเองแล้วไขว้มือเป็นกากบาทชี้ตัวเธอสลับกับตัวผม จะสื่อว่าเธอพูดกับผมไม่ได้หรือเปล่านะ?

“หมายถึงเธอพูดไม่ได้ใช่ไหม?”

ลินเช่ย์พยักหน้ารัวๆ ผมก็เข้าใจทันที เป็นใบ้นั้นเอง เอ๊ะ จะว่าไปแล้วตอนแรกที่เจอกับพี่เฮดีสเขาเงียบซะผมคิดเองเออเองว่าเขาเป็นใบ้เหมือนกัน แต่นี่เป็นใบ้จริงๆ แฮะ ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วพูดเสียงอ่อนๆ

“เขียนเอาได้ไหม?”

ลินเช่ย์เบิกตากว้างรีบพยักหน้ารับ ยกนิ้วให้กับผม แน่นอนอยู่แล้ววิธีนี้ผมปล่อยไก่เป็นฟาร์มตอนที่ใช้วิธีนี้คุยกับพี่เฮดีสน่ะสิถึงได้หน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ ก็เลยจำฝังใจ! ลินเช่ย์ยื่นปาก ทำท่าน่ารักแล้วโบกมือไปกลางอากาศเบาๆ ควันประกายสีทองระยิบระยับโผล่ขึ้นมาเป็นตัวอักษร... ผมมองแล้วยิ้ม

เวร! ภาษาอะไรฟะ อ่านไม่ออกเฟ้ย! คล้ายๆ ภาษาอังกฤษแต่มันไม่ใช่ครับ!

“เอ่อ...เปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้ไหมครับ?” ผมเอ่ยอย่างเกรงอกเกรงใจ ลินเช่ย์ก็ทำหน้างงๆ มองตัวอักษรควันสีทองแล้วทำหน้าเหมือนคิดได้ รีบโบกมือผ่านอีกรอบ คราวนี้เป็นภาษาไทยแล้วครับ แหม แบบนี้ค่อยสื่อสารกันได้หน่อย

...จะนอนแล้วเหรอ?...

“ครับ”

...คุยแป๊บนึงได้ไหม?...

“ก็...ได้ครับ” กลั้นใจพยักหน้าตอบตกลง โอ๊ยยย ทำร้ายผู้หญิงไม่ลงครับ! เห็นทำหน้าจะร้องไห้แบบนี้แล้วมันปฏิเสธไม่ออก ลินเช่ย์ยิ้มกว้างแล้วสะบัดมือผ่านควันสีทองนั้นอีกครั้ง

...ข้าไม่ใช่ผี ไม่ต้องกลัว ข้าเป็นเทพธิดา...

เทพธิดา? มิน่าล่ะถึงได้สวยขนาดนี้! ก็ว่าแล้วดูไม่เหมือนผีเลยสักนิด ผีอะไรสวยขนาดนี้! ผมพยักหน้ารับรัวๆ เทพธิดา...? อย่าบอกนะว่าเป็นเทพธิดาที่เทพีเพอร์ซีโฟเน่มอบให้กับตระกูลก็อดไลค์เนสตนนั้นน่ะ!? ผมอ้าปากค้างมองลินเช่ย์เขม็ง หน้ายังอ่อนๆ อยู่เลยนี่น่า แต่ว่าเรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อสองพันกว่าปีมาแล้วไม่ใช่เหรอ!? เธออายุเท่าไรกันเนี่ยยยย!?

...ความจริงมันรับยากล่ะสิ แต่เธอก็จะยอมรับและก้าวผ่านมันไปได้ใช่ไหม?...

ประโยคต่อมาของลินเช่ย์ทำให้ผมรู้สึปแปลกใจและงุนงงกับคำถามนั้น เธอหมายถึงเรื่องที่เพิ่งจะได้รับรู้เกี่ยวกับตระกูลนี้งั้นเหรอ? อันที่จริงถ้าเป็นปกติเรื่องแบบนี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไปสักหน่อย แต่จะให้ผมไม่ยอมรับได้ยังไงล่ะ ในเมื่อหลักฐานของเรื่องราวที่ไม่น่าเป็นไปได้อยู่ตรงหน้าแบบนี้ ผมถอนหายใจแฝงความอ่อนล้าแล้วจ้องมองใบหน้าขาวสว่างของลินเช่ย์

ลินเช่ย์มองผมด้วยแววตาเป็นกังวลและเป็นห่วงจนผมรู้สึกสงสัย ทำไมเธอจะต้องเป็นห่วงผมขนาดนั้นกันนะ ทั้งๆ ที่เธอเพิ่งเคยเห็นผมได้ไม่ถึงสองวัน แถมผมยังเอาแต่กลัวและวิ่งหนีเธอทุกครั้งด้วยซ้ำ ผมมองเธออย่างพินิจพิจารณาอย่างละเอียดแล้วหลับตาลง จริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้น่ากลัวมากนักแค่ซีดไปหน่อยเท่านั้นเอง ผมก็ขี้ขลาดเกินไปหน่อยไม่สมกับเป็นลูกผู้ชายอกสามศอกเอาซะเลย จากนี้ถ้าผมยังคบหาพี่เฮดีสอยู่ก็ต้องทำใจให้คุ้นชินกับเทพธิดาตัวซีดตนนี้แหละนะ ผมขยับยิ้มที่มุมปากแล้วเอ่ยให้อีกฝ่ายคลายความกังวลใจ

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ถึงมันจะน่าเหลือเชื่อแต่ผมก็พอยอมรับเรื่องนี้ได้บ้างแล้ว ขอบคุณที่เป็นห่วงนะครับ”

ลินเช่ย์มองผมนิ่งก่อนจะค่อยๆ พยักหน้ารับ เธอก้มหน้ามองมือตัวเองที่วางไว้บนตักแล้วค่อยๆ ยกขึ้นปัดกลุ่มควันสีทองที่เริ่มแปรเป็นตัวอักษรอย่างรวดเร็ว ผมตั้งใจอ่านเพราะประโยคยาวเหยียดเชียวครับ

...ข้าเองก็เชื่อว่าเจ้าเป็นคนเข้มแข็งสามารถผ่านเรื่องพวกนี้ไปได้อย่างแน่นอน เมื่อก่อนข้าคิดว่าการลืมเรื่องเลวร้ายไปจะดีกว่าจดจำเอาไว้แต่ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว การรับรู้ความจริงเอาไว้จะดีกว่าไม่รู้อะไรเลย แม้บางครั้งความจริงมันจะเลวร้ายก็ตาม คนเราเรียนรู้อดีตอันโหดร้ายเพื่อที่จะเข้มแข็งมากขึ้นไม่ใช่เหรอ? เจ้าก็คิดเช่นนี้ใช่หรือไม่?...

ผมไม่ตอบออกไป ยืนมองลินเช่ย์ที่ยังก้มนิ่งไม่ขยับเขยื้อน สิ่งที่เธอกำลังสื่อมันคืออะไร? ผมไม่เข้าใจสิ่งที่ลินเช่ย์บอกเลยแม้แต่น้อย ผมครุ่นคิดอย่างหนักเพื่อแปลความนับแอบแฝงของคำพูดนั้น เรียนรู้จากอดีตอันโหดร้ายเพื่อเข้มแข็งขึ้น?

ลินเช่ย์เงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มขำ

...เจ้าไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรหรอก เจ้าคงจะเหน็ดเหนื่อยมากแล้วข้าจะไม่รบกวนแล้วล่ะ ขอให้ฝันดี...

“เช่นกันครับ”

แล้วเธอก็หายแวบไปต่อหน้าต่อตาผมทั้งอย่างนั้นเลย! ผมอ้าปากค้าง โอ๊ยยย! เล่นเอากระดูกส้นหลังของผมเย็นวาบเลย ตายๆ! ดันมาหายต่อหน้าต่อตาแบบนี้ คนกลัวผีขึ้นสมองอย่างผมก็นอนหลับไหมล่ะคืนนี้!? วันนี้มันเรื่องเยอะจริงๆ ไม่รู้จะทำความเข้าใจเรื่องไหนก่อนดี มันชักจะตีกันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว เฮ้อ ผมล่ะอยากจะจับเรื่องพวกนี้มาเขย่าเข้าด้วยกันแล้วกลืนลงท้องทำความเข้าใจมันในครั้งเดียว ผมปีนขึ้นไปนอนบนเตียงที่กว้างขวางได้อีก

นอนไปสักพักมันก็ยังตาแข็งทั้งๆ ที่รู้สึกง่วงอยากหลับจะตายแต่ทำไมมันถึงได้ลืมตาโพล่งเป็นนกเค้าแมวแบบนี้กันวะ เฮ้ย! ไอ้รัญเอ๊ย รีบๆ นอนได้แล้วนะไอ้บ้า อย่าเพิ่งคิดอะไรมันตอนนี้สิว่ะ อย่าไปคิดดดด! เรื่องเยอะสมองของผมก็ต้องทำงานหนักเพื่อย่อยข้อมูลแต่ละเรื่องราวเข้ามาบันทึกไว้ในลิ้นชักความทรงจำ ว่าแต่...ทำไมรู้สึกว่าห้องนี้มันกว้างขนาดนี้กันนะ? เงียบมากด้วย... เฮ้อ นอนไม่หลับเหมือนมันขาดอะไรไปสักอย่างซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ผมพลิกตัวตะแคงข้างมองพื้นที่ว่างบนเตียงแล้วถอนหายใจ

อาร้าย!

ผมไม่ได้คิดอยากให้ใครมานอนเป็นเพื่อนสักหน่อย ไม่ใช่เด็กเล็กๆ นะครับ ผมแค่รู้สึกโล่งอกเท่านั้นที่หันมาแล้วไม่เจอลินเช่ย์นอนอยู่ข้างๆ ที่ถอนหายใจน่ะทำไปด้วยความสบายใจล้วนๆ นะ! แว๊กกกกก พอทีเถอะ เหมือนตัวเองกำลังจะบ้าเข้าไปทุกที นอนก็ไม่หลับแล้วยังจะมาเถียงกับตัวเองอีก ท่าทางผมจะเป็นเอามากเลยว่ะ ผมข่มตาพยายามนอนให้หลับ...

เฮ้อ

ทั้งๆ ที่อุตส่าห์เลิกเรียนได้กลับบ้านตั้งแต่บ่ายแบบนี้แต่ผมกลับไม่มีโอกาสได้พักตางีบหลับสักที หลังจากกลับมาถึงผมอาบน้ำเสร็จก็มีคนมาเรียกทันที ครั้งแรกเป็นพวกพี่บูรณ์ที่มาส่งของหวานที่แม่ของพี่เขาทำเยอะก็เลยแบ่งมาให้ บ้านของเขาอยู่แถวเดียวกันกับผมนี่แหละครับ หลังจากที่ผมเดินเข้าบ้านกำลังจะเช็ดผมเปียกๆ ก็มีคนมาเรียกอีกครั้ง คราวนี้เป็นพี่ป้อมที่อยู่อีกซอยแล้วเขามาเรียกผมทำไมกันวะ? ผมยิ้มให้กับเขาแล้วเอ่ยถามไถ่อย่างสุภาพ

และเมื่อเสร็จธุระผมกลับมาเช็ดผมจนแห้งหมาดก็มีเสียงมาเรียกที่หน้าบ้านอีกครั้ง ผมยืนหัวฟูอย่างลำบากใจ ไอ้ผมยาวๆ นี่มันแห้งช้าเป็นบ้าเลย! โอ๊ยยย! แล้วทำไมวันนี้ถึงได้มีคนแวะมาบ่อยจังวะ? ผมรีบหวีผมให้เรียบร้อยแล้วเดินออกไปหาแขกที่อยู่หน้าบ้าน โอ๊ะ นั้นมันพี่ชัยนี่น่า ไม่เห็นตั้งนานได้ยินว่าไปเรียนต่อมอรัฐบาลที่ภาคเหนือแล้วทำไมถึงมาที่นี้ได้ล่ะเนี่ยหรือว่าเรียนจบแล้ว? ผมคุยกับพี่ชัยอยู่สักพักพี่เขาก็ขอตัวกลับ อุตส่าห์แวะมาทักทายผมเลยเหรอเกรงใจจังแฮะ

“โหหห บ้านมึงกลายเป็นส้วมสาธารณะตั้งแต่เมื่อไรวะ กูไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย”

“พูดอะไรของแกวะส้ม?”

ไอ้ส้มหวานเพื่อนสนิทหนึ่งเดียวที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลหมีน้อยโผล่หัวมายืนอยู่หน้าประตูรั้วแล้วร้องโหมาแต่ไกล ส้วมสาธารณะอะไรของมัน ผมเดินไปเปิดประตูรั้วให้ชายชาตรีในร่างสาวเดินเข้ามาในบ้านได้ ส้มหวานเหล่มองมาที่ผมแล้วแสยะยิ้มลูกตาหลุกหลิกไม่น่าไว้ใจ

“อ้าว ก็กูเห็นคนวนเวียนมาบ้านมึงเยอะนี่หว่า ไปๆ มาๆ กูคิดว่าบ้านมึงจ่ายเงินฟรีหรือเปล่าถึงได้มีคนมาบ่อยซะกระไดบ้านไม่แห้งแบบนี้น่ะ เอ๊ะ หรือว่าพวกนั้นมันเล็งแกไว้หรือเปล่าวะ แม่ง มิน่าล่ะวันๆ เอาแต่มาด้อมๆ มองๆ บ้านมึงอยู่ได้ วันหนึ่งกูว่าเห็นพวกมันเที่ยวมาเที่ยวไปหลายรอบ แม่ง เบื่อขี้หน้าฉิบหาย”

“เพ้อเจ้อน่ะเอ็ง พวกเขามีธุระทั้งนั้นแหละ” ผมถอนหายใจเอือมระอากับไอ้เพื่อนที่ตั้งแต่เดินเข้ามามันก็พูดไม่หยุด นี่มึงหายใจทางไหนวะ? หรือว่ามีความสามารถพิเศษหายใจทางผิวหนังได้? ส้มหวานเบ้ปากให้กับผม

“เฮอะ พวกมันแทบจะแดกมึงทางสายตากันอยู่แล้ว ยังไม่รู้ตัวอีกไอ้โง่”

“มึงนั้นแหละหยุดพูดแปลกๆ ได้แล้ว คนรู้จักกันทั้งนั้นแถมพวกเขายังเป็นผู้ชายมีลูกมีเมียกันแทบทุกคน ขืนมึงพูดเสียงดังกว่านี้อีก พรุ่งนี้กูถูกเมียพวกเขาเข้าใจผิดมาดักตบกูล่ะก็ความผิดของมึงเลยไอ้ส้ม” ผมส่ายหน้ากับความคิดอันไร้สาระของเพื่อนผลักมันเข้าบ้านไปก่อนที่ปากหมาๆ ของมันจะโพนทะนาบ้าบออะไรของมันจนชาวบ้านชาวช่องเข้าใจผิดเอาไปลือกันทั่วอีก ไอ้ส้มหวานสะบัดตัวทำหน้าบึ้งเป็นตูด

“ฮึ ถ้ามึงถูกรุมโทรมกูก็ไม่แปลกใจเล๊ย”

ไอ้นี่ดักมาแช่งกันอีก! นี่ถ้าไม่เห็นกับมิตรภาพอันดีระหว่างผมกับมันล่ะก็... ผมจะด่ามันว่าไอ้บ้า! เชอะ ส้มหวานมาทำการบ้านกับผมเพราะเราสองคนนอกจากจะเป็นเพื่อนสมัยเด็ก เพื่อนสนิท เพื่อนบ้านยังเป็นเพื่อนร่วมห้องอีกด้วย โคตรจะเบื่อขี้หน้ามันเลย เจอมันตั้งแต่เช้าจรดเย็นทุกวันอีกด้วย สาเหตุที่พวกเราขยันทำการบ้านตั้งแต่วันศุกร์นี่ก็เพราะว่าวันหยุดนี้ครอบครัวไอ้ส้มจะยกครัวไปเยี่ยมตายายที่อยู่ต่างจังหวัดกันครับ

“ดูแลตัวเองด้วยล่ะมึงอะ ดึกๆ ดื่นๆ มีคนเคาะประตูก็อย่าปิดให้นะโว้ย”

“รู้น่า” ผมรับคำอย่างโมโห เมื่อไรมันจะไปสักทีเนี่ยพูดย้ำประโยคเดิมอยู่นั้นล่ะ มันเห็นผมโง่ขนาดนั้นเลยหรือไงวะ!? ไอ้ส้มหวานไม่ยอมไปง่ายๆ ครับ มันยังชี้นิ้วกระชับนั้นนี้ไปทั่ว มึงไม่เตือนให้กูเข้านอนตอนสี่ทุ่มตื่นหกโมงเช้าเลยล่ะ โอ๊ย! ได้ข่าวว่าผมก็มีแม่คนเดียวนะแล้วไอ้คนตรงหน้านี่มันใครกันวะ วิญญาณแม่ของผมสิงมันอยู่หรือไงกัน!? ผมดันไอ้ส้มหวานออกจากบ้านอย่างยากลำบาก

“ถ้าคนแปลกหน้ามามึงอย่าออกมาให้ไปซ่อนในตู้เสื้อผ้าแล้วโทรไปแจ้งความ ก่อนนอนมึงต้องเช็กประตูหน้าต่างว่าล็อกไว้ทุกบานหรือยัง แล้วก็...”

“ไอ้ส้ม! ถ้ามึงยังพูดต่ออีกกูจะเรียกมึงว่าแม่แล้วเนี่ย!” ผมหัวเราะขำกับเพื่อนขี้ห่วงซึ่งมันก็เป็นแบบนี้ตลอดตั้งแต่ตอนที่ผมอยู่คนเดียวที่บ้าน บางวันมันเป็นเอาหนักขนาดหอบที่นอนหมอนมุงมานอนบ้านผมเลยทีเดียว ทำตัวอย่างกับยามที่เฝ้าเช้าเฝ้าเย็น ดีขึ้นหน่อยตอนขึ้นมอปลายแล้วนี่แหละ ผมรู้ว่ามันเป็นห่วงซึ่งอยากจะขอบคุณมันมากแต่มันก็มากไป บ่นมากไปแล้วโว้ย กูไม่ใช่เด็กอนุบาลนะโว้ยยยย!

“ใครเป็นแม่มึงวะ!? กูเป็นองครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิงต่างหาก”

“ฟาย ใครเป็นเจ้าหญิงของมึงกัน รีบๆ ไปเลย” ผมส่ายหน้าเอือมระอากับท่าเก๊กที่ยิ่งกว่าขบวนการเรนเจอร์มาเอง ไอ้ส้มหวานหัวเราะหึๆ ในลำคอแล้วกระโดดกอดตัวผมรัดแน่นจนผมแทบจะสำลักอากาศ ผมล่ะเกลียดการกอดกับมันสุดๆ ไม่รู้ว่าโรคจิตหรืออะไรของมันเวลากอดทีไรมันชอบรัดคออีกฝ่ายแน่นหนึบ นี่มันกอดหรือฆาตกรรมมิทราบบบบ!?

“ไปล่ะ อย่าลืมล็อกบ้านดีๆ นะ!”

“อย่าลืมของฝากล่ะกัน”

“โหหหห เดี๋ยวนี้แม่งทวงของฝากเชียวนะไอ้รัญญญ! จะอวยพรอะไรก็ไม่ทำนะ”

โถ ไอ้ส้ม! ใครจะไปทำอะไรมึงได้วะ กูโคตรมั่นใจว่าไม่มีอะไรที่เอาชนะมึงได้เพราะฉะนั้นมึงปลอดภัยแน่นอน! ผมหัวเราะคิกๆ ตามหลังส้มหวานมองเพื่อนเดินลับตาเข้าบ้านของตัวเองไปแล้วค่อยหันตัวเดินเข้าบ้านไป อืม วันนี้ผมจะเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำเลยดีกว่า รู้สึกง่วงตั้งแต่บ่ายแล้ว เฮ้อ



:L2:อ่านรีต่อไปจ้า :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2013 00:43:21 โดย lie-boy »

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy
“ว๊ากกก!!!” พอเงยหน้าขึ้นมาเจอเข้ากับพี่เฮดีสที่ยืนกอดอกอยู่ในเงามืด ผมตกใจแทบช็อกเผลอร้องเสียงดังลั่น ก่อนจะเห็นว่าเป็นใครแล้วค่อยโล่งอก ฟู่~ นึกว่าจะมีโจรบุกมาข่มขืนอย่างที่ไอ้ส้มหี่นมันแช่งเอาไว้ซะอีก ผมยิ้มนิดๆ แล้วเดินเข้าไปหาพี่เฮดีส

“พี่เฮดีสมาตอนไหนเหรอครับ?”

“...” เงียบ! ผมชะงักตัวเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไม่ตอบอะไรใดๆ กลับมา ผมพยายามเพ่งสายตามองใบหน้าของเขาที่อยู่ในเงามืด อ๊ะ เรียบสนิทแถมคิ้วยังขมวดแทบจะเป็นเส้นตรง สีหน้าขุ่นเคืองใจแบบปิดไม่มิดเลย! เป็นครั้งแรกที่เห็นอารมณ์บนหน้าของเขาชัดเจนแบบนี้ เสียงหายใจเข้าออกหนักๆ ผมขยับตัวเข้าไปใกล้แตะแขนของเขาเบาๆ แล้วเงยหน้าถามด้วยความเป็นห่วง

“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า...!?”

ยังถามไม่จบประโยค ตัวของผมก็ถูกกระชากเหวี่ยงไปติดประตูบ้านดังตึก! ผมตกใจกับการกระทำอันรุนแรง จุกเพราะแรงกระแทกจนพูดอะไรไม่ออก นี่มันอะไรกันเนี่ย!? พี่เฮดีสบีบต้นขาของผมแน่นแล้วก้มหน้าลงจูบบดขยี้ริมฝีปากของผมรุนแรงหนักหน่วงเหมือนกำลังคลุ้มคลั่งไม่ได้สติ ผมก็ได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายบดเบียนริมฝีปากและร่างกายเข้าหาดุดันไม่ผ่อนปรน มันรุนแรงจนผมรู้สึกปวดแปลบที่ริมฝีปาก หายใจไม่ทัน

ผมสั่นกลัวเล็กน้อยเพราะไม่เคยถูกพี่เฮดีสทำรุนแรงแบบนี้มาก่อนเลย ที่ผ่านมาพี่เฮดีสอ่อนโยนกับผมมาตลอด เกิดอะไรขึ้นกัน! ทำไมจู่ๆ พี่เฮดีสถึงกลายเป็นคนละคนแบบนี้กันล่ะ!? ผมพยายามขัดขืนซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ยิ่งทำให้เขารุกหนักกว่าเดิม  ผมหัวหมุนติ้ว หัวใจเต้นรัวตึกๆ สติสตางค์เหมือนไม่อยู่กับตัว ทั้งๆ ที่ถูกข่มเหงขนาดนี้แต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกตื่นเต้น ทั้งเนื้อทั้งตัวสั่นสะท้านคาดหวังอะไรบางอย่างซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผมที่ไม่ประสีประสาอะไรละอายใจอย่างที่สุด

“นายเป็นของฉัน ใครหน้าไหนก็แตะไม่ได้ทั้งนั้น!”

พี่เฮดีสผละริมฝีปากออกเล็กน้อยแล้วกระซิบด้วยเสียงหนักแน่นเด็ดขาด ผมเบิกตากว้างมองคนตรงหน้าที่ไม่สนหน้าพรหมหน้าอินทร์จับผมจูบลูกเดียว เมื่อกี้ได้หายใจนิดเดียวเองนะ! ผมคร่ำครวญอยู่ในใจ แล้วนึกสงสัยว่าอะไรทำให้พี่ท่านประกาศเอาแต่ใจแบบนั้น แต่ก็นะมันทำให้ผมรู้สึกเป็นปลื้มนิดหน่อย เหมือนเขากำลังหึงหวงผมอยู่เลยล่ะ แหะๆ เอ๊ะ...อย่าบอกนะว่าพี่เฮดีสมาเห็นตอนที่ผมถูกไอ้ส้มหวานกอดน่ะ! หว่า! นั้นมันเพื่อนผมนะครับ เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว!

“โอ๊ย!” ผมอุทานเสียงเบาเมื่อจู่ๆ รู้สึกว่าเจ็บริมฝีปากแปลบ เอ๊ะ นี่มันรสชาติแปลกๆ แฮะ เค็มนิดๆ พี่เฮดีสหยุดแล้วถอยห่างอย่างตกใจ หน้าของเขาแสดงความสับสนออกมา ผมแสบปากจี๊ดยกมือแตะริมฝีปากเบาๆ ไม่แปลกใจเมื่อเห็นปลายนิ้วแต้มไปด้วยเลือดสีแดง เฮ้อ จูบรุนแรงเกิ๊นเลือดออกเลยไหมล่ะ? ผมเงยหน้ามองพี่เฮดีสที่หน้าซีดมองผมด้วยดวงตาเบิกตาและถอยหลังออกไปด้วยกำลังหวาดกลัว ผมแปลกใจในท่าทางของเขาจะเดินเข้าไปหาก็ถูกตะคอกเสียงดัง

“อย่าเข้ามา! อย่าเข้ามาใกล้ตอนนี้! ถอยออกไปห่างๆ!”

“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า?” ผมพยักหน้าเข้าใจไม่เดินเข้าไปหาเขาแล้วถามออกไปด้วยความเป็นห่วง เพราะท่าทางของเขาเหมือนคนสับสนในตัวเอง สีหน้าเหมือนคนกำลังต่อสู้กันเอง พี่เฮดีสพึมพำบางอย่างด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ผมได้ยินแล้วเลิกคิ้วขึ้นสูง เขากำลังรู้สึกผิดอยู่? ผมถอนหายใจแล้วกลั้นยิ้มอดรู้สึกตลกไม่ได้ โธ่เอ๊ย ผมไม่โกรธแค่เพราะพี่จูบผมจนได้เลือดหรอกน่า! ท่าทางที่เหมือนกลัวผมเกลียดนั้นน่ะมันดูน่ารักเป็นบ้าเลย ถึงพี่เฮดีสจะไม่เคยพูดแต่ผมรู้ว่าเขาคงจะรักผมมากเลยแหละ เพราะอย่างนั้นถึงได้กลัวว่าผมจะเกลียดเขา อ่า... อะไรกัน? ทำไมตอนนี้ผมหยุดยิ้มไม่ได้เลยนะ

“พี่...”

“อย่าเข้ามา!!!”

ปึง!!!

ร่างของผมปลิวมากระแทกประตูแล้วตกลงมากองกับพื้นอย่างแรงจนผมร้องโอดครวญมึนหัวไปพักใหญ่ เมื่อกี้นี้มันอะไรกันน่ะ? ทำไมจู่ๆ ตัวของผมก็เหมือนถูกดีดกระเด็นมากระแทกประตูแบบนั้นได้!? ผมยกมือลูบหัวตัวเองที่เจ็บแปลบๆ สงสัยหัวกระแทกประตูแน่ๆ

“ขอโทษ! เป็นอะไรหรือเปล่า!?” พี่เฮดีสก็ดูเหมือนตกใจเหมือนกันรีบร้อนวิ่งเข้ามาแต่ก็หยุดชะงักไม่กล้าเข้ามาใกล้ เขาถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดโมโหแล้วหันหลังทิ้งตัวนั่งลงนิ่งเงียบไป ผมกุมศีรษะที่ยังมึนๆ อยู่แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก มองพี่เฮดีสที่หันหลังแล้วคลานเข่าเข้าไปหา แต่คนที่หันหลังอยู่กลับตวาดกลับมาเสียงดัง

“บอกว่าอย่าเข้ามาไงไอ้โง่!”

ผมหยุดเคลื่อนไหวแป๊บหนึ่งแล้วคลานต่อไม่สนใจเสียงตะคอกแดกดันเสียๆ หายๆ ของคนที่ทำหน้าเจ็บปวดยิ่งกว่าคนเจ็บตัวจริงๆ ผมไม่สนใจคำด่าที่วอนออกมาจากปากของเขาเลยสักนิด ผมรู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ แค่พูดให้ผมโกรธเพราะไม่อยากให้ผมเข้าใกล้เขาเท่านั้น ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเขาชอบโมโหก็เพราะกลบเกลื่อนความเจ็บปวดของตัวเองไม่ให้ใครได้รู้

“โง่หรือไงวะ!? บอกว่าอย่าเข้ามาใกล้! รำคาญ!!”

“ก็ผมมันโง่ ถึงได้ชอบพี่ที่งี่เง่าแบบนี้ไงล่ะ!”

พี่เฮดีสเงียบ ผมก็ฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายไร้การ์ดปกป้องเข้าไปกอดเขาแน่น ซบหน้าบนไหล่กว้างแล้วพึมพำข้อร้องเสียงเบา

“ผมไม่เข้าใจหรอกว่าพี่เป็นอะไร แต่อย่าหันหลังให้ผมได้ไหม?”

นานอยู่พักใหญ่ที่พี่เฮดีสจะขยับตัว เขาหมุนตัวกลับมาแล้วจับตัวผมไว้แน่น เขาถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก

“เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ?”

“...อย่าหันหลังให้ผม โอ๊ย พี่หยิกผมทำไมอะ?”

“ประโยคก่อนหน้านั้นต่างหากเล่าเจ้างี่เง่า! อย่าทำเป็นโง่นะ” เขามองตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบเหมือนเดิม อืม แบบนี้สิถึงค่อยสมกับเป็นพี่เฮดีสหน่อย ผมลูบต้นแขนที่โดนหยิกเนื้อแล้วทำหน้าบึ้งนิดๆ เชอะ พูดอะไรน่ะเหรอ? ใครจะไปจำได้! ผมจำอะไรไม่ได้หรอกกก!! ผมเม้มปากไม่ตอบแต่พอมองพี่เฮดีสที่จ้องเขม็งรอคอยด้วยความคาดหวังแบบนั้นมันทำอมยิ้มนิดๆ ผมหน้าแดงเล็กน้อยเมื่อคิดจะพูดอะไรออกไป อ่า นี่เป็นความไม่ละอายของคนที่กำลังมีความรักสินะ! 

“ผมจำไม่ได้แล้วว่าพูดอะไร แต่พี่รู้ไหมตอนนี้ผมอยากพูดอะไร”

“...อะไรล่ะ?” พี่เฮดีสเงียบแล้วกลั้นหายใจถามกลับมาเสียงเบาด้วยน้ำเสียงประหม่าเล็กๆ ผมยิ้มกว้าง กวักมือเรียกให้เขาเข้ามาใกล้ พี่เฮดีสหรี่ตามองผมอย่างไม่พอใจที่ลีลาไม่ยอมพูดออกมาสักที เขาทำเสียงในลำคอเหมือนขัดใจแต่ก็ยอมขยับตัวเข้ามาแต่โดยดี ระยะทางยังห่างอยู่ดีผมถอนหายใจถ้าให้อีกฝ่ายขยับมาอีกคงจะโวยวายแน่ๆ ผมก็เลยขยับไปใกล้เขาแล้วโน้มริมฝีปากชิดใบหู รู้สึกได้ว่าพี่เฮดีสเกร็งตัว

“ผมเกลียดพี่...”

“หะ!?” พี่เฮดีสส่งเสียงออกมาด้วยความผิดหวัง ชักสีหน้าอารมณ์บูดบึ้งผลักผมออกจากตัวทันที ผมหัวเราะคิกคักอย่างขบขำ ว่าแล้วเขาต้องคาดหวังเอาไว้สูงแน่ๆ พี่เฮดีสถลึงตาใส่อย่างแค้นเคืองสุดขีด ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“เมื่อกี้ยังพูดไม่จบเลยนะ ถ้าพี่ไม่อยากฟังก็ต่อผมก็ไม่ว่าอะไร” ผมยิ้มกว้างยักคิ้วให้กับพี่เฮดีสที่มองมาอย่างงุนงง ผมลุกขึ้นเดินไปที่ห้องของตัวเองไม่สนใจคนที่ยังไม่เข้าใจ จนกระทั่งจะเข้าไปในห้องพี่เฮดีสก็เปิดปากถามขึ้น

“แล้วจะพูดว่าอะไรล่ะ?”

“ผมเกลียดพี่! เพราะพี่ไม่ทำอะไรเลยนอกจากจูบน่ะสิ”

“...แล้วจะให้ทำอะไรล่ะ?” สีหน้าของพี่เฮดีสนิ่งไปเหมือนถูกคำสาปหินแล้วค่อยๆ ยิ้มที่มุมปากเอ่ยย้อนกลับมาอย่างใจเย็น ผมหน้าแดงแปร๊ด ตัวสั่น ไม่ไหวแล้วววว!

“ไม่รู้สิครับ!” ผมหมุนตัวปิดประตูห้องทันที พอเข้ามาในห้องแล้วถอนหายใจเฮือก เมื่อกี้นี้มันอะไรวะ!? โอ๊ยยย ผมแค่ล้อเล่นเฉยๆ ครับ!!! เมื่อกี้ทำให้ผมหัวใจจะวายตาย! หัวใจแม่งเต้นแรงไปไหนแล้วยังหน้าร้อนผ่าวไปหมด อายก็อาย เขินก็เขิน! ดีจังที่หนีเข้ามาในห้องได้ทัน ไม่อย่างนั้นผมคงระเบิดตัวเองตาย!

แกรก...

หือ? เสียงเหมือนประตูเปิดเลยแฮะ? ผมหันไปมองด้านหลังมองคนเปิดประตูห้องเข้ามาด้วยความงุนงง เอ๊ะ ทำไมประตูห้องมันเปิดได้อะ!? เฮ้ยยยย!!! ไม่จริงใช่ไหมมมมม ผมลืมล็อกประตู!!!

“อ้าว” พี่เฮดีสทำหน้าตกใจเมื่อเปิดประตูเข้ามาได้ เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมที่ยืนช็อกอยู่ตรงหน้าแล้วยิ้มกว้างซึ่งผมรู้สึกว่ามันน่ากลัวชะมัดยาก! ผมรีบเบรกอีกฝ่ายที่เดินเข้ามาใกล้

“พะ...พี่เข้ามาทำไมอะ ผมจะนอนแล้วนะ”

“หือ? อย่าเพิ่งเลย~ มาทำอะไรมากกว่าจูบกันเถอะ” พี่เฮดีสไม่หยุดเลยสักนิด เอ่ยชวนเหมือนชวนไปเล่นเตะบอลอะไรแบบนี้ ผมส่ายหน้าหวืดก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ เขาก็เดินตามประกบไม่ห่าง

“ไม่ได้~ ฉันไม่อยากโดนนายเกลียดนี่”

“ผมแค่...ล้อเล่น...”

“แต่ฉันจริงจัง” 

“ว๊ากกก!” ผมถอยหลังจนชนเข้ากับเตียงล้มหงายหลังลงไปนอนบนเตียง พี่เฮดีสทำหน้าครุ่นคิดแล้วเลิกคิ้วมองผมอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา จากนั้นก็ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากผมหนึ่งทีแล้วยิ้มกระหยิ่มแบบรู้ทัน

“ทั้งคำพูด ทั้งเข้าห้องนอนโดยไม่ล็อกแล้วก็ล้มลงบนเตียง...อื้ม~ จริงๆ แล้วนายจงใจยั่วฉันสินะ”

ไม่ช่ายยยยยยยย!!!

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบหรอกนะ โคตรชอบเลยล่ะ นะ...อะแฮ่ม ตลกดี!”

ผมหน้าแดงก่ำแก้มแทบจะระเบิดตูม

ตลกเนี่ยนะ? ไปตายซะไอ้บ้าเฮดีส!!!





TBC.


ทำไมกันน่า ถึงแต่งฉากนั้นไม่ได้สักที เฮ้อ
หรือว่าเพราะรัญใสซื่อสะอาดเกินไป!?
ก๊ากๆ งั้นงดฉากอย่างนั้นในเรื่องนี้ล่ะกัน! OxO
ต๊ายตาย จะเจอม็อบมาประท้วงไหมเนี่ยยยย
ใจเย็นนนน!!! ทางเราแค่ชะลอไว้เท่านั้น ไม่ได้ตัดหรอกกกกกก

ปล. เซอร์ไพร้ส์ไหมจ๊ะ? วันเกิดของเฮดีส (เฮียไม่เคยบอกใครเลยนะเนี่ย!)
กลัวคนอื่นจะน้อยหน้าเฮดีส ก็เลยบอกวันเกิดทุกคนพร้อมอย่างอื่นแบบย่อๆ

เฮดีส  ก็อดไลค์เนส (ดีส)
ชั้นปี 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา
สถานะ : วางแผนสละโสด(?)
วันเกิด : 2 กันยายน  อายุ : 20 ปี (จะ 21 แล้วล่ะ)
เชื้อสาย : กรีซ-ไทย
กรุ๊ปเลือด : AB
ส่วนสูง : 185 cm.
น้ำหนัก : 76 kg.
สีตา : ดำ
สีผม : ดำ
อื่นๆ : เสมือนเทพ <ใช้คำพูด>

ธรรมปพน  ธราธรรศเทพ (เนรัญ)
ชั้นปี 1 คณะเกษตรศาสตร์  สาขาพืชสวนครัว
สถานะ : มึนๆ งงๆ
วันเกิด : 30 มิถุนายน  อายุ 19 ปี
เชื้อสาย : ไทย
กรุ๊ปเลือด : A
ส่วนสูง : 175 cm.
น้ำหนัก : 56 kg.
สีตา :  น้ำตาลอ่อน
สีผม :  น้ำตาลเข้ม


ไนซ์
???
สถานะ : พ่อม่ายลูกสอง
วันเกิด : 2 กันยายน  อายุ : 20 ปี
เชื้อสาย : กรีซ-ไทย
กรุ๊ปเลือด : AB
ส่วนสูง : 185 cm.
น้ำหนัก : 76 kg.
สีตา : ดำ
สีผม : ดำ
อื่นๆ : ??? <???>


ซูส  ก็อดไลค์เนส (ซูส)
ประธานบริษัท และ CEO ของโอลิมปัสเอ็นเตอร์ไพรซ์ (Olympus enterprise)
สถานะ : เมียหนึ่งลูกสอง
วันเกิด : 1 กรกฎาคม  อายุ : 39 ปี
เชื้อสาย : กรีซ-ไทย-อังกฤษ
กรุ๊ปเลือด : A
ส่วนสูง : 186 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 75 กิโลกรัม
สีตา : สีน้ำตาลทอง  สีผม : สีน้ำตาลเข้ม
ภรรยา : เวเนีย  ก็อดไลค์เนส อายุ 33 (อดีตนางแบบเซเลบชื่อดังของฝรั่งเศส)
ลูก : เฮเลน  ก็อดไลค์เนส อายุ 15 ปี
อื่นๆ : เสมือนเทพ <ใช้สายฟ้าและอ่านใจคนได้>


โพไซดอน  ก็อดไลค์เนส  (โพซ)
CEO โอลิมปัสเอ็นเตอร์ไพรซ์และโอเชี่ยนเอ็นเตอร์ไพรซ์ (Ocean enterprise เป็นบริษัทของโพไซดอนไม่เกี่ยวอะไรใดๆ กับตระกูล)
สถานะ : โสด
วันเกิด : 3 กุมภาพันธ์  อายุ : 29 ปี
เชื้อสาย : กรีซ-บราซิล
กรุ๊ปเลือด : B
ส่วนสูง : 193 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 85 กิโลกรัม
สีตา : สีครามทะเล
สีผม : สีดำ
อื่นๆ : เสมือนเทพ <ควบคุมของเหลว>


...จากประวัติข้างต้นจะรู้ได้ว่าปะป๊าของสามมหาเทพน่ะเสน่ห์แรงมว๊ากกกก(มีพ่อเดียวกันแต่คนละแม่นะจ้ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2013 00:34:54 โดย lie-boy »

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
โอ๊ยยย ย ลุ้น ๆ น้องเนเน่

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
กรี๊ดดดด
ตอนหน้าสินะ สินะสินะ
กระโดดกอดพี่ปอย จุ๊บๆสองที

ออฟไลน์ O[]OVampire

  • เพียงเธอสบตา...แทบลืมหายใจ เพียงเธอ...จากไป...ตราบชั่วลมหายใจ ...ไม่ลืม
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
เฮดีสจัดให้เนเน่หน่อยสิเรารออ่านอยู่ อิอิ

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
อุ๊ย รอออออ
เนรัญจ๋า ถึงจะไม่ได้ตั้งใจยั่ว แต่บทมันลงแบบนี้แปลว่าสวรรค์เป็นใจน่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ full69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
พี่ดิสแกท่าทางจะเป็นคนหึงโหด(มากกกกกกก!)นะเนี่ย! :m26:     เนรัญ!นายเป็นคนซื่อที่........น่ารักที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลยอ่ะ! :m3: :m3:

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
ถ้าเรื่องนี้ไม่มีฉากนั้นเราจะประท้วงที่กรมวายแห่งชาติ ( =w=)
ไหนๆเนก็ยั่วเฮียดิสมาซะขนาดนี้แล้ว ตอนต่อไปจัดเลยได้มิ ฮุฮุ
เวลาหึงเฮียแกแอบโหดเนอะ แต่ก็อีกเคยมีเวลาไหนที่เฮียไม่ค่อยโหดบ้าง
จะว่าไปก็มีนะเวลาแกไม่โหด เวลาเนเน่ยั่วไง จากเสือกลายร่างเป็นหมาป่าทันที 555
จะรอติดตามตอนต่อไปน้า จะค่อยรอลุ้นว่าเนเน่จะโดนกินเมื่อไร (ไม่ค่อยหื่นเลยเนอะเรา)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
อ๊ากกกก พี่เฮดีสจัดการเรย

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
เนเน่ไม่รอดแน่ๆ เพราะพี่เฮดีสไม่อยากถูกเกลียด
ฟิน รอ  :z1:

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5

ออฟไลน์ ♥MM...★

  • ไม่ใช่มืออาชีพ แค่ชอบเขียนไปตามที่ใจต้องการ♥
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
อยากเห็นคนโดนกดไวๆ จ้าาาาาาา :call:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
อ๊ายยยยย
เนรัญ เส็ดแน่งานนี้

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
ปูเสื่อรอเนรัญโดนเปิดซิง
55555555555555555555555555555555555


 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
อายุพี่น้องบ้านนี้ห่างกันเยอะจัง


ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
โอ๊ะ ไม่รู้ว่าเข้าใจไปเองหรือเปล่า ว่ากำลังฝันถึงเรื่องในอดีตอยู่ ใช่ไหมนะ ว่าแต่ทำไม รัญถึงได้ลืมละ เกี่ยวอะไรกับที่เทพธิดาลินเซ่ พูดไหม



ออฟไลน์ PoppyPrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re:
«ตอบ #1548 เมื่อ13-11-2013 10:57:17 »

ขอตอนหน้าอย่างไวๆเลยนะครับผม  #  รอๆๆๆ

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ย้อนอดีตสินะ ฮุฮุ  น้องเนเน่ถ้าจำเรื่องทั้งหมดได้แล้ว จะเป็นยังไงน้อ..  :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Dezzerr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
แอร๊ยยย พี่เฮดีสหึงโหด

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ยั่วอีกเนเน่ ยั่วเยอะๆเลย!

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
แอบเขินตอนพี่เฮดีสในอดีต :-[

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
พี่เฮดีสในอดีตน่ารักอะ

อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ทำไมน้องเนเน่ถึงจำพี่เฮดีสไม่ได้

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อ๊าย เกิดอาการ "เอาตอนต่อไปมาซะ" ลุ้นอ่ะลุ้น แบบว่าเนเน่จะโดน...ตอนไหน?(ไม่ค่อยคิดเล๊ย)

มีฉากพ่อของพี่เฮออกไหมคะ? อยากเห็น > w <

เพิ่งเคยเห็นพี่เฮดีสเค้าออกอาการแบบนี้นะคะ 5555555555 เนเน่จะจำได้ไหม? เนเน่ต้องมีอะไรแน่ๆเลยอ่ะถึงจำไม่ได้ เอ๊ะ หรือพี่เฮเค้าทำให้เนเน่จำไม่ได้กันนะ อ๊าย ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ลุ้นอ่ะ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
น้องรัญยั่วแบบตลกๆงงๆ สับสนในชีวิต เหอะๆจะรอดบ่

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
อยากรู้จักพ่อของพี่ ๆจัง :mew1:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
มารอเนเน่เสียตัว :hao6:

ลีลาวดี

  • บุคคลทั่วไป
กรี้ด พี่เฮดีส เขาก็เกลียดพี่เหมือนกันนะ :-[

ออฟไลน์ terukizawa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
    • -
เนเน่ โดนกด...เนเน่ โดนกด....
เน่ จะโดนดิสเสียบ โอ๊วว!!! เน่ จะโดนดิสเสียบ โอ๊วว!!!  :hao6: :hao6:






ม่าย.........

ชั้นทำอะไรลงไป 555+  :-[

รอจ้า....... :call:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด