ตอนพิเศษ...ลูกสะใภ้(แบบไม่รู้ตัว) : นอส x ตะวัน
“ต๊าย! วันนี้ลูกชายคุณแม่อยู่บ้านด้วยหรือคะเนี่ย” เสียงแม่ตื่นเต้นดีใจมาแต่ไกลเล่นเอาขำ ผมวางหนังสือเคล็ดลับการเลี้ยงแมวไว้บนโต๊ะแล้วหันไปยิ้มหล่อให้คุณหญิงนุศราที่เดินเฉิดฉายมานั่งเบียดผมในห้องนั่งเล่น ผมจึงล้มตัวลงนอนหนุนตักเป็นการอ้อนเอาใจ
“โธ่แม่ครับ นอสก็อยากอยู่กับแม่บ้างอะไรบ้าง”
“อย่ามาทำเป็นปากหวานหน่อยเลยย๊ะ! โดนหนูตะวันไล่ออกจากบ้านเขารึเปล่าเนี่ย” แม่ก้มถามด้วยความกังวล ผมยิ้มบางจับมืออบอุ่นขึ้นมาจูบ
“เปล่าครับ วันนี้นอสอยากคุยกับแม่”
“หืม? บอกหนูตะวันไปแล้วหรอ?” แม่ตาโตตื่นเต้นตกใจ ผมรีบส่ายหัวปฏิเสธทันทีก่อนที่แม่จะคิดไปไกลมากกว่านี้
“ยังหรอกครับ นอส...ยังไม่กล้า”
“เจ้าลูกคนนี้นี่! โดนคนอื่นคาบไปอย่ามาร้องไห้งอแงให้เห็นเชียว”
“โธ่แม่ครับ มันไม่ง่ายอย่างที่แม่คิดนะ” ผมถอยหายใจหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน เรื่องบอกรักตะวันทำเอาผมคิดไม่ตกมาเป็นปีๆ ทั้งกลัวการเปลี่ยนแปลงและกลัวคนอื่นจะแย่งสุดที่รักของผมไป
“ลูกนอส...ลูกยังไม่ลองทำเลยแล้วจะรู้ได้ยังไงว่ามันยากหรือง่าย”
“แต่นอสกลัว...” ผมพึมพำกับฝ่ามือที่คอยอุ้มชูมาตั้งแต่เกิด แม่ยิ้มอ่อนโยนให้ก่อนที่จะลูบหัวผมแผ่วเบา
“ความกลัวไม่เคยให้ผลดีต่อใครหรอกนะลูก ลูกกลัวที่จะสูญเสียตะวันไป แต่ถ้าลูกไม่พูด...แล้วมีคนอื่นเข้ามาแย่งตะวัน ถึงตอนนั้นลูกจะเสียใจกว่าตอนนี้ไหมคะ?”
ผมนิ่งคิดตามคำพูดของแม่ ในใจแบ่งแยกเป็นสองฝ่ายจนสับสนไปหมด
ถ้าผมบอกออกไปแล้วตะวันไม่โอเค.....ความสัมพันธ์ของเราจะเป็นยังไง
แต่ถ้าผมไม่บอกให้ตะวันรู้แล้วมีคนอื่นเข้ามา.....ผมคงทนไม่ได้ที่จะเห็นตะวันไปเป็นของคนอื่น
.....ไม่ว่าทางไหนผมก็ทำใจยอมรับไม่ได้ทั้งนั้น.....“แม่...เสียใจไหมครับที่นอสรักตะวัน”
“เอาอีกแล้วนะเจ้าลูกคนนี้!” แม่ดีดหน้าผากผมเป็นการลงโทษ “แม่เคยบอกลูกแล้วใช่ไหมว่าแม่รักนอส และแม่ก็รักคนที่นอสรัก ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นเพศไหน แต่ถ้าลูกของแม่รักเขา...แม่ก็พร้อมที่จะรักคนคนนั้นด้วยเช่นกัน”
ผมพยักหน้าให้กับคำพูดแม่.....สามปีที่ผ่านมาผมเฝ้าถามคำถามนี้กับแม่มาตลอดตั้งแต่ที่รู้ตัวว่าตัวเองชอบผู้ชาย ครั้งแรกที่บอกออกไปพ่อกับแม่ทำได้แค่มองหน้าผมนิ่งๆและมองหน้ากันเอง ผมรู้ว่าพวกท่านอาจจะผิดหวังบ้างที่ลูกชายคนเดียวของตระกูลรักชอบผู้ชายด้วยกัน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปนานเป็นปีและผมก็ยังคงรักตะวันอยู่ พวกท่านจึงรู้ว่าความรู้สึกของผมนั้นคือรักไม่ใช่หลง
และเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่กลายเป็นพ่อกับแม่ผมซะเองที่ถามหาตะวันไม่ขาดปาก
“ขอบคุณนะครับแม่ นอสรักแม่ที่สุดเลย” ผมลุกขึ้นกอดคุณหญิงนุศราและหอมแก้มแรงๆจนแม่หัวเราะ
“ย๊ะ! วันไหนรักหนูตะวันมากกว่าแม่แล้วล่ะก็เจอดีแน่ๆ”
“โธ่แม่ครับ มันคนละคนกันหน่า.....งั้นเย็นนี้นอสไปรับตะวันมาทานข้าวที่บ้านเรานะครับ”
“ดีมาก แม่คิดถึงหนูตะวันอยู่พอดี คุณพ่อก็เพิ่งบ่นถึงอยู่เมื่อเช้านี่เอง.....ว่าแต่เจ้าซันชายมันดื้อหรือลูก ถึงต้องพึ่งหนังสือเคล็ดลับเลี้ยงแมวอะไรนี่” แม่ถามขึ้นพร้อมกับหยิบหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเปิดอ่าน
ผมยิ้มขำก่อนที่จะนึกไปถึงคนที่ทำให้ผมต้องพึ่งหนังสือเล่มนี้.....
“เจ้าแมวเหมียวที่ชื่อตะวันต่างหากล่ะครับแม่ที่ดื้อ...สงสัยต้องใช้เคล็ดลับในหนังสือนี้มัดใจซะหน่อยแล้ว”Sex Syndrome ● ขอโทษที...ที่ผมติด “เซ็กส์”
ผมนอนเหยียดขาอยู่บนโซฟา...หูฟังเสียงในโทรทัศน์แต่ตามองคนที่กำลังก้มๆเงยๆกวาดบ้าน หลังจากที่ปรับทุกข์กับคุณหญิงนุศราเสร็จผมก็รีบบึ่งรถมาบ้านเจ้าแมวเหมียวจอมดื้อทันที แอบยิ้มดีใจแก้มแทบแตกตอนที่ตะวันเปิดประตูให้แล้วบ่นงุ้งงิ้งว่ามาหาช้า
จริงๆแล้วก็คิดถึงผมอยู่เหมือนกันล่ะสิ หึหึ
เสียงเพลงหวานๆที่อีกคนพึมพำออกมาเรียกรอยยิ้มจากผมได้เป็นอย่างดี ชุดนอนตัวเก่งที่เสื้อย้วยเห็นไปถึงไหนต่อไหนเวลาที่ตะวันก้มกวาดพื้นเล่นเอาผมแอบกลืนน้ำลาย แต่เหมือนอีกคนจะรู้ตัวจึงหันมาส่งสายตาดุใส่แถมยังเอาไม้กวาดชี้หน้าคาดโทษอีกด้วย
“มองอะไร!”
“เปล๊า”
“ลามก!”
“ลามกอะไรเล่า”
“มองนมเค้า” ตะวันพึมพำแก้มแดง ผมหัวเราะขำก่อนที่จะถอนหายใจผ่อนคลายความตึงเครียดของลูกชาย
ก็นะ.....เล่นพูดคำนั้นด้วยสีหน้าแบบนั้น ใครมันจะสะกดอารมณ์หื่นเอาไว้ไหว
ตะวันแลบลิ้นใส่ก่อนที่จะย้ายตัวเองเข้าห้องครัว แม้ว่าผมจะบอกไปว่าทานอาหารเช้ามาจากที่บ้านแล้ว แต่คิดหรอว่าแมวเหมียวดื้อๆตัวนี้จะยอม
“Coffee or Tea?” ตะวันชะโงกหน้าถาม พร้อมกับหัวเราะคิกคักให้กับตัวเองที่สปีกอิงลิชใส่ผม
“Your milk, please”
“Ugly!!” เจ้าของนมชมพูที่ผมแอบเห็นตวาดแว้ดก่อนที่จะผลุบหายเข้าไปในครัวอีกรอบ ทันได้เห็นแก้มกลมๆนั้นขึ้นสีแดงเรื่อแล้วมีความสุขดีจัง
ไม่นานไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปังปิ้งก็ส่งกลิ่นหอมลอยมาให้กระเพาะผมร้องเล่น ตะวันเดินยิ้มแฉ่งถือจานอาหารเช้าออกมาวางที่โต๊ะหน้าทีวี ผมจึงต้องลุกขึ้นนั่งก่อนที่จะโดนแม่แมวขู่ฟ่อโทษฐานนอนกิน
“ยังอิ่มอยู่เลย” ผมแกล้งบ่นเหมือนไม่อยากกิน ตะวันหุบยิ้มตวัดตามองฉับ
.....น่ากลัวเป็นบ้า!.....“งั้นก็ไม่ต้องกิน เราเอาไปให้พี่บุ๊คกินก็ได้” ตะวันกระแทกเสียงพร้อมกับทำท่าจะยกจานไปให้ไอ้พี่ข้างบ้านหน้าตาเจ้าเล่ห์ ผมรีบลุกพรวดงอนง้ออีกคนทันที
“ขอโทษคร้าบ~ เราล้อเล่น ตะวันอย่างอนนะ”
“ชอบแกล้งเราอยู่เรื่อย เดี๋ยวเถอะ จะให้กินอาหารเจ้าซันชายแทน!”
“อูย...กลัวแล้วจ๊ะ กลัวแล้วๆ”
ผมยอมนั่งลงกินอาหารเช้าของตะวันแต่โดยดี กวาดเกลี้ยงซะไม่เหลือแม้แต่ซอสพริก ตะวันยิ้มแก้มปริอารมณ์ดีขึ้นมาทันตาเห็น
.....ไม่ว่าเมื่อไหร่รอยยิ้มของตะวันก็ทำให้ใจผมเต้นได้ไม่เป็นจังหวะทุกที.....
“ตะวันไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวตอนเย็นไปกินข้าวที่บ้านกัน พ่อกับแม่บ่นคิดถึงน่ะ”
“น้องนิวอยู่รึเปล่า?” เด็กหญิงนิว น้องสาวคนเล็กของผมเองครับ นักเรียนม.หนึ่งลูกหลงของบ้าน แต่นิสัยน่ารักน่าเอ็นดูจนมัดใจตะวันซะจนอยู่หมัด
“ไปเข้าค่ายน่ะ แต่เห็นว่ากลับมาวันนี้ น่าจะได้เจอ”
“ดีใจจัง คิดถึงน้องนิวจะแย่”
“แล้วกับน้องนอสล่ะครับ พี่ตะวันคิดถึงรึเปล่า” ผมแกล้งทำตัวปัญญาอ่อนแซวตะวัน เจ้าเหมียวจอมดื้อตีหน้ายุ่งส่ายหัวระอาแล้วเดินหนีผมขึ้นห้องไปอาบน้ำ
รู้หรอกหน่าว่าเขิน...แก้มแดงซะขนาดนั้น หึหึ.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมพาตะวันไปซื้อของในห้างเพราะรายนั้นบ่นว่าอยากได้ของเล่นแมวไปฝากลูกชาย และอยากซื้อขนมอร่อยๆไปฝากน้องนิวด้วย คิดแล้วก็มีความสุขนะครับที่ตะวันรักคนในครอบครัวผม...มีแววเป็นลูกสะใภ้ที่ดีจริงๆ
เพราะวันนี้เป็นวันหยุดคนในห้างจึงเยอะเป็นพิเศษ ปกติเวลาผมเดินกับตะวันจะแค่กอดคอเหมือนเพื่อนชายทั่วไปแต่ก็แฝงความหวงไปทางสายตา ใครที่มองตะวันเกินความชื่นชมรับรองเจอเจ้าของแมวเหมียวจิกตาใส่แน่นอน
ตะวันลากผมขึ้นไปชั้นของเล่นแล้วลากลงมาซื้อขนมที่ซุปเปอร์ด้านล่าง ยืนเถียงกันอยู่ซักพักเรื่องจ่ายเงินเพราะอีกคนไม่ยอมให้ผมออกให้ เอาแต่ยืนกรานอย่างเดียวว่ามันเป็นของฝากจากตะวัน ถ้าผมจ่ายแล้วมันจะเป็นของตะวันได้ยังไง
เอาวะ ว่าไงว่าตามกัน!
“เดี๋ยวเราไปช่วยป้าผึ้งทำอาหารในครัวนะ”
“ไม่ต้องหรอก ไปเล่นกับน้องนิวกับเจ้าซันชายเถอะ โทรมาจิกจนโทรศัพท์เราจะพังแล้วเนี่ย” ผมชูโทรศัพท์ที่มีสายเข้าจากน้องนิวให้ตะวันดู ทั้งๆที่ตอนนี้เราอยู่หน้าบ้านกันแล้วแต่น้องนิวก็ยังโทรจิกให้รีบมาไม่รู้ตั้งกี่รอบ
พอเอารถเข้าบ้านจอดสนิทปุ๊บอีกคนก็รีบเปิดประตูพุ่งลงจากรถทันที ผมได้ยินเสียงวี๊ดว๊ายด้วยความดีใจดังมาจากในบ้าน น้าไม้คนขับรถยิ้มแซวผมอย่างรู้ทัน
เดินเข้ามาในบ้านก็เห็นตะวันยืนกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่กับน้องนิว มีพ่อกับแม่ยืนหัวเราะอยู่ข้างๆ น้องสาวตัวแสบที่ไม่ได้เจอพี่ชายอย่างผมเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แทบจะไม่หันมาเหลียวมองกันเลย
.....มันน่าน้อยใจนะเนี่ย!.....“กอดกันอยู่นั่นแหละ”
“พี่นอสอิจฉาน้องนิวใช่ไหมล่ะ”
“อะไร ทำไมต้องอิจฉา พี่นอสก็กอดพี่ตะวันได้เหอะ”
“แต่น้องนิวหอมแก้มพี่ตะวันได้ด้วย” ว่าแล้วเด็กแสบก็เขย่งตัวจุ๊บแก้มสุดที่รักผมทันที ตะวันหัวเราะคิกคักแล้วก้มตัวลงหอมแก้มน้องนิวคืน “เห็นป่ะ พี่นอสทำแบบนี้ไม่ได้หรอก”
เออ! อิจฉาก็ได้วะ!
“เดี๋ยวก็จูบโชว์ซะเลย...”
“นอส!” ตะวันเอ็ดผมเสียงเบา แก้มแดงด้วยความเขินทำพ่อแม่ผมขำ ผมยกมือยอมแพ้ก่อนที่จะอ้าแขนรับน้องนิวที่พุ่งเข้ามาสวมกอด
เราห้าคนยกขบวนไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น เจ้าซันชายวิ่งตัวกระเพื่อมส่งเสียงร้องลั่นทันทีที่ได้กลิ่นตะวัน แมวน้อยสองตัวนี้เจอกันทีไรเป็นต้องลืมสิ่งแวดล้อมรอบข้างทุกที
“ผ้าคาดจมูกล่ะตะวัน?”
“เอ๋? สงสัยลืมไว้ในรถแน่เลย เดี๋ยวเราไปเอาก่อนนะ”
“อยู่นี่แหละ เดี๋ยวเราไปเอาให้” ผมลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินไปเอาผ้าคาดจมูกให้ตะวันที่รถ เหลือบเห็นแม่ยิ้มแซวจ๋าแล้วต้องเกาท้ายทอยแก้เก้อ
หลังจากที่แม่ถามสารทุกข์สุขดิบตะวันจนพอใจ เราสองคนก็ขอตัวขึ้นห้องเพื่อหาเวลาส่วนตัวอยู่ด้วยกัน...จริงๆแล้วผมนี่แหละที่แอบเนียนแยกตะวันออกจากทุกคน
“น้องนิวขอเข้าไปเล่นด้วยสิ น้องนิวคิดถึงพี่ตะวัน”
“ค่อยก่อนนะน้องนิว พี่ตะวันเหนื่อย ให้พี่ตะวันพักก่อน” ผมบอกปัดน้องนิวอยู่ที่หน้าประตูห้อง ตะวันหันมาขมวดคิ้วใส่ผมอย่างไม่เข้าใจ ส่วนน้องนิวก็ยืนกอดอกหน้างอ
“พี่นอสจะทำอะไรพี่ตะวันน่ะ?”
“ชักจะแก่แดดใหญ่แล้วนะเรา” ผมผลักหัวน้องสาวจอมแสบเบาๆก่อนที่จะปิดประตูลง ตะวันมองหน้าผมอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรหันไปเล่นกับเจ้าซันชายลูกรักต่อ
ผมคลานขึ้นเตียงแล้วนอนแผ่ แอร์เย็นๆทำเอาผมชักจะง่วงขึ้นมาจริงๆ “ขึ้นมานั่งบนเตียงสิตะวัน” ผมบอกคนที่กำลังนั่งเล่นกับแมวที่พื้น ตะวันหันมายิ้มให้ก่อนที่จะอุ้มเจ้าซันชายขึ้นมาด้วย “เฮ้ยๆ ตะวันน่ะขึ้นเตียงได้ แต่ซันชายน่ะไม่ให้!”
“งั้นเราก็นั่งเล่นข้างล่าง”
“แต่.....”
“เราจะเล่นกับซันชาย” ตะวันอุ้มลูกรักแนบอกแล้วจ้องเขม็งมาที่ผมพร้อมกับพูดเสียงนิ่ง
.....เอาแล้วครับ พายุกำลังจะก่อตัวแล้วล่ะท่านผู้ชม!.....“เอ่อ...งั้นก็...ขึ้นมาทั้งคนทั้งแมวนั่นแหละจ๊ะ” ผมยอมตกลงเสียงอ่อย ตะวันเปลี่ยนโหมดยิ้มหวานก่อนที่จะอุ้มซันชายมาเล่นบนเตียงงุ้งงิ้งต่อไป
เห้อ.....แพ้ตลอดเลยล่ะกับคนนี้.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมสะลึมสะลือตื่นเพราะได้ยินเสียงพี่กุ้งแม่บ้านอีกคนมาเคาะประตูห้องปลุกไปให้กินมื้อเย็น เหลือบมองนาฬิกาก็เห็นว่าหกโมงเย็นแล้ว ผมรวบรวมสติก่อนที่จะรู้สึกหนักๆตรงช่วงอก ผงกหัวขึ้นมองก็เจอเจ้าก้อนอ้วนๆกลมๆนอนสบายอารมณ์อยู่บนอกผม
ส่วนแม่แมวอีกตัวกำลังนอนหลับตาพริ้มสบายซุกต้นแขนผมอยู่
ผมอมยิ้มน้อยๆกับภาพที่เห็น ตะวันคงจะเล่นกับซันชายจนหลับไปพร้อมกันทั้งแม่แมวลูกแมว แต่ใจจริงผมอยากให้เจ้าแมวสองตัวนี้สลับตำแหน่งกันมากกว่านะ
.....ให้ตะวันขึ้นมานอนบนอกผม ส่วนเจ้าซันชายลงไปนอนที่พื้นนู่นเลย!.....“ตะวัน.....ตื่นเถอะ ไปกินข้าวกัน”
“อือ.....” เจ้าแมวตัวใหญ่ครางฮือในลำคอ ผมกลั้นหัวเราะเมื่อลองเอานิ้วเขี่ยแก้มแล้วอีกคนมีปฏิกิริยาตอบกลับโดยการปัดมือผมออก
“หิวแล้ว.....” ผมก้มลงกระซิบข้างหูเจ้าแมวขี้เซา ตะวันกระพริบตาตื่นจังหวะเดียวกันกับที่เจ้าซันชายขยับตัวลงจากอกผมพอดี
ผมรีบผละตัวเองออกจากอีกคนเพราะกลัวโดนจับได้ว่ากำลังจะแอบลักหลับ ตะวันลุกขึ้นนั่งขยี้ตาตัวเองก่อนที่จะหันมามองผมที่นอนยิ้มหล่อให้
.....เกือบโดนจับได้แล้วไง!.....ล้างหน้าล้างตากันเสร็จเราสองคนก็เดินมึนๆงงๆลงมาจากห้อง ที่โบราณเขาว่าไว้ว่าอย่านอนช่วงหกโมงเย็นท่าจะจริง
“เอ้านั่งลูกนั่ง ตะวันมานั่งข้างแม่ดีกว่า” คุณหญิงนุศราเดินมาโฉบคนข้างตัวผมไปซะเฉยๆ น้องนิวเห็นแบบนั้นจึงรีบนั่งลงขนาบตะวันอีกข้างตัดหน้าผมอย่างตั้งใจ
“นี่มันที่นั่งพี่”
“แต่วันนี้น้องนิวจะนั่ง”
“ไปนั่งฝั่งคุณพ่อกับพี่สิ”
“ไม่เอา น้องนิวจะนั่งข้างพี่ตะวัน” น้องสาวตัวแสบกอดแขนตะวันแน่นไม่มีปล่อย คุณหญิงนุศราหัวเราะอารมณ์ดีก่อนที่จะเสียสละตัวเองมานั่งอีกฝั่งข้างคุณพ่อแทน
แล้วปล่อยให้ตะวันนั่งอีกฝั่งข้างคุณพ่อเหมือนกัน!!
ผมเหลือบมองตะวันที่ดูเกร็งๆที่ต้องนั่งกินข้าวข้างคุณพ่อ แต่เหมือนประมุขของบ้านจะไม่ได้คิดอะไรแถมยังดูท่าทางออกจะชอบอกชอบใจเสียด้วยซ้ำ
.....หรือว่าจะหลงความน่ารักของตะวันเข้าอีกคนแล้ว?.....“กินเยอะๆนะลูกตะวัน ดูซิไม่ได้มาหาแม่ตั้งนาน ผอมลงไปตั้งเยอะ” แม่ผมจัดการตักโน่นนี่ข้ามโต๊ะให้ตะวันอย่างเอาใจ ทั้งๆที่จริงนั่นมันหน้าที่ผมต่างหากเล่า!
“ช่วงนี้ตะวันไม่ค่อยว่างน่ะครับ ต้องปั่นโปรเจ็คส่ง”
“น้องนิวคิดถึงพี่ตะวันม๊ากมาก ขอพี่นอสให้พาไปหาพี่ตะวันที่บ้านแต่พี่นอสไม่ยอม” น้องนิวฟ้องตะวันรัว เจ้าน้องสาวตัวแสบหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผมจนน่าหมั่นไส้
“จะไปทำไม ไปก็จุ้นเปล่าๆ”
“ทำเป็นว่าเค้า พี่นอสจะจู๋จี๋กับพี่ตะวันสองคนก็บอกเถอะ!”
แกร๊ง!ผมเผลอทำช้อนหลุดมือจนพ่อหลุดขำ ตะวันที่กลายเป็นตัวเอกของหัวข้อสนทนาทำแค่เพียงหัวเราะคิกคักแก้มแดงเรื่อ
คง.....ไม่ได้เอะใจอะไรหรอกนะผมส่งสายตาจิกกัดไปให้น้องนิว เด็กแสบทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้แล้วหันไปคุยจ้อกับตะวันต่อไม่สนใจผม
“คุณแม่ขา...น้องนิวอยากได้พี่ตะวันเป็นพี่สะใภ้”
“เฮ้ย!” คราวนี้ผมทิ้งช้อนและตะโกนขึ้นมาจนพ่อหันมามองตาเขียว ผมรีบขอโทษขอโพยท่านแล้วยื่นเท้าไปสะกิดน้องนิวให้หยุดพล่าม
“อะไรเล่าพี่นอส ก็น้องนิวชอบพี่ตะวันนี่นา”
“แม่ก็ชอบค่ะน้องนิว พี่ตะวันน่ารัก แม่อยากได้มาเป็นลูกชายอีกคน หรือนอสว่าไง” แม่หันมาถามผมยิ้มๆ ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้ผมกู้
ผมเหลือบมองตะวันที่ตอนนี้รวบช้อนเรียบร้อยแล้วและกำลังนั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาแก้มแดง จากคนร่าเริงกลายเป็นแมวเชื่องๆสงบปากสงบคำขึ้นมาทันที
“พ่อก็ชอบนะนอส งั้นเราไปสู่ขอตะวันกันเลยดีไหม” พ่อพูดขึ้นมานิ่งๆแต่เล่นเอาทั้งโต๊ะอาหารเงียบกริบ
พ่อผม.....เล่นแรงนะนั่น!
คุณหญิงนุศราแก้สถานการณ์ด้วยการเรียกให้ป้าผึ้งเสิร์ฟของหวาน น้องนิวเลิกวอแวกับตะวันแล้วหันมาเล่าเรื่องค่ายให้พ่อกับแม่ฟัง ผมที่ยังคงตกใจกับคำพูดเมื่อกี้เหลือบมองตะวันด้วยความเป็นห่วง กลัวอีกคนจะรู้สึกอึดอัด
ตะวันที่มองผมอยู่ก่อนแล้วยิ้มหวานส่งมาให้ ดวงตาหวานที่สบสายตาอยู่นั้นสื่อความหมายอะไรบางอย่างที่ผมเองก็ไม่เข้าใจนัก แต่กลับรู้สึกโล่งอกที่ตะวันไม่ได้ดูอึดอัดอย่างที่ผมนึกกังวล
อย่างน้อยตะวันก็ไม่ได้โกรธในสิ่งที่ทุกในคนบ้านผมพูด.....
.....แบบนี้ผมจะคิดเข้าข้างตัวเองได้บ้างไหมนะPLEASE TBCยาวไหมคะ? อิอิ
ชดเชยที่มาช้า...ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ติดนั่นนี่หลายสิ่งหลายแสน ฮึก!
ตอนหน้าอาจจะเป็นตอนพิเศษนอส-ตะวันอีกซักตอนนะคะ
ส่วนตอนพิเศษเรียวมีลงเล้าแน่นอน แต่ขอเวลาไปปั่นก่อน หุหุ
ขอบคุณที่ยังรอ ขอบคุณที่คอมเมนท์ ขอบคุณทุกบวกเป็ดค่ะ
