“อ้าว...หลับซะแล้ว”แม่มองคนตัวเล็กที่หนุนตัก หลับตาพริ้ม ขอบตาแดงช้ำจากการร้องไห้
“เดี๋ยวผมพาไปนอนบนห้องเองครับ”ผมบอกแม่ ก่อนจะช้อนตัวเจขึ้นมาไว้แนบอก พยายามทำให้เบาที่สุดเพราะกลัวเจจะตื่น เจขยับตัวน้อยๆ เมื่อถูกผมรบกวน ผมก้าวขึ้นบันไดให้เบา เดินเข้าห้อง เจพลิกตัวทันทีที่หลังสัมผัสกับเตียงนอน ผมหยิบตุ๊กตาตัวเดียวในห้องที่มีไปวางใกล้ๆ มือ และเจก็คว้าไปกอดไว้.....
ตั้งแต่ผมพาเจกลับมา...เจ...ยอมแสดงความอ่อนแอให้เห็นมากขึ้น..ยอมอ้อนคนอื่นๆ มากขึ้น ยอมรับความรักจากคนอื่นมากขึ้นด้วย เจคง....คิดถึงแม่ และแม่ผมคงรู้สึกได้
“แม่ครับ”ผมเดินกลับลงมานั่งข้างๆ แม่ที่ห้องนั่งเล่น
“ว่าไง น้องไม่ตื่นใช่มั้ย”แม่ลูบหน้าผมเบาๆ
ผมไม่คิดว่าจะได้พาเจมาที่บ้านเร็วขนาดนี้ แต่ก็คิดว่าดีแล้ว..ที่พามา ไม่ว่าอย่างไร...ผมก็เลือกแล้ว ผมรักผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้จัง มือคู่นี้อบอุ่นเสมอ ไม่ว่าผมจะต้องทำอะไรเพื่อให้เธอยิ้ม เพื่อให้เธอมีความสุข ผมจะทำ.....ขอแค่อย่างเดียว.....อย่าได้ร้องไห้...เพราะผม
“ผมรักน้องเจครับแม่”ผมจับมือแม่ไว้ รู้สึกถึงแรงกระตุกน้อยๆ ทันทีที่ผมพูดออกไป ดวงตาคู่สวยนี้เบิกกว้างและหม่นหมองลงจนผมใจหาย ผมปรารถนาเพียงอย่างเดียว...อย่าร้องไห้นะครับแม่
“....................”
“แม่ครับ”
“..............เฮ้ออออ........แม่เข้าใจลูก แม่ดูออกว่ารัก....น้ำเสียงลูกตอนที่โทรไปบอกว่าพาน้องมาบ้าน บอกว่าน้องป่วย ถามแม่ว่าต้องทำยังไง น้ำเสียงแบบนี้...เหมือนตอนที่พ่อเขาโทรไปหาคุณยาย ถามคุณยายว่าแม่แพ้ท้องหนักมาก ต้องทำยังไงครับ เขาอ้วกหมดเลย จะกินอะไรดี น้ำเสียงแบบนี้........แม่รู้......แม่เข้าใจ”
“ขอบคุณครับแม่ ขอบคุณ”ผมโถมตัวเข้าไปกอดแม่ ต่อให้คนทั้งโลกไม่เข้าใจ ขอแค่คนๆ นี้เท่านั้นที่เข้าใจ ขอแค่คนๆ นี้เท่านั้นจริงๆ
“ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไรนะ”แม่ยกมือเช็ดน้ำตาให้ผม ผมร้องไห้ ต่อจากนี้ไป เพื่อผู้หญิงคนนี้ จะให้ผมทำอะไรก็ยอม อนาคตเป็นยังไงผมไม่รู้ สิ่งเดียวที่รู้คือผมจะไม่มีวันทำให้ผู้หญิงคนนี้เสียใจหรือผิดหวังอีก ผมรู้การที่ลูกชายคนโตของบ้านเลือกที่จะรักผู้ชายมันทำให้แม่เสียใจแค่ไหน การที่มีน้องชายไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำให้ผมสามารถเลือกเส้นทางแบบนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนก็คงจะต้องอยากเห็นลูกแต่งงานมีครอบครัว แต่...ถึงผมจะแต่งงานตามประเพณีไทยไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่า....คำว่าครอบครัว...ผมสร้างขึ้นมาได้
“แม่ครับ..”ผมอยากขอโทษที่ทำให้แม่เสียใจ แต่..ผมพูดคำๆ นี้ไม่ได้
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษแม่..อย่าพูดคำว่าขอโทษ อนาคตลูกต้องเจอกับปัญหาอะไรอีกมากมาย บางคนอาจไม่ยอมรับ บางคนอาจรับไม่ได้ แต่แม่รับได้ แม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นอย่าขอโทษ ไม่ต้องขอโทษ.....ไม่ว่าแม่..หรือใครก็ตาม”แม่จับหน้าผมไว้ แม่เข้าใจผมเสมอ ผมพูดขอโทษแม่ไม่ได้...มันเหมือนกับยอมรับว่าผิด ความรักไม่ใช่ความผิด ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนมันไม่ผิด ก็แค่....รัก
“ไม่เอาอย่าร้องไห้ เดี๋ยวน้องลงมาเห็นไม่เท่ห์กันพอดี ไหนเล่าเรื่องน้องให้แม่ฟังซิ”แม่ดันหน้าผมออกแล้วส่งยิ้มให้ ผมก็ยิ้มตอบ แล้วเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาให้แม่ฟัง
“น้องเจเขาน่าสงสาร เด็กตัวนิดเดียวต้องทำงานด้วยเรียนด้วย ร่างกายก็เลยไม่ค่อยแข็งแรง เอ็กซ์ต้องดูแลน้องดีๆ เข้าใจไหม”
“รู้ครับแม่ แต่เจ้าตัวน่ะสิ ดื้อสุดๆ เลยล่ะ ดูตอนกินข้าวสิแม่ เหลือเต็มจานเลย เนื้อสัตว์ก็ไม่ค่อยอยากกิน พวกผมต้องคอยบังคับตลอดเลย”ได้ทีครับ มีพวกแล้วก็ฟ้องซะเลย
“นั่นสิถึงไม่ค่อยแข็งแรง แต่แม่ชอบน้องนะ วันหลังพามาบ้านบ่อยๆ สิ ไม่ได้เจออ้อนๆ น่ารักๆ อย่างนี้มานานแร่ะ”
“โหแม่ ผมก็นอนอ้อนอยู่นี่ไง ได้ใหม่ลืมเก่าซะงั้น”
“นี่มันน่ารักที่ไหนล่ะ ตัวอย่างกับตึก จับตรงไหนก็มีแต่กล้ามแข็งๆ สู้ตัวนิ่มๆ แบบนั้นก็ไม่ได้”คร้าบบแม่ ก็เจมันตัวนิ่มจริงๆ นี่นา
ผมนอนคุยกับแม่จนแม่ง่วงและขึ้นห้องนอนนั่นแหล่ะครับ ผมถึงขึ้นห้องนอนผมบ้าง เปิดประตูเข้ามาเห็นเจนอนกอดตุ๊กตาหมาตัวใหญ่เสียแน่นเลยครับ ก็เตียงผมมันกว้างไม่มีที่ให้เจมันนอนซุกตัวได้นี่นา
ผมอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วเดินมานอนข้างๆ เจ จับตุ๊กตาออกจากแขนมันช้าๆ แล้วดึงเจมากอดแทน เจคงคิดว่ากอดตุ๊กตามั้งครับเลยกอดผมตอบ แต่ตัวเจร้อนเป็นไฟเลยครับ นึกแล้วเชียวว่าต้องเป็นไข้ เมื่อตอนค่ำก็หลับคาตักแม่ ผมเลยไม่ได้เอายาให้กิน
“เจ...เจครับ”ผมสะกิดเรียกเจเบาๆ
“อืมมม”เจฮึมฮัมในลำคอพลางขยับตัวหนีมือผม
“เจ..ตื่นมากินยาก่อนเร็ว ตัวร้อนมากเลยรู้หรือเปล่า”ผมช้อนตัวเจให้พิงอกผมไว้
“เจ..อ้าปากเร็ว กินยาก่อน”ผมบอกเจ เอายาจ่อที่ริมฝีปาก เจก็อ้าปากรับยาที่ผมป้อนให้ ผมรีบยกน้ำให้เจดื่มต่อ แล้วผมก็ล้มตัวลงนอนโดยที่กอดเจไว้ตามเดิม
“เมื่อไหร่จะมานอนกับพี่โดยที่ไม่ป่วยบ้างหืมม์ ไอ้เปี๊ยก”ผมจูบเบาๆ ที่ข้างขมับ กลิ่นหอมๆ จากตัวเจทำให้ผมอดไม่ได้ที่สูดดมให้ชื่นใจ อยากกอดไว้แนบอก อยากกอดแน่นๆ ให้สมกับความดีใจที่มากมายจนไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดได้
“อื้อ”เจประท้วงเบาๆ เมื่อผมเผลอกอดแน่นไป ผมรีบคลายอ้อมกอดออกเพราะกลัวเจอึดอัด เจเอาหน้าซุกมาที่อก ผมยกมือลูบไล้แก้มเนียนนุ่มเบาๆ ไม่อยากนึกเลยว่า เมื่อสองปีก่อนที่เจจะมาเจอกับผม เจใช้ชีวิตยังไง ในเมื่อเปราะบางขนาดนี้ ผมนึกขอบคุณตี๋และโก้ที่อยู่เคียงข้างเจมาตลอด ผมจะไม่มีวันสงสัยในความรักของสองคนนี้ ไม่ว่ามันจะเป็นรูปแบบไหน สำหรับเจผมเชื่อว่ามัน...มีค่ามาก....พอๆ กับชีวิตของเจ
ผมนอนมองคนบนอก รู้สึกถึงเปลือกตาที่กะพริบจนขนตางอนๆ ไล้ตามผิวทำให้รู้สึกจั๊กจี้ เจเงยหน้ามามองผมพร้อมยันตัวเองออกจากอ้อมกอด ผมแค่คลายอ้อมกอดออกเล็กน้อย
“กอดไมอ่ะ ปล่อยดิ”หึหึ เจทำหน้างัวเงีย บ่นผมเบาๆ เด็กบ้าอะไรไม่รู้ ตื่นมาก็โวยวาย ทีผมนอนกอดทั้งคืนไม่เห็นดิ้นหนีเลย
“ปวดหัวมั้ย ตัวยังอุ่นๆ อยู่เลยนะ”ผมถาม เจก็ส่ายหน้าทั้งๆ ที่ดิ้นอยู่นั่นแหล่ะ ผมเลยกอดแน่นจนตัวแนบชิดติดกันเสียเลย คางเจเกยอยู่บนหน้าอกผม มือสองข้างก็พยายามดันตัวเองขึ้น นอนทำหน้ายุ่งคิ้วขมวด
“อะไรอ่ะ กอดทำไม อึดอัด”
“อยู่นิ่งๆ ก่อนแล้วจะปล่อย”ผมกอดเอวเจและแขนข้างหนึ่งไว้ มืออีกข้างผมก็จับไว้แน่น แรงดิ้นของมันแค่นี้ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ อย่างมากก็แค่รำคาญ จะนอนนิ่งๆ ให้กอดดีๆ ก็ไม่ได้
“เจ...”
“อะไรเล่า”เจอยู่นิ่งๆ แล้วครับ จ้องผมแล้วถามด้วยน้ำเสียงเจือความหงุดหงิดเมื่อไม่ได้ดั่งใจ
“อย่าทำเป็นไม่รับรู้เลยนะ...ความรู้สึกพี่น่ะ”ผมพูดไปเพราะรู้ว่าเจพยายามหลีกเลี่ยงและไม่รับรู้การกระทำของผมที่ทำให้เจ ว่ามันพิเศษกว่าคนอื่น เจยอมให้ผมใกล้ชิดมากกว่าเดิม แต่...กับคนอื่นๆ เจก็ยอมเหมือนกัน ผมเลยไม่แน่ใจว่าตอนนี้เจคิดกับผมแบบไหนและอยากให้ผมทำยังไง เจก้มหน้าลงไม่สบตาผมเหมือนเมื่อครู่
“เจ...ไม่ว่าจะคิดหรือรู้สึกยังไง ความรู้สึกของพี่ ตัวพี่ก็อยู่ตรงหน้าเจแล้ว...อย่าทำเป็นไม่รู้เลยนะ...ว่าพี่รักเจ...ตอนนี้..พี่ไม่ได้ต้องการให้เจพูดหรือทำอะไร แค่รู้ไว้ก็พอ...รู้ไหมครับ”ผมปล่อยมือเจให้เป็นอิสระแล้วยกขึ้นมาลูบหัวเจที่ก้มชิดหน้าอกผมอยู่ เจพยักหน้าแทนคำตอบให้ผม
“แต่ตอนนี้พี่ขออะไรอย่างได้มั้ย”
“อะไรอีกล่ะ”เสียงถามอู้อี้ ผมไม่เห็นหน้าเลยไม่รู้ว่าทำหน้าแบบไหน รำคาญหรืออาย หรือหงุดหงิด ผมเลยลุกขึ้นนั่งพิงตัวเตียงทั้งที่กอดเจเอาไว้ เจทำท่าจะดิ้นผมเลยรวบตัวมานั่งช้อนด้านหน้าผมแล้วกอดเอวให้แน่นขึ้นเพื่อบอกให้รู้ว่าไม่ให้ดิ้น สองมือเล็กๆ จับมือผมไว้และพยายามแกะออกผมเลยกอดทั้งเอวและล็อคมือสองข้างติดเสียเลย
“อยู่เฉยๆ สิ ถ้าไม่นิ่งจะกอดไว้อย่างนี้แหล่ะ”ผมพูดไปเจก็พยายามดิ้นพร้อมส่งเสียงฮึดฮัดขัดใจสักพักก่อนจะยอมอยู่นิ่งๆ ผมเอาคางมาเกยไหล่เจเอาไว้ เจก็พยายามเบี่ยงหน้าให้ห่างจากหน้าผม ผมเลยแกล้งหอมแก้มหนักๆ ไปหนึ่งที
“อ๊ะ!..ไอ้..ไอ้..”เจทำตั้งท่าจะด่าแต่ทำได้แค่นั้นแหล่ะ คงรู้ว่าตัวเองเสียเปรียบอยู่ ทำได้แค่สะบัดหน้าหนีผมเท่านั้นแหล่ะ
“เจ...ต่อไปนี้น่ะ...หัดอ้อนคนอื่นบ้างได้มั้ย อ้อนบ้าง เอาแต่ใจบ้าง เหมือนเช็คสถานะตัวเอง ว่าเราสำคัญขนาดไหน และทำอะไรเพื่ออีกฝ่ายได้บ้าง”
“จะอ้อนทำไมเล่า ไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ลองดู...ลองอ้อนคนอื่นโดยที่ไม่ต้องมีข้ออ้างดู ไม่ต้องเมา ไม่ต้องป่วย ใครๆ เขาก็อยากให้เจอ้อนกันทั้งนั้นแหล่ะ รู้มั้ยครับ”
“ไม่รู้”เจตอบเบาๆ
“เจ...อย่าดื้อสิ ลองดูนะ เริ่มจากพี่หรือแม่พี่ก็ได้ แม่เขาออกจะชอบ เมื่อคืนก็ชมใหญ่ว่าน้องเจน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ บอกให้พามาเที่ยวที่บ้านบ่อยๆ ด้วย ดูสิ ขนาดเจแค่อ้อนแม่พี่นิดเดียวเอง แม่พี่ยังหลงเลย”
“....แม่พี่เอ็กซ์...บอกอย่างนั้นจริงเหรอ”เจถามแบบกล้าๆ กลัวๆ แต่ผมเห็นรอยยิ้มบนใบหน้า
“จริงสิ..เนี่ยบอกว่าให้พามาทุกอาทิตย์เลยนะ แถมวันนี้ยังจะบอกให้นอนค้างอีก เพราะเมื่อคืนไม่ได้นอนกับเจ เลยจะนอนคืนนี้แทน”
“แต่....พรุ่งนี้เจมีเรียนเช้า”หึหึ ต้องเอาแม่มาอ้างครับถึงจะยอมนิ่ง เป็นครั้งแรกที่แทนตัวเองว่าเจด้วย เฮ้อ...น่ารักจริงครับไอ้เปี๊ยกเอ๊ยย
“รู้ครับ พี่บอกแม่แล้ว แม่เลยบอกให้กลับค่ำๆ แทน อยู่กินข้าวเย็นกับแม่ก่อนนะ”
“แล้ว..ตอนเช้านี้ล่ะ แม่พี่เอ็กซ์ไม่อยู่เหรอ”เจเอียงหน้ากลับมาถามผม
“เรียกว่าแม่เฉยๆ ก็ได้ พวกเพื่อนพี่ก็เรียกแม่กันทั้งนั้น”
“....แม่...ไม่อยู่เหรอ ตอนนี้น่ะ”
“ไม่อยู่ครับ กว่าจะกลับมาคงเที่ยงๆ บ่ายๆ นั่นแหล่ะ”
“งั้นเจอยู่กินข้าวกับแม่ก็ได้”
“ดีครับ...เพราะพี่จะได้นอนต่อ”
“อ้าว...แล้ว..พี่เอ็กซ์จะยัง..ไม่ตื่นเหรอ”
“ยังไม่ได้นอนเลย มัวแต่เฝ้าไข้ใครก็ไม่รู้ ง่วงจะแย่แล้วเนี่ย”ผมแกล้งซบหน้าที่ไหล่เจ
“ก็ไม่ได้ขอสักหน่อย”นั่นไงครับ พอหมดเรื่องแม่ก็เริ่มดื้อเลย เอาเถอะครับ แค่ยอมอยู่นิ่งๆ ให้ผมกอดก็พอแล้วตอนนี้
“ไม่อยากเถียงด้วยแล้ว เบื่อเด็กดื้อ ไปอาบน้ำแล้วลงไปกินข้าวข้างล่างไป ป้านอมเขาเตรียมไว้ให้แล้ว”ผมคลายอ้อมกอดออกปล่อยให้เจลุกไปยืนข้างเตียง เพิ่งเห็นหน้าชัดๆ นี่แหล่ะครับ ถึงรู้ว่าเขินผมอยู่ ก็เล่นหน้าแดงขนาดนั้น ถ้าเมื่อกี้ไม่ได้กอดไว้คงนึกว่าไข้กลับแล้วมั้ง
“...แล้ว..เสื้อผ้าผมล่ะ”
“ไปเลือกตัวที่ใส่ได้ในตู้พี่ไปก่อน ของเจป้าเขาเอาไปซัก เดี๋ยวค่อยใส่ตอนกลับ”ผมพูดจบเจก็รีบวิ่งไปเปิดตู้เสื้อผ้าเลยครับ ผมก็ทิ้งตัวลงนอน ง่วงครับ นอนมองเจทั้งคืนจนถึงเช้าเลย กลิ่นหอมอ่อนจากตัวมันยังติดอยู่ที่ปลายจมูก ความอุ่นจากร่างกายยังหลงเหลืออยู่บนที่นอน ตอนนี้...ผมคงจะนอนหลับฝันดี
******************************************
ของกินเต็มเลย แต่....ไม่อิ่มอ่ะ ขอไปหาข้าวจริงๆ กินก่อนนะ