ผมเพิ่งสอบเสร็จ โปรเจ็คก็ผ่านเรียบร้อย เจกลับบ้านไปได้สองวันแล้ว พี่บอลเพิ่งกลับมาเมื่อวาน เล่าว่าวันแรกที่ไปถึง เจร้องไห้อยู่พักใหญ่จนตี๋กับโก้ต้องคอยปลอบจนหลับ พอตื่นมาก็ชวนกันออกไปซื้อของมาทำอาหารกินกันในสวน เจร่าเริงขึ้น เล่าวีรกรรมสมัยเด็กให้พี่บอลฟังตลอด ตี๋กับโก้กลับบ้าน เอาของฝากไปให้ครอบครัวแล้วก็กลับมาขลุกอยู่กับเจ โดนเจใช้ให้ช่วยกันทำความสะอาดบ้านเสียยกใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่พี่บอลที่ถูกใช้ให้ปีนไปตัดกิ่งมะม่วงที่ยื่นออกไปนอกบ้าน
“ไมกลับเร็วจังคราวนี้ ไม่ไปเที่ยวไหนเหรอวะ”ผมเดินเข้าบ้านมาเห็นน้องชายตัวดีนอนดูทีวีอยู่
“จะไประยองกับเพื่อน เลยแวะมาค้างที่บ้านก่อน”นั่นไง ผมนึกแล้วไม่มีผิด
“แล้วแม่ไม่อยู่เหรอ”เอ็มถามต่อตอนที่ผมกำลังจะเดินขึ้นห้อง
“ไม่อยู่ ไปญี่ปุ่นเมื่อวาน”ผมเดินขึ้นห้อง เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ลงมาหาป้านอมเอาคุ๊กกี้ที่ฝากไปให้เจใส่ถุง
“อ้าว แล้วพี่จะไปไหน”
“ไปหาแฟน”ผมลอยหน้าลอยตาตอบอย่างอารมณ์ดี
"อะไร มีแฟนแล้วลืมน้อง ใจคอจะให้นั่งเฝ้าบ้านคนเดียวรึไง"
"ก็เออสิ มาไม่บอกไม่กล่าวเอง ไปแล้วๆ ไว้เจอกัน"ผมเดินมาที่รถแล้วขับออกไป ไม่สนเสียงโวยวายของมันหรอก ระหว่างทางก็โทรหาเจ บอกว่าผมกำลังออกจากกรุงเทพ อีกสักสามชั่วโมงก็คงถึง ผมมีแผนที่บ้านเจที่เจเขียนให้แล้ว คงไปไม่ยาก พอขับเข้ามาถึงตัวจังหวัด ผมก็หยิบแผนที่มาดูแล้วขับตามทางเรื่อยๆ จนถึงบ้านเจ มองจากด้านนอกสมกับที่เจบอกว่าพ่อเป็นสถาปนิกครับ บ้านน่าอยู่ดี ต้นไม้เยอะแต่ไม่รก บีบแตรสองสามที ตี๋ก็มีคนมาเปิดประตูให้ สงสัยโดนไล่มา ผมให้ตี๋ช่วยขนของในรถแล้วเดินเข้าบ้านด้วยกัน มองไปที่พื้นห้องรับแขก โก้นั่งดูทีวีอยู่ ส่วนเจหลับอยู่ข้างๆ
“หลับเหรอวะ”ผมถามตี๋ที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ครับ เพิ่งซักผ้ากันเสร็จ”ตี๋ตอบ ผมเลยถามหาห้องเจแล้วเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บ ของกินก็ให้ตี๋เอาไปเก็บในครัว ผมมองรอบๆ ห้องเจ มีแค่เตียง โต๊ะคอมฯ ชั้นหนังสือ เดินออกมานอกห้องมองเห็นระเบียงไม้ เดินออกไปมีม้านั่งยาวกับโต๊ะไม้ตัวเล็กๆ ด้านข้างมีไม้เลื้อยกับดอกกล้วยไม้หลากพันธุ์แขวนอยู่ ทั้งภายในภายนอก บอกได้เลยว่าบ้านนี้มีความรักอยู่เต็มเปี่ยม พ่อเจเป็นคนละเอียดอ่อนทุกมุมของบ้าน ขนาดผมเข้ามาครั้งแรกยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นมากมาย เข้าใจเลยว่าทำไมเจถึงทำใจอยู่บ้านนี้ในตอนแรกไม่ได้
“มาแล้วเหรอครับ”เสียงเจ้าบ้านดังจากด้านหลัง ผมเดินเข้าไปดึงตัวมากอดแล้วหอมแก้มเบาๆ ทั้งสองข้าง
“เพิ่งมาถึงน่ะครับ เห็นนอนอยู่เลยไม่อยากปลุก”
“น่าจะมาเร็วกว่านี้นะ จะได้ช่วยกันซักผ้า เนี่ยเจรื้อผ้าม่าน ผ้าปูเตียงไปซักหมดบ้านเลย เมื่อยแขนสุดๆ มือแดงหมดเลย”เจมาถึงก็อ้อนผมเลยครับ ชอบจังเวลามันทำตัวเด็กๆ สมตัวมันแบบนี้ ชูไม้ชูมือให้ผมดูใหญ่ มือแดงจริงๆ ด้วยครับ
“มือแดงหมดเลย ไม่ได้ใช้เครื่องซักเหรอ”ผมจับมือเจมาจูบแรงๆ ที่กลางฝ่ามือ
“ใช้ครับ แต่ผ้ามันเยอะ ตอนปั่นก็เลยทำได้ทีละนิด ที่เหลือก็บิดๆ เอาเอง”
“แล้วสองคนนั้นไม่ช่วยเหรอ”
“พวกผมทำหนักกว่ามันอีก ทั้งตัดหญ้า ล้างบ่อปลา งานหนักๆ ตากแดดมันโยนให้พวกผมหมดเลย”ตี๋เดินออกมาฟ้องเลยครับ เจก็หันไปค้อนให้หนึ่งที ทำไมวันนี้มันน่ารักจัง
“แล้วนั่นจะกอดกันอีกนานมั้ย”โก้ดุอีกแล้ว แต่เจไม่สน กอดผมตอบด้วย
“อิจฉาอ่ะดิ”ดูเจมันแกล้งเพื่อนครับ ผมรู้ว่าถ้ามันทำเป็นอาย ก็จะยิ่งโดนแซว มันเลยแกล้งทำเป็นไม่สนใจ
“หิวข้าวแล้ว มีอะไรให้กินมั้ย”ผมกับเจคลายอ้อมแขนลงแล้วเดินไปนั่งที่ระเบียงข้างๆ มันสองคน
“อยากกินอะไรสั่งได้เลย เดี๋ยวตี๋มันจัดการให้”เจพูดซะผมเกือบดีใจเลย นึกว่าจะทำให้กิน แต่ไม่ดีกว่าครับ ยังไม่อยากตายอ่ะ ขนาดทอดไข่มันยังเกือบไหม้เลย สรุปแล้วผมก็เลยกินมาม่าผัดลองท้องไปก่อน รอเย็นๆ ให้มันพาไปกินข้างนอก ผมก็เลยเข้าไปงีบในห้องเจ จนเกือบหกโมงเย็นนั่นแหล่ะเจถึงเดินเข้ามาปลุก
ผมขับรถห่างจากบ้านเจไม่ไกล ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วย มาถึงร้าน เป็นบ่อตกปลาครับ มีเรือนแพอยู่รอบๆ บ่อปลาขนาดใหญ่ มีห้องอาหารยื่นเข้าไปเกือบกลางบ่อ แต่ทั้งสามคนพาผมไปนั่งที่แพครับ เดินมานั่งมีโต๊ะไม้ไผ่เตี๊ยๆ กับเบาะรองนั่งหกเจ็ดที่วางอยู่รอบๆ โก้เดินไปกดปุ่มแล้วสั่งรายการอาหารเมื่อมีเสียงพนักงานตอบกลับมา ผมเดินไปนั่งริมแพ ลมพัดเย็นสบายดีครับ เงียบสงบไม่มีเสียงรถดังหนวกหูเหมือนร้านอาหารที่กรุงเทพ ร้านอย่างนี้ที่กรุงเทพฯ ก็มีนะครับ ออกไปรอบนอกเมืองหน่อย แต่บรรยากาศไม่ดีเหมือนที่นี่
“เนี่ยร้านประจำพวกผมตอนเรียนเลยนะ โดดเรียนกันก็มานอนตกปลากันเล่น แต่ตกได้ก็ปล่อยครับ”ตี๋เดินไปนั่งห้อยขาเอาเท้าตีน้ำเล่น
“ทำเป็นบอกนั่งตกปลา เห็นมากี่ทีๆ ก็เมากันหัวทิ่ม ดีไม่จมน้ำตาย”โก้พูดต่อแล้วมันสามคนก็หัวเราะกันออกมา พวกนี้มีความทรงจำเกี่ยวกับเจมากมายที่ผมไม่รู้ ผมนึกอิจฉาที่พวกมันได้อยู่กับเจตั้งแต่เด็กๆ ผมได้แต่คิดว่าถ้าผมพบเจก่อนหน้านี้.....มันจะเป็นยังไง แต่...ดีแล้ว...ที่เราพบกันแบบนี้ ให้ผมได้เติมเต็มส่วนที่เจทำหายไป ให้ผมได้เรียนรู้เจ ใกล้ชิดเจ ได้เห็นเจในยามที่อ่อนแอ ท้อแท้ สิ้นหวังและกลับมามีหวังใหม่อีกครั้ง........ดีแล้ว....ที่รักเจในตอนนี้
“เจจะอยู่นี่ถึงเปิดเทอมเลยหรือเปล่า”ผมถามเจที่นอนอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียง ผมก็อ่านหนังสือเกี่ยวกับการแต่งบ้าน บ้านนี้หนังสือเยอะมากครับ บ้านเจมีชั้นเดียวแต่ถูกยกระดับพื้นให้แตกต่างกัน เจบอกว่าพ่อไม่อยากให้มีสองชั้น มันจะทำให้คนในบ้านอยู่ร่วมกันน้อยลง ก็จริงของพ่อเจครับ บ้านผมนี่กว่าจะเจอกันต้องเดินรอบบ้านเลยทั้งๆ ที่อยู่กันไม่กี่คน
“ก็ใกล้ๆ เปิดคงกลับ โก้มันนัดประชุมรับน้องด้วย”ตอนนี้โก้เป็นประธานต่อจากเศกอย่างที่ผมคิดไว้เลย
“แต่พี่ต้องกลับก่อนนะ ต้องไปยื่นเรื่องเรียนจบด้วย”ผมพูดจบ เจเงยหน้าจากหนังสือแล้วเลื่อนหัวมาหนุนท้องผมแทน
“พี่เอ็กซ์อยากให้เจกลับด้วยมั้ย”เจเอียงหน้ามาทางผม ดูหน้าก็รู้ว่าอยากอยู่บ้านนานๆ แต่คงอยากเอาใจผมล่ะมั้ง
“ไม่ต้องหรอก เจอยู่บ้านนี่แหล่ะ พี่กลับไปก็ทำงาน ไม่มีเวลาอยู่กับเจอยู่ดี เอาไว้วันหยุดพี่มาหาแล้วกันนะครับ”
“งั้นช่วงที่อยู่นี่เจจะพาเที่ยวให้ทั่วเลย ที่นี่มีที่เที่ยวเยอะนะ แต่เมื่อก่อนไม่ค่อยได้ไปเพราะไม่มีรถยนต์ จะขี่มอไซต์ก็ไกลเกิน”
“ครับผม อยากให้พาไปไหนบอกมาเลย พี่จะพาไป”
"ได้ไง เจน่ะเจ้าถิ่น พี่อยากไปเที่ยวแบบไหนบอกมาเลย เดี๋ยวเจพาไป"
“งั้น...พาไปเที่ยว...ตรงนี้หน่อยสิ”ผมยกมือไปลูบสะโพกเจเบาๆ นึกว่าเจจะด่าแต่ดันก้มหน้าซบหน้าท้องผมแทน ทำไมวันนี้เจมันน่ารักอย่างนี้เนี่ย ผมพลิกตัวเจแล้วนอนคล่อมไว้ อดใจไม่ไหวแล้วครับ
“ไม่เอานะพี่เอ็กซ์...นี่มันห้องพ่อกับแม่เจนะ”เจพูดเบาๆ หลบหน้าหลบตาผมด้วย
“น่า...นิดเดียวนะ...นะ”ผมเลื่อนปากไซร้ตามซอกคอสูดกลิ่นหอมๆ ก่อนจะเลื่อนมาจูบปากเจและสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปาก มือก็ลูบไล้ตามแผ่นหลังเนียนๆ บดเบียดสะโพกเสียดสีกันอย่างจงใจจนได้ยินเสียงครางในลำคอ เนื้อตัวอ่อนนุ่มปล่อยให้มือและปากผมสัมผัสตามใจชอบ เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องออกจนหมด ยอดยกสีชมพูถูกหยอกเย้าด้วยมือแลกปากสลับกัน เจแอ่นอกรับสัมผัส เรียวขาเนียนเสียดสีต้นขาผมเมื่อถูกกอบกุมและกระตุ้นด้านล่าง ครั้งนี้เจกระตุ้นง่ายและตอบรัมสัมผัสผมอย่างตรงไปตรงมา
“อาา.....”ผมหลุดเสียงครางเมื่อมือเล็กกอบกุมแก่นกายผมโดยไม่ได้ชี้นำ
“....เจ...ทำให้....แค่นี้นะ....เจไม่อยากทำห้องพ่อกับแม่”เสียงหวานปนหอบพูดช้าๆ พร้อมเร่งเร้าสัมผัสปรนเปรอให้ผมอย่างเต็มที่
“.....อาาา....ก็ได้ครับ.....ได้.....”ผมปล่อยให้เจทำต่อไป ปากและมือก็ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวและเลื่อนมือไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของคนใต้ร่างบ้าง ยิ่งผมเร่งจังหวะหรือหยอกเย้าแบบไหน เจก็พยายามจะทำตามอย่างว่าง่าย เจกลั้นเสียงเพราะกลัวเพื่อนรักที่นอนห้องติดกันจะได้ยิน แต่ยิ่งทำให้ผมอยากแกล้งให้หลุดเสียงครางกระเส่าออกมาเรื่อยๆ หน้าหวานแดงระเรื่อกระสับกระส่ายเมื่อผมเร่งจังหวะสุดท้าย เจเองก็เร่งเร้าจนผมทนไม่ไหวและเราก็ปลดปล่อยออกมาไล่เลี่ยกัน ปากแดงช้ำถูกบดจูบอย่างดูดดื่มจนได้ยินเสียงประท้วงพร้อมกับมือที่พยายามดันหน้าผมออก
“ฮ่าห์...”เจรีบโกยอากาศเข้าปอดเมื่อผมถอนหน้าออกมา
“ทำไมวันนี้น่ารักจังเลยครับคนเก่ง....น่ารักแบบนี้...จะให้พี่หลงไปถึงไหน”ผมยังจูบเบาๆ ไปทั่วใบหน้าไล่มาถึงซอกคอและติ่งหูจนเจย่นคอหนี ผลักอกผมเบาๆ ผมทิ้งตัวนอนข้างๆ กอดเอวเจไว้
“ก็...พี่เอ็กซ์อุตส่าห์มาอยู่กับเจ..นี่นา”เจตอบเบาๆ เลื่อนหน้ามาซบอกผมไว้เพื่อแก้เขิน แต่ผมดันหน้าเจออกมานอนบนหมอนเหมือนเดิม ก็ชอบเวลาเจอายๆ แบบนี้นี่นา มันจะรู้ตัวมั้ยว่ายิ่งอายน่ะยิ่งจะโดนแกล้ง
“อย่าใช้คำว่าอุตส่าห์สิ ก็พี่รักเจนี่นา อยู่ด้วยกันทุกวัน แค่เจมาไม่กี่วันก็คิดถึงจะตายอยู่แล้ว เวลานอนก็ไม่มีคนตัวนิ่มๆ ให้กอด”
“เจหมายถึง ทุกครั้งน่ะ...ทั้งวันที่เจไม่สบาย เหนื่อย....เหงา...โดดเดี่ยว....พี่เอ็กซ์คอยอยู่กับเจตลอดเลย ทั้งที่เจไม่เคยขอและ...หนีพี่ด้วยซ้ำไป”ดวงตากลมโตดูหวานซึ้งกว่าครั้งไหนๆ สิ่งที่ผมทำเพื่อเจทั้งหมด มันแทนคำว่า.....รัก
“พี่รักเจนะครับจำไว้ เชื่อพี่ เชื่อในความรักของพี่ พี่อาจจะขี้หึงขี้หวงมาก แต่มันเกิดจากรักที่มันมากมายจนห้ามไม่อยู่เหมือนกัน เวลาพี่รักใครสักคน ก็อยากจะให้เขามีความสุข แต่....ต้องเป็นความสุขที่ได้รับจากพี่เท่านั้น พี่ไม่พูดน้ำเน่าที่จะยอมให้เจไปอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ เพราะพี่เชื่อว่าพี่ทำให้เจมีความสุขได้มากกว่าทุกคน และรักเจมากใครๆ ด้วย ไม่ว่าเริ่มแรกจะเกิดจากความใกล้ชิด ความห่วงใยหรือสงสารหรืออะไรก็แล้วแต่ พี่ไม่เคยคิดหาคำตอบว่าทำไม รู้แค่ว่าตอนนี้ มันคือ....รัก....ไม่มีความหมายอื่น.....แค่..รัก”ผมเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ไหลริน เจยิ้มบางๆ จับมือผมไปจูบแหวนที่สวมอยู่ ฝ่ามือเล็กทาบทับตามรูปมือ.....นิ้วนางข้างขวาอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ผมจูบเบาๆ บนนิ้วเล็กที่มีแหวนสวมอยู่......ไม่ต้องบอกว่ารัก........ยังไม่ต้องบอกก็ได้.....ผมรอได้......คำพูด......ไม่สำคัญเท่าการกระทำ........ความรักเป็นสิ่งที่สัมผัสไม่ได้ด้วยมือ.........แต่รู้สึกได้ด้วยใจ.......เหมือน...หมอกจางๆ ตอนเช้าตรู่ของวันใหม่.....เหมือนไอแดดอุ่นๆ ในหน้าหนาว...........เหมือนสายรุ้งบนท้องฟ้า.............เหมือนดวงตาหวานซึ้ง..คลอน้ำตา....เหมือน...คนตรงหน้า...ที่ได้มาอยู่ในอ้อมกอด.........บางที....'รัก'.....ก็สัมผัสได้
**********************************************************************
พบกันพรุ่งนี้บ่ายๆ เย็นๆ นะคะ