♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♕♕♕ ดีสุดขั้ว & ชั่วสุดขีด ♛♛♛ [Up. Special 1 P.102 13/5/58]  (อ่าน 1089795 ครั้ง)

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
เนเน่เข้าใจจริงๆรึป่าว? :)

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ฮิ้วววววว~~~

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Ningg.Destiny

  • `` เหนียงจื่อ ♥
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • twitter
โถ เนรัญความรู้สึกช้าเหมือนเดิม ใครเค้าจะจูบเพื่อแกล้งเล่นละ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
หายงงได้ยังลูก -w-"

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
เนเน่

ต้องขอบคุณโอเล่แล้วล่ะ ที่ชี้ทางสว่างให้ลูกแกะหลงในทางสว่าง ไปหาความมืด 555+

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
ไอ้รัญเอ๊ยยยยย ป่านนี้ยังไม่รู้ตัวอีกเรอะ สงสารพี่เฮดีสจริงๆแหละนะ อดทนกับคนซื่อแบบรัญได้นานมากอะ  :z3:

ตอนหน้าหวังว่ารัญจะเข้าใจตัวเองและเข้าใจความรู้สึกพี่ดีสมากขึ้นนะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ O[]OVampire

  • เพียงเธอสบตา...แทบลืมหายใจ เพียงเธอ...จากไป...ตราบชั่วลมหายใจ ...ไม่ลืม
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
ยอมให้เฮดีสกินซะเถอะ Persephone(ne)ที่รัก อิอิอิ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
เห้ออออออออ ที่ผ่านมานี่ไม่รู้หรอกรึว่าโอเล่ชอบผู้ชาย... เวงกรำ  o6

ออฟไลน์ crosa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
สงสารพี่เฮดีสจริงๆ
รัญจะบื้อไปถึงไหนกันเนี๊ย(ไม่ได้ว่านู๋รัญนะ จริงจริ๊ง^^)
แต่อดีตนั่นมันไรหว่า...มอตโตอธิบายมาเดี๋ยวนี้><
เอาใจช่วยให้พี่เฮดีสจับน้องรัญกดสักที หุหุ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jubujubu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
อ่านแล้วทั้งขำทั้งน่ารัก :impress3:

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ลูกจะบื่อไปไหนลูก - -'

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
อยากจีบเนรัญก้ต้องทำใจหน่อยนะเฮดีส ว่าน้องรัญไม่เหมือนกับคนอื่นเค้า :mew5:

ออฟไลน์ zoe131313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เฮดีสกดสักทีเถอะ 5555

ออฟไลน์ na_near

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 971
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
อยากมอบถ้วยรางวัลให้โอเล่  ในฐานะผู้มาชี้ทางบรรลุให่เนเน่จัง :L2:

ออฟไลน์ nnA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
ทำไมเพื่อนในกลุ่มของเรนัญแต่ละคน น่ากินแบบนี้นะ :hao6:

ออฟไลน์ ycrazy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
รู้ใจตัวเองได้แล้วรัญญญ  :give2:

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เนเน่หึงพี่ดิสก็บ้าบอกับตัวเองคนเดียว แล้วถ้าพี่ดิสหึงเนเน่ล่ะ จะเป็นไง :z2:

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
 :katai2-1:   รอจ้ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ KoTo_Nat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อ่าสวัสดีครับ

คือพอดีไม่ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้นานสองปีแล้วเลยลืมๆเนื้อเรื่องบางส่วนนะครับ

เรื่องนี้ใช่ที่มีตอนของนายเอกโดนมอมยา(โดยเพื่อนของพระเอกหรือเพื่อนของนายเอกที่ร่วมมือกัน)

แล้วแสดงฉากทำให้พระเอกเห็นให้เกิดความเข้าใจผิดกันไหมครับ

จากนั้นก็เกิดอุบัติเหตุหรืออะไรสักอย่างนึงอ่ะ พอดีอ่านหลายเรื่องนะครับเลยจำสับสนกัน

ยังไงก็ขอบคุณครับที่มาต่อ

แล้วรีบมาต่อตอนต่อไปเร็ว ๆ นะคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-01-2014 06:37:57 โดย KoTo_Nat »

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อ๊ายยย เขินแทนเนรัญเลยอ่ะมีกระซิบกระซาบข้างหูด้วย

รู้ตัวซะทีเถอะเนเน่

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
รอน้องเนเน่  :mew2:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
รัญหนูซื่อไปนะลูก  เดี๋ยวโดนพี่เฮดีสแกหลอกหรอก    o3
รอนะฮะ  :')

ออฟไลน์ ♫~Eristneth~♪

  • ดวงจันทร์~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ณ จุดนี้ ต้องขอบคุณ โอเล่ มากๆ  :laugh:
กว่าจะรู้  :katai1:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เฮียเฮดีสยังไม่มาอีกหรอ

คิดถึงหนูรัญจะแย่  :ling1:

ออฟไลน์ lie-boy

  • การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การประสบความสำเร็จให้มากกว่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +270/-1
    • poypoy & lieboy
สุดขีด 21

“เป็นไงมึง ได้คำตอบหรือยัง?”

พอโอเล่เจอหน้าผมเป็นต้องถามคำถามนี้ทุกที ทำให้เพื่อนคนอื่นๆ มองอย่างสงสัยว่าคำตอบอะไรของไอ้โอเล่ แถมไม่ถามเปล่า เจ้าตัวยังชอบกระหยิ่มยิ้มย่องให้อีกต่างหาก ผมเซ็งกับเจ้าเตี้ยนี่เต็มทน มาบังคับให้คิดอะไรบ้าๆ อยู่ได้ ผมหน้าแดงทุกครั้งที่ถูกถาม บ้าเอ๊ย! จะให้ตอบต่อหน้าประชาชีที่สอดส่องสายตาอยากรู้อยากเห็นแบบนี้น่ะเหรอ? ไม่มีทางหรอก! ผมไม่ได้หน้าหนาขนาดนั้นนะ โปรดเข้าใจด้วย

เชอะ ไอ้เรื่องคำตอบอะไรนั้นมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว! โธ่เอ๊ย ผมต้องแย่แน่ๆ ทำไมถึงได้... โว้ยยยย!!! ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องทำใจยอมรับล่ะนะ มองจากมุมไหนผมก็... ทำไมถึงได้ยอมให้เขาทำแบบนั้นกับตัวเอง ทำไมถึงได้สนใจเขาซะขนาดนั้น มันก็มีแค่คำตอบเดียวนั้นแหละ! นี่ผม...จริงๆ งั้นเหรอเนี่ย!? ไม่อย่างจะเชื่อเลยว่าผมจะ... อ๊ากกกก ขนาดจะพูดยังกระดากปากเป็นบ้า

ผม... ผม... ผม... เฮ้อ!

“มาครบกันหรือยัง?” ซันเซ็ตตะโกนถามเพื่อนๆ พยายามใช้สายตากวาดมองจำนวนคร่าวๆ

วันนี้พวกเราจะแสดงละครเวทีกันแล้วล่ะครับ ดังนั้นพวกเราจึงมารวมพลกันก่อน เพื่อจะทำการแต่งหน้าทำผมให้เหมาะสมกับบทบาทที่ได้รับ พูดถึงบทที่ได้แล้วผมยังไม่โอเคกับบทที่ได้รับเลย บอกตรงๆ เป็นตัวร้ายที่ปัญญาอ่อนที่สุดที่ผมเคยพบเจอเลย ให้ตายสิ!

“เอาล่ะ มาครบกันแล้วนะ ระหว่างที่รอช่างแต่งหน้า พวกผู้หญิงเริ่มทำทรงผมก่อนเลย ฝ่ายเสื้อผ้าจัดเตรียมชุดของแต่ละคนเอาไว้หรือยัง?” ผู้กำกับคนเก่งของเราเริ่มทำตัวเป็นงานเป็นการ หลังจากเดินป๋อสาวจนหน่ำใจ ซันเซ็ตเช็กอุปกรณ์ ฉากและเครื่องแต่งกายของแต่ละฝ่าย จากนั้นก็หันไปรับโทรศัพท์

“โอเค ช่างแต่งหน้ามาถึงแล้ว เราจะให้พวกผู้ชายแต่งหน้าก่อน ส่วนผู้หญิงทำทรงผมรอในระหว่างนี้นะ” พอคุยโทรศัพท์เสร็จ ซันเซ็ตก็หันมาพูดกับพวกผมแล้วเดินออกไปจากห้อง ไม่นานก็เดินเข้ามาพร้อมกับมอตโตและผู้ชายอีกคน พวกสาวๆ ตื่นเต้นมากเพราะคนที่มากับสองหนุ่มหน้าตาดีมากน่ะสิ

“อ้าวๆ ช่างแต่งหน้ามาแล้ว ใครจะแต่งเป็นคนแรกเตรียมตัวแล้วไปห้องนู้นเลยนะ พี่โพมไปเตรียมตัวห้องนู้นเลยครับ เดี๋ยวผมจัดคิวเข้าไป”

“อ่า ได้ๆ”

“เฮ้ย มอตโต พาพี่มึงไปหน่อย”

หือ? ผมเงยหน้ามองผู้ชายตัวสูงหุ่นสมาร์ทตรงหน้าอย่างสงสัย เมื่อกี้นี้ไอ้ซันเซ็ตมันพูดว่าพี่โพมหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ เขาหันมายิ้มให้กับผมแล้วเดินตามมอตโตไป ไม่จริงน่า! ยิ้มเหมือนกันเลย เฮ้ย คนๆ นั้นเป็นพี่โพมตัวจริงงั้นเหรอ!? แล้วทำไมวันนี้ถึงได้แมนแอนด์แฮนซั่มได้ขนาดนั้นล่ะ!? หรือว่าตอนนั้นผมจะมโนไปเอง! ไม่มั้ง เล่นแต่งตัวอย่างกับหลุดออกมาจากยุควิคตอเรียน วันก่อนยังเป็นเลดี้อยู่เลย วันนี้ทำไมถึงได้กลายเป็นเจนเทิลแมนล่ะ งงวุ้ย!

“มึงอะรัญ ไปแต่งคนแรก” ไอ้ซันเซ็ตชี้นิ้วมาที่ผมเป็นคนแรก

“ทำไมต้องเป็นกูด้วยล่ะ?”

“ก็บทมึงยังไม่ค่อยเพอร์เฟ็กท์นี่หว่า รีบแต่งรีบมาซ้อมไง”

“อืมๆ รู้แล้ว”

แล้วผมก็กลายเป็นหน่วยกล้าตายแนวหน้าเข้าไปเสี่ยงก่อนคนแรก มอตโตยกกระจกบานใหญ่มาตั้งตรงหน้าพี่ชายซึ่งกำลังสาระวนอยู่กับกระเป๋าอุปกรณ์เครื่องสำอางมากมายกายกอง อยากจะตกใจจำนวนของพวกนั้นอยู่หรอกนะครับ แต่เพราะพี่โพมหันมามองผมแล้วเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางอย่างกับคนละคนในวันก่อน ผมตกลงเรื่องนี้มากกว่า ในหัวมึนงง ตกลงพี่จะเอายังไงกันแน่!?

“มานั่งสิครับ พี่เตรียมพร้อมแล้ว”

“ครับ” ผมเดินไปนั่งเก้าอี้ที่อีกฝ่ายเผยมือออกไป เอ่ยเชิญชวนให้นั่งลง ผมนั่งลงพร้อมกับเหลือบมองพี่น้องคุยกัน มอตโตถามถึงเรื่องที่พี่โพมอยากได้อะไรอีก ถ้ามีอะไรเรียกได้ตลอดเวลา จะแสตนด์บายรออยู่ห้องข้างๆ พี่โพมพยักหน้ารับยิ้มๆ มอตโตมองผมก่อนจะเดินออกไปจากห้อง เหลือเพียงผมกับพี่โพมตามลำพัง

“พี่โพมครับ?”

“มีอะไรเหรอครับ?”

โคตรจะแมน!? ภาพเลดี้ในวันวานทำเอาผมเอ๋อ ท่าทางการใช้มือหรือการเดิน การยืนก็ไม่เหมือนวันนั้นสักนิดเดียว อย่างกับคนละคนกันแน่ะ หรือว่าจะเป็นฝาแฝด นี่อย่าบอกว่านะว่ามีฝาแฝดแบบพี่เฮดีสน่ะ

“เอ่อ...เราเคยเจอกัน?”

“ก็ต้องเคยเจอสิครับ อะไร แค่ไม่กี่วันเธอก็ลืมไปแล้วเหรอ?” พี่โพมยิ้มๆ แล้วเอ่ยตอบกลับด้วยท่าทางสบายๆ พร้อมกับเริ่มลงมือลงครีมนั้นนู้นนี้บนหน้าของผม ไม่ได้ลืมแต่ไม่แน่ใจว่าคนเดียวกันหรือเปล่า เท่านั้น! ผมนั่งเงียบปล่อยให้อีกฝ่ายที่เคลื่อนมือคล่องแคล่วอย่างกับช่างแต่งหน้ามืออาชีพ ผมเหม่อมองกระจกบานใหญ่ตรงหน้า

“บทเจ้าชายสินะครับ?”

“อ่า ก็ไม่เชิงหรอกครับ เป็นขุนนางมากกว่า ตัวร้ายด้วย”

“อืมมม แสดงละครตลกใช่ไหมครับ?” พี่โพมอมยิ้มแล้วกรอกตาไปมา ก่อนจะยิ้มกว้างเอียงหน้ามาถามผมด้วยอารมณ์ขบขัน ผมส่งค้อนขวับให้ทันที ผมเป็นตัวร้ายเลยการเป็นละครตลกงั้นเหรอ!? ให้ตายเถอะ

“ดูเชี่ยวชาญมากเลยนะครับ อย่างกับมืออาชีพแน่ะ”

“อืม พี่กำลังเรียนอยู่น่ะ”

“เรียนแต่งหน้านี่น่ะเหรอครับ?”

“ใช่แล้วล่ะ เรียนควบกับเชฟน่ะ”

“ทำอาหารน่ะเหรอครับ?” ผมอุทานออกมาเบาๆ อย่างคาดไม่ถึง

“ใช่ๆ พี่ชอบทั้งสองอย่างก็เลยตัดใจจากอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ก็เลยเรียนควบมันทั้งสองอย่างเลย” พี่โพมยิ้มแล้วเอ่ยด้วยสีหน้ามีความสุข ถ้าดูจากตอนนี้ก็พอจะเชื่อได้บ้าง ท่าทางตอนพี่โพมเลือกเครื่องสำอางนั้นดูมีความสุขจริงๆ นั้นแหละ ผมมองแล้วยิ้มตามเล็กน้อย

“ขอโทษนะครับ แต่ว่า...ผมข้องใจจริงๆ ตกลงพี่เป็นแฟนกับพี่ยูจริงๆ งั้นเหรอครับ?”

“ก็ใช่น่ะสิ คบกันจนจะครบห้าปีแล้วล่ะมั้ง” พี่โพมเหลือบตาขึ้นเหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่าง ก่อนจะก้มหน้าลงมายิ้มให้กับผม ตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังนุ่มนวล เสียงตอนปกติของพี่โพมมันทุ้มต่ำนุ่มละมุนน่าฟัง ตอนนั้นพยายามตั้งใจดัดเสียงให้แหลมเกินไปจนฟังแล้วพิลึก ไม่สู้เสียงตอนปกติอย่างนี้

“พี่โพมเป็นผู้ชายเหรอ?”

เป็นคำถามที่โคตรงี่เง่าแต่ผมก็อยากถามจริงๆ

“ก็ต้องผู้ชายสิครับ จะให้พี่เป็นอะไรไปได้ล่ะ” หนุ่มหล่อผมทองยิ้มกว้างตอบกลับมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม ผมยังสงสัยว่าเขาเอาความมั่นใจพวกนั้นมากจากไหนกัน

ผมเงียบไม่ถามอะไรอีกปล่อยให้มือเรียวขาวทานั้นระบายนี้บนหน้า ไม่นานผมก็แต่งเสร็จด้วยเวลาอันสั้น เพราะสำหรับผู้ชายแล้วไม่จำเป็นต้องแต่งมากมายเลิศเลอแบบผู้หญิงนี่น่า เสียเวลาแต่งผมนิดหน่อยเท่านั้นเอง ผมเดินออกมาเปลี่ยนชุดที่จะใช้แสดง ซันเซ็ตกวักมือเรียกผมอยู่ยิกๆ ผมถอนหายใจเดินไปหยิบบทละครเดินไปหาซันเซ็ต เจ้าเพื่อนจอมลีลาท่ามากพาผมออกมาจากห้องที่แสนวุ่นวายเพื่อจะได้มีสมาธิ ผมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพวกเพื่อนทุกคนที่อุตส่าห์ร่วมมือร่วมใจกันมาถึงขั้นนี้ จนผู้กำกับพยักหน้าพึงพอใจในการฝึกครั้งนี้ ผมก็ถอนหายใจโล่งอก

“รัญ”

“พี่ไอวี่?”

ผมกับซันเซ็ตกำลังกลับไปหาเพื่อนๆ ระหว่างทางพี่ไอวี่เดินเข้ามาเรียกผมเอาไว้ ท่าทางมีอะไรอยากจะพูดด้วย รุ่นพี่คนสวยทำหน้าจริงจังปนกังวลเล็กน้อย ใบหน้าสวยเซมองมาที่ซันเซ็ตเล็กน้อยแล้วมองตรงมาที่ผม

“กูเดินไปก่อนล่ะกัน” ซันเซ็ตยกมือเกาหัวแล้วเอ่ยขอตัว ผมมองตามเพื่อนที่เดินออกไปอย่างแปลกใจเล็กน้อย ครั้งนี้ไม่ยักจะแหย่พี่ไอวี่เหมือนครั้งก่อนๆ หรือว่าบรรยากาศรอบตัวพี่ไอวี่ดูแปลกๆ จนไม่กล้าที่จะหยอกเล่นเหมือนที่ผ่านมา พอซันเซ็ตเดินออกไปไกล ผมก็หันมายิ้มให้กับพี่ไอวี่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงใย ก็วันนี้พี่สาวที่เคยร่าเริงสดใสกลับดูประหม่าเป็นกังวลชอบกลนี่น่า

“พี่ไอวี่ มีอะไรให้ช่วยเหรอครับ?”

“เอ่อ เปล่าหรอกรัญ คือ...ว่า...เอ่อ หลังแสดงละครเสร็จรัญพอจะมีเวลาไหม?”

“ครับ” ผมพยักหน้ารับ มองรุ่นพี่สาวตรงหน้าที่เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก สีหน้าที่เคยมีความมั่นใจ ตอนนี้กลับก้มต่ำไม่เงยขึ้นมามองตอบ ผมสงสัยอยู่บ้างแต่ไม่เอ่ยทักท้วงออกไป กลัวว่าจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายอายซะก่อนจะพูดธุระจบ

“งั้น... งั้น... ช่วยมาเจอพี่ที่ตรงม้านั่งชั้นสามนะ! แล้วพี่มีอะไรจะคุยกับรัญสักหน่อย”

“เอ่อ คุยตอนนี้เลย ไม่ได้เหรอครับ?”

“ไม่ได้! ยังไงก็ต้องมานะ พี่จะรอ!” พูดเสร็จพี่ไอวี่ก็หันตัววิ่งออกไปทันที ไม่ฟังคำตอบรับจากผมเลย ผมยืนงงอยู่ที่เดิมพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างกังวลใจ รู้สึกแปลกๆ ยังไงชอบกล สถานการณ์แบบนี้ บรรยากาศแบบนี้ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยเจอ แต่ทว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยนี่น่า ผมถอนหายใจ บางทีอาจจะไม่ใช่อย่างที่ผมคิดไว้ก็เป็นไปได้

ผมเดินกลับมาหาเพื่อนๆ ที่เตรียมตัวเกือบจะเรียบร้อยทุกคนแล้ว หว่า พี่โพมทำงานรวดเร็วสุดๆ แถมยังเนรมิตเพื่อนของผมออกมาดูดีจนแทบจะจำไม่ได้เลย คนที่แต่งตัวเรียบร้อยไม่มีอะไรทำก็นั่งถ่ายรูปตัวเองอัพโซเชียลเน็ตเวิร์ก บางคนตื่นเต้นก็ซ้อมบทของตัวเอง ผมเดินมานั่งข้างคุณพระเอกของละครครั้งนี้ซึ่งแต่งตัวหล่อเหลามีสง่าราศีสมเป็นเจ้าชาย ซีเนียร์เงยหน้าจากการ์ตูนญี่ปุ่นมามองผมเล็กน้อยแล้วก้มอ่านต่อเงียบๆ พระเอกไม่มีความตื่นเต้นเลยสักนิด ผมเหลือบมองดูการ์ตูนที่ซีเนียร์อ่านอยู่สักพักก็เงยหน้าขึ้นมา เมื่อรู้สึกว่ามีสายตาจับจ้องมองมา ผมเลิกคิ้วเล็กน้อย

“มีอะไรวะ?”

“เปล่านี่ แค่จะถามว่ามึงหิวหรือเปล่า?”

“ไม่หิวอะ”

“มึงจะลงไปซื้อขนมเหรอวะไอ้ซัน?” ซีเนียร์เงยหน้าขึ้นมาอย่างสนใจ เอ่ยถามคนที่นั่งอย่างฝั่งตรงข้าม ซันเซ็ตอึกอักอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้ารับ เอ๊ะ ไอ้นี่ ทำตัวมีพิรุธน่าสงสัยจริง ดูเหมือนซีเนียร์จะคิดเหมือนกับผม เขาเลิกคิ้วมองเพื่อนสนิทด้วยท่าทางเฉยชา ไม่ถามอะไรแต่เอ่ยต่อจากที่พูดคาเอาไว้แทน

“เออ งั้นกูฝากซื้อขนมหน่อย รองท้องเผื่อหิวตอนขึ้นแสดง”

“ได้ๆ เอาอะไรล่ะ?” ไอ้ซันเซ็ตเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ สายตามันก็เหลือบมามองผมอยู่บ่อยครั้ง ท่าทางโคตรจะมีพิรุธสุดๆ ซีเนียร์ร่ายรายชื่อที่ต้องการยาวเหยียดทำเอาผู้กำกับโวยวาย แต่ก็ออกไปซื้อให้แม้ปากจะบ่นด่าตลอดทางก็ตาม ผมกับซีเนียร์มองเพื่อนซึ่งเดินออกไปจากห้องแล้วหันมามองหน้ากันเงียบๆ ซีเนียร์เป็นฝ่ายเปิดปากก่อน

“มีอะไรงั้นเหรอวะ? มึงซ้อมละครไม่ได้ดั่งใจมันเหรอไง?”

“เปล่านี่ มันโอเคแล้วนะ ตอนกลับมาก็ยังบอกว่าใช้ได้อยู่เลย”

“แล้วทำไมมึงกลับมาหลังมันล่ะ?”

“อ้อ พี่ไอวี่มาหากูน่ะ” ผมเอ่ยตอบแบบไม่ปกปิด ซีเนียร์ชะงักก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง

“มาหาเรื่องอะไรวะ?”

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ พี่ไอวี่นัดกูไปคุยตอนแสดงละครเสร็จแล้ว”

“...อ้อ มิน่าไอ้ซันเซ็ตมันถึงทำท่าแปลกๆ แบบนั้น” ซีเนียร์เงียบแล้วทำหน้าเหมือนจะเข้าใจเรื่องราวทั้งๆ ที่ตัวผมเองยังไม่รู้เรื่อง ผมขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามกลับอย่างสงสัย แต่เจ้าเพื่อนตัวดีกลับก้มหน้าจดจ่อการ์ตูน เอ่ยลอยๆ ตอบกลับแบบไม่ใส่ใจนัก

“ไม่ต้องสนใจหรอก มึงแค่ทำตามความรู้สึกมึงก็พอแล้ว”

หา? ผมมองซีเนียร์อยู่นานแต่มันก็ไม่อธิบายอะไรต่อเลย ผมถอนหายใจ เริ่มจะรู้สึกมั่นใจในลางสังหรณ์ของตัวเอง และเริ่มรู้สึกลำบากใจขึ้นมานิดหน่อย เสียงซุบซิบจ้อกแจ้กดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ มองคนที่เดินเข้ามาในห้อง พวกเพื่อนๆ ผมทำหน้าตกอกตกใจและวิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่

“ทำไมพวกวิศวะเข้ามาที่นี้ล่ะ?”

“กล้าเกินไปแล้ว!”

“พี่ยู!” ผมลุกขึ้นเรียกแขกที่เดินเข้ามาผิดที่ผิดทางด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น พี่ยูที่ใส่เสื้อช็อปสีดำมาแบบเปิดเผย ไม่สนใจเสียงรอบข้าง เขาหันมามองผมแล้วโบกมือทักทายพร้อมกับเดินเข้ามาหาผม ผมสังเกตดูเพื่อนๆ ที่หันมองผมสลับกับพี่ยูอย่างใคร่รู้ พี่ยูยิ้มแป้นเอ่ยทักทายด้วยเสียงร่าเริง

“รัญ! ว้าว! ไอ้น้องรัก วันนี้แกดูหล่อชะมัด ฮ่าๆ”

“ขอบคุณครับ ว่าแต่พี่มาหาพี่โพมเหรอครับ?”

“จุ๊ๆ ไม่เชิงหรอก จริงๆ ที่มาเนี่ยเพราะถูกขอร้องให้มาเป็นผู้ส่งสารต่างหากล่ะ” พี่ยูส่ายหน้า มองผมแล้วยิ้มกว้างอย่างสดใส เอ่ยตอบอย่างมีนัยยะ ผมเอียงหน้ามองพี่ชายคนสนิทที่อุตส่าห์ผ่าดงชาวคณะเกษตรอย่างใจกล้า แถมไม่ปกปิดความเป็นวิศวะของตัวเองเลยแม้แต่น้อย ใส่เสื้อช็อปแขวนสร้อยเกียร์มาเต็มยศ

“เอ้านี่! ยูเดลิเวอรี่ ส่งตรงถึงมือแน่นอน” พี่ยูชูช่อดอกไม้ที่ซ่อนเอาไว้ด้านหลังมาตรงหน้าของผมแล้วส่งเสียงโฆษณาอย่างภาคภูมิใจ ผมผงะตกใจนิดหน่อย พอมองดอกไม้สีขาวในมือพี่ยูแล้วใจเจ้ากรรมที่พลันเต้นรัว

นี่มัน...

ผมเงยหน้ามองพี่ยูที่ยังคงส่งยิ้มมาให้ ค่อยๆ ยื่นมือไปรับช่อดอกไม้มาถือเอาไว้ ผมมองดอกไม้สีขาวในมืออย่างเหม่อลอย เรียวปากเผยรอยยิ้มออกมาบางๆ ไม่รู้ว่าอุปทาเอาเองหรือว่ารู้สึกว่ามีไออุ่นบางๆ แผ่จากดอกไม้เข้าสู่ร่างกายของผมจนขนลุกไปหมด ผมยืนยิ้มเขินหน้าแดง ทั้งประหลาดใจทั้งสงสัย

“ดอกอะไรน่ะ สวยจัง ใครส่งมาให้เหรอครับ?” โอเล่เดินเข้ามาถามไถ่อย่างตื่นเต้น มองดอกไม้ในมือของผมด้วยท่าทางตื่นตาตื่นใจ พี่ยูกระแอมเบาๆ มองหน้าผมแล้วส่ายหน้าแทนคำตอบ

“อะแฮ่ม พี่เปิดเผยไม่ได้ นี่เป็นความลับของสวรรค์!”

“ไอ้รัญ บอกมานะว่าใครเป็นคนส่งมา!” โอเล่หันมามองผม ตาเป็นประกายวิบวับ ฉีกยิ้มกว้างมีแววหยอกล้ออยู่ในที ผมเงยหน้ามองโอเล่นิดหน่อยแล้วไม่ตอบอะไรใดๆ ก้มมองดอกไม้ในมือนิ่งๆ

“มีโน้ตอะไรติดมาหรือเปล่า?” ซีเนียร์ที่เลิกสนใจการ์ตูน หันมาหาข้อความที่คาดว่าน่าจะติดมากับช่อดอกไม้แต่หาเท่าไรก็ไม่มี ผมไม่แปลกใจที่ไม่มีข้อความใดๆ มากับดอกไม้เลย แค่เห็นก็รู้ว่าใครเป็นคนส่งมาให้ แม้เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ว่าผมรู้ ผมมีความสนใจในดอกไม้มากนะ หลังจากได้รู้จักดอกไม้แปลกๆ ก็ไปเสิร์ชหาดอกไม้ชนิดนั้น และได้รู้จักกับดอกไม้ชนิดนี้อย่างบังเอิญ ดอกไม้ในมือของผมคือ... ไวท์แอสโฟเดลอุส

แอสโฟเดล ดอกไม้ของเฮดีส!

“อะไรกัน น่าอิจฉาเกินไปแล้ว! หล่อ รวย ใจสปอร์ต!” โอเล่ร้องโอดคราญ ตาร้อนผ่าว พวกเพื่อนๆ หันขวับมามองด้วยความสงสัย

“เมื่อกี้ว่าอะไรวะโอเล่?”

“ก็...” โอเล่ทำท่าจะบอก ผมส่งสายตาตื่นๆ ไปให้เพื่อนตัวเล็กที่มองกลับมาหาผมแล้วหัวเราะแกล้งเฉไฉไปเรื่องอื่น

“อยากมีแบบนี้บ้างน่ะสิ”

“กูซื้อให้เอาไหมโอเล่ แต่เป็นดอกไม้จันทน์นะ!”

“ซื้อให้ตัวมึงเองเถอะ ไอ้ห่า!” โอเล่สะบัดหน้าย้อนกลับเสียงแหลมปรี๊ด เสียงหัวเราะขบขำดังขึ้นพร้อมกัน ผมเองก็หัวเราะตามไปอย่างเบาใจ กอดดอกไม้เอาสวมๆ ด้วยท่าทางหวงแหน พอกวาดสายตาไปสบเข้ากับมอตโตก็ต้องชะงัก เจ้านั้นมองมาอย่างไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด ผมหยุดหัวเราะแล้วขมวดคิ้ว

ทำไมมอตโตถึงไม่ชอบพี่เฮดีสขนาดนั้น?

“โห! สุดยอดเลย อย่างกับคนละคนแน่ะ”

“นั้นสิ สวยสุดๆ!”

เกิดเสียงฮือฮาเมื่อนางเอกจำเป็นของสาขาเดินออกมาหลังจากผ่านการผัดหน้าทาแป้งจากพี่โพม นางเอกสาวยิ้มอายด้วยใบหน้าเคอะเขิน คนอื่นๆ เข้ามารุมรอบชื่นชมกันใหญ่ ผมยิ้มแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นนางเอกมีความมั่นใจกว่าทุกครั้ง ปกติจะเห็นเพื่อนคนนี้ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะแสดงได้ แถมเจ้าพวกผู้ชายปากเสียทั้งหมดยังพ่นคำบั่นทอนกำลังใจเพื่อนอีก ผู้กำกับคนเก่งเดินเข้ามายังเปิดปากแซวไม่ทิ้งมาดเพลย์บอยทำให้นางเอกสาวหน้าแดงเขินอายยิ่งกว่าเดิม

“เฮ้ย! เตรียมตัวเสร็จหรือยังวะ? ได้เวลาสาขาแรกเริ่มแสดงแล้วนะ พวกมึงจะไปดูกันไหม?”

“เริ่มแล้วเหรอวะ?”

“กำลังแสดงแล้วว่ะ”

“โอเคๆ ใครยังแต่งตัวไม่เสร็จรีบแต่งต่อ ใครเรียบร้อยแล้วอยากไปดูก็ไป ถ้าสาขาที่แสดงก่อนหน้าสาขาของเราขึ้นแสดงให้มารวมตัวกันที่ด้านหลังเวที เข้าใจไหม?” ซันเซ็ตพยักหน้าแล้วหันมาเอ่ยนัดเสียงดังให้เพื่อนทุกคนได้ยินครบ 

“โอเค!!!” พวกเพื่อนๆ ตอบรับ เฮโลออกไป ท่าทางตื่นเต้นที่จะได้ดูสาขาอื่นๆ แสดง คนที่ยังแต่งตัวไม่เสร็จเหลืออยู่น้อยมากแล้ว ส่วนผมไม่คิดจะย้ายก้นไปดูสาขาอื่น เดี๋ยวจะเป็นการกดดันตัวเองไปซะเปล่าๆ ผมนั่งลงที่เดิม ชื่นชมดอกไม้ในมือไม่สนใจใครอื่น

“รัญ พี่ไปดูพี่โพมก่อนนะ” พี่ยูมองซ้ายขวา คนในห้องเหลือน้อยแทบจะนับคนได้ พี่ยูหันมาเอ่ยกับผมด้วยท่าทางสบายๆ สายตาเหลือบมองดอกไม้ในมือของผมแล้วเดินไปหาแฟนด้วยท่าทางอารมณ์ดี พอพี่ยูเดินออกไป ไอ้ซันเซ็ตก็เดินเข้ามาพร้อมกับชุดขนมที่ซีเนียร์ยัดเหยียดฝากซื้อ มันนั่งลงพร้อมวางถุงในมือ ตามองช่อดอกไม้อย่างแปลกใจ ซันเซ็ตเลิกคิ้ว

“อะไรวะ นอกจากจะมีสาวมาให้กำลังใจ ยังมีคนส่งดอกไม้ให้กำลังใจกับมึงอีกเหรอ ไอ้คุณเทวดาโคตรฮอต”

“ก็ว่างั้นแหละ กูเป็นพระเอกแท้ๆ ยังไม่ได้เลย” เจ้าคนคอยรับลูกประท้วง น้ำเสียงน้อยอกน้อยใจแต่หน้าเฉยได้อีก มือถือขนมปังชิ้นใหญ่ที่ถูกกัดกินไปแล้วครึ่งหนึ่ง ไอ้โอเล่มองสองหนุ่มในแก๊งแล้วเบ้ปากที่เคลือบลิปสติกสีสวย

“อย่าอิจฉาไอ้รัญเลย ถ้ามึงอยากได้เดี๋ยวกูซื้อพวงรีดให้ เอาไหม?”

“เอามาคล้องคอมึงเหรอโอเล่” ไอ้ซันเซ็ตกัดตอบทันทีแทบไม่เว้นวรรค ปากไม่ว่าเปล่ามือโบกหมายจะตบท้ายทอยของคนตัวเล็ก แต่โอเล่รู้ทันเบี่ยงตัวปัดมือที่หมายประทุษร้ายออกพร้อมหัวเราะอย่างเป็นต่อ ซันเซ็ตไม่ยอมแพ้ลุกขึ้นโบกมือเล็กๆ ของโอเล่จนสำเร็จ แถมลงมือแรงจนคนตัวเล็กน้ำตาคลอเบ้า

“แม่ง ไอ้ห่าซัน มึงหงุดหงิดก็เรื่องของมึงสิวะ มาพาลใส่คนอื่นเขาอีก”

“จะทำไม หรือมึงจะไปฟ้องผัว ห๊ะ?”

“รัญญญ ดูไอ้ซันเซ็ตมันแกล้งกูสิ!” โอเล่หันมาฟ้องผมที่นั่งเฝ้าดูพฤติกรรมเด็กน้อยตีกันของเด็กโข่งทั้งสอง ผมถอนหายใจ เอ่ยตักเตือนคนตัวใหญ่กว่า เจ้าคนตัวเล็กก็ยิ้มแฉ่งแถมยังเชิดหน้าเยาะเย้ยจนเกือบจะถูกโบกหัวรอบสอง โชคดีได้ผมเอ่ยห้ามปรามก่อน ซันเซ็ตพ่นลมหายใจแรงๆ แล้วกลับมานั่งแย่งขนมกับซีเนียร์ที่รีบเร่งยัดขนมเอาเป็นเอาตายจนสำลัก ผมตบหลังให้เพื่อนเบาๆ ไม่รู้จะรีบกินไปไหน ตาก็มองการ์ตูนในมือ อีกมือก็จับขนมใส่ปาก

พวกผมนั่งคุยกันเรื่อยเปื่อยไปสักพัก พี่โพมกับพี่ยูก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกัน พี่โพมแต่งหน้าเสร็จครบตามจำนวนก็เดินเข้ามาทักทายน้องๆ พี่โพมพูดคุยอย่างถึงเนื้อถึงตัวกับซันเซ็ตซึ่งขอบอกขอบใจพี่เขาที่มาช่วยแบบไม่คิดค่าเหนื่อยสักแดงเดียว ตาพี่โพมที่มองซันเซ็ตมันวิบวับชอบกล แถมยังแอบเหล่มาทางซีเนียร์อีกต่างหาก ผมเสียววูบแทนเพื่อนเมื่อเห็นสายตาน่ากลัวของพี่ยูที่ยืนอยู่ข้างหลังแฟน

“รัญ พี่จะรอดูแกนะ อัดวีดีโอด้วย!” พี่ยูกระแทกพี่โพมที่คุยออกรสออกชาติกับซันเซ็ตจนเซ พูดกับผมด้วยรอยยิ้มกว้าง กว้างมากจนผมยังกลัว ผมมองกล้องถ่ายวีดีโอสีดำขนาดพกพาแล้วส่ายหน้า

“อย่าถ่ายเลยพี่ยู ผมอาย”

“เอ๋ มีคนฝากมานี่น่า หุๆ” พี่ยูยิ้มเจ้าเล่ห์ แสร้งทำตาโตเหมือนลังเลใจ ผมรีบคว้ากล้อง เอ่ยปฏิเสธเสียงสูง จะบ้าตาย! นี่พี่คนนั้นจะฝากมาถ่ายทำไมกัน!? 

“ห้ามถ่ายนะ!”

ผมโล่งอกนิดหน่อยที่ริบกล้องมาไว้กับตัวเองได้ โธ่เอ๊ย ขนาดเจ้าตัวไม่อยู่ก็ยังทำให้ผมปั่นป่วนได้แบบนี้อีก เฮ้อ หัวใจผมมันเต้นตึกตักตื่นเต้นขนาดนี้ ให้ตายยังไงผมก็ไม่อยากให้เขาได้เห็นผมแสดงละครครั้งนี้หรอก! ถ้าเขาได้ดูผมจะเอาอะไรไปสู้หน้าเขาตอนเจอครั้งต่อไปล่ะ ยังไงก็ไม่อยากให้เขาดู!

“เอาน่าๆ ไม่ถ่ายก็ได้” ในที่สุดพี่ยูก็ยกมือยอมแพ้ให้ ผมถอนหายใจยาว ยังไม่ยอมคืนกล้องให้กับพี่ยู ผมคิดว่าเก็บไว้กับตัวน่าจะดีกว่า

พวกเพื่อนๆ มาตามพวกผมให้ไปสมทบเพื่อนคนอื่นที่รอเตรียมพร้อมหลังเวที พี่ยูกับพี่โพมโบกมือล่ำลาไปจองที่นั่ง ก่อนจะออกไปพี่ยูจ้องกล้องในมือของผมแล้วหัวเราะขำพรืดจนผมสงสัย พี่โพมรีบเข้ามาโอบไหล่พี่ยูลากตัวออกไปก่อนที่ผมจะได้เอ่ยถามอะไรออกไป ผมมองกล้องในมือแล้วสังหรณ์ใจพิกล พวกเรารีบมาเตรียมตัวด้านหลังเวทีและรอจนถึงเวลาของการแสดง

“ได้เวลาแล้ว”

พวกผมพยักหน้ารับเมื่อรุ่นพี่เดินเข้ามาบอก เสียงซันเซ็ตเอ่ยบรรยายดำเนินเรื่องก่อน พวกผมที่เป็นนักแสดงยืนรวบตัวและรวมมือทับกันเอาไว้ พระเอกของเรื่องยิ้มกวาดตามองเพื่อนแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นผิดจากปกติที่เมินเฉย

“พวกเราลุย!”

ผมสูดลมหายใจเข้าปอดดับความตื่นเต้น สายตาเหลือบมองดอกไม้สีขาวที่ประดับไว้บนเสื้อบริเวณอกด้านซ้าย ผมยิ้มนิดๆ เมื่อคิดถึงคนที่ส่งดอกไม้มาให้ผมก็รู้สึกมั่นใจและสงบนิ่ง ไม่หวาดหวั่นต่อแรงกดดัน เมื่อถึงคิวแสดงผมเดินออกไปด้วยความมั่นใจและพยายามแสดงอย่างที่ฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี ปฏิกิริยาของผู้ชมไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดเอาไว้ ผมยิ่งสบายใจมากขึ้น การแสดงดำเนินไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุด

“โฮ! โฮ~! ข้าอยากเป็น ให้ข้าเป็นพระราชาเถอะ ข้าอยากได้มงกุฎ! อยากนั่งบัลลังก์ แง้ๆๆๆ” ผมเบ้ปากชัดดิ้นชักงอบนพื้นเหมือนเด็กน้อยถูกขัดใจ ซึ่งเป็นอะไรที่ปัญญาอ่อนจนตัวผมเองยังอายที่จะแสดงแต่ก็ต้องกัดฟันข่มใจทำต่อไป เสียงหัวเราะคิกคักชอบใจ แถมยังมีเสียงกรี๊ดดังปะปราย

“ไม่ว่าอย่างไร เจ้าก็ต้องตาย!” ซีเนียร์พระเอกของเรื่องเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มตัดภาพลักษณ์ตัวร้ายปัญญาอ่อนกระจุยกระจาย ผมส่ายหน้าไปมา ลุกขึ้นขึ้นมากระทืบเท้าแบบเด็กๆ

“ไม่เอา! ข้าไม่ยอม!”

“ตายซะเถอะ!” ซีเนียร์ชักดาบออกจากฟักแล้วพุ่งเข้ามาตวัดดาบกลางอากาศดังหวือ ผมเซถอยหลังแล้วล้มหงายหลัง เจ็บจริงเลยนะเฟ้ย! เสียงกรี๊ดของคนดูดังพร้อมกับตะโกนด่าพระเอกที่โฉดยิ่งกว่าตัวร้าย ผมยกมือขึ้นแล้วเบ้ปากร้องไห้ลั่น จากตัวร้ายสุดเหี้ยมโหดกลายเป็นตัวร้ายโคตรติงต๊อง

“แง้~!!! ข้าไม่เป็นราชาแล้วก็ได้ แต่อย่าตีข้านะ! ฮือออ!”

คนดูตะโกนด่าพระเอกและเชียร์ตัวร้ายกันสุดฤทธิ์ จนคุณพระเอกถอนหายใจเอ่ยถามอย่างข้องใจ

“ตกลงใครมันพระเอกกันฟะ? เอ้า! ได้อมยิ้มแล้วอย่าร้องนะ โอเคไหม?”

“อื้ม!” ผมรีบคว้าอมยิ้มในมือของซีเนียร์แล้วยิ้มแฉ่งทันที แล้วคุณพระเอกก็หันไปพลอดรักกับนางเอก ตัวประกอบแบบผมก็นั่งกินอมยิ้มอย่างสบายใจ ในที่สุดบทก็ของผมจบแล้ว ดีใจสุดๆ! ผมทำได้! ในขณะที่ผมกำลังผ่อนคลายกับอมยิ้มในมือ ตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่คุ้นตา ผมค้างอยู่กับที่ สมงสมองไปหมดไม่มีเหลือ

เขาคนนั้นมาในชุดไปรเวทสีดำทั้งตัว ไม่ใจถึงบุกมาด้วยเสื้อช็อปแบบพี่ยู เขาใส่แว่นตาเหมือนวันนั้นที่ผมเห็น ใบหน้าหล่อเหลางดงามนิ่ง ทว่าสองคิ้วกลับขมวดเข้าหากันจนย่นเป็นรอยลึก เขายกมือปิดปาก ส่ายหน้าเหมือนรับไม่ได้แล้วสวมหมวกปกปิดหน้า หันหลังเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ผมกรีดร้องเสียงแหลมในใจ แทบอยากจะสลบมันตอนนี้ซะเลย

ไม่จริงงงงง พี่เฮดีสสสส!!!








อ้าว พรุ่งนี้เป็นวันวาเลนไทน์งั้นเหรอ!? ไม่รู้ตัวเลยยยยย
กรี๊ดดดดดด ปั่นไม่ทันแล้วมั้ง ฮืออออ !!!
เอาตอนพิเศษสั้นๆ ไปแทนได้ไหม?

ตอนก่อนได้เสนอดอกแอสโฟเดลไปแล้ว ส่วนตอนนี้เสนอไวท์แอสโฟเดลอุส




Character In This Chapter

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2014 04:33:50 โดย lie-boy »

ออฟไลน์ nuwi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
อยากอ่านอีก
 :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
มีดอกไม้มาให้ด้วย  :impress2:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด