ถ้าไม่ติดว่าต้องไปซ้อมบาสตอนเช้าเตรียมแข่งนัดแรกพรุ่งนี้ ผมจะนอนมองเจมันทั้งวันเลย เนื้อตัวขาวๆ เนียนๆ ที่มีรอยจูบผมทำให้ดูเย้ายวนอย่างน่าประหลาด ปากสีชมพูเกือบแดงที่ช้ำนิดๆ เพราะผมจูบทั้งคืนจนเจหลับไปก็ยังคลอเคลียไม่ห่าง ร่างกายนี้ไม่มีใครเคยได้ครอบครองมากเท่าผม คิดแค่นี้ก็ร้อนไปทั่วตัวแล้ว แต่จะทำมากกว่านี้ก็กลัวร่างเล็กๆ จะช้ำเอา
ผมอาบน้ำแต่งตัวช้ากว่าทุกวัน ก่อนออกจากห้องเจก็มองแล้วมองอีก เดินเข้าไปหอมไปจูบเบาๆ หลายรอบจนกลัวจะตื่นถึงได้ยอมตัดใจเดินออกมา มาถึงโรงยิมทุกคนก็มาพร้อมกันแล้ว ได้ยินเสียงโห่มาเลยเพราะกัปตันมาสาย ผมรีบถอดเสื้อกันหนาวที่ใส่ทับเสื้อบาสออก เตรียมลงซ้อมทันที แต่....
“ฮิ้วววววว วู้ววววว”เสียงไอ้พวกนักบาสทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องแซวกันทั่วเลย ไม่รู้ส่งเสียงแซวอะไร จะถามตี๋มันก็ทำหน้าบึ้งใส่แล้วเดินหนีไปเลย ผมก็เลยยิ่ง งงต้องหันไปถามโมทย์แทน
“อะไรวะมึง”
“ก็...รอยฟันตรงไหล่กับคอมึงไง ชัดซะขนาดนั้น แม่ง......ไม่อยากนึกว่ะ”โมทย์ทำหน้าบูดเป็นตูดเลยครับ ผมว่ามันนึกภาพตามแล้วหล่ะ แต่คงนึกไกลเกินไปมั้ง
“หึหึ ไปๆ ซ้อมกันได้แล้ว”ผมลูบรอยตรงคอ มิน่าตอนอาบน้ำรู้สึกแสบๆ ยังไม่นับรอยจิกที่หัวไหล่ ก็หลังจากได้รู้อะไรดีๆ แล้วมันอดใจทำอย่างอ่อนโยนเหมือนทุกทีไม่ไหวนี่นา ดีเท่าไหร่แล้วที่ยังห้ามใจทำแค่นั้นทั้งๆ ที่อยากทำให้เจเป็นของผมจริงๆ ไม่ใช่แค่ภายนอกแบบนี้
ซ้อมเสร็จก็รีบกลับห้องโดยไม่ล่ำลาใครเลย มาถึงกะว่าจะรีบอาบน้ำแล้วไปหาคนข้างห้อง แต่...เจดันมานอนแผ่ดูหนังอยู่กลางห้องผมเสียนี่ เห็นหน้าขาวๆ ที่มีรอยจูบที่ต้นคอเล็กๆ แล้วอยากลงไปนอนกอดเสียให้หายคิดถึง แต่ตอนนี้คงต้องรีบอาบน้ำเปลี่ยนชุดเหม็นๆ ก่อนนั่นล่ะ
“กินข้าวเที่ยงยัง”ผมเดินมานั่งเช็ดผมบนโซฟา เจแหงนหน้ามามองผมแล้วหันไปดูทีวีตามเดิม
“ยัง เพิ่งกินข้าวเช้าตอนสิบโมงกว่า”เจตอบแบบนี้แสดงว่ามันจะกินอีกทีก็ตอนเย็นนั่นล่ะ สรุปผมเลยต้องเดินลงไปซื้อข้าวใส่กล่องมานั่งกินบนห้องคนเดียว กินเสร็จก็นั่งดูหนังกับมันต่อ
“พรุ่งนี้ไปเชียร์บาสมั้ย พี่มีแข่งสิบโมง”
“ตี๋มันโทรมาชวนแล้ว ยังไงก็ต้องไปเชียร์มัน ไอ้โก้กับเก๋ก็ไป”ไอ้ตี๋นี่ไวกว่าผมอีก
“อ๊ะ ทำอะไร”เจจะเขยิบตัวหนีทันทีที่ผมลงมานอนคล่อมไว้
“อยากจูบ ขอจูบหน่อย”หมั่นไส้มันอ่ะครับ พูดมาได้ว่าจะไปเชียร์ตี๋ แทนที่จะบอกว่าไปเชียร์แฟน น่าน้อยใจจริงๆ เลย
“บ้าเหรอ จูบทั้งคืนแล้วยังไม่พออีกรึไง”เจหันหน้าหนีผม ดึงปลายหมอนขึ้นมาปิดหน้าจนโผล่แค่แก้ม ผมเลยถือโอกาสหอมแก้มขาวๆ แทนซะเลย
“เจ....จูบหน่อย”ผมก้มไซร้ตามซอกคอขาวๆ ก่อนจะเลื่อนไปที่ใบหู เจมักจะสะดุ้งทุกครั้งที่ผมไล้ลิ้นเลียและขบเม้มที่ติ่งหู
“อื้ออ...”เสียงครางหวานๆ พร้อมกับแรงผลักที่อ่อนลง
“เร็วสิ...จูบพี่..นะ”ผมยังเว้าวอนให้ใกล้ๆ ปากอิ่ม ปลายลิ้นลากตามขอบปากช้าๆ จนเจยอมเผยอปากจูบตอบตามที่ผมต้องการ แต่แค่นี้มันยังไม่พอ....
“อืมม...ใช้ลิ้นด้วย....เจ...”ผมสอดลิ้นเข้าไปและถอนออกเพื่อให้เจทำตาม แต่เจยังคงไม่กล้าผมต้องพยายามเกี่ยวลิ้นชี้นำจนเจยอมสอดลิ้นเข้ามาในปากผมบ้าง ลิ้นเล็กๆ ที่สอดเข้ามาอย่างกล้าๆ กลัวๆ จนผมอดดูดดุนให้สมใจอยากไม่ได้ ความหอมหวานจากปากและลิ้นมันช่างน่าหลงใหลจนไม่อยากหยุด แต่เจคงทนไม่ไหวถึงได้ทุบที่บ่าและพยายามดันผมออก
“ฮ่าห์....”เจรีบอ้าปากโกยอากาศเข้าปอดทันที ปากเล็กๆ ชื้นและแดง ดวงตากลมโตปรือมองผมอย่างตัดพ้อ มือเล็กๆ ยังคงเกาะกุมและดันที่บ่าผมทั้งสองข้าง
“เจ...อย่ามองแบบนี้....มันทำให้พี่ไม่อยากหยุด”ก็มองแบบนี้มันเหมือนเชิญชวนโดยไม่รู้ตัวนี่นา
“ทะลึ่ง ถอยไปเลย”เจออกแรงดันที่แขนแต่มันไม่แรงพอจะทำให้ผมถอยได้หรอก
“เดี๋ยวก่อน ขออีกอย่าง”
“อะไรอีกอ่ะ แค่นี้พอแล้วนะ นะๆๆๆ”โหยยย เจ...อย่าอ้อนตอนนี้ดิ เดี๋ยวก็ปล้ำซะหรอก
“เจ...อย่าเพิ่งอ้อน...เดี๋ยวพี่ห้ามใจไม่ไหว”ผมบอกไปเจรีบเม้มปากไว้เลย
“น่ารักว่ะ แฟนใครวะเนี่ย.....เจ...ดูดคอให้หน่อย”ผมพูดไปจากที่ปากหุบตอนนี้อ้าปากกว้างเลย
“......บะ บ้าเหรอ หื่นว่ะ ไปเลยถอยเลย”แค่นี้ก็หาว่าหื่น ถ้าพี่ทำมากกว่านี้น้องไม่ว่าพี่วิตถารเลยหรือไง แล้วทีหลังเวลาด่าคนอื่นเนี่ย อย่าทำแก้มแดงได้มั้ย
“น่านะ รอยกัดนี่มันก็ดีอยู่หรอก แต่...อยากให้เป็นรอยจูบมากกว่า ขอเป็นเครื่องลางสำหรับวันพรุ่งนี้หน่อยสิ”ปกติผมไม่เคยยอมให้ใครทำรอยอะไรบนตัวผมหรอกนะ ไม่ชอบให้ใครแสดงความเป็นเจ้าของ แต่...อยากให้เจทำ
“ไม่เอา ทำไม่เป็น”เจบ่ายเบี่ยง
“ไม่ยากหรอก เดี๋ยวสอนให้”หึหึ...จะได้กำไรก็ตอนสอนนี่แหล่ะ
“....ก็ได้..อ่ะ”อ่ะ อะไรของมัน อยู่ดีๆ ยื่นมือมาให้
“อะไร”
“ก็จะสอนไม่ใช่เหรอ ก็นี่ไง ตรงนี้ไง”เจชี้ที่ข้อมือตัวเอง บ้าเปล่าครับ ใครจะยอม
“ตลกแร่ะ ต้องตรงนี้...”ผมดึงคอเสื้อเจให้กว้างแล้วก้มลงไปจูบเบาๆ ก่อนจะเริ่มลากลิ้นเลียและค่อยๆ ดูดจนแน่ใจว่าเกิดรอยแล้วถึงหยุด ถอนหน้าออกมามองเห็นรอยแดงระเรื่อ ขนาดผมดูดนิดเดียวยังเห็นซะชัดเลย ผิวเจนี่มันเกิดรอยอะไรๆ ง่ายจริงๆ ขนาดเวลาทะเลาะกันแล้วดึงแขนมันไว้ยังเป็นรอยแดงเถือกเลย
“เข้าใจยัง ถ้าไม่เดี๋ยวทำให้อีกรอบ”
“พอๆๆๆ เกินไปแร่ะ อย่างนี้เขาเรียกฉวยโอกาส”
“ฉวยโอกาสกับแฟนตัวเองจะเป็นไรไป อ่ะ..ทำเร็วๆ ตรงนี้ๆ”ผมชี้ที่คอผม เจจ้องเหมือนกำลังทำใจ โห...แค่นี้ทำหน้าเหมือนหนักใจสุดๆ เลย น้อยใจนะเนี่ย เจค่อยๆ ดันหัวตัวเองขึ้นมาจูบที่คอผมเบาๆ ทำเอาจั๊กจี้นิดๆ รู้สึกถึงลิ้นนุ่มๆ และแรงดูดจากปากเล็กๆ ครู่เดียวเจก็จะถอนหน้าออก แต่ผมดันหัวเจเอาไว้ก่อน เพราะคิดว่ายังไม่เป็นรอยแน่ๆ เจคงเข้าใจเลยพยายามดูดให้แรงขึ้นอีกนิด พอผมปล่อยมือ เจก็ถอนหน้าออกจากคอผม ดึงคอเสื้อผมเช็ดน้ำลายตัวเองด้วย
“......เสร็จแล้ว”พูดกับผมแต่ก้มหน้างุดๆ ที่พูดจ้อยๆ ก่อนหน้านี้ก็แก้เก้อเขินเท่านั้นเหรอ ผมทิ้งตัวนอนข้างๆ ให้เจดูหนังต่อไป ไม่อยากแหย่ให้เขินตอนนี้ครับ เดี๋ยวครั้งหน้าเจไม่กล้าทำอะไรให้ผมอีก
วันนี้แข่งที่มหาลัยตัวเอง ผมขับรถมากับเจ เข้ามาในโรงยิมก็มีกองเชียร์เริ่มมานั่งแล้วครับ ทั้งทีมผมและฝ่ายตรงข้าม นักกีฬาก็ทยอยกันวอร์มร่างกาย อีกเกือบชั่วโมงน่ะครับถึงจะได้เวลาแข่ง เจเดินไปนั่งกับเพื่อนๆ มัน ผมก็เดินไปรวมกับนักบาสคนอื่นๆ ที่วอร์มกันอยู่
“โหยย แม่ง...เชี่ยเอ็กซ์ไปไกลตีนกูเลยไป”คำทักทายแรกของไอ้โมทย์มันครับ
“เป็นไรของมึง”
“ไม่ต้องเดินมาโชว์รอยที่คอมึงเลยนะ เมื่อวานก็ทีนึงแล้ว กูรู้มึงตั้งใจ...นั่นๆ ยิ้มรับอีก เซ็งเลย”โมทย์รู้ใจจัง แต่ไม่ได้อยากโชว์ครับเพราะจะทำให้คนอื่นมองเจไม่ดี แค่อยากให้เจทำเฉยๆ บอกแล้วว่าเครื่องราง แล้วรอยมันก็ไม่ได้อยู่สูงซะหน่อย ไอ้นี่มันตาดีมองเห็นเองต่างหาก
ผมเรียกทุกคนมารวมกันหลังจากวอร์มเพื่อทบทวนแผนอีกรอบ ตี๋มันก็มองผมแบบหมั่นไส้ ความจริงก็ไอ้ฟ้ากับอั้มด้วย ตกลงมันจะกลายเป็นลางร้ายเปล่าเนี่ย เดี๋ยวไอ้พวกนี้หมดกำลังใจเล่นผมก็ซวยสิ ไม่ได้การครับ ผมกวักมือเรียกเจที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ให้เดินลงมาหา
“มีไร”
“มานั่งคอยตักน้ำแจกผ้าให้พี่หน่อย”
“อ้าว ใช้กันซะงั้น เออๆ ก็ได้ เดี๋ยวเรียกพวกนั้นมานั่งด้านล่างแล้วกัน”เจบ่นแต่ก็ยอมทำตามที่ผมบอกครับ มันก็กวักมือเรียกเพื่อนให้ลงมาอยู่แถวล่าง ใกล้ๆ กับกระติกน้ำ ส่วนไอ้พวกนักกีฬาทีมผมน่ะเหรอ ยิ้มหน้าบานพากันไปต่อแถวกินน้ำที่เจตักให้เลยครับ
“พอแล้วพวกมึง เดี๋ยวก็จุกตายหรอก”พวกมันต่อแถวแล้วต่อแถวอีก จะไม่แข่งหรือไงวะ ดีนะที่ให้เจใส่เสื้อมีปก ไม่งั้นไอ้พวกที่ยืนล้อมเจอยู่มีหวังช้ำใจตาย
ลงสนามไปยิ้มทักทายฝ่ายตรงข้ามนิดหน่อยตามประสาคนเคยแข่งกัน เริ่มเกมส์เราเน้นบุกมากกว่ารับทำให้แต้มเรานำอยู่จนหมดครึ่งแรก เดินกลับมาข้างสนามเจกับน้องเก๋ก็คอยแจกน้ำกับผ้าเย็นเรียกกำลังใจให้ทีมได้เยอะกว่าที่คิด พอถึงครึ่งหลังเราก็ยังบุกหนักจนแต้มทิ้งห่างและชนะอย่างที่คาดไว้
“เป็นไง กูเก่งใช่มั้ย”ตี๋เดินไปขอรับคำชมจากเจเลยครับ
“เก่งครับเก่ง เอากระดูกมั้ย”เจลูบหัวตี๋ใหญ่เลย
“เชี่ย กูไม่ใช่หมา”
“อ้าวเหรอ กูนึกว่าใช่ เห็นวิ่งดุ๊กๆ มา ถ้ามีหางหน่อยเหมือนเลยนะมึง”เล่นแรงนะครับมัน ตี๋เลยขอบคุณด้วยการตบหัวไปที
“เกินไปมึง ได้ทีว่ากูใหญ่เลยนะ”เสียงเถียงกันของมันสองคนเรียกเสียงหัวเราะได้รอบสนามเลยครับ มันคงยังไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นจุดสนใจของคนในโรงยิมอยู่ถึงได้วิ่งไล่ตบหัวกันเหมือนเด็กๆ
แข่งเสร็จก็ไปรวมกันฉลองที่บ้านโมทย์ ผมชวนเพื่อนต่างทีมที่สนิทกันไปด้วยสองสามคน ไม่ได้เจอกันนานแล้ว เมื่อก่อนผมก็ไปมาหาสู่แถวหอพวกมันบ่อยๆ ส่วนมากก็ไปเที่ยวนี่แหล่ะ ระหว่างทางก็แวะซื้อเสบียงเพียบ เบียร์เหล้ามีพร้อม งานนี้มีน้องเก๋กับเจนคอยทำกับแกล้มให้ด้วย ไอ้โอ้มันคุยนักคุยหนาว่าแฟนมันทำกับข้าวเก่ง ได้มีโอกาสชิมก็วันนี้แหล่ะ
****************************************************************************
ขอบคุณสำหรับคำชมในตอนที่แล้วนะคะ ส่วนคำติ...ผ่านออกหูขวาไปเรียบร้อย(ตอนนี้ยังไม่มีใครติ ก็ขอให้ไม่มีคนติแบบนี้ต่อไปแหล่ะนะ)
หลายคนถูกใจ แต่รู้มั้ยว่าคนแต่ง....เครียดดดดดด กว่าจะพิมพ์เสร็จ ...