(เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) No.2 อย่าปีนเกลียว เดี๋ยวรักเลย (คู่พี ตาร์) ตอนจบ 26/03/12 P6  (อ่าน 54891 ครั้ง)

Mickey Mouse

  • บุคคลทั่วไป
น่าจะมีต่ออีกน๊าา ฮ่าๆๆ
สุดท้ายนายเป็นต่อก็ตกลง

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
อันนี้เป็นลิ้งค์ตอนพิเศษ หมอลม กับ นัท นะคะ
ใครที่เคย อ่าย หรือไม่เคย อ่าน ก็ลองไปตามอ่านกันดูได้
ไม่หวงคร่า ^^
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=21268.30

ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ติ๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเหมือนเดิมทุกเช้าก่อนที่ผมจะกดเลื่อนเพื่อจะได้นอนต่อ ไม่ต้องมองผมด้วยสายตาแบบนั้นเลย พวกคุณคนอ่านก็ต้องเคยทำแบบผมแน่ ใช่ไหมครับ
“ไอ้นะ เมื่อไหร่แกจะตื่นห๊า ให้ปลุกอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน ไอ้ลูกคนนี้ ตื่นได้แล้ว!!!!” เสียงตะโกนขนาด 180 เดซิเบลดังมาจากหน้าห้องไม่บอกก็รู้ว่าเป็นแม่ผมแน่ๆ เสียงแบบนี้มีเจ๊นี คนเดียวครับ
“อีกห้านาทีได้ไหมม๊า”
“ไม่ได้ ลุกเดี๋ยวนี้นะไอ้ลูกเวร วันนี้เปิดเทอมวันแรกไม่ใช่เหรอห่ะ”
ตายหอง !!! เชี่ยแล้ว ผมลืมได้ยังไงครับ วันนี้มันเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของการเป็นนักศึกษามหาลัยปี2 ของผมนิหว่า
“ตื่นแล้วเจ๊(หมายถึงแม่ผมอ่ะครับ) ” ผมบอกก่อนจะลนลานวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความเร็ว 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
“ไปแล้วนะเจ๊” ผมบอกแม่ทันทีที่ลงมาข้างล่างซึ่งจริงๆมันก็ห่างกันแค่ 10 นาที ก่อนจะคว้า หนูฟ้า เวสป้าคู่บุญของผมออกมา
แหมระหว่างเดินทางแนะนำตัวไปพลางๆก่อนก็ดีเนาะเผื่อใครยังไม่เคยรู้จักผม ผมนายนะ ครับ ชื่อจริง
นาย ณนนท์  แซ่เซ็ง(เป็นนามสกุลที่ใครอ่านต้องอ่านซ้ำแต่ผมว่ามันเท่ดีนะ) เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวน(หัวเดียวด้วย) ของเจ๊นี กะเฮียกวง นั่นแน่ ไม่ต้องคิดจะล้อเลยนะครับ บอกไว้ก่อน โกรธนะโกรธ พูดแล้วจะหาว่าโม้บ้านผมน่ะเป็นร้านข้าวมันไก่ที่ขายดีแล้วก็อร่อยที่สุดในซอยเลยนะขอบอก เพราะทั้งซอยมีร้านผมร้านเดียว ฮ่าๆ  เห็นม่ะว่าไม่ได้โม้
เกือบๆชั่วโมงผมก็ฝ่าการจราจรอันติดขัดมาถึงมหาลัยจนได้ ก่อนจะเดินเข้าอาคารที่คุ้นเคย ผมเป็นนักศึกษาปี2 เอก การตลาดครับ แต่อย่าถามนะว่าทำไมถึงเรียนการตลาดเพราะผมไม่รู้ วันสมัครดันฝนรหัสผิดก็เลยปล่อยเลยตามเลย แหะๆ
“ไอ้นะ ทางนี้เว้ย” 
“มานานแล้วเหรอว่ะ ไอ้เปียก” ผมถามคนที่นั่งอยู่ ก่อนจะได้สายตาอาฆาตตอบกลับมา จริงๆแล้วไอ้นี่มันชื่อ เป้ครับแต่พวกผมเรียกมันว่าไอ้เปียกเพราะวันรับน้องมันดันเดินตกสระน้ำข้างคณะจนเปียกทั้งตัว ผมเลยเรียกมันว่าไอ้เปียกตั้งแต่นั้นมาแต่จริงๆมันหล่อนะครับ ดีกรีรองเดือนคณะเลยทีเดียว แต่เสียอย่างเดียวมันซุ่มซ่ามไปหน่อย
“กูจะเลิกคบกะมึง เพราะมึงชอบเรียกกูแบบนี้แระ”
“โอ๋ๆๆๆ น้องเปียก เฮ้ย น้องเป้ของพี่นะ ดีกันนะๆๆๆ”
“ไปไกลๆเลยควายนะกูขนลุก”  ไอ้เป้ทำท่ารังเกียจซะจนน่าหมั่นไส้
“กูก็เหมือนกันแระ ว่าแต่ไอ้พวกนั้นยังไม่มาอีกเหรอ” ผมถามหาเพื่อนสนิทอีกสองคนที่เหลือ แต่ยังไม่ทันขาดคำ พอร์ชคันงามก็มาจอดหน้าคณะเรียบร้อยพร้อมกับที่ผู้ชายหน้าตาดี คนนึงเดินลงมา ก่อนจะเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆรอบข้างได้เหมือนเดิมเป๊ะ
“หล่อมาอีกแล้วนะสัด ทัพ” ไอ้เปียกเอ้ย ไอ้เป้เหน็บ แต่จริงๆผมว่ามันอิจฉามากกว่าครับ ไอ้คนนี้ชื่อจอมทัพครับ
รูปหล่อ พ่อรวย เจ้าชู้ เรียกว่า หล่อ รวย เลว ครบสูตร  คนนี้แหละครับที่ซิวตำแหน่งเดือนคณะจากไอ้เป้มาได้ ไอ้เป้มันเลยอาฆาตไม่เลิกเพราะมันบอกว่ามันควรจะได้เพราะหล่อกว่า เค้าคงจะเลือกมันหรอกนะ เดือนบ้าอะไรสะดุดขาไมค์หัวทิ่ม
“อิจฉากูอ่ะดิ มึงอ่ะ” ไอ้ทัพเริ่มแล้วไง ไอ้คู่นี้มันเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดครับ ทะเลาะกันได้ทุกเรื่อง ทะเลาะกันได้ทุกวันบางวันนี่แทบจะต่อยกันเลยก็มี แต่ผมชินแล้วล่ะครับ เพราะถึงมันจะทะเลาะกันแต่จริงๆไอ้สองคนนี้มันเพื่อนตายกันเลยนะ มีอยู่ครั้งนึงไอ้เป้ โดนรุมกระทืบเพราะดันไปจีบเด็กมีเจ้าของเข้าไอ้ทัพเข้าไปช่วยโดยไม่ลังเลสักนิด สรุปคือ นอนหยอดน้ำข้าวต้มกันไปตามระเบียบ 20 ต่อ2 นะครับ ดีเท่าไหร่แล้วที่พวกมันรอดมาได้ ทฤษฏี หล่อกินไม่ได้มันอมตะจริงๆ เหอๆ
“ใครอิจฉามึงว่ะ ระดับท่านเป้ ไม่เคยอิจฉาใครเว้ย”
“ให้มันจริงเถอะเชี่ยเป้”
“ไอ้ทัพ มึงกวนกูเหรอ”
“เออ จะทำไมว่ะ”
“พวกมึงพอเถอะกูรำคาญ” ผมบอกก่อนจะมองตาขวางผมบอกรึยังครับว่าไอ้พวกนี้มันกลัวผม แต่จะเพราะอะไรเดี๋ยวว่างๆเล่าให้ฟังนะครับ
“ว่าแต่เชี่ยต้าร์ไปไหนว่ะ” ไอ้ทัพหันมาถามผม ก่อนจะหยิบโค้กไอ้เป้มาดูดเอาๆ
“เชี่ยทัพ!! โค้กกู มึงคายออกมาเลยนะสัด”
“เรื่องเด่ะ”
“ย๊ากกกกกกก คายออกมานะเว้ย”
ปล่อยมันสองคนไปเถอะครับยิ่งอายุเยอะ สมองก็ยิ่งพัฒนาน้อยทำอะไรไร้สาระขึ้นทุกวัน
“เฮ้ย ตาร์ทางนี้” ผมเรียกผู้ชายท่าทางเรียบร้อยคนนึง แต่อย่าโดนลักษณะภายนอกมันหลอกเอานะครับไอ้นี่ร้ายลึก เจ้าเล่ห์เป็นที่1 เห็นดูนิ่งๆ แถมเรียนเก่งแบบนี้ แต่สัน …มันก็ไม่ได้ต่างจากไอ้ทัพสักนิด
“ทำไมวันนี้มึงมาเช้าได้ว่ะไอ้นะ” อ้าว ไอ้นี่ วอนโดนเตะแต่เช้า
“มึงว้อนเหรอ มากวนแต่เช้าเนี่ย”
“เปล่าคร้าบ ใครจะกล้าแหยมกับคุณณนนท์ล่ะครับ..แล้วไอ้สองผัวเมียนั่นไปไหนล่ะ” 
“ตีกันไปโน่นแล้ว” ผมบอกก่อนจะชี้ให้คนมาใหม่ดู ขำกลิ้ง ลิงกับหมาที่ตอนนี้มันวิ่งไล่เตะกันได้รอบตึกแล้วมั้ง
“กูว่าถ้าไอ้สองคนนี้ได้กัน ลูกต้องหัวปีท้ายปีแน่ๆ”
“เชี่ยตาร์ นี่มึงจะให้พวกมันได้กันให้ได้ใช่ไหมเนี่ย”
“อ้าว ไอ้นี่น่าสนุกจะตายคิดดูนะเว้ย ถ้าไอ้สองคนนี้ได้กันจริงๆคงสนุกพิลึก ฮ่าๆๆ”
“พอเลยๆ ไร้สาระแล้วมึงอ่ะ ไปเรียนเหอะ”  ผมบอก  ขนลุกพิลึก ผมคิดไม่ออกเลยจริงๆนะครับว่าไอ้ทัพกับไอ้เป้ มันจะลงเอยกันได้ยังไง


“โว้ย!! หิวๆๆๆ” เสียงโวยวายจากไอ้เป้ดังขึ้นแทบจะทันทีที่อาจารย์เดินออกจากห้อง ดีนะที่วันนี้พวกผมมีเรียนแค่คาบเช้า ไม่งั้นคงต้องฟังไอ้เป้ บ่นจนหูชาแน่(ตอนนั้นน้องจ๊ะยังไม่ดัง ไม่มีใครมาเกาหูให้ซะด้วย)
“เชี่ยเป้ จะโวยวายทำไมเนี่ย หนวกหู”
“ทำไมมึงต้องหาเรื่อง กูตลอดห่ะเชี่ยทัพ”
“แล้วจะทำไม”  ไอ้ทัพยังตั้งหน้าตั้งตากวนไอ้เป้ไม่เลิก สงสัยพวกมันสองคนจะโรคจิตจริงๆอ่ะครับ กวนกันไปกวนกันมาได้ทั้งวี่ทั้งวัน
“พอเหอะๆ ป่ะไปกินข้าวได้แล้วพวกมึงอ่ะ” 
“คร้าบบบบบบบบบพี่นะ” ตอบซะพร้อมเพียงเชียวนะเว้ย ทีอย่างงี้ทำสามัคคี
“อ้าวต้าร์ ไม่ไปกินข้าวเหรอ”
“คือ กูต้องไปรับน้องว่ะ”
“น้อง???? มึงมีน้องด้วยเหรอว่ะ” ไอ้ทัพสอดทันที
“เชี่ยทัพ ก็ต้องมีสิ ใครจะเป็นลูกคนเดียวกระเทียมลีบเหมือนมึงล่ะ” ไอ้เป้ขัด ว่าแต่ไอ้ คนเดียวกระเทียมลีบ มันคืออะไรครับ ภาษาไทยมีแบบนี้ด้วยเหรอ
“ว่าแต่ผู้หญิงหรือผู้ชายว่ะ ถ้าเป็นผู้หญิงกูไปรับให้ก็ได้นะเว้ย” ไอ้ทัพเสนอตัว
“ พวกมึงสองผัวเมียหุบปากไปเลยนะ น้องกู กูไปรับเองได้ แล้วที่สำคัญน้องกูเป็นผู้ชายเว้ย”
“แล้วมึงจะรับน้องมาทำไมว่ะ”
“ก็น้องกูมันเกิดอยากเข้ามาเรียน สาธิตไง ไม่รู้ว่าอะไรนักหนา ”
“เอาน่า ตาร์น้องทั้งคนไปรับหน่อยสิว่ะ” ผมบอกกะอีแค่รับน้อง มันจะยากอะไรนักหนา
“แต่กูมีนัดกินข้าวกับน้องพายไก่ ดาวสาสุข นะเว้ย” นั่นไง ว่าแล้วเรื่องที่ไอ้นี่จะเครียดมีแค่เรื่องหญิงอย่างเดียวเท่านั้น
“คนนี้กูรักจริงนะเว้ย ต้องดูแลอย่างดี”
“ตอแหล!!!” พวกผมสามคนกระโกนใส่หน้าไอ้คนพูดทันที สัน..อย่างไอ้ตาร์เนี่ยนะจะรักใครจริง คนนี้ผมให้3วัน เชื่อไหมครับ
“นะ” นั่นไง มาแล้วไง สายตาแบบนี้ท่าทางแบบนี้ งานเข้าอีกแน่ๆ
“อะ….อะไร”
“นะเพื่อนรัก ไปรับไอ้เบสแทนกูหน่อยสิ”
“เรื่องอะไร มึงก็ใช้ไอ้สองตัวนั่นสิ”
“พวกกูไม่ว่าง!!!” ประสานเสียงพร้อมเพรียงกันไปไหมครับเพื่อน สรุปคือ งานเข้าใช่ไหมเนี่ย
“สรุปกูต้องไปว่างั้น”
“ใช่แล้วเพื่อนรัก ไปรับสนามบินนะ” ไฮโซ อีก อ้อ ลืมไปว่าไอ้ตาร์ มันลูกเจ้าไร่ส้ม ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดแถบภาคเหนือ
“พวกกูไปนะ”  ไอ้ตาร์บอก ก่อนที่พวกมันสามคนจะแยกย้ายไปขึ้นรถตัวเอง
“เฮ้ย ไอ้ตาร์ กูไม่รู้จักน้องมึงเลยนะ” ผมตะโกนถามเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองไม่เคยเจอไอ้น้องเบสอะไรนั่นเลยสักครั้ง
“ไม่ต้องห่วง กูจัดการเอง มึงไปรับมันก็พอ ก็ไปล่ะ”


.............................................................................................
เรื่องใหม่ หวังว่าจะชอบกันนะคะ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22

ออฟไลน์ nutsumi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-0

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
เข้ามาดัน
อยากอ่านต่อ
เมื่อไหร่จะมา

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
เป็นต่อช่างน่ารักเสียจริง โดนฟิวส์ทั้งกอดทั้งหอมตลอด

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ตอน 2


ผมนั่งแท็กซี่เพื่อไปรับน้องไอ้ตาร์ ตามบัญชาของคุณเพื่อนรักทันทีที่มันโทรมาบอกว่า น้องมันรอที่สนามบินแล้ว
แล้วผมจะหาไอ้เด็กนี่เจอได้ยังไงครับเนี่ย ผมได้แต่ยืนเคว้งกลางสนามบินโดยที่ไม่รู้จุดหมายรูปสักใบก็ไม่มี แล้วจะเจอกันได้ยังไง
“พี่ๆๆ” เสียงเรียกเบาๆพร้อมกับมือใครก็ไม่รู้สะกิดหลังผม
“หือ มีอะไรครับน้อง” ผมหันไปพูดกับไอ้เด็กหัวเกรียนคนนึง  ที่บอกได้คำเดียวว่ามันหล่อ!!
“อ้าวพี่ พี่จะมารับผมไม่ใช่เหรอ”  ผมมองหน้าไอ้เด็กเกรียนอย่างละเอียดและฟันธงได้ว่า ไม่ได้มีเค้าความเหมือนไอ้ตาร์เลยสักนิด ลูกเก็บมาเลี้ยงรึเปล่าหว่า คือไอ้ตาร์มันจะดูหล่อเนี๊ยบ เป็นคุณชายทุกกระเบียดนิ้ว แต่ไอ้เด็กนี่หน้าตาดูกวนทีนมากถึงมากที่สุด จะดูหล่อเลวแบบไอ้ทัพมากกว่า
“จะมองอีกนานไหมพี่ ผมเหนื่อยนะเนี่ย” อ้าวไอ้เด็กเวรนี่ มาถึงก็กวนเลยนะ เดี๋ยวโบกเกรียนเลยนิ
“เออ ไปกลับก็กลับ”
“เออ พี่ว่าแต่พี่ชื่อไรอ่ะ ผมจะได้เรียกถูก”
“นะ” ผมตอบเสียงห้วน คือ บอกก่อนนะว่าผมไม่ค่อยจะชอบเด็กไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ขอแค่เด็กกว่าผมจะไม่ชอบขึ้นมาซะเฉยๆ
“ผมเบส ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่นะ”
“อืม” ผมตอบรับแกนๆ
“เออพี่นะ เมื่อกี้กีตาร์ โทรมาบอกว่าให้ไปอยู่บ้านพี่ก่อน เพราะตอนนี้ที่คอนโด มีแขก”  กีตาร์ ที่ไอ้เด็กนี่พูดถึงหมายถึงเชี่ยตาร์เพื่อนผมเนี่ยแหละ แต่มันบอกว่า ชื่อ กีตาร์อนุญาตให้เฉพาะแม่ของลูกกับคนในครอบครัวเท่านั้นที่เรียกได้ ส่วนคนอื่นเรียกตาร์เฉยๆก็พอ
“ห่ะ ว่าไงนะ!!!” ผมตะโกนดังลั่นจน คนแถวนั้นมองตาม เหอๆไอ้เพื่อนสันขวานพาน้องพายไก่ไปเกาหู ล่ะสิ แล้วทำไมภาระต้องตกเป็นของผมด้วยเนี่ย
“ไม่หาหรอก เอาเป็นว่าคืนนี้ผมนอนบ้านพี่แล้วกันโอเคนะ” พูดเสร็จก็เดิ่นลิ่วนำผมไปซะงั้น
“เฮ้ย พี่เร็วดิ ผมเหนื่อยนะเนี่ย” 
ผมได้เดินตามไอ้เด็กเอาแต่ใจไปเงียบๆ นี่ไงผมถึงไม่ชอบเด็ก เอาใจยากงอแง เว้ย ชีวิต
ผมพาไอ้เด็กเกรียนกลับบ้านผมด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่แต่เพราะผมเป็นคนดีไงครับ รับปากเพื่อนแล้วก็ต้องช่วย แต่ผมชักจะเริ่มทนความเกรียนมันไม่ได้แล้วนะครับ อยากตบเด็ก!!!
“เฮ้ยทำไมชอบทำหน้ายุ่งจังว่ะพี่” คนที่พูดไม่หยุดตั้งแต่สนามบินมาถึงบ้านถามขึ้นหลังจากที่ผมพาเข้าบ้านมา ถ้าจะบอกว่า รำคาญแก จะเป็นการกระทบกระเทือนจิตใจเด็กเกินไปไหมครับ
“เปล่า แล้วนี่เรากินอะไรมารึยัง เดี๋ยวพี่ทำอะไรให้กิน” ผมถามเพื่อตัดรำคาญ
“ยัง ว่าแต่หน้าอย่างพี่เนี่ยนะทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ” อ้าวไอ้เด็กนี่  อดทนไว้ไอ้นะ อดทนไว้ น้องเพื่อนๆๆ ผมสูดหายใจเพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะได้ตบเกรียนเด็กจริงๆ
“เหอะๆ ล้อเล่นน่าพี่ แค่นี้ก็โกรธขี้น้อยใจนะเราน่ะ”
จะนิยามไอ้เด็กนี่ไงดีครับ ปืนเกลียว ลามปาม สามหาว หรือเกรียน!!!   ผมได้แต่เดินหน้ายุ่งเข้าครัวไปทำกับข้าว หรือจะเอายาเบื่อหนูผสมในข้าวให้ไอ้เด็กเกรียนนี่กินเลยดีไหม ฮ่าๆๆๆๆๆ   ได้แค่คิดแหละครับถึงผมจะไม่ค่อยชอบเด็กแต่ไอ้เบสเนี่ยน้องไอ้ตาร์มันทำงั้นไม่ได้  ผมเปิดตู้เย็นไม่เจออะไรเลยนอกจาก ไข่สองฝองกับโพสอิทที่แปะไว้ที่ไข่
ลูกรัก ป๊ากะม๊า ต้องไปเยี่ยมอาม่าที่เมืองจีน
 สองอาทิตย์นะฝากดูบ้านด้วย
ประจำครับสองคนนี้ ชอบไปไหนมาไหนไม่บอกล่วงหน้า นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ผมต้องทำกับข้าวเป็นเพราะถ้าหวังพึ่งเจ๊นี แกอย่างเดียวได้อดแน่     ไอ้จะให้ไปกินข้างนอกผมก็ไม่ชอบอีก


“อ่ะมีแค่นี้ กินได้ใช่ไหม” ผมวางจานข้าวเปล่ากับไข่เจียวลงบนโต๊ะ
“กินได้อยู่แล้ว  ว่าแต่ไข่พี่เนี่ยกินได้แน่นะ”       
“กินได้สิว่ะ ”    ผมตอบเสียงห้วน  เริ่มจะคันฝ่าเท้ายิกๆ
“เฮ้ย ใจง่ายนะพี่ เพิ่งรู้จักกันจะให้กิน “ไข่” ซะแล้ว” ไอ้เด็กเกรียนพูดพร้อมกับมองผมด้วยแววตาเจ้าเล่ห์  เอ่อ แล้วทำไมผมต้องขนลุกกับสายตาของไอ้เด็กนี่ด้วยเนี่ย
“รีบๆกิน จะได้รีบๆนอนพรุ่งนี้จะพาไปส่งคอนโดเชี่ยตาร์แต่เช้า”
ไอ้เด็กเกรียนพยักหน้าหงึกๆก่อนจะก้มหน้าก้มตากินอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ให้ผมนอนห้องพี่นะ”  ไอ้เบสบอกหลังจากอาบน้ำเสร็จ
“เดี๋ยวแกนอนห้องพี่ ส่วนพี่จะไปนอนห้องแม่แล้วกัน”
“ทำไมต้องทำอะไรยุ่งยากด้วยเนี่ยพี่นะ นอนด้วยกันเนี่ยแระ” ตกลงใครเป็นเจ้าของบ้านกันแน่ครับเนี่ย ตูจะนอนที่ไหนมันก็เรื่องของตูสิว่ะไอ้เกรียน
“เออน่า เอาตามนี้แหละ ” ผมบอกก่อนจะแยกย้ายไปนอน ไม่ไหวแล้วครับวันนี้เหนื่อยเกินไปแล้ว
อ้าว เชี่ย ห้องแม่ล็อคครับ เจ๊นี เป็นไรเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่เคยล็อคห้องแล้วเกิดจะมาล็อคอะไรวันนี้ครับ
“อ้าวกลับมาทำไมอ่ะพี่” คนที่นอนบนเตียงถาม
“ห้องแม่ล็อค เซ็ง ถอยดิจะนอน” ผมบอกก่อนล้มตัวลงนอนบ้าง วันนี้เหนื่อยโคตร ไหนจะเรียนไหนจะทะเลาะกะไอ้คนที่นอนข้างๆ อีก
“พี่นะ บ้านพี่มีผีไหมอ่ะ”  อ้าวไอ้เด็กเวร ถามอารายตอนเน้  ผมด่าในใจก่อนจะมองผ่านความมืดมิดของรัตติกาลค้างคาวตัวหนึ่งบินผ่านหน้าต่างเสียงหอนโหยหวนดังระงมไปทั่วซอย เงาร่างสูงใหญ่ค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกที ทุกที ทุกที แอร้ยยยยยยยย พอๆนอกเรื่องไปไกลแล้ว แหะๆไอ้บรรยากาศทั้งหมด มันแค่จิตนาการนะครับ
“จะมีไดไงเล่า อยู่มาตั้งนานแล้วยังไม่เคยเจออะไรเลย”
“แน่ใจเหรอพี่”
“แน่สิว่ะ อย่าถามมากน่า นอนได้แล้ว” ไอ้เด็กนี่ เข้าใจยากจริง คนยิ่งกลัวๆอยู่ ทำไมชอบพูดให้คิดเนี่ย
หมับ!! O_o
แรงรัดที่ไม่เบาหนักของอวัยวะที่เรียกว่าแขนรัดที่ตัวผมแน่น จนหายใจแทบไม่ออก
“เฮ้ย ไอ้เด็กเวร กอดทำไมว่ะ”
“ก็ผมกลัวผีไง” ตอบได้น่าเตะมาก แกไม่ใช่เด็ก 3 ขวบนะเว้ย
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกอดว่ะ”
“ก็กอดกันไว้ เผื่อผีมาพี่จะได้ไม่ทิ้งผมไว้คนเดียวไง” แถได้น่าถีบจริงๆ
“จะกอดทำไม เอางี้พี่สัญญาจะไม่หนี”
“ไม่อ่ะ เอาน่าพี่ นอนๆไปเหอะ กลัวอะไรก็แค่กอด แมนป่ะเราเนี่ย อะโด่  นอนๆๆๆ” 
“เออ” ผมกระแทกเสียง ก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับ อยากจะทำอะไรก็เชิญเถอะ ผู้ชายด้วยกันคงไม่เป็นอะไรหรอกจริงไหมครับ

................................................
ขอโทษที่หายไปนานแสนนานนะคะ พิตติดสอบอ่ะ แหะๆ มารับผิดแล้วคร้าบ

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ไม่ได้อ่านเรื่องนี้มานานจยเรื่องฟิวส์จบแล้ว

แต่ดีใจที่ความรักลงเอยกีนได้

ส่วนเรื่องใหม่นึกว่านะจะกินเด็กแต่ดูท่าจะถูกเด็กกินซะแล้วมั้ง

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ตอน3

“ตื่นได้แล้วครับ”เสียงทุ้มกระซิบเบาๆที่ข้างหู พร้อมกับสัมผัสอบอุ่นที่หน้าผากมันช่างอ่อนโยนจนผมจนผมเผลออมยิ้ม ใครกันนะ ที่อบอุ่นขนาดนี้หรือผมจะฝันไปถ้าเป็นฝันผมก็อยากจะฝันอย่างนี้ไปนานๆจังเลยครับ
“ตื่นได้แล้วๆๆๆๆ ” เสียงตะโกนดังลั่นจนผมสะดุ้งตื่น ก่อนที่ไอ้ตัวการจะยืนหัวเราะร่าที่ข้างเตียง เด็กเวร กวนแต่เช้าเลยเว้ย
“โอ้ย รำคาญ จะไปไหนก็ไปเลยไป๊” ผมตะโกนตอบก่อนจะมองเบสอย่างกินเลือดกินเนื้อ แก๊ แกทำให้ฉันตื่นจากฝันอันแสนหวาน ฉันจะกระทืบแก อ๊ากกกกกก
“ไรว่ะ คนอุส่าปลุกยังจะมาทำหน้าไม่พอใจอีก ทำคุณบูชาโทษชัดๆ” แน่ะ มีเหน็บด้วย เดี๋ยวจะโดนเหนี่ยว
“แล้วปลุกทำไมเนี่ย”
“หิว”  คำเดียวสั้น ง่าย ได้ใจความ เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณน้องอายุ 3 ขวบเหรอ จะบ้าตาย หิวแล้วต้องมาปลุกเนี่ย
“หิว ก็ไปหาอะไรกินสิ คนจะหลับจะนอน ไป ชิ่วๆ” ผมไล่ก่อนจะล้มตัวลงบนที่นอนแสนสุข อ๊า สบาย
“ตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงหนายยยยยยยยยย”
เว้ย ใครก็ด๊ายยยยยยยย ช่วยลากไอ้เด็กนี่ไปไกลๆหน่อยได้ม๊ายยยยยยยยยย T^T
“เออ ตื่นแล้วๆ” ผมจำใจต้องตื่นเพราะถ้าขืนปล่อยให้ไอ้เบสแหกปากอยู่แบบนี้ข้างบ้านเอาครกมาทุ่มใส่แน่ๆครับ
“ก็แค่เนี๊ย ป้านีบอกว่าพี่นะปลุกยาก ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย”
“ป้านี???”
“เอ๋า นี่พี่อย่าบอกนะว่า จำชื่อแม่ตัวเองไม่ได้”  เฮ้ย นี่ไปคุยกันตอนไหนเนี่ย 
“ก็ป้านีโทรมาเมื่อเช้าแต่พี่ไม่ยอมตื่นมารับสักที ผมก็เลยรับแทนไง”  ยังยิ้มรับซะหน้าชื่นตาบาน ไอ้ที่แกทำเขาเรียก เสียมารยาทเว้ย
“รีบลุกดิพี่ ผมหิวจนจะกินช่างได้ทั้งตัวอยู่แล้วนะ”
“เออๆ ” 
หลังจากที่กินข้าวเสร็จผมก็พาไอ้เด็กเกรียนมาช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านซะหน่อย เพราะของสดหมดตู้เย็นแล้ว แต่อย่าคิดนะว่าพวกผมจะเดินห้าง แนวๆอย่างผมต้อง ตลาดสดเท่านั้นครับ ฮ่าๆ เหตุผลเหรอ มันถูกไง แหม ไอ้ของในห้างน่ะมันผ่านมากี่วันแล้วก็ไม่รู้สู้ของในตลาดไม่ได้หรอกครับ สดจริง ถูกจริง แต่ดูท่าคุณชายที่เดินหล่ออยู่ข้างหลังจะไม่เคยเดินตลาดนะครับ
“เอ่อ พี่นะ ทำไมพี่ไม่ไปซื้อที่ห้างอ่ะ”
“เปลือง ซื้อที่นี่แหล่ะ ถูกกว่า สดกว่า ไม่รู้ไง”
“แหมพี่นี่ ก็มีความเป็นแม่บ้านศรีเรือนกับเขาเหมือนกันนะเนี่ย” แม่บ้านศรีเรือน????  มันคืออะไรครับเนี่ย
“อย่าพูดมากน่าตามมาก็พอ” ผมเอ็ด จริงๆคือรำคาญน่ะครับ
“อ้าว นะ มาซื้อของเหรอ” เจ๊ กิม แม่ค้าขายผักร่างท้วมเอ่ยทักผม 
“มาซื้อเครื่องซักผ้ามั้งเจ๊”
“อ้าวไอ้นี่วอน กวนเหรอห่ะเดี๋ยวมีตบโชว์” แกด่าแต่ไม่ได้จริงจังอะไรเพราะผมกับเจ๊กิมคุ้นเคยกันดีเวลาผมมาซื้อผักทีไรก็จะมาซื้อกับแกเป็นประจำอยู่แล้ว เลยเล่นได้
“โห่เจ๊ รักดอกจึงหยอกเล่น”
“ย่ะ เอาเถอะพ่อคู้นนน แต่อย่ารักเจ๊มากนะ ไปรักคนอื่นบ้างก็ได้” แกว่าแถมค้อนผมซะชุดใหญ่
“เอ๊ะ ว่าแต่พ่อหนุ่มสุดหล่อ ข้างหลังน่ะใครเอ่ย”
เอ๋า ซื้อของเพลินจนเกือบลืมไปเลยว่าพาเด็กเกรียนนี่มาด้วย
“อ้อ นะ น้อ”
“แฟนครับ” อึ้งและช็อคไปตามๆกันทันที่ไอ้เด็กเกรียนพูดแทรกขึ้นมา
“มะ ไม่ใช่นะเจ๊” ผมรีบบอก อยากจะบ้าตาย แถวนี้ใครๆก็รู้ว่าเจ๊กิม น่ะมีฉายาว่า “กิมรู้โลกรู้” เชื่อสิไม่เกินครึ่งชั่วโมงรู้ทั้งซอยแน่ แล้วผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเนี่ย
“แหม ไม่เห็นต้องอายเลยมีแฟนหล่อขนาดนี้เป็นเจ๊หน่อยไม่ได้ เจ๊จะประกาศลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งสามวันเลย”
เสียงซุบซิบที่ไม่เบานักของแม่ค้าในตลาดทำให้ผมอายจนแทบแทรกแผ่นปูนหนี ไม่ซงไม่ซื้อมันแล้วครับ ผมรีบเดินออกจากตลาดโดยไม่รออีกคนที่ไปด้วย อยากหาเรื่องเองก็ให้มันหาทางกลับเองเถอะครับ
ผมจอดหนูฟ้า ไว้ที่หน้าบ้านก่อนจะเข้าห้องทันที ผมยอมรับตรงนี้เลยนะครับว่าผมโกรธ แล้วก็โมโหมาก เพราะผมไม่ชอบให้ใครมารู้เรื่องส่วนตัวผมไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม ผมเกลียดการตกเป็นขี้ปากชาวบ้านที่สุดแต่ไอ้เด็กเวรนั้นก็ทำให้ผมต้องกลายเป็นหัวข้อสนทนาของคนทั้งซอยจนได้
ก๊อกๆๆ
“พี่นะ เปิดประตูหน่อย” เสียงของไอ้คนปากไม่มีหูรูดเรียก ตะโกนให้ตายก็ไม่เปิดเว้ย
“เปิดโหน่ยยยยยยยยยย” เสียงโหยหวนยังคงร้องต่อไป เชอะ จ้างให้ก็ไม่เปิด
“เฮ้ยพี่ จะเปิดไม่เปิดว่ะ” อ้าว มีขึ้น ว่ะ ไอ้เด็กเกรียนนิ เดี๋ยวบั๊ดตบเกรียนแตก
คนที่อยู่ข้างนอกยังพยายามเคาะประตู แถมตะโกนซะดังลั่น จนผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แหะๆ ตื่นขึ้นมาก็เย็นแล้ว
แต่เอ๊ะ เสียงเงียบไปแล้วนิหว่า สงสัยกลับคอนโดไอ้ตาร์ไปแล้วมั้ง หุหุ ดีเหมือนกัน  ผมผิวปากอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินลงมาหาอะไรกินข้างล่าง แต่ก็ต้องชะงักเพราะสิ่งมีชีวิตตัวเท่าคนที่หลับอยู่บนโซฟา จะเป็นใครซะล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้เด็กเกรียนน่ะครับ  ผมยืนมองคนหลับอยู่พักใหญ่ไม่น่าเชื่อว่าไอ้เด็กปากเสียนี่มันจะหลับได้น่ารักขนาดนี้นะครับ
“ถ้าแกหลับแบบนี้ตลอดไปก็น่าจะดีนะไอ้หนู”
“พี่พูดจริงเหรอ” คนที่ผมคิดว่าหลับกลับพูดตอบกลับ แถมยังไม่มีท่าทางง่วงสักนิด สรุปคือ ผมโดนเด็กหลอกใช่ไหมเนี่ย
“นี่แกล้งหลับเหรอ”
“เปล่าซะหน่อย ผมน่ะหลับจริงแต่ตื่นตั้งแต่ที่พี่เดินลงมาแล้ว ใครจะไปขี้เซาเหมือนพี่ล่ะ ”
ไอ้เด็กเกรียน ยังไงก็เกรียนวันยังค่ำ ผมขอถอนคำพูดที่ว่ามันน่ารัก ทันไหมครับ
“ที่ยอมลงมาแปลว่าหายโกรธผมแล้วอ่ะดิ”
“ยัง”  ไอ้เด็กเกรียนหน้าสลดไปนิดหน่อย ย้ำว่านิดหน่อยจริงๆ ก่อนที่จะกลับมายิ้มระรื่นเหมือนเดิม
“ไม่เป็นไร งอนไปเถอะ เดี๋ยวผมง้อพี่เอง”
สายตาจริงจังไม่มีแววล้อเล่นของไอ้เด็กเกรียนทำให้ ใจผมมันสั่นแปลกๆ จนไม่กล้าสบตาตรงๆ ทำไมกัน ผมเป็นอะไรไปเนี่ย ไม่เข้าใจตัวเองเลย
“พี่นะ ๆๆๆ!!!!!”
“อะ อะไรเล่า ตะโกนทำไมเนี่ย”
“ก็พี่เหม่อทำไมเล่า หรือว่าอึ้งในความหล่อของผม”
ผมได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอาเต็มที นอกจากจะเกรียนแล้วยังหลงตัวเองเป็นที่หนึ่ง อีกเนาะคนเรา
“แล้วนี่เชี่ยตาร์จะมารับกี่โมง”
“ไม่รู้ กีตาร์ไม่ได้บอก”  ตอบมึนได้อีก อยากจะตบกะบาลจริงๆ
“นี่เบส ไปโรงเรียนน่ะ อย่าทำหน้าแบบนี้รู้เปล่า”
“ทำไมอ่ะพี่”
“ก็เดี๋ยวจะโดน ทีน นะสิว่ะ”
“อุ้ยตาย น้องเบส กลัวจังเลยอ่ะพี่นะ”
ไอ้เด็กเกรียนทำท่ากลัวได้ตุ๊ดมาก จนผมต้องกลั้นขำแทบตาย ฮ่าๆ ไม่น่าเชื่อว่าไอ้เด็กนี่มันจะมีมุมฮากะเค้าด้วยนะครับ
“พอๆ โทรไปหาไอ้ตาร์นิ ว่ามันจะมารับกี่โมง ให้ไวด้วย”
“เอ้าทำไมพี่ไม่โทรเองอ่ะ”
“เปลือง” ผมตอบเล่นเอาไอ้เด็กตรงหน้า ขำก๊ากทันที อ้าวผมรู้คุณค่าของเงินเนี่ยตลกมากเหรอครับ ธุระก็ไม่ใช่แล้วทำไมผมต้องโทรเองด้วย นาทีละตั้ง 75 สตางค์ เก็บไว้โทรจีบสาวดีกว่าครับ
“พี่นะ กีตาร์จะมารับผมเย็นๆนะ” เบสเดินมาบอกผมหลังจากที่โทรคุยกะไอ้ตาร์
“อืม” ผมตอบก่อนจะเดินเข้าไปหาอะไรกินในครัว
“พี่นะ หน้างออีกแล้วยังไม่หายโกรธผมอีกเหรอ” ไอ้ตัวกวนยังตามไม่เลิก
อันที่จริงผมก็ยอมรับนะครับว่ายังโกรธๆไอ้เด็กนี่อยู่ ผมยอมรับนะครับว่าผมเป็นเกย์และไม่ได้ปิดบังใครเพราะคนใกล้ตัวผมรู้ทั้งนั้น แต่มันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปประกาศให้คนรู้ทั้งซอยนิครับ ผมแค่ไม่ชอบการนินทาและไม่อยากเป็นขี้ปากชาวบ้านเท่าไหร่
“เกะกะน่า”
“พี่ก็หายโกรธผมก่อนดิ ผมขอโทษ นะ พี่นะ”
ไอ้เด็กเกรียนง้อ ผมนี่ต้องกลั้นขำแทบตายไม่น่าเชื่อว่าไอ้เด็กที่ดูท่าทาง หยิ่งๆกวนๆแบบนี้เวลาอ้อนมันก็ดูแปลกๆดีนะครับ
“ไปไกลๆเลยไป” แกล้งเด็กซะหน่อยอยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้เด็กนี่จะทำยังไงต่อ
“พี่นะ หายโกรธเถอะน๊า”  ผมยังทำเฉย แกล้งเมินไอ้คนที่พันแข้งพันขาผมอยู่
“เฮ้อ ทำไมง้อยากขนาดนี้เนี่ย” คนง้อบ่น ก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองไปทันที อ้าว เฮ้ย เลิกแล้วเหรอว่ะ ผมได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองในใจ
“เชอะ ไอ้คนไม่มีความอดทน” ผมบ่น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกน้อยใจด้วยที่ไอ้เด็กเกรียนไม่ง้อ 

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
เล่นตัวไปหน่อยน้องเบสเลยไม่ง้อนะเลย

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
งอนต่อไปเถอะ เบสมันไม่ล้มเลิกแน่นอน ดูท่าทางจะรักนะนะเนี่ย

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ตอนพิเศษ ทัพ เป้  เพื่อนรัก
9 โมง ผมขับรถเข้าไปในมหาลัย ด้วยใจคิดถึง ใครบางคน แหว่ะ ทำไมผมต้องเลี่ยนขนาดนี้ด้วยว่ะ มันช่างผิดคอนเซ็ป หล่อ รวย เลว ของผมซะเหลือเกิน  แต่ อันนั้นมันเมื่อก่อนครับ ตอนนี้ คำนิยามของนายจอมทัพคือ หล่อ (อันนี้ห้ามเปลี่ยน) รวย ดี ตะหาก ฮ่าๆ ก็ตอนนี้ผมมีแฟนแล้วนะครับ ถึงเขาคนนั้นจะยังไม่ยอมให้ผมบอกใครๆก็ตามว่าเรารักกัน แต่ผมคิดถึงมันชะมัดเลยครับไม่รู้ป่านนี้นั่ง เอ๋อ อยู่ที่ไหน
“กรี๊ดดดดดด” เสียงกรี๊ดจากสาวๆ ดังขึ้นทันทีที่ผมลงจากรถ แหมถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงต้องหว่านเสน่ห์ ไปสักหน่อยแต่ตอนนี้ คนที่ผมคิดถึงนั่งจ้องอยู่ขนาดนั้น คงไม่กล้าหรอกครับ
“หล่อมาอีกแล้วนะสัด ทัพ”  นั่นไงมาแล้วเสียงทักแห่งความคิดถึง ไอ้ที่นั่งหน้างออยู่เนี่ย ที่รักผมเองครับแต่อย่าไปบอกใครนะ น้องเปียกเค้าอาย สงสัยจะหึง ทำใจหน่อยนะเป้ แฟนมึงหล่อ
“อิจฉากูอ่ะดิ มึงอ่ะ”  จัดไปซะหน่อย เพื่อกระชับความสัมพันธ์
“ใครอิจฉามึงว่ะ ระดับท่านเป้ ไม่เคยอิจฉาใครเว้ย” นั่นปากเหรอที่รัก มันน่าจับมาจูบซะให้เข็ด
“ให้มันจริงเถอะเชี่ยเป้”
“ไอ้ทัพ มึงกวนกูเหรอ” มีโมโหๆ เดี๋ยวบั๊ด ตบด้วยปากซะนี่
“เออ จะทำไมว่ะ”
“พวกมึงพอเถอะกูรำคาญ” ไอ้นะ หันมาบอกก่อนจะทำตาขวาง ผมกับที่รักก็เลยต้องหยุดสร้างความสัมพันธ์กันชั่วคราว
 “ว่าแต่เชี่ยต้าร์ไปไหนว่ะ”  ผมถามไอ้นะ ก่อนจะหยิบโค้กที่รักขึ้นมากิน แหมเหมือนได้จูบทางอ้อมเลยเนาะ ^^
“เชี่ยทัพ!! โค้กกู มึงคายออกมาเลยนะสัด” 
“เรื่องเด่ะ”
“ย๊ากกกกกกก คายออกมานะเว้ย” แล้วเราสองคนก็มีอันต้องเล่นหนังอินเดียกันอีกเช้า ฮ่าๆๆ ก็การแกล้งแย่ให้ที่รักมันเป็นความสุขของผมนี่ครับ
………………………………………………………………………………………….
“พอแล้วเป้ มานี่มา” ผมบอกก่อนจะคว้าคนที่วิ่งไล่ผมอย่างเอาเป็นเอาตายเข้ามาในอ้อมกอด พลางดึงเข้ามาในซอกตึกด้วยกัน ลำบากเกินไปนะชีวิต เฮ้อ
“เชี่ยทัพ ปล่อย นี่มันมหาลัยนะ” 
“ก็เค้าคิดถึงที่รักนิ ใครให้ที่รักไม่ค้างคอนโดเค้าล่ะเมื่อคืน”  ผมบอกพลางหอมแก้มฟอดใหญ่
“เชี่ยทัพจะหื่นไปถึงไหนว่ะ เดี๋ยวไอ้พวกนนั้นมันก็สงสัยหรอก” ที่รักนี่ยังไง ดิ้นได้ดิ้นดี คนเค้ารักจะตายอยู่แล้วเนี่ย จะอายอะไรไอ้พวกนั้นมันน่าจะเดาออกตั้งนานแล้วมั้งน่ะ โดยเฉพาะเชี่ยตาร์ ดูตามันก็รู้เจ้าเล่ห์ขนาดนั้นอย่างว่าล่ะครับ คนเจ้าชู้มันมองกันออก
“ก็เค้ารักตะเองนิ เมื่อไหร่ตะเองจะเปิดเผยเรื่องของเราสักทีอ่ะ”
“พอเหอะเชี่ยทัพกูขนลุก พูดแบบเดิมได้ไหม”
“โด่ ไอ้เป้ มึงนี่มันไม่มีความโรแมนติกเอาซะเล๊ย”
“เออสิ กูไม่ใช่สาวๆของมึงนิ ไม่พอใจก็ไปเลยดิไปเลย” ไอ้เป้ไล่ แต่ทำหน้ายังกะจะร้องไห้เป็นใครจะกล้าไปล่ะครับ เฮ้อ ก็รักมันไปแล้วนิ ถึงมันจะ บ้าๆบอๆ ซุ่มซ่าม ไปบ้างแต่แบบนี้มันก็น่ารักดีนะครับ ไม่น่าเชื่อเลย ว่าไอ้คนที่ผมทั้งกอด ทั้งหอมมันอยู่เนี่ยจะเป็นไอ้เป้ ต้องขอบคุณ ไอ้พวกคู่อริพวกนั้นจริงๆนะครับ
หลายเดือนก่อน
“เฮ้ยพวกมึง เห็นไอ้เป้ไหมว่ะ” ผมตะโกนถามไอ้ตาร์กับไอ้นะ เพราะตั้งแต่เที่ยงยังไม่เห็นเงา น้องเปียกเอ๋อคู่อริผมเลย มันไม่อยู่เหงาปากชิบหาย  ไม่รู้จะด่ากับใคร
“เชี่ยทัพ เมียมึงนะเว้ยมึงจะถามพวกกูเพื่อ” ไอ้ตาร์ตอบ ไอ้นี่วอนแต่วัน พูดมาได้ว่าผมเป็นผัวไอ้เป้แค่คิดก็ขนลุกสะเทือนถึงก้านสมองแล้ว ปากหมา แถมซุ่มซ่ามอย่างให้เป้ให้ฟรียังต้องคิดหนักเลยนะนั่น
“อ้าว ไอ้นี่กูถามนี่ อย่ากวน ขอร้องๆ”
“กูว่าหน้าอย่างไอ้เป้แมร่งไป ม่อ ชัวร์” ไอ้นะที่เงียบอยู่นานโคตรหันมาตอบ
“แล้วทำไมคุณ(มึง)ไม่ตอบผม(กู) แต่แรก(ว่ะ)ครับ ปล่อยให้เชี่ยตาร์ปล่อยหมาอยู่ได้”
“อ้าว เชี่ยทัพหาเรื่องเหรอ แต่เสียใจด้วยนะกูไม่ใช่ไอ้เป้กูไม่เถียงกะมึงหรอก” นี่ขนาดไม่เถียงนะ ถ้ามันเถียงคงมีต่อยกันสักหมัดสองหมัดเลยมั้งนั่น
“กูไม่คุยกะพวกมึงแล้ว รมณ์เสีย” ผมบ่นก่อนจะเดินตามหาไอ้เอ๋อ แมร่งอย่าให้เจอนะ พ่อจะด่าให้เข็ดโทษฐานที่ ไปม่อ แล้วไม่ชวน
“น้องจอมทัพขา” พี่พิมมี่ กระเทยเฮ้ยไม่ใช่ๆ สตรีข้ามเพศที่สวยที่สุดในคณะ(พี่แกบอกงั้นนะ) วิ่งกระหืดกระหอบพลางตะโกนเรียกผม ทำอย่างกะหนีตำรวจมา เอ๊ะหรือว่าหนีจริงๆ ข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ฮ่าๆๆ
“มีอะไรครับ” มารยาทสุภาพบุรุษ หญิง????เรียกต้องหยุดคอย
“คือ แฮกๆๆ” พี่พิมมี่ พูดไปหอบไป สงสัยจะเหนื่อยจัด
“ใจเย็นๆพี่มีอะไร” ท่าทางจะเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆ ผมคิดว่านะ
“คือว่าน้องเป้แย่แล้วค่า ”
“ไอเป้ ไอ้เป้เป็นไรพี่” ผมถามอย่างร้อนรน ถึงจะทะเลาะกันบ่อย ต่อยกันบ้าง แต่ยังไงๆไอ้น้องเอ๋อมันก็เป็นเพื่อนผม ยังไงก็ต้องห่วงเป็นธรรมดาจริงไหม
“น้องเป้ โดนพวกไอ้โจ๊ก ซ้อมอยู่ที่หลังตึกเก่าค่า”
ผมรีบวิ่งไปที่หลังตึกเก่าทันที โดยไม่ลืมกดโทรศัพท์เรียกกำลังเสริม ด้วย
“เฮ้ยไอ้นะ ไอ้เป้มีเรื่องที่หลังตึกเก่ารีบมาด่วน แค่นี้นะเว้ยกูจะดูมันก่อน”
แมร่งเฮ้ย ทำไมระยะทางจากที่ผมอยู่ไปหลังตึกเก่ามันไกลขนาดนี้ว่ะ  มึงอย่าเป็นอะไรนะเว้ยไอ้น้องเอ๋อ
กว่าผมจะวิ่งมาถึงตึกเก่าก็ใช้เวลาเกือบ5นาที ภาพที่ไอ้เป้โดนรุ่นพี่ 20 คนล้อมแล้วประเคน ฝ่าเท้าใส่ไม่ยั้งทำให้ผมเลือดขึ้นหน้าทันที ในใลกนี้ไม่มีใครแกล้งไอ้เป้ได้นอกจากผม นายจอมทัพคนนี้ เท่านั้น
“เฮ้ย พวกมึงทำไรเพื่อนกูว่ะ” ผมตะโกนก่อนจะกระโดดถีบไอ้คนที่อยู่ใกล้ที่สุด ทันที ไอ้เป้ที่นอนจมฝ่าเท้าอยู่ลืมตาขึ้นมามองผมก่อนจะยิ้มบางๆ สัดเอ้ย จะตายอยู่แล้วเสือกยิ้มอีก มึงนี่มันจริงๆเลยไอ้เอ๋อ
“เชี่ยนี่แมร่งวอน เฮ้ยพวกมึงจัดการดิ” ไอ้โจ๊กสั่งเพื่อนมันให้ล้อมผมไว้ทันที ซวยแระตู ไม่ใช่ผมต่อยไม่เป็นนะครับแต่ 20ต่อ1 เนี่ยมันก็ท่าจะชนะยาก เอาว่ะ ตายเป็นตาย
ตุ๊บ พลั่ก ๆๆๆ เสียงกระทบกันของสิ่งที่เรียกว่ากำปั้น กระทบกับหน้าผมบ้าง ตัวบ้าง จนแทบหลบไม่ทันไหนจะเท้าที่ประทับลงกลางหลังเต็มทำให้ผมเสียหลักล้มลงไปนอนเคียงข้างไอ้น้องเอ๋อ
“หึ รักกกันมากใช่ไหมพวกมึง งั้นก็โดนพร้อมกันเลยนะ” ไอ้โจ๊กพูด ก่อนจะยิ้มเหี้ยม เห็นแล้วอยากตัด ม ม้า ออกจริงๆ
“เฮ้ย พวกมึงแมร่งหมาหมู่เหรอว่ะ” เสียงที่คุ้นหู ดังขึ้นก่อนที่ไอ้พวกเวรนี่จะประเคนเท้าใส่ผม
“วุ่นวายจริงเว้ย!!!” ไอ้โจ๊ก สบถ
“หึ พี่โจ๊กแมร่งไม่อายเหรอว่ะ รุมคนไม่มีทางสู้” ไอ้นะพูดก่อนจะเดินวนรอบไอ้โจ๊กด้วยท่าทางกวนตีน
“ไอ้หน้าอ่อน มึงจะเอายังไงว่ามา”
“ไม่เอาไง ก็แค่ไม่ชอบหมาหมู่แน่จริงตัวๆไหม”
เฮ้ย ผมตกใจตาแทบถลน ไอ้นะมันต้องคิดสั้นแน่ๆที่ไปท้าต่อยกะไอ้โจ๊ก ที่เป็นแชมป์มวยมหาลัยสองปีซ้อนเนี่ย
“ฮ่าๆๆ นี่น้องพี่ไม่อยากรังแกเด็กว่ะ กลับบ้านไปกินนมนอนไป๊” เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเห็นด้วยกะไอ้โจ๊กอย่างยิ่ง เตี้ยๆ บางๆ อย่างไอ้นะเนี่ยนะจะไปสู้ไอ้โจ๊กได้ รนหาที่ตายแท้ๆเพื่อนกู
“หรือพี่กลัว” ไอ้นะพูดต่อ
“ คนอย่างพี่โจ๊กไม่เคยกลัวใครอยู่แล้วเว้ย แน่จริงเข้ามา”
ไอ้พี่โจ๊กบอกก่อนจะเปิดฉากปล่อยหมัดใส่ไอ้นะก่อน นี่ถ้าไม่เจ็บปางตายผมว่าจะลุกขึ้นเชียร์แล้วนะเนี่ย
ไอ้นะ หลบได้หวุดหวิด ก่อนจะถีบเข้าที่ท้องไอ้โจ๊กเต็มๆ 
“มึง มึงถีบกูอย่าอยู่เลยมึง”
ไอ้โจ๊กตะโกน ก่อนจะวิ่งเข้าใส่ไอ้นะทันที 
พลั่ก  !! O_o
นัดเดียวจอด แต่ไม่ใช่ไอ้นะ นะครับ เป็นไอ้โจ๊กตะหาก โดนจระเข้ฟาดหางไปหนึ่งดอกเต็มๆไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะครับ ส่วนลูกน้องเห็นลูกพี่โดนน็อค ก็วิ่งตาเหลือกไปคนละทิศละทาง
“ไงพวกมึงซ่ากันหนัก” ไอ้นะเดินมาพยุงผมก่อนที่ไอ้ตาร์จะเดินไปพยุงไอ้เป้
“แค่นี้สบายเว้ย ท่านเป้ซะอย่าง อูยยยยยยย” ไอ้เป้บอก
“ไอ้เอ๋อ ปากเก่งนะมึง เมื่อกี้ใครว่ะนอนให้พวกมันรุมน่ะ” เอาซะหน่อยวันนี้ยังไม่ได้ลับฝีปากกันเลย
“เชี่ยทัพ ทำเป็นพูดดีมึงก็โดนเหมือนกันแหล่ะ ไอ้อ่อน”
“มึงดิอ่อน”
“มึงแหล่ะ”
“มึงแหล่ะ”
“เฮ้ย เมื่อไหร่จะเงียบกูรำคาญ เดี๋ยวกูต่อยแมร่งทั้งสองคนเลย” ไอ้นะที่เงียบอยู่นานตะโกนขึ้น ผมกับไอ้เป้เลยต้องรีบหุบปากบอกตรงๆว่าเกรงมันอยู่เหมือนกันคนอะไรว่ะ เก่งโคตร
“วันนี้ คงต้องโดดกันหมด แล้วมั้งเนี่ย” ไอ้ตาร์พูด อืม นานๆจะมีบท ซะที นะ ฮ่าๆ
“อย่าเลย พวกมึงไปเรียนเถอะ กูดูแลตัวเองได้” ไอ้เอ๋อเป้บอก
“ปากเก่งนะมึง สังขารเดี้ยงขนาดนี้” ผมแขวะ คนไม่เจียม
“เอางี้ มึงกับไอ้ตาร์ไปเข้าเรียนกูฝากเลคเชอร์ด้วย กูจะดูแลไอ้เป้มันเอง เออ อาจจะขาดเรียนหลายวันนะเพราะกูดูแล้วสภาพไม่น่าไหวว่ะ”
“เฮ้ย มันจะดีเหรอว่ะ พวกมึงเจ็บทั้งคู่นะเว้ย”
“เออน่า”
“ปล่อยพวกมันเถอะ ไอ้นะ ผัวเมียมันอยากดูแลกันก็ปล่อยมันไป กูกับมึงไปเรียนเถอะ” เชี่ยตาร์บอกก่อนจะลากคอไอ้นะไปที่ตึกเรียน แมร่งถ้าไม่ติดว่าเจ็บนะจะกระโดดถีบยอดอกเชี่ยตาร์สักทีพูดมาได้ว่าผมอยากดูแลไอ้เอ๋อ
“เอ๋ามึงจะยืนเอ๋ออีกนานไหม ไปขึ้นรถดิไป หรือต้องให้กูประคอง”
“ อย่ามายุ่งกับกู”

…………………………………………………………………………………………………..
“โอ้ย เชี่ยเบาๆดิ สัดทัพ กูแสบ”
“มึงก็เลิกแกล้งกูดิ กูก็แสบเหมือนกัน”
ตอนนี้ผมกับไอ้เป้ อยู่ที่คอนโดผมเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ กำลังผลัดกันใส่ยาเป็นที่สนุกสนาน??
“พอเลยๆๆ กูใส่เอง” ไอ้เป้บอกก่อนจะแย่งสำลีจากมือผม
“อย่าดื้อน่า ไม่เถียงสักวันจะตายไหม อยู่เฉยๆไปเลยมึง” ผมเอ็ดก่อนจะลงมือทำแผลให้มัน
“อ่ะเสร็จแล้ว เดี๋ยวมึงกินยาแก้อักเสบแล้วไปนอนซะ” ผมบอกก่อนจะยื่นยาให้มัน
“อืม” มันรับคำอย่างว่าง่าย ซึ่งโคตรแปลกแต่ก็ดีแล้ว ขี้เกียจเถียงยิ่งเจ็บๆอยู่

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ผมเดินเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำก่อนจะเดินออกมาเจออีกคนที่หลับอยู่บนเตียง คนอะไรว่ะหลับง่ายชิบหาย
“ตอนมึงหลับดีกว่าตอนพูดตั้งเยอะนะเชี่ยเป้” ผมพูดกับคนหลับก่อนจะล้มตัวลงนอนบ้างไม่ไหวเหมือนกันครับขอพักหน่อย

ผมรู้สึกตัวเพราะความรู้สึกหนักๆทับอยู่บนตัว ผีอำเปล่าว่ะเนี่ย แต่ก็ต้องตกใจหลังจากที่ลืมตา แมร่ง ยิ่งกว่าผีอำอีก ก็ไอ้น้องเอ๋อนะสิครับ มันมานอนซุกอกผมได้ยังไงเนี่ย  ผมเหลือบมองเสี้ยวหน้า หล่อ ที่ตอนนี้ทั้งม่วง ทั้งบวม แถมมีแผลแตกด้วย ปะปราย อย่าพิจารณา จะว่าไปไอ้น้องเอ๋อเวลาที่มัน นอนนิ่งๆไม่เถียงไม่พูดมาก มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกันนะครับ มิน่าล่ะมันเกือบได้เป็นเดือนถ้าไม่สะดุดขาไมค์หัวทิ่มซะก่อนอ่ะนะ  ผมปัดปอยผมที่ปรกหน้ามันออกช้าๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ผลักมันออกปล่อยให้มันนอนกอดอยู่ได้ แถมจริงๆผมกอดตอบมันซะด้วยซ้ำอ่ะนะ  บอกไม่ถูกเหมือนกันครับว่าทำไม ตั้งแต่ที่เห็นมันโดนซ้อมหัวใจผมมันกระตุกวูบจนน่ากลัว ไม่อยากเห็นภาพแบบนั้นอีก ไม่อยากให้ใครทำร้ายมัน ไม่อยากเห็นใครแกล้งมัน ทั้งโลกนี้ คนที่จะแกล้งน้องเอ๋อได้ มีแค่ผมคนเดียวเท่านั้น
“นี่มึงทำอะไรกับกูว่ะเชี่ยเป้” ผมบ่นเบาๆ แค่อยากระบายความอึดอัดในใจออกมาบ้าง
“อือ” คนนอนหลับส่งเสียงเหมือนรู้สึกตัว ทำให้ผมต้องรีบหลับตาแกล้งหลับทันที อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าไอ้น้องเอ๋อของผม (เอ๊ะ ของผมเหรอ เอ่อ ช่างเถอะ ต่อๆ ) ตื่นมาเจอสภาพนี้จะรู้สึกยังไงน๊า แค่คิดก็สนุกแล้ว
“เฮ้ย” เสียงอุทานเบาๆดังจากปากคนเพิ่งตื่น แหมอยากลืมตาดูหน้าเอ๋อๆของมันชะมัดเว้ย
“เชี่ยเอ้ย กูนอนกอดไอ้ทัพได้ไงว่ะ” ผมได้ยินอีกคนบ่นเบาๆแต่ไอ้ที่มันแปลกกว่าคือ ทำไมมัน ไม่ยอมปลุกผมหรือแม้แต่ขยับตัวออกไปเลยล่ะครับ
“เฮ้อ เชี่ยทัพ เวลามึงนอนมึงก็หล่อนะเนี่ย ถ้าตอนที่มึงตื่นมึงเป็นแบบนี้ก็ดีสิ กูจะได้เลิกเถียงกับมึงซะที” เหอะฝันไปเถอะ เพราะอุดมการณ์ของกูคือแกล้งมึงเชี่ยเป้ ผมบอกในใจ
ผมรู้สึกถึงมือนิ่มๆ ลูบไล้บนหน้าผมอย่างอ่อนโยน เฮ้ย คงไม่หรอกมั้ง ไอ้เป้เนี่ยนะจะทำแบบนั้น
“ทัพ กูดีใจนะที่วันนี้มึงไปช่วยกู  กูดีใจมากรู้ไหมที่ตอนนี้กูได้นอนในอ้อมกอดมึง ” เสียงแผ่วๆบอกกับผม  หัวใจผมเริ่มเต้นแรงขึ้นๆหลังจากที่ฟังจบประโยค มันแรงจนผมกลัวว่าคนที่นอนซุกอกผมอยู่มันจะรู้ว่าผมไม่ได้หลับ
“ทัพ กู อยากจะบอกมึงจัง ว่า กูชอบมึง”
“แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อ มึงกับกูเป็นเพื่อนกัน” ไอ้เป้บอกเบาๆ
ผมรีบลืมตาทันทีรู้สึกว่าอีกคนลุกจากที่นอนไปเข้าห้องน้ำแล้ว บอกไม่ถูกว่าอารมณ์ตอนนี้เป็นแบบไหน รู้แค่ใจผมเต้นแรงมาก มากจนมันจะหลุดออกมาจากตัวอยู่แล้ว
“ทัพเฮ้ย ผ่านศึกมาเป็นร้อย แต่จะมาตกม้าตายเพราะไอ้น้องเอ๋อนี่เหรอว่ะ ” ผมหัวเราะกับตัวเองเบาๆ ไอ้น้องเอ๋อเอ้ย มาทำให้พี่ทัพใจสั่นแล้วจากไปแบบนี้ได้ยังไง น้องเอ๋อต้องรับผิดชอบนะรู้ไหม
“อ้าวเชี่ยทัพตื่นแล้วเหรอ กูนึกว่ามึงตายแล้วนะ นอนอืดเป็นศพเลยมึง” ไอ้คนที่ยืนเช็ดผมอยู่หน้ากระจกพูดขึ้น แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นครับ ประเด็นมันอยู่ที่ไอ้น้องเอ๋อ มันไม่รู้หรือไง ว่าไม่ควรใส่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่บอกว่าชอบคนอื่นน่ะ แบบนี้มันยั่วกันชัดๆนะเว้ย ผมมองร่างขาวๆอย่างตกตะลึงไม่เคยคิดว่าไอ้เอ๋อมันจะรูปร่างดีขนาดนี้ ถึงมันจะไม่ได้ ขาวๆ บางๆ แบบไอ้นะ แต่หุ่นสมส่วนผสมกับกล้ามเนื้อพอประมาณอย่างคนที่ออกกำลังก็ทำให้ผมกำเดาแทบพุ่ง อย่าว่าผมหื่นเลยนะครับ เพราะปกติผมก็ไม่ได้มีอารมณ์กับผู้ชายนะ
“เชี่ยทัพเป็นไรว่ะ โดนของเหรอมึง นิ่งเชียว” เออ สงสัยกูจะโดนของจริงๆแระ มึงทำเสน่ห์ใส่กูแน่ๆเลยเชี่ยเป้ ทำไมจู่มึงก็น่ารักน่ากอดขึ้นมาซะงั้นว่ะ
“ปะ เปล่า มึงหลบดิกูจะเข้าห้องน้ำ”  ฟู่ ผมเป่าปากอย่าโล่งอก ขืนอยู่นานกว่านี้ผมปล้ำมันแน่ๆ คนอะไร น่ากด เอ้ย กอด ชะมัด
“น้องเอ๋อ เฮ้ย สงสัยพี่ทัพจะชอบน้องเอ๋อซะแล้วล่ะ ”
แต่จะทำยังไงให้ไอ้คน ปากแข็งแถมปากไม่ตรงกับใจอย่างไอ้เป้ พูดว่าชอบผมได้ล่ะเนี่ย
…………………………………………………………………………………
“เป้ กูมีอะไรจะให้ช่วย” ผมถามไอ้น้องเอ๋อ ระหว่างที่เรากินข้าวอยู่
“เรื่องไร แต่อย่ามายืมตังค์กูนะ กูจนกว่ามึงช่วยไม่ได้หรอก” มันตอบหน้าตาย
“คือ กูชอบคนๆนึงอยู่นะ”
แค่กๆๆๆ ไอ้คนที่ตั้งหน้าตั้งตา ยักข้าวใส่ปากมีอันต้องสำลัก จนน้ำหู น้ำตาไหล
“เฮ้ย เป็นไรป่าว่ะ อ่ะน้ำๆ” ผมถามก่อนจะยื่นน้ำให้มัน
“ไม่เป็นไร กูโอเคแล้วว่าแต่มึงเถอะ ชอบใครอยู่ว่ะ ” ผมทำท่าเขินก่อนจะมองไปอีกทาง เพื่อจะได้แอบสังเกตปฏิกิริยาของมันด้วย เป็นไปตามคาด ปากหัวเราะแต่ตามึงเนี่ยจะร้องไห้อยู่แล้วนะน้องเอ๋อ แผนขั้นที่หนึ่งสำเร็จ ฮ่าๆ
“กู เอ่อ กู มึงห้ามหัวเราะนะเว้ย คือ กู ชอบ ไอ้นะว่ะ”  ไอ้นะกูขอโทษนะเว้ยที่ดึงมึงเข้ามายุ่ง กูคิดไม่ทันจริงๆ ฮ่าๆ 
คนที่นั่งตรงข้ามผมตอนนี้ อึ้งไปรีบร้อยแล้วครับ
“มะ มึงเป็นเกย์เหรอ” มันกระซิบถาม
“ไม่รู้สิ กูก็ไม่รู้หรอกว่ากูเป็นอะไร กูแค่รู้ว่า กูอยากอยู่ใกล้ อยากกอด อยากปกป้อง แต่กูไม่ได้เป็นกับผู้ชายทุกคนนะเว้ย กูเป็นแค่กับ(มึง)คนเดียว” ผมบอก ดูท่าทางไอ้เป้มันจะซึมๆลงนิดหน่อย จริงๆก็สงสารมันเหมือนกันนะครับ ใครจะไปทนเห็นคนที่ตัวเองรักเสียใจได้ล่ะ แต่ผมก็แค่อยากให้มันเลิกปากแข็งก็เท่านั้นเอง
“ระ เหรอ อะ อืม เดี๋ยวกุจะช่วยมึงเอง มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ เด๋ยวกูกลับก่อน พอดีปวดหัวน่ะ”
“จะไปไหน มึงยังไม่หายดีนะ จะกลับบ้านไปให้ม๊ามึง ถามเหรอว่าไปทำไรมา อยู่กับกูที่นี่แระ หายแล้วค่อยกลับ” ผมบอก เรื่องของเรื่องคืออยากอยู่กับมันมากกว่าอ่ะครับ หึหึ
……………………………………………………………………………………………………….
“ฮึกๆๆๆ” เสียงสะอื้น แผ่วๆที่ลอยมาตามลมทำให้ขนบนตัวผมลุกเกลียว เฮ้ยๆๆ ผีรึเปล่าว่ะ
ผมลืมตาขึ้นอย่างกล้ากลัวๆ ก่อนจะรับรู้ว่าเสียงสะอื้นที่ได้ยินไม่ใช่เสียงผี แต่เป็นเสียของไอ้คนข้างๆตะหาก นี่มันเสียใจ จนร้องไห้เลยเหรอครับ ความรู้สึกผิดเริ่มเข้าเกาะกินหัวใจผมอีกครั้งทั้งๆที่ บอกตัวเองแล้วแท้ๆว่าม่อยากเห็นน้ำตาของมัน แต่เอาเข้าใจผมกลับทำให้มันร้องไห้จนได้ ใจจริงอยากจะดึงมันเข้ามากอดด้วยซ้ำแต่ผมรู้นิสัยมันดี คนอย่างไอ้เป้ไม่ยอมให้ใครเห็นน้ำตามันเด็ดขาด
“ทัพ เชี่ยทัพ ตื่นได้แล้ว เช้าแล้วนะเว้ย”
ผมลืมตาขึ้นตามเสียงปลุก สิ่งแรกที่เห็นคือหน้าตากวนๆปนเอ๋อ ของไอ้เป้ เฮ้อ ถ้าทุกเช้าตื่นมาแล้วเป็นแบบนี้มันคงดีไม่น้อยนะครับ
“ปลุกกูแต่เช้าเพื่อ วันนี้บอกแล้วไงว่า กูกับมึงจะโดดเรียน กูไม่เอาสภาพแบบนี้ไปมหาลัยนะเว้ย”
“สุขกู มึงจะทำไม การก่อกวนมึงคือความสุขของกูจำไว้นะเชี่ยทัพ” มันลอยหน้าลอยตาตอบนี่ถ้าไม่ติดว่ากูรักมึงนะ กูจะถีบยอดหน้ามึงทันทีเลยไอ้น้องเอ๋อ
“เป้ กูภามไรมึงอย่าได้ไหม”
“ว่า”
“มึงมีคนที่ชอบยัง”
“มะ มึง ถามทำไม” มันตอบเสียงสั่น แน่ ติดอ่างเชียวมึง หึหึ มึงเสร็จกูแน่ครับน้องเอ๋อที่รัก
“ก็เปล่า เผื่อกูช่วยมึงได้ไง”
“ไม่มี คนอย่างกูรักอิสระเว้ย ไม่ชอบผูกมัด” มันเฉไฉ
“อืม แต่มึงอย่าลืมแล้วกันที่จะช่วยกูน่ะ ” ผมย้ำ
“เออ ไม่ลืมหรอก”
………………………………………………………………………………………………………………………..
หลังจากวันนั้นขาดเรียนไปสามวันเต็มๆ ผมกับไอ้เป้ก็มาเรียนตามปกติแต่ที่ไม่ ปกติคือผมสังเกตว่าไอ้เป้มันชอบหลบหน้าผมอยู่เรื่อย เวลาชวนไปไหนก็อ้างโน่นอ้างหนี้สารพัดเกือบสองอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้เจอกัน มันจะรู้บ้างไหมเนี่ยว่าผมคิดถึงมันอ่ะ ไอ้น้องเอ๋อเฮ้ย
“เชี่ยทัพ มึงรู้ไหมว่ะ ว่าเป้มันเป็นไร ทำไมช่วงนี้มันห่างพวกเราว่ะ” ไอ้นะถามผม กูอยากจะบอกว่า กูก็ไม่รู้ครับ เพื่อน
“หน้าอย่างไอ้เป้ ติดหญิง ชัวร์” ไอ้ตาร์เดา แต่เป็นการเดาที่น่าโดนถีบมาก ไอ้เป้ มันรักกูจะตาย มันไม่กล้าหรอก (มั้ง??)
“ไอ้ทัพมึงรู้ป่ะ ว่าเมียมึงเป็นอะไร” ไอ้ตาร์หันมาถามผม
“ไม่รู้เว้ย กูไม่ได้ตัวติดกะมันนิ”

“ต๊ายยยยยยยยยยย น้องทัพ น้องนะ แล้วก็สามีตาร์ มานั่งทำอะไรแถวนี้คะ ” เจ๊พิมมี่ สตรีข้ามเพศ ทักพวกผม
“หวัดดีครับพี่ มเหศักดิ์” ไอ้นะจอมกวนตีนทักตอบ  มเหศักดิ์เป็นชื่อจริงของเจ๊แกครับ แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าเรียกหรอกเพราะแกจะโกรธมากแต่ยกเว้น พวกผมนะ คนหล่อ ย่อมมีอภิสิทธ์
“หยาบคายมาก เดี๋ยวแม่ก็ตบคว่ำซะหรอก แต่หล่อเปลี่ยนเป็นหอมแก้มดีกว่า” 
“อย่าเข้ามานะพี่ พวกผมมีพระ” ยังเป็นไอ้นะเจ้าเก่าที่ก่อกวนเจ๊แก
“ต๊ายยยยกระเทยนะยะ ไม่ใช่ผี เชอะ ไอ้เรารึอยากจะมา เล่าเรื่องน้องเป้ให้ฟังซะหน่อยไปดีกว่า”
“เดี๋ยวพี่” ผมร้องห้าม ก่อนจะฉุดให้เจ๊แกนั่งลงข้างๆ ถ้าป็นเรื่องของน้องเอ๋อไม่ควรปล่อยผ่านยิ่งช่วงนี้ยิ่งไม่ควร
“ไอ้เป้ทำไมเหรอ”
“อย่าหาว่าเจ๊ ปากมากเลยนะ คือเจ๊ถามจริงๆนะ น้องเป้เป็นเก้งหรือเปล่า”
“ทำไมเจ๊พูดแบบนั้นอ่ะ” ผมถามกลับ
“ก็เจ๊เห็นมีผู้ชาย มารับมาส่งน้องเป้ทุกวันเลยนะคะ”
ผมไม่รู้หรอว่าเจ๊พิมมี่พูดต่อว่ายังไงแค่ได้ยินว่า มีผู้ชายมารับมาส่งมันผมก็โกรธจนแทบจะฆ่าคนได้อยู่แล้ว ไอ้น้องเอ๋อ บังอาจมาก มาทำให้พี่ทัพรักแล้วจะชิ่งเหรอ ไม่มีทางหรอกเว้ย  งานนี้ต้องมีเคลียร์ ผมลุกพรวดจากโต๊ะโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนเพราะตอนนี้ คนเดียวที่ผมอยากเจอคือไอ้เป้ ไม่ว่ามันอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ผมก็จะตามมันมาคุยกันให้ได้ เหมือนสรรค์เป็นใจนะครับ จู่รถคันนึงก็ขับผ่านหน้าผมไปจะไม่มีอะไรเลยถ้าไอ้น้องเอ๋อ มันไม่ได้นั่งอยู่ในรถคันนั้น
ผมขับรถตามมันไปเรื่อยๆ อยากรู้เหมือนกันว่าจะไปที่ไหน ตามมาได้สักพักผมก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ไอ้รถคันนั้นมันเลี้ยวเข้าโรงแรม ครับ
“เชี่ย” ผมสบถ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี ใจจริงอยากจะเข้าไปลากกมันออกมาแล้วถามให้รู้เรื่องด้วยซ้ำว่ามันทำแบบนี้กับผมได้ยังไง มันบอกว่ารักผมแล้วมันเข้าโรงแรมกับคนอื่นเนี่ยนะ เหอะ หัวเราะเยาะให้กับตัวเอง ก่อนจะรู้สึกถึงสายตาที่พร่าเลือน นี่ผมร้องไห้เหรอ ผมเนี่ยนะร้องไห้
“เชี่ยเฮ้ย กูแมร่งมาทำบ้าอะไรที่นี่ว่ะ” ผมบ่นเบาๆก่อนจะขับรถกลับไปที่คอนโด
…………………………………………………………………………………………………………………………
วันนี้วันที่เท่าไหร่แล้วนะ นี่ผมนอนจมกองขวดเหล้ามากี่วันแล้ว เหอะ คิดไปก็ตลก นายจอมทัพ เพลย์บอย อันดับหนึ่ง กำลังอกหักเพราะรักเพื่อนสนิทตัวเอง มันน่าสมเพชชะมัด
“ไอ้น้องเอ๋อ น้องเอ๋อจะมาทำให้พี่ทัพรักทำไมว่ะ โถ่เว้ย” ผมสบถ ก่อนจะกระดกของเหลวดีกรีแรงในแก้วจนหมด
ลาก่อน ไอ้เป้ ลาก่อน  ความรัก
“ใจคอมึงจะกินให้ตายเลยรึไง เชี่ยทัพ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นก่อนที่แก้วในมือจะถูกดึงออกไป
“เชี่ยเป้ ฮ่าๆๆ แหม สงสัยกูจะเมามากจริง ฝันว่ามึงมาหากูด้วย เอิ๊กๆๆ”  ผมบอกเสียอ้อแอ้ ก่อนที่สติที่มีอยู่ค่อยๆดับวูดไป

“อือ” ผมรู้สึกตัวขึ้นมาก่อนจะรู้สึกถึงความหนักอึ้งบนตัว
“เฮ้ย” ผมอุทานเบาๆเพราะกลัวอีกคนตื่น เสี้ยวหน้าหล่อเหลา และขาที่เกยอยู่บนตัวผมเป็นเครื่องยืนยันว่า สิ่งที่ผมเห็นก่อนจะหลับไปไม่ใช่ฝัน ไอ้เป้มาที่นี่จริงๆ  ผมเผลอยิ้มอย่างยินดี แต่ก็ต้องหุบแทบไม่ทันหลังจากที่คิดถึงเหตุการณ์วันนั้น
“เฮ้ยเป้ๆ เชี่ยเป้ตื่น” ผมตะโกน พลางเขย่าคนขี้เซา
“อือ เชี่ยทัพปลุกกูทำไมเนี่ย” คนเพิ่งตื่นหันมาว๊ากผม น่ากลัวตายล่ะ
“มึงมาที่นี่ทำไม” ผมถามด้วยน้ำเสียงเย็นขา มันเย็นชาซะจนผมเองยังตกใจ
“กู มาเก็บศพมึงไง ไม่เห็นไปเรียนหลายวันกูนึกว่าตายไปแล้ว”
“เห็นแล้วก็กลับสิ อยู่ทำไม”
“เชี่ยทัพ มึงเป็นอะไรว่ะ ทำไมมึงต้องกินเหล้ามากมายขนาดนี้” จะให้กูตอบมึงยังไงเป้ ตอบว่ากูอกหักจากมึงเหรอ มึงจะได้หัวเราะเยาะกูนะสิ
“อย่ามายุ่งกับกู!!” ผมตวาด ก่อนจะผลักมันจนตกเตียง
 “เออ กูไม่ยุ่งกับมึงก็ได้ คิดว่ายุ่งหรือไง กูน่าจะปล่อยให้มึงตายไปเลย”
อูยยยยยยยยย มันอุทานก่อนจะคลำหัวตัวเองป้อยๆ
“เป้มึงเป็นไร เจ็บมากไหม ไหนกูดูดิ” ผมรีบวิ่งไปดูมัน ทันที
“อย่ามายุ่งกับกู” มันมองผมตาขวาง ก่อนจะผลักผมออกให้พ้นตัว
“อย่าดื้อน่าให้กูดูหน่อย” ผมเอ็ดก่อนจะก้มจับที่หัวมันเบา สงสัยจะหัวโน นะเนี่ย
“โอ้ย เบาๆดิกูเจ็บ”
“เจ็บเหรอ กูขอโทษนะ” ผมบอกแต่เหมือนมันจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
“ปล่อย กูจะกลับบ้าน แล้วจะไม่มาที่นี่อีก” มันบอก เอ่อ ถ้าผมจะเดาว่ามันกำลัง งอนผมอยู่มันจะได้ไหมครับ คือแบบว่า มันรักอ่ะ
“เดี๋ยว กูมีเรื่องจะคุยกะมึง” หลังจากที่ผม คิดดูแล้วเมื่อกี้ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมานั่งกินเหล้าไปวันๆสู้ถามมันไปตรงๆให้จบไปดีกว่า จะได้เจ็บทีเดียว
“เรื่องอะไร”
“ผู้ชายคนที่เข้าโรงแรมกับมึงเป็นใคร”
“หือ กูเนี่ยนะเข้าโรงแรมกับผู้ชาย  มึกเมายาธาตุเหรอ” มันบอก
“อย่ามาปฏิเสธวันนั้นกูเห็นกับตาว่ามึงเข้าโรงแรมไปด้วยกัน” ผมคาดคั้น แค่อยากจะรู้ว่ามันจะโกหกผมไปถึงเมื่อไหร่ มันไม่รู้หรือไงว่าผมเจ็บจะตายอยู่แล้ว
“อ้อ มึงหมายถึงคนนี้เหรอ” ไอ้เป้เหมือนจะคิดออกก่อนจะยื่นรูปที่มันพกในกระเป๋าตังมาให้ผมดู  ผมเหลือบมองก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทาง ถึงขนาดพกรูปกันขนาดนี้ ผมจะไปสู้อะไรได้
“เอ๋า เงียบไมอ่ะ กูถามว่าคนนี้เหรอ”
“อือ” ผมตอบแบบส่งๆ
“ฮ่าๆ อย่าว่าแต่โรงแรมเลยกับคนนี้อ่ะ ห้องเขากูก็เข้ามาแล้ว” มันบอกอย่างอารมณ์ดี ผิดกับผมที่แทบจะขาดใจตายอยู่แล้ว
“มึงรักมันมากเลยเหรอ” ผมถามเสียงแผ่ว
“อืม มากที่สุดในโลกเลยล่ะ”
“……………….”
“มึงว่าอะไรนะทัพกูไม่ได้ยิน”
“กูถามว่า…………แล้วมึงรักมัน มากว่ากูหรือเปล่า” ผมกลั้นใจถามออกไปถึงจะรู้อยู่แล้วว่าแพ้แน่ๆแต่ผมก็ยังอยากฟังจากปากมัน
“ทัพ มึง มึงรู้”
“ใช่กูรู้ วันนั้นกูไม่ได้หลับหรอกนะเป้ กูได้ยินทุกอย่าง ทุกอย่างที่มึงพูด”  ผมเน้นคำว่าทุกอย่างเพราะอยากให้มันรู้ว่า ผมได้ยินคำที่มันบอกว่ารักผม
“กะ กูไม่มีอะไรจะพูด กูกลับแล้วนะ” มันลนลาน ก่อนจะรีบหันหลังออกจากห้องแต่ช้ากว่าผมที่รวบเอวมันไว้ได้
“กูไม่ให้มึงไปไหนทั้งนั้นวันนี้เราต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง มึงบอกกูมานะเป้ ว่ามึงรักกูใช่ไหม” ผมคาดคั้น และยิ่งเพิ่มแรงรัดขึ้นเมื่ออีกคนยังยืนนิ่ง
“เป้ บอกกูมา”
“ใช่!! มึงได้ยินไม่ผิดหรอก กูรักมึง รักมาตั้งนานแล้วรักมึงมาตลอด” ผมยิ้มกว้างหลังจากที่ฟังไอ้เป้จบ ในที่สุดมันก็บอกรักผมซะที
“แล้วทำไมมึงไม่เคยบอกกู”
“เหอะ มึงจะให้กูทำไง เดินเข้าไปแล้วบอกว่า ทัพกูรักมึงอย่างนี้เหรอ มึงได้หัวเราะเยาะกูนะสิ แล้วที่สำคัญมึงรักไอ้นะ ………..ไม่ได้รักกูสักนิด” เอ๋า น้องเอ๋อเฮ้ย ต้นประโยคพูดซะเสียงดังแต่ทำไมท้ายประโยคมันแผ่วซะขนาดนั้นล่ะคร้าบ
“มึงเนี่ยน๊า ชอบคิดแทนคนอื่นอยู่เรื่อย ”
“ฟังดีๆนะเว้ย กูพูดแค่รอบเดียว ……………..กูก็รักมึงนะเป้”
“ทัพ” คนที่ฟังตัวแข็งทื่ออย่างกับถูกสาปมันคงไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ยินล่ะสิ แต่ทำไงได้ไอ้น้องเอ๋อมันความรู้สึกช้าจะตาย ถ้าไม่บอกตรงๆอีก20ปีมันก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ
“ตะ แต่ ว่า มึงรักไอ้นะนิ”
“ไอ้น้องเอ๋อที่รักครับ มึงเข้าใจคำว่าประชดไหม”
“ประชด”
“ก็มึงอ่ะ บอกรักกูแต่ก็ทำไม่สนใจกู กุก็ต้องทำให้มึงหึงสิ แต่มึงแมร่งดันคิดตัดใจไปคบคนอื่นซะได้ กูน้อยใจนะเว้ย” ผมบอกก่อนจะใส่มารยาเต็มที่ ฮ่าๆ อย่างน้องเอ๋อไม่มีทันพี่ทัพหรอก อิอิ
“ไอ้บ้าทัพ น้อยใจเชี่ยไร ผู้ชายคนนั้นมันพี่ชายกูนะเว้ย มึงหึงแม้กระทั่งพี่กูเลยเหรอ” มันบอกพลางก้มหน้าซ่อนแก้มแดงๆเอาไว้ ว๊ากกกกกก ไอ้น้องเอ๋อ น่ารักอีกแล้ว ผมค่อยดึงอีกคนให้หันมาเผชิญหน้ากัน ก่อนจะหอมแก้มมันด้วยความหมั่นเขี้ยว ฮ่า แมร่งน่ารักเกินไปแระ
“หึงสิ ทัพหึงทุกคนที่เข้าใจเป้ เข้าใจไหมต่อไปนี้ ห้ามไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ทัพ อ้อ ผู้หญิงก็ห้ามนะ” ทำไมล่ะก็ผมหวงของผมนิ
“รวมทั้ง ไอ้นะ กับไอ้ตาร์ด้วยเหรอ”
“อ่ะ ยกเว้นไว้ก็ได้”
“อือ” คนตัวบางกว่าพูดพลางก้มหน้างุดๆ จนแทบจะจมไปในอกผมอยู่แล้วไม่รู้จะอายอะไรนักหนาทีเมื่อก่อน ด่ากันปาวๆไม่เห็นจะอายนะน้องเอ๋อ
“เป้เป็นแฟนทัพแล้วนะ ทัพรักเป้นะครับ”
“อือ”
“อือ อะไรไม่เห็นเข้าใจเลย”
“เป้ ก็รักทัพนะ”
ฮ่าๆๆ ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะรวบน้องเอ๋อที่รักมากอด ใครมันจะไปเชื่อว่าคนที่เอาแต่ทะเลาะกันมาเป็นปีจะลงเอยกันแบบนี้ เฮ้อ นี่ถ้าไอ้สองคนนั่นรู้มีหวังมันหัวเราะไม่หยุดสามวันสามคืนแน่เลยครับ แต่ผมก็รักไอ้น้องเป้เอ๋อไปแล้วนิ จะทำไงได้ จริงไหม

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
เพิ่งเห็นอ่ะครับ ว่าคนแต่งคือคุณพิต  แบบว่าไม่ได้เข้าเล้าเป็นเดือน
รีบอ่าน สนุกมว๊าาาากกกก ชอบคู่เป้กะทัพ  น่ารักมากมาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
เพิ่งเห็นอ่ะครับ ว่าคนแต่งคือคุณพิต  แบบว่าไม่ได้เข้าเล้าเป็นเดือน
รีบอ่าน สนุกมว๊าาาากกกก ชอบคู่เป้กะทัพ  น่ารักมากมาย

ฮ่าๆๆ จากใจ พิตก็ชอบ ทัพเป้เหมือนกัน มันน่ารักดี ฮ่าๆ ยังไงก็ขอบคุณนะคะ
ที่ติดตามกันตลอด ขอบคุณจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ตอน 4

ปึกๆๆๆๆ โป๊กๆๆๆๆๆ ปังๆๆๆๆ  อย่าเพิ่งคิดว่าแถวนี้สร้างตึกนะครับคือ จริงๆมันเป็นเสียงทำกับข้าวของผมเองบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นอะไร รู้แค่โมโห ไอ้คนที่อยู่บนห้องก็เท่านั้น
“ย๊าก ตายซะเถอะแก” ผมตะโกนก่อนจะลงมือสับหมูอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เฮ้ยพี่ ใจคอจะสับจนเขียงเละไปกับหมูเลยไง”
เสียงไม่พึงประสงค์ดังขึ้น ผมเหลือบมองมันนิดหน่อย ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาสับหมูต่อ ยิ่งเห็นยิ่งโมโห
“เออ ผมจะมาบอกว่าอีกสิบนาทีกีตาร์จะมาถึงแล้วนะ” ไอ้เด็กเกรียนบอกก่อนจะไปนั่งรอพี่ชายที่โซฟา
จะไปตายที่ไหนก็ไปเลยไอ้เด็กเวร ดีซะอีกจะได้ไม่อยู่รบกวน 
“นี่พี่ ใจคอจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ” คนที่นั่งทำหน้านิ่ง อยู่ตะโกนถาม
เหอะ จ้างให้ก็ไม่พูดหรอกเว้ย
ปริ้นๆๆๆ เสียงแตรรถดังข้นที่หน้าบ้าน สงสัยไอ้ตาร์มารับน้องมันแล้วมั้ง เชอะ ไปซะได้ก็ดี เกะกะ ลูกตา
“ผมไปแล้วนะพี่ อ้อ ก่อนนอนอย่าลืมเปิดคอมนะ” เสียงคนอาศัยตะโกนบอกก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
ผมมองตามร่างสูงเดินขึ้นรถจนลับสายตา ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าอาการ  ใจหายที่มันเกิดขึ้นคืออะไร
“บ้าน่า กูคงไม่ได้ชอบไอ้เด็กเวรนี่หรอกนะ ” ผมบ่นกับตัวเอง เสียงดัง เหอะๆ คงไม่ใช่หรอก จะชอบได้ยังไงเจอกันวันเดียวเอง เหอๆ ฟุ้งซ่านแระไอ้นะเอ้ย

หลังจากที่ไอ้เด็กเกรียนกลับไป บ้านก็กลับมาเงียบสงบเหมือนเดิม แต่ทำไมมันดูเงียบจนวังเวง อยู่ดีๆก็รู้สึกเหงาขึ้นมาซะอย่างนั้น  ผมสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระออกจากสมอง ไม่อยากจะคิดอะไรมันทั้งนั้นแหละ 
ผมอาบน้ำ เตรียมเข้านอนตามปกติแต่ตาเจ้ากรรมดั๊น เหลือบไปเห็นคอมจนได้ เหมือนจะได้ยินแว่วๆว่าไอ้เด็กเกรียนนั่นให้เปิดคอม ดูอะไรสักอย่าง  ผมชั่งใจอยู่นานว่าจะเดินไปเปิดดีไหม แต่ความอยากรู้มันมีมากกว่า แหะๆ รู้ตัวอีกทีขามันก็พามาที่โต๊ะคอมรีบร้อยแล้ว ก่อนจะลงมือเปิดคอมทันที   
ผมลองคลิกเข้าไปใน  folder แปลกๆที่ผมไม่น่าจะเป็นคนทำแน่นอน ก่อนจะเจอคลิป วีดีโอ เข้า
“หนังโป๊ รึเปล่าว่ะ” ผมบ่น ก่อนจะกลั้นใจคลิกเล่น ก็มันอยากรู้อ่ะ ไอ้เด็กเกรียนนั่น คงไม่บ้าขนาดเอาหนังโป๊ให้ผมดูหรอกมั้ง
ภาพของไอ้เด็กเกรียน ในวีดีโอทำเอาผมแทบตกเก้าอี้ มันจะเล่นอะไรของมันอีกว่ะ
“พี่นะ” คนในวีดีโอเรียก
“อย่าทำหน้ายุ่งสิพี่ ทำไมชอบทำหน้ายุ่งจังห่ะ”
“ยุ่งไรด้วยว่ะ” ผมตอบ เอ้า ท่าจะบ้าแล้วไอ้นะคุยกะวีดีโอได้ด้วย
“คือว่า เบส เอ่อ เบส มีเพลงให้พี่นะฟัง ต้องฟังให้จบนะห้ามปิดเด็ดขาดเข้าใจไหม ”
“เป็นพ่อเหรอถึงมาสั่ง ไอ้เด็กบ้าเอ้ย”
ผมค้อนให้คนในวีดีโอ
แอบมองเธอยิ้มใจมันก็สั่นไหว

อุณหภูมิหัวใจเย็นลงเหมือนติดลบ

ยังกับยืนกลางฝนตก หิมะโปรยลงที่ใจของฉัน


* อยากบอกว่ารักเธอ ใจมันหมดเรี่ยวแรง

ปากมันก็แข็ง ยังไงก็ไม่ยอม . . ไม่พูดไป


** ใจเย็นจนเริ่มจะชา ดา ดา ดี๊ด่าด้า

ใจเย็นก็กลัวว่าหมา อา อา จะคาบไป

ใจเย็นจนเริ่มจะชา ดา ดา ก็หวั่นไหว . .

ไม่รู้จะพูดยังไง ว่าคน ๆ นี้นั้นมันแอบ รักเธอ . .


อากาศเริ่มหนาวเวลาได้ใกล้เธอ

ป่วยจนเป็นไข้ใจ ตอนเราได้เจอะเจอ

ยังกับโดนน้ำแข็งสาด ไปยืนอยู่กลางขั้วโลกเหนือ


( Rap )

หน้าชา ปากชา ขาชา ไอนั่นก็ชา แม้แต่ปรอทก็วัดไม่ได้ ตั้งแต่มีเธอนั้นเดินเข้ามา

อยู่ ๆ หัวใจหยุดเต้น มัน Thinaken จนเกินเยียวยา

ก็เธอนั้นน่ารักที่สุด น่ารักเป็นหนึ่งในพสุธา

แค่เธอขวาซ้ายขวา แค่เธอเดินมาแทบลืมหายใจ

แค่อยากจะทักแต่ก็ต้องทุกข์ ก็เพราะไม่รู้ต้องเริ่มไง

น้ำแข็งเกาะทีละนิด ความเย็นออกฤทธิ์ภายในหัวใจ

ชามันไปทุกส่วน ทุกอวัยวะในร่างกาย

หลังจากที่ฟังจบ บอกตามตรงก็ได้ว่าตอนนี้ใจผมเต้นแรงมาก มากซะจนผมกลัวว่ามันจะทะลุออกมาหรือเปล่า นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้ ถึงเพลงของไอ้เด็กนั่นมันจะออกบ้าๆบอๆไปบ้างก็เถอะ
“พี่นะ เบสขอโทษนะ ขอโทษที่ปากไม่ดี พี่นะยกโทษให้เบสนะ นะครับ ” สายตาอ้อน ที่ผมเพิ่งเคยได้เห็นทำให้หัวใจผมเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม เอ้า เอาเข้าไป ไอ้หัวใจบ้าเนี่ย ใจคอแกจะเต้นทั้งคืนเลยหรือไงเนี่ย
“กริ๊งๆๆๆๆๆ”
“ว่าไงเชี่ยตาร์ โทรมาทำไมว่ะ”
“พี่นะนี่เบสนะ”
“เฮ้ย!!” ผมตะโกนอย่างลืมตัว อะ อะ ไอ้เบส มันจะโทรมาทำไมว้า
“พี่นะ ฟังอยู่ป่ะเนี่ย”
“ฟะ ฟัง” เอ๋า แล้วจะเสียงสั่นทำม้ายยยยยยยย
“คือพี่นะดูวีดีโอแล้วใช่ไหม”
“อะ อือ”
“คือเบสขอโทษนะ ”
“อือ”
“อือ นี่มันหมายถึงอะไรว่ะพี่”
“กะ ก็ อือ ไงเล่า” เอ๊ะ ไอ้นี่นิ จะถามให้มันได้อะไรขึ้นมาว่ะ
“แล้วมันหมายความว่าไงล่ะ” ไอ้เด็กเกรียนยังเซ้าซี้ไม่เลิก
“เออ ยกโทษให้ก็ได้แต่อย่ามีคราวหน้านะเว้ย โดนตีนแน่”
“คร้าบๆๆ รับรองด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่เลย ว่าไม่มีอีกแน่นอนครับ”
“เออ งั้นแค่นี้นะจะนอนแล้ว” ผมบอกใจจริงคือไม่อยากคุยนานกลัวตัวเองจะหัวใจวายตายซะก่อน เพราะใจขยันเต้นเหลือเกิ๊นนนน
“ยังนอนไม่ได้ ลงมาข้างล่างก่อน”
“ลงไปไม จะนอนแล้ว”
“ถ้าพี่ไม่ลงมาผมจะเข้าบ้านยังไง”
“ห๊า แกว่าไงนะ”
ผมรีบแหวกม่านดู ไอ้เด็กเกรียนยืนโบกมืออยู่หน้าบ้านข้างๆมีเชี่ยตาร์ ยืนทำหน้ายักษ์อยู่ด้วย
“กว่าจะลงมาได้นะพี่” ไอ้เด็กเกรียนทัก ทันทีที่ผมไปเปิดประตู
“แล้วนี่กลับมาทำไม ลืมของเหรอ”
“ลืมดิ ก็ลืมหัวใจไว้ที่นี่อ่ะ” ไอ้เด็กเกรียนตอบหน้าตาเฉย
“อะ อะ ไอ้เด็กบ้า พูดอะไรของแกว่ะ”
“ก็พูดความจริงไงครับ” เบสตอบก่อนจะยิ้มกวนตีนให้ผม
“พอๆเลย พวกมึงสองคนอ่ะเลิกเถียงกันต่อหน้ากูได้แล้วเรื่องผัวเมีย กูไม่อยากยุ่ง” ไอ้ตาร์ที่ยืนสงบปากมานานแสนนานจนผมลืมไปแล้วว่ามันอยู่ด้วยพูดขึ้น
“เชี่ยตาร์ ปากเหรอที่พูดใครผัวน้องมึง” ผมด่ากลับ มันกวนตีนทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ
“กูพูดตอนไหนว่ามึงเป็นผัวน้องกู อ่ะ โด่ ร้อนตัวว่ะ มึงคิดอะไรกะไอ้เบสมันใช่ไหม”
“กะ กู คิดอะไร” แล้วทำไมผมต้องตอบไม่เต็มเสียงด้วยอ่ะ
“เหอะ ปากแข็งนะมึง แล้วที่สำคัญเตี้ยๆ ผอมๆอย่างมึงจะเป็นผัวใครได้ มึงเป็นเมียได้อย่างเดียวเว้ย”
“เชี่ยตาร์ นี่มึงวอนเหรอ” ผมตะโกน แหมถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพื่อน ผมถีบยอดหน้ามันไปแล้วนะครับ
“จับเมียมึงไว้ดิไอ้เบส” ไอ้ตาร์หันไปบอกน้องมัน ไอ้นี่ก็เชื่อฟังเกินดันกอดผมไว้ซะแน่น กูหายใจไม่ออกครับ
“กีตาร์พี่ก็เลิกว่าพี่นะ ซะทีสิ ยั่วโมโหพี่นะอยู่ได้”
“เหอะหมั่นไส้ ทีหลังจะโกรธกันทะเลาะกันไม่ต้องโทรเรียกกูเลยนะ เสียเวลา เวลากูมีเพื่อสาวๆเท่านั้น เข้าใจไหม”  ไอ้ตาร์บอกก่อนก่อนจะขับรถออกไป
“ป่ะ เข้าบ้าน” ไอ้คนที่กอดไม่ยอมปล่อยบอก เนียนเชียวนะ ไอ้เด็เวร
“ปะ ปล่อยก่อน” เอ่อ ทำไมเสียงผมมัน ตุ๊ดแบบนั้นอ่ะครับ ไม่นะ ผมไม่ได้เขินนะเว้ย
“โทษครับ ผมลืม” ไอ้เด็กเกรียนบอกก่อนจะคายกอดแต่ เปลี่ยนไปจูงมือผมเข้าบ้านแทน
“พี่นะ”
“อือ”
“เป็นแฟนกันไหม”
O_o คะใครก็ได้โทรเรียกรถพยาบาลมาที ผมจะเป็นลม เอ่อ คือ อะไรยังไง คือ สรุปคือ กูงง อ่ะครับ
“พี่นะ ฟังอยู่หรือเปล่า”
“ฟะ ฟัง แกล้อพี่เล่นใช่ไหมว่ะ”
“หือ ใครบอกเล่า ผมขอพี่เป็นแฟนจริงๆนะ ผมชอบพี่” ไอ้เด็กเกรียนบอกด้วยเสียงจริงจัง
“ตะ แต่ เราเพิ่งรู้จักกันสองวันนะ” ผมบอก เอ่อ ยอมรับก็ไดว่าใจสั่นนิดๆ ตอนเจอมันที่สนามบิน แล้วก็มีแอบน้อยใจมันบ้าง แต่ผมไม่ได้ใจง่ายขนาดจะตกลงเป็นแฟนกับคนที่เจอกันแค่ไม่ถึงสองวันนะครับ
“8ปีตะหาก”
“อือ”  - -?
“พี่จำผมไม่ได้เหรอ” จำได้อะไร ยังไง ทำไม อีกล่ะครับเนี่ย คุยกะไอ้นี่มี ง งู เต็มหัวไปหมด
“จำอะไร เราสองคนเคยเจอกันด้วยเหรอ”
“น้อยใจนะเนี่ย คนเรารึอุส่าห์รอตั้ง8ปี”
“เล่ามาเลยดีกว่า พี่ งง ว่ะ”
“พี่จำได้ไหมตอน ม1 พี่เคยไปบ้านผมอ่ะ”
ม1 เหรอ อืม ก็จำได้ลางๆนะครับว่าเคยไปบ้านเชี่ยตาร์มัน คือผมกับเชี่ยตาร์คบกันมาตั้งแต่ ม ต้น แล้วตอน ม ต้น ผมก็ไปเที่ยวบ้านมันบ้างเพราะมันชอบอวดว่าบ้านมันสวย แต่พอขึ้นม ปลาย ก็ไม่เคยไปอีกเลย จะว่าไปตอนที่ไปเที่ยวบ้านไอ้ตาร์ผมไปเจอเด็กคนนึงด้วยนะครับ เจอครั้งแรกก็เรียกผมว่าพี่สาว เล่นเอาไอ้ตาร์ฮาจนน้ำตาเล็ด ส่วนผมหน้างอเป็นม้าหมากรุก  อยากจะตะโกนใส่หน้าว่ามึงไม่เห็นเหรอว่ากุใส่กางเกงหลังจากนั้นมันก็ตามแกล้งผมตลอด แต่จู่ๆ วันที่ผมจะกลับมันดันเอาดอกกุหลาบมาให้ผมแล้วสารภาพรักซะงั้น เล่นเอาผมทำอะไรไม่ถูกเลยไม่รู้ว่าจะอึ้งหรือจะขำก่อนดี   คิดๆไป ป่านนี้ไอ้เด็กนั้นจะโตแค่ไหนแล้วนะ
“จำได้หรือยังครับ” 
“เฮ้ย อย่าบอกนะว่า แก แก คือ”
“ครับ ผมก็คือเด็กที่บอกรักพี่วันนั้นไง” ไอ้เบสบอกก่อนจะยิ้มหวานให้ผม
“อะ เอ่อ ”
“คิดถึงจังเลยครับ พี่นะคิดถึงเบสไหม”
“เอ่อ คือ คือว่า” ผมอ้ำอึ้ง จริงๆคือยังช๊อคไม่หายอ่ะครับ
“ว้า น้อยใจนะเนี่ยไม่คิดถึงกันสักนิดเลยเหรอ แต่เอาเหอะเรื่องนั้นช่างมัน แต่พี่จะตอบผมได้ยังว่าตกลงจะคบกับผมไหม ”
“คือพี่ว่านะ พี่ว่ามันเร็วไปน่ะพี่ตั้งตัวไม่ทัน”
“ไม่เป็นไรๆ ผมให้เวลาพี่คิดคืนนึงแล้วพรุ่งนี้ผมจะมาเอาคำตอบนะ”
ไอ้เด็กเกรียนบอกก่อนจะเดินเข้าบ้านหน้าตาเฉย ไอ้เด็กเวรรรรรรรร แกคิดจะโยนภาระเหรอว่ะ ไอ้เด็กบ้าเอ้ย


ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
อั๊ยยะ น้องเบสรุกเร็วจริง อะไรจริง ระวังคนแก่(กว่า)หัวใจวายนะน้องเอ๊ย 555

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ตอนพิเศษโคตร ผู้กองที่รัก หน้า 12-13 นะคะ จิ้มโลด

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=28796.360

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เบสรุกเร็วมากไปมั้ย
เดี๋ยวพี่นะหัวใจวาย
แล้วจะอดได้ภรรยานะจ๊ะ :m20:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13
ตอน5

“พี่นะ ง่วงแระไปนอนเถอะพี่” คนที่นั่งหาวหวอดๆ บนโซฟา หันมาบอก

“ง่วงก็นอนสิ มาบอกทำไม”

“อ้าว ก็ผมอยากเข้านอนพร้อมพี่นิ ป่ะไปนอนกันเถอะ”

“หยุดนะเว้ย!!” ผมเบรกอีกคนทันที ดูจากสายตาแล้วมันไม่น่าไว้ใจน่ะครับ

“เอ๋า ทำไมอ่ะพี่เมื่อคืนยังนอนด้วยกันได้เลย”

“แต่วันนี้ไม่ได้เว้ย แกไปนอนโซฟาเลยไป๊”

“โด่พี่ กลัวไรอ่ะ ผมก็เป็นเกย์พี่ก็เปนเกย์ ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย” นั่นล่ะโว้ย ที่กลัวน่ะ

“ไม่ได้จะนอนไม่นอน ถ้าไม่นอนกลับไปนอนคนโดพี่ชายแกเลย” ผมยื่นคำขาด  เอาดิให้มันรู้ไปว่ามันจะกล้า

“ก็ได้ครับ นี่ถ้าไม่รักไม่ยอมทำตามนะเนี่ย”

เบสบอกก่อนก่อนจะล้มตัวลงนอน

“นี่ไปหยิบผ้าห่มกับหมอนเอาเองนะในตู้หน้าห้องแม่อ่ะ ”

“ฮั่นแน่ เป็นห่วงเค้าอ่ะดิ กลัวเค้าหนาวชิมิล่ะ เอางี้ดิตะเองก็ให้เค้าไปนอนกอดดิรับรองเค้าไม่หนาวหรอก”

“นอนไปเลยนะ ไอ้เด็กเวร”

ผมด่าก่อนจะวิ่งขึ้นห้องทันที ทำไมอยู่ใกล้ไอ้เด็กนี่แล้วใจมันสั่นแบบนี้เนี่ย นานมากแล้วนะที่ใจผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้ เฮ้อ


……………………………………………………………………………….


ก๊อกๆๆๆ

“พี่นะตื่นๆๆๆๆ”

“พี่นะตื่นได้แล้ว” เสียงดังโวยวายดังที่หน้าห้องทำให้ผมต้องจำใจตื่นด้วยความหงุดหงิด การนอนอันแสนสุขของผมทำไมต้องโดนขัดด้วยมารเกรียนด้วยเนี่ย

“อะไรของแกไอ้เบส จะนอนโว้ย” ผมเดินมาเปิดประตูเพราะทนเสียงเคาะไม่ไหว

“พี่จะนอนไม่ได้ พี่ต้องไปส่งผมที่โรงเรียนนะ”

“ทำไมต้องไปด้วย ไปบอกไอ้ตาร์ดิ ไปชิ่วๆ คนจะหลับจะนอน”

“ไม่อ่ะ ก็ผมอยากให้พี่ไปอ่ะ”

มันบอกก่อนจะทำหน้างอ น่ารักตายละแกน่ะ นีดี่นะที่มันยังไม่ลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้นน่ะ ไอ้เด็กโข่งเฮ้ย

“ไม่” คำเดียวสั้นๆ ได้ใจความที่สุด

“ไม่ได้ พี่ต้องไปลุกเลยเร็วๆ ผมให้เวลาพี่ 10นาที ถ้าเลยอย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ” ผมบอกก่อนจะทำตาเจ้าเล่ห์ เอ่อ ตกลงใครพี่ใครน้องเนี่ย สั่งยิ่งกว่าพ่ออีก

ฟอดดดดดดดด เฮ้ย อะ ไอ้เด็กบ้านั่น มันหะ หอม แก้มผม

“แก้มพี่นะ หอมเนาะ ฮ่าๆๆ แหมชักไม่อยากไปโรงเรียนแล้วสิ”  ง่า ไอ้เด็กนี่มันอายุ 16 จริงๆใช่ไหม ทำไมแค่มันมองเฉยผมต้องหน้าร้อนขนาดนี้ด้วยเนี่ย

“พอเลย อีก10นาที เดี๋ยวไปส่ง”  ผมบอกก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำทันที  แต่ก็ต้องตกใจตอนที่เห็นหน้าตัวเองในกระจก อ๊ากก ทำไมมันแดงแบบเน้ ไม่นะไม่ ผมจะเขินไอ้เด็กนั่นทำไมเนี่ย


…………………………………………………………………………………….

ผมอยากจะบ้าตาย ไอ้นะมันบังคับให้ผมมาเป็นผู้ปกครองมันครับ  มันเห็นผมแก่ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย

“แน่ะ หน้างออีกแล้ว เป็นไรอีกอ่ะ” ไอ้เด็กเกรียนหันมาถามผม หลังจากที่ผมต้องทนนั่งฟัง ผอ หัวพระอาทิตย์ของโรงเรียนพล่ามมาสอง
ชั่วโมง น่าเบื่อโคตร แต่ไปไหนไม่ได้เพราะไอ้เด็กนี่ ขู่ไว้ว่า “ลุกหนึ่งครั้งหอมแก้มหนึ่งที” ใครมันจะกล้าลุก ผมยังไม่อยากโดนนินทาว่ากินเด็กนะ

“เปล่า”

“อ้าว งอนเหรอเนี่ย พี่งอนไรผมอ่ะ”

“ก็บอกว่าเปล่าไงว่ะ” เริ่มจะโมโหแล้ว เซ้าซี้อะไรเนี่ย

“ผมขอโทษแล้วกันที่ทำให้พี่ลำบากใจอ่ะ” พูดเฉยๆก็ได้ม้าง ทำไมต้องทำหน้ายังกะหมาโดนทิ้งแบบนั้นด้วยเนี่ย อย่านะไอ้นะ อย่า
ใจอ่อนเด็ดขาดนะ

“เออๆ พี่ไม่ได้โกรธแกหรอก พี่แค่เบื่อน่ะ” ยังไม่ทันขาดคำ เฮ้อ ใจอ่อนอีกแล้ว

“จริงเหรอ” ไอ้เด็กเกรียนเงยหน้ายิ้มแฉ่ง ง่า ไอ้เด็ก มารยา เอ้ย

“ไปเถอะ หิวแล้ว วันนี้ไม่มีเรียน ผมเลี้ยงพี่เอง” พูดเอง เออเอง แล้วก็ลากผมไปเองโดยไม่รอจังหวะให้ผมตอบสักนิด

“นี่เบส พี่ถามจริงๆนะ ทำไมต้องให้พี่ไปด้วยอ่ะวันนี้ พี่ไม่ใช่ผู้ปกครองแกซะหน่อย”

“ใครบอกว่าพี่ไม่ใช่ พี่น่ะ เป็นผู้ปกครองผมทั้งตัวและหัวใจเลย รู้ไหม” ไอ้เด็กเกรียนตอบหน้าตาเฉย
ส่วนผมก็ได้แต่ก้มหน้า จนแทบจะสิงโต๊ะอยู่แล้ว จะบอกยังไงว่ามันเขินอ่ะ


………………………………………………………………………………………………………….

 “พี่นะ ตื่นได้แล้ว” เสียงปลุกที่ผมได้ยินตลอดสองอาทิตย์ ดังขึ้น ตอน7โมงเช้าของทุกวัน ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมไม่รู้สึกรำคาญเสียงนี้ ทั้งๆที่บางวันผมไม่มีเรียนแต่ก็ตื่นทุกครั้งที่ไอ้เด็กเกรียนมาปลุก ดูไปดูมาเหมือนผมมีลูกเนาะ ต้องตื่นไปทำข้างเช้า(ที่ปกติไม่เคยกิน) สไปส่งมันที่โรงเรียน ตอนเย็นไปรับเป็นแบบนี้มาสองอาทิตย์แล้วครับ การอยู่กับไอ้เด็กเกรียนนี่มันก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่อย่างน้อยที่สุด เวลาที่พ่อกับแม่ผมไม่อยู่ ผมก็ไม่จำเป็นต้องกินข้าวคนเดียวอีก บ้านที่เคยเงียบก็มักจะมีเสียงไอ้เด็กเกรียนแหกปากโวยวายทุกครั้งที่ ผมทำเมินหรือไม่สนใจมัน บางทีชีวิตที่มีมันก็สนุกไปอีกแบบนะ

“พี่นะเป็นบ้าเหรอ เดินยิ้มมาคนเดียวน่ะ”

“ปากแบบนี้ เอาตะหลิวตบปากสักทีดีไหมว่ะ”

“อย่าน๊า เค้ากลัวแล้วอ่ะตะเอง”  ไอ้เด็กเกรียนทำท่ากลัวได้น่าถีบมาก

ผมลงมือทำข้างเช้าง่ายๆทันที ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ข้ามต้มหมูธรรมดาๆ เนี่ยแระ ง่ายดี

“นี่พี่นะ เราสองคนเหมือนคนเพิ่งแงงานเลยเนาะ” ไอ้เด็กเกรียนพูดขึ้น เล่นเอามันตกใจจนเกือบหัวทิ่มหม้อเลยล่ะ

“อะ ไอ้เด็กบ้า พูดไรเพ้อเจ้อ”  ใจเย็นไอ้นะ ใจเย็นท่องไว้ๆ อย่าเชื่อๆ

“เขินอ่ะดิ๊ อิอิ รู้ทันหรอก”

“กินเข้าไปแล้ว หุบปากซะ” ผมบอกก่อนจะวางชามข้าวต้มลง พลางตั้งหน้าตั้งตาซัดส่วนของตัวเองอย่าเอาเป็นเอาตาย

“เออพี่ ป้านีโทรมาบอกว่าจะอยู่เที่ยวต่ออีกสองอาทิตย์นะ”

“อืม” ผมพยักหน้ารับรู้ ชินซะแล้วล่ะครับ สองคนนี้เป็นแบบนี้ประจำชอบหายตัวไปเที่ยวทีนึงเป็นเดือนๆ กลับมาค่อยมาเปิดร้าน คิดไปคิดมาเหมือนแกจะขายข้าวมันไก่เป็นงานอดิเรกซะมากกว่านะครับ ส่วนเรื่องทำไมแม่ผมบอกไอ้เบสนะเหรอ อันนี้ก้ชินอีกเหมือนกัน แม่ผมน่ะหลงไอ้เบสขนาดหนักนี่ขนาดยังไม่เจอหน้านะ ลูกเบสยังนั้นลูกเบสอย่างนี้ ส่วนลูกจริงๆนะเหรอ ตอกระป๋องไปตามระเบียบ เชอะ ได้ไหมแล้วลืมเก่า

“เอ่อ พี่นะเย็นนี้ว่างไหม”

“ทำไม”

“ตอบมาแค่ว่างหรือไม่ว่างได้ไหมเล่า” สั่งจริง ตกลงมันยังเห็นผมเป็นพี่ไหมเนี่ย

“ว่าง ทำไมมีอะไรครับน้อง”

“คือไปดูหนังเป็นเพื่อนหน่อยดิ”

“หือ”

“ตามนั้นนะ ผมไปล่ะไม่ต้องไปส่งนะ ผมจะไปกับเพื่อน” นั่นเอง พูดเอง เออเอง ตอบเอง ตกลงเอง เสร็จแล้วจะถามเพื่อ

…………………………………………………………………….

ตกเย็นผมก็โดนไอ้เด็กเกรียนลากมาที่โรงหนังท่ามกลางสายตาล้อๆของ ไอ้เพื่อทั้งสามตัวที่พร้อมใจกันไม่ว่างซะอย่างงั้น โคตรจะรักผมเลย ปล่อยผมมากับไอ้เด็กเจ้าเล่ห์นี่ตามลำพังได้ยังไง

“พี่ดูเรื่องไรอ่ะ”

“แกเลี้ยงนิ ดูอะไรก็เลือกมาสักเรื่องเหอะ” จริงๆคือถึงเลือกไปมันก็เลือกเองอยู่ดี

“งั้นพี่รอตรงนี้นะ เดี๋ยวผมไปซื้อตั๋วแปป”

ผมได้แต่นั่งเซ็งที่หน้าโรงหนัง เฮ้อ คนจะเยอะไปไหนเนี่ย วันๆไม่มีอะไรทำกันรึไง ถึงมาดูหนังกันเยอะขนาดนี้

“นะ” เสียงหนึ่งเรียก ก่อนที่ใครบางคนจะมายืนตรงหน้าผม

“ต้น”  ผมพูดเสียงเบาจนแทบจะเรียกว่าครางมากกว่า  ผมได้ยินเสียงหัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ แรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว
ความรู้สึกที่ผมเคยคิดว่าผมลืมมันไปแล้วทำไมมันกลับชัดเจนขึ้นมาได้นะ

“นะมาดูหนังเหรอ” ต้นถามผม

“อืม”

“อะไรเนี่ยไม่เจอกันแค่สองปี นะกลายเป็นคนพูดน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่” ต้นพูดล้อๆ ก่อนจะยิ้มให้ผม รอยยิ้มที่ผมไม่คิดว่าชาตินี้ผมจะได้เห็น
มันอีก รอยยิ้มของเขา คนที่ทำให้ผมรู้จักคำว่า “รัก” จากความใกล้ชิด แล้วก็ “ความเจ็บปวด” จากการจากลา ใช่ครับ ต้นเป็นแฟนเก่าของผม จะเรียกว่าเป็นแฟนคนแรกก็คงไม่ผิดเราสองคน คบกันตอนที่เราอยู่ ม4 จนจบ ม6 ต้นต้องไปเรียนต่อเมืองนอก เพราะความห่างทำให้เราไม่ได้เจอกันและผม ก็เคยคาดคิดว่าเราจะได้เจอกัน

“พี่นะได้ตั๋วแล้วนะพี่” ไอ้เด็กเกรียนเดินมาบอกก่อนจะมองต้นไม่วางตา

“ใครเหรอนะหรือว่า..”

“ไม่ใช่อย่างที่ต้นคิดหรอก นี่น้องไอ้ตาร์มัน” ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ผมตอบออกไปแบบนั้น แต่จิตใต้สำนึกผมสั่งให้พูดออกไป

“นะ ต้นขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม” ต้นหันมาบอกผม

“อืม”

ผมตอบก่อนจะเดินตามต้นออกไป



ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10

ออฟไลน์ pita

  • ขอเพียงกล้าทำตามฝัน จะล้มบ้าง ลุกบ้าง ช่างมันปะไร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +328/-13

ตอน6
ผมกลับมาหลังจากที่คุยกับต้นเสร็จไม่มีกะจิตกะใจจะไปนั่งดูหนังหรอกครับ ป่านนี้ไอ้เด็กเกรียนนั่นคงจะดูหนังอยู่ละมั้งเพราะกว่าผมกับต้นจะคุยกันเสร็จหนังก็ฉายไปเกือบ15นาทีแล้ว
คลิ๊ก  เสียงเปิดประตูหน้าบ้าน บ่งบอกว่าผู้ร่วมบ้านอีกคนกลับมาแล้ว
“ไง หนังสนุกไหม” ผมทัก
“ไม่รู้สิ ไม่ได้ดู” ไอ้เบสตอบ แต่ผมว่าเสียงมันดูเหมือนหงุดหงิดอยู่นะ
“อ้าวทำไม่ดูล่ะ ไหนบอกอยากดูนักอยากดูหนาไง”
“ไม่มีอารมณ์” บอกเสร็จก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟาทันที เป็นอะไรของเค้าอีกเนี่ย เฮ้อ


ตอนเช้าผมงัวเงียตื่นขึ้นมาโดยที่ไม่มีเสียงปลุก เหลือบดูนาฬิกาก็ปาไป 9โมงกว่าแล้ว ตายหอง แล้วไอ้เด็กนั่นมันตื่นยังว่ะเนี่ย ผมรีบวิ่งลงไปชั้นล่างทันทีเผื่อว่าไอ้เด็กเกรียนจะยังไม่ตื่น แต่ผมก็เจอแค่โน้ตที่แปะอยู่หน้าจอทีวี บอกว่าจะโรงเรียนเอง เป็นไรของเค้าเนี่ย ช่างเถอะ ไหนๆวันนี้ก็ไม่มีเรียน นอนดีกว่า
ปริ๊นๆ  เสียงแตรรถที่ดังขึ้นหน้าบ้านทำให้ผมรีบวิ่งออกไปดูทันที ก่อนที่ ร่างสูงของใครบางคนจะเดินลงมา
“อ้าวต้น มาแต่เช้าเลยนะ”
“อ้าว ทำไมอ่ะเดี๋ยวนี้ต้นมาหานะแต่เช้าไม่ได้เหรอ” อีกคนถามเสียงนี่จะน้อยใจไปไหน
“เปล่าคร้าบ สำหรับต้นมาหาตอนไหนก็ได้ ว่าแต่วันนี้มีอะไรหรือเปล่า”
“จะมาชวนนะไปเที่ยวน่ะ ไปด้วยกันนะ”
“อืม ได้ดิ วันนี้ไม่มีเรียน รอแปปนะแต่งตัวก่อน”
“รับทราบครับ” ต้นตอบก่อนจะยิ้มจนตาหยี ซึ่งมันน่ารักมาก ฮ่าๆๆ คนหล่อมาทำอะไรแบบนี้มันก็น่ารักดีนะครับ

(ภาคเบส)
ผมยืนมองคนสองคนที่ยืนหัวร่อต่อกระซิกกันที่หน้าบ้านพลางกำมือแน่น ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมโกรธจนแทบจะเดินเข้าไปต่อยหน้าไอ้นั่นแล้ว ดีที่เพื่อนผมช่วยลากผมออกมาได้ทัน
“ปล่อยกูดิพี่ มึงจับกูทำไมว่ะ”
“เชี่ยเบส มึงจะบ้าเหรอ  มึงจะทำอะไรว่ะ”
“กูจะไปต่อยมัน”
“ต่อยเหรอ เชี่ย มึงนี่หล่อแต่โง่จริงๆเลยเว้ย มึงไปต่อยเขาแล้วมึงิดว่าพี่นะจะเข้าข้างมึงเหรอ ฟายเอ้ย ทำอะไรหัดใช้สมองซะบ้าง” ไอ้พีเตือน แต่จริงเหมือนโดนด่าว่าโง่มากกว่านะ
“แมร่งเอ้ย” ผมสบถ ก่อนจะเตะกำแพงระบายอารมณ์
“เอาน่าใจเย็น มึงเคยได้ยินไหม รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งน่ะ”
“ไม่ต้องเก๊ก มีแผนอะไรว่ามา” ผมบอกก่อนจะ ตบเกรียนมันด้วยความรัก
“เชี่ยนิ แผนเหรอตอนนี้กูยังคิดไม่ออกลองโทรถามพี่ชายจอมกระล่อนของมึงดิ รายนั้นแผนเยอะนิ” ไอ้พีแนะนำ อืม ใช่นี่ผมลืมกีตาร์พี่ชายสุดที่รักของผมได้ไงเนี่ย  ว่าแล้วก็โทรหาเลยดีกว่า
“ฮัลโหล กีตาร์อยู่ไหนอ่ะ” 
“คอนโด มีไร ทะเลาะกะเมียมาอีกอะดิ ถ้าจะให้ไปช่วยง้ออีกไม่ยุ่งแล้วนะเว้ย” แหม รักน้องมากไอ้พี่เวรเนี่ย
“เออน่า เดี๋ยวไปหา ไปถึงแล้วจะเล่าให้ฟัง” ผมบอกก่อนจะวางสายทันที

……………………………………………………………………………….
“ว่าไงนะ ไอ้นะมีชู้” กีตาร์ตะโกน ก่อนจะทำหน้าไม่เชื่อสุดๆ
“ก็เออดิ ไม่งั้นจะมานั่งกลุ้มอยู่แบบนี้เหรอ”
“ปัญหาในครอบครัวพี่ไม่อยากยุ่งว่ะไอ้น้อง” กีตาร์บอก
“โถ่เอ้ย คนเห็นแก่ตัว” เสียงที่สาม พูดขึ้นลอยๆเป็นใครไม่ได้นอกจากไอ้พี
“อ้าว ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับน้องพี” กีตาร์หันไปยิ้มหวายให้ไอ้พี ผมบอกยังว่ากีตาร์มันตามจีบไอ้พีอยู่ ฮ่าๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะครับ
“อย่ามายิ้ม ขนลุก ไปไกลๆเลยไป” ไอ้นี่ก็ห้าวเกินตัวอย่างกะลูกหมาถ้ากีตาร์คิดจะปล้ำจริงๆ ไม่รอดหรอกครับ
“เฮ้ยจะจีบกันอีกนานไหม คนยิ่งกลุ้มๆอยู่”
“เออโทษทีว่ะไอ้น้องรัก พอดีว่า ความรักมันบังตาน่ะ”
“แหว่ะ” ไอ้พีทำหน้าคลื่นไส้ทันที อันที่จริงมันก็ไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ ไม่น่าเชื่อว่ากีตาร์จะเสี่ยวแดกได้ขนาดนี้
“พอๆๆ เออ กีตาร์พี่พอจะรู้จักไอ้คนที่ชื่อ ต้น อะไรนั่นไหม”
“อือ ต้นเหรอ ใช่ไอ้คนที่ตัวสูงๆ ผิวเข้มๆ หน้าหล่อๆใช่ไหม”
“อืม” ผมพยักหน้า
“ซวยแล้วล่ะไอ้เบส น้องรัก”
“ทำไมต้องซวย” ไม่เข้าใจ ไอ้คนที่ชื่อต้นมันเป็นใครกันแน่ว่ะเนี่ย
“ก็ไอ้ต้นน่ะมันเป็นแฟนไอ้นะ น่ะสิ”
“แฟน /แฟน” ผมกับไอ้พี ตะโกนแทบจะพร้อมกันไหนกีตาร์บอกว่าพี่นะโสดไง
“คืองี้นะน้องรัก อ้อ ที่รักด้วยนะครับ ไอ้ต้นน่ะมันคบกับไอ้นะ ตอนม 4 แต่พอ ม6 มันต้องไปเรียนต่อเมืองนอกแล้วก็ไม่เคยติดต่อมาหาไอ้นะอีกเลย ไอ้นะมันก็เลยคิดว่าไอ้ต้นน่ะมีแฟนใหม่แล้ว แต่จริงๆจะว่าไปมันสองคนก็ยังไม่ได้เลิกกันนะ แค่ห่างกันเฉย”
“แมร่ง” ผมกำหมัดแน่น เห็นพี่นะเป็นตัวอะไรว่ะ คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไปงั้นเหรอ เชี่ยเอ้ย แต่ที่ผมโกรธคือโกรธพี่นะมากกว่าทั้งๆที่รู้ว่าไอ้ต้นมันทิ้งไปตั้งสองปีแล้วยังจะกลับไปคืนดีกับมันอีก
“ตัดใจซะเถอะไอ้น้อง ไอ้นะน่ะมันรักไอ้ต้นมากเลยนะ”
……………………………………………………………………………………………………..
“ขอบคุณนะต้นที่มาส่ง” ผมบอกลาอีกคนก่อนจะเข้าบ้านไป
“ทำไมบ้านมันมืดจังเนี่ย ไอ้เด็กเกรียนนั่นมันไปไหนว่ะ”  ผมบ่นไปตามเรื่อง
“กลับมาแล้วเหรอ” ไอ้เด็กเกรียนทักขึ้น
“เฮ้ย ทำไมไม่เปิดไฟว่ะ”
“ไม่อยากเปิด จะทำไม”  ดูคำตอบมัน เกรียนได้อีก เฮ้อ ไปนอนดีกว่า เหนื่อย
ผมเดินเลี่ยงเพื่อจะเดินไปอาบน้ำ แต่ถูกอีกคนฉุดมือไว้ก่อน
“เดี๋ยว ” คำเดียวสั้น ก่อนจะลากผมไปนั่งที่โซฟา ใจคอมันจะไม่พูดอะไรเลยเหรอว่ะเนี่ย มาถึงก็ลากๆๆๆ โด่ คนนะเว้ย ในขณะที่ผมกำลังด่ามันในใจ เสียงกีตาร์แผ่วๆก็ดังขึ้น เอ่อ มันไปเอามาตอนไหนว่ะ
ที่คบกันตลอดมา ไม่รู้เลย ฉันคิดไปเองไหม
ไม่เห็นเธอเคยบอกฉัน สักครั้งเลย
ว่าคิดกันแบบไหน

เธอว่าฉันไม่ค่อยใส่ใจ
พอฉันแคร์ เธอก็บอกว่าอย่ามากไป

บอกกันทีว่าคนคนนี้ ควรอยู่ตรงไหน
ในหัวใจเธอ หรือแค่เพื่อนกัน
บอกตามตรงยังคงสับสน ระหว่างเรานั้น
เป็นได้แค่ไหนกัน ให้รู้เลยได้ไหม
จะให้ยืนข้างเธอแบบคนรัก
หรือมีค่าแค่คนทั่วไป   บอกฉันให้มันชัดที

ไม่รักก็แค่บอกมา ให้รู้ตัว เดี๋ยวฉันมัวแต่ฝัน
หลายเรื่องที่ทำด้วยกัน ฉันคิดไกล
รู้ไหมมันสับสน

เธอว่าฉันสำคัญกว่าใคร
แต่เอาจริงจริง เธอก็ไม่เคยใส่ใจ

บอกกันทีว่าคนคนนี้ ควรอยู่ตรงไหน
ในหัวใจเธอ หรือแค่เพื่อนกัน
บอกตามตรงยังคงสับสน ระหว่างเรานั้น
เป็นได้แค่ไหนกัน ให้รู้เลยได้ไหม
จะให้ยืนข้างเธอแบบคนรัก
หรือมีค่าแค่คนทั่วไป   บอกฉันให้มันชัดที

“พี่นะ ผมรู้ว่าพี่รู้ว่าผมรู้สึกยังไง แต่ที่ผมไม่รู้คือพี่รู้สึกยังไงกันแน่” คำถามที่ส่งมาพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสน ทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก ผมไม่รู่ว่าจะต้องพูดอะไร เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนว่าที่เป็นอยู่มันคืออะไร
“พี่ พี่ไม่รู้” ผมตอบ อาจจะดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่ผมไม่รู้จริงๆ ทุกอย่างมันเร็วเกินไป เร็วจนผมตั้งตัวไม่ทัน
“ช่างเถอะ ผมจะย้ายกลับไปอยู่กับกีตาร์นะ” ไอ้เด็กเกรียนบอก เอ๊ะหรือมันจะแกล้งอีกหว่า
“พี่ ….ขอโทษ”
“แต่ผมจะตัดใจหรอกนะ สำหรับผม พี่สำคัญเสมอ ผมรอพี่ได้ ต่อให้นานแค่ไหนผมก็จะรอ” ไอ้เด็กเกรียนบอกก่อนจะเดินออกจากบ้านไป 






ออฟไลน์ badcow

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-10
สมัยโบราณเค้าจะเรียกว่านางวันทองสองใจนะ นะ!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด